Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ๒๑๐-๒๐๓

๒๑๐-๒๐๓

Published by pramahatongsuk, 2019-12-12 23:14:45

Description: ๒๑๐-๒๐๓

Search

Read the Text Version

๒๑๐ ๒๐๓ ๓ (๒-๒-๕) นโยบายและหลกั บรหิ ารการศกึ ษา (Policy and Principle of Educational Administration) ดร.สมปอง ชาสงิ หแ์ กว้ 081-5925379 FB: sompong chasingkaew E-mail: [email protected]

1. จดุ มงุ่ หมายของรายวชิ า 1. เพอื่ ใหน้ สิ ติ มคี วามรู ้ ความเขา้ ใจ เกยี่ วกบั แนวคดิ และทฤษฎกี ารบรหิ ารการศกึ ษา องคก์ รและ หน่วยงานทางการศกึ ษา ได ้ 2. เพอ่ื ใหน้ สิ ติ สามารถวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ กาหนดประเด็นหลกั ทางการบรหิ ารการศกึ ษาได ้ 3. เพอื่ ใหน้ สิ ติ สามารถวางแผนเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพ การบรหิ ารการศกึ ษา และบรู ณาการพทุ ธธรรมกบั การ บรหิ ารการศกึ ษา ได ้

2. วตั ถปุ ระสงคข์ องรายวชิ า 1. เพอื่ ใหน้ สิ ติ มคี วามรู ้ ความเขา้ ใจ เกยี่ วกบั แนวคดิ และ ทฤษฎกี ารบรหิ ารการศกึ ษา องคก์ รและหน่วยงานทางการศกึ ษา 2. เพอื่ ใหน้ สิ ติ ไดเ้ รยี นรู ้ วเิ คราะห์ สงั เคราะหป์ ระเด็นหลัก เกยี่ วกบั การบรหิ ารงานบคุ คล งบประมาณ การเงนิ บญั ชี และ พัสดุ การบรหิ ารกจิ การนักศกึ ษา การบรหิ ารทรัพยากร สารสนเทศและสงิ่ แวดลอ้ มทางการศกึ ษา ได ้ 3. เพอ่ื ใหน้ สิ ติ มคี วามรู ้ ความเขา้ ใจ และสามารถปฏบิ ตั ิ เกย่ี วกบั กฎหมายการศกึ ษาและผบู ้ รหิ ารสถานศกึ ษา นวตั กรรม และเทคโนโลยกี ารบรหิ ารการศกึ ษายคุ ใหม่ ได ้ 4. เพอ่ื ใหน้ สิ ติ สามารถวางแผนเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ าร การศกึ ษา และสามารถบรู ณาการพทุ ธธรรมกบั การบรหิ าร การศกึ ษา ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการบรหิ ารได ้

3. คาอธบิ ายรายวชิ า (Course Description) (๑) ศกึ ษาแนวคดิ และทฤษฎกี ารบรหิ ารการศกึ ษา (๒) นักบรหิ ารการศกึ ษาเชงิ พทุ ธ (๓) พทุ ธธรรมกบั การบรหิ ารการศกึ ษา (๔) นโยบายและแผนเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการศกึ ษาองคก์ รและหน่วยงานทางการ ศกึ ษา (๕) การบรหิ ารงานบคุ คล (๖) งบประมาณ การเงนิ บญั ชี และพัสดุ (๗)การบรหิ ารทรัพยากร สารสนเทศและสงิ่ แวดลอ้ มทางการศกึ ษา (๘) กฎหมายเกยี่ วกบั การศกึ ษาและผบู ้ รหิ ารสถานศกึ ษา (๙) นวตั กรรมและเทคโนโลยกี ารบรหิ ารการศกึ ษายคุ ใหม่

5. วธิ จี ดั การเรยี นการสอน (Method) 1. บรรยายและอภปิ รายประกอบสอื่ Power Point Presentation:PPT และวดิ ที ศั น์ 2. มอบหมายการทางานกลมุ่ ยอ่ ย/ศกึ ษาคน้ ควา้ การนาเสนอรายงาน การวเิ คราะห์ และสรปุ สงั เคราะห์ เนอื้ หาของการเรยี นรรู ้ ว่ มกนั 3. ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ระดมความคดิ (Brain stroming) และการสอื่ สารสองทาง (Two ways communication) 4. จัดสมั มนา/การอภปิ รายกลมุ่ / ศกึ ษาดงู าน/การ เชญิ วทิ ยากรพเิ ศษบรรยาย ตามหวั ขอ้

6. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี น 1. การเขา้ เรยี น/ใฝ่ ในการเรยี นร/ู ้ 10 % การรว่ มอภปิ รายหนา้ ชนั้ เรยี น/ 30 % ความรับผดิ ชอบในหนา้ ท่ี 10 % 10 % 2. งานรายบคุ คล/รายกลมุ่ 40 % ทดสอบยอ่ ยครัง้ ที่ 1 100% ทดสอบยอ่ ยครัง้ ที่ 2 3. ทดสอบปลายภาค รวม

บทที่ 3 พทุ ธธรรมกบั การบรหิ ารการศกึ ษา 3.1 คณุ ลกั ษณะของนักบรหิ าร 3.2 ธรรมสาหรับการบรหิ าร 1) พรหมวหิ าร 4 2) สงั คหวตั ถุ 4 3) อทิ ธบิ าท 4 4) พละ 4 (ปัญญา วริ ยิ อนวชั ช สงั คห) 5) ฆราวาสธรรม 4 6) ปรุ สิ ธรรม 7 7) ทศพธิ ราชธรรม 10

3.1 คณุ ลกั ษณะของนกั บรหิ าร นกั บรหิ ารจะทาหนา้ ทสี่ าเร็จลลุ ว่ งไปดว้ ยดี ถา้ มี คณุ ลกั ษณะ 3 ประการ ดงั ทพี่ ระพทุ ธเจา้ ตรสั ไวใ้ น ทตุ ยิ ปาปณกิ สตู ร ดงั น้ี 1. จกั ขมุ า หมายถงึ มปี ัญญามองการณ์ไกล ตอ้ ง สามารถวางแผน และฉลาดในการใชค้ น (Conceptual Skill) คอื ความชานาญในการใชค้ วามคดิ 2. วธิ ูโร หมายถงึ จัดการธรุ ะไดด้ ี มคี วามเชยี่ วชาญ เฉพาะดา้ น (Technical Skill) คอื ความชานาญดา้ นเทคนคิ 3. นสิ สยสมั ปนั โน หมายถงึ พงึ่ พาอาศยั คนอน่ื ได ้ เพราะเป็ นคนมมี นุษยสมั พันธด์ ี นักบรหิ ารทดี่ ตี อ้ งผกู ใจคนไวไ้ ด ้ (Human Relation Skill) คอื ความชานาญดา้ นมนุษยสมั พันธ์

3.2 ธรรมสาหรบั การบรหิ าร การบรหิ าร หมายถงึ การใช ้ ศาสตร์ และ ศลิ ป์ ของบุคคลตัง้ แต่ 2 คน ขนึ้ ไป ร่วมมอื กันดาเนิน กจิ กรรมหรืองานใหบ้ รรลุวัตถุประสงคท์ ว่ี างไวร้ ่วมกัน โดยอาศัยกระบวนการ และทรัพยากรทางการบรหิ าร เป็ นปัจจัยอยา่ งประหยดั และใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ธรรมสาหรบั การบรหิ าร = วชิ ชา + จรณะ (บรรลผุ ล/ปฏเิ วธ) (ปรยิ ตั )ิ (ปฏบิ ตั )ิ

หลกั การบรหิ ารการศกึ ษาตามแนวพทุ ธธรรม The Principles of Educational Administration Based Upon Buddha-Dhamma วรภาส ประสมสขุ * นพิ นธ์ กนิ าวงศ์ ดษุ ฎนี พิ นธร์ ะดบั ป.เอก ม.นเรศวร วารสารศกึ ษาศาสตร์ ปีท่ี 18 ฉบบั ท่ี 2 เดอื นพฤศจกิ ายน 2549-มนี าคม 2550 หนา้ 63-84 จดุ มงุ่ หมายศกึ ษาอยู่ 2กรณีคอื 1. วเิ คราะหค์ วามสอดคลอ้ งของหลกั พทุ ธธรรมกบั หลกั การบรหิ าร การศกึ ษาทคี่ รอบคลมุ ถงึ 3 หลกั การครองตน หลกั การครองคน หลกั การ ครองงาน 2. เพอื่ เสนอหลกั การบรหิ ารการศกึ ษาตามแนวพทุ ธธรรม วธิ ี การศกึ ษานผี้ วู ้ จิ ัยไดใ้ ชร้ ะเบยี บวธิ วี จิ ัยเชงิ พัฒนา ใชเ้ ทคนคิ วเิ คราะหเ์ อกสาร การสมั ภาษณ์และเทคนคิ เดลฟาย

ผลการวจิ ยั พบวา่ หลกั พทุ ธธรรมทส่ี อดคลอ้ งกบั หลักการบรหิ ารการศกึ ษา มจี านวน 21 หลกั ธรรม แยกตามหลักการครองตน การครองคน และการครองงาน ไดด้ งั น้ี การครองตน : สอดคลอ้ งกบั 19 หลักพทุ ธธรรม ไดแ้ ก่  กลั ยาณมติ ตา โยนโิ สมนสกิ าร ธรรมคมุ ้ ครองโลก 2  ธรรมทาใหง้ าม 2 ธรรมมอี ปุ การะมาก 2 กศุ ลมลู 3  สนั โดษ 3 สจุ รติ 3 อธปิ ไตย 3  ฆราวาสธรรม 4 พรหมวหิ าร 4 สงั คหะวัตถุ 4  อธษิ ฐานธรรม 4 เบญจธรรม 5 พละ 5  กลั ยาณมติ รธรรม 7 สปั ปรุ สิ ธรรม 7 อรยิ ทรพั ย์ 7 และ  ทศพธิ ราชธรรม

การครองคน : สอดคลอ้ งกบั 15 หลกั พทุ ธธรรม ไดแ้ ก่ โยนโิ สมนสกิ าร  กลั ยาณมติ ตตา  ธรรมคมุ ้ ครองโลก2 ธรรมทาใหง้ าม 2  กศุ ลมลู 3 สจุ รติ 3  อธปิ ไตย 3 ฆราวาสธรรม 4  พรหมวหิ าร 4 สงั คหะวตั ถุ 4  กลั ยาณมติ รธรรม 7 สปั ปรุ สิ ธรรม 7  อปรหิ านยิ ธรรม 7 อรยิ ทรัพย์ 7 และ  ทศพธิ ราชธรรม

การครองงาน : สอดคลอ้ งกบั 10 หลักพทุ ธธรรม ไดแ้ ก่  กลั ยาณมติ ตตา โยนโิ สมนสกิ าร  ธรรมทาใหง้ าม 2 ธรรมมอี ปุ การะมาก 2  สจุ รติ 3 อทิ ธบิ าท 4  พละ 5 ฆราวาสธรรม 4  สงั คหะวตั ถุ 4 และ สปั ปรุ สิ ธรรม 7

นอกจากนยี้ ังพบวา่ มี 7 หลกั ธรรมทสี่ อดคลอ้ ง กบั หลกั การบรหิ ารการศกึ ษา ดา้ นการครองตน การครองคน และการครองงาน ไดแ้ ก่  กลั ยาณมติ ตตา  โยนโิ สมนสกิ าร  ธรรมทาใหง้ าม 2  สจุ รติ 3  ฆราวาสธรรม 4  สงั คหะวตั ถุ 4 และ  สปั ปรุ สิ ธรรม 7

อานาจและบทบาทหนา้ ทขี่ องสถานศกึ ษา 1. ตาม พระราชบญั ญัติ ระเบยี บบรหิ ารราชการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. 2546 (ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ ๑๒๐/หนา้ ๑/ตอนที่ ๖๒ ก/๖ กรกฎาคม ๒๕๔๖) มาตรา ๔ ใหน้ ากฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บบรหิ ารราชการ แผน่ ดนิ และกฎหมายวา่ ดว้ ยการศกึ ษา แหง่ ชาตมิ าใชบ้ งั คบั แก่ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารโดยอนุโลม เวน้ แตใ่ นพระราชบญั ญัตนิ จี้ ะ ไดบ้ ญั ญัตไิ วเ้ ป็ นอยา่ งอนื่ มาตรา ๕ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารมอี านาจหนา้ ทตี่ าม กฎหมายวา่ ดว้ ยการศกึ ษาแหง่ ชาติ และกฎหมาย วา่ ดว้ ยการ ปรับปรงุ กระทรวง ทบวง กรม

มาตรา ๖ ใหจ้ ดั ระเบยี บราชการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ดงั นี้ (๑) ระเบยี บบรหิ ารราชการในสว่ นกลาง (๒) ระเบยี บบรหิ ารราชการเขตพน้ื ท่ี การศกึ ษา (๓) ระเบยี บบรหิ ารราชการในสถานศกึ ษา ของรัฐทจ่ี ัดการศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาทเ่ี ป็ นนติ ิ บคุ คล

มาตรา ๙ ใหจ้ ดั ระเบยี บบรหิ ารราชการในสว่ นกลาง ดงั น้ี (๑) สานักงานปลัดกระทรวง (๒) สว่ นราชการทมี่ หี วั หนา้ สว่ นราชการขนึ้ ตรงตอ่ รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร มาตรา ๑๐ การแบง่ สว่ นราชการในสว่ นกลางของ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารใหเ้ ป็ นไปตามพระราชบญั ญตั ิ น้ี โดย ใหม้ หี วั หนา้ สว่ นราชการขน้ึ ตรงตอ่ รฐั มนตรวี า่ การ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ดงั น้ี (๑) สานักงานรัฐมนตรี (สร.) (๒) สานักงานปลัดกระทรวง (สป.) (๓) สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา (สลศ.) (๔) สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน (สพฐ.) (๕) สานักงานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา (สกอ.) (๖) สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา (สอศ.)

มาตรา ๓๔ ใหจ้ ดั ระเบยี บบรหิ ารราชการของเขต พนื้ ทกี่ ารศกึ ษา ดงั นี้ (๑) สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา (๒) สถานศกึ ษาทจ่ี ัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานหรอื สว่ น ราชการทเี่ รยี กชอ่ื อยา่ งอน่ื การแบง่ สว่ นราชการภายในตาม (๑) ใหจ้ ดั ทาเป็ นประกาศกระทรวง และใหร้ ะบอุ านาจหนา้ ทข่ี องแต่ ละสว่ นราชการไวใ้ นประกาศกระทรวง ทงั้ น้ี โดยคาแนะนาของคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน การแบง่ สว่ นราชการภายในตาม (๒) และอานาจหนา้ ทขี่ อง สถานศกึ ษาหรอื สว่ นราชการทเ่ี รยี กชอ่ื อยา่ งอน่ื ใหเ้ ป็ นไปตามระเบยี บที่ คณะกรรมการเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาแตล่ ะเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษากาหนด การแบง่ สว่ นราชการตามวรรคสอง และวรรคสามใหเ้ ป็ นไปตาม หลกั เกณฑท์ กี่ าหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๓๕ สถานศกึ ษาทจ่ี ดั การศกึ ษา ขนั้ พนื้ ฐานตามมาตรา ๓๔ (๒) เฉพาะทเ่ี ป็ น โรงเรยี น มฐี านะ เป็ นนติ บิ คุ คล เมอ่ื มกี ารยบุ เลกิ สถานศกึ ษาตามวรรคหนงึ่ ใหค้ วามเป็ นนติ บิ คุ คลสนิ้ สดุ ลง ขอบขา่ ยและภารกจิ การบรหิ ารและการ จดั การสถานศกึ ษา ดงั น้ี 1. การบรหิ ารวชิ าการ 2. การบรหิ ารงบประมาณ 3. การบรหิ ารงานบคุ คล 4. การบรหิ ารทว่ั ไป

ขอบขา่ ย/ภารกจิ การบรหิ ารวชิ าการ 1. การพัฒนาหลกั สตู รสถานศกึ ษา 2. การพัฒนากระบวนการเรยี นรู ้ 3. การวดั ผล ประเมนิ ผล และเทยี บโอนผลการเรยี น 4. การวจิ ัยเพอื่ พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา 5. การพัฒนาสอ่ื นวตั กรรม และเทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษา 6. การพัฒนาแหลง่ เรยี นรู ้ 7. การนเิ ทศการศกึ ษา 8. การแนะแนวการศกึ ษา 9. การพัฒนาระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา 10. การสง่ เสรมิ ความรดู ้ า้ นวชิ าการแกช่ มุ ชน 11. การประสานความรว่ มมอื ในการพัฒนาวชิ าการกบั สถานศกึ ษาอนื่ 12. การสง่ เสรมิ และสนับสนุนงานวชิ าการแกบ่ คุ คล ครอบครัว องคก์ ร หน่วยงานและสถาบนั อนื่ ทจ่ี ัดการศกึ ษา

ขอบขา่ ย/ภารกจิ การบรหิ ารงบประมาณ 1. การจัดทาและเสนอของบประมาณ 1.1 การวเิ คราะหแ์ ละพฒั นานโยบายทางการศกึ ษา 1.2 การจัดทาแผนกลยทุ ธห์ รอื แผนพัฒนาการศกึ ษา 1.3 การวเิ คราะหค์ วามเหมาะสมการเสนอของบประมาณ 2. การจัดสรรงบประมาณ 2.1 การจัดสรรงบประมาณในสถานศกึ ษา 2.2 การเบกิ จา่ ยและการอนุมตั งิ บประมาณ 2.3 การโอนเงนิ งบประมาณ 3. การตรวจสอบ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลการใชเ้ งนิ และผลการดาเนนิ งาน 3.1 การตรวจสอบตดิ ตามการใชเ้ งนิ และผลการดาเนนิ งาน 3.2 การประเมนิ ผลการใชเ้ งนิ และผลการดาเนนิ งาน 4. การระดมทรัพยากร และการลงทนุ เพอ่ื การศกึ ษา 4.1 การจัดการทรัพยากร 4.2 การระดมทรัพยากร 4.3 การจัดหารายไดแ้ ละผลประโยชน์ 4.4 กองทนุ กยู ้ มื เพอ่ื การศกึ ษา 4.5 กองสวสั ดกิ ารเพอื่ การศกึ ษา

5. การบรหิ ารการเงนิ 5.1 การเบกิ เงนิ จากคลงั 5.2 การรับเงนิ 5.3 การเกบ็ รักษาเงนิ 5.4 การจา่ ยเงนิ 5.5 การนาสง่ เงนิ 5.6 การกนั เงนิ ไวเ้ บกิ เหลอื่ มปี 6. การบรหิ ารบญั ชี 6.1 การจัดทาบญั ชกี ารเงนิ 6.2 การจัดทารายงานทางการเงนิ และงบการเงนิ 6.3 การจัดทาและจดั หาแบบพมิ พบ์ ญั ชี ทะเบยี น และรายงาน 7. การบรหิ ารพัสดแุ ละสนิ ทรัพย์ 7.1 การจดั ทาระบบฐานขอ้ มลู สนิ ทรัพยข์ องสถานศกึ ษา 7.2 การจัดหาพัสดุ 7.3 การกาหนดแบบรปู รายการหรอื คณุ ลกั ษณะเฉพาะและจัดซอื้ จัดจา้ ง 7.4 การควบคมุ ดแู ล บารงุ รักษา และจาหน่ายพสั ดุ

ขอบขา่ ย/ภารกจิ การบรหิ ารงานบคุ คล 1. การวางแผนอัตรากาลงั 2. การสรหาและการบรรจแุ ตง่ ตงั้ 3. การเสรมิ สรา้ งประสทิ ธภิ าพในการปฏบิ ตั ริ าชการ 4. วนิ ัยและการรักษาวนิ ัย 5. การออกจากราชการ

ขอบขา่ ย/ภารกจิ การบรหิ ารทว่ั ไป 1. การดาเนนิ งานธรุ การ 2. งานเลขานุการคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน 3. การพัฒนาระบบและเครอื ขา่ ยขอ้ มลู สารสนเทศ 4. การประสานและพัฒนาเครอื ขา่ ยการศกึ ษา 5. การจัดระบบการบรหิ ารและพัฒนาองคก์ ร 6. งานเทคโนโลยแี ละสารสนเทศ 7. การสง่ เสรมิ สนับสนุนดา้ นวชิ าการ งบประมาณ บคุ ลากร และ การบรหิ ารทั่วไป 8. การดแู ลอาคารสถานทแี่ ละสภาพแวดลอ้ ม 9. การจัดทาสามะโนผเู ้ รยี น 10. การรับนักเรยี น 11. การสง่ เสรมิ และประสานงานการจัดการศกึ ษาในระบบ นอก ระบบ และตามอธั ยาศยั 12. การระดมทรัพยากรเพอื่ การศกึ ษา

การวเิ คราะห์ แนวทางประยกุ ตห์ ลกั และทฤษฎกี าร บรหิ ารการศกึ ษา มาแกป้ ญั หาทางการบรหิ าร การศกึ ษา การวเิ คราะหส์ ภาพ สภาพทค่ี าดหวงั และปญั หา (หลกั และทฤษฎ)ี การวเิ คราะห/์ วจิ ยั ปญั หา สภาพจรงิ (ผลการปฏบิ ตั )ิ

สรปุ ปัญหาของการศกึ ษาไทย ในมมุ มองของ “พล.อ.ประยทุ ธ์ จันทรโ์ อชา นายกรฐั มนตร”ี - ปัญหาทเ่ี ราจะตอ้ งแกไ้ ขระยะนใ้ี หเ้ ร็วทสี่ ดุ ทนั ทคี อื หลกั สตู ร - การจัดเวลาเรยี น - การใชจ้ า่ ยงบประมาณเพอ่ื การศกึ ษา - การผลติ ครู ก็ไมต่ รงความตอ้ งการ - จบมาแลว้ มคี วามรู ้ ทางานไมเ่ ป็ น คดิ ไมอ่ อก - โครงสรา้ งการบรหิ ารจัดการศกึ ษา (ตามพระราชบญั ญัติ การศกึ ษาแหง่ ชาต)ิ การนานโยบายและแผนสกู่ ารปฏบิ ตั ิ

ผลการประเมนิ คณุ ภาพภายนอก 3 รอบของ สมศ. สะทอ้ น10ปญั หาหลกั คณุ ภาพการศกึ ษา 1. ปัญหาการอา่ นและการเขยี น 2. ผลสมั ฤทธกิ์ ารเรยี นอยใู่ นระดับตา่ 3. ผเู ้ รยี นขาดทักษะในการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ผเู้ รยี น คดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและคดิ สรา้ งสรรค์ 4. ผเู ้ รยี นขาดทักษะในการแสวงหาความรดู ้ ว้ ยตนเอง 5. ครไู มค่ รบชนั้ 6. ครยู ังไมส่ ามารถกระตนุ ้ ผเู ้ รยี นใหร้ จู ้ ักคดิ วเิ คราะห์ ครู คดิ แกป้ ัญหาและตัดสนิ ใจ 7. สถานศกึ ษาขาดแคลนสอ่ื การเรยี นการสอน อปุ กรณก์ ารเรยี น 8. สถานศกึ ษาขาดการบรหิ ารขอ้ มลู สารสนเทศทม่ี คี ณุ ภาพ 9. สถานศกึ ษาขาดการกากบั ตดิ ตามตรวจสอบ สนับสนุนทเี่ ขม้ แข็งและตอ่ เนอื่ งจากหน่วยงานตน้ สงั กดั สถานศกึ ษา 10. ขาดการมสี ว่ นรว่ มในการรับผดิ ชอบตอ่ การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา ทงั้ ระบบ ขาดความรบั ผดิ ชอบทง้ั ระบบ ทาใหส้ ว่ นใหญไ่ มไ่ ดน้ าผลการประกนั คณุ ภาพภายในและ การประเมนิ คณุ ภาพภายนอกมาใชป้ รับปรงุ พัฒนาคณุ ภาพของสถานศกึ ษา

ขอขอบคณุ ทตี่ งั้ ใจศกึ ษา Thank you for attentions


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook