Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การปลูกฟักทองเพื่อการค้าและแปรรูป ม.ปลาย อช03354

การปลูกฟักทองเพื่อการค้าและแปรรูป ม.ปลาย อช03354

Published by กันยา แอ่นกาศ, 2021-07-26 08:46:01

Description: การปลูกฟักทองเพื่อการค้าและแปรรูป ม.ปลาย อช03354

Search

Read the Text Version

คาอธิบายรายวชิ า การปลูกฟกั ทองเพือ่ การค้าและแปรรูป รหสั อช 03354 สาระการประกอบอาชีพ ระดบั ประถมศึกษา, ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น,ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 3 หน่วยกติ (120 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 3.2 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทกั ษะในอาชพี ทตี่ ัดสินใจเลือก ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง 1. ผเู้ รียนสามารถบอกขั้นตอนการปลูกฟกั ทองได้ 2. ผ้เู รียนสามารถบอกขัน้ ตอนการแปรรปู ฟักทองได้ 3. ผู้เรียนสามารถปลกู ฟักทองได้ 4. ผเู้ รียนสามารถแปรรูปฟกั ทองได้ 5. ผู้เรยี นสามารถนาความรูท้ ี่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ 6. ผเู้ รยี นสามารถใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทัลสาหรับชมุ ชนเพอ่ื การใช้งานในการคา้ ขาย (e-Commerce) ได้ ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเกย่ี วกบั เร่อื งต่อไปนี้ ความหมาย ชนดิ พันธ์ุ ประโยชนแ์ ละสรรพคุณ ขัน้ ตอนการปลูก การตลาดและการทาบัญชรี ายรบั – รายจ่าย ความรู้ความสามารถของตนเองต่อการปลกู ฟกั ทองและการแปรรูปฟักทอง โดยวเิ คราะห์ความพรอ้ ม ของตนเอง ความต้องการของตลาด เทคนิคความรู้และทักษะในอาชีพ การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ จัดใหผ้ เู้ รียนศึกษาค้นคว้าเอกสารทเี่ ก่ยี วข้อง จากสื่ออนิ เตอร์เน็ต จากแหลง่ เรยี นรภู้ มู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน อภิปรายแลกเปล่ียนเรียนรู้ ระหวา่ งผูเ้ รยี น ภูมปิ ัญญา ทดลองฝึกปฏบิ ตั ิ และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ตลอดจนมกี ารประเมินตนเอง ทาแผนปฏบิ ัตงิ านโครงงาน การวัดประเมนิ ผล ๑. ประเมินจากสภาพจริง ผลงานปฏิบตั ิ สังเกตความสนใจ ความรว่ มมือในกระบวนการเรยี นรู้ ความรับผิดชอบในการปฏบิ ัตงิ าน ๒. การทดสอบภาคปฏบิ ตั ิ โดยใหผ้ ู้เขา้ รับการอบรมทดสอบการถา่ ยภาพดจิ ทิ ัล รวมท้ัง บอกพน้ื ฐานท่ี จาเป็นสาหรับร้านค้าออนไลน์ และการโพสตข์ อ้ ความเพื่อการค้า

-2- รายละเอยี ดคาอธิบายรายวชิ า การปลกู ฟักทองเพื่อการคา้ และแปรรปู รหัส อช 03354 สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา, ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น,ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 3 หน่วยกิต (120 ชว่ั โมง) มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 3.2 มีความร้คู วามเขา้ ใจ ทกั ษะในอาชีพทตี่ ดั สนิ ใจเลอื ก ที่ หัวเรื่อง ตวั ชวี้ ดั เนือ้ หา จานวน (ชั่วโมง) 1 การปลกู 1. อธบิ ายความหมาย ลักษณะ 1. ความหมาย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 24 ฟกั ทองเพ่อื ทางพฤกษศาสตร์ ชนดิ พันธุ์ ชนิดพันธ์ุ ประโยชนแ์ ละสรรพคณุ ของ การค้า ประโยชนแ์ ละสรรพคุณของ ฟกั ทอง ฟักทองได้ - ลักษณะทางพฤกษศาสตรข์ องฟกั ทอง - ชนดิ พันธ์ุของฟักทอง - ประโยชน์และสรรพคณุ 2 ขัน้ ตอนการ 1. อธิบายขัน้ ตอนการปลูก 2. ขัน้ ตอนการปลกู ฟักทอง 30 ปลกู ฟกั ทอง ฟกั ทองได้ - การคัดเลือกพันธ์ุ - การเตรยี มวสั ดุ/อุปกรณ์ - โรคและศัตรูพชื - การเตรียมดิน - การปลูก - การใสป่ ุ๋ย - การเกบ็ เก่ียว 3 การแปรรูป 1. อธิบายความหมายของการ 3. การแปรรปู ฟกั ทอง 40 ฟักทอง แปรรปู และการถนอมอาหารได้ - ความหมายของการแปรรูปและ 2. อธิบายข้ันตอนของการแปรรปู การถนอมอาหาร - การทาขา้ วเกรียบฟักทอง ฟักทองได้ - การทาฟักทองทอดกรอบ - การทาฟักทองกวน - การทาฟักทองเชือ่ ม - การทาฟกั ทองแชอ่ ่ิม

-3- ท่ี หัวเร่ือง ตัวช้ีวดั เนอื้ หา จานวน (ชว่ั โมง) 4 การบรรจุ 1. อธิบายความหมาย ประเภท 4. บรรจภุ ัณฑ์ 7 5 ภัณฑ์ ประโยชนข์ องบรรจภุ ัณฑ์ได้ - ความหมายของบรรจภุ ัณฑ์ - ประเภทของบรรจุภัณฑ์ - ประโยชน์ของบรรจภุ ณั ฑ์ 5 การตลาดและ 1. อธิบายถงึ การตลาดและการ 3. การตลาด และการทาบัญชี การทาบัญชี ทาบัญชีรายรับ – รายจ่าย ได้ รายรับ-รายจา่ ย รายรบั - - การตลาด รายจ่าย - การทาบญั ชรี ายรับ-รายจ่าย 6 เทคโนโลยี 1. อธบิ ายถึงเทคโนโลยดี จิ ิทัล 3. เทคโนโลยีดิจิทลั สาหรบั ชุมชนเพื่อ 14 ดิจิทัลสาหรับ สาหรับชมุ ชนเพ่อื การใชง้ านใน การใชง้ านในการคา้ ขาย (e- ชมุ ชนเพือ่ การ การค้าขาย (e-Commerce) ได้ Commerce) ใช้งานในการ - การถ่ายภาพดจิ ทิ ัล คา้ ขาย (e- - พื้นฐานที่จาเป็นสาหรบั ร้านคา้ Commerce) ออนไลน์

-4- โครงสรา้ งหลกั สูตร หลกั สูตรรายวชิ า การปลกู ฟักทองเพ่อื การค้าและแปรรปู สาระการประกอบอาชีพ ระดับประถมศึกษา, ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น,ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 3 หนว่ ยกติ (120 ชั่วโมง) ความเปน็ มา สภาพสังคมในโลกปัจจุบนั เปน็ ยคุ โลกาภวิ ฒั น์มวี ัฒนธรรมจากต่างชาตเิ ขา้ มาในประเทศไทย ทาให้วิถี การดาเนินชวี ติ ประจาวันของคนไทยเปลี่ยนไป เกิดค่านิยมในดา้ นวตั ถุส่ิงของมากเกนิ ความจาเป็น และขาด ความตระหนกั ถึงความจาเป็นด้านพื้นฐาน จนลมื วัฒนธรรมดั้งเดมิ ของบรรพบุรษุ ทส่ี ่วนใหญ่ทาการเกษตร เป็น ครอบครัวเกษตรกรรม อนั สะทอ้ นใหเ้ ห็นวฒั นธรรมอันดงี ามของคนไทย ในการช่วยเหลือเกอ้ื กลู ซ่ึงกันและกนั ในการทางาน ดาเนินชีวติ แบบพอเพียง ซงึ่ แตกต่างจากยคุ สมัยนท้ี ่ีมอี าชพี ต่าง ๆ เกดิ ข้ึนมากมาย มีการ อพยพย้ายถ่นิ ฐานไปทางานตา่ งถ่ินมากข้ึน เพราะคา่ ครองชีพสูงขึน้ แต่รายได้เทา่ เดมิ ดงั น้นั ศนู ยก์ ารศกึ ษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอแม่จรมิ จงึ ได้จดั ทาหลกั สูตรการปลูกฟักทองเพอ่ื การคา้ และการ แปรรูปขึ้น เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทกั ษะเกี่ยวกบั การปลูกฟักทองเพอ่ื การค้าและการแปรรปู เพื่อให้ผเู้ รียนมชี ่องทางในการตดั สินใจเลอื กประกอบอาชพี ที่เหมาะสมกบั ศักยภาพของตนเอง และเพ่ือชว่ ยเพ่มิ รายไดใ้ ห้กับผเู้ รยี น ตลอดจนผู้เรียนไดน้ าความรูไ้ ปพัฒนาอาชพี และความเปน็ อยู่ของตนเองได้ หลกั การ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 สาระการประกอบ อาชีพมหี ลกั การดังน้ี 1. มีความยืดหยนุ่ ทง้ั เนอ้ื หา ระยะเวลาเรียนและการจดั การเรียนรู้ โดยเนน้ การบรู ณาการเนื้อหาให้ สอดคล้องกับวถิ ีชีวติ ความแตกตา่ งของบุคคลและสามารถเลอื กเรยี นได้ 2. สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนได้มีการพัฒนาและเรยี นรไู้ ดด้ ้วยตนเอง อย่างตอ่ เน่อื ง จดุ ประสงคข์ องรายวชิ า 1. เพือ่ ให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกับขั้นตอนการปลกู ฟักทอง 2. เพื่อให้ผเู้ รยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจในการแปรรูปฟักทอง 3. เพื่อให้ผเู้ รยี นมชี อ่ งทางการตัดสินใจเลอื กประกอบอาชีพ 4. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนสามารถนาความรูท้ ีไ่ ดม้ าปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาวนั 5. เพอื่ ให้ผู้เรยี นนาความรูท้ ไ่ี ดม้ าบูรณาการเขา้ กับการเรียนการสอนในสาระอ่นื ๆ

-5- ระยะเวลาเรียนและจานวนหน่วยกิต ใช้เวลาเรียน 120 ชว่ั โมง จานวน 3 หน่วยกิต โครงสร้างหลักสูตร แบง่ เน้อื หาออกเป็น 5 ตอน จานวน 120 ชวั่ โมง ตอนท่ี 1 ความหมาย ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ชนดิ พันธขุ์ องฟกั ทอง ประโยชน์ของฟกั ทอง จานวน 24 ชัว่ โมง ตอนท่ี 2 ขั้นตอนการปลูกฟักทอง จานวน 30 ชว่ั โมง ตอนท่ี 3 การแปรรปู ฟกั ทอง จานวน 40 ชว่ั โมง ตอนท่ี 4 การบรรจุภัณฑ์ จานวน 7 ช่ัวโมง ตอนที่ 5 การตลาดและการทาบญั ชรี ายรับ – รายจา่ ย จานวน 5 ชว่ั โมง ตอนท่ี 6 เทคโนโลยีดจิ ทิ ัลสาหรบั ชุมชนเพ่ือการใชง้ านในการคา้ ขาย (e-Commerce)จานวน 14 ชัว่ โมง รายละเอยี ดเนือ้ หา ตอนที่ 1 ความหมาย ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ชนดิ พนั ธุ์ และประโยชน์ของฟกั ทอง 1.1 ความหมาย และลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ของฟกั ทอง 1.2 ชนิดพนั ธ์ขุ องฟักทอง 1.3 ประโยชนข์ องฟกั ทอง ตอนที่ 2 ขัน้ ตอนการปลูกฟกั ทอง 2.1 การคดั เลือกพันธ์ุ 2.2 การเตรยี มวสั ดุ/อุปกรณ์ 2.3 โรคและศัตรพู ืช 2.4 การเตรียมดนิ 2.5 การปลกู 2.6 การใส่ปุ๋ย 2.7 การเก็บเกยี่ ว ตอนท่ี 3 การแปรรปู ฟกั ทอง 3.1 ความหมายของการแปรรูปและการถนอมอาหาร 3.2 การทาขา้ วเกรยี บฟักทอง 3.3 การทาฟกั ทองทอดกรอบ 3.4 การทาฟกั ทองกวน 3.5 การทาฟกั ทองเช่ือม 3.6 การทาฟักทองแช่อิม่

-6- ตอนที่ 4 การบรรจภุ ณั ฑ์ 4.1 ความหมายของบรรจุภัณฑ์ 4.2 ประเภทของบรรจุภณั ฑ์ 4.3 ประโยชน์ของบรรจภุ ัณฑ์ ตอนท่ี 5 การตลาดและการทาบัญชรี ายรบั – รายจ่าย 5.1 ความหมายของการตลาด 5 .2 การทาบัญชีรายรบั –รายจ่าย ตอนท่ี 6 เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั สาหรับชุมชนเพ่อื การใช้งานในการค้าขาย (e-Commerce) 6.1 การถา่ ยภาพดิจิทัล 6.2 พน้ื ฐานทจ่ี าเปน็ สาหรับรา้ นค้าออนไลน์ กระบวนการเรยี นรู้ 1. ศกึ ษา เรยี นรู้ด้วยตนเองโดยศกึ ษาจากเอกสารและส่ืออเิ ลคทรอนิกสต์ ามเนอ้ื หาในหลกั สูตร 2. สนทนาแลกเปล่ยี นเรียนรู้ร่วมกนั ระหวา่ งผู้เรยี นและครูโดยมีประเด็นตามเนอ้ื หาในหลกั สูตร 3. มอบหมายภารกิจตามใบงาน 4. ฝึกปฏบิ ตั กิ ารปลูกฟักทองและการแปรรปู ฟกั ทอง 5. สรปุ บทเรยี นจากใบงานและการฝึกปฏิบตั ิ ส่ือการเรยี นรู้ 1. สือ่ บคุ คล (เกษตรกรผปู้ ลูกฟักทองที่ประสบผลสาเรจ็ ) 2. ส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ 3. สอ่ื เอกสาร 4. ใบความรู้ 5. ใบงาน แหล่งเรยี นรู้ 1. สานักงานเกษตรอาเภอแมจ่ ริม 2. ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอแม่จริม 3. ศูนย์ ICT กศน.เฉลมิ พระเกยี รติวัดหว้ ยซ้อตาบลหมอเมอื ง 4. แปลงเกษตรผปู้ ลูกฟกั ทองท่ีประสบผลสาเร็จ การวดั และประเมินผล 1. ทดสอบภาคทฤษฎแี ละปฏิบัติ 2. ผลงานตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรูแ้ ละการมีสว่ นร่วม 4. บันทกึ ผลการเรียนรู้/ฝึกปฏบิ ตั ิ

การวิเคราะห รายวิชา การปลกู ฟกั ทองเพอ่ื การคา้ และแปรรูป สาระ การประกอบอาชีพ ระดับ ประถมศึกษา ที่ ตวั ช้วี ดั เนือ้ หา 1 การปลกู ฟกั ทองเพื่อการคา้ 1. ความหมาย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ชนิดพันธุ์ ป อธบิ ายความหมาย ลักษณะทาง สรรพคณุ ของฟกั ทอง พฤกษศาสตร์ ชนดิ พันธุ์ ประโยชน์และ - ความหมาย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ของฟกั ทอ สรรพคุณของฟักทองได้ - ชนดิ พันธ์ขุ องฟกั ทอง - ประโยชน์และสรรพคณุ 2. ขัน้ ตอนการปลูกฟกั ทอง 2. ข้ันตอนการปลกู ฟักทอง อธบิ ายถึงขั้นตอนการปลูกฟกั ทองได้ - การคดั เลอื กพนั ธุ์ - การเตรียมวสั ดุ/อุปกรณ์ - โรคและศตั รพู ืช - การเตรยี มดิน - การปลกู - การใส่ปุย๋ - การเกบ็ เกยี่ ว

หห์ ลกั สตู รรายวชิ า รหสั อช 03354 จานวน 3 หนว่ ยกติ 120 ชั่วโมง า / มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ / มธั ยมศึกษาตอนปลาย ระดับความยากงา่ ย จานวน วธิ ีการเรียน (ชม.) ยาก ปาน งา่ ย พบ ตน ทาง อธั ยาศัย อ่นื ๆ กลาง กลมุ่ เอง ไกล ประโยชน์ และ อง  4   10   10   6  4  4   4   4   4   4     

ท่ี ตวั ชีว้ ดั เนื้อหา 3. การแปรรูปฟกั ทอง 3. การแปรรูปฟักทอง - อธิบายความหมายของการแปรรปู - ความหมายของการแปรรูปและการถนอมอ และการถนอมอาหารได้ - การทาข้าวเกรยี บฟักทอง - อธบิ ายถึงขั้นตอนการแปรรปู - การทาฟกั ทองทอดกรอบ ฟกั ทองได้ - การทาฟกั ทองกวน - การทาฟกั ทองเชือ่ ม - การทาฟักทองแชอ่ ่มิ 4. บรรจุภณั ฑ์ 4. บรรจภุ ัณฑ์ - ความหมายของบรรจุภณั ฑ์ - ประเภทของบรรจุภณั ฑ์ - ประโยชนข์ องบรรจุภัณฑ์ 5. การตลาดและการทาบัญชีรายรบั – 5. การตลาดและการทาบัญชรี ายรับ – รายจา่ ย รายจา่ ย - การตลาด อธบิ ายถงึ การตลาดและการทาบญั ชี - การทาบญั ชรี ายรับ – รายจา่ ย รายรบั – รายจ่าย 6 เทคโนโลยดี ิจิทลั สาหรับชมุ ชนเพอื่ 6. เทคโนโลยดี จิ ิทัลสาหรับชมุ ชนเพ่อื การใช้งา การใช้งานในการคา้ ขาย (e- (e-Commerce) Commerce) - การถ่ายภาพดิจิทัล - พ้ืนฐานที่จาเปน็ สาหรับรา้ นค้าออนไลน์

-8- ระดบั ความยากง่าย จานวน วิธกี ารเรยี น (ชม.) ยาก ปาน งา่ ย พบ ตน ทาง อัธยาศยั อ่นื ๆ กลาง กลมุ่ เอง ไกล อาหาร  6   10  6     6   6   6 1  4  2  ย  2 3  านในการค้าขาย  4  10 

แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ ONIE MODEL รายวิชา สาระ การประกอบอาชพี ระดับ ประถมศกึ ษา หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับ มาตรฐานการเรยี นรู้ 3.2 มคี วามร้คู วามเข้าใจ ทกั ษะในอาชีพทต่ี ัดสินเลือก หวั เรือ่ ง ตวั ช้วี ดั เน้ือหา ร กา 1.การปลกู ฟักทอง อธบิ ายความหมาย 1. ความหมายชนิดพันธุ์ ประโยชน์ พ เพื่อการค้า ชนิดพนั ธ์ุ ประโยชน์ และสรรพคุณของฟักทอง (4 และสรรพคณุ ของ ต ฟักทองได้ - ความหมายของฟักทอง (2 - ชนดิ พนั ธุข์ องฟักทอง 2. ขั้นตอนการ อธบิ ายถึงข้นั ตอนการ - ประโยชน์และสรรพคุณ พ ปลกู ฟกั ทอง ปลกู ฟกั ทองได้ 2. ขนั้ ตอนการปลูกฟักทอง (6 - การคดั เลือกพันธุ์ ต - การเตรยี มวสั ดุ/อปุ กรณ์ (2 - โรคและศตั รูพชื - การเตรยี มดนิ - การปลูก - การใสป่ ุ๋ย - การเกบ็ เก่ยี ว

-9- า การปลูกฟกั ทองเพ่ือการค้าและแปรรูป รหสั อช 03354 า / มัธยมศกึ ษาตอนต้น / มธั ยมศึกษาตอนปลาย บการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 รูปแบบ การจดั การแผนการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ วดั / ารเรียน ประเมินผล พบกลุ่ม ข้นั ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหา ความต้องการใน ใบความรู้ -ตรวจใบงาน 4 ชม.) การเรียนรู้ (O:Orientation) ใบงาน -สรุปรายงาน ตนเอง 1.1 ครแู ละผู้เรียนรว่ มกันอภปิ รายเกย่ี วกับปัญหา ห้องสมุด -สมั ภาษณ์ 20 ชม.) ฯลฯ -แบบทดสอบ ด้านเกษตรกรรม พบกลุม่ ในปัจจุบันและการปลูกพืชท่เี ปน็ ความตอ้ งการของ ใบความรู้ -ตรวจใบงาน 6 ชม.) ตลาด ใบงาน -รปุ รายงาน ตนเอง หอ้ งสมดุ -สัมภาษณ์ 24 ชม.) 1.2 ครแู ละผเู้ รียนทาความเขา้ ใจเกยี่ วกับช่องทาง ฯลฯ -สงั เกต และการตัดสนิ ใจเลอื กประกอบอาชีพทเี่ หมาะสม -แบบทดสอบ ในทอ้ งถิน่ คอื การปลกู ฟกั ทอง

- หัวเรื่อง ตัวชวี้ ดั เนอื้ หา ร 3.การแปรรปู กา ฟักทอง - อธิบายความหมายของ 3. การแปรรูปฟักทอง พ ( 4. บรรจุภัณฑ์ การแปรรปู และการ - ความหมายของการแปรรปู ต (3 ถนอมอาหารได้ และการถนอมอาหาร พ - อธิบายขั้นตอนการ - การทาขา้ วเกรยี บฟกั ทอง ( ต แปรรปู ฟกั ทองได้ - การทาฟักทองทอดกรอบ (3 - การทาฟกั ทองกวน - การทาฟักทองเชอื่ ม - การทาฟักทองแช่อ่มิ - อธิบายความหมาย 4. บรรจุภัณฑ์ ประเภท ประโยชน์ของ - ความหมายของบรรจภุ ณั ฑ์ บรรจุภัณฑ์ได้ - ประเภทของบรรจภุ ณั ฑ์ - ประโยชนข์ องบรรจภุ ณั ฑ์ 5. การตลาดและ - อธบิ ายความหมายของ 5. การตลาดและการทาบัญชี พ การทาบัญชี การตลาดได้ รายรบั – รายจ่าย ( รายรบั – รายจา่ ย - อธิบายการทาบญั ชี ต รายรับ – รายจ่ายได้ - การตลาด (3 - การทาบญั ชีรายรบั – รายจ่าย

- 10 - รปู แบบ การจัดการแผนการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ วดั / ารเรียน ประเมนิ ผล พบกลมุ่ ขัน้ ที่ 2 ขั้นแสวงหาข้อมูลและการจดั การเรยี นรู้ ใบความรู้ (6 ชม.) ( N:New way of learning) ใบงาน -ตรวจใบงาน ตนเอง 2.1 ผเู้ รยี นศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับความหมายชนดิ ห้องสมดุ -สรปุ รายงาน 34 ชม.) พนั ธ์ุ ประโยชนแ์ ละสรรพคุณของฟักทอง ฯลฯ -สัมภาษณ์ ข้ันตอนการปลูกฟกั ทอง การจัดการด้านตลาดการ -แบบทดสอบ พบกลมุ่ จาหนา่ ย และเทคโนโลยีดิจทิ ลั สาหรับชุมชนเพือ่ (4 ชม.) การใช้งานในการคา้ ขาย (e-Commerce) ตนเอง 3 ชม.) 2.2 ครแู ละผเู้ รยี นแลกเปล่ยี นเรียนรู้ โดยใช้การ สัมภาษณ์ผู้มีประสบการณก์ ารปลูกฟักทอง เพ่ือ หาข้อสรปุ เกยี่ วกับการปลูกฟักทอง และสรปุ เปน็ รายงานเสนอในการพบกลุ่ม พบกลุม่ 2.3 แบง่ กลุม่ ผ้เู รียนออกเป็นกลุ่มไม่เกนิ 5 คน ในการ ใบความรู้ -ตรวจใบงาน -สรุปรายงาน (2 ชม.) ทารายงานเร่ือง การปลกู ฟกั ทองในชุมชน สรปุ เปน็ ใบงาน -สัมภาษณ์ -แบบทดสอบ ตนเอง รายงานและนาเสนอในการพบกล่มุ หอ้ งสมุด 3 ชม.) สอ่ื บุคคล ฯลฯ

- หวั เรอ่ื ง ตัวชีว้ ดั เนอ้ื หา ร กา 6. เทคโนโลยีดจิ ทิ ัล - อธิบายถึงเทคโนโลยี 6. เทคโนโลยดี จิ ิทลั สาหรับชุมชน พ (1 สาหรบั ชมุ ชนเพอื่ ดจิ ทิ ลั สาหรับชุมชนเพ่ือ เพอื่ การใชง้ านในการคา้ ขาย ( e- Commerce) การใชง้ านในการ การใชง้ านในการค้าขาย - การถ่ายภาพดิจิทลั ค้าขาย (e- (e-Commerce) ได้ - พื้นฐานท่ีจาเปน็ สาหรับร้านค้า ออนไลน์ Commerce)

- 11 - รปู แบบ การจัดการแผนการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ วัด/ ารเรียน ข้นั ท่ี 3 ขัน้ ปฏิบัติและนาไปประยุกตใ์ ช้ ประเมินผล ( I: Implementation) 3.1 ผ้เู รียนสรปุ จัดทารายงาน และรวบรวมไวใ้ น ใบความรู้ -ตรวจใบงาน แฟูมสะสมงาน 3.2 ครแู นะนาใหผ้ เู้ รยี นแก้ไขขอ้ บกพรอ่ ง ใบงาน -สรุปรายงาน ห้องสมดุ -สัมภาษณ์ ฯลฯ -แบบทดสอบ ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้ ( E:Evaluation) 4.1 ผู้เรียนนาแฟูมสะสมงานมาสรปุ เปน็ องค์ความรู้ ไวเ้ ป็นขอ้ มูลสารสนเทศ 4.2 ครแู ละผ้เู รยี นรว่ มกนั สรา้ งเกณฑ์การ ประเมนิ คณุ ภาพการเรียน 4.3 ครูตัดสินผลการเรียนรู้ตามเกณฑ์ ทีก่ าหนด พบกล่มุ ใบความรู้ -ทดสอบภาคปฏบิ ัติ 14 ชม.) ใบงาน -แบบทดสอบ หอ้ งสมดุ -ตรวจใบงาน -สมั ภาษณ์ ฯลฯ -สงั เกต

-

- 12 -

- 13 - ใบความรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง ความหมาย ชนิดพนั ธ์ขุ องฟักทอง ประโยชนแ์ ละสรรพคณุ **************************************** 1. ความหมาย ฟักทองเป็นพชื ผกั ที่มลี าตน้ ทอดและเล้ือยไปตามพ้ืนดิน เชน่ เดยี วกับแตงโม มีดอกสเี หลือง ทัง้ ตัวผู้และ ตวั เมียจะแยกกันแต่อยูใ่ นต้นเดียวกัน ดงั นัน้ จึงตอ้ งการชว่ ยผสมเกสร โดยวธิ ีธรรมชาติ เช่น ลมพดั หรือมแี มลง ผสมเกสร หรือผปู้ ลกู ช่วยผสมเกสรเพือ่ การตดิ ผลเป็นไม้เถาออ่ น มีขนสากมอื มีหนวดสาหรบั เกย่ี วพันทอดไป ตามพ้นื ดนิ จึงต้องการเนอ้ื ทีป่ ลกู มากกวา่ พืชผกั อ่นื ๆ เป็นพชื ใบเล้ยี งคู่ ทีม่ ีอายุปเี ดียว (ฤดูเดียว) เมอื่ ใหผ้ ลแลว้ ก็ ตายไปมีหลายพันธุท์ ง้ั แบบต้นเลือ้ ยและเปน็ พมุ่ เตยี้ พนั ธุ์เบามอี ายเุ ก็บเกี่ยวประมาณ 50-60 วัน ส่วนพนั ธ์ุหนักมี อายตุ ้งั แต่หยอดเมลด็ จนตดิ ผลออ่ น 45-60 วนั และให้ผลแก่เมื่อ 120-180 วัน โดยทยอยเก็บผลได้หลายครง้ั จน หมดผล 2. ชนิดพนั ธุ์ของฟกั ทอง มีพนั ธพ์ุ น้ื เมอื งหลายพนั ธ์ุ เรยี กตามลักษณะของผล เช่น พนั ธุ์ข้องปลา จะมีลักษณะของผลคล้ายขอ้ ง ปลา, พันธุ์ผลมะพรา้ ว จะมลี กั ษณะผลคล้ายมะพร้าว เปน็ ตน้ พันธดุ์ า เมือ่ แก่เปลือกจะมีสเี ขยี วเขม้ อมดา เปลอื กจะขรขุ ระเป็นปุมปม คล้ายผวิ คางคก (บางทกี ็เรยี ก พันธุ์คางคก) ก้นของผลยบุ เข้าไปในผล ทาให้ปอกเปลอื กยาก แต่เปน็ พันธ์หุ นักผลโต พนั ธ์นุ า้ ตก ผวิ จะไม่คอ่ ยขรขุ ระนกั ก้นของผลจะนูนออกมา ทาใหป้ อกเปลอื กงา่ ย ผลเลก็ กว่าพันธ์ุดา เล็กนอ้ ย พนั ธ์ุฟักทองนี้ จะมีช่อื เรียกแตล่ ะท้องถ่ินไมเ่ หมอื นกนั มีขนาดรูปร่างสเี ปลอื ก ผล และเน้อื ก็แตกตา่ งกัน ไป พนั ธ์เุ บาให้ผลเลก็ อายุเกบ็ เกยี่ ว 120-180 วนั โดยทยอยเกบ็ ผลได้เรื่อย ๆ 4-5 ครงั้ ตน้ หน่งึ ๆ จะให้ผลได้ 4-5 ผล หรอื มากกวา่ ถึง 7 ผล 3. ประโยชน์ของฟักทอง ความหลากหลายของประโยชนท์ ่ไี ดจ้ ากฟักทองอาจพอกล่าวได้ดงั นี้ 1. สารเบต้าแคโรทนี ในฟกั ทองช่วยปูองกนั โรคผิวหนัง ช่วยปอู งกนั มะเรง็ ในกระเพาะปัสสาวะในผ้สู งู อายุ และบรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่าและบัน้ เอว 2. ชว่ ยบารุงไต ตับ และสายตา รวมทง้ั การปอู งการอาการโรคเบาหวาน 3. ฟกั ทองใหพ้ ลังงานตา่ ไขมันนอ้ ย คาร์โบไฮเดรตในฟักทองชว่ ยบาบดั แผลในกระเพาะและลาไส้ สว่ นบน คนที่เป็นโรคกระเพาะ การกินฟกั ทองนง่ึ กจ็ ะชว่ ยบรรเทาการปวดท้องได้ 4. บรรเทาอาการหอบหืดท่เี กิดจากโรคหลอดลมอักเสบเร้ือรงั ในผู้สงู อายุ 5. เมล็ดฟักทองชว่ ยรักษาและลดอาการเกดิ โรคน่วิ ในกระเพาะปสั สาวะ 6. น้ามันทสี่ กดั จากเมล็ดมีรสหวานมนั ดืม่ กินบารงุ ประสาท

- 14 - 4. สรรพคณุ ของฟกั ทอง ส่วนท่ใี ชเ้ ปน็ ยา เมลด็ ราก ขั้ว น้ามนั จากเมล็ด เยอ่ื กลางผล ยาง และผล รสและสรรพคณุ ในตารายาไทย เมล็ด รสมัน ขับพยาธิตวั ตืด ขับปัสสาวะ บารงุ ร่างกาย แกพ้ ิษปวดบวม ราก รสเย็น ต้มนา้ ดื่ม บารงุ ร่างกาย แกไ้ อ ถอนพษิ ของฝนิ่ ดับพษิ สตั ว์กัดตอ่ ย ขั้ว รสเย็น ฝนกบั มะนาวผสมใยฝูายเผาไฟ รบั ประทานแกพ้ ษิ กิ้งกอื กัด น้ามันจากเมล็ด รสหวานมัน รับประทานบารงุ ประสาท เย่อื ผลกลาง รสหวานเย็น พอก แกฟ้ กช้า แก้ปวดอักเสบ ยาง แก้พิษผื่นคนั เรมิ และงูสวัด ผล รสหวาน เนื้อในของผลฟักทองนน้ั จะมสี ารพวก carotenes อยู่ ซ่งึ สารน้เี มือ่ เขา้ ไปในร่างกาย แล้วจะเปลยี่ นเป็นวติ ามินเอ ไมว่ า่ จะอยู่ในรปู ของคาวหรือของหวานเป็นอาหารเสริมสุขภาพได้เป็นอยา่ งดี วิธกี ินทีเ่ ป็นยา 1. ฟักทอง ครงึ่ กก นงึ่ แล้วราดดว้ ยนา้ ผง้ึ กินวนั ละ 2 ครัง้ เชา้ -เย็น ตดิ ต่อกัน 5-7 วนั จะชว่ ยบรรเทา อาการหอบหดื ได้นาน 6 เดอื น ถงึ 2 ปี ผู้ทีม่ ีอาการนอ้ ยจะเหน็ ผลมากกว่าผทู้ เี่ ปน็ โรคเรอื้ รัง (จะเห็นผลเรว็ ) 2. ต้มฟักทอง 250 กรัมกับน้าสะอาด ด่ืมกินเป็นน้าแกง ชว่ ยรักษาเบาหวาน 3. ตม้ ดอกฟักทองกับตบั หมู 120 กรมั กนิ รกั ษาโรคตาบอดกลางคืน 4. นาเนือ้ ในเมลด็ ฟกั ทอง 120 กรมั ควั่ แลว้ บดเปน็ ผง ผสมนา้ อุน่ ดืม่ คร้ังละ 30 กรัม ชว่ ยเพมิ่ ปรมิ าณ นา้ นมในสตรหี ลังคลอด 5. กนิ เน้ือในเมลด็ ฟักทองดิบปรมิ าณ 100 กรมั ติดตอ่ กนั 3 วนั จะชว่ ยถ่ายพยาธไิ สเ้ ดอื น 6. ค่วั เมลด็ ฟกั ทอง 150 กรมั ให้สุก กินเนื้อในเพ่ือขบั พยาธติ วั ตดื ขอ้ แนะนาเพม่ิ เตมิ 1. ควรเลอื กฟกั ทองพันธุท์ ีมรี สหวานและมีเนอื้ ละเอียด จะมสี รรพคณุ ทางยามาก 2. ผู้ทมี่ ีอาการแน่นท้องและจุกเสียดทอ้ งไม่ควรกนิ 3. เมล็ดฟกั ทองคัว่ 1 ถ้วยตวงจะมไี ขมัน 13 % อาจไมเ่ หมาะผทู้ ่คี วบคมุ นา้ หนัก อาจจะเพลินในการกิน จนเสียการควบคุมน้าหนัก 4. การกินฟกั ทองมากเกินไป จะทาให้ผิวเหลอื งและแน่นท้อง คนโบราณจะเจียวกระเทยี มกับเตา้ เจี้ยวผดั กับฟักทอง จะช่วยลดการแน่นท้องได้

- 15 - ใบงานที่ 1 เร่อื ง ความหมาย ชนิดพันธุ์ ประโยชน์และสรรพคณุ ของฟกั ทอง ชอ่ื – สกลุ .................................................รหัส..................................ระดบั ...................... 1. ให้ผเู้ รียนศึกษาใบความรู้ให้เขา้ ใจความหมาย ชนิดพนั ธุ์ ประโยชน์และสรรพคุณของฟักทองแลว้ นามาจดั ทา เปน็ แผ่นพบั เผยแพร่ และพูดนาเสนอใหเ้ พ่ือนฟงั ในการพบกลมุ่ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ใหผ้ ูเ้ รยี นอธบิ ายสรรพคณุ ของฟกั ทอง ทใ่ี ชเ้ ป็นยาพรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- 16 - เฉลยใบงานที่ 1 เร่ือง ความหมาย ชนดิ พันธุ์ ประโยชน์และสรรพคณุ ของฟักทอง 1. ให้ผ้เู รียนศกึ ษาใบความรู้ใหเ้ ข้าใจความหมาย ชนิดพันธุ์ ประโยชนแ์ ละสรรพคุณของฟกั ทองแล้วนามาจดั ทา เปน็ แผ่นพบั เผยแพร่ และพดู นาเสนอให้เพื่อนฟังในการพบกล่มุ แนวคาตอบ ความหมาย ฟักทองเป็นพืชผักที่มีลาต้นทอดและเลื้อยไปตามพนื้ ดิน เชน่ เดียวกับแตงโม มดี อกสีเหลอื ง ทั้งตวั ผ้แู ละ ตัวเมยี จะแยกกนั แตอ่ ย่ใู นต้นเดยี วกัน มีขนสากมือ มหี นวดสาหรับเก่ยี วพนั ทอดไปตามพน้ื ดิน จึงตอ้ งการเนื้อท่ี ปลกู มากกว่าพืชผักอืน่ ๆ เปน็ พืชใบเล้ียงคู่ ทม่ี ีอายุปีเดยี ว (ฤดูเดยี ว) เม่อื ให้ผลแลว้ กต็ ายไปมหี ลายพันธุ์ทัง้ แบบ ต้นเลอ้ื ยและเป็นพุ่มเต้ีย มีพนั ธพุ์ ืน้ เมืองหลายพันธุ์ เรยี กตามลักษณะของผล เชน่ พันธข์ุ ้องปลา จะมลี ักษณะของผลคล้ายข้อง ปลา, พนั ธ์ผุ ลมะพรา้ ว จะมีลกั ษณะผลคล้ายมะพร้าว เปน็ ต้น พนั ธด์ุ า เมอ่ื แกเ่ ปลอื กจะมีสเี ขียวเข้มอมดา เปลอื กจะขรขุ ระเป็นปุมปม คล้ายผวิ คางคก (บางทีกเ็ รียก พนั ธุ์คางคก) กน้ ของผลยบุ เข้าไปในผล ทาใหป้ อกเปลือกยาก แตเ่ ป็นพนั ธุ์หนกั ผลโต พนั ธ์นุ ้าตก ผวิ จะไมค่ อ่ ยขรขุ ระนกั ก้นของผลจะนูนออกมา ทาให้ปอกเปลอื กง่าย ผลเล็กกวา่ พันธด์ุ า เลก็ น้อย ประโยชน์ของฟักทอง 1. สารเบต้าแคโรทนี ในฟักทองช่วยปูองกนั โรคผวิ หนงั ชว่ ยปอู งกันมะเรง็ ในกระเพาะปสั สาวะในผสู้ งู อายุ และบรรเทาอาการปวดเมอ่ื ยของข้อเข่าและบัน้ เอว 2. ช่วยบารงุ ไต ตับ และสายตา รวมทงั้ การปอู งการอาการโรคเบาหวาน 3. ฟกั ทองใหพ้ ลังงานตา่ ไขมันนอ้ ย คารโ์ บไฮเดรตในฟักทองช่วยบาบัดแผลในกระเพาะและลาไส้ สว่ นบน คนท่ีเปน็ โรคกระเพาะ การกินฟักทองนึ่งก็จะชว่ ยบรรเทาการปวดทอ้ งได้ 4. บรรเทาอาการหอบหืดทเ่ี กิดจากโรคหลอดลมอกั เสบเรื้อรังในผสู้ งู อายุ 5. เมล็ดฟักทองช่วยรักษาและลดอาการเกิดโรคนิ่วในกระเพาะปสั สาวะ 6. นา้ มนั ทีส่ กัดจากเมลด็ มีรสหวานมัน ดื่มกินบารุงประสาท สรรพคณุ ของฟกั ทอง ส่วนทใี่ ชเ้ ป็นยา เมลด็ ราก ขวั้ น้ามันจากเมล็ด เย่อื กลางผล ยาง และผล

- 17 - 2. ใหผ้ ้เู รยี นอธบิ ายสรรพคุณของฟักทอง ท่ีใช้เปน็ ยาพร้อมยกตวั อย่างประกอบ แนวคาตอบ สรรพคณุ ในตารายาไทย เมลด็ สรรพคุณ ขบั พยาธติ ัวตืด ขบั ปสั สาวะ บารงุ รา่ งกาย แกพ้ ิษปวดบวม ราก สรรพคุณ ต้มนา้ ดมื่ บารงุ รา่ งกาย แกไ้ อ ถอนพษิ ของฝิน่ ดบั พิษสตั วก์ ดั ตอ่ ย ข้ัว สรรพคุณ ฝนกบั มะนาวผสมใยฝูายเผาไฟ รับประทานแกพ้ ิษกิ้งกือกดั นา้ มันจากเมล็ด สรรพคุณ รับประทานบารุงประสาท เยื่อผลกลาง สรรพคณุ พอก แก้ฟกช้า แกป้ วดอกั เสบ ยาง สรรพคุณ แก้พษิ ผืน่ คนั เริมและงสู วดั ผล สรรพคุณ เน้อื ในของผลฟกั ทองน้ันจะมีสารพวก carotenes อยู่ ซ่งึ สารนเ้ี มื่อเข้าไปในร่างกายแลว้ จะ เปล่ียนเปน็ วิตามินเอ ไม่วา่ จะอยูใ่ นรูปของคาวหรอื ของหวาน เป็นอาหารเสริมสขุ ภาพไดเ้ ป็นอย่างดี *******************************

- 18 - ใบความรูท้ ี่ 2 ข้ันตอนการปลกู ฟักทอง ************************************* ฟกั ทอง ชอื่ อืน่ น้าเตา้ (ภาคใต้) มะพรา้ ว (ภาคเหนือ) มะนา้ แก้ว (เลย) หมักออ้ื (เลย – ปราจนี บุรี) ชอื่ วิทยาศาสตร์ Cucurbita moschata Decne. วงศ์ Cucurbitaceae ชือ่ สามัญ Pumpkin แหลง่ ทีพ่ บ ท่วั ไปของทุกภาค ประเภทไม้ ฟักทองเป็นพชื ลม้ ลกุ ท่มี เี ถายาวเล้ือยไปตามพืน้ ดิน มหี นวดยาวที่ขอ้ ใบสเี ขยี วใบไม้ มหี ยกั 5 หยัก ด้วยกัน ผวิ ใบถา้ จับดูจะร้สู ึกว่าสาก ดอกสีเหลอื งเป็นรปู กระด่ิง ผลมีขนาดใหญ่ ลกั ษณะกลมแบน ผวิ ขรุขระเนื้อ ในเปน็ สีเหลอื งถึงเหลอื งอมสม้ และเหลอื งอมเขียว การคัดเลอื กชนิดพันธุ์ของฟกั ทอง มพี นั ธ์ุพ้นื เมืองหลายพันธุ์ เรยี กตามลักษณะของผล เชน่ พันธขุ์ ้องปลา จะมลี กั ษณะของผลคล้าย ข้องปลา, พันธุผ์ ลมะพรา้ ว จะมลี กั ษณะผลคล้ายมะพรา้ ว เป็นต้น พันธ์ดุ า เมื่อแก่เปลอื กจะมสี ีเขียวเข้มอมดา เปลอื กจะขรุขระเปน็ ปุมปม คลา้ ยผิวคางคก (บางทีก็เรียก พนั ธุ์คางคก) กน้ ของผลยบุ เข้าไปในผล ทาใหป้ อกเปลอื กยาก แตเ่ ป็นพนั ธหุ์ นกั ผลโต พนั ธนุ์ ้าตก ผวิ จะไมค่ อ่ ยขรุขระนัก ก้นของผลจะนนู ออกมา ทาใหป้ อกเปลือกงา่ ย ผลเล็กกว่าพนั ธด์ุ า เลก็ นอ้ ย พันธุ์ฟักทองนี้ จะมีชอื่ เรียกแตล่ ะทอ้ งถิ่นไม่เหมือนกนั มขี นาดรปู ร่างสีเปลอื ก ผล และเน้อื กแ็ ตกตา่ งกนั ไป พันธ์ุเบาใหผ้ ลเล็ก อายเุ ก็บเก่ยี ว 120 -180 วัน โดยทยอยเก็บผลไดเ้ รือ่ ยๆ 4-5 ครั้ง ต้นหนึง่ ๆ จะใหผ้ ลได้ 4-5 ผล หรือมากกว่าถึง 7 ผล

- 19 - พันธคุ์ างคก หรอื พันธ์ุดา ผวิ ขรขุ ระมาก พนั ธุน์ า้ ตก ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ฟักทองเป็นพชื ผักทมี่ ลี าต้นทอดและเลือ้ ยไปตามพื้นดิน เช่นเดยี วกับแตงโม มดี อกสีเหลอื ง ทั้งตวั ผู้และ ตวั เมยี จะแยกกนั แต่อยใู่ นต้นเดียวกัน ดังนัน้ จงึ ตอ้ งการชว่ ยผสมเกสร โดยวิธีธรรมชาติ เชน่ ลมพดั หรือมแี มลง ผสมเกสร หรอื ผู้ปลูกชว่ ยผสมเกสรเพ่ือการติดผล เปน็ ไม้เถาอ่อน มีขนสากมอื มหี นวดสาหรับเกยี่ วพนั ทอดไป ตามพน้ื ดิน จึงตอ้ งการเนอ้ื ที่ปลกู มากกว่าพชื ผกั อืน่ ๆ เป็นพืชใบเลยี้ งค่ทู ่มี อี ายปุ ีเดยี ว (ฤดูเดยี ว) เมอ่ื ใหผ้ ลแล้วก็ ตายไป มีหลายพันธ์ทุ งั้ แบบตน้ เลือ้ ยและเปน็ พุ่มเตย้ี พันธเุ์ บามอี ายเุ กบ็ เกยี่ วประมาณ 50 - 60 วัน สว่ นพนั ธุ์ หนกั มีอายตุ ้ังแต่หยอดเมล็ดจนติดผลออ่ น 45 - 60 วันและใหผ้ ลแก่เมื่อ 120 -180 วนั โดยทยอยเก็บผลได้หลาย ครั้งจนหมดผล ส่วนที่ใชบ้ ริโภค ยอดอ่อน ผล เมลด็ การขยายพันธุ์ เมลด็

- 20 - สภาพแวดล้อมทีเ่ หมาะสม ปลูกได้ในดนิ แทบทกุ ชนิดทม่ี ีการปลูกผกั ชอบดนิ รว่ นปนทรายทม่ี ีความอุดมสมบรู ณ์ดี และ มกี าร ระบายนา้ ดี มีคา่ ความเป็นกรด-ดา่ งของดนิ ระหวา่ ง 5.5-6.8 (ชอบดนิ เปน็ กรดเล็กนอ้ ย) ชอบอากาศแห้ง ดนิ ไม่ ชนื้ แฉะ และน้าไม่ขัง ฤดกู าลทีป่ ลกู เร่ิมปลกู ในชว่ งเดอื นกุมภาพันธ์ – มนี าคม หรือหลังฤดูทานาแตส่ ามารถปลูกได้ดีในปลาย ฤดฝู น และต้นฤดหู นาวคือ ช่วงเดือนกนั ยายน – ตุลาคม และปลกู ได้ดีทส่ี ุด คอื ชว่ งเดือน พฤศจกิ ายน – กมุ ภาพันธ์ โรคและศัตรูพืชท่สี าคญั 1. โรคเถาเหยี่ ว (เกิดจากเชอื้ แบคทีเรยี ) ลักษณะคือใบในเถาจะเหย่ี วลงทีละใบ เมอ่ื เหย่ี วจากปลายเถามาโคนเถาแลว้ จะเหยี่ วพรอ้ มกนั หมดทัง้ ตน้ ถา้ เอามดี เฉอื นเถาท่เี หยี่ วดตู ามความยาวจะเห็นว่า กลางลาตน้ ในเถาฉ่าน้ามากกว่าปกติ เช้ือแบคทีเรยี นจ้ี ะ อาศยั อยู่ในตวั แมลงเต่าแตง เม่ือแมลงเตา่ มากัดกนิ ใบ จะนาเชอ้ื นีเ้ ขา้ สู่ต้นฟกั ทองและเพม่ิ ปรมิ าณข้ึนอย่าง รวดเร็ว การปูองกันกาจดั ใชส้ ารเคมเี ซพวิน 85 อัตรา 20-30 กรัม ต่อนา้ 20 ลติ ร (หา้ มใชเ้ กนิ จะทาให้ใบใหม)้ ฉดี พน่ แมลงเตา่ ท่เี ป็นพาหะนาโรคเถาเหีย่ ว โดยฉดี พ่นเมอ่ื ต้นกล้าแขง็ แรง พน่ ทกุ 5-7 วนั จนฟักทองเรม่ิ ทอดยอด 2. เพลย้ี ไฟ เป็นแมลงขนาดเล็กมาก ตวั อ่อนจะมีสีแสด ตวั แก่จะเปน็ สดี าตวั ขนาดเทา่ ปลายเข็มจะดูดนา้ เล้ยี งทย่ี อด อ่อนและใตใ้ บอ่อน ทาใหย้ อดหดสนั้ ปล้องถี่ ยอดชตู ้งั ข้ึน หรอื เรียกวา่ โรคยอดตั้ง (ไอโ้ ตง้ ) ถ้าพึง่ เร่มิ เปน็ ใหมๆ่ แลว้ มีฝนตกมาหรือให้น้าท่วั ถึงเพล้ียไฟจะหายไป การป้องกันกาจดั 1. ปลูกมะระล้อมไว้สกั 2 ชนั้ แล้วจึงปลกู ฟักทอง เพราะมะระจะต้านทานเพลีย้ ไฟไดด้ ี หรอื ปลกู มะระ แซมในแปลงที่ปลกู ฟกั ทอง 2. เพลี้ยไฟชอบระบาดในฤดูแล้ง ถ้ามีฝนมาจะหายไป เมอ่ื เพล้ียไฟเข้าทาลายใชแ้ ลนเนท หรอื ไรเนต หรือพอสซ์ ฉดี พน่ ทกุ 5-7 วัน ถ้าระบาดมากฉดี พ่น 3-5 วัน โดยงดพ่นกอ่ นเก็บเกย่ี ว 15 วัน สรรพคุณของฟกั ทอง เมลด็ รสมัน ขับพยาธติ วั ตดื ขบั ปสั สาวะ บารงุ รา่ งกาย แก้พษิ ปวดบวม ราก รสเย็น ตม้ นา้ ดมื่ บารงุ ร่างกาย แก้ไอ ถอนพิษของฝิ่น ดบั พษิ สตั ว์กัดตอ่ ย ข้ัว รสเยน็ ฝนกับมะนาวผสมใยฝูายเผาไฟ รับประทานแก้พษิ กิ้งกือกดั น้ามนั จากเมล็ด รสหวานมัน รบั ประทานบารุงประสาท

- 21 - เย่อื ผลกลาง รสหวานเย็น พอก แกฟ้ กช้า แกป้ วดอักเสบ ยาง แก้พษิ ผ่นื คนั เริมและงูสวดั ผล รสหวาน เน้ือในของผลฟักทองนั้นจะมีสารพวก carotenes อยู่ ซ่ึงสารน้ีเมือ่ เขา้ ไปในรา่ งกาย แลว้ จะเปลี่ยนเป็นวิตามนิ เอ ไม่ว่าจะอยใู่ นรูปของคาวหรือของหวาน เป็นอาหารเสรมิ สขุ ภาพไดเ้ ป็นอย่างดี ขั้นตอนการเตรียมดิน ข้ันตอนท่ี 1 ควรขดุ ไถดินลึกประมาณ 25-30 ซม. เพราะเปน็ พชื ทม่ี ีระบบรากลึก ขัน้ ตอนท่ี 2 ควรตากดนิ ทง้ิ ไว้ 5-7 วัน เพือ่ ฆา่ เชอ้ื โรคและวัชพชื ไดบ้ า้ ง ขั้นตอนที่ 3 ควรใส่ปุ๋ยคอกหรอื ปุ๋ยหมัก เพือ่ ปรับปรงุ สภาพดนิ ให้รว่ นซยุ และเพ่มิ ความ อุดมสมบูรณ์ให้ดิน แล้วจึงค่อยพรวนดนิ ใหร้ ่วนซุย ขน้ั ตอนที่ 4 เก็บเศษวัชพชื ตา่ งๆ ออกจากแปลงให้หมด ขน้ั ตอนการปลูก/การใสป่ ุย๋ ขน้ั ตอนท่ี 1 โดยใชร้ ะยะปลกู 3x3 เมตรใช้วธิ ีหยอดหลุมปลูก หลุมละ 3-5 เมล็ด ลกึ ประมาณ 3 - 5 ซม. แลว้ กลบหลุม ขน้ั ตอนท่ี 2 ถา้ มฟี างขา้ วแหง้ ให้นามาคลมุ แปลงปลกู เพ่ือรกั ษาความชมุ่ ช้นื ใหแ้ กผ่ ิวหนา้ ดนิ ขน้ั ตอนท่ี 3 เมอ่ื ต้นกล้างอกจะมีใบจริง 2-3 ใบแล้ว ควรถอนแยกตน้ ทีไ่ มส่ มบูรณท์ ิ้งไป เหลอื ต้นทส่ี มบรู ณแ์ ขง็ แรง เหลือหลมุ ละ 2 ตน้ และรดนา้ ทกุ วนั เม่อื ตน้ กลา้ เจริญจนมีใบจริง 4 ใบ ขั้นตอนที่ 4 ช่วงน้ีให้ใส่ป๋ยุ สูตร 21-0-0 ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อตน้ ขน้ั ตอนท่ี 5 เมอื่ ฟกั ทองเรม่ิ ออกดอก ใสป่ ยุ๋ เคมี สตู 1ร4-14-21 โรยรอบๆ ตน้ (ประมาณ1 กามือ) แล้วรดน้าตามและใส่ปุย๋ อีกครงั้ เมือ่ ฟักทองเรมิ่ ตดิ ผลอ่อน ขน้ั ตอนท่ี 6 การรดน้าตอ้ งรดนา้ ทกุ วัน จนคะเนว่าอีก 15 วนั จะเกบ็ ผลแกไ่ ด้ จึงหยดุ รดนา้ การดแู ลรกั ษา และการใส่ปยุ๋ เมือ่ ตน้ กลา้ งอกจะมีใบจริง 2-3 ใบแลว้ ควรถอนแยกตน้ ทีไ่ ม่สมบรู ณท์ งิ้ ไป เหลือตน้ ทสี่ มบรู ณ์แขง็ แรง เหลอื หลุมละ 2 ต้น และรดนา้ ทุกวนั เทคนิคการช่วยผสมเกสร เมอ่ื ต้นกล้าเจรญิ จนไมม่ ีใบจริง 4 ใบ ช่วงน้ใี ห้ใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมซลั เฟตหรอื ปยุ๋ ผกั ( 21-0-0) ละลายนา้ แลว้ ใชร้ ดตน้ ฟกั ทอง ตอ้ งรดนา้ ทกุ วนั เมื่อฟักทองเรมิ่ ออกดอก ใสป่ ๋ยุ เคมี สตู ร 15-15-15 (หรอื สูตรใกล้เคียง กัน เชน่ 13-13-27 หรอื 14-14-21) โรยรอบๆ ต้นแลว้ รดนา้ ตามและใส่ปยุ๋ อกี คร้งั เม่อื ฟกั ทองเร่มิ ตดิ ผลออ่ นพนั ธ์ุ ฟักทองท่เี ปน็ พนั ธุ์หนักให้ผลโต อายุเกบ็ เกย่ี วยาวนาน ดงั น้ันการใส่ปยุ๋ ให้ฟกั ทองพนั ธุ์หนักควรใสม่ ากกว่าพันธุ์

- 22 - เบา การรดนา้ ต้องรดน้าทกุ วัน ประมาณอีก 15 วนั จะเกบ็ ผลแก่ได้ จึงหยดุ รดนา้ เมื่อดอกฟกั ทองกาลงั บานให้ เลือกดอกตัวผู้ เดด็ มาแลว้ ปลิดกลีบดอกออกให้หมด นาไปเคาะละอองเกสรตัวผู้ให้ตกลงบนดอกตวั เมีย ถ้าติดผล จะใหผ้ ลออ่ น ถา้ ไมต่ ดิ ผลดอกตวั เมยี จะฝุอไป วิธีนเ้ี รียกว่า \"การตอ่ ดอก\" การต่อดอก โดยปลิดกลีบดอกตัวผู้ออก แลว้ นาไปเคาะใหล้ ะอองเกสรตกลงบนดอกตวั เมยี อกี วธิ ีหนึง่ ทเี่ กษตรกรผปู้ ลูกฟกั ทอง จ.สกลนคร แนะนาเทคนคิ งา่ ยๆ คือ เอานมผงท่ีใชเ้ ลี้ยงทารกผสม นา้ พอประมาณ พน่ ใส่ดอกฟกั ทองในระยะทด่ี อกกาลังบาน เพอ่ื ล่อแมลงมาช่วยผสมเกสร วิธีนี้ชว่ ยให้ฟกั ทองติด ผลทกุ เถา โดยไม่ตอ้ งตอ่ ดอก การเกบ็ เกย่ี ว ฟกั ทองเปน็ พืชผักทแ่ี มลงไม่ค่อยชอบทาลายเมื่อผลแกเ่ ก็บเกย่ี วไวเ้ ลยโดยสังเกตสเี ปลอื ก สีจะกลมกลนื เป็นสีเดยี วกนั ไม่แตกตา่ งกันมากนกั ดูนวลขน้ึ เตม็ ทั้งผลคือมนี วลขึ้นตง้ั แตข่ ้ัวไปจนตลอดกน้ ผล แสดงว่าแก่จดั การเก็บควรเหลือข้ัวติดไว้ดว้ ยสักพอประมาณเพ่ือชว่ ยใหเ้ ก็บรกั ษาไดน้ านข้นึ สามารถเก็บผลไว้รอ ขาย หรือบริโภคได้นานๆ โดยไม่ตอ้ งใส่ตูเ้ ยน็ การให้ผลผลิต จะทยอยเกบ็ ผลได้ 5-6 คร้ัง เก็บไดเ้ ร่อื ยๆ ถ้าปลูกเดือนกุมภาพันธจ์ ะเกบ็ ผลไดใ้ นเดอื นมถิ นุ ายน (พันธ์หุ นกั ) ทยอยเก็บไปได้เรื่อยๆ จนเดอื นกรกฎาคม ตน้ หน่ึงถงึ 5-7 ผล 1 ไร่ ให้ผลผลิตประมาณ 1-1.5 ตนั ถา้ ดแู ลรักษาใสป่ ุ๋ยดจี ะให้ถึง 2 ตัน (นา้ หนกั สด) ถา้ พันธเ์ุ บา ปลูกได้ 50-60 วนั ก็เก็บผลได้

- 23 - ใบงานที่ 2 ข้นั ตอนการปลูกฟกั ทอง ชือ่ – สกลุ ..............................................รหัส.....................................ระดบั ...................... 1. ให้ผู้เรยี นอธบิ ายข้นั ตอนการปลกู ฟักทอง การดูแลรักษา การเกบ็ เกีย่ วฟกั ทองทถ่ี ูกวธิ ีพอสังเขป ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

- 24 - เฉลยใบงานท่ี 2 ขน้ั ตอนการปลกู ฟักทอง ********************* 1. ใหผ้ เู้ รียนอธบิ ายขน้ั ตอนการปลกู ฟกั ทอง การดูแลรักษา การเกบ็ เกยี่ วฟักทองทถ่ี กู วิธพี อสังเขป แนวคาตอบ ขนั้ ตอนการปลกู ฟักทอง มดี ังนี้ ข้นั ตอนท่ี 1 โดยใช้ระยะปลกู 3x3 เมตรใช้วธิ ีหยอดหลมุ ปลูก หลุมละ 3-5 เมล็ด ลกึ ประมาณ 3-5 ซม. แล้วกลบหลมุ ขน้ั ตอนท่ี 2 ถา้ มีฟางขา้ วแหง้ ให้นามาคลุมแปลงปลกู เพ่ือรักษาความชมุ่ ช้นื ใหแ้ กผ่ ิวหน้าดิน ขน้ั ตอนท่ี 3 เม่ือต้นกล้างอกจะมใี บจรงิ 2-3 ใบแลว้ ควรถอนแยกต้นทไี่ มส่ มบรู ณ์ทิ้งไป เหลอื ตน้ ทส่ี มบรู ณแ์ ขง็ แรง เหลือหลุมละ 2 ต้นและรดนา้ ทุกวนั เมอื่ ตน้ กลา้ เจริญจนมใี บจริง 4 ใบ ขัน้ ตอนท่ี 4 ชว่ งน้ใี หใ้ สป่ ยุ๋ สูตร 21-0-0 ประมาณ 1 ช้อนโตะ๊ ต่อต้น ขน้ั ตอนท่ี 5 เมอ่ื ฟกั ทองเร่มิ ออกดอก ใสป่ ๋ยุ เคมี สตู 1ร4-14-21 โรยรอบๆ ต้น (ประมาณ1 กามอื ) แล้วรดน้าตามและใส่ปุย๋ อีกครงั้ เมือ่ ฟักทองเรมิ่ ตดิ ผลอ่อน ขน้ั ตอนท่ี 6 การรดน้าตอ้ งรดนา้ ทุกวัน จนคะเนว่าอกี 15 วนั จะเกบ็ ผลแกไ่ ด้ จงึ หยุดรดน้า การดแู ลรักษา และการใสป่ ุ๋ย เมื่อตน้ กล้างอกจะมีใบจริง 2-3 ใบแล้ว ควรถอนแยกต้นทไ่ี ม่สมบูรณ์ท้งิ ไป เหลือตน้ ท่สี มบรู ณ์แขง็ แรง เหลือหลุมละ 2 ตน้ และรดนา้ ทกุ วนั การเก็บเกย่ี ว ฟกั ทองเป็นพชื ผกั ทแ่ี มลงไม่คอ่ ยชอบทาลายเมือ่ ผลแกเ่ กบ็ เกี่ยวไวเ้ ลยโดยสงั เกตสีเปลอื ก สจี ะกลมกลนื เปน็ สเี ดยี วกัน ไม่แตกต่างกนั มากนกั ดูนวลขน้ึ เตม็ ทั้งผลคือมีนวลขนึ้ ต้ังแต่ข้วั ไปจนตลอดก้นผล แสดงวา่ แกจ่ ัดการเก็บควรเหลือข้วั ติดไวด้ ้วยสักพอประมาณเพื่อช่วยให้เก็บรกั ษาได้นานขนึ้ สามารถเก็บผลไวร้ อ ขาย หรอื บรโิ ภคไดน้ านๆ โดยไมต่ อ้ งใสต่ ้เู ยน็ ************************

- 25 - ใบความรู้ที่ 3 การแปรรูปฟักทอง ********************* การแปรรปู และการถนอมอาหาร การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร เปน็ การนาผลผลิตทางการเกษตรทอ่ี ยู่ในพ้ืนท่ีมาแปรรปู เพ่อื เพ่ิม มูลค่าของผลผลติ ช่วยเกบ็ รักษาผลผลติ ทางการเกษตรไวบ้ รโิ ภคในครัวเรือนเป็นเวลานานโดยไม่เน่าเสีย ทาให้ เกดิ ผลิตภัณฑ์ใหมๆ่ ท่ีมีรปู แบบและรสชาตแิ ตกตา่ งจากเดมิ ช่วยเพ่ิมความหลากหลายให้แก่ผลผลติ ทาง การเกษตร ทาใหบ้ ริโภคสะดวกและงา่ ยขึ้น นอกจากนีย้ ังช่วยเพ่มิ ช่องทางของตลาดใหม้ ากขึน้ ตลอดจนชว่ ย กระจายปรมิ าณสนิ ค้าเกษตรออกสู่ตลาดในปรมิ าณทีส่ มดลุ การแปรรปู ขัน้ ตอนและวิธีการในการเปลีย่ นแปลงวัตถดุ ิบใหเ้ ป็นอาหารสาหรบั บริโภค การแปรรปู หมายถงึ การถนอมอาหาร การถนอมอาหาร หมายถึง กระบวนการเก็บและรักษาอาหาร เพื่อชะลอการเน่าเสยี ของอาหาร หรอื ปูองกนั โรคอาหารเปน็ พิษ ในขณะท่ยี ังรกั ษาคุณค่าทางโภชนาการ สสี ัน และกลิน่ ให้คงอยู่ ประโยชน์ของการแปรรูปและการถนอมอาหาร ประโยชน์ที่ไดจ้ ากการแปรรูปอาหารมีทงั้ การได้ทาลายสารท่ีเปน็ พษิ ในอาหาร ชว่ ยถนอมอาหาร ทาใหม้ ี กลนิ่ และรสชาตดิ ขี ้นึ สามารถจาหนา่ ยได้สะดวกข้นึ และเพ่มิ ความเข้มข้นของอาหาร การแปรรปู อาหารใน สมยั ใหม่ยังช่วยพัฒนาคุณภาพชวี ติ ของผทู้ ี่เปน็ โรคภมู ิแพ้ โรคเบาหวาน และผทู้ ่ไี ม่สามารถบริโภคอาหารไดอ้ ยา่ ง ปกติ และสามารถเตมิ สารอาหารทเี่ ปน็ ประโยชนไ์ ดอ้ กี ดว้ ย ผลเสียของการแปรรปู และการถนอมอาหาร การแปรรปู อาหารมักจะทาใหค้ ณุ ค่าทางโภชนาการลดลง และบางครัง้ อาจจะมีสารเคมีที่เปน็ พษิ ปะปน เข้าไปกับอาหารในระหวา่ งการแปรรปู อย่างเชน่ สารประกอบประเภทไนไตรท์ หรอื อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน ซง่ึ สารหลายชนิดทใ่ี ช้เจือปนในอาหารก็พบวา่ มีผลเสียตอ่ สขุ ภาพ ขณะท่ีการแปรรูปบางวิธีกท็ าให้อาหารมกี ลิ่น และรสชาตนิ ่ารับประทานนอ้ ยลง

- 26 - หลกั สาคัญในการแปรรูปอาหาร การเตรยี มสถานที่ สถานท่ใี นการผลติ ควรสะอาด และมกี ารจัดแบ่งบรเิ วณให้เป็นสัดสว่ นตามลาดบั ขนั้ ตอนการผลิต มพี ืน้ ท่ี พอทจี่ ะติดต้งั เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ที่ใช้ในการผลติ โดยการจดั แบ่งพ้ืนทภ่ี ายในสถานทผี่ ลิตอยา่ งนอ้ ยทสี่ ุดควรมี บริเวณต่างๆ ดงั น้ี 1. บริเวณรบั และทาความสะอาดวัตถุดบิ 2. บรเิ วณจัดเกบ็ วตั ถุดิบภาชนะบรรจุ และสารเคมี 3. บริเวณเตรยี มภาชนะบรรจุ 4. บรเิ วณผลิต 5. บรเิ วณบรรจุ 6. บริเวณฆ่าเชื้อ 7. บรเิ วณจัดเกบ็ ผลิตภณั ฑ์ ท้งั นก้ี ารจัดลาดับบริเวณให้เปน็ ไปตามลาดบั ขน้ั ตอนของสายการผลิตในแต่ละผลิตภัณฑ์ เชน่ ผลติ ภัณฑ์ ท่ตี อ้ งผา่ นการฆ่าเช้ือ หลงั บรรจุตอ้ งจดั ให้บรเิ วณฆา่ เช้ือผลติ ภัณฑ์แยกออกจากบริเวณผลิต และบรรจุ และจัดให้ อยู่ในลาดับหลงั ข้นั ตอนการบรรจุ เปน็ ตน้ นอกจากน้ียังต้องมกี ารดูแลทาความสะอาดอยา่ งสม่าเสมอ นอกจากน้ี สถานท่ีผลติ ตอ้ งเปน็ ไปตามหลักการดงั ต่อไปนีด้ ว้ ย 1. อาคารที่ตงั้ อย่ใู นสถานการณ์ทีห่ า่ งไกลจากสง่ิ รบกวน เช่น ควนั ฝุน หรอื กองขยะ มกี ารระบายนา้ ทด่ี ี 2. ตวั อาคารตอ้ งมีสภาพทีด่ ี แขง็ แรงมพี ้ืนทพ่ี อเพียงสาหรับปฏบิ ัติงาน 3. ตวั อาคารตอ้ งมกี ารระบายอากาศทด่ี ีและสามารถปอู งกันมิใหเ้ ปน็ ทอี่ ยู่อาศยั ของสตั วแ์ ละแมลงตา่ งๆ 4. ตวั อาคารผลิตจะตอ้ งจัดการปฏบิ ตั ิงานให้เป็นสัดส่วน 5. อาคารตงั้ อยใู่ นสถานทเ่ี หมาะสมและไมใ่ กล้เคยี งกับสถานท่รี งั เกียจ เชน่ คอกปศุสตั ว์ หรือ สถานท่ี เล้ยี งสัตว์ เมรเุ ผาศพ สถานทผี่ ลิตวตั ถมุ ีพิษ 6. ตัวอาคารออกแบบสรา้ งในลกั ษณะง่ายแก่การทะนุบารงุ และรกั ษาความสะอาดในกระบวนการผลิต อาหาร คือ 6.1 แยกทอี่ ยอู่ าศยั ออกเปน็ สดั สว่ นไม่ปะปนกับบริเวณการผลติ อาหาร 6.2 จดั ให้มแี สงสว่างและการระบายอากาศที่เหมาะสม พอเพยี งสาหรับการปฏบิ ตั ิงาน 6.3 หลอดไฟมฝี าครอบ ปูองกันฝุนละอองปนเปื้อนและเพื่อความปลอดภัยของผูป้ ฏบิ ัตงิ าน 7. พื้นทแี่ ละผนงั ของอาคารผลติ ควรให้สีออ่ น ทาดว้ ยวัสดทุ ่ีไม่เปน็ พษิ ไม่มีรอยแตกอยใู่ นสภาพกันนา้ ได้ ไมด่ ูดซับ 7.1 ตามมมุ ระหวา่ งผนังกบั พนื้ และหลงั คาต้องปิดสนิท 7.2 พ้ืนอาคารผลิตควรมคี วามลาดเอยี งท่ีจะให้นา้ ไหลลงสทู่ ่อระบายนา้ ได้ 7.3 หลงั คาตอ้ งไม่เป็นทส่ี ะสมฝุนได้ง่าย ราข้นึ ไมไ่ ด้ ไมม่ รี อยแตกและไม่มไี อน้าเกาะงา่ ย 7.4 หนา้ ต่างและประตู ตอ้ งเรยี บผิวหนา้ ไมด่ ดู ซมึ จะต้องอยู่ในสภาพท่ปี อู งกันการปนเป้ือน

- 27 - จากภายนอก ไม่มีการเข้าออกของนกและแมลง 8. จะต้องติดตง้ั อา่ งล้างมือและปูายเตือนใหล้ า้ งมือ ซ่ึงอ่างลา้ งมือจะต้องต้งั อยู่บริเวณทางเข้า และมีจานวนมากพอท่ใี หเ้ จ้าหน้าท่ไี ด้ล้างมอื กอ่ นจะเขา้ บรเิ วณแปรรปู 9. จดุ ทีต่ ่อสายฉีดน้าจะต้องมีไว้ในทที่ เี่ หมาะสม สะดวกต่อการใช้งาน การเตรยี มอปุ กรณ์ เรม่ิ ด้วยขนั้ ตอนการล้าง ทาความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆให้สะอาด แล้วเช็ดหรอื ตากแดดใหแ้ ห้งสนทิ ทกุ ครงั้ ทัง้ กอ่ นและหลังการแปรรูป โดยเครื่องมือ อปุ กรณต์ ่างๆ ต้องถกู ต้องตามหลักการต่อไปน้ี 1. เครอื่ งมือและเคร่อื งใชต้ ่างๆ จะตอ้ งออกแบบ และติดตงั้ ให้สะดวกต่อการใชง้ านและบารุงรกั ษา เพือ่ ให้ ถูกสขุ ลักษณะและทาความสะอาดได้ทว่ั ถึง 2. ขาตั้งสาหรับเครือ่ งมอื โตะ๊ อา่ ง ตอ้ งทาด้วยวัสดุทึบเรยี บ เพือ่ ปอู งกันไมใ่ ห้แมลงหรอื สงิ่ ปนเป้อื นอ่ืนๆ เข้าไปอยู่ได้ 3. เคร่ืองมือตงั้ อย่บู นพนื้ จะต้องมกี ารตดิ ต้ังใหแ้ นบสนทิ กบั พืน้ หรอื ต้งั บนขาสงู อยา่ งน้อยสุด 30 เซนติเมตร ระหวา่ งใตเ้ คร่ืองมอื และพน้ื 4. ภาชนะหรือถงั ที่ใช้ใส่ของกนิ ไม่ได้ จะต้องทาเครอ่ื งหมายใหเ้ หน็ ชัด การเลอื กใช้วัตถุดบิ การเลอื กใชว้ ตั ถดุ ิบนนั้ ตอ้ งคานึงถึงแหล่งท่มี า ชนิด ปริมาณ คุณภาพ การเส่ือมเสียตลอดจนการเก็บ รักษาวัตถุดบิ ก่อนเขา้ สูก่ ระบวนการแปรรปู เพ่ือให้ได้วัตถดุ บิ เข้าสกู่ ระบวนการผลิต มีคุณภาพ สม่าเสมอ และมี ปริมาณ สอดคล้องกบั ความตอ้ งการ ต้องเลือกวัตถดุ ิบที่สดสะอาด มีคุณภาพมาใชใ้ นการผลติ 1. แยกวตั ถุดบิ ท่มี ีการเนา่ เสยี หรือปนเป้ือนสารพิษออกทนั ที 2. อปุ กรณท์ ี่ใชข้ นส่งวตั ถุดบิ ต้องรกั ษาความสะอาดให้สม่าเสมอ 3. บริเวณทใ่ี ชเ้ กบ็ วตั ถดุ บิ จะตอ้ งรักษาให้มีความสะอาดอย่เู สมอ การบรรจุภณั ฑ์ การบรรจภุ ณั ฑ์นั้นมคี วามสาคญั ตอ่ ผลผลิต ดังนี้ 1. ชว่ ยรักษาคณุ ภาพและปกปอู งตวั สินค้า ไมใ่ หเ้ สยี หายจากการปนเปอ้ื นจากฝุนละอองแมลง คน ความช้นื ความร้อน แสงแดด และการปลอมปน เปน็ ต้น 2. ให้ความสะดวกในเร่ืองการขนสง่ การจัดเกบ็ มีความรวดเร็วและสะดวกในการขนสง่ 3. ส่งเสริมทางดา้ นการตลาด บรรจุภณั ฑ์ เป็นส่งิ แรกทผี่ บู้ รโิ ภคเหน็ ดงั นน้ั บรรจภุ ัณฑจ์ ะตอ้ งทาหน้าที่ บอกกลา่ วส่งิ ต่างๆของตวั ผลติ ภณั ฑโ์ ดยการบอกขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ จาเปน็ ทั้งหมดของตัวสนิ ค้า และนอกจากนจี้ ะตอ้ งมี รูปลักษณ์ท่ีสวยงามสะดุดสายตาเชิญชวนใหเ้ กดิ การตัดสนิ ใจในการซอื้ การเกบ็ รกั ษาในกระบวนการการเกบ็ รักษานั้นควรเก็บรักษาในสถานทที่ ่แี หง้ สะอาด และอณุ หภูมทิ ี่เหมาะสมน้ันเปน็ ปัจจยั ท่สี าคัญท่ีสดุ เน่ืองจาก อุณหภมู ิมผี ลต่อการเปลีย่ นแปลงของอาหาร

- 28 - การแปรรูปฟกั ทอง 1. การทาขา้ วเกรียบฟักทอง การทาขา้ วเกรียบฟกั ทองตอ้ งเตรียมวัสดอุ ุปกรณใ์ หค้ รบ พรอ้ มทีจ่ ะนามาใชไ้ ด้ทันท่ถี ้าขาดส่ิงหน่งึ ส่งิ ใดก็ จะทาให้การทางานไมไ่ ดผ้ ลตามทีต่ ้องการ วสั ดุและอปุ กรณ์ในการทาขา้ วเกรียบฟักทอง มดี งั นี้ 1. ฟักทอง 2. แปูงสาลี และแปงู มัน 3. กระเทียม 4. น้าตาลทราย 5. พริกไทย 6. เกลอื 7. กระดง้ 8. เตาถ่าน 9. รังถงึ สาหรบั นงึ่ แปูง 10. เขยี งสาหรบั หนั่ ขา้ วเกรยี บ 11. มีดสาหรบั หนั่ ข้าวเกรยี บ 12. ทัพพีสาหรบั คนแปงู ให้เขา้ กนั ระหว่างเคร่ืองผสม 13. ไม้ (พาย) สาหรับคนแปงู 14. กะละมงั สาหรับนวดแปูง 15. ตราชัง่ สาหรบั ชงั่ ฟักทอง สว่ นผสม 1. ฟักทองปอกเปลือก 1 กิโลกรัม 2. แปงู มนั 2 กโิ ลกรมั 3. แปูงสาลี 2 ขีด 4. เกลอื ปุน 2 ช้อนโตะ๊ 5. พริกไทยปนุ 2 ช้อนโตะ๊ 6. น้าตาลทราย 2 ชอ้ นโตะ๊ 7. กระเทยี มโขลกละเอียด 2 ชอ้ นโต๊ะ 8. นา้ มันพชื 2 ช้อนโต๊ะ

- 29 - หมายเหตุ 1. ถา้ ทาปริมาณมากใหเ้ พมิ่ อตั ราสว่ นตามต้องการ จะใชเ้ ผอื ก มนั มะละกอ หรอื ข้าวโพด กไ็ ด้ 2. การใชแ้ ปงู สาลีผสมเพอื่ ทาให้ขา้ วเกรยี บฟักทองกรอบและรูปทรงอยูต่ ัว 3. การใช้เผอื กผสมกบั มัน จะทาใหข้ า้ วเกรยี บเปน็ สีมว่ งอ่อน ทาให้มีสธี รรมชาติแตกตา่ ง จากเดมิ วิธีทา ขั้นตอนท่ี 1 ปอกเปลอื กฟักทองเอาเมล็ดออกแลว้ ลา้ งใหส้ ะอาดห่ันเป็นช้ินเล็ก ๆ แล้วชง่ั นา้ หนกั ตามส่วนทตี่ อ้ งการ ขั้นตอนที่ 2 ใส่นา้ พอทว่ มฟกั ทองแลว้ นาไปต้มจนเละ ขน้ั ตอนที่ 3 นาเกลือ พรกิ ไทย กระเทียมที่ปนุ เรยี บรอ้ ยแลว้ มาผสมกับแปูงมนั และแปูงสาลี นา้ ตาลทราย คนใหเ้ ขา้ กันจนทว่ั ขน้ั ตอนที่ 4 นาฟกั ทองที่ต้มจนเละแล้วใส่ลงในแปงู ขณะทนี่ า้ ฟักทองยงั ร้อนอยคู่ นให้เขา้ กัน แลว้ นวดให้เป็นเน้อื เดยี วกนั ข้นั ตอนท่ี 5 นวดแปูงทผี่ สมแล้วใหเ้ น้ือเข้ากันระหว่างท่ีนวดควรเติมน้ามนั ลงไปดว้ ย เพอ่ื ไมใ่ ห้ แปงู ติดมอื และติดกะละมงั เปน็ การเพ่ิมความนวลให้กบั เนอื้ แปงู ด้วย ขั้นตอนที่ 6 นาแปูงทีน่ วดไดท้ แ่ี ล้วมาป้ันให้เปน็ แท่งให้มเี ส้นผ่าศนู ยก์ ลางประมาณ 2 นิ้ว เพอื่ เตรยี มนงึ่ ต่อไป ขน้ั ตอนที่ 7 นาแปูงทป่ี ้นั แล้วมาใส่รงั ถงึ ท่ีมใี บตองเปน็ ร้ิว ๆ รองก้นรังถึงเพ่ือให้ไอน้าเดอื ดผ่าน ขึน้ มาได้ และใชน้ ้ามันทาใบตองกอ่ นเพอื่ มิให้ฟกั ทองตดิ ใบตองแปงู ทีน่ ึ่งแล้วจะมีสเี หลืองใส นาออกจาก รังถึงทงิ้ ไวใ้ นเย็น 1 คืน หรือจะนาไปเข้าต้เู ย็นประมาณ 4-5 ชั่วโมง เพ่ือนามาหนั่ ตอ่ ไปแปงู ขา้ วเกรียบที่ แหง้ แข็งตัวแลว้ พร้อมท่จี ะหัน่ ได้ ขนั้ ตอนท่ี 8 นาแปงู ทแ่ี ข็งตัวแลว้ มาห่นั เปน็ แวน่ เพอ่ื นาไปตากต่อไป ขณะทต่ี ากตอ้ งกลับให้ แห้งสม่าเสมอกัน ขัน้ ตอนท่ี 9 นาชิน้ ขา้ วเกรยี บฟกั ทองท่ีห่นั แลว้ นามาตากแดดใหแ้ หง้ เพอ่ื มใิ ห้เกิดวามชน้ื แล เกดิ รา ก่อนนาไปบรรจใุ สถ่ งุ แล้วปิดปากถงุ ให้แน่น

- 30 - 2. การทาฟกั ทองทอดกรอบ ส่วนผสม 1. ฟกั ทองแก่ ๆ (ขดู เอาเมลด็ ออก) 1/2 กิโลกรมั 2. น้าปูนใส 3. เกลือปนุ เลก็ น้อย 4. น้ามนั พืชสาหรับทอด 5. เนยสดเลก็ น้อย วิธีทา 1. ฝานฟักทองให้เปน็ แผ่นบาง ๆ (ไม่ตอ้ งปอกเปลอื ก) จากนั้น นามาแชน่ า้ ปนู ใส ทง้ิ ไวป้ ระมาณ 30 นาที นาข้นึ ผึ่งใหส้ ะเด็ดนา้ มาก ๆ 2. ตง้ั นา้ มันในกระทะใหร้ อ้ น จากน้ัน ลดไฟลงปานกลาง นาฟกั ทองที่ผง่ึ ไว้ ลงทอด คนสมา่ เสมอ จนกระท่งั สกุ และกรอบ นาข้นี จากกระทะ วางบนกระดาษซับน้ามัน 3. คลุกเนย และโรยเกลือให้ทว่ั (ถ้าใชเ้ นยเคม็ กไ็ มต่ ้องใสเ่ กลือก็ได้) จากนนั้ เคลา้ ให้เข้ากนั พกั ไวใ้ ห้เย็น สนิท สามารถรับประทานได้ท้นที หรอื จดั เก็บใสข่ วดโหล ปดิ ฝาให้สนทิ เกบ็ ไวท้ านภายหลงั ได้ 3. การทาฟักทองกวน สว่ นผสม 1. ฟักทองนงึ่ สุกบดละเอยี ด 5 ถว้ ยตวง 2. หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง 3. มะพรา้ วขดู ขาว 2 ¼ ถ้วยตวง 4. วานิลลา 2 ชอ้ นชา 5. งาขาวค่ัวพอหอมแต่งหนา้ ขนม 2 ชอ้ นโต๊ะ วธิ ีทา 1. นาส่วนผสมทั้งหมดใส่กระทะทอง ตงั้ ไฟออ่ นปานกลางคนด้วยช้อนไม้ขนาดใหญต่ ลอดเวลา จน สว่ นผสมเหนยี วดี ลองปั้นดแู ล้วไม่ติดมอื ใชไ้ ด้ ยกลงจากเตา 2. ตักขนมใสถ่ าด ขนาด 4 ½ *4 ½ *1 ½ นวิ้ ฟตุ 3. ใชห้ ลังทัพพีทานา้ มันพืชกดหนา้ ขนมใหเ้ รียบเปน็ มนั สวย 4. ท้งิ ให้ขนมเย็นตัดแบง่ ถาดละ 9 ชน้ิ แต่งหน้าดว้ ยงาขาวค่ัว 5. เกบ็ ในภาชนะท่สี ะอาดและปดิ ใหส้ นิท

- 31 - 4. การทาฟกั ทองเชือ่ ม สว่ นผสม 1. ฟกั ทอง 500 กรมั 2. น้าตาลทราย 250 กรมั 3. นา้ เปลา่ 450 กรมั 4. นา้ มะนาว 1 ชอ้ นโต๊ะ 5. น้ากะทิ 100 กรมั 6. เกลือปนุ 1/2 ช้อนชา 7. แปงู ขา้ วเจ้า 1/2 ชอ้ นโตะ๊ 8. น้าปนู ใส วธิ ที า 1. นาฟักทองไปทาความสะอาด และหั่นเป็นชน้ิ ๆ (จะปอกเปลือกหรอื ไมป่ อกก็ได้ แลว้ แต่ ความชอบ) เสรจ็ แล้วนาไปแชน่ า้ ปูนใสประมาณคร่ึงชัว่ โมง จากนั้นจึงนาขนึ้ มาลา้ งน้าและผงึ่ ให้แหง้ 2. ทาน้าราดกะทิ โดยใสน่ ้ากะทิ แปูงขา้ วเจา้ และเกลือ ลงในหม้อเล็ก ต้งั บนไฟอ่อนๆจน เขา้ กันดี ปิดไฟและพักไว้ 5. การทาฟักทองแช่อิ่ม สว่ นผสม 1. เนื้อฟกั ทอง 1 กิโลกรัม 2. นา้ ตาลทรายขาว 1 กโิ ลกรมั 3. น้าปนู ใส 4. นา้ 2 ลิตร วธิ ีทา 1. ห่ันเนือ้ ฟกั ทองเปน็ ชิ้นหนาประมาณ 1 เซนติเมตร 2. ลวกในน้าเดือดนาน 2 นาที เอาขน้ึ ใหส้ ะเดด็ น้า แลว้ แชน่ า้ ปูนใส 1 ช่วั โมง เอาขน้ึ 3. แช่ในนา้ เชื่อมทมี่ ีความเขม้ ข้น 15 องศาบริกซ์ (นา้ ตาล 400 กรัม ต่อน้า 2 ลติ ร) 4. ร่งุ ขนึ้ เอาชิน้ ฟักทองขน้ึ จากน้าเชอ่ื ม เพิม่ ความเข้มข้นของน้าเชอื่ มทุกวนั โดยการเติมนา้ ตาล ทรายขาวอกี วนั ละ 50 กรัม (4 ช้อนโต๊ะ) แล้วต้มน้าเชอ่ื มใหเ้ ดอื ดกอ่ นนาฟักทองลงแชท่ ุกครั้ง 5. ทาทกุ วันจนครบ 7 วนั เตมิ นา้ ตาลทรายขาวอีก 130 กรัม (10 ช้อนโต๊ะ) เพอ่ื ใหไ้ ด้น้าเช่อื ม เขม้ ข้น 75 องศาบริกซ์ แชฟ่ ักทองไว้ในน้าเช่อื มอกี 2 คนื 6. นาช้นิ ฟกั ทองข้นึ ตากแดด หรอื ตากในตู้อบลมร้อนไฟฟูา 7. บรรจุในภาชนะสะอาด

- 32 - ใบงานท่ี 3 การแปรรปู ฟักทอง ช่ือ – สกลุ ...............................................รหัส.....................................ระดบั ...................... 1. การแปรรปู และถนอมอาหารมคี วามสาคญั อย่างไร จงอธิบาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. 2. จงบอกประโยชน์ของการแปรรูปและถนอมอาหาร มาพอสังเขป ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. 3. จงบอกวิธกี ารแปรรูปฟักทองมา 1 อย่าง ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................

- 33 - เฉลยใบงานที่ 3 การแปรรปู ฟักทอง 1. การแปรรปู และถนอมอาหารมีความสาคญั อย่างไร จงอธบิ าย แนวคาตอบ 1. ช่วยเพิม่ มูลคา่ ของผลผลิตทางการเกษตร 2. ชว่ ยร้กษาผลผลติ ทางการเกษตรไว้บริโภคเวลานาน 3. เกดิ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทีม่ รี ปู แบบและรสชาตติ ่างจากเดมิ 4. ชว่ ยเพิม่ ความหลากหลายให้ผลผลิตทางการเกษตร 5. ชว่ ยกระจายปริมาณสนิ ค้าเกษตรออกสู่ตลาด 2. จงบอกประโยชนข์ องการแปรรปู และถนอมอาหาร มาพอสังเขป แนวคาตอบ 1. ทาให้กล่นิ และรสชาตอิ าหารดขี ้นึ 2. สามารถจดั จาหน่ายผลผลิตทางการเกษตรไดส้ ะดวกขนึ้ 3. เพิม่ ความเขม้ ข้นของอาหาร 4. สามารถเติมสารอาหารท่เี ป็นประโยชน์ได้ 3. จงบอกวิธีการแปรรูปฟักทองมา 1 อย่าง แนวคาตอบ ใหค้ รูผสู้ อนพิจารณาตามความเหมาะสม เช่น การทาฟักทองทอดกรอบ ส่วนผสม 1. ฟักทองแก่ ๆ (ขูดเอาเมลด็ ออก) 1/2 กิโลกรัม 2. น้าปนู ใส 3. เกลอื ปนุ เลก็ น้อย 4. นา้ มันพืชสาหรบั ทอด 5. เนยสดเล็กนอ้ ย วิธีทา 1. ฝานฟักทองใหเ้ ปน็ แผ่นบาง ๆ (ไม่ตอ้ งปอกเปลือก) จากนั้น นามาแช่นา้ ปนู ใส ทิง้ ไว้ประมาณ 30 นาที นาข้ึนผึ่งใหส้ ะเด็ดนา้ มาก ๆ 2. ตัง้ นา้ มนั ในกระทะใหร้ ้อน จากนนั้ ลดไฟลงปานกลาง นาฟกั ทองทผ่ี งึ่ ไว้ ลงทอด คนสม่าเสมอ จนกระทั่งสกุ และกรอบ นาขนึ้ จากกระทะ วางบนกระดาษซับนา้ มนั 3. คลกุ เนย และโรยเกลอื ใหท้ ั่ว (ถ้าใชเ้ นยเค็มก็ไมต่ ้องใสเ่ กลือก็ได้) จากนั้นเคล้าให้เขา้ กัน พักไว้ใหเ้ ย็น สนทิ สามารถรับประทานได้ทน้ ที หรอื จัดเก็บใส่ขวดโหล ปดิ ฝาให้สนิทเกบ็ ไว้ทานภายหลังได้ ****************************

- 34 - ใบความรทู้ ี่ 4 บรรจภุ ัณฑ์ ********************* บรรจุภณั ฑ์ บรรจภุ ัณฑ์ หมายถงึ สินคา้ ทุกชนดิ ทท่ี าจากวสั ดุใด ๆ ที่นามาใช้สาหรับหอ่ หมุ้ ปอู งกนั ต้งั แตว่ ัตถุดิบ ถงึ สินคา้ ทผี่ า่ นการผลิต ตงั้ แต่ผู้ผลิตถึงผูใ้ ช้หรอื ผู้บริโภค บรรจุภณั ฑ์ ประกอบดว้ ย บรรจุภณั ฑส์ าหรับการขาย หรือบรรจภุ ัณฑล์ าดับทหี่ นึง่ ไดแ้ กบ่ รรจุภณั ฑ์ ท่เี ปน็ ส่วนหนึง่ ของการขายของให้กับผใู้ ชห้ รอื ผู้บริโภครายสดุ ทา้ ย ณ จุดซอื้ บรรจุภณั ฑ์กลุ่มหรือบรรจุภัณฑ์ ลาดับทสี่ อง ได้แก่บรรจุภณั ฑท์ ี่ใช้ที่จดุ ซ้ือกลมุ่ สนิ ค้าท่ีมจี านวนขายมากกว่าหนึ่ง ไมว่ า่ สินค้านั้นจะถกู ขายให้กบั ผใู้ ชค้ นสดุ ทา้ ยหรือผบู้ รโิ ภคหรือไมก่ ็ตาม และไมว่ ่าบรรจภุ ณั ฑ์นจ้ี ะถูกใชเ้ พื่อการดงึ สินค้าจากช้ันวางของ ณ จุดขายก็ตาม บรรจุภณั ฑน์ ส้ี ามารถถกู ดึงออกจากสนิ ค้าโดยไมส่ ง่ ผลกระทบต่อลกั ษณะเฉพาะตัวของสนิ คา้ บรรจภุ ณั ฑส์ าหรับการขนสง่ หรอื บรรจุภัณฑ์ลาดับทีส่ าม ไดแ้ ก่ บรรจุภัณฑ์ท่ีใชส้ าหรับช่วยในการลาเลียงและ ขนส่งสนิ ค้า ทีข่ ายจานวนมากหรอื กลุม่ บรรจภุ ณั ฑ์เพอ่ื ปอู งกันความเสยี หายทางกายภาพระหวา่ งการขนส่ง บรรจุภณั ฑส์ าหรบั การขนสง่ ไมร่ วมตู้คอนเทนเนอร์ ถนน รางเล่ือน เรอื หรอื ทางอากาศ ประเภทของบรรจภุ ณั ฑ์ ประเภทของบรรจภุ ณั ฑ์สามารถแบ่งได้หลายวิธีตามหลักเกณฑ์ตา่ ง ๆ ดงั นี้ 1. แบง่ ตามวธิ ีการบรรจุและวธิ กี ารขนถา่ ย 2. แบง่ ตามวัตถุประสงคข์ องการใช้ 3. แบง่ ตามความคงรปู 4. แบ่งตามวัสดบุ รรจุภณั ฑ์ที่ใช้ 1. ประเภทบรรจภุ ณั ฑแ์ บ่งตามวิธบี รรจแุ ละวิธกี ารขนถา่ ย สามารถแบ่งได้ 3 ประเภท 1.1 บรรจุภัณฑเ์ ฉพาะหนว่ ย ( Individual Package) คอื บรรจุภัณฑท์ ส่ี ัมผัสอยกู่ ับผลติ ภัณฑช์ ้นั แรก เปน็ ส่ิงท่ีบรรจุผลติ ภัณฑ์เอาไว้เฉพาะหน่วย โดยมวี ัตถปุ ระสงคข์ ัน้ แรกคือ เพิม่ คุณค่าในเชงิ พาณิชย์ ( To Increase Commercial Value) เชน่ การกาหนดให้มีลกั ษณะพิเศษเฉพาะหรอื ทาให้มีรูปร่างทเ่ี หมาะแก่การจบั ถือ และอานวยความสะดวกตอ่ การใชผ้ ลติ ภณั ฑภ์ ายใน พร้อมท้ังทาหนา้ ท่ีใหค้ วามปกปูองแก่ผลติ ภัณฑโ์ ดยตรง 1.2 บรรจภุ ัณฑช์ ้นั ใน (Inner Package) คอื บรรจภุ ัณฑ์ทีอ่ ยู่ถัดออกมาเป็นช้ันที่สอง มีหนา้ ทรี่ วบรวม บรรจุภณั ฑข์ น้ั แรกเข้าไว้ดว้ ยกันเป็นชุด ในการจาหนา่ ยรวมตั้งแต่ 2 – 24 ชิน้ ขึน้ ไป โดยมีวตั ถปุ ระสงค์ข้นั แรก คอื การปอู งกนั รักษาผลติ ภณั ฑ์จากนา้ ความชื้น ความรอ้ น แสง แรงกระทบกระเทือน และอานวยความสะดวก แกก่ ารขายปลีกยอ่ ย เป็นต้น ตวั อย่างของบรรจุภัณฑป์ ระเภทน้ี ไดแ้ ก่ กล่องกระดาษแขง็ ทบ่ี รรจเุ ครอ่ื งดืม่ 1 โหล

- 35 - 1.3 บรรจุภณั ฑช์ ้ันนอกสดุ ( Out Package) คอื บรรจุภณั ฑท์ ี่เปน็ หนว่ ยรวมขนาดใหญ่ทใ่ี ช้ในการ ขนส่ง โดยปกติแล้วผู้ซอื้ จะไม่ไดเ้ ห็นบรรจภุ ัณฑป์ ระเภทน้มี ากนกั เนือ่ งจากทาหน้าทปี่ อู งกันผลิตภัณฑ์ใน ระหว่างการขนสง่ เทา่ นนั้ ลักษณะของบรรจุภณั ฑป์ ระเภทนี้ ได้แก่ หีบ ไม้ ลงั กล่องกระดาษขนาดใหญท่ ี่ บรรจสุ นิ คา้ ไวภ้ ายใน ภายนอกจะบอกเพยี งขอ้ มูลท่ีจาเปน็ ต่อการขนส่งเทา่ นน้ั เชน่ รหสั สินค้า ( Code) เลขที่ (Number) ตราสินค้า สถานที่สง่ เป็นตน้ 2. การแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการใช้ บรรจุภัณฑ์เพือ่ การขายปลีก (Consumer Package) เปน็ บรรจภุ ัณฑ์ทีผ่ บู้ รโิ ภคซ้อื ไปใช้ไป อาจมีชัน้ เดยี วหรือหลายชน้ั กไ็ ด้ ซ่งึ อาจเปน็ Primary Package หรอื Secondary Package กไ็ ด้ บรรจภุ ณั ฑ์เพ่อื การขนส่ง (Shopping หรอื Transportation Package) เป็นบรรจุภณั ฑท์ ่ีใชร้ องรับหรอื ห่อห้มุ บรรจุภัณฑ์ ขั้นทุติยภมู ิ ทาหน้าทร่ี วบรวมเอาบรรจภุ ัณฑข์ ายปลีกเข้าดว้ ยกนั ใหเ้ ป็นหนว่ ยใหญ่ เพอื่ ความปลอดภัยและ ความสะดวกในการเกบ็ รกั ษา และการขนสง่ เชน่ กลอ่ งกระดาษลูกฟกู ท่ีใชบ้ รรจยุ าสฟี นั กลอ่ งละ 3 โหล 3. การแบง่ บรรจุภณั ฑ์ตามความคงรูป 3.1 บรรจภุ ณั ฑ์ประเภทรูปทรงแข็งตัว ( Rigid Forms) ไดแ้ ก่ เครอ่ื งแกว้ ( Glass Ware) เซรามคิ ส์ (Ceramic) พลาสติกจาพวก Thermosetting ขวดพลาสติก สว่ นมากเปน็ พลาสตกิ ฉดี เครอ่ื งป้นั ดนิ เผา ไม้ และโลหะ มคี ุณสมบตั แิ ข็งแกรง่ ทนทานเอ้อื อานวยตอ่ การใช้งาน และปอู งกนั ผลิตภณั ฑจ์ ากสภาพแวดลอ้ ม ภายนอกได้ดี 3.2 บรรจุภัณฑ์ประเภทรูปทรงกง่ึ แข็งตัว (Semirigid Forms) ได้แก่ บรรจภุ ณั ฑ์ท่ที าจากพลาสตกิ อ่อน กระดาษแขง็ และอลูมเิ นียมบาง คณุ สมบัติท้ังดา้ นราคา น้าหนกั และการปอู งกนั ผลติ ภณั ฑ์จะอยใู่ น ระดบั ปานกลาง 3.3 บรรจุภณั ฑป์ ระเภทรปู ทรงยดื หยนุ่ (Flexible Forms) ได้แก่ บรรจุภณั ฑท์ ที่ าจากวัสดอุ อ่ นตวั มีลักษณะเป็นแผน่ บาง ไดร้ ับความนิยมสูงมากเนื่องจากมีราคาถูก ( หากใช้ในปรมิ าณมากและระยะ เวลานาน ) น้าหนกั นอ้ ย มีรูปแบบและโครงสร้างมากมาย 4. แบง่ ตามวสั ดบุ รรจุภัณฑท์ ่ีใช้ การจัดแบง่ และเรยี กชื่อบรรจุภัณฑ์ในทรรศนะของผู้ออกแบบ ผ้ผู ลติ หรือนกั การตลาด จะแตกต่าง กันออกไป บรรจภุ ัณฑ์แตล่ ะประเภทก็ตั้งอยู่ภายใต้วัตถุประสงคห์ ลกั ใหญ่ (Objective Of Package) ท่ี คลา้ ยกนั คือ เพอื่ ปูองกันผลิตภณั ฑ์ ( To Protect Products) เพื่อจาหน่ายผลิตภณั ฑ์ ( To Distribute Products) เพ่ือโฆษณาประชาสัมพนั ธผ์ ลติ ภณั ฑ์ (To Promote Products)

- 36 - ประโยชนข์ องบรรจุภัณฑ์ ประโยชนข์ องบรรจุภณั ฑส์ าหรับผูผ้ ลิต มดี งั น้ี 1. ชว่ ยยกระดบั ราคา 2. สรา้ งมลู คา่ เพม่ิ แกส่ ินค้า 3. ช่วยดึงดดู ความสนใจจากลกู คา้ 4. ใช้เป็นส่อื เผยแพร่ โฆษณาตวั สนิ คา้ 5. สะดวกตอ่ การจดั สง่ และเคลื่อนย้าย 6. สะดวกตอ่ การแยกประเภทและจัดหมวดหมู่ ประโยชน์ของบรรจภุ ัณฑส์ าหรับผูบ้ ริโภค มดี งั นี้ 1. พกพา เคล่ือนยา้ ยสะดวก 2. ช่วยสรา้ งความภมู ใิ จในการซ้อื 3. สามารถแปรรปู ประยกุ ต์ใชง้ านอื่นได้ 4. ชว่ ยใหร้ ้รู ายละเอยี ดแหลง่ ทีม่ าของสนิ ค้า 5. สามารถรกั ษาสนิ ค้าใหม้ ีอายใุ ช้งานมากข้ึน

- 37 - ใบงานที่ 4 บรรจุภณั ฑ์ ช่ือ – สกลุ ...............................................รหัส.....................................ระดบั ...................... 1. จงอธบิ ายความหมายของบรรจภุ ัณฑต์ ามความเขา้ ใจ มาพอสังเขป ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. 2. จงบอกประเภทของบรรจภุ ัณฑท์ ่รี จู้ กั มา 3 ข้อ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ 3. จงบอกประโยชนข์ องบรรจภุ ัณฑ์มา 5 ข้อ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................

- 38 - เฉลยใบงานที่ 4 บรรจภุ ณั ฑ์ 1. จงอธบิ ายความหมายของบรรจุภณั ฑ์ตามความเข้าใจ มาพอสังเขป แนวคาตอบ บรรจุภณั ฑ์ หมายถึง สนิ คา้ ทกุ ชนดิ ทท่ี าจากวัสดใุ ด ๆ ท่ีนามาใชส้ าหรบั ห่อหุ้ม ปูองกัน ตง้ั แต่ วตั ถุดบิ ถึงสินค้าทผ่ี ่านการผลติ ตั้งแตผ่ ผู้ ลติ ถึงผูใ้ ช้หรอื ผบู้ ริโภค การบรรจภุ ัณฑ์ ( Packing) หมายถงึ วิธกี ารบรรจผุ ลติ ภัณฑ์ โดยการห่อหุ้ม หรือใส่ลงในบรรจภุ ณั ฑ์ปดิ หรอื ส่งิ อ่นื ๆ ทีป่ ลอดภัย 2. จงบอกประเภทของบรรจุภณั ฑ์ทรี่ ู้จักมา 3 ข้อ แนวคาตอบ 1. แบ่งตามวิธีการบรรจุและวิธกี ารขนถา่ ย 2. แบง่ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการใช้ 3. แบง่ ตามความคงรูป 4. แบง่ ตามวสั ดุบรรจภุ ัณฑ์ทีใ่ ช้ 3. จงบอกประโยชน์ของบรรจุภัณฑม์ า 5 ข้อ แนวคาตอบ ประโยชนข์ องบรรจภุ ณั ฑส์ าหรบั ผู้ผลติ มีดงั นี้ 1. ชว่ ยยกระดบั ราคา 2. สร้างมลู ค่าเพ่มิ แก่สนิ ค้า 3. ชว่ ยดงึ ดูดความสนใจจากลูกค้า 4. ใชเ้ ป็นสือ่ เผยแพร่ โฆษณาตัวสินค้า 5. สะดวกตอ่ การจัดส่งและเคล่ือนย้าย 6. สะดวกตอ่ การแยกประเภทและจดั หมวดหมู่ ประโยชน์ของบรรจุภัณฑส์ าหรบั ผบู้ ริโภค มีดังนี้ 1. พกพา เคลอ่ื นย้ายสะดวก 2. ช่วยสรา้ งความภมู ิใจในการซอ้ื 3. สามารถแปรรปู ประยกุ ตใ์ ชง้ านอ่นื ได้ 4. ชว่ ยให้ร้รู ายละเอยี ดแหล่งท่ีมาของสนิ ค้า 5. สามารถรักษาสินคา้ ให้มอี ายใุ ช้งานมากขน้ึ ********************

- 39 - ใบความรทู้ ่ี 5 การตลาด ******************** การตลาด การตลาด หมายถงึ การกระทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ในทางธรุ กจิ ทม่ี ผี ลให้เกิดการนาสินคา้ หรือบริการจาก ผผู้ ลิตไปสูผ่ ูบ้ ริโภคหรอื ผู้ใชบ้ รกิ ารนนั้ ๆ ใหไ้ ด้รับความพอใจ ขณะเดียวกัน กบ็ รรลุวัตถุประสงคข์ องกิจการ จากคาจากัดความดังกล่าว มกี ารเน้นใหเ้ หน็ ว่ากิจกรรมท่ีกระทานน้ั เป็นเรือ่ งของธรุ กจิ ต้องมีการซื้อขาย สนิ ค้าหรอื บรกิ าร ซึ่งมิใช่การใหก้ ันเปล่า ๆ โดยเฉพาะมกี ารเคล่ือนไหวของสินคา้ หรือบริการ มีการโอนเปลย่ี นมือ จากผูผ้ ลติ ซ่งึ เปน็ ผ้ขู าย ใหก้ ับผบู้ รโิ ภค หรอื ผู้ใช้สินค้าหรือบริการในฐานะเปน็ ผูซ้ อื้ สินคา้ องคป์ ระกอบที่เด่นชัดของการตลาดอีกสว่ นหน่งึ คือ ต้องมีส่งิ ท่ีจะโอนเปลี่ยนกรรมสิทธิ์คือสินคา้ หรือ บรกิ าร และตอ้ งมีตลาด คอื ผู้ซือ้ ท่แี สดงความจานงต้องการรับสินคา้ หรอื บริการน้นั จะมแี ต่ผผู้ ลติ ผูข้ ายแตฝ่ ุาย เดียวไม่ได้ องค์ประกอบสาคัญทจี่ ะทาให้เกิดการตลาดขน้ึ ต้องประกอบดว้ ย 1. มกี ารโอนเปล่ียนกรรมสทิ ธิ์ในสินค้าหรอื บรกิ าร (Ownership Transfers) 2. มีตวั สินค้าและตลาดทจี่ ะซือ้ สนิ คา้ หรอื บรกิ าร (Product-Market Interrelationship) ถา้ ขาดองคป์ ระกอบขอ้ ใดขอ้ หนึง่ จะไมม่ กี ารตลาดเกดิ ข้ึน กล่าวคือถ้าไม่มกี ารโอนเปล่ยี นกรรมสิทธิ์ สินคา้ ทผ่ี ลิตไดก้ ็จะอยู่ท่ีผูผ้ ลิตตลอดเวลา ยอ่ มไม่มีการเคลอื่ นไหวใด ๆ กบั สินค้าหรอื บรกิ าร ขณะเดียวกันถ้ามี การโอนเปลย่ี นกรรมสิทธ์ิโดยไม่กล่าวถงึ สนิ คา้ และตลาด ก็หมายความถงึ การโอนกรรมสทิ ธิ์ให้กันโดยเสนห่ า ไมใ่ ชก่ ิจกรรมซอื้ ขายสนิ คา้ ไมอ่ าจนบั ไดว้ า่ มีการตลาดเชน่ กนั ตลาด (Market) มพี น้ื ฐานท่ีประกอบดว้ ย 1. Needs, wants, demands ความจาเป็น ความต้องการ ความต้องการซือ้ Needs (ความจาเป็น) เปน็ อานาจพน้ื ฐานทกี่ ระตุ้นใหบ้ ุคคลเกิดความตอ้ งการในสงิ่ ใดสิ่ง หนึ่ง เพือ่ มาตอบสนองในสงิ่ ท่ขี าดหายไป แบง่ เปน็ 3 ประเภท คอื 1. Physical needs คอื ความตอ้ งการทางรา่ งกาย เชน่ ปัจจยั 4 (อาหารทอี่ ยู่อาศัย เสื้อผา้ ยารักษาโรค) ความอบอุน่ ความปลอดภยั ในชีวติ และทรัพยส์ ิน 2. Social needs คอื ความต้องการทางสังคม เช่น การยอมรบั ความรักจากคนรอบขา้ ง 3. Individual needs คอื ความต้องการส่วนบุคคลซงึ่ แตกตา่ งกนั เชน่ ความต้องการ ศกึ ษาหาความรู้ การแสดงออกถงึ ความเป็นตวั ของตัวเอง Wants (ความต้องการ) คือ สิง่ ทีส่ ามารถตอบสนอง Need ได้ ซง่ึ ความตอ้ งการของคนแตล่ ะคนจะแตกตา่ งกัน ออกไป ข้ึนอยู่กบั วฒั นธรรม สังคม และบคุ ลิกภาพส่วนบคุ คล

- 40 - Demands (ความตอ้ งการซ้ือ) เปน็ ความตอ้ งการในรปู ของอานาจในการซอ้ื เนอ่ื งจากมนุษยม์ ีความ ต้องการไม่จากัด แตม่ เี งินจากัด เพราะฉะนนั้ จึงตอ้ งเลือกซอื้ เฉพาะผลติ ภณั ฑ์ท่มี ี คณุ คา่ และสามารถตอบ สนองหรอื สร้างความพึงพอใจสูงสดุ 2. Products and services สินค้าและบริการ คือ สง่ิ ที่ผู้ผลิตหรอื นกั การตลาดนาเสนอแกต่ ลาดเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจ (attention) การ ซื้อ (acquisition) การใช้ (use) หรือการบรโิ ภค (consumption) โดยผลติ ภณั ฑ์นน้ั ต้องสามารถตอบสนอง ความจาเป็นและความต้องการของผู้บรโิ ภค แบ่งเปน็ 6 ประเภท คือ 1. สนิ คา้ (Goods) เชน่ สนิ ค้าบรโิ ภคอปุ โภคตา่ ง สนิ ค้าทผี่ ลติ จากโรงงาน เป็นต้น 2. บรกิ าร (Services) เช่น ธรุ กิจเกยี่ วกับการเดนิ ทาง ทพ่ี ัก สขุ ภาพ รา้ นคา้ ร้านอาหาร หรือ ส่ิงบนั เทงิ ท่ีอานวยความสะดวกในการใช้ชวี ิตประจาวนั เปน็ ตน้ 3. บคุ คล (Persons) เชน่ การอบรม ฝึกฝนทกั ษะ แรงงาน บคุ ลากร เปน็ ต้น 4. สถานท่ี (Place) เช่น โรงแรม วัด สนามกีฬา เป็นตน้ 5. องค์กร (Organizations) เช่น ธนาคาร ธุรกิจเอกชน องคก์ รอสิ ระ เปน็ ต้น 6. แนวความคิด (Ideas) /Services (บรกิ าร) คือ กจิ กรรมหรือผลประโยชน์ท่บี คุ คลหรือกลุ่ม บคุ คลนาเสนอแก่บุคคลอื่น โดยเป็นสิ่งทไ่ี มส่ ามารถจับต้องได้ ตวั อย่างเช่น บรกิ ารเสริมสวย ซ่อมรถ ทา ความสะอาด หรอื บรกิ ารรกั ษาความปลอดภยั เป็นตน้ 3. คณุ ค่า / มลู คา่ / ความพงึ พอใจ - คณุ ค่า (Value) = คุณค่าของผลิตภัณฑท์ ่ีผ้บู รโิ ภคไดร้ บั - มลู คา่ ของผลติ ภณั ฑ์ = จานวนเงินท่จี ่ายเพอ่ื ซื้อผลิตภณั ฑ์ - ความพงึ พอใจของลกู คา้Cu(stomer Satisfaction) เกดิ ข้นึ เมอ่ื : คุณคา่ ที่ไดร้ ับ> มูลคา่ ท่จี ่าย 4. การแลกเปลีย่ น (Exchange) คือ การกระทาทท่ี าใหไ้ ด้มาซ่ึงส่งิ ทต่ี ้องการจากบุคคลอ่ืน โดยการเสนอส่งิ อ่ืนเปน็ การตอบแทน เชน่ เงิน สิ่งของ หรือคาสญั ญา เป็นตน้ - Transaction (การทาธุรกรรม) เป็นการทาการคา้ ระหว่างบุคคล 2 ฝาุ ย คือระหวา่ งผ้ซู ้ือกบั ผขู้ าย โดยมลี ักษณะดังนี้ ต้องมี 2 สง่ิ ทีม่ คี ณุ คา่ มีข้อตกลงหรือเง่อื นไข มรี ะยะเวลาของการตกลงและมี สถานทีใ่ นการตกลง - Relationships marketing (การสรา้ งความสมั พันธท์ างการตลาด) กระบวนการสรา้ ง รักษา และการเพ่ิมสัมพันธภาพกบั ลกู คา้ และผมู้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสีย เชน่ พนักงาน ผ้ปู ูอนปจั จยั การผลติ ผกู้ ระจาย สินคา้ ผูค้ า้ ปลีก ธนาคาร รัฐบาล ชุมชน เป็นตน้

- 41 - 5. ตลาด / ตลาดเป้าหมาย - ในความหมายของบคุ คลทว่ั ไป ๆ ตลาด : สถานที่ทเ่ี ปน็ ศนู ยก์ ลางในการซือ้ ขาย - ในความหมายของทางธรุ กิจตลาด : กล่มุ บุคคลท่ีคิดวา่ จะซือ้ สนิ คา้ หรือความตอ้ งการของผ้ซู ้อื กลุ่มหน่งึ ท่มี อี านาจซื้อ - ตลาดเปาู หมาย (Target Markets) : กลุม่ ลูกค้าซงึ่ ผขู้ ายเลอื กท่จี ะเสนอขายสนิ ค้า

- 42 - ใบงานที่ 5 การตลาด ชือ่ – สกลุ ...............................................รหสั .....................................ระดบั ...................... 1. จงบอกความหมายของการตลาดมาพอสังเขป ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. 2. ความจาเป็นและความตอ้ งการของผบู้ ริโภคมีอะไรบ้าง ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................

- 43 - เฉลยใบงานที่ 5 การตลาด 1. จงบอกความหมายของการตลาดมาพอสังเขป แนวคาตอบ การตลาด หมายถงึ การกระทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ในทางธุรกจิ ที่มผี ลใหเ้ กดิ การนาสนิ คา้ หรือบริการจาก ผผู้ ลิตไปสูผ่ ู้บริโภคหรอื ผูใ้ ชบ้ ริการน้นั ๆ ใหไ้ ด้รบั ความพอใจ ขณะเดยี วกัน ก็บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ของกิจการ จากคาจากดั ความดงั กล่าว มีการเนน้ ใหเ้ หน็ ว่ากจิ กรรมท่กี ระทานั้นเปน็ เรอื่ งของธุรกจิ ตอ้ งมกี ารซื้อขาย สนิ ค้าหรอื บริการ ซ่ึงมใิ ช่การให้กนั เปลา่ ๆ โดยเฉพาะมีการเคล่อื นไหวของสนิ ค้าหรือบริการ มกี ารโอนเปลยี่ นมือ จากผู้ผลติ ซ่ึงเป็นผ้ขู าย ให้กับผู้บรโิ ภค หรอื ผใู้ ช้สนิ คา้ หรือบรกิ ารในฐานะเปน็ ผู้ซ้ือสนิ ค้า องคป์ ระกอบท่เี ดน่ ชดั ของการตลาดอกี สว่ นหน่งึ คือ ตอ้ งมสี ิ่งทจ่ี ะโอนเปลย่ี นกรรมสทิ ธค์ิ ือสนิ คา้ หรือ บรกิ าร และต้องมตี ลาด คือ ผซู้ ื้อทีแ่ สดงความจานงตอ้ งการรบั สินค้าหรอื บรกิ ารนัน้ จะมแี ตผ่ ้ผู ลิตผขู้ ายแต่ฝาุ ย เดียวไมไ่ ด้ 2. ความจาเปน็ และความต้องการของผู้บรโิ ภคมอี ะไรบ้าง แนวคาตอบ 1. สนิ ค้า (Goods) เช่นสนิ ค้าบรโิ ภคอปุ โภคต่าง สนิ ค้าท่ีผลิตจากโรงงาน เป็นต้น 2. บรกิ าร (Services) เช่น ธรุ กิจเกย่ี วกบั การเดินทาง ทีพ่ ัก สขุ ภาพ รา้ นค้า ร้านอาหาร หรอื สิ่งบันเทงิ ทอ่ี านวยความสะดวกในการใช้ชีวติ ประจาวนั เปน็ ต้น 3. บุคคล (Persons) เชน่ การอบรม ฝึกฝนทักษะ แรงงาน บคุ ลากร เป็นตน้ 4. สถานท่ี (Place) เช่น โรงแรม วดั สนามกฬี า เปน็ ตน้ 5. องคก์ ร (Organizations) เช่น ธนาคาร ธรุ กจิ เอกชน องคก์ รอสิ ระ เป็นต้น 6. แนวความคิด (Ideas) /Services (บริการ) คอื กจิ กรรมหรอื ผลประโยชนท์ ่ีบคุ คลหรอื กลมุ่ บคุ คล นาเสนอแก่บุคคลอ่ืน โดยเปน็ สิง่ ท่ไี มส่ ามารถจบั ต้องได้ *********************

- 44 - ใบความรู้ที่ 6 การทาบัญชีรายรับ – รายจา่ ย ******************************************** 1. การทาบญั ชีรายรับ รายจ่าย การทาบัญชรี ายรบั – รายจ่าย หมายถงึ การจดบันทกึ เหตุการณต์ า่ งๆ เกีย่ วกับการเงินหรอื อย่างน้อยท่ีสดุ บางสว่ นเก่ยี วข้องกับการเงิน โดยผ่านการวิเคราะห์ จัดประเภทและบันทึกไว้ในแบบ ฟอรม์ ทกี่ าหนดเพอ่ื แสดงฐานะการเงนิ และผลการดาเนนิ งานของกิจการในชว่ งระยะเวลาหนง่ึ 2. ประโยชนข์ องการทาบญั ชีรายรับ-รายจ่าย 1. เปน็ หลักฐานประกอบการดาเนินกจิ การ เพ่ือใหท้ ราบว่ามีทรัพยส์ ิน หนส้ี ิน และเงนิ ทนุ เปน็ จานวน เท่าใด 2. เป็นหลกั ฐานในการตรวจสอบ ตัวเงนิ สดกับยอดบญั ชวี า่ ถกู ตอ้ ง หรือมขี ้อผดิ พลาดอยา่ งไร 3. เป็นสถติ ิช่วยในการบรหิ าร การควบคมุ การทางบประมาณ เพื่อให้ผลงานมีประสิทธภิ าพดยี ิง่ ขึน้ 4. ช่วยเปน็ หลักฐานในการบรหิ ารงาน เพื่อปูองกันความผิดพลาดท่เี กดิ ข้ึนอีก 5. ช่วยในการคานวณผลการดาเนินงานว่ามีกาไรหรือขาดทุนอย่างไร 6. ช่วยใหท้ ราบฐานะทางการเงินของกิจการว่า ทรพั ยส์ ิน หนี้สนิ และเงนิ ทุนในขณะใดขณะหนง่ึ เปน็ จานวนเทา่ ใด การจดบนั ทึกการปฏิบตั ิงานและการทาบัญชรี ายรบั – รายจ่าย เป็นการช่วยความทรงจา และถา้ มี การจดบนั ทกึ กจิ การตา่ งๆ อย่างมรี ะบบ การลงบญั ชที ีด่ ี มีความเขา้ ใจในการจดบันทึก และการสรุปข้อมูล ให้เหมาะสมแล้ว สามารถนาขอ้ มูลทไ่ี ดร้ ับมาใชป้ ระโยชน์ในการตดั สนิ ใจทาการปลกู พืชให้สอดคล้องกับความ ตอ้ งการของตลาด แนวโน้มของราคา ตลอดจนเหตุการณ์ตา่ งๆ ที่มผี ลกระทบตอ่ การดาเนินกิจกรรมได้ อย่างเหมาะสมยิง่ ขึ้น ทาให้ผู้ผลิตทราบได้วา่ กิจการของตนเป็นอยา่ งไร และวธิ ีการอย่างหน่ึงทจี่ ะแสดงฐาน ทางการเงินและผลการดาเนินงานวา่ มีรายรบั – รายจา่ ยอยา่ งไร ชว่ ยในการประเมินผลการดาเนนิ งานวา่ มี กาไร หรอื ขาดทุนอยา่ งไรอีกดว้ ย 3. การบันทึกการปฏิบตั ิงานและการทาบัญชีรายรับ – รายจา่ ย อาจบันทกึ ในหวั ข้อต่อไปน้ี 3.1 การบันทึกเกีย่ วกับการใชเ้ คร่อื งมอื และวัสดุอุปกรณ์ เพือ่ จะได้ทราบวา่ ในการผลติ พชื สมนุ ไพร จาเป็นต้องใชเ้ ครื่องมอื และวัสดุอปุ กรณ์อะไรบ้าง จานวนเทา่ ใด ถ้าจาเป็นจะตอ้ งซอื้ จะเสยี คา่ ใช้จ่ายมากนอ้ ย เพยี งใด