งานวดั ละเอียดช่างยนต์ 143 12.3 การเลอื กขนาดและการตรวจสอบความเทย่ี งประแจทอรก์ รปู ท่ี 12.5 การเลอื กขนาดประแจทอรก์ 12.3.1 การเลอื กขนาดและกฎการใช้ ประแจทอรก์ สเกลอยู่กบั ที่ 1. การเลือกขนาดประแจทอร์ก หัวตอ่ ลูกบ็อกซ์ การเลอื กขนาดทถ่ี กู ตอ้ งเปน็ สง่ิ สำคญั ทจ่ี ะให้ ความเที่ยงตรงของการขันนอตสกรู กฎเกณฑ์กว้าง ๆ ในการเลอื กขนาดประแจ ทอร์ก คือให้ขีดสูงสุดในการวัดแรงให้แน่นเพียงพอ ในการใช้งาน งานที่จะใช้วัดควรอยู่ในช่วงกึ่งกลาง ของสเกล ตัวอย่าง ถ้าเลือกประแจทอร์กขนาด 400 กก.-ซม. เปน็ ขดี สงู สดุ งานท่ีใชว้ ดั ควรอยู่ในชว่ ง 100- 300 กก.-ซม. เปน็ ชว่ งท่ที ำงานให้ผลการวดั ไดแ้ น่นอน ที่สุด การใชป้ ระแจทอรก์ (Using a Torque Wrench) บางแบบสามารถใช้ทั้งการดึงเข้าหาตัว หรือดันออก จากตัว แรงที่ใช้ดึงควรดึงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความ ปลอดภัยขอแนะนำให้ใช้วิธีดึงเข้าหาตัวจะเหมาะสม กว่า เขม็ ตั้งขนาดแรง รปู ที่ 12.6 ประแจทอร์กแบบดา้ ม 2 หัว 2. กฎการใชป้ ระแจทอรก์ 12 กดลง 1) จะตอ้ งทราบคา่ พกิ ดั ทก่ี ำหนดในการขนั เสยี กอ่ น ดงึ 2) เลือกขนาดประแจทอร์กให้เหมาะสมกับงาน 3) ควรใช้วิธีการขันโดยการดึงเข้าหาตัวเองเสมอ 4) การขันควรใช้แรงขันที่สม่ำเสมอ อย่ากระชาก ประแจ 5) ค่าพิกัดที่กำหนดไว้ ควรขันด้วยแรงขันเท่า ๆ กัน ประมาณ 2-3 รอบ อย่าขันครั้งเดียวเสร็จ ประแจทอรก์ แบบดา้ มหัวเดียว 3. การบำรงุ รกั ษาประแจทอรก์ จับผิด จบั ถูก 1) ทำความสะอาดประแจทอร์กทุกครั้ง หลังจาก เลิกใช้งาน โดยการเช็ดด้วยผ้า รูปที่ 12.7 จับด้ามประแจทอรก์ แบบด้ามหวั เดยี ว 2) เกบ็ ไวใ้ นห้องเครอื่ งมอื หรอื เกบ็ ไว้ในกล่องที่มี ความแข็งแรง
144 งานวดั ละเอยี ดช่างยนต์ รูตอ่ ประแจทอรก์ 12.3.2 การตรวจสอบความเทีย่ งตรง ประแจทอรก์ 2 วธิ ี 1. การตรวจสอบด้วยเครอื่ งตรวจสอบ การตรวจสอบความเทย่ี งตรงประแจทอรก์ (Checking Torque Wrench for Accuracy) ดว้ ยเครอ่ื ง ตรวจสอบประแจทอรก์ ใชง้ า่ ย โดยตอ่ ด้ามประแจ ทอร์กเข้าเครื่อง แล้วสังเกตมิเตอร์ที่เครอ่ื งตรวจ เปรยี บเทยี บกบั สเกลประแจทอรก์ ทข่ี นั แนน่ 2. การตรวจสอบดว้ ยตุ้มน้ำหนัก 1) สวมประแจทอรก์ เขา้ กบั หวั สกรทู ย่ี ดึ แนน่ อยู่ รปู ท่ี 12.8 เครื่องตรวจสอบประแจทอร์ก (HAZET) กบั ท่ี 2) ปรบั เขม็ ประแจทอรก์ ใหต้ รง 0 “A” 0.6 ม. (2 ฟตุ ) “B” 3) ถว่ งนำ้ หนกั ทด่ี า้ มประแจทอรก์ ทม่ี อื จบั 4) คำนวณแรงบิด โดยใช้น้ำหนักถ่วงคูณด้วย แนวนอน ระยะทางจากกง่ึ กลางสกรถู งึ จดุ ทแ่ี ขวนนำ้ หนกั ตวั อยา่ ง น้ำหนักถ่วง 222 N (นิวตัน) ระยะทาง เทา่ กบั 0.6 เมตร แรงบดิ = 222 x 0.6 = 133 Nm A = ศนู ยก์ ลางหัวสกรู 3. แรงบดิ หรอื แรงขนั แนน่ เปน็ สง่ิ ทส่ี ำคญั มาก รูปท่ี 12.9 การทดสอบความเทีย่ งตรงของประแจทอรก์ ช้า ๆ และน่มุ นวล เนื่องจากสกรูทำหน้าที่ยึดบีบ หรือกด ชิ้นส่วนที่ประกอบเข้าด้วยกันให้แน่น และแรงที่ รปู ท่ี 12.10 ดึงประแจอย่างสม่ำเสมอ ชา้ ๆ และน่มุ นวล ยึดชิ้นส่วนให้แน่นต้องมากกว่าแรงที่ผลักดันให้ ชิ้นส่วนแยกออกจากกันขณะที่เครื่องทำงาน ถ้า ขอ้ ควรจำ ออกแรงขนั สกรใู หแ้ นน่ จนเกนิ ไปกม็ ผี ลเสยี นน่ั คอื ทำให้เกลียวชำรุด สกรูขาดหรือชิ้นส่วนบิดหรือ โค้งได้ ถา้ ขนั สกรแู นน่ ไมพ่ อ สกรอู าจขาดเนอ่ื ง จากแรงเฉือน เพราะชิ้นงานพยายามจะเคลื่อนที ่ ถา้ แรงทก่ี ระทำมากกวา่ แรงขนั สกร ู สกรจู ะลา้ ถา้ สกรูหรือชิ้นงานหลวมสกรูอาจขาด หรือชิ้นงาน แตกหกั ได้ ให้ขันนอตสกรูแน่นตามคู่มือผู้ผลิตกำหนดเสมอจึงจะปลอดภัย ขันนอตสกรูอย่างสม่ำเสมอช้า ๆ และนุ่มนวล
งานวัดละเอียดช่างยนต์ 145 12.4 ความแขง็ แรงและคา่ ความแขง็ แรงสกรู 1. มาตรฐานความแขง็ แรงสกรู สกรูสำหรับงานช่างยนต์ออกแบบเป็นหัว 6 เหลี่ยม การทำเกลียวทำด้วยเครื่องทำเกลียวหรือโดย การรดี เกลยี วทท่ี ำจากการรดี จะแขง็ แรงกวา่ ทำจากการตดั เกลยี วทใ่ี ชท้ ว่ั ๆ ไป ขนาดของสกรกู ำหนดโดยความ โตของสกรูบริเวณที่มีเกลียวและขนาดของหัว นอกจากนี้ยังต้องทราบความหยาบหรือความละเอียดของ เกลียวอีกด้วย ระยะพติ ช ์ คือระยะหา่ งจากยอดฟนั ถึงยอดฟันเกลียวถดั ไปโดยวัดเปน็ มม. ระบบอเมรกิ ันจะวัดเปน็ จำนวนฟันต่อความยาว 1 นิ้ว การวัดเกลียวจะวัดด้วยเกจวัดเกลียว ซึ่งจะรู้ว่ามีระยะพิตช์เท่าใด ระยะพิตช์ ส่วนใหญ่ที่ใช้กันคือ 0.8, 1.0, 1.25, 1.5 มม. คา่ ท่แี นะนำในการขนั สกรูแนน่ เปน็ Nm หัวสกร ู 6 เหลยี่ ม เกลียว ขนาดเส้นผา่ น 7 9 ลำตัว k คjวาม คยวาาวมสยการวูเกลียว นอต ศูนยก์ ลาง x 12 16 30 40 เครอื่ งหมายคุณภาพ ระยะพติ ช์ มม. 55 75 12 M5 x 1.0 100 135 รูปท่ี 12.11 ขนาดสกรเู มตริก M6 x 1.0 160 215 M8 x 1.25 245 335 M10 x 1.25 480 650 M12 x 1.25 825 1125 M14 x 1.5 M16 x 1.5 M20 x 1.5 M24 x 2.0 ระยะพิตชเ์ กลยี วสกรู หมายเหตุ A = ขนาดสกรู รปู ท่ี 12.12 ระยะพติ ชเ์ กลียวสกรูเมตรกิ ค่าที่กำหนดให้นี้ ยอมให้เพิ่มหรือลดได้ ร้อยละ 10 ถ้าต้องการเปลี่ยนหน่วยเป็น Ncm ต้อง คูณด้วย 100 ระดับคุณภาพของสกรู แสดงโดย เคร่ืองหมายทห่ี วั สกร ู ซ่ึงอาจเป็นขดี หรอื ตวั เลข ดังแสดงในตาราง การเปลี่ยนสกรูจะต้องเปลี่ยน ระดับคณุ ภาพเดยี วกนั ถา้ สงสยั ใหใ้ ชร้ ะดบั คณุ ภาพ สงู กวา่
146 งานวัดละเอยี ดชา่ งยนต์ 2. กำหนดค่าความแข็งแรงสกรูหัว 6 เหลี่ยมหรือสตัด (Stud) มีตวั เลขหรอื บากรอ่ ง หวั ท่บี ากรอ่ งลึก สตดั เกรด 4T ไม่มีสญั ลกั ษณ์ ไม่มีสญั ลักษณ์ ไม่มเี ครือ่ งหมาย 5T มีแหวนรอง ไม่มีแหวนรอง 6T 7T 8T 9T 10T 11T
งานวดั ละเอยี ดช่างยนต์ 147 12.5 การขนั สกรแู นน่ แบบตายตวั และแบบเกนิ จดุ ยดื ตวั 12.5.1 ความจำเปน็ ในการขนั สกรแู น่นและการขนั ตามแรงขนั 1. ความจำเป็นในการขันสกรูแนน่ พอดี เม่อื ยดึ ชิน้ งานเข้าดว้ ยกันดว้ ยนอตสกรู ชนิ้ งานจะถกู บีบเข้าหากันเพอื่ ใหย้ ดึ ต่อเป็นชิ้นเดยี วกนั ถ้า ขันสกรูไม่แนน่ ชิ้นงานจะยึดไม่แนน่ ขาดความแขง็ แรง ถ้าเป็นสกรูกา้ นสูบไมแ่ นน่ ตามกำหนด สกรูอาจถูก กระทำจนขาดหรอื หลุดเคร่ืองยนต์เสยี หายมาก และถ้าเปน็ ส่วนที่ตอ้ งป้องกันการรวั่ ถ้าขันนอ้ ยไปอาจร่วั ได ้ ถ้าขันสกรูแน่นเกินไปอาจทำให้ชิ้นส่วนบิดเบี้ยวหรือสกรูขาดได้ ในการขันสกรูเพื่อยึดชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน จึงควรขันดว้ ยแรงขนั แนน่ ทีพ่ อดีและถูกลำดับขน้ั ตอน การขนั สกรูท่ใี ช้วธิ เี ดาด้วยความรู้สกึ อาจเกิดผลเสยี ดงั นี้ 1) สกรขู าดหรือเกลยี วรดู 2) รใู สแ่ บริง่ กา้ นสูบและแบริ่งขอ้ อกเบ้ียว 3) ฝาสูบโกง่ 4) ปลอกนำล้นิ เสียแนว 5) แนวเพลาราวลิ้นเสยี ศนู ย์ 6) แนวเพลาข้อเหว่ียงเสียศนู ย์ แรงขนั แน่นจะตอ้ งอยู่ประมาณ 50-60% ของคา่ พกิ ดั ความยืดหยุ่น วัสดุสกรูถ้าใช้แรงขันตามขนาด ดงั กล่าว จะมแี รงตา้ นภายในตวั สกรทู ำให้ยดื อยไู่ ด้อยา่ งด ี โดยเกลยี วไมค่ ลายออก สกรทู ี่ทำดว้ ยเหลก็ ท่วั ไปจะ ยดื ออกประมาณ 0.001 นวิ้ ทุกแรงดงึ 30,000 ปอนด/์ ตารางนิว้ ถ้าการยืดออกของสกรไู ม่เกนิ คา่ ความยดื หยุ่น จึงทำใหเ้ กดิ แรงดึงเพอื่ กลับตำแหนง่ เดมิ เชน่ เดยี วกับยางรดั ของ ถา้ ขันด้วยแรงดงึ มากเกนิ ไป สกรูอาจยดื ออก เกินค่าความยืดหยนุ่ ทำใหเ้ สียแรงอดั และสกรอู าจขาดได้ ย่านวกิ ฤติ 2. ลักษณะการขนั สกรตู ามแรงขัน 2 แบบ ย่านปลอดภยั 1) การขนั สกรูแน่นแบบตายตัว พอแน่น เป็นการขันสกรูแบบกำหนดแรงขัน 12 พอ ีด ตายตัวที่จะตอ้ งใชข้ นั สกร ู โดยค่าท่กี ำหนดมา ืยดไ ่มกลับ น้นั จะไมม่ กี ารขนั เพ่ิมอกี เช่น 75 Nm แต่ใน สก ูรขาดจากกัน การขันสกรูจริงก็จะต้องแบ่งแรงขันออกเป็น ชว่ ง ๆ ในการขนั คา่ แรงขนั นน้ั ๆ เชน่ เครอ่ื ง ยนตเ์ บนซนิ จะต้องแบ่งออกเป็น 2 ชว่ ง เคร่อื ง ยนต์ดเี ซลจะตอ้ งแบง่ ออกเปน็ 3 ชว่ ง หา้ มขนั สกรูตามคา่ แรงขนั เลยครงั้ เดียว รปู ที่ 12.13 เปรยี บเทยี บการขันสกรแู นน่ ตามลำดบั จนขาดจากกัน 2) การขันสกรูแนน่ แบบเกินจดุ ยดื ตัว การออกแบบเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ผู้ออกแบบพยายามอย่างยิ่งที่จะลดขนาดน้ำหนักของชิ้นส่วนลง เพอ่ื ให้ไดป้ ระสิทธภิ าพสงู ยิ่งขน้ึ ดงั นนั้ ขนาดของสกรฝู าสบู สกรูยึดฝาปะกับข้อเหวี่ยงหรือข้อก้านสบู จึง ออกแบบให้มขี นาดเล็กลง แล้วใชว้ ธิ กี ารขนั สกรูด้วยวิธใี หม่ท่ีเรียกวา่ การขนั เกินจดุ ยืดตวั (Plastic Region Tightening Method) ซึ่งให้แรงกดต่อชิ้นส่วนได้อย่างถูกต้องแม่นยำกว่าการขันแบบเดิม รวมไปถึงไม่มีการ คลายตัวของสกรูแม้ขณะเคร่อื งเยน็ หรอื เครือ่ งรอ้ น โดยใช้ประแจทอรก์ ขันตามปกติ
148 งานวัดละเอียดชา่ งยนต์ 12.5.2 ความแข็งแรงสกรูที่ขันแน่นแบบเกินจุดยืดตัว นอตสกรฝู าปะกับกา้ นสบู สกรฝู าปะกบั แบริง่ เพลาข้อเหวี่ยง สกรูฝาสูบและสกรอู ่ืน ๆ ทไี่ ดร้ บั แรง สั่นสะเทอื นและความร้อนผนั แปร เปน็ นอตสกรูคุณภาพสูงพิเศษทข่ี นั แน่นแบบเกนิ จดุ ยดื ตัว (Typical Plastic Region Tightening) ลำตวั ขนาดเล็กหรือลำตัวคอด น้ำหนักน้อย ผลติ จากโลหะคณุ ภาพสงู ราคาแพง เพ่อื ลด ขนาดและนำ้ หนักของเครื่องยนต์ นอตสกรูพิเศษดังกลา่ ว เปน็ แบบหมุนแน่นด้วยวัดมุม หรือความแนน่ ดว้ ยมมุ หมนุ แนน่ (Variation in Tightening Angle) โดยอาศัยการยดื ตัวของโลหะเปน็ ตวั ยดึ แน่น สามารถยึดได้ดกี วา่ ขนั แนน่ ด้วยประแจ ทอรก์ ดังกราฟตัวอยา่ งการทดสอบแรงดึงของโลหะ (Tensile Test) ดงั รปู ท่ี 12.14 เปรยี บเทยี บได้กบั การขนั สกรูทีม่ ีแรงยดึ ให้ช้นิ งานตดิ กัน ย่านยดื หยุน่ ยา่ นยืดถาวรแรง ึดงในสก ูร แรงขนั แน่น ยดื ไดน้ ้อย สกรขู าด ความแนน่ ยดื ไดม้ าก จุดลา้ ตวั แน่นด้วยมุมหมุน แนน่ ด้วยประแจ รูปท่ี 12.14 กราฟการยดื ตัวของโลหะสกรูจากแรงขันแน่น 1. ยา่ นยดื หยุ่น (Elastic Region) ย่านยืดหยนุ่ คือย่านทโ่ี ลหะสกรยู ืดออกดว้ ยแรงดงึ ทำใหเ้ กิดความแน่น (Axial Tension) ดงั ภาพ ขวามอื แล้วสามารถหดกลบั สสู่ ภาพเดมิ ได้เมื่อหยดุ ดึงหรอื คลายออก เชน่ สปรงิ ต่าง ๆ ท่ีทนแรงดงึ ไดด้ ี สามารถสปริงตวั กลบั ได ้ คือยงั มชี ว่ งยดื ตัวได้มาก (Large Variation) 2. ยา่ นยืดถาวร (Plastic Region) ย่านยืดถาวร คือย่านที่โลหะสกรูยืดออกด้วยแรงดึง (แรงขันแน่น) แล้วไม่สามารถหดกลับคืนสู่ สภาพเดมิ ไดเ้ มื่อหยุดดงึ หรอื คลายออก จงึ เรยี กวา่ การยดื ตวั ถาวร เป็นชว่ งยืดตวั เลยจดุ ล้าตัว (Yielding Point) ยืดตัวไดน้ อ้ ย (Small Variation)
งานวัดละเอยี ดช่างยนต์ 149 12.5.3 ลำดับการขันสกรูฝาสูบแน่นแบบเกินจุดยืดตัว ขันคร้ังที่ 2 ขันครั้งท ี่ 1 6 ม.-กก. (43 ฟุต-ปอนด์) ทานำ้ มันเครือ่ งทกุ ครง้ั ความยาวของสกรูฝาสบู รปู ที่ 12.15 ลำดับการขันสกรฝู าสบู แน่นแบบเกนิ จดุ ยดื ตวั 12 ลำดับการขันสกรฝู าสบู แน่นแบบเกนิ จดุ ยดื ตวั (Cylinder Head Bolt) 1) วัดความยาวของสกรฝู าสบู ถ้าความยาวทว่ี ัดได้มากกว่าค่าทีก่ ำหนดให้เปล่ียนสกรตู วั ใหม่ ความยาวมาตรฐาน ตวั ยาว : 150.7 - 151.3 มม. ความยาวสูงสุดไม่เกนิ ตัวสัน้ :121.7 - 122.3 มม. ตวั ยาว :152.0 มม. ตวั สน้ั :123.0 มม. 2) ทานำ้ มนั เคร่อื งทีเ่ กลยี วของสกรู 3) ขนั สกรดู ้วยประแจทอรก์ จนได้คา่ 6 ม.-กก. (43 ฟุต-ปอนด)์ ดังแสดงในภาพขา้ งบน 4) ทำเครอ่ื งหมายทห่ี วั สกรูด้วยเหลก็ ตอกหรือส ี เพ่อื เปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ ในการขนั แน่นเป็นมมุ 5) ใช้เครอ่ื งหมายที่ทำไวเ้ ปน็ จุดเร่มิ ตน้ ขันสกรแู ต่ละตัวให้ไดม้ ุม 90 -105o ดงั แสดงในภาพข้างบน 6) หลังจากขันสกรูทกุ ตวั จนได้มมุ 90 -105o ตามขอ้ 5) แลว้ ใหข้ ันสกรูเขา้ ต่อไปตามลำดับอีก 90 -105o เหมือนในขอ้ ท่ ี 5)
150 งานวดั ละเอยี ดช่างยนต์ ใบตรวจวดั ท่ี บางครง้ั ประแจทอรก์ กไ็ มส่ ามารถขนั สกรไู ดท้ กุ ตำแหนง่ ดงั นน้ั ตอ้ งรู้ วธิ กี ารขนั สกรใู หไ้ ดแ้ รงขนั ทเ่ี หมาะสมดว้ ยประแจปากตาย ประแจ 12.1 บอ็ กซห์ รอื ประแจแหวน ดงั นน้ั จงึ ตอ้ งฝกึ ทกั ษะความรสู้ กึ ในการขนั แนน่ แลว้ กรอกผลในตาราง แหวนรอง ให้ออกแบบชุดขันสกรูแน่นเพ่ือฝึก แรงยดึ ทกั ษะความรสู้ กึ ในการขนั สกรใู หไ้ ดค้ า่ กำหนด เช่น 50 Nm (150 กก.-ซม.) ตอนแรกใหข้ ัน สกรูด้วยประแจทอร์กด้วยแรงขันตามกำหนด จากนั้นลองขันด้วยประแจปากตาย ประแจ แหวนและประแจบ็อกซ์ และลองทำหลาย ๆ ครั้ง จนกระทั่งสามารถรู้ว่าควรขนั สกรูนั้น ด้วยแรงเทา่ ใด ประแจ ชุดขันสกรูแน่น ขันด้วยประแจ ประแจบอ็ กซ์ ลำดับ ขนาดสกรู ขันแน่น ประแจปากตาย ประแจแหวน 1 M4 2 - 3 2 M6 8 - 10 3 M8 20 - 23 4 M10 40 - 45 5 M12 66 - 76 6 M14 105 - 120 7 M18 220 - 250 การประเมินผล ชือ่ ................................................................ วนั ท ี่ ............................................................. คะแนน ....................................................... ผูป้ ระเมนิ ....................................................
งานวดั ละเอยี ดชา่ งยนต์ 151 ใบตรวจวัดที่ จงทำความสะอาดฝาสบู ปะเกน็ ฝาสบู และเสอ้ื สบู แลว้ ประกอบฝาสบู 12.2 ขนั สกรูฝาสูบแนน่ ตามลำดบั 4 รอบ ตามคมู่ อื ซ่อมเครอ่ื งยนตก์ ำหนด แล้วกรอกผลในตาราง แบบลำดับการขัน แบบขันทแยงมุมหรือขดสปริงลาน 12 รอบที ่ 1 ขันดว้ ย รอบท่ ี 2 Nm รอบที่ 3 Nm รอบที่ 4 Nm การประเมินผล ชอ่ื ................................................................ วันที่ ............................................................. คะแนน ....................................................... ผปู้ ระเมิน ....................................................
152 งานวดั ละเอียดช่างยนต์ ใบตรวจวดั ท่ี จงทำความสะอาดและเชด็ แห้ง ใหห้ ลอ่ ลนื่ เพลาและแบรง่ิ ข้ออกดว้ ย 12.3 น้ำมันเครือ่ งทกุ ตวั ประกอบเพลาขอ้ เหวย่ี งและขันสกรูฝาครอบแบรงิ่ แนน่ แลว้ เติมขอ้ ความในการขันสกรฝู าครอบแบริง่ ข้ออกดงั ตอ่ ไปน้ี 1. การเริม่ การขันสกรฝู าครอบแบรง่ิ ขอ้ อก รอบแรก 1) เริ่มจากตัวกลางสลับ ...................................... 2) ขนั พอแน่นด้วยประแจ ................................ 2. การขันสกรูฝาครอบแบรงิ่ ข้ออกแน่นตาม คมู่ ือซอ่ มเครือ่ งยนต์ 1) ขนั จากตวั กลางสลบั ..................................... 2) ขนั แน่น ............................ รอบ 3. การหมนุ เพลาขอ้ เหวีย่ ง 1) หลังขันสกรูแต่ละตวั ต้องหมนุ เพลา ข้อเหวยี่ งช้า ๆ ตรวจ ....................................... 2) หลังขนั สกรูแน่นทกุ ตวั เพลาข้อเหวี่ยง ต้องหมนุ ........................................................... การประเมินผล ชือ่ ................................................................ วนั ท ่ี ............................................................. คะแนน ....................................................... ผูป้ ระเมิน ....................................................
แบบฝกึ กจิ กรรมท ่ี 12 งานวัดละเอยี ดช่างยนต์ 153 เร่ือง ประแจทอรก์ ในงานช่างยนต์ ตอนท ่ี 1 จงเตมิ คำในชอ่ งวา่ งต่อไปน้ี 12 1. ประแจทอรก์ เขียนคำอังกฤษอย่างไร ................................................................................................................................................................................................ 2. ทำไมบางคนเรียกประแจทอรก์ ว่าประแจปอนด์ ................................................................................................................................................................................................ 3. ประแจทอร์กทำงานดว้ ยหลกั การอะไร ................................................................................................................................................................................................ 4. พิกัดการขันสกรูแนน่ ควรยดึ อะไรเป็นหลกั ................................................................................................................................................................................................ 5. ประแจทอรก์ แบบไมโครมิเตอรไ์ มม่ เี ขม็ สเกล อ่านคา่ แรงขันอย่างไร ................................................................................................................................................................................................ 6. ประแจทอรก์ แบบเขม็ ชี ้ เขม็ ชีเ้ ป็นอย่างไร ................................................................................................................................................................................................ 7. ประแจทอรก์ แบบหน้าปดั มีลกั ษณะเปน็ อย่างไร ................................................................................................................................................................................................ 8. จงเขยี นขนาดประแจทอร์กมา 3 ขนาด ................................................................................................................................................................................................ 9. แรงบดิ หรือเรยี กแรงขนั แนน่ เขยี นเปน็ สมการไดอ้ ยา่ งไร ................................................................................................................................................................................................ 10. ถา้ ขนั นอตสกรูแน่นไม่พอ มผี ลกระทบตอ่ ชนิ้ งานอย่างไร ................................................................................................................................................................................................
154 งานวดั ละเอยี ดชา่ งยนต์ ตอนท ่ี 2 จงทำเครือ่ งหมายถูก (P) ลงหน้าขอ้ ความท่ถี ูกต้องทสี่ ุด 1. ประแจทอร์กทว่ั ไปใชข้ ันไดอ้ ยา่ งไร 6. สเกลประแจทอร์ก 400 กก.-ซม. แปลงหนว่ ย ก. ทศิ ทางเดยี ว ข. 2 ทศิ ทาง ไดเ้ ทา่ ใด ก. ได ้ 4 กก.-ม. ข. ได้ 10 กก.-ม. ค. 3 ทศิ ทาง ง. ถกู ทุกข้อ ค. ได้ 20 กก.-ม. ง. ได้ 40 กก.-ม. 2. แรงบดิ ทใี่ ชข้ นั สกรูควรสูงเพียงใด 7. สเกลประแจทอรก์ ที่อ่านไดเ้ ทีย่ งตรงที่สดุ คอืี ก. 40-50% ของค่าพิกดั วสั ดุ ชว่ งใด ข. 50-60% ของค่าพกิ ดั วสั ดุ ก. ชว่ งต้น ข. ชว่ งกลาง ค. 60-70% ของคา่ พิกัดวัสดุ ค. ช่วงปลาย ง. ทกุ ช่วง ง. 70-80% ของค่าพกิ ดั วัสดุ 8. แรงขันสกรแู นน่ ตอ้ งมมี ากเพียงใด 3. แรงขันแน่น 1 ปอนด์-ฟุต แปลงหนว่ ยไดเ้ ทา่ ใด ก. นอ้ ยกวา่ แรงแยกชนิ้ สว่ นออก ก. ได้ 1.15 กก.-ซม. ข. ได้ 13.8 กก.-ซม. ข. เท่ากับแรงแยกชิ้นสว่ นออก ค. ได้ 0.138 กก.-ซม. ง. ได้ 0.113 กก.-ซม. ค. มากกวา่ แรงแยกชิน้ ส่วนออก 4. แรงขนั แน่น 1 กก.-ม. แปลงหนว่ ยได้เทา่ ใด ง. มากที่สดุ เทา่ ท่ีจะแน่นได้ ก. ได ้ 0.87 ปอนด์-ฟุต 9. การขนั สกรแู นน่ ควรใชป้ ระแจทอรก์ อยา่ งไร ข. ได้ 0.723 ปอนด์-ฟุต ก. ดึงเข้าหาตัวช้า ๆ ค. ได้ 7.23 ปอนด์-ฟตุ ข. ดึงเข้าหาตวั โดยเรว็ ง. ได ้ 8.65 ปอนด-์ ฟตุ ค. ดันออกจากตัวชา้ ๆ 5. แรงขนั แนน่ กก.-ม. แปลงหน่วยไดเ้ ทา่ ใด ง. ดันออกจากตวั โดยเร็ว ก. ได้ 7.23 Nm ข. ได ้ 8.65 Nm ค. ได ้ 0.73 Nm ง. ได้ 9.8 Nm 10. ค่าพิกัดขนั แน่นควรขนั แนน่ อยา่ งไร ก. ขนั แนน่ รอบเดยี ว ข. ขันแน่น 2 รอบ ค. ขันแนน่ 3 รอบ ง. ขนั แน่น 4 รอบ ตอนท่ี 3 จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้ให้ได้ใจความสมบรู ณ์ 1. จงเขียนลักษณะประแจทอร์กแบบเข็มชี้มา 2-3 บรรทัด 2. จงเขียนขนาดและพิกัดการใช้ประแจทอร์กมา 2-3 บรรทัด 3. จงเขียนกฎการใช้ประแจทอร์กมา 5 ข้อ 4. จงเขียนการบำรุงรักษาประแจทอร์กมา 2 ข้อ 5. จงสเกตช์ภาพลำดับการขันสกรูฝาสูบแน่นแบบสลับซ้ายขวาและแบบวนก้นหอยจากในสู่ภายนอก
13งานวดั ละเอียดช่างยนต์ 155 ฉากและแทน่ ตรวจสอบสปรงิ ลน้ิ สาระการเรยี นรู้ 13.1 คุณลกั ษณะและการหดตวั อยา่ งรวดเรว็ ของสปรงิ ล้นิ 13.2 ลักษณะแท่นตรวจสอบและการทดสอบสปริงล้นิ ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั 1. อธบิ ายคณุ ลกั ษณะและการหดตัวอยา่ งรวดเร็วของสปรงิ ลน้ิ ได้ 2. แนะนำแทน่ ตรวจสอบสปริงล้ินได้ 3. ปฏิบัติการตรวจสอบสปริงล้นิ ได้ 4. เพอื่ ให้มกี จิ นสิ ยั ในการทำงานดว้ ยความเป็นระเบยี บเรียบร้อย ประณตี รอบคอบและตระหนักถงึ ความปลอดภัย
156 งานวดั ละเอียดชา่ งยนต์ 13 ฉากและแทน่ ตรวจสอบ สปรงิ ลน้ิ บทนำ ฉากตรวจสอบสปริงลิ้นหรือที่เรียกว่าฉากตาย วัดความเอียงสปริงลิ้น เป็นฉากวัดละเอียดที่ใช้ใน งานตะไบ ใชว้ ดั ความเอยี งสปรงิ แบบกด (Compression Spring) เชน่ ความเอยี งสปรงิ ลน้ิ และสปรงิ ชดุ คลตั ช์ สปริงเอียง การใช้ฉากตายวัดความละเอียดสปริงลิ้น รูปที่ 13.1 วัดความเอียงสปริงลิ้น ใช้วัดความเอียงสปริงลิ้นบนแท่นระดับ โดย ทาบสปริงลิ้นกับหน้าฉาก แล้วหมุนสปริงลิ้นรอบตัว เพื่อตรวจความเอียงสปริง ขอ้ ควรจำ สปรงิ ล้ินทกุ ตัวเอยี งไดไ้ ม่เกิน 2 มม. แทน่ ตรวจสอบสปริงลิน้ แท่นตรวจสอบสปริงลิ้น หรือเรียกว่าแท่น ทดสอบความแข็งสปริงลิ้น (Valve Spring Tester) ใช ้ ตรวจสอบความสามารถในการคืนกลับตัวหรือความแข็ง และความสูงของสปริงลิ้นเครื่องยนต์ เพราะสปริงลิ้น ไอดีและสปริงลิ้นไอเสียแต่ละชุดในเครื่องยนต์เดียวกัน นอกจากต้องเป็นรูปแบบเดยี วกนั แล้ว ตอ้ งมีความแข็ง และความสงู เท่ากันด้วย การทำงานของลน้ิ จงึ จะเรยี บ เสมอกนั เพราะสปริงล้ินตอ้ งรบั ภาระปิดลิ้นทม่ี ีความ รอ้ นสูงเมื่อใชง้ านไประยะหนึง่ สปริงลิน้ อาจล้าตวั ได้ จงึ ต้องตรวจสอบความแข็งของสปรงิ รูปที่ 13.2 แท่นตรวจสอบความแข็งสปริงลิ้น
งานวัดละเอยี ดช่างยนต์ 157 13.1 คณุ ลกั ษณะและการหดตวั อยา่ งรวดเรว็ ของสปรงิ ลน้ิ ปะกบั ลิ้น หมวกโรตาร่ี 1. คุณลกั ษณะสปรงิ ลนิ้ เคร่ืองยนต์ (Valve Spring) ปลอก ถว้ ยสปริง นำลน้ิ สปริงลิ้นยันลิ้นเข้ากับบ่าลิ้นในขณะลิ้นปิด เพื่อ สปรงิ ลิน้ กันอากาศรั่วออกจากห้องเผาไหม้ สปริงลิ้นยันชิ้นส่วน ทำงานของกลไกลิ้นไอดี-ไอเสียเข้ากับลูกเบี้ยวด้วยแรง หน้าลน้ิ หัวลิ้น สปริงลิ้นในขณะลิ้นเคลื่อนที่ ดังนั้น การเปิดและการปิด ลนิ้ จงึ ดำเนินไปตามส่วนโคง้ ของลกู เบ้ียว กรณีใช้สปรงิ ลิ้น 2 ตัวซอ้ นกัน สปรงิ แต่ละตัวมแี รงไมเ่ ทา่ กัน เพอื่ ป้องกนั รูปที่ 13.3 ชุดสปริงลิ้นเครื่องยนต์ ไม่ให้สปริงล้ินและลิ้นเต้นขณะเคร่ืองยนต์ทำงานด้วย ความเร็วรอบสงู โดยปกตใิ ชส้ ปริงขดถ่ีตา่ งกนั (Close Coil Springs) หรือสปริงทำงาน 2 จังหวะ (Double-action Springs) เพื่อให้การเคลื่อนที่ของลิ้นมีประสิทธิภาพขณะ เครื่องยนต์ทำงานด้วยความเร็วรอบสูง 2. การหดตวั อยา่ งรวดเรว็ ของสปริงลิน้ (Valve Spring Surging) สปริงขดถตี่ ่างกัน สปริงทำงาน 2 จังหวะ ถ้าส่วนปลายของสปริงลิ้นถูกกระเดื่องลิ้นกด 13 รูปที่ 13.4 สปริงลิ้น 2 แบบ อยา่ งรวดเรว็ สปรงิ ลน้ิ จะหดตวั ไมส่ มำ่ เสมอกนั แตจ่ ะหด การหดตัวอย่างรวดเร็ว (Surging) ตัวจากปลายข้างหนึ่งไปสู่ปลายอีกข้างหนึ่ง ดังแสดงใน รูปที่ 13.5 ถ้าการทำงานสัมพันธห์ รือเสริมกนั กบั การส่ัน สะเทอื น เนือ่ งจากแรงกระทำของลกู เบย้ี ว คล่นื แรงสปรงิ จะสงู ข้ึนและสปริงล้ินจะรับความเคน้ (Stress) อย่างรุนแรง ซง่ึ อาจทำใหส้ ปริงลนิ้ เกิดการล้าตัว (Fatigue) หรอื แตกหกั สภาวการณเ์ ชน่ นเ้ี รยี กวา่ การหดตวั อยา่ งรวดเรว็ ของสปรงิ ล้นิ การหดตัวอย่างรวดเร็วทำให้ตำแหน่งเปิดและ ปิดล้นิ เปลย่ี นแปลงไป ซึง่ เป็นสาเหตุให้กำลังของเครอื่ ง ยนต์ตกต่ำ เสียงดังมากขึ้น หรืออาจทำให้กลไกลิ้นไอดี- ลิ้นไอเสยี แตกหกั อยา่ งไรก็ตาม สามารถป้องกนั ได ้ โดย การใชส้ ปรงิ ลน้ิ 2 ตวั ซอ้ นกนั สปรงิ ขดถต่ี า่ งกนั และสปรงิ ทำงาน 2 จังหวะ ดงั กล่าวมาแล้วข้อ 1. รูปที่ 13.5 สปริงลิ้นหดตัวไม่สม่ำเสมอ
158 งานวดั ละเอียดชา่ งยนต์ 13.2 ลกั ษณะแทน่ ตรวจสอบและการทดสอบสปรงิ ลน้ิ แกนกดสปริง 1. ลกั ษณะแท่นตรวจสอบสปริงลน้ิ คนั โยก บรรทัดวดั 1) ตัวแท่นตรวจสอบทำด้วยเหล็กหล่อติดตั้ง เกจวดั ความแข็งสปริงไวด้ า้ นหน้า มีหน่วย เกจวดั ความแข็ง ความสูงสปริง วัดเป็นกิโลกรัมหรือเป็นปอนด์ สปริง 2) ดา้ นหลงั แทน่ ตรวจสอบเปน็ เสายดึ แกนกด สปริงและคันโยก 3) บนฐานแท่นตรวจสอบสปริง เป็นที่ยึด บรรทัดวัดความยาวสปริง รูปที่ 13.6 ส่วนประกอบแท่นตรวจสอบสปริงลิ้น 2. ลำดบั การตรวจสอบสปรงิ ลนิ้ ความยาวสปริง 1) ทำความสะอาดสปรงิ ทต่ี อ้ งการตรวจสอบ เกจวดั ความแขง็ 2) วางสปริงลงบนแป้นรองรับ 3) ตรวจความสงู สปรงิ ดว้ ยบรรทดั วดั ความสงู สปริง สปรงิ แลว้ บันทกึ ความสงู สปรงิ 4) กดคันโยกจนสปริงยุบตัว ถึงความยาวที่ กำหนด แล้วอ่านค่าความแข็งของสปริงที่ เกจวัดความแข็งสปริง 5) บันทึกผลการทดสอบ ขอ้ ควรจำ ตรวจสภาพการสึกหรอ และการ บดิ เบย้ี วของสปรงิ ทกุ ครง้ั กอ่ นตรวจ สอบ รูปที่ 13.7 ตรวสอบสปริงลิ้น
งานวดั ละเอียดช่างยนต์ 159 ใบตรวจวัดท่ี จงตรวจวดั ความเอยี งสปรงิ ลน้ิ ดว้ ยฉากตายกบั ฟลี เลอรเ์ กจ และตรวจ ความแขง็ สปรงิ ดว้ ยการวดั ความยาวสปรงิ โดยกำหนดแรงกด F ตาม 13.1 ความเหมาะสมของขนาดสปรงิ เอง แลว้ กรอกผลในตารางและชอ่ งวา่ ง ความเอยี ง 1. จงตรวจความเอยี งสปรงิ ลน้ิ สปรงิ ลิ้น ไอดี ไอเสยี ตวั นอก ตัวใน ขอ้ ควรจำ สปริงลน้ิ ทุกตวั เอยี งไดไ้ ม่เกนิ .................. มม. 2. จงตรวจความแขง็ สปริงลนิ้ ด้วยแทน่ ตรวจสอบสปริง F= F= สปริงลิ้น L L1 L2 สปริงลนิ้ L L1 L2 ไอดีตัวที่ ยาวอิสระ (มม.) (มม.) ไอเสยี ตวั ท่ี ยาวอิสระ (มม.) (มม.) 1 1 22 13 33 44 ขอ้ ควรจำ สปรงิ ระยะหา่ งระหว่างขดสปรงิ คงท ี่ ความยาวเปน็ ปฏภิ าคกบั ...................................................... สปรงิ ท่ีระยะหา่ งระหวา่ งขดสปริงตา่ งกนั ความยาวกับแรงกดไม่ ................................................... ความแข็งของสปริงตา่ งกันไดไ้ มเ่ กิน .................................................... กก. การประเมนิ ผล ชอ่ื ................................................................ วันที่ ............................................................. คะแนน ....................................................... ผ้ปู ระเมนิ ....................................................
160 งานวัดละเอียดชา่ งยนต์ ใบตรวจวดั ที่ จงตรวจวดั ความยาวอสิ ระและความแขง็ สปรงิ ลน้ิ 4 ตวั ทก่ี ำหนดให้ ดว้ ยแทน่ ตรวจสอบความแขง็ สปรงิ ลน้ิ แลว้ กรอกผลการตรวจวดั 13.2 ในตาราง สปรงิ ตัวในลิน้ ไอเสีย (มม.) ความยาวอิสระ ความยาวกดครง้ั แรก แรงสปรงิ ความยาวกดครัง้ 2 แรงสปรงิ สปริงตวั นอกล้ินไอเสีย (มม.) ความยาวอิสระ ความยาวกดครั้งแรก แรงสปรงิ ความยาวกดครง้ั 2 แรงสปรงิ สปรงิ ตวั ในลน้ิ ไอดี (มม.) ความยาวอสิ ระ ความยาวกดครั้งแรก แรงสปรงิ ความยาวกดครั้ง 2 แรงสปริง สปรงิ ตัวนอกลน้ิ ไอดี (มม.) ความยาวอิสระ ความยาวกดครั้งแรก แรงสปรงิ ความยาวกดครงั้ 2 แรงสปรงิ การประเมนิ ผล ชอ่ื ................................................................ วันท ่ี ............................................................. คะแนน ....................................................... ผปู้ ระเมิน ....................................................
แบบฝกึ กจิ กรรมท ่ี 13 งานวัดละเอียดชา่ งยนต์ 161 เรอื่ ง ฉากและแทน่ ตรวจสอบสปริงล้นิ ตอนที ่ 1 จงเติมคำในชอ่ งว่างต่อไปน้ี 1. สปริงทคี่ วรตรวจความเอยี ง 2 อย่าง คอื สปรงิ ล้นิ อะไร ........................................................................................................................................................................................................ 2. ทำไมต้องใชฉ้ ากตายตรวจสอบสปรงิ ล้นิ ........................................................................................................................................................................................................ 3. การตรวจสอบสปรงิ ลิ้น ตรวจส่วนใดของสปริงล้นิ ........................................................................................................................................................................................................ 4. แท่นตรวจสอบสปริงลิ้นใช้ตรวจสปรงิ ลนิ้ ได ้ 2 อยา่ งคืออะไร ........................................................................................................................................................................................................ 5. ทำไมตอ้ งตรวจสอบความแข็งสปริงลน้ิ ........................................................................................................................................................................................................ 6. ทำไมจึงใชส้ ปรงิ ลนิ้ 2 ตัวตอ่ ลิ้น 1 ตัว ........................................................................................................................................................................................................ 13 7. การหดตวั รวดเร็วของสปริงลน้ิ มีผลกระทบอะไรกับล้ิน ........................................................................................................................................................................................................ 8. การปอ้ งกันตำแหน่งเปิดปดิ ลนิ้ เปลีย่ นแปลงเก่ียวกับสปรงิ ลนิ้ แกไ้ ขอย่างไร ........................................................................................................................................................................................................ 9. ก่อนตรวจสอบสปรงิ ดว้ ยแท่นตรวจสอบสปรงิ ควรตรวจอะไรกอ่ น ........................................................................................................................................................................................................ 10. แท่นตรวจสอบสปริงตรวจ 2 อย่างของสปรงิ คอื อะไร ........................................................................................................................................................................................................
162 งานวดั ละเอียดชา่ งยนต์ ตอนท ี่ 2 จงทำเคร่อื งหมายถูก (P) ลงหน้าข้อความทีถ่ ูกต้องท่ีสุด 1. ตรวจความเอยี งสปริงลิ้นด้วยอะไร 6. สปริงขดถ่ตี า่ งกนั เขยี นคำองั กฤษอยา่ งไร ก. ฉากเปน็ ข. ฉากตาย ก. Closed Coil Spring ข. Coil Spring ค. เวอร์เนยี ร ์ ง. ไมโครมเิ ตอร์ ค. Close Coil Spring 2. สปรงิ ล้นิ เอยี งได้ไมเ่ กนิ เท่าใด ง. Spring Coil Close ก. ไมเ่ กิน 1 มม. ข. ไม่เกิน 2 มม. 7. คลื่นแรงสปรงิ เขียนคำอังกฤษอยา่ งไร ค. ไมเ่ กนิ 3 มม. ง. ไมเ่ กิน 4 มม. ก. Amplitude ข. Amplituded 3. แท่นตรวจสอบสปรงิ ลนิ้ ใชต้ รวจอะไร ค. Amplitudes ง. Amplituder ก. กำลงั สปรงิ ข. ความแข็งสปรงิ 8. การเกิดการลา้ ตัวเขียนคำอังกฤษอยา่ งไร ค. ความเอยี งสปรงิ ง. ความลา้ สปริง ก. Fetuque ข. Fatiqen 4. สปรงิ ลิ้นเครือ่ งยนต์หลายสบู ต้องเปน็ รปู แบบ ค. Fetigun ง. Fatique เดียวกนั หรือไม่ 9. การใช้สปรงิ คตู่ อ่ ลิ้น 1 ตัว ดอี ยา่ งไร ก. ต้องเป็นรปู แบบเดียวกัน ก. กันล้ินไหม ้ ข. ไมเ่ ป็นรปู แบบเดยี วกัน ข. กนั ล้ินหา่ ง ค. แล้วแตอ่ อกแบบ ค. กนั ลน้ิ เตน้ ง. แลว้ แตก่ ารปรับแตง่ ง. กันลนิ้ เต้นทคี่ วามเร็วสงู 5. สปริงลน้ิ เคร่ืองยนตห์ ลายสูบตอ้ งมีความแขง็ แรง 10. สปริงหดตัวอย่างรวดเร็วมีผลเสยี อย่างไร เท่ากันหรือไม่ ก. สปรงิ หดตวั ไม่สมำ่ เสมอ ก. แล้วแตอ่ อกแบบ ข. สปรงิ เอียงงา่ ย ข. ต้องเทา่ กนั ค. สปรงิ หักง่าย ค. ไม่ต้องเท่ากัน ง. ความสูงสปริงลดลง ง. แลว้ แตข่ นาดสปรงิ ตอนท่ี 3 จงตอบคำถามต่อไปนใี้ ห้ได้ใจความสมบูรณ์ 1. จงเขียนลำดับการใช้ฉากตายวัดความเอียงสปรงิ ลิ้นมา 2-3 บรรทัด 2. แทน่ ตรวจสอบสปริงมีประโยชนอ์ ยา่ งไร ทำไมต้องตรวจสอบสปริงลิน้ 3. ทำไมต้องใชส้ ปรงิ ล้นิ 2 ตวั ตอ่ ลิ้น 1 ตวั 4. จงเขียนลำดับการตรวจสอบสปริงลนิ้ มา 4 ขอ้ 5. จงสเกตช์ภาพแท่นตรวจสอบสปรงิ ลน้ิ มา 1 แบบ
14งานวดั ละเอยี ดชา่ งยนต์ 163 แทน่ ตรวจสอบ ศนู ยก์ า้ นสบู เครอ่ื งยนต์ สาระการเรยี นรู้ 14.1 ผลกระทบจากกา้ นสูบเสยี ศูนย์ 14.2 การตรวจสอบและการดัดกา้ นสบู ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั 1. อธบิ ายผลกระทบจากก้านสูบเสยี ศนู ยไ์ ด้ 2. ปฏบิ ัตกิ ารตรวจสอบและการดดั ก้านสบู ได้ 3. เพอื่ ใหม้ ีกิจนสิ ยั ในการทำงานดว้ ยความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย ประณีต รอบคอบและตระหนักถงึ ความปลอดภยั
164 งานวัดละเอียดชา่ งยนต์ แทน่ ตรวจสอบ ศนู ยก์ า้ นสบู เครอ่ื งยนต์ 14 บทนำ แท่นตรวจสอบศูนย์ก้านสูบเคร่ืองยนต์ (Connecting Rod Aligner) เป็นแท่นตรวจสอบ ความคดงอ และการบิดตวั หนศี นู ย์ของกา้ นสูบ เครอ่ื งยนต ์ เพราะกา้ นสบู เครอ่ื งยนตท์ ค่ี ดงอหรอื บดิ ตวั หนศี นู ยร์ ะหวา่ งการใชง้ าน มผี ลกระทบตอ่ การทำงานและการสึกหรอของเคร่อื งยนต์ ดงั นน้ั หลงั ถอดแยกกา้ นสบู ในงานซอ่ ม เครื่องยนต์ ควรตรวจสภาพก้านสูบเครื่องยนต์ ด้วยแท่นตรวจสอบศูนย์กา้ นสูบเครอื่ งยนต์ เม่อื พบปัญหาท่ีคาดว่าเกิดจากก้านสูบคดงอหรือบิด ตวั TDC BDC รูปที่ 14.1 แทน่ ตรวจสอบศนู ยก์ า้ นสบู เครอ่ื งยนต์ ก้านสูบบดิ ตัว กา้ นสบู คด รูปที่ 14.2 กา้ นสูบคดและบิดตวั
งานวดั ละเอียดช่างยนต์ 165 14.1 ผลกระทบจากกา้ นสบู เสยี ศนู ย์ 1) การทำงานของเครอ่ื งยนตป์ กตไิ มท่ ำใหก้ า้ นสบู คดหรอื บดิ ตวั ได้ เพราะออกแบบผลติ เผอ่ื ไว้แล้ว 2) ก้านสูบคดหรือบิดเกิดจากผลกระทบส่วนอื่น เช่น เพลาข้อเหวี่ยงคด แบริ่งละลาย หรือการประกอบ เครอ่ื งไมถ่ กู ตอ้ ง 3) ก้านสูบคด ไม่ใช่มีผลกระทบต่อการรับภาระการ ขัดตัวของแบริ่งก้านสูบเท่านั้น แต่เป็นอันตรายถึง ลกู สบู และสลกั ลกู สบู กา้ นสูบ 4) ก้านสูบบิด การเคลื่อนที่ของลูกสูบจะขึ้นลงขวาง ๆ มผี ลกระทบตอ่ แบรง่ิ กา้ นสบู และกระบอกสบู เชน่ เดยี ว เพลา กา้ นสบู คด ข้อเหว่ยี ง รูปท่ี 14.3 ก้านสบู คดมีผลกระทบถงึ ช้ินส่วนอืน่ รปู ท่ี 14.4 ก้านสบู คดมผี ลกระทบแบร่ิงกา้ นสบู ขอบแหวนลูกสูบ 14 ด้านบนขดู ผวิ กระบอกสบู รปู ที่ 14.5 กา้ นสบู คดมีผลกระทบลกู สบู และแหวน รปู ที่ 14.6 กา้ นสบู คดมีผลกระทบลกู สูบ ลกู สบู
166 งานวัดละเอยี ดชา่ งยนต์ 14.2 การตรวจสอบและการดดั กา้ นสบู ความคดงอ 1. ลำดับการตรวจสอบก้านสูบคดงอหรือบิดตัว เกจ เกจตรวจ 1) ทำความสะอาดก้านสูบ สลักลูกสูบและแบริ่ง ตรวจ ก้านสูบ แล้วประกอบเข้าชุดแต่ละสูบ กา้ นสูบ 2) ขนั สกรกู า้ นสบู ใหแ้ นน่ ตามกำหนดดว้ ยประแจ ทอร์ก โดยไม่ใส่แบริ่งก้านสูบ สลกั ลกู สูบ 3) ตดิ ตง้ั ชดุ กา้ นสบู เขา้ กบั แทน่ ตรวจสอบศนู ยก์ า้ น แทน่ ตรวจ สูบ รูปท่ี 14.7 ตรวจก้านสบู คดงอ 4) ตรวจวัดก้านสูบคดงอ ด้วยเกจตรวจศูนย์ก้าน สูบและฟีลเลอร์เกจ เกจตรวจ ขอ้ ควรจำ ความบดิ ตวั ก้านสูบคดงอได้ไม่เกิน 0.03 มม. ต่อ ความยาวก้านสูบ 100 ซม. กา้ นสูบ 5) ตรวจวัดก้านสูบบิดตัว ด้วยเกจตรวจศูนย์ก้าน เกจตรวจ สูบและฟีลเลอร์เกจ ข้อควรจำ แท่นตรวจ ก้านสูบบิดตัวได้ไม่เกิน 0.5 มม. ต่อความ รูปท่ี 14.8 ตรวจกา้ นสูบบิดตัว ยาวก้านสูบ 100 ซม. ถ้าก้านสูบคดงอ หรือบิดตัวเกินกำหนด ต้องเปลี่ยนก้านสูบทั้งชุด ดดั ทลี ะนอ้ ยแล้วตรวจ 2. การดัดก้านสูบ รปู ท่ี 14.9 การดัดก้านสูบด้วยแทน่ ดดั ก้านสูบคดเล็กน้อยให้ดัดด้วยวิธีดัดเย็น ไม่ให้ ดัดร้อน เพราะความร้อนมีผลกระทบต่อเหล็กก้านสูบ หากก้านสูบคดมากต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะส่วนที่คด มากเนื้อเหล็กล้าตัวแล้ว เมื่อดัดคืนก็ไม่สามารถรักษา รูปเดิมไว้ได้ ขอ้ ควรจำ เมืองไทยมีทั้งตลาดอะไหล่ใหม่และอะไหล่เก่า ให้เลือกซื้อ ถ้าก้านสูบคดหรือบิดตัวเปลี่ยน ปลอดภัยกว่าดัด
งานวดั ละเอียดชา่ งยนต์ 167 ใบตรวจวัดท่ี จงตรวจวดั ความคดงอและการบดิ ตวั ของกา้ นสบู ดว้ ยแทน่ ตรวจสอบ 14.1 ก้านสูบแบบใช้นาฬิกาวัด (รูปซ้ายมือ) หรือแบบใช้ฟีลเลอร์เกจ (รปู ขวามอื ) แลว้ กรอกผลในตารางและชอ่ งวา่ ง j แท่นตรวจสอบก้านสบู แบบหลอ่ เป็นชน้ิ k แทน่ ตรวจสอบกา้ นสบู แบบหลอ่ เปน็ ชิ้น เดยี วกนั ใช้นาฬิกาวดั เดียวกัน ใชเ้ กจตรวจและฟลี เลอร์เกจ นาฬกิ าวัด ฟีลเลอร์เกจ เกจตรวจ กา้ นสบู ขนานกนั เพลาแทน่ ตรวจ ก้านสูบ แท่นตรวจกา้ นสบู ตรวจวัดก้านสูบ สบู ท่ี 1 สบู ที่ 2 สูบที ่ 3 สบู ท่ี 4 14 ก้านสบู คดงอ มม. ก้านสูบบิดตวั มม. ขอ้ ควรจำ ก้านสบู คดงอไดไ้ ม่เกนิ ...................... มม. ( .......................... นว้ิ ) ต่อความยาวกา้ นสบู 100 ซม. ก้านสูบบดิ ตัวไดไ้ ม่เกิน ...................... มม. ( .......................... น้ิว) ตอ่ ความยาวก้านสบู 100 ซม. การประเมนิ ผล ชอ่ื ................................................................ วันที่ ............................................................. คะแนน ....................................................... ผปู้ ระเมนิ ....................................................
168 งานวัดละเอยี ดชา่ งยนต์ ใบตรวจวดั ท่ี จงตรวจวดั ความคดงอและการบดิ ตวั ของกา้ นสบู ทก่ี ำหนดให ้ ดว้ ย 14.2 แท่นตรวจสอบก้านสูบแบบใดแบบหนึ่งต่อไปนี้ แล้วกรอกผลใน ตารางและชอ่ งวา่ ง j แทน่ ตรวจสอบก้านสบู แบบแยกชิ้น k แทน่ ตรวจสอบก้านสูบแบบแยกชิน้ ใช้เกจตรวจและฟลี เลอร์เกจ ใชน้ าฬกิ าวดั เกจตรวจศูนยก์ า้ นสบู เสาแทน่ สลกั ก้านสบู ก้านสบู ฐานแทน่ ตรวจสอบ ศนู ย์ก้านสูบ ตรวจวัดก้านสูบ สบู ท ่ี 1 สูบท่ี 2 สบู ที่ 3 สบู ท่ี 4 ก้านสูบคดงอ มม. กา้ นสบู บิดตัว มม. ขอ้ ควรจำ กา้ นสูบคดงอได้ไม่เกิน ...................... มม. ( .......................... นว้ิ ) ต่อความยาวกา้ นสบู 100 ซม. ก้านสูบบดิ ตวั ไดไ้ มเ่ กิน ...................... มม. ( .......................... นิ้ว) ต่อความยาวกา้ นสูบ 100 ซม. การประเมนิ ผล ชื่อ ................................................................ วนั ท ่ี ............................................................. คะแนน ....................................................... ผูป้ ระเมิน ....................................................
แบบฝกึ กจิ กรรมท ่ี 14 งานวดั ละเอยี ดชา่ งยนต์ 169 เรอื่ ง แทน่ ตรวจสอบศนู ยก์ า้ นสูบเครอื่ งยนต์ ตอนท่ ี 1 จงเติมคำในชอ่ งวา่ งต่อไปนี้ 1. แทน่ ตรวจสอบศนู ยก์ า้ นสูบเครื่องยนตต์ รวจได้ 2 อยา่ ง คืออะไร ...................................................................................................................................................................................................... 2. ก้านสบู คดเกดิ จาก 2 สาเหตุ คืออะไร ...................................................................................................................................................................................................... 3. กา้ นสูบบดิ ตัวได้เกดิ จาก 2 สาเหต ุ คืออะไร ...................................................................................................................................................................................................... 4. ก้านสูบคดมีผลกระทบ 2 อย่าง คอื อะไร ...................................................................................................................................................................................................... 5. ก้านสูบคดทำใหเ้ กิดการเสียหายมากท่ใี ด ...................................................................................................................................................................................................... 6. ก้านสูบคดสังเกตได้จาก 2 อยา่ ง คืออะไร ...................................................................................................................................................................................................... 7. กา้ นสบู บิดตัวมีผลกระทบตอ่ 2 อยา่ ง คอื อะไร 14...................................................................................................................................................................................................... 8. ก้านสูบเครื่องยนต์ 4 สบู คด 1 อัน แก้ไขอยา่ งไร ...................................................................................................................................................................................................... 9. กา้ นสูบคดทำให้ลกู สบู แตกได้อย่างไร ...................................................................................................................................................................................................... 10. แบริง่ กา้ นสบู สึกหรอเนอื่ งจากก้านสบู คดดูได้จากอะไร ......................................................................................................................................................................................................
170 งานวัดละเอียดชา่ งยนต์ ตอนท ่ี 2 จงทำเครือ่ งหมายถูก (P) ลงหน้าข้อความทถี่ กู ต้องทส่ี ดุ 1. กา้ นสูบคดเกิดจากอะไร 7. ทำไมไมใ่ ห้ดดั ก้านสบู ดว้ ยความร้อน ก. เครอ่ื งยนต์ร้อนจดั ข. เครื่องยนต์นอ็ ก ก. มีผลกระทบต่อเหลก็ ก้านสูบ ข. มผี ลกระทบต่อรูกา้ นสบู ค. ประกอบไมถ่ กู ต้อง ง. กระบอกสูบเรยี ว ค. อันตรายก้านสูบละลาย 2. ก้านสบู บิดตวั เกดิ จากอะไร ง. อันตรายก้านสบู หัก ก. เครือ่ งยนตร์ อ้ นจัด ข. เครื่องยนตน์ อ็ ก 8. ทำไมตอ้ งเปลย่ี นก้านสูบทค่ี ดมาก ค. ประกอบไม่ถูกต้อง ง. กระบอกสบู เรียว ก. ดัดยาก 3. การตรวจสอบกา้ นสบู ควรตรวจเมอ่ื ไร ข. ดดั คนื ศูนยย์ าก ก. ทุกครั้งทีถ่ อดออก ข. ทุกครง้ั ท่ีประกอบ ค. ดดั แลว้ กลับคดอกี ค. ทกุ สบู ท่สี งสยั ง. กา้ นสบู ใหม่ ง. เนอ้ื เหล็กลา้ ตวั แล้ว 4. การขันสกรูก้านสูบใหข้ นั แน่นเทา่ ไร 9. กา้ นสบู คดมีผลกระทบต่ออะไร ก. เท่ากำหนด ข. นอ้ ยกวา่ เลก็ น้อย ก. แบริง่ กา้ นสูบ ค. มากกว่าเล็กนอ้ ย ง. พอแนน่ ข. แบร่ิงขอ้ เหวี่ยง 5. ยอมให้กา้ นสบู คดไดเ้ ทา่ ใดตอ่ ความยาว 100 ซม. ค. ข้อก้านเพลาข้อเหวย่ี ง ก. ไม่เกนิ 0.1 มม. ข. ไม่เกนิ 0.2 มม. ง. ขอ้ กา้ นเพลาข้ออกเพลาขอ้ เหว่ียง ค. ไมเ่ กิน 0.3 มม. ง. ไมเ่ กนิ 0.4 มม. 10. กา้ นสบู คดสูบใดสบู หน่งึ ควรแกไ้ ขอย่างไร 6. ยอมใหก้ ้านสูบบิดตัวได้เทา่ ไรตอ่ ความยาว 100 ซม. ก. ดดั กา้ นสูบใหต้ รง ก. ไมเ่ กนิ 0.3 มม. ข. ไม่เกนิ 0.4 มม. ข. เปลย่ี นทัง้ ชุด ค. ไมเ่ กิน 0.5 มม. ง. ไม่เกิน 0.6 มม. ค. เปล่ียนก้านท่ีคด ง. เปลย่ี นทงั้ ชุดพรอ้ มเพลาขอ้ เหวี่ยง ตอนที่ 3 จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้ให้ไดใ้ จความสมบรู ณ์ 1. แท่นตรวจสอบศูนย์กา้ นสูบมหี นา้ ท่อี ะไร 2. การทำงานปกติของเครอ่ื งยนตท์ ำใหก้ ้านสบู คดหรือบดิ ตัวได้หรือไม่ เพราะอะไร 3. จงเขียนลำดบั การตรวจสอบศูนย์กา้ นสูบมา 5 ข้อส้ัน ๆ 4. จงเขียนคำแนะนำการดดั ก้านสูบมา 2-3 บรรทดั 5. จงสเกตชแ์ บบแท่นตรวจสอบกา้ นสบู แบบใด ๆ กไ็ ด ้ พรอ้ มกำหนดขนาดเพ่ือใชเ้ ป็นงานโครงงานได้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178