5104161 การนำความร้อนของวัสดุ

P แผนการจัดการเรียนรู้รายชั่วโมงวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาช้นั ปีท่ี 5 ครผู สู้ อน นายยุทธนา ว่องทพิ ากรหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรื่อง สมบตั ิของวัสดุในชีวติ ประจาวัน ครูผ้สู อน ……………………………………..แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 เรอื่ ง การนาความร้อนของวัสดุชั้น ป.5/1 วันที่ ........................................ คาบท.ี่ ......... ชั้น ป.5/3 วนั ท่ี ........................................ คาบท.่ี .........ชั้น ป.5/2 วันที่ ........................................ คาบที.่ ......... เวลา 2 ชว่ั โมง ภาคเรยี นท่ี 1/25611. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสาร ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสมบตั ขิ องสารกับโครงสร้างและแรงยดึ เหน่ยี วระหวา่ งอนภุ าค มีกระบวนการสืบเสาะหาความรแู้ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ สอ่ื สารสิง่ ท่เี รียนรู้ และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ตัวช้ีวัด สิง่ ทน่ี ักเรยี นตอ้ งรู้ สงิ่ นักเรยี นตอ้ งปฏิบัติว 3.1 ป.5/1 ทดลองและ สมบัติของวัสดชุ นดิ ต่าง ๆ 1. สบื คน้ ความหมายและสมบตั เิ กยี่ วกบั การนาความร้อนของวัสดุอธบิ ายสมบตั ิของวสั ดชุ นดิ เก่ียวกับความยดื หยุ่น ชนิดตา่ ง ๆต่าง ๆ เก่ยี วกบั ความ ความแข็ง ความเหนยี ว 2. ทดลอง เปรียบเทียบ และระบสุ มบตั เิ กีย่ วกบั การนาความร้อนยืดหย่นุ ความแขง็ ความ การนาความรอ้ น การนา ของวัสดชุ นดิ ตา่ ง ๆเหนียว การนาความรอ้ น ไฟฟา้ และความหนาแน่น 3. อธบิ ายสมบตั ิเกยี่ วกบั การนาความรอ้ นของวัสดชุ นิดตา่ ง ๆการนาไฟฟ้า และความ 4. รายงานแสดงสมบตั เิ กี่ยวกับการนาความร้อนของวัสดุชนิดตา่ ง ๆหนาแนน่ 5. ใบกิจกรรมกลุ่ม 6. กิจกรรมที่ 1.4 ในชดุ กิจกรรมการพัฒนาการเรยี นรู้ วิชา วทิ ยาศาสตร์ ป.5 ของ พว.ว 3.1 ป.5/2 สืบค้นข้อมลู การนาวัสดไุ ปใชใ้ น 1. สบื คน้ ข้อมลู การนาสมบตั เิ ก่ียวกบั การนาความรอ้ นของวัสดุชนดิและอภปิ รายการนาวสั ดุ ชวี ติ ประจาวัน ตา่ ง ๆไปใช้ในชีวิตประจาวันไปใช้ในชีวิตประจาวัน 2. อภิปรายการนาสมบตั เิ กย่ี วกับการนาความร้อนของวสั ดุชนดิ ต่าง ๆ ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั มาตรฐาน ว 8.1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจติ วิทยาศาสตรใ์ นการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปญั หา รู้วา่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ีเ่ กดิ ขนึ้ ส่วนใหญ่มรี ูปแบบท่แี นน่ อน สามารถอธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมลู และเคร่ืองมือท่ีมอี ยใู่ นชว่ งเวลาน้นั ๆ เขา้ ใจว่าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดลอ้ มมีความเกย่ี วขอ้ งสมั พนั ธก์ ัน ตวั ช้วี ัด สงิ่ ทีน่ ักเรยี นต้องรู้ ส่งิ นกั เรียนต้องปฏิบัติว 8.1 ป.5/1 ต้งั คาถาม เกีย่ วกับประเดน็ หรอื ตั้งคาถามเกยี่ วกบั สมบตั ิเก่ยี วกับการนาความรอ้ น ตงั้ คาถามเรือ่ ง หรอื สถานการณท์ จ่ี ะศึกษา ตามที่ ของวสั ดชุ นดิ ต่าง ๆกาหนดให้และตามความสนใจว 8.1 ป.5/2 วางแผน การสังเกต เสนอการ วางแผนการสงั เกตเก่ียวกับสมบตั ิเกี่ยวกับการนา วางแผนการสงั เกตสารวจตรวจสอบ หรือศกึ ษาคน้ ควา้ และ ความรอ้ นของวัสดชุ นิดตา่ ง ๆคาดการณ์สิ่งที่จะพบจากการสารวจตรวจสอบ

ตัวชวี้ ดั สงิ่ ทน่ี กั เรียนต้องรู้ ส่งิ นักเรยี นต้องปฏบิ ตั ิว 8.1 ป.5/3 เลือกอปุ กรณ์ทถี่ กู ตอ้ งเหมาะสมใน เลือกอปุ กรณ์ท่ีถกู ต้องเหมาะสมในการสารวจ เลือกอปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการการสารวจ ตรวจสอบใหไ้ ดข้ ้อมูลท่ีเช่อื ถือได้ ตรวจสอบเก่ยี วกบั สมบตั ิเกยี่ วกับการนาความร้อน ทดลอง ของวสั ดชุ นิดต่าง ๆว 8.1 ป.5/4 บันทกึ ข้อมูลในเชงิ ปรมิ าณและ บนั ทกึ ข้อมูลในเชงิ ปริมาณและคณุ ภาพ เกี่ยวกบั บันทึกข้อมูลคุณภาพ และตรวจสอบผลกับสิ่งทคี่ าดการณ์ไว้ สมบตั เิ ก่ียวกบั การนาความร้อนของวสั ดชุ นิดตา่ ง ๆนาเสนอผลและขอ้ สรุปว 8.1 ป.5/5 สร้างคาถามใหมเ่ พอ่ื การสารวจ สร้างคาถามใหมเ่ พ่อื การสารวจตรวจสอบตอ่ ไป สร้างคาถามใหม่ตรวจสอบตอ่ ไป เกีย่ วกับสมบตั เิ กี่ยวกบั การนาความร้อนของวสั ดุ ชนิดต่าง ๆว 8.1 ป.5/6 แสดงความคดิ เหน็ อย่างอสิ ระ แสดงความคดิ เห็นอย่างอสิ ระเกี่ยวกบั สมบตั เิ กยี่ วกับ แสดงความคดิ เหน็อธบิ าย และสรปุ ส่ิงทไี่ ด้ เรยี นรู้ การนาความรอ้ นของวัสดชุ นิดตา่ ง ๆว 8.1 ป.5/7 บนั ทกึ และอธิบายผลการสารวจ บันทกึ และอธิบายผล เกย่ี วกบั สมบตั ิเก่ยี วกบั การนา บนั ทึกและอธิบายผลตรวจสอบตามความเปน็ จรงิ มีการอา้ งอิง ความรอ้ นของวสั ดุชนิดต่าง ๆว 8.1 ป.5/8 นาเสนอ จัดแสดง ผลงาน โดย นาเสนอผล เกีย่ วกบั สมบตั ิเก่ียวกบั การนาความร้อน นาเสนอผลการทดลองอธิบายด้วยวาจา หรือเขียนอธบิ ายแสดง ของวสั ดชุ นดิ ต่าง ๆ สารวจ และสรปุ ผลการกระบวนการและผลของงานใหผ้ ้อู น่ื เข้าใจ ทดลอง2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ู่ตวั ชว้ี ดั 2.1. ทดลองและสรุปผลการทดลองเกีย่ วกบั การนาความร้อนของวัสดุชนดิ ตา่ ง ๆ ได้ (P) 2.2. บอกไดว้ า่ การนาความร้อนเป็นสมบัตหิ นึ่งของวสั ดุได้ (K) 2.3. อธิบายวา่ วัสดตุ า่ งชนดิ กนั สามารถนาความร้อนได้แตกตา่ งกนั ได้ (K) 2.4. เป็นคนชา่ งสงั เกต ชา่ งคดิ ช่างสงสยั และเป็นผทู้ มี่ คี วามกระตอื รอื ร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A)3. สาระสาคญั การนาความรอ้ นของวสั ดุ หมายถึง ความสามารถของวัสดใุ นการส่งผา่ นความร้อนจากทห่ี น่ึงไปยงั อกี ที่หน่ึงได้ การ นาความร้อนจะเกิดขึน้ ได้ดใี นของแขง็4. สาระการเรียนรู้ สมบตั ิของวสั ดุ (การนาความร้อนของวสั ดุ)5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ชี้วัดที่ 4.1 ต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ ตัวชีว้ ัดที่ 4.2 แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรูต้ ่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อยา่ งเหมาะสมบันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเปน็ องค์ความรู้ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้6. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 6.1. ความสามารถในการสอื่ สาร การอธบิ าย การเขยี นบนั ทกึ การพดู หนา้ ช้นั เรยี น 6.2. ความสามารถในการคดิ การสังเกต การคดิ วิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การจดั ระบบความคดิ เปน็ แผนภาพ การสรา้ งคาอธบิ าย การอภิปราย การส่ือความหมาย การทากิจกรรมทดลองโดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 6.3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา การแก้ปญั หาขณะปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการทดลอง 6.4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ การแสวงหาความรูเ้ พ่มิ เตมิ เกย่ี วกับการนาสมบตั ดิ า้ นความแข็งของวัสดุไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน 6.5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การสบื ค้นข้อมลู และการนาเสนอ

7. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)7.1. สมุดภาพ ตัวนาความร้อนกับฉนวนความร้อน7.2. ใบกจิ กรรมกลมุ่7.3. นาเสนอผลงานจากใบกิจกรรมกลมุ่7.4. กจิ กรรมที่ 1.4 ในชุดกจิ กรรมการพัฒนาการเรยี นรู้ วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ป.5 ของ พว.8. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้8.1. Step 1 ช้นั รวบรวมข้อมูล (Learning to Question : Q)8.1.1. นักเรียนสงั เกตการนาความรอ้ นของวสั ดุ แล้วครรู ะบคุ าถามสาคญั ดงั น้ี8.1.1.1. พลาสติกกบั โลหะ สงิ่ ใดเป็นวสั ดทุ นี่ าความรอ้ น (โลหะ)8.1.1.2. การนาความรอ้ นของวสั ดุ หมายถงึ อะไร (การนาความรอ้ นของวัสดุ หมายถงึ ความสามารถของวสั ดใุ น การสง่ ผ่านความร้อนจากท่ีหน่ึงไปยังอกี ที่หนึ่งได้ การนาความรอ้ นจะเกิดข้ึนได้ดใี นของแข็ง)8.1.1.3. วัสดุบางอย่างร้อนงา่ ย บางอยา่ งรอ้ นยาก วสั ดแุ ตล่ ะชนิดส่งผ่านความร้อนไดเ้ ทา่ กนั หรือไม่ (ไมเ่ ท่ากนั ข้ึนกับ ชนดิ ของวสั ดุ วสั ดุบางชนดิ นาความร้อนไดเ้ ร็ว วสั ดบุ างชนิดนาความรอ้ นไดช้ า้ วัสดุบางชนดิ ไมน่ าความ รอ้ น)8.1.2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มศกึ ษา อา่ นวธิ ีทารว่ มกนั อภปิ รายก่อนทากจิ กรรม ทากิจกรรม และบันทกึ ผล8.2. Step 2 ขนั้ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Learning to Search : S) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ ราย และสรปุ ความรู้เกี่ยวกบั การนาความรอ้ นของวัสดชุ นิดตา่ ง ๆ8.3. Step 3 ข้ันปฏบิ ตั ิและสรุปความร้หู ลงั การปฏบิ ัติ (Learning to Construct : C ) นักเรยี นเขียนสมุดภาพการนาความรอ้ นของวัสดชุ นิดตา่ ง ๆ แลว้ ออกแบบวธิ นี าเสนอ8.4. Step 4 ขั้นสอ่ื สารและนาเสนอ (Learning to Communicate : C) ผแู้ ทนกลุม่ นาเสนอ โดยใช้สมดุ ภาพการนาความรอ้ นของวัสดชุ นดิ ตา่ ง ๆ พร้อมอธบิ ายประกอบหนา้ ช้นั เรียน8.5. Step 5 ขัน้ ประเมนิ เพ่อื เพ่ิมคณุ คา่ บรกิ ารสังคม และจติ สาธารณะ (Serve : S)8.5.1. นกั เรยี นแตล่ ะคนเลอื กประดษิ ฐก์ ารนาความร้อนของวัสดชุ นิดต่าง ๆที่สนใจ และลองทาการทดลองเหมือนกับกิจกรรมดงั กล่าว บนั ทกึ ผล พรอ้ มเขียนภาพรายงานพอสังเขป8.5.2. นกั เรยี นนาเสนอผลการศึกษา พรอ้ มสะทอ้ นแนวคิดร่วมกนั9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้9.1. ช้อนโลหะ 1 คัน9.2. ตะเกียบไม้ 1 อนั9.3. ตะเกียบพลาสตกิ 1 อัน9.4. แท่งแก้ว 1 อัน9.5. เทียนไข 1 เล่ม9.6. ไมข้ ีดไฟ 1 กลัก9.7. แก้วน้า 1 ใบ9.8. นา้ รอ้ นจดั9.9. ใบงาน เร่ือง การถา่ ยโอนความร้อนของวสั ดุ9.10.แหล่งเรยี นรู้ภายในและภายนอกชนั้ เรยี น

10. การประเมนิ ผลการเรียนรู้วธิ กี ารวัดและการประเมิน เคร่ืองมือวดั และประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน นักเรียนได้ระดับคณุ ภาพ 2 ข้ึนไป1. ตรวจจากใบกิจกรรมใน 1. กจิ กรรมที่ 1.4 ในชุดกจิ กรรมการพฒั นาการเรียนรู้ ของเกณฑ์ประเมนิ ดา้ นความรู้ นักเรยี นได้ระดับคณุ ภาพ 2 ขนึ้ ไป หนงั สอื เรยี น (K) วชิ าวิทยาศาสตร์ ป.5 ของ พว. ของสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น2. ตรวจผลงานจากใบ 2. ใบกิจกรรมกลุ่ม นักเรยี นได้ระดับคณุ ภาพ 2 ขึ้นไป ของคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ กิจกรรมกลุ่ม (P) 3. รายงานแสดงสมบตั ิเกย่ี วกับการนาความร้อนของวัสดุ ชนิดตา่ ง ๆ3. สังเกตพฤติกรรมขณะทา 4. แบบประเมินทกั ษะการทดลอง การทดลอง (A) 5. การนาเสนอผลงาน11. กิจกรรมเสนอแนะ นักเรยี นทากิจกรรมการทดลองต่อไปน้ี ไม้ พลาสติก แกว้ โลหะ กิจกรรม เรือ่ ง การนาความร้อนของวัสดุวสั ดุอปุ กรณ์1. บกี เกอรข์ นาด 600 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร 1 ใบ2. น้าร้อน 450 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร3. เนย 4 กอ้ น4. วัสดชุ นดิ ต่าง ๆ ที่ตอ้ งการนามาทดสอบ ไดแ้ ก่ แทง่ ไม้ แทง่ พลาสตกิแท่งแก้ว และแท่งโลหะ ที่มลี กั ษณะและขนาดเท่ากัน อย่างละ 1 แทง่วธิ ีทา1. ใหน้ ักเรยี นนาเนยขนาด 1 × 1 เซนตเิ มตร จานวน 4 ก้อน มาติดท่ปี ลาย แทง่ วสั ดแุ ตล่ ะชนิดที่ระดับความสงู ท่ีเทา่ กัน การทดลองการนาความร้อนของวัสดุ2. ใหน้ ักเรียนนาแท่งวัสดุท้งั หมดใสล่ งไปในบีกเกอร์ ขนาด 600 ลกู บาศก์เซนติเมตร ท่บี รรจนุ า้ ร้อนปรมิ าตร 450 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร สังเกตการเปลยี่ นแปลง บันทึกผลคาถามก่อนทากจิ กรรมให้นักเรียนเขยี นเคร่ืองหมาย  ลงใน  หน้าคาตอบที่ถกู ตอ้ งนกั เรยี นคิดวา่ วสั ดุชนดิ ใดนาความร้อนไดด้ ที ส่ี ุด ไม้  พลาสติก  แกว้  โลหะบนั ทกึ ผลการทากจิ กรรมให้นักเรียนเขยี นหมายเลข 1- 4 ลงใน  ตามลาดบั การละลายของเนยบนวัสดชุ นิดตา่ ง ๆ จากเร็วทส่ี ดุ ไปชา้ ทีส่ ุด แท่งไม้  แท่งพลาสตกิ  แท่งแกว้  แทง่ โลหะคาถามหลงั ทากจิ กรรม1. จากการทดลอง วัสดุท้งั 4 ชนิด เปน็ ตวั นาความร้อนไดด้ เี หมอื นกันหรอื ไม่ เหมอื นกนั  ไมเ่ หมือนกัน2. จากการทดลอง วัสดชุ นิดใดนาความรอ้ นได้ดที ่ีสดุ แท่งไม้  แท่งพลาสตกิ  แท่งแก้ว  แทง่ โลหะ3. เพราะเหตุใดกอ้ นเนยบนปลายแท่งวสั ดุแตล่ ะชนิดจงึ เกิดการละลายได้ กอ้ นเนยไดร้ บั ความร้อนจากอากาศ จึงเกิดการหลอมเหลว ก้อนเนยไดร้ ับความรอ้ นจากนา้ ร้อน โดยมีแท่งวสั ดุแตล่ ะชนิดเปน็ ตวั นาความร้อน4. สรุปผลการทดลองน้ไี ด้อยา่ งไร _____________________________________________________________________________________________________________________________

5. ถา้ ด้ามท่ีจบั กระทะหลุด นกั เรยี นจะแนะนาผู้ปกครองให้เลือกใช้วสั ดชุ นดิ ใดมาซอ่ มแซมเปน็ ด้ามทจ่ี ับแทน เพราะเหตใุ ด_______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________6. การที่นกั เรียนปฏบิ ัติการทดลองจนสาเรจ็ และเก็บวสั ดอุ ปุ กรณ์เขา้ ทเี่ รียบรอ้ ยแสดงถงึ การมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลักษณะอนัพึงประสงคใ์ นข้อใด รักความเปน็ ไทย  มงุ่ มน่ั ในการทางาน  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์