Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 6618_.archivetempe-book-

6618_.archivetempe-book-

Published by ขุนแผน ตะโพนไทย, 2021-02-02 06:56:03

Description: 6618_.archivetempe-book-

Search

Read the Text Version

ปครวะาเมภหทมขาอยงทรพั ย์สิน 1 ความหมาย การใช้สทิ ธิ์ในทางแพง่ 2-3 กน่อิตสกิ ิทรรธมิ 4-7 กฎหมายแพง่ เป็นกฎหมายทก่ี าหนด การโอนสิทธิ-การสงวนสิทธิ 8-9 สทิ ธิ หน้าที่ และความรับผดิ ชอบ การระงับสิทธิ 10 ระหวา่ งเอกชนในฐานะท่ที งั้ สองฝ่ าย ความไมส่ มบรู ณ์ของนติ กิ รรม-โมฆะกรรม 11 กฎหมายท่เี กี่ยวกับการก้ยู ืมเงิน 12 เทา่ เทียมกนั แม้รฐั จะเข้ามาเก่ียวข้อง ดอกเบีย้ -การเรียกดอกเบีย้ เกินอตั ตรา 13 เป็นผ้จู ดั การบงั คบั ให้เป็นไปตามคา 14 เรียกร้องของฝ่ ายที่เสียหาย แตเ่ ม่อื กฎหมายเกี่ยวกบั การคา่ ประกัน 15 บงั คบั ได้แล้วก็จดั การคนื ให้แก่ กฎหมายเกี่ยวกบั สญั ญาจานอง 16 ผ้เู สยี หาย กฎหมายประเภทนี ้ กฎหมายเกี่ยวกบั จานา 17 กฎหมายเก่ียวกับเชา่ ทรัพย์ 18 กฎหมายเก่ียวกับสญั ญาเชา่ ซอื ้ 19 20

ประเภทของทรัพยส์ ิน ประโยชนท์ ่ีบคุ คลจะพึงมพี งึ จะได้ในทรพั ย์สนิ นนั้ แม้จะไม่มี รปู ร่าง แต่ก็อาจมรี าคาและยึดถือเอาได้ สิทธิในทรพั ย์สินท่ี ทรัพยส์ นิ ที่สำคญั มี 2 ประเภท คือ สงั หำริมทรพั ย์ และ สาคญั ที่สดุ ได้แก่ กรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ ผู้ใดมีกรรมสทิ ธิ์ อสงั หำริมทรพั ย1์ สงั หำริมทรพั ยไ์ ดแ้ กท่ รัพยท์ ี่เคลื่อนท่ี ได้ เชน่ โต๊ะ เกำ้ อ้ี รถยนต์ แรงธรรมชำติท่ีมี ในทรัพย์สินใดผู้นนั้ ย่อมมสี ิทธิครอบครอง จาหน่าย จ่าย รำคำ เชน่ กระแสไฟฟำ้ พลังน้ำตก พลงั ไอน้ำ และสทิ ธิ ในสงั หำริมทรัพย์ เชน่ สทิ ธิบัตร ลิขสทิ ธ์ิ เป็นตน้ แจก หรือแม้กระทงั้ การทาลายทรัพย์สนิ นนั้ ตามเงื่อนไขท่ี 2.อสงั หำริมทรพั ยไ์ ดแ้ ก ่ทรพั ยท์ ี่เคล่ือนที่ ไมไ่ ด้ เชน่ ที่ดิน ทรพั ยท์ ี่ติดอยกู่ บั ดิน เชน่ สงิ่ ปลูก กฎหมายกาหนดไว้ มี 2 ประการ คือ ได้มาโดยกฎหมายและ สร้ำง ไมย้ ืนต้น ทรพั ยซ์ ่ึงประกอบเป็นอนั เดียวกบั ได้มาโดยนติ ิกรรมและสญั ญา ดิน เชน่ กรวด ทรำย และแรธ่ ำตุในดิน รวมท้งั สทิ ธิอนั เกีย่ วกบั กรรมสทิ ธ์ในท่ีดินเชน่ สทิ ธิครอบครองท่ีดิน สิทธิ 1. การได้สิทธิโดยกฎหมาย คอื การได้มาตามบทบัญญตั ขิ อง อำศยั เป็นต้น กฎหมาย เชน่ การโอนกรรมสทิ ธ์ิทรพั ย์สินของ กระทรวง ทบวง กรมตา่ งๆ ทม่ี ีกฎหมายปรับปรุง 2. การได้สิทธิมาโดยนิตกิ รรมและสญั ญา เป็นการได้สิทธิมา ตามข้อตกลง หรือการทาสญั ญา เชน่ สิทธิในการรับทรพั ย์สิน เป็นมรดกตกทอดตามพนิ ยั กรรม สิทธิในทรัพย์สินตามสญั ญาซอื ้ ขาย สิทธิในผลประโยชนจ์ าก เป็นต้น

การใช้สิทธใ์ิ นทางแพง่ ฎหมายจึงมคี วามจาเป็นทจ่ี ะต้องเข้าไปปกปอ้ งช่วยเหลือโดย การจากัดขอบเขตการใช้สทิ ธิบางประการ เพราะฉะนนั้ จงึ อาจ การถือสิทธิในทางแพ่งต่างกบั การใช้สทิ ธิในทาง แพง่ กลา่ วคือ บคุ คลธรรมดาทกุ คนตงั้ แตเ่ กิดมามีชวี ติ รอด กลา่ วได้วา่ แม้บุคคลทกุ คนจะมีความสามารถถือสิทธิหรือเป็นผู้ อยู่ มสี ภาพเป็นบคุ คลตามกฎหมาย ก็ย่อมมีความสามารถทจ่ี ะ ทรงสทิ ธิ์ได้เท่าเทียมกัน แต่การใช้สทิ ธินนั้ อาจถูกจากดั ได้ด้วย ถือสทิ ธิ เชน่ การมีสิทธิเป็นเจ้าของทรพั ย์สินหรือการมีสทิ ธิใน เหตบุ างประการ ได้แก่ ภาวะผ้เู ยาว์ ภาวะวิกลจริต ภาวะ ร่างกายในชวี ิตของเรา โดยไมถ่ กู จากัดเรื่อง อายุ เพศ ศาสนา การศกึ ษา สติปัญญา สง่ิ เหล่านไี ้ ม่มี เสมอื นไร้ความสามารถ ผลกระทบกระเทือนในการถือสทิ ธิ์แตอ่ ย่างใด เมอื่ ถือสิทธิแล้ว 1. ภาวะผ้เู ยาว์ ผ้เู ยาว์ ได้แก่ บคุ คลทย่ี ังไมบ่ รรลนุ ิติ จะใช้สิทธินนั้ ได้เพยี งใดย่อมต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยหลกั กฎหมาย บคุ คลย่อมมสี ิทธิและหน้าทีเ่ สมอ ภาวะ คือ ยงั มอี ายุไมค่ รบ 20 ปีบริบรู ณ์ แตท่ งั้ นีม้ ีข้อยกเว้น กัน กล่าวคือ ได้รับความค้มุ ครองจากกฎหมายเท่าเทยี มกันไม่ วา่ บุคคลนนั้ จะมีความแตกตา่ งกนั ด้วย วยั เพศ หรือสถานะใด สาหรับผ้เู ยาวท์ อ่ี าจจะบรรลนุ ติ ิภาวะเมื่อทาการสมรส หากการ ก็ตาม แต่เพอื่ เป็นการค้มุ ครองประโยชน์ของผ้ทู รงสทิ ธินนั้ เอง สมรสนนั้ ได้ทาเมอ่ื ฝ่ายชายผ้เู ยาว์และฝ่ายหญิงผู้เยาวม์ ี และของบคุ คลอ่นื หรือบคุ คลภายนอกทอ่ี าจจะเข้ามาผูกพนั อายุ 17 ปีบริบรู ณ์แล้ว ซ่ึงเป็นการบรรลนุ ติ ิภาวะโดยการ สมรส และเม่ือได้รบั ผลตามกฎหมายคือการบรรลนุ ิติภาวะ แล้ว ก็จะได้รบั ผลตามกฎหมายนโี ้ ดยตลอดไป คือ การบรรลุ นติ ิภาวะตลอดไป แม้ผ้เู ยาว์จะได้ทาการหย่าร้างกนั กนั ทจ่ี ะมี อายุครบ 20 บริบรู ณ์

2. ภาวะวกิ ลจริต สภาพร่างกายของบุคคลอาจจะมีความ 3. ภาวะเสมือนไร้ความสามารถ สภาพของร่างกายและ แตกตา่ งกนั ในเรื่องสขุ ภาพและโรคภยั ไข้เจบ็ ของมนษุ ย์ การที่ จติ ใจทีไ่ มถ่ ึงขนั้ เป็นคนวิกลจริต อาจจะเป็นเพียงกายพิการ บุคคลหนง่ึ มโี รคภัยไข้เจ็บทางสมองถึงขนั้ วิกลจริต คือ มีความ หรือจติ ฟ่ันเฟือนไม่สมประกอบบางเวลา หรือบางครงั้ บาง ประพฤตหิ รือกิริยาผิดปกตหิ รือเป็นบ้า บคุ คลดงั กลา่ วนคี ้ วรจะ คราว หรืออาจจะเก่ียวกับความประพฤติ เชน่ ใช้จา่ ย ได้รบั ความเหน็ ใจจากสงั คม ในทางกฎหมายจงึ ต้องเข้าไป สรุ ่ยุ สรุ ่าย มีความเสเพลเป็นอาจิณ หรือตดิ สรุ ายาเมา สง่ิ ช่วยเหลือบคุ คลดงั กล่าวโดยการกาหนดวา่ บคุ คลวิกลจริต เสพตดิ บคุ คลดงั กลา่ วนอี ้ าจถูกศาลสงั่ ให้เป็นคนเสมอื นไร้ อาจจะถูกศาลสงั่ ให้บคุ คลนนั้ เป็นคนไร้ความสามารถก็ได้และ ความสามารถได้คนเสมอื นไร้ความสามารถทศ่ี าลสง่ั จะถูก ศาลก็จะต้องให้มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นผ้อู นบุ าลคนไร้ จากดั ความสามารถเฉพาะในการทานิติกรรมทีม่ คี วามสาคญั ความสามารถนนั้ ผลจากการท่บี ุคคลวิกลจริตถกู ศาลสงั่ ให้เป็น หรือเป็นประโยชนไ์ ด้เสียท่ีสาคญั ของคนเสมอื นไร้ คนไร้ความสามารถ บุคคลนนั้ จะถกู จากดั ความสามารถใน ความสามารถบางประการเท่านนั้ เชน่ ไม่สามารถซอื ้ ขาย การทานิตกิ รรม กล่าวคือไม่สามารถทานติ กิ รรมใดๆ ได้ อสงั หาริมทรัพย์ ไม่สามารถรับหรือสละความเป็นทายาท ไม่ เลย ถ้ามีความจาเป็นจะต้องจะต้องทานิตกิ รรมใด จะต้องให้ สามารถฟ้องร้องคดคี วามในศาลหรือประนีประนอมยอม ผ้อู นบุ าลเป็นคนกระทาแทนเสมอไปทกุ กรณี ความ เป็นต้น นิตกิ รรมดงั กลา่ วนี ้ คนเสมือนไร้ ความสามารถจะต้องได้รับความยินยอมจากผ้พู ิทกั ษ์หรือผู้ ค้มุ ครองดแู ลก่อน

นิตกิ รรม สทิ ธิทีเ่ กิดจากเหตธุ รรมชาติ เชน่ เมอ่ื บคุ คลใดตาย มรดก ของบุคคลนนั้ จะโอนกรรมสทิ ธิ์ตกทอดไปยงั ทายาทของผู้ตาย การใดๆ อนั ทาลงไปโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยใจ ทนั ที เหตนุ เี ้ป็นผลทาให้ทายาทได้รับสิทธ์ในทรัพย์มรดกมา สมคั รมงุ่ โดยตรงตอ่ การผกู สมั พนั ธ์ระหว่างบุคคล เพ่อื จะ จากการตายของเจ้าของมรดกตามกฎหมายไม่ถือวา่ เป็น นิติ ก่อการเปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงนั ซึ่งสทิ ธ์ิ กรรม สทิ ธิอนั เนื่องมาจากการกระทาของบุคคล เป็นสทิ ธิท่ีกระทา สิทธิ หมายถึง อานาจท่ีจะกระทาการใดๆได้ ด้วยใจสมคั ร และชอบด้วยกฎหมาย เรียกวา่ นติ ิ อย่างอิสระ เป็นประโยชนข์ องบุคคลซ่ึงกฎหมายรับรอง กรรม องคป์ ระกอบนติ ิกรรม นติ ิกรรมจะต้องเกิดจากการ ค้มุ ครองและปอ้ งกันให้ มลู เหตอุ นั เป็นที่เกิดของสทิ ธิ กระทาของบุคคล และประกอบด้วยหลกั เกณฑ์ดงั ต่อไปนี ้ ในทางกฎหมายนนั้ อาจจาแนกได้เป็น 2 เหตทุ ่ี 1. ต้องมีการแสดงเจตนาของบุคคล หมายความว่า บคุ คล สาคญั คอื เหตธุ รรมชาติ และเหตอุ นั เน่อื งจากการ นนั้ กระทาสิง่ ใดลงไปเพ่ือต้องการผลอย่างใดอย่างหน่ึงทาง กระทาของบคุ คล กฎหมาย หรือมีความประสงค์ที่จะก่อความสมั พนั ธ์ขึน้ ตาม กฎหมาย

การก่อสิทธิ การโอนสทิ ธิ เชน่ การทาสญั ญาเงินก้จู ะก่อสทิ ธิ คอื ความ จากตวั อย่างสญั ญาก้เู งิน เจ้าหนอี ้ าจจะโอน เป็นเจ้าหนแี ้ ละลกู หนตี ้ ามสญั ญาก้เู งินนนั้ สิทธิความเป็นเจ้าหนหี ้ าบคุ คลอืน่ มาเป็นเจ้าหนี ้ การเปลยี่ นแปลงสิทธิ เชน่ นางสาวแดงสญั ญา แทนได้ ว่าจ้างนางดาให้ตดั ชดุ ววิ าห์ ก่อนวนั สมรส ถ้า นางดาตดั ชดุ ไม่ทนั กาหนด นางดาต้องชาระเงินให้ การสงวนสิทธิ นางสาวแดง 1000 บาท เพ่ือไปซอื ้ จากท่ีอ่ืน แทน ดงั นี ้ ถ้านางดาผิดสญั ญา นางสาวแดงย่อม เพ่อื เป็นหลกั ประกนั ในการก้เู งินดงั กล่าว เรียกร้องเงิน 1000 บาท จากนางดาได้ เป็นการ แล้ว เจ้าหนอี ้ าจจะขอให้ลกู หนหี ้ าบุคคลอ่นื มา เปล่ยี นแปลงสิทธิทจี่ ะได้ชดุ ววิ าหเ์ ป็นสิทธิทจี่ ะได้รยั เป็นผ้คู า้ ประกันในการก้เู งิน เพือ่ เป็น เงิน 1000 บาทแมน หลกั ประกันในกรณีทล่ี กู หนผี ้ ิดสญั ญา เจ้าหนกี ้ ็ จะได้ไปเรียกร้องบังคบั ชาระหนเี ้อาจากผ้คู า้ ประกัน

การระงบั สิทธิ ความไมส่ มบูรณ์ของนิตกิ รรม สิทธิทีเ่ กิดขนึ ้ ตามสญั ญาดงั กลา่ วแล้ว อาจจะมีการระงบั ไปด้วย นิตกิ รรมทท่ี าขนึ ้ เองอาจจะเกิดความบกพร่องทเ่ี ป็นผลทาให้ สาเหตหุ ลายประการ เชน่ การก้เู งินก็อาจจะระงับไปด้วยการท่ี นติ ิกรรมนนั้ ไมส่ มบูรณ์ ซงึ่ ตามกฎหมายเรียกความไมส่ มบูรณ์ เจ้าหนยี ้ กหนใี ้ ห้กับลกู หนี ้ หรือลกู หนนี ้ าเงินที่เป็นหนพี ้ ร้อม ของนิติกรรมนวี ้ า่ โมฆะกรรม และ โมฆียะกรรม ในทาง ดอกเบีย้ มาชาระหนตี ้ ามสญั ญา สญั ญาก็จะระงับไปการกระทา กฎหมายสองคานมี ้ คี วามแตกตา่ งกันมาก ดงั นี ้ ของบคุ คลในชวี ิตประจาวนั นนั้ เม่ือมองดเู ผินๆแล้วอาจจะเข้าใจ ว่า เป็นการกระทานติ กิ รรมแตค่ วามจริงแม้การกระทาหลายอย่าง โมฆะกรรม ในชีวิตประจาวนั จะเป็นการกระทาทีช่ อบด้วยกฎหมายแตถ่ ้า ผ้กู ระทาไม่มีความประสงคท์ ่ีจะให้มคี วามผกู พนั หรือการบังคบั กนั หมายถึง การกระทาทส่ี ญู เปล่า เสียเปลา่ ไม่เกิดผลตาม ตามกฎหมายอย่างจริงจงั แล้วการกระทาดงั กล่าวนนั้ ก็หานติ ิกรรม กฎหมายขนึ ้ มา ฉะนนั้ เมือ่ กล่าวถึงคาว่านติ ิกรรมท่เี ป็น หรือนดั ไปรบั ประทานอาหารร่วมกัน แม้อกี ฝ่ายหนงึ่ จะไม่ไป โมฆะ หมายถึง นติ ิกรรมนนั้ ไม่เกิดผลหรือไมม่ คี วามผูกพนั ใน ตามทน่ี ดั ไว้ ตามกฎหมายก็ไม่ถือวา่ เป็นความผิดสญั ญาเพราะ อนั ทจ่ี ะบังคบั ตามกฎหมายได้แต่อย่างไร นติ ิกรรมที่เป็นโมฆะ การกระทาดงั กล่าวยังไม่ถึงเกณฑท์ เ่ี รียกว่าเป็นการผกู นิติสมั พนั ธ์ นนั้ บคุ คลทกุ คนสามารถกลา่ วอ้างหยิบยกขนึ ้ มาอ้างได้วา่ นติ ิ ขนึ ้ ระหว่างบุคคลแต่อย่างใด กรรมนนั้ เป็นโมฆะ

กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั การก้ยู มื เงิน ดอกเบยี ้ กำรกยู้ มื เงินเป็นกำรทำนติ ิกรรมสญั ญำอยำ่ งหน่ึงซ่ึงตำม คำ่ ตอบแทนที่บุคคลหน่ึงต้องใชใ้ ห้แกอ่ ีกบุคคลหน่ึง กฎหมำยเรียกวำ่ นิติกรรม 2 ฝ่ำย เพรำะคำวำ่ สญั ญำ จะต้อง เพอ่ื กำรท่ีได้ใชเ้ งินของบุคคลน้นั หรือเพอื่ ทดแทนกำรไมช่ ำระ ตกลงทำกนั โดยบุคคลต้ังแต่ 2 ฝ่ำยเสมอไป ฉะน้ันกำรกยู้ ืมเงิน หน้ีหรือชำระหน้ีไมถ่ ูกต้อง กฎหมำยกำหนดอตั รำดอกเบ้ียข้ัน ตำมกฎหมำยจงึ เกดิ ควำมผูกพนั ระหวำ่ งผใู้ หก้ เู้ รียกวำ่ สูงสุดไมเ่กินรอ้ ยละ 15 ตอ่ ปี เวน้ แตเ่ ป็นกำรกยู้ มื เงินจำกบริษัท เจำ้ หน้ี ฝ่ำยหน่ึง และผกู้ ู้ เรียกวำ่ ลูกหน้ี ฝ่ำยหน่ึงโดยลูกหน้ีมี เงินทุนหรือธนำคำรหรือสถำบันกำรเงินอน่ื ท่ีกฎหมำยกำหนด หนำ้ ที่จะตอ้ งใชเ้งินคืนพรอ้ มกบั ดอกเบ้ียภำยในเวลำที่ ซ่ึงอำจเรียกอตั รำดอกเบ้ียเกนิ รอ้ ย 15 ตอ่ ปี ได้ โดยให้เป็นไป กำหนดกำรกยู้ ืมเงินจะมผี ลสมบูรณ์เมอื่ มีกำรสง่ มอบเงินใหแ้ กผ่ ู้ ตำมกฎหมำยพเิ ศษของบริษัทเงินทุนหรือธนำคำร ที่ซ่ึงเรียกวำ่ ลูกหน้ีและกำรกยู้ มื เงินดงั กลำ่ วน้ีจะทำสญั ญำเป็น ตำมกฎหมำยโดยสมบูรณแ์ ลว้ แตถ่ ำ้ กำรกยู้ ืมเงินเกินกวำ่ สบิ หำ้ การเรียกดอกเบยี ้ เกนิ อตั ตรา บำทโดยไมม่ ีหลกั ฐำนเป็นหนงั สอื ลงลำยมอื ชอื่ ผยู้ ืมเป็นสำคญั จะฟอ้ งบงั คบั คดีไมไ่ ดค้ นเป็นจำนวนมำเข้ำใจวำ่ กำรทำสญั ญำ เกินร้อยละ 15 อำจทำใหก้ ำรเรียกดอกเบ้ียตกเป็นโมฆะ จะต้องทำเป็นหนงั สือเสมอไปน้ันเป็นควำมเขำ้ ใจผิดเพรำะ ท้งั หมดหรือเสยี ไปท้ังหมดไมอ่ ำจจะเรียกคืนได้แมจ้ ะเรียก สญั ญำอำจเกดิ ข้ึนไดด้ ้วยกำรตกปำกลงคำ เพียงในอตั รำรอ้ ยละ 15 หรือต่ำกวำ่ จะเรียกคืนไดเ้ พียงตวั เงิน ตน้ เทำ่ น้ันและยงั อำจทำให้ผูท้ ี่เรียกดอกเบ้ียเกนิ อตั รำตอ้ งรบั ผิดมโี ทษในทำงอำญำอกี ดว้ ย

กฎหมายเก่ียวกบั การคา้ ประกนั กฎหมายเก่ียวกบั สญั ญาจานอง เป็นการทานิตกิ รรมสญั ญาประเภทหน่งึ ซงึ่ การเอาทรัพย์สนิ ไปไว้กบั บุคคลหนึ่ง เพ่ือเป็น บคุ คลภายนอก เรียกวา่ ผ้คู า้ ประกัน โดยเข้ามาทาสญั ญา ประกันการชาระหนี ้ การทาสญั ญาจานองเป็น ผกู พนั ตนต่อเจ้าหนวี ้ า่ ตนจะชาระหนแี ้ ทนให้ในเม่อื ลกู หนี ้ มาชาระหนนี ้ นั้ การตกลงทาสญั ญา ซ่ึงเรียกวา่ ผู้ สญั ญาคา้ ประกันนนั้ จะต้องทาหลกั ฐานเป็นหนงั สือและลง จานอง กับ ผ้รู บั จานอง โดยเอาทรพั ย์สนิ ของ ลายมอื ชื่อผ้คู า้ ประกนั ไว้ด้วย มฉิ ะนนั้ จะฟ้องร้องบังคบั คดี ตนเอง ได้แก่ อสงั หาริมทรพั ย์ เชน่ ที่ดนิ หรือ ไม่ได้ไมว่ ่ามวี งเงินมากน้อยเพยี งใด ทรพั ย์สินท่ีติดกบั ท่ีดนิ เช่น บ้าน ต้นไม้ แร่ธาตุ การเข้าไปทาสญั ญาคา้ ประกันบุคคลอ่ืนนนั้ อาจทาให้ผ้คู า้ ในดนิ เป็นต้น และยงั มคี วามหมายรวมถึง ประกันตกเป็นลกู หนเี ้พราะต้องรบั ผิดตามสญั ญานนั้ ๆ และ สงั หาริมทรัพย์บางประเภททีก่ ฎหมายยอมให้ใช้ เสยี เปรียบอย่างมาก ฉะนนั้ ก่อนที่จะสญั ญาคา้ ประกนั ใคร จะต้องพจิ ารณาให้รอบคอบ เป็นประกันการชาระหนไี ้ ด้เช่นเดียวกบั อสงั หาริมทรัพย์

กฎหมายเกย่ี วกบั สญั ญาจานา กฎหมายเกย่ี วกบั สญั ญาเชา่ ทรพั ย์ กำรเอำสงั หำริมทรัพยไ์ ปไวก้ บั บุคคลหน่ึงเพื่อเป็นประกนั การใช้ทรพั ย์สินของผ้อู ืน่ เป็นการชว่ั คราว โดยจา่ ยค่า ชำระหน้ีสญั ญำจำนำแตกตำ่ งกบั สญั ญำจำนองในสำระสำคัญ เช่าเป็นการตอบแทน ทรัพย์สนิ ไมว่ า่ จะเป็น ที่วำ่ สญั ญำจำนำเป็นกำรนำทรพั ยส์ นิ เฉพำะสงั หำริมทรัพยไ์ ป ไวก้ บั บคุ คลอื่นเทำ่ น้นั อสงั หำริมทรัพยจ์ ึงไมอ่ ำจนำไปจำนำ อสงั หาริมทรพั ย์ หรือสงั หาริมทรัพย์ ย่อมทาสญั ญา ได้ เช่าได้เสมอไป โดยเรียกค่สู ญั ญาฝ่ายหน่งึ ว่า ผ้ใู ห้ กำรทำสญั ญำจำนำสญั ญำจำนำจงึ ต้องประกอบดว้ ย เช่า ทาการตกลงให้อกี บคุ คลหนงึ่ เรียกว่า ผู้เชา่ ได้ใช้ หลกั เกณฑ์ท่ีสำคัญ 2 ประกำร คือ 1. ทรพั ยท์ ่ีจำนำตอ้ งเป็นสงั หำริมทรพั ย์ หรือได้รบั ประโยชนจ์ ากทรัพย์สินอย่างใดอย่าง 2. ต้องสง่ มอบทรัพยส์ ินที่จำนำใหแ้ กผ่ รู้ ับจำนำดว้ ย ถ้ำไมม่ ี หน่ึง โดยมรี ะยะเวลาอนั จากดั และผ้เู ช่าอาจตกลง กำรสง่ มอบทรัพยส์ ินถือวำ่ สญั ญำจำนำน้ันไมส่ มบูรณ์ตำม กฎหมำย จา่ ยคา่ เช่าเป็นเงินตอบแทน

กฎหมายเกีย่ วกบั สญั ญาเชา่ ซอื ้ สญั ญาเชา่ ซอื ้ มีลกั ษณะแตกต่างกับสญั ญาเช่า ธรรมดา กล่าวคอื การเช่าซอื ้ เป็นการทาสญั ญาเชา่ สว่ นหน่งึ และมคี ามน่ั ว่าจะขายทรพั ย์สนิ นนั้ ให้ หรือวา่ จะให้ทรพั ย์สินนนั้ ตกเป็นสทิ ธิแก่ผ้เู ช่า เมื่อผ้เู ชา่ ได้ใช้ เงิน เป็นคา่ เชา่ ครบจานวน ตามท่ีกาหนดไว้ในสญั ญา สญั ญาเช่าซอื ้ มขี ้อแตกต่างกับการขายและการซอื ้ ผ่อนส่ง ด้วย เพราะการขายและการซือ้ ผ่อนสง่ กรรมสิทธ์ิในทรัพย์สนิ ได้ โอนไปเป็นของผ้ซู อื ้ แล้ว เพยี งแตผ่ ้ซู อื ้ มีข้อผูกพนั ทีจ่ ะต้องชาระ ราคาให้จนครบภายหลงั แต่การเช่าซอื ้ กรรมสทิ ธิ์ในทรัพย์สนิ ที่ เช่ายงั เป็นของผ้ใู ห้เช่าอยู่ แบบของสญั ญาเชา่ ซอื ้ การเชา่ ซอื ้ มี ข้อสาคญั ว่าจะต้องทาเป็นหนงั สือ จะตกลงเชา่ ซอื ้ กนั ด้วยวาจา ไมไ่ ด้ มฉิ ะนนั้ จะตกเป็นโมฆะถือเสมือนวา่ ไมม่ กี ารเชา่ ซอื ้ กัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook