Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอราวัณ (1)

เอราวัณ (1)

Published by bombeam7971, 2020-02-10 00:52:59

Description: เอราวัณ (1)

Search

Read the Text Version

บบททพพาากกยย์เ์เออรราาววัณณั

บทพากยเ์ อราวณั เป็นตอนหน่ึงใน วรรณคดีเรอ่ื ง “รามเกียรต์ิ” ท่ใี ช้สําหรบั ประกอบการ เเสดงมหรสพ (การเล่นรน่ื เรงิ - โขน ละคร หนังใหญ่ โนรา) โขน หนังใหญ่

ประวตั ิผูแ้ ต่ง✨ •พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รชั กาลที่ ๒) “พระนามเดิมว่า ฉิม” •ทรงเปน็ พระราชโอรสลําดับท่ี ๔ •บิดา : พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช (รชั กาลท๑ี่ ) •มารดา :กรมสมเด็จอมรนิ ทรามาตย์พระบรมราชชนนีพนั ปหี ลวง : บดิ า : มารดา

ประวตั ิผแู้ ต่ง✨ •ทรงพระราชสมภพเมอ่ื วันท่ี ๒๔ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.๒๓๑๐ •เสด็จขน้ึ ครองราชยเ์ ม่อื วันที่ ๘ กันยายาน พ.ศ.๒๓๕๒ •ทรงประชวรด้วย โรคพิษไข้ ไม่รูส้ กึ พระองค์เปน็ เวลา ๘ วนั •เสด็จสวรรคตเมือ่ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๓๖๗ •ครองสิรริ าชสมบตั ิรวม ๑๕ ปี (๑๔ ปี ๓๑๗ วนั ) : พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลยั (รัชกาลที่ ๒) ทรงเชย่ี วชาญด้านอักษรศาสตรเ์ ป็นอย่างยิ่ง ในรชั สมยั ของพระองค์ เรยี กได้วา่ เป็น ยุคทองของวรรณกรรม พระองค์ทรงทํานุบาํ รุงทางด้านศิลปะ วรรณคดี สถาปัตยกรรม นาฏศลิ ป์ อีกท้งั ยังทรงปรบั ปรุงการ ละครไทยจนถึงข้ันมาตรฐานสงู ท้งั กระบวนทา่ เนื้อรอ้ ง ทํานองเพลง เเละการรา่ ยราํ

บทพระราชนิพนธใ์ นพระองค์ท่ีสําคัญ ๑.เสภาเรอ่ื งขุนชา้ งขนุ เเผน ๒.บทละครเรอ่ื งอิเหนา ๓.บทละครเรอื่ งรามเกียรต์ิ ๔.บทละครเรอ่ื งไชยเชษฐ์ สงั ขท์ อง คาวี ไกรทอง มณีพชิ ัย ๕.กาพย์เห่เรอื ๖.บทพากย์โขน ตอนพรหมาสตร์ นาคบาศ นางลอย เเละ เอราวณั ������ ทรงเปน็ กวีทไี่ ด้รบั การยกยอ่ งจาก UNESCO ประจําปี พ.ศ.๒๕๑๑ นับเปน็ กวเี อก ของโลกคนท่ี ๓ ของประเทศไทย❗❗❗

บทพากยเ์ อราวัณเปน็ เน้ือเรอ่ื งตอนหน่ึงใน รามเกียรต์ิ มคี วาม เก่ียวข้องกับ อินทรชิต ซง่ึ เปน็ โอรสของทศกัณฐก์ ับนางมณโฑ มชี ่ือเดิมว่า รณพักตร์ ทศกณั ฐ์ นางมณโฑ รณพักตร์ / อินทรชิต

รณพักตรไ์ ด้ศกึ ษาศิลปวทิ ยากับพระฤๅษีโคบุตร บําเพ็ญตบะ ภาวนามนต์อยู่นานถึง ๗ ปี จึงได้รบั ศร ๓ เล่ม จาก “พระผู้เปน็ เจ้าท้ัง ๓ องค์” •ศรพรหมาสตร์ จาก พระอิศวร – เเละพรสามารถแปลงกายเปน็ พระอินทรไ์ ด้ •ศรนาคบาศ จาก พระพรหม – เเละพรไม่ให้ตายบนพื้นดิน หากตายก็ให้ตายบนอากาศ หากเศยี รขาดตกลงพ้ืนก็ให้เกิดไฟไหมท้ วั่ จักรวาลต้องนําพานเเว่นฟ้าของพระพรหมเท่านั้น มารองรบั เศยี รจึงจะระงบั เหตไุ ด้ •ศรวษิ ณุปาณัม จาก พระนารายณ์ พระพรหม พระอิศวร พระนารายณ์

เมือ่ รณพักตรไ์ ปรบกับพระอินทรเ์ เละได้ชยั ชนะเเละได้ จักรเเก้วของพระอินทรก์ ลับมายงั กรุงลงกา ทศกัณฐท์ รง พอพระทยั จึง พระราชทานนามใหมใ่ ห้แก่รณพักตรว์ า่ “อินทรชติ ” : รณพักตร์รบกบั พระอินทร์

การออกรบครง้ั ท่ี ๑ ของอินทรชิต อินทรชติ ถูกศรพลายวาตของพระลักษมณ์ต้องหนีกลับเข้าเมือง อินทรชติ จึงทําพธิ ชี ุบศรนาคบาศ ระหว่างทาํ พธิ มี ังกรกัณฐไ์ ด้ออกรบแทนอ รชิตแล้วถูกพระรามแผลงศรพรหมาสตร์ ต้องมงั กรกัณฐ์ พระราม พระลักษมณ์ มังกรกณั ฐ์

การออกรบครงั้ ที่ ๒ ของอินทรชิต อินทรชติ รบกับพระลักษมณ์ แผลงศรนาคบาศถกู พระลักษมณ์และ พลวาร พระรามต้องใชว้ ิธเี รยี กครุฑมาจิกนาค อินทรชติ จึงทาํ พธิ ชี ุบ ศรพรหมาศตรแ์ ต่ไม่สาํ เรจ็

การออกรบครงั้ ท่ี ๓ ของอินทรชติ เรมิ่ จากเมือ่ อินทรชิตได้พรจากพระอิศวรที่ สามารถ แปลงกายเปน็ พระ อินทรไ์ ด้ พรอ้ มศรพรหมาสตร์ อินทรชิตจึงได้แปลงกาย เปน็ พระอินทร์ เเละ ทรงช้างเอราวัณ โดยชา้ งเอราวณั นั้นคือ การรุณราช(เสนายกั ษ์) ทแี่ ปลงกาย มา การุณราช พระอินทร์ ช้างเอราวัณ

เมือ่ แปลงกายเเล้วชา้ งเอราวัณก็ดูเเขง็ เเรง ตัวโต มีพละกําลังทด่ี ี ผิวพรรณเปน็ ผวิ เผือก มีเศียรด้วยกันถึง ๓๓ เศยี รเเต่ละเศียรล้วนสวย งาม เเต่ละเศยี รจะมีงาท้ังหมด ๗ งาซ่งึ มีความสวยงามเหมือนกับแก้ว เพชร งา ๑ งาจะมีสระบวั ๗ สระ สระ ๑ มีบวั ๗ กอ กอ ๑ จะมีดอกบัว ๗ ดอก เมื่อ เบ่งบานเเต่ละดอกจะมี ๗ กลีบ บัว ๑ กลีบจะมเี ทพธดิ าสาวสวยงามอยู่ ๗ องค์ นาง ๑ จะมีบรวิ ารเปน็ ยกั ษ์ทเ่ี เปลงกายเป็นสาวสวยมาอีก ๗ ตน ท้งั หมดล้วน เเต่เต้นระบําชําเลืองตากัน ทําเหมอื นเป็นดั่งนางฟา้

ในครงั้ นี้พระลักษมณ์ถกู ศรพรหมาสตรส์ ลบไปพรอ้ มพลวานรหนุมานตรงเขา้ หักคอชา้ ง เอราวณั หนุมานถกู อินทรชิตตีด้วยคันศรจนสลบไปและเมอ่ื หนุมานต้องกระแสลมพัดจึงฟ้ นื ข้นึ ประกอบกับพระรามและพิเภกมายงั สมรภมู ิพิเภกจึงให้หนุมานไปนํายาท่เี ขาอาวุธ พระ ลักษมณ์และไพรพ่ ลได้กล่ินยาจึงฟ้ นื อินทรชติ จึงกลับไปตั้งพิธกี ุมภนิยาชบุ ศร ๓ เล่ม แต่พระลักษมณ์ล้างพธิ ไี ด้ หนุมาน เขาอาวุธ

การออกรบครง้ั ที่ ๔ ของอินทรชติ อินทรชิตลาลูกเมียแล้วออกไปรบก็ถูกพระรามแผลงศรตัดคอ องคตนําพานแวน่ ฟา้ ไปรองรบั และพระรามจึงต้องแผลงศรไป ทาํ ลายให้เป็นจุณท้ังนี้เพราะพระพรหมประสาทศรนาคบาศ และอวยพรอินทรชติ ให้เรอื งฤทธ์ิ “ถา้ แม้นต้องตายก็ใหต้ ายบน อากาศถ้วแมน้ หัวตกถึงดินจงกลายเป็นไฟกลั ปเ์ ผาผลาญโลก”

บทพากย์เอราวัณ 1 อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองค์อมรินทร์ ทรงคชเอราวณั - อินทรชิตแปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ 2 ช้างนิมิตฤทธิแรงแข็งขัน เผอื กผอ่ งผิวพรรณสี สั งข์สะอาดโอฬาร์ - ช้างเอราวัณท่ีเนรมติ ข้ึนน้ันแข็งแกร่งน่าเกรงขาม มผี ิวพรรณสีขาวเหมือนหอยสังข์ 3 สามสิ บสามเศียรโสภา เศียรหนึง่ เจ็ดงา ดัง่ เพชรรัตน์รูจี - มเี ศียรงดงาม ๓๓ เศียร แต่ละเศียรงามงี า ๗ กิง่ ท่ีสวยงามเหมอื นเพชร 4 งาหนึง่ เจ็ดโบกขรณี สระหนึง่ ย่อมมี เจ็ดกออุบลบันดาล - ท่ีงาแต่ละกิง่ มสี ระบัว ๗ สระ แต่ละสระมกี อบัว ๗ กอ 5 กอหนึง่ เจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหนึง่ แบ่งบาน มีกลบี ไดเ้ จ็ดกลบี ผกา - แต่ละกอมีดอกบัว ๗ ดอก แต่ละดอกมีกลีบบัวบาน ๗ กลบี

6 กลบี หนึง่ มีเทพธิดา เจ็ดองค์โสภา แน่งน้อยลาํ เพานงพาล - แต่ละกลีบมนี างฟ้ารูปงามอยู่ ๗ องค์ 7 นางหนึง่ ยอ่ มมีบริวาร อีกเจ็ดเยาวมาลย์ ลว้ นรูปนิรมิตมายา - แต่ละองค์มบี ริวารท่ีเป็นหญงิ งาม ๗ นาง 8 จับระบํารําร่ายส่ ายหา ชําเลอื งหางตา ทาํ ทดี ังเทพอัปสร - จับระบํารําฟ้อนด้วยท่าทางอย่างนางฟ้า 9 มีวิมานแกว้ งามบวร ทุกเกศกญุ ชร ดังเวไชยนั ต์อมรินทร์ - ท่ีเศียรช้างทุกเศียรมีบุษบกวิมานซึ่งงามราวกบั วิมานเวไชยันต์ของพระอินทร์ 10 เคร่ืองประดับเก้าแกว้ โกมิน ซองหางกระวิน สร้อยสายชนักถกั ทอง - เคร่ืองประดับมี โกมนิ ล้อมแก้วนพเก้า ซองหาง กระวิน สายชนักท่ีล้วนถักร้อยด้วยสร้อยทอง

11 ตาขา่ ยเพชรรัตน์ร้อยกรอง ผ้าทิพย์ปกตระพอง ห้อยพู่ทุกหูคชสาร - มผี ้าทิพย์ปกตระพองซึ่งร้อยประดบั ด้วยเพชร มสี ายสร้อยห้อยเป็นพู่ลงท่ัวทุกหูช้าง 12 โลทันสารถีขุนมาร เปน็ เทพบุตรควาญ ขับท้ายทีน่ ัง่ ช้างทรง - ควาญช้างคือสารถีของอินทรชิตช่ือ โลทัน แปลงกายเปน็ เทพบตุ รน่ังอย่ทู ้ายช้างเป็นผู้ขับข่ีช้าง 13 บรรดาโยธาจัตุรงค์ เปลยี่ นแปลงกายคง เป็นเทพไทเทวญั - บรรดาทหารส่ีเหลา่ ต่างแปลงกายเปน็ ชางฟ้าชาวสวรรค์ 14 ทัพหน้าอารักขไพรสั ณฑ์ ทัพหลงั สุบรรณ กินนรนาคนาคา - ทัพหน้าคือ เทพารักษ์ ทัพหลงั คือครุฑ กินนร และนาค 15 ปกี ซ้ายฤาษิตวิทยา คนธรรพ์ปีกขวา ตัง้ ตามตํารับทัพชัย - ปีกซ้ายคือ วิทยาธร ปีกขวาคือ คนธรรพ์ เป็นการต้ังทัพตามตํารับพิชัยสงคราม

16 ลว้ นถอื อาวุธเกรียงไกร โตมรศรชัย พระขรรค์คทาถ้วนตน - ล้วนถอื อาวุธคือ หอก ธนู ดาบ กระบอง ครบมือ 17 ลอยฟา้ มาในเวหน รีบเร่งร้ีพล มาถึงสมรภมู ิชัย - เหาะเหินมาบนฟากฟ้า รีบเร่งเคล่ือนพลเข้าสู่สนามรบ 18 เม่ือนั้นจึงพระจักรี พอพระสุริย์ศรี อรุณเรืองเมฆา - พระอาทิตย์ข้ึน ส่องแสงเรืองรองไปท่ัวเมฆ 19 ลมหวนอวลกลนิ่ มาลา เฟ่ อื งฟุง้ วนา นิวาสแถวแนวดง - ลมพัดกลิน่ ดอกไม้คลุ้งไปท่ัว ในท่ีพักน้ัน ซึ่งอย่แู ถวปา่ 20 ผึง้ ภ่หู มู่คณาเหมหงส์ ร่อนราถาลง แทรกไซ้ในสร้อยสุมาลี - หมแู่ มลงบินลงมาตอมตามดอกไม้

21 ดุเหวา่ เร้าเร่งพระสุริย์ศรี ไกข่ ันปีกตี ก่กู อ้ งในท้องดงดาน - นกดุเหว่าเตือนพระอาทิตย์ว่าถึงเวลาเช้าแล้ว ไก่ต่างกระพือปีกและขันเสียงร้องไปท่ัวปา่ 22 ปกั ษาต่ืนตาขันขาน หาคูเ่ คยี งประสาน สํ าเนียงเสนาะในไพร - นกต่างๆอันน่าต่ืนตา ต่างหาคู่ประสานทํานองเพลง และส่งเสียงอันไพเราะออกมาท่ัวป่า 23 เดือนดาวดบั เศร้าแสงใส สร่างแสงอโณทยั ก็ผ่านพยับรองเรือง - แสงดาวหายเริม่ ไป และแสงอาทิตย์กําลังข้ึนปรากฏข้ึนมา 24 จับฟา้ อากาศแลเหลอื ง ธิบดินทร์เธอบรรเทือง บรรทมฟ้ นื จากไสยา - ท่ัวฟ้าเปล่ยี นเปน็ สีเหลอื ง แล้วพระรามก็เริม่ ต่ืนจากการนอน 25 เสด็จทรงรถแก้วโกสี ย์ ไพโรจน์รูจี จะแข่งซึง่ แสงสุริย์ใส - เสด็จข้ึนราชรถท่ีเปน็ สีทองกล้ายกบั จะแข่งแข่งแสงกบั ดวงอาทิตย์

26 เทยี มสิ นธพอาชาไนย เริงร้องถวายชัย ชันหูระเหิดหฤหรรษ์ - เทียมด้วยม้าศึกท่ีมีกําลังเหิม เต็มไปด้วยความร่าเริง 27 มาตลสี ารถเี ทวญั กรกมุ พระขรรค์ ขับรถมากลางจัตรุ งค์ - มาตลเี ป็นสารถี ถอื พระขรรค์ ขับรถมายังกลางกองทัพ๔เหล่า 28 เพลารอยพลอยประดับดุมวง กึกกอ้ งกํากง กระทบกระทัง่ ธรณี - เพลาและล้อรถประดบั ด้วยพลอย กระทบพ้ืนเสียงดังกกึ ก้อง 29 มยุรฉัตรชมุ สายพรายศรี พัดโบกพัชนี กบี่ระบายโบกลม - มพี ลทหารลิงคอยถือฉัตรและโบกพัด 30 อึงอินทเภรีตีระงม แตรสั งข์เสี ยงประสม ประสานเสนาะในไพร - เสียงแตรสังข์เคล่ือนทัพดังก้องป่า

31 เสี ยงพลโห่ร้องเอาชัย เล่อื นลนั่ สนัน่ ใน พิภพเพียงทาํ ลาย - ไพร่พลโห่ร้องเอาชัยดงั สน่ัน 32 สั ตภัณฑ์บรรพตทัง้ หลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย ประนอมประนมชมชัย - ภเู ขาเอนเอียงทําความเคารต่อพระราม 33 พสุธาอากาศหวาดไหว เน้ือนกตกใจ ซุกซ่อนประหวัน่ ขวัญหนี - แผ่นดินสะเทือน ฝงู สัตว์ท้ังหลายตกใจ หนีเข้าท่ีซ่อน 34 ลูกครุฑพลดั ตกฉิมพลี หัสดินอินทรี คาบช้างกว็ างไอยรา - ลูกครุฑตกจากวิมานครุฑ นกหัสดนิ ท่ีคาบช้างอย่กู ็วางลง 35 วานรสํ าแดงเดชา หักถอนพฤกษา ถอื ต่างอาวธุ ยุทธยง - ทหารลิงก็สัมแดงอิทธิฤทย์หักถอนต้นไม้มาถือต่างอาวุธ

36 ไม้ไหลย้ ูงยางกลางดง แหลกลูล่ ม้ ลง ละเอียดดว้ ยฤทธิโยธี - ต้นไม้โค่นล้มกระจัดกระจาย ด้วยอํานาจของกองทหาร 37 อากาศบดบังสุริย์ศรี เทวญั จันทรี ทุกชั้นอํานวยอวยชัย - แสงอาทิตย์ลดความร้อนแรง เหล่าเทพยาดาทุกช้ันอวยชัย 38 บ้างเปิดแกลแก้วแววไว โปรยทิพมาลยั ซ้องสาธุการบูชา - เหลา่ เทวดาต่างโปรยพวงดอกไม้ทิพย์ ส่งเสียงสรรเสริญบชู า 39 ชักรถรีเ่ ร่ือยเฉ่ือยมา พุ่มบุษปมาลา กงรถไม่จดธรณินทร์ - ชักรถเคล่ือนไปบนพุ่มดอกไม้โดยล้อไม่ติดดนิ 40 เร่งพลโยธาพานรินทร์ เร่งรัดหัสดิน วานรให้เร่งรีบมา - เร่งให้ไพร่พลวานรติดตามไปออกศึก

41 เม่ือนั้นพระศรีอนุชา เอ้ือนอรรถวัจนา ตรัสถามสุครีพขุนพล - พระลักษมณ์จึงได้ตรัสถามสุครีพ 42 เหตุไฉนสหัสนัยน์เสด็จดล สมรภมู ิไพรสณฑ์ เธอมาด้วยกลอันใด - เหตุใดพระอินทร์จึงเสด็จมาในสนามรบ 43 สุครีพทูลทดั เฉลยไข ทุกทีสหัสนัยน์ เสดจ็ ด้วยหมู่เทวา - สุครีพทูนพัดทานไว้ว่าธรรมดาพระอินทร์จะเสร็จมาพร้อมเทวดา 44 อวยชัยถวายทิพมาลา บัดน้ีเธอมา เห็นวิปริตดูฉงน - ท่ีจะมาอวยพรพร้อมด้วยดอกไม้ แต่คร้ังน้ีเห็นแล้วแปลก 45 ทรงเคร่ืองศัสตราแยง่ ยล ฤๅจะกลบั เป็นกล ไปเขา้ ด้วยราพณ์อาธรรมม์ - แต่งกายพร้อมรบ อาจเปน็ กลของทศกัณฑ์

46 พระผู้เรืองฤทธิแขง็ ขัน คอยดูสํ าคัญ อย่าไว้พระทยั ไพรี - พระลักษมณ์โปรดระวัง อย่าไว้ใจศัตรู 47 เม่ือนั้นอินทรชิตยกั ษี ตรัสสั่งเสนี ให้จับระบํารําถวาย - อินทรชิตจึงส่ังให้เสนาระบําถวย 48 ให้องค์อนุชานารายณ์ เคลิบเคลมิ้ วรกาย จะแผลงซึง่ ศัสตรศรพล - ให้พระลกั ษมณ์เคลิบเคลิม้ จะได้แผลงศรสังหาร 49 อินทรชิตสถิตเหนือเอรา วณั ทอดทศั นา เห็นองค์พระลกั ษณ์ฤทธิรงค์ - อินทรชิตน่ังอย่บู นช้างเอราวัณแล้วเห็นพระลกั ษมณ์ 50 เคลิบเคลิม้ หฤทัยใหลหลง จึงจับศรทรง พรหมาสตร์อันเรืองเดชา - พระลกั ษมณ์กาํ ลังหลงไหลในรูปพระอินทร์ท่ีอินทรชิตแปลงมาจึงจับศรพรหมาสตร์ข้ึนมา

51 ทูนเหนือเศียรเกลา้ ยกั ษา หมายองค์พระอนุชา กแ็ ผลงสํ าแดงฤทธิรณ - ยกข้ึนเหนือหัวแล้วก็แผลงศรใส่พระลกั ษมณ์ 52 อากาศกอ้ งโกลาหล โลกลนั่ อึงอล อํานาจสะทา้ นธรณี - เสียงดงั ส่ันไปท่ัวฟ้าดนิ ในโลก 53 ศรเต็มไปทัว่ ราศี ตอ้ งองค์อินทรีย์ พระลกั ษมณ์ก็กลงิ้ กลางพล - เม่ือศรโดนตัวพระลักษมณ์ก็ล้มลงไปกลางกองทัพทันที

คุณค่าด้านเน้ือหา เอราวณั เป็นช้างทรงของพระอินทร์ มีกายสขี าวมเี ศยี ร ๓๓ เศยี รในไตรภูมพิ ระรว่ งมี การพรรณนาถึงขา้ งเอราวัณเมือ่ พระอินทรเ์ สด็จลงมาสรา้ งเมอื งอโยธยาในเรอื่ งราม เกียรติก็มีบทพรรณนาถึงชา้ งเอราวัณโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรง บรรยายเหตกุ ารณ์ตอนท่ีอินทรชิตแปลงกายเปน็ พระอินทรท์ รงช้างเอราวัณยกทัพไปรบ กับพระรามทรงพระราชนิพนธเ์ ปน็ บทพากยโ์ ดยใช้กาพย์ฉบัง ๕๐ บทดําเนินเรอ่ื งต้ังแต่ อินทรชติ แปลงกายเป็นพระอินทรจ์ นถึงสามารถแผลงศรพรหมาสตรถ์ ูก พระลักษมณ์ได้การใช้กาพยฉ์ บัง ๑๖ ให้ความรูส้ ึกโอ่อ่าเหมาะแก่การใช้เป็นบทพากย์ บทพากย์เอราวณั ใช้ประกอบกระบวนราํ ในการเล่นโขน จุดเด่นของเรอ่ื งจึงไม่อยู่ที่เน้ือเรอ่ื งการดําเนินเรอ่ื งราวและการเล่าเรอ่ื งมีขนาดส้ัน แต่จะเน้นการพรรณนาความเคล่ือนไหวอันอ่อนขอ้ ยของตัวละครการพรรณนา กระบวนทัพ เพอ่ื แสดงให้เห็นความย่งิ ใหญ่อลังการในศกึ ครงั้ น้ีวรรณคดีเรอ่ื งนี้แมไ้ ม่ เด่นด้านเน้ือเรอ่ื งแต่ก็ทรงคณุ ค่าในประวตั ิความเป็นมาบทพากยเ์ อราวัณเปน็ ตอนหนึ่ง ของเรอ่ื งรามเกียรต์ิทมี่ ีมาต้ังแต่สมัยอยุธยาโดยนําเนื้อเรอ่ื งมาแต่งเป็นบทสาํ หรบั การ แสดงมหรสพการเล่นหนังใหญแ่ ละโขนประวัติความเป็นมาอันยาวนานทําให้ผอู้ ่านมอง เห็นรอ่ งรอยทางความคิด

คุณค่าด้านวรรณศิ ลป์ บทพากย์เอราวณั พระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเด็จพระพทุ ธ- เลิศหล้านภาลัยมีลักษณะเฉพาะทางด้านวรรณศิลป์ทีง่ ดงาม แสดงให้เห็นลีลาการเคลื่อนไหวของตัวละครและรายละเอียด ของฉากมากกว่าการดําเนินเรอ่ื งหรอื การเล่าเรอ่ื งวรรณศิลป์ ของบทพากยเ์ อราวัณจะปรากฏชัดเจนในบทพรรณนาอัน สะทอ้ นให้เห็นถึงความสามารถทางภาษาของกวี

๑.การใช้โวหาร ซึ่งบทพากย์เอราวณั กวไี ด้เลือกใชถ้ ้อยคําเพอ่ื สรา้ งจินตภาพหรอื สรา้ งภาพโดย พรรณนาโวหารให้เกิดข้นึ แก่ผ้อู ่านอีกด้วยซง่ึ บทพากย์เอราวัณกวไี ด้ส่อื ให้เห็นภาพ ของช้างเอราวัณ ดังบทประพนั ธ์

คุณค่าด้านสั งคม (๑) อาวธุ ในการทําสงคราม อาวธุ ในการทาํ สงครามทป่ี รากฏใน บทพากย์เอราวณั สว่ นใหญเ่ ป็นอาวธุ ของฝ่ายทัพอินทรชิต เช่น โตมร (หอกด้ามสัน้ ) ศร พระขรรค์ คทา (๒) ชา้ งเอราวัณ บทพากย์เอราวณั กล่าวถึงลักษณะของช้าง เอราวณั ที่อินทรชติ ได้สรา้ งขนึ้ ซงึ่ สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาค กลาง เล่มท่ี ๑๕ กล่าวถึงช้างเอราวณั ว่า คือ ชา้ งของพระอินทรอ์ ยูบ่ น สวรรค์ชัน้ ดาวดึงส์ บางทีเรยี กวา่ ไอยรา หรอื ไอยราพรต ในไตรภูมิ พระรว่ งบรรยายว่าช้างน้ีไมใ่ ชส่ ตั วเ์ ดรจั ฉาน เพราะในเมืองสวรรค์มี แต่เทวดา ดังน้ัน เมอื่ พระอินทรจ์ ะไปทีใ่ ดและปรารถนาจะข่ีชา้ ง เทวดาองค์หน่ึงช่อื “ไอราวัณเทพบุตร” ก็จะนิมิตกายเปน็ ช้างเผอื ก ขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือชา้ งเอราวณั น่ันเอง (๓) สตั วป์ ่าในหิมพานต์ เมอื่ กล่าวถึงการเคลื่อนทพั ของพระราม กวี ได้พรรณนาความถึงแสนยานุภาพท่ยี งิ่ ใหญ่ แมแ้ ต่สตั วต์ ่างๆ ในป่า หิมพานต์ก็ต่ืนตกใจในอํานาจของกองทัพสตั วท์ ีก่ ล่าวถึง เช่น ลกู ครุฑ ทีอ่ าศัยอยู่ในรงั ไมง้ ้วิ และนกหัสดีลิงค์ (๔) ฤๅษีและอมนุษย์ บทพากย์เอราวณั ได้กล่าวถึงเหล่าบรวิ ารของ อินทรชิตทแ่ี ปลงกายเป็นฤาษีและอมนุษยต์ ่างๆ ได้แก่

- วทิ ยาธร มีลักษณะเปน็ ครงึ่ คนครง่ึ เทพ สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ มีพระขรรค์วเิ ศษประจํา ตน ชอบนํานารผี ลซ่ึงเป็นผลของต้นไม้ในป่าหิมพานต์มาสมสู่ - คนธรรพ์ ตามตํานานกล่าววา่ เปน็ บรวิ ารของท้าวธตรฐซ่งึ เปน็ เจ้าโลกบาลผูร้ กั ษาทศิ ตะวันออก ลักษณะเด่นของคนธรรพ์ คือ มีความชํานาญด้านการดนตรแี ละการขบั รอ้ ง มีเวทมนตรแ์ ละอิทธฤิ ทธม์ิ าก - กินนร มีลักษณะครง่ึ คนครงึ่ นก หากเป็นหญงิ จะเรยี กว่า “กินร”ี กล่าวกันวา่ กินนรหรอื กินรี อาศยั อยู่บรเิ วณเขาไกรลาส และมสี ระอโนดาตไว้สําหรบั อาบนา

รายช่ือสมาชิก ๓/๓ กรวชิ ญ์ จันทวรรณ เลขท่ี ๑ กันต์กวี หิรญั สุข เลขที่ ๑๐ กําลังใจ ธรรมเกษร เลขที่ ๑๑ พชั ราภรณ์ ประดับ เลขท่ี ๒๑ ภัคจิรา สิทธเิ วช เลขท่ี ๒๕ อรกิตต์ิ สวลศิริ เลขที่ ๓๐


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook