Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 7 ธนวัฏ แม่นยำ

บทที่ 7 ธนวัฏ แม่นยำ

Published by 042 ธนวัฏ แม่นยํา, 2021-08-21 09:42:12

Description: บทที่ 7 ธนวัฏ แม่นยำ

Search

Read the Text Version

1

การประเมินหลกั สูตร หมายถึง กระบวนการเชิงระบบเพ่ือจดั หา สารสนเทศท่ีเป็นประโยชน์ต่อการตดั สินใจเก่ียวกบั การปรับปรุง พฒั นาหลกั สตู ร การเปลยี่ นแปลงหลกั สตู ร ลักษณะของการประเมินหลกั สูตรมีดังน้ี 1. การประเมนิ หลกั สตู รเปน็ กระบวนการทจี่ ัดทาขนึ้ อย่างเปน็ ระบบ 2. การประเมินหลักสูตรเป็นกระบวนการในการจดั เตรยี มสารสนเทศ 3. จุดเน้นทีส่ าคัญของการประเมนิ หลักสตู รอยทู่ ่ีการเพิม่ ประสิทธิภาพและประสิทธผิ ล

การประเมินหลักสูตรมีวัตถุประสงค์สาคัญเพื่อการจัดหาสารสนเทศท่ีนาไปใช้ ในการตัดสินใจเกี่ยวกับหลักสูตร อย่างมีเหตุผล และมีความเช่ือถือได้เพ่ือนาไปสู่การ ปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร การบริหารหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รักษามาตรฐานทางวิชาการและยืนยันการควบคุมคุณภาพ การใช้หลักสูตรเพ่ือสร้าง ความเชอ่ื มนั่ ความศรัทธาต่อประชาชนและสังคม

1. ช่วยใหไ้ ดส้ ารสนเทศเกี่ยวกับหลักสตู รซ่งึ จะเป็นประโยชนต์ ่อผู้บริหาร และผู้เก่ียวข้อง ได้ใชป้ ระกอบการตดั สินใจเก่ยี วกับหลักสตู ร 2. ช่วยให้ตามความกา้ วหน้าปญั หาและอุปสรรคในระหว่างดาเนนิ การใชห้ ลกั สตู ร 3. ชว่ ยใหไ้ ด้สารสนเทศเกย่ี วกบั สมั ฤทธผ์ิ ลของหลักสตู ร จุดเดน่ จดุ ดอ้ ยของหลักสูตร 4. ช่วยให้ได้สารสนเทศท่ีบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของหลักสูตรว่าเป็นอย่างไร คุ้มค่ากับ การลงทนุ หรือไม่ 5. ช่วยให้เกดิ การเสริมแรง สร้างพลงั จูงใจใหก้ ับผบู้ ริหารหลักสูตรและผู้เก่ียวข้องกับการ ใช้หลกั สูตรเม่ือทราบสมั ฤทธผิ์ ลของหลกั สูตร จดุ เด่นหรอื จุดได้ของหลกั สูตร

การประเมินหลักสูตรมหี ลายประเภท ขึ้นอยกู่ ับเกณฑท์ ใ่ี ช้จาแนก 1. จาแนกตามวัตถปุ ระสงค์ของการประเมนิ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท คอื การประเมินความกา้ วหน้า และ การประเมินสรปุ รวม 2. จาแนกตามหลักที่ยึดในการประเมนิ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คอื การประเมินแบบองิ วัตถปุ ระสงคข์ องหลักสูตร และ การประเมนิ โดยไมอ่ ิงวตั ถุประสงคข์ องหลกั สตู ร 3. จาแนกตามลักษณะของผู้ประเมนิ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภทคอื การประเมินโดยผู้ประเมนิ ภายนอก และ การประเมนิ โดยผปู้ ระเมินภายใน

4. จาแนกตามช่วงระยะเวลาของการดาเนนิ การหลกั สตู ร แบง่ ออกเป็น 5 ประเภท คอื 1. การประเมนิ ก่อนการพัฒนาหลกั สูตร 2. การประเมินรา่ งหลักสูตร 3. การประเมนิ ก่อนการใชห้ ลกั สตู ร 4. การประเมนิ ระหวา่ งการใช้หลักสูตร 5. การประเมินหลงั การใช้หลักสตู รครบวงจร

5. จาแนกตามสงิ่ ทถ่ี ูกประเมนิ โดยใชร้ ปู แบบการประเมนิ ของ สตัฟเเฟเลบมี (Stuffillebeam) แบง่ ออกเปน็ 4 ประเภท คือ 1. การประเมนิ บรบิ ทหรอื สภาวะแวดล้อม 2. การประเมินปจั จยั เบอ้ื งตน้ 3. การประเมินกระบวนการใช้หลักสูตร 4. การประเมนิ ผลผลติ ของหลกั สตู ร

(2) การวางแผนการประเมนิ หลกั สตู ร

(2) การวางแผนการประเมนิ หลกั สูตร 1 2.1 ความหมายและความสาคญั ของการวางแผนการประเมินหลกั สตู ร 2 2.2 รูปแบบการประเมินหลักสูตร 3 2.3 ขนั้ ตอนการวางแผนการประเมนิ หลกั สตู ร 4 2.4 การเขยี นโครงการประเมนิ หลักสูตร 5 2.5 ตัวอย่างการเขียนประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากการประเมิน

2.1 ความหมายและความสาคัญของ การวางแผนการประเมนิ หลกั สตู ร

2.1.1 ความหมายของการวางแผนการประเมินหลักสตู ร เป็นกระบวนการตัดสินใจไว้ล่วงหน้าของผู้ประเมินหรือหน่วยงานท่ี ดาเนินการหลักสูตรว่าจะ ประเมินอะไร ประเมินอย่างไร ประเมินเม่ือใด และใครเป็นผู้ ประเมิน มักจะเริ่มต้นด้วยการศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรท่ีประเมิน แล้วกาหนด วัตถุประสงค์ ประเด็นตัวแปรหรือตัวบ่งชี้ แหล่งข้อมูลหรือผู้ให้ข้อมูลสาคัญ กาหนด เครือ่ งมอื เกบ็ รวบรวมข้อมูล การวเิ คราะห์ขอ้ มูลและระบุเกณฑ์การประเมนิ

2.1.2 ความสาคญั ของการวางแผนการประเมนิ หลกั สตู ร 1. ทาให้ผปู้ ระเมินได้ศึกษา วิเคราะห์ จัดระบบแนวความคิด และกาหนด แนวทางในการประเมนิ ก่อนดาเนนิ การประเมนิ จรงิ 2. ทาให้มแี ผนดาเนินการประเมินหลกั สตู รที่มคี วามครอบคลมุ ชัดเจน 3. ทาให้การดาเนินการประเมินหลักสตู รมคี วามเปน็ ระบบ มีลาดับขัน้ ตอน ของการดาเนินงานท่ีชดั เจน

2.1.2 ความสาคัญของการวางแผนการประเมนิ หลกั สตู ร (ตอ่ ) 4. ช่วยให้เกิดการประหยัดทรัพยากรในการดาเนินการประเมินทางด้าน กาลงั เงนิ กาลงั คน วสั ดุ อุปกรณ์ ระยะเวลา 5. ชว่ ยให้เกิดความเข้าใจและความรว่ มมือในการดาเนนิ การ 6. ชว่ ยให้มีกลไกในการกากบั ตรวจสอบ ควบคุม การดาเนินการประเมิน

2.2 รปู แบบการประเมนิ หลกั สตู ร

2.2.1 ความหมายของรูปแบบการประเมินหลักสตู ร รูปแบบการประเมิน หมายถึง กรอบแนวคิด วิธีการหรือ แนวทางท่ีเป็นแบบแผนในการประเมินอย่างเป็นระบบ ซ่ึงแสดงให้ เห็นสิ่งทค่ี วรประเมิน ขัน้ ตอน หรอื กระบวนการของการประเมิน

2.2.2 ประเภทของรปู แบบการประเมนิ หลักสตู ร 1. รปู แบบการประเมนิ ที่เนน้ วตั ถปุ ระสงค์ (object to based model) 2. รปู แบบการประเมนิ ท่เี น้นการตดั สินคุณคา่ (judgmental evaluation model) 3. รูปแบบการประเมินที่เน้นการตดั สนิ ใจ (decision-oriented evaluation model)

2.2.3 รปู แบบการประเมนิ ทค่ี วรใช้ในการประเมินหลกั สูตร ในการประเมินหลักสูตร ผู้ประเมินสามารถเลือกหรือประยุกต์ใช้ รูปแบบการประเมินตา่ งๆได้ ดงั น้ี (1) รูปแบบการประเมนิ ของไทเลอร์ (2) รูปแบบการประเมนิ ภาคขยายของไทเลอร์ (3) รูปแบบการประเมนิ ของครอนบาค (4) รปู แบบการประเมินของเคิรก์ แพทริค (5) รูปแบบการประเมนิ ของสคริฟเวน่ (6) รูปแบบการประเมินของสเตค (7) รปู แบบการประเมินของ สตฟั เฟลิ บมี (8) รปู แบบการประเมินของอลั คนิ

2.2.3 รปู แบบการประเมินที่ควรใช้ในการประเมินหลักสูตร(ตอ่ ) (1) รูปแบบการประเมนิ ของไทเลอร์ ไทเลอร์ ได้พัฒนารปู แบบการประเมิน เพอ่ื ใช้ในการศกึ ษาความแตกต่างของประสทิ ธิภาพของ การศึกษาประเภทต่างๆ และได้ยึดเอาจุดมุ่งหมายของหลักสูตรเป็นหลักในการประเมิน บางคร้ังจึง เรียกรูปแบบการประเมินนี้ว่า รูปแบบการประเมินที่ยึดวัตถุประสงค์หรือความสาเร็จของเป้าหมาย เป็นหลัก

(2) รูปแบบการประเมนิ ภาคขยายของไทเลอร์ แนวคิดการประเมินตามรูปแบบเดิมของไทยเริ่มเป็นการประเมินทางการศึกษาที่ยึดจุดประสงค์เชิง พฤตกิ รรมเปน็ หลัก ในระยะต่อมารูปแบบการประเมินเร่ิมให้ความสนใจกับส่ิงต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อหลักสูตรด้วย เช่น ความสามารถทางการเขียนของนักเรียน การประเมินการเรียนรู้โดยความรู้สึก ในการประเมินหลักสูตรไท เลอร์ได้เสนอใหม้ ีการประเมนิ 6 ประเดน็ คือ (1)การประเมนิ จดุ มุ่งหมายหลักสูตร (2)การประเมนิ แผนการเรยี นรู้ (3)การประเมินและการพัฒนาหลักสูตร (4)การประเมินเพื่อนาหลักสูตรไปสู่การ ปฏบิ ตั ิ (5)การประเมินผลลพั ธ์ของหลกั สตู ร และ (6)การกากับหลักสตู รดงั ต่อเนื่อง

(3) รูปแบบการประเมนิ ของครอนบาค (Cronbach) ครอนบาค ได้เสนอแนวคดิ การประเมนิ ท่ีเรยี กว่า การประเมินยทุ ธศาสตร์ของการตัดสินใจ คือ การรวบรวมข้อมูลและใช้สารสนเทศเพ่ือการตัดสินใจเกี่ยวกับหลักสูตร โดยมีขอบเขตครอบคลุมถึง กิจกรรมต่างๆ ทางการศึกษา ซ่ึงอาจจะเป็นส่ือการเรียนการสอน กิจกรรมการเรียนการสอน ประสบการณ์การเรียนทก่ี ารศึกษาจัดให้กับผ้เู รยี น

4) รูปแบบการประเมนิ ของเคริ ก์ แพทรคิ (Kirkpatrick) เคิร์กแพทริค เป็นผู้นาเสนอแนวคิดและรูปแบบการประเมินหลักสูตรฝึกอบรม เห็นว่า การประเมินผลการฝึกอบรมจะทาให้มีเหตผุ ลในการตดั สินใจเก่ียวกับหลกั สตู รฝึกอบรม

(5) รปู แบบการประเมินของ สครฟิ เว่น (Scriven) สคริฟเว่น เป็นนักคิด นักปราชญ์ท่ีสาคัญคนหนึ่งของวงการประเมินท่ีให้ความสาคัญ กบั การตัดสนิ คุณคา่ (value judgment) ซึ่งได้เสนอแนวคิดวา่ ส่งิ ทนี่ า่ ประเมนิ จะต้องทาคือให้ ขอ้ สรุปเชิงประเมนิ (evaluation conclusion)

(6) รูปแบบของการประเมินของ สเตค (Stake) สเตค ได้เสนอแนวคิดในการประเมินหลักสูตรในรูปแบบการประเมินความสอดคล้อง ระหว่างส่ิงท่ีคาดหวังกับสิ่งที่เกิดข้ึนจริง โดยให้ความหมายของการประเมินไว้ว่า เป็นการ บรรยายนาฏศลิ ป์คุณคา่ ของหลักสูตรซ่ึงจาเป็นต้องมีข้อมูล 2ประเภท คือ ข้อมูลที่เกี่ยวกับการ บรรยายและข้อมลู ท่เี กี่ยวกบั การตดั สนิ ใจ

(7) รปู แบบการประเมนิ ของ สตฟั เฟลิ บีม Stufflebeam สตัฟเฟิลบีม โดยเสนอแนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบการ ประเมินซิป (CIPP model) เป็นรูปแบบการประเมินที่มีระบบ แบบแทนอย่างชัดเจน และสามารถนาไปใช้ในการประเมิน หลกั สูตรหรอื โครงการต่างๆ ได้อยา่ งกวา้ งขวาง คาว่า CIPP ย่อมาจากคาว่า context (บริบทหรือ สภาวะแวดลอ้ ม)input (ปจั จยั เบอื้ งตน้ ) Process (กระบวนการ ) และ Product (ผลผลิต) การประเมินจึงเป็นกระบวนการที่จัดหา นาเสนอ สารสนเทศ ได้นาไปประยุกต์ใช้ในการอธิบายและการตัดสิน คณุ คา่ และคุณประโยชนใ์ นการตัดสนิ ใจหาทางเพศท่เี หมาะสมใน การดาเนินการเกย่ี วกบั หลกั สูตร

(8) รปู แบบการประเมินของ อลั คิน (Alkin) อัลคิน พัฒนากรอบการประเมินที่มีลักษณะใกล้เคียงกับรูปแบบการประเมินซิป เรียกวา่ รปู แบบการประเมิน (UCLA) ซ่ึงมจี ดุ เน้นเปน็ การประเมนิ เพื่อการตัดสินใจ

2.3 ข้นั ตอนการวางแผน การประเมนิ หลักสูตร

2.3 ขนั้ ตอนการวางแผนการประเมินหลักสตู ร 1. ศึกษาวิเคราะหห์ ลักสูตรท่มี ุ่งประเมนิ 2. ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และรปู แบบการประเมิน 3. กาหนดวัตถุประสงค์และตัวบง่ ชกี้ ารประเมิน 4. ออกแบบการประเมนิ 5. การวางแผนเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 6. การวางแผนการวิเคราะหข์ อ้ มลู 7. การจัดทาโครงการประเมนิ หลกั สูตร

2.4 การเขยี นโครงการ ประเมนิ หลักสตู ร

2.4 การเขียนโครงการประเมินหลักสตู ร 2.4.1 ความหมายของโครงการการประเมนิ หลกั สูตร 1. โครงการประเมินหลักสูตร หมายถึง กรอบแนวคดิ และแนวทางในการดาเนินการประเมิน หลักสูตรท่กี าหนดไว้ลว่ งหน้า 2. โครงการประเมินหลักสูตร หมายถึง เอกสารที่ผู้ประเมินจัด ทาข้ึนอย่างเป็นระบบเพื่อ แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางในการประเมิน หลักสตู รเพื่อให้บรรลุผลสาเร็จตามเป้าหมายของการ ประเมนิ

2.4 การเขยี น 2.4.2 ส่วนประกอบของโครงการประเมินหลักสูตร โครงการประเมิน การประเมินหลกั สตู รมีส่วนประกอบที่สาคญั 3 สว่ น คือ หลกั สตู ร 1. ส่วนนา เป็นส่วนท่ีเก่ียวข้องกับชื่อเรื่องโครงการประเมิน หลักสูตร ผู้ประเมินหรือคณะผู้ประเมิน ที่ปรึกษาการประเมิน(ถ้ามี) และ หนว่ ยงานทใี่ ห้การสนับสนุนการประเมนิ 2. ส่วนเนื้อเรื่อง เป็นส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับเนื้อหาสาระของโครงการ ประเมินหลักสูตร ประกอบด้วย ความเป็นมาและความสาคัญของการ ประเมิน วัตถุประสงค์ของการประเมิน ขอบเขตของการประเมิน นิยาม ศพั ทเ์ ฉพาะ วิธกี ารประเมิน 3. ส่วนท้ายเร่ือง เป็นรายละเอียดเก่ียวกับแผนปฏิบัติงานการ ประเมนิ และรายละเอียดอ่ืนๆ เช่น บรรณานุกรม ภาคผนวก

2.4 การเขยี น 2.4.3 แนวปฏบิ ัตใิ นการเขยี นโครงการประเมินหลกั สตู ร โครงการประเมนิ การเขียนรายละเอียดในแต่ละหัวข้อของโครงการ หลกั สูตร ประเมนิ หลักสูตร แนวปฏิบัตดิ ังนี้ 1. ชอ่ื เร่ืองหรือชื่อโครงการประเมนิ หลักสูตร 2. ชื่อผปู้ ระเมนิ หรอื คณะผู้ประเมิน 3. ชอ่ื ทปี่ รกึ ษาการประเมิน 4. หน่วยงานทีใ่ ห้การสนับสนนุ 5. ความเปน็ มาและความสาคัญของการประเมนิ 6. วตั ถุประสงคข์ องการประเมนิ

2.5 ตวั อย่างการเขยี น ประโยชน์ทไ่ี ด้รับ จากการประเมิน

2.5 ตัวอย่างการ ตัวอย่าง จากรายงานการประเมินหลักสูตรสถานศึกษา พุทธศักราช 2553 เขียนประโยชน์ที่ โรงเรยี นวัดใหมส่ ระพลอย สานักงานเขตพื้นท่ีประถมศึกษาสุพรรณบุรีเขต ไ ด้ รั บ จ า ก ก า ร 3 (พยนต์ ง่วนทอง) ประเมิน 1. ทาใหไ้ ดข้ ้อมูลสารสนเทศสาหรับผู้บริหารสถานศึกษาและบุคคล ท่ีเก่ียวข้องกับหลักสูตรเพ่ือการตัดสินใจปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตร สถานศกึ ษา การบริหารหลกั สตู รและการจดั การเรยี นการสอนของโรงเรียน วดั สระกลอยให้มคี ุณภาพและประสทิ ธิภาพ 2. ผู้สอนสามารถใช้ข้อมูล กระบวนการจัดการเรียนการสอนมี ประสิทธภิ าพและสามารถตอบสนองความต้องการของท้องถ่ินและนักเรียน ใหม้ ากขน้ึ

3. การดาเนินการ ประเมินหลกั สูตร

1 ในการดาเนินการประเมนิ หลกั สูตรให้ประสบผลสาเรจ็ สถานศึกษาและผ้ปู ระเมนิ ควรดาเนินการประเมนิ อย่างเปน็ ระบบ โดยดาเนนิ การตามขน้ั ตอน ดังต่อไปนี้ การประเมนิ หลักสตู ร 1. จดั ทาโครงการประเมนิ หลกั สตู ร กอ่ นเร่ิมดาเนินการประเมนิ หลักสูตร 2. ขออนุมตั ิโครงการประเมินหลกั สตู ร เพอื่ ให้การประเมนิ หลกั สตู ร ไดร้ บั การสนบั สนุนและชว่ ยเหลอื ในการดาเนนิ การจนประสบผลสาเร็จ 3. สรา้ งความเขา้ ใจในการประเมนิ หลักสูตรกบั บคุ คลที่เกยี่ วขอ้ ง เพ่อื ให้การประเมินหลกั สูตรสามารถดาเนินการไดต้ ามแผนการประเมนิ จน บรรลผุ ลสาเร็จ 4. พฒั นาเครอ่ื งมือเก็บรวบรวมขอ้ มลู เป็นขนั้ ตอนของการเตรยี ม จัดหาหรือจะทาเครอื่ งมอื เกบ็ รวบรวมข้อมลู ในการประเมนิ

1 5. เก็บรวบรวมข้อมูล เป็นการดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจริง โดยใช้เครอื่ งมือเก็บรวบรวมขอ้ มูลแตล่ ะประเภททีไ่ ดพ้ ฒั นาขนึ้ การประเมิน หลักสูตร 6. วิเคราะห์ข้อมูล เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลและแปลความหมายของข้อมูล ท่ีเกบ็ รวบรวมมาได้ การวเิ คราะหข์ อ้ มลู กระทาได้ 2 ลกั ษณะคอื (ตอ่ ) 1) ถ้าเป็นข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ข้อมูลที่เป็นตัวเลขการวิเคราะห์จะใช้ สถิตเิ ป็นเคร่อื งมอื ช่วย 2) ถ้าเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ ข้อมูลท่ีไม่ได้วัดออกมาเป็นตัวเลข แต่ จะอยู่ในรูปการบรรยายสถานการณ์ความรู้สึกความคิดเห็นหรือคุณลักษณะของสิ่ง ต่างๆ 7. รายงานผลการประเมนิ หลกั สูตรเปา้ หมายสาคญั ของการประเมนิ หลักสูตร

2. กรณีตวั อย่างการประเมนิ หลกั สตู ร กรณตี วั อยา่ งที่ 1 02 การประเมนิ หลักสูตรสถานศึกษา พทุ ธศกั ราช 2553 โรงเรียนวัดใหม่สระพลอย สานักงาน เขตพืน้ ที่ศึกษาสพุ รรณบรุ ี เขต 3 01 กรณตี วั อย่างที่ 2 เปน็ รายงานการประเมินผลหลักสูตรหมวด วิชาศกึ ษาทัว่ ไป มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร

การประเมนิ หลักสตู รสถานศึกษา พทุ ธศกั ราช 2553 โรงเรยี นวัดใหม่สระพลอย สานกั งานเขตพ้นื ทีศ่ กึ ษาสุพรรณบุรี เขต 3 ซงึ่ มสี าระของวิธกี ารประเมินและผลการประเมินโดยสรปุ ดงั นี้ 1 1 เพื่อประเมนิ หลกั สูตรสถานศกึ ษา พทุ ธศักราช 2553 โรงเรยี นวดั ใหมส่ ระพลอย สานกั งานเขตพืน้ ทป่ี ระถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 วตั ถปุ ระสงค์ ในดา้ นบรบิ ท ปจั จยั เบ้ืองต้น กระบวนการ และผลผลติ 2 เพ่ือศกึ ษาความพงึ พอใจตอ่ การใชห้ ลกั สตู รสถานศึกษา พทุ ธศักราช 2553

2. วิธดี าเนนิ การประเมนิ ผู้ใหข้ ้อมลู หลัก โดยการนวดแบบ 1 การกาหนดประเด็นการประเมนิ การประเมนิ เจาะจงกบั ผบู้ ริหาร ครู คณะกรรมการ หลักสตู รครง้ั น้ี ได้ใชร้ ปู แบบการประเมินซปิ 2 ของสตฟั เเฟเลบีมเป็นกรอบแนวคดิ และแนวทาง สถานศึกษา ผปู้ กครอง นกั เรยี น ในการประเมิน โรงเรยี นวดั ใหมส่ ระพลอย 3 เครอ่ื งมอื และการเก็บรวบรวมข้อมลู โดยใช้ การวเิ คราะห์ข้อมูล ข้อมลู เชงิ 4 แบบสอบถามสาหรบั ผู้บรหิ าร ครู ปรมิ าณ วิเคราะหโ์ ดยใชค้ า่ สถิติ คณะกรรมการสถานศึกษา แบบสอบถาม พื้นฐาน ส่วนขอ้ มลู เชงิ คุณภาพใช้ สาหรับนักเรยี น แบบสมั ภาษณ์ผู้ปกครอง วธิ ีการวเิ คราะหเ์ นือ้ หา

3 1. ด้านบริบท พบว่า มีความชัดเจน ความสอดคล้อง สรุปผลการประเมนิ ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการนาไปปฏิบัติ ในภาพรวมอย่ใู น ระดับมาก 2. ด้านปัจจยั เบอื้ งต้น พบว่า โดยรวมมคี วามเหมาะสม และความเพียงพออยู่ในระดับมาก 3. ด้านกระบวนการ เพราะว่าโดยภาพรวมมีการปฏิบตั ิอยู่ ในระดับมาก

3 3.4 ดา้ นผลผลติ สรุปได้ ดังน้ี สรุปผลการประเมนิ 3.4.1 ด้านผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน พบว่า นักเรียนชั้น (ต่อ) ประถมศึกษาปีที่ 3 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ( ผลการเรียนระดับ 3 ข้ึนไป) ทั้ง 10 กลุ่ม สาหรับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 นักเรียนผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 10 กลุ่มสาระ 3.4.2 ผลการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พบว่านักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 6 ร้อยละ 100 ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรม พัฒนาผเู้ รียน 3.4.3 ความสามารถของผู้เรียนด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขยี นอยู่ในระดับดี มากที่สดุ ร้อยละ 85.00

3 3.4 .4 ส มร ร ถน ะส าคัญ ขอ งผู้ เรีย น พ บ ว่านั กเ รีย น สรุปผลการประเมิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 6 ร้อยละ 100 ผ่านเกณฑ์ โดยมีสมรรถนะ สาคัญในระดบั ดี มากที่สดุ ร้อยละ 85.00 (ต่อ) 3.4.5 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน พบว่านักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 และ 6 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์อยู่ใน ระดับดเี ย่ยี ม รอ้ ยละ 100 3.5 การใช้หลักสูตรสถานศึกษา พบว่าโดยภาพรวม ผู้บริหาร ครูผู้สอน และกรรมการการศึกษามีความพึงพอใจต่อการใช้หลักสูตรสถานศึกษาอยู่ ในระดบั มาก

3. บทบาทของผู้บรหิ ารและบุคลากร ท่เี กย่ี วขอ้ งกับการประเมินหลกั สูตร ในการประเมนิ หลักสูตร มีผ้เู ก่ยี วขอ้ งหลายระดบั ทงั้ ผบู้ ริหารระดับนโยบาย ผบู้ ริหารระดับเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษา ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา ผู้ประเมนิ หรอื คณะกรรมการประเมนิ หลักสูตร และครู อาจารยผ์ ู้สอน

4.การนาผลการประเมนิ หลกั สูตรไปใช้

การนาผลการประเมนิ หลักสูตรไปใช้ 4.1 วตั ถปุ ระสงคแ์ ละความสาคัญของการนาผลการประเมนิ หลักสตู รไปใช้ 4.2 แนวปฏบิ ัติในการนาผลการประเมนิ หลักสูตรไปใช้ 4.3 กรณีตวั อยา่ งการนาผลการประเมินหลักสตู รไปใช้

4.1.1 วตั ถปุ ระสงคข์ องการนาผลการประเมนิ หลักสูตรไปใช้ 01 เพื่อให้ผบู้ รหิ ารระดับนโยบายใชส้ ารสนเทศจากการปรเมนิ ไปประกอบการตัดสนิ ใจเชงิ นโยบาย เกย่ี วกับทศิ ทางของหลกั สตู รและการจัดการศกึ ษา 02 เพ่อื ให้ผบู้ รหิ ารระดบั เขตพ้ืนทใี่ ชส้ ารสนเทศจากการปรเมนิ ไปประกอบการส่งเสรมิ สนับสนุนการ พฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา การใช้และการจัดการเรียนการสอนตามหลกั สูตร 03 เพ่อื ให้ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือคณะกรรมการสถานศกึ ษาใชป้ ระกอบการตดั สินใจปรับปรุง พฒั นา การบรหิ ารและการจดั การเรยี นการสอนตามหลกั สตู รภายในสถานศกึ ษา 04 เพอ่ื ใหค้ รูใช้ประกอบการตัดสินใจปรับปรงุ พฒั นาการเรยี นการสอน 05 เพือ่ เสริมสร้างวฒั นธรรมการทางาน ใช้ปรบั ปรงุ และพฒั นางาน

4.1.2 ความสาคัญของการนาผลการประเมนิ หลกั สูตรไปใช้ 01 การตัดสนิ ใจก่อนรเิ ริม่ การพฒั นาหลกั สตู ร 02 การตัดสินใจกอ่ นปรบั ปรุงตวั หลกั สตู ร 03 การตัดสินใจจากทรัพยากรในการใชห้ ลกั สูตร 04 การตัดสนิ ใจระหวา่ งการใช้หลกั สูตร 05 การตัดสนิ ใจใช้หลกั สตู รครบวงจร

4.2แนวปฏบิ ตั ิในการ 1.ลักษณะของการนาผลการ 2.แนวปฏบิ ตั ใิ นการนาผลการ นาผลการประเมิน ประเมินหลกั สตู รไปใช้ ประเมนิ หลกั สูตรไปใช้ หลกั สูตรไปใช้ 1.1 เพ่ือการพฒั นาหลักสูตร 2.1 ตรงประเดน็ กับเร่ืองทจ่ี ะตัดสินใจ 1.2 กอ่ นการนาหลกั สูตรไปใช้ 2.2 ต้องมปี ระโยชนต์ อ่ การตดั สินใจ 1.3 เพื่อตัดสนิ ประสิทธิผลและ 2.3 มคี วามเปน็ ปจั จบุ นั ทนั สมัย ประสทิ ธิภาพของหลกั สตู ร 2.4 ครอบคลุม ครบถว้ น เพียงพอ 2.5 ถกู ตอ้ ง ชัดเจน เขา้ ใจง่าย 2.6 มีประโยชนต่อสว่ นรวม 2.7 จดั ระบบสารสนเทศ วางแผนการ ประเมนิ และการใช้หลักสูตร 2.8 สร้างตระหนักให้เห็นคุณค่า 2.9 สรา้ งวฒั นธรรมการเรียนรรู้ ว่ มกนั 2.10 พฒั นาระบบสารสนเทศเพื่อการ บริหารหลกั สุตรและการเรียนการสอน 2.11 กาหนดแผนและปฏทิ นความ ต้องการของสถานศึกษา 2.12 สร้างระบบและกลไลการสง่ เสรมิ

กรณีตัวอยา่ งการนาผลการประเมนิ หลักสูตรไปใช้ โรงเรียนวดั ใหมส่ ระพลอย สานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาสพุ รรณบุรี เขต 3 นาผลการประเมินไปใชด้ งั น้ี 2. การจดั หาและพฒั นา 1.การปรบั ปรงุ หลักสูตร สือ่ เอกสารการเรยี น สถานศกึ ษา เรื่องโครงสรา้ ง การสอน หน่วยการเรยี นรู้ให้สอดคล้อง กับสภาพส่ิงทีค่ รูใชส้ อน 3. การนาผลการประเมนิ ไปใช้ ของสถานศึกษาอ่ืนๆ ควร เปรยี บเทียบโครงารา้ งและบรบิ ท ของสถานศกึ ษาตนเอง เพอ่ื ให้ได้ สารสนเทศทตี่ อ้ งการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook