Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore seals

seals

Published by han chihan, 2021-09-01 01:55:55

Description: seals

Search

Read the Text Version

สตั ว์ทะเลน่ารกั โดย ด.ช. ปณณวชญ์ กรี ตอิ นนั ตพ์ ร เลขท2ี 2 ม.2/2 นําเสนอ คุณครู ทศั นีย์ พัดเกาะ

คํานํา สตั วท์ ะเลน่ารักมีมากมาย บางตัวก็มีสสี ัน สวยงาม มอี ยหู่ ลายทบี นโลก บางชนิดพบ ไดใ้ นบางพนื ทีเท่านนั เราจะพาไปดวู า่ สัตว์ แต่ละชนิดมลี กั ษณะอย่างไร ปัณณวิชญ กีรตอิ นันตพร

สารบัญ 1 3 แมวนาํ 5 นากทะเล 6 ปลาปกเปา 7 ปลงิ ปะเล เม่นทะเล

แมวนาํ แมวนาํ จําแนกไดส้ องกลุ่มคือ ไม่มใี บหู และ มีใบหู ประเภทท1่ี แมวน้ําทีม่ ใี บหู ตัวอยางแมวน้ําที่มใี บหู แมวน้ําเคปเฟอรซ ลี (แมวน้ํา แอฟรกิ าใต) ลักษณะของแมวน้ํา ตัวผใู หญก วา ตัวเมยี โดยมีคอเป็นสัน ใหญ สีขนลําตัวของตวั ผเู ป็นสเี ทา-ดาํ และ มสี ีน้ําตาลแซม น้ําหนักราว 247 กิโลกรมั ความยาว 2.15 เมตร ตวั เมียมีสี ลาํ ตัวเป็นสีน้ําตาล-เทา น้ําหนักราว 57 กโิ ลกรมั และมี ความยาว 1.56 เมตร 1

ประเภทที่2 แมวน้ําทไี่ มม ีใบหู ตัวอยางแมวน้ําท่ไี มม ีใบหู แมวน้ําลายพณิ (แมวน้ําหลัง อาน) ลกั ษณะเดน คอื บรเิ วณหลังมลี ายดา งดําคลา ยรูปพิณฝรงั่ พบกระจายพนั ธุอยูบริเวณแถบขวั้ โลกเหนือ แมวน้ําลาย พณิ จะมขี นฟสู ขี าวสะอาด แมวน้ําลายพิณ มอี ายยุ นื ไดถ ึง 30 ปี และเขาสวู ยั เจรญิ พันธุเ ม่อื อายุได 4-8 ปี ขนาดเม่ือโตเตม็ ทอ่ี าจหนักไดถึง 127 กโิ ลกรมั สามารถวา ยน้ําและดําน้ําไดน านกวา 15 นาที โดยไมโผลข ้ึนมาหายใจ และดาํ น้ําไดลึกถึง 275 เมตร เพ่อื อาหารจําพวกปู หรอื ปลา กนิ เป็นอาหาร 2

นากทะเล เป็นสัตวเ ลยี้ งลูกดว ยนมทางทะเลประเภทหน่ึงโดยอาศยั อยบู รเิ วณชายฝั่งตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของ มหาสมุทรแปซฟิ ิก ในวัยเจรญิ พนั ธจุ ะมนี ้ําหนักประมาณ 14–45 กโิ ลกรมั (31–99 ปอนด) นากทะเลเป็นสัตวใ นวงศ เพียงพอน(Mustelidae) ชนิดหน่ึง และเป็นสัตวเลยี้ งลกู ดว ยน้ํานมทางทะเลที่มีขนาดเลก็ ท่สี ดุ อกี ดว ย นากทะเลนัน้ ไมเหมอื นสัตวเลีย้ งลกู ดว ยนมทางทะเลทัว่ ไปเพราะมี ฉนวนกันความรอนดว ยขนทีห่ นาแนน จึงทําใหนากทะเล สามารถหาอาหารในทะเลเป็นเวลานาน ๆ ได 3

นากทะเลจะอาศยั อยูบรเิ วณชายฝั่ง โดยจะดาํ ด่ิงสพู ้ืน ทะเลเพ่ือหาอาหาร อาหารทช่ี อบคอื สาหรายทะเล(ถาเป็น สาหรายเคลทจ ะชอบมาก) เมนทะเล หอยตาง ๆ กงุ บาง ชนิด และปลาบางชนิด นอกจากนี้นากทะเลยังเป็นสตั วท ่ี สามารถวัดความอดุ มสมบูรณของพ้นื ทไี่ ดอกี ดวย ปัจจบุ ัน นักวิทยาศาสตรเ ช่ือวา พฤติกรรมการกินอาหารของนาก ทะเลที่ใชห ินทบุ เปลอื กหอยบนหน าอกตวั เองนัน้ เป็น พฤติกรรมท่มี มี านานเป็นระยะเวลานับหลายลานปี ตัง้ แต ยคุ กอ นประวตั ศิ าสตร โดยถอื วา เป็นพฤติกรรมการกนิ อาหารท่พี ัฒนาข้ึนมาจากการกนิ หรือหาอาหารทวั่ ไปของ สัตวโลก และเป็นสตั วท ะเลชนิดแรกที่มีพฒั นาการเชน นี้ โดยการสงั เกตพฤติกรรมแมแตล กู นากทะเลกาํ พราใน สถานทเ่ี ลีย้ งกย็ งั พบวา มีพฤติกรรมเชน นี้ 4

ปลาปกเปา ตามปรกติปลาปักเป าจะมีสภาพ เหมอื นปลาทัว่ ไป มีหนามสัน้ หรือยาวแลวแตชนิด หากถูกรบกวนจะพองตัวโตข้ึน มีรปู ราง คลายลกู โปง หรอื ลูกบอลลนู หรือคลายผลทเุ รียนลกู กลมๆมี หนามแหลมๆ สนั้ หรอื ยาวไดอยางชดั เจน (เหมอื นในรูป ตัวอยา งทางซา ยมอื ) ทางดานวชิ าการไดจ ัดแบง ปลาปักเป าไว 2 วงศ ไดแ ก 1) Tetraodontidae ลักษณะปลาปักเป า ในวงศน ี้ จะมีฟัน 4 ซี่ มผี วิ ตัวคอนขางเกลยี้ ง 2) Diodontidae ในวงศนี้ มีฟัน 2 ซี่ คลา ยจงอยปากนกแกว และมหี นามรอบตวั เห็นไดชดั เจนกวา ชนิดแรก 5

ปลงิ ทะเล ปลิงทะเล เป็นสตั วไ มม กี ระดูกสนั หลังท่มี รี ูปรางกลมยาว คลาย ไสกรอกขนาดใหญ ปลายทงั้ สองขางเป็นชอ งเปิดของปากและกน ผิวหนังสวนนอกคลายเน้ือยดื หยนุ ได ภายในผวิ หนังมีตมุ เม็ด หนิ ปูนกระจายอยทู ัว่ ไปตามผวิ นอกมตี ิ่งเน้ือเล็ก ๆ คลายหนวดสัน้ ๆ เรยี งอยูเป็นแถว ทาํ หน าที่ชวยในการหายใจและเคล่อื นไหว ปากของปลิงทะเลอยูตอนปลายสุดดา นท่ีมีหนวดมีลกั ษณะคลา ย ตนไมลอมรอบ ทาํ หน าท่ีในการหาอาหาร โดยใชห นวดขดุ โคลนตม หน าดนิ เขาปากผานเขาสรู ะบบทางเดนิ อาหาร และกากท่เี หลือจะ ถา ยออกทางชอ งกน ซ่งึ อยูอีกดานหน่ึง กน ของปลงิ ทะเลเป็นชอง เลก็ ๆ ทําหน าทใ่ี นการขับถายของเสียเป็นทางออกของเช่อื อสจุ ิ และหายใจ ปลงิ มสี ารพิษ โฮโลทลู ิน ซ่งึ ปลอยออกทางผิวหนัง ใช ในการป องกันอันตรายจากปลาและปู 6

เม่นทะเล เมนทะเล มรี ูปรา งกลมมนหรอื อาจจะคอ นขา งแบนแลว แต ชนิด รอบๆ ตัวจะมีสีดําและหนามอยูรอบตวั เมน ทะเลมี หนามแหลมปกคลุมบนลาํ ตวั ซ่งึ มีอยู 2 ชนิดคือหนามใหญ กบั หนามเล็ก หนามใหญ หนามใหญนี้บางชนิดสนั้ บางชนิดยาวและ มักจะเปราะสวนใหญแลวหนามนี้ไมม ีพิษ ซ่งึ มีสวนประกอบ ของหินปูน กับสารอินทรีย เม่ือทิ่มเขา ผวิ หนังของผูเ คราะห รา ยมักจะหกั ติดกบั เน้ือใตผวิ หนัง แมวาจะพยายามบง ออก เทา ไรก็ไมอ อกเพราะวามนั เปราะนัน่ เอง เม่อื ปลอยทิง้ ไว 2 – 3 วันจะละลายหายไปเอง 7

หนามเลก็ ในบางชนิดจะมพี ิษ หนามเลก็ นีสันและเล็กกวา หนามใหญอ ยรู ะหวา งหนามใหญสวนมากจะพบทางดา นลา ง ของลําตวั ในชนิดทีม่ พี ษิ เชน Asthenosoma varium Grube ท่สี ว นปลายหนามจะมถี ุงน้ําพิษอยู เม่อื ทิม่ เขา สู ผวิ หนังจะทาํ ใหไ ดรบั ความความเจ็บปวด แตใ นบางชนิดก็ ไมมีพษิ นอกจากหนามทัง้ สองชนิดดงั กลาวแลว เมนทะเลยงั มี อวยั วะอีกอยางหน่ึงซ่ึงมีลักษณะเป็นกา นเล็กๆ คลา ยเกสร ดอกไมอ ยูระหวา งหนามทัง้ สองปกคลมุ ลําตวั อยูเรียกวา เพดดิเซลลาเรยี กานเลก็ ๆ นี้มีลกั ษณะแตกตางกันไปแลว แตช นิด ซ่ึงจะมเี ขีย้ วพษิ 2 – 4 อนั แตโดยทัว่ ไปมกั จะมี 3 อนั และมีตอ มน้ําพษิ อยู ซ่ึงพษิ นี้ของบางชนิดรา ยแรงมาก อาจจะทําใหผ เู คราะหร ายถงึ แกช ีวิตได ดา นลา งของลาํ ตวั จะมปี าก และ Tube feet ทําหน าที่ คลายขาสาํ หรบั เดนิ ปกตจิ ะพบพวกเมนทะเลอาศยั อยูด วย กันเป็นกลมุ ใหญๆ ตามหาดที่มปี ะการงั หรอื ตามพ้นื ทราย หรอื หาดหนิ ชนิดที่พบมากตามชายฝั่งเกาะภเู กต็ และใน ประเทศไทย เป็นชนิดหนามยาวลาํ ตวั มสี ดี ําทงั้ ตวั พวกนี้ มกั จะหลบซอ นตวั ตามซอกปะการัง ซอกหิน หรือตามโพรง เม่อื มสี ่ิงรบกวนเขา มาใกลๆ มนั จะเบนหนามโดยมีมดั กลา ม เน้ือที่โคนหนามจะดึงหนามเบนเขา หาทิศทางทส่ี ิ่งรบกวน เขามาหา 8

แหล่งอา้ งอิง https://sites.google.com/site/maewnaseal/home/prap heth-khxng-maewna https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8 %B2%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0 %B9%80%E0%B8%A5 https://www.fisheries.go.th/mf- emdec/mainweb/km_html/km_puffer.html https://phuketaquarium.org/knowleadge/sea- cucumber/

End


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook