16. เคร่ืองหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ทางโทแยกทางเอกจากซา้ ย รูปตวั วาย ข. ทางเอกแยกทางเอกจากซา้ ย รูปตวั วาย ค. ทางโทแยกทางเอกจากขวา รูปตวั วาย ง. ทางโทแยกทางโทจากซา้ ย รูปตวั วาย 17. เคร่ืองหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ทางข้างหน้าจะเป็ นทางแยก มวี งเวยี น ข. ทางขา้ งหนา้ เป็ นทางแยก ค. ทางขา้ งหนา้ เป็ นทางแคบลง ง. ทางขา้ งหนา้ มีทางเอกตดั กนั 18. เครื่องหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ทางแคบลงดา้ นขวา ข. ทางโคง้ ซา้ ย ค. ทางแคบลงดา้ นซา้ ย ง. ทางข้างหน้าแคบลงกว่าทางทกี่ าลงั ผ่านท้งั สองด้าน
19. เครื่องหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ทางแคบลงท้งั สองดา้ น ข. ทางแคบลงดา้ นขวา ค. ทางแคบด้านซ้าย ง. ทางกวา้ งข้ึนท้งั สองดา้ น 20. เคร่ืองหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ทางแคบด้านขวา ข. ทางแคบลงท้งั สองดา้ น ค. ทางแคบลงดา้ นซา้ ย ง. ทางกวา้ งข้ึนท้งั สองดา้ น 21. เมอื่ พบเครื่องหมายนี้ ผ้ขู บั ขคี่ วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขับรถให้ช้าลง และระมดั ระวงั อนั ตรายจากรถทสี่ วนมาจากอกี ฝั่งหนึ่งของสะพาน ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ มีทางแคบลง ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ มีช่องการจราจรลดลง ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ มีทางแคบดา้ นซา้ ย
22. เครื่องหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ช่องจราจรปิ ดด้านซ้าย ข. ช่องจราจรปิ ดดา้ นขวา ค. ช่องจราจรปิ ดท้งั สองดา้ น ง. ช่องจราจรลดลงดา้ นซา้ ย 23. เครื่องหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ช่องจราจรปิ ดด้านขวา ข. ช่องจราจรปิ ดท้งั สองดา้ น ค. ช่องจราจรลดลงดา้ นซา้ ย ง. ช่องจราจรปิ ดดา้ นซา้ ย 24. เมอ่ื พบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขคี่ วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถดว้ ยความเร็วปกติ แตใ่ หร้ ะวงั รถไฟกาลงั ผา่ น ข. ขับรถให้ช้าลง และสังเกตดรู ถไฟท้งั ทางขวาและทางซ้าย ถ้ามรี ถไฟกาลงั จะผ่าน ควรหยดุ รถห่างจากทางรถไฟอย่าง น้อย 5 เมตร ค. ขบั รถอยา่ งรวดเร็ว เพราะมีรถไฟกาลงั ผา่ น ง. ขบั รถไดอ้ ยา่ งรวดเร็วเพราะไมม่ ีส่ิงกีดขวาง
25. เมอ่ื พบเคร่ืองหมายนี้ ผู้ขบั ขคี่ วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถใหช้ า้ ลง พร้อมท่ีจะหยดุ รถ ทางขา้ งหนา้ ไมม่ ีเครื่องก้นั ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง พร้อมที่จะหยดุ รถ สะพานแคบ ค. ขบั รถเร็วได้ ไมต่ อ้ งหยดุ รถ ทางขา้ มทางรถไฟไมม่ ีเครื่องก้นั ง. ขบั รถให้ช้าลงและพร้อมทจี่ ะหยดุ รถ 26. เมอื่ พบเครื่องหมายนี้ ผ้ขู บั ขค่ี วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขับรถให้ช้าลง และเพม่ิ ความระมดั ระวงั รถมขี นาดกว้างไม่เกนิ 2.50 เมตร ให้ผ่านไปได้ ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพิ่มความระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ กวา้ งเกิน 2.50 เมตร ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพมิ่ ความระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ ลอดต่ากวา่ 2.50 เมตร ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพม่ิ ความระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ สูงกวา่ 2.50 เมตร 27. เมอ่ื พบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพม่ิ ความระมดั ระวงั ทางแคบลงไมเ่ กิน 2.50 เมตร ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพมิ่ ความระมดั ระวงั ทางกวา้ งเกิน 2.50 เมตร ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพ่ิมความระมดั ระวงั ทางสูงเกิน 2.50 เมตร ง. ขับรถให้ช้าลง และเพมิ่ ความระมดั ระวงั รถทมี่ คี วามสูงไม่เกนิ 2.50 เมตรให้ผ่านไปได้
28. เมอื่ พบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถให้ช้าลง และระมดั ระวงั อนั ตรายจากรถทส่ี วนมา เพราะทางข้างหน้าเป็ นทางลาดชันทางขนึ้ เขา ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพ่มิ ความระมดั ระวงั ขบั รถดว้ ยความรวดเร็ว เพราะมีหินร่วง ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพม่ิ ความระมดั ระวงั ใหป้ ลดเกียร์ หรือดบั เครื่องทนั ทีเพ่ือความปลอดภยั ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพ่ิมความระมดั ระวงั ทางลงลาดชนั ใหใ้ ชเ้ กียร์วา่ ง 29. เครื่องหมายนี้ คอื เครื่องหมายอะไร ก. ใหป้ ลดเกียร์ หรือดบั เคร่ืองทนั ทีเพ่อื ความปลอดภยั ข. ทางลงลาดชัน ค. ทางข้ึนลาดชนั ใหใ้ ชเ้ กียร์วา่ ง ง. ขบั รถดว้ ยความรวดเร็ว 30. เมอื่ พบเครื่องหมายนี้ ผ้ขู บั ขคี่ วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขับรถให้ช้าลง เพม่ิ ความระมดั ระวงั ทางข้างหน้าขรุขระมาก เป็ นหลุม เป็ นบ่อ ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง เพ่มิ ความระมดั ระวงั ระวงั หินร่วง ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง เพม่ิ ความระมดั ระวงั ผิวทางร่วน ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง เพิม่ ความระมดั ระวงั ทางลื่น
31. เมอื่ พบเครื่องหมายนี้ ผ้ขู บั ขคี่ วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพ่มิ ความระมดั ระวงั เตือนรถกระโดด ข. ขับรถให้ช้าลง และเพมิ่ ความระมดั ระวงั ทางข้างหน้าเป็ นแอ่ง ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพมิ่ ความระมดั ระวงั ทางลงลาดชนั ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพม่ิ ความระมดั ระวงั ทางข้ึนลาดชนั 32. เมอ่ื พบเคร่ืองหมายนี้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถใหช้ า้ ลงใหม้ าก และระมดั ระวงั เป็ นพิเศษ ผิวทางร่วน ข. ขบั รถใหช้ า้ ลงใหม้ าก และระมดั ระวงั เป็ นพิเศษ ทางแคบดา้ นขวา ค. ขบั รถให้ช้าลง และระมดั ระวงั การลน่ื ไถล ทางข้างหน้าลนื่ อาจเกดิ อุบัตเิ หตุได้ง่าย ง. ขบั รถใหช้ า้ ลงใหม้ าก และระมดั ระวงั เป็ นพิเศษ ทางขา้ งหนา้ เป็นทางโคง้ 33. เมอ่ื พบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขคี่ วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขับรถให้ช้าลง และระมดั ระวงั อนั ตราย ทางข้างหน้าอาจมวี สั ดผุ วิ ทางหลดุ กระเดน็ ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ระวงั หินร่วง ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางลื่น ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางคดเค้ียว
34. เมอื่ พบเคร่ืองหมายนี้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขับรถให้ช้าลง และเพม่ิ ความระมดั ระวงั ทางข้างหน้าอาจมหี นิ ร่วงลงมาในผวิ ทาง ทาให้กดี ขวางการจราจร ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพม่ิ ความระมดั ระวงั เป็ นพเิ ศษ ทางข้ึนลาดชนั ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพม่ิ ความระมดั ระวงั เป็ นพิเศษ ทางลงลาดชนั ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเพมิ่ ความระมดั ระวงั เป็ นพเิ ศษ ทางแคบ 35. เคร่ืองหมายนี้ คอื เคร่ืองหมายอะไร ก. ผวิ ทางขรุขระ ข. สะพานเปิ ดได้ ค. เตือนรถกระโดด ง. ทางเป็ นแอง่ 36. เครื่องหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ไม่ออกทางขนาน ข. เปลย่ี นช่องเดนิ รถตามสัญลกั ษณ์ในป้ าย ค. ไม่เปล่ียนช่องทางจราจร ง. ใหอ้ อกทางขนาน
37. เมอื่ พบเคร่ืองหมายนี้ ผู้ขบั ขคี่ วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ผขู้ บั รถบนทางหลกั ใหร้ ะมดั ระวงั เตรียมตวั ออกทางหลกั ข. ผขู้ บั รถบนทางหลกั ใหร้ ะมดั ระวงั เตรียมตวั ออกทางโคง้ ซา้ ย ค. ผขู้ บั รถบนทางหลกั ใหร้ ะมดั ระวงั เตรียมตวั ออกทางโคง้ ขวา ง. ผู้ขับข่บี นทางขนานเตรียมตวั เข้าทางหลกั 38. เมอ่ื พบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขคี่ วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ผู้ขับขบ่ี นทางหลกั เตรียมตวั ออกทางขนาน ผ้ขู ับขี่บนทางขนานระวงั รถทจ่ี ะมาร่วมในทศิ ทางเดยี วกนั ข. ผขู้ บั รถในทางหลกั เตรียมเขา้ ทางคดเค้ียวเร่ิมซา้ ย ค. ผขู้ บั รถในทางหลกั เตรียมออกทางคดเค้ียวเริ่มซา้ ย ง. ขบั รถในทางหลกั เตรียมออกทางคดเค้ียวเร่ิมขวา 39. เมอ่ื พบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขับรถให้ช้าลง และระมดั ระวงั ทางข้างหน้าอาจมรี ถเข้ามาร่วมในทศิ ทางเดยี วกนั จากทางซ้าย ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ มีทางโคง้ ขวา ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ มีทางโคง้ รศั มีแคบเล้ยี วซา้ ย ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ มีทางโคง้ ซา้ ย
40. เมอ่ื พบเคร่ืองหมายนี้ ผ้ขู บั ขคี่ วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถให้ช้าลง และระมดั ระวงั ทางข้างหน้าอาจมรี ถเข้ามาร่วมในทศิ ทางเดยี วกนั จากทางขวา ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ มีทางร่วมดา้ นซา้ ย ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ มีทางคู่ขา้ งหนา้ ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั ทางขา้ งหนา้ มีทางเอกตดั กนั 41. เมอื่ พบเคร่ืองหมายนี้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถชิดไปดา้ นซา้ ยดว้ ยความระมดั ระวงั ทางแคบดา้ นซา้ ย ข. ขบั รถชิดไปดา้ นซา้ ยดว้ ยความระมดั ระวงั ทางแคบดา้ นขวา ค. ขบั รถชิดไปดา้ นซา้ ยดว้ ยความระมดั ระวงั ทางลงลาดชนั ง. ขบั รถชิดไปด้านซ้ายด้วยความระมดั ระวงั 42. เมอ่ื พบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถใหช้ า้ ลง และชิดซา้ ย เพม่ิ ความระมดั ระวงั ทางร่วมดา้ นขวา ข. ขับรถให้ช้าลง และชิดซ้าย เพมิ่ ความระมดั ระวงั ทางข้างหน้าเป็ นทางร่วมไม่มเี กาะ ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และชิดซา้ ย เพม่ิ ความระมดั ระวงั ทางคู่ขา้ งหนา้ ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และชิดซา้ ย เพิ่มความระมดั ระวงั ทางร่วมดา้ นซา้ ย
43. เมอ่ื พบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏิบตั อิ ย่างไร? ก. ทางขา้ งหนา้ หา้ มกลบั รถ ข. ทางขา้ งหนา้ จะมีทางโคง้ ซา้ ย ค. ทางข้างหน้ามที กี่ ลบั รถด้านขวา ง. ทางขา้ งหนา้ จะมที ่ีสิ้นสุดทางคู่ 44. เครื่องหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ทางข้างหน้ามที กี่ ลบั รถด้านซ้าย ข. สิ้นสุดทางคู่ ค. ทางโคง้ ซา้ ย ง. ใหเ้ ล้ียวซา้ ย 45. เมอ่ื พบเคร่ืองหมายนี้ ผ้ขู บั ขค่ี วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขับรถให้ช้าลง เดนิ รถใกล้ขอบทางด้านซ้ายและระมดั ระวงั อนั ตรายจากรถทส่ี วนทางมา ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และใหช้ ิดซา้ ย ทางขา้ งหนา้ มีทางเดินรถทางเดียว ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และใหช้ ิดซา้ ย ทางขา้ งหนา้ มีทางเดินรถทางเดียวดา้ นซา้ ย ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และใหช้ ิดซา้ ย ทางขา้ งหนา้ มีทางเดินรถทางเดียวดา้ นขวา
46. เมอ่ื พบเคร่ืองหมายนี้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถให้ช้าลง และพร้อมทจี่ ะปฏิบตั ติ ามสัญญาณไฟจราจร ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และพร้อมท่ีจะเขา้ ทางเดินรถสองทาง ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และพร้อมที่จะกลบั รถ ในทางขา้ งหนา้ ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และพร้อมท่ีจะเขา้ ทางเดินทางเดียวไปขา้ งหนา้ 47. เมอ่ื พบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ใหผ้ ขู้ บั รถเตรียมพร้อมท่ีจะเล้ยี วซา้ ยได้ ข. ขบั รถให้ช้าลงระมดั ระวงั คนข้ามทาง เพราะทางข้างหน้ามที างสาหรับคนข้าม ซ่ึงมคี นเดนิ ข้ามไปข้ามมาอยู่เสมอ ค. ใหผ้ ขู้ บั รถเตรียมพร้อมที่จะจอดรถได้ ง. หผ้ ขู้ บั รถเตรียมพร้อมที่จะใหท้ าง 48. เมอื่ พบเครื่องหมายนี้ ผ้ขู บั ขค่ี วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเตรียมพร้อมท่ีจะไปในทางเดินรถสองทาง ข. ขับรถให้ช้าลง และเตรียมพร้อมทจี่ ะให้ทางแก่รถด้านหน้าเมอ่ื ถงึ ป้ ายให้ทาง ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเตรียมพร้อมท่ีจะไปในทางเดินรถทางเดียว ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และเตรียมพร้อมที่จะกลบั รถขา้ งหนา้
49. เมอ่ื พบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขคี่ วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถใหช้ า้ ลง เพราะทางขา้ งหนา้ มีคนกาลงั ทางาน ข. ขับรถให้ช้าลง ระมดั ระวงั คนข้ามทางเพราะทางข้างหน้ามชี ุมชนซึ่งมคี นเดนิ ข้ามไปมาอยู่เสมอ ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง เพราะทางขา้ งหนา้ มีเขตโรงเรียนมีเดก็ เยอะ ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง เพราะทางขา้ งหนา้ ใหร้ ะวงั เด็กนกั เรียน 50. เมอื่ พบเคร่ืองหมายนี้ ผู้ขบั ขคี่ วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถใหช้ า้ ลง ระวงั คนขโมยของ ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง ระวงั อนั ตราย ค. ขบั รถให้ช้าลง ระวงั เดก็ นกั เรียน ถ้าเป็ นเวลาทโี่ รงเรียนกาลงั สอนควรงดใช้เสียงสัญญาณ ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง ระวงั คนขา้ มถนน 51. เมอื่ พบเครื่องหมายนี้ ผ้ขู บั ขค่ี วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถชา้ ลง และระมดั ระวงั คนขา้ มถนน ข. ขับรถช้าลง และเพมิ่ ความระมดั ระวงั ทางข้างหน้าอาจมสี ัตว์ข้ามทาง ค. ขบั รถชา้ ลง และระวงั เดก็ นกั เรียน ง. ขบั รถชา้ ลง และระวงั อนั ตราย
52. เครื่องหมายนี้ คอื เคร่ืองหมายอะไร ก. ระวงั คนขา้ มถนน ข. ระวงั เด็กนกั เรียน ค. ระวงั อนั ตราย ง. ระวงั เครื่องบนิ บนิ ตา่ 53. เมอ่ื พบเคร่ืองหมายนี้ ผู้ขบั ขคี่ วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขับรถให้ช้าลง และเพมิ่ ความระมดั ระวงั ทางข้างหน้าอาจมอี นั ตรายเช่น เกดิ อุบตั เิ หตทุ างทรุด เป็ นต้น ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั เดก็ นกั เรียนเป็นพเิ ศษ ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั สตั ว์ ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และระมดั ระวงั คนขา้ มถนนเป็ นพิเศษ 54. เคร่ืองหมายนี้ หมายความว่าอย่างไร ก. เขตห้ามแซง ข. เขตแซงได้ ค. เขตใหท้ าง ง. เขตใหห้ ยดุ รถ
55. เมอ่ื พบเคร่ืองหมายนี้ ผ้ขู บั ขคี่ วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถใหช้ า้ ลง ทางตอนน้นั ไมม่ ีการเปล่ียนแปลง ใหช้ ิดขวา ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง ทางตอนน้นั ไมม่ ีการเปลี่ยนแปลง ใหช้ ิดซา้ ย ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง ทางตอนน้นั ไมม่ ีการเปลี่ยนแปลง หา้ มแซง ง. ขบั รถให้ช้าลง 56. เคร่ืองหมายนี้ คอื เครื่องหมายอะไร ก. สลบั กนั ไป ข. ทางโคง้ กลบั เร่ิมซา้ ย ค. ทางโคง้ กลบั เร่ิมขวา ง. ทางโคง้ ซา้ ย 57. เคร่ืองหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ทางข้างหน้าเป็ นทางโค้งไปทางขวา ข. ทางขา้ งหนา้ โคง้ กลบั เริ่มขวา ค. ทางขา้ งหนา้ โคง้ ซา้ ย ง. ทางขา้ งหนา้ โคง้ รศั มีแคบเล้ียวซา้ ย
58. เมอ่ื พบเครื่องหมายนี้ ผ้ขู บั ขค่ี วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถให้ช้าลง และระมดั ระวงั ทางข้างหน้าเป็ นทางคดเคยี้ วโดยเร่ิมไปทางขวา ข. ขบั รถใหช้ า้ ลง และชิดขวา ขบั รถไปตามทางคดเค้ียวเร่ิมซา้ ย ค. ขบั รถใหช้ า้ ลง และชิดซา้ ย ขบั รถไปตามทางโคง้ กลบั รศั มีแคบเร่ิมขวา ง. ขบั รถใหช้ า้ ลง และชิดขวา ขบั รถไปตามทางโคง้ กลบั รัศมีแคบเริ่มซา้ ย
ข้อสอบใบขบั ขหี่ มวดท่ี 7 – มารยาทและจติ สานึก 1. การขับรถเข้าวงเวยี นทไ่ี ม่มสี ัญญาณไฟจราจรควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. ให้รถทางขวามอื ของเราทอ่ี ยู่ในวงเวยี นไปก่อน ข. ใหร้ ถทางซา้ ยมือของเราท่ีอยใู่ นวงเวยี นไปก่อน ค. ใหร้ ถท่ีเขา้ วงเวยี นและจะเล้ียวซา้ ยไปก่อน ง. ใหร้ ถที่เขา้ วงเวยี นและจะตรงไปใหไ้ ปก่อน 2. การขับรถเลยี้ วบริเวณทางแยกทมี่ ชี ่องจราจรมากกว่า 2 ช่องทาง ข้อใดถูกต้อง ก. เปลี่ยนช่องจราจรไปทางซา้ ยหรือขวาขณะอยใู่ นทางเล้ียว ข. ขบั คร่อมช่องจราจรเพือ่ ตีวงไดก้ วา้ งข้ึน ค. ขบั อยู่ในช่องจราจรเดมิ ต้งั แต่เร่ิมเข้าทางแยกจนเลยี้ วเสร็จสิ้น ง. ขบั ในช่องจราจรซา้ ยสุดแลว้ เปล่ียนไปช่องจราจรดา้ นขวาในขณะเล้ียว 3. ในกรณีทที่ ่านขับรถผ่านซอยทม่ี รี ถรอออกเป็ นจานวนมากควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. บีบแตรหรือใหส้ ญั ญาณไฟเตอื นรถที่จะออกจากซอยก่อนขบั ผา่ นไป ข. เปิ ดทางให้รถออกจากซอยได้บ้างสลบั กบั รถทางตรง ค. พยายามขบั ใหช้ ิดคนั หนา้ เพอ่ื ไม่ใหร้ ถในซอยแทรกออกมา ง. ขบั รถผา่ นซอยดว้ ยความเร็วเพอื่ ส่งสญั ญาณวา่ ขอไปก่อน 4. ทศั นคตแิ ละจติ สานกึ ในการขบั รถอย่างปลอดภัยของผู้ขบั รถคอื อะไร ก. ขบั รถชา้ ใจเยน็ ข. ขบั รถเก่งคลอ่ งแคลว่ ค. ขบั รถอย่างมสี ตเิ คร่งครัดวนิ ยั จราจรแสดงออกถึงมารยาทและนา้ ใจ ง. ขบั รถดีไม่เกิดอุบตั เิ หตุ 5. สิ่งใดทผ่ี ้ขู บั รถไม่ควรทาเมอ่ื ได้รับสัญญาณไฟเขยี วให้ขบั เคลอ่ื นรถไปได้ ก. ค่อยๆ เคลื่อนรถออกโดยทิ้งชว่ งห่างกบั คนั หนา้ พอสมควร ข. ชะลอใหร้ ถจกั รยานยนตห์ รือรถยนตท์ ่ีอยดู่ า้ นหนา้ เคล่ือนออกไปก่อน ค. ตรวจสอบรถในทางแยกอ่ืนที่อาจวงิ่ ออกมาก่อนที่จะขบั เขา้ สู่ทางแยกดา้ นหนา้ ง. บบี แตรเร่งรถคนั หน้าให้เคลอ่ื นตวั ออกโดยเร็ว 6. สิ่งใดทผ่ี ้ขู ับรถควรทาเมอ่ื ได้รับสัญญาณไฟเหลอื ง ก. ชะลอรถและหยดุ รถทเี่ ส้นขาวให้หยดุ รถเพอ่ื ป้ องกนั การขบั ฝ่ าสัญญาณไฟแดง ข. บีบแตรเร่งรถคนั หนา้ ใหข้ บั เร็วข้ึนเพอื่ ใหร้ ถเราไมต่ ิดสญั ญาณไฟแดง ค. ขบั เปล่ียนเลนเพอื่ แซงรถข้ึนไปใหพ้ น้ สญั ญาณไฟแดง ง. ขบั ตามคนั หนา้ ไปโดยฝ่ าสญั ญาณไฟแดง
7. สิ่งทผ่ี ู้ขบั รถควรทาเมอ่ื เห็นคนยนื บนฟตุ บาทและแสดงท่าทจี่ ะข้ามถนนตรงทางม้าลาย ก. บีบแตรเตือนคนที่จะขา้ มถนนและเร่งความเร็วผา่ นไป ข. แตะเบรกเตอื นให้รถหลงั รู้ว่าท่านกาลงั จะหยดุ รถ และหยดุ รถตรงทางม้าลาย ค. ขบั รถตามหลงั ทา้ ยคนั หนา้ อยา่ งกระช้นั ชิดโดยไม่หยดุ ใหค้ นขา้ มถนน ง. ขบั รถแซงคนั ท่ีจอดรถใหค้ นขา้ มและขบั ผา่ นไปโดยเร็ว 8. การให้สัญญาณไฟทถี่ ูกต้องเมอื่ ขบั รถเข้าสู่ทางร่วมทางแยก ก. ใหส้ ญั ญาณไฟฉุกเฉินเมื่อตอ้ งการขบั รถตรงไป ข. ใหส้ ญั ญาณไฟเฉพาะเล้ียวขวาเท่าน้นั ค. ให้สัญญาณไฟทุกคร้ังเมอ่ื ต้องการเลยี้ วซ้ายหรือขวา ง. ไมจ่ าเป็ นตอ้ งใหส้ ญั ญาณไฟเล้ียวขวาหรือซา้ ย เมื่อขบั ตามรถคนั หนา้ ท่ีใหส้ ญั ญาณไฟเล้ียวไปทางเดียวกนั 9. ใครบ้างทตี่ ้องคาดเขม็ ขดั นริ ภยั ขณะโดยสารไปในรถยนต์เพอื่ ความปลอดภยั ของชีวติ ก. คนขับรถและผ้โู ดยสารทุกคนท้งั ผ้ใู หญ่และเดก็ ทน่ี ง่ั ตอนหน้าและตอนหลงั รถ ข. คนขบั รถและผโู้ ดยสารที่นงั่ ตอนหนา้ รถเท่าน้นั ค. คนขบั รถและผโู้ ดยสารท่ีมีอายมุ ากกวา่ 12 ปี ข้นึ ไป เพราะสามารถคาดเขม็ ขดั นิรภยั ได้ ง. คนขบั รถและผโู้ ดยสาร ยกเวน้ คนแก่กบั เดก็ ที่มีอายนุ อ้ ยกวา่ 12 ปี ลงมา 10. ผู้ขบั รถควรทาอย่างไรให้แซงรถได้อย่างปลอดภัยและไม่เสียมารยาท ก. บีบแตรใหส้ ญั ญาณก่อนแซง เร่งความเร็วแซงซา้ ยหรือขวาข้ึนไปตลอดเสน้ ทางท่ีรถวง่ิ ข. ใหส้ ญั ญาณไฟก่อนแซงเร่งความเร็วแซงข้ึนไปแซงแลว้ รีบหกั กลบั เขา้ ช่องทางเดิมในระยะกระช้นั ชิดลดความเร็วลงให้ เท่ากบั รถท่ีแซงข้ึนไป ค. บีบแตรใหส้ ญั ญาณก่อนแซงเร่งความเร็วแซงข้ึนไปแซงแลว้ วง่ิ รถคู่ขนานไปกบั รถที่แซงข้ึนไปอีกระยะหน่ึง ง. ให้สัญญาณไฟก่อนแซง เร่งความเร็วแซงขนึ้ ไป เว้นระยะห่างก่อนให้สัญญาณไฟขอกลบั เข้าช่องจราจรเดมิ เร่งความเร็ว รถให้เหมาะสมกบั รถทอ่ี ยู่ด้านหน้า 11. ท่านควรทาอย่างไรเมอื่ ผู้ขบั รถคนั อน่ื ให้สัญญาณไฟขอเข้าใช้ช่องจราจรร่วมกบั ท่าน ก. ให้สัญญาณตอบรับโดยชะลอความเร็ว เว้นระยะให้รถคนั น้ันสามารถเปลยี่ นช่องจราจรเบีย่ งเข้ามาได้อย่างปลอดภยั ข. บีบแตรเตือน รีบขบั ชิดรถคนั หนา้ กนั ไมใ่ หเ้ บ่ียงแทรกเขา้ มา ค. ขบั ชิดรถคนั หนา้ พยายามเบียดไม่ใหร้ ถคนั หนา้ แทรกเขา้ มาดา้ นหนา้ รถได้ ง. เร่งความเร็วรถเป็ นระยะ ไมเ่ ปิ ดช่องวา่ งใหแ้ ทรกเขา้ มาในช่องจราจรของเราได้ 12. เมอ่ื ขบั รถในช่องจราจรขวาสุด และมรี ถด้านหลงั ขบั ขนึ้ มาด้วยความเร็วสูง ท่านควรทาอย่างไร ก. ให้สัญญาณไฟเลยี้ วซ้าย และเปลยี่ นไปยงั ช่องจราจรด้านซ้าย เพอ่ื ให้รถทม่ี คี วามเร็วสูงกว่ารถของท่านแซงขนึ้ ไปอย่าง ปลอดภัย ข. เร่งความเร็วหนีรถดา้ นหลงั พยายามขบั ทิ้งระยะใหห้ ่างจากรถคนั หลงั ค. ขบั ดว้ ยความเร็วเดิม เพือ่ ใหร้ ถดา้ นหลงั เปลี่ยนช่องจราจรไปทางซา้ ย ง. ใหส้ ญั ญาณไฟเล้ียวซา้ ย หกั หลบไปยงั ช่องจราจรซา้ ย เร่งความเร็วแข่งกบั รถในช่องจราจรขวา
13. ท่านควรทาอย่างไรเมอื่ ผ้ขู บั รถคนั อน่ื เปิ ดทางให้ท่านไปก่อนหรือเข้าร่วมใช้ช่องจราจรด้วย ก. เร่งรถออกไปโดยตดั ขา้ มไปยงั ช่องจราจรถดั ไปดว้ ย ข. กม้ หวั หรือยกมือขอบคุณ พร้อมกบั เคลื่อนรถออกไปหรือเขา้ ร่วมใชช้ ่องจราจรในลกั ษณะเร่งร้อน ค. ก้มหัวขอบคณุ พร้อมกบั เคลอ่ื นรถออกไปหรือเข้าร่วมใช้ช่องจราจรทข่ี อเข้าร่วมด้วยความระมดั ระวงั ง. ขบั รถออกไปหรือเขา้ ร่วมช่องจราจรแบบชา้ ๆ และพยายามเบียดขา้ มไปยงั ช่องจราจรถดั ไป 14. การกระทาใดของผ้ขู บั รถซึ่งเป็ นพฤตกิ รรมทไี่ ร้มารยาทและอาจก่อให้เกดิ อุบัตเิ หตุได้ ก. ขบั รถตามรถดา้ นหนา้ โดยเวน้ ระยะห่างที่เหมาะสม ข. ขบั รถจที้ ้ายรถด้านหน้าทขี่ บั ช้า พร้อมกบั บีบแตรไล่ ค. บีบแตรเตือนรถท่ีกาลงั ถอยหลงั มาชนรถของท่านซ่ึงจอดติดไฟแดงอยู่ ง. เปิ ดไฟตดั หมอกเมื่อฝนตกหนกั 15. การใช้ไฟสูงทถ่ี ูกต้องและไม่เสียมารยาท ก. เปิ ดไฟสูงเพอ่ื ตรวจสอบสภาพถนนและริมถนน เฉพาะเส้นทางทม่ี ดื มากและไม่มรี ถวงิ่ อยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมา และ ปิ ดไฟสูงทนั ทที มี่ รี ถวงิ่ อยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมา ข. เปิ ดไฟสูงแทนไฟส่องสวา่ งเม่ือวงิ่ บนถนนตา่ งจงั หวดั ท่ีไม่มีไฟฟ้ าส่องสวา่ งสองขา้ งทางและสามารถมองเห็นไฟทา้ ยรถ คนั หนา้ ค. เปิ ดไฟสูงทุกคร้ังเม่ือวง่ิ เขา้ ทางโคง้ ที่มดื มากและมีรถวงิ่ อยดู่ า้ นหนา้ หรือสวนทางมา ง. เปิ ดไฟสูงทุกคร้ังเม่ือวง่ิ บนถนนซ่ึงเป็ นทางข้ึนเนินหรือลงเนินท่ีไมม่ ีไฟฟ้ าส่องสวา่ งขา้ งทางและสามารถ มองเห็นไฟ หนา้ รถที่วง่ิ สวนทางมา 16. การกระทาใดของผ้ขู ับรถซ่ึงเป็ นการกระทาทแี่ สดงถงึ ความมมี ารยาทและนา้ ใจให้แก่ผ้ใู ช้ถนนร่วมกนั ก. ขบั รถแซงคิวแทรกเขา้ ตรงเชิงสะพานหรือก่อนเขา้ ซอย ข. ขบั รถบนไหลท่ างเพือ่ ไปแทรกเขา้ ดา้ นหนา้ ในช่องจราจรปกติ ค. กลบั รถบนถนนท่ีมีช่องจราจรสวนทางกนั ในลกั ษณะกีดขวางการจราจร ง. ไม่หยุดรถบนเส้นทแยงสีเหลอื งหรือบริเวณปากซอยและเปิ ดทางให้รถในเส้นทางอนื่ สามารถขบั ผ่านไปได้ในขณะทรี่ ถ ท่านตดิ การจราจร 17. ข้อใดเป็ นพฤตกิ รรมทถ่ี ูกต้องและแสดงมารยาททด่ี ขี องผู้ขับรถยนต์ ก. ไม่ใช่ผพู้ ิการแต่จอดรถในพ้ืนที่จอดรถของผพู้ กิ าร ข. ตอ้ งการไปทางตรงแต่ขบั รถในช่องจราจรเล้ียวซา้ ยหรือเล้ียวขวาหรือกลบั รถ ค. กลบั รถทจ่ี ุดกลบั รถทุกคร้ังแม้จะอยู่ไกล ง. จอดรถขวางรถคนั อ่ืนโดยเขา้ เกียร์และเบรกมือ 18. เมอ่ื ขบั รถเข้าเขตชุมชนทมี่ กี ารจราจรตดิ ขดั ผ้ขู บั รถควรทาอย่างไร ก. บีบแตรเพือ่ เร่งรถคนั หนา้ และเตือนคนเดินถนนใหห้ ลีกทางไป ข. ขบั ช้าๆ โดยระมดั ระวงั คนเดนิ ใช้แตรเมอื่ จาเป็ นเพอื่ เตอื นคนเดนิ ถนนหรือรถคนั อน่ื เท่าน้นั ค. ขบั เบียดรถที่จอดหรือคนเดินถนนโดยล้าไปยงั ช่องจราจรที่สวนมา ง. ขบั ยอ้ นศรเพือ่ หนีการจราจรตดิ ขดั ไปยงั เสน้ ทางอ่ืน
19. ในขณะทที่ ่านขบั รถและสังเกตเห็นว่าด้านหน้ามผี ู้กาลงั จะข้ามถนน ท่านจะทาอย่างไร ก. พยายามขบั รถผา่ นไปอยา่ งรวดเร็ว ข. บีบแตรเสียงดงั และขบั รถผา่ นไปอยา่ งรวดเร็ว ค. ลดความเร็วและหยดุ รถด้วยความปลอดภัย เพอ่ื ให้คนข้ามถนน ง. เบรกหยดุ รถอยา่ งรวดเร็ว เพ่ือใหค้ นขา้ มถนน 20. หากมผี ้ขู บั รถกาลงั กลบั รถเข้ามาในช่องทางทท่ี ่านขบั รถอยู่ ท่านจะตดั สินใจทาอย่างไร ก. มใี จกรุณาโอบอ้อมอารีให้ทางแก่ผู้กลบั รถ ข. หงุดหงิด บีบแตรไล่ แตห่ ยดุ รถให้ ค. เร่งความเร็วเพ่ือขอทางไมใ่ หก้ ลบั รถ ง. หลบรถโดยแซงไปอีกช่องทางหน่ึง 21. ในการขบั รถช่วงเวลากลางคนื ควรทจี่ ะมกี ารใช้ไฟหน้ารถอย่างไร ก. เปิ ดไฟสูง ตลอดเวลาที่ขบั ขี่ ข. เปิ ดท้งั ไฟหนา้ และไฟตดั หมอก ค. เปิ ดไฟหนา้ ไฟตดั หมอก และไฟกระพริบฉุกเฉิน ง. เปิ ดไฟตา่ เมอ่ื มรี ถอยู่ด้านหน้าและรถสวนทางมา 22. การขบั รถผ่านช่วงทางโค้ง ทางร่วม ทางแยก ในช่วงเวลากลางคนื ควรจะมวี ธิ ีการใช้ไฟหน้ารถทเ่ี หมาะสมอย่างไร ก. ชะลอความเร็วก่อนเขา้ ทางแยก แลว้ กระพริบไฟและเปิ ดไฟฉุกเฉิน ข. ก่อนเข้าโค้ง ให้กระพริบไฟ และลดเป็ นไฟตา่ เมอื่ มรี ถสวนทาง ค. ชะลอความเร็วก่อนเปิ ดไฟสูง ง. ชะลอความเร็วก่อนเปิ ดไฟต่า 23. การขบั รถผ่านชุมชน โรงเรียน หรือสถานทท่ี ม่ี คี นพลกุ พล่าน ควรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ชะลอความเร็ว บีบแตรเสียงดงั และใชค้ วามระมดั ระวงั ข. ชะลอความเร็ว และใช้ความระมดั ระวงั ในการขบั ขี่ ค. บีบแตรและชะลอความเร็ว ง. บีบแตร และเร่งความเร็วเพ่ือใหพ้ น้ ไปโดยเร็ว 24. หากในขณะขบั รถ ท่านสังเกตเหน็ รถโดยสารสาธารณะ รถบรรทุกหรือรถอนื่ ๆ ทผี่ ู้ขบั รถมพี ฤตกิ รรมขับรถประมาท น่า หวาดเสียวและอาจจะเกดิ อุบัตเิ หตขุ นึ้ ได้ ท่านจะจดั การอย่างไร ก. เปิ ดไฟฉุกเฉินแจง้ เตือนรถคนั หลงั ข. ขบั รถข้ึนแซงใหพ้ น้ ไปอยา่ งรวดเร็ว ค. ขบั รถไล่ตาม และบีบแตรเพอ่ื ใหห้ ยดุ พฤติกรรมดงั กล่าว ง. ควรชะลอรถให้ห่างจากรถคนั ดงั กล่าว และแจ้งเจ้าหน้าทต่ี ารวจโดยด่วน
25. ท่านคดิ ว่าข้อใดเป็ นการขบั ขที่ ไ่ี ร้ซ่ึงมารยาทอย่างมาก ก. ใชค้ วามเร็วรถปกติ เมื่อมีรถคนั อ่ืนกระพริบไฟขอทาง ข. ขบั รถชิดซา้ ย หรือใหท้ างแก่รถฉุกเฉิน ค. ขับรถจที้ ้าย และบีบแตรไล่บนทางด่วน ง. ชะลอความเร็วใหร้ ถคนั อ่ืนแซง 26. ท่านคดิ ว่าข้อใดเป็ นการขบั ขร่ี ถทไี่ ร้ซึ่งจติ สานึก ก. ขบั รถในขณะทอี่ ่อนเพลยี ง่วงนอน หรือดม่ื สุรา ข. ชะลอความเร็วและระมดั ระวงั เม่ือขบั รถผา่ นสถานศึกษาที่มีนกั เรียนพลกุ พล่าน ค. เมื่อรู้สึกวา่ อ่อนเพลีย ง่วงนอน ใหห้ ยดุ รถพกั ผอ่ นทนั ที ง. ไม่มีขอ้ ใดถกู เลย 27. ท่านคดิ ว่าผ้ขู ับข่ี ควรปฏบิ ตั ติ นอย่างไรในการขบั ขร่ี ถให้เกดิ ความปลอดภยั ก. พดู คุยหยอกลอ้ กบั แฟนสาวในขณะขบั รถ ข. ใชโ้ ทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ีในขณะขบั รถ ค. ดื่มสุรา เที่ยวดึก นอนดึกเพอื่ ต่ืนแต่เขา้ มาขบั รถ ง. ไม่ประมาท มวี นิ ยั และเคารพในกฎจราจร 28. การขบั รถบนทางด่วนทถี่ ูกต้อง เหมาะสม ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถชา้ ในช่องทางดา้ นขวา ข. ขบั รถอยา่ งรวดเร็วในช่องทางดา้ นขวา ค. ไม่ขบั รถเร็วเกนิ อตั ราทก่ี ฎหมายกาหนด ง. ไม่ใหข้ บั รถแซงทางดา้ นซา้ ย 29. ข้อใดเป็ นการปฏิบัตทิ ถ่ี ูกต้องทส่ี ุด ก. ขับรถโดยมใี บขบั ขท่ี ถี่ ูกต้อง และปฏบิ ตั ติ ามกฎจราจร ข. ศึกษาเรียนรู้ในกฎจราจร ค. ศึกษาเรียนรู้ในกฎจราจรท้งั ในประเทศและต่างประเทศ ง. ต้งั ใจฟังการถา่ ยทอดอบรมเพือ่ สอบใบขบั ขี่ 30. ข้อใดเป็ นการปฏิบตั ทิ ถ่ี ูกต้อง ก. ตรวจเชก็ บา้ ง ไมต่ รวจเชก็ บา้ ง ข. ไมเ่ คยตรวจสอบ ดูแล บารุงรักษารถ ค. ตรวจสอบรถปี ละ 1 คร้ัง ง. ตรวจเช็กรถตามคู่มอื ประจารถ
31. ข้อใด ถอื ได้ว่าเป็ นผ้ขู บั ข่ีทมี่ จี ติ สานึก ก. เตรียมความพร้อมท้งั รถและคนก่อนออกเดนิ ทาง ข. ตรวจสอบดูแลรักษารถอยา่ งสม่าเสมอ ค. ขบั รถเร่งแซงเพื่อใหถ้ ึงที่หมายอยา่ งรวดเร็วและทนั เวลา ง. ขบั รถชา้ ชิดขวาตลอดเสน้ ทาง 32. การขบั รถในช่วงเวลาทฝ่ี นตกหนักท่านควรขบั ขอี่ ย่างไร ก. ค่อยๆ ขบั และเปิ ดไฟสูงหนา้ รถ ข. ลดความเร็ว ขบั อย่างระมดั ระวัง เปิ ดไฟหน้ารถและทป่ี ัดนา้ ฝน ค. ขบั อยา่ งระมดั ระวงั และเปิ ดไฟหนา้ รถและไฟตดั หมอก ง. หยดุ รถบนถนน และรอจนกวา่ ฝนจะหยดุ ตกแลว้ ค่อยขบั ตอ่ ไป 33. การขบั รถในทางขึน้ เขา ลงเขา และมโี ค้งอนั ตรายอยู่ตลอดทาง ท่านควรขบั ขอี่ ย่างไร ก. เหยยี บเบรกตลอดการลงเขาและใชเ้ กียร์สูง ข. ตอ้ งเร่งความเร็วของรถเพ่ือข้นึ เขาและลงเขา ค. ต้องใช้ความเร็ว และเกยี ร์ ให้ถูกต้องเหมาะสม ง. ใชเ้ กียร์สูงขณะข้ึนเขา ลงเขา และเขา้ โคง้ 34. ก่อนใช้รถท่องเทยี่ วในระยะทางไกลๆ ท่านควรเตรียมความพร้อมอย่างไร ก. ศึกษาเส้นทาง นอนหลบั พกั ผ่อนให้เพยี งพอ ข. ศึกษาเสน้ ทาง อา่ นหนงั สือคู่มอื ท่องเที่ยวจนดึก ค. เติมน้ามนั หล่อล่ืนใหม้ ากกวา่ คา่ ที่กาหนดเผอ่ื รั่ว ง. ลดความดนั ลมยางเพอ่ื ใหเ้ กาะถนนมากข้ึน 35. หากมผี ้ขู บั รถจที้ ้ายรถท่านในช่องทางขวาสุดและบบี แตรไล่หลงั ท้งั ทชี่ ่องทางด้านซ้ายกว็ ่างอยู่ ท่านควรปฏบิ ตั ติ น อย่างไร ก. แซงไปก่อน แลว้ ขบั รถไลต่ ลอดทาง ข. เร่งความเร็ว ไมใ่ หแ้ ซงอยา่ งเดด็ ขาด ค. ขบั รถหลกี ทาง ทางช่องทางด้านซ้ายอย่างระมดั ระวงั ง. กระพริบไฟดา้ นซา้ ยเป็ นสญั ญาณใหแ้ ซงดา้ นซา้ ย 36. ขณะทร่ี ถตดิ และรถด้านหน้ารถท่านได้ตดั สินใจใช้ช่องทางไหล่ทางด้านซ้าย และมรี ถอน่ื แล่นตาม ท่านจะทาอย่างไร ก. ขบั รถในช่องทางเดมิ ข. รีบกระพริบไฟดา้ นซา้ ยใหส้ ญั ญาณ และขบั ตามในทนั ที ค. ใหส้ ญั ญาณไฟ และแซงซา้ ยตามไปอยา่ งระมดั ระวงั ง. ใหส้ ญั ญาณไฟ และแซงขวา ไปในช่องทางที่รถสวนมา
37. ข้อใดเป็ นพฤตกิ รรมทค่ี วรปฏบิ ัตเิ มอ่ื อยู่บนถนน ก. ขบั รถจ้ีทา้ ยรถบรรทุกขนาดใหญ่ เพือ่ ป้ องกนั รถอื่นวง่ิ สวนทางเขา้ มาชน ข. ขบั รถแลว้ เจอแสงแดด ยกมือข้ึนมาป้ องเพอ่ื ป้ องกนั แสงเขา้ ตา ค. ขบั รถยอ้ นศรเพ่อื ประหยดั น้ามนั ง. ขบั รถด้วยความเร็วไม่เกนิ ทก่ี าหนด และแซงในกรณีทจี่ าเป็ นต้องแซงเท่าน้นั 38. ในขณะทท่ี ่านขบั รถบนทางหลวง ใช้ความเร็วตามกฎหมายกาหนด อยู่ในเลนขวาสุด มรี ถวง่ิ ตามมาด้วยความเร็วสูง หรือกระพริบไฟสูงจากทางด้านหลงั ของท่านเพอื่ ขอทางสิ่งทที่ ่านควรปฏิบตั คิ อื ก. ขบั ตอ่ ไปตามปกติ เพราะปฏิบตั ิตามกฎจราจรอยแู่ ลว้ ไม่ไดข้ บั รถเร็ว ไม่ไดท้ าผดิ กฎหมาย ข. เปิ ดทางหลบให้รถดงั กล่าวแซงขนึ้ ไป โดยเปิ ดไฟเลยี้ วซ้าย แล้วค่อยๆ เบนรถเข้าเลนซ้ายหรือเลนกลาง ค. ขบั รถใหช้ า้ กวา่ เดิม เพือ่ กกั หรือสกดั ใหร้ ถคนั หลงั ขบั ดว้ ยความเร็วตามกฎจราจร เช่นเดียวกนั กบั ท่าน ง. ขบั รถเร่งหนีไปดา้ นหนา้ ดว้ ยความเร็วที่สูงกวา่ รถคนั ดงั กลา่ ว 39. ข้อใดไม่ควรปฏบิ ัตใิ นการขบั รถให้ถงึ จดุ หมายปลายทางอย่างปลอดภยั ก. เร่งรีบขบั ขี่ เพอ่ื ให้ถึงปลายทางก่อนทจี่ ะมดื ข. ทาความคุน้ เคยกบั รถท่ีจะขบั ขี่ ในกรณีที่เป็นรถท่ีไม่เคยขบั ขี่มาก่อน ค. พกั ผอ่ นใหเ้ พียงพอและไมด่ ่ืมสุรา ง. มีจิตสานึกในการขบั ข่ีอยา่ งรบั ผิดชอบ 40. ในขณะทที่ ่านขับรถอยู่บนถนนและมผี ู้อน่ื แบ่งปันนา้ ใจในการใช้รถใช้ถนนให้ท่าน ข้อใดไม่ใช่วธิ ที ค่ี วรปฏิบตั ิ ก. ส่งยมิ้ แสดงการขอบคุณ ข. โคง้ ศีรษะแสดงความขอบคุณ ค. ยกมือขวาข้ึนระดบั คิว้ แสดงการขอบคุณ ง. เปิ ดไฟสูงแสดงการขอบคณุ 41. ในกรณที ที่ ่านขบั รถผดิ กฎหมาย ผดิ กฎจราจร หรือก่อความเดอื ดร้อนให้แก่ผู้อนื่ เมอ่ื เจ้าของรถคู่กรณกี าลงั เผชิญหน้ากบั ท่าน สิ่งทค่ี วรปฏิบตั คิ อื ก. ขอใหม้ ีการดาเนินตามกฎหมายวา่ ฝ่ ายใดถูกฝ่ ายใดผิด ข. จอดรถลงมาถามวา่ ไดท้ าความเดือนร้อนอะไรใหอ้ ยา่ งไร ค. ยกมอื ขวาขนึ้ ระดบั ควิ้ พร้อมโค้งศีรษะ เพอ่ื ส่ือให้รู้ว่าทาผดิ และขอโทษ ง. รีบขบั รถไปจากท่ีน้นั โดยเร็วที่สุด 42. ข้อใดแสดงถงึ การมจี ติ สานกึ ในการขบั ขอ่ี ย่างปลอดภัย โดยหลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมเสี่ยงภยั และการกระทาทไ่ี ม่ปลอดภยั ก. บงั คบั ตวั เองให้ปฏิบตั ติ ามกฎจราจรตลอดเวลาทขี่ ับข่ี โดยไม่ต้องรอให้ตารวจจราจรบงั คบั ข. ปรับแตง่ อปุ กรณ์ส่วนควบ และระบบต่างๆ ของรถใหแ้ ตกต่างไปจากสภาพที่ออกมาจากโรงงาน ค. เม่ือถึงทางร่วมทางแยก หากอยใู่ นทางเอกตอ้ งไปก่อนเสมอ ไมจ่ าเป็นตอ้ งใหร้ ถในทางโทเขา้ มาร่วมใชท้ าง ง. เปิ ดไฟฉุกเฉิน เม่ือจอดรถในท่ีหา้ มจอด
43. ในขณะทท่ี ่านขบั รถอยู่บนถนน มอี บุ ตั เิ หตเุ กดิ ขึน้ ด้านหน้าข้อใดไม่ใช่วธิ ีทค่ี วรปฏบิ ัตเิ พอ่ื ให้รถทตี่ ามมาด้านหลงั ทราบ ว่าท่านมคี วามจาเป็ นต้องชะลอรถหรือหยุดรถ และหยดุ รถตามโดยไม่ชนท้ายรถของท่าน ก. ประเมินสถานการณ์ดา้ นหนา้ รถและหลงั รถ เพื่อใหน้ ้าหนกั ในการเบรกเป็ นไปอยา่ งเหมาะสม ข. ขบั รถเข้าไปใกล้รถทเี่ กดิ เหตแุ ล้วเหยยี บเบรกอย่างแรงเพอ่ื หยุดรถในทนั ที ค. ใหส้ ญั ญาณไฟเบรกล่วงหนา้ โดยใชเ้ ทา้ แตะท่ีแป้ นเบรกเป็ นจงั หวะ 1-2 คร้ัง แลว้ จงั หวะหยดุ ง. เหยยี บเบรกคา้ งไวเ้ พื่อใหส้ ญั ญาณไฟเบรกติดอยจู่ นกระทง่ั รถคนั หลงั ท่ีขบั ตามมาทราบลว่ งหนา้ และเมื่อมาหยดุ อยทู่ า้ ยรถ แลว้ จึงคอ่ ยปล่อยเทา้ จากแป้ นเบรก 44. ในการแซงหรือเปลยี่ นเลนต้องปลอดภัยและมมี ารยาท ข้อใดไม่ใช่มารยาททดี่ ใี นการขบั รถ ก. เมอื่ แซงรถคนั หน้าได้แล้วปาดหน้าชิดซ้ายทนั ที ข. ใหส้ ญั ญาณไฟเล้ียวขวา ก่อนแซงทุกคร้ังเพ่ือใหร้ ถคนั หนา้ รู้ตวั และระมดั ระวงั หรือใหท้ าง ค. ไมแ่ ซงในที่คบั ขนั หรือหา้ มแซง ง. ถนนยง่ิ แคบยง่ิ ตอ้ งขบั ชา้ ๆ และแซงดว้ ยความระมดั ระวงั 45. เมอ่ื รถทขี่ บั ตามหลงั มาให้สัญญาณขอแซง มารยาททดี่ เี พอ่ื แสดงการตอบรับว่ายนิ ยอมให้แซง คอื ข้อใด ก. ใหส้ ญั ญาณไฟฉุกเฉิน ข. ใหส้ ญั ญาณแตร ค. ให้สัญญาณไฟเลยี้ วซ้าย ง. ใหส้ ญั ญาณไฟสูง 46. ข้อใดเป็ นพฤตกิ รรมในการขบั รถทแ่ี สดงให้เห็นว่าผู้ขบั มจี ติ สานกึ ความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ก. เมอ่ื ขบั รถมาถึงทางร่วมทางแยกชะลอความเร็วทกุ คร้ัง ไม่ว่าจะมสี ัญญาณไฟจราจรหรือไม่ ข. ปฏิบตั ิตามสญั ญาณไฟจราจรหรือเครื่องหมายจราจร หากไมป่ ฏิบตั ิตารวจจบั เสียค่าปรับ ค. เมื่อจะเปลี่ยนเลนกเ็ บียดเขา้ ไปโดยไมใ่ หส้ ญั ญาณไฟเพราะหากใหส้ ญั ญาณไฟคนั ขา้ งๆ จะไมเ่ ปิ ดช่องใหเ้ ปลี่ยนเลนเขา้ ไป ง. กรณีที่เป็ นทางแยกที่มีสญั ญาณไฟจราจร ปฏิบตั ิตามสญั ญาณไฟเท่าน้นั ไมจ่ าเป็นตอ้ งมองดา้ นซา้ ยและดา้ นขวา 47. ในขณะทท่ี ่านกาลงั ขบั รถอยู่บนถนน และสังเกตเห็นว่าเบอื้ งหน้ามคี นกาลงั ข้ามถนน โดยไม่มที างม้าลาย ข้อใดถอื เป็ น วธิ ีปฏบิ ัตทิ ถ่ี ูกต้อง ก. ขบั รถผา่ นไปตามปกติ เน่ืองจากการขา้ มถนนท่ีปลอดภยั ตอ้ งขา้ มทางมา้ ลายเท่าน้นั ข. กระพริบไฟสูงเพอ่ื เตือนวา่ อยา่ ขา้ ม แลว้ ขบั ผา่ นโดยเร็วที่สุด ค. กดแตรรัวถ่ีๆ เตือนวา่ อยา่ ขา้ มเพราะอาจถูกรถชนได้ ง. ชะลอความเร็วแล้วหยดุ ให้ข้าม
48. หลงั จากประสบอบุ ตั เิ หตุและรอดชีวติ มาได้ข้อใดเป็ นแนวคดิ ทส่ี ะท้อนให้เห็นว่าผู้ขับรถมจี ติ สานึกความปลอดภัยในการ ใช้รถใช้ถนน ก. นายดี กล่าววา่ เมื่อวานเพิ่งไปสะเดาะเคราะห์มาไมง่ ้นั คงไมร่ อดแน่ ข. นายเอ กลา่ ววา่ เพราะพระเครื่องที่แขวนคออยคู่ ุม้ ครองปกป้ องรักษา ค. นางบี กลา่ ววา่ ปี น้ีหมอดูทายทกั ไวว้ า่ ดวงจะดีทาอะไรกไ็ มม่ ีปัญหา ง. น.ส.ซี กล่าวว่า ได้ศึกษาหาความรู้หลกั การขบั ข่ีปลอดภัยอยู่เสมอ 49. มารยาททดี่ ใี นการขบั ขท่ี าให้การใช้รถใช้ถนนเป็ นไปอย่างปลอดภยั ข้อใดเป็ นมารยาททคี่ วรปฏบิ ัติ ก. เมอื่ ขับรถในทางเลยี้ วไม่ว่าจะอยู่เลนไหน โดยมารยาทเลยี้ วแล้วต้องรักษาแนวให้อยู่ในเลนน้ันก่อน เมอื่ เหน็ ว่าปลอดภัย แล้วจงึ จะเปลย่ี นเลนได้ ข. ขณะขบั รถในช่องทางขวาแตข่ บั ตามความเร็วที่กฎหมายกาหนด หากมีรถมาจ่อทา้ ยแสดงวา่ รถคนั น้นั วงิ่ เร็วไปไมต่ อ้ ง หลบใหท้ าง ค. เมื่อรถ 2 คนั วง่ิ มาถึงทางแยกหรือวงเวยี นพร้อมกนั รถคนั ไหนเร็วกวา่ ไปก่อนเสมอ ง. ไฟตดั หมอกเป็นไฟตกแต่งรถใหส้ วยงามสามารถเปิ ดไดใ้ นขณะท่ีไมม่ ีหมอกลง 50. ผ้ขู ับขีค่ วรใช้แตรเมอื่ ใด ก. ไล่คนเดินเทา้ ที่กาลงั ขา้ มทางมา้ ลาย ข. เร่งรถคนั หนา้ ใหข้ บั เร็วข้ึน ค. ป้ องกนั อนั ตรายหรืออบุ ตั ทิ อี่ าจเกดิ ขึน้ จากรถ ง. ทกั ทายผขู้ บั ข่คี นั อน่ื ท่ีรู้จกั กนั 51. การกระทาของผ้ขู บั ขขี่ ้อใด ทอี่ าจก่อให้เกดิ อบุ ตั เิ หตุมากทส่ี ุด ก. พดู คุยกบั คนท่ีอยขู่ า้ งๆ ข. เปิ ดวทิ ยฟุ ังเพลง ค. ร้องเพลง ง. โทรศัพท์มอื ถอื ในขณะขบั รถ 52. มารยาทในการขบั ขีท่ ผี่ ้ขู บั รถควรกระทาคอื ข้อใด ก. ถ่มน้าลายหรือเสมหะลงบนถนน ข. สูบบุหรี่และเข่ียทิ้งกน้ บุหรี่ลงบนถนน ค. หยดุ รถให้คนข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย ง. ตะโกนด่าผขู้ บั ข่ีคนั อืน่ ท่ีทาใหไ้ มพ่ อใจ 53 สานวนใดทเี่ ตอื นใจผ้ขู บั ขเ่ี พอื่ ให้เกดิ ความปลอดภัย ก. ความประมาทเป็ นบ่อเกดิ แห่งความตาย ข. กลา้ ไดก้ ลา้ เสีย ค. ฆ่าไดแ้ ตห่ ยามไมไ่ ด้ ง. กระต่ายตื่นตูม
54. การปลูกฝังจติ สานึกความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนควรกระทาทบ่ี ุคคลในข้อใดมากทส่ี ุด ก. บุคคลทกุ คน ข. คนขบั รถเท่าน้นั ค. คนเดินเทา้ เท่าน้นั ง. ผโู้ ดยสารเท่าน้นั 55. เมอ่ื เห็นคนเดนิ เท้าข้ามถนนผ้ขู บั ขคี่ วรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. บีบแตรไล่ ข. ขบั ผา่ นไปไดโ้ ดยไมต่ อ้ งหยดุ รถ ค. ใชก้ ารวดั ใจ ง. รถต้องหยุดให้คนเดนิ เท้าผ่านไปก่อน 56. เมอื่ เกดิ อบุ ตั เิ หตแุ ละมผี ู้บาดเจบ็ ผ้ขู ับข่ีควรคานงึ ถึงสิ่งใดเป็ นอนั ดบั แรก ก. การเคล่ือนยา้ ยรถที่เกิดเหตุ ข. การช่วยเหลอื ผู้บาดเจบ็ ค. รอประกนั ภยั ง. รอพบเจา้ หนา้ ที่ตารวจ 57. การขบั รถทงิ้ ระยะห่างจากรถคนั หน้ามากเกนิ ไป จะมผี ลอย่างไร ก. ลดอบุ ตั ิเหตุ ข. จะขบั รถดว้ ยความปลอดภยั มากข้ึน ค. เกดิ ปัญหาการจราจรตดิ ขัด ง. การจราจรคล่องตวั มากข้นึ 58. ข้อใดเป็ นการขับรถทถี่ ูกต้องท้งั กฎจราจรและมารยาทในการขบั รถ ก. การขบั รถปาดหนา้ รถคนั อ่ืนอยา่ งกระช้นั ชิด ข. ขบั รถชา้ ๆ ในช่องทางเดินรถทางขวา ค. ขบั รถโดยใชค้ วามเร็ว 150 กิโลเมตรต่อชวั่ โมง ในกรณีท่ีถนนวา่ ง ง. หยดุ รถให้คนข้ามถนนในบริเวณทมี่ คี นข้าม 59. ข้อใดทผ่ี ู้ขบั ขไ่ี ม่ควรปฏบิ ัติ ก. ขบั รถดว้ ยความระมดั ระวงั ขณะฝนตก ถนนลื่น ข. ขับรถด้วยความเร็วสูงในทที่ ม่ี กี ารจราจรพลุกพล่าน ค. ปฏิบตั ิตามกฎจราจรอยา่ งเคร่งครัด ง. ใหส้ ญั ญาณไฟเพือ่ ขอแซง 60. การเปลย่ี นช่องทางจราจร ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. เปิ ดสญั ญาณไฟแลว้ เปล่ียนช่องทางไดเ้ ลย ข. เปลี่ยนช่องทางโดยเร็วเพอ่ื หลบรถคนั อ่นื
ค. ดูกระจกมองข้าง เปิ ดสัญญาณไฟแล้วเปลย่ี นช่องทางเมอ่ื เห็นว่าปลอดภัย ง. เปล่ียนช่องทางทนั ที เมื่อความเร็วเหมาะสม 61. ข้อใดผดิ ก. หา้ มแซงซา้ ยในท่ีหา้ มแซงซา้ ย ข. หา้ มพดู โทรศพั ทข์ ณะขบั รถ ค. หา้ มหยดุ หรือจอดรถคุยกนั กลางถนน ง. ห้ามหยุดรถให้คนข้ามทาง 62. สาเหตุอะไรเป็ นปัจจยั สาคญั ทกี่ ่อให้เกดิ อบุ ตั เิ หตุทางถนนมากทส่ี ุด ก. ผ้ขู ับข่ีรถ ข. สภาพถนน ค. สภาพรถ ง. ส่ิงแวดลอ้ ม 63. สาเหตุใดทท่ี าให้การเกดิ อบุ ตั เิ หตุมากทส่ี ุด ก. ขบั รถชิดคนั หนา้ ข. ขบั รถแซงอยา่ งผดิ กฎหมาย ค. ขบั รถตดั หนา้ อยา่ กระช้นั ชิด ง. ขบั รถเร็วเกดิ อตั ราทกี่ าหนด 64. ข้อใดเป็ นพฤตกิ รรมการขบั ขที่ ไ่ี ม่ควรกระทา ก. ขับช้าชิดขวา ข. ขบั เร็วชิดขวา ค. ขบั ชา้ ชิดซา้ ย ง. ถกู ทุกขอ้ 65. ข้อใดเป็ นมารยาททดี่ ใี นการขบั รถ ก. ขบั ยอ้ นศรบนไหล่ทาง ข. เบียดแซงคิวบริเวณคอสะพาน ค. หยุดรถให้คนข้ามถนน ง. เปลี่ยนเลนโดยไมใ่ หส้ ญั ญาณไฟ 66. การจอดรถขวางหน้าประตูบ้านผู้อน่ื โดยปลดเกยี ร์ว่างและไม่ดงึ เบรกมอื ก. ทาไดเ้ พราะจอดบนถนนสาธารณะ ข. ไม่ควรทาเพราะสร้างความยากลาบากให้ผ้อู น่ื ค. ทาไดเ้ พราะเจา้ ของบา้ นสามารถเขน็ รถใหพ้ น้ ทางได้ ง. ไมค่ วรทาเพราะรถอาจถกู เขน็ ไปชนกบั วตั ถอุ ่ืนจนเสียหาย
67. ข้อใดเป็ นมารยาททไี่ ม่ดใี นการขับรถยนต์ ก. หยดุ รถใหค้ นขา้ มถนนบริเวณทางมา้ ลาย ข. กม้ ศีรษะใหเ้ มื่อมีคนใหท้ าง ค. ขับรถแซงคนั หน้าในระยะกระช้ันชิด ง. ไมเ่ ปิ ดไฟสูงเม่ือมีรถขบั สวนทางมา 68. สาเหตุของการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ ก. คน ข. คน รถ ค. คน รถ ถนน ง. คน รถ ถนน ส่ิงแวดล้อม 69. ข้อใด ไม่ใช่การขบั รถอย่างปลอดภยั และประหยดั พลงั งาน ก. เร่งเคร่ืองก่อนออกรถ ข. ไม่ควรติดเคร่ืองยนตร์ ะหวา่ งจอดรถคอย ค. ขบั รถดว้ ยความเร็วท่ีเหมาะสม ง. ไม่บรรทุกของเกิดพกิ ดั 70. สาเหตุสาคญั ทท่ี าให้การขบั รถในเวลากลางคนื มคี วามเสี่ยงต่อการเกดิ อุบัตเิ หตุสูงกว่าในเวลากลางวนั คอื ข้อใด ก. ทศั นวสิ ัยในการมองเห็น ข. สภาพร่างกายของผขู้ บั ข่ีและสภาพรถไม่พร้อม ค. คนขบั หลบั ในเนื่องจากเหน่ือยลา้ ง. ขบั รถในขณะมึนเมา 71. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ก. เมื่อมีรถวง่ิ สวนมา ควรใชไ้ ฟต่า ข. เมอ่ื วงิ่ ตามหลงั รถคนั หน้าสามารถเปิ ดไฟสูงได้ เพราะไม่มผี ลต่อการขบั ขข่ี องรถคนั หน้า ค. ช่วงเวลาเยน็ ใกลม้ ืด จะตอ้ งใชค้ วามระมดั ระวงั มากกวา่ ปกติเพราะเป็ นช่วงท่ีตาตอ้ งปรับสภาพจากกลางวนั ไปสู่กลางคืน ง. การขบั รถในเวลากลางคืนควรใชค้ วามเร็วใหน้ อ้ ยกวา่ กลางวนั 72. เมอื่ มปี ริมาณรถสะสมจานวนมากบริเวณเชิงสะพานข้ามแยกทจ่ี ะต้องขับรถผ่านควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. บีบแตรขอทางเพื่อแทรกเขา้ ใกลเ้ ชิงสะพาน ข. เปิ ดไฟเล้ียวขอแทรกเขา้ ใกลเ้ ชิงสะพาน ค. เปิ ดไฟสูงเพ่ือขอแทรกเขา้ ใกลเ้ ชิงสะพาน ง. ขับไปต่อท้ายแถวรถทตี่ ดิ สะสมอยู่
73. ข้อใดเป็ นพฤตกิ รรมทส่ี ามารถกระทาได้ในกรณกี ารใช้ไฟสูง ก. ใช้ไฟสูงเพอ่ื ส่องดูป้ ายบอกทางหรือทางข้างหน้าเป็ นคร้ังคราว ข. ใชไ้ ฟสูงขณะทีมีรถอยขู่ า้ งหนา้ หรือมีรถสวนมา ค. ไมพ่ อใจพฤติกรรมการขบั รถของรถคนั หนา้ จึงใชไ้ ฟสูง เพื่อใหค้ นขบั รถคนั หนา้ รู้ตวั ง. ใชไ้ ฟสูงเพือ่ ใหค้ นขบั รถคนั อื่นทราบวา่ ตอ้ งใชค้ วามเร็วสูง โปรดอยา่ งขวางทาง 74. การจอดรถขวางทางคนั อน่ื ควรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ใส่เบรกมือไว้ ข. ปลดเกยี ร์ว่าง ไม่ใช้เบรกมอื ค. ใส่เกียร์เดินหนา้ ง. ใส่เกียร์ถอยหลงั 75. ข้อใดไร้จติ สานึก และอาจก่อให้เกดิ อนั ตรายมากทส่ี ุด ก. ติดไฟสีน้าเงินส่องสวา่ งบริเวณป้ ายทะเบียนรถ ข. เปิ ดเพลงเสียงดงั แลว้ เปิ ดกระจกรถ ค. ถม่ น้าลายออกนอกตวั รถ ง. ขว้างกระป๋ องเครื่องดม่ื ออกนอกตวั รถขณะรถแล่น 76. หากพบรถฉุกเฉินเปิ ดสัญญาณเสียงไซเรนกาลงั วง่ิ ตามหลงั ผู้ขับขี่ควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. เปิ ดไฟฉุกเฉินและเร่งความเร็วทนั ที ข. เปล่ียนช่องจราจรไปทางดา้ นขวาทนั ที ค. เปลย่ี นช่องจราจรไปทางด้านซ้ายทนั ทเี มอ่ื ปลอดภยั ง. เปิ ดไฟเล้ียวขวาและขบั รถต่อไป 77. ข้อใดต่อไปนเี้ ป็ นการใช้สัญญาณแตรทถี่ ูกต้อง ก. เตอื นผ้อู นื่ ให้ระมดั ระวงั อนั ตรายทอี่ าจเกดิ ขึน้ จากรถ ข. ใชเ้ พอ่ื เร่งรถขา้ งหนา้ ใหข้ บั เร็วข้ึน ค. ไล่คนเดินเทา้ ที่กาลงั ขา้ มถนน ง. ใชเ้ พอ่ื ทกั ทายคนรู้จกั
78. จากรูป หากท่านกาลงั ขบั ขเี่ ข้าสู่บริเวณทางม้าลายท่านควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. ขบั ดว้ ยความเร็วเท่าเดิม ข. ลดความเร็วลง ค. บีบแตร ง. เพิม่ ความเร็ว 79. จากรูป รถคนั สีแดงควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. รอจนกว่าคนเดนิ เท้าจะเดนิ ผ่านไปแล้วจงึ เลยี้ ว ข. โบกมือและตะโกนตอ่ วา่ เพอื่ เร่งใหผ้ คู้ นเดินผา่ นไป ค. บีบแตรไลเ่ พ่อื ไม่ใหผ้ คู้ นเดินผา่ น ง. ขบั เขา้ ไปใกลค้ นเดินเทา้ ในระยะกระช้นั ชิด 80. จากรูป รถคนั สีเหลอื งควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. ใชส้ ญั ญาณแตรเพื่อใหร้ ถคนั อ่นื หยดุ ใหท้ ่าน ข. ขบั ออกไปทนั ที ค. คอ่ ยๆ ขบั เคลื่อนไปขา้ งหนา้ ทีละนอ้ ย ง. เลยี้ วซ้ายแล้วกลบั รถทจี่ ดุ กลบั รถ
81. จากรูป เมอ่ื ท่านต้องการทจ่ี ะเลยี้ วซ้ายเข้าซอย ท่านควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. หยุดรอ ข. ใชส้ ญั ญาณแตรไลผ่ เู้ ดินเทา้ ค. ขบั เขา้ ไปใกลผ้ เู้ ดินเทา้ ในระยะกระช้นั ชิด ง. โบกมือไล่ผเู้ ดินเทา้ ใหร้ ีบเดินขา้ มถนน 82. จากรูป รถทอ่ี ย่บู ริเวณทางม้าลาย ควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. ใชส้ ญั ญาณแตรเพือ่ ไล่ผเู้ ดินเทา้ ข. ขบั เขา้ ไปตอ่ ทา้ ยรถคนั หนา้ ค. ขบั เขา้ ไปทบั ทางมา้ ลาย ง. หยดุ รถก่อนถึงทางม้าลาย 83. จากรูป เมอื่ รถคนั สีเหลอื งต้องการทจ่ี ะขับตรงไป ควรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. บีบแตรอยา่ งต่อเนื่อง ข. หยดุ รอจนกว่ารถข้างหน้าจะผ่านไป ค. เปิ ดไฟสูงคา้ ง ง. พยายามขบั มดุ ผา่ นช่องวา่ ง
84. ข้อใดปฏบิ ัตไิ ด้ถูกต้องในการขับข่อี อกจากซอยไปสู่ถนนใหญ่ ก. บีบแตรเพอื่ ขอทางจากรถคนั อน่ื ข. ไม่จาเป็นตอ้ งเปิ ดไฟเล้ียวกไ็ ด้ ค. หยดุ รอให้รถในทางหลกั และคนเดนิ เท้าไปก่อน ง. ขบั ออกไปใหเ้ ร็วท่ีสุดเพื่อที่จะไดไ้ มเ่ สียเวลา 85. จากรูป ในขณะสัญญาณไฟเขยี ว หากท่านต้องการจะเลยี้ วขวา แต่ท่านได้ยนิ สัญญาณรถดบั เพลงิ มาทางขวามอื ของท่าน ท่านควร ก. เปิ ดไฟเล้ียวขวาเพ่ือใหร้ ถดบั เพลิงรู้วา่ ท่านจะไปก่อน ข. เล้ียวขวาไปก่อนรถดบั เพลิงจะมาถึง ค. เล้ียวไปไดเ้ ลยโดยไม่ตอ้ งสนใจรถดบั เพลิง ง. รอให้รถดบั เพลงิ ไปก่อนแล้วจงึ เลยี้ ว 86. จากรูป ในขณะสัญญาณไฟเขยี ว หากท่านต้องการจะขบั ตรงไป แต่ท่านได้ยนิ สัญญาณรถพยาบาลมาทางขวามอื ของ ท่าน ท่านควร ก. หยุดรอรถพยาบาลไปก่อน ข. รีบๆ ขบั ผา่ นไปจะไดไ้ มข่ วางทางรถพยาบาล ค. ใชส้ ญั ญาณแตรเพอื่ เตือนรถพยาบาลใหร้ ู้วา่ ท่านจะไปก่อน ง. ขบั ผา่ นไปตามปกติ
87. หากท่านต้องการทจี่ ะจอดรถดงั รูป เพยี งช่ัวคราวท่านสามารถจอดได้หรือไม่ ก. จอดไม่ได้ทุกกรณี ข. จอดไดห้ ากท่านอยใู่ นรถ ค. จอดไดห้ ากท่านเปิ ดไฟฉุกเฉิน ง. จอดไม่ได้ ถา้ ไม่ไดจ้ ่ายเงินใหแ้ ก่ผดู้ ูแลรถ 88. เมอื่ ท่านได้ยนิ เสียงสัญญาณไซเรนของรถฉุกเฉิน ท่านต้องปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. ทาเป็ นไมไ่ ดย้ นิ ข. ใชส้ ญั ญาณแตรเพือ่ เตือนผขู้ บั ข่ีท่านอืน่ ค. กระพริบไฟสูงเพ่อื เตือนผขู้ บั ข่ีท่านอ่ืน ง. พยายามเบีย่ งรถของท่านมใิ ห้ขวางทางรถฉุกเฉิน 89. เมอื่ รถทกี่ าลงั ทาการแซงเปิ ดไฟเลยี้ วเพอ่ื เข้าสู่ช่องจราจรของท่าน ท่านควรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ใชส้ ญั ญาณแตรเตือน ข. เร่งความเร็วข้ึน ค. ลดความเร็วลง ง. เปิ ดไฟสูงเตือน
90. จากสถานการณ์ดงั รูป ผู้ขับขค่ี วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขบั ไปจอดตอ่ ทา้ ยใหช้ ิดกบั รถคนั หนา้ มากท่ีสุด ข. หยดุ รถให้รถทเ่ี ปิ ดสัญญาณไฟเลยี้ วขวาไปก่อน ค. ใหส้ ญั ญาณแตรเสียงยาว ง. ขบั ไปจอดตอ่ ทา้ ยรถคนั หนา้ พร้อมกบั เปิ ดสญั ญาณไฟฉุกเฉิน 91. การปฏิบตั ใิ นข้อใดถูกต้องตามหลกั มารยาทในการขบั รถ ก. ขบั รถดว้ ยความเร็วสูงและเปล่ยี นช่องจราจรบ่อย ข. ขบั รถตามหลงั รถคนั หนา้ ในระยะกระช้นั ชิดเพือ่ ใหห้ ลบทางให้ ค. ใชส้ ญั ญาณแตรไลค่ นขา้ มถนน ง. ให้สัญญาณไฟทุกคร้ังทเี่ ปลย่ี นช่องจราจร 92. หากเห็นคนพกิ ารกาลงั ข้ามถนน ผ้ขู ับข่คี วรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. ลดความเร็วและกระพริบไฟสูงใส่คนพิการ ข. หยุดรอให้คนพกิ ารข้ามผ่านทางไปก่อน ค. เร่งความเร็วและขบั ออ้ มไปทางดา้ นขวาของคนพกิ าร ง. หยดุ และใหส้ ญั ญาณแตรจนกวา่ คนพิการขา้ มจนพน้ ทาง 93. ข้อใดต่อไปนีเ้ ป็ นการปฏิบตั ทิ ไ่ี ม่ถูกต้อง ก. ไมเ่ ปิ ดไฟสูงในกรณีท่ีขบั รถสวนทางกนั ข. ใหส้ ญั ญาณไฟเล้ียวลว่ งหนา้ ก่อนเล้ียวรถ ค. เร่งความเร็วเมอ่ื มรี ถแซงมาขนาบข้าง ง. ขบั ชิดซา้ ยและใหส้ ญั ญาณไฟเล้ียวซา้ ยเมื่อรถคนั หลงั ใหส้ ญั ญาณไฟเล้ียวขวาเพ่อื ตอ้ งการแซง
94. ข้อใดคอื มารยาททดี่ ใี นการจอดรถ ก. จอดรถซอ้ นคนั ข. จอดโดยไม่กดี ขวางผู้อนื่ และไม่ฝ่ าฝื นกฎจราจร ค. จอดรถขวางทางเขา้ -ออก ง. จอดบริเวณท่ีมีเคร่ืองหมายหา้ มจอด 95. ข้อใดต่อไปนไี้ ม่ควรปฏบิ ัติ เมอื่ มรี ถคนั หลงั กาลงั แซงรถของท่าน ก. อยใู่ นช่องจราจรของตวั เอง ข. ขบั ดว้ ยความเร็วคงที่ ค. ลดความเร็วลง ง. เร่งความเร็วเพอื่ ไม่ให้แซง 96. ข้อใดต่อไปนที้ าให้สมาธิในการขบั รถลดลง ก. การคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหนา้ ข. การลา้ งหนา้ ก่อนขบั รถ ค. โทรศัพท์ขณะขบั รถ ง. การมองทางขา้ งหนา้ ไกลๆ 97. รูปใดต่อไปนี้ เป็ นการรัดเข็มขัดนริ ภัยทไี่ ม่ถูกต้อง ก. รูปที่ 2 และ 3 ข. รูปท่ี 2 เท่าน้นั ค. รูปท่ี 3 เท่าน้นั ง. รูปท่ี 1 2 และ 3 98. ผ้ขู บั ขี่ทด่ี คี วรมคี วามพร้อมอย่างไร ก. ศึกษาเสน้ ทางก่อนออกเดินทาง ข. ทุกขอ้ ท่ีกลา่ วจะเป็นตวั เลือกที่ถูกท้งั หมด ค. มีสภาพร่างกายจิตใจท่ีพร้อม ง. มคี วามรู้เกยี่ วกบั กฎหมายจราจรและกฎหมายอน่ื ทเ่ี กยี่ วข้อง
99. พฤตกิ รรมใดทผี่ ้ขู บั ขีไ่ ม่ควรกระทา ก. ทุกขอ้ ท่ีกล่าวจะเป็ นตวั เลือกท่ีถกู ท้งั หมด ข. เปิ ดไฟสูงขณะรถสวนกนั ค. เปิ ดไฟสูงเพือ่ ไลร่ ถคนั หนา้ ง. เปิ ดไฟสูงขณะขบั รถตามหลงั รถคนั อื่น 100. ข้อใดเป็ นการขบั รถทถี่ ูกต้องท้งั กฎจราจรและมารยาทในการขบั รถ ก. ขบั รถโดยใชค้ วามเร็ว 150 กิโลเมตรต่อชวั่ โมง ในกรณีที่ถนนวา่ ง ข. การขบั รถปาดหนา้ รถคนั อื่นอยา่ งกระช้นั ชิด ค. หยุดรถให้คนข้ามถนนในบริเวณทม่ี คี นข้าม ง. ขบั รถชา้ ๆ ในช่องทางเดินรถทางขวา 101. ข้อใดทผี่ ้ขู ับขี่ไม่ควรปฏบิ ตั ิ ก. ขบั รถดว้ ยความระมดั ระวงั ขณะฝนตก ถนนล่นื ข. ปฏิบตั ิตามกฎจราจรอยา่ งเคร่งครัด ค. ใหส้ ญั ญาณไฟเพอ่ื ขอแซง ง. ขบั รถด้วยความเร็วสูงในทท่ี ม่ี กี ารจราจรพลกุ พล่าน 102. การเปลย่ี นช่องทางจราจร ควรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. เปลี่ยนช่องทางทนั ที เม่ือความเร็วเหมาะสม ข. เปิ ดสญั ญาณไฟแลว้ เปล่ียนช่องทางไดเ้ ลย ค. เปลี่ยนช่องทางโดยเร็วเพ่อื หลบรถคนั อนื่ ง. ดูกระจกมองข้าง เปิ ดสัญญาณไฟแล้วเปลยี่ นช่องทางเมอ่ื เหน็ ว่าปลอดภยั 103. มารยาททด่ี ใี นการจอดรถ ควรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. จอดรถซอ้ นคนั ข. จอดบริเวณที่มีเคร่ืองหมายหา้ มจอด ค. จอดโดยไม่กดี ขวางผ้อู น่ื และไม่ฝ่ าฝื นกฎจราจร ง. จอดรถขวางทางเขา้ -ออก 104. การใช้ไฟสูงหรือไฟขอทาง เพอื่ ไล่รถคนั หน้าแสดงว่าผู้ขบั ขข่ี าดสิ่งใด ก. มารยาทในการขบั ขี่ ข. เทคนิคการขบั ขี่ท่ีดี ค. จิตสานึกในการขบั ข่ีอยา่ งปลอดภยั ง. การบารุงรักษาเครื่องยนต์
105. ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง ก. รถทุกคนั ต้องวงิ่ ตามความเร็วทก่ี ฎหมายกาหนด ข. รถวง่ิ เร็วตอ้ งเปิ ดไฟสูงตลอดเวลาเพือ่ ใหม้ องเห็นทาง ค. รถเก่า แรงนอ้ ย ตอ้ งหลบซา้ ย ง. รถใหมร่ าคาแพง ตอ้ งวง่ิ ขวา 106. ผู้ขับรถทดี่ คี วรมคี ณุ สมบตั ิ อย่างไร ก. ความอดทนอดกล้นั ข. การใหอ้ ภยั ผอู้ ื่น มองโลกในแง่ดี ค. ความรับผดิ ชอบ ง. ถูกทกุ ข้อ 107. อุบตั เิ หตบุ นท้องถนนส่วนใหญ่เกดิ จากอะไร ก. รถ ข. ผู้ขบั ขี่ ค. ถนน ง. ส่ิงแวดลอ้ ม 108. สาเหตุใดทท่ี าให้เกดิ อบุ ัตเิ หตมุ ากทส่ี ุด ก. แซงในที่หา้ มแซง ข. ขบั รถจ้ีทา้ ยรถคนั หนา้ ค. ขบั รถเร็วเกนิ อตั ราทกี่ ฎหมายกาหนด ง. ขบั รถตดั หนา้ อยา่ งกระช้นั ชิด
ข้อสอบใบขบั ขหี่ มวดที่ 8 – เทคนิคการขบั รถอย่างปลอดภยั 1. การขับรถขณะฝนตก ข้อใดทผี่ ู้ขบั ข่ีไม่ควรปฏิบัติ ก. เปิ ดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง ข. เปิ ดท่ีปัดน้ำฝน ค. ใชค้ วำมระมดั ระวงั เพม่ิ มำกข้ึน ง. ลดควำมเร็วของรถลงกวำ่ ปกติ 2. เมอื่ เกดิ รถเสีย ควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. จอดรถทิ้งไวก้ ลำงถนน ข. นำกิ่งไมว้ ำงไวท้ ำ้ ยรถ ค. เผำป่ ำขำ้ งทำงหำกเป็ นกลำงคนื ง. นารถจอดเข้าข้างทาง, เปิ ดไฟฉุกเฉิน 3. สัญญาณไฟเตอื นบนแผงหน้าปัดรถสีใด ทไ่ี ม่ควรปรากฏขณะขบั รถ ก. สีแดง ข. สีเขียว ค. สีเหลือง ง. สีฟ้ ำ 4. การจบั พวงมาลยั นวิ้ มอื ควรอยู่ในลกั ษณะใด ก. นิว้ มอื ท้งั ห้า จบั พวงมาลยั ให้กระชับ สามารถหมนุ ได้คล่องตวั ข. นิ้วมือท้งั หำ้ กำพวงมำลยั ใหแ้ น่นที่สุด ค. นิ้วมือท้งั หำ้ แตะท่ีพวงมำลยั สำมำรถหมุนพวงมำลยั ดว้ ยมือขำ้ งเดียว ง. ใชน้ ิ้วหวั แม่มือและนิ้วช้ีจบั พวงมำลยั เพียงสองนิ้ว 5. เมอ่ื ผ้ขู บั ขขี่ บั รถเสียหลกั บนถนนเปี ยกลนื่ ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. เหยยี บเบรกทนั ที แลว้ คอ่ ยๆออกตวั เร่งควำมเร็วใหม่ ข. ถอนคนั เร่ง เหยยี บเบรกเพ่ือใชเ้ กียร์ต่ำ ค. ถอนคนั เร่ง จบั พวงมำลยั ใหม้ นั่ ประคองรถตอ่ ไป ง. ต้งั สตใิ ห้มนั่ จบั พวงมาลยั ให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป 6. ขณะขับรถขนึ้ ทางลาดชัน ถ้าเคร่ืองยนต์ดบั ควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. เหยยี บเบรก ดงึ เบรกมอื เข้าเกยี ร์ว่าง และ ตดิ เคร่ืองใหม่ ข. เหยยี บเบรก ดึงเบรกมือ และ ติดเคร่ืองใหม่ ค. เปล่ียนเป็ นเกียร์ต่ำ ดึงเบรกมือ และติดเคร่ืองใหม่ ง. ปลอ่ ยใหร้ ถไหลไป แลว้ คอ่ ยประคองรถ
7. ขณะขับรถ ถ้ากระจกบงั ลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฎบิ ตั อิ ย่างไร ก. ต้งั สติ ลดความเร็ว จอดรถข้างทาง เปิ ดไฟฉุกเฉิน ข. ต้งั สติ เปิ ดไฟฉุกเฉิน และขบั รถตอ่ ไป ค. ต้งั สติ เปิ ดไฟฉุกเฉิน และหยดุ รถทนั ที ง. ต้งั สติ จอดรถขำ้ งทำง 8. เพอ่ื ความปลอดภัยในการขบั รถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอปุ กรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็ นลาดบั แรก ก. ทป่ี ัดนา้ ฝน ข. น้ำในหมอ้ น้ำ ค. น้ำกลน่ั แบตเตอร่ี ง. ตรวจเช็คประตหู นำ้ ต่ำงรถ 9. ข้อใดเปิ ดไฟหน้ารถไม่ถูกต้อง ก. เม่ือไมส่ ำมำรถมองเห็นทำงขำ้ งหนำ้ ในระยะต่ำกวำ่ 150 เมตร ข. เมอ่ื ต้องเร่งรีบไปทางาน ค. เมื่อฝนตกหนกั ง. เม่ือมีควนั ไฟปกคลมุ ถนน 10. ในขณะทข่ี บั รถอยู่ มกี ลน่ิ เหมน็ ไหม้ แอร์เร่ิมไม่เยน็ เครื่องยนต์เร่งไม่ขนึ้ ควรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขบั ต่อไปเรื่อยๆ ข. ลดควำมเร็วลงแลว้ ขบั ตอ่ ไป ค. หยดุ รถทนั ทีกลำงถนนหำ้ มเคลื่อนยำ้ ย ง. จอดรถในทป่ี ลอดภัยแล้วเรียกช่างมาตรวจเช็ค 11. การหยุดรถบนทางลาดชัน ควรปฏิบตั ติ ามลาดบั อย่างไรจงึ จะปลอดภยั ก. เหยยี บคลทั ช์ เหยยี บเบรก ดงึ เบรกมอื และปลดเกยี ร์ว่าง ข. เหยยี บคลทั ช์ เหยยี บเบรก ปลดเกียร์วำ่ ง ค. เหยยี บคลทั ช์ เหยยี บเบรก ดึงเบรกมือ ง. เหยยี บเบรกแลว้ ดึงเบรกมือ 12. การหมนุ พวงมาลยั รถ ขณะจอดรถอยู่กบั ทจ่ี ะมผี ลอย่างไร ก. ทำใหห้ มนุ พวงมำลยั ง่ำยข้ึน ข. ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ ค. สิ้นเปลืองน้ำมนั เพำเวอร์ ง. สิ้นเปลืองน้ำมนั เช้ือเพลิง
13. การหยดุ รถอย่างกะทนั หนั (รถไม่ใช้เบรก ABS) ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. เหยยี บเบรกแรงๆโดยไม่ตอ้ งถอนเบรก ข. เหยยี บคลทั ชก์ ่อน แลว้ จึงเหยยี บเบรก ค. เหยยี บเบรกและคลทั ชพ์ ร้อมกนั ง. เหยยี บและปล่อยเบรกสลบั กนั (ยา้ เบรกซ้าๆ) 14. รถทขี่ ับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยยี บเบรกอย่างกะทนั หนั (รถไม่ใช้เบรก ABS) จะมผี ลอย่างไร ก. จะหยดุ รถไดต้ ำมระยะที่กำหนด ข. ล้อจะลอ็ ค และรถจะหมุน ค. รถจะคอ่ ยๆ ชะลอควำมเร็วลง ง. ลอ้ จะลอ็ ค และรถจะหยดุ ทนั ที 15. ขณะขบั รถยางรถแตก จะมอี าการอย่างไร ก. พวงมำลยั รถจะไร้น้ำหนกั ข. พวงมาลยั จะหนัก รถจะเอยี ง ค. รถหยดุ กะทนั หนั ง. เบรกจะไมท่ ำงำน 16. ในขณะขับรถ ยางรถแตกหรือระเบดิ ผ้ขู ับข่คี วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. คมุ สติ บงั คบั พวงมาลยั ลดความเร็วลงและไม่ควรเหยยี บเบรกกะทนั หนั ข. รีบเหยยี บเบรกใหเ้ ร็วท่ีสุด ค. หมุนพวงมำลยั อยำ่ งรวดเร็วเพอ่ื หลบเขำ้ ขำ้ งทำง ง. ปลดเกียร์วำ่ งแลว้ รีบเหยยี บเบรก 17. ในขณะทกี่ าลงั ขบั รถ ถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิ ด ผ้ขู บั ขี่ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ลดความเร็วแล้วจอดข้างทาง เพอ่ื ปิ ดฝากระโปรงให้เรียบร้อย ข. หกั เล้ียวรถเขำ้ ขำ้ งทำงทนั ที เพอ่ื ปิ ดฝำกระโปรงใหเ้ รียบร้อย ค. เบรกกะทนั หนั ง. เหยยี บคนั เร่งใหม้ ิดเพื่อฝำกระโปรงจะไดก้ ระแทกปิ ด 18. ข้อใดเป็ นวธิ ีแก้ไขเบอื้ งต้นเมอื่ รถเกดิ ไฟลดั วงจร ก. หำผำ้ หนำ ๆ มำตบ ข. ตดั กระแสไฟ หรือหาทางงดั ข้วั แบตเตอรี่ออกก่อน ค. วงิ่ หำน้ำมนั มำรำด ง. ใชท้ รำยสำดใส่
19. การปรับระดบั ทน่ี งั่ คนขับห่างเกนิ ไป จะมผี ลอย่างไร ก. ทำใหเ้ ขำ้ เกียร์ไดง้ ่ำย ข. ทำใหท้ ศั นวสิ ยั ในกำรมองเห็นชดั เจนดีมำก สำมำรถตดั สินใจไดด้ ี ค. บังคบั พวงมาลยั ลาบาก ใช้อปุ กรณ์ต่างๆ ไม่สะดวก เกดิ เหตุฉุกเฉินไม่สามารถใช้คลทั ช์ และเบรกได้ ง. ทำใหเ้ บรกรถสะดวก 20. การตรวจสอบว่าเขม็ ขัดนิรภยั ยงั ใช้งานได้ดหี รือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร ก. กระตุกดงึ สายเขม็ ขัดอย่างเร็ว แล้วสายเขม็ ขดั ต้องลอ็ ค ข. ดูวำ่ เป็ นของใหมห่ รือไม่ ค. ดูวำ่ เขม็ ขดั มียหี่ อ้ หรือไม่ ง. ตอ้ งมีสีเขม้ ๆ 21. ถ้ารถเสียหลกั ลนื่ ไถลพร้อมเสียการทรงตวั ควรปฏบิ ัตอิ ย่างไรเป็ นลาดบั แรก ก. รีบเขำ้ เกียร์ต่ำเพ่ือชะลอควำมเร็ว ข. ค่อยๆ เหยยี บแป้ นคลทั ช์ ค. หมุนพวงมำลยั ไปซำ้ ยบำ้ ง ขวำบำ้ ง ง. ลดความเร็วจบั พวงมาลยั ให้มนั่ 22 การจอดรถชิดขอบทาง ล้อหน้าควรอยู่ในลกั ษณะใด ก. หนั เขำ้ หำขอบทำง ข. อยอู่ ยำ่ งไรก็ได้ ค. ตรงและขนานกบั ขอบทางหรือฟุตบาต ง. หนั ออกจำกขอบทำง 23. การเข้าเกยี ร์ถอยหลงั ขณะรถยงั ไม่หยุดน่ิงมผี ลเสียอย่างไร ก. ไมม่ ีผลต่อส่วนใดของรถ ข. เข้าเกยี ร์ยากและทาให้เกยี ร์เสียเร็วกว่าปกติ ค. ทำใหน้ ้ำมนั เกียร์หมดเร็ว ง. เครื่องยนตก์ ินน้ำมนั เครื่อง 24. การขบั รถถอยหลงั ควรใช้ความเร็วระดบั ใด ก. ถอยช้าๆ แล้วใช้ความระมดั ระวงั ข. ถอยแบบไหนกไ็ ด้ ค. ถอยเหมือนกบั เดินหนำ้ ง. ใชค้ วำมเร็วตำมสภำพของรถ 25. ข้อใดเป็ นการสตาร์ทเคร่ืองยนต์ทถี่ ูกต้อง ก. ขนึ้ เบรกมอื -ปลดเกยี ร์ว่าง-ปิ ดอุปกรณ์ไฟฟ้ า-เหยยี บคลทั ช์-สตาร์ทเคร่ืองยนต์ ข. ปลดเกียร์วำ่ ง-ข้ึนเบรกมือ-สตำร์ทเคร่ืองยนต์
ค. เหยยี บคลทั ช-์ สตำร์ทเคร่ืองยนต์ ง. ปลดเบรกมือ-ปิ ดอปุ กรณ์ไฟฟ้ ำ-สตำร์ทเครื่องยนต์ 26. หากเกดิ ฝนตกหนกั จนมองเหน็ ทางไม่ชัดเจน ผู้ขบั ขีค่ วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. จอดรถทนั ที ข. เปิ ดไฟหนำ้ เร่งควำมเร็วผำ่ นบริเวณที่ฝนตกหนกั ค. เร่งควำมเร็วใหผ้ ำ่ นบริเวณท่ีฝนตกโดยเร็ว ง. จอดรถบริเวณทปี่ ลอดภัย เปิ ดไฟหน้ารถและเปิ ดไฟฉุกเฉิน 27. การจบั พวงมาลยั ขณะขับรถทางตรง มอื ขวาและซ้ายของผ้ขู บั ข่ี ควรอยู่ในตาแหน่งลกั ษณะใดของหน้าปัดนาฬิกา ก. ตาแหน่งเลข 2 และเลข 10 ข. ตำแหน่งเลข 4 และเลข 10 ค. ตำแหน่งเลข 3 และเลข 10 ง. ตำแหน่งเลข 6 และเลข 10 28. เมอื่ ขบั รถในขณะฝนตก ท่านไม่ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. เปิ ดท่ีปัดน้ำฝน ข. เปิ ดไฟฉุกเฉินตลอดทาง ค. ขบั ดว้ ยควำมระมดั ระวงั มำกข้ึน ง. ลดควำมเร็วของรถ 29. เมอื่ ขบั รถในขณะฝนตก ท่านไม่ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. เปิ ดท่ีปัดน้ำฝน ข. เปิ ดไฟฉุกเฉินตลอดทาง ค. ขบั ดว้ ยควำมระมดั ระวงั มำกข้นึ ง. ลดควำมเร็วของรถ 30. จากรูป หากท่านต้องการทจี่ ะขบั ตรงผ่านไป ท่านควรระมดั ระวงั และปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ลดความเร็วและเพมิ่ ความระมดั ระวงั ทกุ คร้ังก่อนถงึ ทางแยก ข. ระวงั รถดำ้ นซำ้ ยเพรำะอยใู่ กลช้ ่องทำงของเรำ ค. ระวงั รถทำงขวำเพยี งอยำ่ งเดียว และขบั ต่อไป ง. ขบั ดว้ ยควำมเร็วเท่ำเดิม
31. จากรูป หากท่านต้องการทจ่ี ะขับตรงผ่านไป ท่านควรระมดั ระวงั และปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ชะลอรถและให้รถทางขวามอื ขับผ่านไปก่อน ข. ขบั รถตอ่ ไปไดเ้ ลยเพรำะเรำคือทำงเอก ค. ขบั ดว้ ยควำมเร็วเท่ำเดิม ง. เร่งเคร่ืองยนตเ์ พอื่ ขบั ผำ่ นไปก่อน 32. จากรูป หากท่านต้องการทจี่ ะเลยี้ วขวา ท่านควรระมดั ระวงั และปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. หยดุ รถใหห้ ่ำงเพอ่ื ควำมปลอดภยั ข. ขบั ไปในช่องทำงขวำเพือ่ เล้ียวไดเ้ ลย ค. เล้ียวพร้อมกบั รถคนั หนำ้ ไดท้ นั ที ง. ชะลอรถเนอ่ื งจากรถคนั หน้าจะเลยี้ วซ้าย 33. จากรูป หากท่านพบเห็นสัญญาณจราจรเปลย่ี นเป็ นสีเหลอื ง ท่านควรระมดั ระวงั และปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. เร่งควำมเร็วและขบั ผำ่ นไป ข. บีบแตรและขบั ผำ่ นไป ค. ค่อยๆ เหยยี บเบรกยา้ ๆ เพอ่ื เตอื นรถข้างหลงั ระวงั และเตรียมหยดุ ง. เหยยี บเบรกเพอื่ หยดุ รถทนั ที
34. จากรูป หากท่านต้องการทจี่ ะเลยี้ วซ้าย ท่านควรระมดั ระวงั และปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ลดความเร็ว และระมดั ระวงั รถด้านซ้าย รวมท้งั คนเดมิ ข้ามถนน ข. เล้ียวซำ้ ยไดท้ นั ที ค. เร่งควำมเร็วเพอ่ื ใหส้ ำมำรถเล้ียวไดเ้ ร็ว ง. บีบแตรก่อนทำกำรเล้ียวรถ 35. จากรูป หากท่านต้องการทจ่ี ะเลยี้ วซ้าย ท่านควรระมดั ระวงั และปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั ตำมรถคนั หนำ้ ใหช้ ิดและทำกำรเล้ียวทนั ที ข. เปิ ดสัญญาณไฟเลยี้ ว ชะลอรถ หยุดให้คนเดนิ ถนนข้ามทางก่อน ค. บีบแตรเพ่ือใหค้ นเดินขำ้ มถนนดว้ ยควำมรวดเร็ว ง. เปิ ดสญั ญำณไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนรถดำ้ นหลงั 36. จากรูป หากท่านต้องการทจี่ ะเลยี้ วขวา ท่านควรระมดั ระวงั และปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ควรเล้ียวใหท้ นั เน่ืองจำกมีรถคนั ใหญข่ วำงรถฝั่งตรงขำ้ ม ข. เร่งควำมเร็วเพื่อเล้ียวขวำทนั ที ค. หยุดรอในตาแหน่งทจ่ี ะเลยี้ วและให้รถด้านตรงข้ามผ่านไปก่อน ง. ขบั รถไปในช่องทำงดำ้ นขวำเพอ่ื ทำกำรเล้ียว
37. จากรูป หากท่านต้องการทจี่ ะเลยี้ วขวา ท่านควรระมดั ระวงั และปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. เปิ ดสัญญาณไฟเลยี้ ว ชะลอรถ หยดุ ให้คนเดนิ ถนนข้ามทางก่อน ข. ขบั ตำมรถคนั หนำ้ ใหช้ ิดและทำกำรเล้ียวทนั ที ค. บีบแตรเพ่ือใหค้ นเดินขำ้ มถนนดว้ ยควำมรวดเร็ว ง. ขบั รถออกในช่องทำงขวำเพอื่ ทำกำรเล้ียว 38. จากรูป หากท่านต้องการขบั ตรงไป ท่านควรระมดั ระวงั และปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. บีบแตรเพ่ือใหร้ ถคนั หนำ้ เร่งควำมเร็ว ข. ขบั ต่อไปดว้ ยควำมเร็วเท่ำเดิม ค. ลดความเร็วลง และให้ทางแก่รถทเี่ ลยี้ วออกมา ง. เปิ ดไฟฉุกเฉินและขบั ผำ่ นไปดว้ ยควำมรวดเร็ว 39 จากรูป รถคนั ใดอยู่ในจดุ บอดของรถคนั สีขาว ก. รถ ค. ข. รถ ก. และรถ ข. ค. รถ ข. และรถ ค. ง. รถ ก. และรถ ค.
40. ด้วยสาเหตใุ ด ผู้ขบั ขจ่ี ะต้องหนั หน้ามองไปทางด้านข้างก่อนทาการเปลยี่ นช่องจราจร ก. จะทำใหส้ ำมำรถเปลี่ยนช่องจรำจรไดร้ วดเร็วมำกข้ึน ข. เพอื่ ตรวจดูจุดบอดของรถด้านขวา ค. เพอ่ื เปล่ียนช่องจรำจรในกรณีที่ไม่ตอ้ งกำรเปิ ดสญั ญำณไฟเล้ียว ง. เพื่อใหส้ ำมำรถเห็นผคู้ นที่เดินอยบู่ ริเวณทำงเดินเทำ้ 41. ข้อใดคอื ความหมายทถ่ี ูกต้องของจดุ บอด ก. บริเวณดำ้ นหลงั ของรถท่ีกระจกมองหลงั จบั ภำพไม่ได้ ข. บริเวณทคี่ นขับไม่สามารถมองเหน็ ได้ชัดในขณะขบั รถ ค. บริเวณดำ้ นหนำ้ ของรถท่ีผขู้ บั ขี่ไมส่ ำมำรถมองเห็นได้ ง. บริเวณดำ้ นซำ้ ยของรถท่ีผขู้ บั ขไ่ี ม่สำมำรถมองเห็นได้ 42. ถ้าเคร่ืองดบั ขณะกาลงั เคลอื่ นทอี่ อกจากทางลาดชัน ท่านควรปฏิบัตอิ ย่างไรเป็ นลาดบั แรก ก. ทาการเบรกทนั ทเี พอ่ื ไม่ให้รถไหล ข. เปล่ียนไปเขำ้ เกียร์วำ่ ง ค. ติดเครื่องใหม่ ง. เปิ ดไฟฉุกเฉิน 43. การขบั ขข่ี นึ้ หรือลงทางลาดชัน ควรใช้เกยี ร์ใด ก. เกยี ร์ตา่ ข. เกียร์สูง ค. เกียร์วำ่ ง ง. เกียร์ใดก็ได้ 44. ในการขบั ขลี่ งทางลาดชัน ผ้ขู บั ขค่ี วรใช้เกยี ร์ตา่ เนอ่ื งจากสาเหตใุ ด ก. เพอื่ เพิม่ กำลงั ของรถ ข. เพอ่ื หน่วงความเร็วของรถ ค. เพ่อื ลดควำมร้อนของเคร่ืองยนต์ ง. เพ่ือเพิม่ ควำมเร็วของรถ 45. เพราะเหตุใดจงึ ไม่ควรใช้เบรกอย่างต่อเนือ่ งเป็ นเวลานานในขณะขบั ขล่ี งทางลาดชัน ก. จะทำใหเ้ สียเวลำในกำรเดินทำง ข. จะทำใหเ้ ปลืองน้ำมนั ค. จะทาให้ผ้าเบรกไหม้ ง. จะทำใหร้ ถเคลื่อนตวั ไดช้ ำ้
46. ในการขบั ขี่ลยุ นา้ ผู้ขบั ขค่ี วรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. ลดความเร็วลง แต่เร่งเครื่องยนต์ให้มากกว่าปกตเิ ลก็ น้อย ข. เปิ ดไฟฉุกเฉิน ค. ขบั รถดว้ ยควำมเร็วมำกข้ึน ง. ขบั รถดว้ ยควำมเร็วปกติ 47. เหตุใดขณะขบั รถลยุ นา้ จงึ ต้องเร่งเคร่ืองยนต์มากกว่าปกตเิ ลก็ น้อย ก. เพื่อใหร้ ถมีควำมเร็วคงที่ ข. เพอ่ื ใหเ้ คร่ืองยนตร์ ้อน ค. เพือ่ ใหร้ ถมีควำมเร็วมำกข้ึน ง. เพอื่ ป้ องกนั ไม่ให้เครื่องยนต์ดบั 48. ท่านควรปฏบิ ัตอิ ย่างไรขณะขบั รถผ่านบริเวณนา้ ท่วม ก. ขับช้าๆ ตามหลงั รถคนั หน้าในระยะห่างพอสมควร ข. พยำยำมไมใ่ ชเ้ บรกโดยเดด็ ขำด ค. พยำยำมขบั จ้ีทำ้ ยรถคนั หนำ้ ตลอดเวลำ ง. เปิ ดไฟฉุกเฉินตลอดเวลำ 49. หลงั จากขบั รถผ่านบริเวณนา้ ท่วม ท่านควรทดสอบระบบใดต่อไปนี้ ก. ระบบสตำร์ทเคร่ืองยนต์ ข. ระบบไฟฟ้ ำ ค. ระบบเบรก ง. ระบบช่วงลำ่ ง 50. ข้อใดต่อไปนคี้ อื ประโยชน์สูงสุดของการชะลอรถด้วยเคร่ืองยนต์ในขณะลงทางลาดชัน ก. ลงทางลาดชันด้วยความปลอดภัย ข. ลดกำรสึกหรอของผำ้ เบรก ค. ช่วยประหยดั น้ำมนั ง. เพิ่มกำรทรงตวั ของรถ 51. เพราะเหตุใดรถจงึ ลนื่ ไถลได้ง่ายขณะฝนตกใหม่ๆ ก. น้ำฝนทำใหถ้ นนชำรุดเป็ นหลมุ เป็ นบ่อ ข. นา้ ฝนจะกลายเป็ นแผ่นฟิ ล์มรองรับระหว่างยางกบั พนื้ ถนน ค. ถนนคอนกรีตดูดซบั น้ำฝนไดเ้ ป็ นอยำ่ งดี ง. พ้นื ถนนปรบั อุณหภมู ิเร็วเกินไป
52. ข้อใดไม่ควรปฏิบัตเิ มอ่ื ขบั ขใี่ นขณะฝนตกหนัก ก. ขบั รถเร็วและกระแทกเบรกรถอย่างรุนแรง ข. ขบั ดว้ ยควำมเร็วต่ำ ค. เปิ ดไฟหนำ้ รถ ง. หยดุ รถรอบนถนน 53. ข้อใดต่อไปนปี้ ฏบิ ตั ไิ ด้ถูกต้องสาหรับการขับขใี่ นเวลากลางคนื ก. เปิ ดไฟสูงตลอดเวลำขณะขบั ข่ี ข. ขับให้ช้ากว่าปกตหิ รือไม่เร็วกว่าสายตาทม่ี องเห็น ค. ขบั ใหเ้ ร็วไดต้ ำมปกติ ง. เปิ ดไฟฉุกเฉินตลอดเวลำขณะขบั ข่ี 54. หลงั จากเกดิ อบุ ตั เิ หตุ ผ้ขู ับขีต่ ้องปฏบิ ัตสิ ิ่งใดเป็ นอนั ดบั แรก ก. แจง้ กภู้ ยั ข. แจง้ ตำรวจ ค. แจง้ ประกนั ภยั รถยนต์ ง. ให้สัญญาณเพอ่ื เตอื นให้รถอนื่ ทราบ 55. หากมผี ู้บาดเจบ็ หลงั จากเกดิ อบุ ัตเิ หตุ ท่านควรปฏบิ ัตอิ ย่างไรหากตวั ท่านมไิ ด้รับบาดเจบ็ ก. ปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นแล้วรีบนาส่งโรงพยาบาล ข. ไม่ตอ้ งสนใจหำกผบู้ ำดเจบ็ ไมใ่ ช่คนที่ท่ำนรูจ้ กั ค. แจง้ ตำรวจที่อยบู่ ริเวณใกลเ้ คียง ง. รีบแจง้ หน่วยกภู้ ยั ใหเ้ ร็วท่ีสุด 56. ข้อใดถูกต้องเกยี่ วกบั การขับขอี่ ย่างประหยดั นา้ มนั ก. รถจะประหยดั น้ำมนั มำกข้นึ หำกวงิ่ ดว้ ยควำมเร็วที่สูงข้ึน ข. รถจะประหยดั นา้ มนั หากขับด้วยความเร็วคงท่ี ค. รถจะประหยดั น้ำมนั มำกข้ึนหำกเร่งเคร่ืองบ่อยคร้ัง ง. รถจะประหยดั น้ำมนั มำกข้ึนหำกวงิ่ ดว้ ยควำมเร็วที่ไม่คงท่ี 57. หากกาลงั ขับขีร่ ถอยู่บนถนน แล้วฝนเร่ิมตก ผ้ขู ับขค่ี วรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ลดความเร็วของรถลง ข. เร่งควำมเร็วของรถเพ่ือใหผ้ ำ่ นฝนไปใหเ้ ร็ว ค. เปิ ดไฟฉุกเฉินและรีบขบั ผำ่ นบริเวณน้นั ไป ง. หยดุ รถขำ้ งทำงทนั ที
58. เมอื่ ขบั รถในเวลากลางคนื ผู้ขบั ขคี่ วรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ทงิ้ ระยะห่างระหว่างรถคนั หน้าให้มากกว่าปกติ ข. เปิ ดไฟฉุกเฉินขณะทำกำรแซงรถคนั หนำ้ ค. พยำยำมขบั รถเขำ้ ไปใหใ้ กลก้ บั รถคนั หนำ้ เพือ่ ใหร้ ถคนั หนำ้ เห็นรถเรำไดช้ ดั เจน ง. ใชไ้ ฟสูงตลอดทำงของกำรขบั รถ 57. ก่อนการขบั รถเป็ นระยะทางไกลๆ ผ้ขู บั ขี่ควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. ดื่มเคร่ืองดื่มชูกำลงั ก่อนกำรเดินทำง ข. พกั ผ่อนให้เพยี งพอ ค. รับประทำนอำหำรก่อนกำรเดินทำง ง. หำเพือ่ นนงั่ ไปดว้ ยขณะเดินทำง 58. จากสถานการณ์ดงั รูป หากต้องการจะเคลอ่ื นทตี่ ่อไป ผ้ขู บั ขค่ี วรปฏิบตั อิ ย่างไรเป็ นลาดบั แรก ก. เปิ ดสญั ญำณไฟ ข. ตรวจสอบความปลอดภยั ทางด้านขวา ค. บีบแตรใหส้ ญั ญำณ ง. ลดกระจกแลว้ โบกมือขอทำง 59. เมอื่ ต้องขบั รถเข้าใกล้ทางรถไฟทไี่ ม่มแี ผงก้นั ข้อใดต่อไปนกี้ ล่าวถูกต้อง ก. ชะลอรถและควรเตรียมพร้อมทจี่ ะหยุดรถตลอดเวลา ข. เพิม่ ควำมเร็วเพอื่ ใหผ้ ำ่ นไปไดเ้ ร็ว ค. บีบแตรเตือนเพ่อื ควำมปลอดภยั ง. เปิ ดกระจกเพือ่ ฟังเสียงสญั ญำณเตือนรถไฟ
60. เมอื่ ขบั ผ่านทางทม่ี ปี ้ ายเตอื นว่า “ระวงั ทางข้างหน้าหนิ หล่นทบั เส้นทางบ่อย” หรือป้ ายเตอื นดงั ในรูป ท่านควรปฏบิ ตั ิ อย่างไร ก. ชะลอความเร็วลง ขบั ข่ดี ้วยความระมดั ระวงั มากขนึ้ ข. รีบเร่งควำมเร็วเพ่อื ผำ่ นไปอยำ่ งรวดเร็ว ค. ไม่ตอ้ งทำอะไร เพรำะโอกำสท่ีจะเกิดยำก ง. หลีกเลี่ยงไปใชเ้ สน้ ทำงอื่น 61. เมอื่ พบว่าไฟไหม้เครื่องยนต์ขณะขบั รถ ผู้ขบั รถควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถลงแมน่ ้ำขำ้ งทำง ข. จอดและสละรถทนั ที ค. ต้งั สติ ค่อยๆ ขบั รถจอดข้างทาง ง. แจง้ กภู้ ยั ทำงหลวง 62. ส่ิงใดต่อไปนีม้ ผี ลทาให้รถเปลอื งนา้ มนั ก. ดอกยำงสึกหรอ ข. ขบั รถดว้ ยควำมเร็วคงที่ ค. ระยะกำรปรับเบรกปกติ ง. บรรทกุ นา้ หนกั เกนิ กว่าทก่ี าหนด 63. ปัจจยั ใดต่อไปนมี้ ผี ลต่อการเกดิ สถานการณ์อนั ตรายมากทส่ี ุด ก. ความไม่พร้อมของคนขบั ข. ลกั ษณะทำงภูมิศำสตร์ ค. กำรเคลื่อนท่ีของรถ หรือคนเดินเทำ้ ง. สภำพผิวจรำจร 64. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกบั การขบั รถอย่างปลอดภัย ก. หำกง่วงนอนมำกควรขบั รถดว้ ยควำมเร็วสูง เพ่อื ใหต้ ่ืนตวั ข. การเว้นระยะห่างจากรถคนั หน้าในขณะฝนตกควรมากกว่าการขับรถในสภาวะปกติ ค. ไมจ่ ำเป็นตอ้ งตรวจสภำพรถก่อนออกเดินทำง ง. ควรขบั รถดว้ ยควำมเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชว่ั โมง เพ่อื ถึงท่ีหมำยเร็วข้ึน
65. จากรูป หากท่านต้องการแซงรถข้างหน้าแล้วกลบั ช่องทางเดนิ รถด้านซ้าย ท่านจะต้องให้สัญญาณไฟอย่างไร ก. ตรวจสอบความปลอดภยั แล้วเปิ ดสัญญาณไฟเลยี้ วขวาก่อนแซง ข. เปิ ดสญั ญำณไฟเล้ียวซำ้ ยขณะแซง ค. เปิ ดสญั ญำณไฟเล้ียวขวำก่อนและตำมดว้ ยสญั ญำณไฟเล้ียวซำ้ ยขณะแซง ง. ไมจ่ ำเป็ นตอ้ งเปิ ดสญั ญำณไฟหำกรถคนั หนำ้ ขบั ดว้ ยควำมเร็วต่ำ 66. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขบั รถตามรถคนั หน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคนั หน้าเท่าใดจงึ จะปลอดภยั เมอ่ื รถคนั หน้าหยุด ก. หน่ึงช่องรถ ข. 3 เมตร ค. 5 เมตร ง. ห่างพอสมควรและสามารถหยดุ รถได้โดยปลอดภยั 67. สถานการณ์ใดใช้ไฟฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสม ก. เปิ ดไฟฉุกเฉินในขณะที่หมอกลงจดั ข. เปิ ดไฟฉุกเฉินเม่ือกำลงั จะเล้ียวซำ้ ยบริเวณทำงแยกท่ีไม่มีสญั ญำณไฟจรำจร ค. เปิ ดไฟฉุกเฉินเพือ่ ใหผ้ ขู้ บั ขี่ท่ำนอ่ืนทรำบวำ่ ตนจะวง่ิ ตรงไป ง. เปิ ดไฟฉุกเฉินเมอ่ื รถจอดเสียอยู่บริเวณไหล่ทาง 68. รถทข่ี บั มาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยยี บเบรกกะทนั หนั (รถทไ่ี ม่มรี ะบบเบรก ABS) จะมผี ลอย่างไร ก. จะหยดุ รถไดต้ ำมระยะท่ีกำหนด ข. รถจะค่อยๆ ชะลอควำมเร็วลง ค. ล้อจะลอ็ กและรถอาจจะหมุน ง. ลอ้ จะลอ็ กและรถจะหยดุ ทนั ที 69. การหยดุ รถอย่างกะทนั หนั (รถทไ่ี ม่มรี ะบบเบรก ABS) ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. เหยยี บเบรกสลบั กบั ปล่อยเบรกเป็ นจงั หวะ ข. เหยยี บเบรกแรงๆ ค. เหยยี บเบรกเทำ้ สลบั กบั ดึงเบรกมือ ง. เหยยี บเบรกเทำ้ และดึงเบรกมือพร้อมกนั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153