กกจิ การรรมป: ัน้ (ปั้นแปง้ โดว์) อายุเดก็ : 1 ปีครง่ึ ข้ึนไป วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือให้เดก็ พัฒนาประสาทสัมผัส และเชื่อมโยงควบคมุ การเคลอ่ื นไหวร่างกาย 2. เพ่ือให้เดก็ มีสมาธิ 3. เพือ่ เดก็ ทำ�งานพงึ พาตนเองร่วมกจิ กรรมการปนั้ ตามจนิ ตนาการ อุปกรณ์ 1. ถาดรอง/เสอ่ื /พรม/โต๊ะ 2. แปง้ สาลีอเนกประสงค์ 1 ถว้ ยตวง 3. เกลือ ¼ ถว้ ยตวง 4. นำ้ �อนุ่ ¼ ถ้วยตวง 5. นำ้ �มันพชื ½ ช้อนโตะ๊ 6. สีผสมอาหาร เหลอื ง แดง นำ้ �เงิน ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม 1. ขน้ั ที่ 1 ขั้นเตรียม/แนะนำ�อุปกรณ์ • คร/ู ผดู้ ูแลเด็ก เตรยี มสถานท่กี ารจัดกิจกรรม รวมเดก็ พาร้องเพลง “ปั้น”ให้เดก็ ทุกคนน่ังรอในบรเิ วณพ้นื ที่ที่เตรียมไว้ • คร/ู ผู้ดูแลเด็กเชิญชวนเดก็ ผู้นำ� 1-3 คน ไปทชี่ น้ั วางอปุ กรณ์ และ ครแู นะนำ�อุปกรณใ์ หช้ ือ่ ทุกอย่าง และสาธติ การจับ (น้คี อื แปง้ สาลี, เกลอื , นำ้ �อุ่น, นำ้ �มันพชื , สีผสมอาหาร สีเหลอื ง สีแดง สนี ำ้ �เงิน) • คร/ู ผู้ดแู ลเด็ก สาธิตการหยบิ และอปุ กรณใ์ หเ้ ด็กดู (อย่างระมัดระวงั ) • คร/ู ผดู้ ูแลเด็ก ให้เด็กช่วยถืออปุ กรณไ์ ปบรเิ วณที่เตรียมไว้ 100 ศนู ยเ์ รียนรู้ สถานพัฒนาเดก็ เลก็ นมแมแ่ ละการเรียนรแู้ บบบูรณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
2. ขน้ั ท่ี 2 ขน้ั สาธติ • คร/ู ผู้ดูแลเดก็ สาธติ วธิ ีการทำ�แปง้ โดว์ใหเ้ ด็กๆ ดู ตามข้ันตอน ดังนี้ - นำ�แป้งสาลีอเนกประสงค์ผสมกับเกลอื คลุก ใหเ้ ขา้ กนั เติมน้ำ�อนุ่ และนำ้ �มันพืชลงไป - คัน้ ผสมแปง้ จนเขา้ กันเปน็ เน้ือเดียวกันไดเ้ นือ้ แปง้ ท่ีเนยี นนมุ่ • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สาธติ การปน้ั แปง้ โดวเ์ ปน็ รปู ทรงเรขาคณติ ทรงกลม ทรงรี ทรงกระบอก และ ผลไม้ (รปู กลว้ ย : ประสบการณเ์ ดมิ ที่เด็กเคยทำ�กิจกรรมเรือ่ งกลว้ ยมา) ให้เดก็ ดู • ครู/ผู้ดูแลเด็ก แบง่ แป้งโดวเ์ ป็นกอ้ นเทา่ ๆ กนั ใหเ้ ดก็ เปน็ รายบุคคล (ปลูกฝงั ทักษะ การหาร : การหารคือการแบ่งใหเ้ ท่ากนั ) 3. ขัน้ ที่ 3 ข้นั ปฏบิ ตั ิ • ครู/ผู้ดแู ลเดก็ ให้เด็กลงมอื ปั้นแป้งโดว์เปน็ รายบุคคล รายคู่ รายกลมุ่ ป้นั ตาม จนิ ตนาการของตนเอง 4. ขั้นท่ี 4 สรปุ /สะทอ้ นผล • ครู/ผู้ดแู ลเดก็ ชกั ชวนเด็กให้ร่วมสนทนาเกีย่ วกบั ผลงานของตนเอง • คร/ู ผ้ดู แู ลเด็ก/และเด็กรว่ มกนั ลา้ ง และเกบ็ อุปกรณ์ • เสรจ็ กิจกรรมพาเด็กไปล้างมอื ใหส้ ะอาด • ครู/ผู้ดูแลเด็ก/เด็กรว่ มกนั รอ้ งเพลงป้นั แป้งอีกครั้ง หมายเหตุ (บนั ทึกเพ่มิ เตมิ สำ� หรบั ครู) 1. การท�ำกิจกรรมกลุม่ ใหญ่/หรอื เริ่มกิจกรรมใหม่ คร/ู ผูด้ แู ลเด็ก ควรพาเดก็ รอ้ งเพลง (ส้ันๆ เน้อื หาสัมพนั ธ์กับสิ่งท่จี ะทำ� ) และแสดงทา่ ทางประกอบน�ำเข้าสู่กจิ กรรม เช่น “เพลงปนั้ แป้ง” เนอ้ื หา สวาสฎพิ ร / ท�ำนอง เพลงกุก๊ ไก่ ป้ัน ปน้ั ปน้ั ป้นั แลว้ สนกุ ด ี เด็กดี ช่วยกนั ป้ัน ปัน้ ปนั้ แป้ง ปั้นดนิ ป้นั ทราย ป้ันอย่างหลากลาย ชว่ ยกนั ป้ัน ปนั้ 2. การป้นั ครคู วรสาธิตรปู รา่ งรปู ทรง หรือสง่ิ ของตา่ งๆ ทเี่ ดก็ มปี ระสบการณเ์ ดมิ ในห้องเรยี นมาแลว้ 3. คร/ู ผ้ดู แู ลเดก็ ควรจดั อุปกรณ์การปน้ั ไดแ้ ก่ ดนิ น�้ำมัน พรอ้ มท่รี อง ไวใ้ นชน้ั วางอปุ กรณ์ใน หอ้ งเรียนเพ่ือให้เด็กได้มองเหน็ และหากเด็กสนใจ จะสามารถน�ำมาท�ำกิจกรรมไดด้ ว้ ยตนเอง กจิ กรรมตอ่ เนอ่ื ง 101 • การปน้ั ดนิ นำ้ �มนั เปน็ รปู รา่ ง รปู ทรง สตั ว์ สง่ิ ของ เปน็ ตน้ • กจิ กรรมกลางแจง้ การเลน่ ทราย (บอ่ ราย) ควรนำ�เสนอ ชน้ี ำ�ใหเ้ ดก็ ปน้ั ทราย เปน็ ตน้ • กจิ กรรมงานศลิ ปะแบบเปเปอรม์ าเช่ เพอ่ื พฒั นาการสรา้ งงานศลิ ปต์ ามจติ นาการของเดก็ ๆ เรมิ่ ต้นอย่างไร ท�ำอะไรกันบา้ งแลว้
การประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารประเมนิ โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม 1) โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม • ดา้ นรา่ งกาย : เดก็ สามารถใชก้ ลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ ประสานสมั พนั ธก์ บั สายตา, ปน้ั แปง้ เปน็ รปู รา่ งรปู ทรง สง่ิ ของตา่ งได้ • ดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจ : การรว่ มกจิ กรรมดว้ ยความสนใจ เดก็ มสี มาธิ รว่ มกจิ กรรม สนกุ สนานรา่ เรงิ แสดงออกทางอารมณไ์ ดต้ ามสถานการณอ์ ยา่ งเหมาะสม • ดา้ นสงั คม : การเลน่ /รว่ มกจิ กรรมกบั เพอ่ื น ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง และควบคมุ ตนเองได้ • ดา้ นจรยิ ธรรม : เดก็ ไมท่ ำ�ลายสง่ิ ของ อปุ กรณก์ ารปน้ั และของเลน่ อน่ื ๆ • ดา้ นการคดิ และสตปิ ญั ญา : เดก็ สามารถเรยี นรสู้ ำ�รวจ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั เดก็ สามารถปฏบิ ตั ิ เรยี งลำ�ดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมได้ • ดา้ นภาษา : เดก็ สามารถแสดงความรสู้ กึ และสอ่ื สารใชภ้ าษาไดเ้ หมาะสมตามวยั เชน่ บอกชอ่ื และเลา่ เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ผลงานของตนเองได้ เปน็ ตน้ • ดา้ นการสรา้ งสรรค์ : เดก็ สามารถปน้ั แปง้ โดวต์ ามจนิ ตนาการและเลา่ เรอ่ื งจากผลงานทป่ี น้ั ได ้ 2) การสนทนา/สอบถาม คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สนทนาพดู คยุ กบั เดก็ เกย่ี วกบั ผลงานของตนเอง เชน่ หนปู น้ั อะไร ทำ�ไมจงึ ปน้ั รปู น้ี หนอู ยากปน้ั อะไรตอ่ ไป เปน็ ตน้ 2. เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมตามเกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ ท ่ี รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 2 1 1 ด้านร่างกาย เด็กสามารถควบคมุ การ เด็กสามารถควบคุมการ เด็กไม่สามารถปฎบิ ัติ เคล่อื นไหวมือในการหยิบ เคล่อื นไหวมือในการหยบิ กจิ กรรมได้ จบั อุปกรณ์ ป้ันแป้งโดว์ ได้ จับอปุ กรณ์ ป้นั แปง้ โดว์ ได้ ด้วยตนเอง โดยมผี ู้ชีน้ �ำ 2 ดา้ นอารมณ์ เด็กมสี มาธิ รว่ มกจิ กรรม เด็กร่วมกจิ กรรม ด้วยความ เดก็ ไมส่ ามารถร่วม และจิตใจ ดว้ ยความสนใจปฏบิ ัตติ ามข้อ สนใจปฏบิ ัติตามข้อตกลงดว้ ย กิจกรรมได้ ตกลงด้วยความสนุกสนาน ความได้ โดยมีผูช้ ้นี ำ� ได้ด้วยตนเอง เด็กสามารถทำ� กิจกรรม,เล่น 3 ดา้ นสังคม เด็กสามารถท�ำกิจกรรม, เลน่ ร่วมกบั เพื่อนปฏิบตั ติ ามข้อ เด็กไมส่ ามารถทำ� ร่วมกับเพ่ือนปฏบิ ตั ิตามข้อ ตกลงได้โดยมีผู้ชี้นำ� กจิ กรรม,เลน่ รว่ มกับเพ่อื น ตกลงได้ดว้ ยตนเอง ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลงได้ 102 ศนู ยเ์ รยี นรู้ สถานพัฒนาเดก็ เล็กนมแม่และการเรียนรแู้ บบบูรณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
ท ่ี รายการประเมนิ 3 ระดบั คณุ ภาพ 1 2 4 ดา้ นจรยิ ธรรม เดก็ ปั้นแป้งโดว์ ไมท่ ำ� ลาย เด็กปัน้ แป้งโดว์ ไม่ทำ� ลาย เดก็ ไมส่ ามารถปฏบิ ัติ และปนั้ แปง้ โดว์ แล้วเกบ็ และปน้ั แปง้ โดว์ แล้วเกบ็ กจิ กรรมได้ อุปกรณ์ ล้างมอื ท�ำควาสะ อปุ กรณ์ ลา้ งมอื ท�ำควาสะ อาดไดด้ ว้ ยตนเอง อาดโดยมผี ชู้ ี้น�ำ 5 ดา้ นการคิด เด็กสามารถเรยี นรู้ส�ำรวจ เดก็ สามารถเรยี นรสู้ ำ� รวจ เดก็ ไมส่ ามารถปฏบิ ัติกิจกรรม และ โดยใชป้ ระสาทสมั ผัส เด็ก โดยใช้ประสาทสมั ผัส เดก็ เรยี งลำ� ดบั ขน้ั ตอนได้ สตปิ ญั ญา สามารถปฏบิ ัติกจิ กรรม เรียง สามารถปฏิบตั กิ ิจกรรม เรยี ง ลำ� ดบั ขั้นตอนไดด้ ว้ ยตนเอง ล�ำดับขนั้ ตอนได้ โดยมผี ชู้ นี้ �ำ 6 ดา้ นภาษา เด็กสามารถแสดงความรสู้ กึ เด็กสามารถแสดงความรสู้ ึก เด็กสามารถแสดงความรสู้ ึก และสอ่ื สารใชภ้ าษา บอกชอื่ และสือ่ สารใช้ภาษา บอกชือ่ และส่อื สารใชภ้ าษาได้ และเล่าเรือ่ งราวเกย่ี วกบั ผล และเลา่ เรอ่ื งราวเก่ียวกับผล งานของตนเองไดด้ ้วยตนเอง งานของตนเองไดโ้ ดยมีผ้ชู ้นี �ำ เด็กสามารถปนั้ แป้งโดว์ เปน็ 7 ด้านการ เดก็ สามารถป้ันแป้งโดว์ เปน็ เด็กสามารถปนั้ แปง้ โดว์ เป็น รูปรา่ งรูปทรง สง่ิ ของได้ สรา้ งสรรค์ รปู ร่างรปู ทรง สง่ิ ของ ตาม รปู ร่างรูปทรง สงิ่ ของ ไดโ้ ดย จนิ ตนาการได้ด้วยตนเอง มผี ชู้ นี้ ำ� การให้ระดับคุณภาพ ความหมาย ระบบ ระบบท่ใี ช ้ ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) ตัวเลข คำ�สำ�คญั ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) โดยมกี ารกระตนุ้ และชน้ี ำ� 3 ดี ไมป่ รากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 2 พอใช้ 1 ควรสง่ เสรมิ สง่ิ ทเ่ี ดก็ จะไดร้ บั 1. เดก็ ไดฝ้ กึ การใชก้ ลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ ในการทำ�งานประสานสมั พนั ธก์ บั สายตา 2. เดก็ มสี มาธมิ ที กั ษะการทำ�งานศลิ ปะตามจนิ ตนาการของตนเอง 3. เดก็ พฒั นาการดา้ นภาษาสอ่ื สารไดเ้ ลา่ เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ผลงานของตนเอง 103เร่มิ ต้นอย่างไร ทำ� อะไรกนั บ้างแล้ว
กพิจกิมรรพม :์ภาพจากวสั ดุธรรมชาติ อายเุ ดก็ : 2 ปขี ้ึนไป วัตถปุ ระสงค์ 1. เด็กสามารถควบคุมการเคลอื่ นไหวรา่ งกายส่วนตา่ งๆ ได้อย่างประสานสัมพนั ธก์ นั 2. เดก็ มีสมาธิทำ�กิจกรรมได้ด้วยตนเองและเล่นทำ�กจิ กรรมรว่ มกับผอู้ ่ืนได้ 3. เด็กสามารถพมิ พภ์ าพจากวัสดุธรรมชาตแิ ละนำ�เสนอเลา่ เรื่องราวได้ อุปกรณ์ 1. ถาดสำ�หรับใสอ่ ปุ กรณ์ 2 ใบ 2. จานสำ�หรับใส่สขี นาดเล็ก 3 ใบ 3. สนี ้ำ� 3 สี ประกอบดว้ ย สแี ดง, เหลอื ง, นำ้ �เงนิ (แม่ส)ี 4. ใบไม้แห้ง กา้ นกลว้ ย หัวผกั กาด อย่าง ละ 3 - 5 ชน้ิ (ขนาดความยาว ไม่ควรเกนิ 3 นว้ิ ) 5. พกู่ ันขนาดตา่ งกนั จำ�นวน 3 อัน 6. ถว้ ยเหยือกเล็ก สำ�หรบั ใสน่ ้ำ� 1 ใบ (เพื่อละลายสี) 7. กระดาษ A4 ขั้นตอนการจัดกิจกรรม 1. ขั้นที่ 1 ขน้ั เตรยี ม/แนะนำ�อุปกรณ์ • ครู/ผดู้ แู ลเดก็ เตรียมสถานทท่ี ำ�กจิ กรรม อปุ กรณ์ และทนี่ ่งั สำ�หรับเด็ก เตรียมเด็ก เชิญชวนและนำ�เด็กไปท่ชี ัน้ วางอปุ กรณ์ • แนะนำ�อปุ กรณใ์ ห้ชอื่ อุปกรณท์ ุกชนิด (เพื่อฝึกทกั ษะทางภาษา) และ สาธิตการถอื ถาดอุปกณณ์ใหเ้ ด็กดแู ละให้เดก็ ลองถอื ถาดอปุ กรณ์ นำ�ถาด อปุ กรณ์ไปทจี่ ดั เตรยี มไว้ (ทโี่ ต๊ะ หรอื ที่พน้ื ถา้ ทพี่ ื้นตอ้ งมีท่ีรอง เชน่ เสอื่ หรอื พรม เปน็ ตน้ ) 104 ศนู ย์เรียนรู้ สถานพฒั นาเดก็ เลก็ นมแม่และการเรยี นร้แู บบบรู ณาการ 3 เดอื น – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม
2. ขั้นท่ี 2 ขั้นสาธิต • ครจู ดั วางอปุ กรณอ์ ยา่ งเปน็ ระบบใหเ้ ดก็ ดู (เรยี งลำ�ดบั จากสง่ิ ทใ่ี ชก้ อ่ นหนา้ ไปหลงั เปน็ ตน้ ) • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สาธติ นำ�สนี ำ้ �แตล่ ะสเี ทใสจ่ านปรมิ าณ 3-5 หยด ทง้ั 3 จาน เทนำ้ �ผสมสใี ห้ พเหมาะโดยใชพ้ ูก่ ันคนๆ ผสมระหว่างสีกับนำ้ �ใหล้ ะลายเป็นเนอ้ื เดียวกัน • นำ�เอาวสั ดเุ หลอื ใชจ้ ากธรรมชาติ เชน่ ใบไม้ จมุ่ สเี หลอื ง กา้ นกลว้ ยจมุ่ สแี ดง หวั ผกั กาดจ่มุ สเี หลือง • นำ�วัสดุเหลือใช้จากธรรมชาตทิ จ่ี มุ่ สเี สรจ็ แล้วนำ�มา พมิ พล์ งท่กี ระดาษ A 4 ทงั้ 3 ชนดิ ใหส้ วยงาม 3. ขัน้ ที่ 3 ข้นั ปฏบิ ัติ • ครู/ผู้ดูแลเด็ก จัดเด็กเขา้ นั่งทีเ่ ตรยี มไว้ พรอ้ มแจกอปุ กรณใ์ นการทำ�กิจกรรม • ครู/ผู้ดูแลเดก็ ให้เดก็ ลงมือทำ�โดยอสิ ระ (ครูเฝ้าสงั เกต/ประเมินพฤตกิ รรมเดก็ ) • เด็กทำ�งานเสรจ็ ใหเ้ ก็บอุปกรณ์เข้าท่ีดว้ ยตนเอง • เด็กล้างมือใหส้ ะอาด 4. ขั้นที่ 4 สรุป/สะทอ้ นผล • คร/ู ผู้ดูแลเดก็ และเด็กร่วมกัน • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ เชญิ ชวนเดก็ นำ�ภาพ เกบ็ อปุ กรณ์ และนำ�ไปเก็บทช่ี ั้น (ท่เี ดิม ของตนเองทท่ี ำ�เสรจ็ มานำ�เสนอ รว่ ม เพื่อใหเ้ ดก็ รบั รู้ สิง่ ของ ทุกอยา่ งมชี ื่อ สนทนาเกีย่ วกับผลงานของตนเอง มตี วั ตน และตอ้ งการทีอ่ ยู่) และครูพดู • นำ�ภาพทท่ี ำ�กจิ กรรมเสรจ็ ไปจดั สนทนากับเด็ก “นค้ี ือที่อยู่ของอุปกรณ์ นทิ รรศการ (หนบี หรอื แขวนกบั เชอื ก ชดุ นี้ ทำ�กิจกรรมแลว้ นำ�มาเก็บไวท้ ่นี ี้,หนสู นใจ หรือให้เด็กเกบ็ ใน แฟม้ ผลงาน) เพอื่ ให้ อยากจะทำ�กจิ กรรมนอ้ี กี ใหม้ าเอาทไ่ี ด้ ทำ�กจิ กรรม เดก็ เกดิ ความภูมใิ จในผลงาน แล้วต้องเกบ็ อุปกรณ์อยใู่ นทีอ่ ยู่ของอปุ กรณ”์ หมายเหตุ (บนั ทกึ เพม่ิ เตมิ สำ�หรบั คร)ู 1. ระหวา่ งทเ่ี ดก็ ทำ�กจิ กรรมครตู อ้ งเตรยี มเสอ่ื /พรม /กระดาษ /โตะ๊ เพอ่ื รองใหเ้ ดก็ ทำ�งาน กำ�หนดพน้ื ทใ่ี หเ้ ดก็ ทำ�งานอยา่ งอสิ รเสรภี าพ แตม่ ขี อบเขต (ปอ้ งกนั การเปอ้ื น หรอื การหกของนำ้ � และสี เปน็ ตน้ ) การสาธติ ใหเ้ ดก็ ดู ระหวา่ งการสาธติ คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ ไมค่ วรพดู (ใหเ้ ดก็ ดอู ยา่ งมสี มาธ)ิ เวลาคร/ู ผดู้ แู ลเดก็ พดู ไมค่ วรสาธติ (ฝกึ ใหเ้ ดก็ ฟงั อยา่ งมสี มาธิ จดจอ่ ) 2. ครใู หอ้ สิ ระเสรภี าพกบั เดก็ ในระหวา่ งการทำ�กจิ กรรม (ถา้ เดก็ ทำ�อปุ กรณห์ ก ครกู ส็ าธติ การ เชด็ ใหเ้ ดก็ ดู เปน็ ตน้ ) 3. ใบไม้ (วสั ด)ุ ควรเปน็ ใบไมแ้ หง้ (เพอ่ื ดแู ลอนรุ กั ษ์ สง่ิ แวดลอ้ ม) 4. การใชว้ สั ดธุ รรมชาตจิ มุ่ สี สามารถเลอื กจมุ่ สไี ดต้ ามความสนใจ 105เร่ิมต้นอย่างไร ท�ำอะไรกนั บา้ งแล้ว
กจิ กรรมตอ่ เนอ่ื ง 1. การนำ�เสนอการซกั ลา้ ง เกบ็ อปุ กรณ์ 2. วนั ตอ่ มา การสนนาจากภาพ (เลา่ เรอ่ื งราวจากผลงานของตนเอง) 3. วนั ตอ่ มา จากการทำ�กจิ กรรมพมิ พภ์ าพดว้ ยสนี ำ้ �แลว้ ในขน้ั ตอ่ ไป สามารถปรบั เปลย่ี นกจิ กรรมเปน็ การพมิ พภ์ าพดว้ ยนว้ิ มอื การประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารประเมนิ โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม 1.1 โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม • การจบั หยบิ อปุ กรณ์ (ดา้ นรา่ งกาย : กลา้ มเนอื้ มดั เลก็ กบั สายตาเดก็ สามารถนำ� วสั ดธุ รรมชาตทิ จี่ มุ่ สี เสรจ็ แลว้ นำ� มาพมิ พล์ งบนกระดาษได)้ • การรว่ มกจิ กรรมดว้ ยความสนใจ (ดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจ : เดก็ สนใจและสามารถเลอื กใชว้ สั ดเุ หลอื ใช้ จากธรรมชาติ เชน่ ใบไม้ กา้ นกลว้ ย หวั ผกั กาดนำ� มาพมิ พภ์ าพได)้ • การทำ� งานดว้ ยตนเองทำ� เสรจ็ เกบ็ ของเขา้ ท่ี (ดา้ นสงั คม : เดก็ สามารถเลน่ และรว่ มทำ� กจิ กรรมกบั ผู้ อนื่ ได้ ความรบั ผดิ ชอบ ทกั ษะกระบวนการทำ� งาน และดา้ นจรยิ ธรรม : เดก็ สามารถนำ� วสั ดเุ หลอื ใชต้ ามธรรมชาติ มาพมิ พภ์ าพได้ ) 1.2 การตรวจผลงาน (ชน้ิ งาน) 1) ดา้ นการคดิ และสตปิ ญั ญา : เดก็ สามารถพมิ พภ์ าพดว้ ยวสั ดธุ รรมชาตติ ามขน้ั ตอนไดด้ ว้ ยตนเอง 2) ดา้ นภาษา : เดก็ สามารถบอกชอื่ และเลา่ เรอ่ื งราวเกยี่ วกบั ผลงานของตนเองได้ 3) ดา้ นการสรา้ งสรรค์ : เดก็ สามารถพมิ พภ์ าพและเลา่ เรอ่ื งจากภาพตามจนิ ตนาการได้ 2. เครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมนิ 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมตามเกณฑก์ ารประเมนิ 2.2 แบบประเมนิ ชนิ้ งาน ท ่ี รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 2 1 1 การจบั หยบิ จบั หยิบอุปกรณ์ดว้ ยน้วิ หัว- จับหยิบอุปกรณด์ ้วยนิ้วหวั แม่ จบั หยิบอปุ กรณ์ดว้ ยน้วิ มอื ทัง้ อปุ กรณ์ แม่มือ นิ้วช้ี และรองดว้ ยน้ิว มอื น้ิวช้ี และรองดว้ ยนิ้ว 5 นวิ้ กลางอยา่ งมน่ั คงถกู วธิ กี ารจบั กลางไดแ้ ต่ยังไม่มนั่ คง 2 การร่วมกจิ กรรม สนใจเข้าร่วมกิจกรรมจนเสร็จ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมจนเสร็จ สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมไมเ่ สร็จ ดว้ ยความสนใจ กระบวนการดว้ ยตนเอง กระบวนการดว้ ยโดยมผี ู้ชน้ี ำ� กระบวนการ 106 ศนู ยเ์ รยี นรู้ สถานพัฒนาเด็กเล็กนมแมแ่ ละการเรียนรู้แบบบูรณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม
ท ่ี รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 2 1 3 เล่น รว่ มทำ� เลน่ รว่ มท�ำกจิ กรรมกบั ผอู้ น่ื เล่น รว่ มท�ำกิจกรรมกบั ผอู้ ่ืน เล่น ไมร่ ่วมท�ำกจิ กรรมกบั ผู้ กจิ กรรมกับผู้อนื่ ได้ และเลอื กทำ� กจิ กรรมทำ� ได้ และเลือกท�ำกิจกรรมทำ� อื่นได้ และเลอื กทำ� กจิ กรรม ได้ และเลอื กท�ำ กจิ กรรมเสร็จแล้วเกบ็ ของเข้า กจิ กรรมเสร็จแลว้ เก็บของเขา้ ไม่แล้วเสรจ็ และไมเ่ ก็บของ กจิ กรรมดว้ ย ทไี่ ดด้ ว้ ยตนเอง มผี ลงานและ ที่ไดโ้ ดยมีผูช้ นี้ ำ� เข้าท่ี ตนเอง 4 ผลงาน (ชนิ้ งาน) เล่าเรือ่ งนำ� เสนอผลงานของ มผี ลงานและเลา่ เรื่องนำ� ผลงานไมเ่ สรจ็ และไม่ ตนเอง เป็นคำ� วลีและ เสนอผลงานของตนเองได้ สามารถเล่าน�ำเสนอได้ ประโยคส้ันๆ ได้ดว้ ยตนเอง โดยมีผ้ชู ี้นำ� การใหร้ ะดับคุณภาพ ความหมาย ตรัวะเบลบข รคะำบ�สบำ�ทคญั่ีใช้ ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 3 ดี โดยมกี ารกระตนุ้ และชน้ี ำ� 2 พอใช้ ไมป่ รากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 1 ควรสง่ เสรมิ สง่ิ ทเ่ี ดก็ จะไดร้ บั 1. เดก็ สามารถพฒั นากลา้ มเนอ้ื เลก็ และสายตา เชอ่ื มโยงประสานสมั พนั ธก์ าร เคลอ่ื นไหวสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกายไดอ้ ยา่ ง คลอ่ งแคลว่ 2. เดก็ มสี มาธิ สามารถพง่ึ พาตนเอง ทำ�งานไดด้ ว้ ยตนเอง ปลกู ฝงั ทกั ษะ กระบวนการทำ�งาน (วฏั จกั รการทำ�งาน) 3. เดก็ พฒั นาดา้ นสตปิ ญั ญา และมจี นิ ตนาการปลกู ฝงั ดา้ นศลิ ปะ 107เริม่ ต้นอยา่ งไร ทำ� อะไรกนั บา้ งแลว้
กใจิ ชกร้กรมร:รไกรตัดกระดาษ อายเุ ด็ก : 2 ปี 7 เดือนขนึ้ ไป วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถเช่ือมโยงการเคลื่อนไหว สว่ นต่างๆ ของรา่ งกายได้อยา่ งประสานสัมพนั ธ์กนั 2. เพ่อื เดก็ มีสมาธิ 3. เพ่อื เดก็ สามารถพง่ึ พาตนเองได้ 4. เพอ่ื ให้เดก็ พฒั นาทักษะการใช้ภาษา อุปกรณ์ 1. กรรไกรขนาดเล็กปลายมนสำ�หรับเด็ก 2. ถาด 1 อัน 3. กระดาษสี 3 สี ตัดเป็นสเี หล่ียมพ้ืนผ้า ขนาดกวา้ ง 2 เซนตเิ มตร ยาว 10 เซนติเมตร มีเส้นแบ่งในแบกระดาษสยี าว 2 เซนตเิ มตร 4. ถว้ ยเล็ก สำ�หรับใสก่ ระดาษท่ีตดั 1 ใบ ขน้ั ตอนการจดั กิจกรรม 1. ข้นั ที่ 1 ข้ันเตรยี ม/แนะนำ�อุปกรณ์ • คร/ู ผดู้ ูแลเดก็ เชญิ ชวนเด็กไปทชี่ ัน้ วางอปุ กรณ์ • คร/ู ผูด้ ูแลเด็ก แนะนำ�อปุ กรณ์ให้ช่อื อปุ กรณพ์ ดู กับเดก็ “น้คี ืออปุ กรณ์การตัดกระดาษ” (เพอื่ ฝึกทักษะทางภาษา) • ครู/ผ้ดู แู ลเดก็ สาธติ การจับ/ยก/ถอื อปุ กรณ์ ให้เดก็ ดู (สาธิต ชา้ ๆ ชดั เจน) และให้เดก็ ถอื อุปกรณ์มาที่เตรียมไว้ ไดแ้ ก่ บนโตะ๊ บนเส่อื /พรม (ถ้าทำ�กจิ กรรมบนพ้นื ใหป้ ูเสือ่ /พรม) 108 ศนู ยเ์ รียนรู้ สถานพัฒนาเด็กเลก็ นมแม่และการเรยี นร้แู บบบรู ณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
2. ขน้ั ท่ี 2 ขน้ั สาธติ • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ นง่ั ขา้ งๆ เดก็ ใหเ้ ดก็ นง่ั อยดู่ า้ นซา้ ยมอื ของครู • ครพู ดู สนทนากบั เดก็ แนะนำ�อปุ กรณใ์ หช้ อ่ื อปุ กรณท์ กุ อยา่ ง ไดแ้ ก่ นค้ี อื กระดาษสนี ำ้ �เงนิ , สฟี า้ , สมี ว่ ง, กรรไกร และถว้ ยใบเลก็ เปน็ ตน้ • คร/ู กบั เดก็ สรา้ งขอ้ ตกลง/ขอ้ ควรระวงั การใชก้ รรไกร • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สาธติ การจบั กรรไกร จบั กระดาษ และการตดั กระดาษ ดว้ ยกรรไกรตามรอยเสน้ ทข่ี ดี ไวบ้ นกระดาษใหเ้ ดก็ ดู (อยา่ งชา้ ๆ ชดั ๆ เปน็ ขน้ั ตอน) ครตู ดั กระดาษ 1 - 3 ชน้ิ และใหเ้ ดก็ ลองทำ�ตาม • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ ยนื กรรไกรใหเ้ ดก็ ถอื จบั ครพู ดู วา่ “ลองตดั ดซู คิ ะ” • ครเู ฝา้ ดเู ดก็ ตดั กระดาษ ประมาณ 1 - 2 นาทื ถา้ เดก็ เรม่ิ ตดั ได้ ครพู ดู “หนตู ดั ไดแ้ ลว้ ... เชญิ หนทู ำ�ตอ่ ไปนะคะ ครจู ะไปดเู พอ่ื นคนอน่ื เดยี วครกู ลบั มาคะ่ (การมอบหมายภาระงาน)” ครลู กุ จากเดก็ ไปดเู ดก็ คนอน่ื แตส่ ายตาครกู ย็ งั สงั เกตเฝา้ ระวงั การทำ�กจิ กรรมของเดก็ อยตู่ ลอดเวลา (ครปู ฐมวยั เปน็ นกั สงั เกต) 3. ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั ปฏบิ ตั ิ • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ ใหเ้ ดก็ ใชก้ รรไกรตดั กระดาษดว้ ยตนเองโดยอสิ ระ • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สงั เกต/ประเมนิ พฤตกิ รรมเดก็ (คอยดแู ลความปลอดภยั /ประเมนิ พฤตกิ รรม) 4. ขน้ั ท่ี 4 สรปุ /สะทอ้ นผล • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ เชญิ ชวนเดก็ ใหร้ ว่ มสนทนาเกย่ี วกบั รปู รา่ งของกระดาษทต่ี ดั จำ�นวนชน้ี ทต่ี ดั เปน็ ตน้ • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ และเดก็ รว่ มกนั เกบ็ อปุ กรณเ์ ขา้ ชน้ั ทเ่ี กบ็ /วางอปุ กรณ์ และครพู ดู กบั เดก็ “นค้ี อื ทเ่ี กบ็ อปุ กรณข์ องพวกเรา หนอู ยากจะทำ�กจิ กรรมอกี เมอ่ื ไหรก่ ม็ าเอาทน่ี ไ้ี ดน้ ะคะ และตดั กระดาษ เสรจ็ แลว้ ใหเ้ อากลบั มาเกบ็ คนื เขา้ ทเ่ี ดมิ ตรงนค้ี ะ่ ” หมายเหตุ (บนั ทกึ เพม่ิ เตมิ สำ�หรบั คร)ู 1. กจิ กรรมกอ่ นน้ี คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ ควรพาเดก็ ทำ�กจิ กรรมการเลน่ นว้ิ มอื ประกอบเพลง เชน่ เพลงนว้ิ มอื ทง้ั 5 นว้ิ และทำ�ทา่ ทางการใชน้ ว้ิ เปน็ ไกรตดั ทำ�ทา่ ทางตดั กระดาษดว้ ยกรรไกร เปน็ ตน้ 2. กระดาษสที ใ่ี ชค้ รง้ั แรกควรเปน็ แมส่ ี คอื สแี ดง เหลอื ง นำ้ �เงนิ ครง้ั ตอ่ ไปจงึ เปน็ สอี น่ื ๆ และครง้ั ตอ่ ไปเปน็ โทนสี และเรยี งลำ�ดบั ความเขม้ ของสี เปน็ ตน้ 3. กระดาษทใ่ี ชต้ ดั สามารถนำ�กระดาษอน่ื ทใ่ี ชแ้ ลว้ มาตดั ได้ เชน่ กระดาษหอ่ ของขวญั เปน็ ตน้ (Recycle) 109เริม่ ตน้ อยา่ งไร ท�ำอะไรกนั บา้ งแลว้
กจิ กรรมตอ่ เนอ่ื ง 1. การนำ�ชน้ิ กระดาษทต่ี ดั แลว้ มาทำ�งานศลิ ปะ โดยการ ปะตดิ เปน็ รปู ตา่ งๆ แลว้ นำ�ไปปะตดิ เปน็ เรอ่ื งราว เปน็ การ ตอ่ ยอดจนิ ตนาการความคดิ สรา้ งสรรคไ์ ด้ 2. การตดั กระดาษตามรอยทห่ี ลากหลายรปู แบบ เชน่ เสน้ หยกั เสน้ โคง้ เปน็ ตน้ การประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารประเมนิ โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม 1.1 โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม • การใชก้ รรไกร (ดา้ นรา่ งกาย : พฒั นาการดา้ นกลา้ มเนอื้ มดั เลก็ เดก็ สามารถใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เลก็ และการ ประสานสมั พนั ธ์ มอื -ตา ไดเ้ หมาะสมกบั วยั การควบคมุ การเคลอ่ื นไหวของรา่ งการ) • การรว่ มกจิ กรรมดว้ ยความสนใจ (ดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจ : เดก็ รว่ มกจิ กรรมไดจ้ นเสรจ็ มคี วามสขุ และและ มคี วามสขุ กบั กจิ กรรมทท่ี ำ� ) • เดก็ สามารถพงึ่ พาตนเองได้ (ดา้ นสงั คม : เดก็ สามารถรบั รแู้ ละสรา้ งปฏสิ มั พนั ธก์ บั บคุ คลและสงิ่ แวดลอ้ ม รอบตวั เดก็ สามารถทำ� งานดว้ ยตนเองได,้ และดา้ นจรยิ ธรรม : เดก็ สามารถชว่ ยเหลอื ทำ� งานตา่ งๆ โดยไมต่ อ้ งรอ้ งขอ เลน่ แลว้ เกบ็ ของเขา้ ทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบ ) • ดา้ นการคดิ และสตปิ ญั ญา : เดก็ สามารถเลน่ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขอ้ ตกลงไดต้ ามขน้ั ตอน อยา่ งปลอดภยั ไดด้ ว้ ยตนเอง • ดา้ นภาษา : เดก็ รบั รแู้ ละเขา้ ใจความหมายของภาษา ทค่ี รแู นะนำ� ได้ เชน่ เดก็ สามารถบอกชอ่ื อปุ กรณ์ บอกขอ้ ตกลง ใชภ้ าษาสอ่ื สารกบั เพอ่ื น กบั คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ 1.2 การสนทนา/สอบถาม • ครสู นทนาพดู คยุ กบั เดก็ เชน่ ชอบไหม สนกุ ไหม อยากเลน่ อกี ไหม เปน็ ตน้ • เดก็ ๆ อยากใหค้ รพู าทำ� ตดั เปน็ อะไรตอ่ ไปดคี ะ เปน็ ตน้ (สรา้ งทางเลอื ก, วางแผนในการ ทำ� กจิ กรรมตอ่ ไปตามความสนใจของเดก็ ) 2. เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมตามเกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ 110 ศนู ย์เรียนรู้ สถานพฒั นาเด็กเล็กนมแมแ่ ละการเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการ 3 เดอื น – 3 ปี โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
ท ่ี รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 2 1 1 การใชก้ รรไกร จับกรรไกรดว้ ยนิ้วมือที่ถนัด จบั กรรไกรดว้ ยนว้ิ มือท่ถี นดั เดก็ ไม่สามารถจับและใช้ 3 น้ีว (นว้ิ หวั แม่ น้วิ ชี้ และน้วิ 3 นีว้ (นิ้วหัวแม่น้วิ ชี้ และน้ิว กรรไกรได้ กลาง) ดว้ ยความม่ันคงและ กลาง) ดว้ ยความม่ันคง และ ตดั กระดาษตามรอยท่ี ตดั กระดาษตามรอยท่ี ก�ำหนดใหจ้ นแลว้ เสรจ็ ได้ ก�ำหนดให้ ไดโ้ ดยมผี ชู้ ้นี ำ� ดว้ ยตนเอง 2 การรว่ มกจิ กรรม สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรม จน สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมจนเสร็จ สนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมไมเ่ สรจ็ ดว้ ยความสนใจ เสร็จกระบวนการด้วยตนเอง กระบวนการด้วยโดยมผี ู้ชน้ี ำ� กระบวนการ เลน่ และเลอื กทำ� กจิ กรรมท�ำ 3 ความรับผิดชอบ กจิ กรรมเสรจ็ แลว้ เกบ็ ของเขา้ เลน่ และเลือกทำ� กิจกรรมท�ำ เลน่ และเลือกทำ� กจิ กรรมไม่ การใชภ้ าษา ทไ่ี ด้ด้วยตนเอง กิจกรรมเสรจ็ แล้วเก็บของเข้า แลว้ เสร็จและไม่เก็บของเขา้ ท่ี (สนทนา/ เดก็ สนทนาพดู สอ่ื สารกับคร/ู ที่ไดโ้ ดยมผี ู้ชี้น�ำ 4 สอบถาม) ผู้ดแู ลเดก็ และปฏิบตั ติ ามขอ้ เด็กสนทนาพูดสื่อสารกบั ครู/ เดก็ ไม่สามารถสนทนาพดู ตกลง บอกชอื่ สอ่ื และ ผูด้ แู ลเดก็ และปฏิบัติตามขอ้ สอื่ สารกับคร/ู ผูด้ ูแลเด็กและ อุปกรณ์ไดด้ ว้ ยตนเอง ตกลง บอกชอื่ สือ่ และ ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงได้ อปุ กรณไ์ ด้โดยมี ผชู้ ี้น�ำ การให้ระดบั คณุ ภาพ ความหมาย ตรวัะเบลบข รคะำบ�สบำ�ทคญัีใ่ ช ้ ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 3 ดี โดยมกี ารกระตนุ้ และชน้ี ำ� 2 พอใช้ ไมป่ รากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 1 ควรสง่ เสรมิ สง่ิ ทเ่ี ดก็ จะไดร้ บั 1. เดก็ ไดฝ้ กึ ใชก้ ลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ และการประสานสมั พนั ธ์ มอื -ตา 2. เดก็ มสี มาธิ สามารถพง่ึ พาตนเอง ใชก้ รรไกรตดั กระดาษ หรอื สง่ิ ของอน่ื ได้ 3. เดก็ พฒั นาดา้ นภาษาปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง และการสอ่ื สาร บอกชอ่ื สอ่ื อปุ กรณแ์ ละการใชก้ ระดาษได้ 111เร่ิมต้นอย่างไร ทำ� อะไรกันบา้ งแล้ว
กกจิ การรรมจ:ดั โต๊ะและรบั ประทานอาหาร อายเุ ด็ก : 2 ปคี ร่งึ ขึน้ ไป วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อใหเ้ ด็กสามารถเชอ่ื มโยงการเคล่ือนไหว ส่วนตา่ งๆ ของร่างกายได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว 2. เพ่ือเดก็ มีสมาธิ เรยี งลำ�ดบั เหตกุ ารณ์ 3. เพอื่ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมในชวี ิตประจำ�วันพ่ึงพาตนเอง 4. เพอ่ื ใหเ้ ด็กพฒั นาทักษะการใช้ภาษาแสดงความรสู้ กึ และใชภ้ าษาได้ เหมาะสมตามวยั อปุ กรณ์ 1. โตะ๊ /เกา้ อ้ี ขนาดสำ�หรับเด็ก 2. ถาดอาหาร 3. ซ้อน/ซ้อม 4. ถว้ ยกลางสำ�หรับแบ่งตักอาหาร 5. ทพั พีเลก็ ตกั อาหาร 6. ถาด/ผ้า สำ�หรบั รองถว้ ย/ชอ้ น ข้นั ตอนการจดั กจิ กรรม 1. ขนั้ ที่ 1 ข้ันเตรียม/แนะนำ�อปุ กรณ์ • ครู/ผดู้ ูแลเด็ก เชิญชวนเดก็ ไปที่ชนั้ วางอปุ กรณ์ (ท่เี ก็บอปุ กรณ์) • คร/ู ผู้ดูแลเด็ก แนะนำ�อปุ กรณ์ให้ชื่ออุปกรณ์และพดู กบั เดก็ “นคี้ ืออปุ กรณ์ การจัดโตะ๊ อาหาร มถี าดหลุมสำ�หรับใส่อาหาร ชอ้ น/สอ้ ม ถาดรองถว้ ย จานช้อน” (เพือ่ ฝกึ ทกั ษะทางภาษาและให้รทู้ อ่ี ยขู่ องสง่ิ ของ) • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สาธิตการจบั /ยก/ถือถาดอปุ กรณ์อาหาร (สาธิตชา้ ๆ ชัดเจน) และใหเ้ ด็กถอื ชว่ ยถอื อปุ กรณ์ของแต่ละคนไปท่ีโตะ๊ อาหารท่ีเตรยี มไว้ 112 ศูนย์เรยี นรู้ สถานพัฒนาเดก็ เลก็ นมแม่และการเรียนรู้แบบบูรณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
2. ขน้ั ท่ี 2 ขน้ั สาธติ • ครู/ผ้ดู แู ลเด็กเชิญเดก็ ทุกคนมาท่ีโต๊ะอาหารสรา้ งข้อตกลงร่วม กนั ในการจัดโต๊ะอาหารพรอ้ มแนะนำ�การใชง้ านของอุปกรณ์แต่ละ ชนิดทถี่ กู วิธี ใหเ้ ด็กฟัง • ครู/ผู้ดแู ลเด็ก สาธิตการจดั โต๊ะอาหารให้เดก็ ดตู ามขั้นตอน (ขณะทส่ี าธติ ไม่พูดอธบิ าย) ครูกระตุ้นเด็กโดยเชญิ ชวนด้วยสายตา/ มือแตะแขนเด็กเบาๆ เชิญชวนให้เด็กดขู น้ั ตอนการจัดโต๊ะอาหาร 3. ขัน้ ท่ี 3 ข้นั ปฏบิ ัติ 4. ข้ันท่ี 4 สรปุ /สะท้อนผล • คร/ู ผู้ดแู ลเด็ก เชิญชวนใหเ้ ด็กจัดโต๊ะ • ครู/ผู้ดแู ลเด็ก แนะนำ�ใหเ้ ดก็ รบั ประทานอาหารเสร็จแลว้ อาหารด้วยตวั เอง ให้เกบ็ ถาดอาหารไปยงั ท่ีเตรียมไวด้ ้วยตนเอง • คร/ู ผูด้ ูแลเดก็ ใหเ้ ด็กๆ ตกั อาหารจาก • ครู/ผ้ดู ูแลเด็ก กระตนุ้ แนะนำ�เด็กล้างมือหลงั รับประทาน ถ้วยกลางใส่ถาดอาหารของตัวเองในปริมาณ อาหาร ทพี่ อเหมาะ (2 ใน 3 ของถว้ ย) • เดก็ และคร/ู ผูด้ ูแลเด็ก พดู /สนทนา ใหก้ ำ�ลงั ใจกบั เดก็ • คร/ู ผู้ดแู ลเด็ก พาเดก็ ทอ่ งบทกวีส้ันๆ โดยการยิ้ม สัมผสั ท่ีรา่ งกาย (แขน/ลำ�ตัว) “หนูทำ�ไดแ้ ล้ว จดั โตะ๊ เพอื่ สร้างความตระหนกั เหน็ คณุ คา่ ของ อาหาร รว่ มกันรบั ประทานอาหาร และเกบ็ ภาชนะที่ใชใ้ นการรับ ข้าว/อาหาร(ประมาณ 1 - 2 นาท)ี กอ่ นรบั ประทานอาหารไดด้ ว้ ยตนเอง” ประทานอาหาร • ครูสนทนาสอบถามเดก็ วนั ตอ่ ไปเด็กๆ อยากรับประทาน • เดก็ รบั ประทานอาหารด้วยตนเอง อาหารประเภทไหนบ้างคะบอกคณุ ครไู ด้ (วางแผนต่อไป) หมายเหตุ (บันทกึ เพิม่ เติมสำ�หรับคร)ู 1. กิจกรรมก่อนนี้ คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ ควรพาเด็กทำ�กจิ กรรมการตัก (ถ่ัว/สิง่ ของ) เท (น้ำ�/สิ่งของอื่น) การพบั ผ้า การ ลา้ งมือ การเช็ด เปน็ ต้น 2. การที่เด็กจดั โต๊ะอาหาร/ตักอาหารเอง/การรับประทานอาหาร อาจจะหกเลอะเทอะ หรือเปอื้ น เป็นเร่อื ง ธรรมดาที่การเชือ่ มโยงการเคลือ่ นไหวรา่ งกาย กลา้ มเนื้อส่วนตา่ งๆ อาจจะยงั ไมป่ ระสานสมั พันธก์ ันดี ครู/ผดู้ ูแล เด็ก ใจเยน็ ๆ และใหโ้ อกาสการทำ�กิจกรรมดว้ ยตนเองต่อไป 3. หลังจากท่ีเดก็ รบั ประทานอาหารเสรจ็ ครู/ผดู้ ูแลเด็ก กลบั มาทำ�ความสะอาดโตะ๊ อาหารและอื่นๆ ภายหลังตอ่ ไป 4. กจิ กรรมการทอ่ งบทกว/ี คำ�คลอ้ งจองเกยี่ วกบั อาหาร ควรสนั้ กระชบั และมเี นอ้ื หาทป่ี ลกู ฝงั คณุ ลกั ษณะนสิ ยั เช่นการรับประทาน ผกั ผลไม้ ปรับเปล่ียนไปแตล่ ะสัปดาห์ เปน็ ต้น 113เร่มิ ต้นอยา่ งไร ทำ� อะไรกนั บ้างแลว้
กจิ กรรมตอ่ เนอ่ื ง 1. การลา้ งจาน ลา้ งแกว้ ภาชนะอน่ื การกวาดพน้ื การเชด็ โตะ๊ เปน็ ตน้ 2. การประกอบอาหารวา่ งงา่ ยๆ เชน่ การทำ�กลว้ ย อบ การทำ�นำ้ �ผลไมป้ น่ั การทำ�อาหารพน้ื บา้ นตา่ งๆ ตามฤดกู าล เปน็ ตน้ 3. การเลา่ นทิ าน อา่ นหนงั สอื เกย่ี วกบั อาหารชนดิ ตา่ งๆ เปน็ ตน้ การประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารประเมนิ โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม 1.1 โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม • การจดั โตะ๊ อาหาร (ดา้ นรา่ งกาย : เดก็ สามารถใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เลก็ /ใหญใ่ นการ หยบิ จบั อปุ กรณ์ การประสานสมั พนั ธ์ มอื -ตา ไดเ้ หมาะสมกบั วยั การควบคมุ การเคลอื่ นไหวของรา่ งกาย) • การรว่ มกจิ กรรมดว้ ยความสนใจ (ดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจ : เดก็ รว่ มกจิ กรรมเดก็ แสดงความภาคภมู ใิ จเมอื่ ทำ� สง่ิ ตา่ งๆ ไดส้ ำ� เรจ็ ) • การพง่ึ พาตนเอง (ดา้ นสงั คม : เดก็ ๆ รว่ มกนั ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงในการจดั โตะ๊ /รบั ประทานอาหาร เดก็ สามารถควบคมุ ตนเองได้ และดา้ นจรยิ ธรรม : เดก็ มนี ำ�้ ใจ รจู้ กั แบง่ ปนั ทำ� งานแลว้ เกบ็ ของเขา้ ทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบ) • ดา้ นการคดิ และสตปิ ญั ญา : (เดก็ สามารถปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขอ้ ตกลงเรยี งลำ� ดบั ขน้ั ตอนการจดั โตะ๊ อาหาร/ การรบั ประทานอาหาร/การเกบ็ ภาชนะตา่ งๆ และเรยี นรสู้ งิ่ ตา่ งๆ รอบตวั เชน่ การจดั เกบ็ ภาชนะทใ่ี ชแ้ ลว้ เปน็ ตน้ ) • ดา้ นภาษา : เดก็ สามารถแสดงความรสู้ กึ และใชภ้ าษาไดเ้ หมาะสมตามวยั เชน่ เดก็ สามารถบอกชอ่ื อปุ กรณ์ บอกขอ้ ตกลง การทอ่ งบทกลอน บทกวสี นั้ ๆ กอ่ นรบั ประทานอาหาร ใชภ้ าษาสอื่ สารกบั เพอ่ื น กบั คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ เปน็ ตน้ 1.2 การสนทนา/สอบถาม • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สนทนาพดู คยุ กบั เดก็ เชน่ ชอื่ ของอาหาร รสชาตขิ องอาหาร เปน็ ตน้ • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สนทนา สอบถามความตอ้ งการ อาหารทเี่ ดก็ อยากจะรบั ประทาน (สรา้ งทางเลอื ก, วางแผนในการทำ� กจิ กรรมตอ่ ไปตามความสนใจของเดก็ ) 2. เครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมนิ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมตามเกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ 114 ศนู ย์เรยี นรู้ สถานพฒั นาเดก็ เลก็ นมแมแ่ ละการเรียนรู้แบบบูรณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ท ่ี รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 2 1 1 การจดั โต๊ะอาหาร/ เดก็ สามารถจดั โตะ๊ อาหาร เด็กสามารถจดั โตะ๊ อาหาร เดก็ ไม่สามารถจัดโต๊ะอาหาร การรบั ประทาน หยบิ จบั อุปกรณ์ เรียงตาม หยิบ จบั อุปกรณ์ เรยี งตาม และรับประทานอาหารได้ อาหาร ลำ� ดับอปุ กรณ์ และรบั ลำ� ดบั อปุ กรณ์ และรบั ด้วยตนเอง (ด้านรา่ งกาย) ประทานอาหารโดยไม่หก ประทานอาหารโดยไม่หก เลอะเทอะ ได้ดว้ ยตนเอง เลอะเทอะได้โดยมีผู้ชี้น�ำ 2 การรว่ มกจิ กรรม ด้วย สนใจเข้าร่วมกิจกรรม จน สนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมจนเสร็จ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมไมเ่ สรจ็ ความสนใจ เสร็จกระบวนการ ด้วย กระบวนการด้วยโดยมีผูช้ น้ี ำ� กระบวนการ (ดา้ นอารมณ์และ ตนเอง จติ ใจ ดา้ นสงั คม) 3 ความรับผิดชอบ รับประทานเสรจ็ แล้วเก็บ รับประทานเสร็จแลว้ เก็บ รับประทานเสรจ็ แล้วไม่ (ดา้ นจรยิ ธรรม) ภาชนะไดไ้ ดด้ ้วยตนเอง ภาชนะไดโ้ ดยมีผชู้ ้นี �ำ สามารถเก็บภาชนะได้ 4 การใชภ้ าษา/ เด็กสนทนาพดู สอื่ สารกบั ครู/ เดก็ สนทนาพูดสอื่ สารกับครู/ เดก็ ไมส่ ามารถสนทนาพดู สนทนา/สอบถาม ผดู้ ูแลเดก็ บอกชอ่ื อาหาร ผดู้ แู ลเดก็ บอกชอ่ื อาหาและ ส่ือสารกับคร/ู ผู้ดแู ลเดก็ ได้ (ดา้ นการคิดและสติ และทอ่ งบทกวีและค�ำ ท่องบทกวีและค�ำคล้องจอง ปัญญา, ดา้ นภาษา) คลอ้ งจอง ไดด้ ว้ ยตนเอง ได้ดว้ ยตนเองไดโ้ ดยมีผู้ชี้นำ� การให้ระดบั คณุ ภาพ ความหมาย ตรัวะเบลบข รคะำบ�สบำ�ทคัญี่ใช ้ ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 3 ดี โดยมกี ารกระตนุ้ และชน้ี ำ� 2 พอใช้ ไมป่ รากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 1 ควรสง่ เสรมิ สง่ิ ทเ่ี ดก็ จะไดร้ บั 1. เดก็ เรยี งลำ�ดบั เหตกุ ารณ์ จดั วางอปุ กรณก์ ารรบั ประทานอาหารในชวี ติ ประจำ�วนั ได้ 2. ไดฝ้ กึ ใชก้ ลา้ มเนอ้ื มดั ใหญ/่ เลก็ ในการจดั โตะ๊ อาหาร ตกั อาหารใสถ่ าดดว้ ยตวั เอง 3. เดก็ ไดช้ ว่ ยทำ�งานงา่ ยๆ ขน้ั ตอนเดยี วดว้ ยตนเอง 4. เดก็ มคี วามภาคภมู ใิ จเมอ่ื ทำ�สง่ิ ตา่ งๆ ไดส้ ำ�เรจ็ 115เรม่ิ ตน้ อยา่ งไร ทำ� อะไรกนั บา้ งแลว้
กกจิ การรรมอ: ่านฟังหนงั สือนิทานทห่ี นูชอบ อายเุ ดก็ : 2 ปคี รงึ่ ขึน้ ไป วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อใหเ้ ด็กเช่ือมโยงการเคลอ่ื นไหวของ ร่างกายสามารถหยิบจับหนงั สือได้ 2. เพื่อเดก็ มีสมาธิ เรียงลำ�ดบั เหตกุ ารณ์ 3. เพือ่ ให้เด็กพฒั นาทกั ษะการใชภ้ าษา ฟงั ตามองตามภาพ แสดงความร้สู กึ โต้ตอบ และใชภ้ าษาได้เหมาะสมตามวัย อุปกรณ์ 1. เสื่อ/พรม 2. หนังสอื นทิ านประกอบภาพเล่มใหญ่ ขั้นตอนการจดั กิจกรรม 1. ขนั้ ที่ 1 ข้นั เตรียม/แนะนำ�อุปกรณ์ • คร/ู ผูด้ แู ลเด็ก เชญิ ชวนเด็กไปทชี่ น้ั วางหนังสือ • คร/ู ผดู้ ูแลเด็ก แนะนำ�ให้ช่อื หนังสือนทิ าน และพดู กับเดก็ “น้คี ือ หนงั สอื นทิ านเลม่ ใหญม่ หี ลายเรื่องหนชู อบเรอื่ งอะไรช้ีให้ครดู ู” (เพอ่ื ฝกึ ทกั ษะทางภาษาและใหร้ ูท้ อี่ ย่ขู องหนงั สือ) • คร/ู ผดู้ แู ลเด็ก หยบิ หนงั สือทเี่ ด็กชอบ(สนใจ) สาธติ การจับ/ยก/ หนังสอื เลม่ ใหญ่ (สาธิตชา้ ๆ ชดั เจน) และให้เด็กถือชว่ ยถอื หนงั สอื ไปที่ โตะ๊ /เสื่อ/พรมท่ีเตรยี มไว้ 116 ศูนยเ์ รียนรู้ สถานพฒั นาเดก็ เลก็ นมแม่และการเรียนรู้แบบบรู ณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
2. ขน้ั ที่ 2 ขนั้ สาธติ • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สาธติ การเปดิ /ปดิ หนงั สอื และแนะนำ� อา่ นหนา้ ปกหนงั สอื นทิ านใหเ้ ดก็ ฟงั (ชอื่ เรอื่ ง ชอ่ื ผแู้ ตง่ ชอ่ื ผวู้ าดภาพประกอบ) • คร/ู ผดู้ ูแลเดก็ ให้เดก็ ดภู าพประกอบพร้อมอ่านนิทาน สั้นๆ ให้เด็กฟงั ด้วยน�ำ้ เสยี งที่สนุกสนาน เชิญชวน เร้าใจ ตามเร่อื งราว ชวนตดิ ตาม 3. ขน้ั ที่ 3 ข้นั ปฏบิ ัติ • ครู/ผ้ดู แู ลเด็ก เชญิ ชวนใหเ้ ดก็ สนทนาเกี่ยวกบั ตวั ละครในนทิ าน • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ ใหเ้ ดก็ ๆ เปดิ /ปดิ อา่ นหนงั สอื (ดภู าพจากหนงั สอื นทิ าน) ด้วยตนเองตามลำ� พงั (อิสระตามความสนใจ) • คร/ู ผูด้ ูแลเด็ก สงั เกต/ประเมนิ พฤติกรรมเด็ก (โดยไม่ใหเ้ ดก็ รู้ตัว ว่าครูก�ำลงั สงั เกต) 4. ขัน้ ท่ี 4 สรปุ /สะทอ้ นผล • ครู/ผู้ดูแลเด็ก เชิญชวนให้เด็กเล่าเรื่องเก่ียวกับตัวละครท่ีเด็กๆ ชอบ ถ้าเด็กยังไม่กล้าพูด สนทนา ครู/ผดู้ ูแลเด็ก ใชค้ �ำถามน�ำกระตุ้น พาเดก็ พูดคุย สนทนา • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สนทนา พดู กบั เดก็ “หนชู อบหนงั สอื นทิ านเลม่ ไหนชใ้ี หค้ รดู ู ครใู หห้ นยู มื กลบั ไป ใหค้ ุณพอ่ คุณแม่/คณุ ตา คุณยาย/คุณปู่คณุ ยา่ อ่านให้ฟงั ท่ีบา้ น แล้วจงึ นำ� มาคืนคุณครูนะคะ” • เดก็ และคร/ู ผดู้ แู ลเดก็ พาเดก็ นำ� นทิ านไปเกบ็ ทชี่ น้ั วาง พดู /สนทนา “หนชู อบนทิ านเลม่ ไหน สามารถนำ� ไปอา่ นได้ อ่านเสรจ็ แลว้ ให้น�ำกลับมาคืนที่ช้ันนคี้ ่ะ หมายเหตุ (บันทึกเพิ่มเตมิ สำ� หรับครู) 1. จากการท�ำกจิ กรรมนิทานท่หี นชู อบ ในระยะแรกใชน้ ิทานสนั้ ๆ ที่ใชเ้ วลา 2-3 นาที ตอ่ เรอ่ื ง ก่อน ต่อไปจงึ เพิ่มความยาวของนิทานให้มากขึน้ จนใชเ้ วลาประมาน 5 นาที 2. กจิ กรรมการอ่านหนังสอื ของเดก็ คือ เด็กสามารถเปดิ /หนงั สอื ได้ และดภู าพประกอบ เด็กอาจ จะพูดตามเรือ่ งราวจินตนาการของเด็ก (ปลูกฝังนสิ ยั รักการอา่ น) เปน็ ต้น 3. เด็กอาจจะสนใจการอา่ นเปน็ รายบุคคล หรือรายคู่ หรือกลมุ่ เลก็ (3-5 คน) ครูควรจัดกิจกรรม ตามความสนใจในหนงั สอื นทิ านทีเ่ ด็กชอบคนละเรื่อง เปน็ ตน้ 4. ถา้ เด็กฉีกหนงั สือ หรือเล่น ทำ� ลายหนงั สอื ครู/ผูด้ แู ลเดก็ ควรเขา้ ไป แนะน�ำห้ามไมใ่ หท้ �ำ (หยดุ อยา่ งมีเหตุผล) 5. ครู/ผู้ดูแลเด็ก ควรจำ� ชือ่ เรอ่ื งนทิ านและเร่อื งราวไดเ้ ปน็ อย่างดี และใช้ภาษาในการอา่ นเชิงเล่า และเล่าเรื่องอยา่ งสนกุ สนาน เร้าใจ ชวนติดตาม 6. ควรจัดกิจกรรมการอ่านหนังสอื /เล่านทิ านทุกวัน (ปลกู ฝงั นสิ ัยรักการอา่ น) 117เริ่มต้นอยา่ งไร ท�ำอะไรกนั บ้างแล้ว
กจิ กรรมตอ่ เนอ่ื ง 1. การพาเดก็ ประดษิ ฐห์ นา้ กากของสตั ว/์ ตวั ละคร ตามหนงั สอื นทิ าน เปน็ ตน้ 2. พาเดก็ แสดงทา่ ทางประกอบการเคลอ่ื นไหวเลา่ เรอ่ื งประกอบนทิ าน เปน็ ตน้ 3. การใหย้ มื หนงั สอื นทิ านกลบั บา้ น ใหพ้ อ่ แมผ่ ปู้ กครองอา่ นใหฟ้ งั เปน็ ตน้ การประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารประเมนิ โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม 1) โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม • การเปดิ /ปดิ หนงั สอื (ดา้ นรา่ งกาย : เดก็ สามารถใชก้ ลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ /ใหญ่ ในการหยบิ จบั การประสานสมั พนั ธ์ มอื -ตา ไดเ้ หมาะสมกบั วยั การควบคมุ การเ คลอ่ื นไหวของรา่ งกาย) • การรว่ มกจิ กรรมดว้ ยความสนใจ (ดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจ : เดก็ มสี มาธิ รว่ มกจิ กรรม แสดงความสนใจ) • การเลน่ /อา่ นหนงั สอื กบั เพอ่ื น (ดา้ นสงั คม : เดก็ ๆ รว่ มกนั ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงในการอา่ นหนงั สอื กบั เพอ่ื น เดก็ สามารถควบคมุ ตนเองได้ และดา้ นจรยิ ธรรม : เดก็ รจู้ กั การฟงั เลน่ ทำ�งานแลว้ เกบ็ ของเขา้ ทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบ ) • ดา้ นการคดิ และสตปิ ญั ญา : (เดก็ สามารถปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขอ้ ตกลง เรยี งลำ�ดบั ขน้ั ตอนรบั รแู้ ละเขา้ ใจ ความหมายของภาษาไดต้ ามวยั เปน็ ตน้ ) • ดา้ นภาษา : เดก็ สามารถแสดงความรสู้ กึ และใชภ้ าษาไดเ้ หมาะสมตามวยั เชน่ เดก็ สามารถบอกชอ่ื นทิ าน ,ตวั ละคร ใชภ้ าษาสอ่ื สารกบั เพอ่ื น กบั คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ เปน็ ตน้ • ดา้ นการสรา้ งสรรค์ : เดก็ สามารถโตต้ อบตามเรอ่ื งราวในหนงั สอื นทิ านได้ 1.2 การสนทนา/สอบถาม • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สนทนาพดู คยุ กบั เดก็ เชน่ บอกชอ่ื นทิ าน ตวั ละคร ความรสู้ กึ เกย่ี วกบั เรอ่ื งราวของนทิ าน เปน็ ตน้ • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สนทนา สอบถามความตอ้ งการของเดก็ วนั ตอ่ ไปอยากฟงั นทิ านเรอ่ื งอะไร เปน็ ตน้ (สรา้ งทางเลอื ก, วางแผนในการทำ�กจิ กรรมตอ่ ไปตามความสนใจของเดก็ ) 2. เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมตามเกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ 118 ศูนย์เรียนรู้ สถานพฒั นาเดก็ เลก็ นมแมแ่ ละการเรยี นรูแ้ บบบูรณาการ 3 เดอื น – 3 ปี โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม
ท ่ี รายการประเมนิ 3 ระดบั คณุ ภาพ 1 เดก็ สามารถเปดิ /ปดิ หนงั สอื 2 เดก็ ไมเ่ ปดิ /ปดิ หนงั สอื ได้ 1 การเปดิ /ปิด ไดท้ ลี่ ะหนา้ ไดด้ ว้ ยตนเอง หนงั สอื เดก็ สามารถเปดิ /ปดิ หนังสอื (ดา้ นรา่ งกาย) ได้ทลี่ ะหน้าไดโ้ ดยมีผชู้ ีน้ �ำ 2 การร่วมกจิ กรรม เดก็ มสี มาธิ สนใจเขา้ รว่ ม เดก็ มีสมาธิ สนใจเขา้ ร่วม เดก็ ไมม่ สี มาธิ เขา้ รว่ มกจิ กรรม ดว้ ยความสนใจ กจิ กรรมจนเสรจ็ กระบวนการ กิจกรรมจนเสร็จกระบวนการ ไมเ่ สรจ็ กระบวนการ (ด้านสงั คม) ดว้ ยตนเอง ดว้ ยโดยมผี ู้ช้นี ำ� เดก็ ไมท่ ำ� ลายหนงั สอื /อา่ น/ เดก็ ไม่ทำ� ลายหนงั สอื /อา่ น/ เดก็ ทำ� ลายหนงั สอื เลน่ แลว้ ไม่ 3 ความรับผดิ ชอบ เลน่ แลว้ เกบ็ หนงั สอื ทชี่ น้ั วางได้ เล่นแล้วเก็บหนงั สอื ทช่ี ัน้ วาง เกบ็ หนงั สอื ทช่ี นั้ วาง (ดา้ นจริยธรรม) ดว้ ยตนเอง ไดโ้ ดยมผี ชู้ ้ีน�ำ เดก็ สามารถสนใจฟงั สายตา เด็กสามารถสนใจฟัง สายตา เดก็ ไมฟ่ งั นทิ านและไมพ่ ดู 4 การใช้ภาษา มองตามภาพ พดู ตาม หรอื พดู มองตามภาพ พดู ตาม หรอื โตต้ อบ (ดา้ นการคิดและ โตต้ อบตามเรอื่ งราวในหนงั สอื พดู โตต้ อบตามเรอ่ื งราวใน สติปัญญา และ นทิ านไดด้ ว้ ยตนเอง หนงั สือนิทานได้โดยมีผู้ชีน้ �ำ ดา้ นภาษา) การใหร้ ะดบั คณุ ภาพ ความหมาย ตรัวะเบลบข รคะำบ�สบำ�ทคัญใี่ ช้ ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 3 ดี โดยมกี ารกระตนุ้ และชน้ี ำ� 2 พอใช้ ไมป่ รากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 1 ควรสง่ เสรมิ สง่ิ ทเ่ี ดก็ จะไดร้ บั 1. เดก็ ไดฝ้ กึ ใชภ้ าษาในการสอ่ื สาร โตต้ อบตามเรอ่ื งราวในหนงั สอื นทิ าน 2. เดก็ ไดม้ ปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั บคุ คลและสง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั 119เรมิ่ ต้นอย่างไร ทำ� อะไรกันบ้างแลว้
กกจิ การรรมต:ดั /หน่ั (ผลไม้) อายุเดก็ : 2 ปีขน้ึ ไป วัตถุประสงค์ 1. เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถควบคมุ การเคลื่อนไหวร่างกายได้ 2. เพื่อให้เด็กมสี มาธิ 3. เพอ่ื เด็กพงึ่ พาตนเองใชม้ ีดและแกป้ ัญหาด้วยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย อปุ กรณ์ 1. ถาดสำ�หรบั ใส่ผล/อปุ กรณ์ 2. เขยี ง 3. มดี เล็ก (ไม่คมมาก)/ มดี ตดั ขนม เป็นตน้ 4. จานรอง 5. กลว้ ยไข่ 6. เหล็กคบี (อาหาร) ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม 1. ขน้ั ที่ 1 ข้นั เตรียม/แนะนำ�อปุ กรณ์ • ครู/ผูด้ แู ลเด็ก เตรียมสถานทโี่ ต๊ะสำ�หรบั ทำ�กจิ กรรม 1.2 คร/ู ผ้ดู ูแลเดก็ เชิญชวนเดก็ ไปที่ชัน้ วางอุปกรณ์ แนะนำ� และให้ชือ่ “นีค้ ืออุปกรณ์ สำ�หรับ การตัด/หน่ั ผลไม้ มถี าดรอง มีด เขียง เหล็กคบี และกล้วยไข”่ (เพอื่ ฝกึ ทักษะทางภาษาและใหร้ ู้จักช่อื เพลง) 1.3 ครู/ผูด้ แู ลเดก็ สาธติ การถอื อปุ กรณ์ (ม่นั คง/ช้า/ชัดเจน) ใหเ้ ด็กดู และ ใหเ้ ด็กช่วยกันถืออุปกรณ์ ไปวางทีโ่ ต๊ะทำ�กิจกรรม (ที่เตรียมไว้) 120 ศูนย์เรียนรู้ สถานพฒั นาเดก็ เลก็ นมแม่และการเรียนรู้แบบบรู ณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
2. ข้ันท่ี 2 ขั้นสาธติ • ครู/ผู้ดูแลเด็ก แนะนำ�ชื่อ วิธใี ช้ และขอ้ ควรระวงั ในการใชอ้ ปุ กรณ์ที่ ถกู ต้องใหเ้ ด็กฟงั • ครู/ผดู้ แู ลเด็กและเด็กร่วมกนั สรา้ งข้อตกลงในการใชอ้ ปุ กรณห์ ัน่ ผลไม้ เพ่อื ความปลอดภยั ในการทำ�กิจกรรม • คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สาธิตการใช้อปุ กรณใ์ นการหั่นผลไมใ้ หเ้ ดก็ ๆ ดู ตาม ข้นั ตอน (ช้า/ชดั /ไมพ่ ูดอธิบายระหวา่ งสาธิต/ถ้าจะพูดใหพ้ ูดเฉพาะคำ�สำ�คัญ เชน่ ตดั หนั่ นบั 1, 2, 3 .....) ดังน้ี - ปลอกเปลือกกลว้ ยท่ีละผลให้เดก็ ดู (ครยู ม้ิ ๆ ใชส้ ายตา เชิญชวน เดก็ ทำ�กจิ กรรม) - มอื ซ้ายถือเหล็กคีบหนีบกลว้ ยที่ปลอกแล้ววางบนเขยี ง/มอื ขวา จบั มีดอยา่ งม่ันคง และหัน่ /ตดั ที่ละชน้ิ (ความยาวประมาณ ครง่ึ เซน็ ตเิ มตร) ครู นับทล่ี ะชน้ิ พรอ้ มกับตัด - ตัดเสร็จ 1 ผล ครูใชเ้ หล็กคีบ คีบกล้วยใสจ่ านที่ละช้ินพรอ้ มนบั ตามจำ�นวนทค่ี ีบ 3. ขนั้ ที่ 3 ขั้นปฏิบตั ิ • ครู/ผูด้ ูแลเด็ก เชญิ ชวนเด็กทลี ะคน ออกมาปลอกเปลือกกล้วย พรอ้ มกบั ใชเ้ หลก็ คบี และ ใช้มดี หน่ั กล้วย/คบี ช้ินกล้วยท่ีตัดแลว้ ใส่จาน • คร/ู ผดู้ ูแลเด็ก สงั เกต/ประเมินพฤตกิ รรมเด็ก 4. ข้ันท่ี 4 สรุป/สะท้อนผล • คร/ู ผู้ดแู ลเด็กและเด็กรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับความรสู้ ึกของเด็กได้ทำ�กจิ กรรมหน่ั ผลไม้ • ครู/ผดู้ ูแลเดก็ สนทนา พูดกบั เดก็ “มผี ลไม้อะไรอกี ที่เราสามารถตัด/ห่ันได้” • คร/ู ผดู้ ูแลเดก็ พาเด็กเช็ด/ลา้ งอุปกรณ์/เกบ็ อุปกรณ์ไว้ที่ชัน้ วางอุปกรณ์ หมายเหตุ (บนั ทกึ เพม่ิ เตมิ สำ�หรบั คร)ู 1. จากการทำ�กจิ กรรมใชม้ ดี หน่ั ผลไม้ ครคู วรแนะนำ�วธิ ใี ชท้ ถ่ี กู ตอ้ งและคอยดแู ล อยา่ งใกลช้ ดิ ระหวา่ งทเ่ี ดก็ ใชอ้ ปุ กรณ์ 2. มดี ทใ่ี ชส้ ำ�หรบั ตดั ควรขนาดเลก็ ไมค่ มมาก ควรเปน็ มดี สำ�หรบั ตดั ขนม เปน็ ตน้ 121เริ่มตน้ อยา่ งไร ท�ำอะไรกนั บา้ งแลว้
กจิ กรรมตอ่ เนอ่ื ง 1. การนำ�กลว้ ยทต่ี ดั /หน่ั แลว้ ไปทำ�เปน็ อาหารวา่ งสำ�หรบั เดก็ 2. การทำ�กจิ กรรมอาหารจากกลว้ ย เชน่ การทำ�กลว้ ยอบ/การทำ�กลว้ ยตาก/ การทำ�ขนมกลว้ ยบวดชี เปน็ ตน้ 3. การตดั /หน่ั สามารถปรบั เปลย่ี นผลไมใ้ หเ้ ปน็ ผลไมเ้ นอ้ื แขง็ ขน้ึ เพอ่ื ฝกึ การใช้ กลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ กบั อปุ กรณไ์ ดค้ ลอ่ งแคลว่ มากขน้ึ การประเมนิ ผล 1. วธิ กี ารประเมนิ 1.1 โดยการสงั เกตพฤตกิ รรม • การใชอ้ ปุ กรณแ์ ละการหน่ั ผลไม้ (ดา้ นรา่ งกาย : เดก็ สามารถใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เลก็ /ใหญใ่ นประสานสมั พนั ธ์ การควบคมุ การเคลอ่ื นไหวของรา่ งกาย) • การรว่ มกจิ กรรมดว้ ยความสนใจ (ดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจ : เดก็ มสี มาธิ สนใจ รว่ มกจิ กรรม สนกุ สนาน รา่ เรงิ แจม่ ใส) • การเลน่ /รว่ มกจิ กรรมกบั เพอื่ น (ดา้ นสงั คม : เดก็ ๆ รว่ มกนั ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงในการ เดก็ สามารถ ควบคมุ ตนเองได,้ และดา้ นจรยิ ธรรม : เดก็ รจู้ กั การฟงั เลน่ เดก็ ใหค้ วามรว่ มมอื ทำ� กจิ กรรมตา่ งๆ ของกลมุ่ ได)้ • ดา้ นการคดิ และสตปิ ญั ญา : (เดก็ สามารถปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขอ้ ตกลง เรยี งลำ� ดบั ขน้ั ตอนรบั รแู้ ละเขา้ ใจ ความหมายของภาษาไดต้ ามวยั เปน็ ตน้ ) • ดา้ นภาษา : เดก็ สามารถแสดงความรสู้ กึ และใชภ้ าษาไดเ้ หมาะสมตามวยั เชน่ ใชภ้ าษาชอื่ ผลไมช้ อ่ื อปุ กรณ์ และจำ� นวนชนิ้ ของกลว้ ย สอ่ื สารกบั เพอื่ น กบั คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ เปน็ ตน้ • ดา้ นการสรา้ งสรรค์ : เดก็ สามารถออกแบบการตดั ผลไมไ้ ด้ 1.2 การสนทนา/สอบถาม 1) คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สนทนาพดู คยุ กบั เดก็ เชน่ บอกชอ่ื ผลไม้ ความรสู้ กึ เกยี่ วกบั การรว่ มกจิ กรรม เปน็ ตน้ 2) คร/ู ผดู้ แู ลเดก็ สนทนา สอบถามความตอ้ งการของเดก็ วนั ตอ่ ไปอยากตดั /หน่ั อะไรบา้ ง เปน็ ตน้ (สรา้ งทางเลอื ก, วางแผนในการทำ� กจิ กรรมตอ่ ไปตามความสนใจของเดก็ ) 2. เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมนิ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมตามเกณฑก์ ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ 122 ศนู ย์เรียนรู้ สถานพฒั นาเด็กเลก็ นมแม่และการเรียนรู้แบบบรู ณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
ท ่ี รายการประเมนิ 3 ระดบั คณุ ภาพ 1 2 1 การตดั /ห่ันผลไม้ เดก็ สามารถใชอ้ ปุ กรณใ์ นการ เดก็ สามารถใชอ้ ปุ กรณใ์ นการ เด็กไม่สามารถทำ� กจิ กรรมได้ (ด้านร่างกาย ตดั /หน่ั เปน็ รปู รา่ ง ลกั ษณะท่ี ตดั /หน่ั เปน็ รปู รา่ ง ลกั ษณะท่ี ด้านการ ตอ้ งการ/คบี /วาง ผลไมใ้ นจาน ตอ้ งการ/คบี /วาง ผลไมใ้ นจาน สรา้ งสรรค)์ ไดด้ ว้ ยตนเอง ไดโ้ ดยมผี ชู้ นี้ ำ� 2 เดก็ มสี มาธิ สนใจเขา้ รว่ ม เดก็ มสี มาธิ สนใจเขา้ รว่ ม เด็กไม่มสี มาธิ เขา้ ร่วม การรว่ มกจิ กรรม กจิ กรรมจนเสรจ็ กระบวนการ กจิ กรรมจนเสรจ็ ระบวนการ กิจกรรมไม่เสร็จกระบวนการ ดว้ ยความสนใจ ดว้ ยตนเอง ดว้ ยโดยมผี ชู้ น้ี ำ� (ดา้ นสงั คม) 3 ความรบั ผดิ ชอบ เดก็ ใหค้ วามรว่ มมอื ทำ� กจิ กรรม เดก็ ใหค้ วามรว่ มมอื ทำ� กจิ กรรม เด็กไมก่ จิ กรรมร่วม (ดา้ นจรยิ ธรรม) ตา่ งๆ รอคอยของกลมุ่ ได้ ตา่ งๆ รอคอย ของกลมุ่ ได้ กับกลุ่ม ทำ� ความสะอาด เกบ็ อปุ กรณ์ ทำ� ความสะอาด เกบ็ อปุ กรณ์ ไดด้ ว้ ยตนเอง ไดโ้ ดยมผี ชู้ นี้ ำ� 4 การใชภ้ าษา เดก็ สามารถเดก็ สามารถสำ� รวจ เดก็ สามารถเดก็ สามารถสำ� รวจ เด็กไมแ่ สดงพฤตกิ รรม (ดา้ นการคิดและ เรยี งลำ� ดบั การใชอ้ ปุ กรณ์ บอก เรยี งลำ� ดบั การใชอ้ ปุ กรณ์ บอก สติปัญญา และ ชอ่ื ผลไม้ แสดงความรสู้ กึ และ ชอ่ื ผลไม้ แสดงความรสู้ กึ และ ด้านภาษา) แกป้ ญั หาได้ ดว้ ยตนเอง แกป้ ญั หาได้ ไดต้ ามวยั โดยมผี ู้ ชน้ี ำ� การใหร้ ะดับคุณภาพ ความหมาย ตรัวะเบลบข รคะำบ�สบำ�ทคัญ่ีใช ้ ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) ปรากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 3 ดี โดยมกี ารกระตนุ้ และชน้ี ำ� 2 พอใช้ ไมป่ รากฏพฤตกิ รรมตามพฒั นาการตามชว่ งวยั ของเดก็ ปฐมวยั (ตามคมู่ อื DSPM) 1 ควรสง่ เสรมิ สง่ิ ทเ่ี ดก็ จะไดร้ บั 1. เดก็ ไดฝ้ กึ ใชก้ ลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ มอื -ตา ในการใชท้ ค่ี บี และมดี ในการหน่ั ผลไม้ 2. เดก็ มสี มาธิ ไดเ้ รยี นรกู้ ารรอคอยใหถ้ งึ รอบของตนเองในการทำ�กจิ กรรม 3. เดก็ ไดฝ้ กึ แกป้ ญั หางา่ ยๆ โดยใชเ้ ครอ่ื งมอื ดว้ ยตนเอง 4. เดก็ มที กั ษะชวี ติ /ปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำ�วนั ไดด้ ว้ ยตนเอง 123เรมิ่ ต้นอยา่ งไร ท�ำอะไรกนั บ้างแล้ว
ภาคท่ี 5 124 ศูนยเ์ รยี นรู้ สถานพัฒนาเด็กเลก็ นมแมแ่ ละการเรียนรูแ้ บบบรู ณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
ตอ่ ยอด ขยายแนวทางสู่ สถานพัฒนาการเดก็ เลก็ ในจงั หวัด มหาสารคาม 125เรมิ่ ตน้ อย่างไร ทำ� อะไรกนั บ้างแล้ว
ต่อยอด ขยายแนวทางสู่ สถานพัฒนาการเด็กเล็ก ในจังหวดั มหาสารคาม 126 ศูนยเ์ รียนรู้ สถานพฒั นาเด็กเล็กนมแม่และการเรียนร้แู บบบูรณาการ 3 เดอื น – 3 ปี โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
จากการส�ำรวจขอ้ มลู สถานพฒั นาเด็กเลก็ ในท้องถิ่นจังหวดั มหาสารคาม เพือ่ การขยายแนวคิดศนู ย์พัฒนาเด็กเลก็ สง่ เสรมิ นมแม่และเรียนรู้แบบบรู ณาการ โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตรม์ หาวิทยาลยั มหาสารคาม จัดตัง้ ศูนย์เรียนรู้ สถานพัฒนาเด็กเล็กส่งเสริมนมแม่ และการเรียนรู้แบบบูรณาการ Learning Center Daycare for Child Development : Breastfeeding Promotion and Integrated Learning ขน้ึ โดยมงุ่ หวงั เพอ่ื สง่ เสรมิ พฒั นาการเดก็ ปฐมวยั ในกลมุ่ 3 เดือน – 3 ปี ให้เกดิ พฤติกรรมเพอ่ื พฒั นาการท่ดี ี น�ำไปสพู่ ืน้ ฐานการสร้างเด็ก ไทย 4.0 หรอื พลเมอื งในศตวรรษท่ี 21 เชน่ การคดิ แบบมวี จิ ารณญาณ การแกป้ ญั หา ความคดิ สรา้ งสรรค์ การรว่ มมอื กบั ผอู้ นื่ และการสอ่ื สารกบั ผอู้ นื่ เปน็ ตน้ และมเี ปา้ หมายให้เป็นศนู ยเ์ รียนร้เู พ่ือนำ� ผลวจิ ยั มาพฒั นา ผลติ หลกั สูตรและผลติ บคุ ลากรพี่ เลี้ยงเด็ก รวมทั้งขยายผลการน�ำไปใช้ต่อสถานพัฒนาเด็กอ่ืนๆ ในจังหวัด มหาสารคาม ตามภารกิจของศูนย์และสอดรับกับการเป็นหนึ่งในองค์กรที่ร่วมขับ เคลอ่ื นจงั หวดั ไอโอดนี ยง่ั ยนื ม่งุ สเู่ ดก็ ตกั ศิลา 4.0 (Smart Kids Taksila 4.0) โดยมี ภารกิจให้ด�ำเนินการ “จัดท�ำรูปแบบการพัฒนาการดูแลเด็กก่อนปฐมวัยต้นแบบ” เพื่อให้เกิดการขยายแนวคิดท่ีสอดคล้องกับบริบทของ จ.มหาสารคาม ทางโรง พยาบาลสุทธาเวช และศูนยเ์ รียนรู้ “สถานพัฒนาเดก็ เล็ก สง่ เสรมิ นมแมแ่ ละการ เรียนรูแ้ บบบูรณาการ” ได้ด�ำเนนิ การส�ำรวจข้อมูลศนู ยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ สังกัด อปท. ในจังหวัดมหาสารคาม ทัง้ 13 อ�ำเภอ จ�ำนวน 17 แหง่ พบว่า ศนู ยพ์ ัฒนาเดก็ เล็ก ทีส่ ังกดั เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำ� บล เปดิ รับ ดแู ลและสง่ เสรมิ พัฒนาการเดก็ ช่วงอายุ 2-5 ปี ซึง่ เป็นไปตามระเบยี บของกรมส่ง เสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านการบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ได้รับ การสนับสนุนงบประมาณ ผ่านมายังท้องถิ่นที่ดูแลรับผิดชอบ เพ่ือจัดให้เป็น สวัสดิการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแก่คนในชุมชน นอกจากนั้นยังส่งเสริมให้แต่ละแห่ง ไดม้ มี าตรฐานท่ีจำ� เป็นต่อการพัฒนาเด็ก อาทิ การผลกั ดนั ให้ครู ผู้ดูแล และเด็กมี คณุ วฒุ ดิ า้ นปฐมวยั การเพม่ิ สดั สว่ นครใู หส้ อดคลอ้ งกบั จำ� นวนเดก็ ซงึ่ สว่ นใหญค่ อ่ น 127เรมิ่ ต้นอยา่ งไร ทำ� อะไรกันบ้างแลว้
ขา้ งเป็นไปตามมาตรฐาน คือ อัตราสว่ น 1 : 10 สำ� หรับเด็กอายตุ ำ�่ กว่า 3 ปี และ 1 : 15 ส�ำหรบั เดก็ ท่มี ีอายุมากกว่า 3 ปี การจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ศู ูนย์ฯ แต่ละแหง่ ได้ยึดหลกั สูตรการพฒั นาเด็กปฐมวยั ผ่าน 6 กจิ กรรมหลัก และประยุกตต์ ามบริบท ของชุมชน ในบางแห่งมีการนำ� แนวคดิ การพัฒนาเด็กอ่ืนๆ มาปรบั ใช้ อาทิ BBL, Hi Scope, STEM, STEAM แต่ทงั้ นใี้ นบางศนู ยฯ์ จะยังมขี ้อจ�ำกัดด้านส่อื การเรยี น การสอน ทค่ี อ่ นขา้ งทรดุ โทรมและชำ� รดุ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ สนามเดก็ เลน่ ภายนอก อาคารที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง สถาพแวดล้อมและอุปกรณ์ยังไม่เหมาะสมและได้มารต ฐานแก่การใช้งาน ส�ำหรับคุณภาพเด็กในศูนย์ฯ จากการส�ำรวจพบว่า มาตรฐาน เป็นไปตามคู่มอื DSPM มีกระบวนการเฝา้ ระวงั และติดตามพัฒนาการเด็กอยา่ ง ใกล้ชดิ ระหว่าง ครพู ี่เลี้ยง เจา้ หน้าท่สี าธารณสขุ และผ้ปู กครอง จากขอ้ คน้ พบดงั กลา่ ว นบั วา่ เปน็ ฐานทนุ ทดี่ ใี นการพฒั นาเดก็ ให้ ดี เกง่ มสี ขุ ตามเปา้ หมายของวาระจงั หวัด Smart Kids Taksila 4.0 โดยต้องอาศัยกลไกการ พฒั นาเด็กทัง้ 3 ระดับ ไดแ้ ก่ 1) ระดับนโยบาย ควรมีการขับเคล่อื นรว่ มกันระหวา่ ง จงั หวดั ทอ้ งถนิ่ โดยมแี ผนและขอ้ ตกลงการพฒั นารว่ มทช่ี ดั เจน 2) ระดบั ปฏบิ ตั กิ าร ควรมกี ารส่งเสริมครหู ลัก (ครู/ครผู ูด้ แู ลเดก็ ) และครูเสรมิ (พอ่ แม่ ผู้ปกครอง) ให้มี ส่วนส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ผ่านการเลี้ยงดู อาหาร และกิจกรรมที่สอดคล้องกับ ชว่ งวยั 3) ระดบั สนบั สนนุ ตอ้ งมกี ารสง่ เสรมิ ความรใู้ หม่ ๆ ทที่ นั สมยั ใหก้ บั บคุ ลากร ทีม่ ีสว่ นในการดแู ล บคุ ลากรการทางสาธารณสขุ เจา้ หน้าท่ีฝ่ายการศึกษาของท้อง ถน่ิ ควรมกี ารสนบั สนนุ สอ่ื เสรมิ พฒั นาการ เครอ่ื งเลน่ กลางแจง้ เปน็ ตน้ การพฒั นา ภาษาที่สอง ยงั เปน็ ความทา้ ทายของทุกที เราจะเร่มิ ยงั ไง และทำ� อะไรไดบ้ ้าง ดงั นนั้ จากประสบการณใ์ นการจดั ตง้ั และบรหิ ารงานศนู ยเ์ รยี นรู้ สถานพฒั นา เด็กเล็กส่งเสรมิ นมแม่ และการเรียนรู้แบบบูรณาการ โรงพยาบาลสุทธาเวช ไดพ้ บ ปัจจัยความสำ� เร็จ 3 ประการ ไดแ้ ก่ 1) การพฒั นาคุณภาพครู/ผู้ดแู ลเดก็ /พเ่ี ลย้ี ง อย่างต่อเนื่องและมีสัดส่วนเพียงพอต่อการดูแลเด็กให้เป็นไปตามมาตรฐาน 2) กิจกรรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการที่หลากหลายจากหลักการ แนวคิด ทฤษฎีท่ียอมรับท้ังในและต่างประเทศและสอดคล้องกับบริบทในท้องถิ่น ของจงั หวัดมหาสารคาม สอดรบั กบั การสรา้ งเด็กไทยในยุค 4.0 และการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 3) ระบบการเช่อื มตอ่ กบั พอ่ แม่ผปู้ กครองเดก็ ปฐมวัย เพอ่ื สง่ เสริม พฒั นาการอยา่ งตอ่ เนอื่ งระหวา่ งสถานพฒั นาเดก็ เลก็ และครอบครวั สดุ ทา้ ยนี้ หาก พจิ ารณาเปา้ หมายในการสร้างเด็กมหาสารคามใหม้ ีคณุ ลกั ษณะ ดี เกง่ มีสขุ เชื่อ 128 ศนู ย์เรยี นรู้ สถานพฒั นาเด็กเลก็ นมแมแ่ ละการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการ 3 เดอื น – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
วา่ การนำ� บทเรยี นความสำ� เรจ็ จาก ศนู ยเ์ รยี นรฯู้ โรงพยาบาลสทุ ธาเวช และแนวคดิ ขับเคลอ่ื นการด�ำเนนิ งานผ่าน 3 กลไกการพัฒนาเด็ก ทงั้ 3 ระดบั โดยเริม่ จากศนู ย์ พฒั นาเดก็ เลก็ ในสงั กดั ทอ้ งถน่ิ ทมี่ คี วามพรอ้ ม สมคั รใจ และเหน็ เปา้ หมายของการ พฒั นาเดก็ รว่ มกนั ทำ� ในพนื้ ทนี่ ำ� รอ่ ง “1 อำ� เภอ 1 ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ตน้ แบบ” เพอื่ สรา้ งให้เกดิ โมเดลท่สี ามารถนำ� ไปขยายผลยังศูนยพ์ ัฒนาเด็กเลก็ อื่น ๆ ในทอ้ งถ่ิน เพ่ือให้เกิดการต่อประสานเช่ือมต่อ และกระจายการพัฒนาเด็กเล็กใน จ.มหาสารคามให้ ดี เกง่ มสี ขุ ทั่วทง้ั จงั หวัดตอ่ ไป ส่งเสริมการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ ให้เด็กได้รับนมแม่อย่างเดียวในระยะ 6 เดือนแรก และให้นมแมต่ อ่ เนื่องควบค่อู าหารตามวัยท่เี หมาะสมจนถึงอายุ 2 ปี หรือนานกว่านัน้ ผกั และผลไม้ เพยี งพอ ปลอดสารพิษ มีการเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับเด็กเพื่อน�ำสู่พฤติกรรมพึงประสงค์ตาม วยั ผา่ นการจดั กจิ กรรมแบบบรู ณาการจากปรชั ญา แนวคดิ และแนวทางตา่ ง ๆ อาทิ ภมู ปิ ญั ญาวถิ กี ารเลย้ี งดเู ด็กแบบไทย (local Thai wisdom) แนวทางกรมอนามยั แนวทางการจัดกิจกรรมตามแนวคิดของ Montessori, High Scope, Brain - Based Learning, การพัฒนาทกั ษะ Executive Function โดยอาศัยส่ืออุปกรณ์ส�ำหรับการจัดกิจกรรมตามบริบทท้องถ่ินของชาว จังหวัดมหาสารคาม ควบคู่กับการส่งเสริมให้เด็กมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงด้วย สนามเดก็ เล่น Nature touch รวมท้งั การเชือ่ มโยงต่อความรแู้ นวทางเลี้ยงดเู ดก็ กับผปู้ กครอง 129เริม่ ต้นอย่างไร ท�ำอะไรกันบ้างแล้ว
ภาคผนวก 130 ศนู ย์เรยี นรู้ สถานพัฒนาเดก็ เล็กนมแมแ่ ละการเรยี นรู้แบบบูรณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
DAYCARE STORY จากใจครพู ่ีเลยี้ ง 131เรมิ่ ต้นอยา่ งไร ทำ� อะไรกนั บา้ งแล้ว
DAYCARE STORY จากใจครูพี่เล้ยี ง 132 ศนู ยเ์ รียนรู้ สถานพัฒนาเด็กเลก็ นมแม่และการเรยี นรู้แบบบูรณาการ 3 เดอื น – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
นอ้ งเอ (อายุ 2 ปี 6 เดือน) นอ้ งโอลิมปิค เขา้ เรียนในวยั 2 ขวบ ข้ีอายคอ่ นข้างติดคุณแม่ ชว่ งสัปดาห์ แรกรอ้ งไหห้ นกั มากและไมย่ อมออกจากออ้ มกอดของคณุ แมเ่ ลย มกั ทำ� รา้ ยตวั เอง ด้วยการตีหัวหรือเอาหัวโขกพื้นเม่ือแม่หรือครูไม่อยู่ด้วย ชอบเล่นคนเดียวในมุม เงยี บๆ ไมเ่ ลน่ กบั เพอ่ื น โยนและขวา้ งปาของ ใชม้ อื หยบิ อาหารกนิ เลอะเทอะเพราะ ยงั ใชช้ อ้ นสอ้ มไมเ่ ปน็ แตค่ รสู งั เกตวา่ นอ้ งชอบสมั ผสั พน้ื ผวิ นมุ่ ๆ ชอบเรยี นรกู้ ารนบั จำ� นวนตวั เลข ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ เพลดิ เพลนิ กับการเล่นสื่อท่เี ก่ยี วกับ เรื่องของตัวเลข สนใจและชอบฟงั นทิ าน น้องชอบกิน ชอบเลน่ น้ำ� จากวันแรกจนถึงปจั จุบันเป็นเวลา 6 เดอื น ครใู ช้วธิ กี ารสรา้ งความไว้วางใจ โดยใช้บรรยากาศท่ีเงียบสงบและอบอุ่นเข้าช่วย อุ้มและกอดด้วยสัมผัสท่ีอบอุ่น ชวนพูดคุย ใช้ “กิจกรรมฝกึ จิตสงบ” ท�ำท่าประกอบเพลง “ดงั่ ดอกไมบ้ าน” ตอนนี้ นอ้ งมพี ฒั นาการดขี น้ึ ทำ� รา้ ยตวั เองนอ้ ยลง สามารถรว่ มกจิ กรรมกบั เพอื่ นๆ ได้ ไม่ โยนหรือขว้างปาข้าวของ สามารถใช้ช้อนตักอาหารเข้าปากได้เอง สามารถนั่งรับ ประทานอาหารพรอ้ มกบั เพอื่ นจนเสรจ็ (อม่ิ ) และสามารถเกบ็ ถาดอาหาร แยกเศษ อาหาร ช้อน ส้อม ลงในกะละมังที่ครูเตรียมไว้ได้ มีความสนใจน่ังเปิดดูภาพใน หนงั สอื นทิ านดว้ ยตนเองไดม้ ากกวา่ 5 นาที สามารถปฏบิ ตั ติ ามกตกิ างา่ ยๆ ไดม้ าก ขึ้น เชน่ “นำ� นทิ านไปเกบ็ ทช่ี น้ั นะคะ”“นำ� กลอ่ งนมทดี่ มื่ หมดแล้วไปทิ้งลงถงั ขยะนะ คะ” “น�ำผา้ เชด็ ตัวไปเก็บท่ีต้แู ตงโมนะคะ” เป็นตน้ 133เริ่มตน้ อยา่ งไร ทำ� อะไรกนั บา้ งแลว้
น้องบี (อายุ 2 ปี) น้องเอสตา้ มพี ัฒนาการทางดา้ นร่างกายทด่ี ขี ึน้ เดิน เคล่อื นไหวร่างกายได้ คลอ่ ง กล้าท�ำในสงิ่ ทเ่ี พ่อื นวัยเดยี วกนั ยงั ท�ำไมไ่ ด้ เชน่ การปนี บันได, การไต่เชือก ขึ้นบ้านต้นไม้ พัฒนาการทางด้านภาษา น้องสามารถเข้าใจค�ำส่ัง จดจ�ำค�ำสั่งได้ดี มีการ ตอบรบั เปน็ คำ� พดู กบั คณุ ครแู ละเพอ่ื นๆ ไดค้ รง้ั ละ 1-2 พยางค์ สามารถเขา้ ใจภาษา ทางกาย เชน่ การโบกมือเรียก, โบกมือปฏิเสธ นอ้ งมกี ารปรบั ตวั ในการอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คม เชน่ การปทู นี่ อนเอง/นอนทนี่ อน ของตนเอง, การดืม่ นมจากแก้ว จากท่ีนอ้ งเคยติดขวดนม ครูใชว้ ิธคี ่อยๆ ฝึกดว้ ย การเปลี่ยนให้ดูดหลอดแทนดูดขวดและใส่แก้วด่ืมด้วยตนเอง ปัจจุบันน้องดื่มนม จากแก้วเสรจ็ ก่อนแล้วจงึ เขา้ นอนเอง ส่วนการรบั ประทานอาหาร น้องสามารถใช้ ทัพพีตกั อาหารจากถ้วยกลางใสถ่ าดอาหารของตนเองได้ และสามารถใช้ชอ้ นสอ้ ม ตักอาหารเข้าปากรับประทานเองได้ และท่ีส�ำคัญสามารถเค้ยี วรับประทานอาหาร ได้ทุกประเภท จากท่ีเคยรับประทานอาหารท่ีบดละเอียดเท่าน้ัน เมื่อรับประทาน เสร็จ (อิ่ม) น้องยงั สามารถเทแยกเศษอาหาร ก่อนเกบ็ ถาดอาหารใส่อุปกรณ์ท่ีครู เตรียมไว้ไดด้ ว้ ยตนเอง 134 ศนู ยเ์ รียนรู้ สถานพฒั นาเด็กเลก็ นมแมแ่ ละการเรียนรแู้ บบบูรณาการ 3 เดอื น – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
นอ้ งซี (อายุ 3 ปี 4 เดือน) พฒั นาการของน้องแยมมี่ เมื่อ 6 เดือนก่อน น้องยงั ไม่เลน่ กับเพ่อื น ไม่รับ ประทานอาหารพร้อมกับเพ่ือน จะพูดสื่อสารกับเฉพาะครูท่ีพูดภาษาอีสาน ชอบ น่ังอยู่คนเดียวในมุมห้องและไม่ร่วมกิจกรรมกลุ่ม หลังจากมาเรียนท่ีศูนย์ฯ น้อง สามารถชว่ ยเหลือตัวเองไดใ้ นกิจวัตรประจำ� วัน บอกขบั ถา่ ยได้ รับประทานอาหาร เองและทานพรอ้ มกบั เพอ่ื น สวมเสอ้ื ผา้ ไดเ้ อง และสามารถชว่ ยเหลอื นอ้ งๆ ในการ ท�ำกิจวตั รประจำ� วนั ได้ ปจั จุบันนอ้ งมีพฒั นาการตามวยั นอ้ งดี (อายุ 2 ปี 9 เดอื น) นอ้ งปรญี า เมอ่ื พบกนั ครง้ั แรก ทกุ เชา้ ทผ่ี ปู้ กครองมาสง่ นอ้ งรอ้ งไหห้ นกั มาก ไม่ย่อมร่วมท�ำกิจกรรมกับเพื่อนเลย ได้แต่ร้องไห้กอดกระเป๋าของตัวเองน่ังอยู่กับ ทที่ งั้ วนั ครใู ชว้ ธิ เี ขา้ ไปพดู คยุ กบั เดก็ เพอื่ สรา้ งความไวว้ างใจ ชกั ชวนใหเ้ ลน่ กบั เพอ่ื น นอ้ งกด็ ขี น้ึ มาก รสู้ กึ ไวว้ างใจไมร่ อ้ งไห้ สามารถปฏบิ ตั กิ ตกิ าและคำ� สง่ั งา่ ยๆ ได้ เชน่ ปเู สอ่ื กอ่ นแลว้ คอ่ ยน�ำของเล่นลงมาเล่นนะคะ เมือ่ เลน่ เสรจ็ กส็ ามารถเกบ็ ของเขา้ ท่ีได้เองค่ะ ปรีญามีความใจเย็น มีระเบียบ ทุกคร้ังเมื่อเล่นเสร็จจะเก็บของเข้าท่ี อยา่ งเปน็ ระเบยี บ ปจั จบุ นั นอ้ งปรญี าสามารถชว่ ยเหลอื ตวั เองไดม้ าขน้ึ และยงั อาสา ช่วยคณุ ครูปทู ่นี อน, เกบ็ ของเล่น, พบั ผ้าเช็ดมอื และชว่ ยพบั ผา้ หม่ เกบ็ ทีน่ อนหลงั ตน่ื นอนด้วยคะ่ 135เริ่มต้นอย่างไร ทำ� อะไรกนั บา้ งแลว้
นอ้ งอี (อายุ 1 ปี 8 เดือน) มาเรยี นครง้ั แรกนอ้ งรสิ ายงั ไมเ่ ลกิ ขวดนม แตส่ ามารถดม่ื จากกลอ่ งดดู หลอด ได้ ครจู งึ ค่อยๆ เปลีย่ นโดยชักชวนน้องมาน่ังดื่มนมรวมกับเพ่อื นๆ พี่ๆ ทดี่ ืม่ นม จากแก้ว ในคร้ังแรกท่คี รูลองให้นอ้ งดม่ื นมจากแกว้ น้องไมย่ อมได้แต่รอ้ งไห้ แตพ่ อ ถงึ ชว่ งเวลาดมื่ นมทกุ ครง้ั ครกู จ็ ะพานอ้ งมานง่ั ดม่ื พรอ้ มเพอื่ น นอ้ งนง่ั ดเู พอื่ นอยพู่ กั ใหญ่ พอนอ้ งเห็นเพอื่ นๆ ด่มื จากแก้ว น้องไดม้ าขอคุณครูดม่ื จากแกว้ ด้วยตนเอง ครกู แ็ อบยิ้มดีใจที่น้องซึมซบั และเรยี นรู้จากการเลียนแบบ เมื่อน้องเริ่มไว้วางใจครู หยดุ รอ้ งไห้ ครกู พ็ ยายามชกั ชวนใหเ้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมกบั เพอ่ื นๆ และเสรมิ พฒั นาการ ตา่ งๆ นอ้ งยงั ไม่พดู ไม่สามารถส่ือสารได้ ครูก็ฝึกให้ท�ำตามแล้วนำ� รูปสัตว์มาวาง และบอกชื่อสัตว์ให้น้องพูดตาม ช่วงแรกน้องสามารถจดจ�ำได้แต่ยังไม่พูด เม่ือครู บอกช่ือและให้ไปหยิบ น้องสามารถหยิบได้ถูก ต่อมาเริ่มบอกช่ือของสัตว์ได้ 1 พยางค์ และเรม่ิ ท�ำตามคำ� ส่งั งา่ ยๆ ได้ดีขึน้ ค่ะ ตอนน้ีบอกไดม้ าดมื่ นม, ใส่แกว้ , แปรงฟัน, เข้านอน และสามารถช่วยเหลือตนเองไปมาเข้า ดื่มนมเสร็จเก็บแก้ว, รับประทานอาหารเสร็จเก็บถาดดว้ ยตนเองค่ะ 136 ศนู ยเ์ รียนรู้ สถานพัฒนาเดก็ เล็กนมแม่และการเรียนร้แู บบบูรณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม
137เริม่ ตน้ อยา่ งไร ท�ำอะไรกันบ้างแล้ว
รายชื่อคณะทำ�งาน ผู้รับผดิ ชอบโครงการ : 1. ผศ. นพ. เกรยี งไกร โกวิทางกูร ผอู้ ำ�นวยการโรงพยาบาลสุทธาเวช 2. นางศริ พิ ร รองหานาม รองผู้อำ�นวยการ 3. ศ.นพ. สุรพล เวยี งนนท์ รองผู้อำ�นวยการ 4. พญ. พรรณพิ ศิ วงศม์ ีฤทธ์ ิ อาจารย์แพทย์ 5. นางปาลิตา พูลเพ่ิม หวั หน้างานการพยาบาล 6. นางสริ ินธร นลิ วรรณาภา หัวหน้างานเวชกรรมสงั คม 7. นพ.บวร แสนสุโพธ ิ์ รองผ้อู ำ�นวยการ 8. นางปิติพร เบญจจนิ ดา พยาบาลวชิ าชีพ 9. นางสายฝน ปอ้ งชาล ี นกั วิชาการสาธารณสุข 10. นางสาวสุนสิ า โสภาอุทก ครพู ่เี ลี้ยง 11. นางสาวชนั ณิชา ดีสม ครูพ่ีเลีย้ ง 12. นางณทั กาญจน์ ทนั บาล ครูพีเ่ ลี้ยง 13. นางสาวจุฑามาศ พลทอน ครูพเี่ ลี้ยง ทอ่ี ยู่ : โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม ตำ�บล ตลาด อำ�เภอ เมือง จงั หวัด มหาสารคาม 44000 โทรศัพท์ 043-712980-3 ต่อ 7702 โทรสาร 043-722031 โทรศัพทเ์ คลอื่ นที่ 084 7420443 E-mail [email protected] 138 ศนู ยเ์ รียนรู้ สถานพัฒนาเดก็ เล็กนมแมแ่ ละการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการ 3 เดอื น – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
คณะทป่ี รึกษาโครงการ : 1. ศ. คลินกิ พญ.ศริ าภรณ์ สวัสดิวร ทปี่ รึกษาสถาบนั สุขภาพเดก็ แห่งชาติ มหาราชินี อดตี รองคณบดี และผูอ้ ำ�นวยการ โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม 2. ศ. ดร.วิลาศ วูวงศ ์ ทีป่ รกึ ษามหาวทิ ยาลัยด้านวจิ ยั และ เทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวทิ ยาลัยราชภฎั สกลนคร อดีตรองอธกิ ารบดีสถาบันเทคโนโลยี แหง่ เอเชีย 3. นางพรพไิ ล เลิศปรชี า เมธวี จิ ัยอาวุโส สำ�นกั งานคณะกรรมการ วิจัยแห่งชาติ 4. ดร.สวาสฎพิ ร แสนคำ� ศกึ ษานิเทศก์ สำ�นกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา ประถมศกึ ษา อบุ ลราชธานี เขต 1 5. รศ. พญ.กสุ ุมา ชุศิลป ์ อาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และกรรมการ มลู นธิ ิศนู ย์นมแม่แหง่ ประเทศไทย 6. พญ.อดศิ ร์สดุ า ฟูเฟื่อง หวั หน้าหนว่ ยพัฒนาการเด็ก สถาบนั สุขภาพเดก็ แห่งชาตมิ หาราชนิ ี 7. พญ.นยั นา ณศี ะนันท์ หัวหน้าหนว่ ยกมุ ารเวชกรรมสังคม สถาบันสุขภาพเดก็ แห่งชาตมิ หาราชนิ ี 8. นางสุดาเรศ ศริ สิ ทิ ธ์ธิ นภาค อาจารยป์ ระจำ�ภาควชิ าการศึกษาปฐมวัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม 9. นายสนั ทนา ภิรมยเ์ กยี รติ อาจารย์ประจำ�ภาควชิ า สถาปตั ยกรรมภายใน คณะสถาปตั ย์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม 139เร่ิมต้นอยา่ งไร ท�ำอะไรกันบ้างแล้ว
รว่ มฝัน “ก่อร่างสรา้ งเด็ก” เปน็ โอกาสดมี าก ท่ีพวกเราจากต่างสาขาวชิ าชพี ไดม้ ารว่ มกนั ทำ� หน้าท่ที มี ท่ี ปรึกษาการจัดตั้งสถานพัฒนาเด็กเล็กนมแม่และเรียนรู้แบบบูรณาการ ของคณะ แพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม ทมี ทปี่ รกึ ษามตี น้ ทนุ ประสบการณ์ ความ รู้ความสามารถเรื่องการเล้ียงดูเดก็ ปฐมวัยท่ีต่างกัน ศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ ววู งศ์ อดีตรองอธกิ ารบดี สถาบันเทคโนโลยีแห่ง เอเชีย (AIT) วิศวกรผู้เช่ียวชาญด้านคอมพิวเตอร์ ผันตัวเองหลังเกษียณเข้าเรียน คอรส์ การพฒั นาสมองในเด็กจรงิ จงั Brain Story-Harvard University รวมทงั้ ศึกษา ปรชั ญาแนวคดิ ทฤษฎี วธิ กี ารจดั การศกึ ษาปฐมวยั และการอบรมเลย้ี งดแู ลเดก็ ตา่ งๆ คณุ พรพไิ ล เลศิ ปรชี า เมธวี จิ ยั อาวโุ ส สำ� นกั งานคณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาติ ผู้คร�่ำหวอดประสบการณ์ตรงความส�ำเร็จในการเล้ียงดูลูกตัวเอง ได้ถ่ายทอดการ เล้ียงดู การให้การศกึ ษาเดก็ ปฐมวยั ตามแนว Brain-based Learning ทว่ั ประเทศ ดร.สวาสฎพิ ร แสนคำ� ศกึ ษานเิ ทศก์ สงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา ขน้ั พ้นื ฐาน ผมู้ ีประสบการณ์ ด้านการนิเทศ และพัฒนาครผู ู้สอนระดบั ปฐมวัยและ ผู้บริหารสถานศึกษาระดับปฐมวัย มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี คลุกคลีอยู่กับการฝึก อบรมคณุ ครปู ฐมวยั และผา่ นการอบรมหลกั สตู ร การจดั การเรยี นการสอนแบบมอน เตสซอรี (Montessori) ระดับปฐมวัย จากสมาคมมอนเตสซอรีสากล (Association Montessori Internationale) หรือ AMI มีประสบการณ์ทั้งในระดับประเทศและ นานาชาติ 140 ศนู ยเ์ รียนรู้ สถานพฒั นาเด็กเล็กนมแมแ่ ละการเรียนรแู้ บบบูรณาการ 3 เดอื น – 3 ปี โรงพยาบาลสทุ ธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
รศ.พญ.กุสุมา ชสู ลิ ป์ ผู้เปี่ยมประสบการณค์ วามร้คู วามสามารถเรอ่ื งการสง่ เสริมการเล้ยี งลกู ดว้ ย นมแม่ และการบรู ณาการการเลยี้ งดู การใหอ้ าหารตามวยั ทำ� อยา่ งไรใหก้ นิ ได้ กนิ ดี กนิ พอ ศาสตราจารยค์ ลินกิ พญ.ศิราภรณ์ สวสั ดวิ ร อดีต ผอ.สถาบนั สุขภาพเดก็ แห่งชาตมิ หาราชินี ผมู้ ปี ระสบการณข์ บั เคลื่อนการเล้ยี งลูกด้วยนมแม่ในสังคมไทย และการบริหารจัดการโครงการด้านแม่และเด็กหลายโครงการ และสนใจการขับ เคลอื่ น ปอ้ งกัน NCD ตัง้ แตเ่ ยาวว์ ยั อาจารย์ สันทนา ภิรมย์เกียรติ อาจารย์คณะสถาปัตย์ มหาวิทยาลัย มหาสารคาม ที่ออกแบบ ปรบั ปรุง อาคารและพ้นื ที่ และแบบ play ground ทกี่ �ำลงั พอเหมาะ สอดคลอ้ งธรรมชาติทม่ี ีอยู่ พ.ญ.อดิศร์สุดา ฟูเฟื่อง, พ.ญ.นัยนา ณีศะนันท์, อ.ขิ่ม สกุลนุ่ม และ ผศ.ดร.สุดาเรศ ศิริสิทธิ์ธนภาค เป็นอีก อาจารย์ท่ีกรุณามาให้ความรู้และให้ค�ำ แนะนำ� ต่อเน่อื ง ความต่างของแต่ละคนเป็นแรงเสริมซ่ึงกันและกัน สิ่งที่เหมือนกันของทีมท่ี ปรึกษา คือ เราเห็นคุณภาพเด็กไทย ท่ีแม้จะมีเด็กแนวหน้าด้านวิชาการระดับ โอลมิ ปคิ เกง่ กาจเปน็ เยย่ี มในเมอื งใหญ่ ในภาคเอกชนมสี ถานท่ี มโี รงเรยี นดแู ลเลยี้ ง ดูเด็กปฐมวัยเป็นเยี่ยมมากมาย มีหลักสูตรและคอร์สพิเศษสำ� หรับเด็กเยอะแยะ มากมาย แตม่ ีเดก็ อกี มหาศาลในชมุ ชนยงั ไม่มโี อกาสน้ัน พวกเรามีความเช่ือมั่นว่า เดก็ ทกุ คนสามารถมีตน้ ทุนสมอง ร่างกายและจิตใจ ท่สี ามารถพัฒนาให้เตบิ โตเปน็ คนคุณภาพ ตามแนวทางทักษะของคนในศตวรรษท่ี 21 ขอเพียงได้รับการดูแล อาหารการกิน การเลย้ี งดู ท่เี หมาะสม มเี ทคนิคในการสร้างเสรมิ ประสบการณก์ าร เรียนรู้ ในแต่ละวัน ด้วยความรักความเข้าใจ ถ้าพ่อแม่หรือผู้เล้ียงดูไม่ว่าง สถาน พัฒนาเด็กเล็กยังสามารถท�ำหน้าที่แทนได้อย่างน้อย 6-8 ช่ัวโมง ต่อวัน ในการ ให้เด็กไดอ้ ยู่ในส่ิงแวดลอ้ มทเ่ี อือ้ ต่อการฟูมฟักทกั ษะและพฤตกิ รรมพงึ ประสงค์ ให้ พร้อมในการไปต่อปล๊ักกับสถานพัฒนาเด็ก 2-3 ปีข้ึนไปในจังหวัดมหาสารคาม ต่อไป เพื่อเสริมฐานสรา้ งเดก็ ไทย 4.0 สรา้ งบณั ฑิตพนั ธุ์ใหม่ 141เรม่ิ ตน้ อยา่ งไร ท�ำอะไรกันบ้างแล้ว
วิธีคิดวธิ ีท�ำงาน ผ้ใู หก้ ารสนบั สนุนหลกั คณุ ศภุ ชยั -คุณ สงวนศรี สทุ ธพิ งษ์ชยั ผู้ริเริม่ โครงการทุนการศกึ ษา บรษิ ทั กรงุ ไทยการไฟฟ้า จำ� กัด • มีความต้ังใจในการมอบโอกาสแห่งความเสมอภาคทางการศึกษา ให้จบมา แลว้ ดำ� รงตนให้เป็นประโยชน์ต่อชาตบิ ้านเมอื ง • ถ้าจะสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศไทย ต้องช่วยให้เยาวชนได้รับการ ศกึ ษาทีด่ ที ี่สุด และมากเท่าท่ีเปน็ ไปได้ • ทุนมกี ารออกแบบ ท่มี คี วามแตกตา่ งในวิธีคิดจากการใหท้ ุนทัว่ ไปคือ - มอบทนุ ใหเ้ ปน็ รายปี และมอบใหเ้ พอ่ื ใหม้ โี อกาสเรยี นไดจ้ บมาประกอบอาชพี - มอบความรัก ความเมตตา ในระหว่างปี มีกิจกรรมส่งเสริม การมี คุณธรรม จริยธรรม และไดเ้ ห็นความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลย่ี หวังผล ให้นักเรียนเติบโตในวิธีคิดที่ดี เม่ือจบมีงานท�ำ คิดเผื่อแผ่ ไดใ้ ห้โอกาสกบั ผู้อ่ืนดว้ ย ในการสนับสนุน การก่อต้ังศูนย์เรียนรู้ สถานพัฒนาเด็ก ส่งเสริมนมแม่ และการเรยี นรแู้ บบบูรณาการ ขอให้ 1 เนน้ คณุ ภาพการใหบ้ รกิ าร ไมเ่ น้นปรมิ าณ 2 เมอื่ มีการขยายผล ไปสถานพฒั นาเด็กอ่ืน ให้มีการวดั ผลได้ 3 พยายามใหเ้ ดก็ ในโครงการสามารถเขา้ สโู่ ครงการตอ่ เนอ่ื งกบั โครงการคณุ ภาพ ในจงั หวดั ตอ่ ไป 4 เน้นการพัฒนาสถานท่ี ให้สะอาด น่าเข้ารับบริการ โดยเฉพาะห้องน้�ำ ต้องสะอาดและเป็นมิตรกับเด็ก ต้องการให้เด็กได้อยู่ในสถานท่ีท่ีดีที่สุด ที่เปน็ ไปได้ 5 ขอให้ด�ำเนินการทางการเงิน ให้สะดวก ในการจัดท�ำโครงการให้ได้ ตามเป้าหมาย 8 มยิ 2561 142 ศูนยเ์ รียนรู้ สถานพัฒนาเด็กเล็กนมแมแ่ ละการเรยี นรู้แบบบรู ณาการ 3 เดือน – 3 ปี โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ขอบคณุ 1. คณุ ศภุ ชัย - คุณสงวนศรี สทุ ธพิ งษช์ ยั 2. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 3. มลู นธิ ศิ นู ย์นมแมแ่ หง่ ประเทศไทย 4. สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 5. ส�ำนักงานหลกั ประกนั สุขภาพเขต 7 6. คณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม 143เริม่ ต้นอย่างไร ทำ� อะไรกันบา้ งแลว้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146