คำถามที่พบบ่อยโควิด V3 4Aug21

คำถำมทพี่ บบอ่ ย โรคโควิด-19 กับสตรีตัง้ ครรภ์ z Version 3, 4 สิงหาคม 2564

z Q1 : สตรตี งั้ ครรภ์มคี วามเสี่ยงที่จะตดิ โรคโควิด-19 ได้สูงหรือไม่ A1 : โอกาสตดิ โรคโควิด-19 จะสงู ใน กรณีทีท่ า่ น  อาศยั อยใู่ นพน้ื ทมี่ ีการระบาดของโรคสงู ชมุ ชนแออดั  ทางานทต่ี อ้ งพบปะกบั คนจานวนมาก  เป็นบคุ ลากรทางการแพทย์  ไมส่ ามารถปฏบิ ตั ิตามมาตรการป้องกนั โรคได้ เชน่ เว้นระยะห่าง ใส่หนา้ กาก ลา้ งมอื บอ่ ย ๆ Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q2 : สตรตี งั้ ครรภ์ ถา้ ตดิ โรคโควิด-19 แลว้ จะมอี ันตรายหรือไม่ A2 : อนั ตรายมากกว่าสตรที ่ีไม่ต้งั ครรภ์ พบวา่ โอกาส  เข้า ICU สงู กว่า 2-3 เท่า  ใชเ้ คร่อื งชว่ ยหายใจ สงู กวา่ 2.6-2.9 เท่า  เสยี ชวี ติ 1.5-8 คน ใน 1,000 คน Version 3, 4 สิงหาคม 2564

z Q3 : ปัจจัยเสยี่ งทที่ าให้โรคในสตรีต้งั ครรภม์ อี าการรุนแรง A3 : มดี ังนี้  อายมุ าก  อว้ น  มโี รคประจาตวั เชน่ ความดันโลหิตสูง เบาหวานกอ่ นตัง้ ครรภ์  ครรภ์เป็นพิษ Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q4 : สตรีตั้งครรภถ์ า้ ตดิ เช้ือ จะมผี ลต่อลูกหรอื ไม่ A4 : มีผลหลายอยา่ ง ดังนี้  คลอดลกู ก่อนกาหนด 1.5 เท่า  เดก็ ตายคลอด 2.8 เทา่  ลูกต้องเขา้ ICU 4.9 เท่า  ลกู ตดิ เชือ้ ได้ 3-5%  แต่ส่วนใหญข่ องเด็กท่ีติดเชอ้ื จะไม่มอี าการ Version 3, 4 สิงหาคม 2564

z Q5 : สตรีต้งั ครรภค์ วรจะปอ้ งกันตวั เองไม่ใหต้ ดิ เชื้อได้อย่างไร A5 : ใหป้ ฏบิ ตั ิตัว ดงั น้ี  หลีกเลยี่ งไปในทชี่ ุมชน ถา้ จาเป็น ให้อยหู่ า่ งจากคนอนื่ ราว ๆ 2 เมตร  สวมหนา้ กากอนามยั หรือหน้ากากผ้า การสวมหนา้ กาก 2 ชัน้ หรอื ผกู ปมทส่ี าย คลอ้ งหู จะช่วยให้กระชบั และปอ้ งกันการติดเชอื้ ได้มากขน้ึ  ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอลเ์ จล หรอื สบู่ Version 3, 4 สิงหาคม 2564

Q6 : กาzรสวมหน้ากากใหก้ ระชับทาอย่างไร A6 : ทาได้ 2 วิธี ดงั รปู  สวมหน้ากากผ้าทบั บนหน้ากากอนามัยแบบใช้ทิ้ง หรือ  ผกู ปมท่สี ายคล้องหู Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q7 : สตรีต้ังครรภ์ควรจะไปตรวจหาเชอ้ื โรคโควิด-19 หรือไม่ A7 : ควรไปตรวจโดยเร็ว ถ้าสงสัยว่าจะติดเชอ้ื เชน่  มอี าการ เชน่ ไข้ ไอ หายใจติดขัด เจ็บคอ มีนา้ มูก  กรณีไมม่ ีอาการ แต่เปน็ ผสู้ มั ผสั ความเสี่ยงสูง Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q8 : จะไปตรวจหาเช้ือไวรสั ไดท้ ไ่ี หนบา้ ง A8 : ตรวจได้ที่  โรงพยาบาลทง้ั ของรฐั และเอกชน ทว่ั ประเทศไทย  ศูนยต์ รวจอนื่ ๆ ท่ีรัฐจดั ให้  การตรวจจะเป็นการใช้ไม้ตรวจ สอดเขา้ ไปในโพรงจมกู และลาคอ ป้ายเอาส่งิ คัดหลง่ั ออกมาส่งตรวจ Version 3, 4 สิงหาคม 2564

z Q9 : ซอ้ื ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) มาทาเองไดห้ รือไม่ A9 : ได้ แตต่ อ้ งเป็นชดุ ตรวจทอี่ .ย.รับรองมาตรฐาน ถา้ ผลเปน็ บวก ใหเ้ ข้ารบั การรักษา หรอื ตรวจยนื ยันดว้ ย PCR ถา้ ไดผ้ ลลบ แต่มีความเส่ียงสูงหรือมีอาการ ใหต้ รวจซ้าอีก 3-5 วนั ถัดมา ช่วงท่รี อตรวจซ้าใหร้ ะวังการแพร่เชื้อไปสู่คนอ่ืน Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q10 : สตรตี งั้ ครรภ์ทตี่ ดิ โรคโควิด-19 จะมีอาการอะไรบ้าง A10 : มดี ังนี้ ไอ 50% ปวดศีรษะ 43% ปวดกล้ามเน้ือ 37% 32% ไข้ 28% เจบ็ คอ 26% หายใจเหนอื่ ย 22% จมูกไมไ่ ด้กลิ่นหรอื ลิ้นไมร่ ับรส อ่อนเพลยี 14% Version 3, 4 สิงหาคม 2564

z Q11 : สตรีตัง้ ครรภถ์ า้ ติดเชอื้ แลว้ จะเป็นอย่างไรบา้ ง A11 : 80-90% จะไม่มอี าการหรอื อาการนอ้ ย 10% จะมีอาการหนกั 5% จาเปน็ ต้องเขา้ ICU เสียชีวิตราว 1.5-8 ใน 1,000 คน Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q12 : สถานการณใ์ นประเทศไทยเปน็ อยา่ งไรบา้ ง A12 : นบั ถึงวนั ที่ 1 สงิ หาคม 2564 มสี ตรีต้ังครรภต์ ดิ เชื้อ 1,408 คน เสียชีวิต 22 คน (1.5%) Version 3, 4 สิงหาคม 2564

z Q13 : สตรีตง้ั ครรภถ์ า้ พบวา่ ตดิ เชอ้ื จะตอ้ งทาอะไรบ้าง A13 : แพทย์จะรบั ไว้ในโรงพยาบาล เพอ่ื แยกจากคนทีไ่ มต่ ิดเชื้อ  ประเมนิ อาการและความรุนแรงของโรค  ให้การรกั ษารว่ มกบั ทีมอายุรแพทย์  ติดตามคนท่ีสมั ผสั ใกล้ชดิ มาตรวจหาเช้อื Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q14 : สตรตี ้งั ครรภท์ ีต่ ดิ เช้อื จาเป็นต้องผา่ ทอ้ งคลอดหรือไม่ A14 : ไมจ่ าเป็น  การผ่าทอ้ งคลอดจะทาตามข้อบง่ ช้ที แ่ี พทย์เปน็ คนพจิ ารณา  สามารถใหก้ ารระงับความรู้สึกด้วยการบลอ็ คหลังได้ Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q15 : ถา้ ตดิ เชื้อ หลังคลอดจะกอดและอุ้มลกู ไดห้ รอื ไม่ A15 : หลังคลอด จะมีการแยกลูกออกไปตรวจหาเชอ้ื ไวรสั ก่อน  หากไม่พบเชื้อในตัวลกู มารดาสามารถกอดและอุ้มลูกได้ แต่ตอ้ งสวมหน้ากาก ล้างมือกอ่ น และหลังจับตัวลกู งดหอมแกม้ ลกู ไม่ไอหรือจามใส่ เชด็ ทาความสะอาดพืน้ ผิวที่สมั ผสั ด้วย น้ายาฆา่ เช้อื โรค  หากพบวา่ ลกู ตดิ เช้ือรุนแรง จะต้องแยกไปรกั ษาที่หอผู้ปว่ ยเด็กแรกเกิด  หากพบว่า ลกู ติดเชื้อแบบไม่มีอาการหรืออาการน้อย และมารดาไมม่ ีอาการหรอื อาการน้อย ไมจ่ าเป็นตอ้ งแยกจากแม่ Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q16 : ถา้ ติดเชอ้ื จะใหล้ กู ดูดนมจากเต้าได้หรอื ไม่ A16 : ให้ได้ แตจ่ ะตอ้ งระวงั ไมใ่ หล้ กู ตดิ เชื้อโดย  สวมหน้ากากอนามัย ลา้ งมอื ก่อนและหลังจับตวั ลูก  หลกี เล่ียงการไอ หรอื จาม ขณะใหล้ กู ดูดนม  เช็ดทาความสะอาดพื้นผิวหรอื วัตถุท่สี มั ผสั ดว้ ยน้ายาฆา่ เช้ือ  หรอื ใชว้ ิธปี ๊มั นมออกมา แล้วใหญ้ าติหรอื พ่ีเล้ียงเอาไปให้ลกู กิน Version 3, 4 สิงหาคม 2564

z Q17 : แม่ทีต่ ิดเชอ้ื และไดย้ าฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) จะใหน้ มลกู ไดห้ รือไม่ A17 : งดให้นมลกู เนอ่ื งจากยาจะออกมาทางนา้ นมได้ Version 3, 4 สิงหาคม 2564

z Q18 : สตรตี ้ังครรภ์ฉดี วคั ซนี ปอ้ งกนั โควดิ -19 ไดห้ รือไม่ A18 : เนอ่ื งด้วยสถานการณ์ปัจจุบนั โรคมีการแพร่ระบาดหนักมาก ประโยชนท์ ่ีจะได้จากวคั ซีนมีมากกวา่ ความเส่ียงหรือผลขา้ งเคยี งของ วคั ซีน จึงแนะนาให้สตรีตงั้ ครรภเ์ ข้ารบั การฉดี วคั ซีนได้ ยกเว้น คนทเ่ี คยแพ้ รนุ แรงจากการฉีดครง้ั ก่อน หรอื แพส้ ่วนประกอบของวคั ซีนรนุ แรง Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q19 : ถา้ สตรีตงั้ ครรภจ์ ะฉดี วคั ซนี ป้องกนั โควิด-19 ตอ้ งทาอยา่ งไร A19 : ปรกึ ษาสูติแพทย์ท่ีดูแลท่าน เพอ่ื สอบถามขอ้ มูลเพมิ่ เติม  การฉดี วัคซนี แนะนาใหฉ้ ดี หลงั อายุครรภ์ 12 สปั ดาห์  ชนดิ ของวัคซนี ใชไ้ ด้หลายชนดิ เช่น Sinovac + AstraZeneca หรอื AstraZeneca 2 เข็ม หรือ mRNA 2 เข็ม  ผลขา้ งเคยี งของวัคซนี พบไดน้ อ้ ยและไมแ่ ตกต่างจากคนทว่ั ไป  หลีกเล่ยี งการฉีดวคั ซีนปอ้ งกนั โควิด-19 พรอ้ มกบั วัคซนี ชนดิ อ่นื ยกเวน้ จาเปน็  การฉดี วัคซนี ชนิดอ่นื ควรเลอ่ื นไปอย่างนอ้ ย 2 สัปดาห์ หลงั จากฉีดวคั ซีนปอ้ งกนั โควดิ -19 Version 3, 4 สิงหาคม 2564

z Q20 : ถ้าฉีดวคั ซนี ปอ้ งกนั โควิด-19 ไปแล้ว พบว่าต้งั ครรภ์ จะทาอย่างไร A20 : จากขอ้ มูลปัจจุบัน ไม่พบวา่ วคั ซีนจะทาให้เกิดทารกพกิ ารแต่ กาเนิด จึงไม่ต้องยตุ ิการตงั้ ครรภ์ เมอื่ พบว่าตัง้ ครรภ์ภายหลงั ฉีดวัคซนี แตใ่ หเ้ ล่ือนการฉดี วัคซีนเขม็ ท่ี 2 ออกไปฉดี ในช่วง หลัง เมือ่ อายคุ รรภเ์ กนิ 12 สปั ดาห์ Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z Q21 : สตรที ว่ี างแผนจะต้งั ครรภ์ จะฉดี วัคซนี ปอ้ งกนั โควดิ -19 ไดห้ รอื ไม่ A21 : สามารถฉีดวัคซีนได้ หลังฉีดวัคซีนไมต่ อ้ งเว้นระยะการมบี ตุ ร สตรีท่ตี ้องการฉีดวัคซีน 1. ไม่ต้องตรวจการต้ังครรภ์ กอ่ นฉีดวัคซีน 2. ไม่มหี ลกั ฐานวา่ วคั ซนี จะสง่ ผลต่อความสามารถในการมีบุตรในอนาคต Version 3, 4 สงิ หาคม 2564

z หำกมปี ัญหำหรือข้อสงสัย สำมำรถตดิ ตอ่ สอบถำมได้ที่  สูตแิ พทยท์ ด่ี ูแลท่ำน หรือ  เวปไซตข์ องรำชวทิ ยำลัยสูตนิ รแี พทยแ์ หง่ ประเทศไทย http://www.rtcog.or.th/home/สำหรบั ประชำชน/ ถำมตอบปัญหำสขุ ภำพ Version 3, 4 สงิ หาคม 2564