Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือ-สุนทรธรรม-ฉ่ำหวาน-เสนาะโสต-อนุสรณ์นิพพานสมัย

หนังสือ-สุนทรธรรม-ฉ่ำหวาน-เสนาะโสต-อนุสรณ์นิพพานสมัย

Published by anon.ots79, 2020-09-13 05:59:28

Description: หนังสือ-สุนทรธรรม-ฉ่ำหวาน-เสนาะโสต-อนุสรณ์นิพพานสมัย

Search

Read the Text Version

“หวั ใจเศรษฐี อุ อา กะ สะ” ๑. อุฏฐานสัมปทา ถึงพร้ อมด้วยความหม่ัน เช่นขยันหม่ันเพียร เลีย้ งชีพด้วยการหมั่น ประกอบการงาน เป็ นผู้ขยนั ไม่เกียจคร้ านในการงานนนั้ ประกอบด้วยปัญญาเคร่ืองสอดส่อง อนั เป็ น อบุ ายในการงานนนั้ ให้สามารถทําได้สําเร็จ ๒. อารักขสมั ปทา ถึงพร้อมด้วยการรักษาโภคทรัพย์ (ท่ีหามาได้ด้วยความขยนั หมนั่ เพียร โดย ชอบธรรม) เขารักษาค้มุ ครองโภคทรัพย์เหลา่ นนั้ ไว้ได้พร้อมมลู ไมใ่ ห้ถกู ลกั หรือทําลายไปโดยภยั ตา่ งๆ ๓. กลั ยาณมิตร คบคนดี ไม่คบคบชวั่ อย่อู าศยั ในบ้านหรือนิคมใด ยอ่ มดํารงตน เจรจา สนทนา กบั บคุ คลในบ้านหรือนคิ มนนั้ ซึ่งเป็นผ้มู ีสมาจารบริสทุ ธิ์ ผ้ถู ึงพร้อมด้วยศรัทธา ศลี จาคะ ปัญญา ๔. สมชีวิตา อยู่อย่างพอเพียง รู้ทางเจริญทรัพย์และทางเสื่อมแห่งโภคทรัพย์ แล้วเลีย้ งชีพ พอเหมาะ ไมใ่ ห้สรุ ุ่ยสรุ ่ายฟมู ฟายนกั ไมใ่ ห้ฝื ดเคอื งนกั ด้วยคดิ วา่ รายได้ของเราจกั ต้องเหนือรายจา่ ย และ รายจา่ ยของเราจกั ต้องไมเ่ หนือรายได้ \\ ๔๔

“ครองผ้าบิณฑบาต” สบงวาต(สบงอานุวาท/สบงอาศยั ) และสบงตา(สบงขนั ธ์/สบงผ้าครอง)ซ้อนใส่กันให้เรียบร้อย ให้เสมอ น่งุ ให้ดีข้างบนปิ ดสะดือข้างล่างครึ่งแข้งม้วนบวบรัดประคตให้เรียบร้อย ครองผ้าองั สะ ส่วนผ้า จีวรและสงั ฆาฏิซ้อนเข้าด้วยกนั ทําให้เรียบร้อยทําให้เสมอ หม่ เป็ นปริมณฑล (ห่มคลมุ ) กลดั รังดมุ ต้นคอ รังดมุ ล่างให้ดี ม้วนให้กระชบั ครองสายบาตรเข้าด้านในสอดส่ยบาตรเข้าหวั ไหล่ขวาระวงั อย่าให้หลดุ เอาบาตรออกนอกจีวรทงั้ ใบ ถ้าฝนไมต่ กให้ซ้อนผ้าสงั ฆาฏิทกุ ครัง้ ถ้าฝนตกอนโุ ลมไมต่ ้ องซ้อน กลบั ถึงวดั เปลี่ยนผ้าจีวรที่ครองไปบิณฑบาตออกตากผ้าให้เรียบร้ อยแล้วพับเก็บ ครองผ้าจีวรอาศัยเสร็จดีแล้ว จงึ ขนึ ้ หอฉนั “พระราชศรัทธา” องค์หลวงป่ รู ับฉลองพระราชศรัทธาสถาบนั พระมหากษัตริย์ในโอกาสตา่ ง ๆ ดงั นี ้ ๑.รับพระราชทานสญั ญาบตั รพดั ยศ เป็ นพระครูสญั ญาบตั รเจ้าอาวาสวดั ราษฎร์ ในราชทินนาม ”พระครูสนุ ทรศีลขนั ธ์” ปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๑ ๒.รับพระราชทานสญั ญาบตั รพดั ยศเป็ นพระครูสญั ญาบตั รเจ้าคณะตําบล ในราชทินนามเดิม พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๑ ๔๕

๓.เข้าเฝ้ าสมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง สมเด็จพระ บรมราชินีในรัชกาลท่ี ๙ เพื่อรับพระราชทานไทยธรรมพระราชทาน ณ บ้านน้อมเกล้า อําเภอเลิงนกทา จงั หวดั ยโสธร พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๘ ๔. รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจกั รสาขาการเผยแพร่พระพทุ ธศาสนา สมเด็จพระกนิษฐาธิราช เจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๐ ๕. รับกฐิ นประประทาน จาก สมเด็จพระสังฆราชเจ้ า กรมหลวงวชิรญาณสังวร พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๕ ๖. รับผ้าพระกฐินพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ ๗. ร่วมพิธีถวายพระเพิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร สว่ นราชการอําเภอเลงิ นกทาจงั หวดั ยโสธร พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ ๘.รับไทยธรรมพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ วั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ ๙.รับพระราชทานนํา้ หลวงสรงสรีระสังขาร พระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดศี รีสินทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ วั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ๑๐.รับพระราชทานเพลิงสรีระสงั ขาร พระราชทานจาก พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ วั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๔ ๔๖

“ฉลองศรัทธา” คณะศษิ ย์ยานศุ ษิ ย์ทงั้ บรรพชิตและคฤหสั ถ์ท่ีมาร่วมทําบญุ กบั หลวงป่ ู วตั ถทุ านน้อยใหญ่หลวงป่ ู ฉลองศรัทธาอย่างเต็มกําลัง ของเล็กๆตงั้ แต่ไม้เจียสีฟันเม่ือนํามาถวายหลวงป่ ูใช้ให้ผู้ถวายเห็นทนั ที ผ้าจีวรและย่ามขนาดชนิดสีต่างๆหลวงป่ พู ินทุอธิฐานใช้ให้ทนั ที บางครัง้ สละผ้าจีวรผืนเดิมออกให้โยม กลบั ไปเป็นท่ีระลกึ ด้วย ภตั ตาหารมากมายหลากหลายชนิดพิจารณาลงบาตรทงั้ นนั้ อย่างละเล็กละน้อย รถยนต์รถนงั่ ชนิดต่างๆรับไว้เปล่ียนใช้ฉลองศรัทธา กฎุ ิน้อยใหญ่ท่ีสร้างถวายเป็ นประธานสงฆ์รับถวาย โดยตลอด คลิ านะเภสชั หลายขนานฉนั ใช้ฉลองศรัทธาตลอดมา และให้ศีลให้พรวา่ ”เป็นสขุ เป็นสขุ ” ๔๗

“หลวงป่ ูดี ฉันโน” หลวงป่ ดู ี เป็นพระมหาเถระท่ีชาวบ้านกดุ แหเ่ คารพนบั ถือมาก เป็ นพระอปุ ัฏฐากของหลวงป่ เู สาร์ กนั ตสีโล เป็นพระธรรมกถึกและพระกรรมฐานท่ีมีชื่อเสียง มีลกู ศษิ ย์ติดตามมาก รับหน้าที่เผยแพร่วงธรรมยตุ ในเขตจงั หวดั ขอนแก่น ตงั้ แตห่ ลวงป่ สู งิ ห์ทองเป็นฆราวาสก็ให้ความเคารพนบั ถือหลวงป่ ดู ี ฉนั โน ครัง้ หลวงป่ สู ิงห์ทองอายุ ๑๙ ปี ได้บวชเป็ นสามเณรท่ีวดั สําราญนิเวศน์ จงั หวดั อํานาจเจริญ และกลบั มาจําพรรษากบั ท่ีวดั บ้านกดุ แหห่ นึง่ พรรษา จึงลาสิกขาไปชว่ ยครอบครัวประกอบอาชีพทํานา กระทงั่ หลวงป่ สู ิงห์ทองอายุ ๒๖ ปี จึงได้อปุ สมบทเป็ นพระภิกษุ สงฆ์ ณ พัทธสีมาศาลาการเปรียญหลังใหญ่วัดบ้านกุดแห่ ในพิธีอุปสมบทนัน้ หลวงป่ ูดี ฉันโน เป็ นพระ กรรมวาจาจารย์ด้วย หลวงป่ สู ิงห์ทองได้อย่รู ่วมจําพรรษากบั หลวงป่ ดู ี ฉันโน ศกึ ษาพระธรรมวินยั ข้อวตั รตา่ งๆๆๆ พระไตรสรณคมน์พระกรรมฐานและคาถาอาคม ร่วมกันสร้างและพฒั นาเสนาสนะทงั้ บ้านกดุ แห่และวดั ภูถํา้ พระ หลวงป่ ูสิงห์ทองได้ มีโอกาสถวายการอุปั ฏฐากและรับใช้ ใกล้ ชิดมีความสนิทสนมและให้ ความเคารพ หลวงป่ ูดี ฉันโน เทิดทูนพระคุณครูบาอาจารย์โดยตลอด เมื่อปี ๒๕๐๒ ร่วมกันสร้ างฐานพระวัดภูถํา้ พระ หลวงป่ ดู ี ฉนั โนอาพาธเดนิ ทางไปรักษาตวั ในจงั หวดั อบุ ลราชธานีได้มอบหมายภาระงานให้หลวงป่ สู ิงห์ทองดําเนิน พลงั งานการพระศาสนาตอ่ จากองคห์ ลวงป่ ดู ี ฉนั โน โดยหลวงป่ สู ิงห์ทองได้เดนิ ทางเข้าเย่ียมอาการอาพาธเป็ นครัง้ คราว และหลวงป่ ูดี ฉันโนได้ถึงแก่มรณภาพเม่ือปี ๒๕๐๒ ที่วัดป่ าแสนสําราญ อําเภอวารินชําราบจังหวัด อุบลราชธานี เมื่อบําเพ็ญกุศลถวายอาจริยบูชาสรีระสังขารหลวงป่ ดู ีพร้ อมทัง้ ประชุมเพลิงสรีระสังขารเป็ นที่ ๔๘

เรียบร้อยแล้ว ชาวกดุ แหไ่ ด้รับมอบอฐั ิและร่วมใจกนั สร้างธาตเุ จดยี ์ท่ีลานหินวดั ภูถํา้ พระหลวงป่ สู ิงห์ทองนําสาธุชน สรงนํา้ ในเทศกาลสงกรานต์เป็ นประจําทกุ ปี มีการเชิญรูปหลอ่ หลวงป่ ดู ี ฉันโน ท่ีประดิษฐานบนศาลาการเปรียญ หลงั ใหญ่บ้านกดุ แหอ่ อกร่วมในการตกั บาตรเทโวเทศกาลออกพรรษาเป็ นประจําทกุ ปี แม้หลวงป่ ดู ี ฉนั โนจะถึงแก่ มรณภาพแล้วแต่หลวงป่ สู ิงห์ทองยงั ถวายการอุปัฏฐากเสมือนหนึ่งองค์หลวงป่ ดู ียงั คงธาตขุ นั ธ์อยู่ มีการลาดปู อาสนะรองนงั่ จดั เตยี งจําวตั ร ถวายนํา้ ร้อนนํา้ ชา ถวายหมากพลบู หุ รี่ ถวายภตั ตาหาร เป็ นต้น หลวงป่ สู ิงห์ทองพก รูปกระเบอื ้ งลงหินเป็นรูปหลวงป่ ดู ีตดิ ยา่ มเสมอ เตียงจําวดั ของหลวงป่ สู ิงห์ทองจะมีรูปถ่ายของหลวงป่ ดู ีและหลวง ป่ กู งแก้ว ทา่ นจะกราบรําลกึ บญุ คณุ กอ่ นจําวดั เป็ นภาพท่ีคณะศษิ ย์เห็นชินตา ธาตเุ จดีย์หลวงป่ ดู ีที่ลานหินวดั ภถู ํา้ พระถกู ฟ้ าผ่าชํารุดไม่ได้รับการบรู ณะแม้ในปัจจบุ นั ก็ยงั มีซากปรักหกั พงั ให้เห็นอยู่ หลวงป่ สู ิงห์ทองจงึ เชิญอฐั ิธาตุ มาประดษิ ฐานในเจดยี ์วดั ป่ านาโพธิ์อา่ งสร้างหินให้คณะศิษย์ได้สกั การะจนถงึ ปัจจบุ นั ๔๙

“ญาท่านลือบ้านนาทาม” หลวงป่ ลู ือเป็นพระมหาเถระที่องคห์ ลวงป่ สู งิ ห์ทองให้ความเคารพอีกรูปหนง่ึ โดยหลวงป่ สู ิงห์ทอง ไปมาหาสถู่ ามขา่ วสารทกุ ข์สขุ ดิบพ่อแม่ครูบาอาจารย์เป็ นประจําจนทา่ นละสงั ขาร ในอดีตหลวงป่ ลู ือเคย เมตตาอย่จู ําพรรษาที่บ้านกุดแห่ ซ่งึ ในยุคนนั้ ท่านเป็ นพระมหาเถระที่มีชื่อเสียงมากมีคณะศิษยานศุ ิษย์ ตดิ ตามมาก หลวงป่ ลู ือมาจําพรรษาที่บ้านกดุ แหล่ กู ศษิ ย์บ้านกดุ แหต่ ้องต้มนํา้ สรงสองชดุ ชดุ แรกนนั้ หลวง ป่ สู ิงห์ทองนําพาลกู ศษิ ย์สรงนํา้ หลวงป่ ลู ือ เสร็จเรียบร้อยจงึ สรงนํา้ หลวงป่ สู ิงห์ทอง มีญาติโยมมานิมนต์ไป ให้กําลงั ใจมาก นงั่ รถสามล้อเครื่องไปบ้าง นงั่ รถสองแถวไปบ้าง ตามกําลงั ของเจ้าภาพ หลวงป่ ลู ือเป็ น ผ้ใู ห้อุบายประกอบพิธีไลผ่ ีปราบผี หลวงป่ สู ิงห์ทองเป็ นผ้ใู ห้ไตรสรณคมน์และแสดงทํามาเทศนาสงั่ สอน หลวงป่ ลู ือหงุ ปรอดที่วดั บ้านกดุ แหจ่ ํานวนหนึ่ง ทา่ นชบุ ปรอดเข้าธาตตุ วั เอง(กลืนฉนั เข้าไป) เม่ือถ่ายหนกั ออกมา(อุจจาระ)จึงให้ญาติโยมค้นหานํามาทําความสะอาดแจกเป็ นวัตถุมงคล ปรอดหลวงป่ ลู ือชุดนี ้ หลวงป่ สู ิงห์ทองพกติดประคดเอวตลอดเพ่ือดดู พิษกนั พิษไข้ในช่วงปี หลงั หลงั มีลูกศิษย์ขอทา่ นจึงเมตตา ให้ไป สว่ นของพระครูแพงศรีเก็บใว้หายหมด หลวงป่ ลู ือยงั เมตตาปัจจยั จํานวนหนึ่งล้านบาทซึง่ ถือว่ามาก ในสมยั นนั้ ร่วมบญุ สร้างอโุ บสถวดั ป่ าสนุ ทรารามบ้านกดุ แหอ่ ีกด้วย(ข้อมลู จากพระครูสิริฐิตญาณ//แพงศรี) ๕๐

“หลวงป่ ูกงแก้วบ้านหนองสูง” หลวงป่ กู งแก้ว ขนั ตโิ ก เป็นพระมหาเถระที่มีคณุ ูปการะตอ่ หลวงป่ สู ิงห์ทองมาก เป็ นผ้ปู รงผมและ สอนทอ่ งอขั ระในการขานนาคให้หลวงป่ สู ิงห์ทองเม่ือบวชเป็ นผ้าขาว ทงั้ ยงั เป็ นผ้คู วบคมุ ดแู ลการก่อสร้าง ศาลาการเปรียญหลงั ใหญ่ของวดั บ้านกดุ แห่ ทา่ นเล่ือยไม้สร้างศาลาใหญ่และควบคมุ การทํางานของชา่ ง ก่อสร้ าง ท่านเป็ นเจ้ าอาวาสป่ าสุนทราราม ลําดับท่ี ๕ ระหว่างพุทธศักราช ๒๔๙๗ ถึงพทุ ธศกั ราช ๒๔๙๘ อีกด้วย ๕๑

“หลวงป่ ูหล้าภูจ้อก้อ” หลวงป่ หู ล้าเชื่อมั่นและไว้ใจหลวงป่ สู ิงห์ทองด้านพระวินัยของพระสงฆ์เป็ นอย่างย่ิง เคยเขียน จดหมายขอความอนุเคราะห์ให้หลวงป่ สู ิงห์ทองจดั หาบาตรเหล็กส่งขึน้ ไปถวายท่ีวดั ภูจ้อก้อ เมื่อวดั ภูจ้อ ก้อมีพธิ ีอปุ สมบทหลวงป่ หู ล้าจะนิมนต์หลวงป่ สู ิงห์ทองบ้านกดุ แหเ่ ป็ นพระอปุ ัชฌาย์เสมอ เมื่อพระสงฆ์วดั ภูจ้อก้อจะเข้าปริวาสกรรมหลวงป่ ูหล้าจะให้พระสงฆ์รูปนัน้ มาเข้าปริวาสกรรมท่ีวัดป่ าสุนทราราม โดยขอให้หลวงป่ สู งิ ห์ทองอนเุ คราะห์ตามสมควร ๕๒

“หลวงป่ ูสมภาร” หลวงป่ สู มภาร ปัญญาวโร และหลวงป่ ูสิงห์ทอง ปภากโร เคารพนับถือในคุณธรรมซ่ึงกันและกันมาก หลวงป่ สู มภารเกิดวนั ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๔๖๗ หลวงป่ สู ิงห์ทองเกิดวนั ที่ ๑๘ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๔๖๘ หลวงป่ สู มภารจึง อายมุ ากกวา่ หลวงป่ สู ิงห์ทองประมาณหกเดือน หลวงป่ สู มภารอปุ สมบทอายุ ๒๑ ปี หลวงป่ สู ิงห์ทองอปุ สมบทเม่ือ อายุ ๒๖ ปี หลวงป่ สู มภารจะมีพรรษามากกว่าหลวงป่ สู ิงห์ทอง ๕ พรรษา แตพ่ ระมหาเถระทงั้ สองรูปเคารพใน คณุ ธรรมซ่ึงกนั มากเป็ นผ้รู ู้รัตตญั ญยู ึดมนั่ ในพระธรรมวินยั เป็ นแบบอย่างให้คณะศษิ ย์สยานศุ ิษย์ ทา่ นพบกนั ครัง้ แรกในงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงป่ ตู ามหาบวั ที่วัดป่ าบ้านตาด แต่ในงานนนั้ ยงั ไม่ได้สนทนากัน จนกระทงั่ ปี พุทธศกั ราช ๒๕๕๕ งานถวายเพลิงสรีระสงั ขารหลวงป่ เู นย สมจิตโต วดั ป่ าโนนแสนคํา บ.ทุ่งคํา ต.เจริญศิลป์ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ซ่ึงในพิธีนนั้ หลวงป่ ทู งั้ สองน่งั อย่ทู ่ีนง่ั รับรองสงฆ์ติดกันและได้มีโอกาส สนทนากนั ในระยะเวลาหน่ึง หลงั จากนนั้ มาทา่ นก็ติดตอ่ ไปมาหาสถู่ ามขา่ วคราวกันเสมอ ในงานอายวุ ฒั นมงคล ของหลวงป่ ทู งั้ สองทา่ นก็ร่วมมทุ ิตาสกั การะซึง่ กนั และกนั ตลอดโดยเสมอมา ประมาณปี ๒๕๕๖ มีโยมจากจงั หวดั อดุ รธานีศรัทธาได้ถวายรถยนตใ์ ห้หลวงป่ สู งิ ห์ทองทา่ นเมตตาใช้รถยนต์คนั นีใ้ นการเดินทางไปปฏิบตั ศิ าสนกิจและ เดนิ ทางไปโรงพยาบาลโดยตลอด ในปี ๒๕๖๐ ช่วงเดือนกมุ ภาพนั ธ์ในงานฉลองเจดีย์วดั บ้านกดุ แห่ได้มีโยมถวาย รถยนต์(รถเบนซ์)แดอ่ งค์หลวงป่ สู ิงห์ทอง เมื่อถึงเดือนสิงหาคมหลวงป่ สู ิงห์ทองได้ไปร่วมงานอายวุ ฒั นมงคลหลวง ป่ สู มภารที่บงึ กาฬ จงึ ได้น้อมถวายรถยนต์คนั เดมิ ที่ได้รับถวายจากจงั หวดั อดุ รธานีเป็นมหาเถระบชู าแดอ่ งค์หลวงป่ ู สมภาร โดยองค์หลวงป่ สู ิงห์ทองก้มกราบองค์หลวงป่ สู มภารน้อมถวายกญุ แจรถยนต์คนั ดงั กลา่ วและกลา่ วคําวา่ ” ขอน้อมถวาย”หลวงป่ สู มภารยงั ได้แสดงความห่วงใยหลวงป่ สู ิงห์ทองเรื่องความมีนํา้ ใจขององค์หลวงป่ สู ิงห์ทอง ญาตโิ ยมถวายอะไรหลวงป่ สู ิงห์ทองถวายตอ่ ให้แก่คณะสงฆ์ทงั้ สิน้ เกรงหลวงป่ สู ิงห์ทองจะไม่มีใช้จะลําบาก ความ ผกู พนั ของหลวงป่ ทู งั้ สองเป็นท่ีประจกั ษ์ชดั แก่คณะศษิ ย์ถ้าองคท์ า่ นทงั้ สองแขง็ แรงก็เดนิ ทางไปมาหาส่กู นั เสมอ ถ้า เดนิ ทางไมไ่ หวลกู ศษิ ย์ก็ให้หลวงป่ ทู งั้ สองสนทนากนั ผ่านแอพพลิเคชนั่ LINE ในวนั ที่หลวงป่ สู ิงห์ทองอาพาธหลวง ป่ สู มภารก็เดนิ ทางมาเยี่ยมอาการอาพาธที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์สมํ่าเสมอ กระทง่ั อาพาธหนกั ละสงั ขารสแู่ ดน ๕๓

นิพพานหลวงป่ สู มภารก็อยู่เคียงข้างองค์หลวงป่ สู ิงห์ทองเสมอ ทงั้ ยงั ให้เมตตาให้เถระวินิจฉัยในการดแู ลรักษา อาการอาพาธหนกั การละสงั ขาร การเคล่ือนสรีระสงั ขารกลบั วดั กุดแห่ การถวายสรงนํา้ สรีระสงั ขาร เป็ นหลกั ใจ หลกั ชยั ให้แกค่ ณะศษิ ย์เสมอมา “หลวงป่ ูสงิ ห์ทองทาวัตรคารวะ” ในช่วงเข้าพรรษาหลวงป่ สู ิงห์ทองนําคณะศิษย์ยานศุ ิษย์ทําวัตรคารวะพระมหาเถระในอาราม ตา่ ง ๆ ดงั นี ้ ๑. หลวงป่ หู ล้า เขมปัตโต วดั ภจู ้อก้อ ๒. หลวงป่ กู งแก้ว ขนั ตโิ ก วดั ป่ ากลางสนาม หนองสงู ๓. หลวงป่ จู าม มหาปญุ โญ วดั บ้านห้วยทราย ๔. .หลวงป่ แู สง ญาณวโร ๕. หลวงป่ บู ญุ มี ปริปณุ ฺโณ ๖. หลวงป่ ปู ระสาร สมุ โน วดั ป่ าหนองไคร้ ๗. หลวงป่ ลู ือ สขุ ปญุ โญ วดั บ้านนาทาม ๘. หลวงป่ ลู ้วน จนั ทสาโร วดั ศรีมงคลเหนือ ๙. หลวงป่ เู จ้าคณุ สถิต(พระสทุ ธิสารมนุ ี)วดั สําราญนิเวศ หมายเหตุ // ไมเ่ รียงสมณศกั ดิ์ ไมไ่ ด้เรียงพรรษา เรียบเรียงโดยสงั เขปประมาณนี ้อาจตกหลน่ บ้าง ต้องขออภยั ครับ ๕๔

“เดนิ จงกรม” บอ่ ยครัง้ ท่ีคณะศษิ ย์เข้ากราบนมสั การองค์หลวงป่ สู ่งิ ท่ีพบเจอหลวงป่ ทู ําเป็ นประจําไม่เคยขาดอีก อยา่ งหนงึ่ คอื “การเดนิ จงกรม” ตงั้ แตแ่ รกบวชถึงวยั ชราภาพท่านทําเป็ นแบบอย่างสม่ําเสมอ เมื่อธาตขุ นั ธ์ แขง็ แรงทา่ นเดนิ เองได้ เมื่อธาตขุ นั ธ์ออ่ นแรงทา่ นให้ลกู ศษิ ย์ประคองเดนิ เม่ือชราภาพมากไม่สามารถเดิน เองได้ให้ลกู ศษิ ย์เข็นรถไปกลบั องค์ท่านบริกรรมภาวนา กฎุ ิองค์ท่านและสถานที่พกั ผ่อนขององค์ทา่ นจึง สร้างทางจงกรมควบคเู่ สมอ องค์หลวงป่ เู มตตากลา่ วถึงอานิสงส์ของการเดนิ จงกรม ๕ ประการ ดงั นี ้ ๑. ทําให้เป็นผ้เู ดนิ ทางไกลได้ทน ๒. ทําให้เป็นผ้ทู ําความเพียรได้ทน ๓. ทําให้เป็นผ้มู ีความไข้เจบ็ น้อย ๔. ทําให้ฉนั ภตั ตาหารได้ดี ยอ่ ยภตั ตาหารได้ดี ๕. ทําให้มีสมาธิในขณะเดนิ จงกรมตงั้ แนว่ แนอ่ ยไู่ ด้นาน ๕๕

“อานิสงส์การจาพรรษาและรับผ้ากฐิน” ลกู ศษิ ย์ : ขอโอกาสกระผม ข้อสอบนกั ธรรมปี นีอ้ อกอานิสงส์การจําพรรษากระผม หลวงป่ ู : ทําได้ไหมละ่ อานิสงส์การจําพรรษามีดงั นี ้ ๑. ไปไหนไมต่ ้องบอกลา ๒. ถือผ้าไมต่ ้องครบสามผืน ๓. ฉนั คณะโภชน์และปรัมปรโภชน์ได้ ๔. เก็บอตเิ รกจีวรได้ตามปรารถนา ๕. ลาภสกั การะวตั ถทุ านอนั เกิดขนึ ้ ในที่นนั้ เป็นของสงฆ์ ข้ออนโุ ลมในพระวินยั ท่ีกล่าวมานีจ้ ะสิน้ สดุ ลงในวนั ลอยกระทง เม่ือพระสงฆ์รับกฐิน ทํา กฐินตั ถารกิจให้สมบรู ณ์ตามพระวินยั มี อปั โลกนกรรม สวดญตั ิมอบผ้า กรานผ้า ซกั ตดั เย็บย้อม ผ้าให้เสร็จภายในวนั เดียว สวดญตั ิมอบผ้ากฐิน องค์ครองผ้ากฐินสละผ้าครองผืนเดิมออก พินทุ อธิฐานผ้ากฐินที่ตดั แล้วได้รับมอบแล้วเป็ นผ้าครอง พระสงฆ์ที่อย่รู ่วมจําพรรษาในวดั อนโุ มทนา ผ้ากฐินจึงจะได้รับอานิสงส์ของผ้ากฐิน อานิสงส์กฐินสงั ฆกรรมมีห้าข้อเช่นเดียวกนั กบั อานิสงส์ การจําพรรษา แตจ่ ะขยายเวลาสามารถปฏิบตั ิได้ออกไปอีกยาวนานถึงวนั เพ็ญกลางเดือนสี่ แม้ องค์ครองผ้ากฐินจะลาสกิ ขาหรือมรณภาพ องค์อนโุ มทนาผ้ากฐินก็ยงั ได้อนสิ งคก์ ารรับผ้ากฐินอยู่ พระวดั บ้านกดุ แหเ่ ราให้ทราบอานสิ งส์เข้าพรรษาและการรับผ้ากฐินที่พระจะได้รับนะ แต่ กระผมไม่ให้ปฏิบตั ิตามอานิสงส์นนั้ ให้ปฎิบตั ิตามข้อวัตรกรรมฐาน มีบิณฑบาต ฉันเอกาหน เดยี ว ฉนั ในบาตร ไปไหนมาไหนก็ให้บอกลา เป็นต้นดงั เดมิ ๕๖

“รู้รัตตัญญ”ู คําว่า รัตตญั ญู แปลว่า ผู้รู้ราตรีนาน หรือผ้รู ู้จกั วนั คืนท่ีผ่านมายาวนาน ใช้ได้ทงั้ ในวัด และในบ้านเมืองในวดั รัตตญั ญู ใช้เป็ นคํายกย่องพระเถระผ้มู ีอาวุโส แสดงว่า นอกจากมีอายุ มาก ยังเป็ นพระผู้ใหญ่ บวชมานาน มีประสบการณ์มาก ในสมัยพุทธกาล พระอัญญาโกณ ฑญั ญะ ได้รับยกย่องว่า เป็ นเอตทคั คะ ในทางรัตตญั ญู เนื่องจากท่านเป็ นพระสงฆ์ที่พระพุทธ องค์ทรงบวชให้ เป็นสาวกองค์แรกในพระพทุ ธศาสนา ในครัง้ พุทธกาล อุบาสก อุบาสิกา และพระภิกษุทัง้ หลายก็มีอายุยืนกันมาก เช่น นางวิสาขามหาอบุ าสิกา อายุ ๑๒๐ ปี พระอานนท์ พระมหากสั สปะ อายุ ๑๒๐ ปี พระอนรุ ุทธะ อายุ ๑๕๐ ปี พระพกั กลุ เถระอายู ๑๖๐ ปี ซ่ึงนบั ว่าเป็ นผ้ทู ี่มีอายยุ ืนที่สดุ ในสมยั นนั้ พระพทุ ธเจ้า ทรงยกยอ่ งทา่ นวา่ ให้เป็นเอตทคั คะในทางเป็นผ้มู ีอาพาธน้อย ในชีวิตของทา่ นไมเ่ คยป่ วย และไม่ เคยฉนั ยาแม้แตเ่ ม็ดเดียว ในยคุ ปัจจบุ นั เราจะพบว่ากล่มุ คนท่ีมีอายยุ ืนในเมืองไทย ที่พบมากคือ พระภิกษุสายวดั ป่ าทางอีสาน พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านจะมีอายุยืนมาก ยกตวั อย่างเช่น หลวงป่ แู หวน อายุ ๙๘ ปี หลวงป่ ูเหรี ยญ อายุ ๙๕ ปี หลวงป่ ูดูลย์ อายุ ๙๕ ปี หลวงตามหาบัว อายุ ๙๖ ปี ส ม เ ด็ จ พ ร ะ สัง ฆ ร า ช เ จ้ า ก ร ม ห ล ว ง ว ชิ ร ญ า ณ สัง ว ร พ ร ะ ช น ม า ยุ ๙ ๖ พ ร ร ษ า หลวงป่ ูบุญฤทธิ์ ปัณฑิโต อายุ ๑๐๔ ปี หลวงป่ ูจาม บ้านห้วยทราย อายุ ๑๐๒ ปี หลวงป่ สู ิงห์ทอง ปภากโร บ้านกดุ แห่ อายุ ๙๕ ปี ที่เชียงใหม่ หลวงป่ ทู อง อายุ ๙๖ ปี ครูบา ม่อนเจ้าดวงดี อายุ ๑๐๓ ปี ครูบาดวงดี สุภัทโท อายุ ๑๐๔ ปี จะเห็นว่าผ้ทู ่ีปฏิบตั ิธรรมทํา สมาธิภาวนาเป็นประจําจะมีอายยุ ืน ๕๗

“ท่านนีห้ รือช่ือสงิ ห์ทอง” หลวงตามหาบวั วดั ป่ าบ้านตาด รับนิมนต์ฉลองเจดีย์เจดีย์ญาณวโร วดั ป่ าอรัญญาวิเวก บ้านไก่คํา อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จงั หวดั อํานาจเจริญ เจดีย์ในองค์หลวงป่ แู สง ญานวโร ใน งานนีอ้ งหลวงตามหาบวั เดนิ ทางมารับผ้าป่ าชว่ ยชาติในยคุ นนั้ หลวงป่ สู ิงห์ทอง ปภากโร ไปร่วม พิธีนีด้ ้วย เม่ือหลวงตามหาบวั มาถึงในพิธี ได้เดนิ เข้ามาหาหลวงป่ สู ิงห์ทอง แล้วถามหลวงป่ สู ิงห์ ทองวา่ “ทํานนั่ หรือช่ือสงิ ห์ทอง เราได้ยนิ ชื่อมานานแล้ว” หมายเหตุ องคห์ ลวงป่ สู งิ ห์ทองวดั บ้านกดุ แหแ่ ละองค์หลวงตามหาบวั วดั ป่ าบ้านตาดเคย พบกันหรือไม่นนั้ ผ้เู ขียนไม่ทราบแน่ชดั ได้ยินจากองค์หลวงป่ สู ิงห์ทองว่าท่านไม่เคยพบกันกับ หลวงตามหาบวั แม้เพียงครัง้ เดียวแตเ่ คยไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพที่วดั ป่ าบ้านตาดและได้ จําวดั ท่ีนน่ั จนเสร็จพธิ ี แตผ่ ้เู ขียนได้รับข้อมลู จากพระลกู ศษิ ย์วา่ หลวงป่ สู งิ ห์ทองและหลวงตามหา บวั เคยพบกนั ท่ีงานฉลองเจดีย์ขององค์หลวงป่ แู สง วดั ไก่คํา ข้อมลู เท็จจริงประการใดต้องขออภยั ณ ที่นี ้และขอแก้ไขให้ถกู ต้องในภายภาคหน้าตอ่ ไป ๕๘

“นิมนต์หลวงป่ ูจาวัด” ลกู ศษิ ย์ : นิมนต์หลวงป่ จู ําวดั พกั ผอ่ นกระผม หลวงป่ จู ําวดั พกั ผอ่ นน้อยเดย๋ี วเหนื่อย เดยี วเพีย เดยี วอาพาธ หลวงป่ ู : ผ้ทู ่ีนอนหลบั พกั ผอ่ นน้อยได้แก่ ๑.บรุ ุษสตรีกระสนั ด้วยกามกิจ ๒.หวั ขโมยประพฤติ โจรกรรม ๓.พระมหากษัตริย์ทรงงานประกอบราชกิจ ๔.สมณผ้ลู ะสงั โยชน์แล้ว สังโยชน์ คือ กิเลสท่ีผูกมัดใจสัตว์, ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์ หรือกิเลสเคร่ืองร้ อยรัดจิตใจให้ จมในวฏั ฏะ มี ๑๐ อยา่ ง คอื ๑. สกั กายทิฏฐิ - มีความเห็นวา่ ร่างกายนีเ้ป็นของเรา มีความยดึ มนั่ ถือมน่ั ในระดบั หนงึ่ ๒. วิจิกิจฉา - มีความสงสยั ในคณุ ของพระรัตนตรัย คือพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ ๓. สีลพั พตปรามาส - ความถือมน่ั ศลี พรต โดยสกั วา่ ทําตามๆ กนั ไปอยา่ งงมงาย เห็นวา่ จะ บริสทุ ธ์ิหลดุ พ้นได้เพียงด้วยศีลและวตั ร หรือนําศีลและพรตไปใช้เพ่ือเหตผุ ลอ่ืน ไมใ่ ชเ่ พ่ือเป็นปัจจยั แก่การ สิน้ กิเลส เชน่ การถือศลี เพื่อเอาไว้ขม่ ไว้ดา่ คนอื่น การถือศีลเพราะอยากได้ลาภสกั การะเป็นต้น ซงึ่ รวมถงึ ความเชื่อถือในพิธีกรรมท่ีงมงายด้วย ๕๙

๔. กามราคะ – มีความตดิ ใจในกามคณุ ๕. ปฏิฆะ – มีความกระทบกระทงั่ ในใจ ๖. รูปราคะ - มีความติดใจในรูปฌาน ๗. อรูปราคะ - มีความตดิ ใจในอรูปฌานหรือความพอใจในนามธรรมทงั้ หลาย ๘. มานะ - มีความยดึ มนั่ ถือมน่ั ในตวั ตนหรือคณุ สมบตั ขิ องตน ๙. อทุ ธจั จะ - มีความฟ้ งุ ซา่ น ๑๐. อวิชชา – มีความไมร่ ู้จริง พระโสดาบนั ละสงั โยชน์ ๓ ข้อต้นได้คือ หมดสกั กายทฏิ ฐิ,วจิ กิ ิจฉาและสีลพั พตปรามาส พระสกทาคามี ทําสงั โยชน์ข้อ ๔ และ ๕ คือ กามราคะและปฏิฆะ ให้เบาบางลงด้วย พระอนาคามี ละสงั โยชน์ ๕ ข้อแรกได้หมด พระอรหนั ต์ ละสงั โยชน์ทงั้ ๑๐ ข้อ ๖๐

“เกดิ และตายด้วยกันหมดทงั้ นัน้ ” ธรรมดาสรรพสัตว์ทงั้ หลาย เกิด ๑๐ ก็ตาย ๑๐ เกิด ๑๐๐ ก็ตาย ๑๐๐ เกิด ๑,๐๐๐ ก็ตาย ๑,๐๐๐ เกิด ๑๐,๐๐๐ ก็ตาย ๑๐,๐๐๐ เกิดและตายด้วยกันหมดทงั้ นนั้ ทานศีลภาวนา ศีลสมาธิปัญญา ทําให้บ่อยๆ ทําให้มากๆ ทําให้เป็ นนิสัย บุญเท่านัน้ แหละเป็ นสมบัติท่ีพ่ึงอนั อุดม ตกนํา้ ไม่ไหลตกไฟไมไ่ หม้ ใครจะมาขโมยเอาไปก็ไม่ได้ หลวงป่ เู องอายุ ๙๐ กว่าปี แล้วก็ยงั ทําบญุ อยู่ เสมอเหมือนกนั “นิพพาน” นิพพาน สภาวะดวงจิต ดบั สนิทสะอาดบริสทุ ธิ์ ปราศจากกิเลสเคร่ืองร้อยรัดไม่หวนกลบั มาใน วฏั สงสารอีกโดยตลอดอนนั ตกาล (บาลี: निब्बाि nibbana นิพฺพาน; สนั สกฤต: निर्ााण nirva a นิรฺวาณ) หมายถึง ความดบั สนิทแห่งกิเลสและกองทกุ ข์ เป็ นสภาพโลกุตระอนั เป็ นจุดม่งุ หมายสงู สดุ ใน ศาสนาพทุ ธ สภาวะนพิ พานมี ๒ ประเภท คือ ๑.สอุปาทิเสสนิพพาน คือ ผู้บรรลุมรรคผลอรหนั ต์แตย่ ังคงขันธ์ ๕ ไว้ คือยงั ทรงชีพอยู่ และยงั ต้องพบกบั ส่งิ ที่เป็นโลกธรรม ๒.อนุปาทิเสสนิพพาน คือ อรหันต์ที่ดํารงชีพจนถึงวันนิพพานและมรณภา พ ขนั ธ์ ๕ ดบั สนทิ แล้ว ๖๑

พระ ผู้ปฏบิ ตั ดิ พี ร้อม ไตรทวาร ครู ผู้ให้ธรรมทาน ผ่องแผ้ว สุนทร ธรรมฉ่าหวาน เสนาะโสต ศีลขันธ์ ม่นั คงแล้ว ส่งให้ สุขเกษม ๖๒