Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือระบบท่อและสุขภัณฑ์_20200128

คู่มือระบบท่อและสุขภัณฑ์_20200128

Published by wichai.kum, 2020-07-16 04:54:23

Description: คู่มือระบบท่อและสุขภัณฑ์_20200128

Search

Read the Text Version

คาํ นาํ หนังสือน้ีจดั ทาํ ข้ึนเพ่ือใช้ประกอบการเรียนการสอน กลุ่มวิชางานระบบท่อและสุขภณั ฑ์ หลักสูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง สํานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมุ่งเนน้ ให้ผู้ เขา้ อบรมไดพ้ ฒั นาความรู้และทกั ษะวิชาชีพดา้ นระบบงานประปา ท้งั น้ี เน้ือหาภายในหนังสือครอบคลุมกระบวนการปฏิบตั ิงานที่เกี่ยวกบั ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ ต้งั แต่ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน กระบวนการติดต้งั ที่ถูกตอ้ งและเหมาะสมกบั การใช้งาน การปฏิบัติงานที่ คาํ นึงถึงความปลอดภยั และสุขอนามยั ของท้งั ผูป้ ฏิบตั งิ านและผูใ้ ช้งาน รวมไปถงึ บูรณาการนวตั กรรมงานระบบ ท่อระดบั สากล เพ่ือให้สอดรับกบั เทคโนโลยีที่ทนั สมยั และนวตั กรรมของระบบท่อทพี่ ฒั นาอย่างต่อเนื่อง โดย เป็นไปตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละมาตรฐานรายวชิ าระบบท่อและสุขภณั ฑ์ สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมมือกบั บริษทั นวพลาสติกอุตสาหกรรม จาํ กดั ผูผ้ ลิตท่อ และขอ้ ต่อพีวซี ี ท่อพพี อี าร์ เอสซีจี ภายใตเ้ ครือซิเมนตไ์ ทย เป็นผูร้ ่วมพฒั นาและจดั ทาํ หนงั สือเล่มน้ีข้ึน และหวงั เป็ นอย่างย่ิงว่า หนังสือเล่มน้ีจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความรู้ดา้ นงานระบบท่อและสุขภณั ฑ์ ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และผูอ้ ่านทุกท่าน เพื่อให้สามารถนาํ องค์ความรู้จากหนงั สือเล่มน้ีไปใชง้ านไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไป (นายปรเมษฐ ลานรุ่งโรจน์) กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั นวพลาสติกอตุ สาหกรรม จาํ กดั i

คคาํ นําิยนมยิ ม คอบเจจราะําวรยี อกศษาิ งอรเกคออมดยััทพั่วาตุุตวก“รฯคมรใจราอสสไนาพมู่ามมปฃบาาแะเกฒอัืือแหหปอครลทกกกขแู้แกกะรรนัขงา้า็งสลอะันสืรราทรอรแกรระาํซดเชทเารมกมทแนอรเงิา่ียก�งีมรบสยกนคัีังแบบ่จงรนฝนงววดสละใําเรีาตามชิมกรหผงิะกษนมียไา์ือ้คายกับมดััททคชยงรใบั้วไาหเสณพนฯยีิใ“ดานพผ้คอนมดใอ้ม้ะอทู(แอ�ืนน่มูเคีกSีก่าคยย่ีรลจงดืวอนบCัรอ่รูอิะะนาาา้กรคืสอGงอานสมนมดาราู่มํซศอํ)รารีกงรบกนัิอเืยัะอกนาเผมาักบกัรบเบนไักผูร้ลจีนยางปสบอทรงม่ลารานต้ํูปแาทาากเ่อตนิน์ไกปลชนนร่อแกททค�ีอาะะวลีัตกคลายยณอ่รกทศย�ี่าะรงณสแ่าอกนัึะนทสง(างอลSกๆบะษสุขแี่กลนนะCรกมวภปะราขคดทริGชเะรตยัลณอั้้มอาณงรผัา�่าง)ตนยีกใมฑเชมงทะผพน่องดากกีพไ”้์ากผูาพอ่อืรดเ็างใกนเอลาลรรว้ีอนลเรอครราทิตทง็ซีก่ม่างะชมเงา่อทคนีาาหผนรรแวีกแ่อโนรบัคพนม�ีข็ศลนลาอแรู่มกไน�ถึะกาึโะะรลาดาืพอณมลงึษสกบชะรพ้คเยาพีุขาชีเลิาขวบวปบีแภ้อีอ่ยรศมคแทาลวลอาณัตึ์วกนลม่อ่าใยี่ะราา่อะีษอสนต้บฑ์นมเเช“พยําอ่าาสนรตแ์”รีคว่าีงวาษตริป�อืรว่เศญๆงคัีซมลิ่าาทหมัลลึีากเ่สมงขทมงาแอะรกนรษนอทใงัอลอสเ้ืา้น็เอวใงีขาานุ้ตซะลงนกพหียงึนค้พ�ีสเ็จีงอแเาดกลนมทวาเ”ีีพราลหดาิงัหาากคพทีอคสะส็ขมนกรโคไา�ฒาีัตอบืนน�แึะถรดรวรคกิผขนโเรร์ึงพรา้พลิ่มอ“ูมษงม็าคว่มาตยุแรตอชืมไัวทณรแรีากดคส่า่ามวแาละ้งรพาิชอ่นมมลอเทืะฝง่หอนยบะมกวสบงใัีม�สก์ขเหวพํทนืาอัา้ใสอืซรา่้านนกค้นเาลรรใีจงรงิอบัอมหัีญเเมา้จยี”ีนกยาผสม้ะสบดิืขอทคู้่มรทู้ีตขอห้่ีไาาี�ีิดกนึางงร้ ้ ควาใมนสหมนบงั รูสณือค์ เ่มูหอืมคาอ่ะสนมข้กางบั จกะามรีคเรวยี านมกสามรบสูรอณน์ใเนหรมะาดะบั สอมากชบั วี กศากึ รษเราียขนอกงาสรถสาอบนนั ใอนารชะวีดศบั กึ อษาาชตีวศ่างกึ ๆษใานขสองั งกสดั ถขาอบงัน สาํ นอักางชาีนวศคึกณษะากตรร่ามงๆกาใรนอสาชังกวี ัดศกขึ อษงาสเปํา็นนอักยงา่างนยคงิ� ณเพะรการะรจมะกทาาํ รใหกาส้ ราอมาาชรถีวผศลึกติษบาุคเปล็านกอรยอ่าองกยไ่ิงปเเปพ็นราชะ่าจงทะทม�ี ําี ให้ ฝีมอื สามมคี าวราถมผรลทู้ ิตางบทคุ งั�ลดาา้ กนรปอฏอกบิ ไตั ปแิ เลปะ็นทชฤ่าษงทฎี่มที ีฝเ�ี ีกม�ยีือวมขีคอ้ วงาผมสรมู้ทผัง้สทาานงกดนั้าไนปปฏอิบนั ตัจะิแเลปะ็นทกฤาษรฎไปีทอี่เกุดยี่ชวอ่ ขง้อวงา่ ผงรสะมหผวสา่ างน วศิ วกกนั รไแปละอผนั ปู้ จฏะบเิ ปตั ็นงิ กาานรรไะปดอบั ดุ ลชา่ อ่ งงทวป�ีา่ รงะระเทหศวข่างอวงศิเรวากยรงัแขลาะดผแ้ปู คฏลบิ นตั อิงยาู่ นตรวั ะอดยบั า่ ลงขา่ องทงเี่ปนร�ือะหเทาศทขส�ี อาํ งคเญัรายองัาขทาเิ ดชแ่นคลน การออย่านู่ ตแวั บอบยา่ กงาขรอปงรเนะมือ้ หาณาทร่สีาําคคาญั อุปอการทณเิ ช์ น่เคกราอ�ื รงอม่าอื นทแใ�ี บชบใ้ นกงาารนปทรอ่ ะมวาสั ณดุทราอ่ คชานอดิ ปุตกา่ งรณๆแ์ เลคะรข่ืออ้ งบม่งอื ชทใ�ี่ีในชก้ในารงานท่อ เลอื กวัสใชดง้ ุทา่นอขชอนงิดทตอ่ ่าแงตๆ่ลแะชลนะิดข้อโบด่ยงชเฉีใ้ พนกาะาขรอ้เลบือ่งกชใใ�ี นช้กงาานรนขําอเงอทาท่ออ่แพต่ลลาะสชตนกิิดมโาดทยดเแฉทพนากะาขร้อใชบท้่ง่อชีเใ้ หนลกก็ าอรานบําเอา สงั กทะส่อพี ทล่อาเสหตลกิ ก็ มหาลท่อดแแลทะนทกอ่าทรใอชง้ทแอ่ ดเงหลซ็กง�ึ อจาะทบาสํ ใงั หกค้ะ่าสใี ชทจ้อ่ า่เหยลข็กอหงกลา่อรแสลรา้ะงทบอ่ า้ ทนอหงรแอืดโงครซงึง่ กจาะรทตํา่าใงหๆ้คา่ทใงัช� เ้จล่าก็ ยแขลอะง ใหญก่สาารมสาร้ราถงลบด้าลนงหไรปือไโดคเ้รปง็นกอารยตา่ ่างมงๆากทัง้ผเทลู้ ็กจ�ี แบลกะาใรหศญกึ ษ่สาาตมาามรหถลกดั สลูตงไรปนไ�ีอดย้เป่าง็นถอ่อยง่าแงทม้ าจกะเผป้ทู็น่ีจผบทู้ กม�ี าที รกัศษึกะษใานตาม งานหทล่อักตส่างตู ๆรนสีอ้ ายม่าางรถถ่อกงา้ แวทไ้ปจพะรเปอ้ ็มนกผ้บทูั ี่เมทีทคักโษนะโลในยงที าท�ี นนั ทส่อมตยั ่างแๆละสนาวมตั ากรรถรกม้าใวหไมปๆ่ พขร้องมงกาบันเรทะคบโบนทโลอ่ ยแีทล่ีทะันพสรอ้มมัย ทจ�ี ะแกล้าะวนอวอตักกสรตู่ รลมาใดหแมรๆ่ งงขาอนงองายนา่ รงะมบคี บุณทภอ่ าแพละพร้อมท่ีจะก้าวออกสตู่ ลาดแรงงานอย่างมคี ณุ ภาพ นายอรรถพล สงั ขวาสี ผชู้ ว่ ยเลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ ii

สารบญั หน้า 1 บทที่ เนือ้ หา 1 1 ระบบท่อ 3 11 1.1 บทนาํ 17 1.2 การอา่ นแบบ 17 1.3 การประมาณราคาท่อเบ้อื งตน้ 41 2 งานท่อและสุขภัณฑ์ 53 2.1 ท่อและขอ้ ต่อ 53 2.2 สุขภณั ฑ์ 56 3 เคร่ืองมือ-อปุ กรณ์งานท่อและสุขภัณฑ์ 59 3.1 เคร่ืองมือวดั ระยะ 61 3.2 เคร่ืองมือ-อุปกรณ์งานทอ่ เหลก็ กลา้ 65 3.3 เครื่องมือ-อุปกรณ์งานทอ่ พลาสติก 66 3.4 เครื่องมอื -อุปกรณ์งานสุขภณั ฑ์ 68 3.5 เครื่องมือ-อปุ กรณ์งานเจาะและควา้ น 73 3.6 เครื่องมือทดสอบ 73 3.7 การบาํ รุงรักษาเครื่องมือและอปุ กรณ์ 73 4 การติดต้งั ระบบท่อและสุขภัณฑ์ 78 4.1 การแยกรายการวสั ดุงานท่อและสุขภณั ฑ์ 80 4.2 มาตรฐานและขอ้ กาํ หนดในการติดต้งั ระบบท่อ 113 4.3 การติดต้งั ระบบป้องกนั การกระแทกของน้าํ 123 4.4 การตอ่ ประกอบติดต้งั ท่อและสุขภณั ฑช์ นิดต่างๆ 123 4.5 งานระบบทอ่ ในอาคาร 125 5 การทดสอบระบบท่อ 129 5.1 การทดสอบระบบทอ่ รับแรงดนั 130 5.2 การทดสอบระบบทอ่ ระบายน้าํ และระบายอากาศ บรรณานุกรม iii คณะผ้จู ดั ทาํ



ระบบท่อและสขุ ภณั ฑ์ บทที่ 1 ระบบท่อ 1.1 บทนํา ช่างท่อสุขภณั ฑ์มีหน้าท่ีติดต้งั ระบบท่อต่างๆ ของอาคาร เพื่อความเหมาะสม และความสุขสบาย อยา่ งถูกลกั ษณะของผูใ้ ชส้ อยอาคารน้นั ๆ ช่างทอ่ และสุขภณั ฑ์จึงตอ้ งมีหนา้ ที่ในระบบจดั ส่งน้าํ ท่ีใชอ้ ุปโภค บริโภคท่ีมีความปลอดภยั เขา้ สู่อาคาร และรวมถงึ ระบบระบายน้าํ ทต่ี อ้ งการกาํ จดั น้าํ ทง้ิ และน้าํ โสโครก ไป ยงั ท่อระบายน้ําจะนําน้ําส่งต่อไปยงั จุดที่สามารถปล่อยท้ิงได้ หรือส่งต่อไปยงั โรงบาํ บดั ของเสียต่อไป นอกจากน้ีช่างทอ่ และสุขภณั ฑต์ อ้ งมีหนา้ ที่ตอ่ การซ่อมบาํ รุงรักษาและซ่อมแซมท่อตา่ งๆ อีกดว้ ย โดยทวั่ ไป แลว้ ระบบท่อภายในอาคารจะมดี งั ตอ่ ไปน้ี 1.1.1 ระบบท่อนา้ํ เย็น (Cold Water Piping) และระบบท่อน้ําร้อน (Hot Water Piper) ระบบประปา จดั ส่งน้าํ เยน็ (หรือน้าํ ประปา) ให้อาคารอยา่ งเพียงพอกบั การใช้สอยของผูใ้ ช้ อาคารน้นั โดยมีความดนั และอตั ราการไหลท่พี อเหมาะ ความดนั ของน้าํ ที่เครื่องสุขภณั ฑต์ า่ งๆ ตอ้ งการ เพ่อื การทาํ งานอยา่ งเหมาะสม ส่วนใหญ่จะมีค่าอยูร่ ะหว่าง 0.35 ถึง 1.4 บาร์ (bar) (5 ถึง 20 psi) ท้งั น้ีข้ึนอย่กู บั ชนิดของเครื่องสุขภณั ฑ์ ขนาดของท่อจ่ายน้าํ จะตอ้ งมขี นาดเพียงพอแก่การจ่ายน้าํ โดยไม่ทาํ ให้เกิดเสียงดงั จนเป็นท่ีน่ารําคาญ อุปกรณ์ที่เกี่ยวขอ้ งกบั ระบบน้าํ เช่น เครื่องสูบน้าํ เคร่ืองสุขภณั ฑ์ และถงั เก็บน้าํ ควรจะ ไดร้ ับการเลือกและติดต้งั เพื่อท่ีจะให้สามารถบาํ รุงรักษาไดง้ ่าย และมีเคร่ืองสํารองการใช้งานตามความ จาํ เป็น 1.1.2 ระบบท่อนํา้ เสีย (Waste Water Piping) ท่อท่ีใชใ้ นการระบายน้าํ เสียอ่ืนๆ ซ่ึงไม่มีมูลของมนุษยอ์ ย่ดู ว้ ย ท่อท่ีใชส้ าํ หรับระบายน้าํ จาก อ่างลา้ งชาม อ่างลา้ งมอื อ่างซกั ผา้ อา่ งอาบน้าํ ฝักบวั อาบน้าํ เคร่ืองซกั ผา้ จดั ไดว้ า่ เป็นท่อน้าํ เสีย ทอ่ น้าํ เสียที่ เดินในแนวดิ่ง เรียกว่า waste stack และท่อน้าํ เสียแนวนอน เรียกว่า branch waste pipe หรือท่อแยกของท่อ น้าํ เสีย 1.1.3 ระบบท่อนา้ํ โสโครก (Soil Piping) ท่อท่ีใชใ้ นการระบายมูลของมนุษย์ เช่น น้าํ โสโครกทร่ี ะบายจากโถส้วม โถปัสสาวะ เป็นตน้ ท่อน้าํ โสโครกท่ีอยู่ในแนวด่ิงเรียกว่า soil stack และท่อน้าํ โสโครกในแนวนอน เรียกว่า branch soil pipe หรือ ทอ่ แยกของน้าํ โสโครก ระบบท่อ 1 1

ระบบท่อและสขุ ภัณฑ์ ระบบท่อน้าํ เสียและโสโครก ควรไดร้ ับการออกแบบและติดต้งั เพื่อป้องกนั มิให้เกิดการอดุ ตนั ไดง้ ่าย ระบบท่อควรจะมีช่องลา้ งท่อ (Cleanout) อยา่ งเพียงพอ ช่องลา้ งท่อมีลกั ษณะเป็ นฝาครอบแบบ เกลยี วปิ ดปลายทอ่ ท่สี ามารถเปิ ดฝาเพ่ือทาํ ความสะอาดทอ่ เมอ่ื อุดตนั ได้ โดยวธิ ีการทาํ ความสะอาด สามารถ เปิ ดฝาช่องลา้ งท่อ (Cleanout) และตกั สิ่งที่อุดตนั ออกหรือดนั เขา้ ไป เพ่ือให้ไหลลงไปตามท่อ หรือเรียกรถ สูบสิ่งปฏกิ ูลมาสูบของเสียท่ีอยใู่ นท่อออกไปได้ เคร่ืองสุขภณั ฑ์ทุกชนิดท่ีต่อเขา้ กบั ระบบท่อน้าํ เสียของอาคารโดยตรง จะตอ้ งมีอุปกรณ์ดกั กล่ิน (Trap) เพื่อป้องกนั มใิ ห้ก๊าซหรือกลิ่นเหม็นจากทอ่ น้าํ เสียระเหยกลบั เขา้ มาในห้องไดแ้ ละอากาศเสียที่ อย่ภู ายในท่อน้าํ เสียจะตอ้ งไดร้ ับการระบายออกไปนอกอาคารทางท่ออากาศ (Vent Piping) เพื่อให้น้าํ เสีย ภายในทอ่ ไหลไดส้ ะดวก 1.1.4 ระบบท่ออากาศ (Vent Piping) ท่ออากาศ เป็นท่อท่ีต่ออยกู่ บั ท่อระบายน้าํ ใกลท้ ี่ดกั กลิ่น (Trap) หรือต่ออย่กู บั ท่อส่วนอื่นๆ ของท่อระบายน้าํ เพ่ือจุดประสงคใ์ นการรักษาความดนั ภายในระบบท่อระบายน้าํ ให้มีการแปรเปลยี่ นนอ้ ย ที่สุด โดยการจดั ให้อากาศผ่านเขา้ และออกจากทอ่ ระบายน้าํ ได้ ท่ออากาศควรต่อออกไปนอกอาคารและให้ อยสู่ ูงกวา่ อาคารอยา่ งนอ้ ย 150 มม. หรือยนื่ ออกไปนอกอาคารมากพอที่จะไมม่ ีกลิ่นรบกวน 1.1.5 ระบบท่อระบายนา้ํ ฝน (Storm-Water Piping) ในทกุ อาคารควรจดั ให้มีท่อระบายน้าํ ฝน ขนาดท่ีพอเพยี งต่อการระบายน้าํ ฝนออกจากอาคาร ในระยะเวลาที่เหมาะสม แลว้ ส่งตอ่ ไปยงั ท่อระบายน้าํ สาธารณะ หรือแหล่งระบายน้าํ อ่นื ๆ การออกแบบระบบท่อควรจะมีจุดประสงค์รวมไปถึงการออกแบบให้ท่อมีขนาดเล็ก และ ความยาวน้อยที่สุดเท่าท่ีจาํ เป็ นรวมไปถึงการพยายามที่จะทาํ ให้ค่าใช้จ่ายของระบบท่อน้อยท่ีสุดดว้ ย โดยทวั่ ไปแลว้ การที่จะบรรลถุ งึ จุดประสงคห์ ลงั สุดน้ีได้ ยอ่ มหมายถึงการเลือกส่ิงตอ่ ไปน้ีให้เหมาะสมท่ีสุด คือ วสั ดุท่อและส่วนประกอบของท่อ เครื่องสุขภณั ฑ์ ฉนวนหุ้มท่อ เครื่องสูบน้าํ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ เก่ียวขอ้ งกบั ระบบทอ่ ตา่ งๆ การติดต้งั ส่วนของระบบทอ่ ตอ้ งดาํ เนินไปพร้อมๆ กนั กบั การกอ่ สร้างอาคาร ท้งั น้ีเพราะท่อ ตา่ งๆ มกั จะซ่อนอยใู่ นผนงั เพดาน หรือบางคร้ังก็จาํ เป็นทจี่ ะตอ้ งทะลผุ ่านคาน ผนงั หรือพ้ืน เพราะฉะน้นั ทอ่ จึงจะตอ้ งไดร้ บั การวางแผนการตดิ ต้งั กอ่ นที่ผนังหรือพ้ืนจะเสร็จเรียบร้อย เนื่องจากความจาํ เป็ นการเดินท่อ อยา่ งถกู ตอ้ ง ผูค้ วบคุมการติดต้งั ท่อจึงตอ้ งสามารถอา่ นแบบและร่างแบบการเดินท่อได้ และบางคร้ังกจ็ ะตอ้ ง สามารถออกแบบการเดินท่อของตนเองได้ 2 ระบบท่อ 2

ระบบทอ่ และสุขภัณฑ์ 1.2 การอ่านแบบ การอ่านแบบ หมายถึง การทาํ ความเขา้ ใจแบบก่อสร้าง ซ่ึงเป็ นแบบสถาปัตยกรรม หรือแบบทาง วิศวกรรมได้ สามารถใชป้ ระโยชน์กบั การอ่านแบบน้ันได้ ในดา้ นการควบคุม ตรวจ ให้คาํ แนะนาํ ทาํ การ กอ่ สร้าง ประมาณราคา และกาํ หนดการใชจ้ าํ นวนวสั ดุ รวมท้งั การวางแผนดาํ เนินการเพอื่ ให้เกิดการบริหาร และจดั การก่อสร้างได้ ประโยชน์ของการอ่านแบบไดค้ รอบคลุมท้งั อาชีพ สามารถกอ่ สร้างให้ตรงกบั ความ ตอ้ งการของผอู้ อกแบบ และควรเขยี นรายละเอยี ดเพิม่ เติมจากแบบกอ่ สร้างน้นั ได้ เพ่อื กอ่ ให้เกิดการก่อสร้าง ท่สี มบูรณข์ ้นึ 1.2.1 การอ่านพมิ พ์เขียว แบบท่ีใชส้ าํ หรบั การทาํ งานหรือทนี่ ิยมเรียกกนั ทวั่ ไปว่า พมิ พเ์ ขียว เนื่องจากแบบสมยั กอ่ นใช้ เส้นสีขาวบนพ้ืนสีเขยี ว ในปัจจบุ นั แบบส่วนใหญ่เปลย่ี นเป็นพิมพข์ าว (White Print) เป็นพ้ืนสีขาว ใชเ้ ส้นสี เขียวหรือสีดาํ อยา่ งไรก็ตาม ยงั คงนิยมเรียกช่ือเดิมว่า พิมพเ์ ขียว ซ่ึงจาํ แนกได้ 3 แบบสาํ หรับอาคารขนาด ใหญ่ คือ 1) พิมพ์เขยี วทางโครงสร้าง (Structural Blueprint) แสดงโครงสร้างอาคารท้งั หมด รวมถงึ แปลนการตอกเสาเข็ม (Piling) ฐานราก (Footing) กาํ แพงฐานราก (Foundation Wall) เสา (Column) คาน (Beam) แผ่นพ้ืน (Floor Slab) และหลังคา (Roof) รวมท้งั แสดงแบบรายละเอียด หรือแบบขยายทางโครงสร้างแต่ละตวั การตอ่ กนั ของโครงสร้าง และอืน่ ๆ 2) พิมพ์เขยี วทางสถาปัตยกรรม (Architectural Blueprint) เป็นแผนผงั หรือแปลนที่สมบรู ณ์ ยกเวน้ รายละเอียดทางโครงสร้าง สุขาภบิ าล และไฟฟ้า ในแบบจะแสดงถึงกรอบของอาคาร (Framing) ผนัง (Wall) ฉากก้นั (Partition) รายการตกแต่งผนัง (Wall Finish Schedule) บวั (Trim) ตู้ (Cabinet) และกาํ หนดขนาดของผนงั และฉากก้นั ท้งั หมด รวมท้งั ผงั บริเวณ แปลน รูปดา้ น รูปตดั รายละเอยี ด หรือแบบขยาย ยงั แสดงถึงแผนผงั บริเวณและทิวทศั น์ เพื่อเขยี นใหเ้ จา้ ของ อาคารเขา้ ใจแบบไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 3) พิมพ์เขยี วทางเครื่องกล (Mechanical Blueprint) แสดงถึงระบบงานทอ่ สุขภณั ฑ์ ระบบทาํ ความร้อน ระบบปรับอากาศ ระบบถ่ายเทอากาศ ระบบไฟฟ้า ตลอดจนการตดิ ต้งั อปุ กรณอ์ ่นื ๆที่เกี่ยวขอ้ งภายในอาคาร พิมพเ์ ขียวทางเคร่ืองกลของระบบงาน ท่อสุขภณั ฑเ์ ป็นแบบของการติดต้งั เครื่องสุขภณั ฑแ์ ละระบบการเดินทอ่ อยา่ งสมบรู ณ์ ระบบทอ่ 3 3

ระบบทอ่ และสุขภัณฑ์ ส่วนในอาคารพาณิชยข์ นาดเล็กหรือบา้ นพกั อาศยั พิมพเ์ ขียวทางโครงสร้างและทางเคร่ืองกล บ่อยคร้ังทถ่ี กู รวมอยใู่ นพมิ พเ์ ขยี วทางสถาปัตยกรรม 1.2.2 รายละเอียดทสี่ ําคญั ในการอ่านแบบ สําหรับช่างก่อสร้าง หลายๆ แขนง ท่ีต้องทาํ การก่อสร้างให้ถูกต้องตรงกับแบบก่อสร้าง กาํ หนด เช่น ช่างไม้ ช่างปูน ช่างสี ช่างเดินท่อและติดต้งั สุขภณั ฑ์ ช่างไฟฟ้า ช่างติดกระจก และช่างสาขา อื่นๆ อาจเขียนแบบก่อสร้างได้ หรือเพียงอ่านแบบก่อสร้างได้ บางทีช่างเหล่าน้นั อ่านแบบก่อสร้างไดบ้ า้ ง การท่ีจะให้อ่านแบบก่อสร้างไดเ้ ขา้ ใจอย่างดี เป็ นความชาํ นาญท่ีเกิดจากความสนใจ ที่จะพิจารณาลกั ษณะ การเขียน และจดจาํ เส้นท่ีจาํ เป็ นและการระบุลักษณะของรูปหรือแบบ จะต้องฝึ กฝน แกป้ ัญหา สามารถ มองเห็นภาพไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจชดั เจน รายละเอียดที่มีความสาํ คญั ในการอา่ นแบบ ดงั น้ี 1. การเขียนคาํ ยอ่ 2. เส้นและสญั ลกั ษณ์ 3. รูปแปลน 4. รูปแผนผงั 5. รูปไอโซเมตริก 1. การเขียนคาํ ย่อ การเขียนแบบทางวิศวกรรมสุขาภิบาล ประกอบดว้ ยการเดินท่อ ท้งั ตอ้ งแสดงชนิดของเคร่ือง สุขภณั ฑด์ ว้ ยสญั ลกั ษณ์พอจะเขา้ ใจได้ โดยเขียนคาํ ยอ่ เป็นภาษาองั กฤษเขียนอยใู่ กลเ้ ครื่องสุขภณั ฑ์ หรือเส้น ท่อท่ีแสดงอยูใ่ นแบบ ช่างสุขภณั ฑ์เม่ืออ่านคาํ ย่อจะมีความเขา้ ใจไดท้ นั ที ซ่ึงผูเ้ ขียนแบบจะกาํ หนดข้ึนใน แบบ เพอ่ื ใหไ้ มม่ ปี ัญหาเกิดข้นึ ไดส้ าํ หรับผอู้ า่ นแบบ ผูเ้ ขยี นจะเขยี นคาํ ยอ่ และความหมายหรือรายละเอียดลง ในแบบกอ่ สร้าง ผอู้ า่ นแบบจะตอ้ งตรวจสอบ ใหท้ วั่ ทกุ แบบว่าผูอ้ อกแบบ หรือเขยี นแบบระบุความตอ้ งการ ไวอ้ ยา่ งไร ตารางท่ี 1.1 แสดงรายการคาํ ยอ่ ท่ีใชก้ บั การเขียนแบบ รายการ คําเตม็ คําย่อ ทีป่ ัสสาวะ (หญงิ ) BIDET BD ที่ปัสสาวะ (ชาย) URINAL UR ฝักบวั (อาบน้าํ ) โถส้วม SHOWER SH อา่ งอาบน้าํ WATER CLOSET WC อ่างลา้ งมอื BATH TUB BT หรือ TUB LAVATORY LAV. 4 ระบบท่อ 4

ระบบท่อและสขุ ภณั ฑ์ ตารางท่ี 1.1 แสดงรายการคาํ ยอ่ ท่ใี ชก้ บั การเขียนแบบ (ต่อ) รายการ คาํ เตม็ คําย่อ อ่างซกั ลา้ ง SERVICE SINK SS อา่ งซกั ผา้ LAUNDRY TRAY LT WATER HEATER WH เครื่องทาํ น้าํ ร้อน DISHWASHER DW เคร่ืองลา้ งชาม WATER SOFTENER WS HOSE BIB HB เครื่องแกน้ ้าํ กระดา้ ง SOAP HOLDER SH ก๊อกสนาม PAPER HOLDER PH MIRROR M ทใ่ี ส่สบู่ CLOTHES RACK CR CLEANOUT CO ท่ีใส่กระดาษ FLOOR CLEANOUT FCO กระจกเงา FLOOR DRAIN FD CENTERLINE CL ราวแขวนผา้ PLUMBING PLBG. ช่องทาํ ความสะอาดทอ่ ROOF LEADER RL COLD WATER CW ช่องทาํ ความสะอาดทอ่ ทพี่ ้นื HOT WATER HW ช่องระบายน้าํ ท่พี ้นื HOT WATER SUPPLY HS แนวศูนยก์ ลาง HOT WATER RETURN HR SOIL PIPE S ระบบเดินท่อ STEAM PIPE ST ท่อระบายน้าํ ฝน VENT PIPE V ทอ่ น้าํ เยน็ หรือน้าํ ประปา VENT THROUGH ROOF VTR ทอ่ น้าํ ร้อน WASTE PIPE W ทอ่ น้าํ ร้อนส่งจ่าย PLASTIC PLAS. ทอ่ น้าํ ร้อนส่งกลบั COPPER COP ท่อระบายน้าํ โสโครก GALVANIZED IRON GAL. I ท่อไอน้าํ CAST IRON CI ทอ่ ระบายอากาศ ทอ่ ระบายอากาศเหนือหลงั คา ทอ่ ระบายน้าํ ทง้ิ ทอ่ พลาสตกิ ทอ่ ทองแดง ท่อเหลก็ อาบสังกะสี ท่อเหล็กหลอ่ ระบบทอ่ 5 5

ระบบทอ่ และสุขภณั ฑ์ 2. เส้นและสัญลักษณ์ เน่ืองจากการออกแบบระบบท่อจาํ เป็ นตอ้ งแสดงเป็ นเส้นท่ีมีสัญลกั ษณ์ให้เด่นชัดไวใ้ นแบบ ระบบการเดินท่อ ตามตารางท่ี 1.2 แสดงใหเ้ ห็นลกั ษณะของเส้น นอกจากน้ียงั มีตวั อกั ษรอย่รู ะหวา่ งเวน้ ว่าง ของเส้น ฉะน้นั การแสดงดว้ ยเส้นในแปลนของอาคารท่ีตดิ ต้งั เครื่องสุขภณั ฑแ์ ลว้ จะสามารถเขา้ ใจไดว้ ่า เส้น เหล่าน้ันหมายความว่าอยา่ งไร เพ่ือให้ช่างท่อสุขภณั ฑ์จะเขา้ ใจตรงกนั กบั ความตอ้ งการของแบบ ถา้ มีเส้น ชนิดอืน่ ทจ่ี าํ เป็นควรกาํ หนดไวใ้ หแ้ ตกต่างจากเสน้ ดงั กลา่ ว และใหค้ วามหมายของเส้นน้นั ดว้ ย ตารางท่ี 1.2 ลกั ษณะของเส้นในแบบระบบการเดินท่อ สัญลกั ษณ์ ความหมายของเส้น DRAIN OR WASTE ABOVE เส้นทอ่ ระบายท้งิ เหนือพ้ืนดิน GROUND DRAIN OR WASTE BELOW เส้นทอ่ ระบายทง้ิ ใตพ้ ้ืนดิน GROUND VENT เสน้ ทอ่ ระบายอากาศ STORM DRAIN เส้นทอ่ ระบายน้าํ ฝน COLD WATER เส้นท่อน้าํ เยน็ หรือน้าํ ประปา SOFT COLD WATER เสน้ ทอ่ แกน้ ้าํ กระดา้ งแลว้ HOT WATER เส้นท่อน้าํ ร้อน SPRINKLER MAIN เส้นทอ่ ฉีดน้าํ ประธาน SPRINKLER BRANCH AND HEAD เส้นทอ่ ฉีดน้าํ แขนงและหัวฉีด GAS เสน้ ท่อแกส๊ COMPRESSED AIR เส้นทอ่ อดั อากาศ VACUUM เส้นทอ่ สุญญากาศ SEWER-CAST IRON เสน้ ท่อเหล็กหลอ่ ระบายน้าํ โสโครก ภายนอกอาคาร SEWER-CLAY TILE เสน้ ทอ่ กระเบ้ืองดินเผาระบายน้าํ โสโครกภายนอกอาคาร SEWER-PLASTIC เสน้ ท่อพลาสตกิ ระบายน้าํ โสโครก HIGH-PRESSURE STEAM เสน้ ทอ่ ไอน้าํ แรงดนั สูง MEDIUM-PRESSURE STEAM เส้นท่อไอน้าํ แรงดนั ปานกลาง LOW-PRESSURE STEAM เส้นทอ่ ไอน้าํ แรงดนั ต่าํ 6 ระบบทอ่ 6

ระบบทอ่ และสุขภัณฑ์ ตารางท่ี 1.2 ลกั ษณะของเส้นในแบบระบบการเดินท่อ (ตอ่ ) สัญลกั ษณ์ ความหมายของเส้น FUEL OIL SUPPLY เสน้ ทอ่ จ่ายน้าํ มนั เช้ือเพลงิ HS HOT WATER HEATING SUPPLY เสน้ ท่อน้าํ ร้อนส่งจ่าย HR HOT WATER HEATING RETURN เส้นทอ่ น้าํ ร้อนส่งกลบั สําหรับ ตารางที่ 1.3 แสดงสัญลกั ษณ์ของขอ้ งอ หรือวาลว์ ชนิดต่างๆ ท่ีใชใ้ นระบบการเดินท่อ นอกจากจะแสดงดว้ ยเสน้ ให้เห็นลกั ษณะทค่ี ลา้ ยกบั ขอ้ งอเหล่าน้นั การระบุขอ้ งอลงในส่วนของเสน้ และการ งอทอ่ ข้ึนหรืองอท่อลง สามารถแสดงเป็นสญั ลกั ษณใ์ ห้เขา้ ใจได้ ตารางท่ี 1.3 สญั ลกั ษณใ์ นแบบระบบการเดินท่อ ชนิดของข้อต่อหรือวาล์ว มาจากคําว่า ชนิดของการต่อท่อ แบบเกลียว แบบบ่ารับ ขอ้ ตอ่ ตรง CONNECTOR ขอ้ งอ 90 องศา ELBOW-90 DEG. ขอ้ งอ 45 องศา ELBOW-45 DEG. ขอ้ งอหงายข้ึน ELBOW-TURNED UP ขอ้ งอควา่ํ ลง ELBOW-TURNED DOWN ขอ้ งอโคง้ กวา้ ง ELBOW-LONG RADIUS ขอ้ งอสามทางควา่ํ ELBOW WITH SIDE INLET-OUTLET DOWN ขอ้ งอสามทางหงาย ELBOW WITH SIDE INLET-OUTLET UP ขอ้ งอลด REDUCING ELBOW สามทาง ที-วาย ขอ้ ตอ่ สามทาง SANITARY T ขอ้ ต่อสามทางหงาย T T-OUTLET UP ระบบท่อ 7 7

ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ ตารางท่ี 1.3 สญั ลกั ษณ์ในแบบระบบการเดินทอ่ (ตอ่ ) ชนดิ ของข้อต่อหรือวาล์ว มาจากคาํ ว่า ชนดิ ของการต่อท่อ แบบเกลยี ว แบบบ่ารับ ขอ้ ตอ่ สามทางควา่ํ T-OUTLET DOWN ขอ้ ต่อกากบาทหรือสี่ทาง CROSS ขอ้ ต่อลดแบบตรงศนู ยก์ ลาง REDUCER CONCENTRIC ขอ้ ต่อลดแบบเยื้องศนู ยก์ ลาง REDUCER OFFSET สามทางวาย 45 องศา Y OR WYE เกทวาลว์ (วาลว์ ประตนู ้าํ ) GATE VALVE โกลบวาลว์ GLOBE VALVE เชค็ วาลว์ CHECK VALVE ขอ้ ตอ่ ยเู น่ียน UNION บชุ ชิงหรือขอ้ ลดเหลย่ี ม BUSHING ขอ้ ต่อขยาย INCREASER ช่องลา้ งทอ่ CLEANOUT ช่องระบายน้าํ ทีพ่ ้นื FLOOR DRAIN (ที่มา : Plumbing Installation and Design) การแสดงสัญลักษณ์ของเครื่องสุขภัณฑ์ลงในแปลนของแบบก่อสร้าง ท้ังแปลนห้องน้ํา หอ้ งครวั หอ้ งอาหาร ในส่วนของสญั ลกั ษณ์จะเป็นรูปแปลนเช่นเดียวกนั การทจี่ ะเขยี นแปลนเคร่ืองสุขภณั ฑ์ บางชนิดน้นั มอี กั ษรยอ่ กาํ กบั ไวด้ ว้ ย ขนาดของการเขยี นแปลนสุขภณั ฑ์ ตอ้ งใชส้ เกลเท่ากบั แปลนอาคารน้ัน ดว้ ย อยา่ งน้อยให้มีขนาดสเกลใกลเ้ คียงกนั เพราะตอ้ งพิจารณาให้อยู่ในตาํ แหน่งท่ีสะดวก มีประโยชน์ใช้ สอยไดเ้ ต็มที่ ตอ้ งมีการออกแบบโดยสถาปนิกมาก่อน ถา้ ไม่พิจารณาเรื่องขนาดของสุขภณั ฑห์ รืออุปกรณ์ อาจทาํ ให้หอ้ งแน่น คบั แคบได้ 8 ระบบทอ่ 8

ระบบทอ่ และสุขภัณฑ์ ตารางท่ี 1.4 แสดงสัญลกั ษณข์ องเครื่องสุขภณั ฑ์ ชนดิ ของสุขภณั ฑ์ สัญลกั ษณ์ อ่างอาบน้าํ แบบเวา้ เขา้ ผนงั อา่ งอาบน้าํ แบบขอบโคง้ อ่างอาบน้าํ แบบเขา้ มมุ ท่ีอาบน้าํ ฝักบวั แบบต้งั พ้ืน โถสว้ มแบบฟลชั แทง็ ค์ โถสว้ มแบบฟลชั วาลว์ โถปัสสาวะสตรี โถปัสสาวะแบบต้งั พ้ืน อา่ งลา้ งมอื -ลา้ งหนา้ เคร่ืองอบผา้ เคร่ืองซกั ผา้ น้าํ พสุ าํ หรับด่ืมแบบติดผนงั หลมุ ปลอ่ ยน้าํ เคร่ืองทาํ น้าํ ร้อน อา่ งลา้ งจาน-ชาม แบบมที ผ่ี ่ึงสองดา้ น อ่างทวั่ ไปและเคร่ืองลา้ งจาน อ่างทวั่ ไปและอา่ งซกั ผา้ ระบบท่อ 9 9

ระบบทอ่ และสุขภัณฑ์ ตารางท่ี 1.4 แสดงสญั ลกั ษณข์ องเคร่ืองสุขภณั ฑ์ (ต่อ) ชนดิ ของสุขภัณฑ์ สัญลกั ษณ์ ถงั น้าํ ร้อน มาตรวดั น้าํ 3. รูปแปลน รูปแปลน ดงั รูปท่ี 1.5 เป็นรูปทีร่ ่างหรือเขยี นข้นึ ในลกั ษณะท่ีผมู้ องจะมองจากดา้ นบนสู่ดา้ นล่าง (Top View) ใชส้ าํ หรับแสดงตาํ แหน่งในการจดั วางเครื่องสุขภณั ฑ์และแนวท่อบนพิมพเ์ ขียวทางเคร่ืองกล เพื่อใหช้ ่างทอ่ สุขภณั ฑไ์ ดเ้ ห็นตาํ แหน่งในการจดั วางเครื่องสุขภณั ฑแ์ ละแนวท่อทจี่ ะตอ้ งติดต้งั รูปท่ี 1.5 รูปแปลนแสดงตาํ แหน่งในการจดั วางเครื่องสุขภณั ฑใ์ นห้องน้าํ (ทม่ี า : Plumbing Installation and Design) 4. รูปแผนผงั รูปแผนผงั เป็นรูปที่มองจากดา้ นขา้ งเขา้ ไป (Side View) แสดงใหเ้ ห็นแนวการเดินท่อดว้ ยเส้นท่ี โยงกนั เป็นระบบ เพื่อใช้ประกอบกบั รูปแปลน การเขียนรูปแผนผงั อาจไม่จาํ เป็ นจะตอ้ งคาํ นึงถึงท้งั มาตรา ส่วนและตาํ แหน่งในการติดต้ังท่ีแน่นอนของเคร่ืองสุขภณั ฑ์แต่ละตวั ในแบบ รูปท่ี 1.6 แสดงให้เห็นรูป แผนผงั ของการเดินท่อในระบบระบายน้าํ สุขาภิบาลและระบบระบายอากาศ รูปท่ี 1.6 รูปแผนผงั แสดงการเดนิ ท่อของระบบระบายน้าํ สุขาภบิ าลและระบบระบายอากาศในห้องน้าํ 10 (ทม่ี า : Plumbing Installation and Design) 10 ระบบท่อ

ระบบทอ่ และสขุ ภณั ฑ์ 5. รูปไอโซเมตริก รูปไอโซเมตริก เป็นรูปสามมติ ิที่ช่วยให้สามารถมองภาพท้งั 3 ดา้ นไดใ้ นเวลาเดียวกนั รูปน้ีจะ สร้างข้ึนตามเส้นแนวแกนที่ยกข้ึนจากแนวราบ 30 หรือ 60 องศา สําหรับมุมยกของเส้นแนวท่ีนิยมกันใน ปัจจุบนั ก็คือมมุ 30 องศา ในการเขียนระบบการเดินท่อดว้ ยรูปไอโซเมตริก ท่อท้งั หมดท่ไี ดร้ บั การติดต้งั ใน แนวนอนหรือแนวราบจะตอ้ งเขียนอยู่ในแนวแกนซ่ึงยกข้ึนไปจากแนวราบ 30 องศา ในขณะที่ท่อซ่ึงอยใู่ น แนวด่ิงท้งั หมดก็จะตอ้ งเขียนให้อยู่ในเส้นแนวดิ่ง ดงั รูปที่ 1.7 เป็ นรูปไอโซเมตริกท่ีแสดงการเดินท่อของ ระบบระบายน้าํ สุขาภบิ าลและระบบระบายอากาศสาํ หรบั ห้องน้าํ สําหรับงานขนาดเล็กแลว้ มักจะไม่มีการเขียนรูปไอโซเมตริก เพียงใช้รูปแปลนซ่ึงใช้แสดง ตาํ แหน่งในการจดั วางเคร่ืองสุขภณั ฑ์และแนวท่อเท่าน้ัน ดงั น้นั จึงเป็ นหน้าท่ีของช่างท่อสุขภณั ฑท์ ่ีจะตอ้ ง เขยี นรูปแผนผงั และรูปไอโซเมตริกข้ึนมาใชง้ านเอง รูปที่ 1.7 รูปไอโซเมตริกแสดงการเดินทอ่ ของระบบระบายน้าํ สุขาภบิ าลและระบบระบายอากาศในหอ้ งน้าํ (ท่มี า : Plumbing Installation and Design) 1.3 การประมาณราคาท่อเบือ้ งต้น การประมาณราคา (Cost Estimate) หมายถึง การคาํ นวณหาปริมาณวสั ดุ ค่าแรงและคา่ ดาํ เนินการท่ี ราคาใกลเ้ คียงกบั ค่าใช้จ่ายจริงมากที่สุด ในการแยกรายการวสั ดุ ค่าแรง ค่าใชจ้ ่ายเคร่ืองมือเครื่องจกั ร และ ค่าใชจ้ ่ายอ่นื ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั งานโดยมีผลกบั ตวั แปรตามในดา้ นระยะเวลาของการทาํ งาน ดงั น้นั การประมาณ ราคาจึงไมใ่ ช่ราคาทแ่ี ทจ้ ริง แต่อาจใกลเ้ คยี งกบั ราคาจริง ซ่ึงไมค่ วรจะผดิ พลาดไปจากราคาท่แี ทจ้ ริงเกินกว่า 10 % 1.3.1 จดุ ประสงค์การประมาณราคา โดยจุดประสงคใ์ นการประมาณราคา ดงั น้ี คอื 1) เพอ่ื ทาํ งบประมาณก่อสร้างในข้นั ตน้ 2) เพ่ือให้เจา้ ของโครงการใชเ้ ป็นราคากลาง ระบบท่อ11 11

ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ 3) เพือ่ ใหผ้ รู้ บั เหมาเสนอประมลู ราคา 4) เพอื่ หาตน้ ทนุ ใหแ้ ก่ผรู้ บั เหมา 5) เพื่อแยกรายการ ราคาวสั ดใุ นการซ้ือสิ่งของในการก่อสร้างและคา่ แรงงานก่อสร้าง ถา้ แสดงจุดประสงค์ในการประมาณราคา แบ่งตามการใช้งานของบุคลากรในโครงการได้ ดงั น้ี คอื 1) เจ้าของโครงการ หรือผ้บู ริหารโครงการ เพอื่ ต้งั งบประมาณ วางแผนการลงทนุ โครงการ พิจารณาผลประโยชนข์ องโครงการเพื่อดูความเหมาะสมในการลงทุน 2) ผู้ออกแบบ เพื่อการควบคุมงบประมาณโครงการ และจดั ทาํ ราคากลางเพ่ือการประกวด ราคาก่อสร้าง 3) ผ้รู ับจ้างก่อสร้าง เพ่อื การประมาณราคาเพื่อการประกวดราคาก่อสร้าง 4) ผ้คู วบคุมงาน เพื่อการพิจารณารายละเอยี ดงานเพิ่ม-ลด ในระหว่างการกอ่ สร้าง การประมาณราคามีประโยชน์กับหลายคนที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้าง เพื่อนําข้อมูลไป ตดั สินใจ หรือปรบั เปล่ียนแกไ้ ขเพิม่ เตมิ ดงั น้ี 1) เพอ่ื กูว้ งเงินคา่ กอ่ สร้างของเจา้ ของงานหรือผูร้ ับเหมา 2) เพ่อื เสนอราคารบั งานกอ่ สร้างจากผูร้ ับเหมา 3) เพอ่ื สั่งซ้ือวสั ดแุ ละรู้คา่ แรงงานในการก่อสร้าง 4) เพ่ือแบ่งงวดเงนิ ค่ากอ่ สร้าง 5) เพอ่ื แกไ้ ขเพิ่มเติม เปลยี่ นแปลง ลดตน้ ทนุ ในงานกอ่ สร้าง 6) ช่วยตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดหรือ หลงลมื ของสถาปนิก วิศวกร 7) ให้เป็นแนวการทาํ งานให้ผูร้ บั เหมา 8) ใหร้ าคาท่แี น่นอนไม่เปิ ดโอกาสใหผ้ ูร้ บั เหมาถือโอกาส 9) ลดปัญหาขอ้ ขดั แยง้ ในกรณีขอ้ ผิดพลาดทมี่ องไมเ่ ห็น 1.3.2 การประมาณราคาโดยทัว่ ไป การประมาณราคา เป็ นงานท่ีเป็ นท้ังศาสตร์และศิลปะ ผูป้ ระมาณราคาตอ้ งมีความรู้ทาง วิชาการ ความรู้ทางดา้ นการผลิต หรือการก่อสร้างเก่ียวกบั งานท่ีทาํ การประมาณราคา ความรู้ทางดา้ นวสั ดุ และมาตรฐานของวสั ดุแต่ละประเภท ความรู้ทางด้านสถิติ ฯลฯ ในโครงการขนาดใหญ่ ความรู้เกี่ยวกบั ธรรมชาติที่บริเวณก่อสร้าง และบริเวณที่เก่ียวข้องกบั ธรรมชาติ ความรู้เกี่ยวกบั เครื่องจกั ร และแรงงาน กฎระเบียบและธรรมเนียมปฏบิ ตั ทิ ใี่ ชใ้ นบริเวณสถานท่ีก่อสร้าง 12 ระบบทอ่ 12

ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ การประมาณราคาน้ันไม่ใช่ราคาทแ่ี ทจ้ ริงหรือถูกตอ้ งตรงกบั ราคาการก่อสร้างจริง เป็ นเพียง ราคาโดยประมาณหรือใกลเ้ คียงเท่าน้ัน เพราะเมือ่ ก่อสร้างแลว้ ก็จะไมป่ รากฏว่าราคาค่าก่อสร้างน้นั ตรงกบั ราคาท่ไี ดป้ ระมาณการไวเ้ ลย ท้งั น้ีข้นึ อยกู่ บั เหตผุ ลหลายประการ คือ  ปริมาณวสั ดุตามท่ีไดป้ ระมาณการไวโ้ ดยที่ไดเ้ ผ่ือการเสียหายแลว้ น้นั ไม่ตรงกบั ที่ใช้ ในการก่อสร้างจริง  ราคาวสั ดตุ ามทไี่ ดป้ ระมาณการไวไ้ มต่ รงกบั ทซ่ี ้ือมาใชใ้ นการกอ่ สร้างจริง  คา่ แรงงานก่อสร้างตามทไ่ี ดป้ ระมาณการไวไ้ มต่ รงกบั ที่ว่าจา้ งก่อสร้างจริง  คา่ ใชจ้ ่ายตา่ งๆ ตามที่ไดป้ ระมาณการไวไ้ มต่ รงกบั ทใ่ี ชจ้ ่ายในการก่อสร้างจริง  ฯลฯ ประเภทของการประมาณราคา แบ่งไดเ้ ป็นประเภท ตา่ ง ๆ ดงั น้ี คือ  การประมาณราคาแบบสงั เขป  การประมาณราคาแบบละเอยี ด ข้อมูลที่มผี ลกับการประมาณราคา 1) ตาํ แหน่งสถานที่กอ่ สร้าง การคมนาคมเขา้ ออก 2) ลกั ษณะภมู ิประเทศ ลกั ษณะดินในส่วนงานกอ่ สร้าง 3) ลกั ษณะสภาพภมู อิ ากาศ ฤดกู าล เวลา 4) ขอ้ กาํ หนดของคา่ จา้ งแรงงาน ขอ้ บงั คบั แรงงานทอ้ งถิน่ การหาแรงงานในทอ้ งถ่นิ 5) วนั หยดุ งานในช่วงก่อสร้างตามเทศกาลตา่ งๆ 6) ราคาวสั ดุกอ่ สร้างในทอ้ งถิน่ ใกลเ้ คียง 7) การจดั หาแหล่งเงินทนุ พร้อมกบั ดา้ นเงินทนุ หมนุ เวียน 8) สถานการณท์ างดา้ นเศรษฐกิจและการเมือง 1.3.3 ผ้ปู ระมาณราคา ผูป้ ระมาณราคา ตอ้ งมีความรู้ความสามารถในหลายดา้ นซ่ึงตอ้ งใชค้ วามรู้ความชาํ นาญและ ประสบการณ์ รวมท้งั มเี ทคนิคเฉพาะตวั อย่างสูง ซ่ึงจะไดม้ าซ่ึงราคาท่ีใกลเ้ คียงในการกอ่ สร้างจริงมากท่ีสุด ดงั น้นั คณุ สมบตั ิของผปู้ ระมาณราคาควรมีดงั น้ี 1) ตอ้ งมีความรู้ทางดา้ นรูปแบบรายการทจี่ ะแยกวสั ดุ 2) มคี วามรู้เรื่องวสั ดกุ อ่ สร้างเป็นอยา่ งดี 3) ตอ้ งมีความรู้ทางดา้ นคณิตศาสตร์ ระบบทอ่ 13 13

ระบบท่อและสขุ ภณั ฑ์ 4) มคี วามรู้ความชาํ นาญในงานท่ปี ระมาณราคาเป็นอยา่ งดี 5) มีความรู้ในเรื่องแบบ รูปแบบรายการท่ีประมาณราคาที่สามารถแยกรายละเอียดของ งานใหญ่ออกเป็นงานยอ่ ยๆ ไดล้ ะเอียดมากข้ึน 6) มคี วามรู้เร่ืองวสั ดุก่อสร้างทใ่ี ชป้ ระมาณราคาเป็นอยา่ งดี 7) มีความละเอียดรอบคอบในการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างมีระบบ และมีปฏิภาณไหว พริบในการประยุกต์โดยการนาํ ขอ้ มูลที่เก็บรวบรวมขอ้ มูลมาใช้ประมาณราคาได้ รวดเร็วและถกู ตอ้ ง 8) มหี ลกั การในการวนิ ิจฉยั ช่างสงั เกตที่ดีเก่ียวกบั สภาพแวดลอ้ มในสถานทีก่ ่อสร้าง 9) มคี วามรู้และความเขา้ ใจทสี่ ามารถศึกษาเอกสาร สัญญา รายการประกอบแบบกอ่ สร้าง ทจี่ ะมผี ลกบั รายการกอ่ สร้างในดา้ นงานท่ีจะตอ้ งเสร็จตามกาํ หนดเวลา ถา้ งานไม่เสร็จ ตามกาํ หนดเวลาจะตอ้ งมีค่าใชจ้ ่ายอน่ื ๆ เพม่ิ ข้นึ เช่น คา่ ปรับ เป็นตน้ ปัจจัยทมี่ ผี ลกบั ผ้ปู ระมาณราคา ทีค่ วรจะคาํ นึงถึง มีดงั น้ี คอื 1) การหาขอ้ มูลข้นั ตน้ (ไปดูสถานที่ก่อสร้าง) ผูป้ ระมาณราคาควรไปดูสถานท่ีก่อสร้าง จริงเสียก่อน เพอื่ พจิ ารณาศกึ ษาเก่ียวกบั สภาพของทีน่ ้นั ๆ 2) ปริมาณวสั ดุจากการถอดรูปแบบรายการ โดยท่ีเผื่อการเสียหายแลว้ ผิดพลาดไปจาก การกอ่ สร้างจริงมาก 3) ราคาที่ใส่ในวสั ดุทถ่ี อดแบบรูปรายการไมใ่ ช่ราคาที่ซ้ือไดจ้ ริงในขณะก่อสร้างจริง 4) ค่าแรงงานที่ประมาณการไวแ้ ลว้ ไม่สามารถจา้ งแรงงานในราคาที่ประมาณการไวไ้ ด้ ในขณะก่อสร้างจริง 5) ค่าใชจ้ า่ ยอื่นๆ ท่ปี ระมาณการไวไ้ มต่ รงกบั ค่าใชจ้ า่ ยกอ่ สร้างจริง 1.3.4 แนวทางการประมาณราคา ความแตกต่างของต้นทนุ (Cost) และราคา (Price) ต้นทุน หมายถึง ผลรวมของทรัพยากรท่ีจะต้องใช้เพ่ือการผลิตและนําผลิตภัณฑ์น้ัน ออกจาํ หน่ายหรือใชป้ ระโยชน์ ราคา หมายถึง มูลค่าท่ีจะนาํ ไปใชใ้ นลกั ษณะของการตลาด ราคาอาจจะเท่ากบั ตน้ ทุนหรือ ราคาอาจจะถูกปรับปรุงให้ตรงกบั ความตอ้ งการของตลาด ราคาเป็ นคุณค่าท่ีผูท้ าํ ผลิตภณั ฑ์เป็ นผูก้ าํ หนด และปกตริ าคาจะสูงกว่าตน้ ทุนการผลิตและการจาํ หน่าย โดยมกี ารบวกกาํ ไรทคี่ าดหวงั เขา้ ไปในราคาน้นั แลว้ 14 ระบบทอ่ 14

ระบบท่อและสุขภัณฑ์ ราคากลาง คือ ราคามาตรฐานที่ใกลเ้ คียงความจริงซ่ึงสามารถก่อสร้างหรือจดั หาไดจ้ ริง และ ใชเ้ ป็นฐานสาํ หรบั เปรียบเทียบราคาที่ผูเ้ ขา้ ประกวดราคายืน่ เสนอ การประมาณต้นทุน การประมาณ หมายถึง การวิเคราะห์ การให้ความเห็น การพยากรณ์ หรือการคาดหมาย ล่วงหน้า ดงั น้ันการประมาณตน้ ทุนจึงเป็ นการวิเคราะห์ หรือการให้ความเห็นเก่ียวกบั ค่าใช้จ่ายท่ีคาดว่าจะ เกิดข้ึนในกระบวนการทาํ งานหรือกระบวนการผลิต ซ่ึงอาจเป็ นการทาํ ผลิตภณั ฑ์ การจดั ทาํ โครงการ หรือ การผลิตงานบริการ การประมาณ เป็นศิลปะของการประมาณการเกี่ยวกบั คุณค่าหรือค่าใช้จ่ายที่อาจเป็ นไปได้ โดยอาศยั ขอ้ มูลท่ีสามารถจะหาไดใ้ นขณะน้ัน ขอบเขตงานประมาณยงั รวมถึงการสะสมขอ้ มูล การจดั ทาํ รายงานเกี่ยวกบั คา่ ใชจ้ า่ ย และยงั ครอบคลุมถึงการกาํ หนดมาตรฐานเกี่ยวกบั ชว่ั โมงแรงงานและค่าวตั ถุ องค์ประกอบของราคา ประกอบดว้ ย ดงั น้ี องค์ประกอบ ตัวอย่าง 1. วสั ดุ - วสั ดธุ รรมชาติ - แหลง่ วสั ดุ 2. ค่าแรง - วสั ดจุ ากการผลติ - แรงงานในการผลติ 3. ค่าใช้จ่ายอ่นื ๆ (Factor F) - เครื่องจกั รในการผลติ - คา่ ขนส่ง 4. เวลา - แรงงานในการลาํ เลียง - ความสูญเสีย - แรงงานคน - เครื่องมือ - เคร่ืองจกั ร - คา่ ดาํ เนินการ - กาํ ไร - ภาษี - ดอกเบ้ีย - ฯลฯ - การก่อสร้างตอ้ งกระทาํ ในฤดูฝนหรือไม่ ระบบทอ่ 15 15

ระบบทอ่ และสุขภณั ฑ์ แนวทางในการประมาณราคาแบง่ ออกเป็น 3 หมวด ดงั ต่อไปน้ี 1) เตรียมการ 1.1) ศึกษาแบบ ขอ้ กาํ หนด และเอกสารประกวดราคา 1.2) จดั แบ่งหมวดหมูข่ องงาน 1.3) จดั ทาํ บญั ชีแสดงปริมาณวสั ดแุ ละราคา 2) การดาํ เนนิ งาน 2.1) ถอดแบบ 2.2) จดั ทาํ ตน้ ทุนตอ่ หน่วย 2.3) พจิ ารณาค่า Factor “F” ที่เหมาะสม สรุปเป็นราคาโครงการ 2.4) ตรวจทาน 3) การเกบ็ ข้อมูล 3.1) รวบรวมราคางานทีไ่ ดจ้ ดั ทาํ ไว้ แยกเป็นหมวดหมู่ 3.2) มีระบบการจดั เก็บทีด่ ี 3.3) ติดตามผลการประกวดราคา เปรียบเทยี บราคากบั ราคากลาง 3.4) การปรบั ปรุงขอ้ มลู อยา่ งต่อเน่ือง 16 ระบบทอ่ 16

ระบบทอ่ และสุขภณั ฑ์ บทที่ 2 งานท่อและสุขภณั ฑ์ 2.1 ท่อและข้อต่อ ชนิดท่อเป็นสิ่งสาํ คญั ที่ช่างท่อและสุขภณั ฑ์ตอ้ งเรียนรู้ เน่ืองจากท่อเป็ นอุปกรณ์สําคญั ที่ทาํ หนา้ ที่ ลาํ เลยี งน้าํ น้าํ ท้งิ น้าํ โสโครก ของเสีย อากาศเสีย และน้าํ ฝน ไปยงั จุดตา่ งๆทเี่ หมาะสมในระบบท่อต่างๆ คอื ระบบประปา ระบบระบายน้าํ ท้ิง ระบบระบายน้ําโสโครก ระบบระบายอากาศ และระบบระบายน้าํ ฝน เพราะฉะน้ันช่างท่อสุขภณั ฑ์ต้องเลือกใช้งานโดยให้เหมาะสมกบั ระบบที่ใช้งาน และสินค้าท่ีมีคุณภาพ ไดร้ บั รองมาตรฐาน ท่อทน่ี ิยมใชก้ บั ระบบประปา ระบบระบายน้าํ ทิง้ ระบบระบายน้าํ โสโครก ระบบระบายอากาศ และ ระบบระบายน้าํ ฝน ปัจจุบนั ไดแ้ ก่ 1) ทอ่ เหล็กกลา้ และท่อเหลก็ อาบสงั กะสี 2) ท่อเหล็กหลอ่ 3) ท่อพลาสติก 4) ท่อทองแดง 5) ทอ่ ซิเมนตใ์ ยหิน 2.1.1 ท่อเหล็กกล้า และท่อเหลก็ อาบสังกะสี ทอ่ เหล็กชนิดเป็นทอ่ ท่ีใชก้ บั กิจการประปา ทาํ มาจากเหลก็ กลา้ คาร์บอนละมุล (Mild Carbon Steel) และหากยงั ไม่อาบกนั สนิมจะเป็นท่อเหลก็ เทา เป็ นท่ีนิยมใช้กนั มากทีส่ ุด เพราะราคาถกู และแข็งแรง ทนตอ่ แรงกระแทกและแรงดึงไดด้ ี ท้งั ยงั ตดั และทาํ เกลียวไดง้ ่าย สามารถนาํ มาอาบสังกะสีกนั สนิม เป็นท่อ Galvanized Steel Pipe หรือ อาบยางกนั สนิม เป็นท่อเหล็กดาํ รูปท่ี 2.1 ท่อเหลก็ กลา้ ระบบทอ่ และสุขภัณฑ1์ 7 17

ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ ข้อดีของท่อเหล็กกล้า 1) มคี วามแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกสูงและไมต่ อ้ งวางลึกมาก 2) นิยมใชเ้ ป็นท่อประปา รบั แรงดนั ไดส้ ูง 3) ในทอ่ ขนาดใหญ่ (มากกวา่ 500 มม.) จะมีราคาถกู กว่าท่อประเภทอ่นื 4) สามารถวางในที่โลง่ แจง้ ทนแดด ทนฝนหากทาสีกนั สนิม 5) ไมต่ อ้ งมีการป้องกนั การโก่งตวั ของทอ่ มากนกั 6) มีอายใุ ชง้ าน มากถงึ 20-30 ปี ถา้ น้าํ มีคุณภาพดี 7) ใชก้ บั ระบบน้าํ ร้อนได้ ข้อเสียของท่อเหลก็ กล้า 1) น้าํ หนกั มากกว่า ท่อ PVC 2) ไมส่ ามารถตา้ นทานการผกุ ร่อนไดเ้ พราะสารเคลอื บจะหลุดออก ทาํ ให้เกิดสนิม 3) ราคาสูงกว่าท่อ PVC ในทอ่ ขนาดเล็ก 4) เป็นทอ่ ทีม่ ผี วิ ไมเ่ รียบลื่นเหมือน PVC ทาํ ให้มีการสูญเสียแรงดนั มากกว่า 5) ไมเ่ หมาะใชล้ าํ เลยี งสารเคมี เช่น กรด ดา่ ง เกลือ เขม้ ขน้ เพราะจะถกู กดั กร่อน ขนาดและมาตรฐานท่อเหล็กกล้า หากเป็นท่อที่มีขนาดเลก็ ในประเทศไทยใช้ตามมาตรฐาน มอก. 276-2532 โดยแบ่งประเภท ดงั น้ี ประเภท 1 - ท่อเหล็กแบบมีตะเข็บ ผนงั ทอ่ บาง มแี ถบสีน้าํ ตาล ขนาด 8 - 100 มม. หนา 1.8– 3.6 มม. ประเภท 2 - ท่อเหล็กแบบมีตะเข็บและไม่มีตะเข็บ ผนังท่อหนาปานกลาง มีแถบสีน้าํ เงิน ขนาด 8 - 150 มม. หนา 2.3–5.0 มม. ประเภท 3 - ท่อเหล็กแบบมีตะเข็บและแบบไมม่ ีตะเข็บ ผนังท่อหนา มีแถบสีแดง ขนาด 8 - 150 มม. หนา 3.2–5.4 มม. ประเภท 4 - ท่อเหล็กแบบมีตะเข็บและแบบไม่มีตะเข็บ ผนังท่อหนาพิเศษ มีแถบสีเขียว ขนาด 65 - 2000 มม. หนา 5.2–8.2 มม. ท่อเหล็กกลา้ ชนิดอาบสังกะสี (Galvanized Steel Pipe) เป็ นการนาํ ท่อเหล็กกลา้ มาเคลือบผิว ดว้ ยสังกะสีเหลว โดยการจุมท่อเหล็กลงในอ่างสังกะสีตม้ หลอมละลาย ณ อุณหภูมิ 465 องศาเซลเซียส ใน อดีตเป็นทอ่ ท่ีนิยมใชเ้ ป็นทอ่ ประปาในอาคารบา้ นเรือนทวั่ ไป หลงั จากมีท่อพีวีซีเกิดข้นึ เร่ิมมีการใชท้ อ่ เหล็ก 18 ระบบท่อและสขุ ภณั ฑ์ 18

ระบบทอ่ และสขุ ภณั ฑ์ อาบสงั กะสีนอ้ ยลง แต่ยงั ถือวา่ มผี ูน้ าํ ไปใชง้ านท่อมาก แมก้ ระทงั่ นาํ ไปใชเ้ ป็นเสาป้าย โครงถกั หลงั คาทวั่ ไป ซ่ึงมขี อ้ ดี-ขอ้ เสีย ดงั น้ี รูปท่ี 2.2 ทอ่ เหล็กกลา้ ชนิดอาบสังกะสี ข้อดที ่อเหลก็ กล้าชนดิ อาบสังกะสี 1) หากวางท่อใตอ้ าคารจะแตกหรือหลุดยากกวา่ PVC เนื่องจากการทรุดตวั ของอาคาร 2) ไม่ตอ้ งวางใตด้ ินลกึ มาก เพราะมคี วามแกร่งรถบรรทกุ วิง่ ผา่ นได้ 3) ใชท้ าํ ท่อตอ่ กบั ระบบดบั เพลงิ Sprinkler ในอาคารเพราะท่อไม่ติดไฟ 4) มีความแขง็ แรง ทนต่อแรงดนั และการกระแทกสูง 5) หาซ้ือง่ายจึงเป็นที่นิยมใช้ 6) มีอายใุ ชง้ าน มากถงึ 30 ปี ถา้ น้าํ มีคุณภาพดี 7) ใชก้ บั ระบบน้าํ ร้อนได้ ข้อเสียท่อเหลก็ กล้าชนดิ อาบสังกะสี 1) น้าํ หนกั มากกว่า ท่อ PVC 2) ราคาสูงกว่าทอ่ PVC 3) ไมส่ ามารถตา้ นทานการผุกร่อนไดเ้ พราะสงั กะสีเคลือบจะหลดุ ออกทาํ ให้เกิดสนิม 4) เป็นทอ่ ที่มผี วิ ไม่เรียบล่นื เหมือน PVC ทาํ ให้มีการสูญเสียแรงดนั มากกว่า 5) ไม่เหมาะใชล้ าํ เลยี งสารเคมี เช่น กรด ดา่ ง เกลือ เขม้ ขน้ เพราะจะถูกกดั กร่อน ระบบท่อและสขุ ภณั ฑ1์ 9 19

ระบบท่อและสขุ ภัณฑ์ 2.1.2 ท่อเหลก็ หล่อ ท่อเหล็กชนิดน้ีมีวิธีการผลิตเช่นเดียวกบั ท่อเหล็กหล่อสีเทา (Gray Cast Iron) แต่จะมีการ ผสมแมกนีเซียม รวมเขา้ ไปในเน้ือเหล็ก ทาํ ให้ทอ่ ประเภทน้ีมคี วามเหนียวเพ่มิ ข้ึน และสามารถใชเ้ ป็นท่อใน งานรบั แรงดนั ในงานทอ่ ส่งน้าํ ประปาได้ ขณะเดียวกนั กม็ ีความทนต่อการผุกร่อน เพราะเป็นเหล็กหล่อและมี การเคลือบกนั สนิมทาํ ให้ใช้ในงานระบายน้าํ ไดด้ ีดว้ ย เป็นท่ีนิยมใช้ในกิจการประปาของอเมริกาและยุโรป แต่มีราคาสูง รูปที่ 2.3 ท่อเหลก็ หลอ่ ข้อดขี องท่อเหลก็ หล่อ 1) มีความแขง็ แรง ทนต่อการกดั กร่อนจากสนิมเพราะเคลือบกนั สนิม 2) นิยมใชเ้ ป็นท่อน้าํ ประปาและน้าํ โสโครกเพราะทนการกดั กร่อน 3) สามารถวางเป็นทอ่ ใตพ้ ้ืนดินและรับแรงกดภายนอกไดด้ ี 4) สามารถวางในทโ่ี ล่งแจง้ ทนแดด ทนฝน 5) ไม่ตอ้ งมีการป้องกนั การโก่งตวั ของทอ่ มากนกั 6) ต่อประกอบไดง้ ่ายมกั ใชร้ ะบบแหวนยาง ข้อเสียของท่อเหลก็ หล่อ 1) น้าํ หนกั มาก ทาํ งานลาํ บาก 2) ราคาสูง หาซ้ือยาก 3) ไม่เป็นท่ีนิยมในประเทศไทยเพ่อื ใชใ้ นกิจการประปา 4) ไมเ่ หมาะใชล้ าํ เลียงสารเคมี เช่น กรด ด่าง เกลือ เขม้ ขน้ เพราะจะถกู กดั กร่อน 20 ระบบท่อและสขุ ภัณฑ์ 20

ระบบท่อและสุขภัณฑ์ 2.1.3 ท่อพลาสติก ในปัจจุบันท่อพลาสติกเป็ นท่อท่ีนิยมใช้กนั มากในทุกระบบ เน่ืองจากท่อชนิดน้ีมีขอ้ ดีอยู่ หลายประการ เช่น ราคาถูกกว่า น้าํ หนกั เบา ติดต้งั ง่าย เม่อื เทียบกบั ทอ่ โลหะ แต่ยงั มีขอ้ เสียบา้ ง ปัจจบุ นั น้ีท่อ พลาสติกก็มกี ารไดร้ ับปรบั ปรุงอยา่ งต่อเน่ือง วสั ดทุ ใี่ ชท้ าํ ท่อและขอ้ ต่อพลาสตกิ มีหลายชนิด เช่น 1) ทอ่ เอบเี อส (Acrylonitrile-Butadiene-Styrene, ABS) 2) ท่อพีวซี ี (Polyvinyl Chloride, PVC) 3) ท่อซีพวี ีซี (Chlorinated Polyvinyl Chloride, CPVC) 4) ท่อพอี ี (Polyethylene, PE) 5) ท่อพีบี (Polybuthylene, PB) 6) ทอ่ พพี ีอาร์ (Polypropylene Random Copolymer, PP-R)  ท่อพีวซี ี พอลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl chloride; IUPAC: Polychloroethene) มีชื่อย่อที่ใช้กนั ทั่วไป วา่ พีวซี ี (PVC) เป็นเทอร์โมพลาสติกชนิดหน่ึง สาร PVC ได้ถูกค้นพบเป็ นคร้ังแรกในคริ สศตวรรษที่แล้ว จุดเร่ิมน้ันเกิดจากการที่ นกั วทิ ยาศาสตร์กลุ่มหน่ึง ทาํ การศึกษาปฏกิ ิริยาของสารอนิ ทรียแ์ กลชนิดใหม่ (Vinyl Chloride) โดยเมื่อสาร น้ีต้องแสงแดด จะเกิดการ Polymerization ซ่ึงทําให้ได้สารพลาสติกชนิดใหม่ Polyvinyl Chloride นกั วิทยาศาสตร์ไดพ้ บว่าสารใหม่น้ีไมท่ าํ ปฏิกิริยากบั สารเคมที ว่ั ๆ ไป และทสี่ าํ คญั คือ ไม่สามารถทาํ ลายมนั ได้ แตเ่ น่ืองจาก PVC มคี ุณสมบตั ิต่อตา้ นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทาํ ใหย้ ากที่จะนาํ มาใชป้ ระโยชน์ ดว้ ยเหตุน้ี การพฒั นาสาร PVC จึงหมดไป กระทง่ั ปี ค.ศ. 1920 เศษ จึงไดม้ ีการคน้ ควา้ เกี่ยวกบั สาร PVC อีกในยโุ รปและอเมริกาเหนือ ในช่วงน้ีไดม้ ีการนาํ เอา PVC มาใช้ประโยชน์อย่างจริงจงั โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเยอรมนั โดยในปี ค.ศ. 1930 เศษ นักวิทยาศาสตร์และวิศวกร ชาวเยอรมนั ได้นาํ การพฒั นาและผลิตท่อ PVC จาํ นวนจาํ กดั ออกมาใชง้ าน ทอ่ เหลา่ น้ียงั คงปรากฎและใชง้ านไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพจนตราบเท่าทกุ วนั น้ี ในตอนปลายของสงครามโลกคร้ังที่ 2 เยอรมันถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงเมือง ต่างๆ ถูกทาํ ลายแต่ประชาชนก็ยงั เอาชีวิตรอดอย่ไู ดด้ ว้ ยการอาศยั ตามซากปรักหักพงั ของอาคาร ส่ิงท่ีเป็ น ปัญหาใหญ่คือ ระบบส่งน้ําและระบายน้ําท่ีถูกทําลาย วิกฤติการณ์น้ียิ่งทวีความรุนแรงข้ึนอีกเมื่อฝ่ าย ระบบท่อและสุขภัณฑ2์ 1 21

ระบบท่อและสุขภัณฑ์ สัมพนั ธมิตรโจมตีแควน้ รูห์ และแควน้ ซาร์ ซ่ึงเป็ นแหล่งผลิตเหล็กและแร่อ่ืน ๆ ท่ีใช้ผลิตท่อในยคุ น้นั เพื่อ แกป้ ัญหาวุ่นวายเหลา่ น้ี นกั วิทยาศาสตร์และวศิ วกรเยอรมนั จึงหนั มาใช้ PVC จึงไดก้ ่อกาํ เนิดข้ึนเป็นคร้ังแรก ท่อพลาสติกชนิดน้ีไดร้ ับความนิยมสูงในประเทศไทย เกือบในทุกระบบ ท่อพีวีซีใชส้ ําหรบั ระบบประปา ระบบระบายน้าํ ท้งิ ระบบระบายน้าํ โสโครก ระบบระบายอากาศ และระบบระบายน้าํ ฝน การ เลือกใช้ท่อพีวีซีท่ีมีคุณภาพที่ดีท้งั วตั ถุดิบและการผลิตจะทาํ ให้ท่อพีวีซี เน้ือเหนียว แข็งแรงทนทาน ไม่ กรอบแตกงา่ ย ผลติ ตามมาตรฐาน มอก.และสิ่งสาํ คญั ในการเชื่อมต่อของท่อพีวีซี คือ น้าํ ยาประสานท่อ ตอ้ ง เลือกท่มี ีคุณภาพดว้ ย จึงทาํ ใหน้ ้าํ ไม่รั่วซึมไดง้ ่าย รูปที่ 2.4 ท่อพีวซี ี (ทม่ี า : ท่อเอสซีจี) ข้อดขี องท่อพวี ซี ี 1) ทนทานต่อแรงดนั และแรงกดไดด้ ี - ท่อท่ีผลิตจากวตั ถุดิบคุณภาพดี จะมีความเหนียว ยืดหยนุ่ ตวั ดี จึงสามารถทนแรงดนั น้าํ ภายในและแรงกดนอกเสน้ ท่อไดเ้ ป็นอยา่ งดี 2) น้าํ หนักเบา – ท่อพีวีซีน้าํ หนกั เบากว่าท่อเหล็กชุบสังกะสี 5 เท่า ทาํ ให้สะดวกในการ ขนส่งและตดิ ต้งั 3) ติดต้งั ไดง้ ่าย – ทอ่ พีวีซีตดิ ต้งั งา่ ย โดยการเช่ือมต่อดว้ ยน้าํ ยาประสานทอ่ 4) เป็นฉนวนไฟฟ้า – ทอ่ พวี ีซี เป็นทอ่ อโลหะ จึงไมเ่ ป็นตวั นาํ ไฟฟ้า เมอื่ เกิดกระแสไฟฟ้า รัว่ 5) ไม่ลามไฟ 6) ปลอดภยั จากสารพิษ – น้าํ ที่ไหลผ่านทอ่ พีวีซีท่ีมีคุณภาพดีจะไมม่ สี ารพิษปนเป้ื อนใน น้าํ และไม่มกี ารเปล่ียนแปลงของ สี กลิ่น รส 7) ไม่เป็ นสนิม ไม่ร่ัว ไม่เปราะ – ดว้ ยคุณสมบตั ิของพีวีซี ทาํ ให้ท่อไม่เป็ นสนิม และการ เลือกใชว้ ตั ถดุ ิบทีค่ ุณภาพดีในการผลติ ท่อ ทาํ ให้ทอ่ ไมเ่ ปราะงา่ ย 22 ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ 22

ระบบทอ่ และสขุ ภณั ฑ์ 8) ทนทานต่อสภาพกรดและด่าง – ท่อพีวีซีท่ีมีคุณภาพ ไม่ทาํ ปฏิกิริยากบั กรดและด่าง ออ่ น จึงหมดปัญหาเร่ืองการกดั กร่อน ทาํ ใหม้ ีอายกุ ารใชง้ านยาวนาน 9) ทนทานตอ่ แสงอลุ ตร้าไวโอเลต็ (UV) – ทอ่ พีวีซีทีม่ กี ารคดั เลือกวตั ถุดิบทม่ี ีคุณภาพจะ มีส่วนผสมของไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) ในปริมาณที่เหมาะสม จึง ป้องกนั รังสี UV ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ไม่กรอบหรือแตกหกั ง่าย 10) ใชง้ านไดห้ ลายประเภท - ท้งั ประปา ระบายน้าํ ระบายอากาศ ไฟฟ้า และงานเกษตร ข้อเสียของท่อพวี ซี ี 1) ไมส่ ามารถใชก้ บั ทอ่ น้าํ ร้อนได้ จะอ่อนตวั น้าํ จะมกี ลิ่น 2) ไม่เหมาะในกรณีทีเ่ ดินท่อใตถ้ นน 3) ไม่สามารถทนต่อแรงฉีกขาด 4) จดุ ต่ออาจรัว่ ไดง้ ่าย หากเดินใตอ้ าคารท่พี ้ืนดินทรุด 5) คุณภาพของรอยตอ่ ดว้ ยน้าํ ยาประสานทอ่ ข้นึ อยกู่ บั ฝีมอื ช่าง ขนาดและมาตรฐานท่อ PVC 1) ท่อสีฟ้า สาํ หรับงานประปาและระบายน้าํ ใช้ มาตรฐานอุตสาหกรรม เลขท่ี มอก. 17-2532 แบง่ ตามช้นั คณุ ภาพไดด้ งั น้ี  ช้นั คุณภาพ 5 รับความดนั 5 บาร์ (kg/cm2) สาํ หรับเป็ นท่อระบายน้าํ ขนาด 35 – 400 มม.  ช้นั คุณภาพ 8.5 รับความดนั 8.5 บาร์ (kg/cm2) สาํ หรับเป็นท่องานระบายน้าํ และงาน ประปารับแรงดนั ขนาด 18 – 400 มม.  ช้ันคุณภาพ 13.5 รับความดัน 13.5 บาร์ (kg/cm2) สําหรับเป็ นท่องานประปารับ แรงดนั ขนาด 18 – 400 มม. ซ่ึงมีท้งั แบบปลายเรียบ แบบบานหัว ความยาวเส้นละ 4 เมตร และแบบบานหัวชนิดต่อดว้ ย แหวนยาง ความยาวเสน้ ละ 6 เมตร (งานจา่ ยน้าํ ประปาขนาดใหญ)่ ระบบทอ่ และสขุ ภณั ฑ2์ 3 23

ระบบทอ่ และสุขภณั ฑ์ 2) ท่อสีเหลือง สาํ หรับงานร้อยสายไฟฟ้าและสายโทรศพั ท์ มาตรฐานอุตสาหกรรม เลขที่ มอก. 216-2524 แบบปลายเรียบและบานหวั ความยาวเส้นละ 4 เมตร แบ่งตามความหนาไดด้ งั น้ี  ช้นั 1 มีความหนาทีส่ ุด ขนาด 15 – 100 มม.  ช้นั 2 มคี วามหนาปานกลาง ขนาด 80 – 100 มม.  ช้นั 3 มคี วามหนานอ้ ยท่ีสุด ขนาด 80 – 100 มม. รูปที่ 2.5 ท่อร้อยสายไฟสีเหลอื ง รูปที่ 2.6 ขอ้ ต่อรอ้ ยสายสีเหลอื ง 3) ท่อสีขาว สาํ หรับงานร้อยสายไฟฟ้าและสายโทรศพั ท์ มีให้เลือกใช้ 2 มาตรฐาน เป็นท่อที่ มีสามารถดดั โคง้ ไดเ้ หมือนทอ่ ร้อยสาย EMT  มาตรฐาน JIS (JIS C 8430-1999) ขนาด 15 – 55 มม. (3/8” – 2”) ความยาวเส้นละ 2.92 เมตร  มาตรฐาน IEC/BS (IEC-61386-1 : 2008, IEC 61386-21 : 2008) ขนาด 16 – 50 มม. (3/8” – 1 ½”) ความยาวเสน้ ละ 2.92 เมตร รูปท่ี 2.7 ทอ่ รอ้ ยสายไฟสีขาว รูปท่ี 2.8 ขอ้ ตอ่ รอ้ ยสายสีขาว (ท่ีมา : ท่อเอสซีจี) (ทม่ี า : ท่อเอสซีจ)ี 999-2533 4) ท่อสีเทา สาํ หรับงานระบายน้าํ และงานอุตสาหกรรม มาตรฐานอุตสาหกรรม เลขท่ีมอก.  มชี ้นั คุณภาพ ขนาด ความหนาและความยาวเช่นเดียวกบั สีฟ้า 24 ระบบทอ่ และสขุ ภณั ฑ์ 24

ระบบท่อและสขุ ภณั ฑ์ 5) ท่อสีเทา สําหรับงานเกษตร ขนาด 10 – 125 มม. ยาว 4 เมตร เป็ นท่อมีความบางท่ีสุดรับ ความดนั ประมาณ 5 บาร์ รูปที่ 2.9 ท่อเกษตร รูปท่ี 2.10 ขอ้ ตอ่ เกษตร (ทีม่ า : ท่อเอสซีจ)ี (ทมี่ า : ท่อเอสซีจ)ี  ลักษณะของปลายท่อพีวซี ี สําหรับท่อพีวีซีที่ผลิตจะมีท้งั แบบปลายเรียบ, แบบปลายบานชนิดต่อดว้ ยน้าํ ยา และแบบ ปลายบานชนิดตอ่ ดว้ ยแหวนยาง ดงั รูปต่อไปน้ี รูปที่ 2.11 ท่อพีวซี ีแบบปลายธรรมดา รูปที่ 2.12 ทอ่ พวี ีซีแบบปลายบานชนิดตอ่ ดว้ ยน้าํ ยา (ที่มา : ท่อเอสซีจ)ี (ทม่ี า : ท่อเอสซีจี) รูปท่ี 2.13 ทอ่ พวี ซี ีแบบปลายบานชนิดตอ่ ดว้ ยแหวนยาง (ที่มา : ท่อเอสซีจ)ี นอกจากน้ียงั มีท่อพีวีซีท่ีผลิตมาสาํ หรับงานท่อรับน้าํ จากบ่อบาดาล เรียกว่า ท่อพีวีซี ชนิด เซาะร่อง ซ่ึงมที ้งั แบบปลายเรียบ และแบบปลายบานชนิดตอ่ ดว้ ยน้าํ ยาประสานท่อ ระบบทอ่ และสุขภัณฑ2์ 5 25

ระบบทอ่ และสุขภัณฑ์ รูปท่ี 2.14 ท่อพวี ีซี ชนิดเซาะร่อง แบบปลายธรรมดา รูปที่ 2.15 ทอ่ พวี ีซี ชนิดเซาะร่อง แบบปลายบานชนิดต่อ (ทีม่ า : ท่อเอสซีจ)ี ดว้ ยน้าํ ยา ข้อต่อพีวซี ี (ที่มา : ท่อเอสซีจี) ขอ้ ต่อพีวีซี ใชส้ าํ หรับต่อท่อพีวีซี ซ่ึงมีลกั ษณะหลายแบบให้เลือกใช้ ข้ึนอย่กู บั ทิศทางท่ีได้ ออกแบบระบบทอ่ ในการวางทอ่ ซ่ึงขอ้ ต่อท่อพีวซี ีแบง่ ออกเป็น 2 ชนิด คอื 1) แบบชนิดรับแรงดนั ใช้เป็ นขอ้ ต่อสําหรับระบบประปา สามารถทนแรงดนั และแรง กระแทกไดด้ ี ผลติ ตามมาตรฐาน มอก. 1131-2535 2) แบบชนิดไม่รับแรงดนั (ระบายน้าํ ) ใช้เป็ นขอ้ ต่อสําหรับระบบระบายน้าํ สิ่งปฏิกูล น้าํ เสีย และระบบระบายอากาศ ผลติ ตามมาตรฐาน มอก. 1410-2540 26 ระบบทอ่ และสุขภณั ฑ์ 26

ระบบท่อและสุขภัณฑ์ ข้อต่อพวี ซี ี ชนดิ รับแรงดัน  ชนิดฉีดจากเครื่องจกั ร ตวั อยา่ งเช่น รูปท่ี 2.16 ขอ้ ต่อชนิดรบั แรงดนั : ฉีดจากเคร่ืองจกั ร (ทม่ี า : ท่อเอสซีจี) ระบบท่อและสขุ ภัณฑ2์ 7 27

ระบบท่อและสุขภณั ฑ์  ชนิดผลติ จากท่อ ตวั อยา่ งเช่น รูปที่ 2.17 ขอ้ ตอ่ ชนิดรับแรงดนั : ผลิตจากท่อ (ทมี่ า : ท่อเอสซีจี) 28 ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ 28

ระบบทอ่ และสขุ ภัณฑ์ ข้อต่อพวี ีซี ชนดิ ไม่รับแรงดนั (งานระบายนา้ํ )  ชนิดฉีดจากเคร่ืองจกั ร ตวั อยา่ งเช่น รูปท่ี 2.18 ขอ้ ตอ่ ชนิดไมร่ บั แรงดนั : ฉีดจากเครื่องจกั ร (ที่มา : ท่อเอสซีจ)ี ระบบท่อและสขุ ภัณฑ2์ 9 29

ระบบท่อและสุขภณั ฑ์  ชนิดผลติ จากทอ่ ตวั อยา่ งเช่น รูปท่ี 2.19 ขอ้ ตอ่ ชนิดไม่รบั แรงดนั : ผลิตจากทอ่ (ทีม่ า : ท่อเอสซีจี) 30 ระบบทอ่ และสุขภณั ฑ์ 30

ระบบทอ่ และสขุ ภณั ฑ์ การเช่ือมต่อท่อพีวซี ี การเช่ือมต่อท่อพวี ีซีใชน้ ้าํ ยาประสานท่อสาํ หรบั ตอ่ ประกอบทอ่ และขอ้ ตอ่ พวี ซี ี คุณสมบตั ทิ ด่ี ี ของน้ํายาประสานท่อต้องได้รับรองมาตรฐานต่างๆ เช่น มอก.1032-2534 และละลายเน้ือพีวีซี เพื่อ ประสิทธิภาพในการใชง้ าน ทาํ ให้ท่อและขอ้ ต่อเชื่อมละลายติดเป็ นเน้ือเดียวกนั ไม่มีรอยรั่วซึมระหว่างทอ่ และขอ้ ตอ่ โดยคณุ สมบตั ิทด่ี ีท่คี วรเลือกใชม้ ีดงั น้ี 1) น้าํ ยาประสานทอ่ ไดร้ ับมาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม เลขท่ี มอก.1032-2534 2) มีประสิทธิภาพในการทาํ ละลายเน้ือทอ่ และขอ้ ตอ่ ใหเ้ ป็นเน้ือเดียวกนั 3) มีค่าสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ต่าํ กว่าค่าที่มาตรฐานอาคารเขียวกาํ หนด เพ่ือความ ปลอดภยั แกผ่ ใู้ ชง้ าน โดยน้าํ ยาประสานทอ่ แบง่ ออก เป็น 2 ชนิด ข้ึนอยกู่ บั การใชง้ าน คอื นา้ํ ยาประสานท่อ ชนดิ เข้มข้น ลักษณะการใช้งาน 1) สําหรับการใชง้ านรับแรงดนั สูง จึงเหมาะกบั งานท่ตี อ้ งการคุณภาพสูง เช่น งานอาคารสูง งานสระวา่ ยน้าํ 2) สาํ หรบั งานซ่อมแซมเร่งดว่ น สามารถยดึ ติดทอ่ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว มาตรฐานสินค้า น้ํายาประสานท่อ ชนิดเข้มขน้ มีมาตรฐานรับรองท้งั ภายในและนอกประเทศ เช่น ASTM D2564, BS 4346, DIN 169790 และ มอก. 1032-2534 รูปที่ 2.20 น้าํ ยาประสานท่อ ชนิดเขม้ ขน้ (ท่ีมา : ท่อเอสซีจ)ี ระบบทอ่ และสุขภัณฑ3์ 1 31

ระบบทอ่ และสุขภัณฑ์ นา้ํ ยาประสานท่อ ชนดิ ใส ลักษณะการใช้งาน 1) สําหรับการใช้งานรับแรงดันน้าํ ตามการใช้งานทว่ั ไป จึงเหมาะกับงานบา้ นและอาคาร พาณิชย์ 2) สาํ หรับงานประกอบและปรับแตง่ น้าํ ยาฯมคี วามเขม้ ขน้ พอเหมาะ จึงสามารถปรบั แตง่ ท่อ ก่อนน้าํ ยาฯ เริ่มแขง็ ตวั มาตรฐานสินค้า น้าํ ยาประสานท่อ ชนิดใส มีมาตรฐานรับรอง เป็ นมาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม เลขที่ มอก.1032-2534 รูปท่ี 2.21 น้าํ ยาประสานท่อ ชนิดใส (ท่ีมา : ท่อเอสซีจ)ี วธิ ีการทดสอบ การเลือกใช้น้ํายาประสานท่อท่ีมีคุณภาพไม่ดี อาจทาํ ให้รอยต่อ ระหว่างท่อและขอ้ ต่อร่ัวซึมได้ น้าํ ยาฯ ท่ีดีจะตอ้ งมปี ระสิทธิภาพในการละลายเน้ือ ท่อสูงให้ท่อและขอ้ ต่อละลายประสานเป็ นเน้ือเดียวกนั วิธีทดสอบคุณภาพน้าํ ยาฯ ทาํ ไดโ้ ดยทาน้าํ ยาฯ ลงบนท่อท้ิงไวซ้ กั ครู่ แลว้ ลองใชเ้ ลบ็ หรือเหลก็ ขูดท่ีท่อ ถา้ เน้ือ ท่อละลายจนดนั ใหร้ ่นข้ึนมาได้ แสดงว่าเป็นน้าํ ยาประสานทอ่ คุณภาพดี 32 ระบบทอ่ และสขุ ภณั ฑ์ 32

ระบบทอ่ และสขุ ภณั ฑ์  ท่อพอี ี ท่อพีอีผลิตจากสาร Polyethylene เป็ นท่อพลาสติกชนิดออ่ นทาํ ให้สามารถดดั โคง้ ได้ ใชเ้ ดิน ระบบท่อไดใ้ นพ้ืนที่ขรุขระ ไม่ราบเรียบและคดเค้ียวได้ โดยมากเป็ นท่อสีดาํ และแบ่งตามความหนาแน่น ของวสั ดุทาํ ทอ่ ได้ 2 ชนิดหลกั คือ 1) High Density Polyethylene, HDPE รับแรงดันได้สูง ใช้ในงานท่อส่งน้ําประปา งาน ชลประทาน ทอ่ ส่งน้าํ ใตท้ ะเล หรือ น้าํ ทง้ิ ในโรงงานอตุ สาหกรรมทม่ี คี วามกดั กร่อนต่อทอ่ เหล็ก รูปท่ี 2.22 ทอ่ พอี ี HDPE (ท่มี า : ไทยเอเชีย) 2) Low Density Polyethylene, LDPE รับแรงดนั ต่าํ ใชใ้ นงานเกษตรกรรม รูปท่ี 2.23 ท่อพีอี LDPE PN2.5 รูปที่ 2.24 ท่อพอี ี LDPE PN4 (ทมี่ า : ท่อเอสซีจี) (ทม่ี า : ท่อเอสซีจี) ข้อดีของท่อพีอี 1) น้าํ หนกั เบา สามารถมว้ นเก็บและเคล่ือนยา้ ยงา่ ย 2) ทนตอ่ สารเคมี สารอินทรีย์ สารอนินทรียแ์ ละแสงแดดได้ 3) ไม่ผกุ ร่อน สามารถรบั แรงดนั ดิน วางทอ่ ใตด้ ิน และในน้าํ ทะเลได้ 4) มีความยดื หยนุ่ แข็งแรง วางทอ่ ในพ้ืนที่สูงต่าํ หรือโคง้ ไปมาไดด้ ี 5) ไมม่ สี ารพษิ ละลายออกมา เมอื่ ใชใ้ นงานประปา และใชใ้ นการเดินกา๊ ซธรรมชาติได้ 6) ไม่เป็นสื่อนาํ ไฟฟ้า 7) สามารถวางทอ่ เป็นระยะทางไกลไดโ้ ดยใชข้ อ้ ตอ่ จาํ นวนนอ้ ย ระบบท่อและสุขภณั ฑ3์ 3 33

ระบบท่อและสขุ ภณั ฑ์ ข้อเสียของท่อพอี ี 1) ราคาสูง 2) ไม่ทนตอ่ การฉีกขาด 3) หาซ้ือยากตามทอ้ งตลาด 4) ทนต่ออุณหภูมไิ ดไ้ มส่ ูง 5) การตดิ ต้งั ยากตอ้ งใชผ้ ชู้ าํ นาญ โดยใชค้ วามร้อนหรือขอ้ ตอ่ เฉพาะ การเลือกใช้งาน ในการเลือกใชง้ านท่อสุขาภิบาลในอาคารตอ้ งคาํ นึงถึงความเหมาะสมท้งั ในทางปฏิบตั แิ ละ ราคาตดิ ต้งั นิยมใชใ้ นงานทอ่ ส่งน้าํ ประปา และนิยมใชก้ บั งานชายฝั่งทะเล ทอ่ ระบายน้าํ เสีย และทนี่ ิยมมาก ที่สุดคือท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ใช้เป็ นท่อร้อยสายไฟฟ้าหรือสายเคเบิ้ลใต้น้าํ หรือบริเวณที่มีน้ําท่วมขงั ตลอดเวลา และเป็นทอ่ ท่เี หมาะใชก้ บั ระบบสปริงเกอร์และน้าํ หยดในวงการเกษตรกรรม ตัวอย่างวิธกี ารต่อประกอบท่อ PE ใช้ขอ้ ต่อแบบสวม แบบ Compression joint ใช้ข้อตอ่ แบบสอดเข้า โดยใชไ้ ฟฟ�า แบบตอ่ ชน ใชล้ มร้อน แบบหน้าจาน 34 ระบบท่อและสขุ ภัณฑ์ รูปที่ 2.25 วิธีการตอ่ ประกอบทอ่ พีอี 34

ระบบท่อและสขุ ภณั ฑ์ ในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเน่ือง ได้ผลิตท่อพีอีที่มีคุณภาพสูงและได้รับ มาตรฐานรับรอง เพ่ือการใช้งานอยา่ งมีประสิทธิภาพ ท่อพีอีออกแบบมาพิเศษให้มีเน้ือท่อ 3 ช้ัน ซ่ึงช่วยให้ ท่อแข็งแรงทนทาน มีความยืดหยนุ่ สูง โคง้ รับตวั บา้ น ทาํ ให้ท่อไม่แตก เมื่อดินทรุดตวั รวมท้งั ลดการใชข้ อ้ ต่อและโอกาสการรัว่ ซึม เนื่องจากทอ่ มคี วามยาว 30-100 เมตร (ทม่ี า : ท่อพอี ี ตราเอสซีจแี ละมกี ารติดตั้งง่าย ด้วยข้อต่อพีอี ระบบ Easy-Lock ทีผ่ ลิตจาก Nylon-6 (High Quality Fibre Reinforced Nylon) มาตรฐาน BS 5114:1975 และ MS ISO 1050:2004 ที่แขง็ แรงทนทาน ไม่กรอบแตกง่าย นา้ํ ไม่รั่วซึม ซ่ึง ใช้การต่อแบบเชิงกล โดยการสวมอดั และขนั เกลียวลอ็ ค ไม่ต้องใช้ความร้อนในการเช่ือมต่อ) รูปท่ี 2.26 ขอ้ ตอ่ พอี ี (ท่ีมา : ท่อเอสซีจ)ี  ท่อพพี อี าร์ ท่อพีพีอาร์ (Polypropylene Random Copolymer ; PP-R) เป็ นท่อพลาสติกชนิดหน่ึง ที่ผ่าน การพฒั นาให้มีการจดั เรียงตวั ของโมเลกุลพลาสตกิ แบบสุ่ม ทาํ ให้มีคุณสมบตั ิทางเคมแี ละกายภาพที่สูงข้ึน เหมาะกบั การใชเ้ ป็นท่อสาํ หรบั ระบบประปา ประปาน้าํ ร้อน ระบบท่อน้าํ เยน็ ในระบบปรบั อากาศ รวมถึงท่อ ลมร้อน เป็นตน้ ซ่ึงสามารถใชง้ านไดท้ ้งั ในงานบา้ น โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินคา้ อาคารสาํ นกั งาน อาคารสูง ฯลฯ และสามารถใช้งานทดแทนท่อโลหะได้ เช่น ท่อทองแดง ท่อเหล็กกลั วาไนซ์ เป็ นตน้ ต่อ ประกอบดว้ ยการเช่ือมความร้อนหลอมละลายทอ่ และขอ้ ตอ่ เป็นเน้ือเดียวกนั ท่อพีพีอาร์ ปัจจุบนั ผลิตตามมาตรฐานของประเทศเยอรมนั DIN 8077 และ DIN 8078 มีช้ัน คุณภาพทอ่ ทแี่ ตกต่างกนั แบ่งตามความเหมาะสมในการใชง้ านท้งั ในดา้ นของความดนั ใชง้ านและอณุ หภูมิท่ี ใชง้ าน ระบบท่อและสขุ ภัณฑ3์ 5 35

ระบบทอ่ และสุขภัณฑ์ รูปท่ี 2.27 ท่อพพี ีอาร์ PN 10, PN 20 และพีพีอาร์ Fiber Composite (ทม่ี า : ท่อเอสซีจ)ี ข้อต่อท่อพพี ีอาร์ ข้อต่อพีพีอาร์ ผลิตจากพลาสติกชนิดเดียวกนั กบั ท่อพีพีอาร์ และผลิตตามมาตรฐาน DIN 16962-5 มีลกั ษณะและรูปแบบท่ีแตกต่างกนั ตามวิธีการต่อประกอบและความเหมาะสมในการใชง้ าน ท้งั แบบเชื่อมสอดท่อดว้ ยความร้อนหลอมละลาย เช่ือมชนท่อดว้ ยความร้อนเช่ือมดว้ ยกระแสไฟฟ้า สําหรับ การต่อประกอบร่วมกบั วสั ดุอปุ กรณ์อ่ืนๆ สามารถใชข้ อ้ ต่อประเภทเกลียว หรือการตอ่ ประกอบดว้ ยลกั ษณะ หนา้ จาน (Flange) และตวั แปลงหนา้ จานพีพอี าร์ (Stub Flange)ไดเ้ ช่นกนั 36 ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ 36

ระบบทอ่ และสขุ ภัณฑ์ รูปท่ี 2.28 ขอ้ ตอ่ พีพอี าร์ (ที่มา : ท่อเอสซีจ)ี ข้อดขี องท่อพพี อี าร์ 1) ทนความดนั ใชง้ านไดส้ ูงสุด 20 บาร์ ทอี่ ุณหภมู ิ 27 องศาเซลเซียส แต่เม่อื อณุ หภมู ิสูงข้ึน ความสามารถในการทนดวามดนั น้าํ ในทอ่ จะลดลง 2) ทนต่ออุณหภูมิไดส้ ูงสุดถึง 95 องศาเซลเซียส 3) สะอาด ปราศจากโลหะหนกั และสิ่งปนเป้ื อน ไม่เป็นสนิม 4) มีคุณสมบตั ิเป็นฉนวนช่วยรักษาอณุ หภูมขิ องน้าํ ร้อนไดด้ ีกว่าท่อโลหะ จึงเป็นการช่วย ประหยดั พลงั งาน ลดการทาํ งานของเคร่ืองทาํ น้าํ ร้อนและช่วยประหยดั ค่าไฟ 5) น้าํ หนกั เบา และราคาถูกกวา่ เมอ่ื เทียบกบั ท่อทองแดง 6) เช่ือมต่อเป็นเน้ือเดียวกนั ดว้ ยความร้อน ไม่รั่วซึม ข้อเสียของท่อพีพอี าร์ 1) การตอ่ ประกอบตอ้ งอาศยั ความชาํ นาญสูง 2) อปุ กรณ์และเคร่ืองมือติดต้งั มีราคาแพง 3) ท่อมีความหนามากกว่าท่อโลหะ ดังน้ันทําให้อัตราการไหลของน้ําต่ํากว่าเมื่อ เปรียบเทียบทที่ ่อขนาดเทา่ กนั ระบบท่อและสุขภณั ฑ3์ 7 37

ระบบท่อและสุขภัณฑ์  ท่อซีพวี ีซี ท่อซีพวี ีซี (Chlorinated Polyvinyl Chloride ; CPVC) เป็นทอ่ พลาสตกิ ที่มีคณุ ภาพสูงอีกชนิด หน่ึง พฒั นามาจากท่อพีวีซีทั่วไป ทาํ ให้มีคุณสมบัติที่ดีข้ึนสามารถใช้งานได้หลากหลายมากข้ึน ท้ังใน ระบบประปา ประปาน้าํ ร้อน ระบบท่อน้าํ เยน็ ในระบบปรบั อากาศ นอกจากน้ียงั สามารถทนสารเคมไี ดม้ าก ข้ึน ท้งั น้ีหากต้องการใช้ในงานระบบลาํ เลียงสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมแนะนาํ ให้ใช้ท่อซีพีวีซีอีก ประเภทหน่ึงที่มกี ารเตมิ สารเติมแต่งสาํ หรับงานสารเคมีโดยเฉพาะ ท่อและขอ้ ต่อซีพีวีซีสําหรับระบบประปาและประปาน้าํ ร้อน ผลิตตามมาตรฐาน ASTM D 2846 สําหรับท่อช้ันคุณภาพ SDR13.5 และ SDR11 ต้งั แต่ขนาด ½” - 2” (15-50 มม.) และมาตรฐาน ASTM F 441 สําหรับท่อช้ันคุณภาพ Schedule40 และ Schedule80 และมาตรฐาน ASTM F 438, ASTM F 439 สาํ หรบั ขอ้ ต่อ ต้งั แตข่ นาด 2 ½” - 6” (65-150 มม.) รูปท่ี 2.29 ทอ่ และขอ้ ต่อซีพวี ีซี (ท่มี า : ท่อเอสซีจี) ข้อดีของท่อซีพีวีซี 1) ทนความดนั ใชง้ านไดส้ ูงกวา่ ทอ่ พลาสติกทวั่ ไป 2) มีความแขง็ แรงสูง ไม่เสียรูป ลดการใชอ้ ุปกรณ์แขวนจบั ยึด 3) ติดต้งั ง่าย ดว้ ยการทาน้าํ ยาประสานท่อซีพีวซี ี 4) น้าํ หนกั เบา 5) ทนสารเคมี โดยเฉพาะกลุ่มสารคลอรีนไดด้ ี ข้อเสียของท่อซีพีวซี ี 1) ราคาแพง 2) หาซ้ือยาก เพราะยงั ไม่เป็นท่รี ู้จกั แพร่หลายในประเทศไทย 3) ท่อขนาด 2 ½” (65 มม.) ข้ึนไป ควรทาน้าํ ยารองพ้ืน (Primer) ก่อนทาน้าํ ยาประสานท่อ 38 ระบบท่อและสขุ ภัณฑ์ 38

ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ 2.1.4 ท่อทองแดง เป็นท่อที่นิยมใชม้ าก ทนต่อการสึกกร่อน ทนแรงกระแทกไดด้ ี น้าํ หนักเบา สามารถดดั โคง้ งอได้ ทาํ ให้เกิดความเรียบ และรวดเร็วในการเดินท่อ การต่อนิยมใชบ้ ดั กรีท่อมากกว่าใช้เกลยี ว โดยทวั่ ไป นิยมใชเ้ ป็นทอ่ น้าํ ร้อนในอาคาร รูปที่ 2.30 ทอ่ ทองแดง ข้อดขี องท่อทองแดง 1) มีน้าํ หนกั เบา ดดั โคง้ งอไดง้ ่าย ตดิ ต้งั งา่ ย 2) ใชเ้ ป็นท่อน้าํ ร้อนไดด้ ี และเป็นทน่ี ิยมใชเ้ ป็นทอ่ น้าํ ร้อนมากที่สุด เพราะไมเ่ กิดตระกรัน 3) มีท้งั แบบทอ่ แขง็ และท่อออ่ นทีม่ ว้ นได้ 4) ทนไดท้ กุ สภาพอากาศ และทนความเค็มไดด้ ี 5) หาซ้ือไดง้ า่ ยตามทอ้ งตลาด ข้อเสียของท่อทองแดง 1) มีราคาสูง 2) ไมม่ ีความแกร่ง บบุ งา่ ย 3) การดดั ท่อไม่งา่ ย ตอ้ งใชช้ ่างที่ชาํ นาญ 4) มีการขยายตวั สูงกว่าท่อเหล็กอาบสังกะสีมาก เมอื่ อณุ หภูมเิ ปล่ียนแปลง การเลอื กใช้งาน มกั นิยมใช้กนั มากในท่อส่งน้าํ ร้อน หรือท่อก๊าซ และมีจุดเด่นคือ ดูสวยงาม มีน้าํ หนกั เบา มี รอยรั่วยาก คณุ ภาพน้าํ ปลอดภยั จากสารพิษ ส่วนการส่งน้าํ เยน็ ยงั ไมเ่ ป็นท่ียอมรับกนั มากนกั ในประเทศไทย ขนาดและมาตรฐาน 1) ชนดิ K คาดสีเขยี ว ใชก้ บั ท่อน้าํ ประปาท้งั น้าํ เยน็ และน้าํ ร้อนในอาคารและใตอ้ าคาร ความ หนา 0.035-0.405” เส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 1/4”-12” (เป็นกลุ่มทอ่ ผนงั หนามาก) ระบบท่อและสขุ ภณั ฑ3์ 9 39

ระบบท่อและสขุ ภัณฑ์ 2) ชนิด L คาดสีนา้ํ เงินหรือสีดาํ ใช้กบั ท่อประปาท้ังน้าํ เยน็ และน้าํ ร้อนเหนือพ้ืนดิน ความ หนา 0.030-0.280” เส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 1/4”-12” (เป็นกลุ่มทอ่ ผนงั หนาปานกลาง) 3) ชนิด M คาดสีแดง ใชก้ บั ทอ่ ประปาท้งั น้าํ เยน็ และน้าํ ร้อนเหนือพ้ืนดิน เป็นทอ่ ระบายน้าํ ทง้ิ ทอ่ ระบายน้าํ เสีย และท่ออากาศ 0.025-0.254” เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 1/4”-12” (เป็นกล่มุ ทอ่ ผนงั หนาปานกลาง) 4) ชนิด DWV คาดสีเหลือง ใช้กับท่อระบายน้าํ ท้ิง ท่อระบายน้ําโสโครก ท่ออากาศ ท่อ ระบายน้ําฝนจากหลงั คา ท่อวางท้งั บนดินและใตด้ ินความหนา 0.04-0.109” เส้นผ่านศูนยก์ ลาง 1 1/4”-8” (เป็นกลมุ่ ท่อผนงั บาง) 5) ชนิด ACR จดั ได้ว่าเป็ นท่อชนิด L ใช้กบั ท่อสารทาํ ความเย็นในระบบปรับอากาศและ ระบบทาํ ความเยน็ ความหนา 0.030-0.055” เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 1/4”-1 1/4” (เป็นกลุม่ ทอ่ ผนงั หนาปานกลาง) 2.1.5 ท่อซิเมนต์ใยหิน ท่อซิเมนตใ์ ยหินเป็นท่อทผ่ี ลติ โดยเอาใยหินมาผสมกบั น้าํ ซิเมนต์ กวนเขา้ กนั จนดี แลว้ นาํ มา ซ้อนกนั เป็นช้ันๆ แต่ละช้ันจะถูกกล้ิงอดั ตามวิธี อดั จนไดค้ วามหนาตามท่ีตอ้ งการ แลว้ จึงนาํ มาบ่มน้าํ เพื่อ เพิ่มความแข็งแรงท่อ มีท้งั ท่อประปาและระบายน้าํ และเป็ นท้งั แบบท่อธรรมดาและแบบทนซลั เฟตไดส้ ูง (ใชบ้ ริเวณดินเค็มหรือชายทะเล) รูปที่ 2.31 ทอ่ ซิเมนตใ์ ยหิน 40 ข้อดขี องท่อซิเมนต์ใยหนิ 1) น้าํ หนกั เบา 2) ไม่เป็นส่ือไฟฟ้าหรือส่ือความร้อน 3) หาซ้ืองา่ ยตามทอ้ งตลาด (ปัจจุบนั ไมม่ ขี ายในกลมุ่ รับแรงดนั ) 4) ผลติ ไดใ้ นประเทศไทย (ปัจจุบนั แทบไมม่ ีการผลติ แลว้ ) 40 ระบบทอ่ และสขุ ภณั ฑ์

ระบบทอ่ และสุขภัณฑ์ ข้อเสียของท่อซิเมนต์ใยหิน 1) แตกหกั และถกู กดั กร่อนงา่ ย มอี ายกุ ารใชง้ านเพียง 10 ปี 2) หากใชเ้ ป็นทอ่ ประปา จะมีสารใยหินละลายปนออกมา 3) ไม่มขี นาดท่อเลก็ กวา่ 100 มม. ขนาดและมาตรฐาน ในประทศไทยใชต้ ามมาตรฐาน มอก.81-2529 ของท่อประปา, มอก.621-2529 ของทอ่ ระบาย น้าํ ในอาคาร และ มอก.622-2529 ของท่อระบายน้าํ ทว่ั ไป โดยแบ่งช้นั คุณภาพ คือ 5, 10, 15, 20, 25 kg/cm2 ทอ่ ซิเมนตใ์ ยหินทว่ั ไปมคี วามยาวทอ่ 4 และ 5 เมตร และขนาดเส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 100-200 มม. การเลือกใช้งาน ปัจบุ นั ไมน่ ิยมใชก้ นั แลว้ เพราะมีท่อ PVC มาทดแทน แต่ในอดีตนิยมใชเ้ นื่องจากราคาถกู แม้ จะมปี ัญหาเร่ืองของสารใยหินซ่ึงเป็นพิษในน้าํ ก็ตาม ทาํ ใหใ้ นปัจจบุ นั เลิกใช้ในระบบประปาแลว้ แต่ยงั คงมี ใชอ้ ยใู่ นระบบระบายน้าํ ท้งิ 2.2 สุขภัณฑ์ เครื่องสุขภณั ฑ์ เป็นอุปกรณท์ ่สี าํ คญั ในระบบประปา ทีใ่ ชเ้ พอื่ อาํ นวยความสะดวกตอ่ การใชน้ ้าํ และ เป็นอุปกรณ์รองรับส่ิงโสโครกและปฏิกูลจากการขบั ถ่ายของมนุษยใ์ หอ้ อกไปตามระบายน้าํ โสโครก ดงั น้นั เคร่ืองสุขภณั ฑจ์ ึงถอื ไดว้ า่ เป็นส่ิงที่ทาํ ใหม้ นุษยไ์ ดร้ ับความสะดวกสบาย 2.2.1 ชนดิ เครื่องสุขภัณฑ์ เคร่ืองสุขภณั ฑ์เซรามิก : หมายถึง ผลิตภณั ฑ์ที่ทาํ ดว้ ยเซรามิก ใช้สาํ หรับรองรับสิ่งขับถ่าย ของมนุษยเ์ พ่อื ใหเ้ กิดสุขอนามยั มีโถเป็นทร่ี องรับการนงั่ ทาํ ให้ผูใ้ ชน้ ง่ั ราบได้ มีหรือไม่มีถงั พกั น้าํ ก็ได้ เซรามิก หมายถึง วสั ดุดิน และ/หรือ วตั ถุดิบอนินทรีย์อ่ืนท่ีเผาท่ีอุณหภูมิสูงจนเน้ือดิน แขง็ แกร่งและดดู ซึมน้าํ ต่าํ ซ่ึงไดแ้ ก่ เครื่องสุขภณั ฑม์ ีหลายชนิด จะกล่าวเฉพาะท่ีใชก้ นั ในอาคารบา้ นเรือนและสํานกั งานเทา่ น้นั 1) โถส้วม (Water Closet) 2) โถปัสสาวะ (Urinal) 3) อ่างลา้ งมือ-อ่างลา้ งหนา้ (Lavatory) ระบบท่อและสุขภณั ฑ4์ 1 41

ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ 4) อา่ งอาบน้าํ (Bathtub) / อ่างอาบน้าํ วน (Whirlpool Bathtub) 5) ทอี่ าบน้าํ ฝักบวั (Shower Bath) 6) ช่องระบายน้าํ ที่พ้นื (Floor Drain) 7) เครื่องทาํ น้าํ ร้อน (Water Heater) 8) เครื่องทาํ น้าํ อุ่น 1) โถส้วม ถา้ แบ่งโถส้วมตามประเภทการนงั่ จะประกอบดว้ ย 2 ชนิด คอื 1) โถส้วมชนิดนงั่ ยอง 2) โถส้วมชนิดนงั่ ราบ โถส้วมชนิดนัง่ ยอง โถส้วมแบบนัง่ ยองเป็นที่ไดร้ ับความนิยมใชก้ นั ทวั่ ไป โดยเฉพาะในประเทศไทย เน่ืองจาก ราคาถูกและสร้างงา่ ย รูปท่ี 2.32 โถส้วมชนิดนงั่ ยอง A โถส้วมชนิดนงั่ ยองราดน้าํ B โถส้วมชนิดนงั่ ยองแบบใชถ้ งั พกั น้าํ C โถสว้ มชนิดนงั่ ยองแบบใชฟ้ ลชั วาลว์ โถส้วมชนดิ นั่งราบ โถส้วมชนิดน้ี เป็นโถส้วมท่ีถูกสุขลกั ษณะมากทสี่ ุด เน่ืองจากเวลาที่ใช้จะเหมือนกบั การนง่ั บนเกา้ อ้ี ทาํ ใหส้ ะดวกกวา่ โถสว้ มแบบนงั่ ยอง 42 ระบบท่อและสุขภัณฑ์ 42

ระบบท่อและสขุ ภณั ฑ์ รูปที่ 2.33 โถส้วมชนิดนงั่ ราบ A โถส้วมชนิดนงั่ ราบราดน้าํ B โถสว้ มชนิดนงั่ ราบแบบใชถ้ งั พกั น้าํ C โถสว้ มชนิดนงั่ ราบแบบใชฟ้ ลชั วาลว์ อปุ กรณ์สําคญั ของโถส้วม  ถงั พกั น้าํ (Cistern) หมาย ถึงช้ินส่วนท่ีประกอบของโถส้วม ใชเ้ ก็บน้าํ ไวส้ ําหรับชาํ ระ ลา้ งโถ ภายในตดิ ต้งั อปุ กรณป์ ระกอบถงั พกั น้าํ  อุปกรณ์ถงั พกั น้าํ (Tank Trim) หมายถงึ กลอุปกรณ์ทปี่ ระกอบดว้ ยชุดน้าํ เขา้ และชุดน้าํ ออก ติดต้งั อยใู่ นถงั พกั น้าํ โดยชุดน้าํ เขา้ ท่จี า่ ยน้าํ เขา้ และควบคมุ ปริมาตรน้าํ เขา้ ชุดน้าํ ออกทาํ หนา้ ที่ปลอ่ ยน้าํ ออก และควบคมุ ปริมาตรน้าํ ออก (ดูรูปท่ี 2.34)  โถสว้ มชนิดถงั พกั น้าํ ในตวั (One Piece) หมายถึง โถสว้ มประเภทชกั โครกดว้ ยอุปกรณ์ ถงั พกั น้าํ ทมี่ ีถงั พกั น้าํ ชิ้นเดียวกบั ตวั โถ และมีชุดน้าํ ออก เพื่อชาํ ระลา้ งตวั โถ เนื่องจากมีสิ่งขบั ถา่ ยของมนุษย์ (ดูรูปที่ 2.35)  โถส้วมชนิดถังพกั น้ําแยกต่างหาก (Single Flush WC) หมายถึง โถส้วมประเภทชัก โครกด้วยอุปกรณ์ถังพกั น้ํา ท่ีมีถังพกั น้ําแยกออกจากตัวโถส้วม และมีชุดน้ําออก เพ่ือชําระล้างตัวโถ เนื่องจากมีส่ิงขบั ถา่ ยของมนุษย์ (ดรู ูปท่ี2.36)  โถส้วมประเภทชักโครกดว้ ยวาลว์ ขบั ลา้ ง (Flush Valve WC) หมายถึง โถส้วมที่ไม่มี ถงั พกั น้าํ ชาํ ระลา้ งตวั โถดว้ ยการเปิ ดปิ ดวาลว์ ขบั ลา้ ง (ดรู ูปที่ 2.37)  โถส้วมประเภทราดน้าํ (Pail Flush WC) หมายถึง โถส้วมที่ไม่มีถงั พกั น้าํ ชาํ ระลา้ งตวั โถดว้ ยการราดน้าํ (ดูรูปที่ 2.38) ระบบท่อและสุขภัณฑ4์ 3 43

ระบบทอ่ และสขุ ภณั ฑ์ อปุ กรณ์สําคัญในระบบถงั พกั นา้ํ รูปที่ 2.34 อปุ กรณส์ าํ คญั ในระบบถงั พกั น้าํ แบบใชล้ กู ลอย (ทม่ี า : COTTO ) A ชุดมือกด ควบคุมการ ปิ ด-เปิ ด ลกู ยาง ปิ ด-เปิ ดกบั ท่อน้าํ B ชุดน้าํ เข้า ทาํ หนา้ ท่ีจ่ายน้าํ ลงถงั พกั น้าํ และสายน้าํ เล้ยี งโถสุขภณั ฑ์ C ท่อนาํ้ ออก ทาํ หนา้ ทจ่ี า่ ยน้าํ จากถงั พกั น้าํ ลงสู่โถสุขภณั ฑ์ D สายโถน้าํ เลยี้ ง ทาํ หนา้ ท่ีจ่ายน้าํ เพอ่ื ปรบั ปริมาณน้าํ หลอ่ เล้ียง หรือ Water Surface และ ช่วยป้องกนั กลิน่ ยอ้ นกลบั E ลูกลอย ทาํ หนา้ ที่ควบคมุ ปริมาณน้าํ ในถงั พกั น้าํ เมื่อลกู ลอยต่าํ ลง น้าํ จะไหลออกจากชุด น้าํ เขา้ และเมอื่ ลูกลอยสูงข้นึ น้าํ ก็จะหยดุ F ท่อนา้ํ ล้น ช่วยป้องกนั น้าํ ลน้ จากถงั พกั น้าํ ในกรณีที่ชุดน้าํ เขา้ เกิดชาํ รุด น้าํ จะไหลลงทอ่ น้าํ ลน้ และไหลลงโถสว้ ม G ลกู ยางปิ ด –เปิ ดน้าํ ทาํ หนา้ ท่ปี ิ ด-เปิ ดน้าํ จากถงั พกั น้าํ ลงสู่โถส้วม ส่วนการปล่อยน้าํ ออกจากถงั ชักโครกเขา้ สู่โถส้วม จะทาํ ไดด้ ว้ ยการโยกคนั โยก (Handle) ซ่ึงมีกลไกเขา้ กบั ลกู ยางทท่ี าํ หนา้ ท่เี ปิ ด-ปิ ดวาลว์ ทก่ี น้ ถงั ปล่อยน้าํ ผา่ นทางทอ่ น้าํ ออก (Discharge Hole) เขา้ สู่ โถส้วม ในขณะที่น้าํ ถูกปล่อยออกไปจากถงั ชักโครก ระดบั น้าํ ในถงั ก็จะลดต่าํ ลงจึงทาํ ให้ลูกลอยลดต่าํ ลง ด้วย เม่ือถึงระดบั หน่ึงลูกลอยก็จะทาํ ให้วาลว์ เปิ ด-ปิ ด เปิ ดทางให้น้าํ ไหลเข้าสู่ถงั อีกคร้ังหน่ึง สําหรับน้าํ ส่วนเกินจะถูกปล่อยออกไปโดยผ่านทางท่อน้าํ ลน้ (Overflow Pipe) เพ่ือป้องกนั มิให้น้าํ ลน้ ถงั ปลอกบงั คบั (Guide) จะช่วยใหล้ วดยกลูกยาง (Lift Wires) ท้งั ทอ่ นลา่ งและทอ่ นบนเคลื่อนท่ีข้นึ -ลงในแนวเดียวกนั จึงทาํ ให้ลกู ยางเคล่ือนลงปิ ดวาลว์ ท่กี น้ ถงั ไดส้ นิทพอดี 44 ระบบท่อและสุขภัณฑ์ 44

ระบบท่อและสุขภณั ฑ์ รูปที่ 2.35 ตวั อยา่ งโถสว้ มชนิดถงั พกั น้าํ ในตวั รูปท่ี 2.36 ตวั อย่างโถสว้ มชนิดถงั พกั น้าํ แยกตา่ งหาก (ท่ีมา : COTTO ) (ทีม่ า : COTTO ) รูปที่ 2.37 ตวั อย่างโถสว้ มประเภทชกั โครกดว้ ยวาลว์ ขบั ลา้ ง รูปที่ 2.38 ตวั อยา่ งโถสว้ มประเภทราดน้าํ (ทม่ี า : COTTO ) (ทีม่ า : COTTO ) • วาลว์ ขบั ลา้ ง หมายถงึ กลอปุ กรณท์ ท่ี าํ หนา้ ทเี่ ปิ ดปิ ดน้าํ สาํ หรับชาํ ระลา้ งตวั โถส้วม • วาลว์ เปิ ดปิ ดน้าํ (stop valve) หมายถึง วาลว์ ทที่ าํ หนา้ ทเี่ ปิ ดปิ ดน้าํ ท่จี ่ายเขา้ ถงั พกั น้าํ • ที่รองนัง่ และฝาพลาสติกสาํ หรับโถส้วม (water closet seat) ซ่ึงต่อไปในมาตรฐานน้ีจะ เรียกว่า “ฝารองนัง่ ” หมายถึง ผลิตภณั ฑท์ ี่ประกอบดว้ ยทีร่ องนัง่ อุปกรณ์ประกอบและ ฝา (ถา้ มี) • ชุดอปุ กรณ์ยดึ พ้นื หรือผนงั หมายถงึ ชุดอุปกรณ์ยึดพ้ืนหรือผนงั เพอ่ื ใชส้ าํ หรบั การติดต้งั สุขภณั ฑ์ • ชุดน้าํ เขา้ หมายถงึ อปุ กรณท์ จ่ี ่ายน้าํ และควบคุมปริมาณน้าํ ในถงั พกั น้าํ ของโถสว้ ม • ชุดน้าํ ออก หมายถึง อปุ กรณท์ ่ที าํ หนา้ ทปี่ ลอ่ ยน้าํ ออกเพอื่ ชาํ ระลา้ งโถสว้ ม ระบบทอ่ และสุขภัณฑ4์ 5 45


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook