421-323 ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ (Management Information System : MIS) 3(2-2-5) อ. ดร.นวพล แกว้ สวุ รรณ
โครงสรา้ งรายวชิ าระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ บทท่ี 1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ระบบสารสนเทศ สว่ นท่ี 1 แนวคดิ พ้นื ฐาน บทท่ี 2 ระบบสารสนเทศ องคก์ ร และกลยทุ ธ์ บทท่ี 3 ฮารด์ แวร์ และซอฟแวรค์ อมพวิ เตอร์ สว่ นท่ี 2 โครงสรา้ งพ้นื ฐานทางไอที บทท่ี 4 การจดั การทรพั ยากรขอ้ มูล บทท่ี 5 การสอ่ื สารโทรคมนาคมและเครอื ข่าย สว่ นท่ี 3 การประยกุ ตใ์ ชง้ านทาง บทท่ี 6 อบี สิ ซเิ นสและอคี อมเมริ ซ์ ธุรกจิ บทท่ี 7 ระบบสารสนเทศทางธุรกจิ บทท่ี 8 โซอ่ ปุ ทานและแอฟพลเิ คชนั่ ระดบั องคก์ ร สว่ นท่ี 4 การวางแผน การพฒั นา บทท่ี 9 การจดั การความรูแ้ ละระบบสนบั สนุนการ ระบบ และการควบคมุ ความ ตดั สนิ ใจ ปลอดภยั บทท่ี 10 ระบบชาญฉลาด บทท่ี 11 การวางแผนและการพฒั นาระบบ บทท่ี 12 ความเสย่ี ง การควบคุม มาตรการดา้ น ความปลอดภยั และการกูค้ นื
421-323 รายวชิ า ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ (Management Information System : MIS) บทท่ี 4 การจดั การทรพั ยากรขอ้ มูล (Data Resource Management) อ. ดร.นวพล แกว้ สวุ รรณ
บทท่ี 4 การจดั การทรพั ยากรขอ้ มลู 4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู แบบดงั้ เดมิ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเกย่ี วกบั ขอ้ มูล 1. ขอ้ มลู จดั เป็นทรพั ยากรทส่ี าคญั และจาเป็นตอ้ ง 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู ไดร้ บั การจดั การทด่ี ไี มว่ า่ จะเป็นขอ้ จากภายใน 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู หรอื นอกองคก์ ร เพอ่ื นามาวเิ คราะหแ์ ละนาไปใช้ 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู ประโยชนด์ า้ นการแขง่ ขนั เชงิ ธุรกจิ 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู 2. การจดั ระเบยี บทรพั ยากรขอ้ มลู จงึ เป็น 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู สง่ิ จาเป็น ทต่ี อ้ งกาหนดโครงสรา้ งทถ่ี กู ตอ้ ง เพอ่ื งา่ ยต่อการเขา้ ถงึ ประมวลผลไดอ้ ยา่ งมี แบบดงั้ เดมิ ประสทิ ธภิ าพ คน้ หาไดร้ วดเรว็ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู 3. จงึ ตอ้ งนาเทคโนโลยรี ะบบสารสนเทศเขา้ มา 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู ช่วยในการจดั การ
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเกย่ี วกบั ขอ้ มูล ประเดน็ หลกั ของฐานขอ้ มูลกบั การจดั การขอ้ มูล 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู 1. ฐานขอ้ มลู (Database) คอื การจดั เกบ็ ขอ้ มลู ที 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู เก่ยี วขอ้ งกนั ไวด้ ว้ ยกนั อย่างเป็นระบบ เพอ่ื ลดความ 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู ซ้าซอ้ นของขอ้ มูล (Laudon & Laudon,2015) ทาให้ สามารถสบื คน้ และใชข้ อ้ มลู ร่วมกนั ได้ ขอ้ มลู ทม่ี กี าร 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู จดั เก็บจะเกย่ี วขอ้ งกบั คน เหตกุ ารณ์ สถานท่ี หรอื 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู สง่ิ ของ เช่น ลูกคา้ พนกั งาน สนิ คา้ ใบสงั่ ซ้อื การ ลงทะเบยี นเรยี น เป็นตน้ แบบดงั้ เดมิ 2. การจดั การฐานขอ้ มูล (Database Management) 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู คอื การบรหิ ารแหลง่ ขอ้ มลู ท่ี ถกู เกบ็ รวบรวมไว ้ เพอ่ื ตอบสนองต่อการใชง้ านอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและลด 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู การ ซา้ ซอ้ นของขอ้ มลู รวมทงั้ ลดความขดั แยง้ ของ ขอ้ มลู ทเ่ี กดิ ข้นึ
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเกย่ี วกบั ขอ้ มูล 3. สามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ไดง้ า่ ย รวดเรว็ และ 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู ถกู ตอ้ ง โดยมกี ารกาหนดสทิ ธใิ นการ 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู เรยี กใชข้ อ้ มลู ตามลาดบั ความสาคญั ของผูใ้ ช้ 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู 4. จะตอ้ งมรี ะบบรกั ษาความปลอดภยั ของ ขอ้ มลู 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู 5. สามารถเปลย่ี นแปลงแกไ้ ขได้ 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู 6. ขอ้ มลู ทจ่ี ดั เกบ็ อาจจะตอ้ งมกี ารจดั แบ่งเป็นสว่ นหรอื สรา้ งเป็นตาราง เพอ่ื งา่ ยแก่ แบบดงั้ เดมิ การปรบั ปรงุ ขอ้ มลู ในลกั ษณะการจดั การ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู ฐานขอ้ มลู แบบสมั พนั ธ์ 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
โครงสรา้ งฐานขอ้ มูล
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเกย่ี วกบั ขอ้ มูล ฐานขอ้ มลู จะกาเนดิ จากหน่วยเลก็ ๆ 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู ของขอ้ มูล ทน่ี ามาประกอบรวมเขา้ ดว้ ยกนั 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู จนกระทงั่ เป็น หน่วยขอ้ มูล ทม่ี คี วามหมาย 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู และสามารถนาไปใชป้ ระโยชนเ์ พอ่ื การ อา้ งองิ รายละเอยี ดของขอ้ มูลน้นั ๆ ซง่ึ หน่วย 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู ขอ้ มลู เหลา่ น้จี ะมคี วามสมั พนั ธเ์ ป็นลาดบั ชน้ั 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู ทร่ี วมกนั เป็นหน่วยทใ่ี หญ่ข้นึ ตามลาดบั ท่ี เรยี กวา่ โครงสรา้ งแฟ้ มขอ้ มลู แบบดงั้ เดมิ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเกย่ี วกบั ขอ้ มูล 1. โครงสรา้ งแฟ้ มขอ้ มลู (File Structure) 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู ประกอบดว้ ย โครงสรา้ งพ้นื ฐานทล่ี าดบั จาก 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู หน่วยทเ่ี ลก็ ทส่ี ุดไปยงั หน่วยทใ่ี หญ่ข้นึ 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู ตามลาดบั ชนั้ ซง่ึ ประกอบดว้ ย บติ ไบต์ ฟิลด์ เรคอรด์ ไฟล์ และฐานขอ้ มลู ซง่ึ 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู เป็นไปตามลาดบั ชน้ั ของขอ้ มลู 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู แบบดงั้ เดมิ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเกย่ี วกบั ขอ้ มูล 2. บติ (Bit) ประกอบดว้ ย เลขฐานสอง (Binary 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู Digit) ถอื เป็นหน่วยเลก็ ทส่ี ุดของขอ้ มลู ใน 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู คอมพวิ เตอร์ โดยบติ จะมเี พยี งหน่งึ ในสองสถานะ 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู เท่านนั้ คอื 0 หรอื 1 เพอ่ื แทน สญั ญาณไฟฟ้า On หรอื Off ดงั นนั้ ลาพงั เพยี งแค่ 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู บติ จงึ ไมส่ ามารถนามาใชป้ ระโยชนเ์ พอ่ื การแทนขอ้ มลู 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู จานวนมากๆ ได้ 3. ไบต์ (Byte) เมอ่ื บติ ไมส่ ามารถใชแ้ ทนค่าขอ้ มลู ได้ แบบดงั้ เดมิ หลายๆ ตวั เน่อื งจากมเี พยี งสองสถานะเท่านน้ั จงึ มกี าร 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู นาบติ หลายๆ ตวั มารวมกนั เป็นไบต์ และโดย ปกติ 1 ไบตจ์ ะเท่ากบั 8 บติ ดงั นนั้ จงึ ทาให้ 1 ไบต์ 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู สามารถสรา้ งรหสั แทนขอ้ มลู ข้นึ มา เพอ่ื ใชแ้ ทนตวั อกั ขระใหแ้ ตกต่างกนั ไดถ้ งึ หรอื 256 อกั ขระดว้ ยกนั โดยไบตย์ งั เรยี กอกี ชอ่ื หน่ึงไดว้ า่ คาแรกเตอร์ (Character)
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเกย่ี วกบั ขอ้ มูล 4. ฟิ ลด์ (Field) คอื การนาหลายๆ ไบต์ มารวมกนั เพอ่ื ทาให้ 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู เกดิ ความหมายข้นึ มา เช่น ฟิลด์ name เป็นฟิลดท์ ต่ี ง้ั ข้นึ มา 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู เพอ่ื เกบ็ ชอ่ื พนกั งาน หรอื ฟิลด์ address ใชเ้กบ็ ทอ่ี ยู่ 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู พนกั งาน เป็นตน้ โดยฟิลดย์ งั เรยี กอกี ช่อื หน่ึงไดว้ า่ แอตต รบิ วิ ต์ (Attibute) 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู 5. เรคอรด์ (Record) คอื กลมุ่ ของฟิลดท์ ม่ี คี วามสมั พนั ธ์ 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู กนั ในหน่งึ เรคอรด์ จะประกอบไปดว้ ยฟิลดท์ เ่ี ก่ยี วขอ้ ง รวมกนั เป็นชดุ ตวั อยา่ งเช่น เรคอรด์ พนกั งาน ประกอบดว้ ย แบบดงั้ เดมิ ฟิลดร์ หสั พนกั งาน ช่อื นามสกลุ ทอ่ี ยู่ เบอรโ์ ทรศพั ท์ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู ตาแหน่ง เพศ วนั เกดิ และเงนิ เดอื น โดยปกติภายในเรคอรด์ หน่งึ ๆ จะมกี ารกาหนดฟิลดต์ วั หน่ึงทเ่ี รยี กวา่ คยี ์ (Key) ทม่ี ี 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู คุณสมบตั ใิ นการช้รี ะบถุ งึ ความเป็นเอกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั ของ ขอ้ มลู ในเรคอรด์ นนั้ ๆ โดยค่าของคยี ใ์ นแต่ละเรคอรด์ จะไมม่ ี การซา้ กนั ซง่ึ จากตวั อย่างแฟ้มขอ้ มลู พนกั งาน กจ็ ะใชฟ้ ิ ลด์ รหสั พนกั งาน (ID) เป็นคยี ห์ ลกั สาหรบั เรคอรด์ ยงั เรยี กอกี ชอ่ื หน่งึ ไดว้ า่ ทปั เพลิ (Tuple)
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเกย่ี วกบั ขอ้ มูล 6. ไฟล์ (File) ไฟลห์ รอื แฟ้มขอ้ มลู คอื กลมุ่ ของเรคอรด์ 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู ท่มี คี วามสมั พนั ธก์ นั ตวั อย่างเช่น แฟ้มขอ้ มลู พนกั งานจะ 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู ประกอบไปดว้ ยเรคอรด์ ของพนกั งานทง้ั หมดทอ่ี ยู่ในบรษิ ทั โดยไฟล์ ยงั เรยี กอกี ชอ่ื หน่ึงไดว้ า่ เทเบลิ (Table) 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู แฟ้มขอ้ มลู สามารถแบง่ 2 ประเภท คอื แฟ้ มขอ้ มูล 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู หลกั (Master File) ใชจ้ ดั เกบ็ ขอ้ มลู ทม่ี กั ไมค่ ่อยมกี าร เปลย่ี นแปลง เช่น ขอ้ มลู ลูกคา้ นกั ศึกษา สนิ คา้ และ แบบดงั้ เดมิ แฟ้ มขอ้ มลู รายการเปลย่ี นแปลง (Transaction File) ใช้ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู จดั เก็บขอ้ มลู ทเ่ี คลอ่ื นไหวประจาวนั เช่น ขอ้ มลู ฝาก/ถอน เงนิ การลงทะเบยี นของนกั ศึกษา และขอ้ มลู ขายสนิ คา้ 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเกย่ี วกบั ขอ้ มูล 7. ฐานขอ้ มลู (Database) เป็นแหลง่ รวมของแฟ้มขอ้ มลู ต่างๆ โดยจะมกี ารเช่ือมโยงแฟ้ มขอ้ มูลต่างๆ เขา้ ดว้ ยกนั 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู อยา่ งมรี ะบบ ตวั อย่างเช่น ฐานขอ้ มลู ระบบเงนิ เดอื น กจ็ ะ ประกอบไปดว้ ยแฟ้มขอ้ มลู พนกั งาน แฟ้มแผนก แฟ้ม 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู เงนิ เดอื น แฟ้มตารางภาษี เป็นตน้ และทส่ี าคญั 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู ฐานขอ้ มลู จะถกู จดั เก็บไวเ้ป็นศูนยก์ ลาง ท่สี ามารถแชรใ์ ช้ งานรว่ มกนั ภายในองคก์ รได้ โดยผูใ้ ชแ้ ต่ละแผนกสามารถ 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู เขา้ ถงึ เรยี กดู และปรบั ปรุงขอ้ มูลสว่ นกลางน้ีได้ จงึ ทาให้ 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู ขอ้ มลู ทบ่ี นั ทกึ อยู่ในฐานขอ้ มลู นน้ั มคี วามทนั สมยั สามารถ นาไปใชง้ านไดท้ นั ที แบบดงั้ เดมิ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 1. แบบจาลองฐานขอ้ มลู ลาดบั ชน้ั 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มูล 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู แบบจาลองชนดิ น้ี ไฟลอ้ มลู จะถกู จดั ไวเ้ป็นโครง 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู รา้ งแบบบน ลงลา่ ง มลี กั ษณะคลา้ ยกบั โครงสรา้ งตน้ ไมท้ ่ี มกี ารสบื ทอดเป็นลาดบั ชน้ั โดยโหนดระดบั สูงสุดจะ 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู เรยี กวา่ ราก (Root) และโหลดลา่ งดุ จะเรยี กวา่ ใบ 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู (Leaves) แบบดง้ั เดมิ ทงั้ น้แี บบจาลองขอ้ มลู ลาดบั ชนั้ จะมคี วามสมั พนั ธ์ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู แบบ one-to-many เทา่ น้นั กลา่ วคอื โหนดพอ่ สามารถ 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู แตกสาขาออกเป็นโหนดลูกไดห้ ลายๆ โหนด ในขณะท่ี โหนดลูกจะมเี พยี งพอ่ เดยี วเท่าน้นั
ตวั อย่างแบบจาลองฐานขอ้ มลู ลาดบั ชน้ั
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 2. แบบจาลองฐานขอ้ มลู เครอื ข่าย 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มูล 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู แบบจาลองฐานขอ้ มลู เครอื ขา่ ยจะมคี วามซบั ซอ้ น 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู และมปี ระสทิ ธภิ าพมากกวา่ แบบลาดบั ชน้ั แต่จะมี 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู ลกั ษณะทค่ี ลา้ ยคลงึ กนั แต่จะแตกต่างกนั ตรงทส่ี ามารถ 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู มคี วามสมั พนั ธไ์ ดห้ ลายโหนด กลา่ วคอื แต่ละโหนด สามารถมีหลายพอ่ ได้ จงึ ทาใหม้ คี วามยดื หยุ่นสูงข้นึ กวา่ แบบดง้ั เดมิ แบบแรก โดยความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ มลู ในแบบจาลอง 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู ฐานขอ้ มลู เครอื ขา่ ยจะเรยี กวา่ เซต (Set) ซง่ึ แต่ละเซต 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู อยา่ งนอ้ ยจะประกอบดว้ ยเรคคอรด์ 2 ชนดิ คอื Owner Record ท่เี ปรยี บเสมอื นโหนดพอ่ และ Member Record ท่เี ปรยี บเสมือนโหนดลกู ทง้ั น้คี วามสมั พนั ธข์ องแบบจาลองฐานขอ้ มลู จะมี ความสมั พนั ธท์ ง้ั แบบ One-to-many และ Many-to- Many
ตวั อยา่ งแบบจาลองฐานขอ้ มลู เครอื ข่าย
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 3. แบบจาลองฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์ 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มูล 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู แบบจาลองชนิดน้จี ะนาเนอในมมุ มองลกั ษณะ 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู ตาราง ซง่ึ ประกอบดว้ ยดว้ ย แถว และคอลมั น์ จงึ ทาใหส้ อ่ื สมั พนั ธก์ บั มนุษยไ์ ดอ้ ย่างใจ สาหรบั ขอ้ มลู 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู ทจ่ี ดั เกบ็ อยู่ในตาราง สามารถเช่อื มโยง 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู ความสมั พนั ธก์ บั ตารางอน่ื ๆ ผา่ นฟิลดท์ ถ่ี กู ระบุ เป็น คยี ์ ซง่ึ ประกอบดว้ ย คยี ห์ ลกั (Primary Key แบบดง้ั เดมิ : PK) และคยี อ์ า้ งองิ (Foreign Key : FK) อกี ทงั้ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู สามารถมคี วามสมั พนั ธท์ ง้ั แบบ One-to-many 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู และ Many-to-Many ผ่านโปรแกรมจดั การ ฐานขอ้ มลู DBMS
ตวั อยา่ งแบบจาลองฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์
ตวั อยา่ งแบบจาลองฐานขอ้ มูลเชิงสมั พนั ธ์
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 4. แบบจาลองฐานขอ้ มลู เชิงวตั ถุ 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มูล 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู เป็นแบบจาลองทม่ี คี ลาส (Class) กาหนด 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู คณุ สมบตั สิ าหรบั อธบิ ายรายละเอยี ดของวตั ถุ รวมถงึ การถา่ ยทอดคุณสมบตั ิ สามารถใชจ้ ดั การ 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู กบั ขอ้ มลู ทม่ี คี วามซบั ซอ้ นไดเ้ป็นอย่างดี ทง้ั ขอ้ มลู 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู ประเภทกราฟฟิค วดิ ีโอ และเสยี ง นอกจากน้ียงั สามารถนาขอ้ มูลท่อี ยู่ภายในฐานขอ้ มูลกลบั มาใช้ แบบดง้ั เดมิ ใหม่ได้ ผา่ นการจดั การฐานขอ้ มลู DBMS เหมาะ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู กบั หน่วยงานขนาดใหญ่ทม่ี คี วามซบั ซอ้ นสูง 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
ตวั อยา่ งแบบจาลองฐานขอ้ มลู เชิงวตั ถุ
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 5. แบบจาลองฐานขอ้ มูลแบบมลั ติ 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มูล 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู ไดเมนชนั่ 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู แบจาลองชนิดน้จี ะเก่ยี วขอ้ งกบั แบบจาลอง 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู ฐานขอ้ มลู เชิงสมั พนั ธ์ แต่จะแตกต่างกนั ตรงทจ่ี ะ 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู ใชโ้ ครงสรา้ งแบบหลายมติ ทิ ม่ี ลี กั ษณะเหมอื นกบั สเ่ี หลย่ี มลูกบาศก์ ดว้ ยการนาขอ้ มลู ในแต่ละมติ ิ แบบดง้ั เดมิ มาเช่อื มโยงความสมั พนั ธเ์ ขา้ ดว้ ยกนั ทาใหเ้หน็ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู ภาพโครงสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ มลู ชดั เจน 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู ยง่ิ ข้นึ ดงั นนั้ แบบจาลองชนิดน้ี มกั ถกู นาไปใช้ งานกบั คลงั ขอ้ มลู (Data Warehouse)
ตวั อย่างแบบจาลองฐานขอ้ มลู แบบมลั ตไิ ดเมนชนั่
ตวั อย่างแบบจาลองฐานขอ้ มลู แบบมลั ตไิ ดเมนชนั่
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 1. ผูบ้ รหิ ารฐานขอ้ มลู (Database 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู Administrators : DBA) มหี นา้ ท่ี ดูแลความถกู 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มูล ตอ้ ง และความปลอดภยั ของฐานขอ้ มลู เพอ่ื ให้ 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู งานบรกิ ารขอ้ มลู ขององคก์ รสามารถดาเนนิ การได้ ตามปกตใิ นแต่ละวนั หากมขี อ้ ผดิ พลาด ก็ตอ้ งมี 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู กระบวนการกูค้ นื และระบบสารองขอ้ มลู 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู ประเมนิ การใชง้ านฐานขอ้ มลู ในองคก์ ร ความ เสย่ี ง และวางแผนเพอ่ื รองรบั อตั ราการเตบิ โตของ แบบดงั้ เดมิ ฐานขอ้ มลู ในอนาคต 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 2. นกั พฒั นาระบบ จะมกี ารใชซ้ อฟตแ์ วร์ 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มูล DBMS จดั การฐานขอ้ มลู ดว้ ยการใชง้ านผา่ น 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู ชดุ คาสงั่ ภาษา SQL ซง่ึ SQL ประกอบดว้ ย -ภาษานิยามขอ้ มูล (Data Definition 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู Language :DDL) เพอ่ื สรา้ งฐานขอ้ มลู (สรา้ ง 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู แกไ้ ข ลบ กาหนดโครงสรา้ งตาราง กาหนดชนิด ขอ้ มลู กาหนดแอทตรบิ วิ สข์ อ้ มลู ) รวมถงึ การทา แบบดงั้ เดมิ พจนานุกรมขอ้ มูล เพอ่ื อธบิ ายขอ้ มลู (Metadata) 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู -ภาษาจดั การขอ้ มลู (Data Manipulation 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู :DML) ประกอบดว้ ยคาสงั่ ต่าง ๆทน่ี ามาใชเ้พอ่ื สอบถามหรอื ควิ รี (Query) ขอ้ มลู จากฐานขอ้ มลู ข้นึ มาใชง้ าน ซอฟตแ์ วร์ DBMS ไดแ้ ก่ MS- Access, Oracle, MySQL, Paradox เป็นตน้
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู กระบวนการทส่ี าคญั ของการพฒั นาฐานขอ้ มลู 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู คอื การออกแบบฐานขอ้ มลู ซง่ึ จะตอ้ งผา่ น 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มูล กระบวนการวางแผนขอ้ มูล (Data Planning 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู Process) ดว้ ยการพฒั นาแบบจาลองกระบวนการ ธุรกจิ ตามส่วนงานต่างๆ ข้นึ มาในรูปแบบของเอกสาร 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู เพอ่ื ใหท้ ราบเสน้ ทางการไหลของขอ้ มูล (Data 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู Flow) และเอกสารไปตามส่วนงานต่างๆ ทาใหท้ ราบ ถงึ ปญั หา กาหนดขอบเขต และกระบวนการ จากนน้ั แบบดงั้ เดมิ จงึ ระบคุ วามตอ้ งการสารสนเทศลงไปในขอ้ กาหนด 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู และพฒั นาออกมาเชงิ แนวคดิ ทเ่ี รยี กว่า แผนภาพอี 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู อาร์ (Entity Relationship Diagrams: ERD) หลงั จากนนั้ จงึ ระบุ เช่อื มโยงแอทตรบิ วิ ส์ แลว้ นาไปใชส้ อ่ื สารความใจระหว่างผูอ้ อกแบบและ ผูใ้ ชง้ าน
ตวั อยา่ ง ER-Diagrams
ขน้ั ตอนการพฒั นาฐานขอ้ มูล 1.วางงแผนข้อมูล (Data Database 5. ออกแบบฐานข้อมูลเชิงกายภาพ Development (Physical Database Planning) พฒั นาแบบจาลองกระบวนการ Design) ธุรกิจขององคก์ ร ในแต่ละส่วน กาหนดโครงสร้างการจดั เกบ็ และวิธี งานข้ึนมาในรูปแบบของเอกสาร เขา้ ถึงขอ้ มูล (ในส่วนน้ีปกติ DBMS จะเป็นตวั ดาเนินการ) 2. สร้างข้อกาหนดความ 3. ออกแบบฐานข้อมูลเชิง 4. ออกแบบฐานข้อมูลเชิง ต้องการ (Requirements แนวคดิ (Conceptual ตรรกะ Specification Database Design) (Logical Database นาขอ้ กาหนดความตอ้ งการ Planning) Design) รวบรวมความตอ้ งการมาสรุป ท้งั หมดมาพฒั นาเป็น แบบจาลองแผนภาพอีอาร์ แปลงแผนภาพอีอาร์ ซ่ึงเป็น เป็นขอ้ กาหนดและนาไป แผนภาพเชิงแนวคิดใหม้ าเป็น ผนวกเขา้ กบั กระบวนการ รีเลชน่ั (ตาม DBMS ที่ ธุรกิจ นามาใชง้ าน)
1. ฐานขอ้ มูลเชิงปฏบิ ตั ิการ (Operational Databases) เป็นฐานขอ้ มลู ทใ่ี ชจ้ ดั เก็บขอ้ มลู ทส่ี นบั สนุนกระบวนการธุรกจิ และการปฏบิ ตั ิ งานขององคก์ ร ทเ่ี รยี กวา่ ฐานขอ้ มลู รายการประจาวนั เช่น ฐานขอ้ มลู ลูกคา้ บคุ ลากร สนิ คา้ คงคลงั โดยธุรกจิ ขนาดเลก็ 2. ฐานขอ้ มูลแบบกระจาย (Distributed Database) เป็นฐานขอ้ มลู ทม่ี กี ารแบง่ ขอ้ มลู ออกเป็นส่วนย่อย ๆ ทเี รยี กว่า แฟรก็ เมนต์ ไปกระจายจดั เกบ็ ไวต้ ามไซตต์ ่าง ๆ กนั คนละท่ี 3. ฐานขอ้ มูลภายนอก (External Databases) เป็นสารสนเทศทม่ี ใี หบ้ รกิ ารบนเวบ็ ต่าง ๆ โดยใหด้ าวนโ์ หลดอาจจะมี ค่าธรรมเนยี มหรอื ไมต่ อ้ งเสยี ค่าใชจ้ ่าย
4. ฐานขอ้ มูลไฮเปอรม์ ีเดยี (Hypermedia Databases) เป็นสารสนเทศในรูปแบบของขอ้ ความ กราฟิก รูปภาพ คลปิ วดิ โี ดเสยี ง ทใ่ี หบ้ รกิ ารผา่ นเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต 5. คลงั ขอ้ มูล (Data Warehouses) คลงั ขอ้ มลู คอื ฐานขอ้ มลู ขนาดใหญ่ทเ่ี กบ็ ขอ้ มลู ขององคก์ รทไ่ี ดร้ บั การ ออกแบบมาเพอ่ื การวเิ คราะหแ์ ละตดั สนิ ใจ โดยขอ้ มลู ทจ่ี ดั เกบ็ จะสามารถเป็นได้ ทง้ั ขอ้ มลู จากแหลง่ ภายในและภายนอก และนามาประมวลผลร่วมกนั เช่น กระบวนการปฏบิ ตั งิ าน สนิ คา้ และลูกคา้ คลงั ขอ้ มลู ทาใหผ้ ูบ้ รหิ ารสามารถ เจาะลกึ ขอ้ มลู เพอ่ื ใหไ้ ดร้ ายละเอยี ดทต่ี อ้ งการได้
ตวั อยา่ งองคป์ ระกอบของคลงั ขอ้ มูล
6. ตลาดขอ้ มลู (Data Marts) สมั พนั ธก์ บั คลงั ขอ้ มลู 6.1 ตลาดขอ้ มูล เป็นสว่ นย่อยของคลงั ขอ้ มลู เป็นการนาแนวคดิ ของคลงั ขอ้ มลู มาวเิ คราะห์ ขอ้ มลู ออนไลน์ เช่น ขอ้ มลู ยอดขาย สนิ คา้ คงคลงั และขอ้ มลู ธุรกจิ ทส่ี าคญั อน่ื ๆ ท่รี วบรวมมา จากระบบประมวลผลรายการ มาประมวลผลสาหรบั ธุรกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อย หรอื สาหรบั แผนกหน่งึ ในองคก์ ร แทนการเกบ็ ขอ้ มลู ทง้ั องคก์ รไวใ้ นฐานขอ้ มลู เดยี ว 6.2 ตลาดขอ้ มลู จะรวบรวมขอ้ มลู ส่วนหน่ึงในลกั ษณะทเ่ี ฉพาะเจาะจงของแต่ละเร่อื ง เช่น ขอ้ มลู การเงนิ สนิ คา้ คงคลงั ทรพั ยากรบคุ คล ช่วยใหก้ ารจดั การขอ้ มลู ในการนาขอ้ มลู ไปสรา้ ง ความสมั พนั ธ์ และวเิ คราะหไ์ ดง้ า่ ยข้นึ ตลาดขอ้ มลู แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื 1. Replicated (dependent) data marts เป็นการคดั ลอกขอ้ มลู กลมุ่ ย่อยบางกลมุ่ ใน คลงั ขอ้ มลู มาไวใ้ นตลาดขอ้ มลู เลก็ ๆ และหลายกลุม่ โดยแต่ละกลุม่ จะใชเ้ฉพาะในหนา้ ท่ี หน่ึง ๆ เท่านนั้ 2. Stand-alone data marts องคก์ รสามารถสรา้ งตลาดขอ้ มลู ไดม้ ากกวา่ หน่ึง และเป็นอสิ ระ จากกนั
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 1. เหมืองขอ้ มลู (Data Mining) 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู Data Mining คอื เป็นเทคนิคในการคน้ หา 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู ขอ้ มูลขน้ั สูง ใชใ้ นการจดั การกบั ขอ้ มลู ทม่ี จี านวน มากในฐานขอ้ มลู โดยการคน้ หา แยกแยะกลมุ่ 4.5 คลงั ขอ้ มูลและเหมอื งขอ้ มูล ขอ้ มูล และเลอื กขอ้ มลู ท่มี ีคุณคา่ เพอ่ื ใชข้ อ้ มลู ใน 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู อดตี และพยากรณข์ อ้ มลู ในอนาคต เช่น ช่วยใน การตดั สนิ ใจของผูบ้ รหิ ารในการดาเนนิ งานทาไดด้ ี แบบดงั้ เดมิ ข้นึ วเิ คราะหว์ ทิ ยาศาสตร์ และการแพทย์ ดา้ น 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู เศรษฐกจิ และสงั คม 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู กระบวนการของการทาเหมอื งขอ้ มลู 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู 1. ทาความใจเก่ยี วกบั ธุรกจิ 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู 2. ทาความใจเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 3. การรวบรวมขอ้ มลู จากแหลง่ ต่าง ๆ ใหเ้ป็นชดุ 4.5 คลงั ขอ้ มูลและเหมอื งขอ้ มูล เดยี วกนั 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู 4. การเตรยี มขอ้ มลู รวมถงึ การทา Data cleaning ขอ้ มลู ทไ่ี มเ่ ก่ยี วขอ้ งออกไป แบบดงั้ เดมิ 5. การสรา้ งแบบจาลอง การดงึ และแลงขอ้ มลู ให้ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู เหมาะสมกบั การทางาน และการหารูปแบบทเ่ี ป็น 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู ประโยชนจ์ ากขอ้ มลู ทม่ี อี ยู่ 6. การประเมนิ ผลของรูปแบบทไ่ี ดจ้ ากการจาลอง 7. การนาเสนอความรูท้ ค่ี น้ พบ โดยใชเ้ทคนิคใน การนาเสนอเพอ่ื เขา้ ใจ เพอ่ื การนาไปใชง้ าน
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู ตวั อยา่ งซอฟตแ์ วรส์ าหรบั งานเหมืองขอ้ มลู 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมืองขอ้ มูล 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู แบบดงั้ เดมิ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 2. ขอ้ มูลขนาดใหญ่ (Big Data) 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู 1. ชดุ ขอ้ มลู ทม่ี ขี นาดใหญ่มากจนวธิ กี ารประมวลผล 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู ขอ้ มลู แบบเดมิ ไมส่ ามารถคานวณ จดั เกบ็ ประมวลผล และวเิ คราะหไ์ ด้ 4.5 คลงั ขอ้ มูลและเหมอื งขอ้ มูล 2. การรวบรวมขอ้ มลู มาวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ผล 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู ลว่ งหนา้ เพอ่ื ใชป้ ระโยชนจ์ ากชดุ ขอ้ มลู นนั้ ๆ 3. ขอ้ มลู ในฐานขอ้ มลู ขนาดใหญ่มากจากทง้ั ภายใน แบบดงั้ เดมิ และภายนอกองคก์ ร 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู ขอ้ มลู ภายในองคก์ ร ไดแ้ ก่ ขอ้ มลู การปฏบิ ตั งิ าน ขอ้ มลู จากพนกั งาน ขอ้ มลู ภายนอกองคก์ ร ไดแ้ ก่ ลูกคา้ ผูข้ ายวตั ถดุ บิ คู่คา้ ขององคก์ ร
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู ลกั ษณะของขอ้ มูลขนาดใหญ่ (จะมี 3 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู รูปแบบ) 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู 1. Volume การมขี อ้ มลู จานวนมาก 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู 2. Velocity ขอ้ มลู ทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลง อยา่ งรวดเร็ว เช่น ขอ้ มลู จากสอ่ื ออนไลน์ 4.5 คลงั ขอ้ มูลและเหมอื งขอ้ มูล ขอ้ มลู การซ้อื ขายสนิ คา้ ขอ้ มลู การใช้ 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู โทรศพั ท์ 3. Variety การทข่ี อ้ มลู มโี ครงสรา้ ง แบบดงั้ เดมิ หลากหลายรูป 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู แนวทางการวเิ คราะหข์ อ้ มูลจากฐานขอ้ มลู 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู ขนาดใหญ่ (สามารถใชห้ ลกั การทางคณิตศาสตรแ์ ละสถติ )ิ 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู 1. การวเิ คราะหเ์ ชิงพรรณนา (Descriptive Analytics) 4.5 คลงั ขอ้ มูลและเหมอื งขอ้ มูล เป็นรูปแบบของการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทเ่ี นน้ การอธบิ ายวา่ เกดิ 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู อะไรข้นึ กบั ธุรกจิ ในช่วงทผ่ี ่านมา หรอื กาลงั จะเกดิ อะไร หาก มขี อ้ มลู สามารถทจ่ี ะอธบิ ายไดว้ า่ เกดิ อะไรข้นึ แบบดงั้ เดมิ 2. การวเิ คราะหเ์ ชิงพยากรณ์ (Predictive Analytics) เป็น 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู การวเิ คราะหโ์ ดยใชข้ อ้ มลู ในอดตี มาสรา้ งเป็นโมเดลจาลอง 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู เพอ่ื ทานายอนาคตของธุรกจิ เช่น การนาขอ้ มลู การขายใน อดตี มาวเิ คราะหเ์ พอ่ื หาโปรแกรมการสง่ เสรมิ การขายทถ่ี กู ใจ ลูกคา้ มากทส่ี ดุ เพอ่ื ทาการตลาดในอนาคต 3. การวเิ คราะหเ์ ชิงเสนอแนะ (Prescriptive Analytics) เป็นการวเิ คราะหโ์ ดยใชข้ อ้ มลู และโมเดลมารวมกนั เพอ่ื หา ผลลพั ธห์ รอื ตวั เลอื กท่ดี ที ่สี ดุ ในการแนะนาการตดั สนิ ใจ เช่น การวเิ คราะหโ์ ฆษณาแบนเนอรต์ ามเวบ็ ไซต์
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู ปจั จยั ท่คี วรพจิ ารณาในการเลอื กฐานขอ้ มูลสาหรบั ขอ้ มลู 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู ขนาดใหญ่ 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู 1. คณุ ลกั ษณะ พจิ ารณาลกั ษณะของขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการจดั เกบ็ ในฐานขอ้ มลู ซ่งึ ลกั ษณะของขอ้ มูลจะเป็นตวั กาหนด 4.5 คลงั ขอ้ มูลและเหมอื งขอ้ มูล เทคโนโลยฐี านขอ้ มูลท่จี ะเลอื กใช้ เช่น ฐานขอ้ มูลเชงิ สมั พนั ธ์ 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู จะเหมาะสมกบั ขอ้ มลู ทม่ี ลี กั ษณะเป็นโครงสรา้ ง แต่จะไม่ เหมาะกบั ขอ้ มลู ลกั ษณะเสยี ง รูปภาพ หรอื จากสอ่ื ออนไลน์ แบบดงั้ เดมิ 2. ฟงั กช์ นั การทางาน พจิ ารณาถงึ ฟงั กช์ นั การทางานของ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู เทคโนโลยฐี านขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการนามาใช้ 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู 3. การบารุงรกั ษาระบบ เป็นความสามารถเพม่ิ เตมิ ในการ เปลย่ี นหรอื เพม่ิ เตมิ อปุ กรณท์ เี สยี บางช้นิ ไดโ้ ดยไมจ่ าเป็นตอ้ ง หยุดระบบทงั้ ระบบ หรอื การสารองขอ้ มลู ความสะดวกในการ กูร้ ะบบ หรอื กูข้ อ้ มลู ในสถานการณท์ เ่ี กดิ ภยั พบิ ตั ิ 4. ฐานขอ้ มูลบนระบบคลาวดค์ อมพวิ ตงิ 5. ระบบฐานขอ้ มูลบนเวบ็ (Web database)
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 6. มาตรฐานการจดั การธุรกรรม การจดั การธุรกรรมในแงข่ อง 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู ระบบฐานขอ้ มลู คอื กลมุ่ ของการเปลย่ี นแปลงขอ้ มลู ในระบบท่ี 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู ตอ้ งการคณุ สมบตั ิ (ACID)ไดแ้ ก่ 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู Atomicity การรบั ประกนั วา่ การเปลย่ี นแปลงเกดิ ข้นึ “ทง้ั หมด” หรอื “ไม่ทงั้ หมด” อย่างใดอย่างหน่งึ เท่านนั้ ใน 4.5 คลงั ขอ้ มูลและเหมอื งขอ้ มูล ธุรกรรม จะไม่มคี รง่ึ ๆ กลางๆ 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู Consistency การรบั ประกนั วา่ ขอ้ มลู ในฐานขอ้ มลู จะ สอดคลอ้ งกนั ตลอดเวลาในช่วงการทาธุรกรรม แบบดงั้ เดมิ Isolation : การทาธุรกรรมรายการหน่งึ จะไม่สามารถอ่าน 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู ขอ้ มลู จากอกี ธุรกรรมหน่งึ ได้ หากธุรกรรมนนั้ ยงั ไม่สมบูรณ์ 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู ซง่ึ หมายถงึ หากมกี ารทาธุรกรรมมากกวา่ หน่ึงรายการพรอ้ ม ๆ กนั ระบบฐานขอ้ มลู จะจดั เรยี งลาดบั ใหเ้หมอื นกบั วา่ ทางาน เรยี งกนั Durability : การรบั ประกนั วา่ เมอ่ื การทาธุรกรรมเสรจ็ สมบูรณแ์ ลว้ ผลลพั ธน์ น้ั จะถกู บนั ทกึ ลงในสอ่ื ทค่ี งทนถาวร
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู ปญั หาจากการประมวลผลแฟ้ มแบบดง้ั เดิม 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู 1. ขอ้ มลู มคี วามซา้ ซอ้ น (Data Redundancy) 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู 2. ยากต่อการรวบรวมขอ้ มลู เขา้ ดว้ ยกนั (Lack 4.4 ชนิดของฐานขอ้ มลู of Data Integration) 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู 3. ขอ้ มลู มกี ารเตบิ โต และมคี วามข้นึ ต่อกนั 4.6 การประมวลผลแฟ้ มขอ้ มลู (Data Growth and Dependence) แบบดง้ั เดมิ 4. ยากต่อการควบคุมใหเ้ป็นมาตรฐานเดยี วกนั 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู (Lack of Standardization)
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู การจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู เป็นเทคนคิ ทาง 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู กายภาพทน่ี ามาใชเ้พอ่ื จดั การกบั ขอ้ มลู ทถ่ี กู บนั ทกึ ลง 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู ไปจรงิ ๆ บนสอ่ื จดั เกบ็ ขอ้ มลู เช่น ฮารด์ ดสิ ก์ หรอื 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู เทป โดยพ้นื ฐานแลว้ ประกอบดว้ ย 3 รูปแบบ คอื 1. การจดั แฟ้ มขอ้ มลู แบบเรยี งลาดบั (Sequential 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู File Organization) 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู เป็นการจดั เก็บขอ้ มลู แบบเรยี งลาดบั ต่อเน่ืองไป แบบดงั้ เดมิ ตาม คา่ ของคยี ์ เช่น รหสั พนกั งาน หรอื ช่อื พนกั งาน 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้ มขอ้ มลู ซง่ึ อาจจะเรยี งจากนอ้ ยไปหามาก หรอื มากไปหานอ้ ย 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู สาหรบั วธิ กี ารคน้ หา จะทาการคน้ ขอ้ มลู ตง้ั แต่ ตน้ ดว้ ยการอา่ นคา่ ขอ้ มูลทลี ะเรคคอรด์ ไปเรอ่ื ยๆ จนกระทงั่ พบ หรอื ไม่พบขอ้ มลู (หา้ มทาการอ่าน/ คน้ หาขา้ มเรคคอรด์ )
ตวั อยา่ งการจดั แฟ้ มขอ้ มลู แบบเรยี งลาดบั (Sequential File Organization) (เครดติ ภาพประกอบ เบญจภคั จงหมน่ื ไวย)์
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 2. การจดั แฟ้ มขอ้ มูลแบบเขา้ ถงึ โดยตรง (Directed 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู File Organization) 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู ขอ้ เสยี ของการจดั ระเบยี บแฟ้มขอ้ มลู แบบ เรยี งลาดบั คอื ไมส่ ามารถเขา้ ถงึ ตาแหน่งขอ้ มลู ท่ี 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู ตอ้ งการไดท้ นั ที ทาใหเ้สยี เวลาสาหรบั กรณีทข่ี อ้ มลู มี 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู ปรมิ าณมากและอยู่ลาดบั สุดทา้ ย แบบดงั้ เดมิ ในขณะทแ่ี ฟ้มขอ้ มลู แบบเขา้ ถงึ โดยตรงนนั้ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้ มขอ้ มลู สามารถเขา้ ถงึ ไดท้ นั ทดี ว้ ยการ กาหนดคยี ฟ์ ิ ลด์ ทใ่ี ช้ ระบตุ าแหน่งของขอ้ มูลผ่านฟงั กช์ นั่ แฮช (แปลงค่า 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู คยี ใ์ หเ้ป็นตาแหน่งทอ่ี ยู่ เพอ่ื จดั เก็บในหน่วยความจา) ทาใหส้ ามารถคา้ หาตาแหน่งแฟ้มขอ้ มลู ไดท้ นั ที
ตวั อยา่ งการจดั แฟ้ มขอ้ มูลแบบเขา้ ถงึ โดยตรง (Directed File Organization) (เครดติ ภาพประกอบ เบญจภคั จงหมน่ื ไวย)์
4.1 แนวคดิ พ้นื ฐานเก่ยี วกบั ขอ้ มลู 3. การจดั แฟ้ มขอ้ มูลแบบเรยี งลาดบั ดชั นี 4.2 แบบจาลองฐานขอ้ มลู (Indexed Sequential File Organization) 4.3 การพฒั นาฐานขอ้ มลู 4.4 ชนดิ ของฐานขอ้ มลู เป็นการนาจดุ เด่น และจดุ ดอ้ ยองการจดั แฟ้มขอ้ มลู ทง้ั สองแบบขา้ งตน้ มาประยุกตใ์ ชร้ ่วมกนั 4.5 คลงั ขอ้ มลู และเหมอื งขอ้ มลู คอื เขา้ ถงึ ขอ้ มูลไดโ้ ดยตรง และมีการประมวลผล 4.6 การประมวลผลแฟ้มขอ้ มลู ขอ้ มูลแบบเรยี งลาดบั ดว้ ย แบบดงั้ เดมิ ซง่ึ ขนั้ ตอนการทางาน เมอ่ื ไดร้ บั คาสงั่ แลว้ ระบบ 4.7 การจดั ระเบยี บแฟ้ มขอ้ มูล จะช้เี ป้าไปยงั ช่อื เป้าหมายเอาไว้ จากนน้ั จะทาการ คน้ หาแบบเรยี งลาดบั เฉพาะแฟ้มขอ้ มลู นน้ั เพอ่ื 4.8 วธิ จี ดั การกบั ฐานขอ้ มลู ตรวจสอบขอ้ มลู จนถงึ ชอ่ื เป้าหมายทก่ี าหนดเพยี ง เท่านนั้ โดยขอ้ เสยี ของการจดั แฟ้มแบบลาดบั ดชั นี คอื จะไมม่ กี ารคน้ หาขอ้ มลู ในแฟ้มขอ้ มลู อน่ื ๆ นอกจากแฟ้มทไ่ี ดช้ ้เี ป้าเอาไวแ้ ลว้
Search