หมู่บ้านรักษาศีล5 บ้านทับคล้อ

๑๓๕ ๔.๑.๓.๖ การฝกึ ทำปยุ๋ ชวี ภาพท่ีโรงหมัก ผู้สอนคอื ๑. พระสรุ ชาติ เป็งฟอง ๔.๑.๓.๗ การฝกึ ทำอาหารที่โรงโภชนาหาร ผสู้ อนคอื ๑. นายศภุ ณฐั ไท้สุน ๒. อบุ าสกิ านาฎลดา ศรหี รา่ ย

๑๓๖ ๔.๑.๔ โรงเรียนนกั ธรรมและบาลีของวัดทบั คลอ้ (สวนพระโพธิสตั ว์) ๔.๑.๕ ผูน้ ำในการพัฒนาการศึกษาและการเรยี นรู้ในสถานศึกษา (เจา้ อาวาสประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ๒ แหง่ )

๑๓๗ ๔.๒ กิจกรรมส่งเสรมิ สขุ ภาพของวัด หม่บู า้ น/อสม/รพ.สต. บ้านทับคล้อหมู่ท่ี ๑ ตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ ของวดั หมู่บา้ น/อสม/รพ.สต. โดยทางวัดทับคลอ้ (สวนพระโพธสิ ตั ว)์ ร่วมกับผนู้ ำชุมชนดำเนินกิจกรรม ดังนี้ ๔.๒.๑ กิจกรรมกองทุนพระภิกษปุ ่วยอาพาธของวดั ๔.๒.๒ กิจกรรมดูแลพระผู้อาพาธพักฟน้ื ณ สถานพทุ ธบำบัด ๔.๒.๓ กิจกรรมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ๔.๒.๔ กิจกรรมนำ้ ใสใจสะอาด ๔.๒.๕ กจิ กรรมสายใจใหค้ นชรา ๔.๒.๑ กจิ กรรมกองทนุ พระภิกษปุ ่วยอาพาธของวดั วดั ทับคล้อ (สวนพระโพธสิ ัตว์) มีพระภิกษุและสามเณรจำนำพรรษาในแต่ละปีจำนวนมาก ซ่ึงพระภกิ ษุ ดังกล่าวสว่ นมากเป็นพระสงู อายุ พระครูวิชาญสงั ฆกิจ เจ้าอาวาส ตระหนักถึงวยั ของพระภิกษทุ จี่ ำนำพรรษาในวัดจึง ตัง้ กองทนุ พระอาพาธของวัดขึน้ เม่อื เดือน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ โดยมีคณะกรรมการบริหารกองทุนและมอบให้พระ ครูศุภกิจไพศาล ที่ปรึกษาเจ้าอาวาส เป็นประธานกองทุน และปัจจุบันทางวัดร่วมกับมูลนิธิอิงบุญ ดำเนินการดูแล พระอาพาธภายในวดั และขยายไปถึงอุบาสก/อุบาสกิ าทีอ่ าศัยอยภู่ ายในวัดด้วย ๔.๒.๒ กจิ กรรมดแู ลพระผอู้ าพาธพักฟื้น ณ สถานพทุ ธบำบัด วดั ทับคล้อ (สวนพระโพธิสตั ว์) มพี ระภิกษแุ ละสามเณรจำนำพรรษาในแตล่ ะปีจำนวนมาก ซ่งึ พระภิกษุ ดังกล่าวส่วนมากเป็นพระสูงอายุ พระครูวิชาญสังฆกิจ เจ้าอาวาส ตระหนักถึงวัยของพระภิกษุที่จำนำพรรษาในวัด ซึ่งวัดมีอาคารสถานพุทธบำบัด จำนวน ๒๐๐ ห้อง โดยกำหนดให้พระในวัดจำนวน ๑๐๐ รูป และอุบาสก อุบาสิกา จำนวน ๑๐๐ คน จบั ฉลากเมอ่ื ไดห้ มายเลขห้องไหนใหไ้ ปดแู ลทำความสะอาดและตอ้ งดแู ลพระทีป่ ่วยอาพาธดังกล่าว

๑๓๘ ในปัจจุบนั มอี ยู่ ๑ รูปท่ีเข้าพักอาศยั แต่การดูแลพระดังกลา่ วญาตทิ า่ นมาดำเนินการดแู ลให้แทน เพราะบ้านอยู่ในหมู่ ที่ ๑ ๔.๒.๓ กจิ กรรมมอบอปุ กรณท์ างการแพทย์ ๔.๒.๔ โครงการดมื่ นำ้ ให้เพยี งพอตอ่ ร่างกาย เพื่อสขุ ภาพ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหาโกศล จนฺทวณฺโณ อดีตเจา้ อาวาสวัดทบั คล้อ ไดร้ ับการถวายเคร่ือง กรองน้ำ ราคา ๑๕๐,๐๐๐ บาท เมื่อ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ดร.สุวิมล ธนะผลเลิศ ข้าราชการบำนาญ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และมูลนิธิอุทัยสุดสุข ได้ติดตั้งไว้หน้าศูนย์ดูและพระป่วย พระอาพาธ สำหรับพระสงฆ์ อุบาสก อบุ าสกิ า ทีอ่ ยภู่ ายในวดั ใชด้ ื่ม รวมทงั้ ประชาชนรอบ ๆ วดั สามารถขวดภาชนะมารองน้ำไปด่ืมได้โดยไมต่ อ้ งเสยี เงนิ

๑๓๙ ๔.๒.๕ กจิ กรรมสายใจใหค้ นชรา โรงพยาบาลทบั คล้อ ได้จัดทำโครงการ ดังนี้ ๑) โครงการตรวจคัดกรองสุขภาพประจำปี ประเมินภาวะสุขภาพเบือ้ งต้นและตรวจเยี่ยมบ้าน ผูส้ ูงอายุติดบ้าน/ตดิ เตียง/ผ้พู กิ าร

๑๔๐ ๒) โครงการสง่ เสริมสขุ ภาพกาย / จติ ผ้สู งู อายุและผ้สู งู อายสุ ำรอง ๒.๑ กิจกรรมใหย้ มื อปุ กรณ์ทางการแพทย์ ๒.๒ กจิ กรรมการจา่ ยยาสามัญประจำบา้ น

๑๔๑ ๒.๓ กจิ กรรมการปฐมพยาบาลเบื้องตน้

๑๔๒ ๓) โครงการสง่ เสรมิ สขุ ภาพตามกลุ่มวยั ๓.๑ กจิ กรรมฟังเทศนส์ นทนาธรรมในสวน ๓.๒ กิจกรรมขา้ วกน้ บาตร

๑๔๓ ๔) โครงการอนามยั แมแ่ ละเดก็ ๔.๑ กจิ กรรมสาธารณสงเคราะห์ ๕) โครงการเฝา้ ระวงั ปอ้ งกันและแกไ้ ขโรคโควิด / โรคติดตอ่ ๕.๑ กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารพัฒนารปู แบบการดแู ล

๑๔๔ ๕.๒ กจิ กรรมการเก็บข้อมลู ด้านสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ๖) โครงการส่งเสรมิ การออกกำลังกาย

๑๔๕ ๗) โครงการเยาวชนตน้ แบบ ๗.๑ กจิ กรรมการบำเพญ็ ประโยชนข์ องเยาวชน

๑๔๖ ๔.๓ กจิ กรรมสง่ เสรมิ การจดั สิ่งแวดลอ้ มของหมู่บา้ น บ้านทับคล้อหมู่ที่ ๑ ตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการจัด สิง่ แวดล้อมของหมู่บ้าน โดยทางวัดทับคล้อ (สวนพระโพธสิ ตั ว์) ร่วมกบั ผูน้ ำชุมชน ดำเนินกิจกรรม ดงั นี้ ๔.๓.๑ กิจกรรมปลูกป่าในวัดทับคลอ้ ๔.๓.๒ กจิ กรรมปลกู ปา่ เฉลมิ พระเกียรติ ร.๙ และ ร.๑๐ ของหมบู่ ้าน ๔.๓.๓ กิจกรรมปลกู ปา่ เฉลมิ พระเกยี รติ ร.๙ และ ร.๑๐ ของ อบต. ทบั คลอ้ ๔.๓.๑ กจิ กรรมปลูกป่าในวดั ทับคล้อ วัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) ได้ดำเนินการปลูกป่าตั้งแต่สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหา โกศล จนฺทวณฺโณ เริ่มก่อสร้างวัดเมื่อ ๓๐ กว่าปีมาแล้ว ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดของวดั เป็นพืน้ ทีท่ ุ่งนาเมื่อถมดินเสร็จจึงได้ ปลกู ต้นไมท้ เี่ ป็นไม้เบญจพรรณ ปัจจบุ นั ที่ยังเหลอื เป็นสวนป่าให้เหน็ อยู่ด้านหลังวัดและดา้ นตะวนั ออกเฉียงเหนือของ พระอุโบสถ) มสี วนป่า ๓ แห่ง

๑๔๗ ๔.๓.๒ กิจกรรมปลกู ป่าเฉลมิ พระเกียรติ ร.๙ และ ร.๑๐ ของโรงเรียนในชมุ ชน ๔.๓.๓ กิจกรรมปลกู ปา่ เฉลมิ พระเกยี รติ ร.๙ และ ร.๑๐ ของ อบต

๑๔๘ ๔.๔ กิจกรรมส่งเสรมิ ด้านการจดั สนั ตสิ ขุ บ้านทับคล้อหมู่ที่ ๑ ตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ได้ดำเนินกิจการคณะสงฆ์ในการ พฒั นาหมู่บา้ น โดยทางวดั ทับคลอ้ (สวนพระโพธิสตั ว)์ รว่ มกับผูน้ ำชมุ ชนดำเนินกิจกรรม ดังนี้ ๔.๔.๑ กจิ กรรมช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั น้ำท่วมตลาดทบั คล้อและตลาดทับคล้อใต้ ๔.๔.๒ กิจกรรมหมูบ่ ้านสขี าวปลอดยาเสพติด ๔.๔.๑ กิจกรรมช่วยเหลือผปู้ ระสบภัยน้ำท่วมตลาดทบั คลอ้ และตลาดทับคลอ้ ใต้

๑๔๙ ๔.๔.๒ กิจกรรมหมูบ่ ้านสีขาวปลอดยาเสพติด

๑๕๐ ๔.๕ กิจกรรมการมสี ว่ นร่วมของคณะสงฆ์ ภาครฐั สมชั ชาศลี ๕ ใน การส่งเสรมิ โครงการฯ และการพัฒนาในพนื้ ที่ บา้ นทบั คลอ้ หม่ทู ี่ ๑ ตำบลทบั คล้อ อำเภอทบั คล้อ จังหวัดพิจติ ร ไดด้ ำเนนิ กิจกรรมการมีส่วนร่วมของ คณะสงฆ์ ภาครฐั สมัชชาศีล ๕ ในการสง่ เสริมโครงการฯ และการพัฒนาในพื้นท่ี ดังนี้ ๔.๕.๑ การมสี ว่ นร่วมของพระสงฆ์ ผ้นู ำชุมชน ในการสง่ เสรมิ และพฒั นาพ้นื ที่ ๔.๕.๒ การเสริมสรา้ งเครือขา่ ยความรว่ มมือในการพฒั นาหมูบ่ ้าน/พนื้ ที่ ๔.๕.๓ จำนวนองค์กรทรี่ ว่ มมือในการพฒั นาพื้นที่องค์กร ๔.๕.๑ การมสี ว่ นรว่ มของพระสงฆ์ ผ้นู ำชุมชน ในการสง่ เสรมิ และพัฒนาพ้ืนท่ี ๑) กจิ กรรมโรงทานหลวงพ่อสานใจ วันที่ ๑๙ ตุลาคม ของทุกปีพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหาโกศล จนฺทวณฺโณ อดีตเจ้า อาวาสวัดทับคล้อจะจัดให้มีการบริจาคทานให้กับครอบครัวที่อยู่รอบวัด โดยก่อนนั้นจะจัดให้มาแจ้งความประสงค์ โดยมารับเป็นบัตรคิวในวันที่ ๑๖-๑๗ ตุลาคม ของทุกป จำนวน ๔๐๐ ใบ ต่อมาเพิ่มเป็น ๖๐๐ ใบ เมื่อ ๒ ปีที่ผ่าน มาเพิ่มเป็น ๑๐๐๐ ใบ เมื่อปีที่แล้วเพิ่มเป็น ๑๓๐๐ ใบ ซึ่งสิ่งที่มารับบริจาค ประกอบด้วย ข้าวสารน้ำหนัก ๕ กโิ ลกรมั ปลากระป๋อง ผักกาดกระปอ๋ ง น้ำปลาขวดใหญ่ ผงซักฟอกขนาดกลาง บะหมี่กึ่งสำเรจ็ รปู เป็นตน้

๑๕๑ ๒) กจิ กรรมออกเยีย่ มพบปะชมุ ชนคณุ ธรรม พระครูวิชาญสังฆกจิ เจา้ อาวาสวัดทบั คล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) เจา้ คณะตำบลทบั คล้อ ร่วมกับ นายปภัทร สุขิทาภรณ์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิอิงบุญ สถานที่ตั้งมูลนิธิดังกล่าวอยู่บริเวณด้านเหนือในวัด คณะกรรมการ มูลนิธิจะมีคณะสงฆ์ในวัดและมีพระบุณยกร ปสาโท เป็นเลขานุการมูลนิธิ โดยมูลนิธิได้ร่วมมือประสานกับ สาธารณสุขในระดับหมบู่ ้าน ตำบล และอำเภอ กจิ กรรมหน่งึ ท่ีได้ดำเนนิ การมาตลอดคือการออกเยีย่ มผู้สูงวัย ผู้ติด เตียง และผู้ที่มีโรคประจำตัวใน ๖ โรค ร่วมกับพยาบาลจากโรงพยาบาลประจำอำเภอ ตำบล และ อสม. ตามแผน กำหนดการของแต่ละแหง่ ทก่ี ำหนดไว้ ๓) กจิ กรรมความรว่ มมอื รว่ มใจต่องานพระศาสนา พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหาโกศล จนฺทวณฺโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดทับคล้อ พาพระภิกษุ สามเณร อุบาสก และอุบาสิกา ใช้แรงกายแรงใจในการก่อสร้างศาสนาวัตถุของวัดตั้งแต่ก่อตั้งวัด มาจนถึงขณะน้ี พระครูวิชาญสังฆกิจ เจ้าอาวาสวัดทับคล้อ เจ้าคณะตำบลทับคล้อ ก็สานกิจกรรมนี้ต่อมาตลอดเมื่อมีการก่อสร้าง อะไรภายในวัด ทกุ คนทัง้ ภายในและภายนอกวัดก็มาร่วมมอื ร่วมใจกันใช้แรงกายถวายเปน็ พุทธบูชาเป็นจำนวนมาก โดยไม่ได้จ้างทุกคนมาช่วยเพื่อเสริมสร้างบุญให้ตนเอง เช่น งานวางตะแกรงเหล็ก งานเทพื้นเทเสาเทคานด้วยปูน พระพทุ ธเมตตา หรอื งานเทถนน หรืองานสร้างวิหารพระ

๑๕๒ ๔) กิจกรรมจิตอาสาของพระภกิ ษทุ ใี่ ห้บริการกบั ชมุ ชน ๔.๑) พระครูวิชาญสังฆกิจ เจ้าอาวาสวัดทับคล้อ เจ้าคณะตำบลทับคล้อ มอบรถตู้ให้กับ มลู นธิ อิ ิงบุญ เพอื่ รบั ส่งผปู้ ระสบอบุ ัติเหตุและผู้ป่วยทเ่ี กิดอาการแบบกะทันหันไปส่งโรงพยาบาล ถ้าเป็นพระภิกษุใน วัดหรือวัดใกล้เคียงถ้าเกิดกรณีเหมือนที่กล่าวมา จะมีพระภิกษุที่ประจำอยู่ในมูลนิธิประสานงานโรงพยาบาลให้ เตรียมพยาบาลคอยรอรับผู้ป่วยดงั กลา่ ว

๑๕๓ ๔.๒) พระครูวิชาญสังฆกิจ เจ้าอาวาสวัดทับคล้อ เจ้าคณะตำบลทับคล้อ เมื่อผ่านไปพบ เห็นมุมถนนว่ามีหญ้าขึ้นปกคลุม ทำให้มุมมองของผู้ใชร้ ถใชถ้ นนทัศนวสิ ัยไม่ดีบดบังสายตา ท่านก็สั่งการให้พระท่ี ดูแลด้านการตัดหญ้าภายในวัดไปดำเนินการ เพื่อให้ตามมุมถนนดังกล่าวโล่งผู้ใช้รถใช้ถนนมองเห็นรถคันอื่นได้ ชดั เจนปอ้ งกนั อุบตั เิ หตุจะได้ไมเ่ กดิ ขึ้น ๕) กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชน วัดและสถานศึกษาของอาสาสมัครหมู่ท่ี ๑ นำโดยผู้ใหญ่ เตือนใจ พุ่มมะลิ ผ้ใู หญบ่ า้ นหมทู่ ี่ ๑ บ้านทบั คลอ้ นำทำกิจกรรมอาสา ๔.๕.๒ การเสริมสร้างเครือข่ายความรว่ มมอื ในการพัฒนาหม่บู ้าน/พืน้ ท่ี พระครูวิชาญสังฆกิจ เจ้าอาวาสวัดทับคล้อ เจ้าคณะตำบลทับคลอ้ ได้นำปุ๋ยชีวภาพของวัดไปใชก้ ับนา ของวัด พร้อมประสานงานกับหน่วยงานในชุมชนให้มาเข้ารับการอบรมวิธีการทำ โดยมีทั้งพระสงฆ์สอนให้ และมี กรรมการที่เป็นฆราวาสเป็นผู้ประสานกับองค์กรในชุมชน

๑๕๔ ๔.๕.๓ จำนวนองคก์ รท่รี ่วมมือในการพฒั นาพืน้ ทีอ่ งคก์ ร ๑. คณะสงฆ์ ได้แก่ ๑) คณะสงฆอ์ ำเภอทับคล้อ ๒) คณะสงฆ์วัดทับคลอ้ (สวนพระโพธิสตั ว์) ๒. หน่วยงานภาครัฐ ไดแ้ ก่ ๑) ผใู้ หญบ่ ้านท้งั ๑๑ หมูบ่ า้ น และกำนนั ตำบลทับคลอ้ ๓) องค์การบริการส่วนตำบลทับคลอ้ ๔) เทศบาลตำบลทบั คลอ้ ๕) สาธารณสุขอำเภอทบั คลอ้ ๖) โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตำบลทับคลอ้ ๗) สถานศึกษาในตำบลทับคลอ้ ๘) ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอ ๙) ทีว่ ่าการอำเภอทบั คลอ้ ๑๐) สถานีตำรวจภธู รทับคล้อ ๑๑) สำนกั งานพระพทุ ธศาสนาจงั หวดั พิจติ ร ๓) ภาคเอกชน ไดแ้ ก่ ๑) มลู นธิ อิ งิ บุญ

๑๕๕ บทท่ี ๕ สรปุ ปญั หา อปุ สรรค และขอ้ เสนอแนะ

๑๕๖

๑๕๕ ๕.๑ สรปุ การดำเนนิ โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใชห้ ลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้าน รักษาศีล ๕” ของวัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) ร่วมกับหมู่บ้านหมู่ที่ ๑ รวมทั้งอีกหลายหมูบ่ า้ น องค์การ บริหารส่วนตำบล (อบต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ โดยดำเนินกิจกรรม สำคญั ในการส่งเสรมิ การรักษาศีล ๕ ของหม่บู ้าน ซ่ึงวดั ได้ตระหนักถึงบทบาทและหน้าท่ี ในการแนะนำ ชี้แนะ และเทศน์ให้ญาติโยมรู้และเข้าใจในหลักธรรมทั้งบุญสิกขา (ทาน ศีล ภาวนา) และไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปญั ญา) และทีส่ ำคญั ให้ปฏบิ ตั ิธรรมกมั มฏั ฐานทกุ รูปทุกคนท่เี ป็นอบุ าสก อุบาสกิ า พรอ้ มนีเ้ จา้ อาวาสต้องการให้ ทุกคนทั้งในและนอกวัดควรมีและบังเกิดข้ึนให้ได้ใน “หลักการแห่งความสุขที่สามารถเกื้อหนนุ ใหบ้ ังเกิดขึ้นได้” ดังนี้คือ การมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ตามมาตรฐาน การมีการศึกษาที่ดี การมีสุขภาพแข็งแรง และการ สร้างความเข้มแข็งในชุมชน จึงดำเนินการทั้งปฏิบัติและการแนะนำสั่งสอนให้ประชากรในวัดและในหมู่บ้านให้ยดึ หลักการดังกล่าว ในการพัฒนาวดั และชมุ ชนรวมทั้งมอบหมายงานให้พระภิกษุสงฆ์ให้ความร่วมมือกับชุมชนอย่าง กลั ยาณมติ ร จึงบงั เกดิ ผลงานท่เี ปน็ ทพ่ี ึงพอใจกับชุมชนโดยรอบ สรปุ ผลงานได้ดังนี้ ข้อมลู พ้นื ฐานของหมบู่ ้านหม่ทู ่ี ๑ สภาพชุมชนส่วนหนึ่งตั้งอยู่ในตัวตำบลทับคล้อประชากรในส่วนนี้จึงมีอาชีพทั้งค้าขายและรับจ้าง ส่วน หนึ่งก็ยังสภาพชุมชนเกษตรทำนา ทำสวน ทำไร่ สภาพดั่งเดิมคนรุ่นก่อนจึงมีบางส่วนได้เรียนในระดับสูง ปริญญา ตรีและสูงกว่าปริญญาตรี และส่วนมากเรียนจบระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ หรือ ๖ หรือมัธยมต้น คนที่เล่าเรียน ระดับสูงก็สมัครรับราชการไปอยู่ตามหน่วยงานต่างจังหวัด ส่วนคนที่ไม่ได้คาดหวังจะเล่าเรียนสูงเพื่อไปทำงาน ดังกล่าว บุคคลเหล่านี้คือคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ส่วนวัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) ก่อตั้งมาเมื่อประมาณ ๔๐ กว่าปี พ้ืนฐานเดิมพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหาโกศล จันทวัณโณ อดีตเจ้าอาวาส ผู้ก่อตั้งวัดนี้ก็อาศยั อยูท่ ่วี ดั มงคลทบั คล้อเมื่อทา่ นนำญาติโยมนั่งกัมมัฏฐาน ผู้คนสมัยน้นั เร่ิมเหน็ ความสำคัญของการฝึกสมาธิผู้คนจึงมาปฏิบัติ ธรรมกันจำนวนมากขึ้น อุโบสถที่ใช้ปฏิบัติในการนั่งสมาธิของวัดไม่เพียงพอและวัดดังกล่าวตั้งอยู่กลางชุมชนใกล้ ตลาด ความวิเวกในการฝึกปฏิบัติจึงไม่มีในส่วนนี้ ท่านจงึ หาสถานทีแ่ ห่งใหมซ่ ่ึงกม็ ีผูม้ ีจติ ศรทั ธาทีเ่ ป็นคหบดีมอบที่ นาท่ีตงั้ อยทู่ างทิศเหนอื ของหมู่บ้าน ความหลากหลายอาชีพ ความเป็นอยู่ที่แตกต่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้คนในหมู่บ้านยึดถือและปฏิบัติอย่าง สม่ำเสมอคือการเข้ามาทำบุญในวัด ฟังเทศน์ ช่วยงานวัด รวมทั้งการทำทานโดยการมอบทุนการศึกษาให้กับ นกั เรียน นักศกึ ษา ผลของการปลูกฝังในสิ่งท่ดี แี ละประเสริฐในคำสอนของพุทธองค์ให้กบั ชุมชน ส่ิงที่ปรากฏให้เห็น ในเชิงประจักคือครอบครัวอยู่ดีมีสุข เมื่อว่างจากการงานชุมชนนั่งพูดคุย คิดและร่วมมือร่วมใจกันก่อตั้งโครงการ ทั้งสิ้น ๑๓ โครงการ และกองทุน ๒ กองทุนซึ่งเป็นกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ จำนวนสมาชิกถึง ๑๑๗ คน มีเงินฝาก หมุนเวียน จำนวน ๘๐๐,๐๐๐ บาท และกลุ่มสัจจะด้านอาชีพมีเงินหมุนเวียน จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท จากผลการ

๑๕๖ ดำเนินงานทีส่ ามคั คีร่วมแรงร่วมใจส่งผลให้หมู่บ้านเป็นหมู่บา้ นที่มีชื่อเสียงได้รบั เกียรติยศที่เป็นเกียรติบัตรมากมาย และด้านการศึกษาในชุมชนได้รับเกียรติบัตรยกย่องในการกระทำดีทั้งนักเรียน ครู ผู้บริหารและสถานศึกษา ผลผลติ ทพี่ บเหน็ อย่างแท้จริงคอื ชมุ ชนมีความเปน็ อยู่ทดี่ มี ีความสุข อยกู่ นั ดว้ ยความเปน็ กลั ยาณมิตร คดีความต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาต่อชุมชนไม่มี อีกทั้งผลผลิตที่เป็นปัจจัยหลายแสนและเป็นล้านบาท เป็นสิ่งช่วยเหลือเกื้อกูลให้บาง ครอบครัวและบางคนไดด้ ำเนินชีวิตต่อไปอยา่ งราบร่ืนและมีความสขุ กิจกรรมการส่งเสรมิ ศีล ๕ ของหมู่บ้าน การดำเนินกิจกรรมด้านนี้ของวัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) ที่ร่วมกับหมู่บ้านที่ ๑ และอีกหลาย ๆ หมู่บ้านในตำบล รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในหมู่บ้านที่มีหลากหลายมากมายกิจกรรม เพื่อให้ ประชากรในหมู่บ้านได้อยู่ดี อยู่กันด้วยความสามัคคี และอยู่กันด้วยความสงบสขุ นน้ั การดำเนินการโดยการสอนการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน ใช้แนวของวัดเกตุมดีศรีวราราม อำเภอเมือง สมทุ รสาคร ซง่ึ แนวการปฏบิ ัติธรรมต้องมี “พธิ ีกรรม” ขึน้ ธรรมกัมมฏั ฐาน (เพื่อให้เทวดาฟา้ ดนิ และผู้มีศีลได้รับรู้ถึง การเป็นผู้มีศีลที่ถือปฏิบัติเช่นเดียวกับพิธีกรรมการบวชพระสงฆ์) โดยผู้ที่จะสมัครเป็นลูกศิษย์เข้าปฏิบัติธรรมต้อง ถวายขันธ์ ๕ และเทียนน้ำมนต์ สิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่งในการเปน็ ศิษย์เข้าปฏิบัตธิ รรมดังกล่าวต้องรับ “ศีลปรมัตถ์” ซึ่งเปน็ ศลี ๕ ทัว่ ไป แต่จะรบั ไดเ้ ฉพาะในพธิ กี รรมการให้รับศลี น้แี ละต้องมขี นั ธ์ ๕ หรือบายศรี ระยะต่อมาใช้บายศรีเทพหรือบายศรพี รหมแทน พร้อมเทยี นน้ำมนตใ์ นพธิ ีกรรมจะเรยี กว่าเทียนชยั เทา่ จำนวนศีลที่ตัวเองจะขอรับ โดยจะจัดในเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและวันขึ้นปีใหม่ โดยมีพระเดช พระคณุ หลวงพ่อพระมหาโกศลเป็นประธานกล่าวให้ศีล มพี ระ ๑ รูปดูแลดา้ นขันธ์ ๕ หรอื บายศรี และพระอีก ๑ รูป ดูแลด้านเทียนชัย และพระที่ร่วมการสวดมนต์ไม่นอ้ ยกว่า ๕ รูป แต่ทุกครั้งที่ผ่านมาพระส่วนนี้จะมากเป็นร้อยหรือ เกินร้อย เพราะเป็นช่วงค่ำในเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา กฎเกณฑ์เข้มข้นยากต่อการปฏิบัติคือต้องถือ ปฏบิ ัติในการรักษาศีลท่ีตวั เองขอรบั และถือศีลนใี้ ห้ได้ โดยตง้ั ปณธิ านและกล่าวรบั ศีลต่อพระพุทธรูป ต่อหลวงพ่อที่ เป็นประธานและต่อพระสงฆ์ที่ร่วมพิธี (เช่นเดียวกับการกล่าวปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ) ถ้ารับศีลข้อใดก็กล่าว เฉพาะข้อน้ันๆ หรือ ๒ ข้อหรือ ๓ ข้อหรือ ๔ ข้อหรือทั้งหมดก็กลา่ วทั้งหมด เมื่อเสร็จพิธีกรรมแลว้ รับและนำบายศรี พร้อมเทียนชยั กลับไปบูชาทบี่ ้าน ผูร้ บั ศีลต้องถอื ปฏิบตั ิให้ได้ตามกฎเกณฑ์ ดงั นคี้ ือ “รักษาศีลข้อท่ีรับมานั้นย่ิงชีวิต ยอมตายดีกว่าให้ศีลขาด” ส่วนการจะรับศีลต้องเปน็ ตามความสมคั รใจของตนเองไม่ได้บงั คับ ซึ่งตั้งแต่ก่อตั้งวัดนี้มาถึงปัจจุบันมีผู้รบั ศีลปรมัตถ์ดังกล่าวจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อน่าจะเกินแสน คน ดังน้ัน บุคคลต่างๆท่ีรับศีลนี้ไปจึงสามารถประกาศตนให้โลกรับรู้ได้ โดยไม่อายฟ้าดินได้ว่า “ตนคือชาวพุทธท่ี เป็นคนดีในศีลเรื่องนั้นๆตามที่ตนรับตามจำนวนข้อไปตลอดชีวิต จะไม่มีทางทำสิ่งชั่วร้ายให้ศีลในข้อนั้นๆผิดหรอื ขาดอย่างแน่นอน” สิ่งนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในโลกปัจจุบัน อาจจะมีชาวพุทธอีกมากมายที่รับและถือศีล ๕ ได้ อย่างจริงจังและอาจจะถือได้ทั้งตลอดชีวิต แต่นั่นไม่มีพิธีการใดๆยืนยันในการรับและรักษาศีลดังกล่าว การรับศีล ปรมัตถ์จึงต้องมี “พิธีกรรม” ในการรับ เพราะเป็นอุปาทานต่อพิธีกรรมที่มนุษย์และเทวดายอมรับถึงผลของการ กระทำนั้นๆ แม้แต่การบวชเป็นพระผู้ประเสริฐยังต้องมี “พิธีอุปสมบท” ที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ศีล จึง ต้องใช้พระสงฆ์ที่อาวุโสมีคุณธรรมมาเป็นประธานในพิธีที่เรียกว่าอุปัชฌาย์ และพระคู่สวดและพระนั่งลำดับ พระ

๑๕๗ พุทธองค์และพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหาโกศล จันทวัณโณ รู้ว่า “ศีล นี้คือ ธรรมานุสติ” ที่เป็นเกาะป้องกัน กายและจิตสำหรับผู้ประพฤตปิ ฏิบตั ิธรรมเพื่อใหบ้ รรลุธรรมได้อย่างแทจ้ ริง สำหรบั ผรู้ ับและถือศีลปรมัตถ์ในหมู่บ้าน สวนโพธแ์ิ ละหมู่บา้ นหม่ทู ี่ ๑ จำนวน ๔๒๕ คน วัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) มีอัตลักษณ์ของวัดที่โดดเด่นก็คือมีหมู่บ้านสำหรับผู้ที่เคยถือศีล ปรมัตถ์ หรือผู้บวชชี หรือบวชพราหมณ์ สร้างบ้านเรือนอยู่ในวัด จำนวน ๒๒๔ ครัวเรือน ประชากรโดยส่วนใหญ่ท่ี อาศัยอยู่คือข้าราชการบำนาญทัง้ ภาครัฐและเอกชน มีทั้งอดีต นายอำเภอ พยาบาล ข้าราชการครู ทหาร พนักงาน ต้อนรับทั้งบนเครือ่ งบินและภาคพื้นดิน รวมทั้งนักธุรกิจในหลากหลายกิจการ บุคคลต่างๆเหล่านี้จึงไม่เดือดร้อนใน เรื่องความเปน็ อยูส่ ามารถซื้อภตั ราหารถวายพระบณิ ฑบาตตอนเช้าได้เป็น ๑๐๐ รูปในแต่ละวัน พร้อมท้งั ทำงานถวาย แรงกายให้วัดเพื่อเป็นปฏิปัตติบูชา เช่น การเป็นพ่อครัว แม่ครัว ดูแลร้านอาหารและร้านค้า ดูแลร้านกาแฟ ดูแล สิง่ ของเครื่องใช้ในวดั ทำความสะอาดศาลา ตัดเย็บผ้าใหก้ ับพระสงฆ์ ช่างกอ่ สร้าง ชา่ งปนู ชา่ งไม้ ซ่ึงบุคคลต่าง ๆ เหลา่ น้ถี ือศีลปรมัตถท์ ุกคนและบางคนก็เป็นผูท้ ่บี วชชี หรอื ผูถ้ ือศีล ๘ และทำงานให้วดั โดยไมข่ อรับค่าตอบแทนใดๆ พอถึงเวลาช่วงค่ำก็จะไปร่วมสวดมนต์กับเจ้าอาวาสบนศาลาสิริรัตนนารี พร้อมปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานและสวดพระ อภิธรรมถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหาโกศล จันทวัณโณ สถานการณ์ต่าง ๆ ในหมู่บ้านในวัดนี้ตั้งแต่วัด มอบที่ดินให้ญาติโยมสร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่ในชุมชนวัดนี้ คดีความในทุกเรื่องไม่เคยเกิดขึ้น ทุกคนอยู่กันด้วย กลั ยาณมติ รพึง่ พาอาศยั ซ่ึงกันและกนั มหี นา้ ตาย้มิ แยม้ แจ่มใสและโอบอ้อมอารที ุกคน กจิ กรรมการสง่ เสรมิ วิถีวัฒนธรรมของชาวพุทธ การดำเนินกิจกรรมด้านนี้ของวัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) ที่ร่วมกับหมู่บ้านที่ ๑ และอีกหลาย ๆ หมู่บ้านในตำบล รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งทุกองค์ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมที่สำคัญที่เอื้อต่อการ ดำเนินงานในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประเพณี วัฒนธรรมจนเกิดเป็นอัตลักษณ์ของหมู่บ้าน รวมทั้งเพราะความเอื้อ อาทร ไมตรีจิตที่ดีต่อกันที่แฝงอยู่ในทุกกิจกรรมดังกล่าว รวมทั้งภูมิปัญญาของผู้สูงวัยหรือที่เรียกท่านว่าปราชญ์ ทอ้ งถิน่ ศักยภาพของท่านท่ีนำออกมาเพื่อใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อสังคม จนเกดิ เปน็ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่นที่ส่งผลถึง หมอ นวดแพทย์ไทย ครูสอนดนตรีไทย บางภูมิปัญญาก่อเกิดผลิตภัณฑ์ในชุมชนขึ้น ซึ่งในหมู่ที่ ๑ และในอีกหลายๆ หมู่บ้าน มีผลิตภัณฑ์มากมายเสริมสร้างรายไดใ้ ห้กับครอบครัวในชุมชนน้ันหลายๆครอบครัว ดังเช่น กลุ่มแกงพริก พันปี กลุ่มจักสานผักตบชวา กลุ่มกล้วยฉาบ ถักไม้กวาด เป็นต้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ที่นำเสนอมานี้บ่งบอกได้ถึง ข้อมูลเชิงประจักษ์ ที่ส่งผลให้ประชากรในหมู่บ้านได้มีความเป็นอยู่ที่ดี อยู่กันด้วยความสามัคคี และอยู่กันอย่าง ความสงบสุข เมื่อชมุ ชนสามคั คีก็เกดิ ความร่าเริงสนุกสนาน กร็ ว่ มกันจัดหาเคร่อื งดนตรีมาเคาะมาตีมาเลน่ ในท่ีสุดก็ ตั้งวงดนตรีไทยของผู้สูงวัย และการตั้งวงดนตรีไทยของนักเรียน เช่นวงดนตรีไทยวงใหญ่ของโรงเรียนวัดป่าเรไร กลองยาวของโรงเรียนสายดงยาง และในอีกหลาย ๆ สถานศึกษาโดยรอบวัด ทั้งยังเกี่ยวพันกับประเพณีที่ต่างไป จากของคนไทยที่อาศัยอยู่ในตัวตลาด คือประเพณีของชาวจีนที่ผสมผสานและแสดงออกร่วมกันในชุมชน เช่น การ เตน้ เอ็งกอและการเชิดสงิ โต

๑๕๘ กิจกรรมการบรู ณาการกจิ การคณะสงฆแ์ ละพฒั นาการเชิงพืน้ ท่ี วัดทบั คล้อ (สวนพระโพธิสตั ว)์ ท่ีร่วมกบั หมู่บา้ นที่ ๑ และอีกหลายๆหมู่บ้านในตำบล รวมทั้งองค์การ บริหารส่วนตำบล (อบต.) ในส่วนของการดำเนินกิจกรรมของวัดปฏิบัติต่อเนื่องเสมอมา ส่งผลถึงบริบทโดยรอบ ท่ี เด่นชัดคือ สถานศึกษาที่เป็นสถานศึกษาด้านคุณธรรมที่มีผลงานเชิงประจักษ์ทั้งนักเรียน ครูผู้สอน ผู้บริหาร และ โรงเรยี น ที่ได้รับการยกยอ่ งชมเชยท้ังเกยี รตบิ ัตรระดับอำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ บุคลากรภายในวัดทบั คล้อ เป็นผู้มีคณุ ภาพและศักยภาพมากมาย ด้านการศึกษาทางพระพุทศาสนา มีตั้งแต่นักธรรมตรีถึงนักธรรมเอก และเปรียญธรรมประโยค ๓ จนถึงประโยค ๙ ด้านทางโลกก็จบการศึกษา ตั้งแต่ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ ถึง ระดับปริญญาเอก ด้านการอาชีพ ประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช) ถึงปริญญาตรีท่ี จบวิชาเอกด้านวิศวกรรม รวมทั้งการพยาบาล ทหาร หลายรูปหลายคน ดังนั้น บุคคลต่าง ๆ เหล่านี้จึงเป็นผู้มี ศกั ยภาพมคี วามร้คู วามสามารถ ทีจ่ ะฝึกสอนบคุ คลภายนอกในอาชพี ต่างๆได้ ซึง่ ก็มีเขา้ มารบั การฝกึ ขณะเขา้ มาบวช ชั่วคราวตามประเพณีในหลาย ๆ ด้านหลาย ๆ อาชีพ อีกทั้งเจ้าอาวาสเป็นพระผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลได้ตั้งมูลนิธิ ร่วมกบั โยมท่เี ปน็ คหบดีข้นึ ภายในวัด และร่วมกบั สาธารณสุขได้จัดต้ังชื่อมูลนธิ ิองิ บุญ สำนกั งานต้ังอยู่ในบ้านท่ีมีเนื้อ ทีแ่ ละตวั บา้ นขนาดใหญใ่ นหมบู่ า้ นสวนโพธ์ิ ให้การดูแลพระสงฆ์และบุคลากรทง้ั ภายในวัดและรอบ ๆ วดั มกี ิจกรรม มากมายท่โี ดดเด่นเป็นท่ียอมรบั ในระดบั ตำบล อำเภอ และจงั หวดั รวมทัง้ วสิ ยั ทัศนท์ ่ีกวา้ งไกลของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพระมหาโกศล จันทวัณโณ ท่านได้สร้างสถานพักฟื้นสำหรับพระภายในวัดเมื่อป่วยรักษาหายจาก โรงพยาบาลแล้ว แต่ต้องพักฟื้นร่างกาย สถานที่ดังกล่าวมีจำนวน ๒๐๐ ห้อง รวมทั้งในวัดมีน้ำดื่มที่สะอาดโดยใช้ เครื่องกรองน้ำเหมือนโรงงานงานผลิตน้ำดื่ม จำนวน ๑ เครื่อง และมีเครื่องกรองน้ำโฮโดรเจนที่สั่งซื้อจาก สหรัฐอเมริกา จำนวน ๑ เครือ่ ง ไวบ้ ริการฟรีไม่คิดคา่ ใช้จ่ายใด ๆ ให้กบั บุคลากรท้งั ภายในและนอกวดั วดั ทบั คล้อ (สวนพระโพธิสัตว)์ เป็นวดั ท่รี ่มรน่ื ต้นไมเ้ กอื บทกุ ตน้ ประมาณร้อยละ ๙๕ เป็นต้นไม้ท่ีปลูก พร้อมการสร้างวัด กฎระเบียบของวัดที่เข้มแข็งอีกเรื่องหนึ่งคือการจะตัดกิ่งไม้ขนาดใหญ่หรือตัดต้นไม้ภายในวัด ตอ้ งได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาส วดั จงึ มีต้นไม้มากมายภายในวัดและทยี่ ังเป็นสวนป่าอยู่มี ๓ แห่ง เมื่อมีต้นไม้มาก ใบ้ไม้ก็ร่วงหล่นมากแต่ในวัดจัดระบบไว้อย่างดี มีกลุ่มคณะจัดการกวาดทุกวันทุกถนนและทุกลานธรรม รวมทั้ง ได้รับความร่วมมืออย่างดียิง่ จากหมู่บ้าน โรงเรียน และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จัดกิจกรรมจิตอาสาช่วย พัฒนาวัดให้วัดร่มรื่นเป็นประจำสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าปีละ ๕-๖ ครั้ง และยังทำความสะอาดรวมทั้งถนนภายใน หมู่บ้าน แม้แต่สถานศึกษา ๒ แห่งที่ตั้งอยู่ในตำบลทับคล้อได้ขอความอนุเคราะห์ให้เจ้าอาวาสเป็นประธาน คณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อขอแนวคดิ ทีก่ ว้างไกลของท่านในพฒั นาสถานศกึ ษาต่อไป ผลการดำเนินงานทั้งของวัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) หมู่บ้านหมู่ที่ ๑ และหลายหมู่บ้านร่วมถึง องค์การบรหิ ารส่วนตำบล (อบต.) ในโครงการสร้างความปรองดองสมานฉนั ท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล ๕” โดยเฉพาะศีลปรมัตถ์ที่ให้รับและถือไว้ตลอดชีวิต นำมาใช้ในหลากหลายกิจกรรมส่งผลให้ บุคลากรภายในวัด และนอกวดั โดยรอบขยายออกไปถงึ ภายในตำบล และท่ัวไป มชี วี ิตความเปน็ อยทู่ ดี่ ี สุขสงบ เป็น หมู่บา้ นทปี่ ลอดจากสง่ิ ไมพ่ ึงประสงคท์ ัง้ ปวง

๑๕๙ ๕.๒ ปญั หา หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะศีลที่เป็นข้อห้ามตามหลักธรรม ผู้ที่สามารถปฏิบัติตาม หลกั ธรรมน้ไี ดต้ อ้ งเป็นผ้ทู ี่มจี ิตศรทั ธา มคี วามรู้ ความเข้าใจในพระรัตนตรัยอย่างแท้จรงิ จึงจะนำหลกั ธรรมไปปฏิบัติ ทีเ่ กิดเปน็ เบญจธรรม ชมุ ชนในวัดทบั คลอ้ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะผสู้ ูงวัยและหวั หน้าครอบครัวหรือผู้อาศัย อยู่มีหลักธรรมในการดำรงชีวิตอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เป็นปัญหาที่แท้จริงที่ยังแฝงอยู่ในสังคมและเป็นสิ่งที่วิ่งทวนกระแส คอื ๑) อปุ าทาน สังคมโดยรวมยึดวตั ถุส่งิ ของว่าเป็นความสขุ มราแท้จริง ส่ิงเหลา่ นจ้ี งึ เพาะบ่มถึงเยาวชนท่ี ซึมซับจากผูอ้ ยู่ในวัยทำงานทั้งในหมู่บา้ นและทั่วไป ซึ่งแม้แต่ผู้ท่ีอยูใ่ นวัด ที่คิดเห็นและยึดถือว่าความสุขคือทุกส่ิงที่ เป็นปจั จัยจากภายนอกกาย แตก่ บ็ า้ งเป็นบางส่วนท่ียึดแนวความพอดพี อเพยี ง ๒) วิธีการนำเสนอ สำหรับฝ่ายเผยแพร่ในทุกหน่วยงานโดยเฉพาะวัด โรงเรียนและหน่วยงานที่ เก่ยี วขอ้ งกบั พระพุทธศสานา เพ่ือชกั นำใหผ้ ทู้ ี่เข้ามารับและถือศลี ไปปฏิบตั ิไดร้ ูแ้ ละเข้าใจอย่างถ่องแท้และอย่างรู้จริง โดยเฉพาะวัยทำงานและวัยรุ่นที่มีความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่เน้นทางสังคมหรือวัตถุนิยม สำหรับอีกคนกลุ่มนี้ที่รู้ และเข้าใจในหลักธรรมบ้าง เมื่อหันมาศึกษาและปฏิบัติในทีส่ ุดก็เกิดความเชื่อและศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ่งคน กลุ่มน้ีกม็ ีบา้ งแตเ่ ป็นสว่ นนอ้ ยมากเพราะยังเปน็ วัยทส่ี นกุ สนานกบั ชวี ติ ๓) Social Media สือ่ อเี ล็กทรอนิกส์หรือส่ือสงั คม ที่ทุกผคู้ นทงั้ ในวัดและในหมูบ่ ้านทเี่ ป็นผลพวงจาก ปญั หาในข้อที่ ๑ และ ๒ สิ่งไม่ดหี รือแม้แต่ความคิดในดา้ นมจิ ฉาทิฏฐิที่มีมุมมองต่อสงั คมโดยรวม เมอื่ สง่ิ ท่ีกล่าวถึง ในข้อนี้ถ้ามีการนำเสนอในส่ือท่ีกว้างไกลนี้ผลด้านนั้น ก็สามารถโนม้ น้าวให้ผู้คนท่ีขาดการคิดวิเคราะห์ท่ีเป็นระบบก็ อาจถงึ ข้ัน “อวชิ ชา” ตอ่ หลกั ธรรมในพระพุทธศาสนาด้วยซ้ำ ๔) เศรษฐกิจแบบทนุ นิยม ความเป็นอยูข่ องประชากรในชมุ ชน รวมทั้งสภาพแวดลอ้ ม โดยรวมไม่เอ้อื ความเปน็ อยใู่ หอ้ ยูแ่ บบเศรษฐกิจพอเพียงในครัวเรือน ดงั นัน้ ทุกคนทกุ ครัวเรือนจึงดน้ิ รนเพ่อื ให้มีฐานะท่ีดีข้ึนมากกว่า ความเป็นอยู่เพื่อความสขุ แหง่ ตนและสังคมทีอ่ งิ ในค่านิยมดงั กล่าว ๕) ความสม่ำเสมอ ความต่อเนื่องและความอดทน สำหรับผู้ที่ปฏิบัติธรรมทั้งในวัดและในหมู่บ้าน เพอ่ื ให้รู้และเขา้ ใจ ในหลกั ธรรมที่เปน็ แก่นแท้ด้วยตนเองอย่างแท้จริงนนั้ ยังมนี ้อยมาก เรอื่ งนจี้ ึงเปน็ เรื่องสำคัญถ้าไม่ มีและไม่สามารถปฏิบัติได้โดยเฉพาะ “ศีล” ถ้ายังกังวลต่อการรับและการถือแล้วจะไม่สามารถนำมาใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ทั้งที่การรับและการถือศีลเป็นการปฏิบัติทีใ่ หม้ ีสตคิ วบคุมกายใจอย่างสม่ำเสมอตลอดเวลาเท่านน้ั นั่นคอื มคี วามม่งุ ม่ันและความอดทนอย่างจริงจงั และต้องปฏิบัตแิ บบต่อเนือ่ ง ดังนัน้ ศีลปรมัตถ์ จึงแก้ปญั หาในเร่ืองนี้ ได้เพราะพน้ื ฐานทจี่ ะใหเ้ กดิ คณุ ธรรมตอ้ งเร่มิ ตน้ ทไ่ี ตรสกิ ขาหรอื ศลี สมาธิ และปญั ญา

๑๖๐ ๕.๓ อปุ สรรค สง่ิ ที่ทำให้สงั คมและชุมชน ท้ังภายในและภายนอกวัดยังขดั ขวางจนเกดิ ปัญหาอยู่ เพราะส่งิ เหล่านี้ที่ทำ ใหย้ ังไมส่ ามารถผ่านไปได้ ๑) ค่านิยม สิ่งนี้คือความเชื่อพื้นฐานที่เอื้อต่อความสุขจากภายนอก โดยชื่นชมยกย่องแต่วัตถุสิ่งของ ภายนอกกาย ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้คือความสุขที่แท้จริงและเอาอุปาทานยึดถือไว้จนวางไม่เป็น รวมทั้งค่านิยมที่เป็น แนวคดิ ชาวตะวันตกนำมาใช้บนพืน้ ฐานวัฒนธรรมชาวพุทธ ๒) มิจฉาทิฏฐิ สิ่งนี้ทีก่ ่อให้เกิดปัญหาอยู่ในปจั จุบันที่บางผู้คนมีอคตติ ่อผู้บวช ต่อวัด ทำให้ขาดความ เชื่อความศรัทธาที่จะเข้าไปค้นหาความรู้ที่แท้จริงในธรรม จึงไม่รู้ผลที่แท้จริงของการปฏิบัติธรรมจนเกิดความรู้ที่ แทจ้ ริงของตนเอง เพยี งฟัง อา่ น จงึ เขา้ ใจในบาป บุญและกรรม และไม่ลึกลงไปถงึ ความรคู้ วามเขา้ ใจในแกน่ แท้แห่ง ไตรสิกขา (ศลี สมาธิ ปญั ญา) ทนี่ ำไปสูส่ งั โยชน์ ๑๐ ต่อไป ๓) การปฏสิ ัมพนั ธ์ ระหว่างคนในครอบครัว (การอบรมเล้ยี งดู) ระหว่างผูเ้ รียนกบั ผสู้ อน ระหว่างผู้นำ ในสังคมกับผู้อยู่ในสังคม แม้แต่ระหว่างบุคลากรในวัด สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทุกฝ่ายไม่สนใจไม่เห็น ความสำคญั ของ “ศลี ” อย่างจรงิ จังจงึ ไม่มีเกราะในการป้องกันตัวเอง ทกุ เหตุการณใ์ นปัจจุบันทีเ่ กิดข้ึนเม่ือมีเหตุขัด ใจอะไรในทุกบริบทของสังคม จึงใช้ “ความรุนแรงในการแก้ปัญหา” (ข่าวสารมากมาย เช่นโดยเฉพาะ ผิดหวังใน ความรกั กฆ็ ่าคนรกั ฆา่ คนในครอบครัวคนรกั หรอื ฆ่าตวั เองตาย) ๔) แนวนโยบายแห่งรัฐ ไม่มีเกณฑ์การเข้าสู่การเป็นผู้นำระดับต่างๆในระบบรัฐหรือองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้พื้นแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินทองแผ่นดินธรรม ควรมีระเบียบที่เป็นรูปธรรมในด้านการคัดเลือกที่ยึดหลักธรรม และท่สี ำคัญผลตอบแทนสำหรบั ผทู้ เ่ี ป็นผ้เู ผยแพร่หลักธรรมคำสอนพระพุทธศาสนายังไมเ่ หมาะสม และไม่เป็นธรรม เมอื่ เทียบกับการดำเนนิ งานของผเู้ ผยแพร่ เพ่อื ให้เกดิ ถึงผลความสุขในมวลรวมแห่งชาติที่แท้จริง

๑๖๑ ๕.๔ ข้อเสนอแนะ สังคมศิวิไลเป็นไปได้ ถ้าผู้นำสังคมและทุกคนในโลกใบนี้นำ “หลักธรรม” ในพระพุทธศาสนาไป ถือและปฏิบัติ โดยเฉพาะ “ศีล” ที่เป็น “หัวใจแห่งการปฏิบัติธรรมที่มีผลต่อกายและใจ” ยิ่งถ้าบุคคลใด สามารถรับและถือ “ศีลปรมัตถ์” ไดจ้ ำนวนมากเทา่ ไร สังคมนน้ั คอื สงั คมแหง่ ศิวิไลขึน้ แน่นอน ศลี ปรมัตถ์ แห่ง วัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) เกิดขึ้นโดยพระเดชพระคุณพระครูภาวนาวรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดเกตุมดีฯ สมุทรสาคร ซึ่งเป็นอาจารย์ของพระเดชพระคุณพระครูวิสุทธิภาวนาคุณ (หลวงพ่อพระมหาโกศล จันทวัณโณ) อดีตเจา้ อาวาสวดั ทบั คลอ้ พระคุณท่านตระหนักถึงความวนุ่ วายป่ันป่วนในสังคมได้ดี จึงกำหนดใหผ้ ู้ท่จี ะมาเป็นลูก ศิษย์ควรสมัครใจรับและถือศีลปรมัตถ์ และปัจจุบันที่วัดทับคล้อโดยพระครูวิชาญสังฆกิจ เจ้าอาวาสวัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) รับแนวปฏิบัติดังกล่าวมาดำเนินการต่อ เพราะมองเห็นว่าสังคมถ้าจะสงบสุขได้อย่างแท้จริง ควรเปน็ ดงั นี้ ๑) ผนู้ ำในสงั คม ในทุกระดบั ควรเป็นตน้ แบบในการรับและถือศลี โดยเฉพาะศลี ปรมตั ถ์ ควรรับ และถอื สกั ข้อสองขอ้ หรอื ก่ีขอ้ กไ็ ด้ ๒) แนวนโยบายแห่งรัฐ ควรให้ความสำคญั ต่อหลักธรรมคำสอนในพระพทุ ธสาสนา โดยเฉพาะเร่อื ง “ศีล” (ตามขอ้ เสนอแนะขอ้ ที่ ๑) ควรหันมาสนบั สนุนวัดและองค์กรพุทธศาสนาอยา่ งจริงจัง และหาแนวทางหรือ สนับสนุนบุคลากรที่ดีและเด่นด้านการเผยแพร่ใหเ้ ป็นต้นแบบอย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ โดยเฉพาะ การยกย่องสนับสนุนควรจะให้มีและให้เกิดกับทุกวัยไม่ใช่เฉพาะให้กับคนที่สูงวัย และต้องมีค่าตอบแ ทนที่ เหมาะสมให้กบั ผเู้ ผยแพรพ่ ระพุทธศาสนาด้วย ๓) แนวการดำเนินงานของวัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) ที่ดำเนินการต่อการให้รับและถือ ศีล ปรมัตถ์ จึงเป็นแนวทางทีถ่ ูกต้องตามหลักธรรมในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา โดยเฉพาะผู้ปฏบิ ตั ิ ธรรมทุกคนในการที่จะขึ้นสังโยชน์ ๑๐ ขั้นต้นต่อไป แม้บางคนอาจจะรับและถือศีลปรมัตถ์ นี้แค่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ หรือ ๔ ข้อยังไม่ครบ ๕ ข้อก็ถือว่าเป็นพื้นฐานการประกาศตนว่าเป็นคนดีในทางพระพุทธศาสนาและ ทางสังคมที่แท้จริง ในเรื่องนั้นๆแล้วตลอดชีวิต เพราะสิ่งนี้คือเกราะป้องกันตนเอง และป้องกันสังคมเพื่อให้มี ความสงบสุขต่อไป และยังเป็น “ธรรมมานุสติ” ให้อยู่กับตนเองตลอดเวลา ทุกคนที่เป็นพุทธศาสนิกชนจึง สามารถนำปฏิบัตไิ ด้ รวมทั้งทุกวดั สามารถนำไปให้ผู้คนที่เข้ามาในวัดรับและถอื ปฏิบตั ิได้เช่นกนั ซึ่งศีลปรมัตถ์ท่ี รับและถือปฏิบัตินี้ไม่ได้ขัดขวางต่อการดำเนินชีวิตประจำวันแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ดว้ ย แทจ้ ริงแล้ว วัดทุกแห่งก่อนทำบญุ ตอ้ งให้รบั ศลี แตไ่ ม่ไดใ้ หถ้ ือปฏบิ ตั ิ และสถานปฏิบตั ิธรรมทกุ แหง่ ร้ดู ีว่าศีล มีความสำคัญต่อการปฏิบัติธรรม จึงต้องมีการกำหนดให้บวชถือศีล ๘ ก่อนจะเข้ารับการปฏิบัติธรรมในทุกครั้ง และโดยเนื้อแท้แห่งการถือศีลถ้าใครรับและถือศีลปรมัตถ์ทั้ง ๕ แล้วก็ถือได้ว่าผ่าน “สีลัพพตปรามาส” ใน

๑๖๒ สังโยชนไ์ ปหน่ึงข้อแล้ว และถา้ ใครก็ตามถ้าน้อมจิตรบั และถือศีลปรมัตถ์ไว้เป็นธรรมานุสติ ขอ้ “วิจิกิจฉา” แห่ง สังโยชน์กผ็ ่านไปไดอ้ กี ขอ้ ดว้ ยเช่นกัน ดังนัน้ จงึ เหลอื เพียงข้อเดยี ว คอื “สักกายทิฏฐิ” เมอ่ื ไรถ้าปฏิบตั ธิ รรมโดย การนั่งกัมมัฏฐานอย่างต่อเนื่องและมัน่ คงแล้ว เมื่อไปได้ถึงจุดๆหนึ่งในเวลาหนึ่ง สิ่งที่จะเกิดต่อมาตามธรรมชาติ แห่งหลักธรรมที่จะเกิดตามไตรสิกขา คือ “สมาธิ” (ศีล สมาธิ ปัญญา) โดยผู้ปฏิบัติต้องประคองจิตให้เป็น “สัมมาสมาธิ” เพื่อจะขึ้นไปสู่ (วิปัสสนา) ที่เป็น “สัมมาสติ” และเมื่อไรถ้าสมาธิเต็มบริบูรณ์แล้วสิ่งที่จะเกิด ตามมาโดยธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งก็คือ “ปัญญา” ที่จะเข้าไปล่วงรู้ (จักขุกรณีและญาณกรณี) ใน “กายใน กายหรอื ธรรมชาติของกาย” ต่อไปนัน่ เอง (ตามคำสอนของงพระเดชพระคณุ หลวงพ่อพระมหาโกศล จันทวัณโณ) ของกาย” ตอ่ ไปน่นั เอง

๑๖๓ ภาคผนวก