ภาษีหัก ณ ทจี่ า่ ย . กรณี.ตาม ม.40 แหง่ ประมวลรษั ฎากร . . วิทยากร : ธงชยั ยางงาม.
ภาษีหกั ณ ทจ่ี า่ ย.. ! เจตนารมณ์..แนวคดิ ขอ้ กฎหมาย. และ และ. หลักการ แนวปฎบิ ัต.ิ
เจตนารมณข์ องกฎหมายภาษอี ากร หกั ณ ท่ีจ่าย. ! § เป็นมาตรการป้องกนั การหลบ (Tax Evasion) และ/หรือ . การเลี่ยงภาษี (Tax Avoidance) § เพ่ิมประสิทธิภาพในการตรวจสอบ (Auditing) และ . การบริหารจดั เก็บ (Administration) . § ผลทางจิตวทิ ยาเปน็ การบรรเทาภาระในการคำนวณและเสียภาษสี น้ิ รอบบัญช.ี !
แนวคิด และ หลักการ การหักภาษี ณ ท่จี ่าย .§ เป็นการชำระภาษีลว่ งหนา้ . (Advance or Prepaid Tax Payment)§ ไม่ใช่การชำระภาษีในข้ันตอนสุดทา้ ย . (Certainly Not a Final Tax Payment)§ ความเสีย่ งมาก หักภาษี ณ ทจี่ ่ายมาก *!§ ผไู้ ม่มีหนา้ ทีเ่ สียภาษีตามกฎหมาย ไมต่ อ้ งถูกหัก ณ ทจ่ี า่ ย.
ภาษหี กั ณ ทจ่ี า่ ย.คอื วธิ ีการเสียภาษวี ิธหี น่งึ ท่ี กม. กำหนดให้ผู้จ่ายเงนิ ได้ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายก่อนจ่ายเงนิ ได้ให้กับผูม้ ีเงนิ ได!้ •ห กั จากเงนิ ทรพั ยส์ นิ ประโยชนท์ ่ีคำนวณเป็นเงนิ ได.้ • ผจู้ ่ายเปน็ ผู้หักสง่ รัฐบาล . •ถ อื เป็นเครดติ ในการเสียภาษขี องผู้รบั . •ม ีเฉพาะบคุ คลธรรมดาและนติ ิบุคคล .
ข้อกฎหมาย และ แนวปฏบิ ตั ิ . การหกั ภาษี ณ ท่ีจ่ายจากการจา้ งแรงงาน ! ! ม.50 .(ประกอบกบั ม.40, 42ทวิ,47และม.48). ม. 3 เตรส. ! คำสั่งกรมสรรพากรท่ี ทป. 4/2528.
. The image cannot be displayed. Your computer may not have enough memory to open the image, or the imageม. 3 เตรส ให้อำ. นา(จบอทธทบิ ั่วดไวีปา)ง! หลกั เกณฑใ์ นการ ! may have been corrupted. Restart your computer, and then open the file again. If the red x still appears, you หักภาษี ณ ทจ่ี า่ ย! may have to delete the image and then insert it again. บคุ คลธรรมดา และ นิติบุคคล! ! (บทเฉพาะ) . ม.50 . . (บทเสริม)! ทป. 4/2528 กรณีมไิ ดม้ บี ญั ญัติไว้ที่อื่นใด!
กฎหมายท่ีใช้บังคับในการหัก ณ ที่จ่าย. ภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา.1. ม.50 แยกตามประเภทเงนิ ได.้2. ม.3 เตรส ใหอ้ ำนาจออก ท.ป.4/2528 ให้บางรายมีสทิ ธิหักบางรายการได้ .!
บุคคลท่ีอย่ภู ายใต้บงั คบั ของภาษหี ัก ณ ท่ีจา่ ยตามประมวล รษั ฎากร. .§ ใครเป็นผูม้ ีหน้าทหี่ ักภาษี ณ ทจี่ ่าย ( ผจู้ ่ายเงิน )§ ใครเป็นผูม้ หี น้าทถ่ี กู หกั ภาษี ณ ท่ีจา่ ย (ผู้มเี งนิ ได)้ .§ ความรบั ผิดตามกฎหมายกำหนดไว้ ตาม ม. 54 และ ม. 27 . .
เงนิ ประเภทใดทจี่ ่ายแลว้ ต้องถูกหกั ภาษี ณ ทจ่ี ่ายบา้ ง.. เงนิ ไดต้ าม. 40 แห่งประมวลรษั ฎากร.ไดบ้ ัญญัตไิ ว้ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) และ (8) .
เงนิ ได้พงึ ประเมิน มาตรา 40 แห่งประมวลรษั ฎากร . ! มาตรา 40 (1). คอื เงินได้ทีเ่ กดิ จากการจ้างแรงงาน. ไมม่ ่งุ ต่อผลสำเร็จของงานที่ทำ. เช่น เงินเดอื น โบนัส ค่าลว่ งเวลา .
เงนิ ไดพ้ ึงประเมนิ มาตรา 40 แหง่ ประมวลรษั ฎากร . ! มาตรา 40 (2). คือเงินไดท้ ีเ่ กิดการรบั ทำงานให้ หรอื จาก ตำแหนง่ หน้าที่งานทที่ ำ. มุง่ ต่อผลสำเร็จของงานที่ทำ เชน่ . ค่านายหนา้ เปน็ คณะกรรมการใน หนว่ ยต่างๆ นอกจากงานท่ที ำ!
เงนิ ได้พงึ ประเมิน มาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร . ! มาตรา 40 (3). คือเงินไดท้ ี่เกดิ จากขายลขิ สิทธ์ิ สิทธิ ต่างท่ีกฎหมายกำหนดไว!้
เงินได้พึงประเมิน มาตรา 40 แหง่ ประมวลรษั ฎากร . ! มาตรา 40 (4).คอื การนำทรพั ย์สินไปลงทุนแล้วเกิดเงนิ ได.้ เชน่ การนำเงินไปฝากธนาคารแล้วได้ ดอกเบ้ีย การนำเงินไปลงทุนแลว้ ได.้ เงินปันผล เป็นต้น!
เงนิ ไดพ้ งึ ประเมิน มาตรา 40 แหง่ ประมวลรัษฎากร . ! มาตรา 40 (5). คือผลประโยชนห์ รอื เงินได้จากการให้เช่า ทรัพย์สนิ . เงนิ ได้ที่เกดิ จากการผดิ สญั ญาเช่าซอื้ . เงนิ ไดจ้ ากการผดิ สัญญาซอ้ื ขายเงนิ ผอ่ น!
เงนิ ไดพ้ ึงประเมนิ มาตรา 40 แหง่ ประมวลรัษฎากร . ! มาตรา 40 (6). คือเงินได้ทเ่ี กดิ การประกอบวชิ าชีพ อสิ ระ!
เงนิ ไดพ้ ึงประเมิน มาตรา 40 แหง่ ประมวลรษั ฎากร . ! มาตรา 40 (7). คอื เงนิ ไดท้ เี่ กดิ การรับเหมา โดยนำ สัมภาระสำคญั ไปประกอบการรบั เหมาด้วย!
เงนิ ได้พึงประเมิน มาตรา 40 แหง่ ประมวลรษั ฎากร . ! มาตรา 40 (8). คือเงินไดท้ เี่ กิดจากการธรุ กิจ การ พาณชิ ย์ หรือในทางอุตสาหกรรม เช่นการขายอสงั หารมิ ทรัพย์ การให้ บรกิ ารของรา้ นเสรมิ สวย!
คา่ แรงงานจากการจ้างงาน 40 (1).. คำนวณหักตามมาตรา 50 แห่งประมวลรษั ฎากร. คอื . อตั ราก้าวหน้าของภาษเี งินได้บคุ คลธรรมดา ม.48 . โดยคำนวณจาก เงินได้สุทธิ (เงินพงึ ประเมนิ ม. 40 หักค่าใชจ้ า่ ย ม. 42ทวิถึงม.46และค่าลดหยอ่ นไดต้ าม ม.47) ! !
หลกั เกณฑใ์ นการหักคา่ ลดหยอ่ น ม. 47 แห่งประมวลรษั ฎากร รายการหักลดหย่อนกรณีต่าง ๆ มีดงั นี้ . !§ ค่าลดหยอ่ น.§ 1. ผมู้ เี งินได้สว่ นตวั 60,000 .§ 2.คูส่ มรส (สามี/ภริยาของผมู้ เี งินได)้ 60,000 .§ 3. บุตร (มีเงือ่ นไข) คนละ 30,000 .
หลักเกณฑใ์ นการหกั คา่ ลดหย่อน ม. 47 แห่งประมวล รัษฎากรรายการหักลดหยอ่ นกรณตี า่ ง ๆ -ต่อ- . !§ 4. เบีย้ ประกนั ชีวิต (มีเง่ือนไข) ตามจ่ายจริง < 100,000 .§ 5. เงินสะสมท่จี า่ ยเขา้ กองทนุ สำรองเลย้ี ง ชพี < 10,000 หักคา่ ลดหย่อนตามจา่ ย จริงแตไ่ มเ่ กนิ 10,000บาท (สว่ นท่เี กนิ 10,000 แตไ่ ม่เกนิ 490,000ใหถ้ อื เปน็ เงิน ไดท้ ี่ไดร้ ับการยกเวน้ ) .
หลกั เกณฑใ์ นการหักค่าลดหย่อน ม. 47 แห่งประมวล รัษฎากรรายการหักลดหยอ่ นกรณตี า่ ง ๆ -ต่อ- . ! § 6. ดอกเบ้ียเงนิ ก้ยู มื เพื่อซือ้ ท่อี ยู่อาศยั ตามจา่ ยจริง < 100,000 (มเี งื่อนไข) . § 7. เงนิ สมทบเข้ากองทุนประกนั สงั คม ตามจ่ายจริง.
หลกั เกณฑ์ในการหักคา่ ลดหย่อน ม. 47 แห่งประมวล รัษฎากรรายการหักลดหยอ่ นกรณตี า่ ง ๆ -ต่อ- . ! 8. เงนิ ทนี่ ำไปซื้อหน่วยกองทุนรวมสำรองเลีย้ ง ชพี (RMF)นำมาถือเป็นคา่ ลดหย่อนได้ตาม จ่ายจรงิ แตไ่ ม่เกิน 15% ของเงินได้พึง ประเมนิ หรอื ไมเ่ กิน 500,000 บ. รวมถงึ เงนิ ท่ี นำไปซื้อหน่วยกองทนุ รวมระยะยาว(LTF) นำมาถือเป็นค่าลดหย่อนได้ตามจ่ายจริงแตไ่ ม่ เกิน 15% ของเงนิ ไดพ้ งึ ประเมินหรอื ไม่เกนิ 500,000 บ. (ทัง้ 2 กองรวมไมเ่ กนิ 1,000,000 บาท). .
หลกั เกณฑ์ในการหักค่าลดหย่อน ม. 47 แห่งประมวล รษั ฎากรรายการหักลดหยอ่ นกรณีต่าง ๆ -ต่อ- . ! 9.กรณีบพุ การ(ี พ่อ+แม)่ ท่ีไม่มเี งินได้หักค่า ลดหยอ่ นคนละ 60,000แตร่ วมกันไม่ เกนิ 120,000บ.. 10. คู่สมรส บุตร บดิ า มารดา (ท่ีอยใู่ น อปุ การะ) ท่ีพิการ หักคา่ ลดหย่อนคนละ 60,000 บาท.
หลกั เกณฑใ์ นการหักค่าลดหยอ่ น ม. 47 แหง่ ประมวล รัษฎากร รายการหักลดหย่อนกรณีตา่ ง ๆ -ต่อ- . ! 11. เงนิ บรจิ าค หกั ค่าลดหย่อนไดต้ ามจ่าย จรงิ (มเี ง่ือนไข).
หลกั เกณฑใ์ นการคำนวณเงินไดส้ ทุ ธติ ามอตั รากา้ วหนา้ ม. 48 แหง่ ประมวลรัษฎากร . !§ ช่วงเงินได้สุทธิ อตั ราภาษี (%)ภาษสี ะสม.§ 1 - 150,000 ยกเว้น .§ 150,001 - 300,000 5 % 7,500.§ 300,001 - 500,000 10% 20,000.§ 500,001 - 750,000 15% 37,500.§ 750,001 - 1,000,000 20% 50,000.§ 1,000,001 - 2,000,000 25% 260,000.§ 2,000,001 - 5,000,000 30% 900,000.§ 5,000,001 ขน้ึ ไป 35%.
ภาษีเงนิ ได้บุคคลธรรมดาหกั ณ ทีจ่ า่ ยตามมาตรา 50 แหง่ ประมวลรัษฎากรกำหนดไวใ้ น คำ สงั่ กรมสรรพากรที่ ป.96/2543.1. ม40 (1) (2) เงิน / ทรัพย์สนิ / ประโยชน์ ท่ีอาจ คำนวนเปน็ เงนิ ได้ เชน่ เงนิ เดือนค่าจ้างโบนสั ภาษที นี่ ายจา้ งออกให้อาหาร-บา้ นพกั ฟร.ีวิธีการ คำนวน-เงินได้ x จำนวนครั้งที่จา่ ยเงนิ คำนวณภาษตี ามปรกติ ได้ภาษีเทา่ ไร/ จำนวนครั้งท่ีจ่ายเงิน .
จำนวนคร้ัง ถา้ รายวนั X 365. รายสปั ดาห์ X 52. รายเดอื น X 12. รายปกั ษ์ X 26 . รายไตรมาศ X 4.-ถ้าเข้าทำงานต้งั แต่ตน้ ปี หรือทำงานต่อเนอ่ื งจากปที ี่ผา่ นมาให้คำนวณเสมือนตลอดปี ใชห้ ลัก 12 X 12หาร .
-! ถา้ เรม่ิ ทำงานกลางปีหรือระหว่างปี ให้ใชห้ ลกั เดอื นทจ่ี า่ ยจ! รงิ X เดือนท่จี ่ายจริงหาร.-ถ! ้าเปลย่ี นแปลงจำนวนเงินไดท้ ่ีจ่ายระหว่างปี เชน่ เงินเดอื นเพ! ิ่มหรือเงินเดอื นลด ถ้าเปน็ การเรม่ิ งานต้ังแตต่ ้นปีใหค้ ำนวณเส! มือนทำงานตลอดปี (ใช้หลัก 12 X 12 หาร)!-! ถ้ามเี งนิ เพิ่มพเิ ศษ เช่น โบนัส ให้เอาเงนิ โบนสั บวกกับเงนิ ได้เ!สมอื นท้งั ปีแล้วคำนวณภาษีได้ภาษเี ทา่ ไหร่ ใหเ้ ทา่ กบั X แลว้ค! ำนวณภาษเี ฉพาะเงนิ เดอื นตลอดปีให้เท่ากับ Y ภาษีเฉพาะโ! บนัสจะเท่ากบั X - Y !
-ถา้ จ่ายเงินไดเ้ ปน็ คราว ๆ ไม่สม่ำเสมอ เช่น กรณคี ่านายหน้าขายทดี่ ิน ใหเ้ อาเงนิ ไดค้ รงั้ ที่ 1 คำนวณภาษตี ามปกติ พอไดค้ า่นายหน้าครัง้ ท่ี 2 ให้เอาเงนิ ได้ท้ังสองครั้งมารวมกนั แล้วคำนวณภาษี แตภ่ าษีหัก ณ ทจ่ี ่ายครั้งท่ี 2 ท่ีนำสง่ จะเทา่ กบัการคำนวณภาษคี ร้งั ที่ 2 ลบคร้ังที่ 1 .-กรณเี งนิ ได้ข้ามปี เช่น บรรจเุ ข้าทำงานใหม่ เงนิ ตกเบกิ ข้ามปีถกู ออกจากงาน หรือมีขอ้ โตแ้ ย้ง ยืดเย้ือ จา่ ยเงนิ ข้ามป.ีใหถ้ อื วา่ เงนิ ไดข้ องปีใดใหเ้ สียภาษขี องปีนั้น (กอ่ น 31 ม.ี ค.ของปีถดั ไป).
-! ถา้ เรม่ิ ทำงานกลางปีหรือระหว่างปี ให้ใชห้ ลกั เดอื นทจ่ี า่ ยจ! รงิ X เดือนท่จี ่ายจริงหาร.-ถ! ้าเปลย่ี นแปลงจำนวนเงินไดท้ ่ีจ่ายระหว่างปี เชน่ เงินเดอื นเพ! ิ่มหรือเงินเดอื นลด ถ้าเปน็ การเรม่ิ งานต้ังแตต่ ้นปีใหค้ ำนวณเส! มือนทำงานตลอดปี (ใช้หลัก 12 X 12 หาร)!-! ถ้ามเี งนิ เพิ่มพเิ ศษ เช่น โบนัส ให้เอาเงนิ โบนสั บวกกับเงนิ ได้เ!สมอื นท้งั ปีแล้วคำนวณภาษีได้ภาษเี ทา่ ไหร่ ใหเ้ ทา่ กบั X แลว้ค! ำนวณภาษเี ฉพาะเงนิ เดอื นตลอดปีให้เท่ากับ Y ภาษีเฉพาะโ! บนัสจะเท่ากบั X - Y !
ตวั อยา่ งการคำนวณภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมดา<หัก ณ ท่ีจา่ ย <กรณีการจ่ายเงินไดพ้ ึงประเมนิ ตามมาตรา 40 (1) แหง่ประมวลรัษฎากร <ตามคำส่ังกรมสรรพากร ที่ ป. 96/2543<
§ ตัวอยา่ งที่ 1 กรณีจา่ ยเงนิ ได้พงึ ประเมินเป็นรายเดอื น เดอื นละเท่า ๆ กันตลอดปีภาษี ตามขอ้ 1 (1) (2) (3) C§ ปีภาษี 2552 นาย ก. ไดร้ บั เงินเดือน ๆ ละ 30,000 บาท นาย ก. ไดแ้ จ้งสถานะการหักลดหยอ่ นไวด้ งั น้ี C§ ภรรยาไม่มเี งนิ ได้ และบตุ รกำลงั ศึกษา 2 คน C§ ต้องจา่ ยเบยี้ ประกนั ชีวิตในเดือนกรกฎาคม 2552 จำนวน 9,600 บาท และ ตอ้ งจา่ ยดอกเบ้ียเงนิ กู้ยมื ฯ ท่ีจะต้องจา่ ย ทั้งปี จำนวน 13,200 บาท C§ ผู้จ่ายเงนิ ได้ ต้องคำนวณหกั ภาษีเงนิ ได้ ณ ทจี่ ่ายและนำ ส่งแตล่ ะเดือน ดงั น้ี C
§ วธิ ีคำนวณ C§ เงนิ เดอื นเสมอื นหนง่ึ ว่าไดจ้ ่ายทั้งปี = 30,000 x 12 = 360,000.- บาท C§ หกั ค่าใชจ้ ่าย (50 % ไมเ่ กิน 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลอื เงนิ ได้หลงั จากหกั คา่ ใช้จ่าย = 260,000.- บาท C
§ หัก คา่ ลดหย่อนส่วนตัว 60,000.- บาท C§ คา่ ลดหย่อนคสู่ มรส 60,000.- บาท C§ ค่าลดหย่อนบุตรศึกษา 2 คน 60,000.- บาท C§ คา่ ลดหยอ่ นเบ้ียประกนั ชวี ติ 9,600.- บาท C§ คา่ ลดหย่อนดอกเบ้ยี เงนิ กูย้ มื ฯ 13,200.- บาท = 202,800.- บาท C§ คงเหลือเงินไดส้ ทุ ธิ = 57,200.- บาท C
§ ภาษีเงินได้ทัง้ ปี (150,000 ไดร้ บั ยกเวน้ ) + (33,200 X10%) = 3,320.- บาท C§ ภาษีเงนิ ไดห้ กั ณ ท่ีจา่ ยแต่ละเดอื น 3,320 หาร 12 = 276.66 บาท C§ เหลือเศษ = 0.006 บาท C§ จำนวนเงนิ ทเ่ี หลือเศษให้รวมกับเงนิ ภาษี C§ ที่จะตอ้ งหกั ไวค้ รงั้ สดุ ท้ายในเดอื นธันวาคม C§ = 276.66 + (0.006 x 12) = 276.73บาท C§ สรปุ ผู้จา่ ยเงนิ ได้จะตอ้ งหกั ภาษเี งนิ ได้ ณ ทจ่ี า่ ยของ นาย ก. ในกรณนี ้ี ดังน้ี C§ เดอื นมกราคม ถึง พฤศจกิ ายน เดือนละ = 276.66 บาท C§ เดือนธนั วาคม = 276.73 บาท C
§ ตัวอยา่ งที่ 2 กรณีมกี ารเปลีย่ นแปลงจำนวนเงนิ ไดพ้ ึงประเมิน ทีจ่ ่ายระหว่างปีภาษี ตามขอ้ 1 (4) และการคำนวณภาษีหกั ณ ท่ีจ่าย เดอื นธันวาคมตามข้อ 2 C§ จากตวั อย่างที่ 1 ถา้ นาย ก. ไดร้ ับเงินเดอื นต้งั แต่เดอื นตุลาคม 2542 เปน็ เดอื นละ 60,000 บาท ผู้จ่ายเงนิ ไดต้ อ้ งคำนวณหัก ภาษีเงินได้ ณ ทจ่ี ่าย ดังน้ี C
§ วิธีคำนวณ C§ เงินเดือนเสมอื นหน่ึงว่าไดจ้ า่ ยทั้งปี = 60,000 x 12 = 720,000.- บาท C§ หกั คา่ ใชจ้ ่าย (50 % ไม่เกิน 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลือเงนิ ได้หลงั จากหักคา่ ใช้จา่ ย = 620,000.- บาท C§ หัก คา่ ลดหย่อน (60,000 + 60,000 + 60,000 + 9,600 + 13,200) = 202,800.- บาท C§ คงเหลอื เงนิ ไดส้ ทุ ธิ = 417,200.- บาท C§ ภาษเี งินไดท้ ัง้ ปี (150,000 ไดร้ ับยกเว้น) + (150,000 X5%) +(117,200 X 10%) = 19,220.- บาท C
§ ภาษีเงนิ ได้หกั ณ ที่จา่ ยตัง้ แตเ่ ดอื นตุลาคมเปน็ ตน้ ไป 19,220 หาร 12 = 1,606.66 บาท C§ สำหรบั ในเดอื นธนั วาคม ให้ปรับปรงุ การหักภาษเี งินได้ ณ ที่จา่ ย ดงั นี้ : C§ ภาษที ่ีต้องเสยี ทั้งปีจากเงนิ ไดท้ ไ่ี ด้รบั จรงิ (คำนวณจากเงนิ เดอื น ๆ ละ 30,000 บาท 9 เดือน C§ และเดอื นละ 60,000 บาท 3 เดือน) ............. = 12,320.- บาท C§ ภาษีเงินได้ทตี่ ้องหกั ณ ทีจ่ ่าย และนำส่งไวแ้ ล้ว (ตง้ั แต่เดือนมกราคม ถึงเดอื น พฤศจกิ ายน) C§ = (276.66 X 9) + (3,636.66 X 2) = 9,763.26 บาท C§ เป็นภาษที ต่ี ้องหัก ณ ทีจ่ ่าย ในเดอื นธนั วาคม = 12,320 - 9,763.26 C = 2,556.74 บาท C
§ สรุป ผู้จา่ ยเงินได้จะตอ้ งหกั ภาษีเงินได้ ณ ทจ่ี า่ ยของ นาย ก. ใน กรณนี ้ี ดงั น้ี C§ เดอื นมกราคม ถึง กนั ยายน เดือนละ = 276.66 บาท C§ เดอื นตลุ าคม ถงึ พฤศจกิ ายน เดอื นละ = 3,636.66 บาท C§ เดอื นธนั วาคม = 2,556.74 บาท C
§ ตวั อยา่ งท่ี 3 กรณีมกี ารจ่ายเงินพเิ ศษเปน็ คร้ังคราวใน ระหวา่ งปีภาษี ตามข้อ 1 (5) C§ จากตวั อย่างท่ี 1 ถา้ ในเดือนมนี าคม 2552 นาย ก. ได้รับเงิน โบนัสอีก จำนวนหน่งึ เป็นเงิน 90,000 บาท ผู้จ่ายเงินไดจ้ ะ ต้องหักภาษี ณ ท่จี ่าย เดือนมีนาคม 2552 ดังนี้ C
§ วิธคี ำนวณ C§ เงินเดอื นเสมือนหน่ึงว่าไดจ้ า่ ยทัง้ ปี = 30,000 x 12 = 360,000.- บาท C§ บวก เงินโบนสั = 90,000 X 1 = 90,000.- บาท C§ รวมเงนิ ไดพ้ งึ ประเมิน = 450,000.- บาท C§ หกั ค่าใชจ้ ่าย (50 % ไม่เกิน 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลือเงินไดห้ ลงั จากหกั คา่ ใช้จา่ ย = 350,000.- บาท C§ หัก คา่ ลดหยอ่ น (60,000 + 60,000 + 60,000 + 9,600 + 13,200) = 202,800.- บาท C§ คงเหลอื เงนิ ไดส้ ทุ ธิ = 147,200.- บาท C
§ ภาษเี งินไดท้ ัง้ ปีของเงนิ เดือนรวมเงินโบนัส ภาษีเงินไดท้ ง้ั ปCี (150,000 ได้รับยกเวน้ ) C§ หัก ภาษีเงนิ ไดท้ ้ังปีเฉพาะเงนิ เดอื น (ตามตัวอยา่ ง 1) = 3,320.- บาท C§ คงเหลอื ภาษีเงนิ ได้ของโบนสั = 9,000.- บาท C§ บวก ภาษเี งินไดห้ ัก ณ ท่จี า่ ยเงินเดอื นของเดอื นมีนาคม (ตามตวั อยา่ ง 1) = 276.66 บาท C§ รวม ภาษตี ้องหกั ณ ที่จา่ ย เดอื นมนี าคม = 9, 276.66 บาท C
§ สรปุ ผู้จ่ายเงนิ ไดจ้ ะต้องหกั ภาษเี งินได้ ณ ทจ่ี า่ ยของ นาย ก. ใน กรณนี ้ี ดงั น้ี C§ เดือนมกราคม ถึง กมุ ภาพนั ธ์ เดือนละ = 276.66 บาท C§ เดอื นมนี าคม = 9, 276.66 บาท C§ เดอื นเมษายน ถึง พฤศจกิ ายน เดอื นละ = 276.66 บาท C§ เดือนธันวาคม = 276.73 บาท C
§ ตัวอยา่ งที่ 4 กรณีจำนวนคราวท่ีจ่ายเงนิ ได้พึงประเมินไม่ สมำ่ เสมอตลอดปีภาษี ตามข้อ 1(6) C§ จากตัวอยา่ งท่ี 1 นาย ก. ไดร้ ับเงินเดอื นและไดร้ ับเงนิ ค่าลว่ ง เวลาตาม จำนวนวันที่ทำงาน C§ เดอื นมกราคมได้รับค่าล่วงเวลา 6,500 บาท C§ เดือนกุมภาพันธไ์ ด้รับคา่ ล่วงเวลา 5,200 บาท C§ ผจู้ ่ายเงินได้ตอ้ งหกั ภาษเี งินได้ ณ ทจ่ี า่ ยดงั นี้ C
§ มกราคม C§ เงนิ เดอื นเสมือนหนงึ่ ว่าไดจ้ ่ายทัง้ ปี = 30,000 x 12 = 360,000.- บาท C§ บวก คา่ ลว่ งเวลาเดือนมกราคม = 6,500.- บาท C§ รวมเงนิ ไดพ้ ึงประเมิน = 366,500.- บาท C§ หกั คา่ ใชจ้ ่าย (40 % ไม่เกิน 60,000 บาท) = 60,000.- บาท C§ คงเหลือเงินไดห้ ลังจากหักค่าใช้จา่ ย = 306,500.- บาท C§ หกั ค่าลดหย่อน (30,000 + 30,000 + 34,000 + 9,600 + 13,200) = 116,800.- บาท C§ คงเหลือเงินได้สุทธิ = 189,700.- บาท C
§ ภาษีเงินได้ทัง้ ปีของเงินเดอื นรวมค่าลว่ งเวลา (150,000 ไดร้ ับยกเว้น) +(39,700 X10%) = 3,970.- บาท C§ หัก ภาษีเงินได้ทงั้ ปเี ฉพาะเงินเดือน (ตามตัวอยา่ ง 1) = 3,320.- บาท C§ คงเหลอื ภาษเี งินไดข้ องค่าลว่ งเวลาเดือนมกราคม = 650.- บาท C§ บวก ภาษีเงินได้หัก ณ ทีจ่ ่ายเงนิ เดอื นของเดอื นมกราคม = 276.66 บาท C§ รวมภาษีต้องหัก ณ ที่จา่ ยเดือนมกราคม (650 + 276.66 ) = 926,66 บาท C
§ กุมภาพันธ์ C§ เงนิ เดอื นเสมือนหนง่ึ วา่ ไดจ้ ่ายท้ังปี = 30,000 x 12 = 360,000.- บาท C§ บวก ค่าล่วงเวลาเดอื นมกราคม = 6,500.- บาท C§ บวก ค่าลว่ งเวลาเดือนกมุ ภาพนั ธ์ = 5,200.- บาท C§ รวมเงินไดพ้ ึงประเมิน = 371,700.- บาท C
§ หัก ค่าใช้จ่าย (40 % ไมเ่ กิน 60,000 บาท) = 60,000.- บาท C§ คงเหลอื เงินไดห้ ลังจากหกั คา่ ใชจ้ า่ ย = 311,700.- บาท C§ หกั ค่าลดหย่อน (30,000 + 30,000 + 34,000 + 9,600 + 13,200) = 116,800.- บาท C§ คงเหลือเงินได้สทุ ธิ = 194,900.- บาท C§ ภาษีเงนิ ไดท้ ั้งปีของเงินเดือนรวมคา่ ลว่ งเวลา (150,000 ไดร้ ับยกเวน้ ) + (44,900 X10%) = 4,490.- บาท C
§ หกั ภาษีเงนิ ได้ทั้งปีเฉพาะเงนิ เดอื น (ตามตัวอย่าง 1) = 3,320.- บาท C§ ภาษเี งนิ ได้ของคา่ ลว่ งเวลา = 1,170.- บาท C§ หัก ภาษเี งนิ ได้คา่ ลว่ งเวลาเดือนมกราคม = 650.- บาท C§ คงเหลือภาษีเงนิ ได้ค่าล่วงเวลาเดอื นกมุ ภาพันธ์ = 520.- บาท C§ ภาษเี งินได้หกั ณ ทจี่ า่ ยเงินเดือนของเดอื นกุมภาพันธ์ = 276.66 บาท C§ รวมภาษตี อ้ งหกั ณ ท่ีจ่ายเดือนกมุ ภาพนั ธ์ (520 + 276.66 ) = 796.66 บาท C
Search