Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore merged แผนหลักฟิสิกส์ 4

merged แผนหลักฟิสิกส์ 4

Published by Tevarit Chanserm, 2019-10-24 22:22:44

Description: merged แผนหลักฟิสิกส์ 4

Search

Read the Text Version

แ ผ น ห ลั ก เ พื อ ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ ฟสิกส์เพิมเติม 4 ชนั มธั ยมศึกษาปที 5 นายเทวฤทธิ จันเสริม ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชาํ นาญการพิเศษ โรงเรยี นพุทไธสง อําเภอพุทไธสง จงั หวดั บุรรี มั ย์ สาํ นกั งานเขตพนื ทีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 32

แผนหลักเพอ่ื การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 แผนหลกั เพอ่ื การจดั การเรยี นรู้ วชิ าฟสิ ิกส์เพม่ิ เตมิ 4 (ว32204) นายเทวฤทธ์ิ จนั เสรมิ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ โรงเรียนพทุ ไธสง อาเภอพุทไธสง จังหวัดบรุ รี มั ย์ สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 32 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนหลกั เพอื่ การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาหลกั การของไฟฟ้าและแมเ่ หล็กในเรื่อง กฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ความจุและตัวเก็บ ประจุ กฎของโอห์ม สภาพต้านทานและสภาพนาไฟฟ้า การวิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรงอย่างง่ายการหา พลังงานไฟฟา้ ท่ใี ชใ้ นเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ สนามแมเ่ หล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าหลักการของมอเตอร์ กฎการเหนีย่ วนาแม่เหล็กไฟฟา้ ของฟาราเดยแ์ ละกฎของเลนซ์ หลักการของเครื่องกาเนิดไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสสลับ การแปลงไฟฟา้ กระแสสลับเปน็ ไฟฟ้ากระแสตรง แนวคิดทฤษฎี แมเ่ หล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และสเปกตรัมคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การสารวจตรวจสอบ เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความคิด มีความ สามารถในการส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ การตัดสินใจ การนา ความรู้ไป ใชใ้ นชวี ติ ประจา วันมจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายการเหน่ยี วนาไฟฟา้ 2. อธิบายแรงกระทาระหวา่ งอนุภาคทม่ี ีประจไุ ฟฟา้ 3. อธิบายสนามไฟฟา้ สนามไฟฟา้ ของจดุ ประจุ และสนามไฟฟ้าของตวั นาทรงกลม 4. อธิบายพลังงานศักยไ์ ฟฟ้า ศกั ยไ์ ฟฟ้า และความตา่ งศกั ยร์ ะหว่างสองตาแหน่ง 5. อธิบายความจุ หลกั การทางานของตวั เก็บประจแุ ละผลการตอ่ ตัวเก็บประจแุ บบอนุกรมหรือขนาน 6. อธิบายหลกั การทางานของอุปกรณ์บางชนิดโดยใช้ความร้เู ก่ยี วกับไฟฟา้ สถติ 7. อธบิ ายการเกิดกระแสไฟฟ้าในตัวกลาง และวเิ คราะห์หากระแสไฟฟ้าในลวดตัวนาโลหะ 8. อธบิ ายกฎของโอหม์ ความต้านทาน และการใชก้ ฎของโอหม์ 9. อธบิ ายความหมายของแรงเคล่ือนไฟฟ้าและความตา่ งศกั ย์ระหวา่ งขว้ั 10. อธบิ ายพลงั งานไฟฟา้ และกาลงั ไฟฟ้าในวงจร 11. วเิ คราะห์และหาปริมาณทางไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ กระแสตรงอย่างง่าย 12. อธิบายแรงกระทาตอ่ อนภุ าคทม่ี ปี ระจุไฟฟ้าทเ่ี คลอ่ื นทเ่ี ขา้ ไปในสนามแมเ่ หลก็ และแรง กระทาต่อลวดตวั นาทีม่ ีกระแสไฟฟ้าผา่ นและอยู่ในสนามแมเ่ หลก็ 13. อธิบายการหมุนของขดลวดทม่ี ีกระแสไฟฟา้ ผ่านและอยู่ในสนามแมเ่ หล็ก และการนาหลกั การนไี้ ปสร้าง และอธิบายการทางานของแกลแวนอมเิ ตอร์และมอเตอรไ์ ฟฟา้ 14. อธิบายแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนยี่ วนา กฎของฟาราเดย์ และการนาหลกั การนไ้ี ปสรา้ งและ อธบิ ายการทางาน ของเคร่ืองกาเนิดไฟฟา้ 15. อธบิ ายลกั ษณะของไฟฟ้ากระแสสลับ การผลิตไฟฟ้ากระแสสลับ และปรมิ าณท่ีเก่ยี วขอ้ ง 16. อธบิ ายหลักการทางานของหม้อแปลง 17 . อธบิ ายการเกดิ คลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ และสเปกตรัมคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ 18. อธิบายโพลาไรเซชันของแสง แสงโพลาไรส์ และแสงไมโ่ พลาไรส์ แผนหลกั เพอ่ื การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4

จุดหมายหลักส หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน มงุ่ พฒั นาผู้เรียนใหเ้ ป็นคนดี มีปญั ญา มคี วาม ผู้เรียน เม่ือจบการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ดังนี้ 1. มีคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มท่พี ึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มวี ินยั และปฏ เศรษฐกิจพอเพยี ง 2. มีความรู้ ความสามารถในการสอื่ สาร การคดิ การแก้ปญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี และม 3. มีสขุ ภาพกายและสุขภาพจิตท่ีดี มีสุขนิสยั รักการออกกาลงั กาย 4. มคี วามรกั ชาติ มจี ติ สานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่ันในวถิ ีชวี ติ และ 5. มีจิตสานึกในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย และการอนรุ ักษแ์ ละพฒั นาส สังคมอยา่ งมคี วามสขุ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Desired Characteristics) หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน มงุ่ พฒั นาผูเ้ รียนให้มคี ณุ ลกั ษณะอนั พ เปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ (Love of nation ,religion and the King) 2. ซื่อสัตย์สุจริต (Honesty and integrity) 3. มีวนิ ัย (Self-discipline) 4. ใฝ่เรียนรู้ (Avidity for learning) 5. อยู่อย่างพอเพียง (Observance principles of Sufficiency Economy Philoso 6. มุ่งม่นั ในการทางาน (Dedication and commitment to work) 7. รกั ความเปน็ ไทย (Cherishing Thai nationalism) 8. มจี ิตสาธารณะ (Public - mindedness)

แผนหลักเพอื่ การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 สูตร (Goals) มสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จงึ กาหนดเปน็ จดุ หมายเพ่อื ให้เกิดกบั ฏิบัตติ นตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทตี่ นนบั ถอื ยดึ หลกั ปรชั ญาของ มที ักษะชีวติ ะการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข สิ่งแวดล้อม มีจิตสาธารณะทมี่ งุ่ ทาประโยชน์และสร้างสงิ่ ทด่ี งี ามในสงั คม และอยู่รว่ มกันใน พึงประสงค์ เพือ่ ใหส้ ามารถอย่รู ว่ มกับผู้อื่นในสังคมไดอ้ ย่างมคี วามสุข ในฐานะ ophy in one’s of life)

แผนหลักเพอื่ การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 คุณภาพผ้เู รียน (Learners Quality) เมอื่ เรียนจบชั้นมธั 1. เขา้ ใจการรกั ษาดุลยภาพของเซลล์ และกลไกการรักษาดุลยภาพของส่ิงมีชีวติ 2. เข้าใจกระบวนการถา่ ยทอดสารพันธุกรรม การแปรผนั มวิ เทชนั ววิ ฒั นาการของสิ่ง สิ่งแวดล้อมต่างๆ 3. เขา้ ใจกระบวนการ ความสาคัญและผลของเทคโนโลยชี ีวภาพตอ่ มนุษย์ สิง่ มีชวี ิตแล 4. เข้าใจชนิดของอนุภาคสาคัญท่ีเป็นสว่ ยประกอบในโครงสรา้ งอะตอม การจัดเรยี งธา เกิดปฏิกิรยิ าเคมี 5. เขา้ ใจชนดิ ของแรงยึดเหนีย่ วระหว่างอนุภาคและสมบตั ติ า่ งๆ ของสารที่มีความสมั พ 6. เข้าใจการเกดิ ปิโตรเลยี ม การแยกแก๊สธรรมชาติและการกลัน่ ลาดับส่วนนา้ มันดิบ ก 7. เขา้ ใจชนิด สมบัติ ปฏกิ ิริยาที่สาคญั ของพอลิเมอรแ์ ละสารชีวโมเลกุล 8. เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งปรมิ าณท่เี กี่ยวกับการเคลอ่ื นท่แี บบต่างๆ สมบัติของคล กัมมันตภาพรงั สีและพลงั งานนวิ เคลยี ร์ 9. เขา้ ใจกระบวนการเปล่ยี นแปลงของโลกและปรากฏการณ์ทางธรณีทีม่ ผี ลตอ่ สิง่ มชี วี 10. เข้าใจการเกิดและวิวัฒนาการของระบบสรุ ยิ ะ กาแล็กซี เอกภพและความสาคัญขอ 11. เข้าใจความสมั พนั ธข์ องความร้วู ทิ ยาศาสตรท์ ี่มผี ลตอ่ การพัฒนาเทคโนโลยีประเภท ของเทคโนโลยีตอ่ สิง่ มีชีวติ สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม 12. ระบุปญั หา ตงั้ คาถามทีจ่ ะสารวจตรวจสอบ โดยมกี ารกาหนดความสัมพนั ธ์ระหว่า เลือกตรวจสอบสมมติฐานท่ีเป็นไปได้ 13. วางแผนการสารวจตรวจสอบเพอ่ื แก้ปัญหาหรอื ตอบคาถาม วเิ คราะห์ เชือ่ มโยง ค ความรูท้ ่ไี ดร้ ับจากการสารวจตรวจสอบ 14. สื่อสารความคิด ความรจู้ ากผลการสารวจตรวจสอบโดยการพูด เขียน จัดแสดง หร 15. อธบิ ายความรแู้ ละใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการดารงชีวิต การศกึ ษาหาค 16. แสดงถึงความสนใจ มงุ่ มั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซอ่ื สัตยใ์ นการสืบเสาะหาควา แผนหลกั เพอื่ การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4

ธยมศกึ ษาปีที่ 6 ของกลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ งมีชวี ติ ความหลากหลายของส่งิ มีชีวติ และปจั จยั ทม่ี ีผลตอ่ การอยรู่ อดของส่ิงมชี ีวติ ใน ละส่งิ แวดลอ้ ม าตุในตารางธาตุ การเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมแี ละเขยี นสมการเคมี ปัจจัยที่มผี ลตอ่ อัตราการ พันธ์กบั แรงยึดเหนย่ี ว การนาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลยี มไปใช้ประโยชนแ์ ละผลตอ่ สิ่งมีชวี ิตและสิ่งแวดล้อม ลนื่ กล คุณภาพของเสียงและการได้ยนิ สมบัติ ประโยชนแ์ ละโทษของคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้า วิตและสง่ิ แวดลอ้ ม องเทคโนโลยีอากาศ ทต่างๆ และการพฒั นาเทคโนโลยที ี่ส่งผลให้มีการคดิ คน้ ความรู้ทางวทิ ยาศาสตรท์ ี่ก้าวหน้า ผล างตัวแปรต่างๆ สืบคน้ ขอ้ มูลจากหลายแหล่ง ตัง้ สมมติฐานท่เี ป็นไปไดห้ ลายแนวทาง ตดั สินใจ ความสมั พนั ธข์ องตัวแปรต่างๆ โดยใช้สมการทางคณติ ศาสตร์หรือสรา้ งแบบจาลองจากผลหรอื รอื ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ความรเู้ พ่มิ เติม ทาโครงงานหรือสร้างช้นิ งานตามความสนใจ ามรู้โดยใชเ้ ครอื่ งมอื และวธิ ีการท่ใี ห้ได้ผลถูกตอ้ งเชอื่ ถือได้

17. ตระหนักในคุณค่าของความรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ีใ่ ชใ้ นชีวิตประจาวัน กา ปญั ญาทอ้ งถิ่นและการพัฒนาเทคโนโลยที ที่ ันสมยั 18. แสดงความซาบซง้ึ ห่วงใย มพี ฤตกิ รรมเกยี่ วกับการใช้และรักษาทรพั ยากรธรรมชา ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของท้องถนิ่ 19. แสดงถงึ ความพึงพอใจ และเหน็ คณุ ค่าในการค้นพบความรู้ พบคาตอบ หรอื แกป้ ัญ 20. ทางานรว่ มกับผูอ้ นื่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ แสดงความคิดเหน็ โดยมีข้อมูลอา้ งองิ และเหตผุ ตอ่ สงั คมและสิง่ แวดลอ้ ม และยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผอู้ นื่ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน (Lea หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน มงุ่ พัฒนาผู้เรยี นให้มคี ุณภาพตามมาตรฐานกา สมรรถนะสาคญั ประการ ดงั น้ี 5 1. ความสามารถในการสือ่ สาร (Communication Capacityเป็นความสาม )ารถในกา และทัศนะของตนเองเพอื่ แลกเปลี่ยนขอ้ มลู ข่าวสารและประสบการณอ์ ันจะเป็นประโยชนต์ อ่ กา การเลอื กรบั หรอื ไม่รบั ข้อมลู ขา่ วสารนน้ั ด้วยหลกั เหตุผลและความถกู ต้อง ตลอดจนการเลือกใช 2. ความสามารถในการคิด (Thinking Capacityเป็นความสามารถในการคิดวเิ คราะห สร้างองคค์ วามร้หู รอื สารสนเทศเพ่ือการตัดสนิ ใจเกี่ยวกบั ตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา (Problem – solving capacityเปน็ ความสามารถใน พื้นฐานของหลักเหตผุ ล คุณธรรมและขอ้ มลู สารสนเทศ เข้าใจความสัมพนั ธ์และการเปล่ียนแปล ปญั หาและมกี ารตดั สินใจทมี่ ปี ระสิทธภิ าพโดยคานึงถงึ ผลกระทบท่เี กิดข้นึ ตอ่ ตนเอง สงั คม และ

แผนหลักเพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 ารประกอบอาชพี แสดงถึงความชื่นชม ภมู ใิ จ ยกยอ่ ง อ้างอิงผลงาน ชน้ิ งานท่เี ป็นผลจากภมู ิ าตแิ ละสงิ่ แวดล้อมอย่างรู้คุณค่า เสนอตัวเองร่วมมือปฏิบตั กิ บั ชุมชนในการปอ้ งกนั ดูแล ญหาได้ ผลประกอบ เกยี่ วกับผลของการพัฒนาและการใชว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ย่างมคี ุณธรรม arners’ key Competencies) ารเรยี นรู้ ซึ่งการพฒั นาผูเ้ รยี นให้บรรลุมาตรฐานการเรียนร้ทู กี่ าหนดนน้ั จะช่วยให้ผเู้ รียนเกิด ารรับและสง่ สาร มวี ัฒนธรรมในการใช้ภาษาถา่ ยทอดความคดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สกึ ารพฒั นาตนเองและสงั คม รวมท้งั การเจรจาตอ่ รองเพอ่ื ขจัดและลดปญั หาความขดั แยง้ ต่างๆ ชว้ ธิ ีการสือ่ สารที่มีประสทิ ธิภาพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบทม่ี ีต่อตนและสงั คม ห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคดิ อย่างมวี จิ ารณญา )ณและการคิดเป็นระบบ เพ่อื นาไป ส่กู าร นการแกป้ ัญหาและอปุ สรรคต่างๆ ท่ีเผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบน ) ลงของเหตุการณต์ ่างๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรูม้ าใช้ในการป้องกันและแกไ้ ข ะสง่ิ แวดล้อม

แผนหลกั เพอื่ การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ (Capacity for Applying Life skillsเปน็ ความส การเรียนรอู้ ย่างตอ่ เนอื่ ง การทางานและการอย่รู ว่ มกนั ในสงั คมด้วยการสร้างเสริมความสัมพนั ธ ทนั กบั การเปล่ยี นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรจู้ ักหลกี เล่ียงพฤตกิ รรมไม่พงึ ปร 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (Capacity for Technological Applicationเป เพ่อื การพฒั นาตนเองและสงั คม ในด้านการเรยี นรู้ การสื่อสาร การทางาน การแกป้ ัญหาอยา่ งส แผนหลักเพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4

สามารถในการนากระบวนการต่างๆไปใช้ในการดาเนินชีวติ ประจาวนั การเรียนรดู้ ้วยตนเอง ) ธ์อันดีระหวา่ งบุคคล การจัดการปญั หาและความขัดแยง้ ต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรบั ตัวให้ ระสงคท์ ่สี ่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ืน่ ปน็ ค )วามสามารถในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยดี า้ นต่างๆและมที ักษะกระบวนการเทคโนโลยี สรา้ งสรรค์ ถกู ต้องเหมาะสมและมคี ณุ ธรรม

ตารางท่ี ตารางวิเคราะห์มาตรฐาน 1ตวั ชีว้ ัดหรือผ มาตรฐาน )Standard( และ พทุ ธพิ ิสยั ตวั ชี้วัด)Indicator( หรือ ผลการเรียนรู้ คาสาคัญ ความรู้/มติ ขิ องกระบวนการทางส )Learning Outcome( )Key Word( ตามแนวคดิ ของบลูมฉบบั ปรับ 1. อธิบายการเหน่ียวนา - บอก ไฟฟา้ - ทากิจกรรม การจา การเขา้ ใจ การประยุก - คานวณหา - เขยี นรูป )Remembering( )Understanding( )Applyin - อธิบาย // / 2. อธบิ ายแรงกระทาระหวา่ ง -อธบิ าย / / / อนุภาคทีม่ ีประจุไฟฟ้า -คานวณ

แผนหลักเพอ่ื การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 ผลการเรยี นรู้กับพุทธพิ สิ ยั ทกั ษะพิสยั และจิตพสิ ัย ย (Cognitive Domain( ทกั ษะพสิ ัย จติ พสิ ัย )Psychomotor )Effective สติปัญญา )Cognitive Proceses Dimensions( Domain( บปรงุ ใหม่ )Revised Bloom’s Taxonomy( Domain( ด้านคณุ ลักษณะ กตใ์ ช้ การวเิ คราะห์ การประเมนิ ค่า การสรา้ งสรรค์ ทกั ษะกระบวนการ ng( ) Analyzing( )Evaluating ( )Creating( )Process skill( (Attribute) - อธิบาย -มีวนิ ัย - ทากิจกรรม -ต้งั ใจเรยี น - เขียนรูป -รบั ผดิ ชอบ -ซอื่ สัตย์ - อธิบาย -มวี นิ ยั - เขยี น -ตัง้ ใจเรียน -รบั ผิดชอบ -ซ่อื สัตย์

แผนหลักเพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 มาตรฐาน )Standard( และ พุทธพิ ิสยั ตัวชว้ี ัด)Indicator( หรือ คาสาคญั ความรู้/มิติของกระบวนการทางส ผลการเรียนรู้ )Key Word( ตามแนวคิดของบลูมฉบบั ปรบั )Learning Outcome( การจา การเข้าใจ การประยุก )Remembering( )Understanding( )Applyin 3. อธบิ ายสนามไฟฟา้ สนามไฟฟา้ - อธิบาย / / / ของจุดประจุ และสนามไฟฟ้าของ คานวณ - ตวั นาทรงกลม ทากจิ กรรม - 4. อธบิ ายพลังงานศกั ยไ์ ฟฟ้า - อธบิ าย / ศกั ยไ์ ฟฟ้า และความต่างศกั ย์ - บอก ระหว่างสองตาแหน่ง คานวณหา - แผนหลักเพอื่ การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4

ย (Cognitive Domain( ทกั ษะพิสัย จิตพสิ ัย )Psychomotor )Effective สตปิ ัญญา )Cognitive Proceses Dimensions( Domain( บปรงุ ใหม่ )Revised Bloom’s Taxonomy( Domain( ด้านคุณลักษณะ กตใ์ ช้ การวิเคราะห์ การประเมนิ คา่ การสร้างสรรค์ ทักษะกระบวนการ ng( ) Analyzing( )Evaluating ( )Creating( )Process skill( (Attribute) - อธบิ าย -มีวินยั - ทากิจกรรม -ตง้ั ใจเรียน -รบั ผิดชอบ -ซ่อื สัตย์ / - อธิบาย -มีวนิ ัย แก้ปญั หา - -ตง้ั ใจเรยี น -รบั ผดิ ชอบ -ซื่อสตั ย์

มาตรฐาน )Standard( และ พุทธพิ สิ ยั ตัวชว้ี ัด)Indicator( หรือ ผลการเรียนรู้ คาสาคญั ความรู้/มติ ขิ องกระบวนการทางส )Key Word( )Learning Outcome( ตามแนวคิดของบลมู ฉบับปรบั การจา การเขา้ ใจ การประยุก )Remembering( )Understanding( )Applyin 5. อธบิ ายความจุ หลกั การทางาน - อธิบาย // / ของตวั เกบ็ ประจุและผลการต่อตัว - คานวณหา เกบ็ ประจุ แบบอนกุ รมหรอื ขนาน - วเิ คราะห์ - บอก เขยี นรปู - 6. อธิบายหลักการทางานของ -สืบค้น / / / อุปกรณ์บางชนิดโดยใชค้ วามรู้ -วิเคราะห์ เกีย่ วกับไฟฟ้าสถิตย์ -อธิบายผล -แสดงผลงาน

แผนหลักเพอ่ื การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 ย (Cognitive Domain( ทกั ษะพิสยั จติ พิสัย )Effective สตปิ ัญญา )Cognitive Proceses Dimensions( )Psychomotor Domain( บปรงุ ใหม่ )Revised Bloom’s Taxonomy( Domain( ด้านคณุ ลักษณะ กต์ใช้ การวเิ คราะห์ การประเมนิ คา่ การสร้างสรรค์ ทกั ษะกระบวนการ ng( ) Analyzing( )Evaluating ( )Creating( )Process skill( (Attribute) / - อธิบาย -มีวินยั -ต้งั ใจเรยี น วิเคราะห์ - -รบั ผิดชอบ -ซ่ือสตั ย์ คานวณหา - เขียนรปู - - อธิบาย -มวี ินยั บอกหลกั การ - -ตัง้ ใจเรียน -รบั ผดิ ชอบ -ซ่อื สตั ย์

แผนหลกั เพอื่ การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 มาตรฐาน )Standard( และ พทุ ธิพิสยั ตัวชว้ี ดั )Indicator( หรอื คาสาคัญ ความรู้/มิติของกระบวนการทางส ผลการเรียนรู้ )Key Word( ตามแนวคดิ ของบลูมฉบบั ปรับ )Learning Outcome( การจา การเขา้ ใจ การประยุก )Remembering( )Understanding( )Applyin 7. อธบิ ายการเกิดกระแสไฟฟ้าใน - อธิบาย / / / ตัวกลางและวิเคราะห์หา - คานวณ กระแสไฟฟา้ ในลวดตัวนาโลหะ เขียน - วเิ คราะห์หา - 8. อธบิ ายกฎของโอหม์ ความ - คานวณ / / / ตา้ นทาน และการใชก้ ฎของโอหม์ - อธบิ าย - เขียน แผนหลกั เพอ่ื การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4

ย (Cognitive Domain( ทกั ษะพิสยั จติ พิสยั สติปญั ญา )Cognitive Proceses Dimensions( )Psychomotor )Effective บปรุงใหม่ )Revised Bloom’s Taxonomy( Domain( Domain( กต์ใช้ การวิเคราะห์ การประเมินค่า การสร้างสรรค์ ดา้ นคุณลกั ษณะ ng( ) Analyzing( )Evaluating ( )Creating( ทกั ษะกระบวนการ )Process skill( (Attribute) / - นาความรู้ไปใช้ -มวี ินยั อธิบาย - -ตง้ั ใจเรียน เขยี น - -รบั ผดิ ชอบ -ซ่ือสตั ย์ -คานวณ -มวี ินยั อธบิ าย- -ตง้ั ใจเรียน -รบั ผดิ ชอบ -ซ่ือสัตย์

มาตรฐาน )Standard( และ พุทธิพิสยั ตัวช้วี ัด)Indicator( หรอื ผลการเรียนรู้ คาสาคัญ ความรู้/มิตขิ องกระบวนการทางส )Learning Outcome( )Key Word( ตามแนวคดิ ของบลมู ฉบับปรบั 9. อธิบายความหมายของ อธบิ าย - แรงเคลอ่ื นไฟฟ้าและความต่าง คานวณ - การจา การเขา้ ใจ การประยุก ศักย์ระหว่างขว้ั เขียน - )Remembering( )Understanding( )Applyin // / 10. อธิบายพลงั งานไฟฟ้าและ - อธบิ าย / / / กาลังไฟฟ้าในวงจร คานวณ - - อภปิ ราย แกป้ ญั หา -

แผนหลกั เพอื่ การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 ย (Cognitive Domain( ทักษะพิสัย จิตพิสัย )Effective สติปัญญา )Cognitive Proceses Dimensions( )Psychomotor Domain( บปรุงใหม่ )Revised Bloom’s Taxonomy( Domain( ดา้ นคณุ ลักษณะ กต์ใช้ การวเิ คราะห์ การประเมินค่า การสรา้ งสรรค์ ทักษะกระบวนการ ng( ) Analyzing( )Evaluating ( )Creating( )Process skill( (Attribute) คานวณ - -มวี นิ ัย -ต้ังใจเรยี น เขยี น - -รับผิดชอบ -ซอ่ื สตั ย์ คานวณ - -มวี ินัย อภปิ ราย - -ตง้ั ใจเรยี น -รับผดิ ชอบ -ซือ่ สตั ย์

แผนหลกั เพอื่ การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 มาตรฐาน )Standard( และ พทุ ธพิ สิ ัย ตัวช้วี ัด)Indicator( หรอื คาสาคัญ ความรู้/มติ ิของกระบวนการทางส ผลการเรยี นรู้ )Key Word( ตามแนวคิดของบลูมฉบับปรบั )Learning Outcome( การจา การเขา้ ใจ การประยุก )Remembering( )Understanding( )Applyin 11. วเิ คราะหแ์ ละหาปริมาณทาง - วเิ คราะห์ / / / ไฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้ากระแสตรง อธบิ าย - อยา่ งง่าย เขียน - 12. อธิบายแรงกระทาต่ออนุภาค อธบิ าย - / / / ทมี่ ีประจุไฟฟ้าทเี่ คลอื่ นท่ีเขา้ ไปใน เขยี น - สนามแม่เหล็กและแรงกระทาตอ่ คานวณ - ลวดตวั นาท่ีมกี ระแสไฟฟา้ ผ่าน และอยูใ่ นสนามแม่เหลก็ แผนหลกั เพอื่ การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4

ย (Cognitive Domain( ทกั ษะพิสยั จิตพสิ ัย สตปิ ญั ญา )Cognitive Proceses Dimensions( )Psychomotor )Effective บปรุงใหม่ )Revised Bloom’s Taxonomy( Domain( Domain( กตใ์ ช้ การวเิ คราะห์ การประเมนิ คา่ การสร้างสรรค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ ng( ) Analyzing( )Evaluating ( )Creating( ทกั ษะกระบวนการ )Process skill( (Attribute) / เขียน - -มีวินัย ปฏบิ ตั ติ าม - -ตัง้ ใจเรียน ระเบยี บ -รับผดิ ชอบ -ซอ่ื สัตย์ เขยี น - -มวี ินยั คานวณ - -ตง้ั ใจเรยี น -รบั ผิดชอบ -ซอื่ สัตย์

มาตรฐาน )Standard( และ พทุ ธพิ ิสยั ตัวชว้ี ัด)Indicator( หรือ ผลการเรียนรู้ คาสาคัญ ความรู้/มติ ขิ องกระบวนการทางส )Key Word( )Learning Outcome( ตามแนวคิดของบลูมฉบับปรบั การจา การเข้าใจ การประยุก )Remembering( )Understanding( )Applyin 13. อธบิ ายการหมนุ ของขดลวดท่ี อธิบาย - // / มกี ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นและอยู่ใน เขยี น - สนามแมเ่ หล็กและการนาหลกั การ คานวณ - นไ้ี ปสรา้ งและอธิบายการทางาน อภิปราย - ของแกลแวนอมเิ ตอรแ์ ละมอเตอร์ ไฟฟา้ 14. อธบิ ายแรงเคลื่อนไฟฟา้ - อธิบาย / / / เหน่ียวนา กฎของฟาราเดย์ และ - คานวณ การนาหลกั การนไี้ ปสรา้ งและ - นาไปใช้ อธบิ ายการทางานของเครอ่ื ง กาเนดิ ไฟฟ้า

แผนหลักเพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 ย (Cognitive Domain( ทักษะพสิ ัย จิตพสิ ยั )Effective สตปิ ญั ญา )Cognitive Proceses Dimensions( )Psychomotor Domain( บปรุงใหม่ )Revised Bloom’s Taxonomy( Domain( ดา้ นคณุ ลักษณะ กต์ใช้ การวเิ คราะห์ การประเมนิ คา่ การสร้างสรรค์ ทักษะกระบวนการ ng( ) Analyzing( )Evaluating ( )Creating( )Process skill( (Attribute) เขยี น - -มวี ินยั -ตง้ั ใจเรียน คานวณ - -รบั ผิดชอบ -ซ่ือสตั ย์ อภิปราย - / -อธบิ าย -มวี นิ ยั - เขียน -ตัง้ ใจเรียน -รบั ผิดชอบ -ซือ่ สัตย์

แผนหลกั เพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 มาตรฐาน )Standard( และ พุทธิพิสยั ตัวชี้วัด)Indicator( หรือ คาสาคญั ความรู้/มติ ิของกระบวนการทางส ผลการเรียนรู้ )Key Word( ตามแนวคดิ ของบลมู ฉบับปรับ )Learning Outcome( การจา การเข้าใจ การประยุก )Remembering( )Understanding( )Applyin 15. อธบิ ายลักษณะของไฟฟา้ - คานวณ / / / กระแสสลับ การผลิตไฟฟา้ -อธิบาย กระแสสลบั และปรมิ าณท่ี - สรุป เก่ยี วขอ้ ง อภปิ ราย - 16. อธบิ ายหลักการทางานของ - อธิบาย / / / หมอ้ แปลง อภิปราย - -คานวณ ประยกุ ต์ - แผนหลกั เพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4

ย (Cognitive Domain( ทักษะพิสยั จติ พิสัย )Psychomotor )Effective สตปิ ญั ญา )Cognitive Proceses Dimensions( Domain( บปรงุ ใหม่ )Revised Bloom’s Taxonomy( Domain( ดา้ นคุณลักษณะ กตใ์ ช้ การวเิ คราะห์ การประเมนิ ค่า การสร้างสรรค์ ทักษะกระบวนการ ng( ) Analyzing( )Evaluating ( )Creating( )Process skill( (Attribute) - แกป้ ัญหา -มวี นิ ัย -อธบิ าย -ต้งั ใจเรยี น -รับผิดชอบ -ซ่ือสตั ย์ อธิบาย - -มีวนิ ัย เขยี น - -ตั้งใจเรียน ทาตามข้ันตอน - -รับผิดชอบ -ซื่อสัตย์

มาตรฐาน )Standard( และ พทุ ธพิ สิ ัย ตวั ชวี้ ดั )Indicator( หรือ ผลการเรยี นรู้ คาสาคัญ ความรู้/มติ ขิ องกระบวนการทางส )Key Word( )Learning Outcome( ตามแนวคดิ ของบลมู ฉบับปรับ การจา การเขา้ ใจ การประยุก )Remembering( )Understanding( )Applyin 17. อธิบายการเกิดคลืน่ อธบิ าย - // / แมเ่ หล็กไฟฟา้ และสเปกตรมั คลน่ื อภิปราย - แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ คานวณ - บอก - 18. อธิบายโพลาไรเซชันของแสง อธบิ าย- / / แสงโพลาไรส์ และแสงไมโ่ พลา อภปิ รา- ไรส์ บอก-

แผนหลักเพอื่ การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 ย (Cognitive Domain( ทกั ษะพสิ ยั จติ พสิ ัย )Effective สตปิ ญั ญา )Cognitive Proceses Dimensions( )Psychomotor Domain( บปรงุ ใหม่ )Revised Bloom’s Taxonomy( Domain( ดา้ นคณุ ลักษณะ กตใ์ ช้ การวิเคราะห์ การประเมินคา่ การสรา้ งสรรค์ ทักษะกระบวนการ ng( ) Analyzing( )Evaluating ( )Creating( )Process skill( (Attribute) อธิบาย - -มีวนิ ยั -ตง้ั ใจเรียน บอก - -รบั ผดิ ชอบ -ซอ่ื สัตย์ เขยี น - อธบิ าย - -มีวนิ ยั บอก - -ตัง้ ใจเรียน เขยี น - -รบั ผิดชอบ -ซ่อื สัตย์

แผนหลักเพอื่ การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 ตารางท่ี 2 ตารางวเิ คราะห์ความเชื่อมโยงของมาตรฐาน มาตรฐาน )Standard( สาระการเรียนรู้ และตวั ช้ีวดั )Indicator( คาสาคญั แกนกลาง ด้านความรู้ หรอื ผลการเรยี นรู้ )Key Word( )Core Content( / (Knowledge) ) K( )Learning Outcome( สาระการเรียนรู้ )รู้อะไร( )Content( แผนหลกั เพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4

นและตวั ชว้ี ัดหรือผลการเรียนรู้ กับพฤติกรรมการเรยี นรู้ พฤติกรรมการการเรียนรู้ ดา้ นทักษะกระบวนการ ด้านสมรรถนะตามหลักสตู ร ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attribute) ) A( (Process) )P( (Competencies) )C( )เป็นคนอย่างไร( )ทาอะไร( )เกิดสมรรถนะใด(

มาตรฐาน )Standard( คาสาคัญ สาระการเรยี นรู้ ด้านความรู้ และตวั ช้วี ัด )Indicator( )Key Word( แกนกลาง (Knowledge) ) K( หรือผลการเรยี นรู้ -อธบิ าย )Core Content( / )รูอ้ ะไร( )Learning Outcome( -เขียนรูป สาระการเรียนรู้ -บอก -บอกความหมายเกย่ี วกับ 1. อธบิ ายการเหนี่ยวนาไฟฟ้า )Content( ปรากฏการณธ์ รรมชาติของ ไฟฟ้าได้ -ประจไุ ฟฟา้ และ -บอกการเกดิ ชนดิ ของประจุ การเหน่ียวนาไฟฟ้า ไฟฟ้าบนวตั ถุที่นามาถูกัน เมื่อ กาหนดลาดับการเกิดชนิดปร ไฟฟา้ จากการถูมาให้ -อธิบายการทาใหว้ ัตถุมีประจ ไฟฟ้า โดยใช้กฎการอนรุ กั ษ์ ประจุไฟฟา้ ได้ -บอกความหมายของตัวนาไฟ แลฉนวนไฟฟา้ ได้ -บอกวธิ ีการตรวจสอบประจุ ไฟฟา้ ของวัตถุและชนิดของ ประจไุ ฟฟ้าโดย ใช้อิเล็กโทรสโคป และอธบิ าย ทเ่ี กิดข้ึนได้ -ทากิจกรรมเพื่อศึกษาวธิ กี าร ให้วตั ถุมีประจไุ ฟฟ้าโดยการ เหนี่ยวนาและอธิบายผลท่ี เกิดขึ้นได้

แผนหลกั เพอื่ การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 พฤตกิ รรมการการเรียนรู้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ด้านสมรรถนะตามหลกั สตู ร ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Process) )P( (Competencies) )C( (Attribute) ) A( )ทาอะไร( )เกิดสมรรถนะใด( )เป็นคนอยา่ งไร( -อธบิ าย -การสอ่ื สาร -มวี นิ ัยใฝ่เรียนรู้ -เขยี น -การคดิ -มุ่งม่ันในการทางาน -ปฏิบตั ติ ามขั้นตอน -การแกป้ ัญหา -ซ่ือสตั ย์สจุ รติ -มจี ิตสาธารณะ อ ระจุ จุ ฟฟ้า ยผล รทา

แผนหลักเพอ่ื การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 มาตรฐาน )Standard( คาสาคญั สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้ และตัวชว้ี ดั )Indicator( )Key Word( แกนกลาง (Knowledge) ) K( หรือผลการเรยี นรู้ )Core Content( / )รอู้ ะไร( )Learning Outcome( สาระการเรียนรู้ )Content( 2. อธบิ ายแรงกระทาระหว่าง บอก- แรงระหวา่ งประจุไฟฟ้า- -บอกความสัมพันธร์ ะหวา่ งแร กระทาตอ่ ประจไุ ฟฟ้า ระยะ อนภุ าคทีม่ ีประจไุ ฟฟ้า คานวณ- ระหว่างประจไุ ฟฟ้าและปรมิ า ประจไุ ฟฟา้ ซงึ่ เปน็ กฎของ อธิบาย- คลู อมบ์ได้ 3. อธิบายสนามไฟฟ้า -อธบิ าย สนามไฟฟ้าเน่อื งจากจุด- -บอกความหมายของสนามไฟ ประจุ ได้ สนามไฟฟา้ ของจุดประจุ และ คานวณ- สนามไฟฟา้ ของตัวนาทรงกลม อภิปราย- -มีความรคู้ วามเข้าใจปริมาณท เกยี่ วข้องกับสนามไฟฟ้า -คานวณหาขนาดและทิศทาง ของสนามไฟฟา้ ท่ีเกิดจากหนึง่ ประจุและหลายจุดประจทุ ่ีเป ชนดิ เดียวกนั หรือตา่ งชนิดกนั -คานวณหาขนาดและทิศทาง ของแรงทีก่ ระทาต่อประจุไฟฟ ทอ่ี ยู่ในสนามไฟฟ้าได้ แผนหลักเพอื่ การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4

พฤตกิ รรมการการเรียนรู้ ด้านทกั ษะกระบวนการ ดา้ นสมรรถนะตามหลกั สตู ร ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attribute) ) A( (Process) )P( (Competencies) )C( )เป็นคนอย่างไร( )ทาอะไร( )เกดิ สมรรถนะใด( รงที่ อธบิ าย- การส่อื สาร- มีวนิ ัยใฝ่เรียนรู้- เขยี น- การคดิ - มงุ่ มั่นในการทางาน- -การแกป้ ัญหา ซือ่ สัตยส์ ุจรติ - าณ คานวณ- มจี ิตสาธารณะ- การสอ่ื สาร- ฟฟ้า -บอก การคดิ - มวี นิ ัยใฝ่เรียนรู้- คานวณ- -การแก้ปญั หา มุ่งมนั่ ในการทางาน- ซอื่ สตั ย์สุจรติ - ท่ี เขียน- มีจติ สาธารณะ- ง งจดุ ปน็ นได้ ง ฟา้

มาตรฐาน )Standard( สาระการเรียนรู้ และตวั ช้วี ัด )Indicator( คาสาคญั แกนกลาง ดา้ นความรู้ หรอื ผลการเรียนรู้ )Key Word( )Learning Outcome( )Core Content( / (Knowledge) ) K( บอก- สาระการเรียนรู้ )รอู้ ะไร( อธิบาย- อภปิ ราย- )Content( เขียน- คานวณ- -บอกความหมายของ บอก- สนามไฟฟา้ ได้ คานวณ- -บอกความหมายของจุด เขียน- สะเทนิ ในสนามไฟฟ้าได้ -บอกได้วา่ สนามไฟฟา้ ณ ตาแหน่งตา่ งๆ ในที่ วา่ งภายในตัวนาทรง กลมใดๆ มีค่าเปน็ ศนู ย์ และสนามไฟฟ้า ณ ตาแหน่งตา่ งๆ จากผิว ทรงกลมออกไป จะมี ลักษณะเหมอื นกับ สนามไฟฟา้ ของจุดประจุ ท่ีเสมือนวา่ ประจุไฟฟา้ ท้ังหมดของตัวนาทรง กลมไปรวมกนั อยูท่ ี่ ศนู ย์กลางของทรงกลม นนั้ -บอกได้ว่าสนามไฟฟ้า ณ ตาแหน่งท่ตี ิดกบั ผวิ ของตวั นาจะมที ิศตัง้ ฉาก กบั ผิวเสมอ

แผนหลักเพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 พฤตกิ รรมการการเรยี นรู้ ด้านทกั ษะกระบวนการ ด้านสมรรถนะตามหลกั สตู ร ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Process) )P( (Competencies) )C( (Attribute) ) A( )ทาอะไร( )เกดิ สมรรถนะใด( )เปน็ คนอย่างไร( การสื่อสาร- มีวินัยใฝ่เรยี นรู้- การคิด- มงุ่ มนั่ ในการทางาน- -การแกป้ ัญหา ซื่อสัตย์สจุ ริต- มจี ติ สาธารณะ-

แผนหลกั เพอ่ื การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 มาตรฐาน )Standard( คาสาคัญ สาระการเรยี นรู้ ด้านความรู้ และตวั ชว้ี ดั )Indicator( )Key Word( แกนกลาง (Knowledge) ) K( หรอื ผลการเรยี นรู้ )Core Content( / )รูอ้ ะไร( )Learning Outcome( สาระการเรยี นรู้ )Content( 4. อธิบายพลังงานศักยไ์ ฟฟา้ บอก- -ศกั ย์ไฟฟา้ และงานใน -บอกความหมายของศักยไ์ ฟฟ ศกั ยไ์ ฟฟา้ และความต่างศกั ย์ คานวณ- การยา้ ยประจุ และพลังงานศกั ยไ์ ฟฟา้ ได้ ระหว่างสองตาแหน่ง อธิบาย- - ศักยไ์ ฟฟา้ เน่อื งจากจดุ -บอกได้วา่ ศักยไ์ ฟฟา้ มีหนว่ ยเ อภิปราย- ประจุ จลู ต่อคลู อมบ์ หรือ โวลต์ -ศักย์ไฟฟา้ เนือ่ งจาก บอกความหมายของความต่าง ประจบุ นตัวนาทรงกลม ศักย์ไฟฟ้าได้ -คานวณหาปรมิ าณที่เกย่ี วขอ้ กับศกั ย์ไฟฟ้าและงานในการย ประจไุ ด้ - อธบิ ายวิธีการหาศักยไ์ ฟฟ้า เน่ืองจากจุดประจุได้ คานวณหาศักยไ์ ฟฟา้ ที่ตาแหน ต่างๆ เน่ืองจากหน่ึงจุดประจไุ -อธบิ ายการเกิดศกั ยไ์ ฟฟ้า เน่อื งจากจดุ ประจบุ นตวั นาทร กลมได้ -บอกไดว้ า่ ศักยไ์ ฟฟา้ ทตี่ าแห ตา่ งๆ ภายในตัวนาทรงกลมม เท่ากนั และมีค่าเทา่ กับ ศกั ยไ์ ฟฟา้ ทีผ่ วิ ศกั ยไ์ ฟฟ้าทน่ี จากผิวนอกออกไปมีค่าเท่ากบั ศกั ย์ไฟฟา้ ของจดุ ประจุทีเ่ สมอื ว่าเกิดจากจดุ ประจทุ ้ังสองขอ ทรงกลมไปรวมกนั ทีจ่ ุด แผนหลักเพอ่ื การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ ศูน4ย์กลาง KQ a

พฤตกิ รรมการการเรยี นรู้ ดา้ นทักษะกระบวนการ ด้านสมรรถนะตามหลักสตู ร ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attribute) ) A( (Process) )P( (Competencies) )C( )เปน็ คนอย่างไร( )ทาอะไร( )เกิดสมรรถนะใด( ฟา้ บอก- การสอื่ สาร- มีวินัยใฝเ่ รียนรู้- คานวณ- การคดิ - มุง่ มัน่ ในการทางาน- เป็น อธบิ าย- -การแกป้ ัญหา ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ - มจี ติ สาธารณะ- ง- อง ย้าย นง่ - ได้ รง หนง่ มีค่า นับ บ อน อง

มาตรฐาน )Standard( คาสาคัญ สาระการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ และตัวชีว้ ดั )Indicator( )Key Word( แกนกลาง (Knowledge) ) K( หรือผลการเรยี นรู้ )Core Content( / )Learning Outcome( สาระการเรยี นรู้ )รู้อะไร( )Content( - คานวณหาปริมาณตา่ งๆ ที่ เกย่ี วขอ้ งกบั ศักยไ์ ฟฟ้าของปร ตวั นาทรงกลม เม่อื กาหนด - บอกความหมายของตัวเกบ็ ประจุและความจไุ ด้ - บอกความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง ความจุของตัวเกบ็ ประจุแบบ ตัวนาทรงกลมกับรัศมีของ ทรงกลมได้ - บอกไดว้ ่าการถ่ายโอนประจ ไฟฟ้าจากการเชอ่ื มตวั นาทรง กลมด้วยเส้นลวดตัวนา จะหย ถา่ ยโอนเมือ่ ศักยไ์ ฟฟา้ ของแต ทรงกลมตวั นาเทา่ กัน คานวณหาปริมาณต่างๆ ท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั ศกั ย์ไฟฟ้าของปร ตวั นาทรงกลม เม่ือกาหนด

แผนหลกั เพอ่ื การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 พฤติกรรมการการเรียนรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านสมรรถนะตามหลกั สตู ร ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Process) )P( (Competencies) )C( (Attribute) ) A( )ทาอะไร( )เกดิ สมรรถนะใด( )เป็นคนอยา่ งไร( ระจุ บ จุ ง ยุด ตล่ ะ ระจุ

แผนหลกั เพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 มาตรฐาน )Standard( คาสาคญั สาระการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ และตวั ชี้วดั )Indicator( )Key Word( แกนกลาง (Knowledge) ) K( หรอื ผลการเรียนรู้ )Core Content( / )รูอ้ ะไร( )Learning Outcome( สาระการเรียนรู้ )Content( 5. อธบิ ายความจุ หลักการ บอก- ตวั เกบ็ ประจุและความ - - บอกความหมายของตัวเก็บ ทางานของตวั เกบ็ ประจุและ จไุ ฟฟา้ ประจุและความจุได้ ผลการต่อตัวเกบ็ ประจุ แบบ อธิบาย- - บอกความสมั พันธ์ระหว่าง อนกุ รมหรือขนาน อภิปราย- ความจขุ องตวั เกบ็ ประจแุ บบ เขียน- ตวั นาทรงกลมกบั รศั มีของ คานวณ- ทรงกลมได้ - บอกไดว้ า่ การถ่ายโอนประจ ไฟฟ้าจากการเชื่อมตวั นาทรง กลมดว้ ยเสน้ ลวดตวั นา จะหย ถ่ายโอนเม่ือศักยไ์ ฟฟา้ ของแต ทรงกลมตวั นาเทา่ กัน แผนหลักเพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4

พฤตกิ รรมการการเรยี นรู้ ดา้ นทักษะกระบวนการ ดา้ นสมรรถนะตามหลักสตู ร ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attribute) ) A( (Process) )P( (Competencies) )C( )เปน็ คนอย่างไร( )ทาอะไร( )เกดิ สมรรถนะใด( บ บอก- การสอ่ื สาร- -มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อธิบาย- การคดิ - -มุง่ มนั่ ในการทางาน คานวณ- -การแก้ปญั หา -ซ่ือสตั ย์สจุ ริต -มีจติ สาธารณะ จุ ง ยุด ต่ละ

มาตรฐาน )Standard( คาสาคัญ สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้ และตัวช้ีวดั )Indicator( )Key Word( แกนกลาง (Knowledge) ) K( หรอื ผลการเรยี นรู้ อธิบาย- )Core Content( / )Learning Outcome( อภปิ ราย- สาระการเรยี นรู้ )รู้อะไร( บอก- 6. อธิบายหลกั การทางาน ทาการทดลอง- )Content( -บอกไดว้ ่าประจุไฟฟ้าสามารถ ของอปุ กรณบ์ างชนิดโดยใช้ ถ่ายโอนหรือเคลื่อนทีผ่ า่ นลวด ความรเู้ กยี่ วกบั ไฟฟา้ สถิต การตอ่ ตัวเกบ็ ประจุ - โลหะได้ และการประยกุ ตใ์ ช้ -บอกได้ว่าเม่ือประจไุ ฟฟ้า ไฟฟา้ สถิต เคลอื่ นทีใ่ นตัวนาจะเกิด กระแสไฟฟ้าในตัวนานั้น -บอกได้วา่ กระแสไฟฟ้าเกดิ ข้ึน ในตวั นา เพราะมีความต่างศัก ระหว่างปลายของตวั นา -บอกได้วา่ การนาไฟฟ้าใน ตัวกลางเกดิ จากการเคลอ่ื นท ของประจุไฟฟา้ -ทาการทดลองเพอ่ื ศกึ ษาการ ไฟฟา้ ของวัสดทุ ่ีกาหนดใหไ้ ด้

แผนหลกั เพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 พฤตกิ รรมการการเรียนรู้ ดา้ นทักษะกระบวนการ ด้านสมรรถนะตามหลักสูตร ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Process) )P( (Competencies) )C( (Attribute) ) A( )ทาอะไร( )เกดิ สมรรถนะใด( )เปน็ คนอยา่ งไร( ถ ทาการทดลอง- การส่อื สาร- มีวินัยใฝ่เรียนรู้- ด อภิปราย- การคิด- มงุ่ มัน่ ในการทางาน- อธิบาย- การแกป้ ญั หา- ซ่ือสัตยส์ ุจริต- มจี ิตสาธารณะ- น กย์ ที่ รนา

แผนหลกั เพอ่ื การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 มาตรฐาน )Standard( คาสาคญั สาระการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ และตวั ชีว้ ดั )Indicator( )Key Word( แกนกลาง (Knowledge) ) K( หรือผลการเรียนรู้ )Core Content( / )รู้อะไร( )Learning Outcome( สาระการเรยี นรู้ )Content( 6. อธบิ ายหลักการทางาน อธิบาย- การตอ่ ตวั เกบ็ ประจุ - -บอกไดว้ า่ ประจไุ ฟฟา้ สามารถ ของอปุ กรณ์บางชนดิ โดยใช้ และการประยกุ ต์ใช้ ถ่ายโอนหรอื เคลอ่ื นทีผ่ ่านลวด ความรเู้ กย่ี วกบั ไฟฟา้ สถิต อภปิ ราย- ไฟฟ้าสถติ โลหะได้ บอก- -บอกได้วา่ เม่ือประจไุ ฟฟา้ ทาการทดลอง- เคลื่อนท่ีในตวั นาจะเกิด กระแสไฟฟา้ ในตัวนาน้ัน -บอกได้วา่ กระแสไฟฟ้าเกดิ ขึ้น ในตวั นา เพราะมีความต่างศัก ระหว่างปลายของตวั นา -บอกได้ว่าการนาไฟฟา้ ใน ตัวกลางเกดิ จากการเคลือ่ นท ของประจไุ ฟฟ้า -ทาการทดลองเพื่อศึกษาการ ไฟฟ้าของวัสดทุ ่ีกาหนดใหไ้ ด้ แผนหลกั เพอื่ การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4

พฤติกรรมการการเรียนรู้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ด้านสมรรถนะตามหลกั สตู ร ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attribute) ) A( (Process) )P( (Competencies) )C( )เปน็ คนอยา่ งไร( )ทาอะไร( )เกิดสมรรถนะใด( ถ ทาการทดลอง- การส่อื สาร- มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้- ด อภิปราย- การคดิ - มุ่งม่ันในการทางาน- อธบิ าย- การแก้ปญั หา- ซ่อื สตั ย์สุจรติ - มีจติ สาธารณะ- น กย์ ท่ี รนา

มาตรฐาน )Standard( คาสาคัญ สาระการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ และตัวชว้ี ัด )Indicator( )Key Word( แกนกลาง (Knowledge) ) K( หรอื ผลการเรียนรู้ อธิบาย- )Core Content( / )Learning Outcome( อภิปราย- สาระการเรียนรู้ )รู้อะไร( บอก- 7. อธิบายการเกิด ทาการทดลอง- )Content( -บอกไดว้ ่าประจุไฟฟา้ สามารถ กระแสไฟฟา้ ในตัวกลางและ ถ่ายโอนหรือเคล่ือนทผ่ี ่านลวด วเิ คราะห์หากระแสไฟฟา้ ใน -กระแสไฟฟ้าและการ โลหะได้ ลวดตัวนาโลหะ นาไฟฟา้ ในตวั กลาง - บอกได้ว่าเมือ่ ประจุไฟฟ้า เคล่อื นทีใ่ นตวั นาจะเกิด กระแสไฟฟา้ ในตัวนานั้น - บอกไดว้ า่ กระแสไฟฟ้าเกดิ ข ในตัวนา เพราะมคี วามต่างศกั ระหวา่ งปลายของตัวนา -บอกได้วา่ การนาไฟฟา้ ใน ตัวกลางเกดิ จากการเคล่อื นท ของประจไุ ฟฟ้า -ทาการทดลองเพื่อศึกษาการ ไฟฟ้าของวัสดทุ ่ีกาหนดให้ได้

แผนหลักเพอ่ื การจัดการเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พม่ิ เตมิ 4 พฤตกิ รรมการการเรยี นรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านสมรรถนะตามหลกั สูตร ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Process) )P( (Competencies) )C( (Attribute) ) A( )ทาอะไร( )เกิดสมรรถนะใด( )เปน็ คนอยา่ งไร( ถ ทาการทดลอง- การสอื่ สาร- มวี นิ ัยใฝเ่ รยี นรู้- ด อภปิ ราย- การคิด- มุ่งมน่ั ในการทางาน- อธิบาย- การแก้ปญั หา- ซอื่ สัตยส์ จุ ริต- มีจติ สาธารณะ- ขน้ึ กย์ ท่ี รนา

แผนหลักเพอื่ การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 4 มาตรฐาน )Standard( คาสาคัญ สาระการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ และตวั ชี้วดั )Indicator( )Key Word( แกนกลาง (Knowledge) ) K( หรอื ผลการเรียนรู้ )Core Content( / )รูอ้ ะไร( )Learning Outcome( สาระการเรยี นรู้ )Content( 7. อธบิ ายการเกดิ อธิบาย- -กระแสไฟฟ้าและการ -บอกไดว้ ่าประจุไฟฟา้ สามารถ กระแสไฟฟ้าในตัวกลางและ อภิปราย- นาไฟฟา้ ในตัวกลาง ถ่ายโอนหรอื เคลอื่ นท่ีผ่านลวด วเิ คราะห์หากระแสไฟฟ้าใน บอก- - กระแสไฟฟ้าในตัวนา โลหะได้ ลวดตวั นาโลหะ ทาการทดลอง- ไฟฟ้า - บอกไดว้ ่าเมือ่ ประจุไฟฟา้ เคล่ือนที่ในตวั นาจะเกิด กระแสไฟฟา้ ในตัวนาน้ัน - บอกไดว้ ่ากระแสไฟฟ้าเกดิ ข ในตวั นา เพราะมคี วามต่างศกั ระหวา่ งปลายของตวั นา -บอกไดว้ า่ การนาไฟฟา้ ใน ตัวกลางเกิดจากการเคลอ่ื นท ของประจุไฟฟา้ -ทาการทดลองเพอื่ ศกึ ษาการ ไฟฟา้ ของวสั ดุท่ีกาหนดให้ได้ -บอกไดว้ ่าปรมิ าณกระแสไฟฟ ในตัวกลางใดๆ หาได้จาก ปรมิ าณประจไุ ฟฟา้ ทเ่ี คลื่อนท ผา่ นภาคตัดขวางของตัวกลาง ในหนึ่งหน่วยเวลา -บอกไดว้ ่ากระแสไฟฟ้าใน ตวั กลางใดๆ มที ศิ ทางจากจุด ศกั ย์ไฟฟ้าสูงไปยงั จุดท่ีมี ศักยไ์ ฟฟา้ ตา่ กว่า และอย่ใู น ทิศทางเดยี วกบั สนามไฟฟ้า แผนหลักเพอื่ การจดั การเรยี นรู ้ ฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ - 4บอกความสัมพันธร์ ะหวา่ ง กระแสไฟฟา้ จานวนประจุไฟ ขนาดของความเร็วลอยเลอื่ น และพ้นื ท่ีตัดขวางของตัวนา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook