การพฒั นาทกั ษะการสรา้ งนวตั กรรมของนกั เรียน ดว้ ยเทคนคิ การสอนแบบ COEAE
Evaluation and Development ประเมินและพฒั นา Adjunct เสริมเพม่ิ เตมิ Explanat อธิบาย Obserdict สังเกตปฏิบัตกิ าร Check พลังก่อนเร่ิมเรยี น ครูผูส้ อน หลกั สูตร บรรยากาศช้นั เรียน
1. การสอนแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2556, หน้า 13ก) ได้กล่าวถึง การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ หมายถงึ วธิ กี ารทนี่ ักวทิ ยาศาสตร์ใช้เพอื่ ศึกษาสง่ิ ตา่ งๆ รอบตวั อย่างเป็นระบบ และเสนอคาอธิบายเก่ียวกับส่ิงท่ีศกึ ษาด้วยขอ้ มูล ท่ไี ด้จากการทางานทางวทิ ยาศาสตรม์ ีวธิ ีการท่ีหลากหลาย เช่น การสารวจ การสืบคน้ การทดลอง การสรา้ งแบบจาลอง เป็นตน้ ทศิ นา แขมมณี (2557, หน้า 141) ได้กล่าวถึง การสอนแบบสบื เสาะแสวงหาความรู้ หมายถงึ การสอนทีผ่ ู้สอนกระตุ้น ใหผ้ เู้ รียนเกิดคาถาม เกิดความคดิ และลงมือเสาะแสวงหาความรู้ เพอื่ นามาประมวลหาคาตอบหรือขอ้ สรปุ ดว้ ยตนเองโดยทสี่ อน ชว่ ยอานวยความสะดวกในการเรยี นร้ใู นด้านต่าง ๆ ให้แก่ผูเ้ รยี น เช่น ในดา้ นการสืบคน้ หาแหล่งความรู้การศกึ ษาขอ้ มูล การ วิเคราะห์ การสรุปข้อมูล การอภิปรายโตแ้ ยง้ ทางวชิ าการการทางานร่วมกับผู้อื่น คารนิ (Carin, 1993, p. 86) ได้กลา่ วถงึ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ หมายถงึ กระบวนการเมื่อพบปญั หาแลว้ ต้ังสมมติฐาน หรือหาคาตอบโดยการทดสอบสมมติฐาน ดว้ ยการรวบรวมข้อมูลทีไ่ ด้แล้วนาไปประยกุ ตข์ ้อสรุปท่ีเชอื่ มโยงกบั ความใหมโ่ ดยมีประเดน็ หลักอย่ทู ี่กระบวนการ (Process) มากกว่าผลผลิต (Product) สรุป การสอนแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es การเรยี นแบบสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้ันตอน หมายถึง กระบวนการเรยี นร้ทู ่ีเนน้ การพัฒนาความสามารถในการแก้ปญั หาโดยผู้สอนเปน็ ผู้อานวยความสะดวก ฝึกให้ผูเ้ รยี น เป็นผู้คน้ คว้าหาความรู้ หรอื สรา้ งความรดู้ ว้ ยตนเอง โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพอื่ เกิดความคิดในการเสาะแสวงหา ความร้ใู หม่ๆดว้ ยตนเอง การเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขัน้ ตอน 1.การสรา้ งความสนใจ (Engagement) 2.การสารวจและคน้ หา (Exploration) 3.การอธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) 4.การขยายความรู้ (Elaboration) 5.การประเมนิ ผล (Evaluation) 2. การจดั กจิ กรรมการเรียนรูโ้ ดยใชร้ ปู แบบการเรยี นการสอนแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) การจดั กจิ กรรมการเรียนรูเ้ พือ่ ใหผ้ ู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตวั เองมพี นื้ ฐานมาจากทฤษฎกี ารสร้างความร้ดู ้วยตนเอง รากฐานสาคัญมาจากทฤษฎีพฒั นาทางสติปญั ญาของ Piaget โดยอธบิ ายวา่ การพฒั นาการทางเชาว์ปัญญาของบุคคลมีการ ปรับตัวทางกระบวนการดดู ซึม (assimilation) และกระบวนการปรับโครงสรา้ งทางปัญญา (accommodation) เมื่อบคุ คลรับ ข้อมูลเข้าไปสัมพันธก์ บั ความรทู้ ม่ี อี ยู่เดิม โดยหากไมส่ มั พันธ์กนั จะเกดิ ภาวะไมส่ มดลุ (disequilibrium) บคุ คลจะพยายามปรับ สภาพให้อยใู่ นสภาวะสมดลุ (equilibrium) โดยใชก้ ระบวนการปรับโครงสร้างทางปญั ญา ซง่ึ Piaget เช่อื วา่ เราทกุ คนจะมี พฒั นาการทางเชาวป์ ัญญาเปน็ ลาดบั ขนั้ จากการมปี ฏสิ ัมพนั ธ์และประสบการณก์ บั ส่งิ แวดล้อมตามธรรมชาตแิ ละประสบการณ์ เกย่ี วกับการคิดเชิงตรรกะและคณติ ศาสตร์ (ทศิ นา แขมมณี, 2550, 90-91) การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้รูปแบบการเรยี นการสอนแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) เปน็ การจดั กจิ กรรมการ เรียนรู้โดยนักเรยี นสร้างความรดู้ ้วยตวั เองซงึ่ สอดคลอ้ งกบั ทฤษฎี การสร้างความรู้ดว้ ยตนเอง เนน้ ในเร่อื งการตรวจสอบความรู้
เดิม และการถ่ายโอนการเรียนรู้ โดยการตรวจสอบความรู้เดิมจะใช้วิธกี ารกระตุ้นใหน้ กั เรียนเกิดความสงสยั อยากรู้ อยากเหน็ อาจจะด้วยการตัง้ คาถาม ซึ่งเป็นขั้นตอนท่ีนักเรยี นสามารถเช่ือมโยงความรเู้ ดิมเขา้ กบั ประสบการณ์ใหมท่ ี่ไดร้ บั โดยใช้ กระบวนการสารวจคน้ หาเพ่ือใหไ้ ด้มาซงึ่ คาตอบนั้น ๆ และนาความรูท้ ไ่ี ด้รับไปเช่อื มโยงและแก้ปญั หาในสถานการณ์ใหม่ ๆ ท่ี เกี่ยวข้อง ทาใหก้ ารเรียนร้ขู องนักเรยี นทไ่ี ดร้ ับมคี วามคงทนและยาวนาน (Eisenkraft, 2003, 56-59) สรปุ การจัดกจิ กรรมโดยใช้รูปแบบการเรยี นการสอนแบบ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) เปน็ การเรียนการสอนแบบสืบ เสาะหาความร้วู ธิ ีหนง่ึ โดยมพี ืน้ ฐานมาจากทฤษฎีการสรา้ งความรดู้ ว้ ยตนเอง ซง่ึ นักเรยี นเปน็ ผสู้ ร้างความรู้ดว้ ยตวั เอง กระบวนการเรียนการสอนเริ่มต้นจากนักเรยี นเป็นผู้ค้นหาความรู้ด้วยตนเอง ผา่ นกระบวนการคิด และกระบวนการสารวจค้นหา เพื่อให้ได้มาซงึ่ คาตอบน้ัน ๆ และนาความรทู้ ไี่ ด้รบั ไปเชือ่ มโยงและแกป้ ญั หาในสถานการณ์ใหม่ๆ ที่เก่ยี วขอ้ งได้ 3. การจดั การเรียนการสอนแบบ STEM Education สะเต็มศกึ ษาและการออกแบบเชิง วศิ วกรรมศาสตรจ์ ุดเด่นท่ีชัดเจนของการจัดการเรียนการเรียนรูแ้ บบสะเต็ม คือการผนวกแนวคดิ การออกแบบเชงิ วิศวกรรมเข้า กับการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ของผเู้ รียน กลา่ วคือ ในขณะทนี่ กั เรียนทากิจกรรมเพ่ือพฒั นาความรู้ ความเข้าใจ และฝึกทกั ษะดา้ นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และเทคโนโลยี ผูเ้ รียนตอ้ งมโี อกาสนาความรมู้ าออกแบบวธิ กี ารหรอื กระบวนการเพอื่ ตอบสนองความต้องการหรอื แกป้ ัญหาท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั ชวี ิตประจาวนั เพ่ือให้ได้เทคโนโลยซี ่ึงเปน็ ผลผลิตจาก กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม (NRC,2012) กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมประกอบด้วยองค์ประกอบ 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1.ระบุปญั หา (Problem Identification) 2.รวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับปัญหา (Related Information Search) 3.ออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา (Solution Design) 4.วางแผนและดาเนนิ การแก้ปัญหา (Planning and Development) 5.ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวธิ กี ารแกป้ ัญหาหรอื ช้นิ งาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) 6.นาเสนอวธิ กี ารแกป้ ญั หา ผลการแก้ปญั หาหรือช้ินงาน (Presentation) 1. เพ่อื พัฒนาทกั ษะการสรา้ งช้นิ งานและนวตั กรรมของผเู้ รียน 2. เพือ่ พฒั นาความคิดสรา้ งสรรคข์ องผู้เรยี น
ขน้ั ท่ี 1 Check พลังกอ่ นเรมิ่ เรียน - ตรวจสอบความพร้อม - กระตุ้นความสนใจ - เตรยี มรบั บทเรยี น (ปรับความพร้อมใหเ้ ตรียมรบั บทเรียนได้อย่างเตม็ ท่ี กระตนุ้ ความสนใจ ให้ตื่นตวั รู้สกึ ผ่อนคลาย ฝึกสมาธิ การเชค็ ความเขา้ ใจ จากช่ัวโมงท่ผี ่านมา ด้วยวิธีต่างๆ เช่น พูดคยุ สนทนา ตอบคาถามแลกเปล่ยี นความคดิ กนั และกัน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งครู นกั เรยี น แชร์เล่าเรือ่ งราวกนั กอ่ นเริ่มเรียน กระตุน้ ความคิดสรา้ งสรรค์ การใช้ VDO เกมแข่งขัน นันทนาการ กจิ กรรม brain gym) ขั้นท่ี 2 Obserdict สังเกตปฏบิ ตั ิการ - การใชท้ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการแสวงหาความรตู้ ่างๆ - การทดสอบสมมติฐานทีต่ ั้งไวว้ ่าจะเปน็ จรงิ หรือไม่ (ผู้เรยี นเรียนรตู้ ามลาดับขน้ั ตอน ทดสอบการปฏบิ ัติเบือ้ งตน้ ตามลาดบั กอ่ น หลงั สงั เกต คาดคะเนผลกอ่ นลงมอื ปฏิบตั ิ ทกั ษะ กระบวนการตรวจสอบ รวบรวมขอ้ มูลความคดิ รวบยอดของผเู้ รียน การวางแผนการปฏบิ ตั ิก่อนลงมอื ปฏิบตั ิจรงิ จัดทาบนั ทึก ขอ้ มลู ทไ่ี ด้ ผเู้ รียนไดร้ ผู้ ลของการฝึกปฏบิ ัตกิ ารด้วยตนเอง) ขั้นที่ 3 Explanat อธบิ าย - นาเสนอ - อภปิ รายแนวคดิ จากการปฎิบัติ - ปรับปรุงผลงาน (จัดทารายรายงานผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม การนาเสนอผลงาน แลกเปลยี่ นเรียนรู้ อธปิ รายแนวคิดจากการปฏิบตั ิ การแก้ปญั หาท่ี เป็นไปได้ ประมวลความรทู้ ค่ี รูและเพอ่ื นเสนอแนะนาปรบั ปรุงใหม้ ีความสมบูรณข์ ึน้ ) ขั้นท่ี 4 Adjunct เสริมเพม่ิ เติม - เพมิ่ เติม หรือเตมิ เต็มหรอื ขยายแนวความ คิด และทกั ษะต่างๆ (อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ หรอื เติมเต็มเพือ่ ให้ไดอ้ งค์ความรู้ทส่ี มบูรณข์ ึ้นหรอื ขยายกรอบความรคู้ วามคดิ ให้กว้างขึน้ นา ข้อมูลจากการสารวจตรวจสอบไปสรา้ งความรใู้ หม่ เชื่อมโยงกบั ความร้เู ดิม ประยุกต์ทกั ษะในสถานการณ์ทค่ี ล้ายคลึงกนั อธิบาย ในการตดั สินใจและออกแบบการ ปฏิบัตกิ ารทักษะเพม่ิ ขนึ้ ) ข้ันที่ 5 Evaluation and Development ประเมินและพฒั นา - ตรวจสอบ ทง้ั กระบวนการและองค์ความรู้ที่ได้ - พัฒนาและประยุกตต์ ่อไป (การตรวจสอบความถกู ต้อง ความชดั เจน ความสมบูรณ์ความรูท้ ี่ได้ อภปิ รายเพ่อื เปรียบเทียบ ประเมิน ปรบั ปรงุ หรือเพ่มิ เติมท้ัง ออกแบบวธิ ีการปรับปรุงและพัฒนาให้สามารถทาได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ทาสิ่งทย่ี ากสลับซบั ซ้อนมากขน้ึ การเพ่มิ ทักษะใหมๆ่ กระบวนการตอ่ เน่อื งเป็นลาดับนาไปประยุกต์ใช้ได้ตอ่ ไป)
เทคนิคการสอนแบบ COEAE ข้นั ตอน บทบาทครผู ู้สอน บทบาทผ้เู รียน ขั้นที่ 1 Check -การจัดกจิ กรรมปรบั ความพรอ้ ม ตง้ั คาถาม สนทนากับเพอ่ื นและครู พลงั กอ่ นเรม่ิ เรยี น กระตุน้ ความสนใจ พดู คุยสนทนา ตอบคาถาม ขนั้ ที่ 2 Obserdict สงั เกตปฏบิ ัตกิ าร ตอบคาถามแลกเปลี่ยนความคดิ กัน แสดงความคิดเหน็ ขั้นที่ 3 Explanat และกนั กระตนุ้ ความคดิ สรา้ งสรรค์ เร่อื งทจ่ี ะสารวจตรวจสอบใหช้ ัดเจน อธิบาย สรา้ งความอยากรอู้ ยากเห็น แสดงความสนใจ ตง้ั คาถาม กระตุ้นใหน้ ักเรียนคดิ ใหเ้ วลานกั เรียนคดิ กอ่ นตอบคาถาม หรือไม่เรง่ เรา้ ในการตอบคาถาม เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนเลือกหรือ กาหนดปญั หาทจี่ ะสารวจตรวจสอบ ลาดับขนั้ ตอน ทดสอบการปฏบิ ตั ิ เรียนรู้ตามลาดับข้ันตอน ทดสอบการ เบอื้ งต้นตามลาดับกอ่ น หลัง ปฏบิ ัตเิ บ้ืองตน้ ตามลาดบั กอ่ น หลัง สงั เกต เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนไดว้ เิ คราะห์ คาดคะเนผลก่อนลงมอื ปฏบิ ัติ ทกั ษะ กระบวนการสารวจตรวจสอบ กระบวนการตรวจสอบ รวบรวมข้อมลู ซักถามเพื่อนาไปสูก่ ารสารวจ ความคดิ รวบยอด การวางแผนการปฏบิ ัติ ตรวจสอบ ก่อนลงมือปฏิบตั ิจรงิ จัดทาบนั ทึกขอ้ มลู รู้ สง่ เสริมใหน้ ักเรียนได้ทางานร่วมกันใน ผลของการฝึกปฏบิ ัตกิ ารดว้ ยตนเอง การคิดไตร่ตรอง สงั เกตการณท์ างาน คิดอย่างอสิ ระ แตอ่ ยู่ในขอบเขตของ ของนกั เรยี นโต้ตอบกนั ของนักเรยี น กิจกรรม ทาหนา้ ท่ใี นการใหค้ าปรึกษา อานวย ตง้ั สมมติฐาน ความสะดวก ระดมความคดิ เหน็ ในการแก้ปัญหาในการ สารวจตรวจสอบ สง่ เสรมิ ให้นักเรียนไดอ้ ธิบายผลของ จดั ทารายรายงานผลการปฏิบตั ิกิจกรรม นกั เรยี นเอง ให้นักเรียนอธบิ ายโดย การนาเสนอผลงาน แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ เช่อื มโยงประสบการณค์ วามรูเ้ ดิม และ อธปิ รายแนวคดิ จากการปฏิบัติ การ สงิ่ ทไี่ ดเ้ รียนรหู้ รือส่งิ ท่ีไดค้ ้นพบเข้า แก้ปญั หาท่ีเป็นไปได้ ประมวลความรทู้ ี่ครู ด้วยกัน และเพอ่ื นเสนอแนะนาปรับปรงุ ให้มคี วาม ให้ความสนใจกับคา อธิบายของ สมบรู ณข์ ึ้นมกี ารอภิปรายซักถามเก่ียวกับ นกั เรียนทกุ คน ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรยี น สิง่ ที่เพือ่ นอธิบาย สรปุ องคค์ วามร้ทู ี่ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน สมเหตุสมผล
ขน้ั ตอน บทบาทครผู สู้ อน บทบาทผ้เู รียน ขน้ั ที่ 4 Adjunct สง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นรว่ มกันอธิอภปิ ราย อภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมหรือ เสรมิ เพิม่ เติม แสดงความคิด เหน็ เพิ่มเตมิ หรือเตมิ เติมเตม็ เพ่ือใหไ้ ดอ้ งค์ความรู้ที่สมบูรณ์ข้ึน เต็มหรือขยายแนวความ คิด และ หรือขยายกรอบความรู้ความคิดใหก้ ว้าง ขั้นที่ 5 Evaluation and ทกั ษะตา่ งๆ ขึน้ นาขอ้ มลู จากการสารวจตรวจสอบไป Development สร้างความรู้ใหม่ ประเมนิ และพฒั นา ถามคาถามเพื่อนาไป ส่กู ารประเมิน เชอ่ื มโยงกับความรู้เดิม ประยุกต์ทักษะใน ใหน้ กั เรียนวเิ คราะห์สง่ิ ท่คี วรปรบั ปรุง สถานการณท์ ่ีคล้ายคลึงกัน อธิบายในการ แกไ้ ขในการสารวจตรวจสอบ ทงั้ ตัดสินใจและออกแบบการ กระบวนการและองคค์ วามรทู้ ไี่ ด้ ปฏิบัติการทกั ษะเพ่มิ ขนึ้ ประเมินกระบวนการและองค์ความร้ขู อง ตน เอง การตรวจสอบความถกู ต้อง ความ ชัดเจน ความสมบูรณค์ วามรทู้ ไี่ ด้ อภิปราย เพ่ือเปรยี บเทยี บ ประเมิน ปรบั ปรุง หรือ เพม่ิ เติมท้งั ออกแบบวธิ กี ารปรับปรุงและ พัฒนาให้สามารถทาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ทาสิ่งท่ียากสลับซับซ้อน มากขน้ึ การเพ่ิมทกั ษะใหมๆ่ กระบวนการ ตอ่ เนือ่ งเปน็ ลาดับนาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ ตอ่ ไป
โครงสร้างรายวิชา/หน่วยการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว14101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลาเรยี น 120 ช่วั โมง ภาคเรยี นที่ 2 คะแนนเตม็ 100 คะแนน ( 80:20) หน่วย ชอื่ หน่วย มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั คะแนน ชนิ้ งาน ท่ี การเรียนรู้ การเรยี นร/ู้ (ชวั่ โมง) ตัวชี้วัด (120) ระหว่าง ปลาย 4 วสั ดุรอบตวั ว 2.1 ป.4/1 เปรียบเทียบสมบตั ิทางกายภาพ เรียน ปี เรา ว 2.1 ป.4/2 ด้านความแขง็ สภาพยืดหยนุ่ (80) (20) การนาความรอ้ น และการนา 7 10 5 ช้ินงานที่ 4 สิ่งประดิษฐ์ สร้างสรรค์ ไฟฟ้าของวัสดุโดยใชห้ ลักฐานเชงิ จาก ประจกั ษจ์ ากการทดลอง วัสดรุ อบตวั ระบกุ ารนาสมบตั เิ รอื่ งความแข็ง เรา สภาพยดื หยุน่ การนาความรอ้ น และการนาไฟฟา้ ของวสั ดุไปใช้ใน ชีวติ ประจาวัน ผา่ นกระบวนการ ออกแบบชิ้นงาน แลกเปล่ยี นความคดิ กบั ผู้อื่นโดย การอภปิ รายเกี่ยวกบั สมบัติทาง กายภาพของวัสดุอยา่ งมีเหตผุ ล จากการทดลอง รวม 120 80 20
การจดั กิจกรรมการเรียนรหู้ นว่ ยที่ 4 เร่อื ง วัสดุและสสารรอบตวั กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 การวเิ คราะห์ความสามารถสุดท้ายท่ีผูเ้ รยี นต้องไดร้ บั จากการเรียนรปู้ ระจาหน่วย สาระสาคัญ ความสามารถทผี่ ู้เรยี นต้องได้รบั ลาดบั พฒั นาการ/ ชน้ิ งาน / ของหนว่ ยการเรยี นรู้ ลาดบั ความยากงา่ ย นวตั กรรม เปรยี บเทียบสมบัติทางกายภาพ 1.เปรยี บเทียบสมบัติทางกายภาพดา้ นความ 1 สิง่ ประดิษฐ์ ดา้ นความแข็ง สภาพยืดหย่นุ การ แขง็ สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน และ สร้างสรรคจ์ าก นาความร้อน และการนาไฟฟา้ ของ การนาไฟฟา้ ของวสั ดใุ ช้หลักฐานเชงิ วัสดุรอบตัวเรา วัสดุโดยใช้หลักฐานเชิงประจกั ษ์ ประจักษ์จากการทดลอง จากการทดลอง ระบกุ ารนาสมบตั เิ รือ่ งความแขง็ สภาพยดื หยุ่น การนาความร้อน 2.ระบุการนาสมบัตขิ องวัสดุไปใช้ใน 3 และการนาไฟฟา้ ของวัสดุไปใชใ้ น ชวี ิตประจาวนั ผ่านกระบวนการออกแบบ ชวี ิตประจาวนั ผ่านกระบวนการ ชน้ิ งาน ออกแบบช้ินงาน 3.แลกเปลยี่ น อภิปรายเก่ยี วกบั สมบัตทิ าง 2 แลกเปลย่ี นความคิดกบั ผูอ้ นื่ โดย กายภาพของวสั ดุจากการทดลอง การอภปิ รายเกีย่ วกับสมบตั ิทาง กายภาพของวสั ดอุ ยา่ งมเี หตุผล จากการทดลอง
การวเิ คราะห์ตัวช้วี ัดและสาระการเรยี นรู้ ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้ ประเภท ลาดับ ความยาก ป4/1. เปรยี บเทยี บสมบตั ิ - วัสดแุ ต่ละชนิดมสี มบัตทิ างกายภาพแตกตา่ งกัน วัสดุที่มีความ ความรู้ K งา่ ย ทางกายภาพดา้ นความ แขง็ จะทนต่อแรงขูดขดี วสั ดุทมี่ สี ภาพยืดหยุน่ จะเปลี่ยนแปลง ทกั ษะ P 1 แข็ง สภาพยดื หยนุ่ การ รปู ร่างเมอื่ มแี รงมากระทาและกลบั สภาพเดิมได้ วัสดทุ ีน่ าความ 2 นาความรอ้ น และการนา ร้อนจะรอ้ นได้เรว็ เม่อื ได้รับความร้อน และวัสดุท่ีนาไฟฟา้ ได้ จะ ไฟฟา้ ของวสั ดุโดยใช้ ให้กระแสไฟฟา้ ไหลผ่านได้ดงั น้ันจึงอาจนาสมบัตติ ่าง ๆ มา หลักฐานเชิงประจกั ษ์จาก พจิ ารณาเพ่อื ใช้ในกระบวนการออกแบบช้ินงานเพอ่ื ใชป้ ระโยชน์ การทดลองและระบกุ าร ในชีวติ ประจาวนั ได้ นาสมบัตเิ รือ่ งความแข็ง สภาพยืดหย่นุ การนา ความร้อน และการนา ไฟฟา้ ของวัสดุไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั ผ่าน กระบวนการออกแบบ ชิน้ งาน ป4/2. แลกเปลย่ี น - วสั ดุแต่ละชนดิ มีสมบตั ทิ างกายภาพแตกต่างกัน วสั ดุทม่ี คี วาม ทักษะ K ความคดิ กบั ผอู้ ืน่ โดยการ แขง็ จะทนต่อแรงขูดขีด วัสดุท่มี สี ภาพยดื หยนุ่ จะเปล่ยี นแปลง ทักษะ P อภิปรายเกย่ี วกับสมบัติ รปู ร่างเมอื่ มีแรงมากระทาและกลับสภาพเดิมได้ วัสดทุ ่นี าความ ทางกายภาพของวัสดุ รอ้ นจะรอ้ นไดเ้ ร็วเม่อื ได้รับความร้อน และวสั ดุที่นาไฟฟ้าได้ จะ อย่างมีเหตผุ ลจากการ ใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผ่านไดด้ งั นั้นจงึ อาจนาสมบัตติ ่าง ๆ มา ทดลอง พิจารณาเพอ่ื ใช้ในกระบวนการออกแบบชนิ้ งานเพอื่ ใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจาวนั ได้
การกาหนดภาระงาน/ชนิ้ งาน/นวตั กรรม ชว่ั โมงท่ี ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้ ภาระงาน/กจิ กรรม/นวตั กรรม ประเภทของวัสดุชนดิ ตา่ งๆ 1.นกั เรยี นเลน่ เกมและสรุป “กจิ กรรมเช็ค 1 ว 2.1 ป4/1. เปรยี บเทียบ ในชีวติ ประจาวนั ความพรอ้ มกอ่ นเรียน เรอ่ื ง กล่องปริศนา” 2. ใบบันทึกกิจกรรมที่ 1.1 เรื่อง สารวจ สมบตั ทิ างกายภาพด้านความ สมบัติทางกายภาพด้าน ประเภทและสมบัติของวัสดรุ อบตวั ความแข็งของวสั ดุ 3. ศกึ ษา VDO เร่อื ง สมบตั ิทางกายภาพ แขง็ สภาพยืดหยนุ่ การนา ของวสั ดุ สมบัติทางกายภาพด้าน 4. ใบบนั ทกึ “กิจกรรมเพม่ิ เติมเสรมิ ทักษะ ความร้อน และการนาไฟฟ้า สภาพยดื หยุ่น เรอ่ื ง สมบัตทิ างกายภาพของวัสดุ” 5. แบบฝกึ หัดใครร่ ู้ที่ 1.1 เรอ่ื ง ประเภท ของวัสดโุ ดยใช้หลักฐานเชงิ และสมบตั ิทางกายภาพของวสั ดุ ประจกั ษจ์ ากการทดลองและ 1. นกั เรียนเล่นเกมและสรุป “กจิ กรรมเชค็ พลังก่อนเรยี น ตาแหน่งของฉนั ” ระบุการนาสมบตั เิ รอ่ื งความ 2.ปฎิบตั ิการทดลอง อภิปราย สรุปผลการ ทดลอง กจิ กรรมท่ี 1.2 สมบตั ิทางดา้ นความ แขง็ สภาพยืดหยุ่น การนา แขง็ ของวัสดุ 3. ใบบันทึกกิจกรรมที่ 1.2 สมบัติทางด้าน ความรอ้ น และการนาไฟฟา้ ความแขง็ ของวสั ดุ 4.นักเรียนอภิปรายสมบัตทิ างกายภาพดา้ น ของวัสดุไปใช้ใน ความแข็งของวสั ดุ “กจิ กรรมเพิม่ เตมิ เสริม ทักษะ เรื่อง ภาพแกะสลกั ชีวติ ประจาวนั ผ่าน 5. แบบฝกึ หัดใครร่ ู้ ที่ 1.2 เรอื่ ง สมบตั ิ ทางดา้ นความแขง็ ของวสั ดุ กระบวนการออกแบบชนิ้ งาน 2 ว 2.1 ป4/1. เปรยี บเทยี บ 1.นักเรยี นเลน่ เกมและสรุป ใน“กิจกรรมเชค็ ความพร้อมกอ่ นเรียน เร่อื ง ยดื ยดื ” สมบตั ทิ างกายภาพด้านความ 2. ปฎบิ ัตกิ ารทดลอง อภปิ ราย สรปุ ผลการ ทดลอง กิจกรรม 1.3 สมบัติทางด้านสภาพ แข็ง สภาพยดื หยุ่น การนา ยืดหยนุ่ ของวสั ดุ ความรอ้ น และการนาไฟฟา้ ของวสั ดโุ ดยใช้หลักฐานเชิง ประจกั ษจ์ ากการทดลองและ ระบกุ ารนาสมบตั เิ รอื่ งความ แข็ง สภาพยดื หยุ่น การนา ความรอ้ น และการนาไฟฟ้า ของวัสดุไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวัน ผา่ น กระบวนการออกแบบชน้ิ งาน ป4/2. แลกเปลี่ยนความคดิ กับผู้อืน่ โดยการอภปิ ราย เกยี่ วกบั สมบตั ทิ างกายภาพ ของวสั ดอุ ยา่ งมเี หตุผลจาก การทดลอง 3 ว 2.1 ป4/1. เปรียบเทียบ สมบตั ิทางกายภาพด้านความ แขง็ สภาพยดื หยุน่ การนา ความรอ้ น และการนาไฟฟ้า ของวัสดโุ ดยใช้หลกั ฐานเชงิ
ช่วั โมงท่ี ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้ ภาระงาน/กิจกรรม/นวัตกรรม 4 ประจักษจ์ ากการทดลองและ 3. ใบบันทกึ กิจกรรมท่ี 1.3 สมบตั ิทางดา้ น 5 ระบกุ ารนาสมบัตเิ รื่องความ สมบัติทางกายภาพดา้ น สภาพยืดหยุน่ ของวสั ดุ แขง็ สภาพยดื หยุ่น การนา การนาความรอ้ น 4. แบบฝึกหัดท่ี 1.3 เรื่อง สภาพยดื หยุ่น ความรอ้ น และการนาไฟฟา้ ของวัสดุ ของวสั ดไุ ปใช้ใน สมบตั ทิ างกายภาพด้าน 5. ศกึ ษา PPT เรอื่ ง สภาพยืดหยนุ่ ของวสั ดุ ชวี ติ ประจาวนั ผา่ น การนาไฟฟา้ 6. นักเรียนอภิปรายและทาใบบันทกึ กระบวนการออกแบบช้นิ งาน “กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ เสริมทักษะ สภาพ ป4/2. แลกเปล่ียนความคิด ยืดหยุ่นของวสั ดุ” กบั ผู้อ่นื โดยการอภปิ ราย เกีย่ วกบั สมบัตทิ างกายภาพ 1. นักเรยี นเลน่ เกมและสรปุ ใน“กิจกรรม ของวสั ดุอย่างมีเหตุผลจาก เช็คความพร้อมกอ่ นเรยี น เรื่อง สัมผัสตวั การทดลอง ฉัน” ว 2.1 ป4/1. เปรยี บเทยี บ 2. ปฎิบตั ิการทดลอง อภิปราย สรุปผลการ สมบตั ทิ างกายภาพดา้ นความ ทดลอง กิจกรรมท่ี 1.4 สมบตั ิทางด้านการ แข็ง สภาพยดื หยุ่น การนา นาความรอ้ นของวสั ดุ ความรอ้ น และการนาไฟฟ้า 3. ใบบันทึกกจิ กรรมที่ 1.4 สมบตั ิทางดา้ น ของวัสดุโดยใช้หลักฐานเชิง การนาความร้อนของวัสดุ ประจกั ษ์จากการทดลองและ 4. แบบฝึกหัดใครร่ ู้ที่ 1.4 เรอ่ื ง การนาความ ระบกุ ารนาสมบตั ิเรือ่ งความ รอ้ นของวสั ดุ แข็ง สภาพยืดหยุ่น การนา 5.VDO เรือ่ ง การนาความร้อนของวัสดุ ความรอ้ น และการนาไฟฟา้ 6. นักเรียนอภปิ รายและทาใบบันทึก ของวสั ดไุ ปใชใ้ น “กจิ กรรมเพิ่มเตมิ เสริมทักษะ การนาความ ชีวิตประจาวัน ผา่ น รอ้ นของวัสดุ” กระบวนการออกแบบชิ้นงาน ป4/2. แลกเปลีย่ นความคิด 1. นักเรียนรว่ มกจิ กรรมและสรปุ ใน กบั ผู้อ่นื โดยการอภิปราย “กจิ กรรมเชค็ ความพรอ้ มก่อนเรยี น เรอื่ ง เกี่ยวกบั สมบัติทางกายภาพ หยบิ พกพา” ของวสั ดุอยา่ งมีเหตผุ ลจาก 2. ปฎิบัติการทดลอง อภิปราย สรุปผลการ การทดลอง ทดลอง กจิ กรรมท่ี 1.5 สมบตั ิทางดา้ นการ ว 2.1 ป4/1. เปรียบเทียบ นาไฟฟา้ ของวัสดุ สมบตั ทิ างกายภาพด้านความ แขง็ สภาพยืดหยุ่น การนา ความร้อน และการนาไฟฟา้ ของวสั ดโุ ดยใช้หลกั ฐานเชิง ประจักษ์จากการทดลองและ
ช่วั โมงท่ี ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้ ภาระงาน/กิจกรรม/นวตั กรรม 6-7 ระบุการนาสมบตั ิเรือ่ งความ 3. ใบบนั ทกึ กจิ กรรมที่ 1.5 สมบัติทางด้าน แขง็ สภาพยืดหยนุ่ การนา นาสมบตั ติ า่ งๆของวสั ดุ มา การนาไฟฟ้าของวัสดุ ความร้อน และการนาไฟฟ้า พจิ ารณาเพ่ือใช้ใน 4. นักเรียนอภิปรายและทาใบบนั ทึก ของวัสดไุ ปใชใ้ น กระบวนการออกแบบ “กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ เสรมิ ทักษะ วัสดนุ า ชีวิตประจาวนั ผา่ น ชิน้ งานเพ่อื ใช้ประโยชน์ใน ไฟฟ้า” กระบวนการออกแบบชิ้นงาน ชีวติ ประจาวัน 5. แบบฝกึ หัดใคร่รู้ท่ี 1.5 เรอ่ื ง การนาไฟฟา้ ป4/2. แลกเปลี่ยนความคิด ของวสั ดุ กบั ผ้อู ืน่ โดยการอภปิ ราย เก่ียวกบั สมบตั ทิ างกายภาพ เลอื กวตั ถชุ นิดต่างๆตามสมบัติทางกายภาพ ของวสั ดุอย่างมีเหตผุ ลจาก ของวสั ดุ มาพิจารณาเพอื่ ใช้ในกระบวนการ การทดลอง ออกแบบชนิ้ งาน เพ่อื ใช้ประโยชนใ์ น ว 2.1 ป4/1. เปรยี บเทยี บ ชีวิตประจาวนั สมบัตทิ างกายภาพดา้ นความ แข็ง สภาพยืดหยุน่ การนา (สง่ิ ประดษิ ฐส์ ร้างสรรค์จาก ความรอ้ น และการนาไฟฟา้ วสั ดุรอบตัวเรา) ของวัสดุโดยใช้หลักฐานเชิง ประจักษ์จากการทดลองและ ระบุการนาสมบตั ิเรอ่ื งความ แขง็ สภาพยืดหยุ่น การนา ความร้อน และการนาไฟฟ้า ของวัสดไุ ปใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ผา่ น กระบวนการออกแบบช้นิ งาน ป4/2. แลกเปลย่ี นความคิด กับผ้อู ืน่ โดยการอภปิ ราย เก่ียวกับสมบัติทางกายภาพ ของวัสดอุ ยา่ งมีเหตผุ ลจาก การทดลอง
ตวั อย่างแผนการจัดการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 / 2563 หน่ายการเรยี นรู้ที่ 4 เรอ่ื ง วัสดุรอบตวั เวลา 7 ช่วั โมง เรือ่ ง วัสดรุ อบตัวเรา เวลา 1 ชวั่ โมง สอนวันท่ี 2 ธันวาคม 2563 เวลา 12.30-13.30 น. 1. สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัตขิ องสสารกบั โครงสร้างและแรงยึด เหน่ียวระหวา่ งอนภุ าค หลกั และธรรมชาตขิ องการเปล่ยี นแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี 2. ตวั ช้ีวัด ว 2.1 ป.4/1 เปรียบเทยี บสมบัตทิ างกายภาพด้านความแขง็ สภาพยืดหยุ่น การนาความรอ้ น และการนาไฟฟา้ ของวัสดุโดยใช้ หลักฐานเชิงประจักษ์จากการทดลองและระบุการนาสมบตั เิ รือ่ งความแข็ง สภาพยดื หยนุ่ การนาความร้อน และการนาไฟฟ้าของ วัสดไุ ปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ผา่ นกระบวนการออกแบบช้นิ งาน ว 2.1 ป.4/2 แลกเปล่ียนความคิดกับผู้อ่ืนโดยการอภิปรายเก่ยี วกบั สมบตั ิทางกายภาพของวสั ดอุ ยา่ งมีเหตุผลจากการทดลอง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนอธิบายสมบตั ทิ างกายภาพของวสั ดไุ ด้ ( K ) 2. นักเรยี นจาแนกประเภทของวสั ดไุ ด้ ( k ) 3. นักเรียนมคี วามรบั ผิดชอบและมงุ่ มนั่ ในการทางานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย (A) 4. สาระสาคญั ส่ิงของเครื่องใช้ในชีวิตประจาวันทามาจากวัสดุท่ีแตกต่างกัน ซึ่งมีท้ังวัสดุท่ีมาจากธรรมชาติ หรือวัสดุท่ีมาจากการ สังเคราะห์ โดยวัสดุแต่ละชนิดจะมีสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกันไป ได้แก่ ด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน และการนาไฟฟ้า 5. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ -ประเภทวสั ดทุ ีม่ าจากธรรมชาติ และจากการสงั เคราะห์ วัสดุแต่ละชนดิ มีสมบัติทางกายภาพที่แตกตา่ งกนั ไป ไดแ้ ก่ ด้านความ แขง็ สภาพยืดหย่นุ การนาความร้อน และการนาไฟฟ้า ทักษะ/กระบวนการ - ทกั ษะการสังเกต - ทกั ษะการวเิ คราะห์ - ทกั ษะการจาแนก - ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมูล
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน - ความสามารถในการสอื่ สาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการแกป้ ญั หา คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - มีวนิ ัย - ใฝ่เรยี นรู้ - มุ่งม่นั ในการทางาน 6. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เทคนิคการสอนแบบ COEAE ขน้ั ที่ 1 Check พลังก่อนเร่มิ เรียน (10 นาที) ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยให้นักเรยี นสงั เกตวตั ถหุ รอื สิ่งของท่อี ย่รู อบๆในหอ้ งเรยี นว่ามีอะไรบ้าง ให้ ยกตัวอย่าง เชน่ สมดุ หนงั สือ โตะ๊ เก้าอ้ี ปากกาไวบอร์ด แทง่ แก้วคนสาร ยางลบ 1. ครูจัดกจิ กรรม“กิจกรรมเช็คความพร้อมก่อนเรียน เร่อื ง กลอ่ งปรศิ นา” วธิ ีการดาเนนิ กิจกรรม ดังนี้ - ครเู ตรียมอุปกรณ์กล่องทึบปริศนา 5 กลอ่ ง นาวตั ถุลงไวใ้ นกลอ่ ง ได้แก่ กล่องที่ 1 ดินทราย กล่องที่ 2 ผ้า กล่องท่ี 3 แผ่นพลาสตกิ กล่องท่ี 4 เหรยี ญ 10 บาท กล่องที่ 5 บลอ็ กไม้ - ให้นักเรียนเข้าแถวออกมาลว้ งสัมผัสวตั ถุภายในกลอ่ งแลว้ นาข้อมลู มาบันทึกลงในสมุดว่าแตล่ ะกลอ่ งคือวตั ถอุ ะไร มี คุณสมบตั อิ ยา่ งไร ครสู ่มุ เลขท่นี กั เรียนบอกส่งิ ที่บันทึกได้ครูใช้คาถามกระตุน้ ในขณะบนั ทกึ ข้อมูล - วัตถแุ ตล่ ะกล่องคอื อะไร - วัตถุแต่ละกล่องนท้ี ามาจากวสั ดอุ ะไร - วัตถุกล่องนม้ี ีสมบตั ิของวัตถเุ ม่อื สมั ผสั เปน็ อยา่ งไร (คาตอบ อิสระ ตามความเข้าใจของนักเรียน) 2. ครเู ฉลยวัตถุปริศนาในกล่อง ใหน้ ักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ยี วกบั วตั ถุนน้ั และต้งั คาถามดงั น้ี - วตั ถแุ ตละชนดิ ทาจากวัสดอุ ะไรบาง (ตัวอยางคาตอบ เชน พลาสติก โลหะ ผา ไม้ ดิน) - วตั ถเุ หลา่ นอ้ี ะไรบา้ งที่เปน็ วัสดุท่ีไดม้ าจากธรรมชาติ และ จากการสังเคราะห์ ( คาตอบ วัสดุจากธรรมชาติ ดินทราย บลอ็ คไมท้ าจากไม้ วัสดุจากการสงั เคราะห์ ผา้ พนั คอ ทาจากผ้า กลอ่ งพลาสตกิ ทาจาก พลาสติก เหรยี ญบาท ทาจากโลหะ ) 3. ครสู นทนากบั นกั เรียนในเรื่อง วสั ดทุ ไ่ี ดม้ าจากธรรมชาติ และ จากการสังเคราะห์ เพอื่ นาสกู่ าร เรียนรู้เรอ่ื ง การสารวจประเภทและสมบตั ขิ องวัสดุรอบตัว
ขัน้ ที่ 2 Obserdict สงั เกตปฏิบัตกิ าร ( 20 นาที) 4. ครูแบง่ กลุ่มนกั เรยี น กล่มุ ละ 3 – 4 คน โดยคละความสามารถของผู้เรยี น เกง่ กลาง อ่อน เพ่อื ให้ทากจิ กรรมที่ 1.1 สารวจประเภทและสมบตั ขิ องวัสดุรอบตัว ซ่ึงมีข้ันตอนการดาเนินการดังน้ี - ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสารวจวัตถุทพี่ บบริเวณโรงเรียนตามสถานทท่ี ี่กาหนด ได้แก่ ภายในหอ้ งเรยี นวทิ ยาศาสตร์ โรงอาหาร โบสถ์วัดพระพเิ รนทร์ บริเวณรอบอาคารเรยี น - แตล่ ะกลุ่มแบ่งหนา้ ทีก่ นั ไปสารวจตามจุดทีไ่ ด้รบั มอบหมาย บนั ทกึ ผลลงใน ใบบนั ทกึ กจิ กรรมที่ 1เรอ่ื ง สารวจประเภท และสมบัตขิ องวัสดุรอบตัว 5. แตล่ ะกลุม่ นาขอ้ มลู ทีไ่ ด้มาช่วยกันวิเคราะห์และจาแนกวัตถทุ ่ีสารวจได้วา่ เป็นวัสดุประเภทใดลงในใบบันทึกกิจกรรม ที่ 1.1 เรอื่ ง สารวจประเภทและสมบตั ขิ องวัสดรุ อบตวั (หากนกั เรียนพบวัตถุทซี่ า้ กันในแตล่ ะบริเวณใหเ้ ลือกแค่ 1 แหง่ เท่านั้น ไม่ ต้องเขียนซา้ ) และ นาข้อมูลจากการสารวจมาร่วมกนั วเิ คราะหว์ ัสดุว่ามีสมมบัติทางกายภาพอะไรบา้ ง (สมบตั ิทางกายภาพของ วัสดุ ด้านความแข็ง สภาพยดื หยนุ่ การนาความร้อน และการนาไฟฟ้า) ขน้ั ท่ี 3 Explanat อธบิ าย (10 นาท)ี 6. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลการสารวจและการจาแนก โดยให้เพื่อนๆ ในห้องร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและตรวจสอบความถูกต้องร่วมกัน โดยมีครูช่วยให้คาแนะนาเพิ่มเติมในระหว่างท่ีมีการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น 7. ครูและนักเรยี นอภปิ รายรว่ มกันถึงวสั ดุจากธรรมชาติและวสั ดจุ ากการสังเคราะห์ว่ามลี ักษณะอย่างไร (วัสดุธรรมชาติ ได้จากสิ่งทอี่ ยูในธรรมชาติท้ังจากส่ิงมีชีวติ และส่ิงไมมีชีวิต เชน ไม ยาง ดิน ขนสัตว หนังสัตว หิน กรวด ทราย เป็นต้น ส่วน วสั ดุสงั เคราะห์ เกดิ จากกระบวนการทางเคมี เช่น พลาสติก โฟม ยางสังเคราะห์ เส้นใยสังเคราะห์ กระเบอ้ื ง เปน็ ตน้ ) ขั้นท่ี 4 Adjunct เสรมิ เพิ่มเติม ( 10 นาที) 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาถึงสิ่งของเคร่ืองใช้ท่ีนักเรียนได้สารวจจากบริเวณต่างๆ ของโรงเรียนว่ามีสมบัติทาง กายภาพอย่างไร และมีความเหมาะสมในการนามาใช้ประโยชน์หรือไม่ พร้อมให้นักเรียนศึกษาจากใบความรู้ท่ี 1 สมบัติทาง กายภาพของวสั ดุ โดยให้นักเรียนไดแ้ สดงความคิดอย่างอสิ ระ 9. ครใู หน้ กั เรียนทาใบบันทกึ “กิจกรรมเพิ่มเติมเสริมทักษะ เรื่อง สมบัตทิ างกายภาพของวัสดุ” - สมบตั ิทางกายภาพของวสั ดแุ ต่ละประเภทมลี กั ษณะอยา่ งไร พรอ้ มทงั้ ยกตวั อย่าง (แนวคาตอบ: อสิ ระ ตามความเข้าใจของนกั เรียน) ข้นั ท่ี 5 Evaluation and Development ประเมนิ และพัฒนา ( 10 นาท)ี 10. ครูสอบถามความรู้ความเข้าใจของนักเรียน จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างท่ียังไม่เข้าใจ หรือมขี อ้ สงสัยถ้ามี ครูชว่ ยอธบิ ายเพ่มิ เตมิ ให้นักเรียนเข้าใจ 11. ครูประเมนิ เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจนกั เรียนทาแบบฝึกหัดใครร่ ู้ที่ 1.1 เร่ือง ประเภทและสมบัติทางกายภาพของ วัสดุ และการมีส่วนร่วมในการตอบคาถามในชั้นเรียน
7. สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ 1. วัตถใุ น“กิจกรรมเชค็ ความพร้อมก่อนเรียน เรอ่ื ง กล่องปรศิ นา” 2. ใบบันทกึ กิจกรรมที่ 1.1 เรอ่ื ง สารวจประเภทและสมบตั ิของวัสดรุ อบตวั 3. VDO เรอ่ื ง สมบัติทางกายภาพของวสั ดุ 4. ใบบนั ทึก “กิจกรรมเพม่ิ เติมเสริมทักษะ เร่อื ง สมบัติทางกายภาพของวัสดุ” 5. แบบฝึกหัดใครร่ ้ทู ี่ 1.1 เรือ่ ง ประเภทและสมบัติทางกายภาพของวัสดุ 8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ สงิ่ ท่วี ัดและประเมิน วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์ 1. นกั เรียนอธิบายประเภท ระดบั ดี ขน้ึ ไป และสมบัติทางกายภาพของ ตรวจใบบนั ทึกกจิ กรรม ใบบันทึกกิจกรรมที่ 1.1 สารวจ ผา่ นเกณฑ์ วสั ดุ ประเภทและสมบตั ิของวสั ดุ กจิ กรรมที่ 1.1 สารวจ รอบตวั 2. นักเรยี นจาแนกประเภท ประเภทและสมบัติของ ประเภทของวัสดุ วัสดรุ อบตัว แบบฝึกหดั ใครร่ ู้ที่ 1.1 เรอ่ื ง รอ้ ยละ 50 ผ่าน ตรวจแบบฝกึ หัดใคร่รู้ท่ี ประเภทและสมบัติทาง เกณฑ์ 3. นักเรียนมคี วาม 1.1 เร่ือง ประเภทและ กายภาพของวสั ดุ รบั ผิดชอบและมุ่งมั่นในการ สมบัตทิ างกายภาพของ ทางานที่ไดร้ บั มอบหมาย วสั ดุ แบบประเมินคณุ ลักษณะ ระดบั คุณภาพ 2 อันพงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ สังเกตนกั เรยี นมคี วาม รบั ผิดชอบและมุ่งมั่นใน การทางานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ลงช่อื ………………………………………………………( ผู้สอน) ( นางสาวนงนฎุ สรุ โิ ย ) ตาแหนง่ ครู รับเงนิ เดอื นอนั ดบั คศ.2 ความคดิ เหน็ ของผูต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรู้ ..................................................................................................................................................................... ลงช่ือ.................................................................(ผตู้ รวจแผน) ( นายกาชัย สุวรรณ ) ตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา โรงเรยี นวดั พระพิเรนทร์
บันทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ ผลการจัดการเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หา/อปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .............................................................. ผู้สอน ( นางสาวนงนฎุ สุริโย ) ตาแหน่ง ครู รับเงินเดอื นอนั ดบั คศ.2 ลงชือ่ ...............................................................(ผ้ตู รวจ) ( นายกาชัย สุวรรณ ) ตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศกึ ษา โรงเรยี นวดั พระพเิ รนทร์
ขนั้ ท่ี 1 Check พลังกอ่ นเรมิ่ เรียน (10 นาที) “กิจกรรมเช็คความพร้อมก่อนเรียนเรอื่ ง กล่องปรศิ นา” คาช้ีแจงการดาเนนิ กจิ กรรม 1. วัตถปุ ระสงค์ เพื่อเป็นกิจกรรมในการกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียน โดยทายวตั ถเุ มื่อสัมผัสกบั วตั ถุภายในกล่อง 2. อปุ กรณใ์ นการดาเนินกิจกรรม ไดแ้ ก่ กล่องที่ 1 ดนิ ทราย กลอ่ งท่ี 2 ผ้า กลอ่ งท่ี 3 แผน่ พลาสตกิ กลอ่ งท่ี 4 เหรยี ญ 10 บาท กล่องท่ี 5 บล็อกไม้ 3. วิธีดาเนินกิจกรรม 3.1 ครเู ตรียมอปุ กรณ์กล่องทึบปรศิ นา 5 กล่อง นาวัตถลุ งไวใ้ นกล่อง ไดแ้ ก่ กล่องท่ี 1 ดิน ทราย กล่องท่ี 2 ผ้า กล่องที่ 3 แผ่นพลาสตกิ กลอ่ งท่ี 4 เหรยี ญ 10 บาท กล่องท่ี 5 บล็อกไม้ 3.2 ใหน้ ักเรียนเข้าแถวออกมาลว้ งสัมผัสกับวตั ถภุ ายในกล่องแล้วนาข้อมลู มาบนั ทึกลงในสมดุ ว่าแต่ ละกลอ่ งคือวตั ถอุ ะไร มีคุณสมบตั ิอย่างไร ครสู มุ่ เลขทีน่ กั เรยี นบอกสิ่งที่บันทึกได้
วธิ ดี าเนินกจิ กรรม ครเู ตรียมอุปกรณ์กลอ่ งทึบปริศนา 5 กลอ่ ง นาวตั ถลุ งไว้ในกล่อง ไดแ้ ก่ กล่องที่ 1 ดนิ ทราย กลอ่ งท่ี 2 ผา้ กลอ่ งท่ี 3 แผน่ พลาสติก กล่องที่ 4 เหรียญ 10 บาท กล่องท่ี 5 บล็อกไม้
ครูเตรียมอุปกรณก์ ลอ่ งทบึ ปริศนา 5 กลอ่ ง นาวัตถุลงไวใ้ นกลอ่ ง ไดแ้ ก่ กล่องที่ 1 ดิน ทราย กล่องที่ 2 ผา้ กลอ่ งที่ 3 แผ่นพลาสติก กล่องที่ 4 เหรยี ญ 10 บาท กลอ่ งท่ี 5 บลอ็ กไม้
ใหน้ กั เรียนเข้าแถวออกมาลว้ งสมั ผัสกับวัตถภุ ายในกลอ่ งแลว้ นาข้อมลู มาบันทกึ ลงในสมุดว่าแต่ ละกลอ่ งคอื วตั ถุอะไร มีคุณสมบัติอย่างไร ครูสมุ่ เลขท่ีนักเรียนบอกส่งิ ทบ่ี นั ทกึ ได้
ขั้นท่ี 2 Obserdict สังเกตปฏิบตั กิ าร (15 นาที) กิจกรรมที่ สารวจประเภทและสมบตั ขิ องวัสดรุ อบตัว 1.1 กล่มุ ที่………………………………………ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนปฏบิ ตั ติ ามขัน้ ตอนการสารวจส่งิ ของตา่ งๆตามสถานทก่ี าหนดและบนั ทกึ ผลการสารวจ วสั ดอุ ุปกรณ์ 1) ปากกา 2) สมุด ขน้ั ตอนการสารวจ 1) นักเรยี นแบง่ หนา้ ที่ในการสารวจส่ิงของตา่ งๆในสถานท่ีกาหนด 2) สารวจวัสดทุ ีพ่ บและบนั ทกึ ขอ้ มลู ตารางบนั ทึกผลการสารวจ 3) นาข้อมลู จากการสารวจมารว่ มกันวเิ คราะห์วัสดุวา่ มสี มมบตั ิทางกายภาพอะไรบา้ ง
ตารางท่ี 1 บนั ทึกผลการสารวจ ประเภทของวสั ดุ สถานทีส่ ารวจ วัสดจุ ากธรรมชาติ วัสดุจากการสังเคราะห์ หอ้ งเรยี น ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... …………………………………………… …………………………………………… โรงอาหาร ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... …………………………………………… …………………………………………… โบสถว์ ดั ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... …………………………………………… …………………………………………… บริเวณอาคารเรียน ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... ................................................... …………………………………………… ……………………………………………
ตารางท่ี 2 ขอ้ มูลลกั ษณะทางกายภาพของวัสดุทีส่ ารวจ ลกั ษณะทางกายภาพของวสั ดุท่ีสารวจ ความแข็ง สภาพยดื หยนุ่ นาไฟฟา้ นาความรอ้ น
ขั้นท่ี 4 Adjunct เสรมิ เพมิ่ เติม ( 15 นาที) ใบบนั ทกึ “กิจกรรมเพมิ่ เตมิ เสรมิ ทกั ษะ เร่อื ง สมบัตทิ างกายภาพของวัสดุ” คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนดูภาพพร้อมเติมขอ้ ความใหถ้ ูกตอ้ ง เคสโทรศัพท์ โต๊ะไม้ วสั ดุได้มาจาก ……………………………………………… วัสดไุ ด้มาจาก ……………………………………………… วสั ดุประเภท …..………………………………………… วสั ดปุ ระเภท …..………………………………………… สมบตั ทิ างกายภาพ …………….……………………… สมบัติทางกายภาพ …………….……………………… กาน้า แผน่ ทองแดง วสั ดุได้มาจาก …………………………………………… วัสดุได้มาจาก …………………………………………… วสั ดุประเภท …..………………………………………… วสั ดุประเภท …..………………………………………… สมบตั ทิ างกายภาพ …………….……………………… สมบัติทางกายภาพ …………….………………………
ขั้นท่ี 5 Evaluation and Development ประเมินและพัฒนา ( 10 นาท)ี แบบฝึกหดั ใครร่ ู้ ที่ 1.1 เร่อื ง ประเภทและสมบัตทิ างกายภาพของวสั ดุ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเติมคาตอบลงในชอ่ งวา่ งให้ 1. ให้นักเรยี นนาขอ้ มลู วัสดใุ นตารางตอบคาถามในชอ่ งว่างใหส้ มบูรณ์ ไม ขนสัตว หนังสตั ว หนิ กรวด ทราย พลาสตกิ โฟม ยางสังเคราะห์ เสน้ ใยสงั เคราะห์ ดิน กระเบื้อง วสั ดไุ ดจ้ ากธรรมชาติ วัสดทุ ี่สังเคราะห์
2. สมบตั ทิ างกายภาพของวัสดุ ประกอบด้วย ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ใหน้ กั เรียนยกตัวอย่างวัตถุสิ่งของทที่ าจากวสั ดุตา่ งๆทีพ่ บในชีวติ ประจาวันแล้วนามาเขียนแผนความคิดเกี่ยวกบั สมบตั ิทาง กายภาพของวสั ดุ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ตอบถกู ข้อความละ 1 คะแนน
ข้นั ที่ 2 Obserdict สังเกตปฏิบัตกิ าร (15 นาที) กจิ กรรมที่ สารวจประเภทและสมบัติของวัสดรุ อบตวั 1.1 กลุ่มที่………………………………………ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนปฏิบัติตามข้นั ตอนการสารวจสิง่ ของตา่ งๆตามสถานทีก่ าหนดและบันทกึ ผลการสารวจ วัสดุอุปกรณ์ 1) ปากกา 2) สมดุ ขั้นตอนการสารวจ 1) นกั เรียนแบ่งหน้าที่ในการสารวจสง่ิ ของตา่ งๆในสถานทก่ี าหนด 2) สารวจวัสดุทพี่ บและบนั ทึกขอ้ มลู ตารางบันทึกผลการสารวจ 3) นาขอ้ มลู จากการสารวจมาร่วมกนั วิเคราะหว์ ัสดุว่ามสี มมบตั ิทางกายภาพอะไรบา้ ง ตารางท่ี 1 บนั ทึกผลการสารวจสิง่ ของตา่ งๆในสถานทีก่ าหนด สถานทสี่ ารวจ ประเภทของวสั ดุ วัสดจุ ากธรรมชาติ วสั ดุจากการสังเคราะห์ หอ้ งเรียน โตะ๊ ไม้ เก้าอ้ี ทาจาก ไม้ ยางลบ ทาจากยาง ถุงสุขภาพ ถงั ขยะ กล่องใส่ อปุ กรณ์ ทาจากพลาสติก สมุดหนังสอื ทาจากกระดาษ ดนิ น้ามัน โรงอาหาร ไมก้ รวด ไม้กรวดขนไก่ เขยี ง ทา ถาดหลมุ หม้อ ชอ้ น ทาจาก จากไม้ อลมู ิเนียม สเตนเลส ตเู้ หลก็ ทาจากโลหะ แก้วนา้ ทาจากแก้ว จาน ถ้วย ทาจากกระเบื้อง ฟองน้า โบสถ์วัด กระถางต้นไม้ ทาจากดนิ เหนียว ปนู คอนกรตี กระจกเรียบ อิฐ ทาจากสว่ นผสมของ หนิ ดนิ ทราย
สถานทีส่ ารวจ ประเภทของวัสดุ บรเิ วณอาคารเรยี น วสั ดุจากธรรมชาติ วสั ดุจากการสงั เคราะห์ ก้อนหนิ กอ้ นดิน กอ้ นกรวด ทราย ชั้นวางของ ทาจากเหลก็ พน้ื ปูนซีเมนต์ สายไฟ ทาจากลวดทองแดง ตารางท่ี 2 ขอ้ มูลลักษณะทางกายภาพของวัสดุที่สารวจ ลักษณะทางกายภาพของวัสดุท่สี ารวจ ความแขง็ สภาพยืดหย่นุ นาไฟฟ้า นาความรอ้ น ไม้ กอ้ นหิน ก้อนกรวด โลหะ อลูมิเนียม พืน้ ปนู เหล็ก โลหะ ยาง ฟองนา้ โลหะ อลมู ิเนียม ลวดทองแดง เหล็ก
ขน้ั ที่ 4 Adjunct เสรมิ เพมิ่ เตมิ ( 15 นาที) ใบบนั ทกึ “กิจกรรมเพมิ่ เตมิ เสรมิ ทกั ษะ เร่อื ง สมบัตทิ างกายภาพของวัสดุ” คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนดภู าพพรอ้ มเติมข้อความใหถ้ ูกต้อง เคสโทรศัพท์ โต๊ะไม้ วัสดุได้มาจาก การสังเคราะห์ วสั ดุได้มาจาก ธรรมชาติ วัสดุประเภท ยาง วสั ดปุ ระเภท ไม้ สมบัตทิ างกายภาพ ความยืดหยนุ่ สมบตั ิทางกายภาพ ความแขง็ กาน้า แผน่ ทองแดง วัสดไุ ด้มาจาก การสังเคราะห์ วสั ดไุ ด้มาจาก สงั เคราะห์ วสั ดุประเภท โลหะ วสั ดุประเภท ทองแดง สมบัติทางกายภาพ การนาความรอ้ น สมบตั ทิ างกายภาพ การนาไฟฟา้
ข้นั ท่ี 5 Evaluation and Development ประเมนิ และพฒั นา ( 10 นาท)ี แบบฝึกหดั ใคร่รู้ ที่ 1.1 เรอ่ื ง ประเภทและสมบัติทางกายภาพของวัสดุ คาช้แี จง ให้นกั เรียนเติมคาตอบลงในชอ่ งวา่ งให้ 1. ใหน้ กั เรยี นนาข้อมลู ในตารางตอบคาถามในช่องว่างให้สมบรู ณ์ ไม ขนสัตว หนงั สตั ว หนิ กรวด ท ร า ย พ ล า ส ติ ก โฟม ยางสงั เคราะห์ เส้นใยสงั เคราะห์ ดนิ กระเบอื้ ง ธรรมชาติ สงั เคราะห์ ไม ยาง ดนิ ขนสัตว หนงั สตั ว หนิ กรวด ทราย พลาสติก โฟม ยางสังเคราะห์ เส้นใยสังเคราะห์ กระเบื้อง 2. สมบัติทางกายภาพของวสั ดุ ประกอบดว้ ย -ด้านความแข็ง -ด้านความยืดหยุ่น -ด้านการนาความร้อน -ดา้ นกานาไฟฟ้า
3. ใหน้ ักเรยี นยกตวั อยา่ งวัสดทุ ่พี บในชวี ิตประจาวันแล้วนามาเขียนแผนความคิดเก่ยี วกบั สมบัตทิ างกายภาพของวสั ดุ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 / 2563 เวลา 7 ช่วั โมง หนา่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง วัสดรุ อบตวั เรา เวลา 1 ช่วั โมง เวลา 12.30-13.30 น. เรอื่ ง วัสดสุ รา้ งสรรค์ 1 สอนวนั ท่ี 15 ธนั วาคม 2563 1. สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสมบตั ิของสสารกบั โครงสร้างและ แรงยึดเหนยี่ วระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลยี่ นแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการ เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี 2. ตัวชีว้ ัด ว 2.1 ป.4/1 เปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพด้านความแขง็ สภาพยืดหยนุ่ การนาความร้อน และการนาไฟฟ้าของวสั ดุ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษจ์ ากการทดลองและระบกุ ารนาสมบตั เิ ร่อื งความแขง็ สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน และการนา ไฟฟ้าของวสั ดุไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ผา่ นกระบวนการออกแบบชนิ้ งาน ว 2.1 ป.4/2 แลกเปลีย่ นความคิดกบั ผอู้ ่ืนโดยการอภปิ รายเกยี่ วกับสมบตั ิทางกายภาพของวัสดอุ ยา่ งมีเหตุผลจากการ ทดลอง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนระบสุ มบตั ทิ างกายภาพของวัสดุทนี่ ามาใช้ทาสิ่งของต่างๆได้ (K) 2. นกั เรียนปฎบิ ัตกิ จิ กรรมออกแบบช้ินงานสมบัติทางกายภาพของวสั ดไุ ด้ (P) 3. นักเรยี นมีความสนใจใฝ่เรียนรู้ (A) 4. สาระสาคญั สมบตั ิของวัสดุมหี ลายอย่าง ซึ่งวัสดชุ นิดตา่ ง ๆ จะมสี มบตั ิเฉพาะตัวทงั้ ความแขง็ สภาพยดื หยนุ่ การนาความรอ้ น การนาไฟฟ้าและฉนวนไฟฟา้ ดังนัน้ จึงมีการนาสมบตั ิต่าง ๆ ของวสั ดุมาใช้ใน กระบวนการออกแบบช้ินงานเพื่อใช้ประโยชน์ตามความเหมาะสมกับการใช้งาน 5. สาระการเรียนรู้ ความรู้ -สมบัติเฉพาะตวั ทงั้ ความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน การนาไฟฟ้าและฉนวนไฟฟ้า ทกั ษะ/กระบวนการ - ทักษะการสังเกต - ทักษะการวิเคราะห์ - ทักษะการจาแนก - ทักษะการทดลอง
- ทักษะการลงความเห็นจากขอ้ มลู สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น - ความสามารถในการส่ือสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการแกป้ ัญหา คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มีวินยั - ใฝ่เรียนรู้ - ม่งุ มนั่ ในการทางาน 6. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ กระบวนการเรียนรแู้ บบ Step 5 COEAE ขัน้ ที่ 1 Check พลังกอ่ นเริ่มเรียน (10 นาที) ครูสนทนากบั นกั เรยี นโดยทบทวนความรู้ในชว่ั โมงท่ีผ่านมา 1. ครูจดั กจิ กรรมเล่นเกม “กจิ กรรมเชค็ ความพร้อมก่อนเรยี น เร่ือง คู่กนั ” อปุ กรณ์ในการทา กจิ กรรมวัตถสุ ิ่งของตา่ งๆ 20 ชนิ้ เชน่ แท่งไม้ แทง่ เหลก็ หนังยางยดื เชือกไนลอ่ นถกั สายนกหวดี แกว้ นา้ พลาสติก ขวดน้า วิธีการดาเนินกิจกรรม ดังน้ี - ให้นักเรยี นแตล่ ะคนออกมาจับฉลากบตั รคา ทค่ี รูเตรียมไวใ้ ห้ คอื สมบตั ทิ างกายภาพด้านความ แขง็ สภาพยืดหยนุ่ การนาความร้อน และการนาไฟฟ้า - ครใู ห้สญั ญาณเรม่ิ เลน่ ให้นักเรียน ออกมาเลือกวตั ถสุ ่งิ ของหน้าชน้ั เรยี นในตะกรา้ ใหต้ รงกบั บัตร คาท่ีตนเองเลือกได้ - ครใู หส้ ญั ญาณหยุด นกั เรยี นต้องกลบั ไปนั่งท่ตี ัวเอง - ครูและนักเรียนในห้องร่วมกนั ตรวจสอบผทู้ ่จี บั คู่ไดถ้ กู ตอ้ งและคนท่ถี กู ออกมาเขียนคะแนนตวั เอง หนา้ ช้นั พรอ้ มบอกเหตผุ ลสิง่ ของทจ่ี บั คู่ใหเ้ พอ่ื นในหอ้ งรับฟัง 2. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สนทนา ครูใช้คาถาม ดังนี้ - นักเรียนมหี ลักในการในการทากจิ กรรมอยา่ งไร ( คาตอบ ตามแนวคดิ ของนักเรียน) 3. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายในกิจกรรมเพ่อื นาสู่ สมบัตเิ ฉพาะตัวทั้งความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความรอ้ น การนาไฟฟ้าและฉนวนไฟฟ้าของวัสดุ นาข้อมลู เกย่ี วมากาหนดขัน้ ตอนในกระบวนการออกแบบส่ิงประดษิ ฐ์ วัสดุ สร้างสรรค์ ข้นั ท่ี 2 Obserdict สงั เกตปฏิบตั กิ าร (20 นาที) 4. ครแู บง่ กล่มุ นกั เรียน กลมุ่ ละ 3 – 4 คน โดยคละความสามารถของผู้เรียน เกง่ กลาง ออ่ น เพอ่ื ให้ ทาโดยใช้กลุ่มเดิมในช่วั โมงทีผ่ า่ นมา ท่ีสบื คน้ ข้อมูลเกี่ยวกบั ข้ันตอนในกระบวนการออกแบบส่งิ ประดิษฐ์ วสั ดุสรา้ งสรรค์ 5. กิจกรรม สิง่ ประดษิ ฐ์สรา้ งสรรค์จากวัสดรุ อบตวั เรา 6. โดยมีขั้นตอนทีว่ างแผนการทากจิ กรรม สังเกตและลงมือปฎบัตกิ ารทดลอง ดังน้ี
- สารวจวัสดุ อุปกรณ์ท่ีต้องใช้ว่ามีอะไรบ้าง วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสียของวัสดุ สมบัติทางกายภาพของวัสดุอุปกรณ์ท่ี นามาใช้เพือ่ สรา้ งทางเลือก วสั ดุ อุปกรณ์ทเี่ ลือกใช้ ชนิ้ ท่ี 1 ช้นิ ท่ี 2 ชิน้ ท่ี 3 ข้อดี ข้อเสยี ขอ้ ดี ข้อเสีย ขอ้ ดี ขอ้ เสยี 1. __________ 1. _________ 1. __________ 1. __________ 1. __________ 1. __________ 2. __________ 2. __________ 2. __________ 2. __________ 2. __________ 2. __________ - วิเคราะห์ พิจารณา และเปรียบเทียบทางเลือกที่สามารถแก้ปัญหาและได้สิ่งที่ต้องการที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด จากข้อมูลที่รวบรวมได้และข้อจากัดทมี่ ี และตัดสนิ ใจเลือกวสั ดุชนดิ ต่างๆ - แต่ละกลุ่มวางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา เป็นการกาหนดลาดับข้ันตอนของการสร้างชิ้นงานหรือวิธกี าร แล้วลง มือปฏิบัติเพ่อื สรา้ งช้นิ งาน ขั้นตอน 1 เขยี นลาดับขนั้ ตอนย่อยของการทางานเพ่อื ให้สรา้ งชิ้นงานไดต้ รงตามท่อี อกแบบไว้ 2 นาเสนอการออกแบบ 3 แบ่งหนา้ ที่การทางานในกลุ่ม แล้วลงมอื สรา้ งชิ้นงานตามท่ีได้วางแผนไว้ ขนั้ ที่ 3 Explanat อธบิ าย (10 นาท)ี 8. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานของกลุ่ม โดยให้เพ่ือนๆ ในห้องร่วมกันแลกเปล่ียนความ คดิ เหน็ และตรวจสอบความถูกต้องรว่ มกนั โดยมคี รูช่วยใหค้ าแนะนาเพม่ิ เตมิ ในระหวา่ งทม่ี ีการแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ 9. ตวั แทนนกั เรียนนาเสนอวธิ กี ารแกป้ ญั หา ผลการแก้ปญั หาชนิ้ งาน นาเสนอแนวคดิ และขัน้ ตอนการแก้ปญั หาของการ สร้างชน้ิ งานการพฒั นาวธิ กี ารให้ผู้อน่ื เข้าใจ ขน้ั ที่ 4 Adjunct เสริมเพ่มิ เตมิ ( 10 นาท)ี 11. ครูอธบิ ายเพม่ิ เติมและนาตวั อยา่ งการออกแบบสิง่ ประดิษฐ์ตา่ งๆ ,วีดโี อ มาใหน้ ักเรยี น สืบค้นข้อมูลเกย่ี วกับขน้ั ตอน ในกระบวนการออกแบบสงิ่ ประดษิ ฐ์ โดยแบ่งหวั ข้อย่อย เช่น การกาหนดหวั ข้อเรือ่ ง การรวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ท่ีเกี่ยวข้อง การออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หา การวางแผนและดาเนนิ การแก้ปญั หา การทดสอบ ประเมินผล และปรับปรงุ แก้ไขวธิ ีการหรอื ชน้ิ งาน และการนาเสนอวิธีการแกป้ ัญหา ผลการแก้ปัญหา หรอื ชนิ้ งาน แล้วนาข้อมูลท่ีคน้ คว้าไดม้ าบนั ทกึ ผล และนาเสนอหนา้ ห้องเรยี นให้เพอ่ื น ๆ ไดท้ ราบเพอ่ื แลกเปลีย่ นเรยี นรูก้ นั
ข้ันที่ 5 Evaluation and Development ประเมินและพฒั นา ( 10 นาที) 12. ครูสอบถามความรู้ความเข้าใจของนักเรียน จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุดใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจ หรอื มีขอ้ สงสยั ถา้ มี ครูชว่ ยอธบิ ายเพม่ิ เติมให้นกั เรยี นเขา้ ใจ 13. นกั เรยี นร่วมกนั ประเมนิ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกลมุ่ ว่ามปี ัญหาหรอื อุปสรรคใดและได้แกไ้ ขอย่างไรบ้าง 14. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั ประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและการนาความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ 15. ครทู ดสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยถามคาถามนักเรียนใหต้ อบในสมุด ไดแ้ ก่ - กจิ กรรม สง่ิ ประดิษฐส์ ร้างสรรค์จากวสั ดุรอบตัวเรา สามารถนามาแกป้ ญั หาในชีวติ ประจาวนั ได้หรือไม่ อยา่ งไร - ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากกิจกรรมสิ่งประดษิ ฐ์สรา้ งสรรค์จากวัสดรุ อบตวั เรา ได้แก่อะไรบ้าง - กระบวนการออกแบบส่ิงประดิษฐป์ ระกอบดว้ ยกี่ข้ันตอน อะไรบา้ ง - ยกตัวอย่างวิธกี ารคน้ ควา้ และรวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนรตู้ ่างๆ - วัสดุ อปุ กรณ์สง่ิ ของตา่ งๆและขอ้ จากัดในกิจกรรมสงิ่ ประดิษฐส์ ร้างสรรคจ์ ากวัสดรุ อบตวั เรา มอี ะไรบา้ ง 7. สื่อและแหลง่ เรยี นรู้ 1. สิ่งของวัตถุใน“กจิ กรรมเช็คความพรอ้ มกอ่ นเรียน เรื่อง คูก่ ัน” วตั ถุส่ิงของต่างๆ 20 ชิ้น เช่น แท่งไม้ แทง่ เหล็ก หนัง ยางยืด เชือกไนล่อนถักสายนกหวีด แก้วน้าพลาสตกิ ขวดนา้ 2. อปุ กรณ์ในกจิ กรรม สงิ่ ประดิษฐส์ ร้างสรรคจ์ ากวัสดุรอบตวั เรา 3. ใบบนั ทกึ กจิ กรรม สิ่งประดิษฐ์สรา้ งสรรค์จากวัสดรุ อบตวั เรา 4. ใบบนั ทกึ “กจิ กรรมเพิม่ เติมเสริมทกั ษะส่งิ ประดษิ ฐ์สรา้ งสรรค์จากวสั ดุ”ตัวอยา่ งการออกแบบสงิ่ ประดษิ ฐ์ตา่ งๆ และ วดี ีโอสิ่งประดษิ ฐ์สร้างสรรค์จากวัสดุ 5. แบบตอบคาถาม เรอ่ื ง สิง่ ประดิษฐ์สรา้ งสรรค์จากวัสดรุ อบตวั เรา
8. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ส่งิ ทต่ี อ้ งการวัด วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ 1. นกั เรยี นระบุสมบตั ทิ าง ตรวจผลงานในสมดุ แบบตอบคาถาม กจิ กรรม รอ้ ยละ 50 ผา่ น กายภาพของวสั ดทุ น่ี ามาใช้ ส่ิงประดิษฐ์สร้างสรรคจ์ ากวัสดุ เกณฑ์ ทาสง่ิ ของต่างๆ ตรวจผลงาน รอบตวั เรา 2. นักเรียนปฎบิ ตั ิกิจกรรม ระดบั คุณภาพดี ออกแบบชน้ิ งานสมบัติทาง สงั เกต ความสนใจใฝ่ ใบบันทึกกจิ กรรม ผา่ นเกณฑ์ กายภาพของวสั ดุ เรยี นรู้ สงิ่ ประดิษฐ์สร้างสรรคจ์ ากวัสดุ รอบตวั เรา ระดับคุณภาพ 2 3. นักเรียนมคี วามสนใจใฝ่ ผ่านเกณฑ์ เรยี นรู้ แบบประเมนิ ความสนใจใฝ่ เรียนรู้ ลงชื่อ………………………………………………………( ผสู้ อน) ( นางสาวนงนฎุ สุริโย ) ตาแหน่ง ครู รับเงินเดอื นอนั ดับ คศ.2 ความคดิ เห็นของผูต้ รวจแผนการจดั การเรียนรู้ ..................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .................................................................(ผู้ตรวจแผน) ( นายกาชัย สวุ รรณ ) ตาแหนง่ ผูอ้ านวยการสถานศึกษา โรงเรยี นวัดพระพิเรนทร์
บันทกึ ผลการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหา/อปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.............................................................. ผสู้ อน ( นางสาวนงนุฎ สรุ ิโย ) ตาแหน่ง ครู รบั เงนิ เดอื นอนั ดบั คศ.2 ลงช่อื ...............................................................(ผตู้ รวจ) ( นายกาชยั สวุ รรณ ) ตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา โรงเรยี นวัดพระพิเรนทร์
ขนั้ ที่ 1 Check พลังก่อนเริม่ เรียน (10 นาที) “กจิ กรรมเชค็ ความพรอ้ มก่อนเรยี นเรอื่ ง คกู่ ัน” คาชแ้ี จงดาเนินกิจกรรม 1. วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อเป็นกิจกรรมในการกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียน โดยใช้สมบตั ิทางกายภาพของวสั ดุ อปุ กรณ์ในการทากจิ กรรม วัตถสุ งิ่ ของต่างๆ 20 ช้นิ เชน่ แทง่ ไม้ แท่งเหล็ก หนงั ยางยืด เชือกไนลอ่ นถักสายนกหวีด แก้วนา้ พลาสตกิ ขวดน้า 2. วธิ กี ารดาเนนิ กจิ กรรม ดงั น้ี - ให้นักเรียนแต่ละคนออกมาจับฉลากบัตรคา ที่ครูเตรียมไว้ให้ คือ สมบัติทางกายภาพด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความรอ้ น และการนาไฟฟา้ - ครูใหส้ ัญญาณเริ่มเล่น ใหน้ กั เรยี น ออกมาเลือกวัตถสุ งิ่ ของหนา้ ชนั้ เรยี นในตะกร้า ให้ตรงกับบตั รคาท่ีตนเองเลือกได้ - ครูให้สัญญาณหยุด นักเรยี นตอ้ งกลบั ไปนง่ั ทตี่ วั เอง - ครูและนักเรยี นในห้องร่วมกนั ตรวจสอบผูท้ จ่ี ับคไู่ ดถ้ ูกตอ้ งและคนที่ถกู ออกมาเขยี นคะแนนตวั เอง หน้าชัน้ พรอ้ มบอกเหตุผลสิง่ ของที่จบั คู่ใหเ้ พ่ือนในห้องรับฟัง
วธิ กี ารดาเนนิ กิจกรรม ให้นักเรียนแตล่ ะคนออกมาจบั ฉลากบัตรคา ที่ครูเตรียมไว้ให้ คอื สมบตั ิทางกายภาพด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน และการนาไฟฟา้
ครใู หส้ ญั ญาณเริ่มเล่น ใหน้ ักเรยี น ออกมาเลือกวัตถุสิ่งของหนา้ ช้นั เรยี นในตะกรา้ ให้ตรงกับบัตรคาท่ีตนเองเลอื กได้
ครใู หส้ ญั ญาณเริ่มเล่น ใหน้ ักเรยี น ออกมาเลือกวัตถุสิ่งของหนา้ ช้นั เรยี นในตะกรา้ ให้ตรงกับบัตรคาท่ีตนเองเลอื กได้
ขน้ั ที่ 2 Obserdict สังเกตปฏบิ ตั กิ าร (20 นาที) กิจกรรม สง่ิ ประดิษฐ์สร้างสรรคจ์ ากวัสดรุ อบตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 กล่มุ ท่ี……… สมาชิกในกล่มุ ประกอบด้วย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… คาช้ีแจงในการปฏิบัตกิ ิจกรรม จดุ ประสงคข์ องกจิ กรรม ออกแบบช้ินงานโดยใชส้ มบัตทิ างกายภาพของวัสดมุ าใช้ในชีวติ ประจาวัน ทกั ษะ 1. การคิด 2. การแกป้ ัญหา 3. การสือ่ สาร 4. การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ วธิ กี ารออกแบบชิ้นงาน 1. กาหนดหวั ขอ้ นาไปส่กู ารสรา้ งชนิ้ งานหรอื วิธีการ 2. รวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ที่เกย่ี วขอ้ งกบั ชน้ิ งานด้วยวิธีการ 3. ออกแบบวิธีการแกป้ ญั หา 4. วางแผนและดาเนนิ การแกป้ ญั หา 5. ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรงุ แก้ไขวธิ กี ารหรือชิ้นงาน
ขน้ั ที่ 4 Adjunct เสรมิ เพม่ิ เตมิ ( 10 นาที) ใบบนั ทกึ “กจิ กรรมเพมิ่ เตมิ เสรมิ ทกั ษะสิ่งประดษิ ฐส์ รา้ งสรรคจ์ ากวสั ดุ” กลมุ่ ท่ี…………………………… ขน้ั ตอนในกระบวนการออกแบบสง่ิ ประดิษฐ์ จากตัวอย่างการออกแบบสงิ่ ประดษิ ฐต์ ่างๆ และวดี โี อสิ่งประดิษฐ์สรา้ งสรรค์จาก วสั ดุ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….. ตารางบันทกึ จากตวั อย่างการออกแบบสิ่งประดิษฐ์ตา่ งๆ และวดี ีโอส่งิ ประดิษฐ์สร้างสรรคจ์ ากวัสดุ วสั ดุ ส่วนประกอบของสงิ่ ประดิษฐ์
ขั้นที่ 5 Evaluation and Development ประเมนิ และพัฒนา ( 10 นาที) แบบตอบคาถาม คะแนนที่ได้………… สง่ิ ประดษิ ฐส์ รา้ งสรรคจ์ ากวสั ดุรอบตัวเรา ชอ่ื -นามสกลุ ……………………………………………………………เลขท…่ี ………….กล่มุ ท…่ี …..ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามในสมดุ (ข้อละ 5 คะแนน) 1. กจิ กรรม สง่ิ ประดิษฐส์ รา้ งสรรค์จากวัสดรุ อบตัวเรา สามารถนามาแก้ปญั หาในชีวิตประจาวันได้หรอื ไม่ อย่างไร 2. ประโยชนท์ ี่ได้รับจากกจิ กรรมส่ิงประดษิ ฐส์ ร้างสรรค์จากวสั ดรุ อบตัวเรา ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง 3. กระบวนการออกแบบสิ่งประดษิ ฐ์ประกอบดว้ ยกี่ขั้นตอน อะไรบา้ ง 4. ยกตวั อยา่ งวิธกี ารค้นควา้ และรวบรวมข้อมลู จากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ 5. วสั ดุ อุปกรณ์สง่ิ ของต่างๆและขอ้ จากดั ในกิจกรรมส่งิ ประดิษฐส์ ร้างสรรค์จากวสั ดรุ อบตวั เรา มีอะไรบา้ ง
วธิ กี ารออกแบบช้ินงาน 1. กาหนดหัวขอ้ นาไปสู่การสรา้ งชน้ิ งานหรือวธิ ีการ 2. รวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ที่เก่ียวข้องกบั ชนิ้ งานด้วยวธิ กี าร ศึกษาตวั อยา่ ง ,VDO 3. ออกแบบวิธกี ารแกป้ ญั หา 4. วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา 5. ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวธิ กี ารหรือชิ้นงาน กาหนดหวั ข้อ นาไปสู่การสรา้ งชน้ิ งานหรือวิธีการ
รวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ท่เี กี่ยวขอ้ งกับช้นิ งานด้วยวธิ กี ารศกึ ษาตวั อยา่ ง ,VDO
ออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา และวางแผน
ออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา และวางแผน
Search