Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 02003164

02003164

Published by วิษณุ สร้อยเพชร, 2021-12-01 04:25:31

Description: 02003164

Search

Read the Text Version

๑๐๐ พระสัตยวานเม่ือฟ้ืนข้ึนมาก็รู้สึกว่าเหมือนได้กลับบ้านที่เดินทางจากไปแสนนาน ทง้ั สองยมิ้ ให้แกก่ ันด้วยความสขุ พระสตั ยวานบอกสาวติ รวี า่ “สาวิตรยี อดรัก พี่รู้สกึ เหมือน ว่าตัวพ่ีน้ีได้ตายจากน้องไปเสียแล้ว เพราะพ่ีเห็นบุรุษผู้หนึ่งท่าทางน่ากลัวยิ่งนักมาคร่า ชวี ิตพไ่ี ป พส่ี ลดหดห่ ูใจเปน็ ย่ิงนัก” แลว้ พระสตั ยวานก็ประทับจูบนางเพื่อปลอบขวัญ

๑๐๑ สาวิตรีจึงตอบพระสัตยวานว่า “ระหว่างท่ีพระองค์นอนหลับอยู่บนตักหม่อมฉัน พระยมผทู้ รงคณุ ธรรมเสดจ็ มาหาและไดเ้ สดจ็ ผา่ นไปแลว้ เวลานมี้ ดื ค่ำแลว้ ขอโปรดจงลุกขึ้น เถิด เมอื่ กลบั ถงึ อาศรมแล้วหมอ่ มฉนั จะเลา่ เรอื่ งราวทุกอยา่ งใหฟ้ งั ” พระสัตยวานจึงค่อยๆ ลุกขึ้นน่ัง

๑๐๒ สาวิตรมี องดูบริเวณรอบๆ ดว้ ยความหวาดกลัวอยา่ งจบั ใจ หัวใจเรมิ่ ส่ันระรัว ขนลุกชนั ทำให้จนิ ตนาการไปถึงพวกภูตผปี ีศาจ และบรรดาสัตว์ ใหญท่ อ่ี อกมาหากนิ ในเวลากลางคนื ซึ่งอาจจะมาทำร้ายนางและพระสัตยวานได้ ระหว่างน้ันก็มีเสียงหมาในเห่าหอนดังขึ้นมา เพิ่มความวังเวงและน่าสะพรงึ กลัวยิง่ นัก

๑๐๓ นางรบี ดงึ ความคดิ ทกี่ ระเจดิ กระเจงิ ใหก้ ลบั มามสี ตแิ ลว้ จงึ พดู กลบความกลวั วา่ “เมอ่ื กลางวันชาวบ้านได้เข้าป่ามาจุดไฟเผาเศษก่ิงไม้ หม่อมฉันเห็นว่าบางก่ิงยังคงมีไฟติดอยู่ หม่อมฉันจะเอาก่ิงไม้ไปจุดไฟเพื่อนำมาเป็นแสงสว่างนำทางให้เราเดินกลับอาศรม หาก พระองค์ยงั เหน่ือยลา้ เราพักคา้ งคืนในป่านดี้ ีกว่า พรงุ่ น้เี ช้าคอ่ ยออกเดนิ ทาง”

๑๐๔ “สาวติ รียอดรัก พีส่ บายดแี ล้ว มืดคำ่ เชน่ นี้ ถ้าพย่ี ังไมก่ ลบั ถงึ อาศรม พระบิดา และพระมารดาต้องกระวนกระวายใจเพราะเป็นห่วงพ่ี ท่านมักจะพูดกับพ่ีเสมอว่า ท่าน ท้ังสองแก่ชรามากแล้วหวังฝากผีฝากไข้ไว้กับพี่ หากพี่ตายไป ทั้งสองมิอาจจะมีชีวิตอยู่ บนโลกนี้ได้ และถ้าหากทา่ นทงั้ สองเปน็ อะไรไปเพราะพีเ่ ปน็ ตน้ เหตุ พ่ีกม็ อิ าจ จะอยไู่ ดเ้ ช่นกัน ปา่ นน้ที า่ นทัง้ สองคง จะชะเงอ้ มองหาพอี่ ยูเ่ ปน็ แน่เชียว” พระสัตยวานกล่าวจบ จงึ พยายาม ลุกข้นึ ยืน แต่ยงั ทรงตัวได้ ไมด่ นี ัก สาวิตรจี ึงเข้าไปชว่ ย ประคองพระสวามี

๑๐๕ พระสัตยวานเป็นบุตรท่ีประเสริฐยิ่ง แม้ว่าร่างกายของตนเองจะอ่อนล้าเพียงใด เมือ่ นกึ ถงึ พระบดิ าและ พระมารดาทกี่ ำลงั คอยอยู่ จงึ ต้องหาทางกลับไปให้ทา่ น ท้ังสองเหน็ เสียกอ่ น เพือ่ จะไดค้ ลายความหว่ งใย สาวิตรีเห็นความกตัญญูของพระสัตยวานแล้ว นางจงึ รบี พยุงพระสวามีออกเดินทาง

๑๐๖ พระสัตยวานกล่าวต่อว่า “ยาม คำ่ คืน ในป่าก็มักจะนา่ กลวั เช่นน้ีแหละ แต่ นอ้ งไมต่ อ้ งเปน็ หว่ ง พมี่ คี วามชำนาญเสน้ ทาง การเดินป่าอย่างดีทีเดียว พ่ีเดินเข้ามาหา เก็บผลไม้และกิ่งไม้ตั้งแต่เด็ก คืนน้ีเป็นคืน เดือนหงาย เราพอได้อาศัยแสงเดือนพอ มองเห็นทางเบอื้ งหนา้ ได้”

๑๐๗ ก่อนออกเดินทาง สาวิตรีได้เดินไปหยิบเอาย่ามที่เต็มไปด้วยผลมะม่วงสุกแขวนไว้ บนกิ่งไม้ใหญ่ ฉวยหยิบขวานข้ึนมาถือไว้ แล้วเดินไปข้างพระสัตยวานเพ่ือให้พระองค์เอา แขนมาพาดไวบ้ นคอของนาง ส่วนนาง เอาแขนขวากอดเอวพระสตั ยวาน ไว้ แล้วทง้ั สองก็คอ่ ยๆ ออกเดนิ ฝา่ ความมืดไปอย่างช้าๆ

๑๐๘ กล่าวถึงท้าวทยุมัตเสน หลังจากท่ีสาวิตรีได้ขอพรจากพระยมให้ดวงตาของ พระองคก์ ลับมามองเห็นไดอ้ ีกครั้ง พรนั้นกไ็ ดส้ ัมฤทธผิ ลโดยฉับพลนั ทำให้ท้าวทยุมัตเสน และพระนางไสพยาดีใจอยา่ งย่งิ ท่ีจู่ๆ ดวงตาของพระองคก์ ็สามารถมองเหน็ ได้ดังเดมิ ทง้ั สอง ต่างเฝา้ รอพระสัตยวานและสาวิตรีกลับมาเพือ่ จะบอกขา่ วอันน่ายนิ ดนี ้อี ยา่ งใจจดใจจอ่ จน มดื ค่ำกย็ งั ไมม่ ีวีแ่ ววว่าทั้งสองจะกลับมา

๑๐๙ ทา้ วทยมุ ัตเสนร้อนใจมากเกรงวา่ ท้งั สองจะได้รับอนั ตราย จงึ ชวนพระนางไสพยาออก ตามหาพระสัตยวานและสาวติ รี แวะสอบถามจากบรรดาชีพราหมณ์และฤๅษีผู้ทรงศีลตาม อาศรมท่อี ย่ใู นละแวกใกล้เคยี งกนั ฤๅษตี นหน่ึงซ่ึงกำลงั นง่ั บำเพญ็ ตบะอยู่ บอกทา้ วทยมุ ัตเสน ว่า “อย่าได้เปน็ ห่วงพระสัตยวานเลย ด้วยอำนาจความดขี องสาวติ รจี ะเปน็ เกราะคุ้มครองให้ พระสตั ยวานปลอดภยั ขอให้ท่านทง้ั สองกลับไปรอที่อาศรมเถดิ ”

๑๑๐ บรรดาพราหมณ์หนุ่มท่ีอยู่อาศรมใกล้เคียงได้รวมตัวกันแล้วอาสาออกไปตามหา พระสัตยวาน บรรดาพราหมณ์หนุ่มเกือบสิบคนต่างถือคบไฟแยกย้ายกันออกไปตามหา พรอ้ มส่งเสียงตะโกนเรยี กชอ่ื พระสัตยวาน ฝา่ ยท้าวทยมุ ัตเสนและพระนางไสพยาเมื่อได้ฟงั คำทำนายของฤๅษกี ็คลายความวิตกกังวล จงึ ชวนกันกลบั ไปนัง่ รอทอ่ี าศรม

๑๑๑ ขณะที่พระสัตยวานและสาวิตรีเดินอยู่น้ัน พลันก็แว่วได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกชื่อตน ทั้งสองจึงหยุดฟังเพราะเกรงว่าหูของตนจะฝาด เพยี งชั่วครู่ พระสัตยวานกเ็ หน็ บรรดาพราหมณ์ หนุ่มสองสามคนถือคบไฟเดนิ มาทางตน เมื่อ ท้ังหมดได้พบกันกต็ ่างแสดงความดีใจ พราหมณ์ หนุ่มจงึ ตะโกนบอกพราหมณท์ เี่ หลอื อีกฝั่งหนึง่ วา่ พบพระสัตยวานและสาวิตรแี ล้ว และทั้งหมดก็พา กนั เดินทางกลับไปยงั อาศรมของทา้ วทยมุ ัตเสนและ พระนางไสพยา

๑๑๒ เมอื่ พระสัตยวานและสาวิตรกี ลับไปถึงอาศรม ทา้ วทยมุ ตั เสนรบี ตรงเขา้ ไปโอบกอด บุตรชายด้วยความดีใจ ส่วนพระนางไสพยาก็เข้ากอดสาวิตรีเช่นกัน แล้วท้าวทยุมัตเสน จงึ กล่าวดว้ ยนำ้ เสียงนุม่ นวลวา่ “ลกู เอย๋ พอ่ แมด่ ีใจเหลอื เกนิ ทลี่ กู กลบั มาอยา่ งปลอดภยั พอ่ เหน็ วา่ มดื คำ่ แลว้ พวกเจา้ ยงั ไม่ออกมาจากปา่ รไู้ หมพอ่ แม่เปน็ หว่ งลกู เพียงใด และวนั นส้ี าวิตรีไดเ้ ดินทางเข้าปา่ เป็นคร้งั แรก ทำให้ทั้งพ่อกับแม่ยง่ิ ใจคอไมด่ เี ลย หากต้องเสียลกู ท้ังสองไป พอ่ แมค่ งมิอาจจะมีชีวติ อยู่ ตอ่ ไดแ้ นเ่ ลย ลกู เอย๋ ” ทา้ วทยมุ ัตเสนลบู ศีรษะพระสตั ยวานดว้ ยความรกั

๑๑๓ พระสัตยวานกราบขอโทษท้าว- ทยุมัตเสนและพระนางไสพยาท่ีทำให้ท้ังสอง เป็นทุกข์เพราะเป็นห่วง สาวิตรีเม่ือกราบ ขอโทษแล้วจึงบอกว่า เหตุท่ีต้องกลับยาม มืดค่ำเช่นนี้ เพราะระหว่างท่ีพระสัตยวาน กำลังตัดก่ิงไม้อยู่นั้นเกิดอาการปวดศีรษะ อย่างหนักจึงให้นอนพักเสียก่อน นางมิอาจ ทิ้งพระสัตยวานไว้เพียงลำพังได้ เมื่อ พระสัตยวานอาการดีข้ึนแล้ว จึงชวนกัน เดินกลับอาศรม

๑๑๔ พระสัตยวานสังเกตมองพระบิดาแล้วจึงถามว่า “เหตุใดพระบิดาจึงเดินตรงเข้าไป หาลกู ไดถ้ กู ทางเหมอื นดงั วา่ ดวงตาของทา่ นสามารถมองเหน็ แลว้ ” พระนางไสพยาจงึ บอกบตุ ร ทง้ั สองด้วยความดีใจวา่ “ใชแ่ ล้วลูกเอย๋ ดวงตาของพระบิดานัน้ กลับมามองเห็นไดด้ งั เดมิ แล้ว เป็นส่ิงอศั จรรยจ์ ริงๆ” สาวติ รีเม่อื ได้ฟงั ดงั นัน้ ก็เริม่ เล่าเร่ืองราว ทัง้ หมดให้ท้งั สามฟงั ทา้ วทยมุ ตั เสนและพระนางไสพยา กล่าวขอบใจสาวติ รีท่ีนางมีความเฉลยี วฉลาดและหาญกลา้ ขอพรจากพระยมเพ่อื ช่วยเหลอื พระสัตยวานและพระองค์เอง

๑๑๕ ท้าวทยุมัตเสนจึงเล่าให้พระสัตยวานและสาวิตรีฟังว่า “เมื่อบ่ายวันน้ี ได้มีเหล่า เสนาผู้ใหญ่และชาวเมืองศาลวะเดินทางมาหาที่อาศรมเพ่ือขอให้กลับไปครองนครศาลวะดัง เดิม เพราะพวกศัตรูท่ีคิดกบฏบ้านเมืองนั้นได้ถูกเหล่าอำมาตย์ฆ่าตายแล้ว บางคนที่รู้ตัว ก่อนก็แอบหลบหนีออกจากพระนครไปหมด ชาวเมืองศาลวะได้ ชว่ ยกนั ตดิ ตามเสาะหาจนทราบว่าพ่ออย่ ใู นปา่ แหง่ นี้ จึง ต่างพร้อมใจกันมาขอให้พ่อกลับไปครองราชบัลลังกเ์ พอ่ื เปน็ มง่ิ ขวญั ใหแ้ ก่ราษฎรต่อไป”

๑๑๖ วันรุ่งขึ้น ขบวนของชาวเมืองศาลวะก็ได้มาเชิญท้ังส่ีกลับนครศาลวะ เม่ือเข้าเขต พระนครแลว้ มีชาวเมืองออกมายนื รอรับเสดจ็ เพือ่ ช่ืนชมพระบารมีของทั้งสกี่ ันอยา่ งเนืองแน่น ถือธงโบกสะบดั เปลง่ เสียงรอ้ งสรรเสริญ ทรงพระเจรญิ อย่างพร้อมเพรียงกัน ผ้เู ฒา่ บางคน ท่ีอย่ ูในเหตุการณ์กบฏคร้ังนั้นเม่ือได้เห็นหน้าของกษัตริย์อันเป็นท่ีรักย่ิงอีกครั้งแล้วถึงกับ กลนั้ นำ้ ตาไว้ไมอ่ ยู่

๑๑๗ หลงั จากนน้ั ทา้ วทยุมัตเสนและพระนางไสพยาได้จดั พธิ อี ภเิ ษกสมรสใหพ้ ระสัตยวาน กับสาวิตรีอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อเสร็จงานพิธีมงคลสมรสแล้ว ท้าวทยุมัตเสนยังแต่งตั้งให้พระ- สัตยวานเป็นพระราชาปกครองบ้านเมืองต่อจากพระองค์ เพราะท้าวทยุมัตเสนและพระ- นางไสพยาชราภาพมากแลว้ ตอ้ งการทจี่ ะใช้ชีวติ ในชว่ งบั้นปลายอยา่ ง สงบสุข

๑๑๘ นับแต่น้ันเป็นต้นมา พระสัตยวานและสาวิตรีช่วยกันดูแลปกครองบ้านเมืองให้อยู่ อย่างสงบสุขร่มเย็นตลอดมา ต่อมาสาวิตรีได้ให้กำเนิดพระโอรสหน่ึงร้อยพระองค์ตามท่ีได้ ขอพรไว้ ในขณะเดียวกนั นางก็ทราบวา่ พระบิดาและพระมารดาก็มีพระโอรสหน่ึงร้อยพระ- องค์เช่นกัน พรทีน่ างได้ขอพระยมนน้ั เป็นอันวา่ สมั ฤทธผิ ลทกุ ประการ

๑๑๙ สาวิตรีเป็นเร่ืองท่ีแทรกอยู่ในมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ของอินเดียซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่ หลายท่ัวโลก ชือ่ วา่ ภารตะ นบั เป็นวรรณคดีโบราณทม่ี เี น้อื หายืดยาว ซับซอ้ น ซึ่งเกี่ยวข้องกบั หลักปรัชญาของอินเดีย สอดแทรกความรู้เก่ียวกับขนบธรรมเนียมประเพณี ศาสนา การเมือง ถือเปน็ ส่วนหนง่ึ ของคมั ภีร์อิตหิ าร (ประวัตศิ าสตร์) และเปน็ ส่วนหนึ่งท่สี ำคัญของเทพปกรฌัมใน ศาสนาฮนิ ดู เน้ือเร่ืองของสาวิตรีถูกแทรกอยู่ในมหากาพย์ภารตะตอนที่พ่ีน้องตระกูลปาณฑพทั้งห้าคน พรอ้ มดว้ ยนางเทราปที พระชายาของพนี่ อ้ งทง้ั หา้ ถกู เนรเนศใหอ้ อกมาอยปู่ า่ เพราะแพพ้ นนั พนี่ อ้ ง ตระกูลเการพ วันหน่ึง พ่ีน้องท้ังห้าได้ออกไปหาอาหาร นางเทราปทีอยู่เฝ้าอาศรมเพียงลำพัง ขณะนนั้ มกี ษตั ริย์ผคู้ รองนครสนิ ธุ พระนามว่า ทา้ วชยัทรถ เสด็จ ประพาสป่า เม่อื มาถงึ อาศรมของพีน่ อ้ งท้งั ห้าได้เจอนางเทราปทกี ็เกดิ ความหลงใหลเสนห่ าจงึ ใหท้ หารใช้กำลังฉดุ นางไป สร้างความโศกเศร้า เสียใจใหแ้ ก่พนี่ อ้ งทั้งห้าเปน็ อยา่ งมาก ตอ่ มา พระฤๅษีมรรกณั เฑยะได้ เดนิ ทางมาพบพน่ี อ้ งทัง้ ห้า แล้วทราบเรื่องท่ีเกดิ ข้ึนกบั นางเทราปที พระฤๅษีมรรกณั เฑยะจึงเลา่ เรือ่ งของสาวิตรีให้ฟังเพอื่ ปลอบใจพน่ี อ้ ง ทง้ั หา้ วา่ นางเทราปทีเป็นสตรที ีม่ ีความจงรักภักดีตอ่ สามีเช่นเดียวกับ สาวติ รี ซึ่งคณุ ธรรมความดขี องนางจะเป็นเกราะคมุ้ ภยั อนั ตราย และ ในท่ีสดุ นางเทราปทีจะตอ้ งไดก้ ลบั มาอยกู่ ับพี่น้องตระกลู ปาณฑพ ทงั้ ห้าเหมือนเดมิ

๑๒๐ ผจงวาด กมลเสรรี ตั น์. พระเอกในวรรณคด.ี พมิ พค์ ร้ังท่ี ๑, ๒๕๔๔. กรงุ เทพฯ : สุวรี ิยาสาสน์ . มงกฎุ เกล้าเจา้ อยูห่ วั , พระบาทสมเดจ็ พระ. สาวิตร.ี ๒๕๕๓. กรงุ เทพฯ : กรงุ ธนพัฒนา. ปิยตา วนนันทน์. นางในวรรณคดี. พมิ พค์ รง้ั ที่ ๑, ๒๕๔๒. กรงุ เทพฯ : สวุ รี ิยาสาสน์ . ส.พลายน้อย. นิทานวรรณคดี. พิมพ์คร้งั ที่ ๕, ๒๕๕๔. กรงุ เทพฯ : พิมพค์ ำ.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook