สารบญั • พระราชบญั ญัตริ ะเบยี บบรหิ ารราชการแผน่ ดิน 1 • พระราชกฤษฎีกาวา่ ด้วยหลักเกณฑ์ 10 และวิธกี ารบรหิ ารกิจการบา้ นเมืองทดี่ ี พ.ศ.2546 24 • พระราชบญั ญัติวิธปี ฏิบัตริ าชการทางปกครอง 46 • หน้าท่แี ละความรับผดิ ในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีราชการ 56 • พระราชบญั ญัตมิ าตรฐานทางจริยธรรม 63 • เจตคตแิ ละจรยิ ธรรมสาหรับขา้ ราชการ
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID : 0951800066 สรุปประเด็นสอบ พระราชบัญญตั ิระเบียบบรหิ ารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และท่ีแก้ไขเพิม่ เติมถืงปจั จุบัน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2553 ภูมิพลอดลุ ยเดช ป.ร. ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 21 สิงหาคม พ.ศ. 2534 เปน็ ปึท่ี 46 ในรชั การที่ 9 ประเดน็ สอบ คาตอบ ตราพระราชบัญญตั ิข๊ืนไว้โดยคาแนะนาและยนิ ยอมโดย สภานิติบญั ญตั ิแหง่ ชาติ (ฉ.1) ตราพระราชบัญญตั ิขื๊นไว้โดยคาแนะนาและยินยอมโดย รฐั สภา (ฉ.8) การบรหิ ารราชการตามพระราชบัญญัติน๊ีต้องเปน็ ไปเพ่ือ เพ่ือประโยชน์สุขของประชาชน เกิดผล สัมฤทธติ์ ่อภารกิจของรฐั ความมีประสิทธภิ าพ ความค้มุ ค่าในเชิงภารกิจแห่งรฐั การลดขน๊ั ตอนการปฏิบัติงาน การลดภารกิจและยุบเลกิ หน่วยงานท่ีไม่ จาเปน็ การกระจายภารกิจและทรพั ยากรให้แก่ ท้องถิ่น การกระจายอานาจตัดสินใจ การอานวยความสะดวก และการตอบสนอง ความต้องการของประชาชน ให้จัดระเบียบบรหิ ารราชการแผ่นดนิ ดังนี๊ (1) ระเบียบบรหิ ารราชการสว่ นกลาง (2) ระเบียบบรหิ ารราชการส่วนภมู ิภาค (3) ระเบียบบรหิ ารราชการสว่ นท้องถ่ิน การแบ่งราชการออกเป็นสว่ นต่างๆ ใหก้ าหนดตาแหน่งและ คานืงถืงคุณภาพและ ปรมิ าณงานของส่วน อัตราเงินเดอื นโดยคานืงถืงส่งิ ใด ราชการนั๊นๆ ไวด้ ้วย ผรู้ กั ษาการตามพระราชบัญญัตินี๊คือ นายกรฐั มนตรี การจัดระเบียบบรหิ ารราชการสว่ นกลาง (1) สานักนายกรฐั มนตรี (2) กระทรวง หรอื ทบวงซ่ืงมีฐานะเทียบเทา่ กระทรวง (3) ทบวง ซง่ื สังกัดสานักนายกรฐั มนตรหี รอื กระทรวง (4) กรม หรอื ส่วนราชการทีเ่ รยี กชอื่ อยา่ งอื่นและมี ฐานะเปน็ กรม ซืง่ สังกัดหรอื ไมส่ ังกัดสานัก นายกรฐั มนตรี กระทรวงหรอื ทบวง สานักนายกรฐั มนตรมี ฐี านะเปน็ กระทรวง ส่วนราชการตาม (1) (2) (3) และ (4) มีฐานะ เป็นนติ บิ ุคคล 1
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 ประเดน็ สอบ คาตอบ การจัดตั๊งและการรวม การโอนส่วนราชการ พระราชบัญญัติ กรณีมีการกาหนดตาแหน่งหรอื อัตราของ ขา้ ราชการหรอื ลูกจ้างเพ่มิ ข๊นื ตราเปน็ กฎหมายใด พระราชบัญญัติ เทคนิคการจา พระราชกฤษฎีกา 1. ทาอะไรแล้วคนเพม่ิ การจัดตั๊งทบวง ให้สังกัดสานักนายกรฐั มนตรี หรอื พระราชบัญญตั ิ กระทรวง ตราเปน็ กฎหมายใด เปน็ พระราชบญั ญตั ิ 2. ทาอะไรแล้วคนไมเ่ พม่ิ การรวม/การโอนส่วนราชการ กรณีไม่มีกาหนดตาแหน่ง หรอื อัตราของข้าราชการหรอื ลูกจ้างเพิ่มข๊ืน เป็น พระราชกฤษฎีกา ตราเป็นกฎหมายใด พระราชกฤษฎีกา การจัดต๊ังกรม/ส่วนราชการทีเ่ รยี กชือ่ อย่างอื่น และมี พระราชกฤษฎีกา ฐานะเปน็ กรม ซ่งื ไม่สังกัดสานักนายกรฐั มนตรี กระทรวง หรอื ทบวง ตราเปน็ กฎหมายใด การเปลี่ยนชอ่ื ตราเปน็ กฎหมายใด การยุบส่วนราชการ ตราเป็นกฎหมายใด การแบ่งส่วนราชการระดบั กรม ตราเป็นกฎหมายใด กฎกระทรวงโดยรฐั มนตรขี องส่วนราชการน๊ัน สานักนายกรฐั มนตรี มีส่วนราชการ ดังต่อไปน๊ี (1) สานักงานปลัดสานักนายกรฐั มนตรี (2) กรมประชาสัมพันธ์ (3) สานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บรโิ ภค ส่วนราชการทอ่ี ยูใ่ นบังคับบัญชาขืน๊ ตรงต่อนายกรฐั มนตรี (1) สานักเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี (2) สานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี (3) สานักข่าวกรองแหง่ ชาติ (4) สานักงบประมาณ (5) สานักงานสภาความมน่ั คงแหง่ ชาติ (6) สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (7) สานักงานคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น (ก.พ.) (8) สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (9) สานักงานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ (ก.พ.ร.) 2
ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 ประเดน็ สอบ คาตอบ ผู้บังคับบัญชาข้าราชการสานักนายกรฐั มนตรี นายกรฐั มนตรี คือ นายกรฐั มนตรใี นฐานะหวั หน้ารฐั บาล กากับโดยทัว่ ไปซืง่ การบรหิ ารราชการแผน่ ดิน เพื่อการนี๊จะ มีอานาจหน้าที่ ส่ังใหร้ าชการส่วนกลาง ราชการสว่ นภมู ภิ าค และส่วนราชการ ซง่ื มีหน้าท่ีควบคุมราชการสว่ นท้องถ่ิน ช๊แี จงแสดงความคิดเห็น ทารายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ ในกรณีจาเป็นจะยับย๊งั การปฏิบัติราชการใดๆ ที่ขัดต่อนโยบาย หรอื มติของคณะรฐั มนตรกี ็ได้ และมีอานาจส่ังสอบสวน ข้อเท็จจรงิ เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของราชการสว่ นกลาง ราชการส่วนภูมภิ าค และ ราชการส่วนท้องถ่ิน แต่งต๊ังขา้ ราชการซง่ื สงั กัดกระทรวง ทบวง กรมหนื่งไปดารง ตาแหน่งของอีกกระทรวง ทบวง กรมหนื่ง โดยให้ได้รบั เงนิ เดือน จากกระทรวง ทบวง กรมเดิม ในกรณีเชน่ ว่าน๊ีให้ข้าราชการซงื่ ได้รบั แต่งต๊ังมีฐานะเสมือนเปน็ ขา้ ราชการสังกัดกระทรวง ทบวง กรม มาดารงตาแหน่งนั๊นทกุ ประการ แต่ถ้าเปน็ การแต่งตั๊งขา้ ราชการต๊ังแต่ตาแหน่งอธิบดี หรอื เทียบเท่าขนื๊ ไปต้องได้รบั อนุมตั ิจากคณะรฐั มนตรี สานักเลขาธิการนายกรฐั มนตรี เก่ียวกับราชการทางการเมือง มีอานาจหน้าท่ี มีเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรเี ปน็ ผบู้ ังคับบัญชาขา้ ราชการ และรบั ผิดชอบในการปฏิบัติราชการขนื๊ ตรงต่อนายกรฐั มนตรี และให้มีรองเลขาธิการนายกรฐั มนตรฝี า่ ยการเมือง และรอง เลขาธิการนายกรฐั มนตรฝี า่ ยบรหิ าร เป็นผชู้ ว่ ยสั่งและปฏิบัติ ราชการและจะใหม้ ีผชู้ ่วยเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี เป็นผู้ชว่ ยสั่ง และปฏิบัติราชการด้วยก็ได้ ให้ ให้..รองเลขาธิการนายกรฐั มนตรี ให.้ .เลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี (ฝา่ ยบรหิ าร) และรองเลขาธิการนายกรฐั มนตรี และ ผชู้ ว่ ยเลขาธิการนายกรฐั มนตรี เป็นข้าราชการพลเรอื นสามัญ (ฝา่ ยการเมือง) เปน็ ข้าราชการการเมือง 3
ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 ประเดน็ สอบ คาตอบ ใหจ้ ัดระเบียบราชการของกระทรวง ดังน๊ี (1) สานักงานรฐั มนตรี สานักงานรฐั มนตรี มีอานาจหน้าท่ี (2) สานักงานปลดั กระทรวง (3) กรม หรอื ส่วนราชการทเี่ รยี กชอ่ื อย่างอื่น เวน้ แต่บางกระทรวง เหน็ วา่ ไม่มคี วามจาเปน็ จะไม่แยกส่วนราชการตั๊งข๊ืนเปน็ กรม ก็ได้ ใหส้ ่วนราชการตาม (2) และส่วนราชการทเี่ รยี กช่ืออย่างอ่ืนตาม (3) มีฐานะเปน็ กรม เกี่ยวกับราชการทางการเมอื ง มีเลขานกุ ารรฐั มนตรซี งื่ เปน็ ข้าราชการการเมือง เปน็ ผบู้ ังคบั บญั ชาขา้ ราชการ รบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั ิราชการของสานักงานรฐั มนตรขี น๊ื ตรง ต่อรฐั มนตรวี า่ การทบวง และจัดใหม้ ีผ้ชู ่วยเลขานุการรฐั มนตรี ซ่ืงเป็นข้าราชการการเมืองคนหนื่งหรอื หลายคนเปน็ ผ้ชู ว่ ยส่งั หรอื ปฏิบัติราชการแทนเลขานุการรฐั มนตรกี ็ได้ สานักงานปลดั กระทรวง มีอานาจหน้าท่ี เกี่ยวกับราชการประจาทวั่ ไปของกระทรวง ราชการทีค่ ณะรฐั มนตรมี ิได้กาหนดให้เปน็ หน้าท่ขี องกรมใดกรม หน่ืงในสังกัดกระทรวงโดยเฉพาะ รวมทั๊งกากับและเรง่ รดั การปฏิบัติราชการของสว่ นราชการใน กระทรวงใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายแนวทางและแผนการปฏิบตั ิ ราชการของกระทรวง การจัดระเบียบราชการในทบวง ส่วนใดซืง่ โดยสภาพและปรมิ าณของงานไม่เหมาะสมที่จะจัดต๊ัง ซ่งื สังกัดสานักนายกรฐั มนตรหี รอื กระทรวง เป็นกระทรวงหรอื ทบวงซืง่ มีฐานะเทยี บเท่ากระทรวง จะจัดต๊ังเปน็ ทบวงสังกัดสานักนายกรฐั มนตรหี รอื กระทรวง เพ่อื ใหม้ ีรฐั มนตรี ว่าการทบวงเปน็ ผบู้ ังคับบัญชาขา้ ราชการ และรบั ผิดชอบในการ ปฏิบัติราชการของทบวงก็ได้ และให้จัดระเบียบราชการในทบวง ดังนี๊ (1) สานักงานรฐั มนตรี (2) สานักงานปลดั ทบวง (3) กรม หรอื ส่วนราชการท่เี รยี กชอ่ื อยา่ งอ่ืน เว้นแต่บางทบวง ซงื่ เหน็ ว่าไม่มีความจาเปน็ จะไม่แยกสว่ นราชการต๊ังขนื๊ เปน็ กรมก็ได้ ให้ส่วนราชการตาม (2) และส่วนราชการท่ีเรยี กช่ืออย่างอื่นตาม (3) มีฐานะเป็นกรม 4
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 ประเดน็ สอบ คาตอบ การปฏิบตั ิราชการแทน หนังสอื การมอบอานาจใหท้ าเปน็ มีอานาจในการสงั่ การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการหรอื การดาเนินการอ่ืน การรกั ษาราชการแทน ตาแหน่ง ผู้รกั ษาการแทนลาดับท่ี 1 ผู้รกั ษาการแทนลาดับท่ี 2 นายกรฐั มนตรี รองนายกรฐั มนตรี 1. รองนายกรฐั มนตรีหลายคน ให้คณะรฐั มนตรี (ครม.) มอบหมายให้รองนายกรฐั มนตรคี นใดคนหน่ืง เป็นผู้รกั ษาการแทน 2. ถ้าไม่มีผู้ดารงตาแหน่งรองนายกรฐั มนตรี หรอื มีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้คณะรฐั มนตรี (ครม.) มอบหมายให้รฐั มนตรคี นใดคนหน่ืง เป็นผู้รกั ษาราชการแทน รฐั มนตรวี ่าการกระทรวง รฐั มนตรชี ่วยว่าการกระทรวง 1. ถ้ามี รมช. หลายคน (รมช.) ให้คณะรฐั มนตรมี อบหมายให้รฐั มนตรชี ่วย เป็นผู้รกั ษาแทน ว่าการกระทรวงคนใดคนหน่ืง เป็นผู้รกั ษาราชการแทน 2. ถ้าไม่มีผู้ดารงตาแหน่งรฐั มนตรชี ่วยว่าการ กระทรวงหรอื มีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้คณะรฐั มนตรมี อบหมายให้รฐั มนตรีคน ใดคนหน่ืง เป็นผู้รกั ษาราชการแทน การมอบอานาจให้ทาเป็น “ ห นั ง สื อ ” 5
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID : 0951800066 ให้จดั ระเบยี บบรหิ ารราชการสว่ นภมู ภิ าค ดังน๊ี จังหวดั อาเภอ ไม่มีฐานะเปน็ นิติบุคคลซงื่ ไม่มกี ารตั๊ง งบประมาณเปน็ ของตนเอง การตั๊ง ยุบ และเปล่ียนเขตอาเภอ ให้ตราเป็น พระราชกฤษฎีกา ให้รวมท้องท่ีหลายๆ อาเภอตั๊งขนื๊ เปน็ จังหวัดมีฐานะเปน็ นิติบุคคล การตั๊ง ยุบ และเปล่ียนแปลงเขตจังหวัด ให้ตราเปน็ พระราชบัญญตั ิ คณะกรมการจังหวดั ประกอบด้วย เป็นประธาน ผู้วา่ ราชการจังหวดั รองผ้วู ่าราชการจังหวัดหน่ืงคน เป็นกรรมการจังหวดั ตามที่ผู้วา่ ราชการจังหวัดมอบหมาย ปลัดจังหวัด เป็นกรมการจงั หวดั และเลขานุการ อัยการจังหวัดซ่งื เปน็ หัวหน้าท่ีทาการอัยการจังหวดั ผบู้ ังคับการตารวจภธู รจังหวดั หวั หน้าส่วนราชการประจาจังหวัดจากกระทรวงและทบวงต่างๆ เว้นแต่กระทรวงมหาดไทยซ่งื ประจาอยูใ่ นจังหวดั กระทรวง หรอื ทบวงละหนื่งคน หัวหน้าสานกั งานจังหวดั จังหวดั จัดทาแผนพฒั นาจังหวดั ให้สอดคลอ้ งกับ แนวทางการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมในระดับชาติ และความต้องการของประชาชนในทอ้ งถิ่นในจังหวดั 6
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 จังหวดั หนืง่ นอกจากกรงุ เทพมหานคร ให้มีคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวดั คณะหนื่ง เรยี ก โดยย่อวา่ “ก.ธ.จ.” ทาหน้าท่ีสอดส่องและเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรฐั ในจังหวัด ก.ธ.จ. ประกอบด้วย - ผตู้ รวจราชการสานักนายกรฐั มนตรซี ่งื มีเขตอานาจในจังหวัด เป็นประธาน - ผูแ้ ทนภาคประชาสังคม ผู้แทนสมาชกิ สภาทอ้ งถ่ินทไ่ี ม่ไดด้ ารงตาแหน่งผูบ้ รหิ ารและ - ผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน ทั๊งน๊ี จานวน วิธกี ารสรรหา และการปฏิบัติหน้าท่ีของ ก.ธ.จ. ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบสานักนายกรฐั มนตรี (1) จังหวัดท่ีมี ไม่เกิน 10 อาเภอ ใหม้ ีกรรมการจานวน ไม่เกิน 14 คน ประกอบด้วยประธาน และผแู้ ทนภาคประชาสงั คมไม่เกิน 7 คน ผ้แู ทนสมาชกิ สภาท้องถ่ิน 3 คน และผแู้ ทนภาคธุรกิจเอกชน 3 คน เป็นกรรมการ (2) จังหวัดที่มีต๊ังแต่ 11 อาเภอแต่ไมเ่ กิน 15 อาเภอ ใหม้ ีกรรมการ จานวน 16 คน ประกอบด้วยประธาน และผแู้ ทนภาคประชาสังคม 9 คน ผู้แทนสมาชิกสภาท้องถิ่น 3 คน และผูแ้ ทนภาคธุรกิจเอกชน 3 คน เปน็ กรรมการ (3) จังหวดั ที่มีตั๊งแต่ 16 อาเภอแต่ไมเ่ กิน 20 อาเภอ ให้มีกรรมการจานวน 18 คน ประกอบด้วยประธาน และผแู้ ทนภาคประชาสงั คม 9 คน ผู้แทนสมาชิกสภาทอ้ งถิ่น 4 คน และ ผู้แทนภาคเอกชน 4 คน เป็นกรรมการ (4) จังหวัดที่มีต๊ังแต่ 21 อาเภอข๊ืนไป ใหม้ ีกรรมการ จานวน 20 คน ประกอบด้วยประธาน และผแู้ ทนภาคประชาสังคม 11 คน ผแู้ ทนสมาชิกสภาทอ้ งถิ่น 4 คน และผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน 4 คน เปน็ กรรมการ ในกรณีที่มีการจัดตั๊งอาเภอขื๊นใหม่อันอาจทาใหจ้ านวนกรรมการที่จะพืงมขี องจังหวดั เปล่ียนไป ให้กรรมการที่อยู่ในตาแหน่งปฏิบัติหน้าทต่ี ่อไปจนครบวาระ โดยไม่ต้องดาเนินการสรรหากรรมการเพ่มิ เติม เม่ือผูว้ ่าราชการจังหวัดไดด้ าเนินการสรรหา แล้ว ใหผ้ ้วู า่ ราชการจังหวัดแจ้งรายช่อื ไปยังปลดั สานกั นายกรฐั มนตรเี พอ่ื ลงนามรบั รองรายชอื่ กรรมการเปน็ รายจงั หวดั กรรมการผู้แทนภาคประชาสงั คม กรรมการผู้แทนสมาชิกสภาท้องถิ่น และกรรมการผูแ้ ทนภาคธุรกิจ เอกชน มีวาระดารงตาแหนง่ คราวละ 3 ปึนับแต่วันท่ีปลดั สานักนายกรฐั มนตรลี งนามรบั รองรายชอื่ กรรมการ เปน็ รายจังหวัด กรรมการซงื่ พ้นจากตาแหน่งตามวาระ อาจได้รบั สรรหาอีกได้ แต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกัน เกิน 2 วาระไม่ได้ 7
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID : 0951800066 การปกครองทอ้ งถิน่ ใหจ้ ดั ระเบยี บการปกครอง เปน็ ราชการสว่ นทอ้ งถิ่น ให้จัดระเบยี บบรหิ ารราชการสว่ นทอ้ งถ่นิ ดังน๊ี (1) องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัด (2) เทศบาล (3) สุขาภิบาล (ปจั จบุ ันไม่มีตามพระราชบัญญัติเปลย่ี นแปลงฐานะของสขุ าภิบาลเปน็ เทศบาล พ.ศ. 2542) (4) ราชการส่วนท้องถิ่นอ่ืนตามที่มีกฎหมายกาหนด (อบต./เมืองพัทยาและกทม.) คณะกรรมการพฒั นาระบบราชการคณะหนื่ง เรยี กโดยยอ่ วา่ “ก.พ.ร.” ประกอบด้วย นายกรฐั มนตรหี รอื รองนายกรฐั มนตรที นี่ ายกรฐั มนตรมี อบหมาย เป็นประธาน รวม ( 1 คน ) ทง๊ั หมด รฐั มนตรหี น่ืงคนทน่ี ายกรฐั มนตรกี าหนด 14คน เป็นรองประธาน ซง่ื คณะกรรมการการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วน ( 1 คน ) ท้องถ่ินมอบหมาย 1 คน กรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ ิไม่เกิน 10 คน กรรมการ ซ่งื คณะรฐั มนตรแี ต่งต๊ังจากผมู้ ีความรูค้ วามเชี่ยวชาญใน ทางด้านนิติศาสตร์ เศรษฐศาสตรร์ ฐั ศาสตร์ การบรหิ ารรฐั กิจ การบรหิ ารธุรกิจ การเงนิ การคลัง จิตวิทยา องค์การ และสังคม วิทยาอยา่ งน้อยด้านละ 1 คน (10 คน) *** เลขาธกิ าร ก.พ.ร. เปน็ กรรมการและเลขานุการ โดยตาแหน่ง *** ภาพจาก ปัจจุบัน 2562 นายวษิ ณุ เครอื งาม รองนายกรฐั มนตรี ประธาน ก.พ.ร. นายทศพร ศิรสิ ัมพันธ เลขาธิการ ก.พ.ร. กรรมการและเลขานุการเลขาธกิ าร ก.พ.ร. Posttoday ซ่ืงเปน็ ข้าราชการพลเรอื นสามัญเปน็ ผู้บังคับบญั ชาข้าราชการและ ลูกจ้างของสานักงาน คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และรบั ผิดชอบการปฏิบตั ิราชการขน๊ื ตรงต่อนายกรฐั มนตรี ในกรณีที่มีความจาเปน็ เพ่อื ให้การปฏิบัติงานบรรลุผล คณะรฐั มนตรจี ะกาหนดให้กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่น้อยกว่า 3 คนแต่ไม่เกิน 5 คน ต้องทางานเต็มเวลาก็ได้ (* 3 คน ไม่เกิน 5 คน ค่าตอบแทนตราเปน็ กฎหมายพระราชกฤษฎีกา) การแต่งต๊ังกรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิ ของ “ก.พ.ร.” ใหค้ ณะรฐั มนตรพี จิ ารณาจากรายชอ่ื บุคคลท่ี ได้รบั การเสนอโดยวิธกี ารสรรหา ท๊ังนี๊ ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารสรรหาท่ี - คณะรฐั มนตรกี าหนด 8
ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 “ก.พ.ร.” มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละ 4 ปึ ผซู้ ง่ื พ้นจากตาแหน่งแล้ว อาจได้รบั แต่งต๊ังอีกได้ แต่ ไมเ่ กิน 2 วาระติดต่อกัน ก.พ.ร. มีอานาจหน้าที่ ดังต่อไปน๊ี เสนอแนะและให้คาปรกื ษาแก่คณะรฐั มนตรเี กี่ยวกับการพฒั นาระบบราชการและงานของรฐั อยา่ งอ่ืน ซื่งรวมถืงโครงสรา้ งระบบราชการ ระบบงบประมาณ ระบบบุคลากร มาตรฐานทางคุณธรรมและ จรยิ ธรรม ค่าตอบแทน และวิธปี ฏิบัติราชการอ่ืน 9
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 พระราชกฤษฎีกาวา่ ด้วยหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารบรหิ ารกิจการบา้ นเมอื งทด่ี ี พ.ศ.2546 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วนั ท่ี 9 ตลุ าคม 2546 เปน็ ปึท่ี 58 ในรชั กาลท่ี 9 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ให้ประกาศวา่ โดยทเี่ ปน็ การสมควรกาหนดหลกั เกณฑ์และวิธีการบรหิ ารกิจการบ้านเมอื งท่ดี ี อาศัยอานาจ ตามความในมาตรา 221 ของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 3/1 และมาตรา 71/10 (5) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบรหิ ารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซ่ืงแก้ไขเพมิ่ เติม โดยพระราชบญั ญตั ิระเบียบ บรหิ ารราชการแผ่นดนิ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จืงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาข๊ืนไว้ (ฉบับท่ี 2) สมเด็จพระเจ้าอยู่หวั มหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ***ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี 26 เมษายน พ.ศ.2562 เป็นปึที่ 4 ในรชั กาลปัจจุบัน*** สมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ ัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู มีพระราชโองการโปรดเกล้า ฯ ใหป้ ระกาศวา่ โดยที่เปน็ การสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาวา่ ด้วยหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารบรหิ ารกิจการ บ้านเมอื งทดี่ ี อาศยั อานาจตามความในมาตรา 175 ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3/1 วรรคสี่ แหง่ พระราชบัญญัติระเบียบบรหิ ารราชการแผ่นดนิ พ.ศ. 2534 ซงื่ แก้ไขเพมิ่ เติมโดย พระราชบัญญัติ ระเบียบบรหิ ารราชการแผน่ ดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จืงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกา ข๊ืนไว้ ดังต่อไปน๊ี พระราชกฤษฎีกานี๊เรยี กว่าพระราชกฤษฎีกาวา่ ดว้ ยหลักเกณฑแ์ ละวิธีการบรหิ ารกิจการบ้านเมืองท่ีดี มาตรา 1 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกาน๊ีให้ใช้บังคับตั๊งแต่วันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป มาตรา 3 การปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกานี๊ในเรอื่ งใดสมควรท่ีส่วนราชการใดจะปฏิบัติเมือ่ ใด และจะต้อง มีเงื่อนไขอยา่ งใด ให้เปน็ ไปตามท่ีคณะรฐั มนตรกี าหนดตามขอ้ งกาหนดตามขอ้ เสนอแนะของ ก.พ.ร มาตรา 4 ในพระราชกฤษฎีกานี๊ “ส่วนราชการ” หมายความวา่ ส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยการปรบั ปรุงกระทรวง ทบวง กรมและหน่วยงานอื่นของรฐั ทอี่ ยู่ในกากับของราชการฝา่ ยบรหิ ารแต่ไม่รวมถืงองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน “รฐั วิสาหกิจ” หมายความว่า รฐั วสิ าหกิจท่ีจัดต๊ังข๊ืนโดยพระราชบัญญตั ิหรอื พระราชกฤษฎีกา “ข้าราชการ” หมายความรวมถืงพนักงาน ลูกจ้าง หรอื ผูป้ ฏิบัติงานในสว่ นราชการ มาตรา 5 ใหน้ ายกรฐั มนตรรี กั ษาการตามพระราชกฤษฎีกานี๊ 10
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID : 0951800066 หมวด 1 การบรหิ ารกิจการบา้ นเมืองทีด่ ี มาตรา 6 การบรหิ ารกิจการบา้ นเมืองที่ดี ได้แก่ การบรหิ ารราชการเพ่อื บรรลุเปา๋ หมายดังต่อไปน๊ี (1) เกิดประโยชน์สุขของประชาชน (2) เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรฐั (3) มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรฐั (4) ไม่มีขัน๊ ตอนการปฏิบัติงานเกินความจาเป็น (5) มีการปรบั ปรุงภารกิจของส่วนราชการใหท้ ันต่อสถานการณ์ (6) ประชาชนไดร้ บั การอานวยความสะดวกและไดร้ บั การตอบสนองความต้องการ (7) มีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสมา่ เสมอ หมวด 2 การบรหิ ารราชการเพอ่ื ใหเ้ กิดประโยชน์สุขของประชาชน มาตรา 7 การบรหิ ารราชการเพือ่ ประโยชน์สุขของประชาชน หมายถืง การปฏิบัติราชการทม่ี ีเป๋าหมาย เพ่ือให้เกิดความผาสุกและความเปน็ อยู่ทดี่ ีของประชาชน ความสงบและปลอดภัยของสังคมสว่ นรวม ตลอดจนประโยชน์สูงสุดของประเทศ มาตรา 8 ในการบรหิ ารราชการเพ่ือประโยชน์สขุ ของประชาชน ส่วนราชการจะต้องดาเนินการ โดยถือ ว่าประชาชนเปน็ ศนู ย์กลางทจ่ี ะไดร้ บั การบรกิ ารจากรฐั และจะต้องมีแนวทางการบรหิ ารราชการ ดังต่อไปน๊ี (1) การกาหนดภารกิจของรฐั และส่วนราชการต้องเปน็ ไปเพือ่ วตั ถุประสงค์ตามมาตรา 7 และ สอดคลอ้ งกับแนวนโยบายแหง่ รฐั และนโยบายของคณะรฐั มนตรที ีแ่ ถลงต่อรฐั สภา (2) การปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการต้องเปน็ ไปโดยซือ่ สัตยส์ จุ รติ สามารถตรวจสอบได้ และมุ่ง ให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนทั๊งในระดบั ประเทศและท้องถิ่น (3) ก่อนเรม่ิ ดาเนินการ ส่วนราชการต้องจัดให้มีการศกื ษาวเิ คราะห์ผลดแี ละผลเสียให้ครบถ้วน ทุกด้านกาหนดข๊นั ตอนการดาเนินการท่โี ปรง่ ใส มีกลไกตรวจสอบการดาเนินการในแต่ละข๊นั ตอนใน กรณีท่ีภารกิจใดจะมีผลกระทบต่อประชาชน ส่วนราชการต้องดาเนินการรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของ ประชาชน หรอื ชแี๊ จงทาความเข้าใจเพ่ือให้ประชาชนได้ตระหนักถืงประโยชน์ทีส่ ่วนรวมจะไดร้ บั จาก ภารกิจน๊ัน (4) ใหเ้ ป็นหน้าที่ของข้าราชการที่จะต้องคอยรบั ฟงั ความคิดเหน็ และความพงื พอใจของสงั คม โดยรวมและประชาชนผรู้ บั บรกิ าร เพื่อปรบั ปรุงหรอื เสนอแนะต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อให้มีการปรบั ปรุงวธิ ี ปฏิบัติราชการให้เหมาะสม มีต่อ 11
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 หมวด 2 การบรหิ ารราชการเพ่ือให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชน (ต่อ) (5) ในกรณีที่เกิดปญั หาและอุปสรรคจากการดาเนินการ ให้ส่วนราชการดาเนินการแก้ไขปญั หา และ อุปสรรคน๊ันโดยเรว็ ในกรณีท่ีปญั หาหรอื อุปสรรคนั๊นเกิดข๊ืนจากสว่ นราชการอ่ืน หรอื ระเบียบ ขอ้ บังคับท่ีออกโดยสว่ นราชการอื่น ให้ส่วนราชการแจ้งให้ส่วนราชการท่ีเก่ียวข้องทราบ เพ่ือดาเนินการ แก้ไขปรบั ปรุงโดยเรว็ ต่อไป และใหแ้ จ้ง ก.พ.ร. ทราบด้วย การดาเนินการตามวรรคหนื่ง ให้ส่วนราชการกาหนดวิธีปฏิบตั ิให้เหมาะสมกับภารกิจแต่ละเรอื่ ง ท๊ังน๊ี ก.พ.ร. จะกาหนดแนวทางการดาเนินการท่ัวไปใหส้ ่วนราชการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรานี๊ด้วย ก็ได้ หมวด 3 การบรหิ ารราชการเพือ่ ให้เกิดผลสมั ฤทธติ์ ่อภารกิจของรฐั มาตรา 9 การบรหิ ารราชการเพ่ือให้เกิดผลสมั ฤทธต์ิ ่อภารกิจของรฐั ใหส้ ่วนราชการปฏิบตั ิ ดังต่อไปน๊ี (1) ก่อนจะดาเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทาแผนปฏิบัติราชการไวเ้ ปน็ การลว่ ง หน้า (2) การกาหนดแผนปฏิบัติราชการของสว่ นราชการตาม (1) ต้องมีรายละเอียดของขน๊ั ตอน ระยะเวลาและงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดาเนินการของแต่ละข๊นั ตอน เป๋าหมายของภารกิจผล สัมฤทธข์ิ องภารกิจและตัวชว๊ี ดั ความสาเรจ็ ของภารกิจ (3) ส่วนราชการต้องจัดให้มีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการตาม หลักเกณฑ์และวิธีการท่ีส่วนราชการกาหนดข๊นื ซงื่ ต้องสอดคลอ้ งกับมาตรฐานท่ี ก.พ.ร. กาหนด (4) ในกรณีที่การปฏิบัติภารกิจ หรอื การปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการเกิดผลกระทบต่อ ประชาชน ให้เปน็ หน้าที่ของสว่ นราชการที่จะต้องดาเนินการแก้ไขหรอื บรรเทาผลกระทบน๊ัน หรอื เปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการใหเ้ หมาะสม มาตรา 10 ในกรณีท่ีภารกิจใดมีความเก่ียวขอ้ งกับหลายสว่ นราชการหรอื เปน็ ภารกิจท่ีใกลเ้ คียงหรอื ต่อเนื่องกัน ให้ส่วนราชการทเ่ี กี่ยวข้องน๊ันกาหนดแนวทางการปฏิบัติราชการเพอื่ ให้เกิด การบรหิ าร ราชการแบบบูรณาการรว่ มกัน โดยมุ่งให้เกิดผลสมั ฤทธติ์ ่อภารกิจของรฐั ให้ส่วนราชการมีหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติราชการของผู้วา่ ราชการจังหวัดหรอื หัวหน้าคณะ ผู้แทนในต่างประเทศ เพื่อให้การบรหิ ารราชการแบบบูรณาการในจังหวดั หรอื ในต่างประเทศ แล้วแต่ กรณี สามารถใชอ้ านาจตามกฎหมายได้ครบถ้วนตามความจาเปน็ และบรหิ ารราชการไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพ 12
ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID : 0951800066 หมวด 3 การบรหิ ารราชการเพอ่ื ให้เกิดผลสัมฤทธติ์ ่อภารกิจของรฐั (ต่อ) มาตรา 11 ส่วนราชการมหี น้าที่พฒั นาความรูใ้ นส่วนราชการ เพอ่ื ให้มีลักษณะเปน็ องค์การแหง่ การเรยี นรู้ อย่างสมา่ เสมอ โดยต้องรบั รูข้ ้อมลู ขา่ วสารและสามารถประมวลผลความรูใ้ นดา้ นต่างๆ เพอื่ นามาประยุกต์ ใชใ้ นการปฏิบัติราชการไดอ้ ย่างถกู ต้องรวดเรว็ และเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั๊งต้องส่งเสรมิ และ พัฒนาความรูค้ วามสามารถ สรา้ งวสิ ัยทัศน์และปรบั เปล่ียนทศั นคติของข้าราชการในสงั กัด ใหเ้ ปน็ บุคลากร ท่ีมีประสิทธภิ าพและมีการเรยี นรูร้ ว่ มกัน ท๊ังน๊ีเพอ่ื ประโยชน์ในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการใหส้ อด- คล้องกับการบรหิ ารราชการให้เกิดผลสัมฤทธติ์ ามพระราชกฤษฎีกาน๊ี มาตรา 12 เพอ่ื ประโยชน์ในการปฏิบัติราชการใหเ้ กิดผลสมั ฤทธิ์ ก.พ.ร. อาจเสนอต่อคณะรฐั มนตรเี พื่อ กาหนดมาตรการกากับการปฏิบัติราชการโดยวธิ กี ารจัดทาความตกลงเปน็ ลายลักษณ์อักษร หรอื โดย วิธกี ารอ่ืนใด เพ่อื แสดงความรบั ผิดชอบในการปฏิบัติราชการ มาตรา 16 ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ของส่วนราชการนั๊นโดยจัดทาเปน็ แผน 5 ปึ ซง่ื ต้อง สอดคลอ้ งกับยุทธศาสตรช์ าติ แผนแม่บท แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ นโยบายของคณะรฐั มนตรที ี่แถลงต่อรฐั สภา และแผนอื่นทีเ่ กี่ยวขอ้ ง มาตรา 17 ในกรณีท่ีกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีการงบประมาณกาหนดให้ส่วนราชการต้องจัดทาแผนปฏิบัติ ราชการเพอ่ื ขอรบั งบประมาณ ให้สานักงบประมาณและ ก.พ.ร. รว่ มกันกาหนดแนวทางการจัดทาแผน ปฏิบัติราชการตามมาตรา 16 ให้สามารถใชไ้ ด้กับแผนปฏิบัติราชการทีต่ ้องจัดทาตามกฎหมายว่าดว้ ย วิธกี ารงบประมาณ ทั๊งนี๊ เพอ่ื มิใหเ้ พมิ่ ภาระงานในการจัดทาแผนจนเกินสมควร มาตรา 19 เมื่อนายกรฐั มนตรพี น้ จากตาแหน่ง ใหห้ ัวหน้าส่วนราชการมหี น้าทส่ี รุปผลการปฏิบัติราชการ และใหข้ ้อมูลต่อนายกรฐั มนตรคี นใหม่ ตามท่ีนายกรฐั มนตรคี นใหม่สงั่ การ ท๊ังน๊ี เพ่ือนายกรฐั มนตรคี นใหม่ จะได้ใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณากาหนดนโยบายการบรหิ ารราชการแผ่นดินต่อไป 13
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 หมวด 4 การบรหิ ารราชการอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและเกิดความค้มุ คา่ ในเชิงภารกิจของรฐั มาตรา 20 เพอ่ื ใหก้ ารปฏิบัติราชการภายในสว่ นราชการเป็นไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพใหส้ ่วนราชการกาหนด เปา๋ หมาย แผนการทางาน ระยะเวลาแล้วเสรจ็ ของงานหรอื โครงการ และงบประมาณที่จะต้องใช้ในแต่ละ งานหรอื โครงการ และต้องเผยแพรใ่ ห้ขา้ ราชการและประชาชนทราบท่ัวกันด้วย มาตรา 21 ให้ส่วนราชการจัดทาบัญชตี ้นทุนในงานบรกิ ารสาธารณะแต่ละประเภทขืน๊ ตามหลักเกณฑ์และ วิธกี ารท่ีกรมบัญชกี ลางกาหนดให้สว่ นราชการคานวณรายจ่ายต่อหน่วยของงานบรกิ ารสาธารณะที่อยูใ่ น ความรบั ผดิ ชอบของสว่ นราชการน๊ันตามระยะเวลาท่ีกรมบัญชกี ลางกาหนด และรายงานให้สานัก งบประมาณ กรมบัญชีกลาง และ ก.พ.ร. ทราบ ในกรณีที่รายจ่ายต่อหน่วยของงานบรกิ ารสาธารณะใดของส่วนราชการใดสูงกวา่ รายจ่ายต่อ หน่วยของงานบรกิ ารสาธารณะประเภทและคณุ ภาพเดียวกันหรอื คลา้ ยคลืงกันของสว่ นราชการอ่ืน ให้ส่วน ราชการนั๊นจัดทาแผนการลดรายจ่ายต่อหน่วยของงานบรกิ ารสาธารณะดังกลา่ ว เสนอสานักงบประมาณ กรมบัญชกี ลาง และ ก.พ.ร. ทราบ และถ้ามิได้มขี อ้ ทักท้วงประการใดภายในสิบห้าวนั ก็ใหส้ ่วนราชการ ดังกล่าวถือปฏิบัติตามแผนการลดรายจ่ายน๊ันต่อไปได้ มาตรา 22 ให้สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสานักงบประมาณ รว่ มกันจัดให้มีการประเมนิ ความคุ้มค่าในการปฏิบัติภารกิจของรฐั ท่ีส่วนราชการดาเนินการอยู่ เพอื่ รายงาน คณะรฐั มนตรสี าหรบั เปน็ แนวทางในการพิจารณาว่าภารกิจใดสมควรจะไดด้ าเนินการต่อไปหรอื ยุบเลิก และเพือ่ ประโยชน์ในการจัดตั๊งงบประมาณของสว่ นราชการในปตึ ่อไป ทั๊งนี๊ ตามระยะเวลาท่ีคณะรฐั มนตรี กาหนด ในการประเมินความคุ้มค่าตามวรรคหน่ืง ให้คานืงถืงประเภทและสภาพของแต่ละภารกิจ ความ เป็นไปไดข้ องภารกิจหรอื โครงการทีด่ าเนินการ ประโยชน์ท่รี ฐั และประชาชนจะพืงได้และรายจ่ายทีต่ ้องเสีย ไปก่อนและหลงั ที่สว่ นราชการดาเนินการด้วยความค้มุ ค่าตามมาตรานี๊ ให้หมายความถืงประโยชน์หรอื ผลเสียทางสังคม และประโยชน์หรอื ผลเสยี อื่น ซื่งไม่อาจคานวณเปน็ ตัวเงนิ ไดด้ ้วย มาตรา 23 ในการจัดซ๊ือหรอื จัดจ้าง ให้ส่วนราชการดาเนินการโดยเปิดเผยและเท่ียงธรรม โดยพจิ ารณาถืง ประโยชน์และผลเสยี ทางสังคม ภาระต่อประชาชน คุณภาพ วัตถุประสงค์ท่ีจะใชร้ าคา และประโยชน์ระยะ ยาวของส่วนราชการทีจ่ ะได้รบั ประกอบกัน ในกรณีท่ีวัตถปุ ระสงค์ในการใชเ้ ปน็ เหตใุ หต้ ้องคานืงถืงคณุ ภาพและการดแู ลรกั ษาเปน็ สาคัญ ให้ สามารถกระทาไดโ้ ดยไม่ต้องถือราคาตา่ สุดในการเสนอซือ๊ หรอื จ้างเสมอไป ใหส้ ่วนราชการที่มีหน้าที่ดแู ลระเบียบเก่ียวกับการพสั ดปุ รบั ปรุงระเบียบท่ีเก่ียวขอ้ งเพื่อให้ส่วน ราชการดาเนินการตามวรรคหนื่งและวรรคสองได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ มีต่อ 14
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID : 0951800066 หมวด 4 การบรหิ ารราชการอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและเกิดความคมุ้ ค่าในเชงิ ภารกิจของรฐั มาตรา 24 ในการปฏิบัติภารกิจใด หากส่วนราชการจาเปน็ ต้องได้รบั อนุญาต อนุมัติ หรอื ความเหน็ ชอบ จากส่วนราชการอื่นตามที่มกี ฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรอื มติคณะรฐั มนตรกี าหนด ให้ส่วน ราชการท่ีมอี านาจอนุญาต อนุมัติ หรอื ให้ความเหน็ ชอบดงั กลา่ ว แจ้งผลการพจิ ารณาใหส้ ่วนราชการทยี่ ่ืน คาขอทราบภายในสิบห้าวนั นบั แต่วนั ทไี่ ดร้ บั คาขอ ในกรณีที่เรอ่ื งใดมีกฎหมาย กฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ ประกาศ หรอื มติคณะรฐั มนตรกี าหนด ขน๊ั ตอนการปฏิบัติไว้ และขนั๊ ตอนการปฏิบัตินั๊นต้องใช้ระยะเวลาเกินสิบหา้ วนั ใหส้ ่วนราชการทีม่ ีอานาจ อนุญาต อนุมัติ หรอื ใหค้ วามเหน็ ชอบ ประกาศกาหนดระยะเวลาการพจิ ารณาไวใ้ ห้ส่วนราชการอ่ืนทราบ ส่วนราชการใดท่ีมอี านาจอนุญาต อนุมัติ หรอื ใหค้ วามเหน็ ชอบ มิได้ดาเนินการให้แล้วเสรจ็ ตาม วรรคหน่ืงหรอื วรรคสอง หากเกิดความเสียหายใดขนื๊ ใหถ้ ือวา่ ข้าราชการซืง่ มีหน้าทีเ่ กี่ยวข้องและหัวหน้า ส่วนราชการน๊ันประมาทเลินเลอ่ อยา่ งรา้ ยแรง เว้นแต่จะพสิ ูจน์ได้ว่าความล่าช้านั๊นมิได้เกิดข๊นื จากความผดิ ของตน มาตรา 25 ในการพจิ ารณาวินิจฉัยช๊ีขาดปญั หาใดๆ ใหเ้ ปน็ หน้าที่ของส่วนราชการทีร่ บั ผิดชอบในปญั หา น๊ันๆ จะต้องพิจารณาวินิจฉัยช๊ีขาดโดยเรว็ การต๊ังคณะกรรมการขื๊นพิจารณาวินิจฉัย ใหด้ าเนินการได้เทา่ ที่ จาเป็นอันไมอ่ าจหลีกเลยี่ งได้ ในการพิจารณาเรอ่ื งใดๆ โดยคณะกรรมการ เมื่อคณะกรรมการมมี ติเปน็ ประการใดแล้ว ใหม้ ติ ของคณะกรรมการผกู พันสว่ นราชการซื่งมีผู้แทนรว่ มเป็นกรรมการอยู่ด้วย แม้วา่ ในการพจิ ารณาวนิ ิจฉัย เรอ่ื งนั๊นผแู้ ทนของสว่ นราชการท่เี ปน็ กรรมการจะมิไดเ้ ขา้ รว่ มพิจารณาวนิ ิจฉัยก็ตาม ถ้ามีความเหน็ แตกต่างกันสองฝา่ ย ให้บันทืกความเห็นของกรรมการฝา่ ยขา้ งน้อยไว้ใหป้ รากฏในเรอื่ งนั๊นดว้ ยความผูกพนั ที่กาหนดไวใ้ นวรรคสอง มิให้ใชบ้ ังคับกับการวนิ ิจฉัยในปญั หาด้านกฎหมาย มาตรา 26 การส่ังราชการโดยปกตใิ หก้ ระทาเปน็ ลายลักษณอ์ ักษร เวน้ แต่ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชามคี วาม จาเปน็ ที่ไม่อาจสัง่ เปน็ ลายลักษณ์อักษรในขณะนั๊น จะสั่งราชการดว้ ยวาจาก็ได้ แต่ให้ผรู้ บั คาส่ังน๊ันบันทกื คาสั่งด้วยวาจาไว้เปน็ ลายลกั ษณ์อักษรและเมื่อไดป้ ฏิบตั ิราชการตามคาสงั่ ดังกล่าวแลว้ ให้บันทืกรายงาน ใหผ้ ูส้ ั่งราชการทราบ ในบันทืกใหอ้ ้างอิงคาสั่งดว้ ยวาจาไวด้ ้วย 15
ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID : 0951800066 หมวด 5 การลดข๊นั ตอนการปฏิบัติงาน มาตรา 27 ให้ส่วนราชการจัดให้มีการกระจายอานาจการตัดสินใจเก่ียวกับการสงั่ การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ หรอื การดาเนินการอ่ืนใดของผูด้ ารงตาแหน่งใดใหแ้ ก่ผู้ดารงตาแหน่งท่ีมีหน้าที่ รบั ผดิ ชอบในการดาเนินการในเรอื่ งน๊ันโดยตรง เพอื่ ใหเ้ กิดความรวดเรว็ และลดขัน๊ ตอนการปฏิบัติราชการ ท๊ังน๊ี ในการกระจายอานาจการตัดสนิ ใจดังกล่าวต้องมงุ่ ผลให้เกิดความสะดวกและรวดเรว็ ในการบรกิ าร ประชาชนเมื่อได้มีการกระจายอานาจการตัดสินใจตามวรรคหน่ืงแล้ว ใหส้ ่วนราชการกาหนดหลักเกณฑ์ การควบคุม ติดตาม และกากับดแู ลการใช้อานาจและความรบั ผดิ ชอบของผรู้ บั มอบอานาจและผูม้ อบ อานาจไว้ด้วย หลักเกณฑด์ ังกล่าวต้องไมส่ รา้ งข๊ันตอนหรอื การกลัน่ กรองงานท่ีไม่จาเปน็ ในการปฏิบัติงาน ของขา้ ราชการ ในการน๊ี หากสามารถใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศหรอื โทรคมนาคมแล้วจะเป็นการลดขัน๊ ตอน เพมิ่ ประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย รวมท๊ังไม่เกิดผลเสียหายแก่ราชการ ให้ส่วนราชการดาเนินการให้ ข้าราชการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศหรอื โทรคมนาคมตามความเหมาะสมและกาลงั เงินงบประมาณเมื่อสว่ น ราชการใดไดม้ ีการกระจายอานาจการตัดสนิ ใจตามวรรคหนื่ง หรอื ได้มีการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศหรอื โทรคมนาคมตามวรรคสองแล้ว ใหส้ ่วนราชการน๊ันเผยแพรใ่ หป้ ระชาชนทราบเปน็ การท่ัวไป มาตรา 28 เพอื่ ประโยชน์ในการกระจายอานาจการตัดสนิ ใจตามมาตรา 27 ก.พ.ร. ด้วยความเห็นชอบของ คณะรฐั มนตรจี ะกาหนดหลักเกณฑ์และวิธกี ารหรอื แนวทางในการกระจายอานาจการตัดสนิ ใจความรบั ผิด ชอบระหว่างผู้มอบอานาจและผรู้ บั มอบอานาจ และการลดขั๊นตอนในการปฏิบัติราชการให้ ส่วนราชการถือ ปฏิบัติก็ได้ มาตรา 29 ในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการบรกิ ารประชาชนหรอื การติดต่อประสานงานระหว่าง ส่วนราชการดว้ ยกัน ให้ส่วนราชการแต่ละแหง่ จัดทาแผนภูมิข๊ันตอนและระยะเวลา การดาเนินการ รวมทั๊ง รายละเอียดอ่ืนๆ ที่เก่ียวขอ้ งในแต่ละข๊ันตอนเปิดเผยไว้ ณ ท่ีทาการของส่วนราชการและในระบบเครอื ขา่ ย สารสนเทศของสว่ นราชการ เพอ่ื ใหป้ ระชาชนหรอื ผู้ที่เก่ียวข้องเข้าตรวจดูได้ “การบรกิ ารประชาชนและการติดตอ่ ประสานงาน ระหวา่ งส่วนราชการดว้ ยกนั ต้องกระทาโดยใช้ แพลตฟอรม์ ดจิ ิทลั กลางทส่ี านักงานพฒั นารฐั บาลดจิ ทิ ัล (องคก์ ารมหาชน) กาหนดดว้ ย ” มีต่อ 16
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 หมวด 5 การลดขนั๊ ตอนการปฏิบัติงาน (ต่อ) มาตรา 30 ในกระทรวงหน่ืง ให้เป็นหน้าที่ของปลดั กระทรวงท่ีจะต้องจัดให้ส่วนราชการภายในกระทรวงที่ รบั ผดิ ชอบปฏิบตั ิงานเก่ียวกับการบรกิ ารประชาชนรว่ มกันจัดต๊ังศูนยบ์ รกิ ารรว่ ม เพื่ออานวยความสะดวก แก่ประชาชนในการท่ีจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรอื กฎอื่นใด ท๊ังนี๊ เพ่ือให้ประชาชนสามารถติดต่อสอบ ถาม ขอทราบข้อมูล ขออนุญาต หรอื ขออนุมตั ิในเรอ่ื งใดๆ ที่เป็นอานาจหน้าท่ีของสว่ นราชการในกระทรวง เดียวกัน โดยติดต่อเจ้าหน้าท่ี ณ ศูนย์บรกิ ารรว่ มเพียงแห่งเดยี ว มาตรา 31 ในศูนย์บรกิ ารรว่ มตามมาตรา 30 ให้จัดใหม้ ีเจ้าหน้าท่ีรบั เรอื่ งราวต่างๆ และดาเนินการสง่ ต่อให้ เจ้าหน้าที่ของสว่ นราชการที่เกี่ยวขอ้ งเพ่อื ดาเนินการต่อไป โดยใหม้ ีขอ้ มูลและเอกสารทเ่ี ก่ียวข้องกับอานาจ หน้าที่ของทุกส่วนราชการในกระทรวง รวมทั๊งแบบคาขอต่างๆ ไว้ใหพ้ รอ้ มท่ีจะบรกิ ารประชาชนได้ ณ ศูนย์บรกิ ารรว่ ม ใหเ้ ป็นหน้าท่ีส่วนราชการท่เี ก่ียวข้องท่ีจะต้องจัดพมิ พร์ ายละเอียดของเอกสารหลักฐานที่ ประชาชนจะต้องจัดหามาในการขออนุมตั ิหรอื ขออนุญาตในแต่ละเรอ่ื งมอบใหแ้ ก่เจ้าหน้าทีข่ องศูนยบ์ รกิ าร รว่ ม และให้เป็นหน้าท่ีของเจ้าหน้าท่ีศนู ยบ์ รกิ ารรว่ มทีจ่ ะต้องแจ้งใหป้ ระชาชนท่ีมาติดต่อได้ทราบในครง๊ั แรกท่ีมาติดต่อ และตรวจสอบว่าเอกสารหลักฐานทจี่ าเป็นดังกลา่ วนั๊นประชาชนไดย้ ่นื มาครบถ้วนหรอื ไม่ พรอ้ มท๊ังแจ้งให้ทราบถืงระยะเวลาทจี่ ะต้องใช้ดาเนินการในเรอื่ งนั๊นในการย่นื คารอ้ งหรอื คาขอต่อ ศูนย์บรกิ ารรว่ มตามมาตรา 30 ให้ถือวา่ เป็นการยื่นต่อสว่ นราชการ ท่ีเกี่ยวขอ้ งท๊ังหมดตามท่ีระบุไว้ใน กฎหมายหรอื กฎแล้ว ในการดาเนินการตามวรรคหน่ืง หากมีปญั หาหรอื อุปสรรคในการปฏิบัติราชการให้ เป็นไปตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารทีก่ าหนดในกฎหมายหรอื กฎในเรอื่ งใด ให้ส่วนราชการท่ีเกี่ยวขอ้ งแจ้งให้ ก.พ.ร. ทราบ เพือ่ ดาเนินการเสนอคณะรฐั มนตรใี ห้มีการปรบั ปรุงหลักเกณฑแ์ ละวิธีการตามกฎหมายหรอื กฎน๊ันต่อไป มาตรา 32 ใหผ้ ้วู า่ ราชการจังหวดั นายอาเภอ และปลัดอาเภอผเู้ ป็นหวั หน้าประจากิ่งอาเภอ จัดให้ส่วน - ราชการท่ีรบั ผดิ ชอบดาเนินการเกี่ยวกับการบรกิ ารประชาชนในเรอื่ งเดียวกันหรอื ต่อเนื่องกันในจังหวดั อาเภอ หรอื ก่ิงอาเภอน๊ัน รว่ มกันจัดต๊ังศูนย์บรกิ ารรว่ มไว้ ณ ศาลากลางจังหวัด ท่ีวา่ การอาเภอ หรอื ท่ีว่า การก่ิงอาเภอ หรอื สถานท่ีอื่นตามที่เห็นสมควร โดยประกาศใหป้ ระชาชนทราบ และใหน้ าความในมาตรา 30 และมาตรา 31 มาใช้บังคับดว้ ยโดยอนุโลม 17
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 หมวด 6 การปรบั ปรุงภารกิจของสว่ นราชการ มาตรา 33 ใหส้ ่วนราชการจัดใหม้ ีการทบทวนภารกิจของตนวา่ ภารกิจใดมีความจาเปน็ หรอื สมควรที่จะ ยกเลิก ปรบั ปรุง หรอื เปล่ียนแปลงการดาเนินการต่อไปหรอื ไม่ โดยคานืงถืงยุทธศาสตรช์ าติ แผนแม่บท แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ นโยบายของคณะรฐั มนตรที ่ีแถลงต่อรฐั สภา และแผนอ่ืนทเ่ี กี่ยวขอ้ ง รวมถืงกาลังเงนิ งบประมาณของประเทศ ความค้มุ ค่าของภารกิจ และสถานการณ์อื่นประกอบกัน มาตรา 34 ในกรณีท่ีมีการยุบเลิก โอน หรอื รวม ส่วนราชการใดทั๊งหมดหรอื บางสว่ น ห้ามมิให้จัดต๊ังส่วน ราชการท่ีมภี ารกิจหรอื อานาจหน้าทที่ ี่มีลกั ษณะเดยี วกันหรอื คล้ายคลืงกันกับส่วนราชการดังกลา่ วขืน๊ อีก เว้นแต่มีเหตุผลและความจาเปน็ เพอื่ รกั ษาความมน่ั คงของรฐั หรอื เศรษฐกิจของประเทศหรอื รกั ษา ผลประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน และโดยไดร้ บั ความเหน็ ชอบจาก ก.พ.ร. มาตรา 35 ส่วนราชการมีหน้าท่ีสารวจ ตรวจสอบ และทบทวนกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และ ประกาศ ที่อยู่ในความรบั ผดิ ชอบ เพอื่ ดาเนินการยกเลิก ปรบั ปรุง หรอื จัดใหม้ ีกฎหมายกฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ หรอื ประกาศข๊นื ใหม่ให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสภาวการณ์ หรอื สอดคลอ้ งกับความจาเปน็ ทาง เศรษฐกิจ สังคม และความมัน่ คงของประเทศ ทั๊งน๊ีโดยคานืงถืงความสะดวกรวดเรว็ และลดภาระของ ประชาชนเป็นสาคัญในการดาเนินการตามวรรคหน่ืงใหส้ ่วนราชการนาความคิดเห็นหรอื ข้อเสนอแนะของ ประชาชนมาประกอบการพจิ ารณาด้วย มาตรา 36 ในกรณีที่สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นวา่ กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรอื ประกาศที่อยู่ในความรบั ผดิ ชอบของส่วนราชการใด ไม่สอดคล้องหรอื เหมาะสมกับสถานการณ์ในปจั จุบัน ไม่เอื๊ออานวยต่อการพฒั นาประเทศ เปน็ อุปสรรคต่อการประกอบกิจการหรอื การดารงชีวติ ของประชาชน หรอื ก่อให้เกิดภาระหรอื ความยุง่ ยากต่อประชาชนเกินสมควร ใหส้ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอแนะต่อส่วนราชการนั๊นเพื่อดาเนินการแก้ไข ปรบั ปรุง หรอื ยกเลิกโดยเรว็ ต่อไป ในกรณีที่ส่วนราชการทไ่ี ด้รบั การเสนอแนะไมเ่ ห็นชอบด้วยกับคาเสนอแนะของสานักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกา ใหเ้ สนอเรอ่ื งต่อคณะรฐั มนตรเี พอ่ื พิจารณาวินิจฉัย 18
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID : 0951800066 หมวด 7 การอานวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน มาตรา 37 ในการปฏิบัติราชการทเ่ี กี่ยวข้องกับการบรกิ ารประชาชนหรอื ติดต่อประสานงานระหว่าง ส่วนราชการด้วยกัน ให้ส่วนราชการกาหนดระยะเวลาแล้วเสรจ็ ของงานแต่ละงาน และประกาศให้ ประชาชนและขา้ ราชการทราบเปน็ การท่ัวไป ส่วนราชการใดมไิ ด้กาหนดระยะเวลาแลว้ เสรจ็ ของงานใด และ ก.พ.ร. พจิ ารณาเห็นวา่ งานนั๊นมลี ักษณะที่สามารถกาหนดระยะเวลาแล้วเสรจ็ ได้ หรอื ส่วนราชการได้ กาหนดระยะเวลาแล้วเสรจ็ ไว้ แต่ ก.พ.ร. เหน็ วา่ เป็นระยะเวลาที่ล่าชา้ เกินสมควร ก.พ.ร. จะกาหนดเวลาแล้ว เสรจ็ ใหส้ ่วนราชการน๊ันต้องปฏิบัติก็ได้ให้เป็นหน้าท่ขี องผบู้ ังคับบัญชาทจ่ี ะต้องตรวจสอบให้ข้าราชการ ปฏิบัติงานใหแ้ ล้วเสรจ็ ตามกาหนดเวลาตามวรรคหน่ืง มาตรา 38 เมื่อส่วนราชการใดไดร้ บั การติดต่อสอบถามเป็นหนังสือจากประชาชน หรอื จากส่วนราชการ ด้วยกันเก่ียวกับงานทอ่ี ยู่ในอานาจหน้าที่ของสว่ นราชการนั๊น ใหเ้ ป็นหน้าท่ีของสว่ นราชการน๊ันทจ่ี ะต้อง ตอบคาถามหรอื แจ้งการดาเนินการให้ทราบภายในสบิ ห้าวนั หรอื ภายในกาหนดเวลาท่ีกาหนดไวต้ าม มาตรา 37 มาตรา 39 ให้ส่วนราชการจัดให้มีระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศของสว่ นราชการเพอ่ื อานวยความสะดวกใหแ้ ก่ ประชาชนท่ีจะสามารถติดต่อสอบถามหรอื ขอข้อมลู หรอื แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของ ส่วนราชการระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศตามวรรคหน่ืง ต้องจัดทาในระบบเดียวกับที่กระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสารจัดให้มีขน๊ื ตามมาตรา 40 มาตรา 40 เพือ่ อานวยความสะดวกและความรวดเรว็ แก่ประชาชนในการติดต่อกับส่วนราชการทุกแหง่ ให้ กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารจัดให้มีระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศกลางขน๊ื ในกรณีที่ส่วน ราชการใดไม่อาจจัดใหม้ ีระบบเครอื ข่ายสารสนเทศของส่วนราชการได้ อาจรอ้ งขอให้กระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสือ่ สารดาเนินการจัดทาระบบเครอื ข่ายสารสนเทศของส่วนราชการดงั กลา่ วก็ได้ ในการ น๊ีกระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารจะขอใหส้ ่วนราชการให้ความช่วยเหลือด้านบุคลากร ค่าใช้จ่าย และข้อมูลในการดาเนินการก็ได้ มาตรา 41 ในกรณีท่ีส่วนราชการได้รบั คารอ้ งเรยี น เสนอแนะ หรอื ความคิดเหน็ เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติราชการ อุปสรรค ความยุง่ ยาก หรอื ปญั หาอื่นใดจากบุคคลใด โดยมีขอ้ มูลและสาระตามสมควร ใหเ้ ป็นหน้าที่ของ ส่วนราชการน๊ันทีจ่ ะต้องพจิ ารณาดาเนินการให้ลุลว่ งไป และในกรณีท่ีมีท่ีอยู่ของบุคคลนั๊น ให้แจ้งใหบ้ ุคคล นั๊นทราบผลการดาเนินการด้วย ทั๊งนี๊ อาจแจ้งใหท้ ราบผ่านทางระบบเครอื ข่ายสารสนเทศ ของส่วนราชการ ด้วยก็ได้ในกรณีการแจ้งผา่ นทางระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศ มิใหเ้ ปิดเผยชื่อหรอื ท่ีอยู่ของผรู้ อ้ งเรยี น เสนอแนะหรอื แสดงความคิดเหน็ มีต่อ 19
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID : 0951800066 หมวด 7 การอานวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน มาตรา 42 เพอ่ื ใหก้ ารปฏิบัติราชการเปน็ ไปอย่างมีประสิทธภิ าพและเกิดความสะดวกรวดเรว็ ให้ส่วนราชการทมี่ ีอานาจออกกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรอื ประกาศ เพ่ือใชบ้ ังคับกับสว่ นราชการอ่ืน มีหน้าท่ี ตรวจสอบวา่ กฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ หรอื ประกาศนั๊น เปน็ อุปสรรคหรอื ก่อให้เกิดความยุง่ ยากซ้าซ้อน หรอื ความล่าชา้ ต่อการปฏิบัติหน้าทขี่ องสว่ นราชการอ่ืนหรอื ไม่ เพ่อื ดาเนินการปรบั ปรุงแก้ไขใหเ้ หมาะสมโดย เรว็ ต่อไปในกรณีที่ไดร้ บั การรอ้ งเรยี นหรอื เสนอแนะจากข้าราชการหรอื ส่วนราชการอื่นในเรอ่ื งใด ให้ส่วน ราชการที่ออกกฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ หรอื ประกาศนั๊นพิจารณาโดยทนั ที และในกรณีที่เหน็ วา่ การรอ้ งเรยี น หรอื เสนอแนะน๊ันเกิดจากความเขา้ ใจผดิ หรอื ความไม่เข้าใจในกฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ หรอื ประกาศ ให้ชแ๊ี จงใหผ้ รู้ อ้ งเรยี นหรอื เสนอแนะทราบภายในสิบหา้ วนั การรอ้ งเรยี นหรอื เสนอแนะตามวรรคสอง จะแจ้ง ผ่าน ก.พ.ร. ก็ได้ในกรณีที่ ก.พ.ร. เห็นว่า กฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ หรอื ประกาศใดมลี ักษณะตามวรรคหน่ืง ให้ ก.พ.ร. แจ้งใหส้ ่วนราชการทอ่ี อก กฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ หรอื ประกาศนั๊นทราบเพ่อื ดาเนินการปรบั ปรุงแก้ไข หรอื ยกเลิกต่อไปโดยเรว็ มาตรา 43 การปฏิบัติราชการในเรอ่ื งใดๆ โดยปกติใหถ้ ือว่าเปน็ เรอื่ งเปิดเผย เว้นแต่กรณีมีความจาเปน็ อย่างยิง่ เพ่ือประโยชน์ในการรกั ษาความม่ันคงของประเทศ ความม่ันคงทางเศรษฐกิจ การรกั ษาความสงบ เรยี บรอ้ ยของประชาชน หรอื การคุ้มครองสิทธสิ ่วนบุคคล จืงใหก้ าหนดเป็นความลับได้เท่าทจ่ี าเปน็ มาตรา 44 ส่วนราชการต้องจัดใหม้ ีการเปิดเผยข้อมลู เกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายแต่ละปรึ ายการเกี่ยวกับ การจัดซ๊ือหรอื จัดจ้างที่จะดาเนินการในปงึ บประมาณนั๊น และสัญญาใดๆ ที่ได้มีการอนุมัติใหจ้ ัดซอื๊ หรอื จัด จ้างแล้ว ใหป้ ระชาชนสามารถขอดหู รอื ตรวจสอบได้ ณ สถานที่ทาการของส่วนราชการ และระบบเครอื ขา่ ย สารสนเทศของส่วนราชการ ท๊ังนี๊ การเปิดเผยขอ้ มูลดังกล่าวต้องไมก่ ่อให้เกิดความไดเ้ ปรยี บหรอื เสยี เปรยี บ หรอื ความเสยี หายแก่บุคคลใดในการจัดซอื๊ หรอื จัดจ้าง ในการจัดทาสัญญาจัดซอ๊ื หรอื จัดจ้าง หา้ มมิใหม้ ีขอ้ ความหรอื ขอ้ ตกลงหา้ มมใิ ห้เปิดเผยขอ้ ความ หรอื ขอ้ ตกลงในสัญญาดังกล่าว เว้นแต่ข้อมูลดังกล่าวเป็นขอ้ มูลที่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรอื ข้อบังคับท่ีเก่ียวกับการค้มุ ครองความลบั ทางราชการ หรอื ในส่วนที่เปน็ ความลบั ทางการค้า 20
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID : 0951800066 หมวด 8 การประเมนิ ผลการปฏิบัติราชการ มาตรา 45 นอกจากการจัดให้มีการประเมนิ ผลตาม มาตรา 9 (3) แล้ว ให้ส่วนราชการจัดใหม้ ีคณะผู้ ประเมินอิสระดาเนินการประเมนิ ผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการเก่ียวกับผลสมั ฤทธข์ิ องภารกิจ คุณภาพการใหบ้ รกิ าร ความพงื พอใจของประชาชนผ้รู บั บรกิ าร ความคุ้มค่าในภารกิจ ทั๊งน๊ี ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และระยะเวลาที่ ก.พ.ร.กาหนด มาตรา 46 ส่วนราชการอาจจัดใหม้ ีการประเมินภาพรวมของผบู้ ังคับบัญชาแต่ละระดับหรอื หน่วยงานใน ส่วนราชการก็ได้ ทั๊งนี๊ การประเมินดังกล่าวต้องกระทาเปน็ ความลับและเปน็ ไปเพ่ือประโยชน์แหง่ ความ สามัคคีของขา้ ราชการ มาตรา 47 ในการประเมินผลการปฏิบัติงานของขา้ ราชการเพ่อื ประโยชน์ในการบรหิ ารงานบุคคล ใหส้ ่วน ราชการประเมนิ โดยคานืงถืงผลการปฏิบัติงานเฉพาะตัวของขา้ ราชการผู้น๊ันในตาแหน่งท่ปี ฏิบัติ ประโยชน์ และผลสัมฤทธิ์ท่ีหน่วยงานทขี่ า้ ราชการผนู้ ั๊นสงั กัดได้รบั จากการปฏิบัติงานของข้าราชการผ้นู ั๊น มาตรา 48 ในกรณีที่ส่วนราชการใดดาเนินการใหบ้ รกิ ารท่ีมคี ุณภาพและเปน็ ไปตามเปา๋ หมายท่กี าหนด รวมทั๊งเปน็ ท่พี ืงพอใจแก่ประชาชน ให้ ก.พ.ร.เสนอคณะรฐั มนตรจี ัดสรรเงนิ เพ่ิมพิเศษเปน็ บาเหน็จ ความ ชอบแก่ส่วนราชการ หรอื ใหส้ ่วนราชการใชเ้ งนิ งบประมาณเหลือจ่ายของส่วนราชการนั๊น เพ่อื นาไปใชใ้ น การปรบั ปรุงการปฏิบตั ิงานของส่วนราชการหรอื จัดสรรเปน็ รางวัลให้ข้าราชการในสงั กัด ท๊ังนี๊ ตามหลัก - เกณฑแ์ ละวิธีการที่ ก.พ.ร. กาหนดโดยความเห็นชอบของคณะรฐั มนตรี มาตรา 49 เมื่อส่วนราชการใดได้ดาเนินงานไปตามเปา๋ หมาย สามารถเพม่ิ ผลงาน และผลสัมฤทธโิ์ ดย ไม่เป็นการเพ่มิ ค่าใชจ้ ่ายและคุ้มค่าต่อภารกิจของรฐั หรอื สามารถดาเนินการตามแผนการลดค่าใชจ้ ่ายต่อ หน่วยได้ตามหลักเกณฑ์ท่ี ก.พ.ร. กาหนด ให้ ก.พ.ร. เสนอคณะรฐั มนตรจี ัดสรรเงินรางวัลการเพม่ิ ประสิทธิ - ภาพให้แก่ส่วนราชการน๊ัน หรอื ให้ส่วนราชการใช้เงนิ งบประมาณเหลือจ่ายของส่วนราชการน๊ัน เพอื่ นาไปใชใ้ นการปรบั ปรุงการปฏิบตั ิงานของส่วนราชการหรอื จัดสรรเปน็ รางวัลใหข้ า้ ราชการในสังกัด ทั๊งนี๊ ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารที่ ก.พ.ร. กาหนดโดยความเห็นชอบของคณะรฐั มนตรี 21
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 หมวด 9 บทเบด็ เตล็ด มาตรา 50 เพอื่ ใหก้ ารบรหิ ารราชการเป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพและ คุ้มค่าในเชิงภารกิจของรฐั ก.พ.ร. โดยความเหน็ ชอบของคณะรฐั มนตรี อาจกาหนดใหส้ ่วนราชการต้องปฏิบัติการใดนอกเหนือจากท่ีกาหนด ไวใ้ นพระราชกฤษฎีกาน๊ี รวมทั๊งกาหนดมาตรการอื่นเพิ่มเติมจากที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 48 และ มาตรา 49 ก็ได้ มาตรา 51 ในกรณีท่ีพระราชกฤษฎีกาน๊ีกาหนดให้ส่วนราชการต้องจัดทาแผนงานในเรอ่ื งใด และมี กฎหมายฉบับอ่ืนกาหนดให้ส่วนราชการต้องจัดทาแผนงานในเรอ่ื งเดียวกันท๊ังหมดหรอื บางสว่ น เมื่อส่วน ราชการได้จัดทาแผนงานตามกฎหมายฉบับใดฉบับหนื่งแล้วให้ถือวา่ ส่วนราชการน๊ันได้จัดทาแผนตาม พระราชกฤษฎีกานี๊ดว้ ยแล้ว มาตรา 52 ใหอ้ งค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นจัดทาหลักเกณฑก์ ารบรหิ ารกิจการบ้านเมอื งที่ดี ตามแนวทาง ของพระราชกฤษฎีกานี๊ โดยอย่างน้อยต้องมหี ลกั เกณฑเ์ ก่ียวกับการลดขน๊ั ตอนการปฏิบัติงาน และการ อานวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชนท่สี อดคลอ้ งกับบทบัญญัติในหมวด 5 และหมวด 7 ใหเ้ ป็นหน้าท่ีของกระทรวงมหาดไทยดแู ลและใหค้ วามชว่ ยเหลือ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ในการจัดทาหลักเกณฑต์ ามวรรคหน่ืง มาตรา 53 ให้องค์การมหาชนและรฐั วสิ าหกิจ จัดให้มีหลักเกณฑก์ ารบรหิ ารกิจการบา้ นเมืองท่ดี ตี าม แนวทางของพระราชกฤษฎีกาน๊ี ในกรณีที่ ก.พ.ร. เห็นว่าองค์การมหาชนหรอื รฐั วสิ าหกิจใดไม่จัดใหม้ ีหลักเกณฑ์ตามวรรคหนื่ง หรอื มีแต่ไม่สอดคลอ้ งกับพระราชกฤษฎีกานี๊ ให้แจ้งรฐั มนตรซี ื่งมีหน้าที่กากับดแู ลองค์การมหาชนหรอื รฐั วสิ าหกิจ เพ่อื พิจารณาส่ังการให้องค์การมหาชนหรอื รฐั วิสาหกิจน๊ันดาเนินการใหถ้ ูกต้องต่อไป ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ พนั ตารวจโท ทักษิณ ชนิ วัตร นายกรฐั มนตรี 22
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID : 0951800066 ป ร ะ เ ด็ น เ พ่ิ ม เ ติ ม น่าออกสอบ มาตรา 9 ในวาระเรมิ่ แรก การจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ของส่วนราชการเป็นแผน 5 ปึ ตามมาตรา 16 แห่งพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวธิ กี ารบรหิ ารกิจการบ้านเมอื งทดี่ ี พ.ศ. 2546 ซง่ื แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาน๊ี ให้จัดทาเปน็ แผน 3 ปึ โดยมีหว้ งระยะเวลา ตั๊งแต่ปงึ บประมาณ พ.ศ. 2563 – 2565 มาตรา 10 ในวาระเรม่ิ แรก ให้สานักงานพัฒนารฐั บาล ดิจิทัล (องค์การมหาชน) จัดใหม้ ีแพลตฟอรม์ ดิจิทัลกลาง เพอ่ื ใหส้ ่วนราชการใช้ในการบรกิ ารประชาชน และการติดต่อประสานงานระหวา่ งกันได้ ภายใน 90 วัน นับแต่วันท่ี พระราชกฤษฎีกานี๊ใช้บังคับ ให้เปน็ หน้าที่ของหัวหน้าส่วนราชการทจ่ี ะต้องดาเนินการ ใหก้ ารบรกิ ารประชาชนและการติดต่อ ประสานงานระหวา่ ง ส่วนราชการด้วยกัน โดยการใชแ้ พลตฟอรม์ ดจิ ิทลั กลาง ให้แล้วเสรจ็ ภายใน 2 ปึ นับ แต่พน้ กาหนดเวลาตามวรรคหน่ืง ในกรณีท่ีส่วน ราชการใดมเี หตผุ ลความจาเปน็ ที่ไมส่ ามารถ ดาเนินการ ใชแ้ พลตฟอรม์ ดิจิทัลกลางได้ ภายในระยะเวลา ท่ีกาหนดใหห้ ัวหน้าส่วนราชการน๊ันเสนอ ก.พ.ร. เพอื่ พิจารณา ขยายระยะเวลาดงั กล่าวได้ 23
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 พระราชบญั ญตั วิ ธิ ปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 (แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ถงึ ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2562) 1. เรื่องทวั่ ไป ความเปน็ มา ความเปน็ กฎหมายกลาง 1. พระราชบัญญตั วิ ธิ ปี ฏบิ ตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 >> ฉบบั ท่ี 1 เร่ิมบังคบั ใช้ 14 พฤษภาคม 2540 2. นายกรัฐมนตรรี ักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ ความเปน็ กฎหมายกลาง มาตรา 3 วิธปี ฏบิ ตั ิราชการทางปกครองตามกฎหมายตา่ ง ๆ ใหเ้ ป็นไปตามทีก่ าหนดใน พระราชบัญญัตนิ ี้ เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายใดกาหนดวธิ ีปฏิบตั ริ าชการทางปกครองเรอ่ื งใดไว้ โดยเฉพาะ และมีหลักเกณฑท์ ีป่ ระกันความเป็นธรรมหรือมมี าตรฐานในการปฏิบตั ริ าชการไม่ตา่ กวา่ หลักเกณฑ์ท่ีกาหนดในพระราชบญั ญัตนิ ้ี 2. ขอบเขตการบงั คบั และขอ้ ยกเวน้ บงั คบั กบั คาสงั่ ทางปกครอง มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้ “วิธปี ฏบิ ัติราชการทางปกครอง” หมายความวา่ การเตรียมการและการดาเนินการของเจา้ หนา้ ทเี่ พ่อื จดั ให้มี คาสั่งทางปกครองหรอื กฎ และรวมถึงการดาเนินการใด ๆ ในทางปกครองตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี ข้อยกเวน้ เก่ียวกบั หลกั กระกนั ความเปน็ ธรรม มาตรา 3 วิธปี ฏบิ ัติราชการทางปกครองตามกฎหมายต่าง ๆ ให้เปน็ ไปตามทก่ี าหนดในพระราชบญั ญตั นิ ี้ เว้นแต่ในกรณที ี่กฎหมายใดกาหนดวธิ ปี ฏิบตั ิราชการทางปกครองเรือ่ งใดไวโ้ ดยเฉพาะและมหี ลกั เกณฑท์ ่ปี ระกนั ความเปน็ ธรรมหรือมีมาตรฐานในการปฏบิ ัตริ าชการไมต่ า่ กว่าหลักเกณฑท์ กี่ าหนดในพระราชบญั ญัตนิ ี้ ข้อยกเวน้ เกี่ยวกบั ขน้ั ตอน ระยะเวลาโตแ้ ยง้ มาตรา 3 วธิ ปี ฏิบัติราชการทางปกครองตามกฎหมายต่าง ๆ ใหเ้ ป็นไปตามท่กี าหนดในพระราชบัญญตั นิ ้ี เว้นแต่ในกรณีท่กี ฎหมายใดกาหนดวธิ ปี ฏิบตั ิราชการทางปกครองเรอ่ื งใดไวโ้ ดยเฉพาะและมีหลกั เกณฑ์ที่ประกนั ความเปน็ ธรรมหรือมีมาตรฐานในการปฏิบตั ริ าชการไม่ต่ากว่าหลกั เกณฑ์ทก่ี าหนดในพระราชบัญญตั ิน้ี ## ความในวรรคหนึ่งมใิ ห้ใช้บังคบั กบั ข้ันตอนและระยะเวลาอุทธรณ์หรอื โตแ้ ยง้ ทีก่ าหนดในกฎหมาย 24
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 2. ขอบเขตการบงั คบั และขอ้ ยกเวน้ ขอ้ ยกเวน้ เกยี่ วกบั องคก์ รหรอื การปฏบิ ตั งิ าน มาตรา 4 พระราชบัญญตั ิน้ีมใิ หใ้ ชบ้ งั คับแก่ (1) รฐั สภาและคณะรัฐมนตรี (2) องคก์ รทใ่ี ช้อานาจตามรัฐธรรมนญู โดยเฉพาะ (3) การพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรอื รฐั มนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง (4) การพิจารณาพพิ ากษาคดีของศาลและการดาเนินงานของเจา้ หนา้ ทใี่ นกระบวนการพิจารณาคดี การบงั คบั คดี และการวางทรัพย์ (5) การพจิ ารณาวนิ จิ ฉัยเรื่องร้องทกุ ขแ์ ละการส่ังการตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกฤษฎีกา (6) การดาเนนิ งานเกี่ยวกบั นโยบายการตา่ งประเทศ (7) การดาเนนิ งานเกยี่ วกบั ราชการทหารหรอื เจา้ หน้าทซ่ี ึง่ ปฏิบัตหิ น้าท่ีทางยุทธการร่วมกบั ทหารใน การป้องกนั และรักษาความมั่นคงของราชอาณาจกั รจากภัยคกุ คามทัง้ ภายนอกและภายในประเทศ (8) การดาเนนิ งานตามกระบวนการยุตธิ รรมทางอาญา (9) การดาเนนิ กจิ การขององค์การทางศาสนา การยกเวน้ ไมใ่ ห้นาบทบัญญตั แิ ห่งพระราชบญั ญตั นิ ี้มาใชบ้ งั คบั แกก่ ารดาเนนิ กจิ การใด หรือกบั หน่วยงานใด นอกจากที่กาหนดไวใ้ นวรรคหนึง่ ให้ตราเปน็ พระราชกฤษฎกี าตาม ข้อเสนอของ คณะกรรมการวธิ ีปฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง ขอ้ ยกเวน้ เกยี่ วกบั ขอ้ ยกเวน้ ตามกฎหมายเฉพาะ มาตรา 16 พระราชกาหนดการบรหิ ารราชการในสถานการณ์ฉกุ เฉนิ พ.ศ. 2548 มาตรา 23 วรรคหนึ่ง พระราชบัญญตั กิ ารรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 25
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 3. ความหมายและคานยิ าม มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้ “วธิ ีปฏิบตั ิราชการทางปกครอง” หมายความวา่ การเตรียมการและการดาเนนิ การของเจ้าหน้าท่ี เพอ่ื จัดใหม้ คี าสง่ั ทางปกครองหรอื กฎ และรวมถึงการดาเนนิ การใด ๆ ในทางปกครองตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี “การพิจารณาทางปกครอง” หมายความวา่ การเตรียมการและการดาเนินการของเจ้าหนา้ ที่ เพอื่ จัดให้มคี าส่ังทางปกครอง “คาสง่ั ทางปกครอง” หมายความว่า (1) การใชอ้ านาจตามกฎหมายของเจา้ หน้าที่ท่ีมผี ลเป็นการสรา้ งนติ ิสัมพนั ธ์ข้นึ ระหว่างบุคคลใน อันท่จี ะก่อ เปลยี่ นแปลง โอน สงวน ระงับ หรอื มผี ลกระทบตอ่ สถานภาพของสิทธหิ รอื หน้าท่ีของบคุ คล ไมว่ า่ จะเปน็ การถาวรหรือ ชัว่ คราว เชน่ การส่งั การ การอนญุ าต การอนุมัติ การวินิจฉยั อุทธรณ์ การรับรอง และ การรับจดทะเบียน แต่ไมห่ มายความรวมถงึ การออกกฎ (2) การอื่นทกี่ าหนดในกฎกระทรวง ไม่มี พ.ร.บ. “กฎ” หมายความวา่ พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบญั ญตั ิท้องถ่นิ ระเบียบ ข้อบงั คบั หรอื บทบญั ญัติอื่นที่มีผลบังคบั เปน็ การทัว่ ไป โดยไม่มุง่ หมายให้ใชบ้ ังคบั แก่กรณใี ดหรอื บุคคลใดเปน็ การ เฉพาะ “คณะกรรมการวนิ ิจฉัยขอ้ พพิ าท” หมายความวา่ คณะกรรมการท่ีจดั ตัง้ ข้นึ ตามกฎหมายที่มกี าร จัดองคก์ ร และวิธพี ิจารณาสาหรบั การวนิ จิ ฉัยช้ีขาดสิทธแิ ละหนา้ ทีต่ ามกฎหมาย “เจา้ หน้าท”ี่ หมายความว่า บุคคล คณะบคุ คล หรือนิตบิ ุคคล ซ่งึ ใชอ้ านาจหรอื ได้รับมอบให้ใช้ อานาจทาง ปกครองของรฐั ในการดาเนนิ การอย่างหนึ่งอย่างใดตามกฎหมาย ไมว่ า่ จะเปน็ การจัดตั้งข้นึ ใน ระบบราชการ รัฐวิสาหกิจหรือกิจการอ่ืนของรัฐหรอื ไม่กต็ าม “คู่กรณี” หมายความว่า ผยู้ นื่ คาขอหรือผคู้ ดั คา้ นคาขอ ผอู้ ยู่ในบังคับหรอื จะอยู่ในบงั คับของ คาสัง่ ทางปกครอง และผซู้ ึง่ ไดเ้ ขา้ มาในกระบวนการพจิ ารณาทางปกครองเน่อื งจากสิทธขิ องผูน้ ัน้ จะถกู กระทบกระเทอื นจากผล ของคาสงั่ ทางปกครอง 26
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 4. ความหมายและคานยิ าม องคป์ ระกอบ มาตรา 7 ใหม้ ีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรยี กวา่ “คณะกรรมการวธิ ปี ฏบิ ัติราชการทางปกครอง” ประกอบดว้ ย 1. ประธานกรรมการคนหนึ่ง 2. ปลัดสานักนายกรฐั มนตรี 3. ปลัดกระทรวงมหาดไทย 4. เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี 5. เลขาธกิ ารคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น 6. เลขาธกิ ารคณะกรรมการกฤษฎีกา 7. และผู้ทรงคณุ วุฒิ อกี ไม่นอ้ ยกว่า 5 คนแตไ่ มเ่ กิน 9 คน >> เปน็ กรรมการ ให้คณะรัฐมนตรแี ตง่ ตง้ั ประธานกรรมการ และกรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ ิ โดยแตง่ ต้งั จากผ้ซู ่ึงมี ความเชย่ี วชาญ ในทางนิตศิ าสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือการบรหิ ารราชการแผ่นดนิ แต่ผู้นัน้ ตอ้ งไมเ่ ป็น ผ้ดู ารงตาแหน่งทางการเมือง ให้เลขาธกิ ารคณะกรรมการกฤษฎกี าแตง่ ตงั้ ขา้ ราชการของสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เปน็ เลขานกุ ารและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร มาตรา 8 ให้กรรมการซึ่งคณะรฐั มนตรีแต่งตง้ั มีวาระดารงตาแหนง่ คราวละ 3 ปี กรรมการซ่งึ พ้นจาก ตาแหนง่ อาจได้รับแต่งต้ังอกี ได้ มาตรา 10 ให้สานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี าทาหนา้ ทเี่ ปน็ สานักงานเลขานุการของคณะกรรมการวิธี ปฏิบัตริ าชการทางปกครอง รบั ผดิ ชอบงานธุรการ งานประชุม การศึกษาหาขอ้ มูลและกิจการตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ยี วกับ งานของคณะกรรมการวิธปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง อานาจหน้าท่ี มาตรา 11 คณะกรรมการวิธปี ฏิบัตริ าชการทางปกครองมีอานาจหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปนี้ (1) สอดสอ่ งดแู ลและใหค้ าแนะนาเกย่ี วกบั การดาเนินงานของเจา้ หนา้ ท่ีในการปฏบิ ัติตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ (2) ใหค้ าปรกึ ษาแก่เจ้าหนา้ ท่ีเกยี่ วกับการปฏบิ ตั ิตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี ตามท่ีบุคคลดังกลา่ วรอ้ งขอ ทัง้ น้ี ตามหลกั เกณฑ์ทคี่ ณะกรรมการวิธปี ฏบิ ตั ิราชการทางปกครองกาหนด (3) มหี นังสือเรยี กใหเ้ จ้าหนา้ ทีห่ รือบุคคลอนื่ ใดมาช้แี จงหรือแสดงความเห็นประกอบการพิจารณาได้ (4) เสนอแนะในการตราพระราชกฤษฎีกาและการออกกฎกระทรวงหรอื ประกาศตามพระราชบัญญตั นิ ี้ (5) จัดทารายงานเกีย่ วกบั การปฏิบัติตามพระราชบญั ญตั นิ ี้เสนอคณะรฐั มนตรีเปน็ คร้งั คราวตามความเหมาะสม แต่อยา่ งน้อยปี 1 ครั้ง เพ่ือพัฒนาและปรับปรุงการปฏบิ ตั ริ าชการทางปกครองใหเ้ ป็นไป โดยมคี วามเปน็ ธรรม และมี ประสทิ ธภิ าพยิ่งข้ึน (6) เร่ืองอ่ืนตามที่คณะรัฐมนตรีหรอื นายกรฐั มนตรีมอบหมาย 27
ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 5. องคป์ ระกอบของคาสงั่ ทางปกครอง องค์ประกอบท่ี 1 : ต้องกระทาโดยเจา้ หน้าที่ (มาตรา 12, 5) มาตรา 12 คาสัง่ ทางปกครองจะต้องกระทาโดยเจ้าหนา้ ที่ซ่ึงมอี านาจหนา้ ที่ในเร่ืองนนั้ มาตรา 5 ... “เจ้าหนา้ ท่ี” หมายความวา่ บคุ คล คณะบคุ คล หรอื นิตบิ คุ คล ซ่งึ ใช้อานาจหรือได้รับมอบให้ใช้อานาจทาง ปกครองของรฐั ในการดาเนนิ การอยา่ งหน่ึงอย่างใดตามกฎหมาย ไมว่ า่ จะเปน็ การจดั ตั้งข้ึนในระบบราชการ รัฐวสิ าหกิจหรอื กจิ การอืน่ ของรฐั หรือไมก่ ต็ าม องค์ประกอบที่ 2 : เป็นการใชอ้ านาจทางปกครองฝา่ ยเดยี ว คาส่ังทางปกครองตอ้ งเกิดจากการใชอ้ านาจปกครองตามกฎหมายฝ่ายเดียวบงั คับแกเ่ อกชน โดยเอกชนจะยินยอม หรือไม่กไ็ ด้ และตอ้ งเปน็ การใช้อานาจตามกฎหมายปกครองเท่านนั้ แต่... ถา้ เปน็ การใช้อานาจนติ บิ ญั ญตั ิ อานาจตุลาการ อานาจทางการเมอื ง อานาจตามสัญญา ไมถ่ อื ว่า เป็นคาสง่ั ทางปกครอง องค์ประกอบท่ี 3 : เป็นการสรา้ งนิติสมั พันธข์ น้ึ ระหว่างบคุ คล มาตรา 5 ... “คาส่ังทางปกครอง” หมายความวา่ (1) การใชอ้ านาจตามกฎหมายของเจ้าหนา้ ทีท่ ีม่ ผี ลเป็นการสรา้ งนติ สิ มั พันธ์ขน้ึ ระหวา่ งบุคคลในอนั ที่ จะกอ่ เปลยี่ นแปลง โอน สงวน ระงบั หรอื มีผลกระทบต่อสถานภาพของสทิ ธหิ รอื หนา้ ทีข่ องบุคคล ไมว่ ่าจะ เป็นการถาวร หรอื ชัว่ คราว เช่น คาสง่ั อนญุ าตให้ต้งั สถานบริการ คาส่ังอนุญาตใหต้ ้งั โรงงาน คาสง่ั ใหร้ ื้อถอนอาคาร การจดทะเบียนโอนมรดก องคป์ ระกอบที่ 4 : คาส่ังต้องมีผลเฉพาะ “คาสั่งทางปกครอง” ตอ้ งมผี ลบงั คับแกบ่ คุ คลใดบุคคลหน่งึ หรือกรณใี ดกรณหี นง่ึ เฉพาะเจาะจง เพราะ ฉะนนั้ คาส่ังทางปกครองจึงแตกต่างจาก “กฎ” คาสั่งทางปกครอง : ตอ้ งมีผลเฉพาะเจาะจง (ฉนั กับเธอ) กฎ : ตอ้ งมีผลเปน็ การทั่วไป ไม่เจาะจงใคร (ทุกคน) 28
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 5. องคป์ ระกอบของคาสง่ั ทางปกครอง องค์ประกอบท่ี 5 : คาสง่ั ต้องมีผลออกไปภายนอก คาสงั่ ทางปกครองตอ้ งมีผลออกไปภายนอกบงั คับแกบ่ คุ คลท่ัวไปทีอ่ ย่ภู ายนอกองค์กร ข้อสงั เกต ถา้ คาสั่งทางปกครองมผี ลกระทบโดยตรงต่อสถานะส่วนตวั ของเจ้าหนา้ ท่ี ถึงแม้วา่ คาสัง่ จะไม่มีผล ออกไปภายนอก ก็ถอื ว่าเป็นคาส่ังทางปกครอง เชน่ 1. คาสัง่ ลงโทษทางวนิ ัย 2. คาสัง่ ไมอ่ นุมัตใิ หเ้ บิกคา่ เช่าบ้าน 3. คาส่ังย้ายขา้ ราชการทีม่ ีผลเปน็ การเปลยี่ นแปลงลกั ษณะงานอย่างสิ้นเชิง 4. ประธานสภาเทศบาล ไมอ่ นญุ าตใหส้ มาชกิ ลาประชุม 6. ผมู้ ีส่วนรว่ มในการทาใหเ้ กดิ คาสง่ั ทางปกครอง เจา้ หนา้ ทตี่ อ้ งมอี านาจ มาตรา 12 คาสัง่ ทางปกครองจะต้องกระทาโดยเจา้ หนา้ ท่ซี ่งึ มอี านาจหนา้ ทใี่ นเร่ืองน้ัน มาตรา 5 ... “เจ้าหนา้ ที่” หมายความวา่ บคุ คล คณะบุคคล หรอื นิตบิ ุคคล ซง่ึ ใชอ้ านาจหรอื ได้รับมอบใหใ้ ช้ อานาจทางปกครองของรัฐในการดาเนนิ การอย่างหน่ึงอยา่ งใดตามกฎหมาย ไม่วา่ จะเปน็ การจดั ตงั้ ขึ้นใน ระบบราชการ รัฐวสิ าหกิจหรอื กิจการอนื่ ของรัฐหรือไม่กต็ าม เจ้าหนา้ ที่ ตอ้ งมคี วามเปน็ กลาง มาตรา 13 เจา้ หนา้ ทด่ี ังต่อไปนจ้ี ะทาการพจิ ารณาทางปกครองไมไ่ ด้ (1) เป็นคกู่ รณเี อง (2) เป็นคหู่ ม้นั หรอื คู่สมรสของคกู่ รณี (3) เปน็ ญาติของค่กู รณี คือ เป็นบุพการีหรอื ผสู้ ืบสนั ดานไม่ว่าชน้ั ใด ๆ หรอื เป็นพน่ี อ้ ง หรือ ลูกพ่ีลกู น้องนบั ได้ เพยี งภายในสามชั้น หรือเปน็ ญาติเกย่ี วพนั ทางแต่งงานนบั ได้เพยี งสองชัน้ (4) เปน็ หรอื เคยเปน็ ผแู้ ทนโดยชอบธรรมหรอื ผู้พิทกั ษ์หรือผ้แู ทนหรือตัวแทนของคู่กรณี (5) เปน็ เจ้าหนห้ี รอื ลกู หน้ี หรือเป็นนายจา้ งของคู่กรณี (6) กรณีอนื่ ตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวง 29
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 6. ผมู้ สี ว่ นรว่ มในการทาใหเ้ กดิ คาสงั่ ทางปกครอง เจา้ หนา้ ที่ ตอ้ งมคี วามเปน็ กลาง มาตรา 16 ในกรณีมีเหตอุ ืน่ ใดนอกจากทีบ่ ัญญตั ิไว้ในมาตรา 13 เก่ียวกับเจ้าหนา้ ทหี่ รอื กรรมการใน คณะกรรมการทมี่ อี านาจพิจารณาทางปกครองซึ่งมสี ภาพรา้ ยแรงอนั อาจทาให้การพิจารณาทางปกครอง ไมเ่ ป็นกลาง เจ้าหน้าท่หี รอื กรรมการผู้น้ันจะทาการพิจารณาทางปกครองในเรอื่ งน้นั ไมไ่ ด้ คู่กรณี มาตรา 21 บคุ คลธรรมดา คณะบุคคล หรือนติ ิบคุ คล อาจเป็นค่กู รณใี นการพิจารณาทางปกครองได้ ตามขอบเขตท่ีสทิ ธขิ องตนถกู กระทบกระเทอื นหรืออาจถูกกระทบกระเทือนโดยมิอาจหลกี เลย่ี งได้ มาตรา 5 ... “คกู่ รณี” หมายความว่า ผยู้ ื่นคาขอหรือผูค้ ดั ค้านคาขอ ผู้อยใู่ นบงั คบั หรือจะอยใู่ นบังคับของคาส่งั ทาง ปกครอง และผู้ซ่ึงได้เข้ามาในกระบวนการพจิ ารณาทางปกครองเน่อื งจากสทิ ธิของผูน้ นั้ จะถูกกระทบกระเทอื น จากผลของคาสง่ั ทางปกครอง ความสามารถของคกู่ รณี มาตรา 22 ผมู้ ีความสามารถกระทาการในกระบวนการพจิ ารณาทางปกครองได้ จะตอ้ งเป็น (1) ผูซ้ ึง่ บรรลุนิตภิ าวะ (2) ผู้ซง่ึ มีบทกฎหมายเฉพาะกาหนดให้มคี วามสามารถกระทาการในเรอ่ื งทก่ี าหนดได้ แมผ้ นู้ ัน้ จะ ยังไม่บรรลนุ ติ ภิ าวะหรอื ความสามารถถกู จากดั ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (3) นิตบิ คุ คลหรือคณะบคุ คลตามมาตรา 21 โดยผู้แทนหรอื ตัวแทน แล้วแต่กรณี (4) ผซู้ งึ่ มีประกาศของนายกรัฐมนตรีหรอื ผู้ซึง่ นายกรฐั มนตรมี อบหมายในราชกจิ จานเุ บกษา กาหนดให้มีความสามารถกระทาการในเร่อื งที่กาหนดได้ แมผ้ นู้ น้ั จะยังไมบ่ รรลุนิตภิ าวะหรอื ความสามารถถกู จากัดตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ 30
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 6. ผู้มีส่วนรว่ มในการทาใหเ้ กดิ คาสง่ั ทางปกครอง คกู่ รณเี กนิ 50 คน และคกู่ รณคี นเดยี ว มาตรา 25 ในกรณที ่ีมกี ารย่ืนคาขอโดยมผี ู้ลงชอ่ื ร่วมกันเกนิ 50 คน หรือมีคูก่ รณี 50 คน ยนื่ คาขอที่มีข้อความอย่างเดยี วกนั หรอื ทานองเดียวกนั ถ้าในคาขอมกี ารระบใุ หบ้ คุ คลใดเป็นตวั แทนของ บคุ คลดงั กล่าวหรอื มขี อ้ ความเปน็ ปริยายใหเ้ ขา้ ใจไดเ้ ชน่ นน้ั ใหถ้ อื ว่าผู้ที่ถูกระบุช่อื ดงั กลา่ วเป็นตวั แทนร่วมของ คู่กรณเี หลา่ น้ัน มาตรา 24 คูก่ รณีอาจมีหนังสอื แตง่ ตัง้ ให้บคุ คลหนงึ่ บุคคลใดซึ่งบรรลนุ ติ ิภาวะกระทาการอย่างหน่ึง อย่างใดตามทีก่ าหนดแทนตนในกระบวนการพจิ ารณาทางปกครองใด ๆ ได้ ในการน้ี เจา้ หนา้ ท่ีจะดาเนิน กระบวนพจิ ารณาทางปกครองกบั ตัวคกู่ รณไี ดเ้ ฉพาะเมอ่ื เป็นเร่ืองทผี่ ้นู ้นั มีหน้าทโี่ ดยตรงท่ีจะต้องทาการนน้ั ด้วย ตนเอง และต้องแจ้งให้ผไู้ ด้รบั การแต่งตั้งให้กระทาการแทนทราบด้วย 7. สิทธิของคกู่ รณีในการพจิ ารณาทางปกครอง 1. สิทธไิ ดร้ บั แจง้ - โอกาสโตแ้ ยง้ - แสดงพยานหลกั ฐาน มาตรา 30 ในกรณีท่ีคาสง่ั ทางปกครองอาจกระทบถงึ สิทธขิ องคูก่ รณี เจา้ หนา้ ที่ต้องใหค้ กู่ รณมี ีโอกาสท่ี จะได้ทราบขอ้ เทจ็ จรงิ อยา่ งเพยี งพอและมีโอกาสไดโ้ ตแ้ ยง้ และแสดงพยานหลกั ฐานของตน ความในวรรคหนงึ่ มิให้นามาใช้บังคบั ในกรณีดังต่อไปน้ี เว้นแตเ่ จา้ หน้าท่ีจะเห็นสมควรปฏบิ ัตเิ ป็นอย่างอื่น (1) เม่อื มีความจาเปน็ รีบดว่ นหากปล่อยให้เนนิ่ ช้าไปจะกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสียหายอยา่ งร้ายแรงแกผ่ หู้ นง่ึ ผ้ใู ด หรือจะกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ (2) เมอ่ื จะมีผลทาใหร้ ะยะเวลาทีก่ ฎหมายหรอื กฎกาหนดไวใ้ นการทาคาส่ังทางปกครองต้องล่าช้าออกไป (3) เมื่อเปน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทค่ี ู่กรณนี นั้ เองไดใ้ ห้ไวใ้ นคาขอ คาให้การหรอื คาแถลง (4) เม่ือโดยสภาพเหน็ ไดช้ ัดในตัวว่าการใหโ้ อกาสดังกลา่ วไมอ่ าจกระทาได้ (5) เมือ่ เปน็ มาตรการบงั คับทางปกครอง (6) กรณอี นื่ ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง หา้ มมิให้เจา้ หน้าท่ีให้โอกาสตามวรรคหนง่ึ ถ้าจะกอ่ ให้เกิดผล เสียหายอย่างร้ายแรงตอ่ ประโยชนส์ าธารณะ 31
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 7. สิทธิของคกู่ รณีในการพจิ ารณาทางปกครอง 2. สทิ ธใิ นการนาทนายหรอื ทป่ี รึกษาเขา้ มาในการพจิ ารณาทางปกครอง มาตรา 23 ในการพจิ ารณาทางปกครองที่คูก่ รณีตอ้ งมาปรากฏตวั ตอ่ หน้าเจา้ หนา้ ที่ คกู่ รณีมีสทิ ธนิ า ทนายความหรอื ท่ีปรึกษาของตนเข้ามาในการพิจารณาทางปกครองได้ การใดที่ทนายความ หรือทปี่ รกึ ษาได้ทาลงตอ่ หนา้ ค่กู รณีให้ถือวา่ เปน็ การกระทาของคู่กรณี เวน้ แต่คู่กรณี จะได้คัดค้านเสียแต่ในขณะนน้ั 3. สิทธติ รวจดเู อกสาร มาตรา 31 คกู่ รณมี สี ิทธขิ อตรวจดูเอกสารที่จาเปน็ ต้องร้เู พือ่ การโต้แย้งหรอื ช้ีแจงหรอื ปอ้ งกนั สิทธขิ อง ตนได้ แต่ถ้ายังไม่ได้ทาคาสง่ั ทางปกครองในเรื่องนน้ั คู่กรณไี มม่ สี ิทธิขอตรวจดเู อกสารอันเป็นตน้ ร่างคาวินิจฉัย มาตรา 32 เจา้ หนา้ ทอ่ี าจไม่อนญุ าตให้ตรวจดเู อกสารหรอื พยานหลกั ฐานได้ ถา้ เป็นกรณีทีต่ ้องรักษาไว้ เป็นความลบั 4. สิทธิไดร้ บั การแจง้ สทิ ธแิ ละคาแนะนาจากเจา้ หนา้ ท่ี มาตรา 27 ใหเ้ จา้ หน้าทีแ่ จง้ สิทธิและหนา้ ทีใ่ นกระบวนการพจิ ารณาทางปกครองใหค้ ู่กรณที ราบตามความ จาเปน็ แกก่ รณี 5. สทิ ธิไดท้ ราบเหตผุ ลในการออกคาสงั่ ทางปกครอง มาตรา 37 คาสง่ั ทางปกครองท่ีทาเป็นหนังสอื และการยืนยนั คาสั่งทางปกครองเปน็ หนังสอื ต้องจดั ใหม้ ี เหตุผลไว้ดว้ ย และเหตุผลนัน้ อยา่ งน้อยตอ้ งประกอบด้วย (1) ขอ้ เท็จจรงิ อนั เป็นสาระสาคญั (2) ขอ้ กฎหมายท่ีอา้ งองิ (3) ข้อพจิ ารณาและข้อสนับสนนุ ในการใชด้ ลุ พนิ จิ นายกรฐั มนตรหี รือผซู้ ่งึ นายกรฐั มนตรีมอบหมายอาจประกาศในราชกจิ จานเุ บกษากาหนดใหค้ าสัง่ ทาง ปกครองกรณีหน่ึงกรณใี ดต้องระบเุ หตผุ ลไว้ในคาส่งั นนั้ เองหรือในเอกสารแนบท้ายคาสั่งนน้ั กไ็ ด้ >> บทบญั ญตั ติ ามวรรคหนง่ึ ไมใ่ ชบ้ งั คบั กบั กรณดี งั ตอ่ ไปนี้ (1) เปน็ กรณที ี่มีผลตรงตามคาขอและไมก่ ระทบสิทธแิ ละหนา้ ทข่ี องบคุ คลอืน่ (2) เหตผุ ลนัน้ เป็นทร่ี ้กู นั อยแู่ ลว้ โดยไมจ่ าต้องระบุอีก (3) เปน็ กรณที ตี่ อ้ งรกั ษาไว้เปน็ ความลบั ตามมาตรา 32 (4) เปน็ การออกคาสั่งทางปกครองดว้ ยวาจาหรอื เปน็ กรณเี รง่ ดว่ น แตต่ อ้ งใหเ้ หตผุ ลเป็นลายลกั ษณ์ อักษร ในเวลาอันควรหากผอู้ ยู่ในบงั คับของคาสง่ั นัน้ รอ้ งขอ 32
ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 7. สิทธิของคกู่ รณใี นการพจิ ารณาทางปกครอง 6. สิทธไิ ดร้ บั แจง้ วธิ อี ทุ ธรณ์ โตแ้ ยง้ คาสง่ั ทางปกครอง มาตรา 40 คาส่ังทางปกครองทีอ่ าจอทุ ธรณ์หรือโต้แยง้ ตอ่ ไปไดใ้ ห้ระบกุ รณีทีอ่ าจอุทธรณ์หรอื โตแ้ ยง้ การยนื่ คาอทุ ธรณ์หรอื คาโต้แย้ง และระยะเวลาสาหรบั การอุทธรณ์หรือการโต้แยง้ ดงั กล่าวไวด้ ้วย ในกรณีที่มกี ารฝ่าฝนื บทบญั ญตั ติ ามวรรคหนึง่ >> ให้ระยะเวลาสาหรับการอทุ ธรณห์ รอื การโตแ้ ยง้ เรมิ่ นับใหม่ ต้ังแตว่ ันทไ่ี ด้รับแจ้งหลักเกณฑ์ตามวรรคหนงึ่ >> แต่ถ้าไม่มีการแจง้ ใหมแ่ ละระยะเวลาดงั กล่าวมีระยะเวลาสั้นกวา่ 1 ปี ให้ขยายเปน็ 1 ปนี บั แตว่ นั ทไ่ี ด้รบั คาส่งั ทางปกครอง 8. รูปแบบ - ผล - ขอ้ กาหนด – การแกไ้ ขความบกพรอ่ งของคาสง่ั ทางปกครอง รูปแบบของคาสงั่ ทางปกครอง มาตรา 34 คาสัง่ ทางปกครองอาจทาเป็นหนังสือหรือวาจาหรอื โดยการส่อื ความหมายในรูปแบบอ่นื กไ็ ด้ แต่ตอ้ งมขี ้อความหรือความหมายท่ชี ัดเจนเพยี งพอท่จี ะเข้าใจได้ มาตรา 35 ในกรณีท่คี าสงั่ ทางปกครองเป็นคาส่ังด้วยวาจา ถ้าผ้รู บั คาสัง่ นัน้ รอ้ งขอและการร้องขอได้กระทา โดยมีเหตอุ ันสมควรภายใน 7 วนั นับแตว่ ันท่ีมีคาสง่ั ดงั กลา่ ว เจ้าหน้าท่ีผูอ้ อกคาส่งั ต้องยนื ยนั คาสง่ั นน้ั เป็น หนังสอื มาตรา 36 คาสั่งทางปกครองทที่ าเป็นหนงั สืออย่างน้อยต้อง .. ระบุ วัน เดือน และปที ี่ทาคาสัง่ ช่ือ และตาแหน่งของเจ้าหนา้ ที่ผทู้ าคาสงั่ พรอ้ มท้งั มลี ายมือช่อื ของเจ้าหนา้ ที่ผทู้ าคาสัง่ นนั้ 33
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 8. รปู แบบ - ผล - ข้อกาหนด – การแกไ้ ขความบกพร่องของคาสงั่ ทางปกครอง ผลของคาสง่ั ทางปกครอง มาตรา 42 คาสั่งทางปกครองให้มีผลใช้ยนั ต่อบคุ คลตง้ั แตข่ ณะท่ีผูน้ น้ั ไดร้ ับแจง้ เป็นต้นไป การแจง้ มาตรา 70 การแจง้ เป็นหนังสือโดยวิธใี ห้บคุ คลนาไปสง่ ถา้ ผูร้ บั ไมย่ อมรบั หรือถา้ ขณะนาไปสง่ ไมพ่ บผู้รบั และหากไดส้ ่งให้กบั บคุ คลใดซึ่งบรรลนุ ติ ิภาวะที่อยูห่ รือทางานในสถานที่น้นั หรอื ในกรณที ่ผี ู้น้ันไมย่ อมรับ หากไดว้ าง หนงั สอื นั้นหรือปดิ หนังสอื น้ันไวใ้ นทีซ่ ่ึงเหน็ ได้งา่ ย ณ สถานท่ีนั้นตอ่ หน้าเจา้ พนกั งานตามทก่ี าหนด ในกฎกระทรวงท่ไี ปเป็นพยานกใ็ ห้ถือว่าไดร้ บั แจ้งแลว้ ผรู้ บั ไม่ยอมรบั วางหนังสอื ไว้ทเี่ ห็นได้งา่ ย ไมอ่ ยู่ ต่อเจ้าพนักงานทีไ่ ปเปน็ พยาน บุคคลนาไปสง่ บคุ คลบรรลนุ ติ ิภาวะ ทีอ่ ยสู่ ถานท่ีนั้น มาตรา 71 การแจ้งโดยวิธสี ง่ ทางไปรษณีย์ตอบรับ ให้ถือวา่ ได้รบั แจง้ เมอ่ื ครบกาหนด 7 วันนับแต่วนั สง่ สาหรบั กรณีภายในประเทศ หรอื เมื่อครบกาหนด 15 วันนับแตว่ นั สง่ สาหรบั กรณีส่งไปยงั ต่างประเทศ เวน้ แตจ่ ะ มกี ารพิสจู น์ไดว้ ่าไมม่ กี ารได้รบั หรือได้รับกอ่ นหรอื หลงั จากวันนั้น ในประเทศ 7 วนั นับแต่วันสง่ ถือว่าได้รับแจ้ง ตา่ งประเทศ 15 วันนบั แตว่ นั ส่ง **เว้นกรณีพสิ ูจน์ได้วา่ ไมม่ กี ารรบั / ไดร้ บั ก่อนหรอื หลังจากวนั นัน้ 34
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 8. รปู แบบ - ผล - ข้อกาหนด – การแกไ้ ขความบกพร่องของคาสง่ั ทางปกครอง การแจง้ มาตรา 72 ในกรณีที่มผี ู้รับเกิน 50 คน เจ้าหนา้ ท่ีจะแจ้งใหท้ ราบต้ังแตเ่ รม่ิ ดาเนนิ การในเร่ืองนัน้ ว่าการแจง้ ต่อบุคคลเหล่าน้ันจะกระทาโดยวิธปี ดิ ประกาศไว้ ณ ท่ีทาการของเจา้ หนา้ ท่ีและที่วา่ การอาเภอทผ่ี ้รู ับมภี มู ิลาเนาก็ ได้ ในกรณนี ใ้ี ห้ถอื วา่ ได้รับแจ้งเมือ่ ล่วงพ้นระยะเวลา 15 วนั นับแตว่ นั ท่ีไดแ้ จง้ โดยวธิ ีดังกลา่ ว แจ้งต่อบคุ คลเหลา่ นัน้ ถอื วา่ ไดร้ บั แจ้ง โดยปิดประกาศ พน้ 15 วนั นบั แต่ ทท่ี าการของเจ้าหนา้ ท่ี วันได้รบั แจ้ง เจ้าหน้าท่แี จง้ ให้ทราบ ตง้ั แตด่ าเนนิ การ ท่ีวา่ การอาเภอทผี่ ้รู บั มภี ูมิลาเนา มาตรา 73 ในกรณที ี่ไมร่ ตู้ ัวผรู้ บั หรือรูต้ วั แตไ่ มร่ ้ภู มู ิลาเนา หรือรู้ตวั และภมู ิลาเนา แตม่ ผี ู้รับเกนิ 100 คน การแจง้ เปน็ หนังสือจะกระทาโดยการประกาศในหนงั สือพมิ พ์ซ่ึงแพรห่ ลายในท้องถ่ินนน้ั ก็ได้ ในกรณีนี้ใหถ้ อื ว่า ไดร้ บั แจง้ เมอ่ื ล่วงพ้นระยะเวลาสบิ หา้ วนั นับแตว่ ันท่ไี ดแ้ จง้ โดยวิธดี งั กลา่ ว แจง้ เป็นหนังสือ ถือว่าไดร้ ับแจง้ โดยประกาศ พ้น 15 วันนับแต่ ในหนงั สอื พิมพ์ วันไดร้ ับแจง้ แพร่หลายในท้องถิน่ #ไม่รูต้ ัวผู้รับ #รู้ตัวแต่ไมร่ ู้ภมู ิลาเนา #ร้ตู ัวและภูมิลาเนา แต่ผรู้ ับเกนิ 100 คน 35
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 8. รูปแบบ - ผล - ขอ้ กาหนด – การแกไ้ ขความบกพรอ่ งของคาสง่ั ทางปกครอง การสนิ้ ผลของคาสงั่ ทางปกครอง มาตรา 42 คาสง่ั ทางปกครองให้มผี ลใชย้ ันต่อบคุ คลตงั้ แตข่ ณะที่ผู้นนั้ ไดร้ บั แจ้งเป็นต้นไป คาส่งั ทางปกครองย่อมมผี ลตราบเทา่ ที่ยงั ไม่มีการเพกิ ถอนหรือสน้ิ ผลลงโดยเง่ือนเวลาหรอื โดยเหตอุ ื่น ขอ้ กาหนดของคาสงั่ ทางปกครอง มาตรา 39 การออกคาสั่งทางปกครองเจา้ หนา้ ที่อาจกาหนดเงอ่ื นไขใด ๆ ได้เทา่ ทีจ่ าเปน็ เพอ่ื ให้บรรลุ วตั ถปุ ระสงค์ของกฎหมาย เวน้ แตก่ ฎหมายจะกาหนดขอ้ จากดั ดลุ พนิ จิ เปน็ อย่างอืน่ การกาหนดเงอ่ื นไขตามวรรคหนึง่ ให้หมายความรวมถึงการกาหนดเงอ่ื นไขในกรณีดงั ต่อไปน้ี ตามความ เหมาะสมแกก่ รณดี ว้ ย (1) การกาหนดใหส้ ิทธิหรอื ภาระหนา้ ทเ่ี ร่มิ มีผลหรือส้ินผล ณ เวลาใดเวลาหน่งึ (2) การกาหนดให้การเรมิ่ มีผล หรอื ส้นิ ผลของสิทธิหรอื ภาระหนา้ ทต่ี อ้ งขึน้ อยกู่ ับเหตุการณใ์ นอนาคต ท่ไี มแ่ น่นอน (3) ขอ้ สงวนสิทธิทจ่ี ะยกเลกิ คาสง่ั ทางปกครอง (4) การกาหนดให้ผู้ไดร้ ับประโยชนต์ อ้ งกระทา หรืองดเวน้ กระทาหรือต้องมีภาระหน้าทหี่ รือยอมรบั ภาระหน้าทหี่ รอื ความรบั ผิดชอบบางประการ หรือการกาหนดข้อความในการจัดใหม้ ี เปลยี่ นแปลง หรอื เพิม่ ข้อกาหนดดังกลา่ ว มาตรา 39/1 การออกคาส่ังทางปกครองเป็นหนังสอื ในเรอ่ื งใด หากมไิ ดม้ กี ฎหมายหรอื กฎกาหนด ระยะเวลาในการออกคาสงั่ ทางปกครองในเรื่องนนั้ ไว้เปน็ ประการอืน่ ใหเ้ จา้ หนา้ ทอ่ี อกคาสงั่ ทางปกครองน้นั ให้ แลว้ เสรจ็ ภายใน 30 วนั นับแตว่ ันทเี่ จ้าหนา้ ที่ไดร้ บั คาขอ และเอกสารถกู ต้องครบถว้ น 36
ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 8. รูปแบบ - ผล - ขอ้ กาหนด – การแกไ้ ขความบกพร่องของคาสง่ั ทางปกครอง การแกไ้ ขความบกพร่องของคาสง่ั ทางปกครอง มาตรา 41 คาสั่งทางปกครองทอ่ี อกโดยการฝา่ ฝนื หรอื ไมป่ ฏบิ ัตติ ามหลกั เกณฑ์ดังตอ่ ไปนี้ ไม่เปน็ เหตุให้ คาส่งั ทางปกครองน้นั ไมส่ มบรู ณ์ (1) การออกคาสง่ั ทางปกครองโดยยงั ไมม่ ีผยู้ ืน่ คาขอในกรณีทเ่ี จา้ หน้าท่จี ะดาเนนิ การเองไมไ่ ด้นอกจาก จะมผี ู้ยื่นคาขอ ถ้าต่อมาในภายหลังได้มกี ารยน่ื คาขอเช่นน้ันแล้ว (2) คาส่งั ทางปกครองทตี่ อ้ งจดั ใหม้ ีเหตุผลตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง ถ้าได้มีการจัดใหม้ เี หตุผลดังกลา่ ว ในภายหลัง (3) การรับฟงั คกู่ รณีทจี่ าเปน็ ต้องกระทาไดด้ าเนินการมาโดยไมส่ มบูรณ์ ถ้าได้มกี ารรบั ฟังใหส้ มบรู ณ์ใน ภายหลงั (4) คาสั่งทางปกครองท่ตี อ้ งใหเ้ จา้ หน้าทอี่ น่ื ให้ความเหน็ ชอบกอ่ น ถา้ เจา้ หน้าทนี่ ั้นไดใ้ ห้ความเหน็ ชอบใน ภายหลัง กรณีตาม (2) (3) และ (4) จะต้องกระทากอ่ นส้ินสุดกระบวนการพจิ ารณาอุทธรณต์ ามส่วน ท่ี 5 ของหมวดน้ี 9. การอทุ ธรณค์ าสงั่ ทางปกครอง สง่ิ ทอี่ ทุ ธรณต์ อ้ งเปน็ คาสงั่ ทางปกครอง มาตรา 44 ภายใตบ้ งั คับมาตรา 48 ในกรณีทีค่ าสง่ั ทางปกครองใดไม่ไดอ้ อกโดยรัฐมนตรี และไมม่ กี ฎหมาย กาหนดขน้ั ตอนอุทธรณภ์ ายในฝ่ายปกครองไวเ้ ปน็ การเฉพาะ ให้คูก่ รณีอทุ ธรณ์คาสัง่ ทางปกครองนน้ั โดยย่ืนตอ่ เจ้าหน้าทผี่ ทู้ าคาส่งั ทางปกครอง คาสง่ั ทางปกครองใดไมไ่ ดอ้ อก โดยรฐั มนตรี และไม่มกี ฎหมาย กาหนดขน้ั ตอนอุทธรณ์ไวเ้ ปน็ การเฉพาะ คกู่ รณีอุทธรณค์ าสง่ั >> ยืน่ เจา้ หนา้ ทท่ี อ่ี อกคาสง่ั 37
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 9. การอทุ ธรณค์ าสงั่ ทางปกครอง ผมู้ ีสิทธอิ ทุ ธรณ์ (ค่กู รณ)ี มาตรา 44 ภายใต้บงั คับมาตรา 48 ในกรณีทค่ี าส่งั ทางปกครองใดไมไ่ ด้ออกโดยรัฐมนตรี และไมม่ ีกฎหมาย กาหนดขน้ั ตอนอทุ ธรณ์ภายในฝ่ายปกครองไว้เป็นการเฉพาะ ให้คกู่ รณีอทุ ธรณ์คาสั่งทางปกครองน้ันโดยยืน่ ตอ่ เจา้ หนา้ ทผี่ ทู้ าคาส่งั ทางปกครอง มาตรา 5 ในพระราชบัญญตั นิ ี้ “คู่กรณี” หมายความว่า ผู้ยน่ื คาขอหรือผู้คดั ค้านคาขอ ผู้อยใู่ นบงั คับหรอื จะอยใู่ นบังคับของคาสั่งทาง ปกครอง และผซู้ งึ่ ได้เข้ามาในกระบวนการพิจารณาทางปกครองเนอื่ งจากสทิ ธขิ องผนู้ น้ั จะถกู กระทบกระเทือน จากผล ของคาส่ังทางปกครอง ผรู้ บั อุทธรณ์ (เจ้าหนา้ ที่) มาตรา 44 ภายใต้บงั คับมาตรา 48 ในกรณีทค่ี าสง่ั ทางปกครองใดไม่ได้ออกโดยรฐั มนตรี และไมม่ ีกฎหมาย กฎกาหนดข้ันตอนอทุ ธรณภ์ ายในฝา่ ยปกครองไว้เป็นการเฉพาะ ให้ค่กู รณอี ุทธรณค์ าส่ังทางปกครองนัน้ โดยยื่น ต่อเจ้าหน้าทีผ่ ทู้ าคาสง่ั ทางปกครอง รูปแบบของคาอทุ ธรณ์ มาตรา 44 ... คาอทุ ธรณ์ต้องทาเป็นหนงั สือโดยระบุขอ้ โตแ้ ย้งและข้อเท็จจรงิ หรือข้อกฎหมายท่ีอา้ งอิงประกอบด้วย ระยะเวลาอทุ ธรณ์ มาตรา 44 ภายใต้บงั คบั มาตรา 48 ในกรณีท่ีคาสัง่ ทางปกครองใดไมไ่ ดอ้ อกโดยรฐั มนตรี และไมม่ ีกฎหมาย กาหนดขั้นตอนอุทธรณภ์ ายในฝ่ายปกครองไวเ้ ป็นการเฉพาะ ใหค้ ูก่ รณีอุทธรณ์คาสง่ั ทางปกครองนน้ั โดยยืน่ ต่อ เจา้ หน้าที่ผทู้ าคาสง่ั ทางปกครองภายใน 15 วันนับแต่วนั ทต่ี นได้รับแจง้ คาสัง่ ดงั กลา่ ว มาตรา 40 คาสง่ั ทางปกครองที่อาจอทุ ธรณ์หรอื โต้แยง้ ตอ่ ไปได้ใหร้ ะบุกรณีท่ีอาจอุทธรณห์ รือโตแ้ ย้งการยื่น คาอทุ ธรณ์หรอื คาโตแ้ ยง้ และระยะเวลาสาหรบั การอุทธรณห์ รอื การโตแ้ ยง้ ดงั กล่าวไวด้ ้วย ในกรณที มี่ ีการฝ่าฝนื บทบัญญัตติ ามวรรคหน่ึง ให้ระยะเวลาสาหรับการอุทธรณ์หรอื การโต้แย้งเร่ิมนับใหม่ ต้ังแต่วันทีไ่ ดร้ บั แจง้ หลักเกณฑต์ ามวรรคหนึง่ แต่ถา้ ไมม่ กี ารแจง้ ใหม่ และระยะเวลาดังกลา่ วมรี ะยะเวลาสน้ั กว่า 1 ปี ให้ขยายเป็น 1 ปนี บั แต่วนั ที่ได้รับคาส่ังทางปกครอง 38
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 9. การอทุ ธรณค์ าสงั่ ทางปกครอง การพจิ ารณาอทุ ธรณ์ ขั้นท่ี 1 มาตรา 45 ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ตามมาตรา 44 วรรคหนึง่ พจิ ารณาคาอุทธรณแ์ ละแจ้งผู้อทุ ธรณ์โดยไม่ชักช้า แตต่ ้อง ไม่เกนิ 30 วนั นับแต่วนั ที่ไดร้ ับอุทธรณ์ในกรณีท่ีเหน็ ดว้ ยกับคาอุทธรณ์ไมว่ า่ ทัง้ หมดหรอื บางส่วนก็ ใหด้ าเนนิ การ เปล่ียนแปลงคาสั่งทางปกครองตามความเห็นของตนภายในกาหนดเวลาดงั กล่าวด้วย ขั้นที่ 2 ถา้ เจ้าหน้าท่ีตามมาตรา 44 วรรคหน่ึง ไมเ่ หน็ ด้วยกับคาอุทธรณ์ไม่วา่ ทัง้ หมดหรอื บางสว่ นก็ใหเ้ ร่งรายงาน ความเห็นพรอ้ มเหตุผลไปยงั ผมู้ ีอานาจพจิ ารณาคาอุทธรณ์ภายในกาหนดเวลาตามวรรคหน่ึง ให้ผู้มอี านาจ พจิ ารณาคาอทุ ธรณพ์ จิ ารณาให้แลว้ เสร็จภายใน 30 วันนับแตว่ ันท่ีตนได้รบั รายงาน ถา้ มีเหตจุ าเป็นไมอ่ าจ พิจารณาให้แลว้ เสรจ็ ได้ ใหผ้ มู้ ีอานาจมีหนงั สือแจ้งให้ผูอ้ ุทธรณ์ทราบก่อนครบกาหนดเวลาดงั กลา่ ว ในการนี้ให้ขยายระยะเวลาพจิ ารณาอทุ ธรณ์ออไปได้ ไม่เกิน 30 วนั นบั แต่วันครบเวลาดังกล่าว ดาเนินการเปลี่ยนแปลงคาสงั่ ทางปกครองตามความเหน็ ของตน ค่กู รณี ย่นื อุทธรณ์ เหน็ ดว้ ย ภายใน 15 วนั ไม่เห็นด้วย เจ้าหน้าท่ี สง่ ต่อให้ผู้มอี านาจ พิจารณาไม่เกนิ 30 วนั พจิ ารณา พิจารณาใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายใน 30 วนั ผ้มู ีอานาจ กรณมี เี หตจุ าเป็น/ไมเ่ สรจ็ 39 ขยายได้ ไม่เกนิ 30 วนั
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 10. การเพกิ ถอนคาสง่ั ทางปกครอง การเพกิ ถอนคาสงั่ ทางปกครอง มาตรา 49 เจา้ หนา้ ทห่ี รอื ผบู้ ังคับบัญชาของเจา้ หนา้ ทีอ่ าจเพิกถอนคาสงั่ ทางปกครองได้ตามหลกั เกณฑ์ ใน (มาตรา 51 มาตรา 52 และมาตรา 53) ไม่ว่าจะพ้นข้นั ตอนการกาหนดใหอ้ ุทธรณห์ รอื ให้โต้แยง้ ตามกฎหมายน้ี หรอื กฎหมายอื่นมาแล้วหรือไม่ การเพิกถอนคาสง่ั ทางปกครองทม่ี ีลักษณะเปน็ การใหป้ ระโยชน์ต้องกระทาภายใน 90 วนั นบั แตไ่ ด้รถู้ ึง เหตุท่จี ะใหเ้ พิกถอนคาสงั่ ทางปกครองนัน้ มาตรา 52 ... คาสัง่ ทางปกครองย่อมมีผลตราบเท่าท่ยี ังไม่มีการเพิกถอนหรือสนิ้ ผลลงโดยเง่ือนเวลาหรอื โดยเหตอุ นื่ คาสั่งทไ่ี มช่ อบดว้ ยกฎหมาย * สร้างภาระ * มาตรา 50 คาสง่ั ทางปกครองที่ไมช่ อบด้วยกฎหมายอาจถูกเพกิ ถอนทัง้ หมดหรือบางส่วน โดยจะให้มีผล ย้อนหลงั หรอื ไมย่ อ้ นหลังหรอื มผี ลในอนาคตไปถึงขณะใดขณะหนึง่ ตามทก่ี าหนดได้ คาส่ังทไี่ มช่ อบดว้ ยกฎหมาย * ให้เงนิ * มาตรา 51 การเพกิ ถอนคาส่งั ทางปกครองท่ีไมช่ อบด้วยกฎหมายซงึ่ เปน็ การใหเ้ งิน หรอื ให้ทรพั ยส์ นิ หรอื ให้ประโยชน์ทีอ่ าจแบ่งแยกได้ ให้คานงึ ถงึ ความเชื่อโดยสุจรติ ของผ้รู ับประโยชนใ์ นความคงอยูข่ องคาส่งั ทาง ปกครองนั้นกับประโยชน์สาธารณะประกอบกนั มาตรา 49 ... การเพกิ ถอนคาสัง่ ทางปกครองที่มีลักษณะเป็นการให้ประโยชนต์ ้องกระทาภายในเกา้ สบิ วันนบั แต่ได้รูถ้ งึ เหตุ ท่ีจะใหเ้ พิกถอนคาสัง่ ทางปกครองน้ัน ในกรณดี งั ต่อไปนี้ ผู้รบั คาสงั่ ทางปกครองจะอ้างความเชือ่ โดยสุจรติ ไม่ได้ (1) ผนู้ น้ั ได้แสดงขอ้ ความอนั เปน็ เท็จหรือปกปดิ ข้อความจรงิ ซ่งึ ควรบอกใหแ้ จ้ง หรือข่มขู่ หรอื ชกั จูงใจ โดยการให้ ทรพั ยส์ ินหรอื ให้ประโยชน์อน่ื ใดทีม่ ิชอบด้วยกฎหมาย (2) ผู้น้ันไดใ้ ห้ข้อความซึง่ ไมถ่ ูกต้องหรอื ไม่ครบถว้ นในสาระสาคัญ (3) ผู้นัน้ ได้รถู้ ึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายของคาสงั่ ทางปกครองในขณะได้รบั คาสงั่ ทางปกครองหรอื การ ไมร่ ูน้ ้ัน เปน็ ไปโดยความประมาทเลินเล่ออยา่ งรา้ ยแรง ในกรณที ี่เพิกถอนโดยให้มผี ลย้อนหลัง การคืนเงิน ทรพั ยส์ ินหรอื ประโยชนท์ ่ผี ้รู ับคาส่ังทางปกครองไดไ้ ป ให้นาบทบัญญตั ิวา่ ดว้ ยลาภมิควรได้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์มาใชบ้ งั คบั โดยอนโุ ลม 40
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 10. การเพกิ ถอนคาสง่ั ทางปกครอง คาสั่งทไ่ี มช่ อบดว้ ยกฎหมาย * ใหป้ ระโยชนอ์ ยา่ งอนื่ ทม่ี ใิ ชเ่ งนิ * มาตรา 52 คาสงั่ ทางปกครองทไ่ี มช่ อบด้วยกฎหมายและไม่อยใู่ นบังคบั ของมาตรา 51 อาจถูกเพกิ ถอน ท้งั หมดหรอื บางส่วนได้ แต่ผู้ได้รบั ผลกระทบจากการเพกิ ถอนคาสั่งทางปกครองดังกล่าวมีสทิ ธิได้รับค่าทดแทน ความเสยี หายเน่อื งจากความเชอ่ื โดยสจุ ริตในความคงอย่ขู องคาสง่ั ทางปกครองได้ และใหน้ าความในมาตรา 51 วรรคหนงึ่ วรรคสอง และวรรคสาม มาใชบ้ ังคับโดยอนุโลม แต่ต้องร้องขอคา่ ทดแทนภายใน 180 วนั นับแต่ได้รับแจ้ง ใหท้ ราบถงึ การเพกิ ถอนนัน้ คาส่ังทชี่ อบดว้ ยกฎหมาย มาตรา 53 คาส่ังทางปกครองที่ชอบด้วยกฎหมายซ่งึ ไม่เป็นการใหป้ ระโยชน์แกผ่ ู้รบั คาสง่ั ทางปกครองอาจ ถูกเพิกถอนทงั้ หมดหรือบางสว่ นโดยให้มผี ลต้งั แต่ขณะท่เี พกิ ถอนหรือมีผลในอนาคตไปถงึ ขณะใดขณะหนึ่งตามท่ี กาหนดได้ 11. การขอพจิ ารณาใหม่ การขอพจิ ารณาใหม่ มาตรา 54 เมือ่ คู่กรณีมคี าขอเจ้าหนา้ ทอี่ าจเพกิ ถอน หรอื แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ คาสั่งทางปกครองทพ่ี น้ กาหนด อทุ ธรณ์ตามสว่ นที่ 5 ไดใ้ นกรณดี งั ตอ่ ไปน้ี (1) มพี ยานหลักฐานใหมอ่ ันอาจทาใหข้ อ้ เท็จจรงิ ทฟี่ งั เป็นยตุ ิแล้วนั้นเปล่ยี นแปลงไปในสาระสาคญั (2) คกู่ รณที ีแ่ ทจ้ รงิ มิไดเ้ ขา้ มาในกระบวนการพิจารณาทางปกครองหรอื ได้เขา้ มาในกระบวนการพิจารณา คร้งั กอ่ นแล้วแต่ถกู ตดั โอกาสโดยไม่เปน็ ธรรมในการมสี ว่ นร่วมในกระบวนการพจิ ารณาทางปกครอง (3) เจา้ หนา้ ทไี่ มม่ ีอานาจท่ีจะทาคาสัง่ ทางปกครองในเร่อื งน้นั (4) ถ้าคาส่ังทางปกครองไดอ้ อกโดยอาศยั ขอ้ เท็จจริงหรอื ข้อกฎหมายใด และต่อมาข้อเท็จจริงหรอื ขอ้ กฎหมายนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสาคัญในทางที่จะเป็นประโยชนแ์ ก่คกู่ รณี การย่ืนคาขอตามวรรคหนึ่ง (1) (2) หรอื (3) ให้กระทาได้เฉพาะเม่ือคู่กรณีไมอ่ าจทราบถึงเหตนุ ้ันในการพจิ ารณา ครงั้ ท่ีแลว้ มากอ่ นโดยไม่ใช่ความผดิ ของผู้น้นั การยืน่ คาขอใหพ้ จิ ารณาใหม่ตอ้ งกระทาภายใน 90 วนั นับแต่ผู้นนั้ ได้รู้ถึงเหตซุ งึ่ อาจขอให้พิจารณาใหม่ได้ 41
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 12. การบงั คบั ทางปกครอง การบงั คบั ทางปกครอง - หลักเกณฑก์ ลาง >> ไมใ่ ชบ้ งั คบั กับหนว่ ยงานของรฐั มาตรา 63/1 การบงั คับทางปกครองไม่ใช้บงั คับกับหนว่ ยงานของรัฐด้วยกนั เว้นแตจ่ ะมกี ฎหมาย กาหนดไวเ้ ปน็ อยา่ งอ่นื >> ใช้เทา่ ทจี่ าเปน็ + กระทบผอู้ ยใู่ นบงั คบั นอ้ ยทสี่ ดุ มาตรา 63/2 ... ให้เจา้ หนา้ ท่ี... ใชม้ าตรการบังคบั ทางปกครองเพยี งเท่าทจ่ี าเป็นเพื่อให้บรรลตุ าม วตั ถุประสงคข์ องคาส่งั ทางปกครอง โดยกระทบกระเทือนผู้อยู่ในบังคับของคาสั่งทางปกครองนอ้ ยทส่ี ดุ >> *บงั คบั ได้ แม้ผูอ้ ย่ใู นบงั คบั ตาย มาตรา 63/4 ในการใช้มาตรการบงั คบั ทางปกครองแกบ่ คุ คลใด หากบุคคลน้ันถึงแกค่ วามตายให้ ดาเนินการบงั คับทางปกครองต่อไปได้ ถ้าบคุ คลน้ันมที ายาทผู้รบั มรดกหรอื ผ้จู ัดการมรดก ให้ถือว่า ทายาทผู้รับมรดกหรอื ผจู้ ดั การมรดก เป็นผ้อู ยูใ่ นบังคบั ของมาตรการบงั คบั ทางปกครองนน้ั >> ไมใ่ ชก้ บั กรณที ศี่ าลไดม้ คี าพพิ ากษาหรือรบั ฟอ้ งคดไี วพ้ จิ ารณา มาตรา 63/6 บทบญั ญตั ิในหมวดนีม้ ใิ หใ้ ชบ้ งั คับกบั การบังคบั ตามคาสัง่ ทางปกครองท่กี าหนดใหช้ าระ เงนิ หรือให้กระทาหรอื ละเว้นกระทาในกรณีท่ีหน่วยงานของรฐั ได้ฟอ้ งคดีต่อศาลและศาลไดม้ คี า พิพากษาให้ชาระเงินหรือให้กระทาหรอื ละเวน้ กระทาแลว้ 42
ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 12. การบงั คบั ทางปกครอง บงั คับโดยเจา้ หนา้ ท่ี มาตรา 63/7 ในกรณีที่เจ้าหนา้ ทีม่ ีคาส่ังทางปกครองท่ีกาหนดใหช้ าระเงนิ ถ้าถงึ กาหนดแลว้ ไม่มกี ารชาระ โดยถูกตอ้ งครบถ้วน ใหเ้ จ้าหนา้ ทผ่ี ทู้ าคาสงั่ ทางปกครองมีหนังสอื เตอื นให้ผ้นู ้ันชาระภายในระยะเวลาทก่ี าหนดแต่ ตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ 7 วนั ถา้ ไม่มกี ารปฏิบัติตามคาเตอื น เจา้ หนา้ ทมี่ อี านาจใชม้ าตรการบงั คบั ทางปกครองโดยยึด หรอื อายัดทรพั ย์สนิ ของผู้นนั้ และขายทอดตลาดเพ่อื ชา้ ระเงินใหค้ รบถว้ นได้ >> การยดึ หรอื อายดั มาตรา 63/8 หน่วยงานของรฐั ทอ่ี อกคาสั่งให้ชาระเงนิ ต้องดาเนนิ การยึดหรอื อายัดทรัพยส์ ินภายใน10ปี นบั แต่วันที่คาสั่งทางปกครองทีก่ าหนดให้ชาระเงนิ เปน็ ท่ีสุด คาสงั่ ทางปกครองทก่ี าหนดใหช้ าระเงนิ เปน็ ทส่ี ดุ ในกรณดี งั ตอ่ ไปนี้ (1) ไม่มกี ารอุทธรณค์ าสัง่ ต่อเจา้ หน้าทฝ่ี ่ายปกครองภายในระยะเวลาอทุ ธรณ์ (2) เจ้าหน้าที่ผูม้ ีอานาจพิจารณาอุทธรณ์มคี าวินิจฉัยยกอทุ ธรณ์ และไมม่ กี ารฟ้องคดีตอ่ ศาลภายใน ระยะเวลาการฟอ้ งคดี (3) ศาลมคี าส่งั หรือคาพพิ ากษายกฟอ้ ง หรือเพกิ ถอนคาส่ังบางสว่ น และคดีถึงที่สดุ แล้ว มาตรา 63/12 ขน้ั ตอนและวิธปี ฏบิ ตั เิ กี่ยวกับการยดึ การอายดั และการขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ ใหเ้ ป็นไป ตามทกี่ าหนดในกฎกระทรวง ในกรณที ่ีกฎกระทรวงไมไ่ ด้กาหนดเรอ่ื งใดไว้ ใหน้ าบทบัญญัตใิ นประมวลกฎหมายวธิ ี พิจารณาความแพ่งมาใช้บงั คับโดยอนโุ ลม โดยให้ถือวา่ ..... (1) เจา้ หนต้ี ามคาพิพากษา หมายถึง หน่วยงานของรัฐที่ออกคาสง่ั ใหช้ าระเงนิ (2) ลูกหนต้ี ามคาพพิ ากษา หมายถึง ผอู้ ยูใ่ นบงั คบั ของมาตรการบังคบั ทางปกครอง (3) อานาจของศาลในสว่ นทีเ่ ก่ียวกบั การบงั คบั คดี เป็นอานาจของหวั หนา้ หนว่ ยงานของรัฐ ท้ังนี้ ตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง (4) เจา้ พนกั งานบังคับคดหี มายถงึ เจ้าพนักงานบงั คบั ทางปกครอง 43
ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 12. การบงั คบั ทางปกครอง >> การสบื ทรพั ย์ มาตรา 63/11 ในการสืบหาทรัพยส์ ินของผู้อย่ใู นบงั คบั ของมาตรการบังคับทางปกครอง หน่วยงานของรัฐ ท่ีออกคาสัง่ ใหช้ าระเงนิ อาจรอ้ งขอให้สานกั งานอยั การสงู สุดหรอื หนว่ ยงานอ่ืนดาเนนิ การสืบหาทรพั ย์สนิ แทนได้ ... หากจานวนเงนิ ทตี่ ้องชาระตามมาตรการบังคับทางปกครองนั้นมีมลู ค่าตง้ั แต่ 2 ล้านบาทขนึ้ ไปหรือตาม มลู ค่าท่ีกาหนดเพ่มิ ขน้ึ โดยกฎกระทรวง หน่วยงานของรฐั อาจมอบหมายใหเ้ อกชนสืบหาทรพั ย์สินแทนได้ ให้เอกชนท่ีสบื พบทรัพย์สนิ ไดร้ ับค่าตอบแทนไม่เกนิ ร้อยละสองครง่ึ จากเงนิ หรอื ทรัพย์สินทไ่ี ดม้ าจากการยดึ อายดั หรอื ขายทอดตลาดทรัพยส์ ินทส่ี บื พบได้ ท้ังนี้ จานวนเงนิ คา่ ตอบแทนสงู สดุ ตอ้ งไมเ่ กิน 1 ลา้ นบาทต่อ จานวนเงนิ ท่ตี ้องชาระตามคาสงั่ ทางปกครองในเรื่องน้นั มลู คา่ 2 ลา้ นขน้ึ ไป ค่าตอบแทนทใี่ หเ้ อกชน ไม่เกนิ ร้อยละ 2.5 แต่ต้องไมเ่ กิน 1 ลา้ นบาท หนว่ ยงานของรัฐ เอกชน สบื ทรพั ยแ์ ทนได้ มาตรา 63/10 เพ่ือประโยชนใ์ นการบงั คบั ทางปกครอง ใหเ้ จา้ หนา้ ทผี่ ู้ออกคาสง่ั ใช้มาตรการบงั คับทาง ปกครองมอี านาจ (1) มีหนังสอื สอบถามสถาบันการเงนิ สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดติ ยูเนียน ตลาดหลกั ทรพั ย์ แห่งประเทศไทย กรมทด่ี ิน กรมการขนส่งทางบก กรมทรพั ย์สินทางปัญญา หรือหนว่ ยงานอน่ื ของรัฐที่มีหนา้ ท่ี ควบคุม ทรพั ยส์ ินท่มี ที ะเบียน เกย่ี วกับทรัพย์สนิ ของผ้อู ยู่ในบังคับของมาตรการบังคบั ทางปกครอง (2) มีหนงั สือขอให้นายทะเบยี น พนักงานเจา้ หนา้ ที่ หรอื บุคคลอืน่ ผ้มู ีอานาจหนา้ ที่ตามกฎหมาย ระงบั การจดทะเบียน หรอื แก้ไขเปลยี่ นแปลงทางทะเบียนทีเ่ กีย่ วกบั ทรัพย์สินของผอู้ ยู่ในบังคับของมาตรการ บงั คับทางปกครองไว้เปน็ การชวั่ คราวเทา่ ท่ีจาเป็น 44
ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 12. การบงั คบั ทางปกครอง การบงั คบั ตามคาสงั่ ทางปกครองใหก้ ระทาหรือละเวน้ กระทา >> คา่ ปรบั บงั คบั การ มาตรา 63/20 ในสว่ นน้ี “ค่าปรับบังคบั การ” หมายความวา่ ค่าปรับที่เจ้าหน้าที่สัง่ ให้ผู้ท่ีฝ่าฝืนหรอื ไม่ปฏิบตั ติ ามคาสั่งทางปกครองท่ี กาหนดให้กระทาหรือละเว้นกระทา ชาระเป็นรายวันไปจนกวา่ จะยุติการฝ่าฝนื คาสง่ั หรอื ได้มกี ารปฏบิ ตั ติ ามคาส่ัง แล้ว ไม่วา่ จะเป็นคา่ ปรบั ท่ีกาหนดโดยพระราชบัญญตั นิ ีห้ รอื โดยกฎหมายอนื่ >> ค่าใชจ้ า่ ยหรอื เงนิ เพมิ่ รายวนั และคา่ ปรบั รายวนั มาตรา 63/21 คาสั่งทางปกครองทกี่ าหนดใหก้ ระทาหรือละเว้นกระทา ถ้าผ้อู ยู่ในบงั คับของคาส่งั ทาง ปกครองฝา่ ฝืนหรือไมป่ ฏบิ ัติตาม เจา้ หนา้ ทีอ่ าจใช้มาตรการบงั คบั ทางปกครองอยา่ งหน่ึงอย่างใด ดังตอ่ ไปนี้ (1) เจา้ หน้าทีเ่ ขา้ ดาเนินการด้วยตนเองหรือมอบหมายใหบ้ คุ คลอน่ื กระทาการแทน โดยผอู้ ยใู่ นบังคบั ของ คาส่ังทางปกครองจะต้องชดใช้ค่าใชจ้ ่าย และเงนิ เพ่มิ รายวันในอัตราร้อยละ 25 ต่อปขี องค่าใชจ้ ่ายดังกลา่ วแก่ หน่วยงานของรฐั ทเ่ี จ้าหน้าทน่ี ้ันสังกัด เชน่ สร้างรัสอรท์ ในพ้ืนทปี่ ่าสงวน เจ้าหน้าทีอ่ อกคาสั่งทางแกครองมาให้รอ้ื ถอน แต่ไม่ยอมรือ้ ถอน เจา้ หนา้ ทจี่ งึ เข้าไปดาเนนิ การเอง (ไม่วา่ จะจ้างคนมาร้อื หรือร้ือเอง) เจ้าของรีสอรท์ จะตอ้ งเสีย ค่าใชจ้ ่ายในการรื้อถอนใหเ้ จา้ หน้าท่ี และเสียเงินเพ่ิมรายวัน รอ้ ยละ 25 /ปี ของค่าใช้จ่าย (2) ให้มีการชาระค่าปรับบงั คับการตามจานวนทส่ี มควรแกเ่ หตุแตต่ อ้ งไม่เกนิ 5 หมน่ื บาทต่อวัน 45
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 หนา้ ที่และความรับผิดในการปฏิบตั ิหน้าทร่ี าชการ ความรบั ผดิ ชอบทางวนิ ัย โทษทางวนิ ยั (มาตรา 88 ) ความผิดวนิ ยั (มาตรา 81-84) มาตรา 88 ข้าราชการพลเรือนสามญั ผใู้ ดกระทาผดิ วนิ ัย มาตรา 84 ขา้ ราชการพลเรอื นสามัญผ้ใู ดไม่ปฏบิ ัตติ าม จะต้องได้รบั โทษทางวนิ ัย ... โทษทางวนิ ัยมี 5 สถาน ดังตอ่ ไปนี้ ข้อปฏิบตั ิตามมาตรา 81 และมาตรา 82 หรือ ฝา่ ฝืนขอ้ หา้ มตามมาตรา 83 1. ภาคทณั ฑ์ ผ้นู ั้นเปน็ ผู้กระทาผดิ วินยั 2. ตดั เงนิ เดือน มาตรา 81 ข้าราชการพลเรือนสามัญตอ้ งสนบั สนนุ 3. ลดเงินเดอื น การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ 4. ปลดออก ทรงเปน็ ประมุขดว้ ยความบรสิ ุทธิใ์ จ 5. ไล่ออก ขอ้ ปฏิบตั ิ มาตรา 82 ข้าราชการพลเรอื นสามญั ต้องกระทาการอนั เปน็ ขอ้ ปฏบิ ตั ดิ ังต่อไปน้ี (1) ต้องปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีราชการดว้ ยความซอื่ สตั ย์ สุจริต และเทย่ี งธรรม (2) ตอ้ งปฏบิ ตั หิ นา้ ทร่ี าชการใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มตขิ องคณะรฐั มนตรี นโยบายของรัฐบาล และ ปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บแบบแผนของทางราชการ (3) ตอ้ งปฏบิ ตั หิ น้าท่รี าชการใหเ้ กดิ ผลดหี รอื ความกา้ วหนา้ แกร่ าชการดว้ ยความตง้ั ใจอตุ สาหะ เอาใจใส่ และ รักษาประโยชน์ของ ทางราชการ (4) ต้องปฏิบัตติ ามคาสงั่ ของผบู้ งั คบั บญั ชาซ่ึงสงั่ ในหนา้ ทรี่ าชการ โดยชอบดว้ ยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ โดยไม่ขัด ขืนหรอื หลีกเลี่ยง แตถ่ ้าเหน็ วา่ การปฏบิ ัตติ ามคาส่ังน้นั จะทาให้เสยี หายแกร่ าชการ หรือจะเป็นการไม่รกั ษาประโยชน์ของทาง ราชการจะต้องเสนอความเหน็ เป็นหนงั สือทันทีเพือ่ ใหผ้ บู้ งั คับบัญชาทบทวนคาสัง่ น้นั และเมอื่ ไดเ้ สนอความเหน็ แลว้ ถ้า ผบู้ ังคบั บัญชายนื ยันให้ปฏิบัติตามคาสงั่ เดมิ ผูอ้ ย่ใู ตบ้ ังคับบัญชาตอ้ งปฏิบัติตาม (5) ต้องอทุ ิศเวลาของตนใหแ้ กร่ าชการ จะละทิ้งหรือทอดทิ้งหนา้ ท่รี าชการมิได้ (6) ตอ้ งรกั ษาความลบั ของทางราชการ (7) ต้องสภุ าพเรียบรอ้ ย รกั ษาความสามัคคแี ละตอ้ งชว่ ยเหลอื กนั ในการปฏิบตั ริ าชการระหวา่ งขา้ ราชการด้วยกนั และผูร้ ว่ มปฏบิ ตั ิ ราชการ (8) ตอ้ งตอ้ นรบั ให้ความสะดวก ใหค้ วามเปน็ ธรรม และใหก้ ารสงเคราะหแ์ ก่ประชาชนผ้ตู ิดตอ่ ราชการ เกี่ยวกับหนา้ ท่ขี องตน (9) ตอ้ งวางตนเปน็ กลางทางการเมอื งในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทร่ี าชการและในการปฏบิ ตั กิ ารอนื่ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ประชาชนกบั จะตอ้ ง ปฏบิ ัติตามระเบียบของทางราชการวา่ ด้วยมารยาททางการเมอื งของข้าราชการด้วย (10) ตอ้ งรักษาชอ่ื เสยี งของตน และรักษาเกียรตศิ ักดขิ์ องตาแหนง่ หน้าท่รี าชการของตนมิใหเ้ สื่อมเสยี (11) กระทาการอน่ื ใดตามทก่ี าหนดในกฎ ก.พ. 46
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 หน้าท่แี ละความรบั ผิดในการปฏิบัตหิ นา้ ทร่ี าชการ ความรับผดิ ชอบทางวนิ ัย ขอ้ หา้ ม มาตรา 83 ข้าราชการพลเรือนสามัญตอ้ งไม่กระทาการใดอันเปน็ ขอ้ ห้าม ดังต่อไปน้ี (1) ตอ้ งไมร่ ายงานเทจ็ ตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชา การรายงานโดยปกปิดข้อความซ่ึงควรตอ้ งแจง้ ถือว่าเป็นการรายงาน เทจ็ ด้วย (2) ต้องไมป่ ฏบิ ตั ริ าชการอนั เปน็ การกระทาการขา้ มผบู้ งั คบั บญั ชาเหนอื ตน เวน้ แต่ผบู้ ังคับบัญชาเหนอื ตนขึ้นไปเปน็ ผู้ สงั่ ใหก้ ระทาหรือไดร้ ับอนุญาตเปน็ พิเศษช่ัวครง้ั คราว (3) ต้องไม่อาศยั หรือยอมใหผ้ อู้ นื่ อาศัยตาแหน่งหน้าทรี่ าชการของตนหาประโยชน์ใหแ้ กต่ นเองหรือผอู้ นื่ (4) ต้องไม่ประมาทเลนิ เลอ่ ในหนา้ ท่รี าชการ (5) ตอ้ งไมก่ ระทาการหรอื ยอมใหผ้ อู้ นื่ กระทาการหาผลประโยชน์อนั อาจทาให้เสียความเทย่ี งธรรมหรอื เสอ่ื มเสยี เกยี รติ ศกั ดขิ์ องตาแหนง่ หน้าท่รี าชการของตน 6) ตอ้ งไม่เปน็ กรรมการผจู้ ดั การ หรอื ผู้จดั การ หรือดารงตาแหน่งอ่ืนใดทมี่ ีลักษณะงานคลา้ ยคลงึ กันน้ันในห้างหุน้ ส่วนหรือบรษิ ัท (7) ต้องไม่กระทาการอยา่ งใดทเ่ี ปน็ การกลน่ั แกลง้ กดข่ี หรือขม่ เหงกนั ในการปฏิบัติราชการ (8) ต้องไมก่ ระทาการอนั เปน็ การลว่ งละเมดิ หรอื คกุ คามทางเพศตามทีก่ าหนดในกฎ ก.พ. (9) ต้องไมด่ หู มนิ่ เหยยี ดหยาม กดขี่ หรือขม่ เหงประชาชนผู้ติดตอ่ ราชการ (10) ไมก่ ระทาการอน่ื ใดตามทก่ี าหนดในกฎ ก.พ. ข้ อ ห้ า ม ความผิดวนิ ยั รา้ ยแรง มาตรา 85 การกระทาผดิ วนิ ยั ในลักษณะดังตอ่ ไปนี้ เปน็ ความผดิ วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง (1) ปฏิบตั หิ รือละเว้นการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีราชการโดยมชิ อบเพื่อให้เกดิ ความเสยี หายอยา่ งร้ายแรงแกผ่ หู้ นึง่ ผ้ใู ด หรอื ปฏบิ ัตหิ รือละเวน้ การปฏบิ ัตหิ น้าทีร่ าชการโดยทุจริต (2) ละทิ้งหรอื ทอดทง้ิ หนา้ ทรี่ าชการโดยไมม่ ีเหตผุ ลอันสมควรเป็นเหตุใหเ้ สยี หายแกร่ าชการอย่างร้ายแรง (3) ละทง้ิ หน้าทรี่ าชการติดต่อในคราวเดียวกนั เป็นเวลาเกนิ 15 วันโดยไมม่ เี หตุอนั สมควรหรอื โดยมีพฤติการณอ์ ันแสดงถึงความ จงใจไม่ปฏิบตั ิตามระเบยี บของทางราชการ (4) กระทาการอันไดช้ อ่ื ว่าเป็นผปู้ ระพฤตชิ ั่วอยา่ งร้ายแรง (5) ดูหมน่ิ เหยียดหยาม กดขี่ ข่มเหง หรอื ทารา้ ยประชาชนผู้ติดตอ่ ราชการอย่างรา้ ยแรง (6) กระทาความผิดอาญาจนได้รับโทษจาคุกหรอื โทษทห่ี นกั กว่าโทษจาคกุ โดยคาพพิ ากษาถงึ ทส่ี ดุ ให้จาคุก หรือใหร้ ับโทษทีห่ นัก กว่าโทษจาคกุ เว้นแตเ่ ปน็ โทษสาหรับความผดิ ทีไ่ ด้กระทาโดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ (7) ละเว้นการกระทาหรอื กระทาการใด ๆ อันเปน็ การไมป่ ฏิบตั ิตามมาตรา 82 หรือฝ่าฝืนข้อหา้ มตาม มาตรา 83 อันเปน็ เหตุให้ เสยี หายแก่ราชการอยา่ งร้ายแรง (8) ละเวน้ การกระทาหรือกระทาการใด ๆ อันเปน็ การไม่ปฏบิ ัติตามมาตรา 80 วรรคสองและมาตรา 82(11) หรือฝ่าฝืนข้อหา้ มตาม มาตรา83 (10) ที่มกี ฎ ก.พ. กาหนดใหเ้ ปน็ ความผิดวนิ ัยอยา่ งร้ายแรง 47
ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 หนา้ ทแ่ี ละความรบั ผิดในการปฏิบัตหิ น้าท่ีราชการ ความรบั ผดิ ทางแพ่ง (ละเมิด) ละเมดิ คอื อะไร ป.พ.พ. “ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลนิ เล่อ ทาต่อบุคคลอืน่ โดยผดิ กฎหมายให้เขาเสียหายถงึ แก่ชวี ติ ก็ดี มาตรา 420 แก่ร่างกายกด็ ี อนามัยกด็ ี เสรภี าพกด็ ี ทรัพยส์ นิ หรอื สทิ ธอิ ยา่ งหนึง่ อยา่ งใดก็ดีท่านว่า ผู้นนั้ ทาละเมดิ จาตอ้ งใชค้ า่ สินไหมทดแทนเพ่ือการน้ัน” หลักทว่ั ไป 1. พระราชบัญญัติความรบั ผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 Credit : Posttoday เรมิ่ บงั คับใช้ 15 พฤศจิกายน 2539 2. ใหน้ ายกรฐั มนตรรี ักษาการตามพระราชบญั ญัติน้ี 3. คานยิ าม มาตรา 4 “เจา้ หนา้ ท”ี่ - ขา้ ราชการ ในพระราชบัญญัติน้ี - พนักงาน - ลกู จ้าง หรอื ผู้ปฏบิ ัติงานประเภทอน่ื ไมว่ า่ จะเปน็ การ แต่งตั้งในฐานะเป็นกรรมการหรอื ฐานะอน่ื ใด “หน่วยงานของรฐั ” - กระทรวง ทบวง กรม - หรือส่วนราชการที่เรยี กชื่ออยา่ งอ่นื และมีฐานะ เปน็ กรม - ราชการสว่ นภมู ภิ าค ราชการส่วนทอ้ งถ่ิน - และรัฐวสิ าหกจิ ท่ตี งั้ ขึน้ โดยพระราชบญั ญตั หิ รอื พระราชกฤษฎีกา - และให้หมายความรวมถึงหน่วยงานอื่นของรัฐทม่ี ีพระราชกฤษฎีกากาหนดให้เป็นหน่วยงาน ของรัฐตามพระราชบัญญตั ิ นี้ดว้ ย ละเมดิ ตอ่ บคุ คลภายนอก (มาตรา 5, 6, 11, 14) 1. ละเมดิ ตอ่ บคุ คลภายนอก - กระทาละเมดิ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี มาตรา 5 หนว่ ยงานของรัฐต้องรับผิดต่อผู้เสยี หายในผลแหง่ ละเมดิ ทเ่ี จา้ หน้าท่ีของตนไดก้ ระทาในการปฏิบตั ิหน้าที่ ในกรณีน้ีผเู้ สียหายอาจฟอ้ งหน่วยงานของรฐั ดังกลา่ วไดโ้ ดยตรง แตจ่ ะฟ้องเจา้ หน้าท่ไี ม่ได้ #ถา้ การละเมดิ เกดิ จากเจา้ หน้าทีซ่ งึ่ ไมไ่ ดส้ งั กดั หน่วยงานของรฐั แห่งใดให้ถือว่ากระทรวงการคลังเป็นหน่วยงาน ของรัฐท่ตี อ้ งรับผิดตามวรรคหน่ึง มาตรา 11 ในกรณีท่ผี เู้ สียหายเห็นวา่ หน่วยงานของรัฐตอ้ งรบั ผดิ ตามมาตรา 5 ผูเ้ สียหายจะยนื่ คาขอต่อหน่วยงานของ รัฐให้พจิ ารณาชดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนสาหรับความเสียหายที่เกดิ แกต่ นกไ็ ด้ #ในการน้ีหนว่ ยงานของรัฐต้องออกใบรบั คาขอให้ไว้เปน็ หลักฐานและพจิ ารณาคาขอนั้นโดยไม่ชกั ช้า เมอ่ื หนว่ ยงาน ของรฐั มีคาสง่ั เช่นใดแล้วหาก ผูเ้ สยี หายยงั ไมพ่ อใจในผลการวนิ จิ ฉัยของหนว่ ยงานของรฐั ก็ให้มสี ทิ ธริ อ้ งทกุ ขต์ อ่ คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั รอ้ งทกุ ข์ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยคณะกรรมการกฤษฎกี า ไดภ้ ายใน 90 วันนับแตว่ นั ทต่ี นไดร้ บั แจง้ ผลการวนิ จิ ฉยั 48
Search