Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คณิตศาสตร์ชั้น ป.5

คณิตศาสตร์ชั้น ป.5

Published by ยูจัง มะเซ็ง, 2018-08-11 04:42:03

Description: หน่วยที่10 เรื่อง รูปสี่เหลี่ยม

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 10 เรอ่ื ง รูปส่เี หล่ียมกล่มุ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหสั ค 15101ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 9 ชั่วโมง1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด สาระท่ี 2 การวัด มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพน้ื ฐานเกยี่ วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ตี ้องการวดั ตวั ชว้ี ดั ค 2.1 ป.5/2 หาความยาวรอบรปู ของรูปส่เี หลีย่ ม รูปสามเหลย่ี ม ค 2.1 ป.5/3 หาพนื้ ท่ีของรูปสี่เหล่ียมมมุ ฉากและรูปสามเหลย่ี ม มาตรฐาน ค 2.2 แกป้ ัญหาเกย่ี วกับการวัด ตวั ชี้วดั ค 2.2 ป.5/1 แกป้ ัญหาเกี่ยวกับพนื้ ที่ ความยาวรอบรูปของรปู สีเ่ หลย่ี มมมุ ฉากและ รปู สามเหลยี่ ม สาระท่ี 3 เรขาคณติ มาตรฐาน ค 3.1 อธิบายและวิเคราะหร์ ปู เรขาคณิตสองมติ ิและสามมิติ ตวั ชี้วดั ค 3.1 ป.5/2 บอกลักษณะ ความสัมพันธ์ และจาแนกรปู ส่เี หลยี่ มชนิดต่างๆ มาตรฐาน ค 3.2 ใช้การนกึ ภาพ (visualization) ใช้เหตุผลเกยี่ วกบั ปรภิ มู ิ (spatial reasoning) และ ใชแ้ บบจาลองทางเรขาคณติ (geometric model) ในการแก้ปัญหา ตัวชว้ี ัด ค 3.2 ป.5/2 สรา้ งรูปสเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก รปู สามเหล่ียม และรปู วงกลม สาระท่ี 6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ มาตรฐาน ค 6.1 มคี วามสามารถในการแก้ปญั หา การให้เหตุผล การสอื่ สาร การสอ่ื ความหมายทาง คณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชือ่ มโยงความรตู้ ่างๆ ทางคณิตศาสตร์และ เชือ่ มโยงคณิตศาสตรก์ ับศาสตร์อ่นื ๆ และมีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ตวั ชว้ี ัด ค 6.1 ป.5/1 ใชว้ ธิ กี ารท่หี ลากหลายแกป้ ัญหา ค 6.1 ป.5/2 ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยใี นการ แกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ค 6.1 ป.5/3 ให้เหตผุ ลประกอบการตดั สนิ ใจ และสรปุ ผลไดอ้ ย่างเหมาะสม2. สาระสาคัญ รูปส่ีเหล่ียมเป็นรูปเรขาคณิตสองมิติที่ประกอบด้วยด้าน 4 ด้าน และมุม 4 มุม การจาแนกชนิดของรูปสเ่ี หล่ยี มพิจารณาจากความสัมพันธ์ของด้านและมุม การสร้างรูปส่ีเหล่ียมมุมฉากอาจใช้ไม้ฉากหรือโพรแทรกเตอร์ การหาความยาวรอบรูปของรูปสี่เหล่ียมให้นาความยาวของด้านท้ังสี่ด้านมาบวกกัน การหาพน้ื ทขี่ องรปู สเี่ หลีย่ มมมุ ฉากหาได้โดยวิธนี ับตารางหรือใช้สูตร และการแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับพ้ืนที่รูปส่ีเหล่ียมใหว้ ิเคราะห์โจทย์ให้เข้าใจ วางแผนการแก้ปัญหา แสดงวิธที า และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ

3183. สาระการเรียนรู้ 1. รปู ส่ีเหล่ยี มจตั ุรสั รูปสี่เหลี่ยมผืนผา้ รูปสีเ่ หลี่ยมขนมเปียกปูน รปู ส่ีเหลีย่ มด้านขนานรูปสีเ่ หล่ยี มคางหมู รูปสเ่ี หลยี่ มรปู ว่าว 2. การสร้างรปู ส่ีเหลี่ยมมมุ ฉาก 3. ความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หล่ยี ม 4. โจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรูปของรปู สีเ่ หล่ยี มมุมฉาก 5. การหาพื้นที่ของรปู สีเ่ หลย่ี มมุมฉาก 6. โจทยป์ ญั หาเก่ยี วกับพ้ืนทข่ี องรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการสอ่ื สาร 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 4. ความสามารถในการแก้ปัญหา5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มั่นในการทางาน6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 1. ใบงานที่ 10.1 – 10.9 2. สร้างรูปส่ีเหล่ียมมุมฉากโดยใชโ้ พรแทรกเตอรต์ ามเง่อื นไขทคี่ รูกาหนด มา 3 รูป7. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ เคร่อื งมอื เกณฑ์การผา่ น แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ขึน้ ไป วธิ ีการ การทดสอบ ใบงานท่ี 10.1 – 10.9 รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป ตรวจใบงานที่ 10.1 – 10.9 แบบประเมินชน้ิ งาน ร้อยละ 60 ขึ้นไป การประเมินชิ้นงาน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพระดบั คุณภาพ ดีมาก (3) ดี (2) พอใช้ (1) ปรับปรุง (0)ชว่ งคะแนน 6 0–5 10 – 12 7–9

3198. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ 1 เร่อื ง ชนดิ ของรปู สี่เหลีย่ มจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกลกั ษณะ และความสัมพันธ์ของรปู สีเ่ หลยี่ มชนิดต่างๆ ได้ 2. จาแนกรปู สเ่ี หลี่ยมชนิดต่าง ๆ ได้กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครทู บทวนความรูเ้ รื่องรูปสี่เหลย่ี มมุมฉากโดยตั้งคาถามถามนักเรียน ดังนี้ - รูปสีเ่ หลี่ยมมีลักษณะอยา่ งไร(เปน็ รปู เรขาคณติ สองมิติประกอบดว้ ยดา้ น 4 ดา้ นมุม 4 มมุ ) - รูปสเี่ หลย่ี มมมุ ฉากมลี ักษณะอยา่ งไร(มมี มุ ทุกมมุ เป็นมุมฉาก) - รปู สเี่ หล่ยี มอะไรบา้ งท่ีเปน็ รูปสเ่ี หลีย่ มมมุ ฉาก(รูปสีเ่ หลี่ยมจัตรุ ัสและรปู ส่ีเหลีย่ มผืนผ้า) 2. ครนู าบัตรภาพรูปสเี่ หลี่ยมติดไวบ้ นกระดานแล้วใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตอบว่ารปู ไหนบ้างท่เี ป็นรูปส่ีเหล่ียมมุมฉาก(รูปส่เี หลีย่ มหมายเลข 1 และ 4)   3. ครอู ธิบายให้นักเรยี นฟงั ว่านอกจากรปู สีเ่ หล่ียมมุมฉากแล้วยังมีรปู สีเ่ หลีย่ มอีกหลายชนิดซงึ่ นักเรียนดูได้จากบตั รภาพที่ติดอยู่บนกระดาน 4. ครูแบ่งนกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน คละกนั ตามความสามารถ แล้วให้สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มรว่ มกนั ศึกษาความรู้เรื่อง ชนดิ ของรูปส่เี หล่ียม โดยรบั ผิดชอบคนละ 1 รูป 5. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ผลดั กันออกมาวัดความยาวของแตล่ ะดา้ นและขนาดของมุมแต่ละมมุของรูปสเ่ี หลี่ยมท่ตี ิดไว้บนกระดาน พร้อมท้ังบันทึกความยาวของแตล่ ะด้านและขนาดของมมุ แต่ละมุม ลงในสมดุ 6. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มสังเกตความสมั พนั ธ์ของด้านและมุมของรปู ส่เี หล่ียมชนิดต่างๆ โดยศึกษาความรู้เพิ่มเติมจากหนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.5 สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มผลดั เปลี่ยนกันอธิบายความรู้จนเขา้ ใจตรงกัน และช่วยกันสรุปความร้ทู ไี่ ดล้ งในสมุด 7. ให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มทาใบงานที่ 10.1 เรอ่ื ง ชนิดของรูปสเี่ หลี่ยม เสร็จแล้วให้ตรวจคาตอบกบั สมาชิกภายในกล่มุ เดยี วกนั แล้วส่งใหค้ รตู รวจสอบอีกครง้ั

320 8. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความร้เู ก่ียวกับชนิดของรปู ส่ีเหล่ียม ลักษณะและความสัมพันธ์ของรูปส่ีเหลย่ี มชนิดต่างๆสอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ 1. ใบงานที่ 10.1 เรือ่ ง ชนดิ ของรปู สีเ่ หล่ียม 2. บัตรภาพรูปสี่เหลย่ี ม 3. โพรแทรกเตอร์การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ เครอื่ งมือ เกณฑ์การผ่าน รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป วธิ กี าร ใบงานที่ 10.1 เร่ือง ชนิดของ ตรวจใบงานท่ี 10.1 เรอ่ื ง รูปส่เี หล่ยี ม ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไป ชนดิ ของรูปสเี่ หลย่ี ม ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไป ของนักเรยี นรายบคุ คล อนั พงึ ประสงค์ของนกั เรยี นรายบุคคล สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไป รายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน สังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ รายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ชว่ั โมงท่ี 2 เร่อื ง การสรา้ งรูปส่เี หลีย่ มมุมฉากโดยใชไ้ ม้ฉากจุดประสงค์การเรยี นรู้ สรา้ งรปู สเ่ี หล่ยี มมมุ ฉากโดยใชไ้ ม้ฉากได้กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครทู บทวนความรู้เร่ืองรูปส่ีเหลย่ี มมุมฉากโดยใหน้ ักเรียนบอกชอ่ื สิ่งของทมี่ ีลักษณะเป็นรูปส่เี หลีย่ มมมุ ฉาก เช่น บานประตู พน้ื โต๊ะ ปกหนงั สือ ปกสมดุ เปน็ ต้น 2. ครูอธิบายให้นกั เรยี นฟงั วา่ การสร้างรูปสเ่ี หลย่ี มมุมฉากต้องคานึงถึงลักษณะของรปู ส่ีเหลย่ี มมมุ ฉากวา่ มุมทุกมมุ เปน็ มุมฉาก 3. ครูสาธติ การสรา้ งรปู ส่ีเหลย่ี มมมุ ฉากโดยใชไ้ ม้ฉาก เมือ่ ทราบความยาวของด้านยาวและดา้ นกวา้ งของรปู สเ่ี หล่ยี ม ครูอธบิ ายไปทลี ะข้ันตอนอยา่ งช้าๆ แลว้ ใหน้ ักเรียนทาตาม เช่น สร้างรูปส่ีเหลย่ี มมุมฉาก ABCD โดยใหม้ ีดา้ นยาว ยาว 5 เซนติเมตร และด้านกว้าง ยาว3 เซนตเิ มตร ขั้นท่ี 1 ลากสว่ นของเส้นตรง AB ให้ยาว 5 เซนติเมตร A 5 ซม. B ขนั้ ที่ 2 ใช้ไมฉ้ ากสรา้ งมมุ ฉากท่ีจุด A ลากสว่ นของเส้นตรง AD ให้ยาว 3 เซนตเิ มตร ข้ันท่ี 3 ใช้ไม้ฉาก สร้างมมุ ฉากที่จดุ B ลากส่วนของเส้นตรง BC ให้ยาว 3 เซนตเิ มตร

321ข้นั ท่ี 4 ลากส่วนของเสน้ ตรง CD จะไดร้ ูปส่ีเหล่ยี มมมุ ฉาก ABCD ตามตอ้ งการ DC3 ซม. AB 5 ซม. 4. ให้นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน คละความสามารถ แล้วให้สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ร่วมกนั ศกึ ษาข้ันตอนการสรา้ งรูปสเ่ี หล่ียมโดยใช้ไม้ฉาก 5. ให้สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุม่ ร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกันจากทไ่ี ด้ศึกษา 6. ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันฝกึ สร้างรูปสเ่ี หล่ียมมมุ ฉากทมี่ ดี ้านยาวและดา้ นกว้างตามตวั อย่างทค่ี รูสาธิตให้ดู โดยมคี รูคอยเสนอแนะการสรา้ งรปู สเี่ หล่ียมให้ถกู ต้อง 7. เพื่อนๆ ในกลุม่ ชว่ ยกนั ตรวจสอบดวู ่า สมาชิกของกลุ่มปฏิบตั ิไดถ้ ูกต้องทุกคนหรอื ไม่ 8. ให้นักเรยี นแต่ละคนฝึกสร้างรูปส่ีเหลย่ี มมมุ ฉากท่ีมีดา้ นยาวและด้านกว้างแตกต่างจากทีค่ รูสาธิตให้ดูโดยใชไ้ ม้ฉาก และไม่ตอ้ งดูแบบอย่างจากครู โดยครคู อยช่วยแนะนาใหป้ ฏบิ ัติใหถ้ ูกต้อง 9. ให้นกั เรยี นทาใบงานท่ี 10.2 เรื่อง การสรา้ งรปู ส่เี หลย่ี มมุมฉากโดยใช้ไมฉ้ าก เสรจ็ แลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ รวบรวมใบงานสง่ ครูตรวจสอบความถูกต้อง 10. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ กย่ี วกบั ขน้ั ตอนการสร้างรปู สเ่ี หลีย่ มมมุ ฉากโดยใชไ้ ม้ฉาก 11. ครนู ดั หมายให้นักเรียนแตล่ ะคนจดั เตรยี มโพรแทรกเตอร์มาในช่ัวโมงหน้าส่ือและแหล่งเรยี นรู้ 1. ใบงานที่ 10.2 เร่ือง การสรา้ งรูปส่ีเหลีย่ มมมุ ฉากโดยใชไ้ ม้ฉาก 2. ไม้ฉาก 3.การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์การผา่ น ร้อยละ 60 ขนึ้ ไปตรวจใบงานท่ี 10.2 เร่ือง การสรา้ ง ใบงานท่ี 10.2 เร่ือง การสรา้ งรปู ส่ีเหลย่ี มมุมฉากโดยใชไ้ ม้ฉาก รปู สี่เหล่ยี มมมุ ฉากโดยใช้ไม้ฉาก ระดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไปประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 2 ขึน้ ไปของนักเรียนรายบุคคล อันพึงประสงค์ของนกั เรียนรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไปสงั เกตพฤติกรรมการทางาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล รายบุคคลสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่

322 ชวั่ โมงท่ี 3 เร่ือง การสร้างรูปส่เี หลยี่ มมมุ ฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สรา้ งรูปสเี่ หลี่ยมมมุ ฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์ได้กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูทบทวนขน้ั ตอนการสรา้ งรปู ส่เี หล่ยี มมุมฉากโดยใช้ไม้ฉากใหน้ ักเรียนฟัง 2. ครสู าธิตการสรา้ งรปู ส่ีเหล่ียมมมุ ฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์ให้นักเรียนดู แล้วอธิบายการสร้างรูปสีเ่ หลย่ี มมมุ ฉากโดยใชโ้ พรแทรกเตอร์ทีละข้ันตอนอย่างละเอยี ด แล้วใหน้ ักเรยี นสังเกต สร้างรปู ส่ีเหลยี่ มมมุ ฉาก กขคง โดยให้มดี ้านยาวดา้ นละ 4 เซนตเิ มตร ขั้นที่ 1 ลากสว่ นของเส้นตรง กข ให้ยาว 4 เซนตเิ มตร ก 4 ซม. ข ขั้นที่ 2 ใช้โพรแทรกเตอร์ สรา้ งมมุ ฉากท่จี ุด ก ลากสว่ นของเส้นตรง กง ให้ยาว 4 เซนติเมตร ข้ันที่ 3 ใช้โพรแทรกเตอร์ สรา้ งมมุ ฉากทีจ่ ดุ ข ลากส่วนของเสน้ ตรง ขค ใหย้ าว 4 เซนตเิ มตร ขน้ั ท่ี 4 ลากส่วนของเส้นตรง คง จะไดร้ ูปสเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก กขคง ตามต้องการ งค 4 ซม. ก 4 ซม. ข 3. ใหน้ ักเรียนแต่ละคนสรา้ งรูปสเี่ หลยี่ มมมุ ฉากโดยใช้โพรแทรกเตอรต์ ามเงื่อนไขท่ีครูกาหนด มา 3 รูป โดยดตู วั อย่างจากท่ีครูสาธติ 4. ให้นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ขน้ั ตอนการสรา้ งรปู ส่เี หลีย่ มมุมฉากโดยใชโ้ พรแทรกเตอร์ 5. ให้ตวั แทนนักเรียน 3 คน ออกมาอธิบายวิธกี ารสรา้ งรปู สเี่ หลี่ยมมุมฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์หนา้ ช้ันเรียนทีละรูป โดยครูตรวจสอบความถูกต้องและอธิบายเพ่มิ เติมในสว่ นที่ยังมีขอ้ บกพร่องอยู่ 6. ให้นักเรยี นทกุ คนทาใบงานท่ี 10.3 เร่ือง การสรา้ งรูปสเ่ี หลี่ยมมุมฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์เสร็จแล้วรวบรวมใบงานส่งครตู รวจสอบความถกู ตอ้ ง 7. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ความรเู้ ก่ยี วกับขัน้ ตอนการสรา้ งรปู ส่ีเหลี่ยมมมุ ฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์สื่อและแหล่งเรยี นรู้ 1. ใบงานท่ี 10.3 เรื่อง การสร้างรปู สี่เหล่ยี มมุมฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์ 2. โพรแทรกเตอร์

323การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไปตรวจใบงานที่ 10.3 เรอ่ื ง การสรา้ ง ใบงานที่ 10.3 เรื่อง การสร้างรูป ระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไปรปู ส่เี หล่ยี มมมุ ฉากโดยใช้ ส่เี หลีย่ มมุมฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์ ระดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไปโพรแทรกเตอร์ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะของนักเรยี นรายบคุ คล อนั พึงประสงค์ของนกั เรียนรายบุคคลสงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล รายบคุ คล ชั่วโมงที่ 4 เรอ่ื ง ความยาวรอบรปู ของรูปสเ่ี หลี่ยมจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมอื่ กาหนดรูปส่ีเหลี่ยมให้ สามารถหาความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หลย่ี มได้กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูทบทวนความรูเ้ รื่อง ชนดิ ของรูปสเ่ี หลี่ยม โดยติดบัตรภาพแสดงรูปส่ีเหล่ียมชนดิ ต่างๆบนกระดาน แล้วให้นักเรียนทุกคนชว่ ยกนั ตอบว่าเปน็ รูปส่เี หล่ยี มชนิดใด 2 2. ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละความสามารถ 3. ใหน้ ักเรยี นดรู ปู สี่เหลยี่ มท่ีครตู ิดบนกระดาน แลว้ ให้แต่ละกลุม่ ร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าถ้าตอ้ งการหาความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลยี่ ม จะหาไดโ้ ดยวิธใี ด 4. ให้ตวั แทนนกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลการอภิปรายหนา้ ช้ันเรยี น 5. สมาชกิ ในกลมุ่ เดยี วกนั ร่วมกันศึกษาความรเู้ รื่อง ความยาวรอบรปู ของรูป แลว้ ร่วมกนัอภิปรายแลกเปลีย่ นความรู้ความเขา้ ใจกัน 6. ครูยกตัวอย่างการหาความยาวรอบรปู ของรปู สีเ่ หล่ียมแต่ละชนดิ ใหน้ ักเรยี นดูหลายๆตวั อยา่ ง พร้อมท้ังอธิบายโดยการถามตอบ 7. ให้นกั เรยี นทาใบงานที่ 10.4 เรื่อง การหาความยาวรอบรูปของรปู ส่ีเหลีย่ ม 8. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรู้เก่ียวกับการหาความยาวรอบรูปของรปู ส่เี หลีย่ มแต่ละชนิด

324สือ่ และแหล่งเรยี นรู้ 1. ใบงานที่ 10.4 เรอื่ ง การหาความยาวรอบรูปของรปู สเ่ี หลยี่ ม 2. บตั รภาพรปู ส่ีเหลีย่ มการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน ใบงานที่ 10.4 เร่ือง การหาความยาว รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป วิธกี าร รอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมตรวจใบงานที่ 10.4 เรอ่ื ง การหา ระดบั คุณภาพ 2 ข้นึ ไปความยาวรอบรูปของรปู สเี่ หล่ียม แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ระดบั คุณภาพ 2 ข้นึ ไป อนั พึงประสงค์ของนักเรียนรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ขึน้ ไปประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานของนักเรียนรายบคุ คล รายบคุ คลสังเกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่รายบคุ คลสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ ช่วั โมงท่ี 5 เรือ่ ง โจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั ความยาวรอบรูปของรูปส่เี หลยี่ มจุดประสงค์การเรียนรู้ สามารถแกโ้ จทยป์ ัญหาเก่ยี วกับความยาวรอบรปู ของรปู สี่เหลยี่ มได้กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูทบทวนการหาความยาวรอบรปู ของรูปส่ีเหลีย่ ม โดยครูตดิ บัตรภาพรูปส่เี หล่ยี มท่ีระบุความกวา้ งและความยาวบนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นทุกคนหาความยาวรอบรูปของรปู สเ่ี หลีย่ มลงในสมดุเสร็จแลว้ ส่งครูตรวจ 3 ซม. 3 ซม. 4 ซม. 2. ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน โดยวิธีการจบั ฉลาก ใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ จบั คู่กันแลว้รว่ มกนั ศกึ ษาความรู้ เรื่อง โจทย์ปัญหาเก่ียวกับความยาวรอบรูปของรปู ส่เี หลีย่ ม 3. ให้นักเรยี นแต่ละคู่ผลัดกันอภปิ รายความร้ทู ่ีศกึ ษามาจนเขา้ ใจตรงกัน 4. ครยู กตวั อย่างการแก้โจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหล่ียม โดยครเู นน้ ให้นักเรียนวิเคราะหโ์ จทย์ แลว้ หาความยาวของดา้ นทุกดา้ น เม่อื ได้ครบแล้วจึงนามาบวกกัน 5. ให้สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มทาแบบฝกึ หดั เร่ือง โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หลี่ยม จากหนงั สอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.5 แลว้ อธบิ ายแลกเปลย่ี นกนั ภายในกลุม่ แล้วสรปุ เปน็ คาตอบของกลุ่ม

325 6. ให้ตวั แทนแต่ละกลมุ่ นาเสนอคาตอบของแบบฝึกหดั กลุ่มละ 1 ข้อ หนา้ ช้ันเรยี น โดยครูตรวจสอบความถูกต้องและอธบิ ายเพ่ิมเติม 7. ให้นกั เรยี นทาใบงานที่ 10.5 เร่ือง การแก้โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั ความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หลีย่ ม เสร็จเรยี บรอ้ ยแลว้ ส่งครูตรวจสอบความถูกต้อง 8. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เก่ียวกับข้นั ตอนการแกโ้ จทย์ปญั หาเกีย่ วกบั ความยาวรอบรูปของรูปส่ีเหล่ียมสอื่ และแหล่งเรยี นรู้ 1. ใบงานที่ 10.5 เร่ือง การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกยี่ วกบั ความยาวรอบรปู ของรูปสเี่ หลยี่ ม 2. บัตรภาพรปู สี่เหล่ียมการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การผา่ น รอ้ ยละ 60 ข้ึนไปตรวจใบงานที่ 10.5 เรอ่ื ง การแก้ ใบงานที่ 10.5 เร่ือง การแกโ้ จทย์ ระดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไปโจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรปู ปัญหาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรูปของ ระดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป ระดบั คุณภาพ 2 ข้ึนไปของรปู สเี่ หล่ียม รปู สี่เหลี่ยมประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะของนักเรียนรายบุคคล อันพงึ ประสงค์ของนกั เรยี นรายบุคคลสังเกตพฤตกิ รรมการทางาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล รายบคุ คลสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม

326 ช่ัวโมงท่ี 6 เร่ือง การหาพน้ื ที่ของรปู สี่เหล่ียมมุมฉากโดยวิธนี ับตารางจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ หาพืน้ ทขี่ องรปู สีเ่ หล่ียมมมุ ฉากทกี่ าหนดให้โดยวธิ ีนับตารางได้กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายเกยี่ วกบั การหาพื้นท่ีของรูปสเี่ หลย่ี มมมุ ฉากโดยการนับตาราง จนไดว้ า่ ให้นบั ตารางหน่วยในรูปส่ีเหลีย่ มน้นั ในกรณีทมี่ ีส่วนไม่เต็มหน่วยใหร้ วมพืน้ ทีส่ ่วนที่เต็มตารางหนว่ ยและไมเ่ ต็มตารางหนว่ ย แลว้ นับรวมกันกาหนดให้ รปู สีเ่ หลย่ี มจัตุรัสน้ีมีพน้ื ที่ 1 ตารางหน่วย 2. ครูขออาสาสมคั รนักเรียนออกมานับตารางในรปู สเ่ี หลีย่ มท่คี รูตดิ ไวบ้ นกระดานวา่ มีกีต่ ารางจากนน้ั ครูอธิบายว่า จานวนตารางที่เพ่ือนนับไดเ้ ราเรยี กว่า พ้นื ท่ขี องรูปสเ่ี หลีย่ ม ซ่ึงมหี น่วยวา่ ตารางหน่วย 3. ให้นักเรยี นสงั เกตวา่ 1 ตารางหนว่ ย จะเป็นรูปส่ีเหล่ยี มจตั รุ ัสทม่ี ีความยาวด้านละ 1หน่วย ซึ่งมีพ้นื ที่ 1 ตารางหน่วย 4. ครูยกตัวอย่างการหาพ้ืนท่ีของรูปสีเ่ หล่ยี มโดยการนับตารางอีก 4 – 5 ตวั อย่าง จนนกั เรียนเขา้ ใจ 5. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน โดยวิธกี ารจับฉลาก และนักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันศึกษาความรเู้ ร่ือง การหาพน้ื ท่ขี องรูปสเี่ หลย่ี มมุมฉากโดยการนับตาราง 6. ให้นักเรยี นรว่ มกันสรปุ เก่ยี วกบั การหาพนื้ ที่ของรปู ส่เี หล่ียมมุมฉากโดยการนับตาราง 7. ให้นกั เรยี นทาใบงานท่ี 10.6 เร่ือง การหาพ้ืนที่ของรปู ส่เี หลี่ยมมุมฉากโดยการนบัตาราง เสรจ็ เรียบรอ้ ยแล้วให้แตล่ ะกล่มุ สรุปคาตอบของกลุ่ม 8. ครเู ฉลยคาตอบของใบงาน แล้วใหน้ ักเรียนตรวจสอบความถูกต้อง และแกไ้ ขในสว่ นท่ียงับกพร่อง จากนัน้ นาใบงานสง่ ครู 9. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เกย่ี วกบั การหาพน้ื ที่ของรูปสเ่ี หล่ียมมมุ ฉากโดยการนบั ตารางสอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ 1. ใบงานท่ี 10.6 เรื่อง การหาพืน้ ท่ีของรปู ส่เี หลยี่ มมมุ ฉากโดยการนับตาราง 2. บตั รภาพรปู สีเ่ หลย่ี ม

327การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ เครือ่ งมอื เกณฑ์การผ่าน วธิ ีการ ใบงานที่ 10.6 เรื่อง การหาพื้นทขี่ องรปู รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไปตรวจใบงานท่ี 10.6 เรอื่ ง การหาพืน้ ที่ของรปู สี่เหลย่ี มมุมฉากโดย สีเ่ หลี่ยมมุมฉากโดยการนับตารางการนบั ตารางประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปของนักเรียนรายบคุ คล ของนักเรียนรายบคุ คลสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ 2ขน้ึ ไปสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม รายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป ชว่ั โมงที่ 7 เรอื่ ง การหาพ้นื ท่ขี องรปู สีเ่ หลี่ยมมุมฉากโดยวธิ ีใช้สูตร(1)4 ซม. 2 ซม.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ หาพืน้ ทข่ี องรปู สี่เหลีย่ มมุมฉากที่กาหนดใหโ้ ดยวธิ ีใชส้ ตู รได้กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสนทนากับนกั เรยี นว่าถ้าจะหาพนื้ ท่ขี องกระดานดาเราควรทาอย่างไร ใช้วธิ กี ารนับตารางได้หรือไม่ 2. ครตู ิดรูปสีเ่ หล่ยี มมุมฉากบนกระดานจากนั้นสนทนากบั นกั เรียนวา่ สามารถหาพืน้ ที่ของรปูสี่เหล่ียมมมุ ฉากโดยวิธใี ช้สตู ร ดงั น้ี 4 ซม. รปู ส่ีเหลย่ี มผืนผา้ รูปนม้ี ตี ารางขนาด 1 ตารางเซนตเิ มตร อยู่ 2 แถว แถวละ 4 ตารางเซนติเมตร รูปน้ีมพี นื้ ที่ 2×4 หรือ 8 ตารางเซนตเิ มตร พ้ืนที่ของรูปสี่เหลยี่ มผืนผา้ = ความกวา้ ง×ความยาว หรือ กวา้ ง×ยาว 4 ซม. รปู ส่ีเหล่ียมจัตุรสั รปู น้ีมีตารางขนาด 1 ตารางเซนติเมตร อยู่ 4 แถว แถวละ 4 ตารางเซนติเมตร รูปน้ีมีพนื้ ท่ี 4×4 หรือ 16 ตารางเซนตเิ มตร พ้นื ที่ของรูปสเี่ หลยี่ มจตั ุรัส = ความยาวของด้าน×ความยาวของด้าน หรือ ด้าน×ดา้ น

328 3. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน โดยวิธีการจบั ฉลาก ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาเก่ียวกับการหาพ้นื ที่ของรูปส่เี หลยี่ มมุมฉากโดยวธิ ีใชส้ ตู ร 4. ครูยกตวั อย่างการหาพื้นท่ีของรูปส่ีเหล่ียมมุมฉาก (รูปส่ีเหลย่ี มผืนผา้ และรูปส่ีเหลีย่ มจตั ุรสั )โดยวธิ ีใช้สูตร พร้อมทง้ั อธิบายเก่ียวกบั หน่วยของพื้นที่วา่ เปน็ อยา่ งไร จนนักเรียนเขา้ ใจ 5. ครตู ดิ รูปส่ีเหล่ยี มมุมฉากที่ระบุความกว้างและความยาวบนกระดาน แล้วใหส้ มาชิกแต่ละกล่มุ ชว่ ยกนั หาพ้นื ที่ของรูปสเ่ี หลยี่ มดังกลา่ วโดยใช้สตู รลงในสมดุ 6. ใหส้ มาชกิ แต่ละกลมุ่ ผลดั กันอภิปรายเกีย่ วกับการหาพนื้ ทีข่ องรปู ส่ีเหลยี่ มมมุ ฉากโดยวิธใี ช้สูตร และหาพ้นื ที่ของรปู สี่เหลย่ี มมมุ ฉากท่ีครตู ดิ บนกระดาน 7. ครสู ุ่มตัวแทนนักเรียน 3 – 4 กลมุ่ อธิบายเกี่ยวกับการหาพน้ื ทข่ี องรปู สเี่ หลี่ยมมมุ ฉากโดยวธิ ีใชส้ ตู ร และแสดงวธิ ีหาพ้ืนที่ของรูปสเ่ี หลี่ยมมมุ ฉากท่ีครูติดบนกระดานหน้าชั้นเรียน โดยมีครตู รวจสอบความถูกตอ้ งและอธบิ ายเพิ่มเติม 8. ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั วดั ความกวา้ งและความยาวของประตูห้องเรียน แล้วใหห้ าพ้นื ที่ของประตบู านนัน้ แล้วรว่ มกนั เฉลยคาตอบ 9. ให้นักเรยี นทาใบงานที่ 10.7 เร่อื ง การหาพน้ื ท่ีของรปู ส่ีเหลยี่ มมุมฉากโดยวธิ ีใชส้ ูตร(1)เสร็จแลว้ นาส่งครู 10. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้เกย่ี วกบั การหาพ้นื ท่ีของรปู สีเ่ หลย่ี มมมุ ฉากโดยวธิ ใี ช้สูตร ไดว้ ่า พ้นื ท่ขี องรูปสเ่ี หล่ียมผนื ผา้ = ความกวา้ ง×ความยาว หรือ กว้าง×ยาว พื้นทขี่ องรปู สเี่ หล่ียมจตั ุรัส = ความยาวของดา้ น×ความยาวของดา้ น หรือ ด้าน × ดา้ นส่อื และแหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานที่ 10.7 เรอ่ื ง การหาพ้ืนทข่ี องรูปส่ีเหลี่ยมมมุ ฉากโดยวิธีใช้สูตร(1) 2. บตั รภาพรปู สีเ่ หล่ยี มการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์การผา่ น รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไปตรวจใบงานที่ 10.7 เรือ่ ง การหา ใบงานที่ 10.7 เร่ือง การหาพื้นทข่ี อง ระดับคุณภาพ 2 ข้นึ ไปพื้นทีข่ องรปู สีเ่ หลีย่ มมุมฉากโดย รปู สเ่ี หลี่ยมมมุ ฉากโดยวธิ ีใชส้ ตู ร(1) ระดับคุณภาพ 2 ขน้ึ ไป ระดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไปวธิ ีใช้สูตร(1)ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะของนักเรียนรายบุคคล อันพงึ ประสงค์ของนกั เรยี นรายบคุ คลสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน รายบคุ คลสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม

329 ชวั่ โมงท่ี 8 เร่ือง การหาพื้นทขี่ องรูปสเ่ี หล่ียมมุมฉากโดยวธิ ใี ช้สตู ร(2)จุดประสงค์การเรียนรู้ หาพน้ื ทขี่ องรูปส่ีเหลยี่ มมุมฉากทกี่ าหนดใหโ้ ดยวธิ ีใช้สตู รได้กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครตู ดิ บัตรภาพรูปส่เี หลยี่ มมุมฉากทร่ี ะบุความกวา้ งและความยาวบนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นทุกคนหาพน้ื ที่ของรูปสเ่ี หล่ยี มมุมฉากโดยวธิ ใี ช้สูตร จากน้ันรว่ มกนั เฉลยคาตอบ 4 ซม.2 ซม. 2. ใหน้ ักเรยี นดูตวั อย่างการหาพ้ืนท่ีของรูปส่เี หลีย่ มมุมฉาก ที่มคี วามซบั ซ้อนมากขึ้น โดยครูอธิบายให้นักเรียนเขา้ ใจ และใหน้ ักเรยี นสงั เกตวิธีหาคาตอบ 3. ให้นกั เรยี นทกุ คนทาใบงานที่ 10.8 เรื่อง การหาพืน้ ที่รปู สเ่ี หลย่ี มมุมฉากโดยวิธีใช้สูตร(2)เสร็จแลว้ นาส่งครูตรวจ 4. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสัยเกยี่ วกับการหาพ้นื ทรี่ ปู สี่เหลยี่ มมุมฉากท่ีมีความซับซ้อนมากขน้ึ 5. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปความรเู้ กย่ี วกับวิธีการหาพน้ื ท่ขี องรปู สเ่ี หลยี่ มมมุ ฉากโดยวิธีใช้สตู ร ได้วา่ พ้นื ทขี่ องรปู สีเ่ หลยี่ มผนื ผา้ = ความกว้าง×ความยาว หรอื กวา้ ง×ยาว พน้ื ที่ของรูปส่ีเหลี่ยมจัตุรัส = ความยาวของดา้ น×ความยาวของด้าน หรอื ดา้ น×ดา้ นส่อื และแหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานที่ 10.8 เรือ่ ง การหาพ้ืนทข่ี องรูปสีเ่ หลี่ยมมุมฉากโดยวธิ ีใชส้ ูตร(2) 2. บตั รภาพรูปสีเ่ หลยี่ มมุมฉากการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การผ่านตรวจใบงานที่ 10.8 เรอ่ื ง การหาพ้ืนที่ ใบงานที่ 10.8 เรื่อง การหาพื้นท่ีของ รอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไปของรูปสีเ่ หลี่ยมมมุ ฉากโดยวธิ ีใช้สูตร(2) รปู สเี่ หลย่ี มมุมฉากโดยวธิ ีใช้สตู ร(2)ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ อง แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 2 ขน้ึ ไปนกั เรียนรายบุคคล อนั พงึ ประสงค์ของนกั เรยี นรายบุคคลสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป รายบุคคล

330 ชวั่ โมงท่ี 9 เรื่อง โจทย์ปัญหาเก่ียวกับพ้ืนท่ีของรูปสี่เหล่ียมมุมฉากจุดประสงค์การเรยี นรู้ สามารถแกโ้ จทยป์ ัญหาเก่ยี วกับพ้ืนทีข่ องรูปสเี่ หลี่ยมมุมฉากได้กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครทู บทวน เรือ่ งการหาพ้นื ทีข่ องรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากโดยวธิ ใี ช้สูตรโดยตั้งคาถามใหน้ ักเรียนตอบ เชน่ - การหาพ้นื ทร่ี ปู สเ่ี หลี่ยมมุมฉากมีสูตรการหาอยา่ งไร - สูตรการหาพนื้ ท่ีรูปส่เี หล่ียมผนื ผ้า คืออะไร - สตู รการหาพื้นทร่ี ูปสี่เหลี่ยมจตั รุ สั คืออะไร 2. ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน คละความสามารถ ใหแ้ ต่ละกลุม่ ศึกษาเกยี่ วกับการหาพืน้ ท่ีของรปู ส่เี หลย่ี มมุมฉากโดยวธิ ใี ช้สูตร 3. ครแู จกบตั รโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับพืน้ ที่ของรปู ส่ีเหล่ียมมุมฉากใหน้ ักเรยี นกลุ่มละ 1 ใบ (แต่ละกลุ่มไดร้ บั โจทย์ไม่ซา้ กัน) 4. ให้แต่ละกลุ่มอา่ นโจทย์ปัญหาท่ไี ด้รบั แลว้ ร่วมกนั วิเคราะห์โจทย์ให้เขา้ ใจ 5. ให้นกั เรยี นทุกคนในกล่มุ ร่วมกนั วางแผนแกโ้ จทย์ปัญหาที่ไดร้ บั เพ่ือหาคาตอบของโจทย์โดยวเิ คราะหว์ า่ โจทยก์ าหนดรปู ส่ีเหลย่ี มมมุ ฉากชนดิ ใด ต้องรอู้ ะไรบา้ ง แล้วใช้สูตรการหาพน้ื ทใ่ี ดมาชว่ ย แลว้เขยี นบนั ทกึ ลงในกระดาษ A4 6. ให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มช่วยกนั หาคาตอบของโจทยป์ ัญหาตามแผนทว่ี างไว้ 7. ใหแ้ ต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนนาเสนอแผนการแก้โจทย์ปญั หาทีไ่ ด้รบั และแสดงวิธคี ดิ หาคาตอบหนา้ ชัน้ เรยี น 8. ให้นักเรยี นแต่ละคนในกลุ่มนาความรทู้ ่ีได้จากการทากจิ กรรมทีผ่ ่านมามาทาใบงานท่ี 10.9เร่อื ง โจทย์ปญั หาเกี่ยวกบั พ้นื ท่ีรปู สเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก 9. ให้สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มผลดั กันอธิบายคาตอบในใบงานท่ี 10.9 ของตนใหส้ มาชกิ คนอ่ืนฟงั ทลี ะคน 10. ครูสมุ่ นกั เรยี นออกมาเฉลยคาตอบของใบงานหนา้ ชนั้ เรียน โดยครเู ป็นผูต้ รวจสอบความถูกต้อง 11. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภิปรายสรปุ เก่ยี วกับการแก้โจทย์ปัญหาเกย่ี วกับพ้นื ที่ของรูปส่ีเหลย่ี มมมุ ฉาก 12. ให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 10 เรอ่ื ง รปู ส่ีเหลี่ยม จานวน 10 ข้อสื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. ใบงานที่ 10.9 เรือ่ ง โจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั พน้ื ท่ีรปู ส่ีเหล่ยี มมมุ ฉาก 2. บตั รโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับพืน้ ที่รูปสี่เหลยี่ มมุมฉาก 3. กระดาษ A4 4. แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 10 เร่ือง รปู สเี่ หลยี่ ม จานวน 10 ข้อ

331การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เครือ่ งมือ เกณฑ์การผ่าน แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการ ร้อยละ 60 ขึ้นไป วิธีการ เรียนรู้ 10 เรอื่ ง รูปสี่เหลย่ี ม ร้อยละ 60 ขึน้ ไปตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการ ใบงานที่ 10.9 เร่ือง โจทย์ปญั หาเรยี นรู้ที่ 10 เรอ่ื ง รปู สีเ่ หลยี่ ม เกย่ี วกับพ้นื ทร่ี ปู สีเ่ หลี่ยมมมุ ฉาก ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปตรวจใบงานท่ี 10.9 เรือ่ ง โจทยป์ ญั หา ระดับคุณภาพ 2 ขน้ึ ไปเกี่ยวกบั พื้นที่รปู สเ่ี หลย่ี มมุมฉาก แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึง ระดับคุณภาพ 2 ขึน้ ไป ประสงค์ของนักเรียนรายบุคคลประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ อง แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานนกั เรยี นรายบุคคล รายบุคคลสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่

3329. บนั ทึกผลหลงั สอน ช่ัวโมงท่ี.............เร่ือง..................................................................................... ผลการเรียนรู้............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. ................................................. ปัญหาและอุปสรรค............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. ................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข............................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .....................................................................ผสู้ อน (....................................................................) วนั ท่ี............. เดือน ..........................................พ.ศ. ...............10. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมาย............................................................................................................................. .......................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื .....................................................................ผู้บริหาร (....................................................................) วันท.ี่ ............ เดือน ..........................................พ.ศ. ...............

333ภาคผนวก

334 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 10 เร่อื ง รปู สี่เหล่ียม (ชว่ั โมงท่ี 1) ใบงานที่ 10.1 เรอื่ ง ชนิดของรปู สเ่ี หล่ียมจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลักษณะ และความสัมพนั ธ์ของรูปสเ่ี หล่ยี มชนิดต่าง ๆ ได้ 2. จาแนกรูปสเี่ หลยี่ มชนดิ ตา่ ง ๆ ได้คาชี้แจง ใหเ้ ตมิ คาตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง1. บอกชนิดของรปู สเ่ี หลย่ี มจากลกั ษณะทีก่ าหนดให้ต่อไปน้ี (6 คะแนน) 1.1 รปู สี่เหลย่ี มที่มีดา้ นตรงข้ามขนานกันเพียง 1 คู่ ตอบ................................................................................... 1.2 รูปส่เี หลี่ยมที่มีดา้ นท่ีอยู่ติดกันยาวเท่ากนั สองคู่ มุมทอ่ี ยู่ตรงข้ามเท่ากนั 1 คู่ ตอบ................................................................................... 1.3 รูปสี่เหลย่ี มที่มีด้านทุกดา้ นยาวเทา่ กัน มมุ ทุกมุมเป็นมุมฉาก ตอบ................................................................................... 1.4 รปู สี่เหลย่ี มท่ีมีดา้ นตรงข้ามยาวเท่ากนั และขนานกัน มมุ ทุกมุมไมเ่ ปน็ มุมฉาก ตอบ................................................................................... 1.5 รปู สีเ่ หลย่ี มท่ีมีด้านทุกดา้ นยาวเทา่ กันและด้านตรงข้ามขนานกัน มุมทุกมมุ ไมเ่ ป็นมุมฉาก ตอบ................................................................................... 1.6 รปู สี่เหลย่ี มที่มีด้านตรงข้ามยาวเท่ากัน ดา้ นท่ีอยตู่ ดิ กันยาวไม่เทา่ กัน มุมทุกมมุ เป็นมุมฉาก ตอบ...................................................................................2. จงพจิ ารณารปู แล้วบอกชนิดของรปู สเี่ หลยี่ มจากรูปทก่ี าหนดให้ (6 คะแนน) 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6

335 เฉลย ใบงานที่ 10.1 เรอ่ื ง ชนดิ ของรปู สีเ่ หลี่ยมจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกลักษณะ และความสมั พนั ธ์ของรูปส่เี หลยี่ มชนดิ ต่างๆ ได้ 2. จาแนกรูปสเี่ หลยี่ มชนิดต่างๆ ได้คาชีแ้ จง ใหเ้ ติมคาตอบลงในช่องวา่ งให้ถกู ต้อง1. บอกชนิดของรปู ส่ีเหลยี่ มจากลกั ษณะทก่ี าหนดให้ต่อไปน้ี (6 คะแนน) 1.1 รปู สี่เหลี่ยมท่ีมีดา้ นตรงข้ามขนานกันเพียง 1 คู่ ตอบ.....................รปู ส่ีเหลี่ยมคางหมู.................................. 1.2 รปู สี่เหลี่ยมที่มดี า้ นที่อยู่ติดกันยาวเทา่ กนั สองคู่ มุมทอ่ี ยู่ตรงขา้ มเทา่ กัน 1 คู่ ตอบ....................รปู สีเ่ หลีย่ มรูปว่าว................................... 1.3 รปู สี่เหลีย่ มท่ีมดี ้านทุกด้านยาวเท่ากัน มมุ ทุกมุมเป็นมมุ ฉาก ตอบ....................รูปสเี่ หล่ยี มจัตรุ สั ..................................... 1.4 รปู สเี่ หลีย่ มที่มีด้านตรงข้ามยาวเท่ากันและขนานกนั มมุ ทุกมมุ ไมเ่ ปน็ มุมฉาก ตอบ....................รูปสเ่ี หลยี่ มด้านขนาน.............................. 1.5 รูปสเ่ี หลี่ยมท่ีมดี า้ นทุกด้านยาวเทา่ กนั และด้านตรงข้ามขนานกนั มุมทุกมมุ ไมเ่ ป็นมุมฉาก ตอบ.....................รปู ส่ีเหลย่ี มขนมเปยี กปูน........................ 1.6 รปู ส่ีเหลี่ยมที่มดี า้ นตรงข้ามยาวเท่ากัน ดา้ นที่อยตู่ ิดกันยาวไม่เทา่ กนั มุมทุกมุมเปน็ มมุ ฉาก ตอบ.....................รปู สีเ่ หลีย่ มผืนผา้ ....................................2. จงพจิ ารณารปู แล้วบอกชนิดของรปู สเ่ี หลี่ยมจากรูปท่กี าหนดให้ (6 คะแนน) 2.1 2.2 2.3 ..........รปู ส่เี หลย่ี มผนื ผ้า........ ..........รปู สเี่ หล่ียมจัตุรสั ......... ..…รปู สี่เหลี่ยมขนมเปียกปนู .…2.4 2.5 2.6.........รปู สีเ่ หล่ียมคางหมู......... .........รูปสเ่ี หลย่ี มรูปว่าว.......... ........รปู ส่ีเหล่ียมด้านขนาน.......

336 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 10 เร่อื ง รูปสี่เหลี่ยม (ชว่ั โมงที่ 2) ใบงานท่ี 10.2 เรอ่ื ง การสรา้ งรูปสเ่ี หล่ียมมุมฉากโดยใช้ไม้ฉากจุดประสงค์การเรยี นรู้ สร้างรปู สี่เหลย่ี มมุมฉากโดยใชไ้ มฉ้ ากได้คาชแี้ จง ให้นักเรยี นสรา้ งรูปส่เี หลีย่ มมุมฉากตามเงื่อนไขทกี่ าหนด (10 คะแนน)1) สร้างรปู ส่ีเหล่ยี มจตั ุรสั ABCD ให้มีดา้ นยาวดา้ นละ 4 เซนติเมตร2) สรา้ งรปู ส่เี หล่ียมผนื ผ้าให้มีด้านยาว ยาว 7 เซนตเิ มตร และ ด้านกว้าง ยาว 4.5 เซนติเมตร พรอ้ มทง้ั ต้ังชื่อ

337 เฉลย ใบงานท่ี 10.2 เร่อื ง การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากโดยใช้ไมฉ้ ากจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สรา้ งรปู สเ่ี หลย่ี มมมุ ฉากโดยใช้ไม้ฉากได้คาชแ้ี จง ใหส้ รา้ งรปู สี่เหลยี่ มมุมฉากตามเงื่อนไขที่กาหนด (10 คะแนน)1) สร้างรูปสีเ่ หล่ยี มจตั ุรสั ABCD ใหม้ ีดา้ นยาวด้านละ 4 เซนตเิ มตร2) สร้างรูปสี่เหลยี่ มผนื ผ้าให้มีด้านยาว ยาว 7 เซนตเิ มตร และ ด้านกวา้ ง ยาว 4.5 เซนตเิ มตร พรอ้ มท้งั ต้ังชอื่ อยใู่ นดุลยพินจิ ของครูผ้สู อน

338 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 10 เรื่อง รูปสเี่ หล่ียม (ช่วั โมงที่ 3) ใบงานท่ี 10.3 เร่ือง การสรา้ งรปู ส่ีเหล่ียมมุมฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์จุดประสงค์การเรียนรู้ สรา้ งรปู สเ่ี หลยี่ มมุมฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์ได้คาชี้แจง ให้สร้างรปู สี่เหล่ยี มมมุ ฉากโดยใชโ้ พรแทรกเตอรต์ ามเง่ือนไขที่กาหนด (10 คะแนน)1) สรา้ งรปู สี่เหลีย่ มมมุ ฉาก กขคง ให้มดี ้านยาว ดา้ นละ 5.5 เซนติเมตร2) สร้างรปู สี่เหล่ยี มผืนผ้า ให้ ยาว 8 เซนตเิ มตร และ ยาว 6 เซนติเมตร

339 เฉลย ใบงานที่ 10.3 เร่อื ง การสรา้ งรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์จุดประสงค์การเรียนรู้ สร้างรูปสเี่ หลีย่ มมุมฉากโดยใช้โพรแทรกเตอร์ได้คาชี้แจง ให้สร้างรูปส่ีเหลย่ี มมุมฉากโดยใชโ้ พรแทรกเตอร์ตามเงื่อนไขทีก่ าหนด (10 คะแนน)1) สร้างรูปสเี่ หลยี่ มมมุ ฉาก กขคง ให้มีดา้ นยาว ด้านละ 5.5 เซนติเมตร2) สร้างรปู ส่เี หลี่ยมผนื ผ้า ให้ ยาว 8 เซนตเิ มตร และ ยาว 6 เซนตเิ มตร อยู่ในดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน

340หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 เร่อื ง รปู สเ่ี หลี่ยม (ช่ัวโมงที่ 4) ใบงานท่ี 10.4 เร่ือง การหาความยาวรอบรปู ของรูปสเ่ี หล่ยี มจุดประสงค์การเรยี นรู้ เมือ่ กาหนดรูปสเ่ี หลยี่ มให้ สามารถหาความยาวรอบรปู ของรูปส่เี หล่ียมได้คาช้แี จง จงหาความยาวรอบรปู ของรปู สี่เหลีย่ มตอ่ ไปน้ี (12 คะแนน)1. 8.5 ซม. 2. 12.5 ซม. 5 ซม. 10 ซม.ความยาวรอบรปู =...................................ซม. ความยาวรอบรูป =...................................ซม.3. 5 ซม. 4.ความยาวรอบรปู =...................................ซม. 3 ซม. 5 ซม. ความยาวรอบรูป =...................................ซม.5. 6 ซม. 6. 4.5 ซม.ความยาวรอบรปู =...................................ซม. 6 ซม. 6 ซม. 8.5 ซม. ความยาวรอบรปู =...................................ซม.

341 เฉลย ใบงานท่ี 10.4 เรอ่ื ง การหาความยาวรอบรปู ของรปู สี่เหลี่ยมจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมื่อกาหนดรปู สเ่ี หลี่ยมให้ สามารถหาความยาวรอบรูปของรูปสี่เหล่ียมได้คาช้แี จง จงหาความยาวรอบรปู ของรปู สเ่ี หลี่ยมต่อไปนี้ (12 คะแนน)1. 8.5 ซม. 2. 12.5 ซม. 5 ซม. 10 ซม.ความยาวรอบรูป =.................27..............ซม. ความยาวรอบรูป =................45...............ซม.3. 5 ซม. 4. 3 ซม.ความยาวรอบรปู =.................20...............ซม. 5 ซม. ความยาวรอบรปู =.................16..............ซม.5. 6 ซม. 6. 4.5 ซม.ความยาวรอบรปู =................24................ซม. 6 ซม. 6 ซม. 8.5 ซม. ความยาวรอบรูป =................25...............ซม.

342 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 10 เรอ่ื ง รูปสีเ่ หลยี่ ม (ชั่วโมงที่ 5) ใบงานที่ 10.5 เร่ือง การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกับความยาวรอบรปู ของรปู ส่เี หลี่ยมจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สามารถแก้โจทยป์ ัญหาเกีย่ วกับความยาวรอบรูปของรูปสีเ่ หล่ยี มได้คาชีแ้ จง ให้แสดงวิธีทาโจทย์ปัญหาต่อไปนี้ (15 คะแนน)1. คุณพ่อตอ้ งการทารว้ั ล้อมที่ดนิ แปลงหน่ึงเป็นรปู ส่เี หล่ยี มมมุ ฉากกวา้ ง 17 วา ยาว 20 วา จงหาว่ารวั้ ลอ้ มรอบที่ดนิ นี้ยาวก่ีวา…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………2. สนามรปู ส่เี หล่ยี มผนื ผา้ แห่งหน่งึ มคี วามกว้าง 25 เมตร ยาว 70 เมตร แหวนวิ่งออกกาลังกายรอบ สนามน้ี คดิ เป็นระยะทางท้ังหมดกี่เมตร…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3433. กระดาษแผ่นหน่ึงเปน็ รูปสเ่ี หลย่ี มจตั ุรสั ยาวด้านละ 65 เซนตเิ มตร กระดาษแผน่ นีม้ ีความยาวรอบ รูปกีเ่ ซนตเิ มตร…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………4. สระนา้ แหง่ หน่ึงรูปสเ่ี หลี่ยมมุมฉากกวา้ ง 12 เมตร ยาว 16 เมตร วัดโดยรอบสระน้าแหง่ นีย้ าวเท่าใด…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………5. สนามหญ้ารูปสี่เหลี่ยมจตั รุ ัสยาวดา้ นละ 24 เมตร สนามหญา้ แหง่ นม้ี คี วามยาวรอบรูปเทา่ ใด…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

344เฉลย ใบงานที่ 10.5 เรือ่ ง การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั ความยาวรอบรปู ของรูปส่เี หลย่ี มจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สามารถแกโ้ จทยป์ ัญหาเกย่ี วกับความยาวรอบรูปของรปู ส่เี หลยี่ มได้คาช้ีแจง ใหแ้ สดงวิธีทาโจทยป์ ัญหาตอ่ ไปน้ี (15 คะแนน)1. คณุ พ่อต้องการทารว้ั ล้อมที่ดินแปลงหนึ่งเป็นรูปสเี่ หลี่ยมมมุ ฉากกวา้ ง 17 วา ยาว 20 วา จงหาว่ารว้ั ลอ้ มรอบท่ีดินน้ียาวกี่วา……วิธีทา.....คณุ พ่อต้องการทารัว้ ลอ้ มท่ดี ินแปลงหนึง่ เปน็ รูปส่ีเหล่ียมมุมฉากกวา้ ง...........17……...วา……….………………..ยาว................................................................................................................. 20.........วา..............................รั้วลอ้ มรอบท่ีดินนย้ี าว.....................................................17 + 20 + 17 + 20...........วา..........……………………………………………………………………………………………=……………74…………วา................................ตอบ......................................๗๔..........วา....................................................................................... .......2. สนามรูปส่ีเหลย่ี มผนื ผ้าแหง่ หนึง่ มคี วามกวา้ ง 25 เมตร ยาว 70 เมตร แหวนวิง่ ออกกาลังกายรอบ สนามนี้ คิดเป็นระยะทางทั้งหมดกีเ่ มตร……วิธที า.....สนามรูปส่เี หล่ยี มผืนผา้ แหง่ หนึ่งมคี วามกวา้ ง.................................................25……...เมตร……………………..ยาว................................................................................................................. 70.........เมตร……....................แหวนว่ิงออกกาลังกายรอบสนามน้ี คดิ เป็นระยะทางทั้งหมด....25 + 70 + 25 + 70......เมตร……………………………………………………………………………………………=……………190…………เมตร.........................ตอบ......................................๑๙๐..........เมตร.......................................................................................3. กระดาษแผ่นหนงึ่ เป็นรปู สี่เหลีย่ มจัตุรสั ยาวดา้ นละ 65 เซนตเิ มตร กระดาษแผ่นน้มี คี วามยาวรอบ รูปกี่เซนติเมตร……วิธที า.....กระดาษแผ่นหน่ึงเป็นรูปสเ่ี หลี่ยมจัตุรัสยาวด้านละ...............................65……...เซนติเมตร……………………..กระดาษแผ่นน้ีมีความยาวรอบรปู ...........................65 + 65 + 65 + 65...........เซนตเิ มตร…….................................................................................................หรือ..............4×65.................เซนตเิ มตร…………………………………………………………………………………………………=……………260…………..…เซนติเมตร............ตอบ......................................๒๖๐..........เซนติเมตร..............................................................................

3454. สระนา้ แห่งหน่งึ รปู สเ่ี หลย่ี มมมุ ฉากกว้าง 12 เมตร ยาว 16 เมตร วดั โดยรอบสระนา้ แหง่ นีย้ าวเท่าใด……วธิ ีทา.....สระน้าแหง่ หน่งึ รูปสเี่ หล่ียมมุมฉากกว้าง.........................................................12……...เมตร……………………..ยาว.................................................................................................................. 16.........เมตร……....................วดั โดยรอบสระน้าแห่งนี้ยาว...........................................12 + 16 + 12 + 16...........เมตร…………………………………………………………………………………………………=……………56…….………เมตร.........................ตอบ......................................๕๖..........เมตร...........................................................................................5. สนามหญ้ารูปสี่เหลี่ยมจตั รุ ัสยาวด้านละ 24 เมตร สนามหญ้าแห่งน้ีมคี วามยาวรอบรปู เทา่ ใด……วิธีทา.....สนามหญ้ารปู สี่เหลย่ี มจัตรุ ัสยาวด้านละ...................................................24…….........เมตร……………………..สนามหญา้ แห่งน้มี คี วามยาวรอบรปู ...........................24 + 24 + 24 + 24.................เมตร…….................................................................................................หรอื ..............4×24..........................เมตร…………………………………………………………………………………………………=………….96…………………………เมตร............ตอบ......................................๙๖.............เมตร.......................................................................................

346 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 10 เร่ือง รูปสีเ่ หลย่ี ม (ช่วั โมงท่ี 6) ใบงานท่ี 10.6 เร่ือง การหาพ้ืนที่ของรปู ส่ีเหล่ียมมุมฉากโดยการนับตารางจดุ ประสงค์การเรียนรู้ หาพนื้ ทข่ี องรปู สี่เหลีย่ มมมุ ฉากที่กาหนดใหโ้ ดยวิธนี บั ตารางได้คาช้แี จง ให้หาพื้นท่ีของรูปสเี่ หล่ียมจากรูปท่ีกาหนดใหโ้ ดยการนับตาราง (10 คะแนน) กาหนดให้ รปู ส่ีเหล่ียมจัตุรัสนม้ี พี น้ื ท่ี 1 ตารางหน่วย 1) พืน้ ท.่ี ...........................................ตารางหนว่ ย 2) พ้นื ท.ี่ ...........................................ตารางหน่วย 3) พื้นท.ี่ ...........................................ตารางหนว่ ย 4) พ้ืนท่.ี ...........................................ตารางหนว่ ย 5) พนื้ ที่............................................ตารางหนว่ ย

347 เฉลย ใบงานที่ 10.6 เรอ่ื ง การหาพ้นื ทข่ี องรูปสเ่ี หลย่ี มมมุ ฉากโดยการนบั ตารางจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ หาพน้ื ทข่ี องรปู ส่ีเหลีย่ มมมุ ฉากทก่ี าหนดใหโ้ ดยวิธนี ับตารางได้คาชแ้ี จง ให้หาพน้ื ที่ของรปู ส่เี หลี่ยมจากรปู ทีก่ าหนดให้โดยการนับตาราง (10 คะแนน) กาหนดให้ รปู สเ่ี หลี่ยมจัตรุ ัสนี้มพี ้ืนท่ี 1 ตารางหนว่ ย 1) พืน้ ที.่ .................21....................ตารางหนว่ ย 2) พืน้ ที่..................22..................ตารางหน่วย 3) พน้ื ที.่ ..................32.................ตารางหนว่ ย 4) พ้นื ที่......................9..................ตารางหนว่ ย 5) พน้ื ท่ี.....................11..................ตารางหนว่ ย

348 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 10 เร่ือง รูปสเี่ หลยี่ ม (ชั่วโมงท่ี 7) ใบงานท่ี 10.7 เรอื่ ง การหาพน้ื ท่ีของรูปส่เี หล่ียมมุมฉากโดยวธิ ใี ชส้ ูตร(1)จุดประสงค์การเรยี นรู้ หาพ้นื ทข่ี องรูปส่เี หลี่ยมมมุ ฉากที่กาหนดใหโ้ ดยวธิ ใี ชส้ ูตรได้คาช้แี จง ใหแ้ สดงวธิ หี าพ้นื ทข่ี องรปู ส่ีเหลยี่ มมุมฉากโดยวิธีใชส้ ตู ร (20 คะแนน)1) 8 ซม. 4 ซม.2) 3.5 ซม. 3.5 ซม.3) 7.5 ซม. 2 ซม.4) 2 ซม. 2 ซม.5) 9 ซม. 5.5 ซม.

349เฉลย ใบงานท่ี 10.7 เร่อื ง การหาพ้ืนทข่ี องรูปสเ่ี หล่ียมมุมฉากโดยวธิ ใี ช้สูตร(1)จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ หาพื้นทข่ี องรปู ส่เี หลีย่ มมมุ ฉากที่กาหนดให้โดยวิธใี ชส้ ูตรได้คาชี้แจง ให้แสดงวิธีหาพน้ื ที่ของรปู ส่ีเหล่ยี มมมุ ฉากโดยวิธีใชส้ ูตร (20 คะแนน)1) 8 ซม. วธิ ีทา พน้ื ท่รี ูปสเ่ี หลี่ยมผืนผ้า = กวา้ ง×ยาว = 4×8 ตารางเซนติเมตร 4 ซม. = 32 ตารางเซนติเมตร ตอบ ๓๒ ตารางเซนติเมตร2) 3.5 ซม. วิธที า พ้นื ท่รี ปู สี่เหลยี่ มจตั ุรัส = ดา้ น×ดา้ น = 3.5×3.5 ตารางเซนติเมตร 3.5 ซม. = 12.25 ตารางเซนติเมตร ตอบ ๑๒.๒๕ ตารางเซนตเิ มตร3) วธิ ที า พืน้ ที่รปู สเี่ หลี่ยมผนื ผา้ = กวา้ ง×ยาว = 2×7.5 ตารางเซนตเิ มตร 7.5 ซม. = 15 ตารางเซนติเมตร 2 ซม. ตอบ ๑๕ ตารางเซนตเิ มตร4) 2 ซม. วิธีทา พน้ื ที่รูปสเ่ี หล่ียมจตั รุ ัส = ดา้ น×ดา้ น 2 ซม. = 2×2 ตารางเซนตเิ มตร = 4 ตารางเซนติเมตร5) 9 ซม. ตอบ ๔ ตารางเซนตเิ มตร 5.5 ซม. วิธที า พนื้ ท่ีรปู สเ่ี หลย่ี มผืนผา้ = กวา้ ง×ยาว = 5.5×9 ตารางเซนตเิ มตร = 49.5 ตารางเซนตเิ มตร ตอบ ๔๙.๕ ตารางเซนติเมตร

350 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 10 เรือ่ ง รูปสี่เหลย่ี ม (ช่ัวโมงที่ 8) ใบงานที่ 10.8 เร่ือง การหาพ้นื ทข่ี องรปู ส่เี หล่ียมมุมฉากโดยวิธีใชส้ ตู ร(2)จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ หาพ้นื ทขี่ องรูปส่เี หลย่ี มมุมฉากทีก่ าหนดให้โดยวธิ ีใช้สูตรได้คาช้แี จง ใหแ้ สดงวธิ ีหาพนื้ ที่ส่วนที่ระบายสโี ดยวธิ ีใช้สตู ร (15 คะแนน)1) 5 ซม.1 ซม. 1 ซม. 3 ซม. 1 ซม. 1 ซม. 7 ซม.2) 3 ซม.5 ซม. 3 ซม.3) 4 ซม. 1.5 ซม. 3 ซม. 5.5 ซม. 4 ซม.

351 เฉลย ใบงานท่ี 10.8 เรอื่ ง การหาพ้ืนท่ขี องรปู ส่เี หลี่ยมมุมฉากโดยวิธีใชส้ ูตร(2)จุดประสงค์การเรยี นรู้ หาพน้ื ทขี่ องรปู สเี่ หล่ียมมุมฉากทก่ี าหนดใหโ้ ดยวธิ ีใช้สูตรได้คาชีแ้ จง ให้แสดงวิธีหาพน้ื ทส่ี ว่ นทร่ี ะบายสีโดยวธิ ใี ชส้ ูตร (15 คะแนน)1) 5 ซม. วิธที า พน้ื ทีข่ องรปู สีเ่ หล่ยี มใหญ่ = กวา้ ง×ยาว = 3×5 ตารางเซนตเิ มตร3 ซม. = 15 ตารางซนเติเมตร1 ซม. 1 ซม. 3 ซม. พน้ื ที่ของรูปสเ่ี หล่ยี มเล็ก = (1×1) + (1×1) ตารางเซนเตเิ มตร = 2 ตารางซนเตเิ มตร 1 ซม. 1 ซม. พ้นื ทส่ี ว่ นทีร่ ะบายสี = 15 – 2 ตารางซนเตเิ มตร = 13 ตารางซนเติเมตร ตอบ ๑๓ ตารางเซนตเิ มตร2) 7 ซม. วธิ ที า พนื้ ทขี่ องรูปสเ่ี หลี่ยมใหญ่ = กว้าง×ยาว 3 ซม. = 5×7 ตารางเซนตเิ มตร = 35 ตารางซนเตเิ มตร5 ซม. 3 ซม. พน้ื ท่ขี องรปู ส่ีเหลี่ยมเล็ก = ดา้ น×ดา้ น = 3×3 ตารางเซนตเิ มตร = 9 ตารางซนเติเมตร พื้นทส่ี ่วนท่รี ะบายสี = 35 – 9 ตารางซนเตเิ มตร ตอบ ๒๖ ตารางเซนติเมตร3) 4 ซม. วิธที า พื้นท่ขี องรปู ส่เี หลีย่ มใหญ่ = กว้าง×ยาว 1.5 ซม. 3 ซม. = 7×9.5 ตารางเซนติเมตร 5.5 ซม. = 66.5 ตารางซนเตเิ มตร พืน้ ทขี่ องรูปสี่เหล่ียมเลก็ = (3×5.5) + (1.5×4) ตารางเซนเตเิ มตร4 ซม. = 22.5 ตารางซนเติเมตร พื้นที่ส่วนท่ีระบายสี = 66.5 – 22.5 ตารางซนเตเิ มตร ตอบ ๔๔ ตารางเซนตเิ มตรหมายเหตุ วธิ หี าคาตอบมหี ลายวธิ ี ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน

352 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 10 เรอื่ ง รูปสี่เหลีย่ ม (ช่ัวโมงที่ 9) ใบงานท่ี 10.9 เร่อื ง โจทย์ปัญหาเก่ยี วกับพ้นื ทีร่ ูปส่ีเหล่ียมมุมฉากจุดประสงค์การเรียนรู้ สามารถแกโ้ จทยป์ ัญหาเกี่ยวกับพนื้ ทีข่ องรูปสี่เหล่ยี มมมุ ฉากได้คาชแ้ี จง ให้แสดงวธิ ีทาโจทยป์ ญั หาตอ่ ไปนี้ (10 คะแนน)1. กรอบรูปสเ่ี หลี่ยมผืนผ้ากว้าง 21 เซนตเิ มตร ยาว 35 เซนติเมตร มีพืน้ ท่ีก่ีตารางเซนตเิ มตร วิธีทา ตอบ2. สนามเดก็ เล่นรูปสเ่ี หลี่ยมจตั รุ สั มีด้านยาวดา้ นละ 65 เมตร สนามเดก็ เลน่ แหง่ นี้มีพ้นื ท่ีเท่าไร วธิ ีทาตอบ

353 เฉลย ใบงานท่ี 10.9 เร่ือง โจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั พนื้ ทีร่ ูปสเ่ี หลี่ยมมุมฉากจุดประสงค์การเรียนรู้ สามารถแกโ้ จทยป์ ัญหาเกยี่ วกับพน้ื ทีข่ องรปู สีเ่ หล่ยี มมุมฉากได้คาช้แี จง ให้แสดงวธิ ที าโจทย์ปญั หาต่อไปน้ี (10 คะแนน)1. กรอบรูปสี่เหลย่ี มผืนผ้ากว้าง 21 เซนติเมตร ยาว 35 เซนติเมตร มพี นื้ ทีก่ ี่ตารางเซนตเิ มตร วธิ ีทา กรอบรปู สีเ่ หลี่ยมผืนผ้ากวา้ ง..........................21………….เซนตเิ มตร ยาว................................................................35………….เซนติเมตร พ้นื ท่ีรูปสเ่ี หลยี่ มผนื ผ้า = กวา้ ง×ยาว = 21×35 ตารางเซนตเิ มตร = 735 ตารางเซนติเมตร ดังน้ัน กรอบรูปสเ่ี หลย่ี มผืนผ้ามีพื้นท่ี 735 ตารางเซนตเิ มตร ตอบ ๗๓๕ ตารางเซนตเิ มตร2. สนามเด็กเล่นรูปสเ่ี หลีย่ มจัตรุ สั มีดา้ นยาวด้านละ 65 เมตร สนามเดก็ เล่นแหง่ น้ีมีพื้นท่ีเท่าไร วธิ ที า สนามเด็กเลน่ รปู สเ่ี หลย่ี มจัตรุ ัส มีดา้ นยาวด้านละ............ 65…….. เมตร พื้นทร่ี ูปสเี่ หล่ยี มจัตรุ ัส = ดา้ น×ดา้ น = 65×65 ตารางเมตร = 4,225 ตารางเมตร ดงั น้นั สนามเด็กเลน่ แห่งนี้มพี ื้นที่ 4,225 ตารางเมตร ตอบ ๔,๒๒๕ ตารางเมตร

354 แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 10 เร่อื ง รปู สเ่ี หล่ียม กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5คาชี้แจง ให้เลือกคาตอบทีถ่ ูกต้องท่ีสุดเพยี งข้อเดียว (10 คะแนน)1. รปู ต่อไปน้เี ปน็ รูปสเ่ี หลี่ยมชนดิ ใด ก. รปู สเ่ี หลีย่ มคางหมู ข. รปู สเ่ี หลยี่ มดา้ นขนาน ค. รูปสเ่ี หลยี่ มด้านขนาน ง. รูปส่เี หลี่ยมขนมเปียกปูน2. รปู สเี่ หลี่ยมในข้อใดมีมมุ ทุกมมุ เป็นมมุ ฉากท้งั หมด ก. รปู สีเ่ หลีย่ มคางหมู, รปู สเี่ หลย่ี มผนื ผา้ ข. รปู สี่เหล่ยี มจตั รุ ัส, รูปสเ่ี หลีย่ มด้านขนาน ค. รปู สีเ่ หล่ียมขนมเปยี กปูน, รปู สเ่ี หล่ียมจตั รุ สั ง. รูปสี่เหลีย่ มจัตรุ สั , รปู สี่เหลย่ี มผนื ผ้า3. ดนยั วิ่งรอบสนามรปู สีเ่ หลี่ยมผนื ผ้ากว้าง 25 เมตร ยาว 40 เมตร ดนัยวิง่ ไดร้ ะยะทางเท่าไร ก. 65 เมตร ข. 130 เมตร ค. 195 เมตร ง. 260 เมตร4. รปู สี่เหลย่ี มรูปน้ีมคี วามยาวรอบรปู เทา่ กบั ข้อใด 2.5 ซม. ก. 6.5 เซนติเมตร ข. 8.5 เซนตเิ มตร ค. 10 เซนติเมตร 4 ซม. ง. 13 เซนตเิ มตร5. ผ้าเช็ดหนา้ รปู ส่ีเหลย่ี มจตั รุ ัสมีความยาวรอบรูป 32 เซนติเมตร มคี วามยาวดา้ นละเทา่ ไร ก. 4 เซนตเิ มตร ข. 6 เซนตเิ มตร ค. 8 เซนตเิ มตร ง. 9 เซนตเิ มตร

3556. รปู สี่เหลยี่ มจัตุรสั รปู นม้ี ีพ้นื ทีเ่ ทา่ กับเท่าไร ก. 12 ตารางเซนตเิ มตร ข. 12.25 ตารางเซนติเมตร 3.5 ซม. ค. 14 ตารางเซนติเมตร ง. 14.25 ตารางเซนติเมตร7. แปลงผักรปู ส่เี หลี่ยมจัตรุ สั ยาวดา้ นละ 7 เมตร แปลงผักน้ีจะมพี ืน้ ทีเ่ ท่าไร ก. 14 ตารางเมตร ข. 28 ตารางเมตร ค. 49 ตารางเมตร ง. 84 ตารางเมตร8. สมศรีนาลวดยาว 48 เซนติเมตร มาดัดเป็นรูปส่เี หลย่ี มจัตรุ ัส จะได้สเี่ หล่ียมจัตรุ ัสมีพื้นท่ีเท่าไร ก. 144 ตารางเซนตเิ มตร ข. 121 ตารางเซนติเมตร ค. 96 ตารางเซนตเิ มตร ง. 24 ตารางเซนติเมตร9. ท่นี ารูปสเี่ หลยี่ มผนื ผา้ กวา้ ง 18 วา ยาว 22 วา จะมพี ้ืนทเี่ ทา่ ไร ก. 220 ตารางวา ข. 396 ตารางวา ค. 400 ตารางวา ง. 484 ตารางวา10. ผา้ รปู สเี่ หลีย่ มมมุ ฉากมีด้านกว้าง 2 เมตร ยาว 9 เมตร ถ้าตดั เป็นผา้ เชด็ หน้ารปู สเี่ หลี่ยมจตั รุ สั ผนื เลก็ ๆยาวด้านละ 30 เซนติเมตร จะตดั ได้ก่ีผนื ก. 200 ข. 900 ค. 1,800 ง. 2,000

356 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 10 เรื่อง รูปสเ่ี หล่ยี ม1. ก 2. ง 3. ข 4. ง 5. ค 10. ก6. ข 7. ค 8. ก 9. ข

357 แบบประเมินช้ินงานแบบประเมนิ การสรา้ งรปู ส่เี หลีย่ มมุมฉากโดยใชโ้ พรแทรกเตอร์ตามเง่อื นไขทค่ี รูกาหนดรายการประเมิน คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)1. การสรา้ งรปู สร้างรูปส่ีเหล่ยี มมุมฉาก สรา้ งรูปสีเ่ หลยี่ มมมุ ฉาก สรา้ งรปู ส่เี หลยี่ มมมุ ฉาก สเ่ี หลย่ี มมุมฉาก โดยใช้โพรแทรกเตอร์ได้ โดยใช้ โพรแทรกเตอร์ได้ โดยใช้ โพรแทรกเตอร์ได้ ถูกต้องตามเงือ่ นไข ท้ัง 3 ถูกต้องตามเงือ่ นไข 2 รปู ถูกต้องตามเงอื่ นไข 1 รูป2. การหาความยาว รปู รอบรูปของรปู หาความยาวรอบรูปของ หาความยาวรอบรูปของ สี่เหลย่ี มมุมฉาก หาความยาวรอบรปู ของ รูปสีเ่ หลยี่ มมุมฉากทีส่ ร้าง รปู สเี่ หลี่ยมมมุ ฉากทส่ี ร้าง รูปสีเ่ หล่ียมมุมฉากที่สร้าง ไดถ้ ูกตอ้ ง 2 รูป ได้ถูกตอ้ ง 1 รปู ได้ถูกต้อง ทั้ง 3 รปู3. การหาพ้นื ท่ขี อง หาพื้นทข่ี องรูปส่เี หลย่ี ม หาพน้ื ทีข่ องรปู ส่เี หลี่ยม หาพนื้ ท่ขี องรูปสเี่ หลี่ยมรูปสี่เหล่ยี มมุม มุมฉากท่ีสรา้ งได้ถูกต้อง มุมฉากทสี่ ร้างไดถ้ ูกตอ้ ง มุมฉากทสี่ ร้างไดถ้ ูกตอ้ งฉาก ท้ัง 3 รูป 2 รปู 1 รปูระดับคุณภาพ เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ (1)ชว่ งคะแนน ต่ากว่า 5 ดี(3) พอใช้(2) 7–9 5–6

358 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่มคาชแ้ี จง ให้ครผู สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมในการทางานกลุม่ ของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนแลว้ ขดี  ลงในชอ่ ง ใหต้ รงกับความเปน็ จรงิ รายการสงั เกตที่ ชอื่ – สกลุ การรับฟงั การแสดง การ ความมีนา้ ใจ รวม ความคดิ เหน็ ความ วางแผน เออ้ื เฟ้อื คดิ เห็น เสียสละ 3 2 1321321 3 2 112345678910111213 รวมคะแนน รวมท้งั สิน้ เฉลยี่ รอ้ ยละ ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมนิ (………………………….………..……...) ............../.................../...............เกณฑ์การให้คะแนน 3 หมายถงึ สามารถปฏิบตั ิได้ระดบั ดีมาก ช่วงคะแนน 10 – 12 คะแนน 2 หมายถงึ สามารถปฏิบัติไดร้ ะดับพอใช้ ช่วงคะแนน 7 – 9 คะแนน 1 หมายถงึ การปฏิบตั อิ ยู่ในระดบั ต้องปรับปรุง ชว่ งคะแนน 4 – 6 คะแนน

359 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคลคาช้แี จง ให้ครผู สู้ อนสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คลของนักเรียน ในระหวา่ งเรยี นแลว้ ขีด ลงในช่อง ให้ตรงกบั ความเปน็ จริง รายการประเมนิท่ี ช่ือ – สกลุ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มัน่ ในการ รวม ทางาน 3 2 1321321123456789101112 รวมคะแนน รวมทง้ั สิ้น เฉลยี่ ร้อยละ ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมิน (………………………..…………..……...) ............../.................../................เกณฑก์ ารให้คะแนน 3 หมายถึง สามารถปฏบิ ัตไิ ดร้ ะดบั ดมี าก ชว่ งคะแนน 8 – 9 คะแนน 2 หมายถงึ สามารถปฏิบัติไดร้ ะดบั พอใช้ ชว่ งคะแนน 6 – 7 คะแนน 1 หมายถึง การปฏบิ ัติอยู่ในระดบั ต้องปรับปรุง ช่วงคะแนน 3 – 5 คะแนน

360 แบบประเมินการนาเสนอผลงานคาชี้แจง ให้ครผู ู้สอนประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี น แลว้ ขดี ลงในช่อง ให้ตรงกับความเป็นจรงิลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 43211 นาเสนอเนอ้ื หาในผลงานได้ถูกตอ้ ง2 การนาเสนอมคี วามน่าสนใจ3 ความเหมาะสมกับเวลา4 ความกลา้ แสดงออก5 บคุ ลิกภาพ นา้ เสียงเหมาะสม รวมเกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน (………………………..…………..……...) ปฏบิ ัติงานสมบูรณ์ ชัดเจน ............../.................../................ ปฏบิ ตั งิ านยงั มีข้อบกพร่องเล็กนอ้ ย ปฏบิ ตั งิ านมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ = 4 คะแนน ปฏบิ ัตงิ านมขี ้อบกพร่องมาก = 3 คะแนน = 2 คะแนน = 1 คะแนนเกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ดมี าก(3) ด(ี 2) พอใช้(1) ปรับปรุง(0) 17 – 20 13 – 16 9 – 12 ต่ากวา่ 9 ระดับคุณภาพ ชว่ งคะแนน

361 แบบประเมินผลด้านทักษะ และ กระบวนการทางานคาช้ีแจง : ให้ครผู ู้สอนประเมิน จากการสงั เกตการปฏิบตั ิกิจกรรมในระหว่างเรยี นของนกั เรียนโดยใหเ้ ขยี นระดบั คะแนน ลงในตารางทต่ี รงกับพฤติกรรมของนักเรยี นตามความเปน็ จรงิ ระดับคุณภาพของทักษะและกระบวนการ รวม สรปุเลขที่ ชือ่ - ช่ือสกุล ทางาน 16 การ การ การ การ คะแนน ผา่ น ไม่ สอ่ื สาร ใหเ้ หตุผล แก้ปัญหา คดิ เชื่อมโยง ผ่าน สรปุ องคค์ วามรู้ระดับคุณภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก คะแนนรวม 13 - 16ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี คะแนนรวม 9 - 12ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ คะแนนรวม 5 – 8ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ควรปรบั ปรุง คะแนนรวม 1 – 4เกณฑ์การประเมิน ผ่าน ไดค้ ะแนน 9 คะแนนขึ้นไป หรือ ระดบั คณุ ภาพ 3 (ดี) ขน้ึ ไป ไมผ่ า่ น ได้คะแนน 0 – 8 คะแนน ลงชือ่ ………………………………………….. ผปู้ ระเมิน (………………………………..……...) วันที่.............เดือน....................... พ. ศ. ...............

362 เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทางานทักษะและกระบวนการ : การส่อื สาร การส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการสือ่ สาร การส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ ใชภ้ าษาและสัญลักษณท์ างคณิตศาสตร์ที่ถกู ต้อง เขียนวิธีการหาคาตอบ4 : ดีมาก กาหนดคา่ ตวั แปร เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์ หรือสดั ส่วน เป็นระบบ กระชับ ชัดเจน และมีความละเอยี ดสมบรู ณ์ ใช้ภาษาและสญั ลักษณท์ างคณิตศาสตรท์ ี่ถกู ต้อง เขียนวิธกี ารหาคาตอบ3 : ดี กาหนดคา่ ตวั แปร เขียนประโยคสัญลักษณ์ หรือสดั สว่ น เปน็ ระบบ กระชบั ขาดรายละเอยี ดท่ีสมบรู ณ์ ใช้ภาษาและสญั ลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ท่ีถูกต้อง เขยี นวิธีการหาคาตอบ2 : พอใช้ กาหนดคา่ ตัวแปร เขยี นประโยคสัญลักษณ์ หรือสดั สว่ น ชดั เจนบางส่วน1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณท์ างคณิตศาสตร์ท่ีถูกต้อง เขียนวิธีการหาคาตอบ กาหนดค่าตัวแปร เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ หรือสัดส่วน ไม่ชัดเจนทักษะและกระบวนการ: การใหเ้ หตผุ ลคะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลทปี่ รากฏให้เห็น4 : ดีมาก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล3 : ดี มกี ารอ้างอิงท่ีถูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตดั สนิ ใจ1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจทักษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หาคะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแกป้ ัญหาท่ีปรากฏให้เหน็ 4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปัญหาไดส้ าเร็จ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ อธิบายถึง 3 : ดี เหตผุ ล หลักการและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้เขา้ ใจชดั เจนนามาซึง่ 2 : พอใช้ คาตอบทถ่ี ูกตอ้ ง1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข ใช้กระบวนการแก้ปญั หาได้สาเร็จ แต่น่าจะอธบิ ายถงึ เหตุผล หลักการและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้ดกี วา่ น้ี มกี ระบวนการแกป้ ัญหา สาเรจ็ เพยี งบางสว่ น อธบิ ายถึงเหตุผล หลกั การและขัน้ ตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น มรี ่องรอยการแกป้ ญั หาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใช้เหตุผล หลักการและขน้ั ตอน ในการแก้ปญั หา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แก้ปัญหาไม่สาเรจ็

363ทักษะ และกระบวนการ: การเช่อื มโยง สรปุ องค์ความรู้คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการเช่อื มโยงที่ปรากฏใหเ้ ห็น นาความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ในการเชอ่ื มโยงกบั สาระ4 : ดีมาก คณติ ศาสตร์หรือกจิ กรรมทต่ี ้องใช้องค์ความรู้ที่เรยี นไดถ้ ูกต้องทุกกจิ กรรม เพ่ือช่วยในการแก้ปญั หา หรือประยุกตใ์ ช้ได้อย่างสอดคล้องและเหมาะสม นาความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอื่ มโยงกับสาระ3 : ดี คณิตศาสตร์หรือกจิ กรรมทตี่ ้องใชอ้ งค์ความรู้ท่เี รียนไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่ เพือ่ ชว่ ยในการแกป้ ัญหาหรอื ประยุกตใ์ ช้ได้บางสว่ น2 : พอใช้ นาความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับสาระ คณติ ศาสตร์หรือกิจกรรมที่ต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ี่เรียนได้บางส่วน1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข นาความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเช่ือมโยงยงั ไม่ เหมาะสม สรุปองค์ความร้ทู ไ่ี ด้เรยี นมา นาไปใช้ไม่ถูกต้อง

364 แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รายบุคคลคาชีแ้ จง ใหค้ รูผู้สอนประเมนิ คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ของนักเรยี นในระหว่างเรียนแลว้ ขีด ลงในช่องให้ตรงกบั ความเปน็ จริง รายการประเมนิท่ี ชื่อ – สกลุ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ในการ ทางาน 3 2 1321321123456789101112 รวมคะแนน รวมท้ังสน้ิ เฉล่ยี ร้อยละ ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ (……………..……………………………..) ............../.................../................เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดมี าก ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ ดี ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง พอใช้

365 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นกั เรียนใฝ่เรยี นรู้คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลกั ษณะทป่ี รากฏให้เหน็3 : ดมี าก - มีความสนใจ / ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความต้งั ใจเปน็ บางครัง้1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตงั้ ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเล่นในเวลาเรยี นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ : นักเรยี นมีระเบียบวนิ ัยในการเรยี นคะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏให้เห็น3 : ดีมาก - แบบฝึกทกั ษะ (ชิน้ งาน) สะอาดเรยี บรอ้ ย - ปฏิบัตติ นอยู่ในข้อตกลงท่กี าหนดใหร้ ่วมกนั ทุกคร้ัง2 : ดี - แบบฝึกทกั ษะ (ช้ินงาน) ส่วนใหญ่สะอาดเรยี บร้อย - ปฏบิ ัติตนอยู่ในข้อตกลงที่กาหนดใหร้ ่วมกันเป็นส่วนใหญ่1 : พอใช้ - แบบฝึกทกั ษะ (ชน้ิ งาน) ไม่ค่อยเรียบร้อย - ปฏิบตั ิตนอยู่ในข้อตกลงที่กาหนดใหร้ ว่ มกัน บางคร้ัง ต้องอาศยั การแนะนาคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมคี วามมุ่งมั่นในการทางานคะแนน : ระดับคณุ ภาพ คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็ - ส่งงานกอ่ นหรือตรงกาหนดเวลานัดหมาย3 : ดมี าก - รับผิดชอบในงานทีไ่ ด้รับมอบหมายและปฏบิ ตั ติ นเองจนเป็นนิสยั เปน็ ตวั อย่างแกผ่ ู้อนื่ และแนะนาชักชวนใหผ้ ูอ้ ื่นปฏบิ ัตติ ามได้2 : ดี - ส่งงานชา้ กวา่ กาหนด แตไ่ ด้มกี ารติดต่อชแ้ี จงผูส้ อน มเี หตุผลทร่ี ับฟงั ได้ - รบั ผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมายและปฏิบตั ิตนเองจนเปน็ นสิ ยั1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กาหนด - ปฏิบตั ิงานโดยต้องอาศัยการช้ีแนะ แนะนา ตักเตือนหรือใหก้ าลงั ใจ

366 แบบวดั เจตคติชอ่ื …………………………………………………………………………………….…….. เลขท่ี ………. ช้นั …………คาชี้แจง ให้เขียนเคร่อื งหมาย  ลงในช่องทเี่ ปน็ ความรสู้ กึ ทแี่ ทจ้ รงิ ของผู้เรยี น ขอ้ ความ ไม่เหน็ ดว้ ย ไมเ่ หน็ ไม่ เห็น เห็นดว้ ย อยา่ งยิง่ ด้วย แนใ่ จ ด้วย อย่างย่ิง1. ฉันต้องการหาความร้คู ณิตศาสตร์เพม่ิ เติม2. ฉันตดิ ตามดผู ลงานของคนเกง่ คณติ ศาสตร์3. ฉนั ชอบเอาโจทย์คณติ ศาสตร์ที่ครไู ม่สอนมาคิด4. เวลาเรียนคณิตศาสตร์ในแต่ละสัปดาห์น้อยเกนิ ไป5. ฉันใช้เวลาวา่ งซกั ถามเกย่ี วกบั คณิตศาสตร์6. ขณะเรียนคณติ ศาสตรฉ์ นั รู้สกึ สนกุ7. ฉนั คดิ ว่าคณติ ศาสตร์เปน็ วชิ าท่ีทา้ ทาย8. ฉันคดิ วา่ คณติ ศาสตร์มีประโยชนม์ ากในชวี ิตประจาวัน9. ฉันกระตือรอื รน้ เม่ือนาโจทย์ปญั หายากๆ หรอืแปลกๆ มาให้ทา10. ฉนั รู้สึกรักการเรียนวชิ าคณิตศาสตร์เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเหน็ ด้วยอย่างยง่ิ 5 คะแนนเห็นด้วย 4 คะแนนไม่แน่ใจ 3 คะแนนไมเ่ ห็นด้วย 2 คะแนนไมเ่ ห็นดว้ ยอย่างยิง่ 1 คะแนนการแปลความหมาย43 – 50 คะแนน มเี จตคตสิ ูงมาก35 – 42 คะแนน มีเจตคติสูง27 – 34 คะแนน มีเจตคตปิ านกลาง19 – 26 คะแนน มีเจตคตติ า่10 – 18 คะแนน มเี จตคตติ า่ มาก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook