Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 631081212 อาญา

631081212 อาญา

Published by Guset User, 2021-10-02 17:52:49

Description: 631081212 อาญา

Search

Read the Text Version

คณะนิติ ศาสตร์ มหาวิทยาลั ยทั กษิ ณ CRIMINAL LAWW กฎหมายอาญา เสนอ : อาจารย์วีณา สุวรรณโณ นายเพทาย ธรฤทธิ์ รหั สนิสิต 631081212

CONTENTS สารบัญ 04 ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก อ สั ง ห า ริ ม ท รั พ ย์ 08 ค ว า ม ผิ ด ฐ า น ยั ก ย้ า ย ทำ ล า ย เ ค รื่ อ ง ห ม า ย เขต 12 ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก อ า ค า ร ห รื อ เ ค ห ส ถ า น โ ด ย ไ ม่ มี เ ห ตุ อั น ค ว ร 18 เ ห ตุ เ พิ่ ม โ ท ษ 19 บ ร ร ณ า นุ ก ร ม

MAIN TOPIC PAGE 03 CRIMINAL LAW ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก ความผิดฐานบุกรุกเป็นการกระทำต่ออสังหาริมทรัพย์ไม่ จำกัด เฉพาะที่ดินรวมถึงเคหสถานและอาคารด้วย การเข้าไปดู ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ไม่ใช่การบุกรุก ในความหมายนี้ในเรื่อง ของการบุกรุกกฎหมายอาญา ได้แบ่งลักษณะของความผิด ออกเป็น 3 ลักษณะ คือ (1) การบุกรุกเพื่อถือเอาหรือเข้าไปรบกวนการครอบครอง (2) การยักย้ายหรือทำลายเครื่องหมายเขตและ (3) การเข้าไปหรือซ่อนตัวอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ (4) เหตุเพิ่มโทษ

สั ญ ญ า เ ช่ า ซื้ อ PAGE 04 1. ความผิดฐานบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ มาตรา 362 ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อถือ การครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครอง อสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 05 ความผิดที่ 1 องค์ประกอบภายนอก (1) เข้าไป (2) ในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น องค์ประกอบภายใน (1) เจตนาธรรมดา (2) มูลเหตุชักจูงใจ เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้น ทั้งหมดหรือ แต่บางส่วน ความผิดฐานบุกรุกเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้ อื่น การกระทำ ได้แก่ การเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นด้วย เจตนาประกอบ “มูลเหตุชักจูงใจ” เพื่อถือการครอบครอง อสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือ แต่บางส่วน

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 06 ความผิดที่ 2 องค์ประกอบภายนอก (1) เข้าไปกระทำการใด ๆ (2) อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดย ปกติสุข องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา ได้แก่ การเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบ ครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข ดังนี้ กฎหมายมุ่งที่การ ครอบครองไม่ใช่กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นแม้เรือนจะเป็น กรรมสิทธิ์ของจำเลยแต่จำเลยอนุญาตให้โจทก์ครอบครองอยู่อาศัย ถ้าเข้าไปรบกวนการครอบครองของเขาโดยปกติสุข จำเลยก็มีความ ผิดฐานบุกรุกได้ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญอยู่ที่การ “เข้าไป” ถ้า บุกรุกเข้าไปแล้ว แม้ที่ดินจะเปลี่ยนเจ้าของไปก็ไม่เป็นการบุกรุกขึ้น ใหม่ คือ ไม่เป็นความผิดต่อเนื่องตลอดเวลาที่อยู่ในอสังหาริมทรัพย์ นั้น การไม่ยอมเลิกครอบครองไม่ผิดตามมาตรานี้เพราะไม่มีการเข้าไป แต่ถ้าการครอบครองสิ้นสุดไปแล้วเจ้าของห้ามไม่ให้เข้ายังขึ้นเข้าไป เป็นบุกรุก

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 07 ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกา คำพิพากษาฎีกาที่ 105/2520 จำเลยถูกฟ้องว่าบุกรุกที่พิพาท ศาลลงโทษไปแล้ว การ ที่จำเลยอยู่ในที่พิพาท ต่อมาหลังจากศาลพิพากษาคดีก่อน แล้ว แม้ต่อมาที่พิพาทจะเปลี่ยนมือเป็นของผู้อื่น จำเลยก็ ยังไม่ได้ทำประการใดที่จะถือว่าเป็นกรรมใหม่ คงอยู่ในที่ พิพาทต่อมาตามปกติ จึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามที่ โจทก์ฟ้อง คำพิพากษาฎีกาที่ 2566/2525 จำเลยซึ่งเป็นบุตรเจ้าของโรงเรียนไม่มีหน้าที่อันใดใน โรงเรียนไปยืนอยู่หน้าห้องขัดขวางการประชุมครูของโจทก์ ร่วมครูใหญ่และผู้จัดการโรงเรียนซึ่งเช่าจากบิดาจำเลย ดังนี้จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 08 2. ความผิดฐานยักย้าย ทำลายเครื่องหมายเขต มาตรา 363 ผู้ใดเพื่อถือเอาอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเป็น ของตนหรือของบุคคลที่สาม ยักย้ายหรือทำลายเครื่องหมายเขต แห่งอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้ง ปรับ

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 09 องค์ประกอบภายนอก (1) ยักย้ายหรือทำลาย (2) เครื่องหมายเขตแห่งอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน องค์ประกอบภายใน (1) เจตนาธรรมดา (2) เพื่อถือเอาอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเป็นของตนหรือของบุคคลที่ สาม การกระทำดังกล่าวทำให้ผู้กระทำได้ที่ดินเพิ่มขึ้นโดยเคลื่ อนย้าย หรือทำลายเครื่องหมายเขต เช่น ย้ายหมุดเขตที่ดินออกไป

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 10 “เครื่องหมายเขต” อาจเป็นหมุดที่ดินของเจ้าพนักงานที่ทำไว้หรืออาจจะเป็นต้นไม้คู คลองหรือแนวคันนาก็ได้ ที่แสดงสิทธิแห่งอสังหาริมทรัพย์ มิใช่หลัก ที่เป็นปักชั่วคราวในการทำแผนที่พิพาทหรือสังเขปเพื่อการบังคับคดี อาจทำโดยการ “ยักย้าย” คือ เคลื่อนที่ไปหรือทำลายเสียก็ได้ เช่น ตัด ฟันต้นไม้หรือจอมปลวก หัวคันนาที่เป็นเครื่องหมายของเขตที่ดิน หากเป็นคูคลองก็ ได้แก่ การถมคูคลองเอาเป็นของตัวเสีย การปลูก ต้นไม้เป็นแนวเขตแล้วก็ตัดหน่อที่อยู่ด้านของตน ทำให้ต้นไผ่อันเป็น แนวเขตรุกไปยังที่ข้างเดียวเป็นต้น

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 11 ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกา คำพิพากษาฎีกาที่ 4723/2529 โจทก์จำเลยมีกรณีพิพาทฟ้องร้องแย่งสิทธิครอบครอง ที่นาพิพาทกัน ระหว่างพิจารณาคดีนั้นศาลอนุญาตให้ จำเลยเข้าทำนาพิพาทโดยเสียค่าเช่า จำเลยย่อมมีสิทธิ ครอบครองที่พิพาทการที่จำเลยหว่านถั่วเขียวลงใน ที่นา พิพาทแม้หลังจากศาลฎีกาพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจาก ที่นาพิพาท แล้ว ก็เป็นกรณีที่จำเลยไม่ยอมสละการครอบ ครอง มิใช่เพิ่งเข้าไปครอบครองที่นาพิพาทในวันเวลาที่ โจทก์ฟ้อง การกระทำของจำเลย จึงไม่เป็นความผิดฐาน บุกรุกหลักไม้ที่จ่าศาลปักไว้ในที่พิพาทเพื่อการรังวัดสอบ เขตตามคำสั่งศาล เป็นเครื่องหมายเขตที่ทำขึ้นเป็นสังเขป เพื่อประโยชน์แก่การบังคับคดี มิใช่เครื่องหมายเขตแห่ง อสังหาริมทรัพย์ การที่จำเลยถอนหลักไม้ดังกล่าวทิ้ง จึงไม่ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 363

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 12 3. ความผิดฐานบุกรุกอาคาร หรือเคหสถาน โดยไม่มีเหตุอันควร มาตรา 364 ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เข้าไปหรือซ่อนตัวอยู่ ในเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบ ครองของผู้อื่น หรือไม่ยอมออกไปจากสถานที่เช่นว่านั้นเมื่อผู้มีสิทธิ ที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 13 ความผิดที่ 1 องค์ประกอบภายนอก (1) เข้าไปหรือซ่อนตัวอยู่ (2) ในเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบ ครองของผู้อื่ น (3) โดยไม่มีเหตุอันสมควร องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา การกระทำได้แก่ การเข้าไปหรือซ่อนตัวอยู่ในเคหสถาน อาคารเก็บ รักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่ นโดยไม่มีเหตุ อันควร “เข้าไป” หมายความว่า ต้องเข้าไปทั้งตัว เช่น เถียงกันในห้อง รับแขกแล้วตามเข้าไปต่อยในห้องนอนหรือทำร้ายเขาในครัว มิใช่ เพียงแต่ร่างกายส่วนหนึ่งส่วนใดล่วงล้ำเข้าไป เช่น ยื่นมือผ่านบาน เลื่อนเข้าไปในห้องพักแล้วลักเงินไม่เป็นการ “เข้าไป” ลักทรัพย์ใน เคหสถาน และหมายความเฉพาะเข้าไปในตัวอาคารสถานที่เท่านั้น เข้าไปในถนนเขตอาคารโรงเก็บสินค้าไม่ผิดมาตรานี้ เข้าไปอยู่ระหว่าง รั้วกับคอกสุกรไม่เป็นบุกรุกเคหสถาน ความผิดสำเร็จทันทีที่มีการล่วง ล้ำเข้าไป การอยู่ต่อไปไม่เป็นความผิดต่อเนื่องหากไล่ตามไปถึงบันได จะเข้าบ้าน แต่มีคนดึงไว้ขึ้นไปไม่ได้เป็นเพียงพยายามบุกรุก “ซ่อนตัวอยู่” หมายถึง ขณะเข้าไปอาจไม่เป็นความผิด เช่น ได้รับ เชิญเข้าไปหรือไปดูภาพยนตร์ เมื่อถึงเวลาออกกลับซ่อนตัวอยู่ ไม่ ยอมออกโดยไม่มีเหตุอันควร เช่น บุกรุกเข้าไปดูหมิ่นเขา เข้าไปเอา จักรยานที่จำนำเอาไว้คืน

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 14 ความผิดที่ 2 องค์ประกอบภายนอก (1) ไม่ยอมออกไป (2) จากเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์หรือสำนักงานในความครอบ ครองของผูั้อื่ น (3) เมื่อผู้มีสิทธิที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออก (4) โดยไม่มีเหตุอันสมควร องค์ประกอบภายใน เจตนาธรรมดา การไม่ยอมออกไปจากสถานที่นั้น เมื่อผู้มีสิทธิที่จะห้ามมิให้เข้าไป ได้ไล่ให้ออก การ \"ไม่ยอมออก\" เป็นความผิดเมื่อถูกไล่แล้วไ่มยอม ออกจากสถานที่ที่ผู้อื่นครอบครองอยู่ ถ้าเป็นสถานที่ที่ตนเองครอบ ครองอยู่ ไม่ผิดมาตรานี้ “ผู้มีสิทธิห้ามมิให้เข้าไป” นั้น ได้แก่ ผู้ครอบครองหรือเจ้าของ สถานที่นั้น โดยไม่มีเหตุอันสมควรจำเลยกับพวกเข้าค้นเรือนโจทก์โดยไม่มี หมายค้น ผู้ที่เฝ้าได้ห้ามปรามแล้วยังขึ้นเข้าไป ถือว่าจำเลยมีเจตนา เข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร มีความผิดตามมาตรา 364 แต่ไม่ผิดตาม มาตรา 362 เพราะไม่มีเจตนารบกวนการครอบครอง หรือการที่จำเลย เข้าไปในตึกแถวคูหาหนึ่งและปีนขึ้นไปบนหลังคาของตึกแถวอีกคูหา หนึ่งเพื่อสำรวจดูทรัพย์สินของมีค่าภายในตึกแถวทั้งสองคูหาดัง กล่าว เป็นการเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควรอัน เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 ไม่ใช่ 362

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 15 ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกา คำพิพากษาฎีกาที่ 1699/2529 แม้จำเลยจะได้จำนำรถจักรยานของจำเลยไว้กับผู้ เสียหายจำเลยก็ไม่มีเหตุอันสมควรที่จะลักลอบเข้าไปเอารถ จักรยานดังกล่าวในบ้านของผู้เสียหายในเวลา 5.30 น. จำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุก จำเลยเข้าไปในบ้านของผู้ เสียหายเพื่อเอารถจักรยานของจำเลย เมื่อผู้เสียหายส่อง ไฟฉายมาที่จำเลย จำเลยก็ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้วจึง เอารถจักรยานไป พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่แน่ชัดว่าจำเลย กระทำไปเพื่อปกปิดความผิดฐานบุกรุก จำเลยอาจยิงผู้เสีย หายเพื่อไม่ให้ผู้เสียหายขัดขวางการเข้าไปเอารถจักรยาน ของจำเลยในบ้านผู้เสียหายก็ได้ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้อง ถึงความผิดในส่วนนี้ของจำเลย จึงลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ประกอบกับมาตรา 80 ไม่ได้

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 16 4. เหตุเพิ่มโทษ มาตรา 365 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 362 มาตรา 363 หรือมาตรา 364 ได้กระทำ (1) โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลัง ประทุษร้าย (2) โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ สองคนขึ้นไป หรือ (3) ในเวลากลางคืน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 17 การกระทำความผิดตาม 1,2และ3 ผู้กระทำจะต้องรับโทษหนักขึ้น (มาตรา 365) ถ้าได้กระทำ (1) โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เช่น ยามเฝ้าอาคารให้เปิดประตูมิฉะนั้นจะทำร้ายหรือฆ่าให้ตายเป็นต้น (2) โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เช่น ชายเรียกให้หญิงเปิดประตู หญิงไม่เปิด ชายจึงผลัก ประตูรั้วบ้านเข้าไปข่ม ขู่โดยใช้อาวุธ ใช้ปืนยิงขู่ไล่ให้ผู้อื่นออกไปจากที่ ครอบครองอยู่ (3) ในเวลากลางคืน เช่น บุกรุกเข้าไปดูหมิ่นในเวลากลางคืนเป็น เหตุฉกรรจ์ตามข้อนี้สนามหญ้าบริเวณที่เกิดเหตุ แม้จะเป็นสนามหญ้า ตลอดติดต่อเป็นผืนเดียว ไม่มีรั้วล้อมรอบ ไม่มีเครื่องหมายแสดงให้ ทราบว่าเป็นแนวเขตของบ้านพักก็ตาม แต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าบริเวณที่ เกิดเหตุซึ่งเป็นสนามหญ้านั้นอยู่หน้าบ้านพักอันเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ เสียหาย จำเลยที่ 6 เข้าไปในบริเวณดังกล่าวแล้วใช้กำลังประทุษร้ายผู้ เสียหายจึงเป็นการเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหาย โดยมีเหตุอัน สมควรอันเป็นความผิดฐานบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย

ค ว า ม ผิ ด ฐ า น บุ ก รุ ก PAGE 18 ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกา คำพิพากษาฎีกาที่ 1314/2526 จำเลยกับผู้เสียหายอยู่กินด้วยกันโดยไม่ได้จด ทะเบียนสมรสเพียง 2 เดือนก็เลิกกัน ต่อมาจำเลยฟ้อง เรียกเอาค่าสินสอดคืนจากฝ่ายผู้เสียหายศาลพิพากษา ยกฟ้อง แสดงว่าจำเลยได้แสดงเจตนาเลิกกับผู้เสียหาย โดยเด็ดขาดแล้ว ผู้เสียหายหามีความสัมพันธ์ฉันสามีภริยา กับจำเลยอีกต่อไปไม่ ผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มีคนนั่ง ซ้อนท้ายมาด้วย จำเลยเข้ามาขวางกระชากแขนผู้เสียหาย ลงจากรถ เข้ากอดปล้ำและพยายามฉุดให้ไปกับจำเลย จำเลยจึงมีความผิดฐานกระทำอนาจารตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 278 จำเลยเรียกให้เปิดประตูรั้ว ผู้ เสียหายไม่ยอมเปิด จำเลยซึ่งเลิกร้างกับผู้เสียหายไปแล้ว จึงไม่มีสิทธิผลักประตูรั้วเข้าไปในบ้านผู้เสียหายโดยพลการ เมื่อเข้าไปโดยไม่มีเหตุสมควรและพูดจาข่มขู่ผู้เสียหายด้วย ตามพฤติการณ์ที่จำเลยฉุดกระชากและกอดปล้ำผู้เสียหาย และยังตามมารบกวนข่มขู่ถึงบ้าน โดยมีอาวุธปืน จึงมี ความผิดตาม มาตรา 365(2) อีกกระทงหนึ่ง

REFERENCES บรรณานุกรม ศาสตราจารย์ ดร.ทวีเกยี รติ มีนะกนิษฐ, คาอธิบาย กฎหมายอาญา ภาคความผดิ และลหโุ ทษ. พิมพค์ รง้ั ที่ 18. กรงุ เทพฯ: สานกั พิมพ์ วิญญชู น เกยี รติขจร วจั นะสวสั ด์ิ, คาอธิบายกฎหมายอาญา ภาคความผดิ , สานกั พิมพว์ ิญญชู น, 2542

THYAONUK


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook