Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2564

2564

Published by Kimkiattt.sae, 2021-10-29 04:02:25

Description: 2564

Search

Read the Text Version

คณุ ประโยชนข์ องสมนุ ไพร

สรรพคณุ ของสมนุ ไพรใกลต้ วั เพ็ญศรี นนั ทสมสราญ จากจดหมายขา่ วชมรมผสู้ งู อายุ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่

พืชสมนุ ไพรเป็นพชื ท่คี นไทยรูจ้ กั กนั มานาน และมกี ารนามาใชเ้ ป็นเคร่อื งยา อาหาร เครอ่ื งสาอาง และอน่ื ๆ การประกอบอาหารมีการใชพ้ ชื สมนุ ไพร เครอ่ื งเทศ และผกั สวนครวั มาใชใ้ นชีวิตประจาวนั จานวนหลายชนดิ เช่น ขงิ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กะเพรา โหระพา ใบแมงลกั การปลกู พืชสมนุ ไพรท่ีเป็นไมล้ ม้ ลกุ หรอื ผกั สวนครวั ทาไดเ้ ชน่ เดยี วกบั การปลกู พืชท่วั ๆ ไป แตส่ ิ่งสาคญั คือ สรรพคณุ ท่จี ะนามาประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชีวติ ประจาวนั และ เป็นภมู ปิ ัญญาไทยท่มี คี วามสาคญั และมเี ทคนคิ การใช้ ผเู้ ขยี นหวงั ว่าคงจะเป็น ประโยชนพ์ อสมควรตอ่ ผอู้ า่ นซง่ึ เป็นผบู้ รโิ ภคท่ไี ดใ้ กลช้ ิดกบั ตน้ ไมใ้ บหญา้ พชื สมนุ ไพรใกลต้ วั ท่ีจะนาเสนอมีดงั นี้ ช่ือสมนุ ไพร สรรพคณุ รูปภาพ 1 กระเจีย๊ บแดง กระเจีย๊ บ ทงั้ ตน้ เป็นยาฆา่ แดง มชี ่ือเรยี กอ่นื ๆ ตวั จีด๊ เตรยี ม เชน่ กระเจยี๊ บเปรยี้ ว (ภาค โดยนามาใสห่ มอ้ กลาง) สม้ พอเหมาะ ผกั เก็ง ตม้ นา้ 3 เคง็ (ภาคเหนือ) สม้ พอดี (ภาค สว่ น เคย่ี วไฟให้ อสี าน) สม้ ตะเลงเครง งวดเหลอื 1 (ตาก) ใบสม้ มา่ (ระนอง) สม้ ปู สว่ น ผสมกบั (เงยี้ ว-แมฮ่ ่องสอน) นา้ ผงึ้ ครง่ึ หนง่ึ รบั ประ ทานวนั ละ 3 เวลา หรอื รบั ประทานนา้ ยา เปลา่ ๆ จนหมด

2. กระเจีย๊ บขาว ผลแหง้ ป่นนามาชงกบั กระเจีย๊ บเขยี ว มชี ่ือเรยี ก นา้ กินบาบดั โรค อ่ืนๆ เชน่ มะเขอื ทวาย มะเขื กระเพาะอาหาร อมอญ มเี พคตนิ และสาร เมือกชว่ ยเคลอื บ กระเพาะอาหาร แกไ้ อ บารุงกาลงั 3. กระชาย มีช่ือ เหงา้ เป็นยาแก้ อ่นื ๆ เชน่ วา่ นพระอาทติ ย์ โรคปาก (กรุงเทพฯ) ละแอน เป่ือย ปากเป็น (ภาคเหนอื ) กะแอน ขงิ ทราย แผล ปาก แหง้ ขบั ระดู ขาว ขบั ปัสสาวะ รกั ษา โรคบิด แกป้ วด มวนทอ้ ง 4. กระถิน มชี ื่ออ่ืนๆ เช่น กระ ราก มรี สเฝ่ือน ถ่ิน (ภาคกลาง) บหุ งา ฝาด กินเป็นยา อินโดนีเซีย (กรุงเทพฯ) กระถิน อายวุ ฒั นะ ทา หอม ดอกคาใต้ คาใตม้ อนคา แกพ้ ษิ แมลงสตั ว์ (ภาคเหนือ) มอนคา (เงยี้ ว- กดั ตอ่ ย ตม้ นา้ แม่ฮอ่ งสอน) ถิน อมแกป้ วด (ภาคใต)้ บหุ งาเซยี ม (มลาย-ู ฟัน แกอ้ กั เสบ ภาคใต)้ บหุ งาละสะมะนา

(มลาย-ู ปัตตานี) เกากรนึ อง (กะเหรย่ี ง-กาญจนบรุ )ี 5. กลว้ ยนา้ วา้ เป็นยาแกร้ อ้ นใน กลว้ ยนา้ วา้ มชี ื่อเรยี ก กระหายนา้ โรค อ่ืนๆ เชน่ กลว้ ยมะลิอ่อง โลหติ จาง บารุง (จนั ทบรุ )ี กลว้ ยใต้ นา้ นม แกโ้ รค (เชียงใหม่,เชียงราย) กลว้ ย เก่ียวกบั อ่อง (ชยั ภมู )ิ กลว้ ยตานีออ่ ง ลาไส้ ลดนา้ ตาล (อบุ ลราชธานี) ในเสน้ เลอื ด 6มะมว่ ง ช่ือสามญั Mango 1. มะม่วงมี มะม่วง ช่ือวทิ ยาศาสตร์ วติ ามนิ ซี Mangifera indica L. (ช่ือพอ้ ง สงู จงึ ช่วย วิทยาศาสตร์ Mangifera ตา้ นอนมุ ลู austroyunnanensis Hu) จดั อสิ ระได้ อยใู่ นวงศม์ ะมว่ ง เป็นอยา่ ง (ANACARDIACEAE) ดี 2. มะมว่ งมี . วิตามนิ เอ วติ ามนิ ซี ซ่งึ มีสว่ น ช่วยบารุง ผิวพรรณ ใหเ้ ปลง่ ปล่งั สดใส

3. ช่วยบารุง และรกั ษา สายตา เพราะ อดุ มไป ดว้ ย วิตามนิ เอ และเบตา แคโรทีน 4. เป็นผลไม้ ท่ีมีสว่ น ช่วยบารุง รา่ งกาย 5. ชว่ ยทาให้ ผอ่ นคลาย และหลบั สบาย ย่งิ ขนึ้ 6. ช่วยทาให้ รา่ งกาย ทางาน เป็นปกติ ปรบั สมดลุ ภายใน

7. ผลมะม่วง ดบิ มี วติ ามนิ ซี สงู จงึ ช่วย ปอ้ งกนั และรกั ษา โรค เลอื ดออก ตามไรฟัน 8. ช่วย ปอ้ งกนั และลด ความเส่ยี ง จากการ เกิด โรคมะเรง็ ต่าง ๆ 9. มีสว่ นช่วย ต่อตา้ น การเกิด โรคมะเรง็ เตา้ นม และมะเรง็ ลาไส้ รวม ไปถึงตอ่ ม

ลกู หมาก มะเรง็ ปอด มะเรง็ เม็ด เลือด โรคมะเรง็ ผวิ หนงั เป็นตน้ 7. ขมนิ้ ขาว ขมนิ้ ขาว มีช่ือ . กระตนุ้ การหล่งั วิทยาศาสตรว์ า่ Curcuma นา้ ดี mangga Valeton & Zijp สว่ น สารเคอรค์ มู นิ ภาษาองั กฤษของขมนิ้ ขาว คือ และนา้ มนั หอม White Turmeric ขมนิ้ ขาวเป็น ระเหยท่มี ีอยใู่ น พืชในวงศ์ ZINGIBERACEAE ขมนิ้ ขาวมีสว่ น จดั อย่ใู นสกลุ เดียวกนั กบั ชว่ ยกระตนุ้ การ ขมนิ้ ชนั หล่งั นา้ ดี มี สรรพคณุ รกั ษา น่ิวในถงุ นา้ ดี และลดการ อกั เสบของ บาดแผล ขมนิ้ ขาว ทาอาหาร เหงา้ ของ ขมนิ้ ขาวสามารถ

รบั ประทานสด ๆ เป็นเครอ่ื งเคียง หรอื จะนาเหงา้ ออ่ นมาเป็นผกั จมิ้ นา้ พรกิ ทายา ขมนิ้ ขาว ทาแกง ขมนิ้ หรอื กินกบั นา้ บดู กู ็อรอ่ ย ชว่ ยย่อยอาหาร ขบั ลม ลดอาการ จกุ เสยี ด แน่น ทอ้ ง รกั ษาแผล ในลาไสบ้ รรเทา อาการคล่ืนไส้ ช่วยใหเ้ จรญิ อาหารรกั ษาโรค ผิวหนงั ขบั ปัสสาวะขบั นา้ นมแมล่ กู ออ่ น กระตนุ้ การหล่งั นา้ ดี

8.ฟา้ ทะลายโจร ตามศาสตร์ ช่ือวิทยาศาสตร์ : การแพทยแ์ ผน Andrographis paniculata ไทย “ฟา้ ทะลาย (Burm.f.) Nees (วงศ์ โจร” จดั เป็น Acanthaceae) สมนุ ไพรท่ีมีรส ช่ืออ่ืน : ฟา้ ทะลาย หญา้ กนั งู ขม อยใู่ นกลมุ่ ยา นา้ ลายพงั พอน เมฆทะลาย เยน็ ใชบ้ รรเทา ฟา้ สะทา้ น อาการไขห้ วดั แก้ ไอและเจบ็ คอ หากใชต้ ดิ ตอ่ กนั เป็นเวลานาน อาจทาใหแ้ ขนขา มีอาการชาหรอื ออ่ นแรงควรระวงั การใชร้ ว่ มกบั สารกนั เลือดเป็น ล่มิ (anticoagulants ) และยาตา้ นการ จบั ตวั ของเกลด็ เลือด (ควรaระวงั การใชร้ ว่ มกบั ยา ลดความดนั เลือด

เพราะอาจเสรมิ ฤทธิ์กนั ได้ 9.ขงิ งมสี ารสาคญั คอื เซสควิ ขงิ มฤี ทธิ์อนุ่ ช่วย เทอรฟ์ ีน ไฮโดรคารบ์ อน เซสค ขบั เหง่อื ไลค่ วาม วเิ ทอรฟ์ ีน แอลกอฮอล์ โมโน เยน็ ขบั ลม แก้ เทอรฟ์ ีนอยด์ เอสเตอร์ ฟีนอล ทอ้ งอืด ทอ้ งเฟอ้ รสเผด็ รอ้ นและกลน่ิ ฉนุ เกิด ชว่ ยใหเ้ จรญิ จากนา้ มนั ชนั อาหาร และทาให้ รา่ งกายอบอ่นุ ในทางยานยิ มใช้ ขิงแก่ เพราะขิง ย่ิงแก่จะย่ิงเผด็ รอ้ นและจะมีใย อาหารมาก 10. รางจืดสมนุ ไพรรางจืด มชี ่ือ สรรพคณุ ของ ทอ้ งถิน่ อ่นื ๆ วา่ รางเยน็ คาย รางจืด (ยะลา), ดเุ หว่า (ปัตตานี), ทิด พดุ (นครศรธี รรมราช), ย่าแย้ 1. รากและ แอดแอ (เพชรบรู ณ)์ , นา้ นอง เถาของ รางจืด (สระบรุ )ี , จอลอดเิ ออ ซงั้ กะ ป้ัง กะละ่ พอหนอ่ เตอ (กะเหร่ยี ง- สามารถ แม่ฮ่องสอน), กาลงั ชา้ งเผอื ก ใช้ รบั ประทา ยาเขยี ว เครอื เขาเขยี ว ขอบชะ นาง (ภาคกลาง), วา่ นรางจืด นเป็นยา เป็นตน้

แกร้ อ้ นใน (ราก, เถา) 2. รางจืดมี สรรพคณุ ช่วยแก้ อาการ กระหาย นา้ (ราก, เถา) 3. ใบและ รากของ รางจืดมี สรรพคณุ ใชป้ รุงเป็น ยาถอน พิษไขไ้ ด้ (ใบ, ราก) 4. ใบรางจืด มี สรรพคณุ ใชเ้ ป็นยา พอก บาดแผล (ใบ, ราก)

5. ช่วยรกั ษา แผลไฟ ไหม้ นา้ รอ้ นลวก (ใบ, ราก) จดั ทาโดย จีรพร หาญเจรญิ กิจ.


















Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook