Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มที่ ๑ ยโสธร

เล่มที่ ๑ ยโสธร

Published by krumintra2018, 2021-01-09 16:47:24

Description: เล่มที่ ๑ ยโสธร

Keywords: หนังสือส่งเสริมการอ่านจับใจความแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญาท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

Search

Read the Text Version

ก คำนำ สำหรับหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระ กำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มน้ี ได้จัดทำข้ึน เพื่อเป็นสื่อประกอบ กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๓ เพ่ือ พัฒนำผลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรยี นและควำมสำมำรถในกำรอ่ำนจบั ใจควำม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ สังกัด สำนกั งำนเขตพ้นื ทกี่ ำรศึกษำมัธยมศกึ ษำ เขต ๒๘ หนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ มีเนื้อหำสำระกำรเรียนรู้สอดคล้องกับหลักสูตร กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษำธิกำรจะต้องผ่ำนกำรประเมินกำรอ่ำน จับใจควำมให้ได้ตำมเกณฑ์ท่ีสถำนศึกษำกำหนด ซ่ึงนับว่ำมีควำมสำคัญอย่ำงย่ิงสำหรับนักเรียน เพรำะกำรอ่ำนเป็นเครื่องมือในกำรเรียนรู้ของทุกกลุ่มสำระทักษะกำรอ่ำนจึงมีควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งท่ี จะต้องให้เด็กๆ ฝึกอ่ำนท้ังอ่ำนออกเสียง อ่ำนจับใจควำม รวมถึงกำรคิดวิเครำะห์สำรท่ีได้รับ แสดง ควำมคิดเห็น นำประโยชน์จำกกำรอ่ำนไปใช้ได้อย่ำงเหมำะสม และใช้ในกำรแสวงหำควำมรู้ต่อไป ตลอดจนมีกจิ กรรมที่ครอบคลุมตำมสำระกำรเรียนร้ทู กี่ ำหนดตำมช่วงวัย ผู้จัดทำมุ่งหวังว่ำ หนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำ ทอ้ งถน่ิ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ จะอำนวยประโยชน์แก่ผู้รัก กำรอ่ำน นักเรียน และผู้สนใจ เพื่อใช้ประกอบกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ หรือใช้ส่งเสริมกำรเรียนรู้ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพและ ประสทิ ธิผลต่อไป มินตรำ งำมทรัพย์

ข คำชแี้ จง สำหรับหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระ กำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มนี้ ได้จัดทำข้ึน เพื่อเป็นสื่อประกอบ กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เพ่ือ พฒั นำผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี นและควำมสำมำรถในกำรอ่ำนจบั ใจควำม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๓ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ สังกัด สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต ๒๘ หนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปัญญำท้องถ่นิ กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ มีเนื้อหำสำระ กำรเรียนรู้สอดคล้องกับหลักสูตรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษำธิกำร จะต้องผ่ำนกำรประเมินกำรอ่ำนจับใจควำมให้ได้ตำมเกณฑ์ที่สถำนศึกษำกำหนด ซึ่งนับว่ำมีควำมสำคัญ อย่ำงย่ิงสำหรับนักเรียน เพรำะกำรอ่ำนเป็นเคร่ืองมือในกำรเรียนรู้ของทุกกลุ่มสำระทักษะกำรอ่ำน จึงมีควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งท่ีจะต้องให้เด็กๆ ฝึกอ่ำนท้ังอ่ำนออกเสียง อ่ำนจับใจควำม รวมถึงกำรคิด วิเครำะห์สำรท่ีได้รับ แสดงควำมคิดเห็น นำประโยชน์จำกกำรอ่ำนไปใช้ได้อย่ำงเหมำะสม และใช้ใน กำรแสวงหำควำมรู้ตอ่ ไป ตลอดจนมีกจิ กรรมท่ีครอบคลมุ ตำมสำระกำรเรยี นรทู้ ี่กำหนดตำมชว่ งวยั หนงั สือสง่ เสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำท้องถิ่น กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย สำหรบั นักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๓ จำนวน ๖ เลม่ ดังน้ี เลม่ ท่ี ๑ จงั หวดั ของเรำยโสธร เลม่ ท่ี ๒ อำชพี ท้องถิ่น เลม่ ท่ี ๓ เขำ้ วัดทำบญุ เล่มที่ ๔ แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วสำคัญ เล่มที่ ๕ ผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถน่ิ เล่มท่ี ๖ ประเพณีและกำรละเลน่ หนงั สอื ส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำ ทอ้ งถน่ิ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มน้ี คือ เล่มท่ี ๑ จังหวัดของเรำยโสธร และเน่ืองจำกหนังสือส่งเสริม กำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book มีลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สแกนผ่ำน QR-Code หรือเข้ำผ่ำนเว็บไซด์ตำมลิงค์ท่ีแนบมำต่อไปน้ี QR-Code https://pubhtml๕.com/bookcase/jjyl เพื่อใช้งำนหนังสือตำมปกติ พร้อมกบั รปู เล่มจริง

ค บทบำทครู เนื่องจำกหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เล่มนี้ มีลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สแกนผ่ำน QR-Code QR-Code เพอ่ื ใชง้ ำนหนังสอื ตำมปกติ ควรปฏบิ ัติ ดังน้ี ๑. ศกึ ษำและทำควำมเขำ้ ใจคู่มือกำรใช้และหนังสือส่งเสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปญั ญำทอ้ งถ่ิน กลุม่ สำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย สำหรับนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เล่มนี้ ให้เข้ำใจ ก่อนนำไปใชง้ ำน ๒. จัดเตรียมหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมปิ ญั ญำท้องถ่ิน กลมุ่ สำระ กำรเรยี นรภู้ ำษำไทย สำหรบั นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษำปีท่ี ๓ สำหรับแจกให้นักเรยี นทุกคน ๓. แนะนำกำรใช้งำนหนังสือสง่ เสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย สำหรบั นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี ๓ ๔. ใหน้ ักเรยี นลงมือทำแบบทดสอบก่อนเรียนประจำหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมปิ ัญญำทอ้ งถิ่น กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี ๓ ๕. เปิดโอกำรสใหน้ กั เรียนศึกษำเนือ้ หำ หรือบทเรียนในหนังสอื ส่งเสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำม แบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำท้องถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย สำหรบั นักเรียนช้ันมธั ยมศึกษำปที ่ี ๓ ดว้ ยตนเอง ตำมกระบวนกำรเรยี นรู้ (ด้วยกำรเรยี นรู้แบบ SQ๔R) ๖. ใหน้ ักเรยี นทบทวนควำมรู้ ควำมเข้ำใจดว้ ยกำรทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะให้ครบถ้วนทุกตอน ๗. ให้นักเรียนลงมือทำแบบทดสอบหลงั เรยี นประจำหนงั สือส่งเสรมิ กำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ิปัญญำทอ้ งถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย สำหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษำปที ี่ ๓ ๘. นำนักเรียนตรวจคำตอบและเฉลยคำตอบท้งั หมด เพื่อบันทึกคะแนนท้ำยหนังสือส่งเสริม กำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ิปญั ญำทอ้ งถน่ิ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรยี น ช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ ๓ หมำยเหตุ : สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียนระหวำ่ งทำกิจกรรม

ง บทบำทนกั เรยี น เน่ืองจำกหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้น QR-Code มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เล่มน้ี มีลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สแกนผ่ำน QR-Code เพือ่ ใชง้ ำนหนังสอื ตำมปกติ ควรปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ ๑. ศกึ ษำและทำควำมเขำ้ ใจคำชแี้ จง และบทบำทนักเรยี น เพือ่ กำรใช้หนังสือสง่ เสริมกำรอำ่ น จับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปัญญำท้องถนิ่ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ ๓ เล่มนี้ ให้เข้ำใจกอ่ นนำไปใช้งำน ๒. นักเรยี นลงมอื ทำแบบทดสอบก่อนเรยี นประจำหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษำปีที่ ๓ ๓. นักเรียนศึกษำหนงั สือส่งเสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมิปัญญำท้องถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ ๓ ดว้ ยตนเอง ตำมกระบวนกำรเรียนรู้ (ด้วยกำรเรยี นร้แู บบ Sq๔r) ๔. นักเรียนทบทวนควำมรู้ ควำมเข้ำใจด้วยกำรทำกิจกรรมฝึกทักษะให้ครบถว้ นทุกตอน ๕. นักเรยี นลงมือทำแบบทดสอบหลังเรียนประจำหนังสือสง่ เสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมิปญั ญำทอ้ งถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี ๓ ๖. นกั เรยี นรว่ มตรวจคำตอบและเฉลยคำตอบทั้งหมด เพอื่ บันทึกคะแนนทำ้ ยหนงั สอื ส่งเสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมปิ ญั ญำท้องถนิ่ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนกั เรียน ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๓ ๗. นักเรยี นสำมำรถศกึ ษำทบทวนเน้ือหำหนงั สือสง่ เสรมิ กำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ัญญำท้องถน่ิ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ ๓ ไดต้ ลอดเวลำ หลังเรียนเสรจ็ แล้ว หำกไม่ผำ่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐.๐๐ หมำยเหตุ : กจิ กรรมระหวำ่ งเรยี นอำจมีทั้งแบบเดยี่ วและกลุ่ม

จ ขอ้ ควรระวังและปฏิบตั ิ ข้อควรระวังและปฏิบตั กิ ่อนกำรดำเนนิ กำรสอน ๑. ศึกษำแผนกำรจดั กำรเรยี นรอู้ ยำ่ งละเอยี ด ๒. เตรยี มอปุ กรณ์ สือ่ กำรเรยี นกำรสอนให้เรียบร้อย ๓. ศกึ ษำรำยละเอยี ดชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ๔. กำหนดบทบำทสมำชิในกลมุ่ ทรำบถึงกำรปฏบิ ตั ติ มบทบำทต่ำงๆ โดยสมำชิกทุกคนใน กลมุ่ ตอ้ งได้ทำทกุ บทบำท ๕. ครผู ู้สอนชแี้ จงวธิ กี ำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนแบบร่วมมือและกิจกรรมทน่ี ักเรยี นต้องปฏบิ ตั ิ ข้อควรระวงั และปฏบิ ัติขณะดำเนนิ กำรสอน ๑. ชแี้ จงกำรใชช้ ดุ กิจกรรมกำรเรียนร้ใู ห้นกั เรยี นทกุ คนทรำบ ๒. ตำเนินกิจกรมตมแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ เพื่อใหส้ อดคล้องกบั จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ เน้ือหำและเวลำท่ีกำหนด ๓. ครผู ู้สอนต้องใหค้ ำแนะนำและคอยดแู ลนักเรียนอย่ำงใกลช้ ดิ ๔. ให้นกั เรยี นเรยี นรู้จำกชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้ตำมข้ันตอนอยำ่ งเคร่งครัดและมีควำมซ่ือสตั ย์ ต่อตนเอง ๕. ตรวจสอบกำรทำงำนของนักเรียนและสรปุ บทเรยี นรว่ มกนั นักเรยี น ขอ้ ควรระวงั และปฏบิ ัตเิ มื่อดำเนนิ กำรสอนสิ้นสุด ๑. ครผู ูส้ อนใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ๒. ตรวจผลงำนจำกกำรทำแบบทดสอบและบตั รกิจกรรม ๓. ถำ้ นักเรยี นไม่ผ่ำนเกณฑท์ ่ีระบไุ ว้ ครูควรให้นักเรียนศึกษำและทบทวนเน้ือหำใหม่อกี ครั้ง แล้วทำแบบทดสอบหลงั เรยี นให้ผำ่ นเกณฑ์ท่ีกำหนดไว้

สำรบัญ ฉ คำนำ หน้ำ คำชี้แจง ก บทบำทครู ข บทบำทนกั เรียน ค ขอ้ ควรระวังและปฏิบัติ ง สำรบญั จ หนังสือสง่ เสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปญั ญำท้องถิ่น ฉ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรียนช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ ๓ เล่มท่ี ๑ จงั หวัดของเรำยโสธร ๑ ๑ มำตรฐำนกำรเรยี นร้แู ละตัวช้วี ัด ๑ แนวคดิ ๑ สำระกำรเรยี นรู้ ๑ จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ๒ สมรรถนะทส่ี ำคญั ๒ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๒ ภำระงำน / ชน้ิ งำน ๒ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๓ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๕ กระดำษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรยี น ๖ บทเรยี นท่ี ๑ จังหวดั ของเรำยโสธร ๑๑ กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ ๑๒ กิจกรรมท่ี ๑.๑ ๑๓ กจิ กรรมที่ ๑.๒ ๑๔ กิจกรรมที่ ๑.๓ ๑๕ กิจกรรมท่ี ๑.๔ ๑๖ กจิ กรรมที่ ๑.๕ ๑๗ กิจกรรมที่ ๑.๖ ๑๘ แบบทดสอบหลังเรยี น ๒๐ กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลังเรยี น

สำรบญั (ตอ่ ) ช บรรณำนุกรม หน้ำ ภำคผนวก ๒๑ ๒๒ เฉลยกิจกรรมท่ี ๑.๑ ๒๓ เฉลยกจิ กรรมที่ ๑.๒ ๒๔ เฉลยกิจกรรมที่ ๑.๓ ๒๕ เฉลยกจิ กรรมที่ ๑.๔ ๒๗ เฉลยกิจกรรมที่ ๑.๕ ๒๘ เฉลยกิจกรรมที่ ๑.๖ ๒๙ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น ๓๒ แบบบันทึกคะแนนกิจกรรมระหวำ่ งเรียน ๓๓ ประวตั ยิ ่อผู้จัดทำ ๓๔

๑ หนงั สือสง่ เสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ปิ ญั ญำท้องถนิ่ กล่มุ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำไทย สำหรบั นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๓ มำตรฐำนกำรเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวดั มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนกำรอำ่ นสรำ้ งควำมร้แู ละควำมคิดเพื่อนำไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปัญหำใน กำรดำเนินชวี ิต และมีนสิ ัยรกั กำรอำ่ น ท ๑.๑ ม.๓/๓ ระบุใจควำมสำคญั และรำยละเอยี ดของข้อมูลทีส่ นับสนุนจำกเรือ่ งทอี่ ำ่ น ท ๑.๑ ม.๓/๔ อ่ำนเร่ืองต่ำงๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังควำมคิด บันทึก ย่อควำมและรำยงำน ท ๑.๑ ม.๓/๕ วเิ ครำะห์ วิจำรณ์ และประเมินเรอ่ื งท่ีอำ่ นโดยใชก้ ลวิธกี ำรเปรยี บเทียบ เพ่ือใหผ้ ู้อำ่ นเข้ำใจไดด้ ขี ้ึน ท ๑.๑ ม.๓/๖ ประเมินควำมถกู ต้องของข้อมลู ทใ่ี ช้สนบั สนุนในเร่ืองท่ีอำ่ น ท ๑.๑ ม.๓/๗ วจิ ำรณ์ควำมสมเหตุสมผล กำรลำดบั ควำม และควำมเป็นไปไดข้ องเรอ่ื ง ท ๑.๑ ม.๓/๘ วเิ ครำะห์เพ่ือแสดงควำมคิดเห็นโตแ้ ยง้ เกยี่ วกบั เร่อื งที่อ่ำน มำตรฐำน ท ๕.๑ เข้ำใจและแสดงควำมคดิ เหน็ วิจำรณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่ำงเหน็ คณุ ค่ำ และนำมำประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง ท ๕.๑ ม.๓/๓ สรุปควำมรูแ้ ละข้อคิดจำกกำรอำ่ น เพ่ือนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ จริง แนวคดิ กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำคัญ เป็นทักษะท่ีควรฝึกใช้นกั เรียนเกิดควำมชำนำญเพอื่ นำไปใชใ้ น ชวี ิตประจำวัน เปน็ กำรอำ่ นท่ีผอู้ ่ำนต้องอำ่ นอยำ่ งละเอียด เพ่ือพจิ ำรณำส่วนประกอบของเรื่องท่ีอ่ำน ซึ่งอำจจะเปน็ เรอื่ งเล่ำสบื ตอ่ กันมำ ขำ่ วเหตุกำรณ์ เนอ้ื หำที่เป็นบทกลอน บทเพลง หรือบทควำม อำจเปน็ เรือ่ งรำวทเี่ ปน็ จรงิ หรือองิ ควำมจรงิ หรือเป็นเร่อื งที่แตง่ ข้นึ ก็ไดโ้ ดยสำมำรถบอกรำยละเอียด อธบิ ำยลกั ษณะของตวั ละคร สรุปใจควำมสำคญั บอกควำมสัมพนั ธข์ องส่วนต่ำงๆ บอกและลำดบั เหตุกำรณ์ และสรุปควำมรู้และควำมคิดอยำ่ งรอบคอบ โดยกำรเขียนสรปุ ควำมจำกเรื่องท่ีอำ่ นใหส้ ้นั แต่ได้ใจควำมสำคัญ โดยเร่อื งทอี่ ำ่ นเก่ียวกับจังหวัดยโสธร สำระกำรเรียนรู้ จังหวัดของเรำยโสธร จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจสำมำรถตอบคำถำมเกยี่ วเร่ืองท่ีอำ่ นได้ (K) ๒. จับใจควำมสำคญั จำกเรื่องทอ่ี ่ำนได้ (P) ๓. สรปุ เร่ืองด้วยกรอบแนวคิด ผังควำมคดิ บนั ทึก ยอ่ ควำม และรำยงำนได้ (P)

๒ ๔. วิเครำะห์ วิจำรณ์ และประเมนิ ควำมสมเหตุสมผล กำรลำดับควำม และควำมเป็น ไปได้ของเรื่องทอ่ี ่ำนได้ (P) ๕. วิเครำะหเ์ พ่ือแสดงควำมคิดเห็นโต้แยง้ เก่ียวกับเรื่องที่อ่ำนได้ (P) ๖. มีควำมกระตือรอื รน้ ใฝเ่ รียนรู้ และใหค้ วำมรว่ มมือในกิจกรรมกล่มุ (A) สมรรถนะที่สำคัญ หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำน มงุ่ ใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดสมรรถนะสำคัญ ๕ ประกำร ดังนี้ ๑. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร ๒. ควำมสำมำรถในกำรคิด ๓. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ ๔. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชวี ิต ๕. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ หลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พนื้ ฐำน มุ่งพัฒนำผูเ้ รยี นใหม้ คี ณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เพื่อให้สำมำรถอยู่ร่วมกบั ผู้อนื่ ในสังคมได้อย่ำงมีควำมสขุ ในฐำนะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี ๑. รักชำติ ศำสน์ กษัตริย์ ๒. ซอ่ื สัตย์สุจริต ๓. มวี นิ ัย ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๕. อยู่อยำ่ งพอเพียง ๖. มงุ่ ม่นั ในกำรทำงำน ๗. รกั ควำมเป็นไทย ๘. มีจิตสำธำรณะ ภำระงำน/ชน้ิ งำน หนงั สอื สง่ เสรมิ กำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำทอ้ งถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย สำหรบั นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ ๓ เล่มที่ ๑ จังหวัดของเรำยโสธร ๑. แบบทดสอบก่อนเรยี น ๒. กจิ กรรมที่ ๑.๑-๑.๖ ๓. แบบทดสอบหลังเรียน กำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนเรยี น เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนต้องได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป ๒. กจิ กรรมท่ี ๑.๑-๑.๖ เกณฑก์ ำรประเมินนักเรียนต้องได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ๓. แบบทดสอบหลงั เรียน เกณฑก์ ำรประเมนิ นักเรียนต้องได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป

๓ แบบทดสอบก่อนเรียน หนังสือส่งเสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมปิ ัญญำทอ้ งถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรบั นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษำปที ี่ ๓ เล่มท่ี ๑ จังหวดั ของเรำยโสธร คำชแี้ จง ๑. แบบทดสอบท้ังหมด ๑๐ ข้อ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ๒. ให้นักเรยี นทำเครื่องหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลอื กช่องว่ำงตำมตวั อักษร ก. ข. ค. และ ง. ทถี่ กู ท่ีสุดเพียงข้อเดียว ๑. ขอ้ ใดต่อไปนีก้ ล่ำวถูกต้องทีส่ ดุ เก่ยี วกบั ควำมเปน็ มำของจงั หวดั ยโสธร ก. ยโสธรมปี ระวัติควำมเปน็ มำเก่ยี วพันกับเมืองโครำช ข. เจ้ำรำชวงศส์ งิ ห์เป็นเจ้ำเมอื งคนแรกของเมืองยโสธร ค. เมืองยโสธร เป็นดินแดนอันอุดมสมบรู ณ์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้ำพระยำ ง. คำวำ่ ยศสนุ ทร ต่อมำกลำยเปน็ ยะโสธร มคี วำมหมำยว่ำ ทรงไวซ้ ึง่ สมบัติ ๒. เมอื งยโสธร เปน็ ดินแดนอันอดุ มสมบูรณ์รมิ ฝั่งแมน่ ำ้ ในข้อใด ก. แม่น้ำปิง ข. แมน่ ำ้ ววั ค. แมน่ ำ้ ชี ง. แมน่ ำ้ ตำปี ๓. อฐั ขิ องเจำ้ พระยำพิชัยรำชขัตติยวงศำ อย่ใู นเจดีย์บรรจุไวท้ ่ใี ด ก. วัดกลำงศรีไตรภูมิ ข. วัดพระพทุ ธบำท ค. วดั ปำ่ อัมพวัน ง. วัดมหำธำตุ ๔. กรณพี พิ ำทระหว่ำงไทยกับฝร่งั เศส ฝรัง่ เศสได้ยกกำลงั จำกเมืองญวนมำตเี มอื งใด ก. เมืองสมโบกของไทย ข. เมอื งญวน ค. เมอื งอุบล ง. เมืองโครำช ๕. กำรยุบเลิกมณฑลอสี ำน เมืองยโสธรไดร้ วมเขำ้ กบั เมืองใด ก. เมอื งโครำช ข. เมืองญวน ค. เมอื งอุบล ง. เมืองสมโบกของไทย ๖. จงั หวดั ยโสธรเป็นจังหวัดทเ่ี ท่ำไรของประเทศไทย ข. ๗๔ ก. ๗๗ ง. ๗๐ ค. ๗๑

๔ ใหน้ ักเรียนอำ่ นข้อควำมต่อไปน้แี ลว้ ตอบคำถำมข้อท่ี ๗ – ๘ กำรด่มื น้ำผลไม้ต่ำง ๆ ที่มีวิตำมนิ ซีสงู ๆ เช่น นำ้ มะนำว น้ำส้ม นำ้ ฝร่งั น้ำมะเขือเทศ ก็สำมำรถช่วยให้อำกำรหวดั หำยเรว็ ขึ้นเชน่ กนั รวมไปถึงกำรด่มื นำ้ อนุ่ ผสมเกลอื ลงไปเล็กน้อย จบิ น้ำอ่นุ ผสมเกลือเรอ่ื ย ๆ ทั้งวันกเ็ ป็นกำรช่วยลดเสมหะ และฆำ่ เช้ือโรคในลำไส้เปน็ อย่ำงดี ๗. ข้อใด คอื ผลไมท้ ่ีให้วติ ำมินซสี งู ข. นำ้ องุ่น น้ำมะมว่ ง น้ำลำไย ก. น้ำมะนำว นำ้ ส้ม นำ้ ฝรง่ั น้ำมะเขือเทศ ง. น้ำสบั ปะรด นำ้ มะขำม ค. น้ำกวี ี่ นำ้ แตงโม นำ้ เสำวรส ๘. จำกขอ้ ควำมขำ้ งต้น “กำรดม่ื น้ำอนุ่ ผสมเกลือจะช่วยภำวะใดในรำ่ งกำยให้ดีขน้ึ ” ก. ชว่ ยลดภำวะโรคสมองเส่ือม ข. ชว่ ยลดภำวะโรคกระดุกพรุน ค. ชว่ ยลดภำวะโรคกรวยไตอักเสบ ง. ชว่ ยลดเสมหะ และฆ่ำเชือ้ โรคในลำไส้เป็นอยำ่ งดี ใหน้ ักเรยี นอำ่ นข้อควำมต่อไปน้ีแล้วตอบคำถำมข้อท่ี ๙ – ๑๐ นมเป็นแหลง่ ของสำรอำหำรที่จำเป็นตอ่ รำ่ งกำยหลำยชนิด เช่น แคลเซยี ม วิตำมินบี ๒ วิตำมนิ ดี อกี ท้ังเป็นแหล่งของโปรตนี คณุ ภำพดี จงึ ทำให้นมนน้ั เปน็ อำหำรที่ถกู คัดเลอื กให้บรรจุอยู่ โภชนำบญั ญัติ และธงโภชนำกำรกระทรวงสำธำรณสขุ ๙. ใจควำมสำคัญของข้อควำมนี้ คอื ข้อใด ก. นมเปน็ แหล่งโปรตนี คุณภำพดี ข. นมเป็นแหล่งแคลเซยี มและวิตำมิน ค. นมเป็นแหล่งของสำรอำหำรทีจ่ ำเปน็ ต่อร่ำงกำย ง. นมเปน็ อำหำรท่ีถูกคัดเลือกใหบ้ รรจุอยใู่ นโภชนำบัญญตั ิ ๑๐. จำกข้อควำมข้ำงต้น “นม” เปน็ แหล่งของสำรอำหำรท่ีจำเปน็ ต่อร่ำงกำย ได้แก่สำรอำหำรในข้อใด ก. แคลเซียม วิตำมนิ เค กรดโฟลกิ ข. แคลเซยี ม ธำตุเหล็ก วิตำมนิ อี ค. แคลเซยี ม วิตำมินเอ วิตำมินซี ง. แคลเซยี ม วติ ำมนิ บี ๒ วติ ำมินดี

๕ กระดำษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนงั สือส่งเสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถ่นิ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรบั นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มท่ี ๑ จงั หวดั ของเรำยโสธร คำช้แี จง ๑. แบบทดสอบทั้งหมด ๑๐ ข้อ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน ๒. ให้นกั เรยี นทำเครอื่ งหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลือกช่องว่ำงตำมตวั อกั ษร ก. ข. ค. และ ง. ที่ถกู ที่สดุ เพียงข้อเดยี ว ข้อ ก ข ค ง ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. สรปุ คะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนต้องไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป หรอื ๘ คะแนนขน้ึ ไป ผ่ำน ไมผ่ ำ่ น



๗ ภาพสถานทสี่ าคัญและประเพณจี ังหวดั ยโสธร เมืองยโสธร เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ริมฝ่ังแม่น้ำชี ได้ชื่อว่ำ เมืองบ้ังไฟ เป็นดินแดนที่มี อดีตอันล้ำค่ำและยำวนำนกว่ำ ๒๐๐ ปี ยโสธรมีประวัติควำมเป็นมำอันยำวนำนเก่ียวพันกับเมือง หนองบัวลุมภนู ครเขื่อนขัณฑ์กำบแก้ว บัวบำน และเกี่ยวพันกับเมืองอุบลฯ ในเขตพ้ืนที่จังหวัดยโสธร ได้พบร่องรอยกำรตั้งถ่ินฐำนของมนุษย์จำกยุคประวัติศำสตร์ต่อเนื่องกันมำจนถึงยุคปัจจุบัน ชุมชน โบรำณส่วนใหญ่ต้ังอยู่ในเขตทุ่งรำบโล่งหรือบริเวณขอบชำยทุ่ง ติดกับพ้ืนที่โคกและป่ำ ได้แก่ ชุมชน โบรำณชำยขอบทุ่งกุลำรอ้ งไห้ ในเขตอำเภอมหำชนะชยั และอำเภอคอ้ วัง เชน่ ชุมชนโบรำณท่ีบ้ำนหัว เมือง บ้ำนคูเมือง บ้ำนคูสองช้ัน ในเขตอำเภอมหำชนะชัย ชุมชนโบรำณบ้ำนน้ำอ้อม บ้ำนโพนแพง บำ้ นหมำกมำย บ้ำนแข้ บำ้ นโพนเมอื ง ในเขตอำเภอค้อวัง ประมำณปี พ.ศ.๒๓๑๔ พระเจ้ำตำ เจ้ำพระวอ เสนำบดีเก่ำนครเวียงจันทน์ อพยพครอบครัวและบริวำรหนีมำเพื่อต้ังรกรำกใหม่ เนื่องจำกไม่พอใจ เจ้ำนครคนใหม่ โดยใช้ช่ือเมืองใหม่ว่ำ เมืองหนองบัวลุมภู ขณะเดียวกันพระเจ้ำศิริบุญสำร ซึ่งเป็นเจ้ำ นครเวียงจันทน์อยู่เกิดหวำดระแวงจึงยกกองทัพจำกนครเวียงจันทน์ มำปรำบปรำม พระเจ้ำตำถูกข้ำศึก ยิงดว้ ยอำวุธปืน และฟนั ด้วยดำบจนถึงแก่พิรำลัยในที่รบ เจ้ำพระวอ เจ้ำคำผง และเจ้ำฝ่ำยหน้ำผู้เป็น น้องทัง้ ๒ ของเจำ้ พระวอ อีกท้งั เจำ้ กำ่ เจ้ำทดิ พรมได้ยกทัพฝ่ำหนีออกจำกเมืองหนองบัวลุมภู ไปพ่ึงพำ เจ้ำนครจำปำศักดิ์ ขบวนทัพของเจ้ำพระวอได้เดินทำงตำมลุ่มน้ำชีมำพักกับเจ้ำคำสู ผู้ปกครองบ้ำน สิงห์ท่ำ (ปัจจุบัน คือ จังหวัดยโสธร) ภำยหลังต่อมำเจ้ำพระวอดำริว่ำหำกอยู่กับเจ้ำคำสูแล้ว ถ้ำเวียงจันทน์ยกทัพมำก็จะเป็นกำรลำบำก และจะเกิดศึกสงครำมกันต่อไป เมื่อประชุมตกลงกันแล้ว จึงไดพ้ ำไพรพ่ ลอพยพลงไปตำมลำนำ้ มลู และสร้ำงเมืองใหม่ที่ดอนวังกองเขตนครจำปำศักด์ิตำมรับส่ัง ของพระเจำ้ องค์หลวงเจ้ำนครจำปำศักดิ์ โดยเจำ้ พระวอให้ขุดคูสร้ำงคำ่ ยขึน้ เรยี กวำ่ คำ่ ยบ้ำนดบู่ ำ้ นแก

๘ ภาพริมแมน่ าชจี งั หวัดยโสธร พ.ศ. ๒๓๕๔ เจำ้ พระยำพชิ ยั รำชขัตตยิ วงศำถงึ แก่พริ ำลัย พระบำทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหลำ้ นภำลยั โปรดใหเ้ จำ้ หนู หลำนเจ้ำนครจำปำศักด์ิ ครองนครจำปำศกั ดิส์ ืบไป ฝำ่ ยเจ้ำรำชวงศส์ ิงห์ บุตรเจ้ำพระยำพชิ ยั รำชขัตติยวงศำ กลับมำอยูบ่ ้ำนเดมิ คือบ้ำนสิงห์ท่ำ และได้นำเอำอฐั ิของเจ้ำพระยำ พิชัยรำชขตั ติยวงศำ กลบั มำด้วย แนะนำมำก่อเจดยี บ์ รรจุไว้ทว่ี ัดมหำธำตุ ใกล้กบั พระธำตุพระอำนนท์ ซึ่งยังปรำกฏอยูจ่ นปจั จบุ นั พ.ศ. ๒๓๕๗ พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหลำ้ นภำลัย ไดท้ รงพระกรณุ ำโปรดเกลำ้ ฯ ให้ยก บำ้ นสิงหท์ ่ำข้ึนเปน็ เมอื งและพระรำชทำนนำมวำ่ เมืองยศสุนทร ให้เจำ้ รำชวงศ์สิงหเ์ ปน็ เจ้ำครองเมอื ง มรี ำชทินนำมว่ำ พระสุนทรรำชวงศำ เป็นเจำ้ เมืองคนแรกของเมืองยโสธร คำวำ่ ยศสนุ ทร ตอ่ มำ กลำยเปน็ ยะโสธร มีควำมหมำยว่ำ ทรงไวซ้ ึ่งยศ แต่กำรเขียนหรือกำรเรียกสนั้ ๆ วำ่ ยะโส ไมเ่ ป็นท่ี ไพเรำะหู และไมเ่ ป็นมงคลนำม ร.ต.ท.พวง ศรบี ุญลือ นำยอำเภอยะโสธร (พ.ศ. ๒๕๐๐ – ๒๕๑๓) ไดม้ ีหนงั สือขอใหเ้ ขียนช่ือเสยี ใหมเ่ ปน็ “ยโสธร” และไดร้ ับอนญุ ำตจำกกระทรวงมหำดไทย โดยควำม เห็นชอบของรำชบัณฑิตยสถำนใหเ้ ปล่ยี นได้ และใชม้ ำจนบัดนี้

๙ ภาพวดั พระธาตุ จงั หวัดยโสธร ในรัชสมยั พระบำทสมเด็จพระน่ังเกล้ำเจำ้ อยูห่ วั เมอื่ เกดิ ศึกเจ้ำอนุวงศ์เวียงจันทน์เมืองยโสธร กไ็ ด้รับเกณฑเ์ ข้ำรว่ มศึกคร้ังน้ีดว้ ยไดช้ ัยชนะ ได้รับพระรำชทำนเชลยเมอื งเวยี งจันทน์ ๕๐๐ ครอบครวั และพระรำชทำนปนื ใหญไ่ วส้ ำหรบั เมืองหนงึ่ กระบอกชื่อวำ่ ปนื นำงป้อง ยังปรำกฏอยู่ที่ศำลหลักเมอื ง ยโสธรมำจนถึงปัจจบุ ัน เม่อื พระสนุ ทรรำชวงศำเห็นได้เปน็ เจำ้ เมืองแลว้ ได้นำศิลำจำกบ้ำนแกง้ หนิ โงม มำสรำ้ งพระพุทธบำทจำลอง แล้วสรำ้ งวดั ป่ำอมั พวนั และวดั กลำงศรีไตรภมู ิไวเ้ ปน็ วดั คู่เมือง ภาพวัดป่าอัมพวนั

๑๐ ในรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๗ ได้เกิดศึกฮ่อยก กำลังมำตีเมืองหนองคำย เมืองยโสธรถูกเกณฑ์ให้ยกกำลังไปสมทบ กองทัพจำกกรุงเทพ ฯ เป็น จำนวน ๕๐๐ คน ตอ่ มำเมอื่ ปี พ.ศ. ๒๔๒๖ พวกฮ่อได้ยกกำลังมำตั้งอยู่ที่ทุ่งเชียงคำ เมืองยโสธรได้รับ เกณฑ์ให้เอำกำลังช้ำงม้ำโคต่ำง ๆ ไปเป็นพำหนะบรรทุกเสบียงไปเลี้ยงกองทัพ พ.ศ. ๒๔๓๓ สมัย รัชกำลท่ี ๕ ได้มีกำรจัดรูปกำรปกครองใหม่ หัวเมืองอีสำนชั้นเอก โท ตรี และจัตวำ ถูกรวมเข้ำ ดว้ ยกันเรียกว่ำ กอง สำหรบั เมอื งยโสธรถูกรวมเข้ำอยู่ในหัวเมืองฝ่ำยตะวันออกเฉียงเหนือ มีข้ำหลวง ต้ังกองว่ำรำชกำรอยู่ท่ีเมืองอุบล ประกอบด้วยหัวเมือง ๑๒ หัวเมือง คือ อุบลรำชธำนี กำฬสินธุ์ สุวรรณภูมิ มหำสำรคำม ร้อยเอ็ด ภูแล่นช้ำง กมลำไสย เขมรำฐ นองสองคอนดอนดง ยโสธร และ ศรสี ะเกษ ซึ่งขนึ้ ตรงต่อกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. ๒๔๓๖ เกิดกรณีพิพำทระหว่ำงไทยกับฝร่ังเศส ฝร่ังเศสได้ยกกำลังจำกเมืองญวน มำตีเมืองสมโบกของไทย เมืองยโสธรได้ถูกเกณฑ์ให้ไปช่วยรักษำเขตแดน โดยนำกำลังไปสมทบกองทัพ จำกกรงุ เทพ ฯ สำมกองทัพ กองทพั ละ ๑,๐๐๐ คน พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้ยุบเลิกมณฑลอีสำน เมืองยโสธรได้รวมเข้ำกับเมืองอุบล โดยแยกออกเป็น ๒ อำเภอ คอื อำเภออุทัยยโสธร ภำยหลังเป็นอำเภอคำเขื่อนแก้ว และอำเภอประจิมยโสธร ภำยหลัง เป็นอำเภอยโสธร ในปี พ.ศ. ๒๔๕๖ ได้เปล่ียนช่ืออำเภออุทัยยโสธร เป็นอำเภอคำเข่ือนแก้ว เปลี่ยนช่ืออำเภอ ปจมิ ยโสธร เป็นอำเภอยโสธร เมอื งยโสธร จึงลดฐำนะจำกเมืองมำเป็นอำเภอ ต้งั แต่นน้ั เปน็ ต้นมำ พ.ศ. ๒๔๙๔ กระทรวงมหำดไทยได้ริเริ่มขอต้ังอำเภอยโสธรข้ึนเป็นจังหวัด จนกระทั่งถึงวันที่ ๖ กุมภำพันธ์ ๒๕๑๕ จึงได้มีประกำศ คณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๗๐ ต้ังอำเภอยโสธรขึ้นเป็นจังหวัดยโสธร โดยมีผลบังคับใช้ต้ังแต่วันที่ ๑ มีนำคม ๒๕๑๕ โดยแยกอำเภอยโสธร อำเภอกุดชุม อำเภอเลิงนกทำ อำเภอคำเขื่อนแก้ว อำเภอมหำชนะชัย อำเภอป่ำต้ิว และ ของจังหวัดอุบลรำชธำนี รวมกันเป็น จงั หวดั ยโสธร จังหวัดท่ี ๗๑ ของประเทศไทย ไปทำกิจกรรมกันตอ่ เลย ดีกวำ่ คะนกั เรียน

๑๑

๑๒ กจิ กรรมท่ี ๑.๑ คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนทำเคร่อื งหมำยถูก () ลงในช่องท่ีถูก และทำเคร่อื งหมำยผดิ () ลงในชอ่ งท่ผี ดิ ต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง ผลวิเครำะห์ รำยกำรประเมิน ๑. เมอื งยโสธร เปน็ ดนิ แดนอันอดุ มสมบูรณร์ มิ ฝ่ังแมน่ ำ้ เจ้ำพระยำ ๒. ยโสธรไดช้ ่อื ว่ำเมอื งบ้ังไฟ เป็นดินแดนทม่ี ีอดีตอันล้ำคำ่ และยำวนำนกวำ่ ๒๐๐ ปี ๓. ยโสธรมีประวัติควำมเปน็ มำเก่ยี วพันกบั เมอื งโครำช ๔. ยโสธรมกี ำรพบร่องรอยกำรต้งั ถ่ินฐำนของมนุษยจ์ ำกยคุ ประวตั ศิ ำสตร์ ต่อเนอื่ งกนั มำจนถึงยุคปจั จบุ ัน ๕. ชุมชนโบรำณชำยขอบทุง่ กุลำร้องไห้ในเขตอำเภอมหำชนะชัย เปน็ ชมุ ชนโบรำณ อยใู่ นเขตทุ่งรำบโล่งหรือบรเิ วณขอบชำยทุง่ ตดิ กับพ้ืนทโ่ี คกและปำ่ ๖. เจำ้ รำชวงศส์ งิ ห์เป็นเจ้ำเมืองคนแรกของเมืองยโสธร ๗. ร.ต.ท.พวง ศรีบุญลือ นำยอำเภอยะโสธร ไดข้ อให้เขยี นชอ่ื ใหม่เปน็ “ยโสธร” ๘. พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัยไดท้ รงพระกรุณำโปรดเกลำ้ ฯ ให้ เจ้ำ รำชวงศส์ ิงหเ์ ป็นเจำ้ ครองเมืองมีรำชทนิ นำมวำ่ พระสนุ ทรรำชวงศำ ๙. พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัยได้ทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ ใหย้ ก บ้ำนสิงหท์ ่ำขน้ึ เป็นเมอื งและพระรำชทำนนำมวำ่ เมอื งยศสนุ ทร ๑๐. คำว่ำ ยศสนุ ทร ต่อมำกลำยเป็น ยะโสธร มีควำมหมำยวำ่ ทรงไว้ซ่ึงสมบัติ สรปุ คะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนตอ้ งได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป หรอื ๘ คะแนนขึน้ ไป ผ่ำน ไม่ผ่ำน

๑๓ กจิ กรรมที่ ๑.๒ คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นวิเครำะห์ข้อควำมต่อไปนแ้ี ลว้ จับคคู่ ำตอบให้ถูก ก. เปน็ จังหวัดที่ ๗๑ ข. เมืองญวน ค. จงั หวัดยโสธร ง. วัดมหำธำตุ จ. อำเภอคำเขื่อนแกว้ ช. เมืองอุบล ฉ. ยคุ ประวัติศำสตร์ ซ. แม่นำ้ ชี ฌ. เมืองยโสธร ................... ๑. เมืองยโสธร เปน็ ดนิ แดนอันอุดมสมบูรณ์รมิ ฝ่งั ……………………………………………………… ................... ๒. ยโสธรมกี ำรพบร่องรอย………………………………………………………………………..…………… ................... ๓. ………………………………………….ใกล้กับพระธำตพุ ระอำนนทซ์ ่ึงยงั ปรำกฏอยจู่ นปจั จบุ นั ................... ๔. อฐั ขิ องเจ้ำพระยำพิชยั รำชขตั ติยวงศำ อยู่ในเจดียบ์ รรจไุ ว้ที่…………………………………… ................... ๕. กรณีพพิ ำทระหวำ่ งไทยกบั ฝรง่ั เศส ฝรง่ั เศสได้ยกกำลังจำก……………………………………. ………………………………………………………………………….…………มำตีเมืองสมโบกของไทย ................... ๖. กรณีพพิ ำทระหวำ่ งไทยกับฝร่ังเศส...……………………ได้ถูกเกณฑ์ให้ไปช่วยรักษำเขตแด ................... ๗. กสนยบุ เลกิ มณฑลอสี ำน เมืองยโสธรไดร้ วมเข้ำกับ……………………………………………..… ................... ๘. ไดเ้ ปลี่ยนชือ่ อำเภออุทยั ยโสธร เป็น……….……..…..………………………………………………... ................... ๙. พ.ศ. ๒๔๙๔ ตั้งอำเภอยโสธรขน้ึ เป็น……………….……..…………………………………………… ................... ๑๐. จงั หวดั ยโสธร.................................................……………………………ของประเทศไทย สรุปคะแนนที่ได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมินนกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป หรือ ๘ คะแนนข้ึนไป ผำ่ น ไม่ผำ่ น

๑๔ กิจกรรมที่ ๑.๓ คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนอ่ำนจับใจควำมสำคญั เรอ่ื ง จังหวัดของเรำยโสธร จำกน้นั ทำกิจกรรม ท้งั หมด ๒ ตอน ให้เรยี บร้อย ตอนที่ ๑ ใหน้ กั เรยี นตอบคำถำมตอ่ ไปน้ี ๑. เมืองยโสธร เปน็ ดินแดนอนั อุดมสมบรู ณ์อย่ฝู ่ังแม่น้ำใด และมีชอื่ ว่ำอยำ่ งไร ตอบ .................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ๒. ในเขตพ้ืนที่จังหวดั ยโสธร ได้พบร่องรอยใดเกีย่ วกบั กำรตงั้ ถิน่ ฐำน ตอบ .................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ๓. เมอ่ื พ.ศ. ๒๓๕๗ พระบำทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหล้ำนภำลัย ได้ทรงพระกรุณำโปรดเกลำ้ ฯ ใหย้ ก บำ้ นสงิ ห์ทำ่ ขน้ึ เปน็ เมอื งและพระรำชทำนนำมว่ำอย่ำงไร ตอบ .................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ๔. เจำ้ รำชวงศส์ งิ ห์เป็นเจำ้ ครองเมืองคนแรกของเมอื งยโสธร มีรำชทินนำมว่ำอย่ำงไร ตอบ .................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ๕. คำว่ำ “ยศสุนทร” ตอ่ มำกลำยเปน็ คำว่ำใด และมีควำมหมำยว่ำอย่ำงไร ตอบ .................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ตอนท่ี ๒ เขียนสรปุ ใจควำมสำคญั และแสดงควำมคิดเห็นทีม่ ีต่อเร่อื งท่ีอ่ำน ............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. สรปุ คะแนนที่ได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๘ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนตอ้ งไดค้ ะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป หรอื ๑๔ คะแนนขึน้ ไป ผ่ำน ไมผ่ ่ำน

๑๕ กิจกรรมท่ี ๑.๔ คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนอำ่ นเรือ่ งตอ่ ไปน้ี แล้วเตมิ คำตอบให้ถกู ตอ้ ง ปฏบิ ตั ิงำน องค์กำรบรหิ ำรสว่ นจงั หวดั รฐั ธรรมนูญ จังหวดั ยโสธร คุณภำพชวี ิต องค์กร องค์กรพัฒนำ รำชกำร ส่วนทอ้ งถ่ิน กำรบรหิ ำรรำชกำรจงั หวดั …………………..…………มกี ำรบรหิ ำรรำชกำรในจงั หวัดประกอบด้วย ๑) …………………………บรหิ ำรสว่ น ภูมภิ ำคระดบั จังหวดั จำนวน ๓๔ หนว่ ยงำน มีจำนวนข้ำรำชกำร จำนวน ๒,๓๖๓ คน และลูกจ้ำง จำนวน ๒๑๘ คน (๒๑ ส่วนรำชกำร) ๒) รำชกำรบรหิ ำรส่วนกลำงระดับจงั หวดั ท่ี………………….……… ในจังหวดั จำนวน ๓๗ หน่วยงำน ๓) รำชกำรบรหิ ำร…………………………….……… จำนวน ๘๘ แห่ง แยกเป็น ………………………………………..…… ๑ แหง่ เทศบำลเมอื ง ๑ แห่งเทศบำลตำบล ๒๓ แห่ง และ องค์กำรบรหิ ำรส่วนตำบล ๖๓ แหง่ ๔) หนว่ ยงำนรัฐวิสำหกิจ จำนวน ๖ หนว่ ยงำน และ ๕) องค์ ภำยใต…้ ………………………………… จำนวน ๘ หนว่ ยงำน ………………………..…………มีองค์กรเอกชนใน หลำยลกั ษณะเพื่อพัฒนำสงั คม ………………………………….…… และสง่ เสรมิ อำชีพ ได้แก่ มูลนธิ ิ สมำคม สโมสรชมรม และกลมุ่ อำชีพต่ำง ๆซ่ึง…………………………………………………ทเี่ ด่นชดั และมีบทบำท เชน่ เหล่ำกำชำดจังหวดั หอกำรค้ำจังหวัด สภำอุตสำหกรรมจังหวัดสมำคมสตรนี ักธุรกจิ และวิชำชีพ จังหวดั สมำคมธรุ กจิ ท่องเทีย่ วจังหวดั มลู นธิ ริ วมสำมคั คี และกลมุ่ อำชพี ในพน้ื ท่ีทเ่ี ปน็ …………………… อำชพี สรำ้ งรำยได้ที่มีกจิ กรรมตอ่ เนื่อง อำทิกลมุ่ เกษตรอนิ ทรีย์ สรปุ คะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนตอ้ งได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป หรือ ๘ คะแนนขนึ้ ไป ผ่ำน ไมผ่ ำ่ น

๑๖ กิจกรรมที่ ๑.๕ คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนอ่ำนบทควำมต่อไปนี้ แล้วเติมคำตอบใหถ้ ูกต้อง วติ ำมนิ เอ เป็นวิตำมินที่มคี วำมสำคญั ต่อดวงตำ ชว่ ยบำรงุ สำยตำ และกำรมองเห็นทงั้ ใน ทส่ี ว่ำงเเละทม่ี ดื แหลง่ อำหำรทีพ่ บ ได้แก่ แครอท น้ำมันตับปลำ ตบั สตั ว์ ผกั ใบเขยี ว ผักผลไมท้ ่ีมสี ี เหลือง ไข่ นม เนย ในกำรกนิ อหำรเพื่อบำรุงสำยตำแลว้ อย่ำลมื กำรถนอมสำยตำดว้ ยกำรสวมแวน่ กนั แดดในแสงจ้ำ หรอื หลกี เล่ียงกำรใชส้ ำยตำเพง่ ในที่ทีแ่ สงไมเ่ พยี งพอ ๑. วิตำมินเอ มีควำมสำคัญต่อร่ำงกำยอยำ่ งไร ตอบ ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................. ................................................... ๒. เรำไมพ่ บวติ ำมนิ เอในสำรอำหำรใด ตอบ ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ................................... ๓. ผักผลไมส้ เี หลอื งอุดมไปด้วยวิตำมินชนดิ ใด ตอบ .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ๔. เพอ่ื เป็นกำรถนอมสำยตำเรำควรทำอยำ่ งไรเม่ือต้องออกแดดในเวลำกลำงวนั ตอบ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................. .............................. ๕. พฤติกรรมแบบใด ท่ีไมเ่ ป็นกำรถนอมสำยตำ ตอบ .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... สรปุ คะแนนที่ได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนต้องได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป หรือ ๘ คะแนนข้นึ ไป ผำ่ น ไมผ่ ำ่ น

๑๗ กิจกรรมท่ี ๑.๖ คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนอ่ำนจับใจควำมสำคัญเรื่องตอ่ ไปนี้ดว้ ยเทคนิค Sq๔r ลกั ษณะทำงกำยภำพของยโสธร ที่ต้ัง จังหวัดยโสธรต้ังอยู่ทำงภำคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยห่ำงจำกกรุงเทพมหำนคร โดยทำงรถยนต์ประมำณ ๕๓๑ กิโลเมตร (ทำงหลวงแผ่นดิน หมำยเลข ๑, ๒, ๒๐๒) และอยู่ในกลุ่มจังหวัด ภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนลำ่ ง ๒ (อบุ ลรำชธำนี ศรสี ะเกษ ยโสธร อำนำจเจริญ) ขนำดพน้ื ท่ี จงั หวัดยโสธรมีพนื้ ท่ี ๔,๑๖๑.๖๖๔ ตำรำงกโิ ลเมตร หรือ ๒,๖๐๑,๐๔๐ ไร่ คดิ เปน็ ร้อย ละ ๐.๘๑ ของพื้นที่ท่วั ประเทศ (๓๒๑ ล้ำนไร่) และคิดเปน็ ร้อยละ ๑๒.๘๙ ของพื้นทก่ี ลุ่มจังหวดั อำณำเขต จงั หวดั ยโสธรมีอำณำเขตตดิ ต่อกับจังหวดั ใกล้เคียง ดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดร้อยเอ็ดและมุกดำหำร ทศิ ตะวนั ออก ตดิ ตอ่ กับจงั หวดั อำนำจเจริญและอบุ ลรำชธำนี ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดศรสี ะเกษ ทิศตะวนั ตก ตดิ ต่อกับจงั หวดั ร้อยเอ็ด ลักษณะภูมิประเทศและภูมิอำกำศ จังหวัดมีพ้ืนที่เป็นรูปพระจันทร์เส้ียว พ้ืนที่ส่วนใหญ่เป็นท่ีรำบ สูงและป่ำโปร่ง อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมำณ ๒๒๗ ฟุต ทำงตอนเหนือบริเวณพ้ืนท่ีอำเภอเลิงนกทำและ อำเภอกุดชมุ บำงสว่ นเปน็ ภเู ขำ ถอื เปน็ อำณำเขตของเทือกเขำภูพำน แหล่งน้ำธรรมชำติที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำ ชี ลำเซบำย ห้วยโพง ลำยัง และมีลักษณะภูมิอำกำศร้อนจัดในฤดูร้อนและหนำวจัดในฤดูหนำว ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ มีฝนตก จำนวน ๘๒ วัน ปริมำณน้ำฝนวดั ได้ ๑,๔๖๐.๙ มิลลิเมตร อุณหภูมิสูงสุด ๓๘ องศำเซลเซียส ในเดอื นมีนำคม เมษำยน และพฤษภำคม อุณหภมู ติ ่ำสดุ ๑๑.๐ องศำเซลเซียสในเดอื นธันวำคม ๑. Survey (S) สำรวจและอ่ำนแบบคร่ำว ๆ ตอบ ............................................................................................................................. ..................... ๒. Question (Q) อ่ำนบทควำมและตัง้ คำถำม ตอบ ............................................................................................................................. ..................... ๓. Read (R) อำ่ นซำ้ และหำคำตอบจำกข้อที่ ๒ ตอบ ............................................................................................................................. ..................... ๔. Record (R) จดบันทึกข้อมูลทสี่ ำคัญ ตอบ .................................................................................................................................................. ๕. Recite (R) สรปุ ใจควำมสำคญั ของเรื่อง ตอบ ............................................................................................................................. ..................... สรุปคะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นกั เรียนต้องได้คะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป หรอื ๑๒ คะแนนขึ้นไป ผ่ำน ไม่ผ่ำน

๑๘ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนงั สอื ส่งเสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถิน่ กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เล่มท่ี ๑ จงั หวัดของเรำยโสธร คำชแี้ จง ๑. แบบทดสอบท้ังหมด ๑๐ ขอ้ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ๒. ให้นกั เรยี นทำเครอ่ื งหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลือกช่องว่ำงตำมตวั อกั ษร ก. ข. ค. และ ง. ทีถ่ กู ที่สุดเพียงข้อเดยี ว ๑. ขอ้ ใดตอ่ ไปนก้ี ล่ำวถูกต้องที่สดุ เกย่ี วกับควำมเป็นมำของจงั หวัดยโสธร ก. เจ้ำรำชวงศส์ ิงหเ์ ปน็ เจ้ำเมอื งคนแรกของเมืองยโสธร ข. ยโสธรมปี ระวัติควำมเปน็ มำเก่ียวพนั กับเมืองโครำช ค. เมอื งยโสธร เปน็ ดนิ แดนอันอดุ มสมบูรณร์ มิ ฝัง่ แม่น้ำเจำ้ พระยำ ง. คำว่ำ ยศสุนทร ตอ่ มำกลำยเป็น ยะโสธร มีควำมหมำยว่ำ ทรงไว้ซง่ึ สมบัติ ๒. เมืองยโสธร เป็นดินแดนอันอดุ มสมบูรณร์ มิ ฝ่ังแม่นำ้ อะไร ก. แม่นำ้ ตำปี ข. แม่นำ้ ววั ค. แมน่ ้ำปิง ง. แม่น้ำชี ๓. อฐั ขิ องเจ้ำพระยำพชิ ัยรำชขัตติยวงศำ อยูใ่ นเจดีย์บรรจไุ ว้ท่ใี ด ก. วัดกลำงศรไี ตรภูมิ ข. วดั มหำธำตุ ค. วัดพระพทุ ธบำท ง. วดั ปำ่ อัมพวนั ๔. กรณพี ิพำทระหว่ำงไทยกับฝร่งั เศส ฝรัง่ เศสได้ยกกำลังจำกเมืองญวนมำตีเมืองใด ก. เมืองอุบล ข. เมืองสมโบกของไทย ค. เมอื งญวน ง. เมืองโครำช ๕. กำรยบุ เลกิ มณฑลอสี ำน เมืองยโสธรไดร้ วมเข้ำกบั เมืองอะไร ก. เมอื งอุบล ข. เมอื งสมโบกของไทย ค. เมอื งญวน ง. เมืองโครำช ๖. จังหวัดยโสธรเปน็ จังหวัดท่ีเทำ่ ไรของประเทศไทย ข. ๗๑ ก. ๗๐ ง. ๗๗ ค. ๗๒

๑๙ ใหน้ ักเรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปนแ้ี ลว้ ตอบคำถำมข้อท่ี ๗ – ๘ กำรด่ืมน้ำผลไมต้ ำ่ ง ๆ ท่ีมวี ิตำมนิ ซสี ูง ๆ เชน่ น้ำมะนำว นำ้ ส้ม นำ้ ฝรัง่ นำ้ มะเขือเทศ กส็ ำมำรถชว่ ยให้อำกำรหวดั หำยเร็วข้นึ เชน่ กัน รวมไปถงึ กำรด่ืมนำ้ อนุ่ ผสมเกลือลงไปเลก็ น้อย จบิ น้ำอุ่นผสมเกลือเรอื่ ย ๆ ทั้งวนั กเ็ ป็นกำรช่วยลดเสมหะ และฆำ่ เชื้อโรคในลำไส้เป็นอย่ำงดี ๗. ขอ้ ใด คอื ผลไม้ทใี่ หว้ ิตำมินซสี งู ข. น้ำกีว่ี น้ำแตงโม นำ้ เสำวรส ก. น้ำมะนำว น้ำสม้ น้ำฝรัง่ นำ้ มะเขือเทศ ง. นำ้ สบั ปะรด น้ำมะขำม ค. น้ำองุน่ น้ำมะมว่ ง นำ้ ลำไย ๘. จำกขอ้ ควำมข้ำงตน้ “กำรดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือจะช่วยภำวะใดในรำ่ งกำยให้ดีขนึ้ ” ก. ช่วยลดเสมหะและฆ่ำเช้อื โรคในลำไส้เป็นอย่ำงดี ข. ช่วยลดภำวะโรคกระดกุ พรุน ค. ช่วยลดภำวะโรคกรวยไตอกั เสบ ง. ชว่ ยลดภำวะโรคสมองเสอ่ื ม ใหน้ ักเรยี นอำ่ นขอ้ ควำมต่อไปนแ้ี ล้วตอบคำถำมข้อท่ี ๙ – ๑๐ นมเปน็ แหลง่ ของสำรอำหำรที่จำเป็นต่อร่ำงกำยหลำยชนิด เชน่ แคลเซยี ม วติ ำมินบี ๒ วติ ำมนิ ดี อกี ทงั้ เปน็ แหล่งของโปรตีนคุณภำพดี จงึ ทำใหน้ มนน้ั เปน็ อำหำรท่ีถูกคดั เลือกให้บรรจอุ ยู่ โภชนำบญั ญตั ิ และธงโภชนำกำรกระทรวงสำธำรณสุข ๙. ใจควำมสำคัญของข้อควำมน้ี คอื ข้อใด ก. นมเปน็ อำหำรที่ถูกคดั เลือกให้บรรจอุ ยูใ่ นโภชนำบญั ญตั ิ ข. นมเป็นแหลง่ ของสำรอำหำรทจ่ี ำเป็นตอ่ รำ่ งกำย ค. นมเป็นแหลง่ แคลเซียมและวิตำมนิ ง. นมเปน็ แหลง่ โปรตีนคุณภำพดี ๑๐. จำกข้อควำมขำ้ งต้น “นม” เป็นแหล่งของสำรอำหำรทจี่ ำเป็นต่อร่ำงกำย ได้แกส่ ำรอำหำรในข้อใด ก. แคลเซยี ม วติ ำมนิ เค กรดโฟลิก ข. แคลเซยี ม ธำตเุ หล็ก วติ ำมนิ อี ค. แคลเซยี ม วติ ำมินบี ๒ วิตำมินดี ง. แคลเซยี ม วติ ำมินเอ วติ ำมนิ ซี

๒๐ กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรียน หนังสอื ส่งเสรมิ กำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถ่นิ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มท่ี ๑ จงั หวัดของเรำยโสธร คำช้ีแจง ๑. แบบทดสอบทั้งหมด ๑๐ ขอ้ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน ๒. ให้นกั เรียนทำเคร่ืองหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลือกช่องว่ำงตำมตวั อกั ษร ก. ข. ค. และ ง. ทีถ่ กู ท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว ข้อ ก ข ค ง ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. สรุปคะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมินนักเรียนตอ้ งไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไป หรอื ๘ คะแนนข้นึ ไป ผ่ำน ไม่ผ่ำน

๒๑ บรรณำนกุ รม กมลเนตร คำไสย.์ (๒๕๔๙). กำรพฒั นำกำรเรียนรกู้ ำรอ่ำนจับใจควำมบทร้อยกรองภำษำไทย ชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี ๒ ดว้ ยกระบวนกำรกลุ่มท่ใี ช้แผนผังควำมร.ู้ วทิ ยำนิพนธ์กำรศึกษำ มหำบัณฑิต คณะศึกษำศำสตร์ สำขำวิชำหลกั สูตรและกำรสอน มหำวิทยำลัย มหำสำรคำม. กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร. (๒๕๔๕). คูพ่ ฒั นำสื่อกำรเรยี นร.ู้ กรุงเทพฯ : กรุงเทพฯ : ครุ สุ ภำลำดพร้ำว. _______.(๒๕๕๒). มำตรฐำนกำรเรียนรแู้ ละตัวชวี้ ัด กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย. ตำมหลักสตู ร แกนกลำงกำรศกึ ษำข้ึนพื้นฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ : ชุมชนสหกรณก์ ำรเกษตร แหง่ ประเทศไทย. _______. (๒๕๕๒). แนวทำงกำรจดั กำรเรียนรู้ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพนื้ ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : สำนกั วชิ ำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ สำนกั งำน คณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน. _______.(๒๕๕๒). แนวกำรวัดผลและประเมินผลกำรเรียนรู้ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ข้ันพนื้ ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ : สำนกั วิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขัน้ พน้ื ฐำน. _______. (๒๕๔๕). เทคนิคกำรเขยี นหนังสอื สำหรบั เดก็ . กรุงเทพฯ : ครุสภำลำดพร้ำว. กำญจนำ สุรยิ ะวิทยะ. (๒๕๕๓). กำรพฒั นำหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำน เรอื่ งประเพณีทอ้ งถ่นิ สกลนคร เพื่อฝึกทักษะกำรอำ่ นและกำรเขียนภำษำไทย ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี ๒. วิทยำนิพนธ์ ครุ ศำสตร มหำบณั ฑติ สำขำหลักสูตรและกำรสอน มหำวิทยำลยั รำชภัฏสกลนคร. กำนต์มณี ศกั ดิเ์ จริญ. (๒๕๔๓). กิจกรรมส่งเสริมกำรอำ่ น. กรุงเทพฯ : คุรสุ ภำลำดพร้ำว. กุลวรำ ชูพงษไ์ พโรจน.์ (๒๕๔๕). หนงั สอื ทำมอื ทำไดง้ ำ่ ยจัง. กรุงเทพฯ : เอดิสันเพรส โพรดกั ส์. กุศยำ แสงเดช และคนคณะ (๒๕๔๕). หนังสอื ส่งเสริมกำรอ่ำน. กรงุ เทพฯ : แมค็ . สำลี รกั สทุ ธ.ี (๒๕๕๓). ค่มู อื กำรจดั ทำสอื่ นวัตกรรม และแผนฯ และกอบสื่อ นวัตกรรม. กรุงเทพฯ : พฒั นำศึกษำ. สนุ ันทำ มน่ั เศรษฐวิทย.์ (๒๕๔๕). หลักและวธิ กี ำรสอนอำ่ นภำษไทย. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนำพำณิช. สุวทิ ย์ มูลคำ และสนุ ันทำ สุนทรประเสรฐิ . (๒๕๕๐). กำรพฒั นำผลงำนทำงวิชำกำร สกู่ ำรเลือ่ น วิทยฐำนะ. กรุงเทพฯ : อี เค บคุ ส์. สำนกั งำนจงั หวดั ยโสธร. (๒๕๕๐). กลมุ่ งำนข้อมูลสำรสนเทศจังหวัดยโสธร. สืบคน้ ออนไลนท์ ่ี : http://www.yasothon.go.th/web.

๒๒

๒๓ เฉลยกิจกรรมที่ ๑.๑ คำช้ีแจง ให้นักเรียนทำเครอื่ งหมำยถกู () ลงในช่องที่ถกู และทำเคร่ืองหมำยผิด () ลงในชอ่ งท่ีผิดต่อไปนใี้ หถ้ ูกต้อง ผลวเิ ครำะห์ รำยกำรประเมิน  ๑. เมอื งยโสธร เปน็ ดนิ แดนอันอุดมสมบรู ณ์รมิ ฝ่ังแม่นำ้ เจ้ำพระยำ   ๒. ยโสธรได้ชอ่ื วำ่ เมืองบั้งไฟ เป็นดนิ แดนท่ีมีอดีตอนั ล้ำคำ่ และยำวนำนกวำ่ ๒๐๐ ปี  ๓. ยโสธรมปี ระวตั ิควำมเปน็ มำเกยี่ วพันกับเมืองโครำช  ๔. ยโสธรมกี ำรพบร่องรอยกำรตัง้ ถน่ิ ฐำนของมนุษยจ์ ำกยุคประวัตศิ ำสตร์ ตอ่ เนอ่ื งกันมำจนถงึ ยุคปัจจบุ ัน  ๕. ชุมชนโบรำณชำยขอบทุง่ กุลำร้องไหใ้ นเขตอำเภอมหำชนะชัย เปน็ ชมุ ชนโบรำณ  อยู่ในเขตทงุ่ รำบโล่งหรอื บรเิ วณขอบชำยท่งุ ติดกับพ้นื ท่โี คกและปำ่  ๖. เจ้ำรำชวงศ์สงิ หเ์ ปน็ เจำ้ เมอื งคนแรกของเมืองยโสธร  ๗. ร.ต.ท.พวง ศรบี ญุ ลือ นำยอำเภอยะโสธร ไดข้ อใหเ้ ขียนชือ่ ใหม่เปน็ “ยโสธร”  ๘. พระบำทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหล้ำนภำลยั ไดท้ รงพระกรุณำโปรดเกลำ้ ฯ ให้ เจ้ำรำชวงศ์สิงหเ์ ปน็ เจ้ำครองเมืองมรี ำชทินนำมวำ่ พระสนุ ทรรำชวงศำ ๙. พระบำทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หลำ้ นภำลยั ได้ทรงพระกรุณำโปรดเกลำ้ ฯ ใหย้ ก บำ้ นสิงหท์ ่ำขึน้ เปน็ เมอื งและพระรำชทำนนำมวำ่ เมอื งยศสุนทร ๑๐. คำว่ำ ยศสนุ ทร ตอ่ มำกลำยเป็น ยะโสธร มคี วำมหมำยว่ำ ทรงไว้ซึ่งสมบตั ิ อยำ่ ลืมทวนคำตอบนะคะ นักเรยี น

๒๔ เฉลยกจิ กรรมที่ ๑.๒ คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นวเิ ครำะหข์ ้อควำมตอ่ ไปนีแ้ ล้วจับคู่คำตอบให้ถูก ก. เปน็ จังหวดั ท่ี ๗๑ ข. เมืองญวน ค. จังหวดั ยโสธร ง. วดั มหำธำตุ จ. อำเภอคำเขื่อนแกว้ ฉ. ยุคประวัตศิ ำสตร์ ช. เมืองอุบล ซ. แมน่ ำ้ ชี ฌ. เมอื งยโสธร ......ช.....๑. เมืองยโสธร เป็นดนิ แดนอนั อุดมสมบรู ณ์ริมฝัง่ แมน่ ้ำชี ......ฉ.....๒. ยโสธรมกี ำรพบรอ่ งรอย ยุคประวตั ศิ ำสตร์ ......ง.....๓. วดั มหำธำตุใกลก้ บั พระธำตุพระอำนนท์ซึง่ ยังปรำกฏอยู่จนปัจจุบัน ......ง.....๔. อฐั ิของเจ้ำพระยำพิชัยรำชขัตตยิ วงศำ อย่ใู นเจดยี บ์ รรจไุ ว้ท่ี วดั มหำธำตุ ......ข.....๕. กรณพี พิ ำทระหว่ำงไทยกับฝรัง่ เศส ฝรั่งเศสไดย้ กกำลังจำก เมืองญวน มำตเี มืองสมโบกของไทย ......ณ....๖. กรณีพพิ ำทระหวำ่ งไทยกบั ฝรงั่ เศส เมืองยโสธร ได้ถูกเกณฑ์ให้ไปช่วยรกั ษำเขตแด ......ช.....๗. กสนยบุ เลกิ มณฑลอีสำน เมืองยโสธรได้รวมเข้ำกับ เมอื งอบุ ล ......จ.....๘. ไดเ้ ปลย่ี นชือ่ อำเภออทุ ยั ยโสธร เปน็ อำเภอคำเข่อื นแกว้ ......ค.....๙. พ.ศ. ๒๔๙๔ ต้งั อำเภอยโสธรขึ้นเป็น จงั หวัดยโสธร ......ก.....๑๐. จังหวัดยโสธร เปน็ จงั หวดั ที่ ๗๑ ของประเทศไทย ไม่ยำกเลยใชไ่ หมคะ นักเรียน

๒๕ เฉลยกิจกรรมท่ี ๑.๓ คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นอำ่ นจบั ใจควำมสำคัญ เร่ือง จังหวดั ของเรำยโสธร จำกน้นั ทำกจิ กรรม ท้งั หมด ๒ ตอน ใหเ้ รยี บรอ้ ย ตอนท่ี ๑ ให้นกั เรยี นตอบคำถำมต่อไปนี้ ๑. เมืองยโสธร เปน็ ดนิ แดนอันอุดมสมบูรณ์อยฝู่ ัง่ แมน่ ้ำใด และมชี อื่ ว่ำอย่ำงไร ตอบ รมิ ฝ่งั แม่น้ำชี ได้ช่อื วำ่ เมืองบั้งไฟ เป็นดนิ แดนท่ีมอี ดตี อนั ล้ำค่ำและยำวนำนกวำ่ ๒๐๐ ปี ๒. ในเขตพื้นท่ีจงั หวดั ยโสธร ได้พบร่องรอยใดเกยี่ วกบั กำรต้ังถ่นิ ฐำน ตอบ พบรอ่ งรอยกำรต้งั ถิ่นฐำนของมนษุ ย์จำกยุคประวัติศำสตรต์ ่อเน่อื งกันมำจนถึงยคุ ปจั จบุ ัน ชมุ ชนโบรำณสว่ นใหญ่ตง้ั อยู่ในเขตทงุ่ รำบโล่งหรือบริเวณขอบชำยทุง่ ติดกบั พน้ื ท่ีโคกและปำ่ ๓. เมอ่ื พ.ศ. ๒๓๕๗ พระบำทสมเด็จพระพุทธเลศิ หลำ้ นภำลยั ได้ทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ ใหย้ ก บ้ำนสงิ หท์ ่ำขึน้ เปน็ เมอื งและพระรำชทำนนำมวำ่ อย่ำงไร ตอบ เมอื งยศสนุ ทร ๔. เจ้ำรำชวงศ์สิงห์เปน็ เจำ้ ครองเมืองคนแรกของเมืองยโสธร มรี ำชทนิ นำมวำ่ อย่ำงไร ตอบ พระสุนทรรำชวงศำ เปน็ เจ้ำเมอื งคนแรก ๕. คำว่ำ “ยศสนุ ทร” ตอ่ มำกลำยเปน็ คำว่ำใด และมีควำมหมำยวำ่ อยำ่ งไร ตอบ ยะโสธร มคี วำมหมำยว่ำ ทรงไว้ซง่ึ ยศ ตอนท่ี ๒ เขยี นสรุปใจควำมสำคัญ และแสดงควำมคิดเห็นทีม่ ีต่อเรอื่ งที่อำ่ น ตอบ พ.ศ. ๒๔๙๔ กระทรวงมหำดไทยได้รเิ ร่ิมขอตั้งอำเภอยโสธรขึ้นเป็นจงั หวดั จนกระทง่ั ถงึ วันที่ ๖ กมุ ภำพันธ์ ๒๕๑๕ จงึ ได้มีประกำศ คณะปฏวิ ัติ ฉบับท่ี ๗๐ ตัง้ อำเภอยโสธรข้นึ เป็นจังหวัดยโสธร โดยมีผลบงั คับใช้ตงั้ แต่วันท่ี ๑ มนี ำคม ๒๕๑๕ โดยแยกอำเภอยโสธร อำเภอกดุ ชมุ อำเภอเลิงนกทำ อำเภอคำเข่ือนแกว้ อำเภอมหำชนะชยั อำเภอปำ่ ต้ิว และ ของจงั หวัดอุบลรำชธำนี รวมกันเปน็ จังหวดั ยโสธร จังหวัดท่ี ๗๑ ของประเทศไทย

๒๖ แบบประเมนิ กำรร่วมกิจกรรมที่ ๑.๓ ช่ือ........................................................…นำมสกลุ .............................................เลขท่ี........................ ผู้ประเมิน นกั เรียน เพ่ือน ครู คำชแ้ี จง ใหท้ ำเครื่องหมำยถูกต้อง  ลงในช่องวำ่ งระดบั คะแนนที่ตรงกบั ควำมเป็นจริงมำกทส่ี ุด โดยจดั ระดบั คุณภำพเป็น ๓ ระดับ ตำมเกณฑ์ตอ่ ไปนี้ ๓ หมำยถงึ สำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมได้ถกู ตอ้ ง ชัดเจน และตรงประเดน็ ๒ หมำยถงึ สำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมไม่คอ่ ยถูกต้อง และไมค่ ่อยตรงประเดน็ ๑ หมำยถงึ ไมส่ ำมำรถอธิบำย ตอบคำถำมได้ถกู ต้อง ชัดเจน และตรงประเด็น รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน ๓๒๑ ตอนที่ ๑ ให้นักเรียนตอบคำถำมใหถ้ กู ต้อง ๑. เมืองยโสธร เป็นดินแดนอันอดุ มสมบรู ณอ์ ยู่ฝั่งแมน่ ้ำใด และมชี ื่อวำ่ อยำ่ งไร ๒. ในเขตพ้ืนท่ีจังหวดั ยโสธร ไดพ้ บร่องรอยใดเก่ียวกบั กำรต้งั ถิ่นฐำน ๓. เมอ่ื พ.ศ. ๒๓๕๗ พระบำทสมเด็จพระพุทธเลศิ หลำ้ นภำลยั ได้ทรงพระ กรณุ ำโปรดเกล้ำฯ ให้ยกบ้ำนสงิ ห์ท่ำขนึ้ เปน็ เมืองและพระรำชทำนนำมวำ่ อยำ่ งไร ๔. เจำ้ รำชวงศส์ ิงหเ์ ปน็ เจำ้ ครองเมืองคนแรกของเมืองยโสธร มีรำชทินนำมว่ำ อย่ำงไร ๕. คำวำ่ “ยศสุนทร” ต่อมำกลำยเป็นคำวำ่ ใด และมคี วำมหมำยวำ่ อยำ่ งไร ตอนที่ ๒ เขียนสรปุ ใจควำมสำคญั และแสดงควำมคดิ เห็นทมี่ ตี ่อเรือ่ งท่ีอำ่ น - สรปุ ใจควำมสำคัญและแสดงควำมคิดเหน็ คะแนนรวมแตล่ ะช่อง สรุปคะแนนท่ีได้ (หำรด้วยสอง) เกณฑ์กำรประเมิน ผ่ำนเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ผลกำรประเมิน นักเรยี นได้คะแนน ๑๔ คะแนนขึ้นไป จึงถือว่ำผำ่ น  ผ่ำน  ไม่ผำ่ น ลงชือ่ ..................................................ผูป้ ระเมนิ (.................................................)

๒๗ เฉลยกจิ กรรมที่ ๑.๔ คำชีแ้ จง ให้นักเรียนอ่ำนเร่อื งตอ่ ไปน้ี แล้วเติมคำตอบให้ถูกตอ้ ง ปฏิบัติงำน องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัด รฐั ธรรมนูญ จังหวัดยโสธร คณุ ภำพชีวติ องค์กร องค์กรพัฒนำ รำชกำร ส่วนท้องถ่ิน กำรบรหิ ำรรำชกำรจงั หวดั จังหวัดยโสธรมีกำรบริหำรรำชกำรในจังหวัดประกอบด้วย ๑) รำชกำรบริหำรส่วนภูมิภำค ระดับจังหวัด จำนวน ๓๔ หน่วยงำน มีจำนวนข้ำรำชกำร จำนวน ๒,๓๖๓ คน และลูกจ้ำง จำนวน ๒๑๘ คน (๒๑ สว่ นรำชกำร) ๒) รำชกำรบรหิ ำรส่วนกลำงระดับจังหวัดที่ปฏิบัติงำนในจังหวัด จำนวน ๓๗ หน่วยงำน ๓) รำชกำรบริหำรสว่ นทอ้ งถิน่ จำนวน ๘๘ แห่ง แยกเป็น องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัด ๑ แห่ง เทศบำลเมือง ๑ แห่งเทศบำลตำบล ๒๓ แห่ง และองค์กำรบริหำรส่วนตำบล ๖๓ แห่ง ๔) หน่วยงำนรัฐวิสำหกิจ จำนวน ๖ หน่วยงำน และ ๕) องค์ภำยใต้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๘ หน่วยงำน จังหวัดยโสธรมีองคก์ รเอกชนในหลำยลกั ษณะเพือ่ พัฒนำสังคม คุณภำพชีวิต และส่งเสริมอำชีพ ได้แก่ มลู นธิ ิ สมำคม สโมสรชมรม และกลมุ่ อำชพี ต่ำง ๆซ่ึงองค์กรท่ีเด่นชัด และมีบทบำท เช่น เหล่ำกำชำด จังหวัด หอกำรค้ำจังหวัด สภำอุตสำหกรรมจังหวัดสมำคมสตรีนักธุรกิจและวิชำชีพจังหวัด สมำคม ธุรกจิ ทอ่ งเทย่ี วจังหวัด มลู นิธริ วมสำมคั คี และกลมุ่ อำชพี ในพืน้ ท่ีท่ีเป็นองค์กรพัฒนำอำชีพสร้ำงรำยได้ ท่มี กี ิจกรรมต่อเน่อื ง อำทกิ ลุ่มเกษตรอินทรยี ์ สู้ๆ นะคะนกั เรยี น

๒๘ เฉลยกิจกรรมที่ ๑.๕ คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนอ่ำนบทควำมต่อไปนี้ แล้วเตมิ คำตอบให้ถกู ต้อง วติ ำมนิ เอ เปน็ วิตำมนิ ทีม่ คี วำมสำคญั ต่อดวงตำ ชว่ ยบำรุงสำยตำ และกำรมองเห็นทั้งใน ท่ีสว่ำงเเละทม่ี ดื แหลง่ อำหำรท่พี บ ได้แก่ แครอท นำ้ มนั ตบั ปลำ ตับสตั ว์ ผกั ใบเขียว ผกั ผลไม้ท่มี ีสี เหลอื ง ไข่ นม เนย ในกำรกินอหำรเพ่ือบำรงุ สำยตำแลว้ อยำ่ ลมื กำรถนอมสำยตำด้วยกำรสวมแวน่ กนั แดดในแสงจำ้ หรือหลีกเลี่ยงกำรใชส้ ำยตำเพ่งในท่ีท่แี สงไม่เพยี งพอ ๑. วิตำมนิ เอ มีควำมสำคญั ต่อร่ำงกำยอย่ำงไร ตอบ ชว่ ยบำรุงสำยตำและกำรมองเหน็ ในท่ีมดื ๒. เรำไม่พบวติ ำมนิ เอในสำรอำหำรใด ตอบ กระเทยี ม ๓. ผักผลไม้สเี หลอื งอุดมไปด้วยวติ ำมินชนิดใด ตอบ วติ ำมนิ เอ ๔. เพอ่ื เปน็ กำรถนอมสำยตำเรำควรทำอยำ่ งไรเมื่อต้องออกแดดในเวลำกลำงวัน ตอบ สวมแว่นกันแดด ๕. พฤติกรรมแบบใด ท่ีไมเ่ ป็นกำรถนอมสำยตำ ตอบ ยกตัวอย่ำงเช่น สม้ ช่วยที่บำ้ นประหยัดไฟจึงจดุ เทยี นอ่ำนหนงั สือ สู้ๆ นะคะนกั เรยี น

๒๙ เฉลยกจิ กรรมที่ ๑.๖ คำชแี้ จง ให้นักเรียนอำ่ นจบั ใจควำมสำคัญเร่อื งต่อไปนดี้ ้วยเทคนิค Sq๔r ลักษณะทำงกำยภำพของยโสธร ท่ีต้ัง จังหวัดยโสธรต้ังอยู่ทำงภำคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยห่ำงจำกกรุงเทพมหำนคร โดยทำงรถยนต์ประมำณ ๕๓๑ กิโลเมตร (ทำงหลวงแผ่นดิน หมำยเลข ๑, ๒, ๒๐๒) และอยู่ในกลุ่มจังหวัด ภำคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่ำง ๒ (อุบลรำชธำนี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนำจเจริญ) ขนำดพืน้ ที่ จงั หวัดยโสธรมีพ้นื ที่ ๔,๑๖๑.๖๖๔ ตำรำงกิโลเมตร หรอื ๒,๖๐๑,๐๔๐ ไร่ คิดเปน็ รอ้ ย ละ ๐.๘๑ ของพื้นที่ทั่วประเทศ (๓๒๑ ลำ้ นไร่) และคดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๒.๘๙ ของพื้นท่กี ลุ่มจังหวดั อำณำเขต จงั หวัดยโสธรมีอำณำเขตตดิ ต่อกับจงั หวดั ใกลเ้ คียง ดังน้ี ทิศเหนือ ตดิ ต่อกบั จังหวัดร้อยเอ็ดและมุกดำหำร ทิศตะวันออก ติดตอ่ กับจงั หวดั อำนำจเจรญิ และอุบลรำชธำนี ทศิ ใต้ ตดิ ตอ่ กับจงั หวัดศรสี ะเกษ ทิศตะวันตก ตดิ ต่อกับจงั หวดั รอ้ ยเอด็ ลักษณะภูมิประเทศและภูมิอำกำศ จงั หวัดมพี นื้ ทเี่ ปน็ รูปพระจนั ทร์เสี้ยว พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นท่ีรำบสูง และป่ำโปร่ง อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมำณ ๒๒๗ ฟุต ทำงตอนเหนือบริเวณพ้ืนที่อำเภอเลิงนกทำและ อำเภอกดุ ชุมบำงสว่ นเปน็ ภูเขำ ถือเปน็ อำณำเขตของเทือกเขำภูพำน แหล่งน้ำธรรมชำติที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำ ชี ลำเซบำย ห้วยโพง ลำยัง และมีลักษณะภูมิอำกำศร้อนจัดในฤดูร้อนและหนำวจัดในฤดูหนำว ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ มีฝนตก จำนวน ๘๒ วนั ปรมิ ำณน้ำฝนวัดได้ ๑,๔๖๐.๙ มิลลิเมตร อุณหภูมิสูงสุด ๓๘ องศำเซลเซียส ในเดอื นมีนำคม เมษำยน และพฤษภำคม อุณหภูมิตำ่ สุด ๑๑.๐ องศำเซลเซียสในเดือนธนั วำคม ๑. Survey (S) สำรวจและอ่ำนแบบครำ่ ว ๆ ตอบ กลำ่ วถึงที่ตั้งจงั หวัดยโสธรตงั้ อยทู่ ำงภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของประเทศไทย และขนำด พืน้ ทขี่ องจังหวัดยโสธรมพี ืน้ ท่ี ๔,๑๖๑.๖๖๔ ตำรำงกโิ ลเมตร หรอื ๒,๖๐๑,๐๔๐ ไร่ ลกั ษณะภูมิ ประเทศและภมู ิอำกำศ จงั หวัดมีพืน้ ที่เปน็ รปู พระจนั ทรเ์ สย้ี ว พ้ืนที่ส่วนใหญเ่ ปน็ ท่ีรำบสงู และปำ่ โปร่ง อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมำณ ๒๒๗ ฟุต ๒. Question (Q) อ่ำนบทควำมและต้ังคำถำม ตอบ จังหวดั ยโสธร มีทต่ี งั้ ขนำดพ้ืนท่ี อำณำเขต และลกั ษณะภมู ิประเทศและภมู ิอำกำศอย่ำงไร

๓๐ ๓. Read (R) อำ่ นซำ้ และหำคำตอบจำกข้อท่ี ๒ ตอบ จงั หวดั ยโสธรตัง้ อยทู่ ำงภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศไทยหำ่ งจำกกรุงเทพมหำนคร โดยทำงรถยนตป์ ระมำณ ๕๓๑ กโิ ลเมตร มขี นำดพืน้ ท่ี ๔,๑๖๑.๖๖๔ ตำรำงกิโลเมตร หรือ ๒,๖๐๑,๐๔๐ ไร่ คิดเป็นรอ้ ยละ ๐.๘๑ ของพืน้ ที่ทั่วประเทศ (๓๒๑ ลำ้ นไร)่ และคดิ เป็นร้อยละ ๑๒.๘๙ ของพ้นื ที่กลุ่มจังหวัด และมีอำณำเขตตดิ ต่อกบั จงั หวดั ใกล้เคียง ดงั นี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวดั รอ้ ยเอ็ดและมุกดำหำร ทศิ ตะวันออก ติดต่อกับจงั หวัดอำนำจเจริญและอบุ ลรำชธำนี ทิศใต้ ติดต่อกับจงั หวดั ศรีสะเกษ ทิศตะวันตก ติดต่อกับจงั หวดั รอ้ ยเอ็ด ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศและภูมอิ ำกำศ จังหวัดมีพืน้ ท่ีเปน็ รปู พระจนั ทรเ์ สย้ี ว พนื้ ทีส่ ว่ นใหญเ่ ปน็ ท่รี ำบสงู และปำ่ โปร่ง อย่เู หนือระดบั น้ำทะเลประมำณ ๒๒๗ ฟตุ ๔. Record (R) จดบันทึกข้อมูลท่สี ำคัญ ตอบ แหล่งนำ้ ธรรมชำติทส่ี ำคญั ได้แก่ แมน่ ้ำชี ลำเซบำย ห้วยโพง ลำยงั และมลี กั ษณะภมู ิอำกำศ รอ้ นจดั ในฤดรู ้อนและหนำวจัดในฤดูหนำว ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ มีฝนตก จำนวน ๘๒ วนั อณุ หภูมสิ งู สดุ ๓๘ องศำเซลเซียส ในเดือนมีนำคม เมษำยน และพฤษภำคม อณุ หภูมิต่ำสุด ๑๑.๐ องศำเซลเซียสใน เดอื นธนั วำคม ๕. Recite (R) สรปุ ใจควำมสำคัญของเรื่อง ตอบ ลักษณะภมู ปิ ระเทศและภูมอิ ำกำศ จังหวัดมีพน้ื ทเ่ี ป็นรูปพระจันทรเ์ ส้ยี ว พ้นื ท่สี ว่ นใหญเ่ ป็นที่ รำบสูงและป่ำโปรง่ อยเู่ หนือระดบั นำ้ ทะเลประมำณ ๒๒๗ ฟุต ทำงตอนเหนือบรเิ วณพืน้ ท่ีอำเภอเลิง นกทำและอำเภอกุดชมุ บำงส่วนเป็นภูเขำ ถือเปน็ อำณำเขตของเทือกเขำภูพำน

๓๑ แบบประเมินกำรรว่ มกจิ กรรมท่ี ๑.๖ ชื่อ........................................................…นำมสกลุ .............................................เลขที่........................ ผ้ปู ระเมนิ นกั เรยี น เพือ่ น ครู คำชีแ้ จง ใหท้ ำเครื่องหมำยถูกต้อง  ลงในช่องวำ่ งระดบั คะแนนที่ตรงกับควำมเปน็ จริงมำกที่สุด โดยจดั ระดบั คณุ ภำพเป็น ๓ ระดบั ตำมเกณฑ์ต่อไปน้ี ๓ หมำยถึง สำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมไดถ้ กู ต้อง ชดั เจน และตรงประเดน็ ๒ หมำยถงึ สำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมไมค่ ่อยถูกต้อง และไม่คอ่ ยตรงประเด็น ๑ หมำยถึง ไมส่ ำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมได้ถกู ต้อง ชดั เจน และตรงประเด็น รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน ๓๒๑ ๑. Survey (S) สำรวจและอ่ำนแบบครำ่ ว ๆ ๒. Question (Q) อำ่ นบทควำมและตง้ั คำถำม ผลกำรประเมิน ๓. Read (R) อ่ำนซ้ำและหำคำตอบจำกขอ้ ท่ี ๒  ผำ่ น ๔. Record (R) จดบนั ทึกข้อมูลท่ีสำคญั  ไมผ่ ำ่ น ๕. Recite (R) สรุปใจควำมสำคญั ของเร่ือง คะแนนรวมแต่ละช่อง สรุปคะแนนท่ีได้ (หำรดว้ ยสอง) เกณฑ์กำรประเมิน ผำ่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ นกั เรยี นได้คะแนน ๑๒ คะแนนขึ้นไป จงึ ถือว่ำผ่ำน ลงช่ือ..................................................ผปู้ ระเมิน (.................................................)

๓๒ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน หนงั สอื ส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ิปญั ญำท้องถิน่ กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี ๓ เล่มที่ ๑ จังหวดั ของเรำยโสธร กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น ข้อ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง ๑.  ๑.  ๒.  ๒.  ๓.  ๓.  ๔.  ๔.  ๕.  ๕.  ๖.  ๖.  ๗.  ๗.  ๘.  ๘.  ๙.  ๙.  ๑๐.  ๑๐.  ตอบถูกกขี่ อ้ คะนกั เรยี น

๓๓ แบบบนั ทึกคะแนนกิจกรรมระหวำ่ งเรยี น หนังสอื ส่งเสรมิ กำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมปิ ัญญำทอ้ งถ่นิ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๓ เล่มท่ี ๑ จงั หวดั ของเรำยโสธร กำรประเมิน คะแนนเตม็ คะแนนทีไ่ ด้ ควำมก้ำวหนำ้ แบบทดสอบก่อนเรียน ๑๐ แบบทดสอบหลังเรยี น ๑๐ เกณฑ์กำรประเมินนกั เรียนตอ้ งได้คะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป หรือ ๘ คะแนนข้นึ ไป ผ่ำน ไม่ผ่ำน กำรประเมิน คะแนนเตม็ คะแนนท่ไี ด้ กจิ กรรมท่ี ๑.๑ ๑๐ กจิ กรรมท่ี ๑.๒ ๑๐ กิจกรรมท่ี ๑.๓ ๑๕ กิจกรรมที่ ๑.๔ ๑๐ กจิ กรรมที่ ๑.๕ ๑๐ กิจกรรมที่ ๑.๖ ๑๕ รวม ๗๐ เกณฑ์กำรประเมินนักเรียนตอ้ งไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไป หรือ ๕๖ คะแนนข้ึนไป ผำ่ น ไมผ่ ่ำน

๓๔ ประวัตยิ ่อผู้จัดทำ ขอ้ มูลทั่วไป ชอ่ื -นำมสกุล นำงมนิ ตรำ งำมทรัพย์ เกดิ เมื่อวนั ที่ ๒๖ เดอื น กันยำยน พ.ศ. ๒๕๐๙ ทอี่ ยปู่ จั จุบนั เลขท่ี ๓๕ หมู่ ๒ ตำบลบงึ แก อำเภอมหำชนะชัย จงั หวัดยโสธร ๓๕๑๓๐ เบอรต์ ิดต่อ ๐๘๕-๒๔๕๑๕๐๗ อเี มลล์ krumintra๒๐๑๘@gmail.com ด้ำนกำรศกึ ษำ พ.ศ. ๒๕๕๔ กำรศึกษำระดับปรญิ ญำโท ครุศำสตรมหำบัณฑิต ภำษำไทย มรภ. อุบลรำชธำนี พ.ศ. ๒๕๔๓ กำรศึกษำระดับปริญญำตรี ครศุ ำสตรบัณฑิต ภำษำไทย สรภ. อบุ ลรำชธำนี ด้ำนกำรปฏบิ ัติงำน ตำแหนง่ ครู วิทยฐำนะ ครูชำนำญกำรพิเศษ โรงเรยี นสมเด็จพระญำณสงั วร ในพระสงั ฆรำชูปถมั ภ์ สงั กัด สำนักงำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำมัธยมศกึ ษำ เขต ๒๘ ***********************************************************

๓๕


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook