Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 3 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

บทที่ 3 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

Published by onsang.wi, 2020-05-14 01:10:51

Description: บทที่ 3 ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์

Search

Read the Text Version

ฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์ Relational Database

ศัพท์เทคนิค ศพั ทเ์ ทคนิค ศพั ทท์ วั่ ไป • รีเลชนั่ (Relation) ตาราง (Table) • ทูเพลิ (Tuple) แถว (Row) หรือ Reccord • แอททริบิวต์ (Attribute) คอลมั น์ (Column), Field • คาร์ดินาลิต้ี (Cardinality) จานวนแถว (Number of Rows) • คียห์ ลกั (Primary Key) ค่าเอกลกั ษณ์ (Unique Identifier) • โดเมน (Domain) ขอบเขตค่าของขอ้ มูล



ความหมายของฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์ เป็นการจดั เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเป็นแถวและคอลมั น์ใน ลกั ษณะตารางสองมิติ ที่ประกอบไปดว้ ย Attribute ที่แสดง คุณสมบตั ิของ Relation หน่ึงๆ โดย Relation ต่างๆ ไดผ้ า่ นกระบวนการทาให้ Relation เป็นบรรทดั ฐาน (Normalized) ในระหวา่ งการออกแบบเพ่อื ลด ความซ้าซอ้ น และเพอ่ื ใหก้ ารจดั การฐานขอ้ มูลเป็นไปอบ่างมี ประสิทธิภาพ

ความหมายของรีเลชัน • รีเลชนั หมายถึง การรวบรวมขอ้ มูลจดั เกบ็ ในรูปของ ตาราง 2 มิติ ประกอบดว้ ยแอททริบิวต์ ซ่ึงแสดง คุณสมบตั ิของรีเลชนั น้นั

ข้อดขี องฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์ 1. ผใู้ ชง้ านเห็นภาพของขอ้ มูลไดง้ ่าย 2. ผใู้ ชไ้ ม่ตอ้ งรู้วา่ ขอ้ มูลจดั เกบ็ จริงอยา่ งไร รวมถึงการเขา้ ถึง วธิ ีการเรียกใชข้ อ้ มูล 3. ภาษาที่ใชใ้ นการเรียกดูขอ้ มูล มีลกั ษณะคลา้ ยภาษาองั กฤษ และไม่จาเป็นตอ้ งเขียนเป็นลาดบั ข้นั ตอน 4. การเรียกใชห้ รือเช่ือมโยงขอ้ มูลทาไดง้ ่าย

คุณลกั ษณะในการจกั เกบ็ ข้อมูลของรีเลช่ัน 1. ขอ้ มูลในแต่ละแถวจะไม่ซ้ากนั

คุณลกั ษณะในการจักเกบ็ ข้อมูลของรีเลช่ัน 2. การเรียงลาดบั ของขอ้ มูลในแต่ละแถวไม่เป็นสาระสาคญั

คุณลกั ษณะในการจกั เกบ็ ข้อมูลของรีเลชั่น 3. การเรียงลาดบั ของ Attribute จะเรียงลาดบั ก่อนหลงั อยา่ งไร กไ็ ด้

คุณลกั ษณะในการจกั เกบ็ ข้อมูลของรีเลช่ัน 4. ค่าของขอ้ มูลในแต่ละ Attribute ของ Tuple หน่ึงๆ จะบรรจุ ขอ้ มูลไดเ้ พียงค่าเดียว (Single Value)

คุณลกั ษณะในการจกั เกบ็ ข้อมูลของรีเลชั่น 5. ค่าของขอ้ มูลในแต่ละ Attribute จะบรรจุค่าของขอ้ มูล ประเภทเดียวกนั

ประเภทของคยี ์ 1. คยี ์หลกั (Primary Key) เป็น Attribute ที่มีคุณสมบตั ิของขอ้ มูลที่มีคา่ เป็น เอกลกั ษณ์ หรือไม่มีค่าซ้ากนั โดยคุณสมบตั ิน้นั จะสามารถระบุวา่ ขอ้ มูลน้นั เป็นของ Tuple ใด



ประเภทของคยี ์ เป็น Attribute ที่มีคุณสมบตั ิเป็นคียห์ ลกั อาจจะประกอบดว้ ย หลาย Attribute รวมกนั เรียกวา่ คยี ์ผสม (Composite Key)

ประเภทของคยี ์ นอกจากน้ี… ในแต่ละ Relation อาจมี Attribute ที่ทา หนา้ ท่ีเป็นคียห์ ลกั ไดม้ ากกวา่ หน่ึง Attribute โดยเรียก Attribute เหล่าน้ีวา่ คยี ์คู่แข่ง (Candidate Key) และถา้ Attribute หน่ึงถกู กาหนดเป็นคียห์ ลกั โดยมีอีก Attribute หน่ึงท่ีมีคุณสมบตั ิเป็นคียห์ ลกั แต่ไม่ถูกเลือกเป็น คียห์ ลกั จะเรียกวา่ คยี ์สารอง (Alternate Key)

ประเภทของคยี ์ 2. คยี ์นอก (Foreign Key) เป็น Attribute ใน Relation ที่ใชใ้ นการอา้ งถึง Attribute เดียวกนั ในอีก Relation หน่ึง โดยที่ Attribute น้ีมีคุณสมบตั ิเป็น คียห์ ลกั การมี Attribute น้ีปรากฎอยใู่ น Relation ท้งั สองกเ็ พอ่ื ประโยชน์ในการเชื่อมโยงขอ้ มูลซ่ึงกนั และกนั



การจดั เกบ็ ข้อมูล 1. การจดั เกบ็ ข้อมูลในฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์ ด้วยความสัมพนั ธ์ แบบหนึ่งต่อหน่ึง 2. การจดั เกบ็ ข้อมูลในฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์ ด้วยความสัมพนั ธ์ แบบหน่ึงต่อกลุ่ม 3. การจดั เกบ็ ข้อมูลในฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์ ด้วยความสัมพนั ธ์ แบบกลุ่มต่อกล่มุ

กฎเกย่ี วข้องกบั คยี ์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์ 1. กฎการบูรณภาพของเอนตติ ี้ (The Entity Integrity Rule) Attribute ใดท่ีเป็นคียห์ ลกั ขอ้ มูลใน Attribute น้นั จะตอ้ งมีค่าเป็นเอกลกั ษณ์ (Unique) และเป็นค่าวา่ ง (Null) ไม่ได้

กฎเกยี่ วข้องกบั คยี ์ในฐานข้อมูลเชิงสัมพนั ธ์ 2. กฎการบูรณภาพของการอ้างองิ (The Referential Integrity Rule) 2.1 การลบหรือแกไ้ ขขอ้ มูลแบบมีขอ้ จากดั (Restrict) 2.2 การลบหรือแกไ้ ขขอ้ มูลแบบต่อเรียง (Cascade) 2.3 การลบหรือแกไ้ ขขอ้ มูลโดยเปล่ียนเป็นค่าวา่ ง (Nullify) 2.4 การแกไ้ ขขอ้ มูลโดยกาหนดค่าปริยาย (Default)

1. แก้ไขหรือลบข้อมูลแบบเป็ นทอด ๆ • หมายถึง หากมีการแกไ้ ขหรือลบขอ้ มูลท่ีเป็นคียห์ ลกั ในรีเลชนั่ หน่ึง ระบบจะทาการแกไ้ ขหรือลบขอ้ มูล ท่ี เป็นคียน์ อกในอีกรีเลชนั หน่ึงที่อา้ งถึงขอ้ มูลของคีย์ หลกั ที่ถูกสงั่ ใหแ้ กไ้ ข หรือลบออกดว้ ย

2. การแกไ้ ขหรือลบขอ้ มลู แบบมีขอ้ จากดั • หมายถงึ การแก้ไขหรือลบข้อมูลจะกระทาได้ เม่ือ ข้อมูลทเ่ี ป็ นคยี ์หลกั ในรีเลชันหน่ึงไม่มขี ้อมูลทถี่ ูก อ้างองิ โดยคยี ์นอกจากอกี รีเลชันหน่ึง

3. การแก้ไข หรือลบข้อมูลโดยเปลยี่ นเป็ นค่าว่าง • หมายถึง การแกไ้ ขหรือลบขอ้ มลู จะทาได้ โดย ระบบจะเปลี่ยนค่าของคียน์ อกในขอ้ มูลที่อา้ งถึง ใหก้ ลายเป็นค่าวา่ ง

4. การแกไ้ ขหรือลบขอ้ มลู โดยใชค้ ่าปริยาย • หมายถึง การแกไ้ ขหรือลบขอ้ มูลจะทาได้ โดย ระบบจะทาการปรับค่าคียน์ อกที่อา้ งอิงถึงคียห์ ลกั ท่ีถูกแกไ้ ขหรือลบ ใหเ้ ป็นค่าปริยายท่ีกาหนดข้ึน



ประเภทของรีเลช่ัน 1. รีเลชั่นหลกั (Base Relation) Relation ที่ถูกกาหนดข้ึนเพอ่ื เกบ็ ขอ้ มูลเพื่อนาไปใช้ โดย Base Relation จะเป็น relation ที่เกบ็ ขอ้ มูลอยจู่ ริง



ประเภทของรีเลชั่น 2. ววิ (View) Relation ที่ถกู สร้างข้ึนตามความตอ้ งการของผใู้ ชง้ านแต่ ล่ะคน โดยจะกาหนด view ของตนข้ึนมาจากรีเลชนั่ หลกั

Virtual Table Or Derived Table

THE END


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook