Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วย4_การเพาะปลูกพืช ม.4

หน่วย4_การเพาะปลูกพืช ม.4

Published by tangmo_word, 2021-09-30 22:15:12

Description: หน่วย4_การเพาะปลูกพืช ม.4

Search

Read the Text Version

การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 นางสาวสุดธิดา โททมุ พล ครผู สู้ อน

4หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ การเพาะปลกู พชื สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง • ความคดิ สรางสรรคมี 4 ลกั ษณะ ประกอบดวย ความคิดริเร่มิ ความคลองในการคดิ ความยืดหยุนในการคิด และความคิดละเอียดลออ • ทักษะการจัดการ เปนการจัดการระบบงานและระบบคน เพอ่ื ใหการทํางานสาํ เร็จตามเปาหมายอยางมีประสทิ ธภิ าพ เชน การปลูกพืช ขยายพันธุพชื หรอื เล้ยี งสตั ว • คณุ ธรรมและลกั ษณะนิสยั ในการทาํ งานเปนการสรางคุณงามความดี และควรฝกใหผเู รียนมีคุณภาพที่สําคัญ ๆ เชน ขยนั อดทน รับผดิ ชอบ ซ่อื สัตย • การใชพลงั งาน ทรพั ยากรอยางคุมคาและยั่งยืน เปนคณุ ธรรมในการทาํ งาน

การเพาะปลูกพืช ปัจจยั ท่เี ก่ียวขอ้ ง ปจั จัยที่มอี ิทธพิ ลต่อการ เครอื่ งมอื และอุปกรณ์ ประโยชนข์ องการ กบั การปลูกพืช เจริญเตบิ โตของพชื ในการปลกู พืช เตรียมพนั ธ์ุพืช การเตรียมดนิ ปลกู พืช ตัวอย่าง ตัวอย่าง ตัวอยา่ ง การขยายพันธ์ุพชื การปลกู กะเพรา การปลกู เข็ม ดว้ ยวิธกี ารปกั ชา

ปัจจยั ท่เี กีย่ วขอ้ งกับการปลูกพืช 4 ทาเลตั้งของดิน 1 ความลาดเอยี ง หรอื ระดับความสงู ต่าของพน้ื ที่ ควรเปน็ พืน้ ทท่ี ตี่ งั้ อย่ใู กลต้ ลาดและชมุ ชน แปลงปลกู พืชควรมคี วามลาดเอียงเล็กน้อย เพ่อื ความสะดวกในการขนส่งผลผลิต เพ่อื สะดวกในการระบายนํา้ 5 2 ขนาดของพืน้ ที่ แหล่งน้า เลือกใชเ้ คร่ืองมือและเคร่อื งทุ่นแรงทมี่ ีขนาดเหมาะสม แหลง่ นา้ ผวิ ดนิ กบั พื้นท่ี เพือ่ ความสะดวกและคุ้มคา่ ต่อการลงทนุ เกิดจากน้ําฝนทีไ่ หลมารวมตวั กัน ซ่งึ จะมธี าตอุ าหารทจี่ าํ เป็นตอ่ พืช 3 คณุ สมบัตขิ องดิน แหลง่ นา้ ใต้ดนิ หรือน้าบาดาล เกดิ จากนํา้ ฝนที่ตกลงมาแลว้ ซมึ ลง สงั เกตและประเมินคณุ ภาพของดนิ เพื่อหาความอุดมสมบรู ณ์ ในดนิ ช้นั ตา่ ง ๆ ปรมิ าณธาตุอาหารพืชของดินก่อนท่จี ะลงมอื ปลูกพืช นา้ จากอา่ งเกบ็ นา้ เหมอื ง ฝาย เขือ่ น มีความสาํ คญั ตอ่ การปลกู พืชในฤดูแลง้

