เรื่อง-ภาษาพาดหัวข่าว (1)

1 เรอ่ื ง ภาษาพาดหวั ขา่ ว จดั ทาโดย นาย ชาญ เกียรตอิ านวย ม.5/1 เลขท่ี 1 นาย อดลุ ชยั ประพนั ธพ์ งษช์ ยั ม.5/1 เลขท่ี2 นาย ชิษณพุ งศ์ แสงดา ม.5/1 เลขท่ี5 เสนอ อาจารย์ สภุ ลกั ษณ์ พลเรือง รายงานนีเ้ ป็นส่วนหนง่ึ ของการเรยี นวชิ า ภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี 2 ประจาปีการศกึ ษา 2564 โรงเรยี นราชสีมาวทิ ยาลยั

2 คานา รายงานเล่มนจี้ ดั ทาข้ึนเพอ่ื เปน็ ส่วนหน่งึ ของวชิ าภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี๕ เพ่ือให้ได้ศกึ ษา หาความรู้ในเรอ่ื งการพาดหัวขา่ วและไดศ้ ึกษาอย่างเขา้ ใจเพอื่ เป็นประโยชน์กับการเรียน ผู้จัดทาหวงั วา่ รายงานเลม่ น้จี ะเปน็ ประโยชนก์ บั ผ้อู ่าน หรือนกั เรยี น นกั ศึกษา ทก่ี าลังหา ข้อมูลเรือ่ งน้อี ยูห่ ากมีขอ้ แนะนาหรือข้อผิดพลาดประการใด ผูจ้ ัดทาขอนอ้ มรับไว้และขออภยั มาณ ท่ีนี้ ดว้ ย ผจู้ ดั ทา วนั ท่ี ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๔

สารบญั 3 เรื่อง ๑ คำนำ ๒ สำรบญั ๓ กำรพำดหวั ข่ำว ๔ วตั ถุประสงค์ ๔ หลกั กำรเขียนหวั ข่ำวท่ียำก ๔ เทคนิคกำรเขียนหวั ขอ้ ข่ำวท่ีดี ๕ ภำษำพำดหวั ข่ำว ๖ กำรใช้ อกั ษรยอ่ อกั ษรยอ่ หมำยถึง อกั ษรท่ีมำจำก ๗ กำรใชค้ ำฉำยำ ๘ กำรใชค้ ำตดั คำตดั ๘ กำรใชค้ ำทบั ศพั ทค์ ำทบั ศพั ท์ ๑๑ กำรใชค้ ำสแลง สแลง ๑๒ กำรใชค้ ำคลอ้ งจอง คำคลอ้ งจอง ๑๔ กำรใชส้ ำนวน ๑๖ กำรใชค้ ำจินตภำพ ๑๘ กำรใชภ้ ำษำในกำรดึงดูดผอู้ ่ำน ๒๐ ลกั ษณะสำคญั ในกำรใชภ้ ำษำ ๒๒ บรรณณำนุกรม ๒๓

4 พาดหวั ข่าว กำรพำดหวั ข่ำว คือ กำรนำประเดน็ สำคญั ของข่ำวมำพำดหวั หนงั สือพิมพ์ เพอื่ ใหผ้ อู้ ่ำนทรำบวำ่ วนั น้ีเกิดอะไรข้ึนบำ้ ง โดยใชต้ วั อกั ษรตวั ใหญ่กวำ่ ธรรมดำ ใชเ้ พียงขอ้ ควำมส้ันๆ แต่สำมำรถเสนอ สำระสำคญั ใหแ้ ก่ผอู้ ่ำนไดพ้ ิจำรณำเลือกอ่ำนรำยละเอียดข่ำวท่ีตนสนใจได้ ท้งั ยงั สำมำรถบอก ภำพลกั ษณ์ของหนงั สือพิมพฉ์ บบั น้นั ๆ ดว้ ย วตั ถุประสงค์ของการพาดหวั ข่าว มีดงั น้ี 1.ดึงควำมสนใจของผอู้ ่ำน ดึงสำยตำ เปรียบเสมือนตูโ้ ชว์ เม่ือสะดุดตำกอ็ ยำกอ่ำนข่ำวต่อ 2.ใหส้ ำระสำคญั ของข่ำว ประหยดั เวลำ รู้ประเดน็ คร่ำวๆในทนั ที 3.บอกลำดบั ควำมสำคญั ของข่ำว โดยใชข้ นำดของตวั พิมพท์ ่ีแตกต่ำงกนั 4.ช่วยในกำรออกแบบจดั หนำ้ เกิดควำมหลำกหลำย ไม่เรียบหรือเกล้ียงจนเกินไป 5.ช่วยสร้ำงบุคลิกภำพของหนงั สือพิมพ์ เช่น กำรใชภ้ ำษำ ขนำดตวั อกั ษร ลกั ษณะของ ตวั อกั ษร เห็นแลว้ รู้ทนั ทีวำ่ เป็นฉบบั ไหน หลกั การเขยี นหัวข่าวส่ิงทย่ี าก คือ ควำมสำมำรถในกำรเขียนท่ีตอ้ งดึงใจควำมสำคญั ลงในเน้ือท่ีอนั จำกดั ดว้ ยควำมเร่งรีบ จึงมกั ใหห้ วั หนำ้ ข่ำว หรือบรรณำธิกำรเป็นผทู้ ำ ท้งั น้ีกำรพำดหวั ข่ำวท่ีดีควร ส้ัน กระชบั ไดใ้ จควำม สรุปประเดน็ สำคญั ของข่ำวได้ ครอบคลุมสิ่งท่ีผอู้ ่ำนอยำกรู้ ใหค้ วำม สมบูรณ์เพยี งพอ และควรใหข้ อ้ เทจ็ จริงตำมท่ีปรำกฏในข่ำว ไม่ใส่ควำมคิดเห็นหรือเพิ่มควำมหวอื หวำ่ มำกเกินไป

5 เทคนิคการเขยี นพาดหวั ทดี่ ี คือ 1.อ่ำนควำมนำ (Lead) ก่อน หรือถำ้ มีเวลำพอ ควรอ่ำนข่ำวใหจ้ บดว้ ย เพ่ือใหท้ รำบ รำยละเอียดของข่ำวท้งั หมดก่อน 2.เขียนประโยคส้นั ๆใหไ้ ดใ้ จควำมสำคญั โดยนำคำหรือขอ้ ควำมสำคญั ในข่ำวมำใช้ 3.แบ่งประโยคเป็นหลำยๆส่วน ทดลองตดั คำและเรียบเรียงจนไดใ้ จควำมรู้เร่ืองในเน้ือที่ และจำนวนตวั อกั ษรที่จำกดั อยแู่ ต่ตอ้ งสำมำรถส่ือควำมไดด้ ว้ ย กำรนบั ตวั อกั ษรในกำรพำดหวั ข่ำว นบั หน่วยตวั อกั ษรเป็น \"หน่วย\" -ตวั อกั ษรตวั บำงเลก็ คิดเป็น ½ หน่วย เช่น เ- ไ- ใ- -ตวั อกั ษร 1 ตวั อกั ษรปกติ คิดเป็น 1 หน่วย เช่น ก ข ค ง รวมท้งั สระบำงตวั เช่น -ะ แ- -ำ -ตวั อกั ษรตวั กวำ้ งคิดเป็น 1 ½ หน่วย เช่น ฒ ณ ฌ ญ -เครื่องหมำยวรรคตอน คิดเป็น ½ หน่วย เช่น กำรเวน้ วรรค ตวั อยำ่ งเช่น - 3 พรรคใหญ่ผนึกกำลงั คิดเป็น 15 ½ หน่วย - ดว้ ยวนั แมนวนั โหวต คิดเป็น 13 ½ หน่วย แนวทำงในกำรพำดหวั ข่ำวผสู้ ่ือข่ำวควรมีกำรศกึ ษำและหำประเดน็ ใหม่ๆเสมอ โดยอ่ ำจ ศกึ ษำจำกแหล่งขอ้ มูลดงั ต่อไปน้ี 1. โฆษณำในหนำ้ หนงั สือพิมพ์ เช่น ขำยโรงเรียน ดูวำ่ น่ำสนใจไหม อยำกรู้อะไรต่อ ชำวบำ้ นในทอ้ งถ่ินตอ้ งกำรรู้อะไรเพมิ่ เช่น โรงเรียนน้ีทำเลดีแต่ทำไมจึงขำย เพรำะขำดทุนจริง หรือ หรือวำ่ ถูกอิทธิพล อำจขอสมั ภำษณ์เจำ้ ของ หำกมีโอกำสซกั ถำมอำจไดป้ ระเดน็ ดีๆต่อ 2. โฆษณำขำ้ งถนน ที่แปลกๆ ใหม่ๆ อำจเป็นจุดเร่ิมไปสัมภำษณ์เก่ียวกบั โฆษณำน้นั เช่น ป้ำยบอกทำงขำ้ งทำงวำ่ จะสร้ำงสวนสนุก หรือป้ำยโฆษณำ \"ระวงั คนดีกลำยพนั ธุ์\"

6 3. กำรอ่ำนหนงั สือทุกชนิด อำจรู้ขอ้ มูลที่ตอ้ งตำมต่อ โดยสังเกตเร่ืองดีๆ 4. ข่ำวเป็นจุดกำเนิดของข่ำว ข่ำวหรือประเดน็ จำกส่ิงพมิ พท์ ุกชนิด ท้งั หนงั สือพมิ พ์ ส่วนกลำง ทอ้ งถิ่น ข่ำวแจก แผน่ พบั เอกสำรต่ำงๆ 5. วงแถลงข่ำว-ประชุม-สมั มนำ ผจู้ ดั มกั มีขอ้ มูลดีๆมำเสนอเพื่อเผยแพร่ และมกั มีบุคคล สำคญั มำร่วมงำน เปิ ดโอกำสใหซ้ กั ถำม บำงประเดน็ อำจดูเหมือนไม่น่ำสน แต่สำมำรถตำมต่อจน เป็นประเดน็ ใหญ่ได้ 6. ถอ้ ยคำจำกกำรสมั ภำษณ์ กำรพดู คุยกบั แหล่งข่ำวอำจไดป้ ระเดน็ ใหม่ท่ีสำมำรถตำมต่อ ได้ ภาษาพาดหัวข่าว 1.การใช้ภาษาในส่วนทเ่ี ป็ นพาดหวั ข่าว กำรใชภ้ ำษำในส่วนของกำรพำดหวั ข่ำวมกั ใชค้ ำท่ีกระชบั ส้นั แต่สำมำรถ สื่อควำมหมำยไดต้ รงตำมจุดประสงคข์ องผเู้ ขียน โดยกำรใชก้ ำรติดคำ อกั ษรยอ่ หรือกำรใชส้ ำนวน นอกจำกน้ียงั มีกำรใชภ้ ำษำใหเ้ กิดควำมน่ำสนใจ สะดุดตำผอู้ ่ำนดว้ ยกำรใชค้ ำสแลง คำทบั ศพั ท์ ภำษำองั กฤษ และคำคลอ้ งจองอีกดว้ ย 1. การใช้คาซ้อนเป็ นกลวธิ กี ารสร้างคาอยางหน่ึง คือ นำคำที่มีควำมหมำยใกลเ้ คียงกนั หรือเป็นไปในแนวเดียวกนั มำซอ้ นกนั ไดค้ ำท่ีมีควำมหมำยใหม่ เรียกวำ่ คำซอ้ น เช่น ข่มขี่ ข่มขู่ นอกจำกน้ี บำงคร้ังคำซอ้ นยงั ช่วยกำหนดควำมหมำยคำเดิมใหช้ ดั เจน ข้ึน เช่น หนำแน่น หนำ้ ตำ นำ้ อำ เยยี วยำ หยกู ยำ หรือสร้ำงสรรค์ พรรคพวก เขียวขจี เป็นตน้ (ธเนศ เวศร์ภำดำ, 2533 : 190) ดงั ตวั อยำ่ งต่อไปน้ีไปน้ี ลุน้ ระทึก14-17ก.ย. กทม.เตือน 27ชุมชน 102 ยกของหนีน้ำ (13 กนั ยำยน พ.ศ. 2555)

7 ตวั อยำ่ งเป็นข่ำวกำรแจง้ เตือนใหค้ นกรุงเทพฯ รับมือกบั ภำวะน้ำ ท่วมที่อำจเกิดข้ึนในไม่ชำ้ โดยกำรใหข้ นของข้ึนท่ีสูง ตำมข่ำวพบคำซอ้ นวำ่ ลุน้ ระทึก โดยคำวำ่ ลุน้ หมำยถึง เอำใจช่วยเตม็ ที่ ส่วนคำวำ่ ระทึก หมำยถึง อำกำรท่ีใจเตน้ ตึกๆ ซ่ึงคำวำ่ ลุน้ ระทึกเป็นคำ ซอ้ นที่เนน้ ใหค้ วำมหมำยเดินมีควำมชดั เจนยงิ่ ข้ึน ในบริบทหมำยถึงคนกรุงเทพใจเตน้ ดึกๆ ลุน้ ให้ น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ ข่ำวน้ีเป็นข่ำวที่แสดงใหเ้ ห็นถึงควำมตอ้ งกำรส่ือสำรกบั คนกรุงเทพซ่ึงเป็น กลุ่มเป้ำหมำยของหนงั สือพิมพใ์ นกำรแจก และคำซอ้ นวำ่ ลุน้ ระทึกน้ียงั เป็นกำรใส่อำรมณ์ ควำมรู้สึกของผเู้ ขียนเขำ้ ไปดว้ ย โดยเป็นกำรคิดแทนคนกรุงเทพฯ วำ่ กำลงั ลุน้ ระทึก แทนท่ีจะเป็น กำรรำยงำนข่ำวเพ่อื เตือนภยั เท่ำน้นั จึงถือเป็นกำรเขียนข่ำวแบบกำรเล่ำข่ำวอยำงหน่ึง 2. การใช้ อกั ษรย่อ อกั ษรย่อ หมายถงึ อกั ษรทมี่ าจาก พยญั ชนะตน้ ของแต่ละพยำงค์ มีท้งั ยอ่ จำกช่ือเฉพำะและยอ่ คำนำมทว่ั ไป ส่วนใหญ่เป็นอกั ษรยอ่ ที่ หน่วยงำนน้นั ๆ กำหนดข้ึนใช้ (บรรทดั ฐำนภำษำไทย เล่ม 4, 2552 : 96) กำรใชอ้ กั ษรยอ่ ในพำดหวั ข่ำวน้นั เพรำะพ้นื ที่ในกำรเขียนข่ำวมีอยจู่ ำกดั จึงตอ้ งใชอ้ กั ษรยอ่ เพ่อื ให้ ขอ้ ควำมน้นั กระชบั และส้นั ลง ผศู้ กึ ษำพบกำรใชอ้ กั ษรยอ่ ในพำดหวั ข่ำว ดงั ต่อไปน้ี ปิ ดฉำกคดีฆ่ำพ.ญ.นิชรี ศำลฎีกำ ประหำร ส.ว.สุขมุ (26 ตุลำคม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นอกั ษรยอ่ พ.ญ. ยอ่ มำจำกคำวำ่ แพทยห์ ญิง และอกั ษร ยอ่ ส.ว. ยอ่ มำจำกคำวำ่ สมำชิกวฒุ ิสภำ ตวั อยำ่ งถดั มำเป็นอกั ษรยอ่ ที่พบในข่ำวกำรก่ออำชญำกรรมโดยผู้ ก่อเหตุเป็นนกั ศึกษำมหำวิทยำลยั เอกชนแห่งหน่ึงที่วำ่ งแผนกบั พ่สี ำวปลน้ อำจำรยข์ องตนเอง ดงั ตวั อยำ่ ง อุกอำจ‘ม.รังสิต’ นศ.วศิ วะ ปลน้ อจ.สำว

8 (27 ธนั วำ่ คม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งขำ้ งตน้ พบกำรใชอ้ กั ษรยอ่ ม. ยอ่ มำจำกคำวำ่ มหำวทิ ยำลยั อกั ษรยอ่ นศ. ยอ่ มำจำกคำวำ่ นกั ศกึ ษำ และอกั ษรยอ่ อจ. ยอ่ มำจำกคำวำ่ อำจำรย์ 3. การใช้คาฉายาคือคาคุณศัพท์หรือวลที บี่ อกคุณภาพ หรือ ลกั ษณะของบุคคลหรือส่ิงของ เช่น London John, Dusty Miller, Chalky White, Nobby Clark, Richard the Lionheart, Ivan the Terrible ตวั อยำ่ งภำษำไทย เช่น พระยำพชิ ยั ดำบหกั นำยจนั ทร์หนวดเข้ียว บุญเพง็ หีบเหลก็ (พจนำนุกรมศพั ทว์ รรณกรรม องั กฤษ-ไทย, 2545 : 163) ผศู้ ึกษำพบกำรใชฉ้ ำยำ ดงั ต่อไปน้ี อำก๋กู เู กิลเป็นประกนั แรงเงำ แรงแซงกงั นมั (14 ธนั วำ่ คม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งคำวำ่ อำกู๋ เป็นคำฉำยำที่ใชเ้ รียกเวบ็ ไซตก์ เู กิล (google.com) ซ่ึง เป็นเวบ็ ไซตส์ ำหรับคน้ หำขอ้ มูลบนอินเทอร์เน็ต ใชแ้ ค่คำวำ่ อำกู๋ คำเดียว หรือเรียกคู่กนั เป็น อำกู๋ กเู กิล จิ้งจอกรำตรีติดกบั สำวนมสลบสิ้นฤทธ์ิ (3 กนั ยำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นฉำยำท่ีหนงั สือพมิ พส์ ร้ำงข้ึนใหม่เองจำกเหตุกำรณ์ท่ีเกิดข้ึน ในข่ำว คือ สำวนมสลบ โดยตำมข่ำวคือผหู้ ญิงคนหน่ึงล่อลวงผชู้ ำยไปชิงทรัพยด์ ว้ ยกำรชวนไปมี เพศสมั พนั ธ์ดว้ ย แลว้ ทำยำสลบไวท้ ี่หวั นมของตน เมื่อผชู้ ำยสลบไปแลว้ จึงชิงทรัพยแ์ ลว้ หนีไป จนเป็นที่มำของฉำยำดงั กล่ำว 4. การใช้คาตัด คาตัด ในท่ีน้ีผวู้ จิ ยั จะหมำยถึง กำรตดั ส่วนใดส่วนหน่ึงของคำออก อำจเป็นกำร ตดั คำเดี่ยว หรือกำรตดั ส่วนใดส่วนหน่ึงของคำประสมหรือคำซอ้ น ดงั ตวั อยำ่ ง

9 1. หนงั สือบรรทดั ฐำนภำษำไทย เล่ม 4 ไดเ้ รียกกำรตดั ส่วนใดส่วนหน่ึงออกไปทำใหค้ ำส้ันลงวำ่ คำ ยอ่ เช่น แอร์ มำจำก แอร์โฮสเตส หรือ เส มำจำก เสนำธิกำร (บรรทดั ฐำนภำษำไทย เล่ม 4, 2552 : 95) และไดอ้ ธิบำยกำรตดั ส่วนของคำซอ้ นวำ่ เป็นกำรตดั คำซอ้ นออกแลว้ ใชเ้ ป็นคำเด่ียว เช่น มีกำร ตดั คำกริยำ พวั พนั เหลือเพยี ง พนั และกำรตดั คำประสม เช่น กำรตดั คำ ปลำแดดเดียว เหลือเพียง แดดเดียว (บรรทดั ฐำนภำษำไทย เล่ม 4, 2552 : 97) งำนวจิ ยั น้ีผวู้ จิ ยั จะใชร้ วมกนั ไปวำ่ กำรใชค้ ำตดั ปฐพีพิโรธพม่ำ 6.8 ริกเตอร์ คนกรุงสะดุง้ ตึกสูง อลหม่ำน (12 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นกำรตดั ส่วนหน่ึงของคำเด่ียวคำวำ่ กรุงเทพ เหลือเพยี ง กรุง มติคนกรุงเฟ้น ซุปตำร์ ปี 55 ส่ือบนั เทิง แจก 10 ฉำยำ (26 ธนั วำ่ คม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นกำรตดั คำเดี่ยวคำวำ่ กรุงเทพ เหลือเพียง กรุง และคำวำ่ ส่ือมวลชน เหลือเพียง สื่อ และมีกำรตดั คำประสมคอื คำวำ่ ซุปเปอร์สตำร์ ซ่ึงเป็นคำทบั ศพั ท์ ภำษำองั กฤษมำจำกคำวำ่ super star เหลือเพียง ซุปตำร์ และยงั มีกำรตดั ตวั เลขจำก พ.ศ. 2555 เหลือ เพยี ง 55 อีกดว้ ย กำรตดั คำประสม คือ กำรตดั ส่วนใดส่วนหน่ึงของคำประสมออก อำจ เหลือคำเพียงคำเดียวหรือสองคำ แต่ควำมหมำยยงั คงเดิม ดงั ตวั อยำ่ ง อดีตแชมป์ โลกตกอบั ไฟตล์ ะลำ้ น วนั น้ีพ่งึ รัฐ

10 เดือนละ 600 (24 ธนั วำ่ คม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นกำรตดั ส่วนหน่ึงของคำประสมคำวำ่ รัฐบำล เหลือเพยี ง รัฐ แพทยย์ อ้ื ชีวติ พริตต้ี จบั แน่วนั น้ี หมอป๊ อป ศลั ยเ์ ถื่อน (21 กนั ยำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นกำรตดั ส่วนหน่ึงของคำประสมคำวำ่ ศลั ยกรรม เหลือเพยี ง ศลั ย์ 5 ลำ้ นคนหลงกลเวบ็ แสบ DSI จบั 30 ลำ้ น เคร่ืองสำอำง ปลอมยห่ี อ้ ดงั (18 ธนั วำ่ คม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นกำรตดั ส่วนหน่ึงของคำประสมคำวำ่ เวบ็ ไซต์ (คำทบั ศพั ทภ์ ำษำองั กฤษคำวำ่ web site) เหลือเพียง เวบ็ กำรตดั คำซอ้ น คือกำรตดั ส่วนใดส่วนหน่ึงของคำซอ้ นออกใหเ้ หลือเพียงคำเดียวแต่ควำมหมำยยงั คง เดิม ดงั ตวั อยำ่ ง ต้งั แชร์หวยตุ๋น 17 ลำ้ น คนพิกำร แห่แจง้ จบั 2 ผวั เมีย (6 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นกำรตดั ส่วนหน่ึงของคำซอ้ นคำวำ่ ตม้ ต๋นุ เหลือเพียง ตุ๋น จอมอำคมงำนเขำ้ สมภำรซดั

11 หนู กนั ภยั กกั๊ เงินวดั (19 ตุลำคม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นกำรตดั ส่วนหน่ึงของคำซอ้ นคำวำ่ ซดั ทอด เหลือเพยี ง ซดั ตำนำนโหดจนมุม คน้ ศพท่ี 4 หมอไขสือฆ่ำหมกไร่ (24 กนั ยำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นกำรตดั ส่วนหน่ึงของคำซอ้ นคำวำ่ คน้ พบ เหลือเพียง คน้ 5. การใช้คาทบั ศัพท์คาทบั ศัพท์ หมายถงึ กำรถ่ำยเสียงท่ีมำจำกรูปคำในภำษำอ่ืนแลว้ นำมำ เขียนในรูปแบบของภำษำไทย เพื่อใหผ้ ใู้ ชภ้ ำษำออกเสียงไดถ้ ูกตอ้ งหรือใกลเ้ คียงกบั ภำษำเดิมท่ีสุด หรืออำจเป็นชื่อเฉพำะกไ็ ด้ กำรพำดหวั ข่ำวในท่ี น้ีพบวำ่ ส่วนใหญ่เป็น กำรใชค้ ำทบั ศพั ทภ์ ำษำองั กฤษ และพบคำทบั ศพั ทภ์ ำษำจีนบำ้ ง ดงั ตวั อยำ่ ง แรลลี่จกั รยำน M2F –กทม. ปลุกเมืองหนงั สือโลก โหวต สุดยอ่ ดเขต (3 ตุลำคม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งคือคำทบั ศพั ทภ์ ำษำองั กฤษคำวำ่ แรลลี่ มำจำกรูปคำภำษำองั กฤษ วำ่ rally แปลวำ่ กำรชุมนุมแข่งรถยนตท์ ำงไกล และคำวำ่ โหวต มำจำกรูปคำภำษำองั กฤษวำ่ vote แปลวำ่ ลงคะแนน แมก็ ซิมทำพิเรนทร์ นำงแบบ โพสหววิ หมู่พทุ ธรูป

12 (15 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นกำรใชค้ ำทบั ศพั ทค์ ำวำ่ แมก็ ซิม มำจำกรูปภำษำองั กฤษวำ่ maxim เป็นช่ือนิตยสำรฉบบั หน่ึง และคำวำ่ โพส มำจำกรูปภำษำองั กฤษวำ่ pose แปลวำ่ วำ่ งท่ำ เป็ นแบบ นอกจำกคำทบั ศพั ทภ์ ำษำองั กฤษแลว้ ยงั พบคำทบั ศพั ทภ์ ำษำจีน คือคำวำ่ บว๊ ย ดงั ตวั อยำ่ งต่อไปน้ี รำตรีสวสั ด์ิกำรศึกษำไทย บำ้ นเรำ ใกลบ้ ๊วย ท่ี37 จำก40ปท. (29 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2555) คำทบั ศพั ทภ์ ำษำจีนคำวำ่ บ๊วย แปลวำ่ ที่สุดทำ้ ย หรือ ลำ้ หลงั ท่ีสุด 6. การใช้คาสแลง สแลง หมำยถึง ภำษำท่ีใชพ้ ดู กนั ในหมู่เพ่ือนฝงู เฉพำะกลุ่มหน่ึง ทอ้ งถ่ินหน่ึง หรือ ชวั่ ระยะหน่ึง โดยมิไดร้ ับกำรรับรองวำ่ เหมำะสมสำหรับใชเ้ ป็นทำงกำรแมจ้ ะใชก้ นั มำกในกำร สนทนำหรือในบรรดำกลุ่มเพือ่ นฝงู กต็ ำม จุดประสงคใ์ นกำรใชภ้ ำษำสแลงกเพ่ือสื่อควำมคิดท่ีให้ ภำพชดั จุใจและแปลกใหม่ ภำษำสแลงเหมำะที่จะใชเ้ พ่อื จะใหเ้ กิดควำมขบขนั กำรกล่ำวเกินจริง ประสิทธิผลทำงกำรเลียนเสียงธรรมชำติหรือกำรผสมผสำนลกั ษณะท้งั 3 น้ี ภำษำสแลงมกั มีรูปแบบ ท่ียอ่ และประหยดั เวลำ มีคำพิเศษท่ีใชก้ ่อนในอำชีพต่ำงๆในกำร กีฬำ ในทอ้ งท่ีต่ำง ๆ ในกลุ่มต่ำง ๆ ท่ีมีควำมสนใจร่วมกนั และในโลกของอำชญำกรรม (พจนำนุกรมศพั ทว์ รรณกรรม องั กฤษ-ไทย, 2545 : 400) ผศู้ ึกษำพบกำรใชค้ ำสแลง เช่น งำนเขำ้ แวน้ ดงั ตวั อยำ่ ง กวำ่ ดลำ้ งท้งั ประเทศ อดุลย์ . . .ฮ่ึม! แวน้ ซ่ิง พอ่ แมค่ ุก (25 ตุลำคม พ.ศ. 2555)

13 ตวั อยำ่ งคำวำ่ แวน้ เป็นคำสแลง ท่ีใชเ้ รียกกลุ่มวยั รุ่นชำยท่ีข่ีรถจกั รยำนยนตใ์ นเวลำกลำงคืน สร้ำง ควำมรำคำญใหแ้ ก่ผคู้ นทอ่ี ำศยั อยใู่ นละแวกน้นั จอมอำคมงำนเขำ้ สมภำรซดั หนู กนั ภยั กกั๊ เงินวดั ? (19 ตุลำคม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นข่ำวอำจำรยผ์ มู้ ีชื่อเสียงในดำ้ นกำรสกั ยนั ตถ์ ูกกล่ำวหำวำ่ ยกั ยอ่ กเงินของวดั ผวู้ จิ ยั พบคำสแลงคือคำวำ่ งำนเขำ้ เป็นคำสแลงที่หมำยถึง เกิดเรื่องหรือมีเร่ือง ใน ท่ี น้ีหมำยถึงอำจำรยห์ นูมีเรื่องเกี่ยวกบกั ำรถูกกล่ำวหำวำ่ ยกั ยอ่ กเงินวดั มำเป็นของตน และคำวำ่ กกั๊ แปลวำ่ ไม่อยำกเลือกหรือเกบ็ เอำไวเ้ ผอ่ื เลือก ในที่ น้ีหมำยถึงกำรที่อำจำรยห์ นูเอำเงินวดั มำเป็นของ ตน ‘ไซ’ ควำ่ จสั ติน บีเบอร์ กงั นมั สไตล์ แรงไดอ้ ีก ถล่มยทู ูป 815 ลำ้ นววิ (26 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งคำวำ่ ควำ่ เป็นคำสแลงท่ีหมำยถึง กำรเอำชนะอีกฝ่ ำยหน่ึงได้ ในที่ น้ีตำมข่ำวเป็นข่ำวนกั ร้องชำวเกำหลีท่ีมียอ่ ดผเู้ ขำ้ ชมมิวสิกวดี ีโอในเวบ็ ไซต์ ยทู ูปดอทคอม มำกกวำ่ นกั ร้องจำกประเทศแคนำดำซ่ึงเคยเป็นท่ีหน่ึงสำหรับมิวสิควดิ ีโอท่ีมีผเู้ ขำ้ ชมมำกที่สุด คำวำ่ ควำ่ ในท่ี น้ีจึงหมำยถึงกำรเอำชนะหรือลม้ ผทู้ ่ีเคยเป็นที่หน่ึง ไทยผลิต ไวอำกร้ำ ผชู้ ำยล้ลั ลำ เมด็ ละ 25

14 ฟ้ื นเซ็กส์ (6 กนั ยำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งคำวำ่ ผชู้ ำยล้ลั ลำ เป็นคำสแลงท่ีหมำยถึง ผชู้ ำยรักสนุก ในบริบท ของข่ำวในที่ น้ีจะหมำยถึงรักสนุกเรื่องกำรมีเพศสัมพนั ธ์ เพรำะเน้ือหำขำ่ วกล่ำวถึงยำไวอำกร้ำท่ีใช้ กินเพอื่ ช่วยในกำรเพิ่มสมรรถภำพทำงเพศ 7. การใช้คาคล้องจอง คาคล้องจอง หมายถงึ กำรใชค้ ำท่ีมีเสียงรับสัมผสั กนั ท้งั สระและ พยญั ชนะ (บรรทดั ฐำนภำษำไทย เล่ม 4, 2552 : 88) สมั ผสั สระหมำยถึงคำสองคำท่ีอยใู่ กลก้ นั มี เสียงสระเดียวกนั และเสียงพยญั ชนะทำ้ ยเดียวกนั สวนสัมผสั อกั ษรหมำยถึงคำที่มีเสียงพยญั ชนะตน้ เดียวกนั กำรใชค้ ำคลอ้ งจองน้ีจะทำใหเ้ กิดจงั หวะ เป็นวธิ ีกำรสร้ำงควำมน่ำสนใจ ควำมสนุกสนำน ใหแ้ ก่ผอู้ ่ำน และยงั ทำใหผ้ อู้ ่ำนจดจำข่ำวน้นั ไดง้ ่ำยข้ึนอีกดว้ ย ดงั ตวั อยำ่ ง เพชร 3 กะรัต + หวั ใจ เจำ้ สวั บุญชยั หวำ่ นใส่ หม้นั สำวตกั๊ (20 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นคำคลอ้ งจองดว้ ยกำรสัมผสั เสียงสระใอ และมีเสียงพยญั ชนะ ทำ้ ยคือเสียง ย ไดแ้ ก่คำวำ่ ใจ ชยั และ ใส่ พน้ คุก บุกปล้ำ ซ้ำอีก หนุ่มล่ำสวำ่ ท นำงในฝัน แม่เฒ่ำ 72 (29 ตุลำคม พ.ศ. 2555)

15 ตวั อยำ่ งเป็นคำคลอ้ งจองดว้ ยกำรสัมผสั สระอุ และมีเสียงพยญั ชนะทำ้ ย เดียวกนั คือเสียง ก ไดแ้ ก่ คำวำ่ คุก กบั บุก และสมั ผสั สระอำ คือคำวำ่ ปล้ำ กบั ซ้ำ นึกวำ่ ซวย หวยเหลือบำน รวยไม่รู้ตวั รำงวลั ที่ 1 8 คู่ 42 ลำ้ น (22 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นคำคลอ้ งจองดว้ ยกำรสมั ผสั เสียงสระอวั และมีเสียงพยญั ชนะ ทำ้ ยเดียวกนั คือเสียง ย ไดแ้ ก่ คำวำ่ ซวย หวย และรวย และกำรสมั ผสั พยญั ชนะคือเสียง ร ไดแ้ ก่คำวำ่ รวย รู้ และรำงวลั ขำ้ รำชกำรเฮ! ฝนมำฟ้ำรั่ว รถติดรึ รัฐบำลป๊ิ งใหเ้ ลิกงำน (26 กนั ยำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นคำคลอ้ งจองดว้ ยกำรสมั ผสั สระอำ คือคำวำ่ มำ กบั ฟ้ำ และ กำรสมั ผสั พยญั ชนะเสียง ร ไดแ้ ก่คำวำ่ รัว รถ และรฐั บำล เจำ้ ของฟำร์มรันทด กวำ่ งแสบ แอบสบึมแม่ววั (22 ตุลำคม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นคำคลอ้ งจองดว้ ยกำรสมั ผสั สระคือคำวำ่ แสบ กบั แอบ

16 8. การใช้สานวน คือสาระหรือเนื้อความทถ่ี ้อยคาหรือสานวนน้ันๆ โยงถึงหรือเปรียบถงึ ซึ่งได้แก่ ลกั ษณะ นิสยั ควำมคิดและพฤติกรรมต่ำงๆ ของคนอนั มีลกั ษณะเป็น นำมธรรม รวมไปถึงเรื่องรำวเหตุกำรณ์และสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ดว้ ย (วรี ฉตั ร วรรณดี, 2556 : 79) กำร ใชส้ ำนวนในพำดหวั ขำ่ วหนงั สือพมิ พแ์ จก พบวำ่ มีใชส้ ำนวนดงั ตวั อยำ่ ง ต่อไปน้ี อศั จรรยร์ ิมโขง บ้งั ไฟพญำนำค มำตำมนดั รัวเป็ นชุด (31 ตุลำคม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นข่ำวนกั ท่องเท่ียวเดินทำงไปชมบ้งั ไฟพญำนำคเป็นจำนวนมำก ผวู้ จิ ยั พบสำนวน คือ มำตำมนดั หมำยถึงกำรเกิดข้ึนเป็นประจำอยำงที่คำดหมำยไว้ ตำมข่ำวท่ี นกั ท่องเท่ียวจำนวนมำกเดินทำงไปชมบ้งั ไฟพญำนำค สำนวน มำตำมนดั จึงหมำยถึงบ้งั ไฟพญำนำค ปรำกฏใหเ้ ห็นดงั เช่นทุกปี ท่ีเคยเป็นมำ พน้ คุกบุกปล้ำซ้ำอีก หนุ่มล่ำสวำ่ ท นำงในฝัน แม่เฒ่ำ 72 (29 ตุลำคม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นข่ำวกำรก่ออำชญำกรรมท่ีชำยหนุ่มข่มขืนหญิงชรำ ผวู้ จิ ยั พบสำนวน คือ นำงในฝัน หมำยถึงผหู้ ญิงในอุดมคติของผชู้ ำย ท่ีจินตนำกำรเอำไวว้ ำ่ คนรัก ของตนจะเป็นคนแบบที่คิดเอำไวต้ ำมข่ำวคือชำยคนหน่ึงถูกจบั หลงั จำกข่มขืนหญิงชรำมำแลว้ ถึง สองคร้ังโดยใหก้ ำรวำ่ หญิงชรำผนู้ ้นั เป็นนำงในฝันของเขำ ‘นำงนกต่อ’ รถเสีย

17 อ่อยเหยอ่ื ลงปลน้ พลเมืองดี (25 ธนั วำ่ คม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็น ข่ำวกำรหลอกผขู้ บั ข่ีรถยนตโ์ ดยมีผหู้ ญิงทำทีเป็นรถเสีย เมื่อมีพลเมืองดีจอดช่วยเหลือ หญิงผนู้ ้นั กบั พวกกลบั ปลน้ ทรัพยแ์ ลว้ หลบหนีไป สำนวนที่พบคือนำงนกต่อ หมำยถึง ผหู้ ญิงที่ทำ หนำ้ ที่หลอกลวงใหค้ นมำติดกบั ในที่น้ีหมำยถึงผหู้ ญิงท่ีทำทีเป็น รถเสียเพื่อล่อเหยอื่ ใหม้ ำติดกบั นนั่ เอง “รำตรีสวสั ด์ิกำรศึกษำไทย บำ้ นเรำ ใกลบ้ ว๊ ย ท่ี 37 จำก 40 ปท.” (29 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นข่ำวที่รำยงำนกำรจดั อนั ดบั กำรศึกษำในภูมิภำคเอเชียท่ีประเทศไทยอ่ ยอู นั ดบั ที่ 37 จำก 40 ประเทศ พบสำนวนคือ รำตรีสวสั ด์ิ หมำยถึง ลำก่อน โดยมิไดห้ มำยถึงกำรสวสั ดีก่อนนอนตำมควำมหมำย เดิม ในที่น้ีหมำยถึงลำก่อนกำรศกึ ษำไทยท่ีวนั น้ีอยใู่ นอนั ดบั เกือบร้ังทำ้ ยในภูมิภำคเอเชีย ผเู้ ฒ่ำแทก็ ซี่สิงคโปร์ หวั ใจหล่อ เกบ็ 27 ลำ้ น คืนคนไทย (21 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งขำ้ งตน้ เป็นข่ำวของคนขบั แทก็ ซี่ชำวสิงคโปร์คนหน่ึงที่เกบ็ เงินท่ี ผโู้ ดยสำรคนไทยลืมไวใ้ นรถของตอนไดจ้ ำนวน 27 ลำ้ นบำท แลว้ ส่งคืนเจำ้ ของ สำนวน หวั ใจหล่อที่วำ่ จึงหมำยถึงชำยคนขบั แทก็ ซ่ีที่มีจิตใจงดงำม ซ่ือสัตย์ ท่ีนำเงินที่พบมำคืน ถึงแมค้ นที่หนำ้ ตำไม่ดีหรือหนำ้ ตำธรรมดำอยำงลุงคนขบั แทก็ ซี่กส็ ำมำรถเป็นคนดีได้

18 จึงเป็นท่ีมำของสำนวน หวั ใจหล่อนนั่ เอง 9. การใช้คาจินตภาพ “จนิ ตภาพ” ตรงกบั ภาษาองั กฤษว่า Imagery หมายถึง กำรใชค้ ำศพั ทพ์ ิเศษ ซ่ึงในที่น้ีหมำยถึงกำรใชค้ ำ กำรใชค้ วำมเปรียบ และสัญลกั ษณ์ในกำรเขียนช้นั หน่ึงๆ เพื่อแทน ควำมคิด อำรมณ์ และประสบกำรณ์ทำงดำ้ นควำมรู้สึก อนั ก่อใหเ้ กิดภำพในจิต หรือขอ้ คิด (สุวฒั นำ วรรณรังษี, 2540 : 10) ดงั น้นั คำจินตภำพจึงเป็นกำรแทนควำมคิด อำรมณ์ ควำมรู้สึก เพ่ือใหผ้ อู้ ่ำนจินตนำกำรเห็นภำพ แสง สี เสียง รวมถึงกำรมีอำรมณ์ร่วมไปกบั เหตุกำรณ์ท่ีเกิดข้ึนในข่ำว ดงั ตวั อยำ่ งต่อไปน้ีไปน้ี อศั จรรยร์ ิมโขง บ้งั ไฟพญำนำค มำตำมนดั รัวเป็ นชุด (31 ตุลำคม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นกำรรำยงำนข่ำวบ้งั ไฟพญำนำคที่เกิดท่ี อ.โพนพสิ ยั จงั หวดั หนองคำยทุกปี โดยจะมี นกั ท่องเที่ยวเดินทำงไปชมบ้งั ไฟพญำนำคเป็นจำนวนมำกและในกำรเขียนพำดหวั ข่ำวน้ี ผวู้ จิ ยั พบกำรใชค้ ำจินตภำพคือคำวำ่ รัว เป็นคำกริยำซ่ึงประกอบกบั คำอื่นกลำยเป็นวลีที่วำ่ รัวเป็นชุด แสดงใหเ้ ห็นภำพของบ้งั ไฟพญำนำคที่เป็นลูกไฟลอยข้ึนมำจำกแม่น้ำโขงเป็นจำนวนมำก และคำวำ่ เป็นชุดน้นั กแ็ สดงใหเ้ ห็นถึงลูกไฟที่ลอยข้ึนมำเป็นจำนวนมำกและลอยข้ึนมำติดๆกนั ไม่ ขำดสำย กรุงเทพสะทำ้ น พำยแุ กมี ถล่มไทย พรุ่งน้ี (4 ตุลำคม พ.ศ. 2555)

19 ตวั อยำ่ งขำ้ งตน้ เป็นกำรรำยงำนข่ำวพำยทุ ี่ช่ือพำยแุ กมีท่ีกำลงั จะเคลื่อนเขำ้ สู่ประเทศไทย โดยกำรรำยงำนข่ำวไดก้ ล่ำวถึงพำยทุ ่ีกำลงั จะส่งผลถึงจงั หวดั กรุงเทพฯ โดยพบกำรใชค้ ำจินตภำพคือคำวำ่ สะทำ้ น เป็นคำกริยำท่ีแสดง ควำมเยอื กเยน็ และเสียงท่ีดงั กอง ทำ ใหผ้ อู้ ่ำนจินตนำกำรถึงพำยทุ ่ีรุนแรงท่ีก่อใหเ้ กิดควำมรู้สึกหนำวเยน็ ประกอบกบั เสียงฝนท่ีดงั สนนั่ ไปทวั่ ทอ้ งเมือง และพบคำวำ่ ถล่ม หมำยถึงกำรทำใหพ้ งั ทลำยลง ซ่ึงเนน้ ใหผ้ อู้ ่ำนเห็นยง่ิ เห็นภำพ พำยฝุ นที่กำลงั จะเขำ้ สู่ประเทศไทยวำ่ เป็นพำยทุ ี่รุนแรงมำก ในกำรกล่ำวถึงกรุงเทพฯ น้นั กเ็ ป็นกำร ส่ือสำรกบั คนกรุงเทพฯ ซ่ึงเป็นกลุ่มเป้ำหมำยของหนงั สือพิมพแ์ จกที่มีกลุ่มผรู้ ับหนงั สือพมิ พเ์ ป็นคนกรุงเทพฯ นน่ั เอง รำชประสงคล์ นั สญั ญำณ อลงั กำรปี ใหม่ เคำตด์ ำวน์ แสงสี ท้งั ยำ่ น (14 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นข่ำวกำรจดั งำนวนั ข้ึนปี ใหม่ท่ีถนนรำชประสงคซ์ ่ึงมีกำรจดั ข้ึนเป็นประจำทุกปี ในปี พ.ศ.2555 น้นั มีกำรจดั เตรียมงำนอยำ่ งยง่ิ ใหญ่ พบกำรใชค้ ำจินตภำพคือคำวำ่ อลงั กำร หมำยควำมวำ่ งำมดว้ ยเครื่องประดบั ตกแต่ง ทำใหผ้ อู้ ่ำน จินตนำกำรเห็นภำพถนนรำชประสงคท์ ี่ประดบั ตกแต่งอยำ่ งสวยงำม และยงั มีกำรใชค้ ำวำ่ แสง และ สี ทำใหเ้ ห็นภำพกำรประดบั ตกแต่งดว้ ยแสงไฟสีสนั ต่ำงๆ อยำงสวยงำมเตม็ สองขำ้ งทำงของถนน รำชประสงคอ์ ีกดว้ ย

20 ปริ่มวำ่ จะขำดใจ แม่ร่ำไห้ 2 ลูกนอ้ ย จมกน้ สระ (1 ตุลำคม พ.ศ. 2555) ตวั อยำ่ งเป็นข่ำวอุบตั ิเหตุกำรที่รำยงำนกำรเสียชีวติ ของเดก็ สองคนพีน่ อ้ งท่ีไปวำ่ ยน้ำที่สระวำ่ ยน้ำ โดยผเู้ ป็นแม่น้นั มีควำมเสียใจกบั เรื่องท่ีเกิดข้ึนเป็นอยำ่ งมำก ผวู้ จิ ยั พบกำรใชค้ ำจินตภำพคือคำวำ่ ร่ำไห้ หมำยควำมวำ่ กำรร้องไหเ้ ป็นเวลำนำน ร้องไหไ้ ม่หยดุ ทำใหผ้ อู้ ่ำนเห็นภำพควำมเศร้ำโศกเสียใจของผเู้ ป็นแม่ท่ีตอ้ งลูกไป และยงั อำจทำใหผ้ อู้ ่ำนรู้สึกถึง ควำมเสียใจน้นั ตำมไปดว้ ย กำรพำดหวั ข่ำวน้ียงั แสดงถึงกำรเล่ำข่ำวเพรำะมีกำรใส่อำรมณ์ควำมรู้สึก เขำ้ ไปในข่ำวดว้ ยเห็นไดจ้ ำกคำวำ่ ร่ำไห้ หรือวลีที่วำ่ ปร่ิมวำ่ จะขำดใจ ซ่ึงเป็นกำรใส่อำรมณ์ ควำมรู้สึกของผเู้ ขียนที่มีต่อเหตุกำรณ์น้ีเขำ้ ไปดว้ ย ซ่ึงมิไดเ้ ป็นลกั ษณะของกำรรำยงำนข่ำวทว่ั ไป ที่ จะรำยงำนถึงเหตุกำรณ์ที่เกิดข้ึนวำ่ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เม่ือไร เท่ำน้นั การใช้ภาษาในการดงึ ดูดผ้อู ่าน 1. ใชภ้ ำษำแปลกใหม่เพอ่ื ใหส้ ะดุดตำสะดุดใจและจำง่ำย โดยเฉพำะส่วนพำดหวั ข่ำว ตวั อยำ่ ง “ทกั ษิณ” กก๊ั “อภิรักษ”์ ตีกิน “จบั 2 โจ๋ มือฆ่ำหลวงพ่อดำ” “มหำชนโวย สง่ั ขรก.รับ” “มุง้ ทรท. ลุน้ แมว้ ปรับ ครม. ปลดย้”ี 2. มีกำรใชภ้ ำษำระดบั ปำกมำกที่สุด ดว้ ยเหตุผลท่ีตอ้ งเสนอข่ำวสำร เหตุกำรณ์ใหผ้ อู้ ่ำนรู้สึก ใหม่สดเสมอ ทนั ข่ำว ทนั เหตุกำรณ์ มีควำมรู้สึกเหมือนอยใู่ นเหตุกำรณ์น้นั อีกท้งั เพอ่ื ให้

21 ผอู้ ่ำนทุกระดบั เขำ้ ใจทนั ที ภำษำปำกจึงถูกนำมำใชม้ ำกเพรำะเป็นคำพ้ืนๆเขำ้ ใจชดั เจน ภำษำ ปำกไดแ้ ก่คำเฉพำะกลุ่ม คำตลำด คำคะนอง สำนวน และคำทบั ศพั ท์ ตวั อยำ่ ง ภำษำระดบั ปำก “อุม้ ลูกโดดรถไฟทบั ” “ฝนถล่มท้งั วนั เชียงใหม่ท่วม” “โผล่ไทยรับบริจำค ลทั ธิเพ้ยี น คลงั่ มนุษยต์ ่ำงดำว” “สนน่ั ลนั่ ชำวบำ้ น 185 เสียง เชือด รมต.ทุจริต” 3. ใชถ้ อ้ ยคำฟ่ ุมเฟื อย เหตุผลท่ีตอ้ งใชภ้ ำษำฟ่ ุมเฟื อยในภำษำหนงั สือพมิ พ์ เน่ืองจำกตอ้ งกำร ขยำย รำยละเอียดของข่ำวหรือเหตุกำรณ์ใหช้ ดั เจน และตอ้ งกำรใหม้ ีควำมยำว ของขอ้ ควำม พอเหมำะกบั เน้ือท่ีของกระดำษ 4. ใชถ้ อ้ ยคำกะทดั รัด ในบำงกรณีหำกพ้ืนที่หนำ้ กระดำษท่ีจะเสนอข่ำวมีจำกดั อยำ่ งเช่น ส่วนพำดหวั ข่ำวกจ็ ำเป็นตอ้ งใชภ้ ำษำท่ีส้ัน กระชบั ชดั เจน ตวั อยำ่ ง “ป๋ ำเหนำะเปิ ดใจ ทำไมไม่สวน’” “เป็นง้นั ไป แหกโผออกเสียง ‘ภทั รำ’ อำ้ งกดป่ ุมผดิ ” “ซีทีx โพลหอกำรคำ้ ทวั่ ประเทศ จ้ี รบ. แกท้ ุจริต” 5. ใชเ้ ครื่องหมำย ภำษำหนงั สือพิมพม์ ีกำรใชเ้ คร่ืองหมำยประกอบกำรเขียนมำก ท้งั เครื่องหมำยวรรคตอนและเคร่ืองหมำยอื่น ๆ ท่ีคิดข้ึนใหส้ อดคลอ้ งกบั ข่ำว โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื แบ่งขอ้ ควำม เนน้ ขอ้ ควำมสำคญั แสดงคำเฉพำะ ข้ึนหวั ขอ้ ใหม่ เป็ นตน้ 6. มีกำรใชต้ วั ยอ่ มำก กำรใชต้ วั ยอ่ ในภำษำหนงั สือพมิ พม์ ีค่อนขำ้ งมำกกวำ่ หนงั สือ ทวั่ ไป เนื่องจำกควำมจำเป็นในเร่ืองของเวลำท่ีเร่งรัด และควำมจำกดั ของพ้นื ท่ีข่ำวเมื่อผนวกกบั คำ เตม็ ของตวั ยอ่ บำงตวั ยำวมำก จึงเลือกใชต้ วั ยอ่ ประกอบกบั ตวั ยอ่ ท่ีใชส้ ำมำรถส่ือควำมไดใ้ จควำม เป็นอยำ่ งดี เพรำะเคยอ่ำนและไดย้ นิ มำก่อนบำ้ งแลว้ ตวั อยำ่ ง

22 เซียนบุก กทม. กวำ้ นซ้ือหมดหวยเมืองจนั ท์ ธ.ก.ส. จ้ีลดค่ำใชจ้ ่ำยไม่จำเป็น จดั อบรมเกษตรกรทำบญั ชี โผ ครม. โชยจำกแดนมงั กร ‘ป๋ ำมวล’ ไม่กลำ้ หกั ทรท. คุก 5 ปี อดีตเลขำ สช.คดีจดั ว้อื (ข่ำวสด) สว. นกั วชิ ำกำรแนะทบทวน พรก. (ข่ำวสด) กำรใชภ้ ำษำในหนงั สือพมิ พม์ ีลกั ษณะแตกต่ำงจำกภำษำมำตรฐำนอยบู่ ำ้ งในดำ้ นของกำรเสนอ ข่ำว โดยเฉพำะข่ำวหนำ้ หน่ึง ซ่ึงพอจะสรุปลกั ษณะสาคญั ในการใช้ภาษา ไดด้ งั น้ี 1. ใชถ้ อ้ ยคำง่ำย ๆ เรียบเรียงถอ้ ยคำกระชบั รัดกมุ สะดุดตำ 2. ใชถ้ อ้ ยคำแปลก ๆ เรียกร้องควำมสนใจ 3. ไม่เคร่งครัดกำรสะกดกำรันตแ์ ละกำรใชล้ กั ษณนำม 4. ใชเ้ ครื่องหมำยต่ำง ๆ เพือ่ เนน้ ควำมหมำยของคำ 5. นิยมใชค้ ำคะนอง ศพั ทส์ แลงและอกั ษรยอ่ 6. ใชค้ ำโดยแปลกควำมหมำย ไม่คำนึงถึงควำมหมำยเดิม 7. ใชค้ ำผดิ ควำมหมำย และใชค้ ำฟ่ ุมเฟื อย 8. ใชค้ ำโดยไม่คำนึงถึงระบบของภำษำ และหนำ้ ท่ีของคำ 9. นิยมใชค้ ำสำนวนต่ำงประเทศ 10. ไม่เคร่งครัดแบบแผนของประโยค มกั ละประธำนและคำขยำย

23 บรรณำนุกรม [1] http://www.sure.su.ac.th/xmlui/bitstream/handle/123456789/13391/fulltext.pdf?sequence=2&is Allowed=y&fbclid=IwAR1gia4thugAi9n34yXcNtx7ij_RDzLm9nhs2JxP5EqMoxV- fJ8nEIMC3dk [2] https://kingkarnk288.wordpress.com/2016/01/04/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E 0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8% B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0% B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1/?fbclid=IwA R3DUGVUp2e3KoyrMLjYTjPPjv58_NDmCf-gm3PO-4_R6neRuEoburYxiPA [3] https://prezi.com/tqrmgqx18ykr/presentation/?fbclid=IwAR1pT7B345NGvx1d9DgVw_D0Ky978 4KxEQXvUI2O86nKNlwqopWUBEdIDww

24