46 3.4 ประโยชนต์ อ่ การพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศึกษาของโรงเรยี น - ทำใหก้ ารจัดการสอนในสถานศึกษามคี ณุ ภาพมากย่ิงขึน้ และการเรยี นรเู้ ทคนคิ การ สอนของครูแตล่ ะทา่ นภายในโรงเรียน ทั้งในดา้ นการสอน และดา้ นการทำงานอืน่ ๆ โดยมีผ้เู ขียนเรียงลำดบั ดงั น้ี 11. นางสาวมนัชญา จมู แพง รหสั นกั ศึกษา 6411010017 12. นางสาวเบญจมาศ สดุ งาม รหสั นักศกึ ษา 6411010081 13. นางสาววมิ ลณัฐ ลูกนก รหสั นักศึกษา 6411070065 14. นายนาราวทิ ย์ ดารดาษ รหสั นกั ศกึ ษา 6411070831 15. นางสาวจติ รานุช สนั เพชร รหสั นักศึกษา 6411060006 16. นางสาวศภุ การณ์ เงนิ พรัก รหัสนักศกึ ษา 6411060029 17. นางสาวศิริลกั ษณ์ นามสหี าญ รหัสนกั ศึกษา 6411020014 18. นางสาวกชรก สงิ หา รหัสนกั ศึกษา 6411020016 19. นายรัตนพล สุขเกษม รหสั นักศกึ ษา 6411030003 20. นางสาวยวุ ดี เกาะมะไฟ รหัสนักศึกษา 6411030057
47
48 ชือ่ ผเู้ ขียน : นางสาวมนัชญา จมู แพง แบบสังเกตการณ์ปฏิบัตหิ น้าท่คี รู แบบสังเกตการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ครู 1) ขอ้ มลู เกยี่ วกบั สภาพและผู้บนั ทึกขอ้ มลู วันที่ 14 เดือน มิถนุ ายน ปี 2565 เวลา 7.30 น. ถงึ 16.30 น. สถานที่ : โรงเรียนวดั อมรนิ ทราราม เปา้ หมายของการสังเกต : เพื่อนำไปพฒั นาในการเปน็ คณุ ครทู ีด่ ี นามผูจ้ ดบันทกึ หรอื ผู้สงั เกต : นางสาว มนชั ญา จูมแพง 2) ขณะที่กำลังสังเกต : จากการสังเกตและการสนทนาจะพบเห็นได้ว่า คุณครูประจำรายวิชามี วิธกี ารรบั มือกบั เดก็ อยา่ งไร เชน่ เมอ่ื เด็กมกี ารเลน่ กนั หรือพดู คุยกันขณะทำการเรยี นการสอนสามารถ ทำให้เด็กเชื่อฟัง และมีเทคนิคการสอนอย่างไร เพ่ือที่จะดึงดูดความสนใจจากเด็ก ทั้งนี้ครูผู้สอนได้ สอดแทรกเนื้อหาความรู้และกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ เข้าไปในบทเรียน เพื่อที่จะให้เด็กสามารถ เขา้ ใจและสนุกสนานไปพร้อมกบั บทเรียนเหมาะสมกับช่วงวยั เป็นการสรา้ งบรรยากาศให้กบั ห้องเรยี น 3) หลังจากจบกิจกรรมการสังเกต : จากการสังเกตได้เห็นถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน กิจกรรมประจำวัน หรือพฤติกรรมระหว่างอยู่กับเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ จิตใจ ด้านสังคม และ ด้านสติปัญญา เมื่อพบพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสมคุณครสู ามารถพจิ ารณาเปน็ รายบุคคลและสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด จากการจดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ของเด็กประถมศึกษา ขอ้ มลู ทไ่ี ด้ออกมาสามารถนำไปประเมนิ และพฒั นาให้เขา้ กบั บทเรียนหรอื กิจกรรมทีท่ ำให้เกดิ ผลดีและ สง่ เสริมพัฒนาการของเด็ก 1. ความรูส้ กึ ท่เี กดิ ขึน้ : การท่ีได้เข้ามาสงั เกตการสอนเดก็ ในแตล่ ะคาบเรียน สมั ผสั ได้ถึงความอดทน ความเข้าใจ และจิตวิทยาสำหรบั ครูเปน็ สิ่งท่สี ำคญั เพราะจะตอ้ งทำความเข้าใจกับเด็กโดยเฉพาะเรอ่ื ง ของการใช้ถ้อยคำวาจา ที่จะสนทนากบั นักเรยี นต้องระมดั ระวังเป็นพิเศษ โดยครูต้องเลือกใช้คำพูดท่ี ไม่ซับซอ้ นจนเกนิ ไปสามารถเขา้ ใจไดแ้ ละการควบคุมอารมณ์ทไ่ี ม่เพยี งแต่นักเรยี นต้องปฏิบัติแต่ครูก็ ตอ้ งปฏิบัตเิ พอ่ื เปน็ แบบอย่างทดี่ ีให้กับนักเรียน การจัดเน้อื หาการเรยี นรตู้ ้องไมน่ ่าเบ่ือทำให้เด็กสนใจ และอยากเรยี นมากที่สุด
49 2. สงิ่ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ : เรียนรูไ้ ด้ว่าการเป็นครูตอ้ งเป็นบคุ คลทมี่ ีจติ ใจดี เมตตาต่อเด็ก คอยส่งั สอนในสิ่งท่ี ไมเ่ หมาะสม คอยชื่นชมในสง่ิ ที่ควรจะทำ ครตู ้องดแู ลในทุกอย่างไม่ว่าจะความเรียบร้อยของการแต่ง กาย ถอ้ ยคำวาจา สิ่งท่ีสำคญั ตอ้ งมีคือความอดทนเพื่อใหบ้ รรลุเปา้ หมาย 3. การนำไปใช้ประโยชน์ : การรวบรวมข้อมลู นกั เรียนบทบาทหนา้ ทคี่ รู นำไปพฒั นาตนเอง การนำ วิธีการสอนการใช้เครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยในการสอน เช่น เทคโนโลยีสื่อการสอนที่มี รูปภาพ การ์ตนู เพอ่ื ดงึ ดดู ความสนใจ เพราะเด็กช่วงวัยนี้จะสามารถจับจ้องสง่ิ ทเี่ ปน็ สีสันทมี่ ีความสวยงามได้ เปน็ พเิ ศษ หากมเี พยี งแตเ่ น้ือหาอดั แน่นจนเกินไปก็จะทำใหเ้ ด็กไมอ่ ยากท่จี ะเรยี น สอ่ื การสอน เน้อื หา บรรยากาศในห้องเรียนนั้นเป็นสิ่งสำคัญหากเราสามารถกลั่นกรองถ่ายทอดความรู้ให้เด็กได้ดีเด็ก สามารถเขา้ ใจทำแบบฝึกหัด คำถาม ของบทเรยี นไดค้ รูกจ็ ะได้เดก็ ท่มี คี ุณภาพ 4. ขอ้ สงั เกตหรอื คำถามคา้ งใจท่ีตอ้ งการคำตอบต่อไป : ไม่มี แบบสมั ภาษณ์ แบบสมั ภาษณ์ (ครู) วันท่ี 15 เดือน มถิ นุ ายน ปี 2565 ตัง้ แตเ่ วลา 16:47 น. ถึง 16:55 น. สถานที่ โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม ผสู้ มั ภาษณ์ นางสาว มนัชญา จูมแพง ผูถ้ กู สมั ภาษณ์ นางสาว สภุ านุช เบญจสอุ นันต์ คำกล่าวนำ สวัสดีค่ะคุณครู สุภานุช เบญจสุอนันต์ ดิฉันชื่อ นางสาวมนัชญา จูมแพง ชื่อเล่น นัท เป็น นักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ดิฉันมีคำถามอยากจะถามคุณครูเพื่อใช้ในการ พฒั นาตนเอง
50 แบบบันทกึ หลงั การสัมภาษณ์ 1) ความร่วมมอื ของผู้ใหส้ ัมภาษณ์ คุณครูใหค้ วามรว่ มในการสัมภาษณ์เป็นอย่างดี ถึงแม้จะเปน็ เวลาในการสง่ เดก็ นกั เรียน กลับบ้านกไ็ ด้สละเวลามาให้สมั ภาษณ์และใหค้ ำตอบในการสมั ภาษณ์ทด่ี ี 2) สาระสำคญั ท่ไี ดร้ บั จากการสมั ภาษณ์ นักเรียนในอดุ มคติของคณุ ครูนั้นมีหลายคน แต่ในความเป็นจริงแล้วนักเรียนในอุดมคติ นั้นจะต้องสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ เมื่อก้าวออกจากโรงเรียน แล้วจะต้องสู่รั้วมัธยมศึกษาจะต้องช่วยเหลือตนเองได้แล้ว การใช้ทักษะชวี ิตนั้นเป็นสิ่งท่ีสำคญั มาก ครูน้นั มวี ิธีการจดั การกับเด็กท่ีมอี ารมณ์รุนแรงได้โดยใช้คำพูดทด่ี ไี มพ่ ดู ตอกยำ้ หรอื ดุ ด่าเด็ก จะทำให้เด็กเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกได้และทำความเข้าใจกับเด็กนักเรียนแตล่ ะคนเพื่อเรียนรู้นิสัย และจะไดร้ บั มือได้ทนั แก้ไขปัญหาไดท้ นั ที การสอนเปน็ ส่งิ ที่สำคญั มาก จะทำอยา่ งไรสอนให้เด็ก เข้าใจและไม่เครียด ฉะนั้นจะต้องสอดแทรกการใช้ชีวิตประจำวันเข้าไปในบทเรียน สอดแทรก หลกั ธรรมะเขา้ ไปเพื่อสอนควบค่กู บั บทเรยี น มีการเล่านิทานใหเ้ ด็กฟังเด็กในชว่ งระดบั น้ียงั ตอ้ งฟงั นิทานเหลา่ นี้ให้มาก การทำงานร่วมกบั ผู้อื่นมักจะมีปัญหาระหวา่ งการทำงานเปน็ เรื่องปกติ แต่ เราต้องแก้ไขปัญหาโดยฟังความคิดเห็นทุกคน การเป็นครูท่ีดนี ้ันจะต้องรับฟงั ความคิดเห็นผ้อู ่ืน ด้วย 3) การใช้ประโยชน์ การนำหลกั การพูด การสอน การปรบั ตวั ให้เขา้ กับเด็กไปปรับใชใ้ นวนั ข้างหน้าเม่ือตอนท่ี เราไดอ้ อกสอนหรอื เป็นคณุ ครอู ยา่ งเตม็ รปู แบบ ต้องมจี ิตใจท่ีเยน็ สงบ เมตตาตอ่ เดก็ ไมว่ า่ จะเด็ก เลก็ หรอื เด็กโต เราจะตอ้ งคอยสงั่ สอนให้เขานั้นเป็นผใู้ หญใ่ นวนั ข้างหน้าไดม้ ากกว่าเราตอนน้ี และ สามารถแกไ้ ขปัญหาเฉพาะไดอ้ ยา่ งดี 4) ประเดน็ ทคี่ วรสัมภาษณเ์ พิม่ เตมิ ไมม่ ี
51 ชอื่ ผเู้ ขียน : นางสาวเบศจมาศ สดุ งาม แบบสังเกตการณ์ปฏิบตั ิหนา้ ทค่ี รู แบบสงั เกตการปฏิบตั ิหนา้ ท่คี รู 1) ข้อมูลเกยี่ วกบั สภาพและผูบ้ นั ทึกขอ้ มลู วนั ที่ 14 เดอื น มถิ ุนายน ปี 2565 เวลา 7.30 น. ถึง 16.30 น. สถานที่ โรงเรยี นวดั อมรินทราราม นามผจู้ ดบนั ทึกหรือผสู้ ังเกต นางสาว เบญจมาศ สุดงาม 2) ขณะทก่ี ำลังสงั เกต : จะเห็นได้วา่ ครไู ม่ไดม้ ีหนา้ ที่แคส่ อน แตค่ รูรับผิดชอบนกั เรยี นทุกคนทง้ั เรื่อง สว่ นตัวของนกั เรียนเองการกระทำคำพูดพฤตกิ รรมท่ไี ม่ดี ครมู ีการรับมือกับนักเรียนที่มีการหยอกล้อ หรอื พูดคุยกนั เสยี งดงั เวลาเรยี นยังไงเชน่ หากมใี ครพูดเสยี งดังคณุ ครูจะใหอ้ อกมาสอนแทน การสอน เนอ้ื หาบทเรยี นทีม่ กี ารสอดแทรกกิจกรรมนันทการทใ่ี ห้ความสนกุ กับนักเรียนเพราะเดก็ ช่วงวัยนี้ชอบ ความสนุกสนานจะเหน็ ได้ว่านกั เรยี นมีการโตต้ อบกับสง่ิ ท่คี รูถามไดเ้ ปน็ อย่างดเี พราะเมื่อมีส่ิงท่ีดึงดูด ความสนใจนกั เรียนจะตงั้ ใจท่ีจะทำมนั และเห็นไดว้ ่าครูสามารถทำใหเ้ ด็กเกดิ ความเช่ือถือและเชื่อฟัง ได้ เปน็ ผลจากการท่ีครใู ส่ใจนักเรียนคอยพูดคุยสนทนากบั นกั เรียนเมอื่ นักเรียนพบเจอปัญหา 3) หลังจากจบกจิ กรรมการสังเกต : จากการสังเกตจะเห็นได้ครทู ี่ดีในสายตานักเรยี นน้ันเปน็ ยังไง ต้องเป็นบุคคลท่ีใจดีมีเมตตากับนกั เรียนกิจกรรมที่ทำร่วมกันระหว่างครูกับนักเรยี น กิจวัตรประจำ วนั ทีท่ ำในทุกๆ วันเพ่อื ฝึกนกั เรยี นให้มรี ะเบียบวินยั เช่นการทำเวรหอ้ งเป็นการฝึกให้รู้จักรักษาความ สะอาด ครูตอ้ งคอยสังเกตนักเรยี นหากมีพฤติกรรมท่ไี มเ่ หมาะสมคอยติเตือนบนั ทึกขอ้ มูลของนักเรยี น เปน็ ระยะเพ่อื นำข้อมูลที่ได้มาไปวเิ คราะห์ปรบั เปลยี่ นพฤติกรรมความคิดของนกั เรยี นนั้นใหไ้ ปในทางท่ี ดี ดว้ ยช่วงวยั ของเด็กประถมศึกษาพฤติกรรมทางด้านรา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สตปิ ัญญา น้นั อ่อนไหว ง่ายครูจึงเปน็ ทพ่ี ่ึงทป่ี รกึ ษาสำหรับนักเรียนเสมอเมอ่ื เขาเขา้ มาอยู่ในโรงเรียนการดแู ลนั้นกย็ ่อมเปน็ ครู 1. ความรูส้ กึ ทเ่ี กดิ ข้ึน : การท่ไี ดเ้ ขา้ มาสงั เกตการเรียนการสอนระหวา่ งครกู ับนกั เรยี นในแต่ละคาบ นนั่ จะเห็นได้ถึงความรกั ความเมตตา ความอดทนของครทู ่ีมีต่อนกั เรียนไม่ว่านักเรยี นจะมพี ฤตกิ รรมท่ี กา้ วรา้ วครกู ย็ งั มวี ิธที ่ีจะรับมอื กับเด็กคนนน้ั การเข้าหาพูดคุยกบั เด็กนกั เรยี นสามารถสอ่ื สารเข้าใจง่าย
52 ไมซ่ บั ซอ้ นทำงานให้เหมือนครูอาชพี ไม่ใช่เพียงแต่คำว่าอาชพี ครูบทเรียนท่ีครตู ้องออกแบบมาเพื่อให้ นกั เรียนเขา้ ใจง่ายทีส่ ุด รสู้ ึกว่าการสังเกตครงั้ น้ที ำใหเ้ รารู้ว่าควรที่จะปฏิบัติหน้าท่ีของการเป็นครูน้ัน ไม่ได้ยากถา้ พยายามทจ่ี ะทำ 2. สิ่งที่ได้เรียนรู้ : เรียนรู้ไดว้ ่าภาระหน้าที่ต่าง ๆ ที่ครูได้รับมอบหมายนั้นครตู ้องทำอย่างเต็มที่มี ความรบั ผิดชอบและครูเมือ่ อยกู่ ับนักเรยี นต้องเป็นแบบอย่างทดี่ ี การมอบความรัก ความอบอุ่นให้กับ นักเรียน ใช้ถอ้ ยคำวาจาท่สี ุภาพไม่หยาบคาย ครตู อ้ งคอยเสยี สละช่วยเหลอื นกั เรียนหากนักเรียนพบ เจอปัญหาคอยสอนปรบั เปล่ียนแกไ้ ขในสิ่งทไ่ี ม่ควรชนื่ ชมยนิ ดีในส่งิ ท่ดี งี าม 3. การนำไปใช้ประโยชน์ : การสังเกตในครั้งนี้ได้ถึงการทำงานของครูความประพฤตขิ องนักเรียน สามารถนำไปพัฒนาตนเองไดก้ ารนำเอาส่ือเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเรยี นการสอนไม่ว่าจะเปน็ บท เพลง ละคร เรอ่ื งสน้ั ทมี่ เี น้อื หาของบทเรียนก็จะทำให้นักเรียนเข้าใจง่ายขน้ึ คอยบรรยายให้นักเรียน เห็นภาพ การพานกั เรียนทำงานหรอื แบบฝกึ หัดไปพรอ้ ม ๆ มีการสนทนาถาม-ตอบเปน็ ระยะ ๆ มขี อง รางวลั ใหก้ บั นักเรียนเพือ่ เป็นการสรา้ งกำลงั ใจการสรา้ งบรรยากาศในห้องเรยี น รวมไปถงึ จรรยาบรรณ ของความเป็นครเู ราคือบคุ คลทนี่ กั เรียนยกยอ่ งและนบั ถือเราควรทีจ่ ะเป็นแบบอย่าท่ีดใี หก้ ับนกั เรียน 4. ขอ้ สงั เกตหรอื คำถามคา้ งใจทต่ี อ้ งการคำตอบต่อไป : ไม่มี แบบสัมภาษณ์ แบบสมั ภาษณ์ (คร)ู วันที่ 15 เดือน มถิ นุ ายน ปี 2565 ตัง้ แตเ่ วลา 16:27 นาที ถึง 16:39 นาที สถานท่ี โรงเรยี นวดั อมรินทราราม ผู้สมั ภาษณ์ นางสาว เบญจมาศ สุดงาม ผถู้ กู สมั ภาษณ์ นางสาว พรนภา สาคร คำกลา่ วนำ สวัสดีค่ะคุณครู พรนภา สาคร ดิฉันชื่อนางสาว เบญจมาศ สุดงาม ชื่อเล่นชื่อ เฟิร์น เป็น นักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ดิฉันมีคำถามที่อยากจะถามคุณครูเพ่ือใช้ในการ พฒั นาตนเองคะ่
53 คำถามสัมภาษณ์ 1. นกั เรียนท่ีดใี นอดุ มคตขิ องคณุ ครเู ปน็ อยา่ งไร ? เด็กที่มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อภาระหน้าท่ีสามารถแยกแยะผิดหรอื ถูกไดเ้ ชอ่ื ฟังคณุ ครูเป็นมิตรที่ ดีกับเพื่อนๆ ไม่สร้างความเดือดร้อน มีความซื่อสัตย์ ไม่เป็นเด็กที่ชอบโกหก มีคุณธรรม จริยธรรม รู้จกั ใช้เวลาว่างตนเองใหเ้ กดิ ประโยชน์ กลา้ คดิ กล้าแสดงออก และสามารถเขา้ ใจในส่ิงมที่ครูบอกสอน ไม่ว่าจะเป็นเรอ่ื งการใช้ชีวิตหรือเนื้อหาของบทเรยี น ต่อให้เราไม่เกง่ ถา้ เราพยายามความพยายามของ เราน้แี หละท่จี ะพัฒนาตัวเราเอง 2. มวี ิธกี ารจัดการอารมณ์กบั เด็กที่มีพฤตกิ รรมรุนแรงอย่างไร ? ใช้หลากหลายวิธีเพราะเด็กแต่ละคนมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป อาจจะเกิดจากการ เลยี นแบบพฤติกรรมจากบุคคลใกล้ตวั เช่น พอ่ แม่ เพื่อน ขาดการฝึกฝนอบรมบ่มนิสยั สอนเด็กให้รู้จัก เอาใจเขามาใส่ใจเราเราควรทีจ่ ะลงโทษดว้ ยบทเรียนมีเหมาะสมไมร่ ุนแรงเกนิ ไปอยา่ งเชน่ 1) ถา้ เด็กทำเพือ่ นจนได้รบั บาดเจ็บก็ลองถามถามตัวเดก็ เองวา่ ถา้ เธอเป็นเพื่อนจะเจ็บไหม ถ้าโดนเพื่อนทำแบบนบี้ ้างจะรสู้ ึกยงั ไง 2) การเพกิ เฉยการทไ่ี มใ่ หเ้ พอ่ื พดู ดว้ ยการท่คี รูเองก็นงิ่ แต่อย่อู ย่างใกล้ชดิ เวลาเขาชวนเพ่ือน คยุ ในตอนเรยี นถ้าทำแบบน้ีไมม่ คี นตอบสนองหรือเลน่ ด้วยเด็กคนนั้นกจ็ ะนงิ่ ไปเอง 3) การใช้คำพูดที่ไม่ทำให้เขาเขารู้สึกด้อยค่าหรือเกิดปมในใจเพราะถ้าหากเราพูดแรง จนเกินไปก็ยง่ิ จะทำให้เด็กมีพฤติกรรมกา้ วรา้ วกว่าเดมิ ก็เปน็ ได้ 3. มเี ทคนิคการสอนอย่างไรทเ่ี ข้าใจและไม่เครียด บูรณาการท่ีหลากหลายการปรับหลักสูตรหรือออกแบบการสอนให้เหมาะสมกับช่วงวัยเชน่ การเล่าเรอื่ งบรรยายใหเ้ หน็ ภาพ การพาทำแบบฝกึ หัดไปพร้อม ๆ กันยกตวั อยา่ งเป็นชว่ ง ๆ มกี ารถาม ตอบเพื่อฝึกนกั เรียนให้คิดตาม การใช้เทคโนโลยีให้เกดิ ประโยชนย์ ิ่งถ้าหากโรงเรียนมีความทันสมยั ยกตวั อยา่ ง การเปดิ เพลงเกย่ี วกบั เน้อื หาการเรยี นเร่ืองนั้น ๆ ฉายบนจอโปรเจคเตอร์ใหน้ ักเรียนดูเห็น ภาพและเน้ือเพลงข้อดมี ดี งั นี้ 1) เปน็ การผ่อนคลายความเครียด 2) จงั หวะทำนองเพลงสามารถทำให้นักเรยี นจำง่ายขน้ึ เพราะเดก็ ชอบความสนกุ สนาน 3) เนื้อหาสาระครอบคลุม
54 4) สามารถนำไปใชไ้ ดจ้ ริงในเวลาเรียน 5) คณุ ครทู ำการสอนไดง้ ่ายขึน้ เพราะนกั เรียนมคี วามรู้พื้นฐานจากบทเพลง 4. เคยเจอปญั หาระหว่างเพ่ือนร่วมงานบา้ งหรอื ไหม ? ก็มีบ้าง เช่นเรือ่ งงานการประชุมที่ความคิดเหน็ ไม่ตรงกัน แตเ่ ราตอ้ งเปน็ ทั้งผู้พูดและผู้ฟังท่ีดี แต่ปัญหาก็ไม่ได้ใหญ่โตด้วยอาชีพเราเป็นอาชีพที่ต้องทำงานร่วมกันอย่างเป็นกระบวนการเพราะ เป้าหมายเราลว้ นแลว้ แต่อยากใหโ้ รงเรียนนา่ อยู่ นักเรียนคุณภาพดี 5. นอกจากอาชีพครไู ด้ทำอะไรเสรมิ เป็นพเิ ศษบ้างไหม , แบง่ เวลาอยา่ งไร ? ไมม่ ีค่ะ 6. คำกลา่ วในการปิดการสมั ภาษณ์ ขอขอบคณุ คณุ ครูมากคะ่ ทีเ่ สยี สละเวลามาใหค้ วามร้ดู ิฉัน ขอบคุณค่ะ บันทกึ หลงั การสัมภาษณ์ ความคิดเหน็ ของผสู้ มั ภาษณ์ 1. ความร่วมมอื ของผ้ใู หส้ ัมภาษณ์ - คุณครใู ห้ความรว่ มมือกับการสมั ภาษณเ์ ปน็ อย่างมาก - คุณครเู ป็นกนั เองการใช้ภาษาก่ึงทางการสามารถพดู คุยได้งา่ ยจึงทำใหก้ ารสมั ภาษณ์เปน็ ไปได้ดี - ตอบคำถามไดต้ รงประเด็นและเปน็ ประโยชน์ตอ่ ตัวนกั ศึกษาเองอยา่ งมาก 2. สาระสำคัญทไ่ี ด้รับจากการสัมภาษณ์ -การสมั ภาษณ์ในครงั้ นีแ้ นน่ อนว่าเปน็ การสอบถามในเรือ่ งการทำงานประสบการณ์หรือส่ิงท่ีคุณครู เคยเจอมาเปา้ หมายกเ็ พื่อท่จี ะนำไปพัฒนาตนเองปรับเปลย่ี นส่งิ ต่าง ๆ ใหไ้ ปในทางทดี่ ี การสัมภาษณ์ คณุ ครไู ดเ้ หน็ ความคดิ ศกั ยภาพ ทัศคติท่ีมีตอ่ นกั เรียนและระบบงานของโรงเรยี น
55 3. การใชป้ ระโยชน์ -สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาตนเองต่อยอดศักยภาพนักเรียนการเป็นครูที่ดี ใจเย็นมีจิตใจท่ี เมตตา มีคณุ ธรรม จริยธรรม สามารถเปน็ ตวั อย่างท่ดี ใี หก้ ับนกั เรยี นได้ การเหน็ เป้าหมายทชี่ ดั เจนมาก ขึ้น เพราะนกั เรียนแต่ละคนแตกต่างกนั ออกไปรวมไปถึงการท่ีเราต้องทำงานกับเพื่อนร่วมงานควรมี ความคดิ ทัศนคตทิ ่ีดไี ดส้ ามารถเปน็ ทั้งผพู้ ูดและผฟู้ งั ทดี่ ี วาจานั้นเปน็ ส่งิ สำคัญกอ่ นคิดก่อนพูดควรนึก ถึงผลทีต่ ามมาเสมอการทำแผนการสอนที่ให้เขา้ กับนักเรียนทไ่ี มน่ า่ เบอื่ จนเกินไปเนื้อหาครอบคลมุ การ ท่ีเราใสใจนกั เรยี นเรากจ็ ะไดบ้ คุ คลที่มคี ุณภาพเกดิ ผลดีกบั ตัวนักเรียนเอง 4. ประเด็นทค่ี วรสัมภาษณเ์ พ่ิมเตมิ -ไม่มคี ่ะ
56 ชอ่ื ผ้เู ขยี น : นางสาววิมลณฐั ลกู นก แบบสังเกตการปฏิบัติหนา้ ท่ีครู A2 แบบสงั เกตการปฏิบัตหิ นา้ ท่คี รู คำชี้แจง: การบันทึกจากการสังเกตเป็นข้อมลู สำคัญในการทำความเข้าใจการปฏิบัติหน้าทีค่ รูและ เป็นโอกาสในการพัฒนาแนวคิดและทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญของนักศึกษา จึงขอให้นักศึกษาได้ บันทกึ ข้อมูลให้ครอบคลุมประเด็นดังน้ี 1) ข้อมลู เกี่ยวกบั สภาพและผบู้ ันทกึ ข้อมูล: วนั ที่ 17 เดือน พฤษภาคม ปี 2565 เวลา 10:30 น. ถงึ 11:30 น. สถานท่ี โรงเรยี นวัดอมรินทราราม เป้าหมายของการสังเกต (ครูชือ่ หรอื กลุ่มสาระช่อื หรอื หอ้ งพกั ครู) นาง จญุ จิรา จติ รวบิ ลู ย์ นามผ้จู ดบันทกึ หรอื ผสู้ งั เกต นางสาว วมิ ลณัฐ ลกู นก 2) ขณะท่กี ำลังสงั เกต: การบนั ทึกขอ้ มลู จากการสงั เกตและการสนทนา (บันทกึ ความคดิ ) (บนั ทกึ ข้อมลู ) (สว่ นนเี้ ป็นทีว่ ่างสำหรับนักศึกษา เวลา..10:30 น. ครูใช้ในการบันทึกคำถาม ข้อสังเกตต่างๆ (ส่งิ ท่สี ังเกตเหน็ หรือการสนทนาที่ไดย้ นิ ) เพื่อแยกความคิดหรือ การตีความออก ได้สังเกตการสอนจากครูพี่เลี้ยงเรื่อง จากข้อมูลทางดา้ นขวามอื ) ค่าประมาณเป็นจำนวนต็มสิบ ค่าประมาณเป็น จำนวนต็มร้อย และ ค่าประมาณเป็นจำนวนต็มพัน ครู ได้บอกหลกั การหาของการหาของการคา่ ประมาณในแต่ ละหลักและใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัดในหนังสือ
57 (อาจวาดภาพสถานทห่ี รอื บริบทของการสังเกต) เวลา............................................................................. 3) หลงั จากจบกจิ กรรมการสงั เกต: การประมวล วิเคราะห์ทำความเข้าใจ และสรุปความรู้สึกนึก คิดและการเรียนรทู้ ี่เกิดข้ึนกับผสู้ งั เกต (สว่ นนี้ไมใ่ ชข่ ้อมลู แต่เปน็ การตคี วามและการแปลความหมาย ของขอ้ มูล ตลอดจนการวเิ คราะหแ์ ละการเรียนรขู้ องผสู้ ังเกต) 1. ความรู้สกึ ท่เี กิดขึ้น เหน่อื ย และมีความสขุ ทไ่ี ดช้ ว่ ยคูพ่ีเลยี้ งสอนนกั เรียนทไี่ มเ่ ขา้ สามารถเข้าใจได้ 2. สิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ ไดร้ ู้หลักการในการสอนและไดร้ ู้จักวิธกี ารควบคุมชนั้ เรียนจากครพู ่ีเลยี้ ง 3. การนำไปใชป้ ระโยชน์ ไดน้ ำเทคนกิ การสอนจากครูพ่เี ลย้ี งนำไปปรบั ใชใ้ นการสอนในอนาคต 4. ข้อสงั เกตหรือคำถามคา้ งใจที่ตอ้ งการคำตอบต่อไป
58 A2 แบบสงั เกตการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีครู คำชี้แจง: การบันทึกจากการสังเกตเป็นข้อมลู สำคัญในการทำความเข้าใจการปฏิบัติหน้าทีค่ รูและ เป็นโอกาสในการพัฒนาแนวคิดและทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญของนักศึกษา จึงขอให้นักศึกษาได้ บันทกึ ขอ้ มลู ให้ครอบคลมุ ประเด็นดงั นี้ 1) ขอ้ มลู เกยี่ วกับสภาพและผู้บันทึกขอ้ มูล วันท่ี 6 เดอื น มถิ นุ ายน ปี 2565 เวลา 11:30 น. ถึง 12:30 น. สถานที่ โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม เป้าหมายของการสังเกต (ครูชอื่ หรือกล่มุ สาระช่ือ หรือหอ้ งพักครู) นาง จญุ จิรา จติ รวบิ ลู ย์ นามผ้จู ดบนั ทึกหรอื ผู้สงั เกต นางสาว วิมลณฐั ลูกนก 2) ขณะที่กำลงั สังเกต: การบันทึกข้อมูลจากการสงั เกตและการสนทนา (บันทึกขอ้ มูล) เวลา 10:30 น. (สิง่ ทสี่ ังเกตเหน็ หรือการสนทนาทไี่ ดย้ ิน) ได้สงั เกตการณส์ อนจากครพู ี่เลยี้ งเรือ่ งการเขียนเลข โดดและการเขียนจำนวนในรูปแบบการกระจาย และให้ นักเรียนทำแบบฝึกหัดลงในสมุด โดยดูโจทย์จากหนังสือ และครูพ่ีเลีย้ งไดท้ ำตวั อยา่ งในการทำแบบฝึกหดั
59 (อาจวาดภาพสถานทห่ี รือบริบทของการสงั เกต) เวลา................................................................................. 3) หลงั จากจบกจิ กรรมการสงั เกต: การประมวล วิเคราะหท์ ำความเข้าใจ และสรุปความรู้สึกนึก คิดและการเรยี นรทู้ เ่ี กดิ ขึน้ กบั ผ้สู ังเกต (ส่วนนไี้ มใ่ ชข่ อ้ มลู แต่เป็นการตีความและการแปลความหมาย ของขอ้ มูล ตลอดจนการวิเคราะหแ์ ละการเรยี นรขู้ องผสู้ งั เกต) 1. ความรู้สึกที่เกิดขึน้ เหนื่อย มีความสขุ ที่ได้ชว่ ยครพู เ่ี ล้ียงสอนนักเรียนท่ไี ม่เขา้ ใจสามารถเข้าใจได้ 2. สงิ่ ทไ่ี ด้เรียนรู้ ได้รู้จกั เทคนิกการสอนและได้รวู้ ่าจักวิธกี ารควบคุมชน้ั เรียนจากครูพเี่ ลี้ยง 3. การนำไปใชป้ ระโยชน์ ไดน้ ำเทคนกิ การสอนจากครพู ีเ่ ล้ียงไปปรบั ใช้ในสอนในอนาคต 4. ขอ้ สังเกตหรอื คำถามค้างใจทต่ี ้องการคำตอบต่อไป
60 A2 แบบสังเกตการปฏิบัตหิ น้าท่คี รู คำชี้แจง: การบันทึกจากการสังเกตเป็นข้อมูลสำคัญในการทำความเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ครูและ เป็นโอกาสในการพัฒนาแนวคิดและทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญของนักศึกษา จึงขอให้นักศึกษาได้ บนั ทกึ ขอ้ มลู ใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ดงั นี้ 1) ข้อมูลเกีย่ วกบั สภาพและผบู้ ันทกึ ขอ้ มูล วนั ที่ 10 เดอื น มถิ ุนายน ปี 2565 เวลา 10:30 น. ถึง 11:30 น. สถานท่ี โรงเรียนวัดอมรนิ ทราราม เปา้ หมายของการสังเกต (ครูช่ือ หรอื กลุ่มสาระช่อื หรอื หอ้ งพักครู) นาง จญุ จริ า จิตรวบิ ลู ย์ นามผูจ้ ดบนั ทึกหรือผู้สังเกต นางสาว วิมลณฐั ลูกนก 2) ขณะท่กี ำลงั สังเกต: การบนั ทกึ ขอ้ มลู จากการสังเกตและการสนทนา (บันทกึ ความคิด) (บันทกึ ข้อมูล) (ส่วนนเี้ ป็นทว่ี า่ งสำหรบั นักศึกษาครู เวลา 10:30 น. ใช้ในการบันทึกคำถาม ข้อสังเกตต่างๆ เพ่ือ (สิ่งท่ีสงั เกตเห็นหรือการสนทนาท่ีไดย้ ิน) แยกความคดิ หรือ การตคี วามออกจากข้อมูล ได้สังเกตการณ์สอนจากครูนักศึกษาได้สอน ทางดา้ นขวามือ) เรื่องการบวกเลขในแต่ละหลักในรูแบบแนวตั้งและใน รูปแบบแนวนอน ครูนักศึกษาได้ให้นักเรียนทำใบงาน และพานักเรียนทำกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องการบวกเลข ในตล่ ะหลัก
61 (อาจวาดภาพสถานทห่ี รอื บรบิ ทของการสงั เกต) เวลา……………………………………………………………………… 3) หลงั จากจบกิจกรรมการสงั เกต: การประมวล วเิ คราะหท์ ำความเข้าใจ และสรปุ ความรู้สึกนึก คิดและการเรยี นร้ทู ่ีเกดิ ขึ้นกับผู้สังเกต (ส่วนนไี้ มใ่ ช่ขอ้ มลู แตเ่ ปน็ การตีความและการแปลความหมาย ของข้อมลู ตลอดจนการวเิ คราะหแ์ ละการเรยี นรขู้ องผ้สู ังเกต) 1. ความรสู้ กึ ทีเ่ กดิ ขึ้น ดใี จทไี่ ดเ้ ข้าสงั เกตการณ์สอนของครนู กั ศกึ ษาและไดร้ เู้ รียนในสอนและวิธีการ ควบคุมชั้นเรียนจากครนู กั ศกึ ษา 2. สิ่งทไี่ ดเ้ รยี นรู้ ได้รูเ้ ทคนิกการสอนและวิธกี ารควบคมุ ชน้ั เรยี นจากครนู กั ศกึ ษา 3. การนำไปใช้ประโยชน์ ได้นำเทคนกิ การสอนจากการสงั เกตครูนกั ศึกษานำไปปรับใชใ้ นอนาคต 4. ขอ้ สงั เกตหรอื คำถามค้างใจท่ีตอ้ งการคำตอบต่อไป
62 A2 แบบสงั เกตการปฏิบัตหิ น้าที่ครู คำชแี้ จง: การบันทึกจากการสงั เกตเป็นขอ้ มลู สำคัญในการทำความเข้าใจการปฏิบัติหน้าท่ีครู และเป็นโอกาสในการพัฒนาแนวคิดและทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญของนักศึกษา จึงขอให้ นกั ศึกษาไดบ้ นั ทึกขอ้ มูลให้ครอบคลมุ ประเดน็ ดงั นี้ 1) ข้อมูลเก่ยี วกับสภาพและผูบ้ นั ทึกขอ้ มูล วนั ท่ี....15...เดอื น................มถิ ุนายน...................ปี.....2565......เวลา.......09.15.น.......ถงึ ... 10..15.น..... สถานท่ี..........โรงเรยี นวัดอมรินทราราม .................................................................................................. เปา้ หมายของการสงั เกต (ครชู ือ่ หรือกลุ่มสาระชือ่ หรือหอ้ งพกั ครู) นาง จุญจิรา จติ รวิบลู ย์ นามผจู้ ดบันทกึ หรือผูส้ งั เกต.............นางสาว วิมลณฐั ลูกนก ................................................................... 2) ขณะทกี่ ำลังสงั เกต: การบันทกึ ขอ้ มลู จากการสังเกตและการสนทนา (บนั ทกึ ความคิด) (บันทกึ ขอ้ มูล) 1) ส ั ง เ ก ต ก า ร ส อ น ข อ ง ค รู ว ิ ช า เวลา 09:15 น. คณติ ศาสตร์ ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 (สิง่ ทสี่ งั เกตเหน็ หรอื การสนทนาท่ไี ด้ยิน) 2) ครูทบทวนความรู้ และตั้งคำถาม ได้สังเกตการณส์ อนจากครพู ่ีเล้ียงเรื่องครูได้สอน เก่ยี วกบั เนอื้ หากอ่ นเข้าสบู่ ทเรียน 3) ครูพานักเรียนบวกเลขในแตล่ ะหลกั วิธบี วกเลขให้ตรงหลักและการตัง้ ตัวต้งั และตัวบอก ที่ถูกตอ้ งลงในสมุด คอื เขยี นเลขแต่ละหลักลงในแต่ ละกรอบเส้นในสมุดและเขียนจำนวนหลักมากตั้ง
63 และจำนวนหลักน้อยบอกและสอนวิธีการบวกเลข จากหลกั หนว่ ยไปหลักล้าน (อาจวาดภาพสถานที่หรือบริบทของการสังเกต) 3) หลังจากจบกิจกรรมการสังเกต: การประมวล วิเคราะห์ทำความเข้าใจ และสรุป ความรูส้ ึกนึกคดิ และการเรียนรู้ท่ีเกิดข้นึ กับผสู้ ังเกต (สว่ นนไ้ี ม่ใช่ขอ้ มลู แตเ่ ป็นการตีความและ การแปลความหมายของข้อมูล ตลอดจนการวเิ คราะห์และการเรียนรู้ของผสู้ ังเกต) 1. ความรูส้ กึ ทเ่ี กิดข้ึน ครูสอนไดเ้ ขา้ ใจงา่ ย และ รสู้ กึ ดีใจท่ไี ดช้ ว่ ยครสู อนแล้วนักเรยี นบวกเลข ได้ 2. ส่ิงทีไ่ ดเ้ รียนรู้ ได้รจู้ กั เทคนิคในการสอน การแสดงวธิ ีทำทถ่ี ูกต้อง ทำใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจและ สามารถ จำเทคนคิ ท่คี รูสอนได้ การเตรียมข้อมูลความพรอ้ มกอ่ นสอน วธิ รี บั มอื และ ควบคุมเดก็ 3. การนำไปใช้ประโยชน์ จะนำเอาเทคนิคที่ครูสอนในห้องไปใช้ประโยชน์ อธิบายวิธีทำให้ นักเรียนเข้าใจง่ายและวธิ กี ารสอนของครไู ปปรบั ใช้กบั ตวั เองในอนาคตข้างหนา้ 4. ขอ้ สังเกตหรือคำถามคา้ งใจทีต่ ้องการคำตอบต่อไป
64 A2 แบบสงั เกตการปฏิบัติหน้าทค่ี รู คำชี้แจง: การบันทึกจากการสังเกตเปน็ ข้อมูลสำคัญในการทำความเข้าใจการปฏบิ ัติหน้าที่ครูและ เป็นโอกาสในการพัฒนาแนวคิดและทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญของนักศึกษา จึงขอให้นักศึกษาได้ บันทึกขอ้ มูลใหค้ รอบคลมุ ประเด็นดังน้ี 1) ขอ้ มูลเกย่ี วกบั สภาพและผบู้ นั ทึกขอ้ มลู วนั ที่ 16 เดือน มถิ นุ ายน ปี 2565 เวลา 10:30 น. ถงึ 11:30 น. สถานที่ โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม เป้าหมายของการสงั เกต (ครูช่ือ หรือกลมุ่ สาระชื่อ หรอื ห้องพกั ครู) นาง จญุ จริ า จิตรวบิ ูลย์ นามผจู้ ดบันทกึ หรอื ผู้สังเกต นางสาว วมิ ลณัฐ ลูกนก 2) ขณะท่ีกำลงั สงั เกต: การบนั ทึกขอ้ มูลจากการสงั เกตและการสนทนา (บันทกึ ความคดิ ) (บนั ทึกขอ้ มลู ) (ส่วนน้ีเป็นท่ีว่างสำหรบั นกั ศกึ ษาครใู ช้ใน เวลา 10:30 น. การบนั ทกึ คำถาม ขอ้ สังเกตต่างๆ เพื่อ แยกความคิดหรอื การตีความออกจาก (ส่งิ ท่ีสงั เกตเห็นหรือการสนทนาที่ได้ยนิ ) ข้อมลู ทางดา้ นขวามอื ) ไดส้ ังเกตการสอนจากครูพี่เล้ยี งไดส้ อนเร่อื งการหาร ค่าประมาณผลลัพธ์ของการการบวกการลบ ครูได้
65 อธิบายวธิ ีการทำและครูพานกั เรียนทำแบบฝึกหดั ใน หนงั สือไปทลี ะข้ันตอนและครูใหน้ กั เรียนลองทำดว้ ย ตนเอง (อาจวาดภาพสถานทห่ี รอื บริบทของการสังเกต) เวลา................................................................................. ......................................................................................... …………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………….. 3) หลังจากจบกจิ กรรมการสังเกต: การประมวล วิเคราะหท์ ำความเข้าใจ และสรุปความรู้สึกนึก คิดและการเรียนรทู้ ีเ่ กดิ ขึ้นกบั ผ้สู งั เกต (ส่วนน้ไี มใ่ ช่ขอ้ มูลแต่เปน็ การตีความและการแปลความหมาย ของขอ้ มลู ตลอดจนการวิเคราะหแ์ ละการเรียนรขู้ องผู้สงั เกต) 1. ความรสู้ ึกที่เกดิ ขน้ึ เหนื่อย และดีใจทีไ่ ดช้ ว่ ยครูพ่เี ลย้ี งสอนนกั เรยี นท่ไี มเ่ ขา้ ใจได้เขา้ ได้ 2. สิ่งทไี่ ดเ้ รียนรู้ ได้รู้เทคนิกในการสอนและการควบคมุ ช้นั จากครพู เี่ ล้ยี ง 3. การนำไปใช้ประโยชน์ ได้นำเทคนกิ ในการสอนจากครูพ่ีเลย้ี งนำไปปรับใชใ้ นการสอนในอนาคต 4. ข้อสงั เกตหรือคำถามคา้ งใจทตี่ ้องการคำตอบตอ่ ไป
66 A3 แบบสัมภาษณ์ ครู วนั ท่ี 16 เดือน มิถนุ ายน ปี 2565 ต้ังแต่เวลา 10 : 30 น. ถงึ 11 : 00 น. สถานท่ี โรงเรียนวดั อมรินทราราม ผู้สัมภาษณ์ นางสาว วิมลณฐั ลกู นก ผถู้ กู สมั ภาษณ์ นาง จญุ จริ า จติ รวบิ ูลย์ การถามนำ / คำกล่าวนำ สวสั ดีคะ่ คุณครู หนูชื่อนางสาว วมิ ลณัฐ ลูกนก ชอื่ เล่นชอื่ ฝ้าย มาจากมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏธนบุรี ขออนุญาตสัมภาษณ์คุณครูเกีย่ วกับงานสอนและงานทน่ี อกเหนือจากงานสอนไดไ้ หมคะ คำถามสัมภาษณ์ 1) นกั เรยี นทดี่ ีในอดุ มคตขิ องคุณ เปน็ อย่างไร ➢ เป็นเด็กดี ต้ังใจเรยี น มคี วามรับผดิ ชอบ เชอ่ื คำสัง่ สอนของครู สาขมารถอยู่รว่ มกบั เพื่อน ได้ ยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของคนอื่น มีนำ้ ใจ สามารถอยู่ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ และ มสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตทด่ี ี 2) มีวธิ กี ารจดั การอารมณก์ บั เดก็ ที่ สามารถพฤติกรรมรนุ แรง ➢ เรียกนักเรยี นมาพดู คุยถงึ ปญั หาทใ่ี หเ้ กดิ พฤติกรรมรนุ แรง บอกถงึ ผลเสยี ทเ่ี กดิ จาก พฤตกิ รรมรนุ แรง เชน่ ยกตวั อยา่ งเหตกุ ารณแ์ ล้วถามถงึ ผลกระทบจากเหตกุ ารณด์ งั กล่าว และให้พยายามควบคุมตนเองไม่ให้เกิดความรันแรงอกี
67 3) มีเทคนคิ การสอนอยา่ งไรให้เดก็ เขา้ ใจงา่ ยและไม่เครยี ด เทคนิกการสอนที่ทำให้เด็กเข้าใจง่าย คือ ทบทวนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ แล้ว ยกตัวอยา่ งจากง่ายไปยาก แลว้ คอ่ ยเร่ิมเรือ่ งท่ีสอน นกั เรียนจะเข้าใจไดง้ า่ ยเรียนรตู้ ามขน้ั ตอน พยายาม มีปฎสิ ัมพนั ธ์กนั ระหวา่ งครผู สู้ อนกบั นักเรยี น มกี ารถามตอบให้นักเรียนมีส่วนร่วมกบั กิกรรมการเรียน การสอน 4) เคยเจอปัญหาระหว่างเพอื่ นรว่ มงานบา้ งหรือไม่ เคยเจอปญั หาระหวา่ งเพอื่ ร่วมงาน คือ การเข้าใจผิดแต่เม่อื พูดคุยกนั ก็เขา้ ใจกนั 5) นอกจากอาชีพครมู ีอาชพี เสรมิ เพิ่มเตมิ หรอื ไมแ่ ละบรหิ ารจดั การเวลาอยา่ งไร ไม่มี 6) นอกเหนอื จากการสอนแล้วคณุ ครูมีงานทีท่ ำกับทางโรงเรยี นอะไร ➢ งานเอกสารช้นั เรยี น ➢ งานตามโครงการกล่มุ สาระคณติ ศาสตร์ ➢ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทีเ่ วรประจำวัน ➢ การปฏิบตั หิ น้าทเ่ี วรประจำวนั หยดุ ราชการ คำกลา่ วในการปิดการสมั ภาษณ์ / การขอบคณุ หนูขอขอบคณุ มากเลยนะคะท่ใี ห้ผมสัมภาษณใ์ นครง้ั น้ี โดยผมจะนำเอาข้อมลู เหลา่ นี้ที่ได้จากการ สัมภาษณข์ องครใู นวันน้ีไปทำเล่มรายงานการสงั เกตและวเิ คราะห์การปฏบิ ตั ิหน้าท่คี รูผา่ น ชมุ ชนแห่ง การเรยี นรทู้ างวิชาชพี (PLC) เพอ่ื สง่ รายงานผลให้กับคณะอาจารย์ทาง มหาวิทยาลัยตอ่ ไปครบั
68 A3 แบบสมั ภาษณ์ ครู วันที่ 4 เดือน กรกฎาคม ปี 2565 ตัง้ แตเ่ วลา 13 : 10 น. ถึง 13 : 20 น. สถานที่ โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม ผ้สู ัมภาษณ์ นางสาว วิมลณฐั ลกู นก ผู้ถูกสมั ภาษณ์ นาง อัจฉรา เอ่ยี มบำรุง การถามนำ / คำกลา่ วนำ สวัสดคี ะ่ คุณครู หนูชอ่ื นางสาว วิมลณัฐ ลูกนก ชือ่ เล่นชอ่ื ฝ้าย มาจากมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ธนบรุ ี ขออนญุ าตสมั ภาษณ์คุณครูเก่ียวกับงานสอนและงานท่นี อกเหนือจากงานสอนได้ไหมคะ คำถามสัมภาษณ์ a. นักเรยี นทดี่ ใี นอดุ มคตขิ องคณุ เป็นอย่างไร ➢ เปน็ เดก็ ดี มีความสามารถ ไมต่ อ้ งเกง่ แต่ต้องมคี วามรบั ผิดชอบ เพื่อจะไดเ้ ปน็ ผใู้ หญ่ทด่ี ใี น อนาคตได้ และ เปน็ คนท่มี ที กั ษะชีวิตที่สามารถเอาตวั รอด เมอ่ื เวลาเจอสถานการณป์ ัญหา ต่างๆทีพ่ บเจอในชีวติ ประจำวัน โดยท่ีสามารถเอาตัวรอดทีเ่ กิดระหวา่ งปญั หาท่ีพบเจอใน ชวี ิตประจำวันได้ นอกจากนี้ยังต้องเป็นเด็กที่มคี วามกตญั ญู รบู้ ุญคุณพอ่ แม่ ต้ังใจเรยี น หนงั สือ ขยัน อดออม น่ารกั มีมารยาทดี b. มีวธิ กี ารจดั การอารมณก์ ับเด็กที่ สามารถพฤตกิ รรมรนุ แรง ➢ คอ่ ยๆพูดจากบั เด็กไม่ใช้วิธที ี่ตอบกบั แตต่ อ้ งใชด่ ้วยวธิ ีท่ีละมนุ ละม่อมและคอ่ ยๆพดู ดว้ ย เหตผุ ลจะได้รูถ้ งึ เหตุผลที่แท้จริง นอกจากนจ้ี ะต้องคำถงึ พื้นฐานครอบครวั ของเดก็ คนนั้นๆ วา่ มพี ้ืนฐานครอบครวั พอ่ แม่ ของเด็กคนนน้ั ว่ามคี วามเปน็ อยอู่ ย่างไร ทำไมนกั เรียนถงึ มี พฤติกรรมความรนุ แรงแบบน้ี เพอ่ื จะได้หาวิธีแก้ไขโดยใชจ้ ิตวิทยาเด็ก
69 c. มเี ทคนิคการสอนอย่างไรใหเ้ ด็กเขา้ ใจง่ายและไมเ่ ครยี ด ➢ เทคนิคการสอนทที่ ำให้เดก็ เข้าใจง่ายคอื การพยายามสอนจากง่ายไปหาอยาก และมองให้เห็นในสงิ่ ที่เป็นวิชาคณติ ศาสตร์ให้มคี วามเป็นรปู ธรรม ไมใ่ ห้เด็กมองเหน็ เปน็ นามธรรม และต้องสามารถเช่ือมโยงกับชีวิตประจำวนั ได้ จะทำให้เด็กเกดิ ความตระหนกั ใน การเรยี นและสามารถเรียนรไู้ ด้ดี และนอกจากน้ีจะตอ้ งเป็นครทู ี่ไมด่ ุ มคี วามเปน็ กันเองกบั เดก็ เพราะ ครทู ี่ดุจะทำใหเ้ ดก็ ไมเ่ กิดการเรยี นรู้ และทำให้กลวั ไมก่ ล้าท่ีจะถามในสิง่ ทไ่ี ม่ เข้าใจ จะต้องใหเ้ ด็กเข้าถึงตัวครไู ดง้ า่ ย เปน็ กันเองกับลกู ศษิ ย์ d. เคยเจอปัญหาระหว่างเพื่อนร่วมงานบ้างหรือไม่ ➢ เคยเจอปญั หาระหว่างเพ่ือนรว่ มงาน คอื มีความเข้าใจผดิ กันในระหว่างเร่อื งงาน อีกคนเขา้ ใจอกี แบบ เราเขา้ ใจอีกแบบ แตเ่ ราไมท่ ำให้ปญั หานั้นเกดิ เปน็ น้ำผ้งึ หยดเดียวใน องค์กรแต่ต้องมีการพบปะพูดคุยกัน เพราะปญั หาระหว่างเรื่องงานนน้ั สามารถพูดคยุ ตกลง กนั ได้ และทำให้องค์กรน้นั สามารถผ่านวิกฤตน้นั ไปได้ e. นอกจากอาชพี ครูมอี าชีพเสรมิ เพิม่ เตมิ หรือไมแ่ ละบริหารจดั การเวลาอย่างไร ➢ นอกจากอาชพี ครมู ีอาชพี เสรมิ เพม่ิ เตมิ คือ มีการสอนพิเศษนกั เรยี นหรือเปน็ ติวเตอร์สอน นักเรียนขา้ งนอกโรงเรยี น แตไ่ ม่ไดน้ ำนักเรยี นท่ีอย่ใู นหอ้ งเรยี นไปสอน แต่เปน็ เดก็ มธั ยมท่ี อยูใ่ นโรงเรยี นอื่น ➢ มกี ารแบง่ เวลา คอื มาโรงเรยี นแตเ่ ชา้ กอ่ นเวลาราชการ และกลบั หลังเวลาทางราชการ และ ในระหว่างทำงานน้ันจะไม่มกี ารใช้เวลาทไ่ี ร้สาระ ทกุ ๆนาทใี นการทำงาน จะทำใหเ้ วลาใน การทำงานมีคณุ คา่ ทกุ ๆนาที ทำให้เราสง่ งานตรงตามเวลา และปฏบิ ัติหนา้ ทตี่ รงตามภรกจิ ตามทผี่ อู้ ำนวยการท่ไี ดร้ บั มอบหมายตามนโยบายของโรงเรยี น และดูแลเด็กตามในหอ้ งครบ ตามเวลา
70 f. นอกเหนอื จากการสอนแล้วคณุ ครมู ีงานที่ทำกับทางโรงเรยี นอะไร ➢ รบั ผิดชอบครูประจำชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5/2 ➢ เป็นหัวหน้างานประกันคณุ ภาพของโรงเรยี น ➢ เป็นหนา้ งานประเมินครูผชู้ ่วยและครอู ัตราจา้ ง ➢ ครผู ปู้ ระเมนิ เงินเดอื นขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ➢ ปฏบิ ัตหิ นา้ ทเี่ วรประจำวัน ➢ ปฏบิ ตั ิหนา้ ที่เวรวนั หยดุ ทางราชการ คำกล่าวในการปดิ การสัมภาษณ์ / การขอบคุณ หนูขอขอบคณุ มากเลยนะคะท่ีให้ผมสมั ภาษณใ์ นคร้งั น้ี โดยผมจะนำเอาขอ้ มูลเหลา่ น้ีท่ีได้จากการ สัมภาษณข์ องครใู นวนั นี้ไปทำเลม่ รายงานการสังเกตและวิเคราะหก์ ารปฏิบัตหิ น้าทีค่ รูผา่ น ชมุ ชนแห่ง การเรยี นรทู้ างวิชาชีพ (PLC) เพ่ือสง่ รายงานผลใหก้ ับคณะอาจารย์ทาง มหาวทิ ยาลัยต่อไปค่ะ
71 A3 แบบสัมภาษณ์ นักเรยี น วนั ที่ 4 เดือน กรกฎาคม ปี 2565 ตง้ั แตเ่ วลา 13 : 00 น. ถึง 13 : 10 น. สถานที่ โรงเรียนวดั อมรนิ ทราราม ผ้สู มั ภาษณ์ นางสาว วิมลณฐั ลูกนก ผถู้ ูกสมั ภาษณ์ เดก็ หญงิ พัดธิดา สุนทรสุข การถามนำ / คำกล่าวนำ สวัสดคี ะ่ นักเรียน ครูช่ือนางสาว วมิ ลณัฐ ลกู นก ชอื่ เล่นช่ือฝ้าย มาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบรุ ี ขออนุญาตสอบถามนักเรียนเกี่ยวกบั การเรยี นและความเป็นอย่ขู องนกั เรียนได้ไหมคะ คำถามสัมภาษณ์ 1) นกั เรียนชอบเรยี นวชิ าอะไรบ้าง ➢ ชอบวิชา ศิลปะ คณติ ศาสตร์ อังกฤษ 2) ชอบครใู นลกั ษณะแบบไหน ➢ ชอบครูใจดี 3) เคยปัญหากบั เพอ่ื นไหมหรือไมแ่ ละมีในลกั ษณะแบบไหน ➢ มี คือ ทะเลอะกบั เพื่อน 4) ไม่ชอบครูท่สี อนแบบไหน ➢ แบบสอนไมเ่ ขา้ ใจ สอนแลว้ ง่วง
72 คำกลา่ วในการปดิ การสมั ภาษณ์ / การขอบคณุ ครูขอขอบคุณมากเลยนะคะที่ให้ผมสมั ภาษณใ์ นคร้ังนี้ โดยครูจะนำเอาขอ้ มูลเหลา่ นี้ท่ีได้จากการ สัมภาษณข์ องนักเรียนในวนั น้ีไปทำเล่มรายงานการ เรียนรทู้ างวชิ าชีพ (PLC) เพ่ือสง่ รายงานผลให้กับ คณะอาจารย์ทาง มหาวทิ ยาลัยต่อไปค่ะ
73 A3 แบบสัมภาษณ์ นกั เรยี น วนั ที่ 4 เดอื น กรกฎาคม ปี 2565 ตัง้ แตเ่ วลา 13 : 10 น. ถึง 13 : 20 น. สถานที่ โรงเรยี นวดั อมรนิ ทราราม ผูส้ มั ภาษณ์ นางสาว วิมลณฐั ลูกนก ผู้ถูกสัมภาษณ์ เด็กชาย วรายสุ บวั โรย การถามนำ / คำกล่าวนำ สวสั ดคี ะ่ นักเรยี น ครูชอ่ื นางสาว วิมลณัฐ ลกู นก ชือ่ เลน่ ชอ่ื ฝา้ ย มาจากมหาวทิ ยาลัยราชภัฏธนบรุ ี ขออนญุ าตสอบถามนักเรยี นเกย่ี วกับการเรยี นและความเปน็ อยูข่ องนกั เรยี นได้ไหมคะ คำถามสัมภาษณ์ 1) นกั เรยี นชอบเรยี นวิชาอะไรบ้าง ➢ ชอบวชิ า คณิตศาสตร์ 2) ชอบครใู นลักษณะแบบไหน ➢ ชอบครูใจดี ตลก 3) เคยปัญหากับเพ่อื นไหมหรือไม่และมีในลกั ษณะแบบไหน ➢ มี คือ ทะเลอะกบั เพอ่ื นเร่ืองเพอ่ื นเอารปู ทไี่ ม่อยากใหด้ ใู ห้เพอ่ื นคนอื่นดู
74 คำกลา่ วในการปิดการสมั ภาษณ์ / การขอบคณุ ครูขอขอบคณุ มากเลยนะคะทีใ่ ห้ผมสมั ภาษณใ์ นครั้งน้ี โดยครูจะนำเอาข้อมูลเหลา่ นี้ท่ีได้จากการ สัมภาษณข์ องนักเรยี นในวันน้ีไปทำเล่มรายงานการ เรียนรทู้ างวชิ าชพี (PLC) เพื่อสง่ รายงานผลให้กับ คณะอาจารย์ทาง มหาวิทยาลัยตอ่ ไปค่ะ
75 A3 แบบสัมภาษณ์ ผู้ปกครอง วนั ท่ี 9 เดือน กรกฎาคม ปี 2565 ต้งั แตเ่ วลา 13 : 10 น. ถงึ 13 : 20 น. สถานท่ี บ้าน ผ้สู มั ภาษณ์ นางสาว วมิ ลณฐั ลกู นก ผ้ถู ูกสมั ภาษณ์ นาง สริ ิภัทร กระจา่ งแสง การถามนำ / คำกล่าวนำ สวัสดคี ะ่ ผปู้ กครอง หนูชื่อนางสาว วมิ ลณัฐ ลูกนก ชื่อเล่นชอ่ื ฝ้าย มาจากมหาวิทยาลยั ราชภฏั ธนบรุ ีขออนุญาตสัมภาษณ์คณุ ครูเก่ยี วกับงานสอนและงานทีน่ อกเหนือจากงานสอนไดไ้ หมคะ คำถามสมั ภาษณ์ 1) ในความคดิ ของผปู้ กครองอยากให้รมู้ ีลกั ษณะอยา่ งไร ➢ ใส่ใจนักเรยี นในการสอน และชว่ ยดูแลอบรมนกั เรียนในการพดู จาไพเราะ 2) นกั เรยี นอยทู่ ่ีบา้ นเป็นอยา่ งไรบา้ ง ➢ เปน็ เดก็ ร่าเรงิ มสี ุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่มโี รคประจำตวั คือโรคหอบ เคยติดโควดิ 19 จากทางบา้ นมอี าการเปน็ ไข้ ตัวร้อน หายใจไม่ออก ไดพ้ านกั เรยี นไปหา หมอ หมอใหก้ ินยาฟาวพิ ิราเวยี ร์ ยาแกไ้ ข้ แลว้ นักเรียนหาย 3) นักเรียนเคยนำปญั หาที่โรงเรยี นไปปรึกษาท่บี า้ นหรอื ไม่ ถ้ามีส่วนใหญเ่ ป็นเรื่องอะไรแล้วให้ คำปรึกษาอยา่ งไร ➢ ไม่มปี ญั หาทโี่ รงเรยี น
76 4) นอกจากหนา้ ทีข่ องทางโรงเรยี นแลว้ นกั เรยี นมหี น้าทใ่ี นบ้านอะไรบ้าง ➢ ชว่ ยผู้ปกครองชื้อของตามทีผ่ ้ปู กครองได้มอบหมายใหท้ ำ คำกล่าวในการปดิ การสมั ภาษณ์ / การขอบคณุ หนูขอขอบคุณมากเลยนะคะทใ่ี ห้หนูสัมภาษณ์ในครง้ั นี้ โดยหนูจะนำเอาข้อมลู เหลา่ น้ีท่ไี ด้ จากการสัมภาษณข์ องนักเรยี นในวนั น้ไี ปทำเล่มรายงานการเรยี นร้ทู างวชิ าชีพ (PLC) เพอ่ื ส่งรายงานผล ให้กบั คณะอาจารย์ทาง มหาวิทยาลัยต่อไปค่ะ
77 ชอ่ื ผเู้ ขยี น : นายนาราวิทย์ ดารดาษ แบบบนั ทึกบรบิ ทโรงเรียน ผงั โรงเรียน นกั ศึกษาสงั เกต ทำความเขา้ ใจบริบทโรงเรียน และ จดบนั ทกึ A1 โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม ทตี่ ้งั 566/1 ถ. อรุณอัมรนิ ทร์ แขวงศริ ิราช เขตบางกอกนอ้ ย กรงุ เทพมหานคร สถานทีใ่ กลเ้ คยี ง โรงพยาบาลศิรริ าช ปยิ มหาราชการุณย์ ( SiPH ) ชื่อผู้บรหิ าร ดร. ภารดี ผางสง่า ********************************************* จำนวนครู/บคุ ลากร ( คน ) 119 จำนวนนักเรียน ( คน ) 1,364 จำนวนนกั เรยี น ( ห้อง ) 41 รวม 1,524
78 A1 วาดผงั โรงเรียน แผนผังแสดงทต่ี ั้งโรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม
79 แบบสังเกตการณ์ปฏบิ ัติหนา้ ทีค่ รู A2 แบบสงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิหน้าทค่ี รู คำชแ้ี จง : การบันทกึ จากการสังเกตเปน็ ขอ้ มลู สำคัญในการทำความเข้าใจ ปฏิบัตหิ น้าท่คี รแู ละเปน็ โอกาสในการพัฒนาแนวคดิ และทกั ษะการเรียนรู้ สำคญั ของนกั ศกึ ษา จึงขอใหน้ กั ศกึ ษาไดบ้ นั ทกึ ข้อมลู ให้ครอบคลุมประเดน็ ดังน้ี 1) ขอ้ มลู เกยี่ วกับสภาพและบนั ทกึ ข้อมูล วันที่….7….เดอื น…………………..มิถุนายน………………….ปี……..2565……. เวลา……07:30……ถึง…..16:30.น…………… สถานที่…………..โรงเรียนวัดอมรินทราราม……………………………………….. เป้าหมายของการสงั เกต (ครูช่ือ หรือกลุ่มสาระชื่อ หรือห้องพักครู ) ……….นางสาว…ลลติ า……นติ ิพนั ธ์……………..……………………………………… นามผูจ้ ดบนั ทกึ หรือผูส้ งั เกต…………นาย…นาราวิทย์….ดารดาษ……………. 2) ขณะท่กี ำลังสงั เกต : การบนั ทกึ ข้อมูลจากการสังเกตและการสนทนา ( บันทึกข้อมลู ) เวลา 10:15 น. ( ส่งิ ท่สี งั เกตหรอื การสนทนาท่ีไดย้ ิน ) ครูไมไ่ ด้มหี นา้ ท่ีสอนเพยี งอย่างเดียวแตต่ ้องดแู ล นกั เรยี นเปรียบเสมือนลูกเพราะต้องอบรมเด็กๆหลังเข้า กิจกรรมในตอนเช้า
80 ( อาจวาดภาพสถานทีห่ รอื บรบิ ทสังเกต ) เวลา 11:30 น.
81 3) หลังจากจบกจิ กรรมการสังเกต : การประมวล วิเคราะหท์ ำความเข้าใจ และสรุปความรู้สกึ นึก คิดและการเรียนรทู้ ่ีเกิดขน้ึ กบั ผู้สังเกตุ ( สว่ นนี้ไมใ่ ช่สว่ นทเี่ ป็นขอ้ มูลแต่เปน็ การตคี วามและ แปลความหมายของขอ้ มลู ตลอดจนการวิเคราะห์และการเรยี นร้ขู องผ้สู งั เกต ) 1. ความรสู้ กึ ที่เกดิ ขนึ้ อบอ่นุ ทีไ่ ด้เห็นครสู อนนกั เรยี นเปรยี บเสมอื นสอนคนใสนครอบครัว 2. สิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ การสอนคอื งานหลกั ของครแู ต่ยงั ตอ้ งดแู ลนกั เรยี นด้วย 3. การนำไปใชป้ ระโยชน์ การใชเ้ วลาวา่ งจากการคอยสังเกตนกั เรยี นเพ่ือทำความเข้าใจและ การเขา้ ใจความคิดและจิตใจของนกั เรยี น 4. ข้อสังเกตหรือคำถามคา้ งคาใจท่ตี ้องการคำตอบต่อไป –
82 A2 แบบสังเกตการณ์ปฏิบัติหน้าที่ครู คำช้ีแจง : การบันทกึ จากการสังเกตเป็นขอ้ มูลสำคญั ในการทำความเขา้ ใจปฏิบตั หิ น้าทค่ี รูและเปน็ โอกาสในการพฒั นาแนวคดิ และทกั ษะการเรียนร้สู ำคัญของนกั ศึกษา จึงขอให้นกั ศึกษาได้บันทกึ ขอ้ มลู ให้ครอบคลมุ ประเด็นดังน้ี 1) ขอ้ มูลเก่ียวกบั สภาพและบนั ทึกขอ้ มลู วันท่ี……….6………..เดอื น……….มิถนุ ายน………ปี…………………..2565……………… เวลา………………07:30……ถงึ ………..16:30.น………… สถานท…ี่ ………………โรงเรียนวัดอมรินทราราม……………………………………………………………………….. เป้าหมายของการสงั เกต ( ครชู ่ือ หรอื กล่มุ สาระชอ่ื หรือหอ้ งพักครู ) ……………………นางสาว…..ลลติ า……..นติ พิ ันธ์…………………………………………………………………………… นามผู้จดบันทกึ หรอื ผูส้ งั เกต……………….นาย……นาราวทิ ย์……..ดารดาษ…………………………………… 2) ขณะที่กำลังสงั เกต : การบนั ทกึ ข้อมลู จากการสังเกตและการสนทนา ( บนั ทึกขอ้ มลู ) เวลา 08:30 ( ส่งิ ท่สี งั เกตหรือการสนทนาทไี่ ดย้ นิ ) อย่าคาดหวงั กบั ชยั ชนะในการเป็นประธานนักเรยี นเพราะการเลอื กตั้งถอื เปน็ กจิ กรรมสดุ ท้ายของ นักเรยี นเทา่ นัน้ 3) หลงั จากจบกิจกรรมการสงั เกต : การประมวล วิเคราะห์ทำความเขา้ ใจ และสรุปความรู้สึกนึก คดิ และการเรยี นรทู้ เี่ กดิ ขนึ้ กบั ผู้สังเกตุ ( สว่ นน้ีไมใ่ ชส่ ่วนทเี่ ป็นขอ้ มูลแตเ่ ป็นการตีความและ แปลความหมายของขอ้ มลู ตลอดจนการวิเคราะห์และการเรยี นรขู้ องผสู้ ังเกต ) 1. ความรสู้ ึกทเ่ี กดิ ขน้ึ เหน็ ด้วยกับเรอื่ งนเี้ พราะอดีตที่ผา่ นมายอ่ มมเี รื่องทำใหผ้ ิดหวงั เสมอ 2. ส่งิ ท่ีได้เรียนรู้ หากเราคาดหวังกับส่งิ ใดมากเกนิ ไปเรามักจะผิดหวงั กับส่งิ ทีเ่ ราได้ตาด หวังมากตามสิ่งนั้น 3. การนำไปใช้ประโยชน์ คาดหวงั กบั สง่ิ ทท่ี ำอยู่หรอื อนาคตใหพ้ อดีไม่มากและไมน่ อ้ ย จนเกินไป 4. ข้อสงั เกตหรือคำถามคา้ งใจทีต่ ้องการคำตอบตอ่ ไป -
83 A2 แบบสงั เกตการณ์ปฏิบตั ิหนา้ ทค่ี รู คำชี้แจง : การบนั ทกึ จากการสงั เกตเป็นขอ้ มลู สำคญั ในการทำความเขา้ ใจปฏิบัตหิ น้าท่คี รแู ละเปน็ โอกาสในการพฒั นาแนวคดิ และทักษะการเรยี นรสู้ ำคญั ของนักศกึ ษา จึงขอให้นกั ศึกษาได้บนั ทกึ ข้อมลู ใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ดงั นี้ 1) ข้อมูลเก่ยี วกบั สภาพและบันทกึ ข้อมลู วันที่…….8…….เดอื น……..มิถุนายน……………ป…ี ……….2565…………….. เวลา………….07:30………ถึง……16:30น………… สถานท…ี่ ……..โรงเรยี นวัดอมรินทราราม………………………………………………………………………... เป้าหมายของการสงั เกต ( ครูชอ่ื หรือกลุ่มสาระชื่อ หรอื หอ้ งพักครู ) ………………………………นางสาว…..ลลิตา……..นิตพิ นั ธ์……………………………………………………………………….. นามผู้จดบนั ทึกหรอื ผ้สู งั เกต……………………………นาย…..นาราวิทย์…..ดารดาษ……………………………………. 2) ขณะท่กี ำลงั สงั เกต : การบนั ทกึ ขอ้ มูลจากการสงั เกตและการสนทนา ( บันทึกข้อมูล ) เวลา 12:30 น. ( สง่ิ ท่ีสงั เกตหรือการสนทนาทไี่ ดย้ นิ ) การเรียนการสอนภายในห้องเรยี นไมใ่ ชท่ ุกอยา่ งเสมอไป 3) หลังจากจบกจิ กรรมการสงั เกต : การประมวล วิเคราะหท์ ำความเขา้ ใจ และสรปุ ความรสู้ กึ นกึ คดิ และการเรยี นรู้ที่เกดิ ขึ้นกบั ผสู้ ังเกตุ ( ส่วนน้ไี ม่ใชส่ ่วนท่ีเปน็ ขอ้ มลู แตเ่ ป็นการตีความและแปล ความหมายของข้อมลู ตลอดจนการวเิ คราะหแ์ ละการเรยี นรขู้ องผ้สู งั เกต ) 1. ความรู้สกึ ทเ่ี กิด เร่อื งจริงของกิจกรรมสังคมทมี่ จี ริงๆในทั่วไป 2. สิง่ ท่ไี ด้เรยี นรู้ การเรียนรเู้ กิดได้รอบตวั เสมอจึงสามารถเรียนจากทกุ ส่ิงรอบตวั ได้ 3. การนำไปใช้ประโยชน์ การนำนกั เรียนไปสูอ่ นาคตและการเรยี นรู้ในหลายๆดา้ นไมใ่ ช่ เพยี งแคใ่ นหอ้ งเรียน 4. ขอ้ สงั เกคหรือคำถามค้างใจทตี่ ้องการตอบไป -
84 A2 แบบสงั เกตการณ์ปฏิบัติหน้าที่ครู คำช้ีแจง : การบนั ทกึ จากการสงั เกตเป็นข้อมลู สำคญั ในการทำความเขา้ ใจปฏิบัตหิ นา้ ทค่ี รูและเปน็ โอกาสในการพฒั นาแนวคดิ และทกั ษะการเรียนรู้สำคัญของนักศกึ ษา จึงขอใหน้ กั ศึกษาได้บนั ทึก ขอ้ มลู ให้ครอบคลุมประเดน็ ดังน้ี 1) ขอ้ มูลเก่ียวกบั สภาพและบันทกึ ขอ้ มูล วนั ท่ี…….8…….เดอื น……..มิถนุ ายน……………ปี………….2565…….เวลา………….07:30……… ถงึ ……16:30น………… สถานท่ี…………………………….โรงเรยี นวดั อมรินทราราม………………….................................. เป้าหมายของการสงั เกต ( ครชู ือ่ หรอื กลมุ่ สาระชื่อ หรือห้องพกั ครู ) …………………………นางสาว…..ลลติ า……..นติ ิพนั ธ์………………………………………………….……………………. นามผู้จดบนั ทกึ หรือผสู้ งั เกต…………………..นาย…..นาราวิทย์…..ดารดาษ…………….………………………. 2) ขณะที่กำลงั สงั เกต : การบนั ทึกข้อมูลจากการสังเกตและการสนทนา ( บนั ทึกขอ้ มูล ) เวลา 13:30 น. ( ส่งิ ท่ีสงั เกตหรือการสนทนาทไ่ี ดย้ นิ ) ศึกษาและฝึกปฏิบัติกอ่ นการสอน 3) หลงั จากจบกิจกรรมการสังเกต : การประมวล วิเคราะหท์ ำความเข้าใจ และสรุปความรสู้ กึ นกึ คิด และการเรยี นรู้ท่ีเกิดข้นึ กบั ผสู้ งั เกตุ ( ส่วนนไี้ มใ่ ช่สว่ นที่เปน็ ขอ้ มลู แตเ่ ปน็ การตคี วามและแปล ความหมายของขอ้ มลู ตลอดจนการวเิ คราะห์และการเรยี นรขู้ องผสู้ งั เกต ) 1. ความรูส้ กึ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ท้อใจบา้ งเพราะบางครง้ั การการเรียนรู้กท็ ำใหเ้ หนอ่ื ยกว่าที่หลายคน เหน็ 2. สิง่ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ การเปน็ ครไู ม่ไดส้ บายตอ้ งมีการเรยี นรอู้ ยู่เสมอเพอ่ื นำความร้ไู ปให้นักเรียน ในต่อไป 3. การนำไปใช้ประโยชน์ ศกึ ษาสง่ิ ใหมๆ่ และทบทวนบทเรียนตลอดเวลา ไม่ละเลยต่อ ความรูท้ ม่ี ี 4. ขอ้ สงั เกตหรอื คำถามคา้ งคาใจทีต่ อ้ งการคำตอบต่อไป -
85 แบบสมั ภาษณ์ A3 แบบสัมภาษณ์ ครู วนั ท่…ี ..17………เดอื น……มถิ นุ ายน………ปี……..2565………………ตงั้ แต่เวลา.16:30 น ..ถึง…17:00น……….. สถานท…่ี ……………..โรงเรยี นวดั อมรินทราราม………………………………………….………………………………………… ผสู้ มั ภาษณ…์ ……นาย…นาราวิทย์ ดารดาษ……………………………………………………………………………………….. ผูถ้ ูกสัมภาษณ…์ ………นางสาว...ชนาพร……เพยี รศรธี รรม……………………………………..……………………………. การถามนำ / คำกลา่ วนำ สวัสดคี รบั คณุ ครู ผมขอสัมภาษณค์ ณุ ครเู ก่ยี วกับงานสอนและงานทนี่ อกเหนอื จากงานสอนสกั 4- 5 ข้อหนอ่ ยไดไ้ หมครับ คำถามสัมภาษณ์ 1) นักเรียนทีด่ ีในอดุ มคตขิ องคุณ เปน็ อยา่ งไร - เปน็ คนดีมคี วามรบั ผิดชอบต่องาน เสยี สละและมคี วามขยนั ในการมีความรู้ 2) มีวิธีจัดการอารมณก์ บั เด็กพฤตกิ รรมรนุ แรง - ให้คำปรึกษาในทุกๆปญั หาของนักเรยี นบางครง้ั ต้องมีดบุ ้างมเี สยี งดังบา้ งเพ่อื ใหน้ ักเรยี น อย่ใู นสมาธิและสตแิ ตค่ วรอยู่ในกรอบของความเป็นครู 3) มีเทคนคิ การสอนอย่างไรให้เด็กเขา้ ใจงา่ ยและไม่เครียด - พยายามทำใหเ้ ดก็ อยู่ในกรอบการเรียนรู้โดยใชส้ ือ่ กับกจิ กรรมตา่ งๆให้เด็กๆมีควา สนุกสนาน 4) เคยเจอปัญหาระหวา่ งเพื่อนร่วมงานหรือไม่ - อาจจะมเี ปน็ ครง้ั คราว เพราะทกุ คนยอ่ มเจอปญั หาแต่เราควรควบคุมอารมณ์และหาวิธี แกป้ ัญหาทถ่ี ูกตอ้ ง คำกลา่ วในการปดิ การสมั ภาษณ์ / การขอบคณุ ผมขอขอบคุณมากเลยนะครบั ท่ใี หค้ วามร่วมมือสมั ภาษณใ์ นครัง้ นี้ โดยผมจะนำข้อมลู จากการ สัมภาษณภ์ ายในวนั นไี้ ปทำเล่มรายงานการสังเกตและการวเิ คราะห์การปฏิบตั ิหน้าทคี่ รูผา่ น ชุมชนแหง่ การ เรียนรู้ทางวชิ าชีพ ( PCL ) เพอื่ ส่งเลม่ รายงานนีใ้ หก้ ับคณะอาจารยท์ างมหาวทิ ยาลัยต่อไปครบั
86 A3 แบบสัมภาษณ์ ครู วนั ท่…ี ..16………เดือน……มถิ นุ ายน………ปี….2565……ตั้งแตเ่ วลา….16:30 น .ถงึ …17:00น………… สถานท…ี่ ……………..โรงเรียนวดั อมรินทราราม…………………………………….…………………………………. ผู้สมั ภาษณ…์ ……นาย…นาราวทิ ย์ ดารดาษ………………………………………….……..…………………………. ผู้ถูกสมั ภาษณ…์ ………นางสาว...พทุ ธชาด….เกตสูงเนิน….……………………………………………………….. การถามนำ / คำกล่าวนำ สวสั ดีครบั คุณครู ผมขอสมั ภาษณ์คณุ ครูเกยี่ วกบั งานสอนและงานที่นอกเหนือจากงานสอน สัก 4-5 ข้อหน่อยได้ไหมครบั คำถามสัมภาษณ์ 1) นกั เรยี นท่ดี ใี นอดุ มคตขิ องคณุ เป็นอย่างไร - มีความขยนั พฒั นาตนเองไมต่ อ้ งเกง่ แจข่ อให้พฒั นาตนเองทลี ะนิด 2) มวี ธิ ีจัดการอารมณก์ ับเดก็ พฤติกรรมรนุ แรง - ใหเ้ ดก็ ตั้งสติและสอบถามว่าเนือ่ งราวตา่ งๆเกดิ ขน้ึ ได้อย่างไร - ใหค้ ำปรึกษาเดก็ ให้พอเหมาะพอควรใหอ้ ยู่ในกรอบ 3) มเี ทคนคิ การสอนอยา่ งไรใหเ้ ด็กเขา้ ใจง่ายและไมเ่ ครียด - พยายามหากจิ กรรมเสรมิ อยู่ตลอดเพื่อให้เด็กได้ทำกจิ กรรมรว่ มกบั เพอ่ื นในหอ้ ง 4) เคยเจอปญั หาระหวา่ งเพือ่ นรว่ มงานหรอื ไม่ - เคยเจอเปน็ บางส่วนแตท่ ุกคนย่อมต้องมปี ัญหาของตนเองและต้องแกป้ ญั หาและ ควบคมุ อารมษณข์ องตน คำกลา่ วในการปดิ การสมั ภาษณ์ / การขอบคณุ ผมขอขอบคุณมากเลยนะครับทใี่ ห้ความร่วมมอื สัมภาษณ์ในคร้งั น้ี โดยผมจะนำขอ้ มลู จาก การสมั ภาษณ์ภายในวนั น้ไี ปทำเลม่ รายงานการสังเกตและการวเิ คราะหก์ ารปฏิบตั ิหน้าทคี่ รผู า่ น ชมุ ชน แห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชพี ( PCL ) เพอื่ สง่ เล่มรายงานน้ีให้กับคณะอาจารยท์ างมหาวทิ ยาลัยตอ่ ไปครับ
87 A3 แบบสมั ภาษณ์ นักเรียน วันที่…..21………เดือน……มถิ นุ ายน………ป.ี .2565…ตั้งแตเ่ วลา….16:30 น ……..ถงึ …17:00น………… สถานท…ี่ …………โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม………………………………………………………………….……………. ผ้สู ัมภาษณ…์ …นาย…นาราวทิ ย์ ดารดาษ…………………………………………………………………………………. ผถู้ กู สัมภาษณ…์ ……เด็กหญิง…อุรสั ยา…พ่วงเจริญ………..……………………………………………………….. การถามนำ / คำกล่าวนำ สวสั ดคี รับนักเรยี น ครขู ออนญุ าตสมั ภาษณ์นกั เรยี นหนอ่ ยนะครบั เพ่ือทีจ่ ะนำคำถามเหลา่ นี้ ของนกั เรียนไปทำรายงานของมหาวทิ ยาลยั ได้ไหมครบั คำถามสัมภาษณ์ 1) นกั เรยี นคิดว่าการที่มปี ญั หาภายในครอบครวั จะทำให้มีปัญหาเกยี่ วกบั การเรียน ได้ไหม - คดิ วา่ ไม่นะคะ เพราะวา่ ในแต่ละปญั หาเราควรมกี ารแยกแยะวา่ ตอนน้ี เราอยู่ท่ไี หนและเรากำลงั ทำอะไรอยู่ 2) นักเรยี นเคยนำปญั หาการเรยี นเคยไปปรกึ ษาท่บี า้ นไหม - เพราะบางครงั้ การปรกึ ษาคนในครอบครัวถือเป็นเร่ืองปกตสิ ำหรับหนู ค่ะ 3) คิดว่าชว่ งเวลาในการเรียนออนไลนแ์ ละการเรยี นออนไซตต์ ่างกนั อย่างไร - หนวู ่าช่วงเวลาในการเรยี นออนไลนไ์ มค่ ่อยรู้เร่ืองค่ะเพราะวา่ เราไม่ สามารถสอบถามเพือ่ นและครไู ดต้ ลอดเพราะตอ้ งตง้ั ใจฟงั ตลอดเวลาคะ่ แต่ถ เป็นการเรยี นออนไซต์สามรถถามคำถามกบั ครไู ดต้ ลอดเวลาและ ยังสามารถถามสิ่งทีไ่ มร่ กู้ บั เพอ่ื นได้ดว้ ย คำกล่าวในการปิดสัมภาษณ์และขอบคุณ ขอบคณุ มากครับ ถ้าเกดิ มอี ะไรอกี ครจู ะสอบถามเพ่มิ เติมนะครบั ขอบคณุ สำหรบั ขอ้ มูลครับ
88 A3 แบบสัมภาษณ์ นกั เรียน วันที…่ ..21………เดอื น……มถิ นุ ายน………ปี..2565…ตัง้ แตเ่ วลา….16:30 น ..ถึง…17:00น………… สถานท…ี่ …………โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม…………………………………………………………………………. ผู้สมั ภาษณ…์ …นาย…นาราวิทย์ ดารดาษ………………………………………………………………………………. ผู้ถูกสัมภาษณ…์ ……เดก็ หญิง…ชมพนู ชุ …..มีรถ……..…………………………………………………………….. การถามนำ / คำกล่าวนำ สวัสดคี รบั นักเรียน ครขู ออนุญาตสัมภาษณ์นกั เรียนหนอ่ ยนะครบั เพอื่ ที่จะนำคำถามเหลา่ น้ี ของนกั เรียนไปทำรายงานของมหาวิทยาลยั ไดไ้ หมครับ คำถามสัมภาษณ์ 1) นกั เรยี นคิดวา่ การทมี่ ปี ัญหาภายในครอบครัวจะทำใหม้ ปี ัญหาเก่ยี วกบั การ เรยี นได้ไหม - กม็ บี ้างคะ่ เพราะเรอ่ื งบางเรอ่ื งกท็ ำใหค้ วบคมุ อารมณต์ วั เองไมอ่ ยู่ 2) นักเรยี นเคยนำปญั หาการเรียนเคยไปปรกึ ษาทบี่ ้านไหม - มีคะ่ เพราะการเปน็ หวั หนา้ หอ้ งกจ็ ะมีปัญหามากมายใหพ้ บเจอ 3) คดิ วา่ ช่วงเวลาในการเรียนออนไลน์และการเรยี นออนไซต์ตา่ งกันอยา่ งไร - มีผลการเรยี นทต่ี า่ งกนั มากค่ะเพราะมพี ้นื ทที่ ีไ่ ม่พรอ้ มเรียน คำกลา่ วในการปดิ สัมภาษณ์และขอบคุณ ขอบคุณมากครับ ถ้าเกดิ มีอะไรอีกครจู ะสอบถามเพม่ิ เติมนะครบั ขอบคุณสำหรับ ขอ้ มลู ครับ
89 A3 แบบสมั ภาษณ์ ผู้ปกครอง วนั ท่…ี ..21……..เดอื น……..มถิ ุนายน………ปี..2565…ต้งั แต่เวลา….16:30 น ……..ถงึ …17:00น……… สถานท…่ี …โรงเรียนวดั อมรินทราราม……………………………………………………………………………………. ผู้สมั ภาษณ์นาย……………….นาราวทิ ย์…………ดารดาษ…………………….……………………………………… ผู้ถูกสัมภาษณ์….นางสาว……..ณัทภัสสร….เตราชูสงค์………..………………………………….……………….. การถามนำ / คำกลา่ วนำ สวสั ดคี รับ ผมคณุ ครูฝกึ สอนนะครับขออนุญาตสอบถามคณุ แม่เพือ่ นำคำถามเหล่านไ้ี ปทำ รายงานในมหาวิทยาลัยไดไ้ หมครบั คำถามสัมภาษณ์ 1. คิดวา่ การท่ีนกั เรยี นมปี ัญหาจากการเรียนหลงั จากกลบั ไปที่บ้านมีสว่ นให้ นกั เรยี นมปี ัญหากับท่ีบา้ นหรอื ไม่ - ไม่เพราะมกี ารจดั สรรเวลาเรื่องต่างๆไดด้ ี 2. เม่อื นักเรยี นหมดภาระหรอื ไมม่ ีภาระจากโรงเรยี นแล้วไดม้ ภี าระหรืองานอน่ื ท่ี ต้องช่วยเหลืองานท่ีบ้านหรอื ไม่ ถา้ มีแลว้ มอี ะไรบา้ ง - งานบ้าน รดนำ้ ตน้ ไม้ ล้างจาน และ ซกั ผ้าของตนเอง 3. นักเรยี นเคยนำปัญหาท่โี รงเรยี นไปปรกึ ษาท่ีบา้ นบา้ งหรือไมถ่ ้ามี วิธแี ก้ปัญหา เหลา่ นัน้ คอื อะไร และ เปน็ แบบไหน - การบ้านวชิ าคณติ ศาสตร์ การแก้ปัญหาคือปรึกษาคนในบ้านใหช้ ่วย สอน - เรอื่ งเพ่อื น การเปน็ หวั หนา้ ห้อง แกป้ ัญหาโดยการถามความคิดเห็นใน ครอบครัวว่าจะเป็นเพื่อนท่ีดีไดอ้ ยา่ งไร 4. คดิ ว่าการเรียนในปัจจบุ นั เปน็ อย่างไร - เปล่ยี นไปตามสถานการณเ์ น้นการเรยี น ลดกจิ กรรม และลดความรู้ 5. ความแตกต่างของการเรียนรขู้ องโรงเรียนสมัยก่อนมีความแตกตา่ งกบั ปัจจบุ ัน อยา่ งไรบา้ ง - การศกึ ษาค้นควา้ ชา้ กว่าสมยั นีเ้ รอ่ื งจากไมม่ ีเทคโนโลยจี ึงต้องค้นคว้า โดยการไปหอ้ งสมดุ และ การเปน็ ประธานกรรมการนกั เรยี นทำให้มี ภาระเพิ่มมากข้นึ อีกดว้ ย
90 คำกลา่ วปดิ การสัมภาษณ์/ขอบคณุ ผมตอ้ งขอขอบคณุ มากเลยนะครบั ทีใ่ หค้ วามร่วมมอื ในการสมั ภาษณ์ ผมจะนำ คำตอบเหลา่ นี้สง่ ทางมหาวิทยาลยั ขอบคุณครับ บนั ทกึ หลงั การสัมภาษณ์ ความคิดเหน็ ของผสู้ ัมภาษณ์ 1) ความรว่ มมอื ของผู้ใหส้ มั ภาษณ์ - คุณครทู ี่สัมภาษณ์ให้ความรว่ มมอื เป็นอยา่ งดี ตอบทุกคำถามชดั เจน มี ขอ้ เสนอแนะบ้างในคำถาม - ขณะท่สี มั ภาษณม์ ีการถามถึงการฝึกบา้ งเป็นครง้ั คราวเพอ่ื หาวธิ แี กไ้ ขปญั หา 2) สาระสำคญั ท่ีได้รบั จากการสัมภาษณ์ - นอกจากภาระหนา้ ทีใ่ นการสอนแล้วยังตอ้ งรบั หน้าทใ่ี นการดูแลเดก็ นักเรียนเพ่อื ความเรียบร้อยและดูแลอยา่ งสดุ ความสามารถ - ความเขา้ ใจในตัวเรียนถอื ว่าเป็นส่วนหนึง่ ในการสอนให้นกั เรียนมคี วามพฒั นา ตนเองเสมอ 3) การใช้ประโยชน์ - ตอ้ งพฒั นาตนเองเรียนรสู้ ่ิงตา่ งๆเพอ่ื นำสิง่ เหล่านั้นมาแนะนำและสอนให้กบั นักเรียนได้ 4) ประเด็นทคี่ วรสัมภาษณเ์ พ่ิมเตมิ - ส่ิงทีอ่ ยากให้เกดิ ขนึ้ ในอนาคตสำหรับการศกึ ษา
91 ชือ่ ผ้เู ขียน : นางสาวจิตรานุช สนั เพชร 1) แบบบันทกึ บริบทโรงเรยี น ผังโรงเรยี น นักศกึ ษาสงั เกต ทำความเขา้ ใจบริบทโรงเรยี น และจดบันทึก A1 โรงเรียนวัดอมรนิ ทราราม ที่ตง้ั 566 1 ถ. อรณุ อมรินทร์ แขวงศริ ิราช เขตบางกอกน้อย กรงุ เทพมหานคร 10700 สถานท่ีใกล้เคียง โรงพยาบาลศิรริ าช ปยิ มหาราชการณุ ย์ (SiPH) ชอื่ ผูบ้ รหิ าร ดร.ภารดี ผางสง่า ************************************ จำนวนครู/บุคลากร (คน) 119 จำนวนนกั เรียน (คน) 1,364 จำนวนหอ้ งเรยี น (หอ้ ง) 41 รวม 1,524
92 A1 วาดผงั โรงเรยี น แผนผงั แสดงท่ตี ง้ั โรงเรยี นวัดอมรินทราราม แผนผังแสดงที่ตั้งโรงเรียนวดั อมรินทราราม (ลงชื่อ)............................................................ครู
93 2) แบบสังเกตการปฏบิ ตั ิหนา้ ทคี่ รู A2 แบบสงั เกตการปฏบิ ัติหน้าทค่ี รู คำชี้แจง: การบันทึกจากการสังเกตเป็นข้อมลู สำคัญในการทำความเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ครูและ เป็นโอกาสในการพัฒนาแนวคิดและทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญของนักศึกษา จึงขอให้นักศึกษาได้ บันทกึ ข้อมลู ให้ครอบคลุมประเดน็ ดังน้ี 1) ขอ้ มูลเกยี่ วกบั สภาพและผูบ้ ันทกึ ขอ้ มลู วนั ท.ี่ ...8....เดือน................มิถนุ ายน...................ปี.....2565......เวลา.......14:30น.......ถงึ ...15:30น..... สถานท่ี..........โรงเรียนวัดอมรินทราราม......................................………… เปา้ หมายของการสังเกต (ครชู อ่ื หรอื กลมุ่ สาระชอ่ื หรอื หอ้ งพกั ครู) ...........นายพงษ์วทิ ย…์ .แสงทองสวัสดิ์...........................................………… นามผู้จดบันทึกหรือผสู้ ังเกต.............นางสาวจติ รานุช…สันเพชร............ 2) ขณะท่ีกำลังสงั เกต: การบนั ทกึ ขอ้ มลู จากการสังเกตและการสนทนา (บันทกึ ความคิด) (บนั ทกึ ข้อมลู ) 1) สงั เกตการสอนของครูวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เวลา 14:30 น. ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 (สิง่ ทีส่ ังเกตเห็นหรอื การสนทนาทไ่ี ดย้ ิน) 2) ครูทบทวนความรู้ และตั้งคำถาม ครูได้ทบทวนความรู้เกี่ยวกับบทความใน เกยี่ วกับเนอ้ื หาก่อนเข้าสบู่ ทเรียน 3) ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยและสรุป หนังสือก่อนเข้าสู่บทเรียน แล้วครูก็ตั้งคำถาม เกี่ยวกับเรื่องที่เรียน ให้เด็กตอบคำถามตามความ พร้อมกันในแบบฝกึ หัดทท่ี ำ สมคั รใจ จากนั้นครไู ดใ้ ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หดั เมื่อ นักเรยี นทำเสร็จแล้ว เฉลยและสรปุ ไปพรอ้ มกนั และ
94 เมื่อเวลาใกล้หมดเวลาครูได้ให้นักเรียนกลับไปอ่าน เน้อื หาในหนงั สอื เพอื่ เปน็ การทบทวน (อาจวาดภาพสถานที่หรือบรบิ ทของการสังเกต) เวลา 15:30 น. 3) หลังจากจบกิจกรรมการสงั เกต: การประมวล วิเคราะห์ทำความเข้าใจ และสรุปความร้สู ึกนึก คดิ และการเรียนรู้ทเ่ี กดิ ขึ้นกบั ผสู้ ังเกต (ส่วนนี้ไม่ใช่ขอ้ มูลแต่เปน็ การตีความและการแปลความหมาย ของข้อมลู ตลอดจนการวเิ คราะห์และการเรียนรู้ของผ้สู ังเกต) 1. ความรู้สึกทีเ่ กดิ ข้ึน ครูมีวิธกี ารจดั การทดี่ เี พราะนกั เรยี นทกุ คนเขา้ ใจและเชือ่ ฟงั อาจจะมีบางคน ทย่ี ังไมค่ อ่ ยเข้าใจบ้าง แตค่ รูก็พยายามอธบิ ายใหเ้ ข้าใจงา่ ยขน้ึ 2. สงิ่ ที่ได้เรยี นรู้ ไดร้ ้จู ักเทคนิคในการสอน การอธิบายรายละเอยี ดของเนอื้ หาเพิ่มเตมิ ทำใหน้ ักเรยี น เขา้ ใจและสามารถ การเตรยี มขอ้ มลู ความพร้อมก่อนสอน วธิ รี บั มอื และควบคมุ เดก็ 3. การนำไปใชป้ ระโยชน์ จะนำเอาเทคนคิ ท่ีครสู อนในหอ้ งไปใช้ประโยชน์ อธบิ ายให้นักเรยี นเข้าใจได้ งา่ ยขึน้ และจะนำรปู แบบหรอื วิธีการสอนของครูไปปรับใชก้ บั ตัวเองในอนาคตข้างหน้า 4. ข้อสังเกตหรือคำถามค้างใจท่ีตอ้ งการคำตอบต่อไป ถ้าวันหนึง่ มนี กั เรียนเกดิ เทลาะวิวาทระหว่างใน คาบเรยี น มีวธิ ีการแกไ้ ขปญั หากบั เดก็ ยังไง วธิ กี ารจดั การหรือควบคมุ เด็ก
95 3) แบบสมั ภาษณ์ A3 แบบสัมภาษณ์ ครู วันท.่ี ..20..เดือน......มิถุนายน.........ปี.......2565.........ต้ังแตเ่ วลา...16:30.น....ถึง......17:00.น.......... สถานที่..........โรงเรยี นวัดอมรินทราราม........................................................................................................ ผู้สมั ภาษณ…์ ………นางสาวจิตรานชุ ….สันเพชร………………………………………...………………..…………… ผู้ถูกสมั ภาษณ์.............นายพงษว์ ทิ ย…์ .แสงทองสวสั ดิ์....................................................................... การถามนำ / คำกล่าวนำ สวสั ดีคะ่ คุณครู ดิฉันขอสมั ภาษณ์คุณครเู ก่ยี วกับงานสอนและงานที่นอกเหนอื จากงานสอนสกั 4-5 ข้อหนอ่ ยไดไ้ หมคะ คำถามสมั ภาษณ์ 7) นักเรยี นทด่ี ีในอุดมคตขิ องคุณ เป็นอยา่ งไร ➢ ทกุ คนเปน็ นักเรียนทดี่ ที กุ คน แตอ่ าจจะดีไม่เหมอื นกนั เพราะความสามารถแต่ละคนนั้นไม่ เท่ากนั บางคนไม่เกง่ ทางด้านวชิ าการแต่เกง่ การใช้ชวี ิตหรอื การทำงาน บางคนก็เรียนเก่ง คะแนนดีทุกครั้งที่สอบไม่เคยตก เพราะฉะนั้นอย่าตัดสินว่าคนนี้เก่งคนนัน้ ไม่เก่ง ถึงแม้ นักเรียนจะเรยี นไมเ่ ก่ง แต่ขอใหป้ ระพฤติตนเเปน็ คนดี มสี ติสัมปชญั ญะในการดำเนินชีวติ 8) มวี ธิ ีการจดั การอารมณ์กบั เด็กทพี่ ฤตกิ รรมรุนแรง ➢ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและนักเรียน ใช้ ความเมตตากรุณา รับฟังปัญหาเด็ก เสมอ เมื่อนกั เรยี นทำผดิ มีวิธีตักเตอื น อบรม ไมต่ ำหนิ ดุดา่ ลงโทษทใ่ี ช้ความรุนแรง ชัก จงู ใหอ้ ยากเปลยี่ นแปลงแกไ้ ขตนเองให้ดีขึ้น 9) มเี ทคนิคการสอนอย่างไรใหเ้ ดก็ เขา้ ใจงา่ ยและไม่เครยี ด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151