46 แนวทางการจดั การเรยี นรู้แบบโครงงานเป็นฐาน ชอื่ หน่วย สปั ดาห์ ช่ัวโมง ท่ี ที่ ที่ การเรยี นรู้ สมรรถนะประจำหนว่ ย/เกณฑป์ ฏบิ ัตงิ าน 1๖-17 4๖-51 /รายการสอน 18 52-54 8 การใช้ สมรรถนะ อินเทอร์เน็ต - สืบค้นขอ้ มลู สารสนเทศในงานอาชีพโดยใชอ้ นิ เทอร์เน็ต - สอ่ื สารขอ้ มลู สารสนเทศโดยใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ เกณฑ์ปฏิบัตงิ าน - ขอ้ มูลสารสนเทศในงานอาชีพถูกสบื คน้ ทางอินเทอรเ์ น็ต มี ความถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์ เช่อื ถือได้และสามารถอา้ งอิง แหลง่ ท่ีมาของขอ้ มูลได้ - ข้อมลู สารสนเทศถูกสือ่ สารทางอนิ เทอร์เน็ตอยา่ งถกู ต้อง ตามจริยธรรมและขอ้ กำหนดทเ่ี กี่ยวข้อง สอบปลายภาค
แนวทางการจดั การเรียนร้แู บบโครงงานเป็นฐาน 47 แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๔ วชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ สอนครง้ั ที่ ๔-๖ ชื่อหนว่ ย การใช้โปรแกรมประมวลผลคำในงานอาชพี จำนวน 9 ชัว่ โมง ชอื่ เรื่อง โครงงานจดั ทำเอกสารสงิ่ พมิ พ์ในงานอาชีพด้วยโปรแกรมประมวลผลคำ 1. สาระสำคัญ โปรแกรมประมวลผลคำ เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับการพิมพ์เอกสารใน รูปแบบตา่ ง ๆ อาทิ เอกสารทางด้านการศกึ ษา เอกสารทางธุรกจิ และบัญชี เอกสารทางกฎหมายและ การเมือง เอกสารทางราชการและเอกสารส่ือสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ โดยที่มีความสามารถในการสร้าง แก้ไข เพิ่มเติม คัดลอก จัดรูปแบบเอกสารให้มีความสวยงาม ทั้งรูปภาพ รูปวาด ภาพกราฟิกต่าง ๆ ตรวจสอบคำผิดแบบอัตโนมัติ ลดปริมาณกระดาษประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ตลอดจนการเก็บ บันทึกเอกสารนั้นลงในส่ือบันทกึ ขอ้ มูลต่าง ๆ เพอื่ สามารถเรยี กใช้งานภายหลังได้ 2. สมรรถนะประจำหน่วย ๒.๑ แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลักการและเทคนคิ วิธีการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ ๒.๒ ผลิตเอกสารในงานอาชพี โดยใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป เพือ่ ให้ 1) มคี วามรู้ความเข้าใจในหลักการและ ๒) มีทักษะในการงานใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำเพอื่ ผลติ เอกสารในงานอาชพี ๓) มกี จิ นิสัยในการปฏิบตั ิงานดว้ ยความรับผิดชอบ ละเอยี ดรอบคอบ มีความคิดริเริ่ม สรา้ งสรรค์ โดยยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1) บอกประโยชน์ของโปรแกรมประมวลผลคำได้ 2) เลือกใช้เครื่องมือของโปรแกรมประมวลผลคำได้ 3) ใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคำได้ 4) ออกแบบและวางแผนโครงงานผลิตเอกสารในงานอาชีพด้วยโปรแกรม ประมวลผลคำได้ 5) ผลิตเอกสารในงานอาชพี ตามโครงงานด้วยโปรแกรมประมวลผลคำได้ 6) นอ้ มนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงานได้
48 แนวทางการจดั การเรียนรู้แบบโครงงานเปน็ ฐาน 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 ความรเู้ บือ้ งตน้ เกยี่ วกับโปรแกรมประมวลผลคำ 1) ความหมายของโปรแกรมประมวลผลคำ 2) ความสำคญั ของโปรแกรมประมวลผลคำ 3) ประโยชน์ของโปรแกรมประมวลผลคำ 4) คณุ สมบตั ิของโปรแกรมประมวลผลคำ 5) ประเภทของโปรแกรมประมวลผลคำ 4.2 การใช้งานโปรแกรม Microsoft Word 1) การเขา้ สู่โปรแกรม Microsoft Word 2) ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Word 3) การสรา้ งเอกสาร 4) การบันทกึ เอกสาร 5) การเปดิ เอกสาร 6) การปดิ เอกสาร 7) การออกจากโปรแกรม Microsoft Word 4.3 การจดั รปู แบบข้อความ 1) การจัดรปู แบบอกั ษร 2) การจัดตำแหนง่ ขอ้ ความ 3) การกำหนดระยะแทบ็ 4) การกำหนดการเยอ้ื งและระยะห่างข้อความ 5) การกำหนดสัญลกั ษณ์หวั ข้อยอ่ ยและลำดบั เลข 6) การกำหนดตวั อกั ษรขนึ้ ต้นขนาดใหญ่ 4.4 การจัดรูปแบบเอกสาร 1) การตัง้ ค่าหน้ากระดาษ 2) การกำหนดเส้นขอบเอกสาร 3) การสรา้ งเอกสารแบบคอลัมน์ 4) การแทรกเลขหนา้ 5) การกำหนดหวั กระดาษและทา้ ยกระดาษ 4.5 การแทรกและดำเนินการกับวตั ถุ 1) การแทรกรปู ภาพ 2) การแทรกรปู ร่าง 3) การแทรกอกั ษรศลิ ป์ 4) การแทรกกล่องขอ้ ความ
แนวทางการจัดการเรียนรแู้ บบโครงงานเป็นฐาน 49 5) การแทรกสญั ลักษณ์ 6) การแทรกสมการและสูตรทางคณติ ศาสตร์ 7) การดำเนินการกบั วัตถุ 4.6 จดหมายเวยี น 1) การสร้างจดหมายเวียน 2) การสร้างปา้ ยผนกึ 3) การสร้างซองจดหมาย 4) การพิมพจ์ ดหมายเวียนทางเครือ่ งพิมพ์ 4.7 การพิมพ์เอกสารทางเครอื่ งพิมพ์ 1) การดตู วั อยา่ งก่อนพมิ พ์ 2) การส่งั พมิ พเ์ อกสาร 3) การยกเลิกคำสั่งพิมพ์ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ สปั ดาหท์ ี่ 4 การจดั กิจกรรมการเรียนรโู้ ดยเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั โปรแกรมประมวลผลคำ โดยใช้รปู แบบ MIAP ดงั นี้ ข้นั นำเข้าสู่บทเรียน (M) 1) ครูผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมอภิปรายเกี่ยวกับงานเอกสารต่าง ๆ เช่น รูปแบบของเอกสาร ที่มีมาในอดตี จนถึงปจั จบุ ัน กบั การเปลีย่ นแปลงไปตามเทคโนโลยี 2) ครูผู้สอนสรุปนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตเอกสารในอดีตจนถึงปัจจุบัน และ ชีใ้ ห้เหน็ ถงึ ประโยชนข์ องโปรแกรมประมวลผลคำ ขน้ั สอน (I) 1) ครผู ู้สอนแจกใบความรู้ ที่ 4.1 เรอื่ งโปรแกรมประมวลผลคำ พร้อมอธิบายหวั ข้อความรู้ เบ้อื งตน้ เกยี่ วกบั โปรแกรมประมวลผลคำ และส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Word 2) ครูผู้สอนสาธิตและให้ผู้เรียนปฏิบัติตามเกี่ยวกับการเข้าสู่โปรแกรม Microsoft Word การสร้างเอกสาร การบันทึกเอกสาร การเปิดเอกสาร การปิดเอกสาร และการออกจากโปรแกรม Microsoft Word 3) ครูผู้สอนและผู้เรียนร่วมกนั สรุปเนื้อหาความรู้เบือ้ งตน้ เกีย่ วกบั โปรแกรมประมวลผลคำ และการใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word เบอ้ื งต้น 4) ครผู สู้ อนแจกใบความรู้ท่ี 4.2 เรอ่ื งการใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word และ ใบงาน ที่ 4.1 เรือ่ งการจัดพิมพ์เอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word
50 แนวทางการจดั การเรยี นรู้แบบโครงงานเปน็ ฐาน ขนั้ ประยกุ ต์ (A) 1) ผู้เรียนทุกคนศึกษาใบความรู้ที่ 4.2 เรื่องการใช้งานโปรแกรม Microsoft Word และ ปฏิบัติงานตามใบงานท่ี 4.1 เรื่องการจดั พิมพ์เอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2) ครูผสู้ อนให้คำแนะนำ สาธติ และสังเกตการปฏิบัติงานของผู้เรยี นทุกคน เพื่อให้เกิดการ พฒั นาผู้เรียนเปน็ รายบุคคล ขั้นสำเรจ็ ผล (P) 1) ครูผู้สอนประเมินผลงานจากการปฏิบัติงานของผู้เรียนรายบุคคล และสรุปแจ้งผลการ ประเมินให้ผู้เรยี นทราบ 2) ผู้เรียนและครูผู้สอนรว่ มกบั สรุปผลการเรยี นรู้ท่ไี ดร้ ับ สัปดาหท์ ่ี 5 การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้โู ดยใชโ้ ครงงานเปน็ ฐาน (ขนั้ ตอนท่ี 1–3) ดงั นี้ ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน (M) 1) ครูผู้สอนทบทวนการใชง้ านและการจดั พิมพ์เอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2) ครูผู้สอนใหผ้ ู้เรียนร่วมอภิปรายประโยชนข์ องการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word ขน้ั สอน (I) 1) ครูผู้สอนเตรียมความพร้อมผู้เรียนในการจัดทำโครงงาน โดยอธิบายถึงงานจริงในโลก ปจั จุบนั ท่ีใช้โปรแกรม Microsoft Word พร้อมทั้งสนับสนนุ ขอ้ มลู แหลง่ เรยี นร/ู้ ค้นคว้า ตัวอย่างงาน ประเภทต่าง ๆ 2) ครูผู้สอนแจกใบความรู้ที่ 4.3 การเขียนเค้าโครงของโครงงาน พร้อมอธิบายการเขียน เค้าโครงของโครงงาน 3) ครูผู้สอนนำเสนอแนวคิดการสร้างงานด้วยโปรแกรม Microsoft Word ในงานอาชีพ พร้อมทง้ั แจกใบมอบหมายงานท่ี 4.1 การทำโครงงานผลิตเอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word ขั้นประยกุ ต์ (A) 1) ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 3 คน ศึกษาความรู้ด้วยตนเอง จากการค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเปน็ ขอ้ มูลในการกำหนดหวั ข้อหรือปัญหาในการจัดทำโครงงาน 2) ผู้เรยี นแตล่ ะกลุ่มคดั เลือกหัวข้อจากท่ีกำหนดไว้ เพ่ือจดั ทำโครงงานเพยี งหัวข้อเดียวโดย ใช้กระบวนการกลมุ่ 3) ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำหัวข้อที่คัดเลือกไว้มาเขียนเค้าโครงของโครงงานตามแบบฟอร์ม ที่กำหนด 4) ครูผสู้ อนให้คำแนะนำ ชแ้ี นะและสังเกตการปฏบิ ัตงิ านของผู้เรียนทกุ กล่มุ อยา่ งใกลช้ ดิ
แนวทางการจดั การเรียนรู้แบบโครงงานเปน็ ฐาน 51 ขั้นสำเรจ็ ผล (P) 1) ผู้เรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอโครงงานของกล่มุ หน้าช้ันเรยี น เพอ่ื นในห้องรว่ มซกั ถามและ อภิปราย 2) ครผู สู้ อนร่วมอภปิ ราย ใหข้ ้อเสนอแนะ และประเมนิ ผลงานโครงงานของกลมุ่ สปั ดาห์ท่ี 6 การจัดกิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใชโ้ ครงงานเปน็ ฐาน (ข้ันตอนท่ี 4-6) ดงั นี้ ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรยี น (M) 1) ครผู ้สู อนถามตอบกบั ผู้เรยี นเพ่อื ทบทวนการเขยี นเค้าโครงของโครงงาน ขน้ั สอน (I) 1) ครูผู้สอนแจกใบความรู้ที่ 4.4 เรื่องเทคนิคการปฏิบัติงาน และการประเมินโครงงาน พรอ้ มอธิบายเพมิ่ เตมิ แก่ผเู้ รยี น 2) ครูผู้สอนแจกใบความรู้ที่ 4.5 เรื่องการเขยี นรายงานโครงงาน และการนำเสนอผลงาน พรอ้ มอธบิ ายเพ่มิ เติมแกผ่ ู้เรยี น ขน้ั ประยกุ ต์ (A) 1) ผู้เรยี นแตล่ ะกลุ่มวางแผนการปฏิบตั งิ านตามโครงงานและการประเมินโครงงาน 2) ครผู ูส้ อนให้คำแนะนำ ชแี้ นะและสงั เกตการปฏิบตั งิ านของผู้เรยี นทกุ กล่มุ อย่างใกลช้ ดิ ข้นั สำเรจ็ ผล (P) 1) ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอแผนการปฏิบัติงานตามโครงงาน และการประเมินโครงงาน เพ่ือนในหอ้ งร่วมซักถามและอภิปราย 2) ครูผู้สอนให้ข้อเสนอแนะ ประเมินผลงาน และนัดหมายแต่ละกลุ่มปฏิบัติงานตาม โครงงาน จัดทำสรุป ประเมินผล และรูปเล่มรายงานโครงงาน แล้วนำเสนอในสัปดาห์ที่ 12 ร่วมกับ หนว่ ยท่ี 6 การใชโ้ ปรแกรมการนำเสนอผลงานในงานอาชีพ 6. ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ 6.1 ใบความรู้ท่ี 4.1 เรอ่ื ง โปรแกรมประมวลผลคำ 6.2 ใบความร้ทู ี่ 4.2 เรอ่ื ง การใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word 6.3 ใบความรู้ที่ 4.3 เรอื่ ง การเขยี นเค้าโครงของโครงงาน 6.4 ใบความรทู้ ่ี 4.4 เรื่อง เทคนิคการปฏบิ ัตงิ าน และการประเมินโครงงาน 6.5 ใบความรู้ที่ 4.5 เรอ่ื ง การเขยี นรายงานโครงงาน และการนำเสนอผลงาน 6.6 ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การจดั พมิ พ์เอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word 6.7 ใบมอบหมายงานที่ 4.1 เร่ือง โครงงานผลติ เอกสารในงานอาชพี ด้วยโปรแกรม Microsoft Word
52 แนวทางการจดั การเรยี นรูแ้ บบโครงงานเป็นฐาน 7. หลักฐานการเรียนรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1) แบบสงั เกตการปฏบิ ตั งิ าน ตามใบงานที่ 4.1 2) แบบสังเกตการปฏบิ ัติงาน ตามใบมอบหมายงานที่ 4.1 7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั งิ าน 1) แบบประเมนิ ผลงานจากการปฏบิ ัตงิ าน ตามใบงานที่ 4.1 2) แบบประเมนิ โครงงาน ตามใบมอบหมายงานที่ 4.1 8. การวัดและประเมนิ ผล สมรรถนะประจำหน่วย/ จุดประสงค์ วิธกี ารวัด เคร่อื งมือ ผปู้ ระเมนิ เกณฑ์ปฏิบัตงิ าน เชิงพฤตกิ รรม สมรรถนะ 1. บอกประโยชนข์ อง 1. การทดสอบ 1. แบบทดสอบแบบ ครูผู้สอน - แสดงความรู้เกี่ยวกับ โปรแกรมประมวล เติมคำ หลกั การและเทคนิค ผลคำได้ 2. การสมั ภาษณ์ 2. แบบสัมภาษณ์ ครูผู้สอน วิธกี ารใชโ้ ปรแกรม อยา่ งมีโครงสร้าง ประมวลผลคำ 3. การสะทอ้ นคิด 3. แบบสะทอ้ นคิด ครูผู้สอน - ผลิตเอกสารในงาน 2. เลอื กใช้เครือ่ งมอื ของ 1. การทดสอบ 1. แบบทดสอบ ครูผสู้ อน โปรแกรมประมวลผลคำ 2. การสมั ภาษณ์ แบบเตมิ คำ ครูผู้สอน อาชพี ดว้ ยโปรแกรม ประมวลผลคำ ได้ 3. การสะทอ้ นคดิ 2. แบบสมั ภาษณ์ ครูผสู้ อน อยา่ งมี เกณฑ์ปฏบิ ัตงิ าน โครงสร้าง - หวั ขอ้ เรอื่ งเอกสารงาน 3. แบบสะทอ้ นคิด อาชีพท่จี ะจัดทำโครงงาน ถูกกำหนดชัดเจนและมี แหลง่ ขอ้ มลู สนับสนุนที่ 3. ใชง้ านโปรแกรม 1. สังเกตการ 1. แบบสังเกตพัฒนา ครูผู้สอน เชอื่ ถอื ได้ ประมวลผลคำได้ ปฏบิ ัติงาน การเรยี นรู้จากการ ผู้เรยี น - โครงงานจดั ทำเอกสาร ปฏิบัตงิ าน ในงานอาชพี ถูกออกแบบ 2. ประเมนิ ผลงาน 2.แบบประเมินผล ครูผสู้ อน และวางแผนอย่างถูกต้อง จากการปฏิบตั ิ งาน และเกณฑ์ ชัดเจนในแตล่ ะขนั้ ตอน งาน การให้คะแนน รูปแบบการเขียน 4. ออกแบบและวางแผน 1. สงั เกตการ 1. แบบสงั เกต ครูผสู้ อน ครบถว้ นสมบรู ณต์ ามที่ โครงงานผลิตเอกสาร ปฏิบัติงาน ผเู้ รียน กำหนดและสามารถ ในงานอาชีพดว้ ย 2. แบบประเมิน นำไปปฏบิ ัติได้ 2. ประเมนิ แบบมาตราสว่ น ครูผสู้ อน โปรแกรมประมวล เค้าโครงของ ประมาณค่า ผลคำได้ โครงงาน
แนวทางการจัดการเรียนร้แู บบโครงงานเปน็ ฐาน 53 สมรรถนะประจำหนว่ ย/ จดุ ประสงค์ วิธกี ารวดั เครอ่ื งมอื ผู้ประเมนิ เกณฑป์ ฏบิ ตั ิงาน เชงิ พฤตกิ รรม ครูผู้สอน - จัดทำเอกสารในงาน 5. ผลิตเอกสารในงาน 1. ประเมนิ 1. แบบสงั เกต ผเู้ รยี น ครูผู้สอน อาชีพตามแผนงานโดยใช้ อาชีพตามโครงงาน ความก้าวหน้า ครูผสู้ อน โปรแกรมประมวลผลคำ ด้วยโปรแกรมประมวล โครงงาน และยึดหลกั ปรชั ญาของ ผลคำได้ ครูผสู้ อน 2. ประเมินผลการ 2. แบบประเมิน ผู้เรยี น เศรษฐกจิ พอเพียงในการ ปฏบิ ัตงิ าน แบบมาตราส่วน ปฏบิ ตั งิ าน ประมาณค่า - เอกสารในงานอาชีพ 3. ประเมินผลงาน 3. แบบประเมนิ ถูกผลิตด้วยโปรแกรม โครงงาน แบบมาตราส่วน ประมวลผลคำอย่าง ประมาณค่า ถูกตอ้ ง สวยงามและมี 6. นอ้ มนำหลกั ปรชั ญาของ 1. สงั เกตพฤตกิ รรม 1. แบบสงั เกต ความคดิ ริเร่มิ สร้างสรรค์ เศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ การปฏิบตั ิงาน ในการปฏบิ ัติงานได้ 9. เอกสารอา้ งองิ ๙.๑ ครรชติ มาลยั วงศ์ และโกสันต์ เทพสิทธทิ รากรณ์. (2542). ความรพู้ ื้นฐานทาง คอมพิวเตอร์. กรงุ เทพฯ : ชวนพมิ พ์. ๙.๒ ธงชยั สิทธกิ รณ์. (2547). ระบบคอมพวิ เตอรเ์ บ้ืองต้น. นนทบุร:ี ไอดซี ี 9. ๙.๓ เสาวคนธ์ คงสขุ . (2545). คอมพวิ เตอร์เพอื่ งานอาชพี . กรุงเทพฯ: เอมพนั ธ์.
54 แนวทางการจดั การเรยี นรู้แบบโครงงานเปน็ ฐาน ใบงานที่ ๔.๑ หน่วยที่ ๔ วิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ สอนครัง้ ที่ ๔-๖ ชอื่ หนว่ ย การใช้โปรแกรมประมวลผลคำในงานอาชีพ จำนวน 9 ชัว่ โมง ชือ่ เร่อื ง การจัดพมิ พเ์ อกสารดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word จำนวน 9 ช่วั โมง จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เพ่ือให้ 1. ใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word ได้ 2. จดั รปู แบบขอ้ ความได้ 3. จดั รปู แบบเอกสารได้ 4. แทรกและดำเนนิ การกับวตั ถุได้ 5. พมิ พ์จดหมายเวียนได้ 6. พมิ พเ์ อกสารทางเครื่องพมิ พ์ได้ 7. น้อมนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในการปฏบิ ตั ิงานได้ สมรรถนะรายหนว่ ย 1. ใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word ตามหลักการและกระบวนการ 2. จดั พมิ พ์เอกสารดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word ตามรูปแบบท่ีกำหนด เครือ่ งมือ วสั ดุ-อุปกรณ์ 1. เครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมเคร่ืองพิมพ์ 2. โปรแกรมประมวลผลคำ Microsoft Word ลำดับข้ันตอนการปฏบิ ตั ิงาน ๑. เปิดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ รอจนเคร่ือง Boot up เสรจ็ พรอ้ มใชง้ าน ๒. ดบั เบ้ลิ คลกิ ท่ี ไอคอน ของโปรแกรม Microsoft Word ๓. คลกิ มุมกระดาษดา้ นบนซา้ ย เลอื กคลิก “สร้าง” เพอ่ื สร้างเอกสารใหม่ ๔. คลิก “โครงหน้ากระดาษ” ที่แถบเมนู เลือก “ระยะขอบ” เลือก “ระยะขอบแบบ กำหนดเอง” ๕. ที่หน้าต่าง “ตั้งค่าหน้ากระดาษ” เลือกแถบ “กระดาษ” แล้วตั้งค่าขนาดกระดาษแบบ A4 ๖. ทีห่ น้าตา่ ง “ต้ังค่าหนา้ กระดาษ” เลอื กแถบ “ระยะขอบ” จากนัน้ ตงั้ ระยะขอบกระดาษ ได้แก่ ด้านบน = 2.5 ซม. ด้านล่าง = 2 ซม. ด้านซ้าย = 2.5 ซม. และด้านขวา = 2 ซม. แล้วคลิก “ตกลง” ๗. คลิกเมาส์ให้เคอเซอร์อยู่บรรทัดแรก จากนั้น เลื่อนเมาส์ไปที่แถบเครื่องมือ “ย่อหน้า” คลิกทีเ่ คร่ืองมือ “จัดแนวข้อความชดิ ขวา” ( ) หรือ กด “ctrl + R”
แนวทางการจดั การเรียนร้แู บบโครงงานเป็นฐาน 55 ๘. ให้พิมพ์ชื่อและนามสกุลของนักเรียนเป็นภาษาไทย แล้ว กด “enter” จากนั้นพิมพ์ช่อื และนามสกลุ ของนักเรยี นเปน็ ภาษาองั กฤษ แลว้ กด “enter” ๙. เลื่อนเมาส์ไปที่แถบเครื่องมือ “ย่อหน้า” คลิกที่เครื่องมือ “กึ่งกลาง” ( ) หรือ กด “ctrl + E” แล้วเลอื กตวั อกั ษร Browallia New ขนาด 20 pt แบบหนา ( และ ) แล้วพิมพ์คำว่า “ประวัติย่อ” แล้ว กด “enter” ๑๐. เลื่อนเมาส์ไปที่แถบเครื่องมอื “ย่อหน้า” คลิกที่เครื่องมอื “จัดแนวข้อความชิดขวา” หรือ กด “ctrl + L” แล้วเลือก AngsanaNew ขนาด 18 pt แบบหนา แล้วพิมพ์ คำวา่ “ประวัตกิ ารศกึ ษา” แลว้ กด “enter” ------- (ยังไมจ่ บ ทำเปน็ ตัวอยา่ ง) -------- การประเมนิ ผล เอกสารอ้างอิง แบบสงั เกตการปฏิบตั งิ าน หน่วยท่ี ๔ วิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี สอนครง้ั ท่ี ๔-๖
56 แนวทางการจดั การเรียนรู้แบบโครงงานเปน็ ฐาน ช่ือหนว่ ย การใช้โปรแกรมประมวลผลคำในงานอาชีพ จำนวน 9 ช่วั โมง ช่อื เรื่อง การจัดพมิ พ์เอกสารดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word วนั ท่ี ............ เดอื น ............................... พ.ศ. ............... เวลา .................. น. ถึง เวลา ................ น. ช่อื –นามสกลุ ................................................. กลมุ่ .................. ชน้ั ............... แผนก ........................ ขอ้ ที่ รายการประเมิน/หวั ข้อประเมนิ ระดบั คะแนน 54321 1 การใช้งานโปรแกรม Microsoft Word 2 การจดั รูปแบบเอกสาร 3 การจดั หวั กระดาษและท้ายกระดาษ 4 การจดั รูปแบบขอ้ ความ 5 การแทรกภาพประกอบ 6 การแทรกวตั ถุอ่ืน 7 การส่งจดหมาย 8 การพิมพเ์ อกสารทางเครื่องพิมพ์ รวม รวมท้งั หมด (.............................................................) ผ้ปู ระเมนิ หมายเหตุ แบบสังเกตการปฏบิ ตั ิงานนส้ี ามารถใชเ้ ป็นแบบตรวจผลงานได้ โดยตดั รายการที่ 1 และ 8 ออก เกณฑก์ ารตัดสินการประเมิน
แนวทางการจัดการเรยี นร้แู บบโครงงานเป็นฐาน 57 รายการประเมนิ หัวข้อประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1. การใช้งาน 1. การเข้าสโู่ ปรแกรม 5 = ปฏบิ ตั ริ ายการที่ 1, 2, 3, 4 และ 2. การสร้างเอกสาร โปรแกรม 3. การบนั ทึกเอกสาร 5 ได้ Microsoft 4. การเปดิ เอกสาร 4 = ปฏบิ ตั ริ ายการที่ 1, 2, 3 และ 4 ได้ Word 5. การปดิ เอกสาร 3 = ปฏบิ ตั ริ ายการที่ 1, 2 และ 3 ได้ 2. การจัดรูปแบบ 1. การกำหนดขนาดกระดาษ เอกสาร 2. การวางแนวกระดาษ 2 = ปฏิบัตริ ายการท่ี 1 และ 2 ได้ 3. การกำหนดระยะขอบ 3. การจัด 4. การกำหนดเค้าโครง 1 = ปฏิบตั ริ ายการที่ 1 ได้ หัวกระดาษและ 5. การกำหนดคอลมั น์ 5 = ปฏบิ ตั ไิ ด้ 5 รายการ ท้ายกระดาษ 4 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 4 รายการ 1. การจดั หัวกระดาษ 3 = ปฏิบัตไิ ด้ 3 รายการ 4. การจดั รปู แบบ 2. การจดั ทา้ ยกระดาษ 2 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 รายการ ข้อความ 3. การแก้ไขหวั และทา้ ยกระดาษ 1 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 1 รายการ 4. การแทรกหมายเลขหนา้ 5 = ปฏิบตั ไิ ด้ 5 รายการ 5. การแทรก 5. การจัดรูปแบบหมายเลขหน้า 4 = ปฏบิ ตั ไิ ด้ 4 รายการ ภาพประกอบ 3 = ปฏิบตั ไิ ด้ 3 รายการ 1. การกำหนดรปู แบบตัวอกั ษร 2 = ปฏบิ ตั ไิ ด้ 2 รายการ 2. การจดั ตำแหน่งขอ้ ความ 1 = ปฏบิ ตั ไิ ด้ 1 รายการ 3. การกำหนดระยะแทบ็ 5 = ปฏบิ ตั ไิ ด้ 5 รายการ 4. การกำหนดการเย้ืองและระยะห่าง 4 = ปฏิบัตไิ ด้ 4 รายการ 5. การกำหนดสญั ลักษณ์หัวขอ้ 3 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 3 รายการ 2 = ปฏิบตั ไิ ด้ 2 รายการ 1. การแทรกรปู ภาพ 1 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 1 รายการ 2. การแทรกภาพตดั ปะ 5 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 5 รายการ 3. การแทรกรปู รา่ ง 4 = ปฏิบตั ไิ ด้ 4 รายการ 4. การแทรกแผนภูมิ 3 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 3 รายการ 5. การแทรก SmartArt 2 = ปฏิบัตไิ ด้ 2 รายการ 1 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 1 รายการ 1. การแทรกตาราง 5 = ปฏิบัตไิ ด้ 5 รายการ
58 แนวทางการจดั การเรยี นร้แู บบโครงงานเปน็ ฐาน รายการประเมนิ หวั ข้อประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 = ปฏิบตั ไิ ด้ 4 รายการ 6. การแทรกวัตถุ 2. การแทรกกล่องข้อความ 3 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 3 รายการ อ่ืน 3. การแทรกสญั ลักษณ์ 2 = ปฏิบตั ไิ ด้ 2 รายการ 4. การแทรกข้อความศลิ ป์ 1 = ปฏิบัติได้ 1 รายการ 5. การแทรกสมการ 5 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 5 รายการ 4 = ปฏิบัติได้ 4 รายการ 7. การสง่ จดหมาย 1. การสร้างจดหมายเวยี น 3 = ปฏิบัติได้ 3 รายการ 2. การสรา้ งป้ายผนกึ 2 = ปฏบิ ตั ิได้ 2 รายการ 3. การสรา้ งซองจดหมาย 1 = ปฏบิ ัติได้ 1 รายการ 4. การพิมพจ์ ดหมายเวียนทาง 5 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 5 รายการ 4 = ปฏิบตั ไิ ด้ 4 รายการ เครื่องพิมพ์ 3 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 3 รายการ 5. การเลือกผู้รับ 2 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 รายการ 1 = ปฏบิ ัติได้ 1 รายการ 8. การพมิ พ์เอกสาร 1. การดตู วั อยา่ งก่อนพมิ พ์ ทางเครอ่ื งพิมพ์ 2. การเลือกเครอื่ งพิมพ์ 3. การกำหนดรปู แบบการพมิ พ์ 4. การสง่ั พิมพเ์ อกสาร 5. การยกเลิกคำสั่งพมิ พ์
แนวทางการจดั การเรยี นรู้แบบโครงงานเป็นฐาน 59 ใบมอบหมายงาน ที่ ๔.๑ หนว่ ยที่ ๔ วชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ สอนครง้ั ท่ี ๔-๖ ชอื่ หน่วย การใช้โปรแกรมประมวลผลคำในงานอาชพี จำนวน 9 ช่วั โมง ชอ่ื เรอ่ื ง โครงงานผลิตเอกสารในงานอาชพี ด้วยโปรแกรม Microsoft Word จุดประสงค์การมอบหมายงาน เพ่ือให้ 1. กำหนดหวั ขอ้ โครงงานผลติ เอกสารในงานอาชีพได้ ๒. ออกแบบและวางแผนโครงงานผลติ เอกสารในงานอาชพี ได้ ๓. เขยี นโครงงานผลิตเอกสารในงานอาชีพได้ ๔. ผลติ เอกสารในงานอาชพี ด้วยโปรแกรม Microsoft Word ได้ ๕. นอ้ มนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการปฏบิ ัติงานได้ แนวทางการปฏิบัติงาน สปั ดาหท์ ี่ ๕ 1. ผู้เรียนแต่ละกลมุ่ ๆ ละ ๓ คน ศกึ ษาคน้ คว้าขอ้ มูลงานอาชีพจากแหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ 2. สมาชิกกลุ่มแต่ละคนเสนอหัวข้อเรื่องในการทำโครงงานผลิตเอกสารในงานอาชีพ อย่าง น้อยคนละ 2 เรื่อง แล้วใช้กระบวนการกลุ่มในการคัดเลอื กเรื่องที่สนใจเพียงเรื่องเดียว สำหรบั กำหนดเป็นหัวข้อโครงงาน 3. แต่ละกลุ่มนำหัวข้อที่เลือกมาเขียนเค้าโครงของโครงงานตามแบบฟอร์มที่กำหนด ให้ แลว้ ส่งตวั แทนนำเสนอหน้าชน้ั เรยี น สปั ดาห์ท่ี 6 4. ผ้เู รยี นแต่ละกล่มุ จดั ทำแผนการปฏิบตั ิงานตามโครงงาน และการประเมนิ ผลโครงงาน ของกลุ่ม แล้วสง่ ตวั แทนนำเสนอหน้าชน้ั เรยี น สปั ดาหท์ ี่ ๗-๑๑ 5. ผเู้ รียนแตล่ ะกลมุ่ ปฏบิ ตั ิงานผลติ เอกสารในงานอาชีพดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 6. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มสรุป ประเมินผล และจัดทำรูปเล่มรายงานโครงงาน โดยปฏิบัติงาน นอกเวลาเรียน สปั ดาหท์ ี่ ๑๒ 7. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน โดยจัดทำเล่มรายงานโครงงาน และนำเสนอด้วย โปรแกรมการนำเสนอ (PowerPoint) โดยบรู ณาการรว่ มกับหน่วยที่ 6 การใช้โปรแกรม การนำเสนอผลงานในงานอาชีพ
60 แนวทางการจดั การเรยี นร้แู บบโครงงานเปน็ ฐาน แหลง่ คน้ ควา้ ๑. ข้อมูลจากแหลง่ อาชีพในชุมชน ภมู ิปญั ญาชาวบ้าน ๒. ขอ้ มลู งานอาชีพในประเทศหรือตา่ งประเทศจากเอกสารเผยแพร่แนะนำ ๓. www.supremecourt.or.th/file/Techno/.../word_1.pdf ๔. www.rta.mi.th/14700u/.../Microsoft%20Word%20c1... ๕. https://www.microsoft.com/th-th/.../office.aspx ๖. https://www.microsoft.com/th-th/.../details.aspx?id คำถาม/ปญั หา ๑. ผเู้ รียนใช้เคร่ืองมือของโปรแกรม Microsoft Office อะไรบา้ งในการผลิตเอกสาร ๒. ส่ิงที่ผ้เู รยี นตอ้ งคำนึงถึงในการผลิตเอกสารในงานอาชีพมีอะไรบา้ ง ๓. ผเู้ รียนจะประยุกต์ใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word ในงานอาชพี ไดอ้ ย่างไรบ้าง ๔. ผู้เรยี นไดน้ อ้ มนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการปฏิบตั ิงานอยา่ งไรบา้ ง กำหนดเวลาสง่ งาน ส่งงานสปั ดาห์ท่ี 1๒ ดังน้ี 3. นำเสนอผลงานโครงงานดว้ ยโปรแกรมนำเสนอ 4. จดั ทำเล่มรายงานโครงงาน กลมุ่ ละ 1 เลม่ การประเมินผล 1. สงั เกตการปฏบิ ตั งิ าน 2. ประเมนิ หวั ขอ้ การออกแบบและวางแผนเค้าโครงของโครงงานและการเขยี นโครงงาน ๔. ประเมินความกา้ วหนา้ โครงงาน ๕. ประเมินผลการปฏิบตั งิ านจากชน้ิ งานเอกสารงานอาชีพ ๖. ประเมนิ ผลรายงานโครงงาน เอกสารอ้างอิง ๑. ครรชติ มาลยั วงศ์ และโกสันต์ เทพสทิ ธิทรากรณ.์ (2542). ความรพู้ ื้นฐานทาง คอมพิวเตอร์. กรงุ เทพฯ : ชวนพิมพ์. ๒. ธงชัย สิทธิกรณ์. (2547). ระบบคอมพิวเตอรเ์ บื้องตน้ . นนทบุรี: ไอดซี ี 9. ๓. เสาวคนธ์ คงสุข. (2545). คอมพวิ เตอรเ์ พอื่ งานอาชีพ. กรงุ เทพฯ: เอมพันธ์.
แนวทางการจดั การเรียนรู้แบบโครงงานเปน็ ฐาน 61 แบบสังเกตการปฏบิ ตั ิงาน หนว่ ยที่ ๔ วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ สอนครงั้ ท่ี ๔-๖ ช่อื หนว่ ย การใช้โปรแกรมประมวลผลคำในงานอาชีพ จำนวน 9 ชัว่ โมง ช่อื เรือ่ ง โครงงานผลติ เอกสารในงานอาชพี ดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word วนั ท่ี ............ เดอื น ............................... พ.ศ. ............... เวลา .................. น. ถงึ เวลา ................ น. ช่อื –นามสกลุ ................................................. กลุม่ .................. ช้นั ............... แผนก ........................ ข้อที่ รายการประเมิน/หวั ขอ้ ประเมนิ ระดับคะแนน 54321 1 การเตรียมความพรอ้ ม 2 การกำหนดและคดั เลอื กหัวข้อ 3 การเขียนเค้าโครงของโครงงาน 4 การวางแผนการปฏิบัติงาน 5 ความกา้ วหนา้ ของโครงงาน 6 การประเมนิ โครงงาน 7 การจดั ทำรายงานโครงงาน 8 การนำเสนอผลงาน รวม รวมทงั้ หมด (.............................................................) ผู้ประเมนิ หมายเหตุ แบบสงั เกตการปฏบิ ตั งิ านนส้ี ามารถใช้เป็นแบบตรวจผลงานได้ โดยตัดรายการที่ 1 และ 8 ออก
62 แนวทางการจัดการเรียนรแู้ บบโครงงานเปน็ ฐาน เกณฑ์การตดั สินการประเมนิ รายการประเมิน หวั ขอ้ ประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1. การเตรยี ม 1. มกี ารเตรียมอุปกรณส์ ืบคน้ ขอ้ มูล 5 = ปฏิบัตไิ ด้ 5 รายการ 2. มีการกำหนดข้อมลู ท่จี ะค้นหา 4 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 4 รายการ ความพรอ้ ม 3. มกี ารเตรยี มแหล่งข้อมูลสารสนเทศ 3 = ปฏิบัตไิ ด้ 3 รายการ 2 = ปฏบิ ตั ไิ ด้ 2 รายการ 2. การกำหนดและ ทจี่ ะค้นหา 1 = ปฏิบตั ไิ ด้ 1 รายการ คดั เลือกหัวขอ้ 4. มีการวางแผนการสืบคน้ ข้อมลู 5. มีการแบ่งหนา้ ที่ในกลมุ่ เพอ่ื สบื ค้น 5 = ปฏบิ ตั ไิ ด้ 5 รายการ 3. การเขยี น เคา้ โครงของ 1. มีการกำหนดปญั หาหรือเรื่องทจี่ ะทำ 4 = ปฏิบัตไิ ด้ 4 รายการ โครงงาน โครงงานตามเกณฑ์ท่ีกำหนด 3 = ปฏิบตั ไิ ด้ 3 รายการ 4. การวางแผนการ 2. ในกลุ่มมีการบนั ทึกปัญหาหรือเรื่อง ปฏบิ ตั ิงาน ท่กี ำหนดท้ังหมด 2 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 รายการ 3. มกี ารวิพากษ์ปญั หาหรือเรื่องทกุ เรื่อง 1 = ปฏิบัตไิ ด้ 1 รายการ 4. ใชก้ ระบวนการกล่มุ เพื่อคดั เลอื ก 5 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 5 รายการ หวั ขอ้ 4 = ปฏิบตั ไิ ด้ 4 รายการ 5. ไดห้ วั ขอ้ เหมาะสมกับการทำโครงงาน 3 = ปฏิบตั ไิ ด้ 3 รายการ 2 = ปฏิบตั ไิ ด้ 2 รายการ 1. รว่ มกันเขยี นเค้าโครงของโครงงาน 1 = ปฏิบตั ไิ ด้ 1 รายการ 2. หลักการและเหตผุ ลเหมาะสม 5 = ปฏบิ ตั ริ ายการที่ 1, 2, 3, 4 3. วัตถปุ ระสงค์เหมาะสมกบั โครงงาน 4. เป็นโครงงานท่มี ีความคิดสร้างสรรค์ และ 5 ได้ 5. โครงงานมอี งคป์ ระกอบครบถว้ น 4 = ปฏบิ ตั ริ ายการที่ 1, 2, 3 และ 4 1. มีการวางแผนปฏบิ ตั ิงานโครงงาน ได้ 2. สมาชิกทุกคนรว่ มวางแผนปฏบิ ัตงิ าน 3. แผนปฏิบัตงิ านมรี ะยะเวลาเหมาะสม 3 = ปฏิบตั ริ ายการที่ 1, 2 และ 3 ได้ 4. แผนปฏบิ ัตงิ านสามารถปฏิบตั ิได้จริง 5. แผนปฏบิ ตั ิงานสอดคลอ้ งกบั โครงงาน 2 = ปฏิบตั ริ ายการที่ 1 และ 2 ได้ 1 = ปฏบิ ัตริ ายการที่ 1 ได้
แนวทางการจดั การเรียนรแู้ บบโครงงานเปน็ ฐาน 63 รายการประเมนิ หัวข้อประเมิน เกณฑ์การใหค้ ะแนน 5. ความก้าวหน้า 5 = ปฏิบัตไิ ด้ 5 รายการ 1. มีการรายงานความกา้ วหน้าของ 4 = ปฏิบัตไิ ด้ 4 รายการ ของโครงงาน โครงงาน 3 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 3 รายการ 2 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 รายการ 6. การประเมนิ 2. มกี ารรายงานเคา้ โครงของโครงงาน 1 = ปฏบิ ตั ไิ ด้ 1 รายการ โครงงาน 3. มกี ารรายงานวางแผนการปฏิบตั งิ าน 4. มกี ารรายงานความก้าวหน้าของ โครงงาน 5. มกี ารรายงานผลสำเร็จของโครงงาน 1. มกี ารวางแผนการประเมนิ โครงงาน 5 = ปฏิบตั ริ ายการท่ี 1, 2, 3, 4 2. มีการประเมนิ หลังเสรจ็ ส้นิ โครงงาน และ 5 ได้ 3. มกี ารประเมินระหวา่ งดำเนินโครงงาน 4 = ปฏบิ ตั ริ ายการที่ 1, 2, 3 และ 4 4. มีการประเมินก่อนการดำเนนิ ได้ โครงงาน 5. การประเมนิ สอดคล้องกับโครงงาน 3 = ปฏิบตั ริ ายการที่ 1, 2 และ 3 ได้ 2 = ปฏิบตั ริ ายการที่ 1 และ 2 ได้ 1 = ปฏิบตั ริ ายการที่ 1 ได้ 7. การจดั ทำ 1. มีการจดั ทำรายงานโครงงาน 5 = ปฏิบัตริ ายการที่ 1, 2, 3, 4 รายงานโครงงาน 2. รายงานผลตามวัตถุประสงค์โครงงาน และ 5 ได้ 3. รายงานผลตามที่ประเมินโครงงานไว้ 4 = ปฏบิ ัตริ ายการท่ี 1, 2, 3 และ 4 4. รายงานโครงงานถกู ตอ้ งตามรูปแบบ ทีก่ ำหนด ได้ 3 = ปฏบิ ัตริ ายการที่ 1, 2 และ 3 ได้ 5. รายงานโครงงานมกี ารเช่อื มโยงแต่ละ 2 = ปฏบิ ัตริ ายการท่ี 1 และ 2 ได้ หัวข้อชัดเจน 1 = ปฏบิ ตั ริ ายการท่ี 1 ได้ 8. การนำเสนอ 1. มีการมอบหมายงานทกุ คนนำเสนอ 5 = ปฏิบตั ไิ ด้ 5 รายการ ผลงาน 2. มสี ไลด์ (PPT) ประกอบการนำเสนอ 4 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 4 รายการ 3. รูปแบบการนำเสนอน่าใจ 3 = ปฏิบัตไิ ด้ 3 รายการ 4. นำเสนอชดั เจนสอดคลอ้ งกบั โครงงาน 2 = ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 รายการ 5. ใช้คำพูดในการนำเสนอชัดเจน 1 = ปฏบิ ตั ไิ ด้ 1 รายการ
64 แนวทางการจดั การเรียนร้แู บบโครงงานเป็นฐาน คณะผจู้ ดั ทำ แนวทางการจัดการเรยี นรแู ้ บบโครงงานเป็ นฐาน • คณะที่ปรกึ ษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดร. ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ดร. อกนษิ ฐ์ คลงั แสง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา นายวณชิ ย์ อว่ มศรี รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ดร. ชาญเวช บญุ ประเดิม ผชู้ ว่ ยเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดร. บุญส่ง จำปาโพธ์ิ • คณะกรรมการวชิ าการ คณะศกึ ษานเิ ทศก์ ผู้บรหิ ารและครู ตามคำส่ังสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่ ๑๓๗/๒๕๕๘ • คณะทำงานบรรณาธกิ าร หัวหนา้ หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์ นางสาววลั ลภา อยทู่ อง ผอู้ ำนวยการศนู ยส์ ง่ เสริมและพฒั นาอาชีวศึกษาภาคเหนอื นายวทิ ยา ใจวถิ ี ผู้อำนวยการศนู ยส์ ง่ เสรมิ และพฒั นาอาชวี ศึกษา ดร. มนต์ชยั มนธู าราม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้อำนวยการศนู ยส์ ง่ เสรมิ และพฒั นาอาชีวศกึ ษาภาคกลาง นายสมชาย วณารักษ์ ผอู้ ำนวยการศนู ยส์ ่งเสรมิ และพฒั นาอาชีวศกึ ษา ดร. ผอ่ งพรรณ จรัสจินดารัตน์ ภาคตะวนั ออกและกรงุ เทพมหานคร ผูอ้ ำนวยการศนู ย์ส่งเสรมิ และพฒั นาอาชีวศกึ ษาภาคใต้ นายจงศักด์ิ ทยานิธิกลุ หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์ นายพนมพร แฉลม้ เขตต์ หนว่ ยศกึ ษานิเทศก์ นางสาวปยิ วรี จุตพิ งษ์รักษา หน่วยศึกษานเิ ทศก์ ดร. ประพนธ์ จุนทวิเทศ ศูนย์สง่ เสรมิ และพฒั นาอาชีวศกึ ษาภาคกลาง ดร. จรญู เตชะเจริญกิจ ศนู ย์ส่งเสรมิ และพัฒนาอาชวี ศกึ ษาภาคกลาง นายสธุ ี โรจน์บุญถงึ ศนู ยส์ ง่ เสริมและพฒั นาอาชวี ศกึ ษาภาคเหนอื นางสดุ สาย ศรีศกั ดา นางสาวโสภี นิลรกั ษ์ หนว่ ยศึกษานเิ ทศก์ นางวิยดา วฒั นาเมธี หนว่ ยศึกษานเิ ทศก์ นายชาตรี ชนานาฎ หนว่ ยศกึ ษานเิ ทศก์ นางสาวโสภิดา ลิ้มวฒั นาพนั ธ์ หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์
Search