ความต้องการอาหาร ความตอ้ งการพลงั งานและสารอาหาร เพศ : ส่วนใหญเ่ พศชายจะตอ้ งการพลังงานและสารอาหารมากกว่าเพศหญงิ อายุ : ผู้ใหญต่ ้ังแต่อายุ 20 ปีข้ึนไป ต้องการโปรตีนน้อยกวา่ ผูท้ อี่ ยวู่ ัยเดก็ และ วัยรนุ่ สภาพรา่ งกาย : หญิงท่ีมคี รรภ์และหญงิ ใหน้ มบุตรต้องการมากกวา่ คนปกติ กิจกรรมทีท่ าในแต่ละวัน : คนทที่ างานหนัก ใช้แรงงานมาก ต้องการพลังงาน สูงกวา่ คนทท่ี างานเบาๆ สบายๆ ในห้องปรับอากาศ ดงั นน้ั พลงั งานท่ีต้องการจงึ แตกตา่ งกนั ดว้ ย
พลังงานทไ่ี ดจ้ ากสารอาหาร ความตอ้ งการอาหาร ร่างกายได้รบั พลังงานสาหรับทากจิ กรรมต่างๆในชีวติ ประจาวนั จากอาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต โปรตนี และไขมันท่ีกินเขา้ ไป พลังงานในอาหารท่ีวัดได้เปน็ ปริมาณซ่ึงมหี นว่ ยเป็น “ แคลอรี ” (calorie) พลังงานในอาหาร 1 แคลอรี มคี า่ เท่ากับ พลงั งานความร้อนทท่ี าให้นา้ 1 กรัม มอี ุณหภูมิเพิ่มขน้ึ 1 องศาเซลเซียส เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้หาค่าพลงั งานในอาหาร เรยี กว่า “แคลอรมี ิเตอร์”
ความต้องการอาหาร เครอ่ื งมือที่ใชว้ ดั คา่ พลงั งานความรอ้ นจากสารอาหาร เราเรยี กวา่ แคลอรมิ เิ ตอร์ (Calorimeter) แคลอรมิ ิเตอร์ เป็นภาชนะปิดสนิท มีเทอร์มอมิเตอรว์ ดั อุณหภูมิภายใน อาหารจะถูกบรรจุไวใ้ นภาชนะที่มีกา๊ ซ ออกซเิ จนหมุ้ ด้วยถังน้า ใชไ้ ฟฟ้าจุดไฟเผาอาหารและวัดอณุ หภมู ิของน้าที่เพิ่มข้นึ รูป แสดงสว่ นประกอบภายในของบอมบ์แคลอริมเิ ตอร์
ความต้องการอาหาร หน่วยของพลังงานในอาหาร พลังงานในอาหารมกั ระบุหนว่ ยเปน็ “กิโลแคลอรี” ในฉลากอาหารตา่ ง ๆ จะระบุหนว่ ยพลงั งานโดยเขียนเปน็ หลายรปู แบบ เชน่ 210 กโิ ลแคลอรี หรอื 210 C หรอื 210 kcal (ทง้ั C และ kcal แทนหน่วย กิโลแคลอรี) 1 กโิ ลแคลอรี = 1,000 แคลอรี 1 แคลอรี = 4.2 จลู (Joule , J)
ความต้องการอาหาร ความหมายของปรมิ าณความรอ้ น 1 แคลอรี ปรมิ าณความรอ้ น 1 แคลอรี หมายถึง ปริมาณความร้อนทที่ าใหน้ า้ 1 กรัม มอี ณุ หภูมสิ ูงขน้ึ 1 ๐C สูตรการคา้ นวณหาคา่ พลังงานความรอ้ นทนี่ ้าได้รบั คือ พลงั งานความรอ้ นทนี่ ้าได้รบั = mc t หรือ Q = mc t
ความตอ้ งการอาหาร เม่อื Q = พลังงานความร้อนที่น้าไดร้ ับ มหี นว่ ยเปน็ แคลอรี m = มวลของนา้ มหี น่วยเปน็ กรัม c = ความจคุ วามร้อนจาเพาะของนา้ = cal/g t = อณุ หภูมิของน้าที่เปลีย่ นแปลงไปจากเดมิ มหี นว่ ยเปน็ องศาเซลเซยี ส ๐C จดลงไปในสมุดด้วยนะครับ เตรยี มตัวคานวณเร่อื ง พลงั งาน นักเรยี นจะต้องจาสูตรให้ไดก้ อ่ น
ฝึกสมองกนั ดีกวา่ ???? สารอาหารใหพ้ ลงั งาน 21 จูล มีค่าเทา่ กับก่ีแคลอร่ี
การพิจารณาว่ามีน้าหนกั เกนิ มาตรฐานหรือไมน่ ้นั พจิ ารณาไดจ้ าก : ดชั นีมวลกาย ( body mass index หรือ BMI ) ดัชนมี วลกาย = น้าหนักตัว (กิโลกรมั ) สว่ นสงู 2 (เมตร2) คา่ มาตรฐานอยู่ระหวา่ ง : น้อยกวา่ 18.5 ก.ก. / ตร.ม 2 แสดงวา่ ผอม 18.5 – 22.9 ก.ก. / ตร.ม 2 แสดงวา่ ปกติ 23.0 – 24.9 ก.ก. / ตร.ม 2 แสดงว่า น้าหนักเกินหรอื ทว้ ม 25.0 – 29.9 ก.ก. / ตร.ม 2 แสดงวา่ อ้วนปานกลาง มากกวา่ 30 ก.ก. / ตร.ม 2 แสดงว่า อ้วนมาก
จารการศกึ ษาเปรยี บเทียบตัวอยา่ งอาหารชนิดต่างๆโดยใชแ้ คลอรีมเิ ตอร์ทา้ ใหท้ ราบว่า สารอาหารแตล่ ะชนดิ ใหพ้ ลังงานต่างกันความต้องการพลังงานของแต่ละเพศ แตล่ ะ วยั แตกตา่ งกนั อย่างไร ให้ดูจากตาราง
1. ในฉลากผลิตภณั ฑอ์ าหารระบุว่า ขนมปงั 1 แผน่ ใหพ้ ลังงาน 70 c ตัวเลขน้หี มายความว่าอย่างไร และหาไดอ้ ย่างไร ตอบ จากขอ้ มูลในกรอบความรูใ้ นหนังสือเรียน บางคร้ังมกี ารใช้ หนว่ ย calorie อักษรยอ่ c ท่ีเขียนดว้ ยอกั ษร c ตวั พิมพ์ใหญ่ ใน ฉลากอาหาร แทนปรมิ าณพลงั งาน 1,000 แคลอรี หรือ 1 กโิ ล แคลอรี ขอ้ ความที่ระบุวา่ ขนมปัง 1 แผน่ ให้พลังงาน 70 c จงึ หมายความว่า หากบริโภคขนมปังน้นั 1 แผน่ รา่ งกายจะได้รับ พลงั งาน 70 กโิ ลแคลอรี ขอ้ มลู ดงั กล่าวได้จากการทดลองใน หอ้ งปฏิบัตกิ ารโดยใชแ้ คลอรมี ิเตอร์ แลว้ พบว่า ขนมปังน้นั 1 แผ่น ปลดปลอ่ ยพลังงานท่ที ้าใหน้ ้า 1,000 กรมั มอี ณุ หภูมสิ งู ขน้ึ 70 องศาเซลเซยี ส
2. ชายหรอื หญงิ ตอ้ งการพลังงานมากวา่ กัน ตอบ เดก็ ชายหญิงแรกเกดิ จนถึงอายุ 8 ปตี อ้ งการพลงั งาน ใกลเ้ คยี งกนั ต้ังแต่อายุ 9 ปขี ึน้ ไป ชาย ต้องการพลังงานมากกว่า หญงิ 3. ในชว่ งอายุทีแ่ ตกต่างกัน ความตอ้ งการพลงั งานแตกตา่ งกันอยา่ งไร ตอบ ตงั้ แต่แรกเกดิ ความต้องการพลังงานเพ่มิ ข้ึนเร่ือยๆ จนกระท่ังสูงสดุ ในชว่ ง อายุ 16-18 ปีจากน้ันความตอ้ งการพลงั งานกล็ ดลงตามชว่ งอายุ 4. เหตใุ ดหญงิ มีครรภแ์ ละหญงิ ทใ่ี หน้ มลกู บตุ รจงึ ต้องการพลังงานเพมิ่ ข้นึ ตอบ หญงิ มคี รรภต์ ้องการพลังงานเพอ่ื สร้างเนอื้ เยื่อของทารกในครรภ์ สาหรับ หญงิ ที่ใหน้ มบุตร ต้องการพลงั งานสาหรับสงั เคราะห์สารต่างๆ ทีจ่ าเป็นสาหรับ ทารก
1.4 การเลอื กบรโิ ภคอาหาร ธงโภชนาการ คอื เครอ่ื งมอื ทชี่ ว่ ยอธบิ ายและทาความเขา้ ใจโภชนบัญญัติ ๙ ประการ กาหนดเป็น ภาพ\"ธงปลายแหลม\"แสดงกลุ่มอาหารและสดั สว่ น พ้ืนที่สังเกตไดช้ ดั เจนว่าฐานใหญ่ดา้ นบนเน้นใหก้ นิ มากและปลายธงขา้ งล่าง บอกใหก้ นิ นอ้ ย ๆ เทา่ ท่ีจาเปน็ โดยอธิบายไดด้ ังนี้ กินอาหารให้ครบ ๕ หมู่ กล่มุ อาหารที่บริโภคจากมากไปนอ้ ย แสดงด้วยพืน้ ทใ่ี นภาพ อาหารทีห่ ลากหลายชนดิ ในแต่ละกลมุ่ สามารถเลอื กกนิ สลบั เปลี่ยนหมนุ เวียนกันได้ภายในกลุ่มเดยี วกัน
ทง้ั กล่มุ ผกั กลุม่ ผลไมแ้ ละกลมุ่ เน้ือสตั ว์ สาหรับกลุ่มข้าว - แป้ง ใหก้ ินข้าวเป็นหลกั อาจสลบั กับผลติ ภัณฑท์ ีท่ าจากแป้ง เป็นบางมื้อ ปรมิ าณอาหาร บอกจานวนเป็นหน่วยครัวเรือน เช่น ทัพพี ชอ้ นกนิ ขา้ ว แก้ว และ ผลไมก้ าหนดเป็นสดั ส่วน ชนดิ ของอาหารที่ควรกินปรมิ าณนอ้ ย ๆ เท่าทีจ่ าเปน็ คือ กลมุ่ น้ามนั นา้ ตาล
ตาราง ปรมิ าณของอาหารที่คนไทยควรรบั ประทานใน 1 วนั
นกั เรยี นคดิ วา่ กจิ กรรมใดใชพ้ ลงั งานมากท่สี ดุ ทส่ี ดุ
ตาราง แสดงพลังงานทใ่ี ช้ในการทากจิ กรรมต่าง ๆ ในเวลา 1 ช่วั โมงต่อน้าหนกั ของรา่ งกาย 1 กโิ ลกรมั กิจกรรมท่ที า พลงั งานทใี่ ชใ้ นการทากิจกรรม ( Kcal ) ชาย หญิง นอนหลับ 1.05 0.97 นง่ั พกั อา่ น หนังสือ 1.26 1.16 นงั่ เขียนหนงั สือ 1.47 1.36 ขับรถ 2.42 2.23 เย็บผา้ ด้วยจกั รเยบ็ ผ้า 2.63 2.43 ลา้ งจาน ปัดฝุน่ 2.84 2.62 อาบน้าแปรงฟัน 3.05 2.81 ลา้ งรถ 3.68 3.40 ถูพน้ื เล่อื ยไม้ 3.89 3.59
ท้าความสะอาดหน้าตา่ ง,ตปี งิ ปอง 4.20 3.88 ว่ายนา้ 4.73 4.37 เล่นเทนนสิ 6.30 5.82 ขุดดนิ ยกน้าหนกั 7.35 6.79 เล่นบาสเกตบอล ฟุตบอล 7.88 7.28 ชกมวย วา่ ยนา้ อย่างเรว็ 9.43 8.73 ปีนทางชนั และขรขุ ระ 10.50 9.70
จากข้อมูลในตารางนักเรยี นจะเห็นได้ว่า พลังงานทใ่ี ช้ในการทากจิ กรรมแต่ละ อยา่ งไมเ่ ท่ากนั กจิ กรรมท่ใี ชพ้ ลังงานมากที่สุดคือ การปีนทางชนั และขรุขระ สว่ นกิจกรรมท่ีใช้พลังงาน้อยท่ีสุดคอื การนอนหลบั นอกจากนี้ในกจิ กรรม เดยี วกัน เพศชายจะใช้พลังงานมากกวา่ เพศหญิงเสมอ ดังนน้ั จงึ อาจกลา่ วโดยสรปุ ได้วา่ การใช้พลงั งานในการทากิจกรรม ของแตล่ ะคนแตกต่างกนั ท้ังนี้ขึน้ อย่กู บั ปจั จยั ทส่ี าคญั คอื ประเภทของ กิจกรรมรวมทั้งระยะเวลาทีใ่ ช้ทากิจกรรมนัน้ ๆ เพศ และน้าหนกั ตวั โดยผทู้ ่มี ี น้าหนกั ตัวมากจะตอ้ งใชพ้ ลังงานมาก และเพศชายใชพ้ ลงั งานมากกวา่ เพศ หญิงในการทากิจกรรมประเภทเดียวกัน
การคานวณหาคา่ พลังงานทีใ่ ชใ้ นกิจกรรม การคิดคานวณหาคา่ พลังงานท่ใี ช้ในกิจกรรมตา่ ง ๆ อาจทาได้ โดยใช้สูตรตอ่ ไปน้ี พลังงานทีใ่ ช้ = น้าหนักตัว X พลงั งานทใ่ี ชใ้ นการทา้ กจิ กรรมใน 1 ชั่วโมง ตอ่ น้าหนักรา่ งกาย 1 กโิ ลกรมั จา้ สูตรใหไ้ ด้ก่อน เราจะไป ค้านวณกันแลว้
ตัวอยา่ งที่ 1 เด็กชายนิรันดร์หนัก 50 กโิ ลกรมั ล้างรถเป็นเวลา 1 ชัว่ โมง อยากทราบว่านริ นั ดรจ์ ะใชพ้ ลังงานเทา่ ไร วธิ ที ้า จากขอ้ มลู ในตาราง ชายหนกั 1 กโิ ลกรมั ล้างรถเป็นเวลา 1 ชัว่ โมง ใชพ้ ลังงาน = 3.68 กิโลแคลอรี เมือ่ นิรันดร์หนัก 50 กิโลกรมั ลา้ งรถเปน็ เวลา 1 ชว่ั โมง ใชพ้ ลงั งาน = 50 X 3.68 = 184 กโิ ลแคลอรี เดก็ ชายนริ ันดรล์ ้างรถเปน็ เวลา 1 ชว่ั โมง จะใช้พลังงานเทา่ กับ 184 กโิ แคลอรี
ตัวอย่างท่ี ด ญ วชั รหี นัก 40 กิโลกรัม นอนหลับเปน็ เวลา 1 ช่ัวโมง แลว้ ต่ืนขึน้ มาเลน่ เทนนิสเปน็ เวลา 3 ชั่วโมง อยากทราบวา่ วชั รใี ชพ้ ลงั งาน ท้ังหมดเทา่ ไร วิธที า จากข้อมูลในตาราง หญงิ หนกั 1 กิโลกรมั นอนหลับเปน็ เวลา 1 ชั่วโมง ใชพ้ ลงั งาน = 0.97 กโิ ลแคลอรี เมื่อวชั รหี นัก 40 กิโลกรัม นอนหลับเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ใช้พลังงาน = 40 X 0.97 กโิ ลแคลอรี = 38.8 กโิ ลแคลอรี หญิงหนัก 1 กิโลกรมั เลน่ เทนนิสเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ใช้พลังงาน = 5.82 กิโลแคลอรี
เมอ่ื วชั รหี นกั 40 กิโลกรัม เล่นเทนนสิ เปน็ เวลา 3 ชวั่ โมง ใชพ้ ลังงาน = 40 X 5.82 X 3 = 698.4 กิโลแคลอรี วัชรนี อนหลบั เปน็ เวลา 1 ชวั่ โมง และเล่นเทนนสิ เป็นเวลา 3 ชัว่ โมง จะใชพ้ ลังงานท้งั หมด = 38.8 + 698.4 = 737.2 กโิ ลแคลอรี
การเลือกบรโิ ภคอาหาร ตาราง 1.6 ประกอบ ในหนังสอื เรียน หน้า 25 การบา้ นกจิ กรรม 1.3 บันทกึ รายการอาหาร 1 สัปดาห์
การเลอื กรบั ประทานอาหาร อาหารท่สี ะอาด ปราศจากสารปนเปอื้ น สามารถพิจารณาจาก สญั ลักษณม์ าตรฐานของกระทรวงสาธารณสขุ ประเภทอาหาร สัญลกั ษณ์ อาหารสดจากตลาดสด หรอื ซุปเปอร์มาเก็ต อาหารปลอดภัย อาหารที่ปรุงสาเร็จทีไ่ ดม้ าตรฐาน อาหารแปรรูป อาหารสะอาด รสชาตอิ ร่อย จะแสดงหมายเลขทะเบยี น อาหารของสานักงาน คณะกรรมการอาหารและยา
จากข่าว “ผเู้ ล้ียงปลา”ยอมรับว่าใช้ “สารฟอร์มาลนิ ” “แช่ปลาก่อนจับขาย” แม่ ทองบ่อ เกษตรกรผูเ้ ลี้ยงปลานิล บ้านท่องบอ่ อ.โกสุม จ. มหาสารคาม ชาวนาผู้ผันตัวเองมาเลยี้ งปลากระชงั ในล้าน้าแมช่ ี เมอ่ื ปี 2549 บอก วา่ เธอจะใช้ฟอรม์ าลินน็อคปลาใกลต้ ายก่อนน้าออกขาย
กนิ อาหารอยา่ งไรให้ปลอดภยั 1. เลือกซือ้ อาหารทป่ี ลอดภัย ควรเลอื กซือ้ อาหารทผ่ี ลติ หรอื จ้าหน่ายจากแหล่งผลิตที่ สะอาด 2. การปรุงอาหารดว้ ยความร้อนให้สกุ อย่างทั่วถึง อาหารดิบเช่น เน้อื หมู เนอ้ื ไก่ ไข่ และอาหารทะเล เพราะมีเชือ้ โรคอยู่ 3. รับประทานอาหารท่ีปรงุ สกุ ใหม่ อาหารท่ปี รงุ สกุ ด้วยความร้อนแล้ว ถา้ ปลอ่ ยให้ เย็นนานๆจะทา้ ให้มเี ช้อื โรคได้ 4. เกบ็ อาหารปรงุ สุกใหเ้ หมาะสม เช่นในตูเ้ ยน็ ท่ีมอี ุณหภูมิท่เี หมาะสม แล้วนา้ มาให้ ความร้อนที่เหมาะสม 5. หลีกเลีย่ งไม่ให้อาหารดบิ สัมผัสกบั อาหารสกุ แล้ว 6. ลา้ งมือให้สะอาดด้วยน้าและสบู่ทกุ ครง้ั กอ่ นเตรียม/เตรยี มอาหาร 7. ล้างผัก ผลไม้ให้สะอาจจะได้ไม่มีสารพิษตกค้าง
มสี ญั ลักษณแ์ สดงหมายเลขทะเบียนของคณะกรรมการอาหารและยา
ในการดาเนินกจิ กรรม การด้ารงชีวติ และการเจรญิ เติบโต ร่างกาย ตอ้ งการอาหารเพื่อเป็นแหล่งพลงั งาน และเป็นวตั ถดุ ิบส้าหรับการ สงั เคราะหส์ ารตา่ งๆ ประเทศไทยอุดมไปด้วยพชื พนั ธธุ์ ัญญาหารนานา ชนิด คนในทุกภมู ภิ าคจงึ สามารถเลอื กบรโิ ภคได้อยา่ งหลากหลาย เราควรรับประทานอาหารทสี่ ด และสะอาด เพื่อใหร้ า่ งกายไดร้ ับสารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนท่เี หมาะสม และ หลีกเล่ียงอาหารทีม่ วี ตั ถเุ จือปนหรือสารปนเปื้อนทีเ่ ปน็ อันตราย
กจิ กรรมที่ 6 ค้าสั่ง จงเขียนชื่อสารเคมีที่ผ้ผู ลิตอาจนา้ ไปใชใ้ นการปรงุ แต่งอาหาร อาหาร สารเคมีท่ีใชป้ รงุ อาหาร 1. เนื้อเคม็ โพแทสเซยี มไนเตรตหรอื ดนิ ประสิว 2. ข้าวเกรยี บกุ้ง สีผสมอาหาร 3. ลูกช้นิ เดง้ บอแรกซ์ 4. ผลไม้ดอง นา้ ตาลเทียว สผี สมอาหาร 5. กนุ เชียง โพแทสเซยี มไนเตรต 6. หนอ่ ไมด้ อง ผงฟอกสี 7. แหนม บอแรกซ์ โพแทสเซยี มไนเตรต
Carbohydrate 1. แปง้ และน้าตาลในพชื มาจากไหน แป้งและน้าตาลในพชื : น้าตาลไดจ้ ากการสังเคราะหแ์ สง หรือเปล่ียนแปลง มาจากผลผลติ ของการสังเคราะหด์ ้วยแสง สว่ นแป้ง สงั เคราะห์ขน้ึ จากนา้ ตาลกลโู คสจานวนมาก เพ่ือ สะสมไว้ในเซลล์พชื บางเซลล์
Carbohydrate 2. โครงสรา้ งของแป้งและน้าตาล เหมือนหรอื ตา่ งกันอย่างไร โครงสร้างแป้งและนา้ ตาล : แป้งและน้าตาลตา่ งก็ประกอบดว้ ยหน่วยย่อย ลกั ษณะเดียวกนั และตา่ งกเ็ ปน็ สารอาหาร ประเภทคาร์โบไฮเดรต แต่นา้ ตาลประกอบดว้ ย หนว่ ยยอ่ ย หน่วยเดียวหรอื จานวนนอ้ ย แต่ แปง้ ประกอบดว้ ยหน่วยยอ่ ยจานวนมากเช่ือม ตอ่ กนั
Carbohydrate 3. เหตุใดเราจึงควรบรโิ ภคใยอาหาร ทัง้ ทีร่ ่างกายดดู ซมึ ใยอาหารไมไ่ ด้ บรโิ ภคใยอาหาร : กระต้นุ การเคล่ือนไหวของลาไสใ้ หญ่ ชว่ ยในการ ดูดซบั นา้ ของกาอาหาร ทาให้อาหารไมอ่ ยใู่ น ลาไสใ้ หญน่ าน ท้องไมผ่ ูก ลดความเสยี่ งตอ่ การ เปน็ มะเรง็ ลาไสใ้ หญ่ เพราะช่วยลดโอกาสที่ เนอ้ื เยื่อของลาไสใ้ หญ่จะสมั ผสั กบั สารก่อมะเรง็ ท่อี ย่ใู นอาหาร นอกจากนยี้ ังลดความเส่ยี งต่อโรค อ่นื เชน่ โรคริดสดี วงทวาร
Protein 1. ระหว่างเดก็ ในวัยเจริญเตบิ โตกับผู้ใหญ่ วยั ใดตอ้ งการโปรตนี มากกวา่ กนั เพราะเหตใุ ด วัยท่ีตอ้ งการโปรตีน : เดก็ ในวยั เจริญเตบิ โตต้องการโปรตนี มากกว่า ผใู้ หญ่ เนือ่ งจาก ต้องการโปรตีนไปใช้ในการ เสรมิ สรา้ งเนอ้ื เย่อื และอวัยวะต่าง ๆ เพ่ือการ เจริญเตบิ โต ผู้ใหญเ่ ป็นวัยทเี่ จรญิ เติบโตเต็มทแี่ ลว้ โปรตนี สว่ นใหญ่จะนาไปซ่อมแซมเซลลท์ ี่ชารุดหรอื เสียหายไปเท่านน้ั จงึ ต้องการโปรตนี ในปริมาณ ไมม่ ากนกั
Protein 2. ผูท้ ีร่ บั ประทานอาหารมังสวิรตั ิจะงดรบั ประทานเนอ้ื สัตว์ ไดร้ ับโปรตีนจาก รับประทานมังสวิรตั ิ : ผู้ท่ีรับประทานมังสวริ ตั ิ สามารถรับประทาน อาหารชนิดอื่นท่ีโปรตนี สงู เชน่ ถ่วั ชนดิ ต่าง ๆ หรือผลติ ภณั ฑจ์ ากนมและถ่วั
Lipid 1. กรดไขมันกลมุ่ โอเมกา พบมากในอาหารประเภทใดบ้าง กรดไขมนั กลุ่มโอเมกา : กรดไขมันโอเมกา 3 พบมากใน ปลาท่มี ี ไขมนั มาก เชน่ แซลมอน ซารด์ ีน แมคเคอรอล ผกั ที่มใี บสเี ขยี วเข้ม กรดไขมนั โอเมกา 6 พบมากใน เนือ้ สัตว์ นม ไข่ ขา้ วโพด นา้ มนั ถั่วเหลือง กรดไขมันกลุม่ โอเมกา ยงั พบมากในเมล็ดพืช และถัว่ เหลืองแข็งบางชนดิ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140