6140308105น.ส.ณัฐกานต์ ชาวสวน ข้อสอบ1

รายงาน ขอ้ สอบ Take-home รายวชิ าการจดั การความร้เู พื่อการพัฒนาสงั คม เสนอ ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. กนกพร ฉิมพลี จัดทำโดย นางสาวณัฐกานต์ ชาวสวน 6140308105 รายงานเลม่ น้เี ปน็ ส่วนหนงึ่ ของการสอบกลางภาค รายวิชาการจดั การความรู้เพือ่ การพัฒนาสงั คม 219331 สาขาวชิ าการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครราชสีมา ปกี ารศึกษา 1/2564

คำนำ รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการสอบวิชาการจัดการความรู้เพื่อการพัฒนาสังคม โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้จัดทำได้ฝึกการการคิดและนำสิ่งที่ได้เรียนมาสร้างเป็นชิ้นงานเก็บไว้เป็น ประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของตนเองและครูต่อไปทั้งนี้เนื้อหาได้รวบรวมมาจากความคิดของ นักศึกษาและสิ่งที่อาจารย์สอนและจากอินเตอร์เนต็ ขอขอบพระคุณอาจารย์ผศ.ดร.กนกพร ฉิมพลี อย่างสูงที่กรุณาตรวจ ให้คำแนะนำเพื่อแก้ไขให้ข้อเสนอแนะผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้คงมี ประโยชน์ตอ่ ผทู้ ่นี ำไปใช้ให้เกิดผลตามความคาดหวงั ผู้จดั ทำ นางสาวณฐั กานต์ ชาวสวน

สารบญั หนา้ ก เรอื่ ง ข คำนำ 1 สารบัญ 2 อธบิ ายกระบวนการเกิดความรู้ 3 กระบวนการสร้างความรู้ 4 จงวเิ คราะห์กระบวนการจดั การความรู้ 5 จงอธบิ ายแนวทางการจัดความรู้เพอ่ื การพัฒนา บรรณานุกรม

1.จงอธิบายกระบวนการเกิดความรู้พร้อมยกตัวอย่างประกอบเพื่อสังเคระห์กระบวนการเกิด ความรขู้ องตนเองอยา่ งละเอียด ตอบ 1. การบ่งช้ีความรู้คือ การกำหนดนิยามของสง่ิ ทอ่ี งคก์ รต้องการให้บคุ คลากรเรียนรู้เพื่อบรรลุ วตั ถปุ ระสงค์ขององคก์ ร 2. การสร้างและแสวงหาความรู้คือสร้างความรู้ใหม่ๆ และนำความรู้ที่เราต้องการมาจัดเก็บ รวบรวม 3. การจัดความรู้ให้เป็นระบบคือ การนำความรู้มารวบรวมมาจัดประเภทเพื่อสะดวกต่อการค้นหา และใช้งาน 4. การประมวลและกล่ันกรองความรคู้ อื การทำให้เน้อื หาความรูม้ คี วามสมบูรณ์ 5. การเข้าถึงความรูค้ ือ การนำความร้มุ าใชง้ านให้สามารถเข้าถงึ ข้อมลู ไดง้ ่าย 6. การแบ่งปนั แลกเปล่ียนความรคู้ ือ มีการแบ่งปันความรู้ใหก้ นั 7. การเรียนรู้คือ นำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์และช่วยพัฒนาองค์กรจะทำให้เกิดการเรียนรู้ ประสบการณใ์ หมแ่ ละหมนุ เวียนไปอยา่ งต่อเนอ่ื ง -กระบวนการเกิดความรู้ของตนเองตัวอยา่ งเช่น คลิปแนะนำการสอนวิชาคณิตศาสตร์อนุบาลแบบ ระบบมอนเตสซอรี่เพื่อให้ผู้ปกครองหรือใครที่เห็นคลิปสามารถนำไปเป็นแนวทางในการสอนลูก สอนหลานได้และเป็นประโยนช์ต่อการคน้ หาได้อกี ดว้ ยค่ะ

2.กระบวนการสร้างความรู้หรือ SECI Model มีลักษณะเป็นอย่างไรและท่านมีแนวทางการสร้าง ความรจู้ ากModel ดังกลา่ วได้อยา่ งไรบา้ ง ตอบ มุ่งเน้นการสร้างความรู้ขององค์กรให้เติบโตขึ้นโดยการเชื่อมโยงการสร้างองค์ความรู้ทั้งใน รูปแบบความรู้ที่ชัดแจ้งให้เหมาะสมกับลักษณะของกลุ่มคนในองค์กรให้มีส่วนร่วมในการสร้าง ความรู้ มีวิธกี าร 4 ลักษณะ 1. การแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ 2. การสกดั ความรอู้ อกจากตวั คน 3. การควบรวมความรู้ 4. การผนึกฝงั ความรู้ -แนวทางการสร้างความรู้จากModelคือ สอนและแนะนำน้องได้รู้ถึงการทำวิจัยให้เข้าใจและ ถูกตอ้ ง

3.จงวิเคระหก์ ระบวนการจัดการความรู้โดยอธิบายว่าแตกตา่ งระหว่างกระบวนการจัดการความรู้ท่ี ประยุกตใ์ ช้ในภาคองคก์ รและกระบวนการจัดการความรู้ในชมุ ชนอย่างละเอียด ตอบ กระบวนการจัดความรู้โดยองค์กรคอื กระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรอื เอกสารมาพัฒนา ให้เป็นระบบเพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้รวมท้ัง ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและในส่วนการจัดการความรู้ของชุมชนคือการรวบรวมองค์ ความรู้ของชุมชนเพื่อเป็นคลังแห่งความรู้และคลังแห่งปัญญาในการที่จะนำไปถ่ายทอดแก่ผู้คนใน ชุมชนและนอกชุมชนโดยความรู้ นี้เองจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความยั่งยืน ตั้งแต่ระดับ ครอบครวั ชมุ ชน และประเทศชาตติ อ่ ไป

4.ในฐานะที่ท่านเป็นนักพัฒนานักสังคม จงอธิบายแนวทางการจัดการความรู้เพื่อการพัฒนา บัณฑิตสาขาวิชาการพัฒนาสังคมในอนาคตว่าควรมีรูปแบบ/แนวทางเป็นอย่าง ไรที่จะส่งผลให้ บณั ฑิตสาขาวิชาการพัฒนาสงั คมเปน็ บณั ฑติ ที่มีคุณภาพ ตอบ แนวทางที่จะส่งผลให้บัณฑิตสาขาวิชาการพัฒนาสังคมเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพคือความมี วินัยและความรับผิดชอบซื่อสัตย์สุจริตต่อตนเองและผู้อื่นความกตัญญูความเมตตา กรุณา โอบ อ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และไม่เห็นแก่ตัวประหยัดและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าปฏิบัติตนเป็น แบบอย่างแก่สังคมและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมีสุขภาพกายสุขนิสัยและสุขภาพจิตที่ดีมี สุนทรียภาพทั้งทางด้านศิลปะ ดนตรีและกีฬาความใฝ่รู้และเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดชวี ติ มีทักษะใน การทำงานสามารถทำงานเปน็ ทีมหรือทำงานรว่ มกบั ผู้อน่ื ได้ดี

บรรณานุกรม ณพศษิ ฏ์ จักรพทิ ักษ,์ \"ทฤษฎีการจดั การความร\"ู้ , บริษัท ธนาเพรส จำกัด., กรงุ เทพฯ, 2552. ประพนธ์ ผาสขุ ยืด, \"การจดั การความรู้ ฉบบั มอื ใหมห่ ดั ขบั \", สำนกั พิมพใ์ ยไหม, กรงุ เทพฯ, 2549. ประพนธ์ ผาสุขยดื , \"การจดั การความรู้ ฉบบั ขบั เคล่ือน\", สำนกั พมิ พใ์ ยไหม, กรุงเทพฯ, 2550. https://teen.mthai.com/education/170147.html?fbclid=IwAR0b2cJQ-S17HJO9- 0e_N4FQ7yq2BxV_O9S3knWF2-2h90uE41aXRB5F4hs.//สืบค้น 23 ตลุ าคม 2564. http://en.wikipedia.org/wiki/SECI_model_of_knowledge_dimensions.//สืบค้น 23 ตลุ าคม 2564. http://dsaapp.wu.ac.th/studentCharacter.asp.//สืบคน้ 30ตลุ าคม2564.