แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าโปรแกรมประมวลผลคาเบือ้ งตน้ ชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปีการศึกษา ๒๕๖๔ นางสาวปารชิ าติ สิงคาโล ตาแหน่ง ครู คศ.1 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
คำอธิบำยรำยวชิ ำโปรแกรมประมวลผลคำเบอ้ื งตน้ ภำคเรียนที่ 1 ปกี ำรศกึ ษำ 2564 เวลำ 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ เพ่ือศกึ ษาการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคาเบ้ืองตน้ สว่ นประกอบของโปรแกรม การพมิ พ์แฟ้มข้อมลู การแทรก รูปภาพ การสร้างตาราง การแสดงผลบนจอภาพเคร่ืองพิมพ์การใชค้ าสัง่ พื้นฐานของโปรแกรมประมวลผลคาเบอื้ งตน้ การประยุกต์ใช้งานในด้านตา่ งๆ เชน่ การสร้างการด์ อวยพร การสร้างโบว์ชัวร์ การสร้างประกาศนยี บัตร การสรา้ ง ปฏทิ ินได้อย่างเหมาะสม โดยใช้กระบวนการ สร้างความรู้ ความเข้าใจ การคดิ การวเิ คราะห์ การฝึกทักษะและปฏบิ ตั ิงาน การ แก้ปญั หา การทางานกลุ่ม การเสรมิ สรา้ งเจตคติ และกระบวนการเสรมิ สร้างคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เพ่ือใหผ้ ู้เรียนเกิดคุณลกั ษณะทีด่ ใี นดา้ นทักษะการทางาน สรา้ งสรรค์ผลงานในการดารงชวี ิต และการ ประกอบอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ประสทิ ธิผล มีคุณธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ทรัพยากร และสงิ่ แวดลอ้ มทม่ี ีอยู่อย่างคุ้มค่าถูกวธิ ี ผลกำรเรยี นรู้ 1. บอกความหมาย และสว่ นประกอบของโปรแกรมประมวลผลคา 2. ใชเ้ ครือ่ งมือในโปรแกรมประมวลผลคาเพ่ือสรา้ งและแก้ไขเอกสาร 3. สร้างช้ินงานดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา รวม 3 ผลกำรเรยี นรู้
ผังมโนทัศน์ หน่วยท่ี 1 หนว่ ยที่ 2 ความรู้เบอ้ื งต้นเก่ยี วกบั โปรแกรม การพมิ พข์ ้อความและการทางานกับเอกสาร Microsoft Word 2016 จำนวน 6 ชั่วโมง : 10 คะแนน จำนวน 6 ชั่วโมง : 10 คะแนน หน่วยที่ 3 โปรแกรมประมวลผลคำ หนว่ ยท่ี 4 การจดั รูปแบบข้อความ เบื้องตน้ จำนวน 40 ช่ัวโมง การค้นหาและตรวจสอบข้อความ จำนวน 6 ช่ัวโมง : 10 คะแนน จำนวน 6 ชั่วโมง : 10 คะแนน หนว่ ยที่ 5 หนว่ ยที่ 6 การสรา้ งตาราง การสร้างเอกสารจากโปรแกรม จำนวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน Microsoft Word 2016 จำนวน 8 ชั่วโมง : 10 คะแนน
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ หน่วยกำรเรยี นร้ทู ี่ 1 เร่ือง ควำมร้เู บอ้ื งตน้ เกี่ยวกับ Microsoft word 2016 แผนจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง ควำมรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกับ Microsoft word 2016 ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษำตอนตน้ ภำคเรียนท่ี 1 ปกี ำรศกึ ษำ 2564 น้ำหนักเวลำเรยี น 1.0 (นน./นก.) เวลำเรยี น 40 ชว่ั โมง/สัปดำห์ เวลำทใี่ ช้ในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 6 ชัว่ โมง ............................................................................................................................. ............................. 1. สำระสำคัญ โปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2016 เป็นโปรแกรมในการจัดการเอกสารต่าง ๆ ท่ีมี ประสิทธิภาพและมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย มีความสามารถในการจัดการรูปแบบตัวอักษรและข้อความให้มี ความน่าสนใจ เหมาะสมกับรูปของเอกสารน้นั ๆ และยงั สามารถปรับปรุงแก้ไข จดั เกบ็ ในรูปแบบตา่ ง ๆ เพอื่ นามาใช้ ใหม่ ทาให้การทางานมีความสะดวก รวดเรว็ 2. มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพือ่ การดารงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้และทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแกป้ ัญหา หรือพัฒนา งานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคานึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ิต สังคม และสง่ิ แวดล้อม มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาทพ่ี บในชวี ิตจริงอยา่ งเป็นข้นั ตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 เนือ้ หำสำระหลกั : Knowledge 1. บอกประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft Word 2016 ได้ 2. สว่ นประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Word 2016 ได้ 3. สร้าง เปิด ปิด และบนั ทึกเอกสารได้ 4. กาหนดคา่ เรม่ิ ต้นในการใช้โปรแกรมได้ 5. จดั รปู แบบย่อหน้าและการก้นั ระยะได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนกำร : Process สามารถเขา้ สูโ่ ปรแกรม Microsoft Word 2016 ได้ 3.3 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ : Attitude ซือ่ สตั ย์ มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั้ ในการทางาน
4. สมรรถนะสำคญั ของนักเรียน - ความรอบคอบ 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะของวิชำ - ความมวี นิ ัย - ความรับผดิ ชอบ - มนษุ ยสัมพันธ์ - ขยนั หมนั่ เพยี ร 6. คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต 3. มีวินัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 6. มุ่งม่ันในการทางาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 7. ช้ินงำน/ภำระงำน : - แบบประเมินผลหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 1 8. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1-2 1. ครสู นทนากับผ้เู รยี นเพ่ือให้เหน็ ความสาคญั ของการใช้โปรแกรมประมวลผลคา ซง่ึ ในปจั จบุ นั สานักงาน ทงั้ ภาครฐั และเอกชน มีการนาโปรแกรมประมวลผลคามาใชใ้ นการพมิ พเ์ อกสาร และรายงานต่างๆ แทนเคร่อื ง พมิ พด์ ดี มากขน้ึ เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ และเครื่องคอมพิวเตอร์มรี าคาถูกลงแต่มี ประสทิ ธภิ าพสงู ขึ้น ทาใหส้ านักงานตา่ งๆ นิยมใช้คอมพวิ เตอร์เข้ามาช่วยในการประมวลขอ้ มลู ซงึ่ สามารถจดั ทา เอกสาร บทความ และรายงานได้อยา่ งรวดเรว็ โดยจดั ข้อความและเลือกแบบอกั ษร แก้ไข เพ่มิ เติม ปรบั ปรุง แทรกข้อความ รวมขอ้ ความหรือเอกสาร จดั ขอบกระดาษและตรวจดูเอกสารก่อนทีจ่ ะพิมพเ์ อกสารจรงิ ออกมา ชัว่ โมงที่ 3 -6 2. ครูใชเ้ ทคนิควิธสี อนแบบบรรยาย (Lecture Method) ดว้ ยการเล่าอธบิ ายแสดงสาธิตใหผ้ ู้เรยี นเปน็ ผฟู้ งั และเปิดโอกาสให้ผูเ้ รยี นซักถามปญั หาได้ในตอนทา้ ยของการบรรยายเกี่ยวกับประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Word 2016 ได้แก่ ดา้ นการจัดเก็บเอกสาร การเรยี กใช้ข้อมูล การทาสาเนา การคน้ หาและแก้ไขเอกสาร การ จัดรปู แบบเอกสาร การใช้รปู แบบท่จี ดั ไวแ้ ลว้ การตรวจสอบคาผดิ ลกั ษณะใหม่ การใชเ้ อกสารร่วมกนั สามารถบันทึก เอกสารต่างๆ ซง่ึ มีประโยชนด์ ังนี้
1) ชว่ ยให้งานเอกสารสะดวกขึ้น เชน่ การเพิ่ม ลบ แทรกข้อความ การทาสาเนา เปน็ ต้น 2) ช่วยให้การค้นหาเอกสารและจัดเก็บเอกสารง่ายขน้ึ 3) ช่วยลดข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน เชน่ ทาจดหมายเวยี น 4) ช่วยประหยดั เวลา และค่าใชจ้ ่ายในการพิมพเ์ อกสาร 5) ช่วยสรา้ งเอกสารใหม้ ีความสวยงาม เนอ่ื งจากเพิ่มกราฟิก รูปวาด รปู ภาพตามที่ต้องการได้ 6) ลดความผดิ พลาดของงานเอกสาร เนอ่ื งจากลบหรือเพ่ิม โดยตรวจสอบความถูกต้องทางหนา้ จอก่อนพิมพ์ หรอื อาจใช้ระบบตรวจคาผิดอัตโนมัติ จงึ ชว่ ยใหเ้ อกสารสมบูรณ์ 7) สามารถค้นหาและเรยี กใช้ขอ้ มูลไดง้ ่าย 3. ครใู ชเ้ ทคนคิ วิธีสอนแบบใช้โสตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ี สอนทนี่ าอุปกรณโ์ สตทัศนว์ ัสดมุ าชว่ ยพัฒนาคณุ ภาพการเรียนการสอน โสตทศั นว์ ัสดุดงั กลา่ ว ได้แก่ CD, Power Point เพ่อื แสดงใหผ้ เู้ รยี นได้เรยี นรู้ส่วนประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรม Microsoft Word 2016 4. ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบสาธิต (Demonstration Method) เป็นวธิ สี อนท่คี รูแสดงให้ผู้เรยี นดูและให้ ความรู้แกผ่ เู้ รยี นโดยใช้สือ่ การเรียนรทู้ ่เี ป็นรปู ธรรม และผ้เู รียนไดป้ ระสบการณต์ รง ซ่ึงครูเป็นผสู้ าธิต และให้ผู้เรยี น ฝึกทกั ษะปฏิบัติตามเพื่อเรียนรู้ส่วนประกอบต่างๆ ของโปรแกรม Microsoft Office Word 2016 ดังนี้
5. ครูและผ้เู รยี นใชเ้ ทคนิคการจดั การเรียนร้แู บบใช้คาถาม (Questioning Method) เป็นกระบวนการ เรยี นรูท้ มี่ ุ่งพฒั นากระบวนการทางความคิดของผู้เรยี น โดยผ้สู อนจะปอ้ นคาถามในลักษณะตา่ ง ๆ ที่เป็นคาถามท่ีดี สามารถพฒั นาความคิดผู้เรยี น ถามเพ่ือให้ผู้เรียนใชค้ วามคิดเชงิ เหตผุ ล วิเคราะห์ วิจารณ์ สงั เคราะห์ หรือ การ ประเมินค่าเพ่ือจะตอบคาถามเหลา่ นั้น ซึ่งเปน็ คาถามเกี่ยวกับส่วนประกอบต่างๆ ของโปรแกรม Microsoft Word 2016 6. ครูและผ้เู รียนใชเ้ ทคนิควิธสี อนแบบสาธิต (Demonstration Method) เร่อื งการสร้าง การเปดิ ปิด และ บันทึกเอกสาร นอกจากนน้ั ยังใช้เทคนิควธิ สี อนแบบใช้โสตทศั นวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ได้แก่ Power Point เป็นสอ่ื ประกอบ 7. ครูและผเู้ รยี นใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบสาธติ (Demonstration Method) เร่ืองการกาหนดค่าเรม่ิ ต้นในการ ใช้โปรแกรม นอกจากนนั้ ยังใชเ้ ทคนคิ วิธสี อนแบบใชโ้ สตทัศนวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ได้แก่ Power Point เป็นสื่อประกอบ โดยก่อนการพมิ พง์ านในเอกสารสง่ิ ที่สาคัญคือการกาหนดรูปแบบ ของเอกสารให้ตรงกบั งานท่ีต้องการคือการกาหนดค่าเรม่ิ ต้นให้กับโปรแกรม เชน่ กาหนดขนาดเอกสาร การกาหนด รปู แบบตัวอักษร ขนาดตวั อกั ษร เปน็ ต้น 8. ครแู ละผ้เู รียนใช้เทคนิควธิ สี อนแบบสาธติ (Demonstration Method) เร่ืองการกาหนดค่าเร่มิ ตน้ ในการใช้ โปรแกรม นอกจากนั้นยังใช้เทคนิควิธีสอนแบบใชโ้ สตทัศนวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ได้แก่ Power Point เป็นส่ือประกอบ 9. ครแู ละผ้เู รยี นใช้เทคนิควิธีสอนแบบสาธติ (Demonstration Method) เรอื่ งการจดั รูปแบบยอ่ หน้าและ การกัน้ ระยะ นอกจากน้ันยังใชเ้ ทคนิควิธีสอนแบบใช้โสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ไดแ้ ก่ Power Point เปน็ สอื่ ประกอบ 10. ผู้เรียนบอกสว่ นประกอบของโปรแกรม Microsoft Word 2016 ตามรูปภาพทคี่ รูแสดงให้ดแู ล้วบนั ทกึ สง่ ครูเพื่อประเมินผล 1 1. จงอธบิ ายวิธีการกาหนดคา่ เรม่ิ ต้นของตัวอักษร โดยกาหนดให้ตัวอักษรภาษาไทยเปน็ AngsanaUPC ตัวปกติ ขนาด 16 ตัวอักษรภาษาองั กฤษเป็น Cordia New ตัวปกติ ขนาด 16 โดยกาหนดใหม้ ีผลเฉพาะเอกสารน้ี เท่านน้ั 12. ผเู้ รียนอธิบายวธิ กี ารกาหนดค่าหนว่ ยวดั ไมบ้ รรทัดเปน็ เซนตเิ มตร
13. ผู้เรยี นบอกความหมายของรูปแบบการก้นั ระยะ และย่อหนา้ ต่อไปน้ี First Line Indent ............................................................................................................................ Left Indent ...................................................................................................................................... Right Indent .................................................................................................................................... Left Margin ...................................................................................................................................... Right Margin ............................................................................................................................. ....... Hanging Indent ............................................................................................................................... 14. ผ้เู รียนพิมพ์ขอ้ ความและกาหนดตาแหน่งของ Tab ตามโจทย์ทกี่ าหนดใหแ้ ละกาหนดระยะหา่ งของ บรรทดั 1.0 บันทกึ ไฟลช์ ื่อ EX1-1.docx 15. ครแู นะนาเพิม่ เติมให้ผเู้ รียนเขยี นบัญชแี สดงรายรับ-รายจา่ ยในชีวติ ประจาวนั เพ่ือสรา้ งนสิ ัยความ พอเพียงให้แกต่ นเองและครอบครัว ขน้ั สรุปและกำรประยกุ ต์ 16. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Word 2016 สว่ นประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรม Microsoft Office 2016 การสรา้ ง การเปิด ปิด และบันทึกเอกสาร การกาหนดคา่ เริ่มตน้ ในการใช้ โปรแกรม และการจดั รปู แบบยอ่ หน้าและการก้นั ระยะ 17. ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลหลังเรยี น และแบบฝกึ ปฏิบัติ 19.สรุปโดยการถาม-ตอบ เพื่อประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวันและประเมินผเู้ รียนตามแบบฟอรม์ ตอ่ ไปน้ี ช่ือผเู้ รยี น ประสบการณ์พนื้ ฐานการเรียนรู้ วธิ กี ารเรียนรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5.
9. สือ่ กำรเรยี นกำรสอน / แหลง่ เรยี นรู้ จำนวน สภำพกำรใช้สอ่ื รำยกำรสอ่ื 1 ชดุ ขน้ั ขยายความรู้ 1. แบบประเมนิ ผลหลังเรียนหนว่ ยท่ี 1 1 ชดุ ข้ันสรา้ งความสนใจ/ขั้นขยายความรู้ 2. เครื่องคอมพวิ เตอร์ 10. กำรวัดผลและประเมินผล เป้ำหมำย หลักฐำนกำรเรียนรู้ วิธวี ดั เคร่อื งมอื วดั ฯ ประเดน็ / กำรเรียนรู้ ช้ินงำน/ภำระงำน เกณฑก์ ำรให้ ตรวจแบบ แบบประเมินผลการ การจดั รปู แบบย่อหน้าและการก้นั หน้า ใบงาน ประเมนิ ผลการ เรียนรู้ และแบบฝึก คะแนน เรียนรู้ แบบฝกึ ปฏิบตั ิ ปฏบิ ัติ แบบประเมินผลการ เรียนรมู้ เี กณฑ์ผา่ น และแบบฝกึ ปฏบิ ัติ 50% 11. กำรบรู ณำกำรตำมจดุ เนน้ ของโรงเรียน หลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ ครู ผเู้ รียน พอเพียง รู้จกั ใชเ้ ทคโนโลยีที่ทนั สมยั ในการจัดการ กาหนดใหท้ ุกคนเขา้ เรียน เลิกเรียนตรงเวลา 1. ความพอประมาณ เรยี นการสอน และปฏบิ ตั ิงานเสร็จทนั ตามกาหนดเวลา ปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ย่างถูกต้อง และสาเรจ็ ภายใน 2. ความมีเหตผุ ล ยดึ ถอื การประกอบอาชพี ด้วยความถกู ต้อง เวลาที่กาหนด สจุ รติ มีความรเู้ กดิ ความรบั ผิดชอบ การตรงตอ่ เวลา 3. มีภูมิคมุ กันในตัวทีด่ ี มคี วามรู้ รอบคอบ และ มคี วามรเู้ กีย่ วกับโปรแกรม Microsoft Word 2016 4. เง่อื นไขความรู้ ตรงตอ่ เวลา เปิด ปดิ เอกสาร และการสร้างก้นั หน้าไดอ้ ยา่ ง เข้าใจผู้เรียนเป็นรายบุคคล ในการจดั ถูกต้อง กิจกรรมการเรยี นการสอนในเรือ่ งความรู้ เบอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั Microsoft Word 2016 5. เงอ่ื นไขคุณธรรม มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มีความ มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มคี วาม ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ซื่อสตั ยส์ ุจรติ และมคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ใช้ ใช้สติปัญญาในการทางาน สตปิ ญั ญาในการทางาน
สวนพฤกษศำสตร์โรงเรียน ครู ผเู้ รยี น - การเกิดชนิ้ งานแตล่ ะกรณี - ปจั จัยทีม่ ีผลต่อการเกิดชนิ้ งาน - ระบปุ ัจจยั ทม่ี ผี ลต่อการเกดิ ชน้ิ งาน สิ่งแวดล้อม ครู ผู้เรียน - การเลือกใช้อณุ ภมขิ อง - การใช้อปุ กรณส์ อ่ื / เทคนคิ วิธีการสอน - ใช้อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร/์ เคร่อื งปรบั อากาศ เครื่องปรบั อากาศอยา่ งถูกวธิ ี - กระบวนการอนุรักษ์พลังงาน อยา่ งถกู วธิ ี - การอนุรักษพ์ ลงั งาน - แสนอแนะแนวทางอนรุ กั ษ์พลังงาน
แบบประเมินผลกอ่ นเรียนหน่วยท่ี 1 จงเลือกคำตอบที่ถูกตอ้ งเพยี งข้อเดยี ว 1. ข้อใดเปน็ แถบแสดงชื่อโปรแกรมและชื่อไฟลป์ ัจจุบันทเี่ ปดิ ใช้งานอยู่ ก.Scale Bar ข. Menu Bar ค. Title Bar ง. Tool Bar จ. Status Bar 2. ขอ้ ใดเปน็ แถบเครอ่ื งมอื แสดงสถานะ ก. Title Bar ข. Menu Bar ค. Quick Access ง. Tool Bar จ. Status Bar 3. การกาหนดระยะของกระดาษอย่ใู นหมวดคาสง่ั ใด ก. Themes ข. Page Setup ค. Page Background ง. Paragraph จ. Arrange 4. ขอ้ ใดหมายถงึ การรวบรวมคาสง่ั เปน็ หมวดหมู่ จ. File Format จ. Review ก. Quick Access Toolbar ข. Ribbon ค. Work Area ง. Format จ. Design 5. รูปแบบเอกสารที่โปรแกรมจดั เตรยี มมาใหเ้ รยี กว่าอะไร ก. Document ข. Templates ค. Slide ง. Format 6. การกาหนดระยะขอบกระดาษ ต้องเลอื กท่ีแทบ็ เมนใู ด ก. Home ข. Insert ค. Page Layout ง. Mailings 7. การกาหนดหนว่ ยของไมบ้ รรทดั ต้องเลอื กที่ใด ก. File > Exit ข. File > Recent ค. File > Info ง. File > Option จ. File > Save & Send 8. ให้พิจารณารูปภาพต่อไปนเ้ี กยี่ วขอ้ งกับเรอ่ื งใด ก. หน้ากระดาษ ข. การแทรกงาน ค. เค้าโครงหน้ากระดาษ ง. มุมมองการนาเสน จ. จดหมายเวยี น 9. จากรปู ภาพตรงกบั ข้อใด ข. Right Tab แทบ็ ชดิ ขวา ก. Decimal Tab แท็บทศนิยม ง. Center Tab แทบ็ กึ่งกลาง ค. Left Tab แท็บชดิ ซ้าย จ. ข้อ ข. และ ค. ถกู ต้อง 10. จากรูปภาพเป็นคาส่งั ในการทางานเอกสารตามขอ้ ใด ก. ก้นั หน้าด้านซา้ ย ข. กน้ั หน้าดา้ นขวา ค. เค้าโครงหน้ากระดาษ ง. แหล่งกระดาษ จ. กงึ่ กลางกระดาษ
แบบประเมนิ ผลหลังเรียนหนว่ ยท่ี 1 จงเลือกคำตอบทถี่ กู ตอ้ งเพียงข้อเดยี ว 1. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยชน์ของโปรแกรมประมวลผลคา ก. ชว่ ยให้พมิ พง์ านได้เรว็ ข้ึน ข. ทาสาเนาได้งา่ ย ค. ค้นหาและแกไ้ ขเอกสารไดร้ วดเรว็ ง. จดั รูปแบบเอกสารใหส้ วยงาม จ. ค้นหาและจัดเก็บเอกสารไดร้ วดเรว็ 2. ข้อใดเป็นเครอ่ื งมอื ย่อขยายเอกสาร ก. Title Bar ข. Menu Bar ค. View Bar ง. Tool Bar จ. Status Bar 3. ถา้ ตอ้ งการกาหนดกระดาษใหเ้ ปน็ แนวต้ัง ต้องเลือกใชเ้ คร่อื งมอื ใด ก. Margins ข. Orientation ค. Columns ง. Breaks จ. Size 4. การสร้างเอกสารเปล่าตอ้ งเลอื กขอ้ ใด ก. File > New > Document ข. File > New > Blank Document ค. File > New > New from existing ง. File > New > Recent Templates จ. File > New > My Templates 5. การตัง้ ขอบกระดาษโดยกาหนดเองตอ้ งเลอื กข้อใด ก. Margins > Normal ข. Margins > Narrow ค. Margins > Moderate ง. Margins > Custom Margins จ. Margins > Wide 6. Hanging Indent หมายถึงข้อใด ก. การกัน้ ระยะซ้าย ข. การกัน้ ระยะขวา ค. การยอ่ หน้าบรรทัดแรก ง. การย่อหนา้ อ่ืนนอกจากบรรทดั แรก จ. การยอ่ หน้าขวา 7. การใหเ้ ครือ่ งมือไมบ้ รรทัดแสดงขนึ้ มา ต้องเลือกทีแ่ ท็บเมนใู ด ก. Page Layout ข. References ค. Mailings ง. Review จ. View 8. ปกติโปรแกรม Microsoft Word จะกาหนดขนาดกระดาษเรมิ่ ตน้ ที่ขนาดใด ก. A3 ข. A4 ค. Legal ง. Letter จ. Ledger 9. จากรปู ภาพตรงกับขอ้ ใด ข. Right Tab แทบ็ ชิดขวา ค. Left Tab แท็บชดิ ซ้าย ก. Decimal Tab แทบ็ ทศนิยม ง. Center Tab แทบ็ ก่งึ กลาง จ. Left Margin กั้นหน้าดา้ นซ้าย 10. ข้อใดเป็นเคร่อื งมอื ที่ใช้จบั ภาพหนา้ จอ ก. ข. ค. ง. จ.
เฉลยแบประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น/หลงั เรยี น เฉลยก่อนเรียน เฉลยหลังเรยี น 1.ค 1.ก 2.จ 2.ค 3.ข 3.ข 4.ข 4.ข 5.ข 5.ง 6.ค 6.ง 7.ง 7.จ 8.ข 8.ข 9.ค 9.ง 10.ก 10.ก
ใบงำนที่ 1 ผ้เู รยี นพมิ พ์ขอ้ ความและกาหนดตาแหนง่ ของ Tab ตามโจทย์ท่ีกาหนดใหแ้ ละกาหนดระยะหา่ งของบรรทัด 1.0 บันทึกไฟล์ชอื่ EX1-1.docx
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 2 เรอื่ ง กำรพมิ พ์ข้อควำมและกำรทำงำนกับเอกสำร แผนจัดกำรเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง กำรพมิ พข์ ้อควำมและกำรทำงำนกบั เอกสำร ระดับชั้นมัธยมศึกษำตอนตน้ ภำคเรยี นท่ี 1 ปกี ำรศึกษำ 2564 นำ้ หนักเวลำเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลำเรยี น 40 ช่ัวโมง/สัปดำห์ เวลำท่ใี ช้ในกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ 6 ช่ัวโมง ............................................................................................................................. ............................. 1. สำระสำคัญ งานเอกสารต่างๆ ที่สร้างขึน้ ด้วยโปรแกรมใดก็ตาม หากจดั การกับรูปแบบตัวอักษรและข้อความให้มคี วาม นา่ สนใจ เหมาะสมกบั รปู แบบของเอกสารนน้ั ๆ กจ็ ะทาให้เอกสารมีคุณภาพมากขนึ้ โปรแกรม Microsoft Word 2016 มีความสามารถปรับแต่งรปู แบบอักษรและข้อความใหส้ วยงามนา่ สนใจได้อย่างงา่ ยดาย ทาให้การจดั การ รปู แบบเอกสารทาได้รวดเร็วและมปี ระสทิ ธิภาพ 2. มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพอื่ การดารงชวี ติ ในสังคมที่มีการเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้และทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรอื พัฒนา งานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ญั หาทพ่ี บในชวี ิตจริงอยา่ งเป็นข้นั ตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 เนื้อหำสำระหลัก : Knowledge 1. การปรบั คุณลักษณะของตัวอักษรและข้อความ 2. การคดั ลอกข้อความและคัดลอกรปู แบบข้อความ 3. การค้นหาและแทนท่ี 4. การจดั ระยะห่างระหวา่ งบรรทัด 5. การจัดตาแหน่งกลุ่มข้อความ 6. การใสส่ ญั ลักษณ์แสดงหัวข้อ 7. การทาอักษรข้ึนต้นด้วยตวั ใหญ่ 8. การแบ่งข้อความเป็นคอลัมน์ ทกั ษะ/กระบวนกำร : Process สามารถพิมพ์ขอ้ ความและการทางานกบั เอกสาร ได้
3.4 คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude ซอ่ื สตั ย์ มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน้ั ในการทางาน 4. สมรรถนะสำคญั ของนกั เรียน - ความรอบคอบ 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะของวิชำ - ความมวี นิ ัย - ความรับผิดชอบ - มนุษยสัมพันธ์ - ขยนั หมัน่ เพียร 6. คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซือ่ สัตยส์ ุจรติ 3. มวี นิ ยั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 7. ชิ้นงำน/ภำระงำน : - แบบประเมินผลหลังเรยี นหน่วยที่ 2 8. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ข้ันนำเข้ำส่บู ทเรียน 1.ครูแนะนาการจัดกจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใชแ้ บบโมเดลซปิ ปา (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรูเ้ ดิม จากสัปดาหท์ แี่ ล้ว เพื่อดึงความร้เู ดมิ ของผู้เรียนในเร่ืองท่ีจะเรยี น เพือ่ ช่วยให้ผเู้ รยี นมคี วามพร้อมในการเชือ่ มโยง ความรใู้ หม่กับความรูเ้ ดิมของตน ซึง่ ผ้สู อนใช้การสนทนาซักถามให้ผู้เรยี นเล่าประสบการณ์เดมิ หรือให้ผ้เู รยี นแสดง โครงความรเู้ ดิม (Graphic Organizer) ของตน 2.ครูแนะนาใหผ้ เู้ รยี นศึกษาคาศพั ท์ทีใ่ ชส้ ่ือสารในโปรแกรมประมวลผลคา เพ่ือให้นาไปใช้ได้ถูกตอ้ ง ขัน้ สอน 3.ครูใชเ้ ทคนิดวธิ สี อนแบบสาธติ โดยผสู้ อนเป็นผสู้ าธติ และให้ผู้เรยี นปฏบิ ัตติ ามในเรื่องการปรบั คุณลกั ษณะ ของตวั อักษรและข้อความ ซง่ึ เป็นการเพ่ิมความน่าสนใจให้กับข้อความด้วยการปรับเปลี่ยน คณุ ลักษณะดงั ต่อไปน้ี 1.การเพม่ิ ความหนาให้กับข้อความ 2. การทาใหข้ ้อความเปล่ยี นเปน็ ตัวเอยี ง
3. การขีดเสน้ ใตข้ ้อความ 4. การขีดเสน้ ทับข้อความ 5. การเปล่ยี นขนาดตัวอักษร 6. การเปลี่ยนขนาดตวั อักษรแบบขยายขนาด 7. การทาตัวยกและตวั ห้อย 4.ครูใช้เทคนนคิ วิธสี อนแบบใช้โสตทศั นวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ไดแ้ ก่ CD และ Power Point 5.ครใู ช้เทคนิดวิธีสอนแบบสาธติ เรื่องการปรับคณุ ลกั ษณะของข้อความ การปรบั คุณลกั ษณะของข้อความ เป็นการเพ่ิมความนา่ สนใจให้กบั ข้อความด้วยการปรบั เปล่ียนคุณลักษณะดงั ต่อไปน้ี 1) Drag เมาส์คลมุ ข้อความที่ต้องการตกแต่ง จะปรากฏมินิทูลบาร์ (Mini Toolbar) ขึน้ โดยอตั โนมตั ใิ ห้เลอื กใช้ไดต้ ามตอ้ งการ 2) คลกิ ปมุ่ เครอ่ื งมือบนทูลบารท์ ่ีปรากฏ หรอื ใน Tab Home ท่กี ล่มุ Font คลิกปมุ่ จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ ของ Font ใหก้ าหนดรายละเอยี ดเพ่ิมเตมิ
3) เม่อื กาหนดรายละเอยี ดต่างๆ เสร็จแล้วคลกิ ป่มุ OK 3.1 ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมขอ้ ความท่ีต้องการ 3.2 เลือกริบบอนหน้าแรก (Home) 3.3 คลกิ ทส่ี ัญลกั ษณ์ในเครอื่ งมือจดั รูปแบบขอ้ ความดังน้ี 6.ครแู ละผู้เรียนสาธิตการคัดลอกข้อความและคัดลอกรูปแบบขอ้ ความ โดยการคดั ลอกและวางข้อความ การพมิ พเ์ อกสารอาจจะมีข้อความหรอื รปู แบบอกั ษรหรือข้อความทเี่ หมือนกัน ซ้ากนั เป็นจานวนมากการพมิ พซ์ ้าๆ กันทาใหเ้ สียเวลาและอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึน้ ได้ การใชค้ าสั่งคดั ลอก (Copy) และวาง (Paste) ชว่ ยในการทางานได้ รวดเรว็ และลดข้อผิดพลาดได้ 1) คลมุ ข้อความทตี่ ้องการคดั ลอก 2) คลิกทป่ี ุ่ม (Copy) บนแทบ็ หนา้ แรก (Home) หรือคลิกขวาบรเิ วณขอ้ ความทีค่ ลมุ เลือก Copy ในเมนทู ่ี ปรากฏ 3) คลิกเลือกตาแหน่งที่ต้องการวางขอ้ ความ 4) คลกิ ท่ีเครื่องมือ บนแทบ็ หนา้ แรก (Home) หรือกด Ctrl + V ทีแ่ ปน้ พมิ พ์
7.ครูสาธติ และให้ผู้เรยี นปฏิบัตติ ามเรื่องการวางขอ้ ความในลกั ษณะตา่ งๆ โดยการวางข้อความในเอกสาร สามารถเลือกรปู แบบการวางได้หลายรปู แบบ ขึ้นอยู่กับข้อมูลท่ีคดั ลอก (Copy) มา 1) เลอื กขอ้ มูลทีต่ ้องการคดั ลอก 2) คลิกเลือกทีล่ ูกศรใต้ปุ่มเคร่ืองมือ คลิกทต่ี วั เลือกการวาง (Paste Options) จะมรี ูปแบบการวางตาม ข้อมลู ท่ีคดั ลอกมาดังนี้ วางเฉพาะข้อความลงบนเอกสาร วางรูปภาพลงบนเอกสาร วางทั้งรปู แบบและข้อความลงบนเอกสาร วางข้อมลู ลงตามรูปแบบปลายทาง 3) หรือคลิกเมาส์ขวาที่ตาแหนง่ การวาง 4) เลอื กคาสง่ั รูปแบบการวาง 8.ครแู ละผูเ้ รียนสาธติ และฝึกปฏิบตั ิการคดั ลอกรูปแบบข้อความ (Format Painter) โดยการคดั ลอกรปู แบบ เพ่อื ไปใช้งานในเอกสารในสว่ นทตี่ อ้ งการรปู แบบท่ีเหมือนกัน เชน่ รปู แบบตวั อักษร ขนาด สี คุณสมบตั ขิ องตวั อักษร มีวิธีการดังน้ี 1) ลากคลุมขอ้ ความทีต่ ้องการคดั ลอกรูปแบบ 2) คลกิ เลือกที่ปุ่ม บนแทบ็ หน้าแรก (Home) 3) ใช้เมาสล์ ากข้อความท่ตี ้องการคัดลอกรปู แบบ ข้อความจะถกู เปล่ียนแปลงเหมือนกับรปู แบบต้นฉบับ
หมำยเหตุ การคดั ลอกรูปแบบโดยการคลกิ เลอื ก Format Painter จะมผี ลเพียงครั้งเดียว ถา้ ต้องการ คดั ลอกรปู แบบเดียวกนั ให้มผี ลตอ่ เน่อื ง ให้ดบั เบิลคลิกที่ Format Painter แลว้ นาไปลากคลุมข้อความ จะทาได้ จนกวา่ จะกดปุ่ม Esc 9.ครสู าธิตและใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ตั ิตามในการคน้ หาและแทนท่ี โดยการคน้ หา Find กรณีเอกสารท่มี ขี ้อความ จานวนมากถ้าต้องการเปล่ยี นแปลงหรือแก้ไขข้อความต้องใช้เวลามาก เครอื่ งมือคน้ หาและแทนทีช่ ว่ ยในการ แก้ปญั หาดงั กล่าวได้อยา่ งดี การทารายงานท่ีมีข้อความบางขอ้ ความพมิ พผ์ ิด เช่น อินเทอร์เนต็ ฟังกช์ ัน ถ้าต้องการ แก้ไขโดยการอ่านและแก้ไขทีละตวั ทีละบรรทัดตอ้ งใชเ้ วลา และอาจผิดพลาดโดยแก้ไขไม่ครบ เป็นต้น วิธีการคน้ หา และแทนทท่ี าไดด้ ังน้ี 1) ท่แี ท็บหนา้ แรก (Home) คลิกเลอื กทปี่ มุ่ แลว้ เลือกคาสง่ั Find 2) ท่ีหน้าต่างการนาทาง (Navigation) ทางดา้ นซ้ายมอื ให้พมิ พ์ข้อความที่ต้องการคน้ หา (Search Document) 3) ผลลัพธท์ ค่ี ้นหาจะแสดงในหน้าเอกสารดา้ นขวามือ พร้อมเน้นสีท่ขี ้อความ
10.ครูและผเู้ รียนสาธิตการค้นหาขั้นสงู Advance Find กรณที ตี่ ้องการคน้ หาโดยมีเงื่อนไขใหต้ รงกับ ข้อความและรูปแบบ ทาได้ดงั น้ี 1) ทแี่ ทบ็ หนา้ แรก (Home) คลิกเลอื กทปี่ มุ่ ลูกศร แลว้ เลอื กคาส่ัง Advance Find จะปรากฏ ไดอะลอ็ กบอ็ กซค์ ้นหาและแทนท่ี (Find and Replace) 2) พมิ พข์ ้อความทตี่ ้องการคน้ หาในช่อง Find what: แลว้ คลิกที่ป่มุ (เพ่มิ เตมิ ) จะแสดงเง่อื นไข ที่ตอ้ งการค้นหา ให้คลิกเลือกในชอ่ งส่ีเหล่ียมเพื่อเลอื กเง่ือนไขท่ีต้องการคน้ หา 11.ครแู ละผูเ้ รยี นสาธิตและฝึกปฏิบัตกิ ารแทนที่ (Replace) โดยการแก้ไขข้อความทต่ี ้องการเปล่ยี นแปลง แกไ้ ขหรอื พมิ พผ์ ดิ ในเอกสาร ซง่ึ อาจมจี านวนมากสามารถทาไดโ้ ดยใชค้ าสงั่ Replace 12.ครแู ละผเู้ รียนสาธิตการจดั ระยะหา่ งระหว่างบรรทดั เมื่อเปิดโปรแกรม Microsoft Word ขน้ึ มา ตวั โปรแกรมจะจัดระยะห่างระหว่างบรรทัดไว้ 1 ระยะบรรทดั แตส่ ามารถที่จะขยายใหม้ ากกว่า 1 ระยะบรรทัดได้ โดย สามารถทาไดด้ ังต่อไปนี้ 1) ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมพน้ื ท่ีข้อความที่ตอ้ งการจัดระยะหา่ งระหว่างบรรทดั 2) เลอื กรบิ บอนหนา้ แรก (Home) 3) คลกิ ป่มุ คาสัง่ ระยะหา่ งระหว่างบรรทดั 4) เลอื กระยะบรรทัดท่ีต้องการ
13.ผ้เู รียนกาหนดระยะบรรทัด โดยการกาหนดระยะบรรทัดใหม้ ีความหา่ งหรือชิดกนั เพื่อให้มีระยะบรรทัดท่ี เหมาะสมกับขนาดของเอกสารท่ไี ด้ออกแบบไว้ มีข้นั ตอนการทาโดยการคลุมขอ้ ความทีต่ ้องการกาหนดระยะบรรทัด และคลกิ เลือกปุ่มคาสง่ั และเลือกระยะหา่ งของบรรทดั 14.ผู้เรยี นจัดตาแหน่งกลมุ่ ข้อความ โดยครสู าธติ ให้ดูและให้ผเู้ รยี นปฏบิ ัตติ าม เมอื่ เปิดโปรแกรม Microsoft Word เพ่ือพิมพ์เอกสาร โปรแกรมจะตั้งค่าตาแหน่งกลมุ่ ข้อความไว้ชดิ ดา้ นซา้ ยขอบกระดาษเสมอ ซึ่งสามารถที่จะ ปรบั เปลี่ยนตาแหน่งการจดั วางกลุ่มข้อความใหอ้ ยใู่ นตาแหนง่ ทต่ี ้องการได้ โดยการจัดตาแหนง่ กลมุ่ ข้อความนัน้ จะทา เปน็ ยอ่ หน้า (Paragraph) ซง่ึ สามารถทีจ่ ะจัดไดห้ ลายรปู แบบดงั ตอ่ ไปนี้ 14.1 การจัดกลุ่มขอ้ ความกึ่งกลาง 14.2 การจดั กลุ่มข้อความชิดขวา
14.3 การจัดกลุ่มข้อความเต็มแนวกระดาษ 14.4 การจดั กลุม่ ข้อความกระจายแบบไทย 15.ครูสาธติ การใสส่ ัญลักษณ์แสดงหวั ข้อ และให้ผู้เรียนฝึกปฏบิ ตั ติ าม โดยในการใส่สัญลักษณ์แสดงหัวข้อนั้น สามารถกาหนดได้เปน็ 2 แบบ คือ 1) ใส่เลขลาดบั หัวข้อ 2) ใส่สัญลกั ษณ์หนา้ หวั ข้อ 16.ผเู้ รยี นฝึกทาอักษรขึน้ ตน้ ด้วยตัวใหญ่ โดยครสู าธติ ให้ดแู ละใหป้ ฏบิ ตั ิตาม ซ่งึ การทาตวั อกั ษรตวั แรกจะเนน้ ตวั ใหญ่เพือ่ ใหส้ ะดุดตาส่วนมากจะนยิ มทาในย่อหน้าแรกของเอกสาร เช่น หนังสอื พิมพ์ วารสาร เอกสารรายงาน ต่างๆ ทาได้โดย
1) เลือกตัวอักษรท่ตี ้องการทาเลือกแทบ็ Insert (แทรก) คลิกเลอื ก Drop Cap (ตวั อกั ษรใหญ่) 2) เลือกรูปแบบท่ตี ้องการ จากตวั อยา่ งเลือกจากเมนูได้ 2 ประเภท 17.ผเู้ รียนกาหนด Drop Cap ด้วยตัวเอง ใหเ้ ลือกท่ี Drop Cap Options 18.ครอู ธิบาย และสาธติ การแบง่ ขอ้ ความเป็นคอลมั น์ โดยใหผ้ เู้ รยี นปฏิบัตติ าม ซ่งึ การแบ่งคอลัมน์ใหก้ ับ ข้อความ สามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับงานไดห้ ลายรูปแบบ เชน่ แผน่ พบั นติ ยสาร วารสาร ข้ึนอยู่กับผู้ออกแบบงาน ซ่งึ การกาหนดคอลัมน์ให้กับเอกสาร ทาไดด้ ังน้ี 1. คลกิ คลมุ ข้อความทีต่ ้องการแบง่ คอลัมน์ 2. คลกิ ที่ Tab Page Layout 3. เลือก Columns ปรากฏรายการยอ่ ย 3.1 One หมายถึง กาหนด 1 Column 3.2 Two หมายถงึ กาหนด 2 Columns 3.3 Three หมายถึง กาหนด 3 Columns 3.4 Left หมายถึง กาหนด Columns ทางซ้าย 3.5 Right หมายถึง กาหนด Columns ทางขวา 19.ครแู ละผู้เรียนสาธติ การแบ่งขอ้ ความโดยการกาหนดคอลัมน์เอง ดังนี้
20.ครูอภิปรายเพม่ิ เตมิ วา่ ถ้าผู้เรยี นมกี ารกาหนดรายได้ให้เพียงพอกับรายจ่ายจะเปน็ สงิ่ ทสี่ าคญั และจาเปน็ มาก ทุกคนสามารถนาเงนิ ที่เกบ็ สะสมไวม้ าใช้ได้อยา่ งสะดวกสบายเพ่ือการดารงชวี ิตต่อไป หากแต่ละบุคคลมีเงิน ออมเกบ็ สะสมไว้ เพ่ือเปน็ ทุนสารองไวใ้ ช้จ่ายสาหรับวยั เกษียณ วธิ ที ดี่ ีทีส่ ดุ คอื การวางแผนเพ่ือการ เกษียณอายุไวต้ ั้งแต่เร่ิมตน้ อย่างมีระบบตามข้นั ตอน ซ่งึ แต่ละคนสามารถกาหนดแผนงานและขน้ั ตอนแตกต่างกนั ออกไปตามความเหมาะสมกับสภาพการดารงชีวิต 21.ครสู อนเพมิ่ เติมเก่ียวกับการทาหน้าท่เี ป็นพลเมืองดีของสังคมไทย รจู้ ักเอือ้ เฟ้ือเผ่อื แผ่ต่อผู้อืน่ สรุปและกำรประยุกต์ 22.ครูและผูเ้ รยี นชว่ ยกนั สรุปการพมิ พ์เอกสาร การจัดรปู แบบตัวอกั ษร โดยให้ผูเ้ รยี นสาธติ ฝกึ ปฏิบตั ิให้ดู และครูเปน็ ผ้กู าหนดโจทย์คาสั่ง 23.ผู้เรียนทากจิ กรรมใบงาน แบบฝกึ หัด แบบฝกึ ปฏิบัติ และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 24.ผู้เรียนวิเคราะห์เนือ้ หาการเรยี นการสอนและหาข้อสรปุ เป็นความคดิ รวบยอดเพ่ือนาไปประยกุ ต์ใช้ต่อไป พรอ้ มข้อเสนอแนะตนเอง 25.ประเมนิ ธรรมชาติของผู้เรียน และวิเคราะห์ผู้เรยี นเป็นรายกล่มุ ตามวธิ กี ารเรยี นรู้ ชอื่ ผู้เรียน ธรรมชาติของผเู้ รยี น วธิ ีการเรียนรู้ ความสนใจ สติปญั ญา วุฒิภาวะ 1. 2. 3. แบบวิเคราะหผ์ เู้ รยี นเปน็ รายกลุ่มตามวธิ กี ารเรยี นรู้ ชือ่ กลุ่ม…………….. 1. 2. 3.
9. สือ่ กำรเรยี นกำรสอน / แหล่งเรยี นรู้ จำนวน สภำพกำรใช้สอ่ื รำยกำรสอื่ 1 ชดุ ขน้ั ขยายความรู้ 1. แบบประเมินผลหลังเรียนหน่วยที่ 2 1 ชดุ ข้นั สร้างความสนใจ/ขน้ั ขยายความรู้ 2. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 10. กำรวัดผลและประเมินผล เป้ำหมำย หลกั ฐำนกำรเรียนรู้ วธิ วี ดั เคร่ืองมือวัดฯ ประเด็น/ กำรเรยี นรู้ ชนิ้ งำน/ภำระงำน เกณฑก์ ำรให้ ตรวจแบบ แบบประเมนิ ผลการ พมิ พข์ ้อควำมและกำรทำงำนกับ ใบงาน ประเมนิ ผลการ เรียนรู้ และแบบฝึก คะแนน เอกสำร เรยี นรู้ แบบฝกึ ปฏิบัติ ปฏิบัติ แบบประเมินผลการ เรยี นรมู้ ีเกณฑผ์ า่ น และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 50%
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ 3 เรือ่ ง กำรจดั รูปแบบข้อควำม แผนจดั กำรเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง กำรจัดรปู แบบ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษำตอนต้น ภำคเรียนท่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2564 น้ำหนักเวลำเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลำเรยี น 40 ชั่วโมง/สัปดำห์ เวลำทใี่ ชใ้ นกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 6 ชัว่ โมง ............................................................................................................................. ............................. 1. สำระสำคัญ การสรา้ งงานเอกสารเพอ่ื นาไปใช้ประโยชนใ์ นรูปแบบต่างๆ จาเป็นจะตอ้ งประยุกตใ์ ช้เครื่องมือในการจัดการ เพอ่ื ใหเ้ อกสารมีความน่าสนใจและนาไปใช้ในการสื่อสารผา่ นข้อความ ภาพกราฟิก แผนภูมิ สัญลกั ษณ์ เปน็ ตน้ โปรแกรม Microsoft Office Word 2016 มีความสามารถในการจัดการได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ และมรี ูปแบบสาเร็จ รวมถงึ การใชง้ านที่ง่าย สะดวก 2. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดารงชวี ิตในสังคมท่มี ีการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ เพ่อื แก้ปัญหา หรอื พัฒนา งานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการแก้ปญั หาทีพ่ บในชวี ิตจรงิ อย่างเปน็ ขนั้ ตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 เนื้อหำสำระหลัก : Knowledge 1.การสร้างปกรายงาน 2.การแทรกรปู ภาพ ภาพตัดปะ รูปร่าง SmartArt แผนภมู ิ 3.การจับภาพหนา้ จอมาแทรกในเอกสาร 4. การแทรกหวั กระดาษ ทา้ ยกระดาษ หมายเลขหน้ากระดาษ 5. การแทรกกลอ่ งข้อความ อักษรศิลป์ ตัวอักษรหนา้ ข้อความขนาดใหญ่ 6. การแทรกสัญลักษณ์พิเศษ และแทรก สญั ลักษณ์คณิตศาสตร์ 7.การแทรกลายน้าลงในเอกสาร 8.การสรา้ งขอบกระดาษเอกสาร
ทกั ษะ/กระบวนกำร : Process สามารถจัดรูปแบบขอ้ ความ ได้ 3.5 คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ : Attitude ซ่ือสตั ย์ มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มน้ั ในการทางาน 4. สมรรถนะสำคญั ของนักเรยี น - ความรอบคอบ 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะของวิชำ - ความมวี ินยั - ความรบั ผิดชอบ - มนุษยสมั พนั ธ์ - ขยนั หมั่นเพยี ร 6. คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซ่อื สัตย์สุจริต 3. มีวนิ ัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อย่อู ย่างพอเพียง 6. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มีจติ สาธารณะ 7. ช้นิ งำน/ภำระงำน : - แบบประเมินผลหลงั เรยี นหนว่ ยท่ี 3 8. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ขัน้ นำเขำ้ ส่บู ทเรียน 1.ครูและผเู้ รยี นสนทาเกีย่ วกับการจัดทาเอกสารเพอ่ื ประยุกต์ใช้ในงานด้านต่างๆ เช่น การทารายงาน การ ทาหน้าปก การทาแผน่ พับ ใบปลวิ การนาเสนองานท่ีมีภาพประกอบ ผงั การจดั องค์การ การใสร่ ปู ร่างตา่ งๆ รวมถึง การจดั การโครงร่างหนา้ กระดาษ เพื่อให้เอกสารใชป้ ระโยชน์ได้หลากหลาย และมีความสะดวก รวดเรว็ ในการจดั ทา รูปแบบบางอย่างโปรแกรมจะมีแบบสาเร็จรปู ให้ สามารถนาไปพิมพ์ขอ้ ความและตกแตง่ ตามแบบได้ทนั ที จึงทาให้ โปรแกรม Microsoft Office Word 2016 มีการใช้งานกันอยา่ งแพร่หลาย 2.ครพู ดู ถึงความสาคัญของโปรแกรม Microsoft Word 2016 มคี วามสามารถสรา้ งใบปะหนา้ (Cover Page) ซ่ึงอาจใชท้ าเปน็ หน้าปกรายงานในรูปแบบท่ีสมบรู ณ์และสวยงาม โปรแกรมจะแทรกใหเ้ ป็นหนา้ แรกแบบ อตั โนมัตงิ านเอกสารบางอย่างอาจต้องการหน้าปกหรอื ใบปะหน้า
3.ผเู้ รยี นยกตัวอยา่ งการใชง้ านของโปรแกรมประมวลผลในปจั จบุ ัน ขั้นสอน 4.ครอู ธบิ ายและสาธิตการสรา้ งปกรายงาน และให้ผู้เรียนปฏบิ ัตติ าม ดังน้ี 5.ครูอธบิ าย และสาธติ การแทรกรูปภาพ ภาพตดั ปะ รูปร่าง SmartArt แผนภมู ิ โดยผู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ตั ติ าม 1) คลิกที่ Tab Insert 2) ที่กลมุ่ คาสัง่ Illustrations เลอื ก ClipArt ปรากฏแถบหนา้ ตา่ งทางขวา 3) คลกิ เลือกทปี่ ุ่ม Go 4) ปรากฏภาพ Clip art 5) คลิกที่ภาพ Clip art ทต่ี ้องการ ภาพจะถูกนามาวางในเอกสารทันที 6.ครูและผเู้ รยี นสาธิตการแทรกรูปภาพและการจดั การไฟลร์ ูปภาพ (Picture) ดังนี้ 1) คลิกท่ี Tab Insert 2) ที่กลุ่มคาสั่ง Illustrations เลือก Picture ปรากฏหน้าตา่ ง Insert Picture 3) เลอื กตาแหนง่ ท่ีจัดเก็บรปู ภาพทตี่ ้องการแทรกลงในเอกสาร จากในรปู ภาพอยู่ในLibraries>Picture 4) คลิกท่ีไฟลร์ ปู ภาพ
5) เลอื ก Insert จะปรากฏรปู ภาพที่ต้องการแทรกบนเอกสาร 7.ผเู้ รยี นฝกึ ทักษะการปรับแต่งรปู ภาพ โดยดับเบิลคลกิ ที่รปู ภาพทต่ี อ้ งการปรบั แต่ง ท่ีกลมุ่ Adjust สามารถ ปรับแตง่ คา่ ได้ดงั นี้ 8.ผู้เรียนฝกึ ทกั ษะในการปรับเปล่ียนขนาดรูปภาพ โดยรูปภาพทีน่ ามาใสใ่ นเอกสาร ในบางครั้งอาจจะต้องมี การปรบั ขนาดให้เหมาะสม สามารถทาไดด้ ังน้ี 1) คลกิ รูปทจ่ี ะปรับขนาด 2) วางเมาส์ทมี่ ุมของรปู เคอร์เซอร์ของเมาส์จะเปลีย่ นเป็นรูปลกู ศร 2 หัว 3) คลกิ ลากปรับขนาดของรูปตามตอ้ งการ 4) รปู ภาพจะมีขนาดตามท่ีกาหนด 9.ผ้เู รยี นฝกึ ทักษะในการหมนุ รูปภาพ ทาได้โดยคลิกทร่ี ูปภาพ จะปรากฏ 9 จุด ให้คลิกค้างที่จดุ สีเขยี วเหนอื รปู ภาพ และหมนุ รปู ภาพตามทต่ี อ้ งการ เม่ือหมนุ เรียบร้อยแลว้ ใหป้ ล่อยเมาส์ 10.ครแู ละผเู้ รียนสาธิตการปรับแต่งรปู ภาพเพ่ือนามาใช้ในงานเอกสาร โดยการปรับแต่งรูปภาพใหเ้ หมาะสม กับเนอื้ หาในเอกสาร และให้มองดสู วยงาม ซึง่ การปรบั แต่งรปู ภาพ สามารถทาได้โดยการดบั เบิลคลกิ ที่รูปภาพจะ ปรากฏแท็บบริบท Format จะเกิดหมวดหมดู่ งั นี้ 11.ครแู ละผเู้ รยี นสาธติ การปรับแต่งรูปภาพเพ่มิ เติม โดย 1) คลกิ ขวาทรี่ ปู ภาพ เลือก Format Picture 2) ปรากฏหนา้ ต่างจดั รปู แบบรปู ภาพ 3) ปรับแต่งรูปภาพได้ทนั ทีจากตัวอยา่ งปรบั ใหม้ ีเงาสะท้อน 12.ครูและผเู้ รียนสาธติ การจัดวางขอ้ ความรว่ มกบั รปู ภาพ (Text Wrapping) โดยText Wrapping คอื ตวั แบ่งการตดั ข้อความส้นิ สุดบรรทดั ปัจจบุ ันและบังคบั ให้ข้อความเรียงตอ่ เนื่องอยู่ที่ดา้ นล่างรปู ภาพ ตาราง หรือ รายการอ่นื (ข้อความจะเรยี งต่อเนอ่ื งอย่บู นบรรทดั วา่ งเปล่าบรรทัดถัดไปท่ีไมม่ รี ูปภาพหรือตารางถูกจัดชิดระยะขอบ ซ้ายหรอื ชิดระยะขอบขวาอยู่) การแทรกรูปภาพบางครั้งต้องนารปู ภาพมาใชร้ ว่ มกับข้อความ ซ่งึ ต้องกาหนดตาแหน่ง การจัดวางทเ่ี หมาะสม สามารถทาได้ดงั นี้ 1) คลกิ ขวาทีร่ ูปภาพที่ต้องการจัดวาง 2) ปรากฏเมนูย่อยเลือก Wrap Text 3) เลือกลาดบั ท่ีต้องการ ซึ่งมีความหมายดงั น้ี 3.1 In Line with Text (บรรทัดเดยี วกบั ตัวอักษร) รปู จะแสดงบรรทดั เดยี วกับข้อความ
3.2 Square (จัตุรัส) ลอ้ มรปู เปน็ กรอบสเ่ี หล่ียม 3.3 Tight (ลอ้ มรอบ) ล้อมไปตามแนวขอบของรูป 3.4 Through (ทะลุผา่ น) คล้ายแบบล้อมรอบ แตจ่ ะจัดข้อความตรงทวี่ ่างในรูปดว้ ย 3.5 Top and Bottom (บนและล่าง) จัดข้อความอยูเ่ หนือและใต้รปู 3.6 Behind Text (ขา้ งหลังข้อความ) ซ่อนรูปไว้ดา้ นหลงั ข้อความ 3.7 In Front of Text (ข้างหนา้ ขอ้ ความ) นารปู ไว้ด้านหน้าขอ้ ความ 3.8 Edit Wrap Points (แก้ไขขอบรูป) เปลี่ยนขอบรูปตามจดุ 13.ผู้เรยี นสาธิตการแทรกรปู ทรง ดงั ต่อไปน้ี 1) บนแถบเครอ่ื งมอื Insert คลกิ Shapes ท่ีกลมุ่ เมนู Illustrations 2) เลอื กรูปทรงตามทต่ี ้องการ 3) คลกิ หรือลากไปยงั ตาแหน่งทต่ี อ้ งการแทรกรูปทรงลงในเอกสาร 4) ถา้ ต้องการพิมพข์ ้อความลงในรปู ทรง ให้คลิกขวาทร่ี ปู ทรงเลือก Add Text พิมพ์ข้อความแล้วจัดตาแหน่งให้ สวยงาม 14.ผ้เู รยี นฝึกจดั รูปแบบของรูปร่าง (Shape Styles) โดยการปรับแต่งแก้ไขรูปร่างใหม้ ีความสวยงาม นา่ สนใจ ในการจัดทาเอกสารบางอย่าง เชน่ แผน่ พับ ใบปลวิ หรือโบรชวั ร์ โดยการสร้างรูปรา่ งขนึ้ มาก่อนแล้วนามาแกไ้ ข ปรบั ปรงุ 15.ผู้เรียนฝึกทกั ษะการเติมสใี หร้ ปู ร่างมขี นั้ ตอนดังนี้ 1) สรา้ งรูปรา่ ง และคลกิ ที่รูปร่าง จะปรากฏแท็บ Format 2) คลิกเลือกที่ Shape Fill เลอื กคาสั่งที่ตอ้ งการ 16.ครูอธบิ ายและสาธิตการแทรกรปู ภาพ ภาพตดั ปะ รปู รา่ ง SmartArt แผนภูมิ โดย SmartArt เป็นการ สอื่ สารขอ้ มลู โดยใชก้ ราฟิกโดยมีแมแ่ บบสาเร็จแยกตามงาน เชน่ ผังการจดั องค์การ ผังงาน เป็นต้น ขัน้ ตอนการสร้าง SmartArt ทาไดด้ ังนี้ 1) คลิกที่แท็บ Insert เลือกคาสง่ั SmartArt 2) จะปรากฏหน้าตา่ งรูปแบบ SmartArt ให้เลอื กตามการใช้งาน
17.ครูสาธิตการแทรกแผนภมู ิ (Chart) และใหผ้ ู้เรียนฝึกปฏิบัตติ าม โดยแผนภูมเิ ปน็ การนาเสนอข้อมลู ใน รูปแบบทเี่ ขา้ ใจงา่ ย ดงั น้นั ในงานเอกสารท่ีจาเปน็ ตอ้ งนาเสนอข้อมูลในรูปแบบของแผนภมู ิจงึ มคี วามจาเปน็ ในการ สร้างแผนภมู ใิ นโปรแกรม Microsoft Offi ce Word 2016 มวี ธิ กี ารท่งี า่ ยและสะดวก โดยมีขน้ั ตอนดงั นี้ 1) คลิกที่แท็บ Insert เลือกคาสัง่ Chart 2) จะปรากฏหน้าต่างรูปแบบ Chartใหเ้ ลือกตามการใช้งานคลกิ ปมุ่ OK 3) จะปรากฏโปรแกรม Excel ข้นึ มาพร้อมรปู แบบขนั้ ต้น ให้แกไ้ ขข้อมลู ที่แถวและคอลมั น์ 4) แผนภูมิที่มีขอ้ มูลพร้อมรูปแบบจะถูกแสดงขน้ึ มาในเอกสาร จากนนั้ ใหป้ ดิ โปรแกรม Excel 18.ครูสาธติ การจับภาพหน้าจอมาแทรกในเอกสาร และให้ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิตาม โดย Screenshot คอื เครือ่ งมอื ในการจบั ภาพหนา้ จอบนคอมพวิ เตอร์ คาสั่งนชี้ ่วยให้สามารถจับภาพหนา้ จอของโปรแกรมอืน่ ๆ ทเี่ ราเปดิ ค้างอยมู่ า วางไวใ้ นหนา้ ตา่ ง Microsoft Word 2016 ได้ทันที โดยทไี่ มต่ อ้ งปรับเปลี่ยนหนา้ ตา่ ง โดยวิธีจบั หนา้ จอดว้ ย Screenshot 1) คลิกเปดิ โปรแกรม Word 2016 2) เลอ่ื นไปยังตาแหนง่ ทต่ี อ้ งการวางภาพ 3) คลกิ Tab เมนู Insert 4) เลือกไอคอน Screenshot ใหค้ ลิกท่ีรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็กดา้ นล่าง 5) ถา้ คลิกเลอื กภาพท่หี นา้ ต่าง Available Windows จะเป็นการจบั ภาพท้ังหนา้ ตา่ ง 6) ถ้าคลิกเลือกด้านลา่ ง Screen Clipping โปรแกรมจะแสดงหนา้ ตา่ งทเ่ี ปิดลา่ สุด จากนั้นให้
คลกิ เลือกคลุมบางส่วน โปรแกรมจะจบั ภาพมาวางให้บนเอกสารทันที 19.ครสู าธิตการแทรกหวั กระดาษ ทา้ ยกระดาษ หมายเลขหนา้ กระดาษ และใหผ้ ู้เรยี นฝึกปฏบิ ัติตามดังน้ี 1) เลอื กแทบ็ Insert 2) ทก่ี ลุม่ คาส่ัง Header & Footer ให้คลกิ ทลี่ กู ศรใต้ Header แสดงการเรยี กใช้คาส่งั ส่วนหวั กระดาษ 3) จะปรากฏรปู แบบของในส่วน Header ใหเ้ ลือก Header ตามทต่ี อ้ งการ (ตัวอยา่ งเลือก Alphabet) 4) โปรแกรมจะสรา้ งรปู แบบ Header ตามที่เลือกที่สว่ นบนสุดของเอกสาร ให้พมิ พ์หัวเรื่องตามต้องการ 5) ถ้าต้องการปรับเปลีย่ นในส่วนของ Header ใหเ้ ลอื ก Edit Header หรอื ดบั เบลิ คลิกท่ีบริเวณ Header ที่ต้องการแกไ้ ข ซึ่งโปรแกรมจะปรากฏแท็บ Design 6) เมอื่ ปรบั เปล่ียนในสว่ นของ Header แลว้ ใหค้ ลกิ ที่ Close Header and Footer เมือ่ ใชเ้ ครื่องมือหวั กระดาษ หรอื ทา้ ยกระดาษ จะมแี ท็บบรบิ ท (Tab Design) ขึ้นมา สามารถปรับคา่ ตา่ งๆ ได้ตามต้องการ ผู้ใชส้ ามารถ ใสเ่ ลขหน้า, Date & Time (วนั ท่ีและเวลา) รูปภาพ (Picture) ภาพตัดปะ (Clip Art) และรปู แบบสาเรจ็ (Quick Parts) ได้อีก 20.ผู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ัตทิ กั ษะการแทรกหมายเลขหนา้ ดงั น้ี 1) การใส่เลขหน้าลงในเอกสารให้เลอื ก Insert (แทรก) 2) เลือก Page Number (เลขหน้าเอกสาร) หมายเหตุ การแทรกท้ายกระดาษ (Footer) ทาได้เช่นเดยี วกับหวั กระดาษและการลบ Header ใหเ้ ลือก Remove Header, Remove Footer 3) เลอื กเครอื่ งมอื เพ่ือใสห่ น้าตามรปู แบบทตี่ ้องการ เชน่ ไว้สว่ นบนของกระดาษ, สว่ นล่างของกระดาษ, ระยะ ขอบกระดาษ หรอื ตาแหนง่ ปัจจบุ นั ซง่ึ แตล่ ะรปู แบบจะมตี ัวเลอื กยอ่ ย เชน่ ด้านบนซ้ายของกระดาษด้านบนขวาของ กระดาษ เป็นต้น ผูใ้ ชส้ ามารถเลือกได้ตามท่ีตอ้ งการ 4) ผู้ใช้สามารถตัง้ คา่ “การแสดงหน้า” ได้ ด้วยคาสง่ั Format Page Numbers สามารถกาหนดรปู แบบ ตวั เลข หรือตัวอกั ษรทจี่ ะแสดง ตาแหน่งที่จะแสดง รวมถึงการกาหนด หนา้ ที่ต้องการใหเ้ รมิ่ แสดงเลขหนา้ 21.ครูอธิบาย และสาธิตการแทรกกล่องข้อความ อกั ษรศิลป์ ตัวอกั ษรหน้าขอ้ ความขนาดใหญ่ โดยให้ ผู้เรยี นปฏบิ ัตติ าม ดงั นี้ 1) คลกิ บนแถบเคร่ืองมือ Insert 2) คลกิ Text Box ท่ีกลุม่ เมนู Text 3) เลือกรปู แบบทีม่ ีมาให้ หรือต้องการสรา้ งเอง โดยเลือกท่ี Draw Text Box 4) ที่บรเิ วณท่ีต้องการแทรกกลอ่ งข้อความให้คลกิ แล้วลาก เพื่อสรา้ งกลอ่ งขอ้ ความในเอกสาร จากนน้ั พิมพ์ข้อความ หรอื แทรกรปู ภาพได้ตามที่ต้องการ 22.ผู้เรยี นฝึกทกั ษะโดยการแทรกอักษรศลิ ป์ (WordArt) ซึ่งอกั ษรศิลปเ์ ป็นอักษรสาเรจ็ รปู ท่ีโปรแกรม Microsoft Word 2016 ได้ออกแบบมาเพื่อเน้นข้อความ โดยขอ้ ความที่พิมพ์ลงไปจะเป็นขอ้ ความท่มี สี ีสันและ รูปแบบสวยงามตามทผ่ี ูใ้ ช้ต้องการ การทางานของอกั ษรศิลปม์ คี วามสะดวกรวดเรว็ และมรี ปู แบบการตกแต่งที่ หลากหลายให้ผู้ใช้ได้เลือกตามท่ตี ้องการ การแก้ไขขอ้ ความอักษรศลิ ป์ และการตกแตง่ กใ็ ห้ปฏิบตั ิเช่นเดยี วกบั การใสเ่ อฟเฟก็ ต์ให้ขอ้ ความ
ในแทบ็ รูปแบบ (Format) จงึ ทาให้สรา้ งผลงานไดร้ วดเรว็ และมปี ระสทิ ธภิ าพ การสรา้ งอักษรศิลปม์ วี ธิ กี ารดังน้ี 1) คลิกที่ Tab Insert 2) คลิกที่ WordArt ปรากฏรปู แบบตวั เลือกของ WordArt 3) คลิกเลือกรปู แบบ WordArt จะปรากฏกลอ่ งข้อความอักษรศิลป์ ให้พิมพ์ตวั อักษรลงในกลอ่ งข้อความ ซง่ึ จะเปน็ รูปแบบตวั อกั ษรศลิ ปท์ ี่ได้เลือกไว้ 23.ครอู ธิบายและสาธิตการแทรกสัญลกั ษณ์พิเศษ และแทรก สัญลักษณ์คณติ ศาสตร์ และให้ผเู้ รียนฝึก ปฏิบัติตาม โดยการแทรกสัญลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์ 1) คลกิ ที่แท็บ Insert คลิกท่ี 2) หรอื เลือกลูกศรใตค้ าส่งั Equation เลอื กที่ Insert New Equation จะมีรปู แบบคณิตศาสตรใ์ ห้เลอื ก 3) เลอื กรูปแบบทางคณิตศาสตร์และพิมพ์ตัวเลขตามท่ตี ้องการ 24.ผเู้ รยี นฝึกทักษะการแทรกสญั ลกั ษณ์พเิ ศษ ดังน้ี 1) คลกิ ท่ีแท็บ Insert 2) เลอื กลูกศรใต้คาสงั่ Symbol 3) เลือกสญั ลักษณ์พิเศษตามท่ตี อ้ งการ 4) ถ้าต้องการแทรกสัญลักษณ์พิเศษอนื่ ให้เลอื ก More Symbols แล้วเลือกสัญลกั ษณ์พเิ ศษ เลอื กแบบอกั ษรช่ือ Wingdings 5) คลกิ ที่ Insert เพื่อแทรกสัญลักษณ์พิเศษอ่ืนตามท่ีเลือก 25.ครูสาธิตพรอ้ มอธิบายการแทรกลายนา้ ลงในเอกสาร โดยให้ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ัติตาม ดังนี้ 1) คลิกแทบ็ Page Layout ภายใต้กลุ่มคาส่งั Page Background เลือก Watermark 2) สามารถเลือกรูปแบบของ Watermark ไดท้ นั ที 3) หากต้องการกาหนดรูปแบบของ Watermark ให้คลิกท่ี Custom Watermark จะปรากฏกลอ่ ง Printed Watermark จากนัน้ ใหก้ าหนดรปู แบบได้ตามทต่ี ้องการ 4) การลบ Watermark ออกจากเอกสารให้เลอื กที่ Remove Watermark 26.ครสู าธติ การสรา้ งขอบกระดาษเอกสาร และให้ผูเ้ รียนฝึกปฏิบตั ิตาม ดังน้ี 1) คลิกแทบ็ Page Layout ภายใตก้ ลมุ่ คาส่ัง Page Background เลือก Page Borders 2) จะปรากฏหนา้ ตา่ ง Borders & Shading
3) สามารถกาหนดรปู แบบต่างๆ ได้ตามที่ต้องการแลว้ กด OK 27.ครูให้ความรู้เพิ่มเติมนอกเหนอื จากเนื้อหาการเรยี นการสอน เกย่ี วกบั เง่ือนไขตำมหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง ในการตัดสินใจและการปฏิบัติกจิ กรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพยี งนน้ั ต้องอาศยั ทงั้ ความรู้ และคุณธรรม เปน็ พื้นฐาน กล่าวคือ (1) เงื่อนไขความรู้ เปน็ ความรอบรู้เกีย่ วกบั วิชาการต่าง ๆ ทีเ่ กยี่ วข้อง ความรอบคอบที่จะนาความรเู้ หลา่ นน้ั มาพิจารณาใหเ้ ช่อื มโยงกนั เพ่ือการวางแผน และความระมัดระวังในขน้ั ปฏบิ ตั ิ (2) เง่ือนไขคุณธรรม เปน็ สงิ่ ท่ีตอ้ งเสริมสรา้ งให้มคี วามตระหนกั ในคณุ ธรรม มีความซ่ือสัตยส์ จุ รติ และมีความ อดทน มีความเพยี ร ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชีวิต ขัน้ สรุปและกำรประยุกต์ 28.ครูและผ้เู รียนชว่ ยกนั สรุปการการตกแต่งเอกสาร โดยใหฝ้ กึ ปฏบิ ัตงิ านท่ีครูมอบหมายให้ 29.ผเู้ รียนทาใบงาน แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏบิ ัติ
30.ประเมนิ ผ้เู รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปนี้ แบบประเมินประสบการณ์พ้ืนฐาน ชื่อผูเ้ รยี น ประสบการณ์พืน้ ฐานการเรียนรู้ วธิ ีการเรียนรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. 9. สือ่ กำรเรยี นกำรสอน / แหลง่ เรียนรู้ จำนวน สภำพกำรใช้ส่ือ รำยกำรส่อื 1 ชุด ขน้ั ขยายความรู้ 1. แบบประเมินผลหลังเรียนหน่วยที่ 3 1 ชดุ ข้ันสรา้ งความสนใจ/ขัน้ ขยายความรู้ 2. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ 10. กำรวัดผลและประเมนิ ผล เป้ำหมำย หลักฐำนกำรเรียนรู้ วธิ ีวดั เคร่ืองมือวัดฯ ประเดน็ / กำรเรยี นรู้ ชน้ิ งำน/ภำระงำน เกณฑก์ ำรให้ ตรวจแบบ แบบประเมินผลการ การจัดรปู แบบข้อความ ใบงาน ประเมินผลการ เรียนรู้ และแบบฝกึ คะแนน เรยี นรู้ แบบฝึก ปฏบิ ัติ ปฏิบัติ แบบประเมินผลการ เรียนรมู้ เี กณฑ์ผา่ น และแบบฝกึ ปฏบิ ัติ 50%
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่ือง กำรคน้ หำและกำรตรวจสอบข้อควำม แผนจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 4 เรื่อง กำรค้นหำและกำรตรวจสอบ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษำตอนตน้ ภำคเรยี นท่ี 1 ปกี ำรศึกษำ 2564 น้ำหนักเวลำเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลำเรยี น 40 ชั่วโมง/สัปดำห์ เวลำท่ใี ชใ้ นกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ 6 ช่ัวโมง ................................................................................................................................... ....................... 1. สำระสำคญั การใชต้ ารางเพ่ือทาการจดั ระเบยี บของข้อมูลในเอกสารให้ดงู า่ ย เปน็ ระเบยี บ แบ่งสดั สว่ นของขอ้ มูลให้ ชดั เจน Microsoft Word 2016 สามารถทาได้โดยโปรแกรมได้จดั เตรยี มตารางไวใ้ หใ้ ช้งาน ในกรณีที่ข้อมูลมีลกั ษณะ ทเ่ี ป็นตัวเลข หรอื ข้อความอน่ื ๆ ทมี่ ีความจาเป็นจะต้องใส่ลงในตาราง Microsoft Word 2016 จะปรับความกวา้ ง และความสงู ของช่องตารางตามขนาดของตวั อกั ษรและความกวา้ งของบรรทัด สามารถปรบั แตง่ รูปแบบของตารางได้ หลากหลายเพ่อื นาไปประยุกต์ใชง้ านได้เหมาะสมรวมทงั้ ยงั มีรูปแบบตารางสาเร็จใหเ้ ลือกใชง้ านได้อยา่ งรวดเรว็ และ สวยงาม 2. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพือ่ การดารงชวี ติ ในสังคมท่ีมีการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้และทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพ่อื แก้ปัญหา หรือพัฒนา งานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคานงึ ถึงผลกระทบต่อชวี ติ สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาทพ่ี บในชีวติ จริงอย่างเปน็ ขั้นตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 เนอ้ื หำสำระหลัก : Knowledge 1. การสรา้ งตาราง 2. การกรอกข้อมูลลงในตาราง 3. การจัดตาแหน่งข้อความ 4. การปรับขนาดของตาราง 5. การเพมิ่ จานวนแถวหรอื คอลมั น์ 6. การผสานและแยกเซลล์ 7. การลบเซลลท์ ่ไี ม่ต้องการ 8. การกาหนดเส้นขอบของตาราง
3.5 ทักษะ/กระบวนกำร : Process สามารถคน้ หาและการตรวจสอบข้อความ ได้ 3.6 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ : Attitude ซ่อื สัตย์ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมน้ั ในการทางาน 4. สมรรถนะสำคญั ของนกั เรยี น - ความรอบคอบ 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะของวชิ ำ - ความมีวินัย - ความรับผิดชอบ - มนษุ ยสมั พันธ์ - ขยนั หมนั่ เพยี ร 6. คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ 3. มวี นิ ัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพยี ง 6. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มีจติ สาธารณะ 7. ชิ้นงำน/ภำระงำน : - แบบประเมนิ ผลหลังเรยี นหนว่ ยที่ 4 8. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ขน้ั นำเข้ำส่บู ทเรียน 1.ครใู ชเ้ ทคนิคการสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรูเ้ ดิมจากสัปดาหท์ ผ่ี า่ นมา โดยดงึ ความรู้เดมิ ของผเู้ รยี นในเรื่องท่จี ะเรียน เพื่อช่วยให้ผ้เู รียนมคี วามพร้อมในการเช่ือมโยงความร้ใู หม่กบั ความรู้ เดมิ ของตน ผูส้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ ู้เรยี นเลา่ ประสบการณเ์ ดิม หรอื ใหผ้ ู้เรยี นแสดงโครงความรเู้ ดิม (Graphic Organizer) ของตน โดยโปรแกรม Microsoft Word 2016 สามารถสรา้ งตารางไดด้ ้วยการเลือกจากตวั เลอื กของ ตารางท่จี ัดรูปแบบแลว้ พรอ้ มข้อมูลตัวอย่าง หรือการเลือกจานวนแถวและคอลมั นท์ ีต่ ้องการ สามารถสร้างตารางลง ในเอกสาร หรือแทรกตารางลงในอีกตารางหนึ่งเพื่อสรา้ งตารางท่ีซบั ซ้อนมากข้ึนได้ 2.ผูเ้ รียนเลา่ เรือ่ งการใช้ตารางจากโปรแกรม Microsoft Excell ทีเ่ คยศึกษามาบา้ งแลว้
ขัน้ สอน 3.ครใู ชเ้ ทคนกการใชแ้ บบสาธิตการสรา้ งตาราง โดยใช้สอ่ื Power Point ประกอบ และให้ผู้เรียนฝกึ ปฏบิ ตั ิ ตาม โดยการสรา้ งตารางดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2016 ทาได้หลายวิธี ซง่ึ แตล่ ะวิธนี ้ันกส็ ามารถทจ่ี ะสรา้ ง ตารางใหอ้ อกมาเหมือนกนั ได้ ขึ้นอยกู่ ับว่าจะเลือกใช้วธิ ใี ดในการสร้างตาราง ซึง่ มีวธิ ีต่างๆ ดงั น้ี 3.1 การสร้างตารางแบบกาหนดเซลล์อัตโนมตั ิ การสรา้ งตารางแบบกาหนดเซลล์อัตโนมัตนิ ้นั โปรแกรม Microsoft Word 2016 จะสามารถกาหนดชอ่ งตารางอัตโนมตั ิได้ ซึ่งทาได้ดังตอ่ ไปน้ี 1) วางเคอรเ์ ซอรบ์ นตาแหนง่ ที่ต้องการสรา้ งตาราง 2) คลกิ คาส่งั ตาราง (Table) บนรบิ บอน แทรก (Insert) 3.)ลากเมาสก์ าหนดจานวนแถวและคอลมั น์ที่ต้องการ 4) ได้ตารางที่กาหนดไว้ตามต้องการ 3.2. การสรา้ งตารางแบบกาหนดเอง เป็นการสร้างตารางด้วยการใส่จานวนคอลัมนแ์ ละจานวนแถวตามท่ี ตอ้ งการ ซึง่ สามารถทาไดด้ ังต่อไปน้ี 1) วางเคอร์เซอร์บนตาแหนง่ ทต่ี ้องการสร้างตาราง 2) คลิกคาสัง่ ตาราง (Table) บนรบิ บอน แทรก (Insert) 3) เลือกคาสั่ง แทรกตาราง (Insert Table) 4) ใสจ่ านวนคอลมั น์ท่ตี อ้ งการในชอ่ ง จานวนคอลัมน์ (Number of columns) และใส่จานวนแถวทตี่ ้องการในช่อง จานวนแถว (Number of rows) 5) คลกิ ตกลง (OK) จะไดต้ ารางทีต่ ้องการ 3.3 การสร้างตารางแบบวาดตาราง เปน็ การวาดเส้นต่อกนั เพ่ือกาหนดขนาดตาราง ขนาดแถวและขนาดของ คอลมั น์ ลงในหนา้ เอกสาร ในการสรา้ งตารางด้วยวธิ ีน้ีมขี ้อดีคือสามารถกาหนดตารางได้ตามรูปแบบท่ตี ้องการ ช่อง ตารางไมจ่ าเป็นตอ้ งเทา่ กันทาไดด้ ังนี้ 1) วางเคอร์เซอรบ์ นตาแหนง่ ทต่ี ้องการสรา้ งตาราง
2) คลกิ คาสั่ง ตาราง (Table) บนริบบอน แทรก (Insert) 3) คลิกคาส่งั วาดตาราง (Draw Table) แล้วจะเหน็ เมาสเ์ ปลย่ี นเป็นรูปปากกา 4) คลิกเมาสล์ ากปากกาเปน็ เส้นตารางตามทเ่ี ราตอ้ งการ 3.4 การสร้างตารางโดยแปลงขอ้ ความเปน็ ตารางทาได้ดงั ต่อไปน้ี 1) ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมข้อความที่ต้องการสร้างตาราง 2) คลิกป่มุ คาสงั่ ตาราง (Table) บนรบิ บอน แทรก (Insert) 3) คลิกคาสัง่ แปลงข้อความตาราง (Convert Text to Table) 4) จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์แปลงข้อความตาราง (Convert Text to Table) ให้คลกิ ตกลง (OK) 5) โปรแกรมจะแบง่ คอลัมน์และแถวตามที่เราพิมพ์ขอ้ ความไว้ และจะได้ตารางทต่ี ้องการ 3.5. การแทรกตารางดว้ ยกระดาษคานวณ Excel ทาไดด้ งั นี้ 1) วางเคอรเ์ ซอร์บนตาแหน่งทีต่ ้องการสร้างตาราง 2) คลิกป่มุ คาส่ัง ตาราง (Table) บนริบบอน แทรก (Insert) 3) คลกิ คาส่ัง กระดาษคานวณ Excel (Excel Spreadsheet) 4) จะปรากฏหน้าตา่ งโปรแกรม Excel ขนึ้ มาให้ลากเมาส์ท่ีมุมล่างดา้ นขวาเพ่ือกาหนดจานวนคอลมั นแ์ ละจานวน แถวท่ีเราต้องการ 5) พมิ พข์ ้อมูลลงในตาราง เม่ือเสรจ็ แล้วให้คลิกเมาสน์ อกหนา้ ตา่ งโปรแกรม Excel 6) ได้ตารางตามทเ่ี ราสร้างขึ้น 3.6. การสร้างตารางแบบใส่ตารางดว่ นทาไดน้ ี้ 1) วางเคอรเ์ ซอรบ์ นตาแหน่งที่ตอ้ งการสรา้ งตาราง 2) คลิกปมุ่ คาสง่ั ตาราง (Table) บนรบิ บอน แทรก (Insert) 3) คลิกคาส่งั ตารางดว่ น (Quick Tables) เลือกรูปแบบตารางทีเ่ ราต้องการ
4. ครูใชเ้ ทคนิคการสาธติ การกรอกขอ้ มูลลงในตาราง และใหผ้ ้เู รียนฝึกทกั ษะปฏิบตั ิตาม ดังนี้ เมือ่ สรา้ งตารางแลว้ การป้อนข้อมูลในตารางทส่ี รา้ งข้ึน ทาได้ดังนี้ 1) ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมตารางทีเ่ ราสร้าง 2) กาหนดรปู แบบอักษรและขนาดอักษรท่ีตอ้ งการท่ีคาสง่ั Font บนรบิ บอน หนา้ แรก (Home) 3) คลิกในเซลลท์ ีเ่ ราต้องการและพิมพ์ข้อความลงไป 4) กดคยี ล์ ูกศรบนคียบ์ อร์ดเพ่ือเลอ่ื นไปยงั เซลลอ์ น่ื ทเี่ ราต้องการพมิ พต์ ่อไป 5) เม่ือพมิ พ์เอกสารครบถ้วนแล้วใหค้ ลิกเมาสน์ อกตาราง 5.ครสู าธติ การจัดตาแหน่งขอ้ ความ และใหผ้ ูเ้ รียนปฏิบัติสามารถทาไดด้ ังต่อไปนี้ 1) เลอื กขอ้ มูลท่ีเราต้องการจดั ตาแหน่ง 2) คลิกปมุ่ จัดตาแหน่งตามทีเ่ ราตอ้ งการ เช่น ต้องการจัดก่ึงกลาง 3) สามารถจดั ตาแหน่งให้กบั เซลล์อนื่ ๆ ได้ตามตอ้ งการเพื่อความสวยงามของเอกสาร 6.ครอู ธบิ าย และสาธติ การปรบั ขนาดของตาราง และให้ผเู้ รียนฝึกปฏบิ ัติตามการสรา้ งตารางถ้ามีขนาดไม่ตรงกับ ความตอ้ งการ สามารถทจ่ี ะปรับขนาดความกว้างของตารางได้หลายวธิ ี ไดแ้ ก่ -การปรับความกว้างของคอลัมน์ในตาราง -การปรับความสงู ของแถวในตาราง -การปรับความกว้างทงั้ ตาราง -การใส่รปู แบบตารางสาเรจ็ รูป 7.ครอู ธบิ าย และสาธิตการเพิ่มจานวนแถวหรือคอลมั น์ ซง่ึ สามารถทาได้ดงั ต่อไปน้ี 1) วางเคอรเ์ ซอร์ไวท้ เี่ ซลล์ที่ต้องการจะเพมิ่ แถวหรอื เพ่ิมคอลมั น์ 2) คลกิ ปมุ่ คาส่ัง แทรกดา้ นขวา (Insert Right) เม่ือต้องการเพิ่มคอลัมน์ บนริบบอน เค้าโครง (Layout) 3) หรอื คลิกป่มุ คาสง่ั แทรกด้านลา่ ง (Insert Below) เมื่อต้องการเพิ่มแถวบนรบิ บอน เค้าโครง (Layout) 8.ครูสาธติ การผสานและแยกเซลล์ 8.1. การผสานเซลล์ ทาไดด้ ังต่อไปน้ี 1. ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมเซลลท์ ตี่ อ้ งการผสาน 2. คลกิ ปุ่มคาสัง่ ผสานเซลล์ (Merge cells) บนริบบอน เค้าโครง (Layout) 8.2. การแยกเซลล์โดยสามารถทาไดด้ ังต่อไปน้ี
1. วางเคอร์เซอร์ไว้ในเซลล์ทีเ่ ราต้องการแยก 2. คลกิ ปุ่มคาสั่ง แยกเซลล์ (Split Cells) บนรบิ บอนเค้าโครง (Layout) 3. ใส่จานวนแถวและคอลมั น์ทต่ี ้องการในไดอะล็อกบ็อกซ์ การแยกเซลล์ (Split Cells) 4. คลิกปมุ่ ตกลง (OK) 9.ครูอธบิ าย และสาธิตการลบเซลลท์ ี่ไม่ต้องการ โดยให้ผเู้ รียนฝึกปฏบิ ตั ิตาม หากสร้างตารางเรียบร้อยแล้วพบว่ามเี ซลล์ แถว หรือคอลมั น์ ที่เราไม่ต้องการใช้ และต้องการลบออกไป เราสามารถทาได้ดงั ตอ่ ไปนี้ 1) วางเคอรเ์ ซอร์ไวใ้ นเซลล์ทเี่ ราตอ้ งการลบ 2) คลิกปมุ่ คาสั่ง ลบ (Delete) บนรบิ บอน เคา้ โครง (Layout) 3) เลือกคาสั่งดังนี้ ลบเซลล์ (Delete Cells) เมือ่ ตอ้ งการลบเซลลน์ ัน้ ลบคอลมั น์ (Delete Columns) เม่ือตอ้ งการลบท้ังคอลมั นท์ เี่ คอรเ์ ซอร์อยู่ ลบแถว (Delete Rows) เม่ือต้องการลบทัง้ แถวทเี่ คอรเ์ ซอรอ์ ยู่ ลบตาราง (Delete Table) เม่ือต้องการลบท้ังตาราง 4) ปรากฏไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ ลบเซลล์ (Delete Cells) ใหเ้ ลือกดงั นี้ Shift cells left เมือ่ ตอ้ งการเล่อื นเซลลม์ าทางซ้าย Shift cells up เมื่อต้องการเลอื่ นเซลล์ขน้ึ Delete entire row เม่อื ต้องการลบทงั้ แถว Delete entire column เมอื่ ตอ้ งการลบท้ังคอลมั น์ 10. ผูเ้ รยี นฝกึ ทกั ษะในการกาหนดเสน้ ขอบของตาราง สามารถทาได้ดังต่อไปนี้ 1. คลิกปมุ่ คาสั่ง วาดตาราง (Draw Table) บนรบิ บอน ออกแบบ (Design) 2. เลือกรปู แบบเสน้ ที่กลุ่มคาสง่ั Line Style 3. เลือกความหนาของเสน้ ท่กี ลมุ่ คาสงั่ Line Weight 4. เลือกสเี สน้ ที่ปมุ่ Pen Color 5. ลากเมาส์วาดลงบนเส้นทตี่ ้องการ 6. เส้นตารางจะเปลยี่ นไปตามท่เี ราวาด 11.ครใู หค้ วามรู้เพ่มิ เติมในการทาบญั ชีรำยรับ-รำยจำ่ ย ซ่ึงเป็นการจดบนั ทึกเหตุการณต์ ่าง ๆ เกี่ยวกับ การเงินหรือบางส่วนเก่ยี วข้องกบั การเงนิ โดยผ่านการวิเคราะห์ จดั ประเภทและบันทึกไว้ในแบบฟอรม์ ที่กาหนด เพ่อื แสดงฐานะการเงินและผลการดาเนินงานของตนเองหรอื ครอบครวั ในชว่ งระยะเวลาหน่งึ เปน็ วธิ ีชว่ ยตรวจสอบการใช้ จ่ายของครอบครัววา่ มรี ายจ่ายสมดลุ กับรายรบั และใช้จา่ ยอย่างมเี หตุผลตามความจาเป็น พอเหมาะกับสภาพ ครอบครวั หรอื ไม่ หากสามารถปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมการบรโิ ภค เพอ่ื ลดรายจ่ายท่ีไมจ่ าเปน็ เกนิ ตนได้ จะช่วยให้มีเงนิ เก็บออมเพ่ือเป็นรากฐานสรา้ งภูมคิ ุ้มกันทีดใี นชีวิตได้ ข้ันสรปุ และกำรประยกุ ต์
12.ครแู ละผู้เรียนสรปุ การสร้างตารางข้อมลู โดยการฝกึ ปฏิบัติ และการถาม-ตอบและนาไปประยุกต์ใชใ้ น ชวี ิตประจาวนั ได้ 13.ผเู้ รียนทากิจกรรมใบงาน แบบประเมินผล และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ และประเมินผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ดงั ต่อไปน้ี ช่ือผู้เรียน ประสบกำรณพ์ ืน้ ฐำนกำรเรยี นรู้ วธิ ีกำรเรยี นรู้ ควำมรู้ ทักษะ ผลงำน 1. 2. 3. 4. 5. 9. สอ่ื กำรเรยี นกำรสอน / แหล่งเรยี นรู้ จำนวน สภำพกำรใช้ส่อื รำยกำรส่อื 1 ชุด ขน้ั ขยายความรู้ 1. แบบประเมินผลหลังเรียนหน่วยที่ 4 1 ชุด ข้ันสร้างความสนใจ/ขนั้ ขยายความรู้ 2. เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ 10. กำรวดั ผลและประเมินผล เป้ำหมำย หลกั ฐำนกำรเรยี นรู้ วิธีวดั เครือ่ งมือวดั ฯ ประเดน็ / กำรเรียนรู้ ชิ้นงำน/ภำระงำน เกณฑ์กำรให้ ตรวจแบบ แบบประเมนิ ผลการ การค้นหาและตรวจสอบข้อความ ใบงาน ประเมนิ ผลการ เรียนรู้ และแบบฝึก คะแนน เรยี นรู้ แบบฝึก ปฏบิ ตั ิ ปฏบิ ตั ิ แบบประเมนิ ผลการ เรยี นรมู้ ีเกณฑ์ผา่ น และแบบฝึกปฏบิ ัติ 50%
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ 5 เร่อื ง กำรสรำ้ งตำรำง แผนจัดกำรเรียนรู้ที่ 5 เรอื่ ง กำรสรำ้ งตำรำง ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษำตอนตน้ ภำคเรียนท่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2564 น้ำหนักเวลำเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลำเรียน 40 ช่ัวโมง/สัปดำห์ เวลำท่ีใชใ้ นกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 8 ชวั่ โมง ............................................................................................................................. ............................. 1. สำระสำคัญ การใช้ตารางเพื่อทาการจัดระเบียบของข้อมูลในเอกสารให้ดูง่าย เป็นระเบียบ แบ่งสัดส่วนของข้อมูลให้ ชดั เจน Microsoft Word 2016 สามารถทาได้โดยโปรแกรมได้จัดเตรยี มตารางไว้ให้ใช้งาน ในกรณีท่ีข้อมูลมีลักษณะ ท่ีเป็นตัวเลข หรือข้อความอ่ืนๆ ที่มีความจาเป็นจะต้องใส่ลงในตาราง Microsoft Word 2016 จะปรับความกว้าง และความสงู ของช่องตารางตามขนาดของตวั อกั ษรและความกวา้ งของบรรทดั สามารถปรับแตง่ รูปแบบของตารางได้ หลากหลายเพ่ือนาไปประยุกต์ใช้งานได้เหมาะสมรวมทั้งยังมีรูปแบบตารางสาเร็จให้เลือกใช้งานได้อย่างรวดเร็วและ สวยงาม 2. มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีเพือ่ การดารงชวี ติ ในสังคมทม่ี ีการเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้และทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ เพ่อื แกป้ ัญหา หรอื พัฒนา งานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคานึงถงึ ผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และส่งิ แวดล้อม มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ญั หาที่พบในชวี ติ จรงิ อย่างเปน็ ขั้นตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 เน้ือหำสำระหลัก : Knowledge 1. การสร้างตาราง 2. การกรอกข้อมลู ลงในตาราง 3. การจัดตาแหน่งข้อความ 4. การปรับขนาดของตาราง 5. การเพิ่มจานวนแถวหรือคอลมั น์ 6. การผสานและแยกเซลล์ 7. การลบเซลล์ทีไ่ มต่ ้องการ 8. การกาหนดเส้นขอบของตาราง
3.2 ทกั ษะ/กระบวนกำร : Process สามารถการสรา้ งตาราง ได้ 3.3 คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude ซอื่ สัตย์ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมัน้ ในการทางาน 4. สมรรถนะสำคญั ของนกั เรยี น - ความรอบคอบ 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะของวชิ ำ - ความมีวินัย - ความรบั ผิดชอบ - มนุษยสัมพนั ธ์ - ขยันหมนั่ เพยี ร 6. คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 3. มวี ินัย 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 6. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 7. ชิ้นงำน/ภำระงำน : - แบบประเมนิ ผลหลังเรียนหน่วยที่ 5 8. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ขัน้ นำเข้ำส่บู ทเรยี น 1.ครูใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู้ ดิมจากสัปดาหท์ ผี่ ่านมา โดยดงึ ความรู้เดิมของผเู้ รยี นในเรือ่ งท่ีจะเรยี น เพ่ือชว่ ยใหผ้ ู้เรียนมีความพร้อมในการเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้ เดิมของตน ผู้สอนใชก้ ารสนทนาซกั ถามให้ผ้เู รยี นเลา่ ประสบการณ์เดิม หรอื ให้ผูเ้ รยี นแสดงโครงความรเู้ ดิม (Graphic Organizer) ของตน โดยโปรแกรม Microsoft Word 2016 สามารถสรา้ งตารางไดด้ ้วยการเลือกจากตัวเลือกของ ตารางทีจ่ ดั รูปแบบแล้ว พร้อมขอ้ มูลตัวอยา่ ง หรือการเลอื กจานวนแถวและคอลัมนท์ ่ตี ้องการ สามารถสรา้ งตารางลง ในเอกสาร หรือแทรกตารางลงในอีกตารางหน่งึ เพื่อสรา้ งตารางทซี่ บั ซ้อนมากขน้ึ ได้ 2.ผู้เรียนเลา่ เรอ่ื งการใชต้ ารางจากโปรแกรม Microsoft Excell ที่เคยศึกษามาบา้ งแล้ว
ขัน้ สอน 3.ครใู ชเ้ ทคนกการใชแ้ บบสาธิตการสรา้ งตาราง โดยใช้สอ่ื Power Point ประกอบ และให้ผู้เรียนฝกึ ปฏบิ ตั ิ ตาม โดยการสรา้ งตารางดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word 2016 ทาได้หลายวิธี ซง่ึ แตล่ ะวิธนี ้ันกส็ ามารถทจ่ี ะสรา้ ง ตารางใหอ้ อกมาเหมือนกนั ได้ ขึ้นอยกู่ ับว่าจะเลือกใช้วธิ ใี ดในการสร้างตาราง ซึง่ มีวธิ ีต่างๆ ดงั น้ี 3.1 การสร้างตารางแบบกาหนดเซลล์อัตโนมตั ิ การสรา้ งตารางแบบกาหนดเซลล์อัตโนมัตนิ ้นั โปรแกรม Microsoft Word 2016 จะสามารถกาหนดชอ่ งตารางอัตโนมตั ิได้ ซึ่งทาได้ดังตอ่ ไปน้ี 1) วางเคอรเ์ ซอรบ์ นตาแหนง่ ที่ต้องการสรา้ งตาราง 2) คลกิ คาส่งั ตาราง (Table) บนรบิ บอน แทรก (Insert) 3.)ลากเมาสก์ าหนดจานวนแถวและคอลมั น์ที่ต้องการ 4) ได้ตารางที่กาหนดไว้ตามต้องการ 3.2. การสรา้ งตารางแบบกาหนดเอง เป็นการสร้างตารางด้วยการใส่จานวนคอลัมนแ์ ละจานวนแถวตามท่ี ตอ้ งการ ซึง่ สามารถทาไดด้ ังต่อไปน้ี 1) วางเคอร์เซอร์บนตาแหนง่ ทต่ี ้องการสร้างตาราง 2) คลิกคาสัง่ ตาราง (Table) บนรบิ บอน แทรก (Insert) 3) เลือกคาสั่ง แทรกตาราง (Insert Table) 4) ใสจ่ านวนคอลมั น์ท่ตี อ้ งการในชอ่ ง จานวนคอลัมน์ (Number of columns) และใส่จานวนแถวทตี่ ้องการในช่อง จานวนแถว (Number of rows) 5) คลกิ ตกลง (OK) จะไดต้ ารางทีต่ ้องการ 3.3 การสร้างตารางแบบวาดตาราง เปน็ การวาดเส้นต่อกนั เพ่ือกาหนดขนาดตาราง ขนาดแถวและขนาดของ คอลมั น์ ลงในหนา้ เอกสาร ในการสรา้ งตารางด้วยวธิ ีน้ีมขี ้อดีคือสามารถกาหนดตารางได้ตามรูปแบบท่ตี ้องการ ช่อง ตารางไมจ่ าเป็นตอ้ งเทา่ กันทาไดด้ ังนี้ 1) วางเคอร์เซอรบ์ นตาแหนง่ ทต่ี ้องการสรา้ งตาราง
2) คลกิ คาสั่ง ตาราง (Table) บนรบิ บอน แทรก (Insert) 3) คลิกคาส่งั วาดตาราง (Draw Table) แล้วจะเหน็ เมาสเ์ ปลย่ี นเป็นรูปปากกา 4) คลิกเมาสล์ ากปากกาเปน็ เสน้ ตารางตามทเ่ี ราตอ้ งการ 3.4 การสร้างตารางโดยแปลงข้อความเปน็ ตารางทาได้ดงั ต่อไปน้ี 1) ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลมุ ข้อความที่ต้องการสร้างตาราง 2) คลิกป่มุ คาสงั่ ตาราง (Table) บนริบบอน แทรก (Insert) 3) คลิกคาสัง่ แปลงข้อความตาราง (Convert Text to Table) 4) จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์แปลงข้อความตาราง (Convert Text to Table) ให้คลกิ ตกลง (OK) 5) โปรแกรมจะแบง่ คอลัมน์และแถวตามท่เี ราพิมพ์ขอ้ ความไว้ และจะได้ตารางทต่ี ้องการ 3.5. การแทรกตารางดว้ ยกระดาษคานวณ Excel ทาไดด้ งั นี้ 1) วางเคอรเ์ ซอร์บนตาแหน่งที่ต้องการสรา้ งตาราง 2) คลิกป่มุ คาส่ัง ตาราง (Table) บนริบบอน แทรก (Insert) 3) คลกิ คาส่ัง กระดาษคานวณ Excel (Excel Spreadsheet) 4) จะปรากฏหน้าตา่ งโปรแกรม Excel ขึน้ มาให้ลากเมาส์ท่ีมุมล่างดา้ นขวาเพ่ือกาหนดจานวนคอลมั นแ์ ละจานวน แถวท่ีเราต้องการ 5) พมิ พข์ ้อมูลลงในตาราง เม่ือเสร็จแลว้ ใหค้ ลิกเมาสน์ อกหนา้ ตา่ งโปรแกรม Excel 6) ได้ตารางตามทเ่ี ราสร้างขึ้น 3.6. การสร้างตารางแบบใส่ตารางด่วนทาไดน้ ี้ 1) วางเคอรเ์ ซอรบ์ นตาแหน่งทีต่ อ้ งการสร้างตาราง 2) คลิกปมุ่ คาสง่ั ตาราง (Table) บนริบบอน แทรก (Insert) 3) คลิกคาส่งั ตารางดว่ น (Quick Tables) เลือกรูปแบบตารางทีเ่ ราต้องการ
4. ครใู ช้เทคนคิ การสาธติ การกรอกข้อมลู ลงในตาราง และใหผ้ ูเ้ รยี นฝึกทักษะปฏิบตั ติ าม ดังน้ี เมอ่ื สร้างตารางแล้วการป้อนข้อมูลในตารางท่สี ร้างข้นึ ทาได้ดังน้ี 1) ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมตารางทเ่ี ราสรา้ ง 2) กาหนดรปู แบบอักษรและขนาดอักษรท่ีตอ้ งการท่ีคาสัง่ Font บนรบิ บอน หนา้ แรก (Home) 3) คลกิ ในเซลลท์ ี่เราตอ้ งการและพิมพ์ขอ้ ความลงไป 4) กดคีย์ลูกศรบนคยี ์บอรด์ เพ่ือเลือ่ นไปยงั เซลลอ์ น่ื ทเ่ี ราต้องการพมิ พ์ต่อไป 5) เมือ่ พิมพเ์ อกสารครบถ้วนแลว้ ให้คลกิ เมาสน์ อกตาราง 5.ครูสาธิตการจดั ตาแหน่งข้อความ และใหผ้ เู้ รยี นปฏิบัติสามารถทาได้ดังต่อไปน้ี 1) เลือกข้อมลู ทเ่ี ราต้องการจดั ตาแหน่ง 2) คลกิ ปมุ่ จัดตาแหนง่ ตามท่ีเราตอ้ งการ เชน่ ตอ้ งการจัดก่ึงกลาง 3) สามารถจัดตาแหน่งให้กับเซลล์อืน่ ๆ ได้ตามต้องการเพ่ือความสวยงามของเอกสาร 6.ครอู ธบิ าย และสาธติ การปรับขนาดของตาราง และใหผ้ ้เู รียนฝึกปฏบิ ตั ติ ามการสรา้ งตารางถ้ามีขนาดไมต่ รง กบั ความต้องการ สามารถท่จี ะปรับขนาดความกว้างของตารางไดห้ ลายวธิ ี ไดแ้ ก่ -การปรับความกว้างของคอลมั น์ในตาราง -การปรบั ความสงู ของแถวในตาราง -การปรับความกวา้ งทั้งตาราง -การใสร่ ูปแบบตารางสาเร็จรูป 7.ครอู ธบิ าย และสาธติ การเพ่ิมจานวนแถวหรือคอลมั น์ ซ่ึงสามารถทาได้ดงั ต่อไปนี้ 1) วางเคอรเ์ ซอร์ไวท้ เี่ ซลลท์ ี่ต้องการจะเพิ่มแถวหรือเพ่ิมคอลัมน์ 2) คลิกปมุ่ คาส่ัง แทรกด้านขวา (Insert Right) เม่ือตอ้ งการเพิ่มคอลมั น์ บนรบิ บอน เค้าโครง (Layout) 3) หรอื คลิกปุ่มคาสัง่ แทรกด้านล่าง (Insert Below) เมือ่ ต้องการเพม่ิ แถวบนรบิ บอน เค้าโครง (Layout) 8.ครูสาธติ การผสานและแยกเซลล์ 8.1. การผสานเซลล์ ทาไดด้ งั ต่อไปน้ี 1. ลากเมาส์ (Drag Mouse) คลุมเซลล์ทต่ี อ้ งการผสาน 2. คลกิ ป่มุ คาสง่ั ผสานเซลล์ (Merge cells) บนรบิ บอน เค้าโครง (Layout)
8.2. การแยกเซลล์โดยสามารถทาไดด้ งั ต่อไปน้ี 1. วางเคอรเ์ ซอร์ไว้ในเซลล์ที่เราตอ้ งการแยก 2. คลิกปมุ่ คาสงั่ แยกเซลล์ (Split Cells) บนริบบอนเคา้ โครง (Layout) 3. ใส่จานวนแถวและคอลมั น์ท่ตี อ้ งการในไดอะล็อกบ็อกซ์ การแยกเซลล์ (Split Cells) 4. คลกิ ปุ่ม ตกลง (OK) 9.ครูอธบิ าย และสาธิตการลบเซลล์ทีไ่ มต่ ้องการ โดยให้ผู้เรียนฝกึ ปฏิบัตติ าม หากสร้างตารางเรยี บร้อยแลว้ พบว่ามีเซลล์ แถว หรอื คอลมั น์ ทเ่ี ราไมต่ ้องการใช้ และต้องการลบออกไป เราสามารถทาไดด้ ังตอ่ ไปนี้ 1) วางเคอรเ์ ซอร์ไว้ในเซลลท์ ่ีเราตอ้ งการลบ 2) คลิกปุ่มคาสัง่ ลบ (Delete) บนรบิ บอน เค้าโครง (Layout) 3) เลือกคาส่ังดงั น้ี ลบเซลล์ (Delete Cells) เม่ือตอ้ งการลบเซลลน์ ้นั ลบคอลมั น์ (Delete Columns) เมื่อตอ้ งการลบทั้งคอลัมน์ท่ีเคอร์เซอร์อยู่ ลบแถว (Delete Rows) เมื่อตอ้ งการลบท้ังแถวทเี่ คอร์เซอรอ์ ยู่ ลบตาราง (Delete Table) เม่อื ต้องการลบท้ังตาราง 4) ปรากฏไดอะลอ็ กบ็อกซ์ ลบเซลล์ (Delete Cells) ให้เลือกดังนี้ Shift cells left เม่ือตอ้ งการเลื่อนเซลลม์ าทางซา้ ย Shift cells up เม่อื ต้องการเลอื่ นเซลลข์ ึน้ Delete entire row เมอ่ื ต้องการลบทั้งแถว Delete entire column เมือ่ ต้องการลบทัง้ คอลมั น์ 10. ผ้เู รยี นฝกึ ทักษะในการกาหนดเสน้ ขอบของตาราง สามารถทาไดด้ งั ต่อไปนี้ 1. คลิกปมุ่ คาสงั่ วาดตาราง (Draw Table) บนริบบอน ออกแบบ (Design) 2. เลอื กรูปแบบเส้นที่กลมุ่ คาส่ัง Line Style 3. เลือกความหนาของเส้นท่ีกลมุ่ คาสง่ั Line Weight 4. เลือกสเี สน้ ทปี่ ุม่ Pen Color 5. ลากเมาส์วาดลงบนเสน้ ทตี่ ้องการ 6. เส้นตารางจะเปลีย่ นไปตามทเ่ี ราวาด 11.ครูให้ความรเู้ พ่ิมเติมในการทาบัญชีรำยรบั -รำยจำ่ ย ซ่ึงเป็นการจดบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เกีย่ วกบั การเงินหรือบางสว่ นเกย่ี วขอ้ งกับการเงนิ โดยผ่านการวิเคราะห์ จดั ประเภทและบนั ทึกไว้ในแบบฟอรม์ ที่กาหนด เพื่อ แสดงฐานะการเงนิ และผลการดาเนินงานของตนเองหรือครอบครัวในช่วงระยะเวลาหน่งึ เปน็ วธิ ชี ว่ ยตรวจสอบการใช้ จ่ายของครอบครวั วา่ มีรายจา่ ยสมดลุ กบั รายรับ และใชจ้ ่ายอยา่ งมเี หตผุ ลตามความจาเป็น พอเหมาะกับสภาพ ครอบครัวหรือไม่ หากสามารถปรับเปลยี่ นพฤติกรรมการบริโภค เพอื่ ลดรายจ่ายที่ไม่จาเป็นเกนิ ตนได้ จะชว่ ยให้มเี งิน เก็บออมเพ่อื เป็นรากฐานสรา้ งภมู คิ ุ้มกนั ทีดใี นชีวติ ได้
ขน้ั สรุปและกำรประยุกต์ 12.ครูและผู้เรียนสรุปการสร้างตารางข้อมลู โดยการฝึกปฏิบตั ิ และการถาม-ตอบและนาไปประยุกต์ใชใ้ น ชวี ิตประจาวันได้ 13.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมใบงาน แบบประเมนิ ผล และแบบฝึกปฏิบตั ิ และประเมนิ ผเู้ รียนตามแบบฟอรม์ ดังตอ่ ไปนี้ ช่อื ผูเ้ รียน ประสบกำรณ์พ้ืนฐำนกำรเรยี นรู้ วิธีกำรเรยี นรู้ ควำมรู้ ทกั ษะ ผลงำน 1. 2. 3. 4. 5. 9. สอ่ื กำรเรียนกำรสอน / แหล่งเรยี นรู้ จำนวน สภำพกำรใชส้ อื่ รำยกำรส่ือ 1 ชดุ ขน้ั ขยายความรู้ 1. แบบประเมินผลหลังเรยี นหนว่ ยท่ี 5 1 ชุด ขน้ั สรา้ งความสนใจ/ขัน้ ขยายความรู้ 2. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 10. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล เป้ำหมำย หลกั ฐำนกำรเรียนรู้ วิธวี ัด เครือ่ งมอื วัดฯ ประเด็น/ กำรเรียนรู้ ชิน้ งำน/ภำระงำน เกณฑ์กำรให้ ตรวจแบบ แบบประเมินผลการ สรา้ งตาราง ใบงาน ประเมนิ ผลการ เรยี นรู้ และแบบฝึก คะแนน เรียนรู้ แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ ปฏบิ ัติ แบบประเมินผลการ เรียนรมู้ เี กณฑผ์ า่ น และแบบฝกึ ปฏบิ ัติ 50%
Search