Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา.pdf

โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา.pdf

Published by tttaaaooo, 2017-11-19 10:05:16

Description: โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา.pdf

Search

Read the Text Version

โครงการสํวนพระองค์ สวนจิตรลดานายธนนันท์ อนรุ กั ษ์ รหัส 60460415นางสาวธนภรณ์ ประคา รหสั 60460422นายธนภัทร พัฒนทวสี นิ สกุล รหสั 60460439นางสาวธนวรรณ เค๎าโนนกอก รหสั 60460446นายธนวทิ ย์ ยังคง รหัส 60460453นายธนายทุ ธ สายคาทอน รหสั 60460460นางสาวธญั ชนก วิสุทธิรตั น์ รหสั 60460477นายธษิ ณนิ พนิ ชิ กชกร รหสั 60460484นางสาวธีร์จฑุ า คณุ จนั ทรโชติ รหัส 60460491นายธีรพัฒน์ ศรีวจิ ารย์ รหัส 60460507รายงานนเี้ ป็นสํวนหนึง่ ของรายวชิ าสารสนเทศศาสตรเ์ พ่ือการศกึ ษาคน๎ ควา๎ Information Science for Study and Research (001221) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีการศึกษา 2560

ช่อื หัวข๎อโครงงาน โครงการสํวนพระองค์ สวนจติ รลดาผ๎ดู าเนินโครงงาน นายธนนันท์ อนรุ กั ษ์ รหสั 60460415ท่ปี รึกษา รหสั 60460422คณะ นางสาวธนภรณ์ ประคา รหสั 60460439ปกี ารศกึ ษา รหสั 60460446 นายธนภทั ร พัฒนทวสี ินสกุล รหัส 60460453 รหสั 60460460 นางสาวธนวรรณ เคา๎ โนนกอก รหัส 60460477 รหสั 60460484 นายธนวิทย์ ยังคง รหสั 60460491 รหัส 60460507 นายธนายทุ ธ สายคาทอน นางสาวธัญชนก วิสุทธริ ัตน์ นายธิษณิน พินิชกชกร นางสาวธรี จ์ ฑุ า คณุ จันทรโชติ นายธีรพฒั น์ ศรวี ิจารย์ อาจารย์สมัทรชา เนยี มเรือง แพทยศาสตร์ 2560 บทคดั ยอํ พระบาทสมเดจ็ พระเจา๎ อยํหู วั ภูมิพลอดลุ ยเดชฯ ไดจ๎ ัดตงั้ โครงการสํวนพระองคส์ วนจติ รลดาขึ้นในพระตาหนักจติ รลดารโหฐาน ซง่ึ โครงการนี้แลว๎ เสรจ็ ในปีพุทธศักราช 2505 โครงการน้ีมีวตั ถุประสงค์เพ่อื ศึกษา ทดลอง วจิ ยั และเป็นแบบอยาํ งใหแ๎ กํเกษตรกร การดาเนินการนั้นแบํงออกเป็น 2 รูปแบบ คอื โครงการไมใํ ชํธรุ กจิ เพอ่ื พฒั นาชวี ิตเกษตรกรและโครงการกึ่งธรุ กิจเพ่อื ศกึ ษาทดลองแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร เชํน การปลกู ข๎าว การเล้ยี งโคนม ซ่งึ ผลการศึกษาสามารถนามาประยุกต์ใช๎เป็นแบบอยาํ งในการนาไปปฏบิ ตั ติ าม นอกจากน้ยี งั เป็นการดาเนินการโดยไมํมํุงหวงัผลตอบแทน จึงมีโครงการท่ีตั้งขึน้ เพ่ือบรรเทาความเดือดร๎อนของราษฎรอีกด๎วย ก

Project title The Royal ChitraladaName Thananan Anurak Thanaporn PrakhamProject adviser Thanapat PatthanathaweesinsakunFaculty Thanawan KhaononkokAcademic year Thanawit Yangkong Thanayut Saykhamtorn Thanchanok Visuttirat Thitsanin Pinijkojchakorn Teejuta Kunajantarachot Teerapat Sriwijan Samucha Neamruang Medicine 2017 Abstract His Majesty King Bhumibol Adulyadej has initiated The Royal Chitraladaproject in Chitralada Villa since 1962. The project aims to study the research andmodel the farmers. They are divided into two forms : non-commercial form in orderto develop the farmer's life and semi-commercial form which study the process ofagriculture such as experimental rice mill , a dairy farm. According to this project, itcan be applied by all of Thai people’s occupations in all regions of the country.Besides, the project is also done without any benefits ; instead it is set up toalleviate the suffering of the people. ข

กิตติกรรมประกาศ การจดั ทารายงานเรอื่ ง โครงการสํวนพระองค์ สวนจติ รลา นี้ สาเร็จลุลํวงได๎ดว๎ ยดีเพราะดว๎ ยความกรุณาอยาํ งสงู ของอาจารย์สมทั รชา เนยี มเรอื ง ที่ใหค๎ วามร๎แู ละแนวทางในการศึกษาคน๎ ควา๎และให๎คาปรึกษาแนะนาการจัดทารูปแบบายงาน ตลอดจนตรวจสอบแกไ๎ ขข๎อบกพรํองตํางๆ ด๎วยความเอาใจใสํ ขอขอบพระคุณอยาํ งสงู ขอขอบพระคณุ ทุกทํานทใี่ ห๎ข๎อเสนอแนะทีด่ ีท่สี ามารถนามาเป็นประโยชนต์ อํ การปรบั ปรุงงานใหส๎ มบรู ณย์ ิ่งขึน้ ตลอดจนเป็นกาลงั ใจ และใหค๎ วามชวํ ยเหลือตลอดมา คณะผ๎ูจดั ทา ค

สารบัญ หนา๎ กบทคัดยํอภาษาไทย ขบทคดั ยํอภาษาอังกฤษ คกติ ติกรรมประกาศ งสารบญั จสารบัญรปู ภาพ 1บทท่ี 1 บทนา 1 1.1 ความเปน็ มาและความสาคญั 1 1.2 วตั ถุประสงค์ 1 1.3 ประโยชน์ทีค่ าดวําจะได๎รบั 2 1.4 ขอบเขตการดาเนนิ โครงงาน 1.5 แผนการดาเนนิ งาน 3 9บทท่ี 2 หลักการและทฤษฎี 33 2.1 โครงการที่ไมใํ ชํธุรกจิ 34 2.2 โครงการก่งึ ธรุ กิจ 37 39บทท่ี 3 วิธีการดาเนินโครงงานบทท่ี 4 ผลการวเิ คราะหข์ ๎อมูลบทที่ 5 สรุปและอภปิ รายบรรณานกุ รม ง

สารบญั รูปภาพรูปท่ี หนา๎ 1. ปา่ ยางนา ในโครงการปา่ ไม๎สาธิต 4 2. โครงการปลานลิ 5 3. กรอบรปู กระดาษสา 7 4. กงั หนั ลม 7 5. บ๎านพลงั งานแสงอาทติ ย์ 8 6. พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช เสด็จพระราชดาเนิน ประพาสประเทศเดนมาร์ค 10 7. ศนู ยร์ วมนมสวนจติ รลดา 12 8. ผลติ ภัณฑ์นมอดั เมด็ 14 9. ผลิตภัณฑเ์ นยแข็ง 16 10. โรงนมยเู อชที สวนจติ รลดา 17 11. นมยูเอชทแี บบกลอํ ง 18 12. ข๎าวสารจากโรงสขี ๎าวตวั อยาํ งสวนจติ รลดา 19 13. การผลติ แกลบอัดแทํง 21 14. ผลิตภณั ฑน์ ้าผลไม๎บรรจกุ ระป๋อง 25 15. โรงเพาะเลย้ี งสาหราํ ยเกลยี วทอง 26 16. เห็ดหลนิ จอื 28 17. พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชทรงทาการศกึ ษา ต๎นทุนการผลิตแอลกอฮอลจ์ ากอ๎อย 30 18. พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชทรงงานเกีย่ วกับไบโอดเี ซล 31จ

1บทท่ี 1 บทนา1.1 ความเป็นมาและความสาคัญ โครงการสํวนพระองค์สวนจิตรลดา เปน็ โครงการที่ให๎ความสาคัญกับการพฒั นาคณุ ภาพ ชีวิตของเกษตรกรอยาํ งยั่งยนื ทาใหเ๎ กษตรกรสามารถพึ่งตนเองควบคํูไปกับการอนุรกั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ เป็นโครงการทีเ่ ปน็ แบบอยาํ งทด่ี ที ้ังในดา๎ นการวิจัย การแปรรปู และมีการ นาวสั ดุเหลือใช๎ทางการเกษตรมาใช๎ใหเ๎ กิดประโยชนส์ งู สุดดว๎ ยกระบวนการผลติ ทง่ี าํ ยแตํมี ประสิทธิภาพ เปน็ หัวข๎อทีน่ าํ สนใจท่จี ะนามาทาการศกึ ษา ไมวํ ําจะเป็นในเรอ่ื งของประวัตคิ วาม เป็นมา กระบวนการในการผลิต รวมถึงผลิตภณั ฑ์ตํางๆทไ่ี ดจ๎ ากการผลติ1.2 วัตถปุ ระสงค์ - เพือ่ ศกึ ษาโครงการทีไ่ มใํ ชธํ รุ กิจและโครงการกึ่งธุรกจิ ของโครงการสํวนพระองค์ สวน จิตรลดา1.3 ประโยชนท์ ่ีคาดวําจะได๎รับ - ไดท๎ ราบถงึ ประวัติท่มี าของโครงการท่ีไมใํ ชธํ รุ กจิ และโครงการกงึ่ ธรุ กิจในแตลํ ะ โครงการยํอยๆ1.4 ขอบเขตการดาเนินโครงงาน - ศกึ ษาประวตั ิที่มาและวิธกี ารดาเนินงานของแตํละโครงการยํอยๆ

21.5 แผนการดาเนนิ งานกิจกรรม เดือนตลุ าคม เดอื นพฤศจิกายน 12341234แบงํ งานและหนา๎ ท่ีศกึ ษา ค๎นควา๎ขอ๎ มูลรวบรวมขอ๎ มูลจดั ทารูปเลํมจัดทาPowerpointเพ่อื นาเสนอนาเสนอ

3 บทที่ 2 หลกั การและทฤษฎี2.1 โครงการท่ีไมใํ ชํธรุ กจิ 2.1.1. โครงการนาข๎าวทดลอง สบื เนอ่ื งจากท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจ๎าอยหํู วั ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล๎าโปรดกระหมอํ มให๎ พน้ื ฟูพระราชพธิ ีพชื มงคลจรดพระนงั คลั แรกนาขวัญในปีพุทธศักราช 2503 เพ่ือเปน็ การรักษา ขนบธรรมเนียมโบราณ ราชประเพณแี ละเป็นการบารุงขวัญกาลงั ใจแกเํ กษตรกร ซ่ึงได๎ถือเปน็ ประเพณปี ฏิบตั ิสบื ตอํ มาจนถึงปัจจบุ นั โครงการนาข๎าวทดลองในพ้ืนทพ่ี ระตาหนกั จิตรลดารโหฐาน เริ่มขึน้ ในปีพุทธศักราช 2504 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยหูํ วั ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา๎ ฯ ให๎กรมการข๎าว (เดมิ ) ทดลองนา ข๎าวพนั ธุ์ตํางๆจากท่วั ประเทศ มาทดลองปลูกในแปลงนาข๎าวทดลอง ทงั้ แบบนาดา และนาหวาํ น ทป่ี ลูกในพนื้ ทลี่ มุํ มีน้าขงั (หรือท่ีเรยี กวํา นาสวน) โดยในปีแรก (ตรงกบั วันท่ี 16 กรกฎาคม ปี พุทธศกั ราช 2504) พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยํูหัวฯ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล๎าฯใหห๎ มํอมราชวงศ์ เทพฤทธ์ิ เทวกลุ นาควายเหล็กหรือรถไถแบบ 4 ล๎อมาใชใ๎ นการเตรยี มดนิ ทรงขับรถไถนาเตรยี ม แปลงปลกู ข๎าว ทรงหวาํ นข๎าว และทรงเกยี่ วข๎าวด๎วยพระองค์เอง ตํอมาในปีพทุ ธศักราช 2517 ชาวนิคมชํวยตนเองจังหวัดประจวบครี ีขันธ์ กราบบงั คมทูลเกีย่ วกบั ผลผลติ จากขา๎ วไรํน๎อย จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา๎ ฯ ให๎มีการทดลองปลกู ข๎าวในลักษณะทีเ่ รียกวาํ ขา๎ วไรํ หรือข๎าวหยอด หลุมซงึ่ เป็นลักษณะการทานาบนท่ดี อน และทีส่ งู แบบชาวไทยภเู ขา ซง่ึ จะอาศยั เฉพาะน้าฝน โดยมีการทดลองปลูกท้ังพันธุ์ขา๎ วเจ๎าและข๎าวเหนยี ว นอกจากน้ียงั มีการปลกู พชื หมุนเวียนชนิดตาํ งๆ เชนํ พชื ตระกูลถัว่ ทานตะวัน ในแปลงนา ทดลอง เพื่อบารงุ ดนิ และเป็นการใช๎พน้ื ที่ใหเ๎ กิดประโยชนส์ ูงสดุ ผลผลิตข๎าวท่ไี ด๎จากแปลงนาข๎าวทดลองสวํ นหนง่ึ จะนาไปใช๎ในพระราชพธิ ีพชื มงคลจรดพระ นงั คลั แรกนาขวญั โดยพระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยูหํ วั ฯ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล๎าฯ ใหพ๎ ระยาแรก

4นาขวญั ทาการหวํานขา๎ วในแปลงนาทดลองสวนจติ รลดา ภายหลงั จากพระราชพิธีที่สนามหลวงของทกุ ปี นอกจากนี้ผลผลิตข๎าวอกี สํวนหน่ึงจะนาไปบรรจุถุงแจกจํายแกเํ กษตรกรเพื่อเป็นขวัญและกาลงั ใจในการเพาะปลูก2.1.2. โครงการป่าไม๎สาธติ เรม่ิ จากครง้ั ท่พี ระบาทสมเด็จพระเจา๎ อยหํู วั ฯ เสด็จแปรพระราชฐานไปประทบั แรมที่วงั ไกลกงั วล อาเภอหัวหนิ จังหวัดเพชรบรุ ี พระองค์ทรงมีพระราชดารทิ ีจ่ ะสงวนพืน้ ท่ีปา่ ยางนา(Dipterocarpus alatus Roxb.) บริเวณน้ันไวเ๎ ป็นสวนสาธารณะ และเพ่ือสงวนพันธยุ์ างนาไมํให๎สูญพันธ์ุ เนือ่ งจากมีการตดั มาใช๎ประโยชน์เป็นจานวนมาก แตไํ มสํ ามารถดาเนินการขอซ้ือท่ีเดินบรเิ วณนั้นได๎ เนื่องจากมีราษฎรเขา๎ มาใช๎ประโยชน์เปน็ จานวนมาก พระบาทสมเดจ็ พระเจ๎าอยูหํ วั ฯ ได๎ทรงเพาะเมล็ดต๎นยางด๎วยพระองค์เองในกระถางบนพระตาหนกั เปย่ี มสขุ วงั ไกลกงั วล และทรงปลกู กลา๎ ไมย๎ าง จานวนประมาณ 1250 ตน๎ ในพื้นทพ่ี ระตาหนักสวนจติ รลดาพร๎อมข๎าราชบรพิ ารในวันท่ี 28 กรกฎาคม ปีพทุ ธศักราช 2504 (ซ่งึ ตรงกบัวนั คล๎ายวนั ประสตู ขิ องพระบรมโอรสาธริ าชฯ)ในปีพุทธศักราช 2508 ทรงพระกรุณาโปรดเกล๎าฯใหก๎ รมปา่ ไมร๎ วํ มกับคณะวนศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์หาพันธุ์ไม๎ตํางๆ ในประเทศไทยมาปลกู เพ่ิมเติมในบริเวณใกลเ๎ คียง ในลักษณะป่าไม๎สาธิต เพอ่ื การศึกษาเกย่ี วกับพันธไุ์ ม๎ รูปท่ี 1 แสดงปา่ ยางนา ในโครงการป่าไมส๎ าธติ ทม่ี า : http://km.rdpb.go.th/Knowledge/View/57

5 2.1.3. โครงการปลานลิ ด๎วยทรงหวํ งสุขภาพอนามัยของประชาชนโดยเฉพาะในถ่นิ ทรุ กันดาร พระบาทสมเดจ็ พระ เจา๎ อยูํหวั ฯทรงทาการศึกษาเก่ียวกับการเพาะเลีย้ งปลา เพอื่ เปน็ อาหารโปรตีนคุณภาพดี ราคา ถกู โดยในปีพทุ ธศกั ราช 2495 พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยํูหัวฯ ไดท๎ รงเล้ียงปลาหมอเทศในสระ น้าหน๎าพระท่ีน่งั อุดรในบริเวณพระท่ีนง่ั อัมพรสถาน เมอื่ วันที่ 25 มีนาคม ปีพทุ ธศักราช 2508 สมเด็จพระจักรพรรดิอากฮิ ิโต แหํงประเทศญี่ปนุ่ ขณะทรงดารงพระอิสรยิ ยศเป็นมกุฎราชกมุ าร ไดน๎ อ๎ มเกล๎าฯ ถวายพนั ธ์ปุ ลา Tilapia nilotica จานวน 50 ตัว และตํอมาในวนั ท่ี 17 มีนาคม ปีพุทธศักราช 2509 พระบาทสมเดจ็ พระเจ๎าอยูํหัว ฯ ไดพ๎ ระราชทานช่อื พนั ธ์ุปลาดังกลาํ ว โดยทบั ศพั ท์วทิ ยาศาสตร์ (nilotica) วํา “ปลานิล” ปลานิลทเี่ พาะเลย้ี งไว๎ในบํอปลาในสวนจติ รลดา เป็นท่ีร๎ูจกั กันในนาม “ปลานลิ สายพันธ์ุ จิตรลดา” ซึง่ เปน็ สายพันธุ์ที่ได๎รับการปรบั ปรุงสายพันธจุ์ ากสายพันธุ์บริสุทธจ์ิ ากคร้ังท่ีได๎รบั การ นอ๎ มเกลา๎ ฯถวาย ซ่งึ จะพระราชทาแกกํ รมประมงเปน็ พันธุ์ปลาพระราชทานแกํราษฎร เพือ่ นาไป ขยายพนั ธ์ุ และนาไปบริโภคตํอไป รูปที่ 2 แสดงโครงการปลานิลท่มี า : https://www.sentangsedtee.com/news_detail.php?rich_id=2719&section=1&column_id=1

62.1.4. งานหัตถกรรมศลิ ป์ 2.1.4.1. โรงงานกระดาษสา ในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ๎าพระบรมราชินนี าถทรงมีพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในปพี ทุ ธศักราช 2535 โครงการสวํ นพระองค์ สวนจิตรลดาไดส๎ รา๎ งโรงกระดาษสา เปน็ อาคารเฉลิมพระเกยี รติ จากเคร่ืองไม๎เกําทีม่ าจากการบรู ณะวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม พระ ทน่ี ่ัง พระราชวงั ตาํ งๆ เพื่อใชศ๎ ึกษาเกย่ี วกับการผลิตกระดาษสาแบบครบวงจรพร๎อมทัง้ อนุรกั ษ์และเผยแพรคํ วามรเู๎ ก่ียวกับงานหตั ถศลิ ปต์ ํางๆ ของไทย 2.1.4.1.1. วธิ กี ารทากระดาษสา (แบบช๎อน) 1. นาเปลอื กของก่งิ ปอสา (ที่มีอายตุ น๎ ประมาณ 3 ปีขนึ้ ไป) ท่เี อาสํวนผิวสี น้าตาลออกแลว๎ มาแชํน้าผสมโซดาไฟ (โซเดยี มไฮดรอกไซด)์ เข๎มข๎น 2% ของ น้าหนักเปลอื กปอสา เปน็ เวลา 24 ช่วั โมง 2. นาเปลือกที่แชํนา้ แล๎วมาต๎มด๎วยโซดาไฟเข๎มข๎น 8% เป็นเวลา 5-6 ชั่วโมง แลว๎ ลา๎ งดว๎ ยน้าใหส๎ ะอาด 3. ทาการฟอกขาว โดยตม๎ เปลือกปอสากับสารเคมี 2 ตัว คือ โซเดยี มซิลเิ กท และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เปน็ เวลา 4-6 ชัว่ โมง แล๎วล๎างดว๎ ยนา้ ใหส๎ ะอาด 4. นาเขา๎ เคร่ืองตเี ยื่อ 5. นาเยอื่ ทตี่ ีแล๎วมาใสํลงในบํอ เติมนา้ สะอาด เพ่อื ทาการตักช๎อนดว๎ ยตะแกรง ท่ที าด๎วยตาขาํ ยไนลอน โดยตอ๎ งทาการคนใหเ๎ ยือ่ กระจายทั่วบํอกํอน แล๎วจึงทา การชอ๎ น o ถ๎าต๎องการกระดาษสาทีห่ นาให๎ใสํเย่อื ลงในบํอในปริมาณมาก o ถา๎ ต๎องการทากระดาษสาที่มสี ีพนื้ ทงั้ แผนํ ใหผ๎ สมสยี ๎อมผา๎ ลงไปในบํอ 6. นาไปตากแดดให๎แห๎ง ซึ่งจะใชเ๎ วลาประมาณ 1-2 วัน ลอกกระดาษออกจาก ตะแกรง กจ็ ะได๎กระดาษสาท่ีสามารถนาไปทาเป็นผลติ ภัณฑ์ตํางๆ 2.1.4.1.2 ผลิตภณั ฑ์ - พดั - กระดาษหอํ ของขวัญ - ดอกไม๎ประดิษฐ์

7- โมบาย- กรอบรูป- ไดอาร่ี รูปที่ 3 แสดงกรอบรปู กระดาษสา ทมี่ า : https://travel.mthai.com/blog/144578.html2.1.5. กลํุมพลงั งานทางเลอื ก หรอื พลังงานทดแทน 2.1.5.1. กงั หนั ลม ในปีพุทธศักราช 2515 บริษัท อุสาพัฒนาเศรษฐกิจ จากดั ได๎น๎อมเกล๎าฯ ถวายกงั หัน ลม จันวน 1 ตวั (ตดิ ตง้ั บรเิ วณบอํ ปลานิล) เพื่อใช๎ในการศึกษาเกย่ี วกบั การใช๎ประโยชน์จาก พลงั งานลม และตํอมาในประมาณปพี ุทธศกั ราช 2525 และปีพุทธศักราช 2542 ไดน๎ อ๎ ม เกลา๎ ฯ ถวายเพิ่มอีก 2 ตัว (บรเิ วณโรงเพาะเหด็ และขา๎ งศาลามหามงคล) รูปที่ 4 แสดงกงั หันลมที่มา : https://travel.mthai.com/blog/144578.html

82.1.5.2. บ๎านพลงั งานแสงอาทติ ย์ ในวโรกาสทพี่ ระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยหํู วั ทรงครองสิริราชสมบตั คิ รบ 50 ปี ในปีพุทธศกั ราช 2539 กรมการพลังงานทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ไดน๎ ๎อมเกลา๎ ฯ ถวายบ๎านพลังงานแสงอาทิตย์พรอ๎ มอุปกรณ์ตาํ งๆ เพ่ือใชใ๎ นการศึกษาเกยี่ วกบั การใช๎พลังงานแสงอาทิตย์ เปน็ พลังงานทางเลือก ซึ่งตํอมาในปีพุทธศกั ราช 2542 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแหํงประเทศไทย รวํ มกับ บรษิ ทั ลโี อนิคส์ จากัด,บรษิ ทั โซลาํ รต์ รอน จากัด และโครงการฯ ไดท๎ าการปรบั ปรงุ ระบบ โดยตํอระบบผลติ ไฟฟา้ด๎วยเซลลแ์ สงอาทติ ย์ กบั สายจาหนํายของการไฟฟ้านครหลวง ซงึ่ เปน็ การลดคําใช๎จํายในการดแู ลรักษา และจดั หาแบตเตอรี่ ในปพี ทุ ธศักราช 2547 กรมการพลงั งานทหารฯ รวํ มกบั บรษิ ทั แลนด้ี โฮม (ประเทศไทย) จากัด และ บริษทั โซลาํ รต์ รอน จากดั (มหาชน) ได๎นอ๎ มเกลา๎ ฯ ถวายบ๎านพลังงานแสงอาทติ ยห์ ลังใหมํ ในวโรกาสที่พระบาทสมเดจ็ พระเจา๎ อยูหํ ัว ทรงครองสริ ิราชสมบัติครบ 60 ปี เพอื่ ใชใ๎ นการศึกษาเพ่มิ เติมเรื่องการใชพ๎ ลงั งานแสงอาทิตย์ (และใชเ๎ ป็นห๎องแสดงนิทรรศการเกยี่ วกบั โครงการฯ และเป็นเรอื นรบั รองแขกสาคญั ทเี่ ข๎าชมโครงการฯ) รปู ที่ 5 แสดงบา๎ นพลงั งานแสงอาทติ ย์ ที่มา : https://travel.mthai.com/blog/144578.html

9 2.1.5.3. ระบบสูบนา้ ดว๎ ยพลังงานแสงอาทติ ย์ น๎อมเกล๎าถวายโดยบริษทั โซลําร์ตรอน จากัด (มหาชน) และบริษัท กรนุ ดฟ์ อส (ประเทศไทย) เปน็ การสาธติ การใชป๎ ระโยชนจ์ ากพลังงานแสงอาทติ ยเ์ พิ่มเติม 2.1.5.3.1. การผลิตกระแสไฟฟา้ ดว๎ ยพลงั งานลม บริษทั GEM Global Energy Management จากัด น๎อมเกลา๎ ฯ ถวายกงั หนั ลม พร๎อมอาคารควบคุมแบตเตอร่ีสาหรับเกบ็ ไฟฟา้ และอุปกรณ์ตํางๆ เพื่อใชใ๎ น การศึกษาเก่ยี วกับการใชพ๎ ลงั งานลมเป็นพลงั งานทดแทน โดยกงั หนั ลมเปน็ แบบ Standard Alone System ท่มี ีกาลงั การผลติ กระแสไฟฟ้าไดส๎ งู สดุ 7.5 กโิ ลวตั ต์ ไฟฟา้ ท่ผี ลิตได๎สามารถนามาแปลงเปน็ ไฟฟา้ กระแสสลับ เพ่ือใช๎กับเครื่องใชไ๎ ฟฟ้า ตาํ งๆ และสวํ นที่เหลือใชส๎ ามารถนาไปเก็บในแบตเตอร่ี ซ่ึงเป็นระบบควบคุมการเกบ็ ไฟฟา้ อัตโนมตั ิ ที่สามารถดึงไฟฟ้าที่เกบ็ มาใชไ๎ ด๎ เปน็ การสาธติ การลดปริมาณการใช๎ ทรัพยากรธรรมชาตชิ นดิ ที่ใชแ๎ ล๎วหมดไป ไมสํ ามารถทดแทนได๎ที่ใช๎ในการผลิต กระแสไฟฟ้าในปัจจุบนั เชนํ นา้ มนั และถาํ นหิน2.2 โครงการก่งึ ธรุ กจิ 2.2.1. กลุมํ งานอุตสาหกรรมนม 2.2.1.1. โรงโคนมสวนจติ รลดา ที่มาของโรงโคนมสวนจติ รลดา เริม่ จากที่บริษัท เอส อาร์ จากดั นอ๎ มเกล๎าฯ ถวายโค พนั ธ์ุเรดเดนจานวน 4 ตัว (โคสาวตั้งทอ๎ ง 2 ตัว ลกู โคเพศเมีย 1 ตวั และลกู โคเพศผ๎ู 1 ตัว) และตอํ มากรมปศสุ ัตว์นอ๎ มเกลา๎ ฯ ถวายโคสาว 2 ตวั เปน็ พันธบุ์ ราวนส์ วิส และลูกผสมเรด ซินดิ พระบาทสมเดจ็ พระเจา๎ อยํหู วั ฯ พระราชทานพระราชทรพั ย์สวํ นพระองค์ ซึง่ เป็น รายได๎จากการจัดพิมพ์ และจาหนาํ ยหนังสอื หลกั วิชาการดนตรี ซ่ึงพระเจนดุริยางค์ได๎ ทูลเกล๎าฯ ถวายลิขสิทธ์ิ จานวน 32886.73บาท เป็นการดาเนินจัดสรา๎ ง และเสด็จพระราช ดาเนินทรงเปิดโรงโคนมสวนจิตรลดาเมือ่ วนั ที่ 12 มกราคม พุทธศกั ราช 2505

10รูปที่ 6 แสดงพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช เสดจ็ พระราชดาเนิน ประพาสประเทศเดนมารค์ ทม่ี า : https://travel.mthai.com/blog/144578.html 2.2.1.1.1. การดาเนินงาน - โรงโคนมสวนจิตรลดาจะจากัดจานวนโคนมที่เลีย้ งไวป๎ ระมาณ 40-50 ตัว เปน็ แมํโครีดนมประมาณกึ่งหน่งึ สวํ นทเ่ี หลอื เปน็ แมํโคท่รี อการให๎นม เป็นพันธ์ุ ลูกผสมโฮลสไตน์ฟรีส์เช่ยี น (ขาวดา Holstein-Friesian) - ลกู โคเพศผเ๎ู มอ่ื หยาํ นมแลว๎ จะพระราชทานเป็นพํอพนั ธใ์ุ หแ๎ กํเกษตรกร และ แมโํ คท่คี ดั ออกจะพระราชทานแกํผูท๎ ี่สนใจ - มกี ารสาธิตการปลูกหญ๎าสาหรบั เป็นอาหารของโค โดยวธิ ที านาหญ๎า โดยใช๎ ทํอนพันธห์ุ ญ๎าปกั ดาคล๎ายการดานา - การรดี นมจะทา 2 เวลาคือชํวงเชา๎ และชํวงเย็น2.2.1.2. โรงนมผงสวนดุสิต เมือ่ ปีพทุ ธศักราช 2512 เกดิ ภาวะนมสดล๎นตลาดพระบาทสมเด็จพระเจา๎ อยํูหวั ฯทรงพระกรุณาโปรดเกล๎าฯ พระราชทานความชํวยเหลอื แกเํ กษตรกรผเ๎ู ล้ยี งโคนม โดยการรบั ซอ้ื น้านมดบิ มาทาการแปรรปู ผลิตเป็นนมผงและทรงพระกรุณาโปรดเกล๎าฯ ให๎ หมํอมราชวงศ์เทพฤทธ์ิ เทวกุล เป็นผอ๎ู อกแบบโรงนมผง ซ่ึงถือไดว๎ าํ เป็นโรงนมผงแหํงแรกของประเทศไทย โดยพระบาทสมเดจ็ พระเจ๎าอยหํู ัวฯ เสด็จพระราชดาเนินทรงเปิดโรงงานเมือ่

11วนั ที่ 7 ธนั วาคม พุทธศักราช 2512 และพระราชทานชื่อวาํ ”โรงนมผงสวนดสุ ิต” ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการดาเนินการเพื่อศึกษาค๎นคว๎า ในปจั จุบัน โรงนมผงสวนดสุ ิตเป็นโรงนมผงแหํงเดียวของประเทศไทย หลงั จากที่สหกรณโ์ คนมหนองโพ จงั หวัดราชบรุ ี เลิกดาเนนิ การผลติ นมผง แตจํ ัดตง้ั เป็นสหกรณโ์ คนมหนองโพ 2.2.1.2.1. การดาเนนิ การ - รับน้านมดบิ ทีผ่ าํ นการตรวจสอบคณุ ภาพประมาณวนั ละ 8 ตัน มาเก็บไว๎ที่ ถังพักนมดบิ - ทาการระเหยนมดบิ หรือการแยกนา้ กบั เน้อื นมดบิ ออกจากกัน โดยใช๎ พลังงานความร๎อนจากหม๎อต๎มไอน้า (ไอน้าทไ่ี ดจ๎ าการระเหยจะมคี วามบริสุทธสิ์ งู สามารถนาน้าท่ีกล่นั ออกมาไปเติมแบตเตอรีร่ ถยนต์ได๎) - เติมน้าตาลทรายลงในเน้อื นมดบิ ทาการกรองแล๎วไปเกบ็ ท่ีถังพักนมขน๎ - ทาการพนํ นม ซึ่งเปน็ การใหค๎ วามร๎อนกบั เน้ือนมทมี่ ีความเขม๎ ข๎นตาม ต๎องการ แล๎วพนํ ออกมาเปน็ ผงด๎วยวิธีการสเปรย์ดราย (spray dry) ซ่งึ เป็นการ ใหเ๎ ตาลมร๎อย จํายไอร๎อนไปยังถงั อบแห๎ง เพ่ือทาให๎นมทส่ี งํ มาจากเคร่ืองอัด แรงดันสูง อดั ฉีดเปน็ ละอองนมเข๎าไปในถงั อบแห๎ง เม่ือละอองนมโดนความร๎อน ในถงั อบแหง๎ นมกจ็ ะกลายเป็นผง น้านมดบิ 1000 ลติ ร (กิโลกรัม) จะสามารถ นามาผลติ นมผงได๎ประมาณ 137 กิโลกรัม (13%)2.2.1.3. ศนู ยร์ วมนมสวนจิตรลดา ศนู ย์รวมนมสวนจติ รลดา เรม่ิ ดาเนนิ กิจการมาตง้ั แตพํ ุทธศักราช 2512 พร๎อมกับกจิ การโรงนมผงสวนดุสติ มีวัตถุประสงค์เพ่ือสงํ เสรมิ ใหเ๎ กษตรกรเลย้ี งโคนมมากข้นึ และเพอ่ืเป็นศูนย์กลางรบั นมดบิ จากสหกรณ์ และฟารม์ โคนมตํางๆ นามาผลติ เป็นนมพาสเจอร์ไรส์ ปัจจบุ ันศนู ยร์ วมนมสวนจติ รลดา ไดผ๎ ลติ นมสดพาสเจอรไ์ รส์รสตํางๆ ดังน้ี คอื รสจืดกาแฟ วานิลลา โกโก๎ และสละ

12 รูปที่ 7 แสดงศูนยร์ วมนมสวนจติ รลดา ท่ีมา : https://travel.mthai.com/blog/144578.html2.2.1.3.1. การดาเนินงาน - รบั ซอ้ื น้านมดบิ จาก1. โรงโคนม สวนจิตรลดา ในเวลาเช๎า (ประมาณ 300 กโิ ลกรัม) และเยน็(250 กโิ ลกรัม) และมีการตรวจคณุ ภาพของน้านมดบิ (ทั้งทางดา๎ นกายภาพ เคมีและชีวภาพ)2. สหกรณโ์ คนมหนองโพ (ราชบุรี) สหกรณ์โคนมไทยเดนมาร์ค ห๎วยสัตว์ใหญํ(ประจวบคีรขี นั ธ์) และบรษิ ัทโชคชยั แดรี่ฟาร์ม มาประมาณวนั ละ 15 ตัน โดยจะมีรถขนสํงน้านมดิบมาในชวํ งเวลากลางคนื และมกี ารตรวจสขุ ภาพของนา้ นมดิบ - น้านมดบิ ที่ผํานการตรวจสอบสุขภาพจะถูกสํงเขา๎ ถงั พกั นมดิบ และรกั ษา อณุ หภูมใิ ห๎ไมเํ กนิ 6 องศาเซลเซยี ส - ทาการอํุนนา้ นม แลว๎ ผํานกระบวนการโฮโมจิไนส์ (homogenization การ ทาใหโ๎ มเลกลุ ของไขมันเล็กลง ทาใหน๎ ้านมมเี นื้อสัมผัสเนยี นข้นึ และเป็น เนื้อเดียวกนั ) - สาหรบั นมปรงุ แตํงจะทาการเติมนา้ ตาล สี และกล่ิน (วานิลลา และกาแฟ และโกโก)๎ - ทาการพาสเจอไรส์ (pasteurization การฆําเชอื้ โรคเบื้องต๎น) โดยใหค๎ วาม รอ๎ นกับนา้ นมดิบที่อณุ หภมู ิไมํตา่ กวาํ 72 องศาเซลเซียส ในระยะเวลาไมํ น๎อยกวาํ 16 วนิ าที แล๎วจึงผํานนา้ เย็นลดอุณหภูมิน้านมไมํให๎เกนิ 5 องศา เซลเซียส แลว๎ ทาการบรรจุ

13- มีการลวกขวดท่ีจะทาการบรรจุ และฉายรังสีอลุ ตราไวโอเลต (UV) ทฝี่ าปดิอะลมู ิเนียมบรรจุภัณฑ์ เพอื่ ฆําเช้อื โรคดว๎ ย- เม่อื เสร็จกระบวนการผลิตในแตํละวัน จะทาการล๎างเครอ่ื งทใ่ี ช๎ในกระบวนการพาสเจอร์ไรส์ทงั้ หมดดว๎ ยน้าประปาเพ่ือไลคํ ราบนม แล๎วจึงลา๎ งด๎วยสารละลายกรดและดําง น้ารอ๎ น และนา้ ประปาอกี ครง้ั- ในอดีตจะรบี จัดจาหนํายผลิตภณั ฑ์ทันทีที่ผลติ เสร็จ เพอื่ รักษาสภาพความสดใหมํ แตํในปจั จุบนั จะมีการตรวจคุณภาพของผลติ ภัณฑ์กํอนจัดจาหนาํ ยคอื บรรจุผลติ ภณั ฑใ์ นวันน้แี ตํจัดสงํ ในวันรุงํ ข้นึ- ในปพี ทุ ธศักราช ๒๕๔๙ มีโครงการฟลอู อไรดส์ าหรับนมโรงเรียน (รสจืด)โดยจะเติมสารฟลูออไรด์ลงในนา้ นมกํอนการพาสเจอร์ไรส์ ซึง่ จะดาเนินการในกรณีทโ่ี รงเรียนมสี ารฟลูออไรดใ์ นนา้ ดม่ื เป็นปริมาณต่า2.2.1.4. โรงนมอัดเมด็ สวนดุสิต 2.2.1.4.1. การดาเนนิ การ - รบั นมผงจากโรงนมผงวนั ละประมาณ 900 กิโลกรัม มาเข๎าสํูขน้ั ตอนการคัด แยกนม เพราะนมผงทรี่ ับมาในถงุ บางคร้ังจะเกาะตวั กนั เป็นก๎อนใหญํ นมผงที่ เกาะกนั เปน็ ก๎อนจะผํานกระบวนการแลงํ นม โดยเข๎าเคร่ืองบดใหเ๎ ป็นผง - ผสมนมผงกบั 1. น้าตาลไอซ่ิง เป็นสารให๎ความหวาน 2. โปตสั เซียมไตร์ซลิ เิ กต(Potassium tri silicate)ชวํ ยใหน๎ มเม็ดเปน็ มนั วาว สวยงาม 3. ซิลิกอนไดออกไซด์(Silicon dioxide) ชวํ ยใหเ๎ มด็ นมประสานกันไดด๎ ยี ิ่งข้ึน ไมใํ หแ๎ ตกหกั งํายเวลาตอกเม็ดหรือตดิ กับเคร่ืองจักร 4. และผงโกโก๎ ในกรณที ีผ่ ลิตนมเมด็ รสชอ็ คโกแลต - การตอกเมด็ เครือ่ งตอกเมด็ จะเป็นจานหมนุ โรตาร(ี่ Rotary) มสี ากเล็กๆ จานวน 15 สาก ทาหน๎าท่ีตอกอดั นมผงใหเ๎ ปน็ เมด็ (1เม็ด จะหนกั ประมาณ 1 กรัม)

14 - จากนัน้ จะนานมเมด็ ที่ได๎เข๎าเครอื่ งคัดแยกเมด็ โดยตะแกรงจะรํอนคัดแยก นมเม็ดท่แี ตกหักออกจากเมด็ ดี(เมด็ ท่ีแตกหักจะเกบ็ สะสมให๎ไดจ๎ านวนมาก แลว๎ นาไปบดและตอกอัดเมด็ ใหมํ เพื่อทาเปน็ นมเมด็ สาหรับสัตวเ์ ล้ยี ง เครอ่ื งทใ่ี ชใ๎ น การตอกอดั เม็ดจะเป็นเคร่ืองขนาด 13 สาก ดังน้ันนมเม็ดสาหรับสตั วเ์ ล้ียงจงึ มี ขนาดเมด็ ทใี่ หญกํ วํา)2.2.1.4.2. ผลติ ภณั ฑ์ - นมผงอัดเม็ด 2 รส คอื รสหวาน และรสชอ็ คโกแลต (เดมิ มีรสกาแฟ) - นมเม็ดสาหรบั สตั ว์เลี้ยง รูปที่ 8 แสดงผลติ ภณั ฑ์นมอดั เม็ดท่มี า : http://www.tnews.co.th/contents/1913422.2.1.5. โรงเนยแขง็ สวนจติ รลดาจดั ตัง้ ขน้ึ ในปีพุทธศักราช 2530 ในวโรกาสทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจา๎ อยูหํ ัวฯ ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 5 รอบโดยบรษิ ัทซี.ซ.ี ฟรสิ แลนด์ ประเทศเนเธอร์แลนดน์ ๎อมเกลา๎ ฯถวายเครื่องมือผลิตเนยแข็ง ซ่ึงสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯสยามบรมราชกมุ ารีพระราชทานชื่อเนยแข็งทผ่ี ลิตวาํ “เนยแข็งมหามงคล”2.2.1.5.1. ผลติ ภณั ฑ์และกระบวนการผลติ สามารถแบงํ ได๎ตามวัตถุดิบท่ีนามาผลติ ได๎แกํ1. นา้ นมดบิ สามารถน้ามาผลิต

15 - เนยแขง็ เกาด๎า (gouda) และเนยแขง็ เชด็ ดา๎ (chedda) เปน็ ผลิตภณั ฑท์ ไ่ี ด๎ จากการตกตะกอนโปรตีนในนมสดโดยอาศัยเชื้อจลุ นิ ทรีย์ และเอนไซม์ แลว๎ ทาการแยก เอาของแข็งมาอดั เปน็ กอ๎ น และบํมตามเวลาทก่ี าหนดตาม ชนดิ ของเนยแข็ง - เนยแขง็ ปรงุ แตํงชนิดแผนํ (processed cheese) เปน็ การนาเนยแขง็ เกาด๎า มาผสมกับเนยเชด็ ดา๎ แล๎วผํานการพาสเจอร์ไรส์ และอัดเป็นก๎อนสเ่ี หลี่ยม ใหมํ แลว๎ จึงนามาตัดเป็นแผํนบางๆ - เนยแขง็ ปรงุ แตํงและขนมปงั กรอบ และเนยแขง็ ปรุงแตํงชนดิ ทา เป็นการ นาสวํ นทีต่ ดั แตงํ ของเนยแข็งปรุงแตํงชนดิ แผนํ มาผสม และผาํ นการพาส เจอรไ์ รสใ์ หมํ แล๎วบรรจุในถาดพลาสตกิ - ผลติ ภณั ฑน์ มแชํแขง็ (ไอศกรีม) เปน็ การผสมนม นา้ ตาล ไขมันเนย สารท ใหเ๎ ป็นเนอื้ เดียวกนั สารทาให๎คงตวั กลนิ่ และสี แล๎วผาํ นกระบวนการโฮโมจิ ไนส์ และพาสเจอร์ไรส์ จากน้นั นามาป่นั ทาให๎เกิดการแข็งตวั ของเนอื้ ไอศกรีม - ไอศกรีมโยเกริ ์ต เปน็ ผลติ ภัณพโ์ ยเกิร์ตแชเํ ยือกแข็ง โดยการเติม เชื้อจุลนิ ทรยี ์ลงไปในสวํ นผสมของนม หางนม น้าตาล เนยสด สารทาให๎ เปน็ เนือ้ เดยี วกนั และสารทาใหค๎ งตัว ทาใหเ๎ ป็นเนื้อโยเกิร์ต แล๎วจงึ นามา ปั่นให๎เกิดการแขง็ ตัวของเนื้อไอศกรีมโดยมีการเติมแยมผลไมร๎ วมผสมลงไป ดว๎ ย2. หางนม เปน็ ผลิตภณั ฑ์ท่ไี ด๎จากการแยกครีมออกจากน้านมดิบสามารถนามา ผลติ - นมปราศจากไขมันพาสเจอร์ไรส์ เป็นกระบวนการนาหางนมมาผาํ น กระบวนการ ฮิโมจิไนส์ และพาสเจอร์ไรส์ แล๎วจงึ นามาบรรจุขวดและถงุ - นมเปร้ียวพรํองไขมนั พร๎อมดื่ม (drinking yoghurt) เป็นการเติม เช้อื จุลนิ ทรยี ์ลงไปในหางนมทาการบํมจนเปน็ โยเกริ ์ต หลงั จากน้นั จงึ นามา ผสมน้าเชอ่ื มและปรงุ แตงํ และรส (มี 4 รสคอื มะนาว ส๎ม องนํุ และสตรอ เบอรร์ )ี่ ผาํ นกระบวนการโฮโมจไิ นส์และพาสเจอร์ไรส์ แล๎วจงึ นามาบรรจุ ขวด - โยเกริ ต์ (yoghurt) เปน็ การเติมเช้อื จลุ ินทรีย์ลงไปในหางนม ทาใหเ๎ กิดเปน็ โยเกิรต์ (เรยี กวํา เซตโยเกิร์ต set yoghurt ซึง่ เปน็ การทาโยเกริ ์ตแบบต๎นตา

16 หรบั ) ในการบรรจถุ ๎วยจะมีการใสแํ ยมผลไม๎ไวท๎ ่ีกน๎ ถว๎ ย มหี ลายรสตามชนดิ ของแยม รวมทั้งรสธรรมชาติ3. ครีม ซ่ึงแยกอออกมาจากน้านมดิบ สามารถนามาผลติ - เนยสด (butter) เปน็ การนาครีมมาผาํ นกระบวนการตีปนั่ เน้อื ดว๎ ยเครื่อง ปั่นเนย - นมข๎นหวานบรรจุหลอด เปน็ การนาครีม หางนมผง น้าตาล วติ ามนิ เอ และ แลคโตสมาผสมกันแลว๎ ผํานการพาสเจอร์ไรส์ กํอนบรรจลุ งหลอด รูปท่ี 9 แสดงผลิตภณั ฑ์เนยแข็งท่ีมา : https://th.openrice.com/th/bangkok/article/เนยแขง็ มหามงคล-a59522.2.1.6. โรงนมยูเอชที สวนจติ รลดา เริ่มจดั ตั้งเม่ือปพี ุทธศกั ราช 2546 เพือ่ ชวํ ยเหลือเกษตรกรผูเ๎ ลี้ยงโคนม เนื่องจากปัญหานมสดลน๎ ตลาดทเี่ กิดข้ึนในชํวงปลายปีพุทธศักราช 2545 เพื่อเป็นโรงงานตวั อยํางท่ีสาธิตการผลิตนมยเู อชทจี ากนมสดแท๎ (แทนการใชน๎ มผงมาละลายนา้ ) และเป็นการสงํ เสริมใหม๎ ีการบริโภคนม ซ่งึ มปี ระโยชน์ตอํ สขุ ภาพให๎กว๎างขวางมากย่ิงขึน้โรงนมยเู อชที สวนจจติ รลดาจะรับซ้ือน้านมดิบจากสหกรณโ์ คนมตาํ งๆ มาประมาณวนั ละ 24 ตัน มกี ารตรวจคุณภาพของน้านมดบิ (ท้ังทางด๎านกายภาพ เคมี และชวี ภาพ)แลว๎ จงึ นานา้ นมดิบเข๎ามาสูกํ ระบวนการพาสเจอร์ไรส์ดว๎ ยเครือ่ งเทอรไ์ มเซอร์ และกระบวนการยเู อชที แลว๎ ทาการบรรจุ นอกจากบรรจุภณั ฑช์ นดิ กลํอง โรงนมยูเอชที สวนจติ รลดา ยงั เปน็ โรงงานตัวอยาํ งที่สาธิตการบรรจุนม ยเู อชทีแบบถงุ ซึง่ ไดร๎ บั พระราชทานคาแนะนาจากสมเดจ็

17พระเทพรัตนราชสดุ าฯสยามบรมราชกมุ ารี เพ่ือเปน็ การลดต๎นทนุ การผลิต เน่ืองจากวัสดุท่ีใช๎บรรจุถุงมรี าคาถกู กวํา รปู ท่ี 10 แสดงโรงนมยเู อชที สวนจิตรลดา ทมี่ า : https://travel.mthai.com/blog/144578.html 2.2.1.6.1. การดาเนินงาน - รับนา้ นมดิบจากสหกรณโ์ คนมมวกเหลก็ (สระบุรี) สหกรณโ์ คนมไทยเดน มาร์ค หว๎ ยสัตว์ใหญํ (ประจวบครี ขี ันธ)์ และบริษัทโชคชยั แดรีฟ่ าร์ม มาประมาณ วนั ละ 24 ตนั โดยจะมรี ถขนสงํ น้านมดบิ มาในชวํ งเวลากลางคนื และมีการตรวจ คณุ ภาพของน้านมดิบ (ท้ังดา๎ นกายภาพ เคมี และชวี ภาพ) - กํอนทจ่ี ะรับน้านมดบิ เขา๎ มาสูํกระบวนการ จะทาการลา๎ งเครอื่ งท่ีใช๎ใน กระบวนการทงั้ หมด (ดว๎ ยระบบ CIP : Cleaning In Place ดว๎ ยสารละลายดาํ ง ร๎อนทมี่ ีความเข๎มข๎น 1.5-2 % กรดร๎อนที่มคี วามเข๎มขน๎ 1-1.5 % และน้าร๎อน) - นา้ นมดบิ ท่ีผาํ นการตรวจสอบคุณภาพจะถูกนามาเกบ็ ในถงั พักนา้ นมดิบ โดยต๎องลดอุณหภมู ิน้านมให๎ไมํเกิน4 องศาเซลเซียส - นานา้ นมดบิ มาผาํ นกระบวนการพาสเจอไรส์ด๎วยเครื่องเทอร์ไมเซอร์ (thermizer) ท่ีอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสใช๎เวลา 15 วนิ าที แล๎วลดอณุ หภูมิ น้านมใหไ๎ มเํ กิน 4 องศาเซลเซียส แล๎วสํงเข๎าถังเกบ็ นม - เร่ิมกระบวนการยูเอชทโี ดยการใสํโฮโมจิไนส์ (การทาใหโ๎ มเลกุลของไขมัน เลก็ ลงทาใหม๎ ีเน้ือสัมผัสเนยี นขนึ้ และเป็นเน้ือเดยี วกัน) และเพิ่มอุณหภูมขิ อง

18 นา้ นมเปน็ 137 องศาเซลเซยี ส ใชเ๎ วลานาน 4 วนิ าที แล๎วลดอณุ หภมู ขิ องนา้ นม ลงเหลือ 25 องศาเซลเซยี ส แลว๎ สํงเข๎าเครื่องบรรจุ ซง่ึ มีท้ังเคร่ืองบรรจแุ บบถุง และกลํอง - เม่ือเสรจ็ กระบวนการผลติ ในแตลํ ะวันจะต๎องทาการล๎างเครือ่ งท่ใี ช๎ใน กระบวนการทัง้ หมดอีกคร้งั - ในการจัดจาหนาํ ยผลิตภณั ฑ์ จะมีการเก็บผลติ ภณั ฑ์ไว๎ประมาณ 2 สปั ดาห์ เพ่อื ตรวจคุณภาพเบื้องต๎นกํอนจัดจาหนําย 2.2.1.6.2. ผลติ ภัณฑ์ - ผลติ เฉพาะรสจดื รสเดียว ซง่ึ มีท้งั แบบกลํองและถุง - นมโรงเรียนบรรจุกลํอง และถุงสนี ้าเงนิ -ขาว จะจัดสํงให๎โรงเรียนทีเ่ ข๎ารํวม โครงการนมโรงเรยี นในกรุงเทพมหานครฯ และในจงั หวัดใกลเ๎ คียง - การเก็บรักษาในอณุ หภมู ปิ กติ นมยูเอชทแี บบกลํองมีอายุการเก็บประมาณ 8 เดือน และแบบถุงสามารถเกบ็ ได๎ 3 เดือน รปู ที่ 11 แสดงนมยเู อชทีแบบกลํอง ท่มี า : https://www.thairath.co.th/content/7979922.2.2. กลุํมงานเก่ียวกับโรงสีขา๎ วตวั อยาํ งสวนจติ รลดา โรงบดแกลบ และโรงปยุ๋ อินทรีย์ 2.2.2.1. โรงสีขา๎ วตัวอยํางสวนจิตรลดา จากการเสดจ็ เย่ยี มเยือนราษฎรในตํางจังหวดั ตามภาคตํางๆ ของประเทศ พระบาทสมเดจ็ พระเจา๎ อยูหํ ัว ทรงเป็นหํวงความเป็นอยํูของชาวนา เนอ่ื งจากขายข๎าวได๎ใน ราคาถูก แตํต๎องซ้ือเคร่ืองอุปโภคบรโิ ภค รวมทงั้ ข๎าวสารในราคาแพง จึงได๎พระราชทาน

19แนวพระราชดาริในการแกไ๎ ขปญั หาดังกลําววํา ชาวนาควรรวมตวั กันดาเนินการแบบสหกรณ์ มยี ๎งุ ฉางสาหรบั เกบ็ ข๎าวเปลือกและทาการสีขา๎ วเปลือกเอง โครงการสวํ นพระองค์ สวนจติ รลดา จึงมีการศึกษาเก่ยี วกับการเกบ็ รักษาข๎าวเปลือกและสาธติ การสขี ๎าวโดยทรงพระกรุณาโปรดเกล๎า ให๎สรา๎ งย๎ุงฉาง และโรงสีข๎าวตวั อยาํ งสวนจิตรลดา และโดยเสดจ็ พระราชดาเนนิ ทรงเปดิ โรงสขี ๎าวตัวอยาํ งสวนจติ รลดาอยํางเปน็ทางการเม่ือวันที่ 8 พฤษภาคม พทุ ธศักราช 2514 2.2.2.1.1. การดาเนนิ งาน -เปน็ โรงสีขา๎ วตัวอยํางขนาดกลาง เครื่องสีข๎าวตวั อยาํ งในโรงสีขา๎ วชอื่ “เครือ่ งสี ข๎าวป่นิ แก๎ว” (สามารถสีขา๎ วได๎ช่ัวโมงละ 1 เกวยี น หรอื 1000 กิโลกรมั ) -มกี ารสร๎างยุง๎ ฉางเกบ็ ข๎าวเปลือกแบบตาํ งๆ ในปจั จุบันใชย๎ ุ๎งเหลก็ นิวซีแลนด์ หรือไซโลเก็บขา๎ วได๎ 400 เกวยี น และฉางไมแ๎ บบสหกรณเ์ กบ็ ข๎าวได๎ 400 เกวียน ซง่ึ มีการติดต้ังเครอื่ งเป่าลมเยน็ เพ่ือเกบ็ รักษาขา๎ วไวท๎ ่อี ณุ หภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซยี ส เพอื่ ชํวยยืดอายกุ ารเก็บ และลดปัญหาเรือ่ งแมลง นอกจากน้ี ยงั ออกแบบใหส๎ ามารถนาขา๎ วเปลือกออกจากยง๎ุ ไปทาการสีไดโ๎ ดยไมตํ ๎องใช๎คน แบกขน -มีผน๎ู อ๎ มเกลา๎ ถวายเครอื่ งสีข๎าวแบบตาํ งๆ และอปุ กรณ์ที่เกี่ยวข๎องอน่ื ๆ เชํน เครอ่ื งตรวจคุณภาพข๎าวเปลอื ก เครอ่ื งขัดมันข๎าวสาร เครอื่ งช่งั บรรจขุ ๎าวสารพดั ลมไอนา้ (เพอ่ื กาจัดฝ่นุ ละออง และลดความร๎อนในโรงงาน โดยไมมํ ผี ลกระทบ กับผลผลิตขา๎ ว) เป็นตน๎ -ขา๎ วเปลอื กทีร่ ับซื้อเปน็ ข๎าวขาวดอกมะลิ พันธุ์ 105 เปน็ ข๎าวนาปี โดย หลกั เกณฑใ์ นการจัดซอ้ื จะต๎องเป็นข๎าวท่มี ีคาํ ความชื้นไมํเกิน 14 % ซง่ึ จะซื้อ จากชาวนาโดยตรงหรือกลุมํ เกษตรกรหรือสหกรณ์ ชาวนาตํางๆ รูปท่ี 12 แสดงข๎าวสารจากโรงสขี า๎ วตัวอยาํ งสวนจติ รลดา ทม่ี า : https://travel.mthai.com/blog/144578.html

202.2.2.2.โรงบดแกลบ จากท่พี ระบาทสมเดจ็ พระเจ๎าอยํูหัวฯ ทรงมีพระราชดารใิ หน๎ าแกลบท่ีได๎จากโรงสีข๎าวตัวอยําง สวนจติ รลดามา ใชใ๎ ห๎เกิดประโยชน์ในการปรบั ปรงุ ดนิ และทาเปน็ เช้อื เพลิงแทํงในปพี ทุ ธศักราช 2523 มกี ารทดลองนาแกลบมาทาการบดอดั เปน็ เช้ือเพลงิ แทงํ ซง่ึ ถือวําเป็นการนาวัสดเุ หลอื ใช๎ทางการเกษตรมาใช๎ใหเ๎ กดิ ประโยชน์ และยงั เปน็ การชวํ ยอนรุ กั ษ์ทรัพยากรป่าไม๎ 2.2.2.2.1. การผลิตถาํ นแกลบอดั แทํง -แกลบท่ีจะนามาอดั จะตอ๎ งมีคําความชน้ื ไมเํ กนิ 10% โดยจะถูกสงํ ผํานมาตามทอํ ที่ตอํ มาจากถงั เก็บแกลบ -แกลบจะถูกปลํอยลงสูเํ ครื่องบดอดั ซึ่งภายในเครื่องจะมีกระบอก -อัดเกลียวสกรูเพรส โดยตวั สกรจู ะทาหนา๎ ทบ่ี ด อดั แกลบให๎เป็นแทงํ -มีการใหค๎ วามร๎อน (ทีอ่ ุณหภมู ปิ ระมาณ ๒๕๐-๒๘๐ องศาเซลเซียส แกตํ ัว กระบอก เม่ือแกลบโดนความรอ๎ น สารเซลลูโรส ลิกนิน และคาร์โบไฮเดรตใน ตัวแกลบจะละลายออกมาเคลือบที่ผิว ทาให๎แกลบเกาะกนั เปน็ แทํง -เมอ่ื แทํงแกลบเคลื่อนมาชนสวํ นโคง๎ ของรางทีร่ องรบั แกลบแทํง แทํงแกลบก็จะ หกั และไหลลงมาทางดา๎ นขา๎ งของเคร่อื ง (ผลติ ไดป๎ ระมาณ 1 แทํงตํอ 1 นาที) -ฟืนแกลบที่ไดส๎ ามารถนาไปใช๎เป็นเชอ้ื เพลงิ ได๎ แตํจะมเี ขมาํ สดี า และไมํสามารถ รกั ษาสภาพให๎เป็นแทงํ อยูไํ ดถ๎ ๎า โดนนา้ หรือนา้ ฝน จงึ ตอ๎ งนาฟนิ แกลบดังกลําว ไปผํานการเผา -ในการผลติ ถํานแกลบอัดแทงํ ต๎องนาฟนิ แกลบมาเผาในเตาเผาถาํ น ทีอ่ ุณหภมู ิ ประมาณ 400 องศาเซลเซียสขนึ้ ไป เปน็ เวลา 18-20 ชั่วโมง และอบทงิ้ ไว๎ไมใํ ห๎ อากาศเขา๎ ไปภายในเตาอกี เป็นเวลา 3 วนั โดยจะปลอํ ยให๎เย็นตัวลงเองชา๎ ๆ -สามารถนาเศษวัสดุเหลือใช๎ทางการเกษตรอ่ืนๆ เชํน ขเ้ี ล่อื ย ไล๎ฝกั ข๎าวโพด กะลามะพรา๎ ว มาผสมทาเช้ือเพลงิ อัดแทํงได๎ แตํตอ๎ งคานงึ ถึงปัจจัยในเร่อื งการ ยดึ เกาะเป็นแทํง เชนํ สามารถนากะลามะพร๎าวมาเผาแล๎วบด แล๎วผสมกบั แป้ง มัน 5-10 % เพ่ือผสมกบั แกลบทาเชือ้ เพลิงอัดแทงํ ได๎

21 รปู ที่ 13 แสดงการผลิตแกลบอัดแทํง ทม่ี า : http://www.eppo.go.th/royal/m1700_0002.html 2.2.2.3. โรงปุ๋ยอนิ ทรยี ์ จัดตัง้ ข้นึ เมื่อพุทธศักราช 2528 โดยทาการศึกษาถงึ กระบวนการผลติ ปยุ๋ หมกั จากเศษวสั ดเุ หลือใชท๎ างการเกษตรโดยใชน๎ ้ากากลําซง่ึ เปน็ ของเสยี จากโรงผลติ แอลกอฮอล์ เปน็ตัวเรงํ ในกระบวนการยอํ ยสลาย และยังมีการศึกษาเกย่ี วกบั การนาจลุ นิ ทรยี ส์ ายพันธ์ุตํางๆและไสเ๎ ดือนแดง มาชํวยในการยอํ ยสลายในปัจจบุ นั ได๎มกี ารพัฒนาการผลิตป๋ยุ อินทรยี ์อดั เม็ดเพอื่ เพมิ่ ความสะดวกให๎แกํผู๎ใช๎ 2.2.2.3.1. กระบวนการผลติ แบํงออกเปน็ 2 ผลิตภณั ฑ์คือ 1. ป๋ยุ หมักชนดิ ละเอยี ด - นาเศษหญา๎ แห๎ง (แลว๎ วสั ดเุ หลอื ใชอ๎ ่ืนๆ จากโรงงานตํางๆ) มา กองเปน็ ชน้ั กวา๎ ง 1-2 เมตร ยาว 2-3 เมตร อัดใหแ๎ นนํ - โดยมลู สตั วบ์ นชัน้ กลองหญ๎าใหท๎ ่วั - โรยปยุ๋ ยเู รีย (สูตร 46-0-0) และปุ๋ยสูตร 16-16-16 ลงบนช้นั ผสมเศษ หญ๎า และมลู สตั ว์ - นาสารเรงํ พด. 1 (กลุํมจลุ ินทรียช์ นดิ ตาํ งๆ ที่กรมพัฒนาที่ดินสงํ เสรมิ ให๎ เกษตรกรใช)๎ มาละลายนา้ รดให๎ทวั่ กอง แล๎วรดน้าให๎ชมุ - ทาการกลับปยุ๋ ทกุ สปั ดาห์เพ่ือลดอณุ หภูมทิ ่ีเกิดจากปฏกิ ริ ิยาของการ ยํอยสลายเศษวสั ดขุ องจุลินทรีย์ในการหมกั ปยุ๋ (ประมาณ 75 องศา

22 เซลเซียส) และตอ๎ งมีการตรวจวัดความชนื้ ของกองปุ๋ย หากความช้นื นอ๎ ยควรรดน้าลงไปดว๎ ย - เมอื่ ป๋ยุ หมักได๎ทีจ่ ะสงั เกตไดจ๎ ากเศษวสั ดุจะถูกยํอยสลาย ปุ๋ยมสี นี า้ ตาล เข๎ม อุณหภูมิของปยุ๋ ลดลงจนเป็นปกติ (ไมเํ กิน 40 องศาเซลเซียส) มี ความชนื้ ไมํเกิน 30% ไมมํ ีกลิ่นเหม็นใหน๎ าปยุ๋ ไปเขา๎ โรงเรือน ทาการ บดและรํอน (เอาเศษท่ีไมํยํอยสลายออก) เพื่อทาเปน็ ปุ๋ยหมกั ชนดิ ละเอยี ดแลว๎ นาไปบรรจถุ งุ 2. ปุย๋ อนิ ทรยี ์อดั เมด็ (ปุ๋ยหมัก 100 กิโลกรมั สามารถผลิตปุ๋ยอัดเมด็ ได๎ 60 กิโลกรมั ) - นาปุ๋ยหมกั ทบี่ ดรํอนแล๎วเข๎าเคร่อื งอดั เมด็ - นาเมด็ ป๋ยุ ท่ีไดไ๎ ปตากแดดประมาณ 2-3 วนั - นาไปบรรจุถงุ 2.2.2.3.2. ผลิตภณั ฑ์ -ป๋ยุ หมักชนิดละเอียด -ป๋ยุ อนิ ทรยี ์อัดเมด็2.2.3. กลมุํ งานอุตสาหกรรมผลไม๎ 2.2.3.1. โรงน้าผลไม๎สวนจติ รลดา เร่มิ ดาเนนิ การในปพี ุทธศกั ราช 2527 เนื่องจากศูนย์รวมนมสวนจิตรลดา ได๎เลกิ ใช๎ เครือ่ งพาสเจอร์ไรส์เกาํ ซ่ึงมีอายกุ ารใชง๎ านนานเกือบ 10 ปี แตํยงั ใชง๎ านได๎ดีจงึ นามาใช๎ใน การสาธติ การผลิตน้าผลไม๎พาสเจอร์ไรส์ โดยเร่มิ จากการผลิตนา้ ส๎มและนา้ อ๎อยพาสเจอร์ ไรส์ ซึง่ มีราคาตกตา่ ในชํวงเวลานนั้ 2.2.3.1.1. กระบวนการผลิต -รับซอ้ื ผลไม๎จากเกษตรกรและสหกรณ์ -การเตรียมนา้ ผลไมเ๎ พื่อทจี่ ะเข๎ากระบวนการพาสเจอร์ไรสส์ ามารถแบํงออกเป็น 3 วธิ ี ไดแ๎ กํ 1. ผลไมส๎ ด

23แบํงเปน็ 2 ประเภทยํอยได๎แกํ- ชนดิ คัน้ เอานา้ (เชนํ ส๎ม อ๎อย มะนาว) จะบีบคนั เอาน้าแล๎วกรองกากออกดว๎ ยผา๎ ขาวบาง- ชนิดต๎มสกดั นา้ ออก (เชํนแห๎ว รากบัว ใบเตย ใบบวั บก ขิง ตะไคร)๎ จะนาไปต๎มสกัดน้าออกแล๎วกรองกากออกด๎วยผา๎ ขาวบาง2. ผลไมแ๎ ห๎ง(เชํน มะตูม เก๏กฮวย ลาไยกระเจ๊ยี บ) จะนาไปต๎มสกัดน้าออกและกรองกากออกด๎วยผ๎าขาวบาง3. น้าผลไมเ๎ ข๎มขน๎(มะมํวงและล้ินจี่ซ่งึ เปน็ ผลไม๎ที่ออกเป็นฤดกู าล) เม่ือผลไม๎ออก จะนามาทาเปน็นา้ ผลไมเ๎ ข๎มข๎นเก็บไว๎แล๎วนามาทาใหเ๎ จือจางโดยการเตมิ น้าตม๎ สุก - เติมน้าเชอ่ื มฟรกุ โตส เพื่อเพิ่มความหวานตามอัตราสวํ นท่ีกาหนด ในมาตรฐานการผลิต ยกเว๎นน้าลาใหญํจะเพ่มิ ความหวานโดยเติมน้าเชื่อม จากน้าตาลทรายที่ผาํ นการต๎ม และกรองเอาสิง่ สกปรกออกแลว๎ เพ่ือรกั ษา รสชาด - กอํ นทาการพาสเจอร์ไรส์จะทาการล๎างเคร่ืองดว๎ ยน้าร๎อน - ทาการพาสเจอร์ไรส์ทอ่ี ุณหภูมิประมาณ 80-95 องศาเซลเซยี ส ข้ึนอยูํกับชนิดของนา้ ผลไม๎ วัตถดุ ิบท่ผี ํานเข๎ากระบวนการ แล๎วจงึ ลด อณุ หภมู ิที่ 2-5 องศาเซลเซยี สโดยกระบวนการท้งั หมดใช๎เวลาประมาณ 16 วนิ าที - แล๎วนามาบรรจุใสขํ วดพลาสติกซ่ึงผาํ นการล๎างดว๎ ยนา้ รอ๎ น อณุ หภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียสและปดิ ผนกึ ฝาฟอยด์ - เนื่องจากไมํมกี ารใสวํ ตั ถุกนั เสียนา้ ผลไมพ๎ าสเจอรไ์ รส์ จงึ ต๎องเก็บท่ี ท่มี คี วามเย็นโดยจะสามารถเก็บไดป๎ ระมาณ 7-10 วนั ในอณุ หภูมปิ กติจะ เก็บได๎ไมํเกิน 3 ชว่ั โมง

242.2.3.2. โรงน้าผลไม๎บรรจกุ ระป๋อง ในปพี ทุ ธศักราช 2535 โครงการ สวํ นพระองคส์ วนจติ รลดาได๎รบั ความรวํ มมอื จากสถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา๎ เจ๎าคณุ ทหารลาดกระบัง ในการเร่มิ โครงการผลติ นา้ ผลไม๎บรรจกุ ระป๋องเพ่ือเปน็ โรงงานขนาดเลก็ ตน๎ แบบและเป็นตัวอยาํ งการดาเนินงานอยํางครบวงจรของกระบวนการผลิตน้าผลไม๎ โดยนา้ ผลไมช๎ นดิ แรกที่ผลิตคอื นา้ มะมวํ งบรรจกุ ระป๋อง 2.2.3.2.1. กระบวนการผลิต การเตรยี มนา้ ผลไมเ๎ พื่อทจ่ี ะเข๎ากระบวนการผลติ สามารถแบํงตามผลไม๎วตั ถุดบิ ออกเปน็ 2 วิธไี ดแ๎ กํ 1. ผลไม๎สด จะบบี คันเอาน้าหรือตม๎ สกดั น้าออกและกรองกากออกด๎วยผา๎ ขาว บาง 2. ผลไม๎แหง๎ (เชนํ มะตูม เก๏กฮวย ลาไย กระเจี๊ยบ) จะนาไปตม๎ สกดั นา้ ออก และกรองกากออกด๎วยผ๎าขาวบาง - เติมน้าเชือ่ มฟรกุ โตส ยกเว๎นน้าลาไย เก๏กฮวย และกาแฟจะเติม นา้ เช่อื มจากนา้ ตาลทรายที่ผาํ นการต๎มแล๎วกรองเอาสงิ่ สกปรกออกแลว๎ เพอื่ รักษารสชาด - บรรจุนา้ ลงกระป๋องผาํ นอุโมงคไ์ ลํอากาศท่ีอุณหภูมิประมาณ 80 องศา เซลเซียส ผนกึ ฝาปิด - เข๎ากระบวนการสเตอร์รไิ รสด์ ๎วยเคร่ืองนง่ึ ความดันเพ่ือฆําเชอื้ โรคที่ อุณหภูมิประมาณ 110 องศาเซลเซียสเป็นเวลาประมาณ 10 นาที ขึ้นอยํกู ับชนิดของนา้ ผลไม๎ และผํานกระบวนการหลํอเย็นให๎นา้ ผลไม๎ ลดอณุ หภูมลิ งมาเป็น 40 องศาเซลเซยี ส แลว๎ จึงปิดฉลาก 2.2.3.2.2. ผลติ ภณั ฑ์ - เนือ่ งจากไมํมกี ารใสํวัตถุกันเสีย น้าผลไม๎บรรจกุ ระป๋องมีอายุการเก็บรักษา ประมาณ 2 ปใี นอุณหภมู ิปกติ - ยังมีการผลิตโจก๏ บรรจกุ ระป๋อง (รสหมแู ละรสไกํ)

25 รูปที่ 14 แสดงผลติ ภณั ฑน์ า้ ผลไมบ๎ รรจุกระป๋องทีม่ า : https://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9590000106049 2.2.3.3. โรงผลไม๎อบแหง๎ ในปพี ุทธศักราช 2527 สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทานเคร่ืองอบผลไม๎ จานวนหน่งึ เคร่ืองให๎โครงการสวํ นพระองคส์ วนจิตรลดา ซึง่ สามารถใชใ๎ นการผลิตกระเทียม อบแห๎งมาจนถงึ ปจั จบุ นั ตํอมาในปพี ุทธศักราช 2538 ภาควิชาฟสิ กิ ส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศิลปากรรํวมกบั มหาวิทยาลยั โฮเฮนไฮน์ และภาคเอกชนของประเทศสหพนั ธ์ สาธารณรัฐเยอรมนี น๎อมเกล๎าฯ ถวายเคร่ืองอบแห๎ง ซ่ึงใช๎แก๏สและไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลงิ และ เครื่องรับรังสีดวงอาทติ ย์ (ติดตงั้ บนดาดฟ้าอาคาร) สาหรบั ผลติ ลมร๎อนเพ่ือการอบแทนการใช๎ แก๏ส แล๎วยังมีเครื่องอบแห๎งพลงั แสงอาทิตยท์ ี่อาศัยหลกั การทางานของเรือนกระจก สาหรบั ใชอ๎ บผลไมแ๎ ละสมุนไพรตํางๆ ติดต้งั บนดาดฟ้าคันดว๎ ย 2.2.3.3.1. กระบวนการผลิต - ผลไมท๎ นี่ ามาแปรรูป ได๎แกํ กลว๎ ยนา้ วา๎ มะเฟือง มะมวํ งมะละกอ สับปะรด และมะเขือเทศ - กระบวนการผลิตสามารถแบงํ ออกเป็น 3 ประเภทได๎แกํ 1. การอบสด ได๎แกํ การอบกล๎วยนา้ ว๎า ซง่ึ จะอบผลไมท๎ ้ังลูกไมํมกี ารเติมนา้ ตาล โดยจะทาการ อบเปน็ เวลา 20 ช่ัวโมง 2. การแชอํ ม่ิ แบบเรว็ จะนาผลไม๎ที่ห่ันได๎ขนาดแลว๎ ไปตม๎ กับนา้ ตาลเป็นเวลา 4-6 ชัว่ โมง แลว๎ ทาการ อบ

26 3. การแชํอ่มิ แบบช๎า จะน้าผลไมท๎ ห่ี ั่นได๎ขนาดแลว๎ ไปแชใํ นสารเคมี เพ่ือยับย้ังการเจริญเตบิ โตของ จุลนิ ทรียแ์ ละคงสภาพสีและเนอ้ื ของผลไมเ๎ ปน็ เวลา 6 ชั่วโมง นาไปลวกด๎วยน้า รอ๎ นแลว๎ แชใํ นนา้ เชอื่ ม โดยทาการเปลีย่ นนา้ เช่ือมทกุ วนั เป็นเวลา 3 วนั แลว๎ จึง นาไปอบแหง๎ เป็นเวลา 10-12 ชั่วโมง 2.2.3.3.2. ผลิตภณั ฑ์ - ผลิตภัณฑ์ผลไมอ๎ บแหง๎ ท่ีไมํมีการใสวํ ตั ถกุ ันเสยี จะมีอายกุ ารเก็บรักษา ประมาณ 6 เดือน - ผลติ ภณั ฑผ์ ลไมอ๎ บแห๎งทผ่ี ํานกระบวนการแชอํ มิ่ แบบช๎าซ่ึงมีการเติม สารเคมลี งไปจะมีอายุการเกบ็ รักษาประมาณ 1 ปี2.2.4. กลุํมงานเกยี่ วกับสาหราํ ยเกลียวทองและเห็ด 2.2.4.1. โรงเพาะเล้ียงสาหรํายเกลยี วทอง ในปพี ทุ ธศักราช 2529 หนวํ ยวจิ ัยและพฒั นาไดศ๎ ึกษาความเปน็ ไปไดใ๎ นการนาน้ากาก มลู หมัก (ผลพลอยไดจ๎ ากการผลิตกา๏ ซชวี ภาพ) มาเพาะเลี้ยงสาหรํายเกลียวทอง เพื่อ นามาใช๎เปน็ สํวนผสมของอาหารเลยี้ งปลา (นลิ ) ตอํ มาได๎ทาการวิจัยพบวาํ สาหราํ ยเกลียว ทองมีโปรตีนสงู ถึง 60-70% ของนา้ หนักแห๎ง รวมถึงวติ ามินและ สารอาหารตาํ งๆ ทีม่ ี ประโยชนต์ ํอราํ งกาย จึงปรับเปล่ยี นมาเลย้ี งในน้าสะอาด เพื่อนามาผลิตเป็นอาหารเสรมิ สุขภาพในปีพุทธศกั ราช 2540 รปู ที่ 15 แสดงโรงเพาะเลี้ยงสาหราํ ยเกลียวทอง ทม่ี า : https://travel.mthai.com/blog/144578.html

27 2.2.4.1.1. ผลิตภณั ฑแ์ ละกระบวนการผลติ 1. สาหรํายผงบรรจุแคปซูล: แคปซลู ทามาจากเจลาติน บรรจุสาหรํายผง 500 มลิ ลกิ รัมตอํ แคปซลู และผาํ น การฉายรงั สี (แกมมา) ท่ีกรมปรมาณูเพื่อสันติ เพื่อลดปรมิ าณสสารทท่ี าใหเ๎ กิดโรคกํอนจะ บรรจใุ สกํ ลํอง 2. ขา๎ วเกรยี บรสสาหราํ ยเกลียวทอง: ผสมผงสาหราํ ยประมาณ 3-5% กับแปง้ มนั พริกไทย กระเทียม และเกลือแล๎ว นามานวดใหเ๎ ขา๎ กนั ปน้ั เปน็ แทํงยาวประมาณ 1 ฟตุ ตอํ จากนัน้ นาไปนึง่ ให๎สุก ประมาณ 2 ช่ัวโมง นาไปแชเํ ยน็ ให๎เปน็ แปง้ ข๎าวเกรยี บ แข็งคงตัว แลว๎ จึงนามาตัด ใหเ๎ ปน็ แผํนบาง นาไปอบทีอ่ ุณหภมู ิ 55-60 องศาเซลเซยี ส นาน 5-6 ชว่ั โมง เกบ็ ข๎าวเกรยี บแหง๎ ไวป๎ ระมาณ 1-2 สปั ดาห์ แลว๎ จึงนาไปทอดดว๎ ยน้ามนั พชื ข๎าว เกรียบมีอายุการเก็บรักษาประมาณ 3 เดอื น 2.2.4.2. โรงเพาะเหด็ หนํวยวจิ ัยและพฒั นาไดเ๎ ร่ิมศึกษาเก่ยี วกับการเพาะเลยี้ งเห็ด ต้ังแตํพทุ ธศักราช 2531โดยมรวตั ถปุ ระสงค์มงํุ เน๎นการนาเศษวสั ดุเหลือใช๎ทางการเกษตรเปน็ วตั ถุดบิ ในการเพาะเหด็เดมิ มกี ารทดลองเพาะเหด็ ฟาง เห็ดนางฟ้าและเห็ดหลนิ จือ เน่อื งจากสรรพคุณทางการแพทย์ทาใหค๎ วามต๎องการของเหด็ หลนิ จือมมี าก ในปจั จบุ ันโครงการฯจงึ ดาเนนิ การเพาะเฉพาะเหด็หลนิ จอื 2.2.4.2.1. ผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต 1. เห็ดหลินจือสกัดชนดิ บรรจุแคปซลู : นาเหด็ หลนิ จือ มาต๎มกับน้าสะอาด นาน 4-5 ชวั่ โมง แลว๎ ทาการระเหยน้าออก แล๎วนาไปพนํ เป็นผง ดว๎ ยวธิ กี าร สเปรย์ดราย (spray dry) แลว๎ จงึ นาไปบรรจแุ คปซูล จากนั้นนาไปฉายรงั สที ี่กรม ปรมาณเู พ่อื สันติ เพ่อื ฆาํ เชื้อจุลนิ ทรยี ก์ อํ นบรรจุลงขวด 2. เหด็ หลนิ จือแผํนอบแห๎ง : ใชต๎ ๎มนา้ ร๎อนเหมือนน้าชา แตจํ ะมรี สชาตขิ มมาก นาเห็ดหลนิ จอื มาห่ันเปน็ ชน้ิ แลว๎ นาไปอบแห๎งท่ีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซยี ส เป็น

28 เวลา 5 ชวั่ โมง และทาการอบท้งั หมด 3 ครง้ั เพอื่ ให๎มีความ๎นเหลอื อยํูไมํเกนิ 14% มีอายุการเก็บรกั ษาประมาณ 1 ปี 3. นา้ เห็ดหลนิ จอื ผสมนา้ เก๏กฮวย หรือน้าผ้งึ พร๎อมดืม่ : นาเหด็ หลินจอื มาต๎ม กับน้าสะอาดนาน 4-5 ช่วั โมง ได๎น้าเหด็ หลินจือ ซง่ึ จะนามาผสมกบั น้าเกก็ ฮวย หรอื น้าผ้งึ แล๎วนาไปผํานดารสเตอรร์ ไิ รส์ และบรรจุกระป๋อง 4. ผลติ ภณั ฑแ์ บบชนิดเกล็ด : ไดแ๎ กํ รสเห็ดหลินจอื เหด็ หลินจือรสกระเจย๊ี บ เห็ดหลนิ จอื รสนา้ ผ้ึง ใชช๎ งกับน้าร๎อน นาเหด็ หลินจือมาต๎มกบั น้าสะอาดนาน 4-5 ชวั่ โมง แล๎วทาการระเหยนา้ ออกเติมน้าตาลแลคโตส (หรอื น้ากระเจีย๊ บ หรอื น้าผง้ึ ) แล๎วนาเขา๎ เครื่องแกรนูลเปยี กทาการอบแห๎ง แล๎วนาเข๎าเครื่องแกรนูลเล็ก เพ่ือบดละเอียดทาการอบอีกคร้ังเพื่อใหม๎ ีความช้ืนเหลอื อยํูไมํเกนิ 2% แล๎วนาไป บรรจขุ วด 5. ผลิตภณั ฑล์ กู อม (ชนดิ เกลด็ ตอกเม็ด) : ได๎แกํ รสเห็ดหลินจือ เห็ดหลนิ จือร สกระเจีย๊ บ เห็ดหลินจือรสน้าผึง้ นาผลิตภณั ฑแ์ บบชนิดเกล็ดมาผสมกบั สารตอก เมด็ (แกรนลู เด๏กโตส แมกนเี ซยี มสเตยี เรต มาลกิ แอสิด และแปง้ ทัลคัม) นาไป ตอกเปน็ เม็ด แล๎วนาไปบรรจุขวด รูปท่ี 16 แสดงเหด็ หลนิ จือ ท่มี า : https://travel.mthai.com/blog/144578.html2.2.4.3. โรงหลอํ เทียนหลวง 2.2.4.3.1. กระบวนการผลติ สามารถแบํงไดต๎ ามผลิตภณั ฑ์ ได๎แกํ

29 1. เทยี นพรรษาพระราชทานหรือเทียนพรรษาสแี ดง เปน็ เทยี นที่พระบาทสมเด็จพระ เจ๎าอยหํู วั ฯ พระราชทานให๎พระอารามหลวงในเทศกาลเข๎าพรรษา โดยจะจัดทาขน้ึ ปี ละประมาณ 40 ตน๎ ลวดลายท่ีจะทามลี ายเดยี ว คือ ลายกา๎ นแยํง - ในขณะเคยี่ วเทยี น จะเติมฝุน่ สีแดงผสมนา้ มันซักแห๎งลงไปในขี้ผงึ้ - เทขีผ้ งึ้ ท่เี คย่ี วลงแมํพมิ พ์ซ่งึ ทาจากยางซิลิโคน และครอบด๎วยไฟเบอรก์ ลาส ใชเ๎ วลา ประมาณ 1 วัน เพอํ ใหเ๎ ทยี นแขง็ ตัว - เอาตน๎ เทยี นออกจากแมํพิมพ์มาตัง้ บนฐานไม๎ ตกแตํงเกบ็ รายละเอยี ดลวดลายเพม่ิ เติมใหเ๎ รยี บรอ๎ ย พร๎อมติดทองคาแท๎ (ทองคาเปลว) - หนกั ประมาณ 5 กิโลกรมั ตํอแทํง 2. เทยี นพรรษา (สาหรบั จาหนํายแกบํ ุคคลท่วั ไป): - ผลิตโดยวิธกี ารเดียวกนั กับการหลํอเทียนพรรษาพระราชทาน แตไํ มํมีการเตมิ สแี ละ นา้ มนั ลงไปในขณะทาการ เค่ียวเทียน - ลวดลายทีท่ าในปัจจุบันจะทาเฉพาะลายเทพพนม 3. เทยี นเลมํ (ท่ใี ช๎ในพระราชพิธ)ี : - นาข้ีผึง้ ที่ผํานการเคยี่ วแล๎วมาเทใสํในเครื่องหลํอเทียนเลมํ ซ่งึ ภายในเครื่องหลํอเทยี น จะมีแมํพิมพ์ทาดว๎ ยทองแดง - เปิดทํอน้าเยน็ หลํอไวป๎ ระมาณ 30 นาทีใหเ๎ ทียนแข็งตัว - จากนน้ั เปิดทํอนา้ รอ๎ น เพ่ือให๎สามารถถอดเทียนออกจากแบบแมพํ ิมพ์ได๎งําย - แล๎วจึงหมนุ เฟืองข้ึน โดยจะยกเทยี นขึ้นเปน็ ชุดๆ (ชน้ั ) - ยกเทียนขน้ึ จนเต็ม (ประมาณ 4-5 ช้นั ) แลว๎ จึงทาการตดั เทียน โดยจะทาการตัดทลี ะ แถว สวํ นฐานท่เี กินออกมาก็จะนากลับไปเค่ียวทาเปน็ เทยี นได๎อีกคร้งั2.2.5. กลํุมงานทดลองผลิตภณั ฑเ์ ช้อื เพลงิ 2.2.5.1. งานคน๎ ควา๎ วิจยั เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ เร่ิมดาเนนิ การในปีพุทธศกั ราช 2528 ตามพระราชกระแสรับส่ังของพระบาทสมเด็จ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ที่ให๎ศกึ ษาต๎นทนุ การผลติ แอลกอฮอล์จากออ๎ ย เพอ่ื เป็น พลังงานทดแทน ซงึ่ อาจเปน็ ทางแก๎ไขหากเกิดเหตกุ ารณ์น้ามนั ขาดแคลน หรอื อ๎อยราคา ตกต่า พระบาทสมเดจ็ พระเจา๎ อยํูหวั ฯ พระราชทานพระราชทรัพยส์ วํ นพระองค์ จานวน 925500 บาท เป็นการจัดสร๎างอาคารและอปุ กรณต์ ํางๆ

30รปู ท่ี 17 แสดงพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดชทรงทาการศกึ ษาตน๎ ทุนการผลติ แอลกอฮอล์ จากอ๎อย ทีม่ า : https://travel.mthai.com/blog/144578.html 2.2.5.1.1. กระบวนการผลติ แอลกอฮอล์ 1. นากากนา้ ตาลมาทาการหมักกบั ยสี ต์ เป็นเวลา 48 ชว่ั โมง จะได๎ แอลกอฮอล์ 10-11% (ดีกรี) ซ่งึ มีความบริสุทธ์ิ ไมํสูงมากพอ จงึ ตอ๎ งนาไปทาการ กลนั่ ตํอในหอกล่ัน 2. โดยหอท่ี 1 จะกลน่ั ไดแ๎ อลกอฮอล์ 50%และน้าสํา ซึ่งน้าสาํ สามารถนาไป รดบนกองป๋ยุ ในกระบวนการผลิตปยุ๋ หมกั 3. สํวนแอลกอฮอล์ 50% จะถูกสํงตอํ ไปกล่นั ที่หอท่ี 2 เพอ่ื ใหไ๎ ด๎แอลกอฮอล์ 95% และนาไปพักที่หอเก็บ 2.2.5.2. กระบวนการผลิตแกส๏ โซฮอล์ แก๏สโซฮอล์ คือ แกส๏ โซลนี (gasoline) หรือนา้ มันเบนซินผสมกับแอลกอฮอล์ (เมททวิ แอลกอฮอล์ methyl alcohol หรอื เอทิลแอลกอฮอล์ ethyl alcohol กไ็ ด๎) 2.2.5.2.1 นาแอลกอฮอล์ 95% มาทาการแยกน้า เพ่ือเพ่ิมความเขม๎ ข๎น ซงึ่ สามารถทา ได๎ 2 วธิ ี คอื

31 1. ระบบโมเลกุลาซีฟ (molecular sieve) เปน็ ระบบทใี่ ช๎ทัว่ ไปใน อตุ สาหกรรมการผลิตแอลกอฮอล์ 2. ระบบเมมเบรน (membrane) เปน็ การแยกน้าด๎วยระบบคอมพวิ เตอร์ (ปจั จบุ ันไมํไดใ๎ ช๎ เน่ืองจากระบบ ดงั กลําว เหมาะกบั การแอลกอฮอล์ทีม่ ีความ บรสิ ทุ ธส์ิ งู เชํน ทีใ่ ช๎ในกระบวนการทางการแพทย)์ 2.2.5.2.2. นาเอทิลแอลกอฮอลท์ ีม่ คี วามบรสิ ุทธ์ิ 99.5% มาผสมกับน้ามนั เบนซนิ ใน อตั ราสํวน 10:90 หรือสตู ร บี 10 ในถงั ผสม ซง่ึ มีมอเตอรป์ นั ใหส๎ ํวนผสมเขา๎ กัน เป็น เวลา 30-60 นาที จะไดแ๎ กส๏ โซฮอลเ์ น่ืองจากเอทิลแอลกอฮอลท์ ่ผี ลิตได๎มีคุณสมบัติใน การเพิ่มคําออกเทน (octane) ดงั นัน้ ในการผลติ แก๏สโซฮอล์ 95 จะใชน๎ ้ามนั เบนซินคํา ออกเทน 91 มาผสมกบั แอลกอฮอล์ สวํ นการผลติ แก๏สโซฮอล์ 91 จะใช๎น้ามนั เบนซิน คําออกเทน 87 มาผสม 2.2.5.3. งานคน๎ คว๎าวิจัยเก่ยี วกับไบโอดีเซล ไบโอดเี ซล คือ นา้ มนั ดเี ซลที่ได๎จากส่ิงมชี วี ิต ทงั้ พืช (เชนํ ปาลม์ นา้ มัน มะพร๎าว สบํดู า งา ทานตะวัน ซ่งึ เป็นพชื น้ามันตามธรรมชาติ) และ สัตว์ เร่ิมจากการค๎นคว๎าเกี่ยวกบั การนา นา้ มนั ปาล์มมาใช๎เดิมเครื่องยนต์ดเี ซล ซึ่งผลการศึกษาพบวํา สามารถใช๎ได๎แตํ น้ามันมีความ หนืดสูง อาจกํอให๎เกิดปัญหาการอุดตันบรเิ วณหวั ฉดี ของเครือ่ งยนต์ทใ่ี ช๎ระบบหัวฉดี น้ามัน เชํน รถยนต์ เครื่องดเี ซลท่ัวไป จึงเหมาะกบั เครื่องยนตร์ อบตา่ เชํน รถแทรกเตอร์มากกวาํ และยังเป็นการส้นิ เปลอื ง เนื่องจากนา้ มันปาลม์ มรี าคาแพง ควรนาไปใชใ๎ นการบริโภค มากกวาํ ปัจจบุ ันจึงทาการศึกษาเกี่ยวกับการผลิตไบโอดเี ซลจากน้ามันพชืรูปที่ 18 แสดงพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงงานเกยี่ วกบั ไบโอดีเซล ทีม่ า : https://travel.mthai.com/blog/144578.html

322.2.5.3.1 กระบวนการผลติ 1. นาโซดาไฟ หรือโซเดยี มไฮดรอกไซด์ (1.73 กโิ ลกรมั ) มาละลายดว๎ ย เอทลิ แอลกอฮอล์ 99.5% (177 ลิตร) ในถังผสมสารเคมี เปดิ มอเตอร์กวนเป็น เวลาประมาณ 90 นาที 2. อํนุ น้ามันพืชท่ใี ชแ๎ ลว๎ ทรี่ ับมาจากห๎องเครื่อง (ประมาณ 300 ลิตร) ในถงั ให๎ ไดอ๎ ุณหภมู ิ 60 องศาเซลเซยี ส 3. นาสารละลายเอทลิ แอลกอฮอลก์ บั โซดาไฟทกี่ วนไวแ๎ ลว๎ มาผสมกับน้ามนั พืช ในถงั และเปดิ มอเตอร์กวนเป็นเวลา 90 นาที หลงั จากนน้ั สงํ เขา๎ ถังล๎างนา้ รอให๎ เกิดการแยกชนั้ ระหวํางเอทิลเอสเทอร์ (ไบโอดเี ซล) และกลเี ซอรนี 4. ทาการแยกกลเี ซอรนี ออกจากเอทิลเอสเทอร์ โดยกลเี ซอรนี ท่ีแยกออกจะ ถกู สงํ เข๎าสูํถงั เก็บทแ่ี ยกออกมา เมือ่ ไปผํานการทาใหบ๎ ริสทุ ธิ์ สามารถนาไปเปน็ วัตถุดิบในการผลติ สบไูํ ด)๎ 5. ทาความสะอาดไบโอดีเซล โดยเตมิ น้าประปาลงในถังลา๎ งน้า และใช๎ลมเป่า ชวํ ยในการกระจายประมาณ 15-20 นาที ปดิ ลมเปา่ รอให๎เอสเทอร์แยกช้ัน ออกมาจากไบโอดีเซล ซ่ึงใช๎เวลาประมาณ 3 ชว่ั โมง แล๎วจงึ เปิดวาล์วก๎นถัง เพ่อื ปลํอยน้าลา๎ งท้ัง ทาความสะอาดไบโอดีเซลอกี รอบ 6. นาไบโอดเี ซลมาผํานเคร่ืองแยกนา้ เพ่ือแยกน้าท่ียงั เหลือออกจากไบโอดเี ซล และได๎ไบโอดเี ซลที่พร๎อมใชง๎ าน

33 บทที่ 3 วธิ ีการดาเนนิ โครงงาน3.1 วธิ ีท่ใี ช๎ในการศึกษาคน๎ คว๎าเพอื่ ดาเนินโครงงาน - ศกึ ษาคน๎ คว๎าแบบการวจิ ัยแบบเอกสาร3.2 ลกั ษณะข๎อมูล การเลือกข๎อมูลและเหตผุ ลในการเลอื กขอ๎ มูล - เป็นข๎อมลู ทุติยภูมิ ซ่ึงรวบรวมมาจากหนงั สอื และอินเทอร์เน็ต3.3 เครื่องมือและวิธกี ารดาเนินโครงงาน 3.3.1 เคร่อื งมอื คอมพิวเตอร์ ASUS NOTEBOOK K450L Intel core I7-4500u 1.8 GHz ASUS NOTEBOOK K456U Intel core I5-7200u 3.1 GHz ACER NOTEBOOK Intel core I3-5005u 2.0 GHz COMPAQ PRESARIO CQ403.4 ข้ันตอนในการรวบรวมข๎อมูล 3.4.1. กาหนดวัตถุประสงคแ์ ละขอบเขตการศึกษา - ศกึ ษาประวัตทิ ่มี าและวธิ ีการดาเนนิ การของแตลํ ะโครงการยํอย 3.4.2. กาหนดแหลงํ ข๎อมูล 3.4.2.1. เว็บไซตอ์ นิ เตอร์เน็ต 3.4.2.2. หนงั สือ 3.4.3. เลอื กวิธกี ารเกบ็ รวบรวมข๎อมลู 3.4.3.1. การรวบรวมข๎อมลู จากเอกสาร 3.4.4. ลงมือเก็บรวบรวมข๎อมูล

34บทที่ 4 ผลการวเิ คราะห์ข๎อมลูจากการคน๎ ควา๎ หาข๎อมลู พบวาํ โครงการทไี่ มใํ ชํธรุ กิจแบํงออกเปน็ 5 โครงการด๎วยกนั ดังนี้ 1. โครงการนาข๎าวทดลอง 2. โครงการปา่ ไมส๎ าธติ 3. โครงการปลานลิ 4. งานหัตถกรรมศิลป์ 4.1. โรงงานกระดาษสา 5. กลํมุ พลงั งานทางเลอื ก หรือพลังงานทดแทน 5.1. กังหันลม 5.2. บา๎ นพลังงานแสงอาทติ ย์ 5.3. ระบบสบู นา้ ด๎วยพลังงานแสงอาทติ ย์และโครงการก่งึ ธุรกจิ แบํงออกเป็น 5 กลุํมงาน ดงั นี้ 1. กลมํุ งานอุตสาหกรรมนม ได๎แกํ 1.1. โรงโคนมสวนจติ รลดา 1.2. โรงนมผงสวนดุสติ 1.3. ศนู ยร์ วมนมสวนจิตรลดา 1.4. โรงนมอัดเม็ดสวนดสุ ติ 1.5. โรงเนยแข็งสวนจิตรลดา 1.6. โรงนมยเู อชที สวนจติ รลดา 2. กลํมุ งานเกี่ยวกับโรงสีข๎าวตวั อยาํ งสวนจิตรลดา โรงบดแกลบ และโรงปุย๋ อนิ ทรยี ์ ได๎แกํ 2.1. โรงสีข๎าวตัวอยาํ งสวนจิตรลดา 2.2. โรงบดแกลบ 2.3. โรงปุย๋ อนิ ทรีย์ 3. กลมํุ งานอตุ สาหกรรมผลไม๎ ได๎แกํ 3.1. โรงนา้ ผลไม๎สวนจิตรลดา 3.2. โรงน้าผลไม๎บรรจุกระปอ๋ ง

35 3.3. โรงผลไมอ๎ บแหง๎4. กลํมุ งานเก่ยี วกับสาหราํ ยเกลยี วทองและเห็ด ได๎แกํ 4.1. โรงเพาะเลี้ยงสาหราํ ยเกลยี วทอง 4.2. โรงเพาะเหด็ 4.3. โรงหลํอเทยี นหลวง5. กลมํุ งานทดลองผลิตภณั ฑเ์ ช้อื เพลิง ไดแ๎ กํ 5.1. งานคน๎ ควา๎ วิจยั เกย่ี วกบั แอลกอฮอล์ 5.2. กระบวนการผลิตแก๏สโซฮอล์ 5.3. งานคน๎ ควา๎ วจิ ัยเกี่ยวกบั ไบโอดเี ซลซึ่งสามารถเขยี นเป็นเส๎นเวลาพัฒนาการของโครงการสํวนพระองค์ สวนจิตรลดาได๎ดังน้ี 2504 โครงการนาข๎าวทดลอง โครงการปา่ ไมส๎ าธติ2506 โรงโคนมสวนจิตรลดา2508 โครงการ ปลานลิ2512 โรงนมผง ศูนยร์ วมนม2514 โรงสีขา๎ วตวั อยําง2515 กงั หันลม2523 โรงบดแกลบ2527 โรงน้าผลไม๎ โรงผลไม๎ โรงนม อบแห๎ง อัดเม็ด2528 งานค๎นคว๎าวจิ ยั เกีย่ วกบั โรงปุ๋ย แอลกอฮอล์ อนิ ทรีย์

362529 โรงเพาะเลีย้ ง โรงหลํอ สาหรํายเกลียวทอง เทียนหลวง2530 โรงเนยแขง็2531 โรงเพาะเห็ด2535 โรงงาน โรงนา้ ผลไมบ๎ รรจุ กระดาษสา กระป๋อง2537 กระบวนการผลติ แกส๏ โซฮอล์2539 บา๎ นพลงั งาน แสงอาทิตย์2543 งานคน๎ ควา๎ วิจยั เกี่ยวกับไบโอดีเซล2546 โรงนมยูเอชที2549 ระบบสบู นา้ พลงั งาน แสงอาทติ ย์

37บทที่ 5 สรุปและอภิปราย5.1 สรปุ ผล - ได๎ทราบประวตั ิท่มี าของโครงการทีไ่ มใํ ชํธุรกิจทัง้ หมด 7 โครงการและโครงการก่ึง ธุรกิจทง้ั หมด 18 โครงการ5.2 อภิปรายผล - โครงการท่ีไมํใชํธุรกจิ เรมิ่ ตน๎ ที่โครงการนาขา๎ ทดลองและโครงการปา่ ไม๎สาธติ ในปี 2504 จากนนั้ ในปี 2508 เกิดโครงการปลานลิ และเริม่ มโี ครงการกึง่ ธุรกจิ ขึ้นมา เร่อื ยๆ จนในปี 2515 บรษิ ทั อุสาพัฒนาเศรษฐกจิ จากัด ไดน๎ อ๎ มเกล๎าฯ ถวายกงั หนั ลม จันวน 1 ตวั (ติดต้ังบรเิ วณบํอปลานิล) เพ่ือใช๎ในการศึกษาเกีย่ วกบั การใช๎ ประโยชนจ์ ากพลังงานลม ในปี 2535 และ 2539 ได๎จดั ต้งั โรงงานกระดาษสาและ บ๎านพลังงานแสงอาทติ ยต์ ามลาดบั จนกระท่ังปี 2549 ไดม๎ ีระบบสูบน้าพลงั งาน แสงอาทิตย์ - โครงการก่งึ ธรุ กิจ โครงการแรกคือ โรงโตนมสวนจิตรลดา เร่มิ ตน๎ ในปี 2506 จาก การน้ันได๎มีโครงการเก่ยี วกบั อุตสาหกรรมนมมาเร่อื ยๆ เพอื่ ชวํ ยเหลอื เกษตรกร ไดแ๎ กํ โรงนมผงสวนจิตรลดาและศนู ยร์ วมนมสวนจติ รลดา ในปี 2512 โรงนมอดั เม็ด สวนดุสิตในปี 2527 ตํอมาในปี 2530 ตัดตัง้ โรงเนยแข็งสวนจิตรลดา และในปี 2546 จึงเกิดโรงนมยูเอชทีขน้ึ นอกจากโครงการเกย่ี วกบั อุตสาหกรรมนมแลว๎ ยงั มี โครงการท่เี กีย่ วกบั อุตสาหกรรมผลไม๎ ไดแ๎ กํ โรงน้าผลไม๎และโรงผลไมอ๎ บแห๎ง ซ่ึง กอํ ตัง้ ในปเี ดียวกันกบั โรงนมอัดเมด็ สวนดสุ ติ และโรงนา้ ผลไม๎บรรจกุ ระป๋องในปี 2535 อกี ทัง้ ยังมีงานวจิ ยั เกยี่ วกับพลงั งานเชอ้ื เพลิงซ่งึ เปน็ ประโยชนอ์ ยาํ งมากในการ ใช๎เปน็ พลงั งานทดแทน ทรงค๎นควา๎ งานคน๎ คว๎าวจิ ัยเกย่ี วกับแอลกอฮอล์ในปี 2528 พร๎อมกับโรงปุ๋ยอินทรยี ์ ซงึ่ ทัง้ 2 โครงการนนั้ เกย่ี วข๎องกันโดยผลิตปุ๋ยหมักจากเศษ วสั ดุเหลอื ใชท๎ างการเกษตรและใช๎นา้ กากลาํ ซ่ึงเปน็ ของเสียจากโรงผลติ แอลกอฮอล์ เปน็ ตัวเรงํ ในกระบวนการยอํ ยสลาย และยงั มีงานงานค๎นคว๎าวิจัยเกยี่ วกบั ไบโอดีเซล

38 ในปี 2543 เพ่อื ชวํ ยเหลือเกษตรกรในยคุ ท่นี ้ามนั มรี าคาแพงอกี ดว๎ ย นอกจากน้ีกลุมํ ยงั มงี านเกี่ยวกับโรงสขี า๎ วตวั อยาํ งสวนจิตรลดา โรงบดแกลบ ในปี 2514 และ 2523 ตามลาดับ และในปี 2429 ได๎มโี รงเพาะเลย้ี งสาหราํ ยเกลยี วทองและโรงหลอํ เทยี นหลวง ปี 2531 เกิดโรงเพาะเห็ด- จะเห็นได๎วํา แตํละโครงการทั้งโครงการท่ีไมํใชํธรุ กิจและโครงการกึ่งธรุ กจิ มคี วาม เกีย่ วโยงซ่งึ กันและกนั ให๎ความสาคญั กับการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของเกษตรกรอยาํ ง ยง่ั ยืน ใหเ๎ กษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได๎ ควบคํูไปกบั การอนรุ กั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ

39บรรณานุกรมPornphanh. (21 ตุลาคม 2559). พระตาหนักจติ รลดารโหฐาน พระราชวังท่ไี มเํ หมือนทีใ่ ดในโลก!. สบื คน๎ เม่ือ 9 ตุลาคม 2560, จาก https://travel.mthai.com/blog/144578.htmlแกว๎ ขวัญ วชั โรทยั . (2530). สวนจติ รลดา. กรุงเทพมหานคร: ม.ป.พ.จติ ราภรณ์ เตชาชาญ. (2550). สวนจติ รลดา. กรงุ เทพมหานคร: ม.ป.พ.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook