Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 02003164

02003164

Published by วิษณุ สร้อยเพชร, 2021-12-01 04:25:31

Description: 02003164

Search

Read the Text Version

๕๐ เวลาล่วงเลยผ่านไป สาวิตรีได้นั่งนับคำนวณเวลาท่ีเหลืออยู่ของพระสัตยวาน จนกระท่ังเหลือเวลาอีกสี่วันก็จะครบกำหนด ด้วยความรักและต้องการช่วยเหลือให้พระ- สตั ยวานหลดุ พน้ จากบว่ งกรรมน้ี นางจงึ ไดบ้ ำเพญ็ ตรรี าตระธดุ งค์ คอื อดอาหารทงั้ กลางวนั และกลางคืนเป็นเวลาสามวัน นอกจากน้ียังสวดมนต์ภาวนาขอพรจากเหล่าเทวดาให้ช่วย เหลอื พระสัตยวานให้รอดพ้น จากความตายในครั้งนี้ด้วย

๕๑ ในคืนที่สาม ขณะท่ีสาวิตรีกำลังน่ังบำเพ็ญเพียรข้างๆ ท้าวทยุมัตเสนกล่าวกับ สาวิตรวี ่า “การอดอาหารเปน็ เวลาสามวันติดต่อกันเชน่ นีเ้ ปน็ สง่ิ ทีย่ ากลำบากนัก ขออย่า ได้ทรมานตนเองเลย” สาวิตรีจึงตอบกลับด้วยหน้าตาหมองเศร้าและน้ำเสียงแห้งผากว่า “ลกู ไดต้ ัง้ ใจไว้แล้วว่าจะบำเพญ็ เพยี รและอดอาหาร ขอทา่ นพ่ออย่าไดว้ ิตกกงั วลเลย”

๕๒ วนั ตอ่ มา หลงั จากสาวติ รที ำงานบา้ นในชว่ งเชา้ เสร็จแล้ว นางจึงไปน่ังพักบนแทน่ หินใต้ต้นไมใ้ หญ่หนา้ อาศรม มองดรู อบๆ อาศรมด้วยความเศร้าสร้อย เม่อื คดิ ไดว้ ่า วันน้ี เป็นวันครบกำหนดทพ่ี ระสตั ยวานจะต้องสิน้ พระชนม์ นางจึงขอให้การถือศีลบำเพญ็ เพยี ร ในครงั้ นชี้ ว่ ยส่งผลใหพ้ ระสัตยวานแคลว้ คลาดจากความตายด้วย

๕๓ ระหวา่ งทสี่ าวติ รกี ำลงั นง่ั คดิ เรอ่ื งพระสตั ยวานอยู่ พระสตั ยวานกเ็ ดนิ เขา้ มานง่ั เคยี ง ข้าง จ้องมองใบหน้าทห่ี มองเศร้าของสาวิตรี แล้วถามหญิงอันเป็นท่ีรักดว้ ยความห่วงใยว่า “สาวติ รที ร่ี กั พเ่ี หน็ นอ้ งบำเพญ็ เพยี ร อดอาหารมาเปน็ เวลาสามวนั แลว้ นอ้ งรหู้ รอื ไมห่ นา้ ตา น้องชา่ งหมองเศรา้ นกั พอ่ี ยากใหน้ ้องกินอาหารเสียบ้าง พี่เป็นหว่ งน้องเหลอื เกิน”

๕๔ สาวิตรีรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของ พระสัตยวาน ยิ่งทำให้รู้สึกทุกข์ระทมในใจ เพิ่มมากข้ึน เพราะความรักท่ีทั้งสองมีให้ แก่กนั นน้ั เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ปรารถนา จะให้คนที่เรารักมีความสุขโดยไม่หวังส่ิงใด ตอบแทน นางจงึ เล่อื นลงมาน่งั ลงบนพื้นดนิ พร้อมบอกพระสตั ยวานว่า เจา้ ประคุณพระทูลกระหมอ่ มแก้ว อยา่ ทรงแคลว้ คลาดไปไกลหมอ่ มฉนั ขอยอมตามถวายซึ่งชวี ัน แทนองค์พระจอมขวญั ผ้ภู รรดา

๕๕ สาวติ รไี มส่ ามารถอดกลนั้ ความรสู้ กึ ทจ่ี ะตอ้ งสญู เสยี พระสตั ยวานได้ จงึ ซบหนา้ ลงบน ตกั พระสตั ยวานแลว้ สะอื้นรำ่ ไห้ พระสตั ยวานจงึ ค่อยๆ พยุงสาวิตรีใหข้ นึ้ มาน่งั เคียงข้างกัน แลว้ เชด็ หยาดนำ้ ตาพรอ้ มพดู ปลอบวา่ จอมขวัญ ยง่ิ กว่าชวี ันเสน่หา พห่ี รือจะพรากจากแก้วตา เทา่ กบั ฆ่าตนเองให้บรรลัย พ่เี ป็นห่วงโฉมตรูอยเู่ ปน็ นิตย์ ไม่ละเลยเชยชดิ พิสมยั ชวี ิตพยี่ ังมีอยูต่ ราบใด ขอถนอมทรามวัยคู่ชีวัน

๕๖ คำพูดของพระสัตยวาน ท่ีพูดปลอบใจสาวิตรีน้ันปราศจาก การแต่งแต้มสีสัน แต่มาจากส่วน ลึกของหัวใจท่ีเป็นห่วงนางอันเป็น ที่รัก สาวิตรีจึงตระหนักได้ว่า ความรักของพระสัตยวานเป็นรัก แท้ที่บริสุทธิ์ นางจึงต้ังสัตย์ ปฏญิ าณกบั ตนเองวา่ แม้วา่ พระ- สัตยวานต้องจากนางไป นางก็ไม่ ปรารถนาชายใดมาเป็นคู่ครองอีก ตลอดชวี ติ

๕๗ เม่ือสาวิตรีคลายความโศกเศร้าแล้ว พระสัตยวานจึงชวนนางไปหาท้าวทยุมัตเสน และพระนางไสพยาซึ่งนั่งอยู่บนแท่นหิน ท้ังสองก้มลงกราบพระบิดาพระมารดา ท้าว- ทยุมัตเสนจงึ ถามสาวิตรีว่า “สามวันมาแล้วทลี่ กู ยงั ไมไ่ ด้แตะตอ้ งอาหารเลย พ่อเห็นว่าควร จะเลิกทรมานตัวเองได้แล้ว เวลาน้ีหน้าตาของลูกช่างอิดโรยไม่สดใสเหมือนอย่างเช่นที่ผ่าน มา” สาวิตรบี อกทา้ วทยุมัตเสนวา่ “วันน้ีลูกตัง้ ใจเอาไวว้ ่าจะกินหลงั จากพระอาทิตย์ตกดิน ไปแล้วเจา้ ค่ะ”

๕๘ ระหว่างทที่ งั้ สองกำลังสนทนากนั อย่นู นั้ พระสตั ยวานได้เดินเขา้ ไปในอาศรมหยบิ ขวานและย่ามเดินออกมาหาพระบิดาพระมารดาแล้วบอกว่าตนจะเข้าป่าไปตัดไม้มาทำฟืน และหาผลไมม้ าเกบ็ ไว้ ขณะที่พระสัตยวานกำลงั จะเดนิ จากไป สาวติ รีรีบเดนิ ไปจับมือพระ- สวามีแลว้ ขอรอ้ งให้พระสัตยวานพานางเขา้ ไปในปา่ ด้วย

๕๙ ฝ่ายพระสัตยวานเห็นท่าทางของสาวิตรีแล้วก็เกิดความสงสารและเป็นห่วงยิ่งนัก จึงยกเหตผุ ลบอกกับสาวติ รวี ่า เสน้ ทางเดนิ เข้าปา่ นัน้ เต็มไปด้วยขวากหนามที่อาจจะกีดข่วน นางได้ สิงสาราสตั ว์กล็ ้วนแตด่ รุ ้ายทง้ั นั้น และทส่ี ำคัญนางอดอาหารมาหลายวันเกรงว่าจะ เหน็ดเหนอ่ื ยท่ตี ้องเดนิ ทางอาจลม้ ปว่ ยได้ จึงขอใหพ้ กั ผ่อนอยู่ท่ีอาศรมรอตนกลับมาจะดกี ว่า

๖๐ สาวติ รเี รมิ่ กระวนกระวายใจ เกรงวา่ พระสตั ยวานจะไม่ใหไ้ ปดว้ ย จงึ ยนื ยนั หนกั แนน่ ดว้ ยน้ำตาไหลรินอาบแกม้ วา่ ไม่ว่าจะตอ้ งพบเจอกบั อันตรายจากส่งิ ใด หรือเหน็ดเหน่ือย เม่ือยล้าสักเพียงไหนก็มิได้หวั่นเกรง ขอแค่วันนี้ให้นางได้อยู่ใกล้ๆ พระสัตยวานโดยไม่ คลาดสายตาแม้สกั วนิ าทเี ดยี วเลย

๖๑ พระสัตยวานได้ฟังดังน้ันจึงยอมให้สาวิตรีไปด้วย แต่นางต้องขออนุญาตพระบิดา และพระมารดาเสียกอ่ น สาวติ รดี ีใจมาก จึงเขา้ ไปหาทา้ วทยมุ ัตเสนและพระนางไสพยาขอ อนุญาตเขา้ ป่ากับพระสัตยวาน

๖๒ ทั้งสองเห็นว่าตั้งแต่สาวิตรีมาอาศัยอยู่ในอาศรม นางเป็นลูกสะใภ้ที่ดี ดูแล ปรนนิบัติรับใช้ท้ังสองด้วยความกตัญญูเสมอมา ไม่เคยทำเรื่องให้ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ และกไ็ มเ่ คยขอสิ่งใดเลย จงึ อนญุ าตใหส้ าวติ รีเขา้ ปา่ กับพระสัตยวานได้

๖๓ กอ่ นออกเดนิ ทาง พระสตั ยวานและสาวติ รไี ดเ้ ขา้ ไปไหวพ้ ระบดิ าและพระมารดา แลว้ พระสตั ยวานจงึ หยบิ ขวานขน้ึ พาดบา่ สว่ นสาวติ รไี ดช้ ว่ ยสะพายยา่ ม ทงั้ สองยน่ื มอื ประสานกนั ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิม้ อันบรสิ ุทธิ์ เดินเคียงคู่กนั เขา้ ปา่

๖๔ พระสัตยวานและสาวิตรีเดินชมนกชมไม้เร่ือยมาจนถึงลำธารเล็กๆ ซึ่งเต็มไปด้วย พฤกษานานาพรรณ หลากสีสันสดใสราวกับมีผู้ใดมาแต่งแต้มไว้ สาวิตรีเก็บดอกไม้ใส่ลง ย่ามตั้งใจจะนำไปบูชาเหล่าเทวดา เมื่อมาถึงริมลำธาร ทั้งสองจึงวักน้ำขึ้นล้างหน้าและด่ืม แก้กระหาย ขณะกำลังนั่งพักอยู่นั้น พลันสายตาก็เหลือบมองเห็นฝูงนกยูงกำลังหากินอยู่ ริมนำ้ นกยงู ตวั ผู้รำแพนหางกางปกี สองข้างสสี นั สวยงามเดินเยื้องย่างอวดโฉมความงามเพ่อื เกี้ยวพาราณสีตวั เมีย

๖๕ สาวติ รชี มความงามของฝงู นกยูงด้วยความเพลดิ เพลิน แตห่ ากมองลึกลงไปถึงจิตใจ ของนางแล้วนั้น จะเห็นว่าหัวใจของนางเหมือนกำลังจะแตกออกเป็นเส่ียงๆ เพราะถ้อยคำ ของพระนารทฤๅษีได้เข้ามารบกวนจิตใจอยู่ทุกเวลา ตลอดเวลาท่ีเดินเข้าป่ามาด้วยกัน สาวิตรีได้เฝ้ามองดูทุกอิริยาบถของพระสัตยวานคล้ายจะประทับไว้ในความทรงจำมิให้ ลืมเลอื น

๖๖ ระหวา่ งทาง สาวิตรีเหน็ ต้นมะม่วงจึงชใี้ หพ้ ระสตั ยวานดูพลางบอกว่า ผลมะมว่ งสกุ งอมผวิ สเี หลอื งอรา่ มราวกบั ห่อหุ้มด้วยทองคำ รสชาตคิ งหวานช่ืนใจ พระสัตยวาน : หวานอะไรไม่ปานหวานวาจา แห่งน้องแกว้ แววตาของสามี สาวิตรี : อุ๊ย! ป่านน้มี หี รือยังไมจ่ ดื พระสตั ยวาน : เปน็ ไม่มีวันชืดละโฉมศรี สาวิตรี : อนั เวลาล่วงมาถงึ เกือบปี พระสตั ยวาน : ส่วนตัวพีน่ ี้เหน็ เปน็ หน่งึ วนั

๖๗ พระสตั ยวานเกบ็ ผลมะมว่ งสกุ ใหส้ าวติ รใี สล่ งยา่ ม พดู จาหยอกเยา้ สาวติ รดี ว้ ยถอ้ ยคำ อนั แสนหวานเปรยี บประหนงึ่ หนมุ่ นอ้ ยทกี่ ำลงั ตกอย่ ใู นหว้ งแหง่ ความรกั กบั หญงิ สาวผเู้ ปน็ ดงั่ ยอดดวงใจ โดยไม่ร้เู ลยว่าเวลาของตนนน้ั ใกล้จะหมดลงทุกขณะ อันความรกั ของพ่ีมีมากนอ้ ย อยู่เพียงไรไม่ถอยนะร้อยชั่ง ถึงแมว้ า่ ฟ้าดนิ จะภินพงั พ่กี ย็ ังรกั นอ้ งผู้ตอ้ งใจ

๖๘ สาวิตรีสุขใจเม่ือได้ฟังถ้อยคำอันหวานซ้ึงของพระสัตยวาน แต่ช่วงเวลาแห่งความ สุขมักจะสั้นนัก หลังจากหนุ่มสาวหยอกเย้ากันพอสมควรแล้ว พระสัตยวานจึงเดินไปตัด กิ่งไม้มาทำฟืน ส่วนสาวิตรีเดินไปนั่งพักรอพระสวามีอย่ ูใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้ๆ กัน นางหยิบ ดอกไมม้ ดั รวมกนั เป็นช่อๆ พลางมองดูพระสตั ยวานไปพรอ้ มๆ กนั

๖๙ พระสัตยวานเริ่มออกแรงตัดก่ิงไม้ได้เพียง ไม่นานก็มีอาการเหน็ดเหน่ือย เม็ดเหง่ือผุดข้ึน เต็มใบหน้า แล้วจู่ๆ ก็ปวดศีรษะคล้ายโดนเข็ม ทิ่มแทง ร้อนรุ่มเหมือนมีไฟแผดเผาไปทั่วร่างกาย จึงบอกกับสาวิตรีว่า “สงสัยพ่ีจะทำงานหนักมาก เกนิ ไป รสู้ ึกเหมือนจะเปน็ ไขห้ นกั ร่างกายพแ่ี ทบ ไม่มแี รงยนื เลย”

๗๐ พระสตั ยวานเมอื่ พดู จบกเ็ ดนิ โซเซเขา้ ไปหาสาวติ รี ขวานท่ี ถอื อยกู่ ็ร่วงหลุดจากมอื สาวิตรีเห็นอาการของพระสวามีกต็ กใจรีบ ลุกเข้าไปประคองพยุงเดินมานั่งใต้ร่มไม้ นางยกศีรษะของพระ- สัตยวานขึ้นหนุนตัก

๗๑ เพียงช่ัวครู่ พระสัตยวานก็หมดสติไป สาวิตรีนึกถึงคำพูดของพระนารทฤๅษีก็ใจ คอไมด่ ี เหลือบมองใบหนา้ ของพระสตั ยวานกเ็ ห็น ขาวซีด ร่างกายสงบนงิ่ สาวิตรเี หลยี วมองหา ผู้ใดเพ่อื มาชว่ ยกไ็ ม่เห็นสักคน จึงกอด พระสตั ยวานรำ่ ไห้สะอึกสะอ้ืนปมิ่ จะขาดใจ

๗๒ สาวิตรีกอดพระสัตยวาน ไว้พร้อมรำพึงรำพันด้วยน้ำตานอง หนา้ ว่า โอว้ ่าพระทูลกระหมอ่ มแก้ว มาทงิ้ เมยี เสยี แลว้ ชา่ งทำได้ จะเสด็จจรดล ณ หนใด ไยไม่ชวนเมยี ไปเป็นเพื่อนทาง พระมาท้งิ เมียไว้ไมน่ ำพา ปลอ่ ยให้ร้างกลางป่าอนั ใหญ่กวา้ ง เมียอย่เู ดยี วฟมู ฟกอกอา้ งว้าง ขอวายวางชวี ติ ติดตามไป

๗๓ สาวิตรบี ำเพ็ญเพียรภาวนาทำความดีอย่างสม่ำเสมอ ขณะท่ีกำลังรำ่ ไห้คร่ำครวญ อยู่น้นั จงึ มองเห็นพระยม เทพแห่งโลกความตายมายืนอยขู่ า้ งร่างของพระสตั ยวาน บุรุษผู้น้ีมีใบหน้า นัยน์ตาดุดัน ผิวสีแดง แต่งองค์งามสง่า นุ่งห่มด้วยผ้าสีแดง ถือไม้คทา ยมทัณฑ์ด้วยมือซ้าย ส่วนมืออีกข้างหน่ึงถือบ่วง ยมบาศ สำหรับคล้องดวงวญิ ญาณ เพง่ มองดูพระ- สตั ยวาน ช่างนา่ เกรงขามยิง่ นัก

๗๔ สาวิตรีเมอ่ื เหน็ พระยมยืนจอ้ งมองอยู่ จึงค่อยๆ จบั ศรี ษะ ของพระสตั ยวานวางลงกบั พนื้ ดนิ แลว้ ลกุ ขน้ึ ยืนดว้ ยหัวใจอัน สั่นระรวั แฝงดว้ ยความหวาดกลัว แล้วถามดว้ ยน้ำเสียง สัน่ เครอื ว่า “ท่านเปน็ ใครและประสงค์ ในสงิ่ ใด”

๗๕ พระยมจึงบอกวา่ “เรามีนามวา่ พระยม พระสตั ยวานน้นั สิ้นอายุขัยแล้ว เราจึงมารับวิญญาณของพระสัตยวาน” สาวิตรี น่ิงเงียบคิดวิธีถ่วงเวลาไว้เพ่ือหาทางช่วยเหลือพระสัตยวานให้ นานที่สุด เมื่อนางหายหวาดกลัวและคลายความเศร้าแล้วจึง ถามตอ่ ดว้ ยปฏภิ าณไหวพรบิ ว่า “เหตุใดพระองค์จงึ ตอ้ งมารับ ด้วยพระองค์เอง ไมส่ ่งยมทตู มารบั ”

๗๖ พระยมถึงแม้จะเป็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ ในโลกแห่งความตาย แต่ก็เป่ียมด้วยความ เท่ียงธรรมจนได้รับการขนานนามว่า ธรรมราชา พระองค์ประทับอยู่บนบัลลังก์แก้วมณี รอพจิ ารณาคดแี ละเปน็ ผพู้ จิ ารณาตดั สนิ วา่ ใครควรไดข้ นึ้ สวรรคห์ รอื ตกนรก ตามบญุ และบาป ของแต่ละคนทีไ่ ดเ้ คยกระทำไวข้ ณะยงั มชี วี ิต

๗๗ พระยมตอบด้วยนำ้ เสียงอ่อนโยนวา่ “สาวิตรี ทีเ่ ราได้สนทนากบั เจา้ นน้ั เพราะเรา เห็นวา่ เจ้าเปน็ ผู้มคี วามจงรักภกั ดี ซอ่ื สตั ย์ตอ่ พระสวามี ประกอบคุณงามความดอี ยเู่ ป็นนจิ เหมือนดังพระสวามีของเจา้ ที่เป็นคนดี กตญั ญู มีจติ ใจ เมตตากรุณา ชอบทำบญุ ทำทาน บำเพ็ญเพียรมิได้ ขาด ถอื เป็นคณุ สมบตั ิอนั เปน็ เลศิ หากจะให้ยมทูต มารบั วญิ ญาณพระสตั ยวาน คงไม่เหมาะสมนัก เราจึงตอ้ งมารับดว้ ยตนเอง”

๗๘ เม่ือพระยมกล่าวจบก็เอาบ่วงลงไปคล้องปราณซ่ึงเป็นดวงวิญญาณออกมาจากร่าง ของพระสัตยวาน แล้วมัดปราณให้อยู่ในอาณัติ แล้วก็จูงปราณพระสัตยวานออกเดินไป ทางทศิ ตะวนั ตก บัดนี้ พระสัตยวานที่นอนแน่นง่ิ ก็เหลือเพยี ง แคร่ า่ งกายเทา่ นั้น ่

๗๙ สาวิตรีเมื่อเห็นพระยมเดินจากไปก็เดินตาม พระยมไปด้วยใบหน้าหมองเศร้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ท่ไี หลพรั่งพรอู อกมา ส่วนภายในจิตใจของนางนน้ั ชา่ ง ทกุ ขร์ ะทมขื่นขมยิง่ นกั เมือ่ เหน็ พระสัตยวานผูเ้ ป็นด่ัง เจา้ ชีวิตตอ้ งจากไปอยา่ งไมม่ วี นั กลบั

๘๐ นางไมร่ ู้จะทำประการใดเพ่อื ชว่ ยพระสตั ยวาน จึงได้แต่ เดินตามพระยมไปเรื่อยๆ อยา่ งไรจ้ ดุ หมาย ไม่รู้จกั เหนด็ เหน่ือย ฝ่ายพระยมเหน็ ว่าระยะทางท่ีสาวติ รีเดนิ ตามมาน้ันไกลมาก แลว้ จึงหันไปบอกสาวติ รกี ลับไปดกี วา่ อยา่ เสียเวลาเดิน ตามเลย

๘๑ เม่ือสาวิตรีได้ยินคำพูดของพระยมที่บอกให้กลับไป ทำให้ความทุกข์ ใจที่สะสมอยู่ ภายในไดพ้ งั ทลายลง กลบั เป็นแรงใจใหน้ างมคี วามกล้าหาญท่จี ะโต้ตอบกบั พระยมผู้มอี ำนาจ ยง่ิ ใหญ่ ในโลกแห่งความตาย จงึ ตอบกลับอยา่ งนุ่มนวลว่า ไม่วา่ พระสวามีจะอยู่ ณ ทแ่ี หง่ ใด นางก็จะขอติดตามไปทุกแห่ง แม้มีอุปสรรคขวากหนามมาขวางก้ันก็มิอาจล้มเลิกความตั้งใจ ของนางได้

๘๒ นางยังกล่าวต่อในหวั ขอ้ หลักธรรมท่วี า่ และรู้จกั ข่มจติ ไม่ย่อหยอ่ น อันผ้ใู ดใฝ่ธรรมเป็นเนอื งนติ ย์ คงไม่ตอ้ งอนาทรและรอ้ นใจ สุดประเสรฐิ กวา่ ทรพั ย์ทง้ั นอ้ ยใหญ่ ปฏบิ ตั ิพรอ้ มพรั่งดังครูสอน คงต้องได้ผลงามตามตำรา ปราชญ์สรรเสริญวา่ ธรรมเป็นล้ำเลิศ ธรรมคมุ้ ผู้พระพฤติเปน็ ธรรมไซร้

๘๓ พระยมเม่ือได้ฟังถ้อยคำของสาวิตรีก็พอใจยิ่ง นกั จงึ บอกใหน้ างขอพรได้หนึง่ ขอ้ ยกเวน้ ขอชวี ติ พระ- สตั ยวาน สาวติ รจี ึงขอวา่ กษัตริย์ทยมุ ัตเสน ผู้ครอง นครศาลวะเป็นพระบิดาของพระสัตยวาน ซ่ึงขณะน้ีมี ดวงตามืดสนิท ขอให้ดวงตาของพระองค์กลับมามอง เห็นดงั เดิม

๘๔ พระยมได้ฟังก็ประสาทพรให้ตามที่ขอและบอกให้สาวิตรีอย่าได้เดินตามมาอีกเลย สาวิตรีก็ไม่ยอมกลบั ยังคงเดนิ ตามพระยมและปราณของพระสัตยวานต่อไป นางยกเหตุผล ท่ตี ามมาวา่ ไมว่ า่ พระสวามีจะอย่ ใู นสภาพใด นางกจ็ ะ ขออย่ ใู นสภาพนนั้ ดว้ ย

๘๕ นางยังยกหลักธรรมท่ียกย่องพระยมวา่ อน่ึงใกล้พระองค์ผทู้ รงคุณ เป็นจอมบญุ แทจ้ รงิ ทุกสง่ิ สรรพ์ การคบผู้ซือ่ ตรงทรงคุณธรรม์ ยอ่ มมผี ลอนันต์อันเลศิ ดี เสวนากับผปู้ ระพฤติธรรม คือคบมิตรเลิศลำ้ และเปน็ ศรี หมอ่ มฉันชอบคบธรรมะจารี จงึ่ ส้ลู ีลาตามเสดจ็ มา

๘๖ พระยมได้ฟังคตธิ รรมของสาวติ รที ี่ ยกมากลา่ วอา้ งกพ็ อใจหนักหนา จงึ บอก ใหน้ างขอพรได้อีกหน่งึ ข้อ ยกเวน้ ขอชวี ิต พระสตั ยวาน สาวติ รจี ึงขอใหท้ ้าวทยมุ ัตเสน ได้ราชสมบัติคืน พระยมผ้ทู รงคุณธรรม จึงบอกว่า ในไมช่ ้าน้ีท้าวทยมุ ตั เสน จะไดก้ ลบั ไปครองบา้ นเมอื งตาม เดิม ขอใหน้ างกลบั ไปเสยี เถิด เพราะเดินมาไกลมากแลว้

๘๗ ความเหนด็ เหนื่อยเมอื่ ยล้าทางกายหาได้เป็นอุปสรรคแก่ สาวติ รไี ม่ นางยังดื้อดงึ เดนิ ตามและกล่าวเยนิ ยอพระยมว่าถงึ แม้ พระยมจะเป็นเทพแหง่ ความตายทไี่ ด้ครา่ ชีวิตผคู้ นอย่างมากมาย แต่กท็ ำเพราะเป็นหน้าท่ี มิใช่ตามใจพระองค์เอง จึงถูก ขนานนามวา่ พระยม ซึ่งหมายถึง ผูท้ ป่ี กครองตาม แบบแผน

๘๘ สาวิตรยี งั คงสนทนาธรรมกบั พระยมดว้ ยกริ ิยาออ่ นนอ้ มวา่ กรณียคนดมี ีศลี ธรรม อนั ควรทำต่อสตั วท์ ั่วท้งั หลาย คอื มิไดป้ ระทษุ และปองร้าย ท้งั ด้วยกายวาจาอีกทงั้ ใจ ความเมตตาปราณีเป็นท่ีสดุ แกม่ นุษยแ์ ละสตั วท์ ้งั นอ้ ยใหญ่ แม้ศัตรูผ้มู าขออภยั ก็ยอมยกโทษใหด้ ้วยปราณี

๘๙ พระยมตอบวา่ คำพดู ของนางน้ันเปรียบเหมอื นน้ำเย็นท่ีสะอาดบริสทุ ธ์ิ หากผูใ้ ด ได้ฟังก็จะทำให้ผู้น้ันรู้สึกชุ่มช่ืนหัวใจ แล้วพระยมจึงให้สาวิตรีขอพรได้เป็นคร้ังท่ีสามยกเว้น ขอชีวิตพระสัตยวาน สาวติ รีจงึ ขอใหท้ ้าวอัศวบดี พระบิดาของนางมพี ระโอรสหนงึ่ ร้อยองค์ ซึง่ ประสตู ิกับพระมเหสมี าลวี พระมารดาเพ่ือจะไดม้ รี ชั ทายาทสบื สกุลต่อไป

๙๐ พระยมก็ประสาทพรให้ตามคำขอแล้วจึงบอกให้ นางหยุดเดินตาม เพราะหนทางข้างหน้าน้ันมีแต่ความ ยากลำบาก เต็มไปด้วยอันตรายจากบรรดาสัตว์ป่าทั้ง หลาย สาวิตรมี ิได้สนใจคำขู่ของพระยม แต่กลบั เดินตาม พระยมทีจ่ ูงปราณพระสตั ยวานไปดว้ ยอาการสงบนง่ิ

๙๑ สาวติ รกี ล่าวดว้ ยวาจาออ่ นหวานวา่ ขอเพียงไดอ้ ยเู่ คียงกบั พระสตั ยวาน พระสวามี ผูเ้ ป็นทร่ี กั ยง่ิ ระยะทางหาได้เปน็ อปุ สรรค ขอพระยมโปรดฟังในส่งิ ที่จะพูดต่อด้วยเถดิ พระองค์เป็นโอรสอาทติ ยไ์ ซร้ จง่ึ เรยี กไววัสวัตบดีศรี ประสาทธรรมสม่ำเสมอดี จ่งึ มนี ามว่าธรรมราชา อันผู้ใดทรงธรรมเทย่ี งสถิต ชนย่อมอยากเปน็ มิตรเปน็ หนกั หนา ความใจดมี จี ิตมากเมตตา ยอ่ มแนะสตั วน์ านาไว้วางใจ

๙๒ คำสรรเสรญิ ของสาวติ รีทำใหพ้ ระยมประทบั ใจเปน็ ยิง่ นกั จึงบอกสาวิตรีวา่ สงิ่ ทน่ี างยกมา กลา่ วน้ันยังมเิ คยได้ยนิ จากผใู้ ดเลย จึงอนุญาต ให้สาวติ รีขอพรไดเ้ ปน็ คร้งั ที่สี่ ยกเวน้ ขอชวี ติ พระสตั ยวาน สาวติ รจี งึ ขอใหน้ างมี พระโอรสหน่งึ รอ้ ยองคก์ ับพระสัตยวาน เพือ่ จะได้ดำรงวงศ์สกุลสบื ต่อไป

๙๓ ด้วยวาจาที่ไพเราะอ่อนหวานชวนฟงั ของสาวิตรี พระยมจึงมิได้คำนึงถึงพรท่ีสาวิตรีขอ จึงประสาทพร ให้สาวิตรีมีโอรสหนึ่งร้อยองค์ที่ปรีชาสามารถ แล้วบอกให้สาวิตรีอย่าได้ฝืนร่างกายเดินตามมา เลย เพราะได้เดินมาไกลมากแล้ว แต่คำพูดของ พระยมก็ไมอ่ าจเปล่ียนความตงั้ ใจของสาวติ รไี ด้

๙๔ ระหว่างทน่ี างเดนิ ตามพระยมไปกเ็ รม่ิ สนทนา กับพระองค์ว่า การดำเนนิ รว่ มทางอยา่ งเป็นมิตร กับผสู้ ุจรติ ยอ่ มเปน็ ศรี พระองค์เป็นยอดธรรมจารี หม่อมฉนั น้ีจง่ึ ตามเสด็จจร เสวนาบัณฑิตเปน็ กิจชอบ ประกอบดว้ ยกุศลสโมสร อนั ธรรมจารีศรีสนุ ทร นรากรได้พึ่งจึ่งเย็นใจ

๙๕ เม่ือสาวิตรีพูดจบ พระยมจึงกล่าวชื่นชมสาวิตรีว่า นอกจากความซ่ือสัตย์ท่ีมีต่อ พระสัตยวานแลว้ ถอ้ ยคำท่ีกล่าวนัน้ ล้วนเปน็ คตธิ รรม ทส่ี ำคญั เตม็ ไปด้วยมธุรวาทพรอ้ ม ด้วยธรรมะ ทำใหพ้ ระองค์ศรทั ธาในตวั นางยง่ิ ขึน้ จึงบอกใหข้ อพรไดอ้ กี หนง่ึ ขอ้ ซึ่งพรขอ้ น้ี ขอให้เปน็ พรทปี่ ระเสริฐทส่ี ุดแกต่ วั นางเอง

๙๖ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยชีวิตพระสัตยวาน เม่ือพระยมให้โอกาสเช่นนี้ สาวิตรีจึง กล่าวว่า “พรในครั้งที่สี่ท่ีพระองค์ประทานแก่หม่อมฉันน้ัน มิอาจจะสัมฤทธิผลได้ หาก ปราศจากพระสัตยวาน หม่อมฉันจึงขอพระองค์ โปรดประทานชีวิตพระสัตยวานคืนด้วย เถิดเจา้ คะ พรท่พี ระองค์ประทานใหจ้ ะได้สัมฤทธิผลทุกประการ”

๙๗ พระยมเมอื่ ได้ฟังสาวติ รีกลา่ วดังนั้นก็มิอาจคนื คำพูดพระองคเ์ องได้ ดว้ ยความเห็นใจในความเพียร พยายามของสาวติ รที ่ีตอ้ งการจะช่วยชวี ิตพระสตั ยวาน พระยมจึงไดป้ ล่อยปราณของพระสัตยวาน พร้อม ทั้งกลา่ วอวยพรให้ท้ังสองจงมีแต่ความสขุ ความ เจริญ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และขอใหพ้ ระโอรส ท้ังรอ้ ยพระองคข์ องนาง จงมเี ดชานภุ าพ แผ่ บารมีออกไปจนเป็นที่ เลืองช่ือท่วั ทุกแว่นแควน้

๙๘ สาวิตรีก้มกราบพระยมด้วยความดีใจ แล้วพระยมก็ เสดจ็ จากไป ความทุกข์ โศกที่มอี ยเู่ ต็มหวั ใจของสาวติ รีได้มลาย หายไปจนหมดสิ้น เพราะการท่ีพระยมได้ประทานชีวติ พระ- สตั ยวานคนื กเ็ หมือนการคนื ชีวติ ใหม่ ให้สาวิตรไี ปพรอ้ มกนั

๙๙ สาวติ รีรีบเดินกลับไปยังรา่ งของพระสตั ยวานทนั ที เหน็ พระสวามียงั นอนแนน่ ง่ิ อยู่ จึงเข้าไปนั่งใกล้ๆ แล้วยกศีรษะของพระสัตยวานขึ้นมาหนุนตัก เพียงช่ัวครู่ ใบหน้าของ พระสตั ยวานท่ีขาวซีดก็เริ่มมีเลอื ดฝาด แลว้ พระองคก์ ค็ ่อยๆ ลมื ตาขึน้ มาเหน็ สาวิตรกี ำลัง จ้องมองพระองค์อยเู่ ชน่ กัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook