3. การควบคมุ กาลังคน 4. ความสัมพนั ธ์ระหว่างมูลนายกับไพร่ ▪ คาว่า มลู นาย หรือ นาย หมายถึง เจ้านายและขุนนาง ที่ควบคุมไพร่มีความสัมพันธ์ในลักษณะความสัมพันธ์ แบบอุปถัมภ์ โดยมูลนายอยู่ในฐานะผู้อุปภัมภ์ และไพร่ อยู่ในฐานผู้อยใู่ ต้อุปถัมภ์ ▪ โดยมูลนายมีหน้าที่ควบคุมดูแล ช่วยเหลือไพร่ให้คลาย ความเดือนร้อนในวิถีชีวิตที่ดาเนินอยู่ ส่วนไพร่ก็ทางาน ให้กับมลู นาย และทางานโยธาให้แกร่ ัฐดว้ ย
3. การเมืองการปกครอง ในสมยั ธนบุรี ‘วดั แจ้ง’
การสร้างความมั่นคงในกบั อาณาจักร ❑ การปราบชมุ นุมต่าง ๆ ทีต่ ้ังตนเปน็ อสิ ระโดยใช้เวลา ประมาณ 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2310-2313 ด้วยวิธีการหลาย รูปแบบ ได้แก่ ประหารชีวติ ผกู น้าใจ เปน็ ต้น ❑ การเปลีย่ นยทุ ธวธิ รี ับศึกพมา่ และการขยาย อานาจ ในการรบกบั พมา่ ต้ังแต่ พ.ศ. 2310-2319 รวม สงครามท้ังหมด 10 ครั้ง มกี ารเปลี่ยนยุทธวิธีจากเคยตั้ง รับศึกในเมืองก็ออกไปรบั ศึกษาที่ชายแดนแทน
การควบคุมกาลังคน สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ทรงให้ฟน้ื ฟรู ะบบไพร่ข้ึนใหม่ ในปี พ.ศ. 2316 โดยทรงโปรดให้ สักขอ้ มือแขนซ้ายหมายหมู่ไพร่ หลวง ไพร่สม ท้ังในส่วนกลางและหวั เมือง แล้วให้สง่ ทะเบยี นหางวา่ ว ไพรท่ ุกกรมกองต่อกรมพระสุรสั วดี โดยในสมยั อยุธยาสักเฉพาะไพร่ หลวง โดยไพร่ทุกคนจะต้องสักช่อื ตามนายและตามเมืองที่อยู่ของตน
4. การเมืองการปกครอง ในสมัยรัตนโกสินทร์
การเมืองการปกครองในสมัยรตั นโกสินทร์ ▪ สมเด็จพระยามหากษตั ริยศ์ ึก ปราบดาภเิ ษกขนึ้ เป็นกษัตริย์ สถาปนา ราชวงศ์ใหมข่ นึ้ ปกครองอาณาจกั ร ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ราชวงศ์ ใหมช่ ื่อว่า ราชวงศจ์ กั รี การเมอื งการปกครองในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ ▪ พระองค์ได้ทรงตัง้ ราชธานใี หมท่ างฝงั่ ตะวนั ออกของแมน่ ้าเจ้าพระยา และได้ สืบสานรปู แบบการปกครองและระเบยี บประเพณจี ากสมัยกรุงศรอี ยธุ ยา ▪ พระองค์ได้ทรงชาระพระราชพงศาวดารอยธุ ยา อปุ ถมั ภท์ านุบารุง พระพุทธศาสนา และประชุมพระสงฆเ์ ขยี นไตรภมู กิ ถาข้ึนใหมเ่ ปน็ ต้น
บ้านเมืองในสมยั รตั นโกสินทร์ตอนต้น 1. การจดั ระเบยี บแผน่ ดินในสมัยรตั นโกสินทรต์ อนต้น ในสมยั รัชกาลที่ 1 ทรงนารปู แบบการบรหิ ารราชการแผ่นดินแบบสมัยอยธุ ยามาใช้ โดยการเปลยี่ นแปลงให้เข้ากบั สถานการณ์ ของสมัยรตั นโกสินทร์สมัยน้ัน โดยการปกครองพระราชอาณาเขต แบ่งออกเป็น 3 ส่วน เหมือนกรุงศรอี ยุธยา คือ การปกครองสว่ นกลาง การปกครองสว่ นภูมภิ าค และการปกครองหัวเมอื งประเทศราช 1.1 การปกครองส่วนกลาง 1.2 การปกครองสว่ นภูมิภาค 1.3 หัวเมืองประเทศราช ▪ สมหุ พระกลาโหม ▪ หวั เมืองชนั้ ใน ▪ ทางเหนือ ได้แก่ หัวเมืองล้านนา คือ เชียงใหม่ ลาพูน ▪ สมุหนายก ▪ หัวเมืองชนั้ นอก ลาปาง แพร่ นาน เชยี งราย เชยี งแสน ▪ กรมเวยี ง ▪ กรมวงั ▪ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ หลวงพระบาง ▪ กรมคลงั เวียงจนั ทน์ จาปาศักด์ิ ▪ ทางตะวันออกเฉียงใต้ คือ หัวเมืองเขมร ทางใต้ ได้แก่ ไทรบุรี ปตั ตานี กลนั ตัน ตรังกานู
2. การควบคุมกาลังคน ▪ ในสมัยรัชกาลที่ 1 โปรดฯ ใหส้ ักเลขทางหัวเมือง ปักษ์ใต้ที่แขนขวาแทนแขนซ้ายที่ถูกสักมาในสมัย ธนบุรี การทาโยธาของไพร่ลดลง จากสมัยอยุธยาเพียง ปลี ะ 4 เดือน ▪ ในสมัยรัชกาลที่ 2 การทางานโยธาของไพร่ได้ลง อีกเหลือเพียงปีละ 3 เดือน เพื่อให้ไพร่ได้มีเวลาทา กจิ การส่วนตัว ส่วนไพร่ที่ไมต่ ้องการถกู เกณฑ์แรงงาน จ่ายเปน็ เงินแทนเดือนละ 6 บาท ▪ ในสมยั รัชกาลที่ 3 ทรงพิพากษาใหล้ งโทษ ประหารชีวติ ผู้ทนี่ าไพร่หรือเลกมาถวายต่อเจ้านาย
การเมืองการปกครองไทยสมยั รัชกาลที่ 4-6 การเมืองการปกครองสมยั รชั กาลที่ 4 พระองค์ได้ทรงแต่งต้ังเจ้าพระยาคลัง (ดิศ บุนนาค) ซึ่งขุนนางตระกูลบุนนาค ให้เป็นสมเด็จ เจ้าพระยาพระองค์แรกแหง่ กรุงรัตนโกสนิ ทร์ คือ เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง) เป็นสมุหกลาโหม เจ้าพระยารวิวงศ์ (ทิพากรวงศ์) เปน็ พระคลงั และทัต บนุ นาค เปน็ สมเดจ็ เจ้าพระยา 1.1 อิทธิพลตะวันตกที่มผี ลต่อการเมอื งการปกครอง สาเหตุของการแสวงหาอาณานิคม การคุกคามของฝรั่งเศสและอังกฤษที่มีต่อประเทศไทย คือ ต้องการแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และต้องการวัตถุดิบและตลาด เพื่อระบาย สนิ ค้าของชาติตะวันตก 1.2 การปรับปรงุ ดา้ นการเมืองการปกครอง ประกาศใหข้ ุนนางสวมเสื้อเวลาเข้าเฝ้า รวมไปถึงการปรบั ปรุงการปฏิบตั ิงานของกรมกอง ต่าง ๆ การจดั ต้ังหน่วยงานใหม่ ทรงใชก้ ฎหมายในการบรหิ ารแผ่นดินอย่างจรงิ จัง
การเมืองการปกครองไทยสมยั รชั กาลที่ 4-6 การเมอื งการปกครองสมยั รชั กาลที่ 5 นาแบบแผนการปกครองมาปรบั ใชใ้ นประเทศไทย ปจั จัยท่ที าให้พระองค์ทรงต้องการ ปรับปรงุ ประเทศ ▪ ประการแรก ความลา้ หลังของการปกครองและการขาด ประสิทธิภาพของหนว่ ยงาน ได้แก่ กรมกองตา่ ง ๆ มภี าระหน้าที่และ บทบาทซ้าซอ้ นกัน ก้าวก่ายปะปนกนั รวมไปถึงขนุ นางทีไ่ มม่ เี งินเดอื นปะ จาต้องหารายไดจ้ ากผลประโยชน์ในตาแหน่ง ทาให้เกดิ การทจุ ริตไดง้ ่าย ▪ ประการทสี่ อง คือ ภยั คุกคามจากจกั รวรรดินยิ มตะวันตก กล่าวคือ การขยายตวั ของจักรวรรดินยิ มตะวนั ตก เช่น อังกฤษ และฝรังเศส เข้ามา ยึดครองประเทศในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ จึงทาให้พระองค์ทรงสรา้ ง กล่มุ คนรุน่ ใหมท่ ีม่ คี วามคิดกา้ วหน้า มกี ารจดั ต้ัง หอรัษฎากรพิพัฒน์ (พ.ศ.2416) เพือ่ จัดเก็บเงนิ ของประเทศให้เป็นระบบ
การเมืองการปกครองไทยสมยั รัชกาลที่ 4-6 การเมืองการปกครองสมัยรชั กาลที่ 5 ภายหลงั การปรับปรงุ การปกครองในระยะแรก ระหว่าง พ.ศ. 2416-2430 พระองค์ทรงดาเนินการปฏริ ปู บ้านเมืองเป็นขั้นตอน ดังนี้ 2.1 การปฏริ ปู การปกครองส่วนกลาง 1. มหาดไทย เป็น กระทรวงมหาดไทย 1. กระทรวงพระคลังมหาสมบตั ิ 2. กลาโหม เปน็ กระทรวงกลาโหม 2. กระทรวงยุติธรรม 3. กรมท่า เปน็ กระทรวงต่างประเทศ 3. กรมยทุ ธนาธกิ าร 4. กรมวงั เป็น กระทรวงวัง 4. กระทรวงธรรมการ 5. กรมเมือง เป็น กระทรวงนครบาล 5. กระทรวงโยธาธกิ าร 6. กรมนา เป็น กระทวงเกตรพานิชการ 6. กระทรวงมธุ าธิการ
การเมืองการปกครองไทยสมยั รชั กาลที่ 4-6 ในปี พ.ศ. 2440 ได้มีการตราพระราชบัญญัติปกครอง ท้องที่มกี ารจดั หน่วยบริการทีเ่ รียกว่า การเมืองการปกครองสมยั รัชกาลที่ 5 ▪ เมอื ง ซึ่งเป็นหน่วยการปกครองหลักในการปกครอง 2.2 การปฏิรปู การปกครองส่วนภูมิภาค ส่วนภูมิภาค หน่วยราชการบริหารส่วนภูมิภาค ระดับรองลงไปจากเมือง คือ รัชกาลที่ 5 ทรงยุบเมืองประเทศราชรวมเข้าเป็นหัวเมืองใน ▪ อาเภอ เป็นหน่วยการปกครองที่ประกอบข้ึนเป็น เมือง แต่เดิมเรียกว่า แขวง และพระองค์ทรงได้ พระราชอาณาจักร ให้กระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่จัดระเบียบ เปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนท้องถน่ิ ในรปู แบบ การปกครองสว่ นภูมิภาค ในลกั ษณะการรวมอานาจเขาสู่ศูนย์กลาง ▪ สุขาภิบาล เพื่อให้ประชาชนในท้องถ่ินรู้จักรักษา โดยใช้วธิ ีการปกครองแบบเทศาภิบาล สุขภาพอนามัยและสร้างการสาธารณูปโภคต่าง ๆ ลักษณะการปกครองแบบเทศภิบาล คือ การปกครองที่จัดให้มี ด้วย หน่วยงานบริหารราชการ โดยส่งข้าราชการจากส่วนกลางไปปกครอง แต่ละมณฑล เรียกว่า กองขา้ หลวงเทศาภิบาล ในการเปลี่ยนแปลง เป็นมณฑลเทศภิบาลนี้ทาให้ประเทศไทยยกเลิกเมืองประเทศราช ยกเลิกการแบ่งฐานะหัวเมืองออกเป็นชั้นเอก โท ตรี จัตวา ทุกเมือง จึงมศี กั ดิ์ศรีเท่าเทียมกนั
การเมืองการปกครองไทยสมยั รชั กาลที่ 4-6 การเมืองการปกครองสมยั รชั กาลที่ 6 1. ประชาชนยังไม่มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถปกคอรง ตนเองได้ 2. ระบบการเลือกตั้งขาดประสิทธิภาพและนักการเมือง พรรค การเมืองขาดคณุ ภาพและคุณธรรม 3. ระบอบรฐั สภาเปน็ ระบอบที่วุ่นวาย ดังนั้น การนาระบอบประชาธิปไตยมาใช้ปกครองประเทศยัง ไม่เหมาะสมสาหรับประชาชนที่ยังไม่มีความรู้ ความเข้าใจ ที่ จะสามารถปกคอรงตนเองได้ ซึง่ หากมีการเลือกตั้งขึ้นจะไม่มี ประสิทธภิ าพ นกั การเมืองจะขาดคุณภาพและคุณธรรม ทาให้ การปกครองเกดิ ความวุ่นวายข้ึน
การเมืองการปกครองไทยสมัยรัชกาลที่ 4-6 การเมืองการปกครองสมัยรัชกาลที่ 6 3.1 การแบ่งหนา้ ที่ของหนว่ ยงานใหช้ ดั เจน 3.1.1 การปกครองท้องที่ โปรดเกล้าให้เปลี่ยนชื่อจากการเรียก เมอื ง มาเปน็ จงั หวดั 3.1.2 ข้าราชการ ให้ความสาคัญต่อการประพฤติปฏิบัติของ ข้าราชการ โดยนาหลักธรรมทางพุทธศาสนามาเป็นแนวทางให้ ข้าราชการปฏบิ ตั ิ 10 ประการ 3.1.3 การส่งเสริมอุดมการณ์ชาตินิยม โดยทรงก่อต้ังก่อเสือป่า (พ.ศ.2454) ขึ้น เพื่อเรียนรู้วิชาการทางทหารเพื่อเป็นกาลังสาคัญ เกื้อหนุนบ้านเมือง 3.1.4 ทรงสร้างเมอื งสมมติขน้ึ ทีพ่ ระราชวงั ดสุ ิต พระองค์ทรง พระราชทานนามว่า ดุสิตธานี ซึ่งเป็นเมืองทดลองประชาธปิ ไตย โดย จดั รปู แบบการปกครองตามแบบเทศบาล
การเมืองการปกครองไทยสมยั รชั กาลที่ 4-6 การเมืองการปกครองสมยั รัชกาลที่ 6 3.2 การเรยี กร้องทางการเมอื ง ▪ กบฏ ร.ศ.130 หรือ กบฏเก๊กเหม็ง เป็นความเคลื่อนไหวทางการเมือง เพือ่ สถาปนาระบอบประชาธิปไตย เมื่อ พ.ศ. 2454 ▪ ซึง่ เป็นผลมาจากการตืน่ ตวั ทางการเมืองของนายทหาร กลุ่มหนึ่ง ที่ได้รับ อิทธิพลของอารยธรรมตะวันตก และเชื่อมน่ั ในการปกครองแบบตะวันตก ว่าจะพฒั นาบ้านเมืองให้เจริญขนึ้ ได้ ▪ แต่การปฏวิ ตั ิกล็ ้มเหลวเพราะถกู จบั กุมเสียก่อน ▪ เหตุการณ์ดังกล่าว จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดการเปลี่ยนแปลงการ ปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย จึงได้เกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสมัยรัชกาลที่ 7 ขนึ้
การเมืองการปกครองไทยสมยั รัชกาลที่ 4-6 การเมอื งการปกครองไทยสมยั รชั กาลที่ 7 พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวขนึ้ ครองราชย์ พระองค์ทรงเหน็ ความจาเปน็ ในการเปลีย่ นแปลงการ ปกครองให้ทันสมยั สอดคล้องกบั การเปลีย่ นแปลงของชาตติ ะวันตก เริม่ แรกพระองค์จงึ ทรงดาเนนิ การ ดงั นี้ 1. การจัดตั้งอภิรัฐมนตรีสภา คือ สภาที่มีลักษณะเป็นสภาการแผ่นดินช้ันสูง สถาปณาข้ึนเมื่อ พ.ศ. 2468 มหี น้าที่ให้คาปรึกษาราชการแผ่นดิน 2. วางรูปแบบการปกครองท้องถิ่นในรูปเทศบาล พระองค์ทรงดาเนินการแก้ไขปรับปรุง สขุ าภิบาลใหเ้ ปน็ เทศบาล ร่างพระราชบัญญัตเิ ทศบาล สาเรจ็ ใน พ.ศ.2473 นบั เปน็ พระราชบัญญัติ เทศบาล ฉบับแรกของไทย 3. โปรดเกลา้ ฯ รา่ งรัฐธรรมนญู 2 ฉบับ พ.ศ. 2474 มสี าระ คือ 3.1ด้านอานาจนิติบัญญัติ มีการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทางอ้อม โดยมี สมาชิก 2 ประเภทคือ มาจากากรเลือกต้ังและการแต่งต้ัง 3.2 ดา้ นอานาจบรหิ าร ให้พระมหากษัตริย์ทรงเลือกนายกรฐั มนตรีตามพระราชอธั ยาศัย และนายกรฐั มนตรี เปน็ ผู้กราบบงั คมทลู ให้ทรงแต่งต้ังรฐั มนตรี
สาเหตุการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 พนั เอกพระยาพหลพลพยหุ เสนา เปน็ ผู้นาคณะราษฎร โดยแบง่ ออก ดังนี้ ▪ สายพลเรือน นาโดย ▪ สายทหารเรือ นา ▪ สายทหารบกช้ันยศ ▪ สายนายทหารช้ันยศสูง นาโดย หลวงพระดิษฐ์มนูธรรม โดย นาวาตรี หลวง น้อย นาโดย พันตรี พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา หรอื นายปรีดี พนมยงค์ สนิ ธุสงครามชยั หลวงพิบูลสงคราม โดยมีพันเอกพระยาทรงสุรเดช พันเอกพระยาฤทธิอัคเนย์ และ พันโทพระประศาสน์พิทยายุทธ ร่วมดว้ ย
สาเหตกุ ารเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 หมดุ คณะราษฎร คณะราษฎร ตัดสินใจวางแผนยึดอานาจ เพื่อเริม่ ให้เกิดการเปลีย่ นแปลงการปกครอง ด้วยสาเหตุน้ี จึงเป็นฉนวนให้เกิดการ จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเปน็ ระบอบประชาธิปไตย มีสาเหตุหลัก ดงั นี้ เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 1. ความขัดแย้งทางการเมือง โดยสามัญชนมีการศึกษาที่สูงขึ้น เนื่องจากจบจาก 2475 เป็นการรวมกันของคณะราษฎร 2 ต่างประเทศ และกลบั มารับราชการเพิม่ มากข้ึน ก ลุ่ ม คื อ ก ลุ่ ม นั ก เ รี ย น ไ ท ย ใ น 2. ความหลากหลายของแนวคิดทางการเมือง โดยมีการพัฒนาด้านการศึกษาเปิด ต่างประเทศ และกลุ่มนายทหารท้ัง โอกาสให้ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความคดิ ทางการเมือง ทหารบก รวมทั้งทหารเรือในประเทศ 3 ภาวะเศรษฐกิจตกต่า มอี ยู่ 2 ปจั จยั คือ ปจั จยั แรก คือ ปัจจัยภายใน รายได้ไม่พอ ไทย กับรายจ่าย เพราะรัชกาลที่ 7 ทรงใช้จ่ายในราชสานักมาก ปัจจัยที่สอง คือ ปัจจัย ภายนอก หลกั สิ้นสดุ สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดปัญหาเศรษฐกิจตกต่าทั่วโลก ไม่สามารถ ขายสินค้าได้
สาเหตกุ ารเปลีย่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 คณะราษฎร กลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ เรียกว่า คณะราษฎร โดยคณะปฏิบัติน้ีได้ใช้วีการยึดอานาจ โดยฉบั พลนั แบ่งออกเปน็ 4 หน่วย คือ ▪ หน่วยที่ 1 ทาหน้าทยี่ ึดการสื่อสารและการคมนาคมที่สาคัญ ▪ หน่วยที่ 2 ทาหน้าทคี่ วบคุมตัวเจา้ นายและบคุ คลสาคญั ต่าง ๆ ▪ หน่วยที่ 3 เป็นหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนย้ายกาลังประสานงาน กบั ฝา่ ยทหาร ▪ หน่วยที่ 4 มีนายปรีดี พนมยงค์ เป็นหัวหน้าร่างคาแถลงการณ์ ร่างรัฐธรรมนูญ และหลักกฎหมายปกครองประเทศต่าง ๆ โดย แผนการครั้งนี้สาเร็จลงอย่างรวดเร็ว โดยพันเอกพระยาพหลพล พยุหเสนาได้อ่านแถลงการณ์คณะราษฎร ฉบับที่ 1 ณ บริเวณลาน พระบรมรูปทรงมา้
สาเหตุการเปลีย่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระ ราชทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติ ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยาม (ฉบับชั่วคราว) และพระราชทานกลบั คืน ในวันที่ 27มถิ นุ ายน 2475 หลั งจากนั้ น ได้ มี การร่ างรั ฐธรรมนู ญขึ้ น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราช ดาเนินไปทรงประกอบพิธีพระราชทานธรรมนูญ ณ พระที่น่ังอนันตสมาคม ในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ซึ่งเปน็ รฐั ธรรมนูญฉบบั แรกของไทย พระราชหัตถเลขา ร.7 พระราชทานรฐั ธรรมนญู ฉบบั แรก แกป่ วงชนชาวไทย
จบหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วิเคราะหป์ ระเดน็ สาคญั ทางประวัติศาสตรไ์ ทย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125