บทท่ี 4 นอ.ดร.นภัทร์ แก้วนาค นกั วจิ ัยแห่งชาติ การวเิ คราะห์ขอ้ มลู การวิจยั จุดเน้นคุณภาพงานวิจัย เทคนคิ วทิ ยาการวเิ คราะห์ขอ้ มลู การวิเคราะหเ์ อกสารการวิจัยเชิงคุณภาพ
จดุ เน้นคุณภาพการวิจัยแตล่ ะประเภท บทท่ี 1 1. การมี Critical Thinking “ตงั้ โจทยว์ จิ ยั ” 2. เรียบเรยี งสถานการณป์ ญั หาการวิจัย อยา่ งมีเหตุผล มีตรรกะ 3. มี Evidence/Reference/อา้ งองิ 4. กาหนด Problem statement อย่าง ชัดเจน
บทที่ 2 1. กาหนดคาสาคัญของเรอ่ื งใหค้ รบถว้ ยท่ี จะทบทวนเอกสาร 2. รวบรวมข้อมลู เอกสารมคี ุณภาพตามคา สาคญั 3. ใช้หลกั Data saturated การรวบรวม เอกสาร
คณุ ภาพของเอกสารสาหรับใช้ในการวิจยั 1. มคี วามเช่ือถอื ได้ - จากคุณภาพเอกสาร - จากแหลง่ ข้อมลู - การยนื ยันความตรง 2. มปี ริมาณเพียงพอ Data saturated 3. มีความสมสมยั (Timing) 4. มีบทสรปุ ผลการทบทวนเอกสารที่ดี
บทท่ี 3 1. มกี รอบการวิเคราะหข์ ้อมลู (เปน็ เทคนิค/ทฤษฏ/ี ระบบ) 2. มเี ทคนคิ การวิเคราะห์เอกสาร 2.1 6’C Technic 2.2 Triangulation Technic 2.3 Dialectic Process 2.4 Logical Approach 2.5 โยนิโสมนสกิ าร
บทท่ี 4 1. นาเสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมลู 2. จัดระบบความคดิ และข้อสรุป 3. มีการสังเคราะห์ขอ้ มลู 4. มีข้อค้นพบใหม่ 5. มอี งค์ความรู้ใหม่
บทท่ี 5 1. มบี ทสรปุ สาระ ความสาคญั 2. ตอบโจทย์วจิ ัยท่ีเขยี นไว้ 3. ตอบวัตถุประสงค์การวิจัย 4. มี Critical writing 5. ขอ้ เสนอแนะ ทุกระดบั
กระบวน6ก’ารCวจิ Tยั ec6h’nCic: ก:ารQวDเิ คAรTาะหข์ ้อมูล CCoonncceepptt มโนทศั นก์ ารวิเคราะห์ Communication ประเดน็ การ Contents การส่อื ความหมาย วเิ คราะห์ สาระสาคัญแตล่ ะประเด็น Conceptualization Category Classification การจัดระบบความคิด การจัดหมวดหมขู่ อ้ มูล การวิเคราะห์ จาแนกเนื้อหา
สาระสาคัญแต่ละ C 1. Concept : มโนทัศน์
2. Contents : สาระเนื้อหา
3. Classify : จาก Content ท่มี ี
4. Category : การจัดหมวดหมู่ขอ้ มลู
5. Conceptualization : การจดั กรอบระบบความคดิ
6. Communication : การอธิบายความ
2. หลกั การยืนยนั 3 เส้า : Triangulation Technic หลักการ Data A สอด คล้องกัน Data B Data C
ความหมาย : การยนื ยัน 3 เส้า “การมขี อ้ มลู การวิจัย 3 มติ ิ ทมี่ ีความสมั พนั ธ์( + - ) สอดคล้องกัน เสรมิ กัน”
ลักษณะขอ้ มลู ทนี่ ามาวิเคราะห์ 1. คน 3 คน พดู เรอ่ื งเดยี วกนั ตรงกนั 2. หลักฐาน/เอกสาร/ข้อมลู ต่างๆ 3 อยา่ ง/3 ชดุ /3 ชว่ งยืนยนั กัน 3. เทคนคิ วธิ /ี ระบบ/แบบแผน ใน 3 แบบแล้วสอดรบั กนั
3. Dialectic Process : วิภาษวิธี หลักการ Thesis : ทฤษฎยี นื Synthesis ประเดน็ ท่ี Anti - Thesis บทสรปุ วิเคราะห์ ทฤษฎแี ย้ง
ความหมาย “ การวเิ คราะห์ประเดน็ ใด ๆ แลว้ มีขอ้ มลู ใหว้ เิ คราะห์ความเหน็ ทศิ ทางท่ี แตกตา่ ง/โตแ้ ยง้ กนั แล้วสรุปผลการ สงั เคราะหไ์ ดช้ ดั เจนขึ้น ”
4. Logical Matrix : เหตผุ ลตรรกะ เปน็ การวเิ คราะห์ - ความเป็นเหตุ – ผล มิติ Input - กระบวนการเชิงระบบ 2 Process Output การ ต้นนา้ กลาง ปราย ส่งผล นา้ น้า
Logical Matrix : คุณภาพคนและงานเชงิ บูรณาการของ มจร. องค์ประกอบ ยทุ ธศ1าสตร์ บรู ณาการ 3 สรปุ นโย2บาย บริหาร คน คน - คน - คน - บรหิ าร คนท้งั หมด ยุทธศาสตร์ นโยบาย งาน งาน นโยบาย งานบรหิ าร งานท้งั มวล ยทุ ธศาสตร์ ระบบ ระบบ ระบบ ระบบ ระบบทง้ั มวล ยุทธศาสตร์ นโยบาย งานบรหิ าร
สรปุ : การวิเคราะห์ Logical Matrix 1. กาหนดปัจจัยการวิเคราะห์ที่ตอ้ งนามา สัมพันธ์กัน 2. กาหนดสาระสาคัญแตล่ ะค่คู วามสัมพนั ธ์ 3. วิเคราะห์ความสมั พันธเ์ ชงิ เหตุผล ท้งั แนวนอน/ตั้ง 4. สรุปผลการวเิ คราะห์และสังเคราะหข์ อ้ มูล แตล่ ะแถว
5.หลักการวิเคราะหข์ อ้ มูลเอกสาร : โยนิโสมนสิการ เชน่ วิเคราะห์แบบ วเิ คราะหจ์ าแนก วิเคราะห์ สบื สวนเหตุปัจจยั สว่ นประกอบ เหต-ุ ผล ประเด็นท่ี วิเคราะหแ์ บบ วิเคราะห์คุณคา่ วิเคราะห์ อริยสจั 4 วิเคราะห์ ความสัมพันธ์
วธิ วี เิ คราะห์ 1. กาหนดประเด็นข้อมูลทจี่ ะวเิ คราะห์ 2. กาหนดแบบ/กรอบวธิ ีการวิเคราะห์ จากโยนิโสมนสิการ 3. ใชเ้ ทคนิคเดยี วหรอื หลายวธิ กี ็ได้
6. การวเิ คราะห์ Context และ Conclusion หลักการ Concept 1 Content Conclusion บทสรุปอยใู่ น Contextual ขอบข่ายของ Conceptualize Communication บริบท
2 บทสรุป บริบท บทสรุปเป็นใจกลางหรือแก่นกลางของขอ้ มูลการวจิ ยั
3 บรบิ ท บทสรุป บทสรุปมีความสัมพนั ธบ์ างส่วนกับบรบิ ท
7. หลกั Data Saturated : ข้อมลู อิม่ ตวั หรอื Data maturity เปน็ การสืบคน้ และวเิ คราะหข์ อ้ มลู จนขอ้ มลู นง่ิ /อิม่ ตัว หรอื คงเส้นคงวาแล้ว
การตรวจสอบ Data Maturity : คอื ข้อมูลน่งิ ที่ปรมิ าณที่ ไม่เกดิ ประเดน็ เชื่อถอื ได้ การวเิ คราะหใ์ หม่ บง่ บอกถึง ขอ้ มูลยนื กนั ความพอเพียง แบบ 3 เสา้
สรปุ การวิเคราะห์เน้ือหา : เอกสาร 1. รวบรวมเอกสารให้มีคณุ ภาพเช่อื ถอื ได้ 2. รวบรวมเอกสารให้เพียงพอในเชงิ ปรมิ าณ 3. จดั ระบบเอกสารให้เป็นหมวดหมู่ 4. กาหนดกรอบการวิเคราะหเ์ น้ือหา เอกสาร
5. เลอื กเทคนิคการวิเคราะหข์ อ้ มูลเชิง คณุ ภาพ 6. ดาเนินการจดั งานเอกสารแล้วใช้ เทคนคิ การวเิ คราะห์ขอ้ มูลทเ่ี หมาะสม 7. ตรวจสอบผลการวเิ คราะห์/สรุปผล การวเิ คราะห์ 8. สงั เคราะห์ผลงานการวิจยั ท่เี ปน็ Model ของผูว้ จิ ัยเอง
ตวั อย่างการคดิ แยบยล 1. วันวิสาขบชู า...... 2. เกลอื เค็ม..... 3. ใบไมไ้ หว... 4. พระพทุ ธรปู บงั พระพุทธเจา้ .... 5. พระอาทติ ย์ข้นึ – ตก..... 6. ฆ่าคนเปน็ มนุษย์ : ฆา่ มนุษยเ์ ป็นอรหันต.์ ..... 7. แม่กบั ลูก (3ขวบ) ไหว้ศาลพระภูมิ..... 8. ร้อยพอ่ พันแม่..... 9. พ่ี 4 คน นอ้ ง 3 คน รวม 5 คน..... 10. “หลบั ไมฝ่ นั ฉันไมอ่ ม่ิ ” เป็นอริยบุคคล..... 11. นาฬกิ า ราคาแพง/ถูก
วธิ ีวทิ ยาการวเิ คราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ Dialectic Narrative Deeply Analysis Analysis Analysis Discourse Contextualized Context Analysis Analysis Descriptiv e Analysis
การตคี วามมายข้อมูล (Interpretation Technic) 1. กระบวนการวเิ คราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ แปลความ ตีความ 1 2 สื่อ4ความ อธิบาย3ความ
2. ต้องรู้อะไร : 8 อย่างในการวเิ คราะห์ข้อมูล Phenomenology Human different Social Dynamic Hidden Agenda 8 รู้ Contextualize การวเิ คราะห์ Social Symbolic Social Value Cultural Effect
สรุป : Qualitative. Design & Analysis Inductive Approach...... Alternative Paradigm.... Holistic Data Research.... Context Meaning..... Case study Focus..... Flexibility Design.... Emergent Design....
Multi – Instruments.... Natural Research Design.... Phenomenological Approach... Ethnodermographic Design.... Grounded Theory Approach... Focus Group Technic.... Dialectic Process. Technic.... Proposition Theory.....
Workshop Research.... In depth Interview...... Observation Research. Technic.... Participation Observation Res..... Participation Action Res..... P. Rural Assessment : PRA.... Data Interpreting.... Hypothesis Draft.....
Hypothesis tasting..... Data Saturated...... Snowball Sampling..... Triangulation Technic.... Knowledge Ontology.... Knowledge Epistemology.... Discourse Methodology... Key Informant... Thearithccal Note....
บทสรปุ เทคนคิ วิทยาการวิเคราะห์ข้อมลู เชิงคณุ ภาพ 1. ข้อมูลเชงิ เน้อื หาหรอื เชงิ คุณภาพนบั ความถ่ไี ด้ แตต่ อ้ ง นามาสงั เคราะห์ ความหมายและความเป็นเหตุผลดว้ ย 2. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู เชิงเน้อื หา ตอ้ งมีเทคนคิ วทิ ยาการ วิเคราะห์ ไมส่ ามารถมขี อ้ สรปุ โดยไม่มกี ระบวนการได้มา ซ่งึ บทสรปุ 3. ตอ้ งนาเสนอกระบวนการเปลี่ยนจาก Data ให้เป็น Conceptualize ไดช้ ดั เจน 4. ขอ้ มูลและบทสรุปเชงิ คณุ ภาพสามารถเสรมิ เติมเตม็ ได้ ดว้ ยเทคนิควิธีการวจิ ัยเชิงปริมาณ
การวเิ คราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ 1. หลกั การวเิ คราะห์เชิงปริมาณ 2. หลกั การใชส้ ถิติวเิ คราะห์ 3. หลกั การใชเ้ ทคนิคการวเิ คราะห์ 4. คุณค่าของการวเิ คราะห์เชิงปริมาณ
หลกั การวเิ คราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ 1. ใชว้ ตั ถุประสงคก์ ารวจิ ยั เป็นหลกั 2. ดู ปัญหาการวจิ ยั เป็นตวั ต้งั 3. ดู สมมุติฐานการวิจยั เป็นเกณฑ์ 4. ใชส้ ถิติการวจิ ยั และเทคนิคการ วิเคราะห์ ถูกตอ้ ง/เหมาะสม
หลกั การใช้สถติ ิวเิ คราะห์ 1.สถติ บิ รรยาย (Descriptive Stat) 1.1 อธิบาย ลกั ษณะขอ้ มูลที่วจิ ยั 1.2 จดั กลุ่ม ขอ้ มูลการวจิ ยั 1.3 ใหค้ ุณคา่ และความหมายขอ้ มูล
Example 1. การนับความถี่ / ระบุจานวน (f) 2. การหาค่ากลาง / ค่าแนวโน้ม (Md/Mo) 3. การหาค่าเฉลย่ี กลุ่มตวั อย่าง หรือ ค่ากลาง/กล่มุ ประชากร ( X/µ) 4. การอธิบาย การกระจายของข้อมูล (S.D)
2.สถติ อิ า้ งองิ (Inferential Stat) 2.1 อา้ งอิง เชิงการเปรียบเทียบ ค่ากลาง ของขอ้ มูล 2.2 อา้ งอิง เชิงการเปรียบเทียบ ความ เหมือน/ความต่างของกลุ่ม ขอ้ มูล 2.3 อา้ งอิง ความสอดคลอ้ ง / ความสมั พนั ธ์ ของชุดขอ้ มูล หรือ ตวั แปรท่ีสนใจ
3.สถติ ขิ น้ั สงู (Advance Stat) 3.1 เพ่ือศึกษาสารวจ ความเป็ นกล่มุ /ชุด ข้อมูล ด้วย สถติ ิ 3.2 เพื่อจดั กลุ่มข้อมูล และระบุ ความเข้มข้นของกล่มุ 3.3 เพื่อยืนยนั ความสัมพนั ธ์ความสอดคล้องและความ เป็ นเหตุเป็ นผลของตวั แปร
Example : สถติ อิ า้ งองิ เชน่ 1. การเปรียบค่าเฉลย่ี ความคดิ เห็น/คะแนนทดสอบด้วย t-test / Z-test 2. การเปรียบเทยี บค่าเฉลยี่ ระหว่างกล่มุ ประชากรของชุดตวั แปร ข้อมูลทสี่ นใจ 3. การทดสอบ ไคสแควร์ เป็ นการทดสอบเปรียบเทยี บข้อมูลทเี่ ป็ น ความถ/ี่ สัดส่วน หรือข้อมูล หมวดหมู่ (มาก/น้อย) 4. การทดสอบความสัมพนั ธ์ระหว่างตวั แปรทสี่ นใจ 5. การทดสอบความเป็ นเอกภาพ หรือความเป็ นกล่มุ เดยี วกนั หรือ คล้ายกนั ของชุดข้อมูล
Example : สถติ ขิ น้ั สงู เชน่ 1. Path Analysis (Wright Analysis) : การวเิ คราะห์เส้นทาง - หาค่า สัมประสิทธ์ิ เส้นทางทอ่ี ธิบายอทิ ธิพลระหว่างตวั แปร เช่น.. จิตวทิ ยามีอิทธิพลต่อ พฤติกรรมมนุษยอ์ ยา่ งไร
ตวั แบบสมการเสน้ ทาง Y X1 X4 X2 X5 X3
2. Factor Analysis (Charls Speaman, 1904) : การ วเิ คราะห์องค์ประกอบ - การจัดกลุ่มตวั แปรทสี่ ัมพนั ธ์กนั ไว้ในกล่มุ เดียวกนั - เป็ นการตรวจแบบจาลองทางคณิตศาสตร์ อธิบาย ระดับความสัมพนั ธ์ตัวแปร
Search