ปัจจัยทีม่ อี ทิ ธพิ ลต่อการเจริญเติบโตของพชื 1 ดิน ส่วนประกอบของดิน อากาศ อนิ ทรยี วตั ถุ - เป็นกลุ่มแก๊สที่อยูใ่ นช่องว่างระหว่างเม็ดดนิ ประกอบด้วย - เกดิ จากการสลายตวั ของเศษพืช ซากสัตว์ แก๊สไนโตรเจน ออกซิเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ - เป็นแหลง่ กาเนดิ ธาตุอาหารพืชและแหล่งอาหาร - เป็นแหลง่ แกส๊ ออกซเิ จนสาหรับรากพชื และจุลินทรีย์ในดนิ ของจุลินทรยี ใ์ นดิน น้า แร่ธาตุ - ของเหลวที่อย่ตู ามช่องวา่ งระหว่างเมด็ ดนิ หรืออนุภาคดิน - เกดิ จากการยอ่ ยสลายตัวของหนิ และแร่ธาตตุ ่าง ๆ - เป็นแหลง่ กาเนิดธาตุอาหารพืชและจุลนิ ทรียใ์ นดิน - เป็นสว่ นละลายธาตอุ าหารตา่ ง ๆ ในดนิ และช่วยดดู ลาเลียง ธาตุอาหารพชื จากรากสู่ลาต้นและใบ

ปัจจยั ท่ีมอี ทิ ธพิ ลต่อการเจริญเติบโตของพชื (ตอ่ ) 1 ดิน (ต่อ) ประเภทของดิน ดินทราย เสน้ ผ่านศนู ยก์ ลางของอนุภาคดิน ดนิ เหนียว ดินรว่ น ตง้ั แต่ 0.05-2.0 มม. เสน้ ผ่านศูนยก์ ลางของอนุภาคดนิ เส้นผ่านศนู ย์กลางของอนุภาคดิน เลก็ กวา่ 0.002 มม. ต้ังแต่ 0.002-0.005 มม. เป็นดินทมี่ เี นอื้ หยาบ ไมเ่ กาะตัวกนั เปน็ ดินที่เกาะตวั กันอยา่ งหนาแนน่ เปน็ ดินที่มชี อ่ งวา่ งระหว่างเม็ดดินมาก มีช่องวา่ งในดินมากจงึ ระบายน้าํ ได้ดี จึงมปี ระสทิ ธิภาพในการอุ้มน้าํ ดีทส่ี ุด น้ําและอากาศผา่ นได้ง่าย การปรบั ปรุงดนิ ให้เหมาะสมกบั การเจรญิ เติบโตของพชื ดนิ ดา่ ง ดนิ กรด - ใส่ปยุ๋ อินทรีย์ เพื่อลดปฏกิ ริ ิยาทางเคมขี องดนิ และเพิม่ ความอดุ มสมบรู ณ์ - ใส่ปนู ขาว หรือปนู มารล์ หรอื ขเี้ ถา้ แกลบ เพื่อปรบั สภาพให้กรดเจอื จาง - ทดน้าํ เข้าแปลงปลูกพืช แล้วกกั น้าํ ไว้ จะช่วยลดความเจือจางของดา่ ง - ใชอ้ นิ ทรยี วตั ถุ เพราะสามารถดดู ซบั นาํ้ และธาตอุ าหารได้ดี - ไถพลกิ หน้าดิน เพ่ือลดปฏกิ ริ ยิ าทางเคมขี องดิน - ใสป่ ยุ๋ หมกั เพ่อื เพมิ่ แหล่งอาหารของจุลนิ ทรยี ์ในดิน - ใสป่ ยุ๋ ท่ีมีฤทธ์ิตกค้างเป็นกรด - ลดการใช้ปยุ๋ เคมี - ใสส่ ารเคมี เช่น ธาตกุ าํ มะถัน จะสามารถลดความดา่ งของดนิ - ใช้นา้ํ ชะล้างกรดในดิน โดยกักนา้ํ ไว้และระบายออก

ปัจจัยทีม่ ีอทิ ธิพลตอ่ การเจริญเติบโตของพืช (ต่อ) พชื ทีต่ อ้ งการน้าในปริมาณปานกลาง 2 น้า เงาะ มะขาม พชื ท่ตี ้องการน้าในปริมาณมาก พืชที่มีระบบรากพิเศษ ข้าว แหว้ น้าเปน็ ส่ิงจาํ เป็นต่อการ ดํารงชวี ติ และการเจริญเตบิ โต กลว้ ยไมพ้ นั ธุ์ตา่ ง ๆ พืชทตี่ ้องการนา้ ในปรมิ าณนอ้ ย ของพืช เชน่ ช่วยละลายแร่ธาตุอาหาร ในดนิ ช่วยในการสงั เคราะห์แสงของพชื โดยทัว่ ไปพชื แตล่ ะประเภท จะมีความตอ้ งการนาํ้ ท่ตี ่างกัน สามารถแบง่ พืชได้ ดังนี้ มนั สาปะหลัง กระบองเพชร

ปัจจัยท่มี ีอทิ ธพิ ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื (ตอ่ ) 3 อุณหภมู ิ พชื เมอื งหนาว เปน็ พชื ทตี่ ้องการอณุ หภูมใิ นการ ทอ้ มันฝรัง่ แอปเปลิ มังคดุ ส้ม เจริญเตบิ โต 15 - 20 องศาเซลเซียส พืชเมืองรอ้ น เป็นพืชที่ต้องการอุณหภูมใิ นการ เจริญเตบิ โต 20 - 40 องศาเซลเซยี ส ข้าวโพด

ปจั จยั ท่มี ีอทิ ธพิ ลตอ่ การเจริญเตบิ โตของพืช (ตอ่ ) 4 แสงสว่าง แสงมอี ทิ ธพิ ลต่อการสรา้ งผลผลติ พืช แสงเป็นปจั จัยในการงอกของเมล็ด เมลด็ พืชบางชนิดตอ้ งการแสงในการงอก พชื วันสนั้ พืชวันยาว พชื ที่ไม่มีปฏิกริ ิยาต่อชว่ งแสง เช่น ยาสบู ผกั กาดหอม แตเ่ มล็ดพชื สว่ นใหญ่ ไม่ต้องการแสงในการงอก ต้องการแสง 10-14 ชว่ั โมงตอ่ วัน ต้องการแสง 14-16 ชั่วโมงต่อวัน แสงไม่มีผลต่อการออกดอก แสงจงึ จะมีความสาคญั หลังจากการงอกแล้ว เชน่ ครสิ ตม์ าส เบญจมาศ เชน่ พดุ ซ้อน ผกั กาดหอม เชน่ มะเขือเทศ กระเจี๊ยบ

ปัจจยั ทมี่ ีอทิ ธิพลต่อการเจริญเตบิ โตของพืช (ต่อ) ความเขม้ ของแสง 4 แสงสว่าง (ตอ่ ) คุณภาพของแสง แสงสีแดง ช่วยใหเ้ มล็ดพืชงอกไดเ้ ร็วขนึ้ รวมถึงการเจริญเตบิ โต ของต้นกล้าและการผลติ ดอก แสงสนี า้ เงนิ พชื ในร่ม พชื กลางแจ้ง ช่วยกระตุ้นการสร้าง เปน็ พชื ท่ตี ้องการความเขม้ ของแสงตํ่า เป็นพืชที่ตอ้ งการความเขม้ ของแสงสงู เมื่อปลูก คลอโรฟิลลใ์ นพชื เมือ่ ปลูกในทร่ี ่มพชื จะเจรญิ เตบิ โตได้ดี กลางแจง้ จะทําใหก้ ระบวนการสังเคราะห์แสงของ เช่น สาวน้อยประแปง้ เฟิน พืชทาํ ได้ดี เชน่ ย่ีโถ ดาวกระจาย

ปจั จยั ที่มีอทิ ธิพลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพชื (ตอ่ ) 5 อากาศและธาตอุ าหาร เม่ือลมพดั โมเลกลุ ของ แก๊สออกซิเจน O2 ออกซิเจน ชว่ ยในการหายใจของพชื คาร์บอนไดออกไซด์ และโมเลกลุ ของนา้ จะเคลื่อนทเี่ ข้าและออกทางปากใบพชื CO2 คาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยในการสังเคราะหแ์ สง ทาให้เกดิ การหายใจ การคายน้า หรือการปรุงอาหารของพืช และการสังเคราะห์แสงของพชื ธาตุอาหารหลัก ธาตอุ าหารรอง ธาตุอาหารเสริม NPK Ca Mg S B Fe Mn Mo Zn Cu Cl

เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ในการปลกู พืช เครือ่ งมอื ทใี่ ชด้ แู ลบารุงรกั ษาพืช 1 ประเภทของเครอื่ งมือและอปุ กรณท์ ใี่ ช้ในการปลูกพืช เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นเตรียมดิน พรวนดนิ พลัว่ ชอ้ นปลกู สอ้ มปลูก เลอ่ื ยตดั ก่ิงไม้ บัวรดนา้ เครอ่ื งพน่ สารเคมี เครือ่ งมอื ที่ใชเ้ กบ็ เกยี่ ว เครอ่ื งมอื บริการพิเศษ เคียว ตะกร้อ จอบ เครือ่ งตัดหญา้ เครอ่ื งสขี ้าว

เครอ่ื งมอื และอุปกรณใ์ นการปลกู พืช (ต่อ) 2 หลักการใช้และเก็บรักษาเคร่อื งมอื และอุปกรณใ์ นการปลูกพชื 1 ศกึ ษาวธิ กี ารใชเ้ ครื่องมอื จาก 2 เคร่อื งมือท่เี ป็นโลหะ ควรชโลมด้วย น้ามนั กันสนิมหลงั การใช้งานทกุ คร้ัง คู่มือการใช้งานก่อนนาไปใช้ 3 ขณะใช้เคร่ืองมือควรแตง่ กาย 4 เครื่องมือทกุ ชนดิ ควรเกบ็ ไว้ อย่างรัดกุมและเหมาะสม ในโรงเรอื นใหม้ ิดชิด

ประโยชนข์ องการเตรยี มพันธ์พุ ชื ประโยชน์ของการเตรียมพันธ์พุ ชื จากส่วนตา่ ง ๆ ของพืช ประโยชน์ของการเตรยี มพนั ธุ์พชื จากเมล็ด พันธุพ์ ืชท่ไี ดจ้ ะมลี กั ษณะเหมือนพอ่ แม่พันธุ์ ทกุ ประการ ทาใหไ้ มเ่ กดิ การกลายพนั ธ์ุ ทาได้งา่ ย สะดวก รวดเรว็ ซึง่ ตน้ พืชท่ีได้ จะมีจานวนมาก และมอี ายเุ ทา่ ๆ กนั สามารถรวมลักษณะทดี่ ีไว้ในต้นเดยี วกนั ทาใหไ้ ดพ้ ืชชนิดใหมท่ ใี่ หผ้ ลผลิตดี จะทาใหต้ ้นพชื มีรากแก้วแขง็ แรง เพราะรากจะหยง่ั ลกึ ลงในดนิ ทาให้ได้ผลผลติ ทเ่ี ร็วกวา่ การเตรียม และเจริญเติบโตอยา่ งรวดเร็ว พนั ธ์ุพชื จากเมลด็ ทาให้ไดพ้ ืชพนั ธุ์ใหม่ท่ีใหผ้ ลผลติ ดกี ว่า พันธ์ุเดมิ การปลูกพชื วิธีนีน้ ยิ มใชเ้ พอ่ื การทดลอง ค้นควา้ และปรับปรุงพันธ์ุพชื

การเตรยี มดนิ ปลูกพืช การเตรียมดนิ เพาะเมลด็ หรือเพาะกล้าในภาชนะ 1 ส่วน ปยุ๋ คอก 111 สสส่ว่วว่ นนน ปุย๋ หมัก 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ปุย๋ หมัก ปุ๋ยคอก 1 ส่วน ปยุ๋ หมกั หรอื 3 ส่วน ดินรว่ น ทรายหยาบ 3 ส่วน ปยุ๋ อินทรยี ์ 3 สว่ น ดนิ รว่ น ดินร่วน สูตรที่ 3 สูตรท่ี 1 สูตรที่ 2 การเตรยี มดนิ เพาะเมลด็ ในแปลงเพาะ 1. กาจัดวชั พชื และวสั ดุอน่ื ๆ 2. ขดุ ดนิ ใหล้ ึกประมาณ 20-30 ซม. 3. นาปยุ๋ คอก หรือปยุ๋ อนิ ทรยี ์ 4. แปลงเพาะควรมีหลงั คา ออกจากบริเวณแปลงเพาะ พลิกดินชั้นล่างขน้ึ มาและตากท้ิงไว้ 2-3 วนั ทรายหยาบผสมใหเ้ ข้ากนั แลว้ เพื่อป้องกันแสงแดด ลม และฝน เกลยี่ หน้าดนิ ใหเ้ รียบ

ตวั อยา่ ง การปลูกกะเพรา วธิ กี ารเตรยี มดนิ กะเพรา 1. กาจดั วชั พชื และวสั ดุอ่นื ๆ ออกจาก 2. ใชจ้ อบขุดพลกิ หน้าดนิ ชัน้ ล่าง 3. ใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมกั ปริมาณ บรเิ วณแปลงปลกู จากนน้ั ใช้ไม้ปกั ขึ้นมาชั้นบน และปล่อยดินตาก 4-6 ป๊ีป ต่อพน้ื ท่ี 4 ตารางเมตร เปน็ พชื ผักสวนครัวทีน่ ิยมนํามา เพอื่ กาหนดขนาดของแปลงปลูก แดดให้แห้ง 2-3 วนั บริโภคเพราะราคาถูก ปลกู งา่ ย และเจรญิ เติบโตเรว็ มคี วามสงู วธิ กี ารปลกู ประมาณ 1 - 3 นิว้ ลําตน้ แขง็ ใบเรยี วยาว ออกดอกเป็นช่อ ต้ังขึ้น นยิ มนําไปประกอบอาหาร 1. หว่านเมลด็ ลงไปในแปลงปลูก จากน้ัน 2. เมอื่ ต้นกลา้ อายุ 5-7 วนั ให้ใส่ 3. เม่ือต้นกล้ามอี ายุ 25-30 วนั ใช้ดนิ กลบเมลด็ และรดน้าตามทันที ปยุ๋ คอก หรอื ปยุ๋ หมัก และรดนา้ ทุกวัน หรือต้นกลา้ โตเต็มทแี่ ลว้ จึงนามาประกอบอาหารได้

ตัวอย่าง การปลูกเขม็ วธิ กี ารเตรยี มดิน เขม็ 1 สว่ น 1. เตรยี มดนิ ที่ใช้ปลูก มีส่วนผสม ดังน้ี 2. นาเอาส่วนผสมทัง้ 4 ส่วนมาผสม 1 สว่ น - ดนิ รว่ น 1 สว่ น ให้เขา้ กนั จากนน้ั จงึ จะนาไปใช้งานได้ เป็นไมพ้ ุ่ม สูงประมาณ 1-3 เมตร 1 สว่ น - อินทรียวัตถุ 1 ส่วน ลําต้นมีขนาดเลก็ ดอกเปน็ ชอ่ อยู่ 1 ส่วน - ปยุ๋ คอก 1 สว่ น ปลายยอด มีหลายสี นยิ มปลกู เป็น วธิ กี ารปลกู - ทรายหยาบ 1 ส่วน ไมด้ อกประดับและไมด้ อกกระถาง 1. นาดนิ ทเี่ ตรยี มไว้ใส่ในกระถาง 2. เม่ือตน้ กลา้ อายุ 5-7 วัน จึงเรมิ่ ให้ปยุ๋ 3. เมื่อต้นกลา้ มอี ายุ 30-35 วนั ขนาด 8-12 นิ้ว จากนัน้ นาเมล็ด ใสล่ งในกระถางและรดนา้ ทุกวัน สตู รเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 จึงยา้ ยลงปลูกในกระถางใหม่ และรดนา้ ทกุ 3-4 วนั หรอื ในแปลงตามต้องการ

ตัวอย่าง การขยายพนั ธพ์ุ ชื ด้วยวธิ ีการปักชา วิธีการปกั ชา 1. ตัดก่ิงยาวประมาณ 3-6 น้ิว โดยตัดใต้ข้อให้ เฉียง 45 องศา เพ่ือเพ่ิมพ้ืนท่ีการแตกรากมากข้ึน การปกั ชา 2. นาก่ิงไปแช่นา้ และเก็บไว้ในที่ที่มีสภาพแวดล้อม เหมาะสม การปกั ชาํ เปน็ การนําสว่ นต่าง ๆ ของพชื เชน่ กง่ิ ราก มาตดั และเก็บ 3. หลังจากก่ิงปักชาออกรากแข็งแรงแล้ว ให้นาไป ไว้ทท่ี ี่มสี ภาพแวดลอ้ มเหมาะสม ปลูกในภาชนะ หรือแปลงปลูก เมื่อพืชออกรากหรอื แตกยอด เปน็ พชื ต้นใหม่แล้ว จึงนําไปปักชาํ ในแปลงปลูก

มอบหมายงาน 10 คะแนน • ใหน้ กั เรยี นตอบคำถำมลงในสมดุ 1. ปัจจยั ทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ กำรเจรญิ เติบโตของพชื มีกี่ขอ้ อะไรบำ้ ง 2. เครอ่ื งมือและอปุ กรณใ์ นกำรปลกู พืชมีกี่ขอ้ อะไรบำ้ งอธิบำยใหพ้ อเขำ้ ใจ (ปล.อยำ่ ตอบม่วั น๊ำ ในE-book มีคำตอบอยจู่ ำ้ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook