ประทบั พระราชยานพุดตานทอง เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ โดยขบวนราบใหญ่ จากหนา้ พระทวารเทเวศรรักษา ไปยงั วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพอ่ื ประกาศพระองคเ์ ปน็ พทุ ธศาสนปู ถัมภก พิธีประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่อง บรมราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองคค์ รยุ ทรงพระมาลาเส้าสูง ประทับพระราชยานพดุ ตานทอง เสด็จ พระราชดำ� เนนิ โดยขบวนราบใหญจ่ ากพระทนี่ ง่ั อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั ไปยงั วดั พระศรรี ตั นศาสดาราม เสดจ็ เข้าสู่พระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะ และถวายต้นไม้เงินทองบูชาพระพุทธมหามณี รตั นปฏมิ ากร พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกย์ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาไลย ทรงสมาทานศลี มพี ระราชดำ� รสั ประกาศพระองคเ์ ป็นพทุ ธศาสนูปถัมภกต่อที่ชมุ นุมสงฆ์ 51
52
เสด็จออกจากพระท่นี ัง่ ดสุ ิตมหาปราสาท หลังจากถวายเครอื่ งราชสกั การะ ถวายบังคมพระบรมอฐั ิ และพระอฐั ิสมเดจ็ พระบรมราชบพุ การี พิธีถวายบังคมพระบรมอัฐิ เสด็จพระราชด�ำเนินโดยขบวนราบใหญ่จากวัดพระ ศรีรัตนศาสดารามไปยงั พระทนี่ ั่งอาภรณ์พโิ มกข์ปราสาท เสดจ็ ขึ้นส่พู ระท่ีน่ังดุสติ มหาปราสาท ทรง จดุ ธูปเทยี นเครื่องราชสักการะถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอฐั ิสมเดจ็ พระบรมราชบพุ การี 53
ต้งั ขบวนเชญิ เคร่อื งราชูปโภค และเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียร ๖. เฉลิมพระราชมณเฑียร วนั ท่ี ๖ พฤษภาคม พระราชพธิ เี ฉลมิ พระราชมณเฑยี ร เปน็ พธิ เี สดจ็ ขนึ้ ประทบั ณ พระทน่ี ง่ั จักรพรรดิพิมานอันเป็นพระที่น่ังประธานในหมู่พระมหามณเฑียร เปรียบเสมือนการข้ึนบ้านใหม่ เพอ่ื ความเปน็ สริ มิ งคล และความรม่ เยน็ เปน็ สขุ โดยพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ิติ์ พระบรมราชนิ ี ประทบั แรม ๑ คนื เคร่ืองประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ประกอบด้วยเครื่องเฉลิมพระราช มณเฑยี ร และเคร่ืองราชปู โภค เครือ่ งเฉลิมพระราชมณเฑียร ไดแ้ ก่ วิฬาร์ (แมว) ศิลาบด พันธุพ์ ืชมงคล ฟกั เขียว กุญแจ ทอง จ่ันหมากทอง ต่อมาสิ่งของส�ำหรับการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียรได้เพิ่มมากข้ึน เช่น ในสมัยรัชกาลที่ ๔ เรม่ิ ใชพ้ ระแสห้ างชา้ งเผอื กผู้ สมยั รชั กาลที่ ๗ มกี ารอ้มุ ไก่ขาวเขา้ ร่วมพระราชพธิ ี ผอู้ มุ้ ไกข่ าวจะเปน็ ผเู้ ชญิ ธารพระกรศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ ซง่ึ เปน็ หนง่ึ ในเครอ่ื งราชกกธุ ภณั ฑ์ ทงั้ นแ้ี ตโ่ บราณกำ� หนด ใหผ้ ้เู ชญิ เครือ่ งเฉลมิ พระราชมณเฑียรเป็นเชื้อพระวงศ์ฝา่ ยใน เครื่องราชูปโภค ประกอบด้วย พระสุพรรณศรี พานพระศรี พานพระโอสถและ พานพระมาลา 54
เสด็จพระราชด�ำเนินประทกั ษิณ รอบพระมหามณเฑยี ร ผา่ นเก๋งนารายณ์ พระแท่นราชบรรจถรณ์ ในพระทนี่ ัง่ จกั รพรรดิพมิ าน 55
คณะทูตและกงสลุ เฝา้ ทลู ละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชยั มงคล ณ พระที่นงั่ จักรีมหาปราสาท ถวายพระพรชยั มงคล วันท่ี ๗ พฤษภาคม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะทูตและกงสุล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่น่ังจักรีมหาปราสาท จากนนั้ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหค้ ณะบคุ คลและสมาคมตา่ งๆ เฝ้าทูลละอองธุลพี ระบาทถวายพระพรชัยมงคล ณ ท้องพระโรง พระทนี่ งั่ สทุ ไธสวรรยป์ ราสาท และ เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่น่ังสุทไธสวรรย์ปราสาท ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระบรมราชวโรกาสใหป้ ระชาชน เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวายพระพรชยั มงคล 56
ผนู้ ำ� ศาสนาเฝา้ ทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชยั มงคล ณ ท้องพระโรง พระท่ีน่งั สุทไธสวรรยป์ ราสาท เสด็จออก ณ สหี บญั ชร พระท่นี ่งั สทุ ไธสวรรย์ปราสาท ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชยั มงคล 57
เสดจ็ ออกท้องพระโรง พระท่ีน่งั อมรินทรวินิจฉยั ในพิธีเฉลิมพระนามสมเดจ็ พระสังฆราช และทรงตงั้ สมณศักดิพ์ ระราชาคณะ 58
พิธเี ฉลิมพระนามสมเด็จพระสงั ฆราชและตงั้ สมณศกั ดพิ์ ระราชาคณะ วันท่ี ๗ พฤษภาคม เสด็จออก ณ พระท่ีนั่งอมรินทรวินิจฉัยในพิธีเฉลิมพระนาม สมเด็จ พระวชริ ญาณวงศ์ สมเดจ็ พระสงั ฆราช และทรงตง้ั สมณศกั ดพ์ิ ระราชาคณะฝา่ ยมหานกิ าย ธรรมยตุ กิ นกิ าย และรามัญนิกาย ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานวุ งศ์ คณะรัฐมนตรี และขา้ ราชการ ทูลเกล้าฯ ถวายดอกไมธ้ ปู เทยี นเพื่อแสดงความจงรักภักดี จากนั้นทรงสดบั พระธรรมเทศนา พธิ ีสถาปนาฐานันดรศักด์ิพระราชวงศ์ วันท่ี ๘ พฤษภาคม เสด็จออก ณ พระที่น่ังอมรินทรวินิจฉัย ทรงสถาปนาฐานันดรศักด์ิ พระราชวงศ์แก่ ๑. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร สถาปนาเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระชยั นาทนเรนทร (ตอ่ มาสถาปนาเปน็ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาชยั นาทนเรนทร เมื่อพทุ ธศักราช ๒๔๙๕) ๒. พระวรวงศเ์ ธอ พระองค์เจา้ ธานีนิวัต สถาปนาเปน็ พระวรวงศเ์ ธอ กรมหม่นื พิทยลาภ พฤฒิยากร ๓. หม่อมเจา้ วิวัฒนไชย ไชยนั ต์ สถาปนาเป็น พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จ้าววิ ัฒนไชย ๔. หมอ่ มเจา้ นกั ขตั รมงคล กติ ยิ ากร สถาปนาเปน็ พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ นกั ขตั รมงคล (ตอ่ มาสถาปนาเป็น พระวรวงศเ์ ธอ กรมหม่นื จันทบรุ สี ุรนาถ เมอ่ื พทุ ธศักราช ๒๔๙๕) จากน้นั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ประธานองคมนตรี ประธานวุฒสิ ภา ประธานสภา ผู้แทนราษฎร ผู้บังคับการทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ทลู เกลา้ ฯ ถวายดอกไมธ้ ปู เทยี น จากนน้ั ทรงสดบั พระธรรมเทศนา เมอื่ สมเดจ็ พระสงั ฆราชถวายอดเิ รก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชด�ำเนินกลับ เป็นอนั เสรจ็ การพระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก อนึ่ง ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามโบราณราชประเพณี พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอย่หู ัวจะเสดจ็ เลยี บพระนครโดยขบวนพยหุ ยาตราทัง้ ทางสถลมารคและทางชลมารค แต่ใน รัชกาลที่ ๙ มไิ ดเ้ สดจ็ เลียบพระนคร 59
พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก ในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว รัชกาลท่ี ๑๐ 60
61
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหต้ ง้ั การพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก เพอ่ื ความเปน็ สวสั ดมิ งคลของประเทศชาติ เปน็ ทปี่ ลาบปลม้ื ปตี ิ ยินดขี องพสกนิกรโดยทวั่ กัน มีกำ� หนดการพระราชพิธีเป็น ๓ ช่วง คอื ๑. พระราชพธิ เี บอ้ื งตน้ ประกอบดว้ ย การเตรยี มน�ำ้ อภเิ ษก การจารึกพระสพุ รรณบฏั ดวง พระบรมราชสมภพ และแกะพระราชลญั จกร ระหวา่ งวนั ที่ ๖ - ๒๓ เมษายน พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ ๒. พระราชพิธีเบ้ืองกลาง พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก�ำหนดวันที่ ๒ - ๖ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ ๓. พระราชพธิ เี บอื้ งปลาย คอื พระราชพธิ ที รงบำ� เพญ็ พระราชกศุ ลถวายผา้ พระกฐนิ โดยขบวน พยหุ ยาตราทางชลมารค ไปยงั วดั อรณุ ราชวราราม ในปลายเดอื นตลุ าคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ ๑. พธิ ีทำ� นำ้� อภเิ ษก ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ต้องเตรียมท�ำน้�ำอภิเษก โดยท�ำพิธีพลีกรรมตักน�้ำ จากแหล่งน้�ำศักด์ิสิทธ์ิทั่วราชอาณาจักร จ�ำนวน ๑๐๗ แห่งตามโบราณราชประเพณีรวมท้ังใน กรุงเทพมหานคร โดยท�ำพิธีพร้อมกันในวันที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ ต้ังพิธีท�ำน�้ำ อภิเษก ณ พระอารามหลวงประจ�ำจังหวัดของแต่ละจังหวัด ๗๖ แห่ง ในวันท่ี ๘ เมษายน และ เวียนเทียนสมโภชน้�ำอภิเษกในวันท่ี ๙ เมษายน จากน้ันทุกจังหวัดเชิญน�้ำศักดิ์สิทธิ์จากจังหวัด มาตั้งไว้ในพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม เพื่อเสกน�้ำอภิเษก ประกาศชุมนุมเทวดา ท�ำน้�ำ เทพมนตร์ เจริญพระพุทธมนต์ท�ำน�้ำพระพุทธมนต์ รวมกับน้�ำอภิเษกของกรุงเทพมหานคร (จากหอศาสตราคม พระบรมมหาราชวัง) ในวันที่ ๑๘ เมษายน และแห่เชิญน�้ำอภิเษกของทุก จังหวดั ท้งั ๗๗ จงั หวดั รวมทั้งน้ำ� เบญจสทุ ธคงคา (แม่นำ้� บางปะกง แมน่ �้ำปา่ สัก แม่น�ำ้ เจา้ พระยา แม่น้�ำราชบุรี และแม่น้�ำเพชรบุรี) และน�้ำจากสระ ๔ สระ (สระแก้ว สระเกษ สระคา สระยมนา ในจังหวัดสุพรรณบุรี) จากวัดสุทัศนเทพวรารามไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันท่ี ๑๙ เมษายน เพอ่ื พราหมณป์ ระกอบพธิ ี 62
๒. การจารึกพระสุพรรณบฏั ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลญั จกร วันที่ ๒๒ และ ๒๓ เมษายน พธิ ีจารกึ พระสุพรรณบัฏเฉลิมพระปรมาภไิ ธย ดวงพระบรม ราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกรประจ�ำรัชกาล ตลอดจนจารึกพระสุพรรณบัฏพระบรมวงศ์ ณ วดั พระศรรี ัตนศาสดาราม ๓. ถวายราชสกั การะสมเด็จพระบรมราชบุพการี วนั ท่ี ๒ พฤษภาคม สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปถวายราชสกั การะ พระบรม ราชานสุ รณ์ รชั กาลที่ ๕ ณ พระลานพระราชวงั ดสุ ติ จากนน้ั เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปถวายราชสกั การะ ปฐมบรมราชานุสรณ์ ณ เชิงสะพานพระพุทธยอดฟา้ และเสดจ็ ฯ ไปยงั พระบรมมหาราชวงั เพอ่ื ทรง บวงสรวงสง่ิ ศักดิส์ ิทธิ์ ๔. การพระราชพิธบี รมราชาภิเษก วนั ท่ี ๓ พฤษภาคม พธิ แี หเ่ ชญิ พระสพุ รรณบฏั ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลญั จกร ประจำ� รชั กาล จากวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม ไปยงั พระทน่ี ง่ั ไพศาลทกั ษณิ เพอื่ ทลู เกลา้ ฯ ถวายในการ พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก จากน้ันสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงนมัสการพระรัตนตรัย ณ พระที่น่ังอมรินทรวินิจฉัย ถวายบงั คมพระบรมอฐั ิ พระอฐั ิ ณ หอพระธาตุมณเฑียร ได้เวลามหามงคลฤกษ์ จุดเทียนชัย พระสงฆ์ทรงสมณศักด์ิ ประกาศการพระราชพิธี บรมราชาภเิ ษก ณ พระที่น่ังไพศาลทักษิณ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ 63
๕. บรมราชาภเิ ษกและเฉลมิ พระราชมณเฑยี ร วันที่ ๔ พฤษภาคม ทรงสรงพระมุรธาภิเษก ณ มณฑปพระกระยาสนาน บริเวณชาลา พระท่นี ่ังจกั รพรรดพิ ิมาน โดยน�ำ้ สรงพระมุรธาภเิ ษก เปน็ น�้ำจากเบญจสทุ ธคงคา น้�ำจากสระ ๔ สระ ท่จี ังหวัดสพุ รรณบรุ ี และทรงรับนำ�้ พระพทุ ธมนต์ และน�้ำเทพมนตร์ ตามล�ำดบั ทรงรบั นำ�้ อภเิ ษก ซงึ่ เปน็ นำ�้ จากทกุ จงั หวดั ทปี่ ระกอบพธิ แี ลว้ ณ พระทน่ี งั่ อฐั ทศิ อทุ มุ พรราช อาสน์ จากนน้ั ทรงรบั พระสพุ รรณบฏั จารกึ พระปรมาภไิ ธย เครอื่ งราชกกธุ ภณั ฑ์ เครอ่ื งบรมขตั ตยิ ราช วราภรณ์ และพระแสงราชศัสตราวุธ ณ พระทน่ี ่งั ภทั รบิฐ เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระทนี่ ่งั อมรนิ ทรวนิ ิจฉัย ทรงรับการถวายพระพรชยั มงคลจาก พระบรมวงศานุวงศ์ คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เสด็จฯ โดยขบวนราบใหญ่ ไปยงั วดั พระศรีรัตนศาสดาราม เพือ่ ทรงประกาศพระองค์เปน็ พทุ ธศาสนปู ถัมภก เสดจ็ ฯ ไปถวายบงั คมพระบรมรปู สมเดจ็ พระบรู พมหากษตั รยิ าธริ าช ณ ปราสาทพระเทพบดิ ร และเสดจ็ ฯ ไปถวายบงั คมพระบรมอฐั ิ พระอฐั ิ สมเดจ็ พระบรมราชบพุ การี ณ พระทนี่ งั่ ดสุ ติ มหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงพระแท่นราชบรรจถรณ์ ณ พระท่ีน่ังจักรพรรดิ พมิ าน ในพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ๖. พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย สถาปนาพระฐานันดรศักดิ์ พระบรมวงศ์ และเสด็จพระราชด�ำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตรา ทางสถลมารค วันที่ ๕ พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชด�ำเนินไปยังพระที่น่ัง อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั ในการพระราชพธิ เี ฉลมิ พระปรมาภไิ ธย พระนามาภไิ ธย และสถาปนาพระฐานนั ดรศกั ดิ์ พระบรมวงศ์ จากนั้นเสด็จพระราชด�ำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อทรงนมัสการพระพุทธปฏิมา ประธาน และพระบรมราชสรรี างคาร 64
๗. เสดจ็ ออกทรงรบั การถวายพระพรชัยมงคล วันที่ ๖ พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ท้องพระโรง พระที่น่ัง สุทไธสวรรยป์ ราสาท ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหผ้ ู้นำ� ศาสนา และผูแ้ ทนคณะพาณชิ ย์ เฝ้าฯ ถวาย พระพรชัยมงคล แลว้ เสดจ็ ออก ณ สหี บัญชร ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ประชาชนเฝ้าฯ ถวาย พระพรชยั มงคล จากนั้นเสด็จออกให้คณะทูตานุทูต และกงสุลต่างประเทศเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ณ ท้องพระโรง พระที่นงั่ จักรมี หาปราสาท ๘. เสด็จพระราชด�ำเนนิ เลยี บพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค หลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว ในปลายเดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั จะเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ โดยขบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค ไปยงั วดั อรณุ ราชวราราม เพื่อทรงบำ� เพ็ญพระราชกศุ ลถวายผา้ พระกฐิน 65
สถานทสี่ �ำคญั ในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก วัดพระศรรี ตั นศาสดาราม เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปส�ำคัญ คบู่ า้ นคเู่ มอื ง พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ งขนึ้ เมอื่ พทุ ธศกั ราช ๒๓๒๕ ในพระบรมมหาราชวงั โดยไมม่ พี ระสงฆจ์ ำ� พรรษาเชน่ เดยี วกบั วดั พระศรสี รรเพชญส์ มยั อยธุ ยา ภายในวดั ประกอบดว้ ยศาสนสถานสำ� คญั ไดแ้ ก่ พระศรรี ตั นเจดยี ์ เปน็ ทปี่ ระดษิ ฐานพระบรม สารีริกธาตุ ปราสาทพระเทพบิดร ประดิษฐานพระบรมรูปบูรพมหากษัตริย์ พระอัษฎามหาเจดีย์ พระระเบียงคดเขียนจติ รกรรมฝาผนงั เร่อื ง รามเกยี รตโ์ิ ดยรอบ ทส่ี ำ� คัญ คอื พระอโุ บสถเปน็ สถานที่ ประกอบพระราชพธิ ี และรัฐพิธที างพระพทุ ธศาสนา อาทิ ทรงบำ� เพ็ญพระราชกศุ ลในวันสำ� คญั ทาง พระพุทธศาสนา ประกอบพระราชพิธีถือน�้ำพระพิพฒั น์สตั ยา การพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก 66
ปราสาทพระเทพบิดร ตงั้ อยภู่ ายในวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม เปน็ อาคารจตั รุ มขุ ทรงไทย ยอดปราสาททรงปรางค์ ประดบั กระเบอื้ งเคลอื บสที ง้ั หลงั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ งขนึ้ เมอ่ื พุทธศักราช ๒๓๙๘ เพ่ือประดิษฐานพระพุทธมหามณีรตั นปฏมิ ากร (พระแกว้ มรกต) พระราชทาน นามวา่ “พระพทุ ธปรางคป์ ราสาท” ครนั้ กอ่ สรา้ งแลว้ เสรจ็ ในรชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว มีพระบรมราชวนิ ิจฉยั ว่าปราสาทแห่งนม้ี ีขนาดเล็กไมเ่ พียงพอแกก่ ารพระราชพิธตี ่างๆ จงึ อญั เชญิ พระเจดยี ก์ าไหลท่ องของรชั กาลท่ี ๔ มาประดษิ ฐานเปน็ ประธาน ถงึ ปลายรชั กาลเกดิ เพลงิ ไหม้ เครื่องบนหลังคาปราสาทและพระเจดีย์กาไหล่ทองจนหมดส้ิน เมื่อบูรณปฏิสังขรณ์เสร็จบริบูรณ์ใน รัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมรปู สมเดจ็ พระบรู พมหากษตั รยิ าธริ าชในพระบรมราชจกั รวี งศ์ ๕ พระองค์ และพระราชทาน นามใหมว่ ่า “ปราสาทพระเทพบิดร” จากนนั้ รัชกาลตอ่ ๆ มา โปรดเกลา้ ฯ ให้หลอ่ พระบรมรปู สมเดจ็ พระบูรพมหากษัตริย์ประดิษฐานเพ่ิมเติมถึงปัจจุบัน คือ พระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยา ธริ าช รชั กาลท่ี ๑ ถงึ รชั กาลท่ี ๘ ในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก รชั กาลท่ี ๑๐ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปถวายบงั คมพระบรมรปู สมเดจ็ พระบูรพมหากษัตริยาธิราช ณ ปราสาทพระเทพบดิ ร 67
หมู่พระมหามณเฑียร เปน็ เรอื นหลวงหลงั คาทรงจวั่ มชี อ่ ฟา้ หนา้ บนั ปลกู เชอื่ มตอ่ กนั สรา้ งเมอ่ื พทุ ธศกั ราช ๒๓๒๘ ประกอบดว้ ย พระทนี่ ่ัง ๓ องค์ พระปรศั ว์ซา้ ย พระปรัศวข์ วา และหอ ๒ หอ คอื หอพระเจา้ และ หอพระธาตมุ ณเฑยี ร 68
๏ หอศาสตราคม ๏ พระท่นี ่งั ราชฤดี ๏ หอพระสลุ าลยั พิมาน ๏ หอนอ้ ย ๏ พระทนี่ งั่ อมรนิ ทร ๏ เพพ๏ทรรพะะสทปถี่นรศัาง่ั นวข์พวิลาาส วินจิ ฉัยฯ พระแ ่ทนเ๏ศวต ัฉตร ๏ พระที่ ่ันงไพศาล ัทกษิณ ๏ พระอทงน่ี คั่ง์ตจะักวรันพอรอรกดพิ มิ าน พระ ่ทีน่ัง ุบษบกมาลาฯ ๏ ท้องพระโรงหลัง ๏ พระที่น่ัง ๏ ทอ้ งพระโรง ๏ พระทีน่อง่ังจคัก์กรลพางรรดพิ มิ าน ดุสิดาภริ มย์ หนา้ เพ๏พทรรพะะอทปาีน่รสศั ่ังนว์ซ์พ้าิไยล ๏ หอน้อย พระ ่ที ่นังส๏นาม ัจนทร์ ๏ พระทองีน่ ค่งั ต์จักะวรันพตรรกดิพิมาน ๏ หอพระธาตุ มณเฑียร ๏ ประตสู นามราชกจิ เดมิ พระที่น่งั ทั้ง ๓ องค์ มนี ามรวมกนั วา่ “พระที่น่ังจกั รพรรดพิ มิ าน” ตอ่ มารชั กาลที่ ๓ โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานนามแยกเปน็ องคๆ์ ไดแ้ ก่ พระทนี่ งั่ จกั รพรรดพิ มิ าน พระทน่ี งั่ ไพศาลทกั ษณิ และพระท่ีนั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน รัชกาลท่ี ๖ พระราชทานนามพระปรัศว์ขวาและพระ ปรศั ว์ซา้ ยว่า “พระทีน่ ่ังเทพสถานพิลาส” และ “พระที่น่งั เทพอาสนพ์ ิไล” ส่วน “หอพระเจา้ ภายหลัง เปลี่ยนนามเป็น “หอพระสุลาลัยพมิ าน” ในอดีตหมู่พระมหามณเฑียรน้ีมีความส�ำคัญยิ่ง เพราะเป็นพระวิมานที่บรรทมของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นที่เสด็จออกขุนนางเพ่ือการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็น มณฑลพิธีประกอบการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก และเฉลิมพระราชมณเฑียร 69
พระที่นง่ั จกั รพรรดพิ มิ าน (จกั -กระ-พัด-พ-ิ มาน) พระท่ีน่ังประธานในหมู่พระมหามณเฑียร เป็นพระวิมานท่ีบรรทมของพระมหากษัตริย์ และเป็นมณฑลพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียรในการพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก พระที่นั่ง จักรพรรดิพิมานมีแผนผังเป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า ยกพ้ืนสูง แบ่งออกเป็น ๓ หลัง คือ องค์กลาง องคต์ ะวนั ออก และองคต์ ะวันตก มีเฉลยี งรอบและมเี สานางเรยี งรับชายคาโดยรอบทง้ั ๔ ดา้ น 70
พระทน่ี ั่งไพศาลทักษณิ (ไพ-สาน-ทัก-สนิ ) ต้ังอยู่กลางระหว่างท้องพระโรงหน้าของพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานกับพระที่น่ังอมรินทร วนิ จิ ฉยั มลี กั ษณะเป็นพระทน่ี ่งั โถงยาว ยกพื้นสงู ทอดยาวไปตามทศิ ตะวันออก - ตะวันตก ผนังทิศตะวันออกของพระที่น่ังมีพระทวารส�ำหรับเสด็จพระราชด�ำเนินไปยังหอพระสุลา ลัยพิมาน หน้าพระทวารประดิษฐานพระท่ีนั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ภายใต้สัปตปฎลเศวตฉัตร (ฉัตร ๗ ช้ัน) ส่วนผนังด้านทิศตะวันตกมีพระทวารส�ำหรับเสด็จพระราชด�ำเนินไปยังหอพระธาตุ มณเฑยี ร หนา้ พระทวารประดิษฐานพระท่นี ั่งภัทรบฐิ ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร (ฉตั ร ๙ ช้ัน) พระทีน่ งั่ ไพศาลทกั ษณิ เป็นทีป่ ระดษิ ฐานพระสยามเทวาธิราช สง่ิ ศักด์สิ ทิ ธิ์คบู่ ้านคูเ่ มือง เปน็ สถานท่ี ทรงรบั น�ำ้ อภเิ ษก เครื่องราชกกธุ ภณั ฑ์ เครอื่ งบรมขตั ตยิ ราชวราภรณ์ เครื่องราชูปโภค และพระแสง ราชศัสตราวุธในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก 71
หอพระธาตุมณเฑียร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของพระที่น่ัง ไพศาลทักษิณ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอด ฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้สร้างข้ึนเพ่ือเป็นที่ ประดษิ ฐานพระบรมอฐั สิ มเดจ็ พระปฐมบรมมหาชนก (ต้นพระบรมราชจักรีวงศ์) พระบรมอัฐิพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๑ ถึงรัชกาลท่ี ๓ พระอัฐสิ มเดจ็ พระบรมราชินีในรชั กาลท่ี ๑ - ๒ และ สมเดจ็ พระศรสี ลุ าลยั พระบรมราชชนนใี นรชั กาลที่ ๓ มีลักษณะก่ออิฐถือปูนทรงสี่เหล่ียมกว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๑ เมตร ยกพ้ืนสูง ๓ เมตร มมี ขุ กระสนั เชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งพระธาตมุ ณเฑยี รกบั ดา้ นสะกดั ของพระทนี่ งั่ ไพศาลทกั ษณิ ทางทศิ ตะวนั ตก 104 หอพระสลุ าลัยพิมาน บางแหง่ เขยี นเปน็ หอพระสรุ าลยั พมิ าน เดมิ เรยี ก หอพระเจา้ มมี ขุ กระสนั เชอื่ มระหวา่ งหอกบั องคพ์ ระทนี่ ง่ั เปน็ ทป่ี ระดษิ ฐานปชู นยี วตั ถเุ พอ่ื ทรงสกั การบชู า ไดแ้ ก่ พระบรมสารรี กิ ธาตุ พระพทุ ธรปู ตา่ งๆ สว่ นทางทศิ ตะวนั ตกของพระทน่ี งั่ มมี ขุ กระสนั เชอ่ื มระหวา่ งหอพระสลุ าลยั พมิ านกบั องคพ์ ระทนี่ งั่ 72
พระท่ีน่งั อมรนิ ทรวินจิ ฉยั มไหสรู ยพิมาน (อำ� -มะ-ริน-วิ-นดิ -ไฉ-มะ-ไห-สนู -พิ-มาน) ตงั้ อยทู่ างดา้ นทศิ เหนอื ของพระทนี่ ง่ั ไพศาลทกั ษณิ เป็นท้องพระโรงส�ำคัญท่ีพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราช จักรีวงศ์ทรงใช้เป็นที่ประกอบพระราชกรณียกิจส�ำคัญของ บ้านเมือง เช่น เสด็จออกขุนนาง เสด็จออกมหาสมาคมใน พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พระราชพธิ เี ฉลมิ พระชนมพรรษา ตลอดจนเสดจ็ ออกรบั ทตู ตา่ งประเทศทเ่ี ขา้ มาเจรญิ พระราช ไมตรีในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ที่ปลายสุดของท้องพระโรง เปน็ ทป่ี ระดษิ ฐานพระทน่ี ง่ั บษุ บกมาลามหาจกั รพรรดพิ มิ าน และด้านหน้าพระที่นั่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระท่ีน่ังพุดตาน กาญจนสงิ หาสนภ์ ายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉตั ร 73
หอศาสตราคม (สาด-ตรา-คม) หอศาสตราคม เป็นหอขนาดเล็กหลังคาทรงไทยมุงกระเบื้องเคลือบสี อยู่ริมก�ำแพงแก้ว พระทนี่ ง่ั อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั ดา้ นตะวนั ออก เดมิ เปน็ พระทน่ี งั่ โถงทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลก มหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างข้ึน ต่อมาในรัชกาลพระบททสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระที่น่ังแล้วสร้างหอศาสตราคมข้ึน ส�ำหรับให้พระสงฆ์ ฝ่ายรามญั นิกายมาสวดพระปรติ รท�ำน้ำ� พระพุทธมนต์ เพอ่ื ถวายพระมหากษัตริย์สรงพระพกั ตร์ และ สรงเปน็ ประจำ� วัน ตลอดจนประพรมรอบพระมหามณเฑียร คอื พระทีน่ ัง่ จักรพรรดพิ มิ าน พระท่ีน่งั ไพศาลทกั ษิณ และพระท่นี ั่งอมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั ในรชั กาลท่ี ๔ – ๕ – ๖ และรัชกาลที่ ๗ มีการสวดพระปริตรทำ� น้�ำพระพุทธมนต์ และ ประพรมน�้ำพระพทุ ธมนต์รอบพระมหามณเฑียรทุกวัน เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา ตอ่ มาในรัชกาลที่ ๙ และรัชกาลปัจจุบัน ได้นมิ นตพ์ ระสงฆ์ฝ่ายรามัญ ๕ รูป มาสวดพระปรติ รท�ำน�ำ้ พระพุทธมนต์ และ ประพรมน้�ำมนต์รอบพระมหามณเฑียรทุกวันธรรมสวนะ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา เสร็จแล้วนิมนต์ พระสงฆ์ ๑ รปู ประพรมนำ้� พระพทุ ธมนตร์ อบพระมหามณเฑยี รครง้ั หนง่ึ และนมิ นตพ์ ระพธิ ธี รรมจาก ๑๐ วดั คอื วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม วดั มหาธาตยุ วุ ราชรงั สฤษฎ์ิ วดั สทุ ศั นเทพวราราม วดั สระเกศ วัดจักรวรรดิราชาวาส วัดบวรนิเวศวิหาร วัดระฆังโฆสิตาราม วัดประยุรวงศาวาส วัดอนงคาราม และวัดราชสทิ ธาราม จำ� นวนวดั ละ ๕ รปู ผลัดเปล่ียนกนั มาสวดทำ� น้�ำพระพทุ ธมนตอ์ กี ครง้ั ในเวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา น�้ำพระพุทธมนต์ท้ังสองเวลาน้ีรวมเก็บไว้ในหม้อน�้ำมนต์เพ่ือจัดไปถวายสรงทุกวัน ตามราชประเพณีทีไ่ ด้เคยปฏิบตั ิสบื มา นำ้� พระพุทธมนตจ์ ากหอศาสตราคมน้ี กรุงเทพมหานครกราบบงั คมทูลขอพระราชทานนำ� ไปเป็นน้�ำศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเทพมหานคร เพื่อรวมกับน�้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดต่าง ๆ ๗๖ จังหวัดทั่ว ราชอาณาจักร ส�ำหรับถวายสรงในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา รัชกาลที่ ๙ วาระครบรอบ นักษตั ร คอื ๖ รอบ ๗ รอบ ในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ กรุงเทพมหานคร ได้กราบบงั คมทลู ขอพระราชทานน้�ำพระพุทธมนต์จากหอศาสตราคม น�ำไปรวมกับน้�ำศักด์ิสิทธิ์ของจังหวัดต่าง ๆ ๗๖ จงั หวัดทว่ั ราชอาณาจกั ร สำ� หรบั ถวายในพระราชพธิ ีครง้ั นี้ 74
75
พระทน่ี ั่งจักรมี หาปราสาท (จกั -กร-ี มะ-หา-ปรา-สาท) พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหส้ รา้ งขึน้ ระหวา่ ง หมู่พระมหามณเฑียรกับหมู่พระมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง เดิมประกอบด้วยหมู่พระที่น่ัง ต่างๆ รวม ๑๑ องค์ ปัจจบุ นั เหลอื เพียง ๔ องค์ โดยมีพระทน่ี ่ังที่ส�ำคญั ท่ีสุดคือ พระทนี่ ง่ั จกั รมี หา ปราสาท สรา้ งเมอ่ื พทุ ธศกั ราช ๒๔๑๙ เพอื่ เปน็ ทอ้ งพระโรง ลกั ษณะเปน็ อาคาร ๓ ชนั้ และมพี ระทนี่ ง่ั ๓ องค์ เชอ่ื มต่อกนั คือ พระทน่ี ัง่ องคก์ ลาง พระที่นัง่ องคต์ ะวันตก และพระทน่ี ่ังองคต์ ะวนั ออก โดย ชัน้ บนพระทน่ี ่ังองค์กลางเป็นท่ีประดิษฐานพระบรมอฐั ิ รชั กาลท่ี ๔ ถงึ รชั กาลท่ี ๙ ท้องพระโรงกลาง เป็นท่ปี ระดิษฐานพระแทน่ พดุ ตานถม ภายใตพ้ ระนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระท่ีนงั่ จักรมี หาปราสาทนี้ ในรัชกาลที่ ๙ และรชั กาลท่ี ๑๐ เปน็ ท่ีเสด็จออกรับทตู านุทูต ท่ีมาเฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวายพระพรชัยมงคลในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก 76
พระท่นี ่งั บรมราชสถติ ยมโหฬาร (บอ-รม-มะ-ราด-สะ-ถิด-มะ-โห-ลาน) พระท่ีนัง่ องค์เดมิ เป็นอาคาร ๒ ช้นั แบบตะวนั ตก มเี ฉลยี งตอ่ กบั พระท่นี ่ังจักรมี หาปราสาท สรา้ งสมยั รัชกาลที่ ๕ ต่อมาในรัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้รือ้ และสร้างใหม่ เพ่ือขยบั ขยายพ้ืนที่จัดเล้ียงและรับรองพระราชอาคันตุกะและแขกส�ำคัญของบ้านเมือง ลักษณะอาคารเป็น สถาปัตยกรรมแบบไทยประเพณีผสมตะวันตก หน้าบันประดับพระบรมราชสัญลักษณ์จักรีล้อมด้วย สังวาลนพรตั น์ และพระราชลญั จกรประจำ� รัชกาลท่ี ๙ โดยมบี ันไดเลอื่ นเช่อื มไปยังท้องพระโรงหลัง พระทน่ี ่งั จกั รีมหาปราสาท การก่อสร้างแลว้ เสรจ็ เม่ือเดือนพฤษภาคม พทุ ธศักราช ๒๕๔๙ และไดใ้ ช้ ในงานพระราชทานเลย้ี งพระกระยาหารคำ�่ แดส่ มเดจ็ พระราชาธบิ ดี และสมเดจ็ พระราชนิ ตี า่ งประเทศ พรอ้ มทั้งบคุ คลส�ำคัญ เนือ่ งในงานฉลองสริ ริ าชสมบัติครบ ๖๐ ปี เมอ่ื วนั ที่ ๑๓ มถิ ุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ เปน็ ครั้งแรก ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ใช้เป็นที่ พระราชทานเลย้ี งคณะทูตานุทูต 77
พระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท ตงั้ อยใู่ นเขตพระราชฐานช้นั กลางทางฝั่งตะวันตก ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเพ่ือใช้เป็นที่เสด็จออกว่าราชการ ต่อมาเป็นท่ีต้ัง พระบรมศพพระมหากษตั ริย์ รวมทัง้ พระอคั รมเหสีและพระศพพระบรมวงศ์บางพระองค์ พระที่น่ังดุสิตมหาปราสาท เป็นพระท่ีนั่งก่ออิฐถือปูน ยกพื้นสูงรูปจัตุรมุข หลังคาทรง ปราสาท มุขเด็จด้านหน้าพระทนี่ ง่ั ดุสิตมหาปราสาทเป็นมขุ โถงมพี ระทนี่ งั่ บษุ บกมาลาต้ังอยู่กลางมขุ เปน็ ท่ีสำ� หรับเสด็จออกมหาสมาคม หรือเสดจ็ ออกใหป้ ระชาชนเฝา้ ทลู ละอองธุลพี ระบาท ในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกในสมยั รชั กาลที่ ๙ และรชั กาลท่ี ๑๐ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ด้วยขบวนราบใหญ่จากวัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาทเพื่อถวายบังคม พระบรมอฐั ิ และพระอฐั ิสมเด็จพระบรมราชบพุ การี 78
พระท่นี ่งั อาภรณ์พิโมกข์ปราสาท พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นบนก�ำแพงแก้วระหว่าง พระทนี่ ั่งจกั รีมหาปราสาทและพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาท เปน็ พระท่นี ั่งในลกั ษณะพลับพลาโถงทรง ปราสาทจัตุรมุข ลงรักปิดทองประดับกระจกท้ังองค์ หน้าบันแต่ละมุขมีรูปท้าวจตุโลกบาลประดับ ตามทศิ ท่ีสถติ มีบนั ไดขน้ึ ลงทั้ง ๔ ด้าน เคยใช้เป็นทปี่ ระกอบพระราชพิธีโสกนั ต์ และใชเ้ ป็นพลบั พลา สำ� หรบั ประทบั พระราชยานรบั สง่ เสดจ็ เมอื่ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ โดยขบวนพยหุ ยาตราทางสถลมารค ด้านทศิ ตะวันออกและตะวันตกจงึ มเี กยชาลาส�ำหรบั ประทบั พระราชยาน ในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๑๐ เปน็ ทปี่ ระทบั พระราชยานในการเสด็จพระราชด�ำเนินโดยขบวนราบใหญ่ ไปทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศลถวายบังคม พระบรมอฐั ิ พระอัฐิ สมเดจ็ พระบรมราชบุพการี ณ พระท่นี งั่ ดสุ ิตมหาปราสาท 79
พระที่นง่ั สทุ ไธสวรรย์ปราสาท (สุด-ไท-สะ-หวนั -ปรา-สาด) ตงั้ อยบู่ นกำ� แพงพระบรมมหาราชวงั ระหวา่ งประตเู ทวาพทิ กั ษก์ บั ประตศู กั ดไิ์ ชยสทิ ธ์ิ สรา้ ง ในรัชกาลท่ี ๑ เพื่อเป็นที่ประทับทอดพระเนตรขบวนแห่ในพระราชพิธีสนานใหญ่ และการฝึกช้าง ลักษณะเป็นพลับพลาโถง ท�ำดว้ ยเครอ่ื งไม้ มีอัฒจนั ทร์ข้ึนลงทางทิศเหนอื และทิศใต้ ต่อมาในรัชกาล ที่ ๔ โปรดเกลา้ ฯ ให้ก่อผนงั อิฐฉาบปูนต่อเตมิ หลงั คาเปน็ ยอดปราสาท พุทธศักราช ๒๔๙๒ มกี าร ตอ่ เติมสร้างเฉลยี งไมด้ า้ นตะวนั ออกเปน็ สีหบญั ชร ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๙ และรัชกาลที่ ๑๐ เป็นสถานท่ีเสด็จออก ณ ท้องพระโรง เพือ่ ใหผ้ ู้นำ� ศาสนา และผู้แทนคณะพาณชิ ย์ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวายพระพร ชยั มงคล และเสดจ็ ออก ณ สหี บญั ชร เพอื่ ใหพ้ สกนกิ ร เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวายพระพรชยั มงคล 80
พระบรมราชานุสรณ์ รัชกาลท่ี ๕ เป็นพระบรมรูปท่ีพระบรม วงศานุวงศ์ ข้าราชการ พ่อค้า คหบดี และประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าใน รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ร่วมใจกันจัดสร้างขึ้นเพื่อ น้อมเกล้าน้อมกระหมอ่ มถวาย “สมเด็จ พระปิยมหาราช” ผู้ทรงเป็นที่รักย่ิงของ ปวงชนชาวไทย ในมหามงคลสมยั ทท่ี รง ครองสริ ริ าชสมบัตยิ าวนาน ๔๐ ปี เมอื่ พุทธศกั ราช ๒๔๕๑ พระบรมรปู ทรงม้าน้ี ชา่ งหลอ่ ชาวฝร่ังเศสแหง่ บรษิ ัท ซูซ แฟรส์ ฟองเดอร์ (Susse Fréres Fondeur) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หล่อด้วยโลหะชนิดทองบรอนซ์ โดยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯ ไปประทับให้ช่างปั้นพระบรมรูป เมื่อวันท่ี ๒๒ สิงหาคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๐ คราวเสดจ็ ประพาสยโุ รป ครัง้ ท่ี ๒ พระบรมรปู ส�ำเรจ็ เรียบรอ้ ยและสง่ เข้ามายงั กรุงรตั นโกสนิ ทร์ทางเรือ เมอื่ พุทธศักราช ๒๔๕๑ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว โปรด ให้ประดษิ ฐานพระบรมรปู ไว้ ณ พระลานพระราชวงั ดุสิต และเสดจ็ พระราชดำ� เนินมาทรงประกอบ พระราชพธิ รี ชั มงั คลาภเิ ษก ทรงครองสริ ริ าชสมบตั คิ รบ ๔๐ ปี และทรงเปดิ ผา้ คลมุ พระบรมราชานสุ รณ์ พระบรมรปู ทรงม้าเปน็ ปฐมฤกษ์ ในการพระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก รัชกาลท่ี ๑๐ เสด็จพระราชดำ� เนนิ ไปถวายราชสักการะ พระบรมราชานสุ รณ์ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั ณ พระลานพระราชวงั ดุสิต 81
ปฐมบรมราชานุสรณ์ ประดษิ ฐาน ณ เชงิ สะพานพระพทุ ธยอดฟ้า ฝ่งั พระนคร เมอ่ื พุทธศกั ราช ๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชปรารภกับรัฐบาล ในการสร้างถาวรวัตถุเป็นอนุสรณ์ในโอกาสกรุง รัตนโกสินทร์ จะมีอายุครบ ๑๕๐ ปี ในพุทธศักราช ๒๔๗๕เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รตพิ ระปฐมบรมกษตั รยิ ์พระผู้ ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ โดยสร้างพระบรมรูป พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช และ สะพานขา้ มแมน่ ำ�้ เจา้ พระยาเชอ่ื มระหวา่ งฝง่ั พระนคร กบั ฝง่ั ธนบุรี เรยี กว่า “ปฐมบรมราชานสุ รณ”์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรม พระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงออกแบบและอ�ำนวย การก่อสร้าง ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ปั้น และหล่อ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอย่หู ัวเสด็จ พระราชด�ำเนินไปทรงเปิดผ้าคลุมพระบรมรูป เมื่อ วันท่ี ๖ เมษายน พุทธศกั ราช ๒๔๗๕ เปน็ ราชประเพณสี บื มาทพ่ี ระมหากษตั ริย์ เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ ไปถวายพานพุ่ม เพื่อถวาย ราชสกั การะพระบรมราชานสุ รณ์ ในวนั ทีร่ ะลึกมหาจกั รบี รมราชวงศ์ วันที่ ๖ เมษายน ของทุกปี ในการพระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก รัชกาลที่ ๑๐ เสดจ็ พระราชดำ� เนินไปถวายราชสกั การะ พระบรมรปู พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์ 82
วัดบวรนิเวศวหิ าร (บอ-วอน-น-ิ เวด-ว-ิ หาน) พนื้ ทเี่ ดมิ เปน็ ทต่ี ง้ั ของวดั ๒ วดั ประกอบดว้ ยวดั รงั ษสี ทุ ธาวาส และวดั ทสี่ มเดจ็ พระบวรราช เจ้ามหาศักดิพลเสพ ทรงสถาปนาขึ้นใหม่อีกวัดหนึ่งคือ วัดใหม่หรือวัดวังหน้า ครั้นเมื่อพุทธศักราช ๒๓๙๗ ในรัชกาลท่ี ๓ โปรดเกล้าฯ ใหร้ วมวดั ท้ัง ๒ เขา้ ดว้ ยกันและพระราชทานนามวัดขนึ้ ใหม่เปน็ วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎ (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ขณะทรง พระผนวชเปน็ เจา้ อาวาสวัด ได้ตั้งคณะสงฆ์ฝา่ ยธรรมยตุ กิ นิกายข้นึ ท่ีน่ีเปน็ คร้งั แรก วดั บวรนเิ วศวหิ ารนี้ รชั กาลท่ี ๔ ถงึ รชั กาลท่ี ๗ ประทบั จำ� พรรษาขณะทรงพระผนวช รชั กาล ท่ี ๙ ทรงพระผนวชและประทับจ�ำพรรษา ณ พระต�ำหนักป้ันหยา และพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั รชั กาลท่ี ๑๐ ประทบั จำ� พรรษาขณะทรงพระผนวช เมอื่ ครง้ั ดำ� รงพระอสิ รยิ ยศสมเดจ็ พระบรมโอรสาธิ ราช สยามมกุฎราชกุมาร และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชกรุงรัตนโกสินทร์ ๔ พระองค์ ภายในวดั มแี ผนผงั ศาสนสถานตามอยา่ งสมยั รตั นโกสนิ ทร์ คอื มพี ระเจดยี เ์ ปน็ ประธาน มพี ระวหิ ารและ พระอโุ บสถเปน็ อาคารประกอบหลกั มลี กั ษณะสถาปตั ยกรรมไทยผสมจนี ตามแบบพระราชนยิ มในสมยั รชั กาลท่ี ๓ ภายในพระอโุ บสถเขยี นภาพปรศิ นาธรรม ฝมี อื บรมครขู รวั อนิ โขง่ และประดษิ ฐานพระพทุ ธ ชินสีห์ พระพุทธรูปส�ำคัญคู่บ้านคู่เมืองท่ีอัญเชิญ มาจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก ภายใต้พุทธบัลลังก์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมราช สรรี างคารรัชกาลท่ี ๖ และรัชกาลท่ี ๙ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาล ที่ ๑๐ เสดจ็ พระราชด�ำเนินเลียบพระนครดว้ ยขบวน พยุหยาตราทางสถลมารคไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร เพ่ือทรงนมัสการพระพุทธชินสีห์ พระประธานใน พระอุโบสถ และถวายราชสักการะพระบรมราช สรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดช บรมนาถบพติ ร 83
วัดราชบพธิ สถิตมหาสีมาราม (ราด-ชะ-บอ-พดิ -สะ-ถดิ -มะ-หา-ส-ี มา-ราม) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ถือเป็นวัดประจ�ำ รัชกาลท่ี ๕ โดยมีพระมหาเจดีย์เป็นศูนย์กลางของวัด ส่วนพระอุโบสถ พระวิหารต้ังอยู่รอบข้าง เช่ือมถึงกันด้วยระเบียงคดรอบพระเจดีย์ ทุกอาคารประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ ภายใน พระอุโบสถและพระวิหารประดับตกแต่งตามแบบสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมตะวันตก มีพระพุทธ อังคีรส เป็นพระประธานในพระอุโบสถ ภายใต้พุทธบัลลังก์ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคาร พระมหากษตั รยิ ร์ ชั กาลที่ ๗ พระราชสรรี างคารสมเดจ็ พระนางเจา้ รำ� ไพพรรณี พระบรมราชนิ ี ในรชั กาล ที่ ๗ และพระบรมราชสรีรางคารรัชกาลที่ ๙ ชานก�ำแพงดา้ นทิศตะวันตกเปน็ ท่ตี ั้งสสุ านหลวงบรรจุ พระสรีรางคารพระบรมวงศานวุ งศ์ วดั ราชบพธิ สถติ มหาสมี าราม เคยเปน็ ทป่ี ระทบั ของสมเดจ็ สงั ฆราชมาแลว้ ๒ พระองค์ และ สมเดจ็ พระอรยิ วงศาคตญาณ สมเด็จพระสงั ฆราชองค์ปจั จบุ ัน ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๑๐ เสด็จพระราชด�ำเนินเลียบพระนคร ด้วยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่อทรงนมัสการพระพุทธ อังคีรส พระประธานในพระอุโบสถ แ ล ะ ถ ว า ย ร า ช สั ก ก า ร ะ พ ร ะ บ ร ม ราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระ ปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชสรีรางคาร ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น า ง เ จ ้ า ร� ำ ไ พ พ ร ร ณี พระบรมราชินี ในรชั กาลท่ี ๗ 84
วัดพระเชตพุ นวมิ ลมังคลาราม (พระ-เชด-ตุ-พน-ว-ิ มน-มัง-คะ-ลา-ราม) พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดเก่า ในสมยั อยุธยา ช่อื วดั โพธาราม หรอื วัดโพธ์ิ ขนึ้ ใหม่ทัง้ พระอาราม พระราชทานนามวา่ วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาวาส ตอ่ มารชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระนัง่ เกลา้ เจา้ อยูห่ ัว โปรดเกลา้ ฯ ให้ขยายอาณาเขต พระอารามด้านทิศใต้และทิศตะวันตก รวมถึงจารึกความรู้สรรพวิชาการ เช่น ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม ต�ำราการแพทย์แผนไทย ตำ� รานวด และต�ำรายา ไว้ตามเสาศาลารายโดยรอบ ถือวา่ เป็น มหาวทิ ยาลยั แหง่ แรกของไทย พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดเกลา้ ฯ ใหบ้ รู ณะ แลว้ ทรง เปล่ยี นสรอ้ ยนามพระอารามเป็น วัดพระเชตุพนวมิ ลมังคลาราม พระอารามแห่งน้ีมีส่ิงส�ำคัญประกอบด้วย พระอุโบสถเก่า พระวิหารพระพุทธไสยาส พระมหาเจดีย์ ๔ รัชกาล และประติมากรรมรูปฤๅษีดัดตน ใต้พุทธบัลลังก์พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช จึงถือกนั วา่ เป็นวดั ประจำ� รชั กาลที่ ๑ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลท่ี ๑๐ เสด็จพระราชด�ำเนินเลียบพระนครโดย ขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อทรงนมัสการพระพุทธ เทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถ และถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาท สมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช 85
วัดสทุ ศั นเทพวราราม (ส-ุ ทัด-เทบ-พะ-วะ-รา-ราม) สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลท่ี ๑ ตรงพ้ืนท่ีท่ีเป็นศูนย์รวมชุมชนและศูนย์รวมศาสนสถานท้ัง พุทธและพราหมณ์กลางพระนคร แผนผังเขตพุทธาวาสจ�ำลองภูมิจักรวาลตามคติมณฑลแบบพุทธ พระวิหารหลวงประดิษฐานพระศรีศากยมุนีหรือหลวงพ่อโตซ่ึงอัญเชิญมาจากเมืองสุโขทัย ชุกชี (ฐานพระพทุ ธรปู ) ประดษิ ฐานพระบรมราชสรรี างคารรชั กาลท่ี ๘ ภายในพระอโุ บสถมภี าพจติ รกรรม พทุ ธประวัติ และเร่อื งในวรรณคดี ดา้ นหนา้ พระอุโบสถมีสตั ตมหาสถานหรือสัญลักษณแ์ สดงสถานท่ี พระพทุ ธองค์ประทับภายหลงั การตรสั รู้ ๗ แห่ง ด้วยความสำ� คญั ของสถานทต่ี ั้งและคตคิ วามเชื่อทาง ศาสนา วัดสุทัศนเทพวรารามจงึ เป็นสถานท่ปี ระกอบพิธกี รรมสำ� คัญทางศาสนาของบ้านเมอื ง ในการพระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก รัชกาลที่ ๑๐ เปน็ สถานทเี่ สกน้�ำอภิเษกจาก ๗๖ จงั หวัด และกรงุ เทพมหานครเพอื่ แหเ่ ชญิ ไปยงั พระอโุ บสถวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม รวมทง้ั นำ�้ จากเบญจสทุ ธ คงคาและน้�ำจากสระ ๔ สระ 86
วดั อรุณราชวราราม (อะ-รุน-ราด-ชะ-วะ-รา-ราม) เดิมชื่อวัดมะกอก สร้างในสมัยอยุธยา ปฏิสังขรณ์สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เปล่ียนช่ือเป็นวัดแจ้ง และเปล่ียนเป็นวัดอรุณราชวรารามหลังการปฏิสังขรณ์อีกคร้ังในสมัยรัชกาล ท่ี ๒ วัดนม้ี ีศาสนสถานสำ� คัญ คอื พระปรางคท์ ่สี ร้างมาแตร่ ัชกาลที่ ๒ และสร้างเพ่มิ เติมแลว้ เสร็จใน สมัยรชั กาลท่ี ๓ แตไ่ ด้มีการฉลองในรัชกาลที่ ๔ โดยมพี ระปรางคป์ ระธานขนาดใหญส่ งู ๘๑ เมตร มี พระปรางคอ์ งคเ์ ลก็ และมณฑปประจำ� ทศิ ทง้ั ๔ ทงั้ หมดมสี ขี าวประดบั ตกแตง่ ดว้ ยกระเบอื้ งสงี ดงามยง่ิ พระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยนามว่า พระพุทธธรรมิศราชโลกธาตุดิลก ที่หน้า พระประธานประดษิ ฐานพระอรณุ หรอื พระแจง้ ศลิ ปะลา้ นชา้ ง อญั เชญิ มาไวแ้ ตค่ รงั้ รชั กาลท่ี ๔ ปจั จบุ นั พระปรางคว์ ัดอรณุ ราชวรารามเป็นเสมือนสญั ลกั ษณข์ องประเทศไทยและเปน็ ที่รู้จักกันไปทัว่ โลก ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ เสด็จ พระราชด�ำเนินโดยขบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค เพ่อื ทรงบ�ำเพญ็ พระราชกศุ ลถวายผ้าพระกฐิน 87
พุทธเสจถดาียนสทถ่ีปานระรสกัช�ำอกคบาัญลพทใิธนี่ที ๙ภำ� ูมนภิำ้� อาคภเิ ๑ษ๘ก แหง่ วัดพระพทุ ธบาท วัดพระศรีรตั นมหาธาตุ วัดพระศรรี ตั นมหาธาตุ จงั หวดั สระบรุ ี จงั หวดั พษิ ณุโลก จังหวัดสโุ ขทยั วัดพระปฐมเจดยี ์ วัดพระมหาธาตุ วัดพระธาตหุ ริภุญไชย จงั หวดั นครปฐม จงั หวัดนครศรธี รรมราช จังหวดั ลำ� พูน วดั พระธาตุพนม วัดพระบรมธาตุ วดั พระธาตุแช่แห้ง จงั หวดั นครพนม จงั หวดั ชัยนาท จงั หวดั นา่ น 88
วัดพระนารายณ์มหาราช วดั บึงพระลานชยั วดั อบุ ลรัตนาราม จงั หวัดนครราชสมี า จังหวดั รอ้ ยเอด็ จังหวดั อุบลราชธานี วัดตานนี รสโมสร วัดโสธรวราราม วัดพลบั จังหวัดปัตตานี จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา จังหวดั จนั ทบุรี วดั พระทอง วดั พระบรมธาตไุ ชยา วดั พระมหาธาตุ จังหวัดภูเกต็ จงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี จังหวัดเพชรบรุ ี 89
รชั กาลที่ ๑๐ แหล่งน้ำ� ศักด์สิ ิทธิ์ ๑๐๘ แห่ง และสถานท่ีประกอบพธิ ี ทำ� นำ�้ อภเิ ษก ๗๖ จงั หวดั และกรุงเทพมหานคร ท่ี จังหวดั แหล่งน�ำ้ ศกั ด์สิ ิทธ์ิ สถานท่ปี ระกอบพิธเี สกน�้ำ ๑ กรุงเทพมหานคร หอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวงั วดั สทุ ศั นเทพวราราม จังหวัดท่มี แี หลง่ น�้ำศกั ดิส์ ทิ ธ์ิ จ�ำนวน ๑ แหล่งนำ�้ มีจ�ำนวน ๖๐ จังหวัด จำ� นวน ๖๐ แหลง่ นำ้� ท่ี จงั หวัด แหล่งนำ้� ศักดิ์สิทธ์ิ สถานทปี่ ระกอบพิธเี สกน�ำ้ ๑ กระบ่ี วังเทวดา พระอโุ บสถวดั แก้วโกรวาราม ที่ต้งั : น้ำ� ตกหว้ ยโต้ อุทยานแห่งชาติ อ�ำเภอเมืองกระบ่ี เขาพนมเบญจา อำ� เภอเมอื งกระบ่ี ๒ กาญจนบุรี แม่น�้ำสามประสบ พระอโุ บสถวัดไชยชุมพล ทตี่ ้ัง: บา้ นวงั กะ ชนะสงคราม (วัดใต้) (บริเวณวดั วังกว์ เิ วการามเกา่ ) อ�ำเภอเมืองกาญจนบุรี อ�ำเภอสงั ขละบุรี ๓ กาฬสินธุ์ กดุ น�ำ้ กนิ พระอโุ บสถวดั กลาง ที่ต้ัง: สวนสาธารณะกุดน�ำ้ กิน อ�ำเภอเมอื งกาฬสนิ ธ์ุ เทศบาลเมืองกาฬสินธ์ุ อำ� เภอเมอื งกาฬสนิ ธ์ุ 90
ท่ี จงั หวัด แหล่งน�ำ้ ศักด์ิสิทธิ์ สถานทป่ี ระกอบพิธีเสกน้ำ� ๔ กำ� แพงเพชร บอ่ สามแสน พระอโุ บสถวัดคยู าง ท่ตี ้ัง: อทุ ยานประวัติศาสตร์ อำ� เภอเมอื งก�ำแพงเพชร ๕ ขอนแกน่ ก�ำแพงเพชร ๖ ฉะเชงิ เทรา อ�ำเภอเมอื งก�ำแพงเพชร ๗ ชลบรุ ี บ่อน�้ำศกั ดิส์ ทิ ธ์ิ (บาราย) วดั ก่ปู ระภาชัย พระอุโบสถวดั หนองแวง ๘ ชัยนาท ทต่ี ้ัง: บ้านนาคำ� นอ้ ย อ�ำเภอนำ้� พอง อำ� เภอเมอื งขอนแก่น ๙ ชุมพร ปากน้�ำโจ้โล้ หรอื คลองท่าลาด พระอุโบสถวดั โสธรวราราม ทต่ี ้ัง: ตำ� บลปากน�้ำ อำ� เภอบางคล้า อำ� เภอเมืองฉะเชิงเทรา สระเจ้าคุณเฒ่า วดั เขาบางทราย พระอโุ บสถวัดเขาบางทราย ที่ตง้ั : วดั เขาบางทราย บา้ นบางทราย อ�ำเภอเมืองชลบุรี อำ� เภอเมืองชลบุรี แม่นำ้� เจ้าพระยา พระอโุ บสถวดั พระบรมธาตุ บรเิ วณหนา้ วดั ธรรมามูล อ�ำเภอเมอื งชยั นาท ท่ตี ง้ั : วดั ธรรมามลู พระอุโบสถวดั ชมุ พรรังสรรค์ อ�ำเภอเมอื งชยั นาท อำ� เภอเมอื งชุมพร บ่อน�้ำทิพย์ถ้ำ� เขาพลู หรือบ่อน้�ำศักดิส์ ิทธถิ์ ำ�้ เขาพลู ทีต่ ั้ง: วดั ถำ้� เขาพลู อ�ำเภอปะทวิ 91
ที่ จงั หวดั แหล่งน�ำ้ ศกั ดิ์สทิ ธ์ิ สถานทปี่ ระกอบพธิ ีเสกนำ้� ๑๐ เชียงราย ๑๑ ตรัง บอ่ น�ำ้ ทพิ ย์ พระอุโบสถวัดพระแก้ว ทตี่ ั้ง: วดั พระธาตุดอยตุง อำ� เภอเมอื งเชยี งราย ๑๒ ตราด อำ� เภอแมส่ าย ๑๓ ตาก แมน่ �้ำตรงั บรเิ วณหนา้ ท่าน้ำ� พระอุโบสถวัดกะพังสุรินทร์ วดั ประสิทธิชัย อำ� เภอเมืองตรงั ๑๔ นครปฐม ทตี่ ้งั : บริเวณหน้าทา่ น้�ำวัดประสทิ ธชิ ัย ๑๕ นครพนม (วัดท่าจีน) อ�ำเภอเมอื งตรัง น�ำ้ ตกธารมะยม พระอโุ บสถวดั โยธานิมิต ท่ีตงั้ : บรเิ วณด้านหลงั ทที่ ำ� การอุทยาน อ�ำเภอเมอื งตราด แหง่ ชาตหิ มเู่ กาะช้าง อำ� เภอเกาะช้าง อ่างเกบ็ นำ้� เขอ่ื นภมู ิพล พระอโุ บสถวดั มณบี รรพต ทต่ี ง้ั : การไฟฟ้าฝา่ ยผลติ อ�ำเภอเมืองตาก แห่งประเทศไทย (เขือ่ นภมู ิพล) อ�ำเภอสามเงา สระนำ้� จันทร์ หรือสระบวั พระวิหารหลวงวัดพระปฐมเจดีย์ ท่ตี งั้ : บา้ นเนนิ ปราสาท อำ� เภอเมืองนครปฐม อ�ำเภอเมืองนครปฐม สระน้ำ� มูรธาภเิ ษก พระอุโบสถวัดพระธาตุพนม หรือบ่อนำ�้ พระอินทร์ อำ� เภอธาตพุ นม ที่ตัง้ : วัดพระธาตพุ นม อำ� เภอธาตุพนม 92
ที่ จังหวดั แหล่งน�ำ้ ศกั ด์ิสทิ ธิ์ สถานทปี่ ระกอบพิธีเสกน�้ำ ๑๖ นครราชสมี า ตน้ นำ�้ ลำ� ตะคอง อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ พระวหิ ารหลวง ๑๗ นครสวรรค์ ท่ีตงั้ : บรเิ วณเขาสามยอดฐานเฉพาะกิจ วัดพระนารายณ์มหาราช ๑๘ นนทบรุ ี คลองอเี ฒา่ อุทยานแห่งชาติ อ�ำเภอเมืองนครราชสีมา เขาใหญ่ อ�ำเภอปากชอ่ ง ๑๙ น่าน ๒๐ บุรีรมั ย์ บึงบอระเพ็ด พระอุโบสถวดั นครสวรรค์ ๒๑ ปทุมธานี ที่ต้งั : อยู่ในเขตการปกครอง อำ� เภอเมอื งนครสวรรค์ ของจงั หวัดนครสวรรค์ กลางแม่น้ำ� เจา้ พระยา เบอ้ื งหน้า พระอุโบสถวัดเฉลมิ พระเกยี รติ พระบรมราชานสุ าวรยี พ์ ระบาทสมเดจ็ อ�ำเภอเมืองนนทบุรี พระนัง่ เกลา้ เจ้าอยู่หัว ที่ต้งั : วดั เฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอเมืองนนทบุรี บ่อน�้ำศักดส์ิ ทิ ธิ์วัดสวนตาล พระวหิ ารวดั พระธาตุแช่แห้ง ที่ต้งั : อ�ำเภอเมอื งน่าน อำ� เภอภูเพยี ง แหล่งน้ำ� ศกั ด์สิ ิทธ์ิ วดั กลาง พระอุโบสถวัดกลาง ทต่ี ง้ั : วดั กลาง อ�ำเภอเมอื งบุรีรมั ย์ อำ� เภอเมืองบุรรี มั ย์ แม่นำ้� เจา้ พระยา พระอโุ บสถวัดเขียนเขต บริเวณหน้าวัดศาลเจา้ อำ� เภอธัญบุรี ทีต่ ้งั : อ�ำเภอเมืองปทมุ ธานี 93
ที่ จังหวัด แหลง่ น�ำ้ ศักด์ิสทิ ธ์ิ สถานทีป่ ระกอบพิธีเสกน้�ำ พระอุโบสถวัดคลองวาฬ ๒๒ ประจวบครี ีขนั ธ์ บ่อน�ำ้ ศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ หรอื บอ่ น้ำ� ทพิ ย์ อำ� เภอเมืองประจวบครี ีขันธ์ ทต่ี ้งั : อยู่ในบริเวณถ�ำ้ เขาม้าร้อง วหิ ารพระมงคลบพติ ร บา้ นฝ่ายทา่ อำ� เภอบางสะพาน อ�ำเภอพระนครศรอี ยุธยา ๒๓ พระนครศรอี ยธุ ยา น้�ำภายในพระเศียรหลวงพอ่ ทองสุข พระอโุ บสถวดั ประชมุ โยธี สมั ฤทธิ์ และบอ่ น�ำ้ ศักด์สิ ิทธ์ิ วัดตมู อำ� เภอเมืองพงั งา ทีต่ ้ัง: วัดตมู ถนนอยุธยา - อา่ งทอง อำ� เภอพระนครศรอี ยธุ ยา ๒๔ พังงา บ่อน�้ำศกั ด์สิ ิทธ์ิ ถ้ำ� น้ำ� ผดุ ทตี่ ั้ง: ศาลเจ้าบนุ๋ เถ้าก๋ง บา้ นถำ้� น�้ำผดุ อ�ำเภอเมืองพงั งา ๒๕ พิจติ ร แม่น�ำ้ นา่ น บรเิ วณกลางแมน่ �้ำหนา้ พระอโุ บสถวัดทา่ หลวง พระอุโบสถวัดท่าหลวง อ�ำเภอเมืองพิจิตร ทีต่ ัง้ : วัดทา่ หลวง อำ� เภอเมอื งพจิ ิตร ๒๖ พิษณุโลก สระสองห้อง พระวิหารพระพุทธชนิ ราช ๒๗ เพชรบุรี ที่ต้งั : พระราชวังจนั ทน์ ถนนวงั จันทน์ วัดพระศรรี ตั นมหาธาตุ อำ� เภอเมืองพิษณุโลก อ�ำเภอเมืองพษิ ณโุ ลก ท่าน้ำ� วัดทา่ ไชยศริ ิ พระวหิ ารวัดมหาธาตุ ทต่ี ัง้ : วดั ทา่ ไชยศิริ อ�ำเภอเมืองเพชรบรุ ี อำ� เภอบา้ นลาด 94
ท่ี จงั หวัด แหล่งน้ำ� ศกั ดิ์สิทธ์ิ สถานทีป่ ระกอบพิธีเสกน�้ำ ๒๘ ภูเก็ต บอ่ นำ�้ ศกั ดิ์สทิ ธิ์วดั ไชยธาราราม วหิ ารวดั พระทอง อ�ำเภอถลาง ๒๙ มหาสารคาม ที่ต้ัง: วดั ไชยธาราราม (วัดฉลอง) ๓๐ มุกดาหาร อ�ำเภอเมืองภเู ก็ต ๓๑ แมฮ่ อ่ งสอน บอ่ น้�ำศกั ดิส์ ทิ ธ์ิ หรอื หนองดนู พระอุโบสถวดั มหาชยั ๓๒ ยโสธร ท่ีต้งั : บ้านหนองโง้ง อำ� เภอนาดูน อ�ำเภอเมืองมหาสารคาม ๓๓ ยะลา ๓๔ รอ้ ยเอด็ น้�ำตกศกั ด์ิสทิ ธ์ิ พระอโุ บสถวัดศรีมงคลใต้ ที่ต้ัง: ในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธส์ุ ตั ว์ อ�ำเภอเมอื งมุกดาหาร ภูสฐี าน นำ�้ ตกแกง้ ช้างเนียม บา้ นแกง้ ช้างเนยี ม อ�ำเภอค�ำชะอี ถ�้ำปลา พระอโุ บสถวดั พระธาตุ ท่ตี ัง้ : อทุ ยานแหง่ ชาตถิ ำ�้ ปลา – น�้ำตก ดอยกองมู ผาเสื่อ อ�ำเภอเมอื งแมฮ่ อ่ งสอน อำ� เภอเมืองแมฮ่ ่องสอน ทา่ ค�ำทอง พระอุโบสถวัดศรธี รรมาราม ที่ตง้ั : อยู่รมิ แมน่ ้ำ� ชี บรเิ วณหลงั อ�ำเภอเมอื งยโสธร วดั ศรธี รรมาราม อำ� เภอเมอื งยโสธร สระแก้ว สระนำ้� ศักดส์ิ ิทธ์ิ พระอโุ บสถวัดพุทธภมู ิ ท่ตี ั้ง: บรเิ วณถำ�้ มีด หรือถำ้� ปปร. อ�ำเภอเมืองยะลา วัดคูหาภมิ ุข อำ� เภอเมืองยะลา สระชัยมงคล พระอโุ บสถวดั บงึ พระลานชยั ท่ตี ั้ง: วดั บึงพระลานชยั อ�ำเภอเมอื งรอ้ ยเอ็ด อำ� เภอเมืองร้อยเอ็ด 95
ท่ี จงั หวดั แหล่งนำ�้ ศักด์สิ ทิ ธ์ิ สถานที่ประกอบพิธเี สกนำ�้ ๓๕ ระนอง บ่อนำ้� พรุ อ้ นรักษะวาริน พระอโุ บสถวดั สุวรรณครี วี ิหาร ทต่ี ้งั : สวนสาธารณะรักษะวารนิ อ�ำเภอเมืองระนอง ๓๖ ระยอง อ�ำเภอเมอื งระนอง ๓๗ ราชบุรี วงั สามพญา พระอโุ บสถวดั ป่าประดู่ ๓๘ ลพบรุ ี ทีต่ ัง้ : วัดละหารไร่ อำ� เภอบ้านคา่ ย อำ� เภอเมืองระยอง พระวหิ ารหลวงวดั มหาธาตุ ๓๙ ลำ� ปาง สระโกสนิ ารายณ์ อำ� เภอเมืองราชบรุ ี ทต่ี ั้ง: อำ� เภอบา้ นโป่ง พระอุโบสถวดั กวศิ ราราม ๔๐ ล�ำพนู บอ่ น้ำ� ศกั ด์ิสทิ ธ์ิ อำ� เภอเมอื งลพบุรี ทต่ี ั้ง: วดั กวศิ ราราม ๔๑ เลย อำ� เภอเมอื งลพบุรี พระอโุ บสถ วัดพระแก้วดอนเตา้ บ่อน้�ำศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ หรือ สุชาดาราม บ่อน้ำ� เล้ียงพระนางจามเทวี อ�ำเภอเมอื งลำ� ปาง ท่ีตง้ั : บา้ นจามเทวี อ�ำเภอเกาะคา พระวหิ ารวัดพระธาตหุ ริภญุ ชัย ดอยขะมอ้ บ่อน�ำ้ ทพิ ย์ อ�ำเภอเมอื งลำ� พูน ท่ตี ง้ั : ที่พักสงฆด์ อยขะม้อ อ�ำเภอเมืองลำ� พนู พระอโุ บสถวดั ศรีสุทธาวาส น�้ำจากถำ�้ เพียงดิน อำ� เภอเมืองเลย ท่ตี ั้ง: วัดถำ�้ ผาปู่ บา้ นนาฮ้อ อำ� เภอเมอื งเลย 96
ที่ จังหวดั แหล่งน�ำ้ ศักดส์ิ ิทธ์ิ สถานท่ีประกอบพธิ ีเสกนำ�้ ๔๒ ศรีสะเกษ ๔๓ สกลนคร บอ่ น้ำ� ศักด์สิ ทิ ธ์ปิ ราสาทสระก�ำแพงนอ้ ย พระวหิ ารวัดมหาพุทธาราม ๔๔ สงขลา ท่ตี ง้ั : วดั เทพปราสาทสระก�ำแพงนอ้ ย อ�ำเภอเมอื งศรีสะเกษ ๔๕ สตูล อำ� เภออุทมุ พรพิสัย ๔๖ สมุทรปราการ บ่อนำ้� ศักดส์ิ ทิ ธภ์ิ นู ำ้� ลอด พระอโุ บสถวดั พระธาตเุ ชิงชมุ ๔๗ สมุทรสงคราม ท่ีตั้ง: วดั พระธาตุเชิงชุม อำ� เภอเมืองสกลนคร อำ� เภอเมอื งสกลนคร บ่อนำ้� ศักด์ิสทิ ธ์ิ วดั แหลมบ่อท่อ พระอโุ บสถวัดชยั มงคล ท่ีตง้ั : วดั แหลมบ่อท่อ อำ� เภอเมอื งสงขลา อ�ำเภอกระแสสินธุ์ บอ่ น้ำ� พรุ ้อนทุง่ น้ยุ พระอุโบสถวัดชนาธิปเฉลิม ที่ต้งั : อำ� เภอควนกาหลง อ�ำเภอเมืองสตลู แมน่ ำ้� เจ้าพระยา อโุ บสถ (หลังเก่า) บรเิ วณหน้าองคพ์ ระสมทุ รเจดีย์ วัดพิชัยสงคราม ทต่ี ั้ง: อำ� เภอเมืองสมทุ รปราการ อำ� เภอเมืองสมทุ รปราการ ตรงข้ามศาลากลาง จังหวดั สมุทรปราการ แหลง่ น�้ำศกั ด์สิ ทิ ธิ์ คลองดาวดงึ ษ์ พระอุโบสถวดั เพชรสมุทร ท่ตี ง้ั : บริเวณสามแยกหนา้ วดั ดาวดึงส์ อ�ำเภอเมอื งสมุทรสงคราม อ�ำเภออัมพวา 97
ที่ จงั หวัด แหล่งนำ�้ ศักด์สิ ิทธิ์ สถานทป่ี ระกอบพิธีเสกนำ�้ ๔๘ สมทุ รสาคร แหล่งน�ำ้ คลองดำ� เนนิ สะดวก พระอุโบสถวดั เจษฎาราม ทตี่ งั้ : บรเิ วณหนา้ วดั หลกั สร่ี าษฎรส์ โมสร อำ� เภอเมืองสมทุ รสาคร ๔๙ สระแกว้ อำ� เภอบา้ นแพ้ว ๕๐ สระบุรี ๕๑ สงิ ห์บรุ ี สระแกว้ – สระขวัญ พระอโุ บสถวัดสระแกว้ ๕๒ สรุ าษฎร์ธานี ทตี่ ้ัง: สวนสาธารณะสระแก้ว – ขวัญ อำ� เภอเมืองสระแก้ว อำ� เภอเมืองสระแก้ว ๕๓ สุรินทร์ ๕๔ หนองคาย แม่นำ�้ ปา่ สัก บรเิ วณบา้ นท่าราบ พระมณฑปรอยพระพุทธบาท ทีต่ ัง้ : บ้านทา่ ราบ หมทู่ ี่ ๖ วดั พระพุทธบาท อ�ำเภอเสาไห้ อำ� เภอพระพุทธบาท พระอุโบสถวัดพระนอนจักรสหี ์ สระน้ำ� ศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ วดั โพธ์เิ ก้าต้น อำ� เภอเมอื งสงิ หบ์ ุรี ท่ตี ้ัง: วัดโพธเ์ิ กา้ ต้น อ�ำเภอค่ายบางระจนั พระวิหารหลวง แหลง่ น้ำ� ศักดส์ิ ิทธพ์ิ ระบรมธาตุไชยา วดั พระบรมธาตุไชยา ที่ตัง้ : วัดพระบรมธาตุไชยา อำ� เภอไชยา อ�ำเภอไชยา สระโบราณ พระอุโบสถวัดบูรพาราม ที่ตงั้ : อยู่ในบรเิ วณโรงพยาบาลสุรินทร์ อ�ำเภอเมืองสรุ นิ ทร์ อ�ำเภอเมอื งสรุ ินทร์ สระมุจลนิ ท์ หรอื สระพญานาค พระอุโบสถวดั โพธิช์ ัย ท่ีต้งั : วัดพระธาตบุ งั พวน อำ� เภอเมอื งหนองคาย บ้านพระธาตุบังพวน อำ� เภอเมืองหนองคาย 98
ท่ี จังหวัด แหลง่ น�ำ้ ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ สถานทีป่ ระกอบพิธเี สกน�้ำ ๕๕ หนองบัวลำ� ภู บอ่ น�้ำศักดส์ิ ทิ ธิ์ วดั ศรีคณู เมอื ง พระอโุ บสถวัดศรีคูณเมอื ง ท่ตี ง้ั : บ้านเหนอื ถนนวรราชภกั ดี อำ� เภอเมืองหนองบัวลำ� ภู ๕๖ อา่ งทอง อ�ำเภอเมืองหนองบวั ลำ� ภู ๕๗ อำ� นาจเจรญิ แม่น�ำ้ เจ้าพระยา พระอุโบสถวดั ไชโย บริเวณพระอุโบสถวดั ไชโย อ�ำเภอไชโย ๕๘ อดุ รธานี ที่ตัง้ : วัดไชโย อ�ำเภอไชโย ๕๙ อตุ รดิตถ์ ๖๐ อบุ ลราชธานี อา่ งเก็บนำ้� พุทธอุทยาน พระอโุ บสถวัดสำ� ราญนิเวศ หรืออา่ งเก็บน้�ำหว้ ยปลาแดก อำ� เภอเมืองอำ� นาจเจริญ ท่ีตัง้ : อยตู่ รงขา้ มศาลากลาง จงั หวัดอ�ำนาจเจรญิ อำ� เภอเมืองอ�ำนาจเจรญิ บ่อนำ�้ ศักดส์ิ ิทธิ์ ค�ำชะโนด พระอุโบสถวัดมัชฌมิ าวาส ท่ีตง้ั : อ�ำเภอบา้ นดุง อำ� เภอเมอื งอดุ รธานี บ่อน�้ำทพิ ย์ พระวหิ ารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ท่ตี ง้ั : บ้านท่งุ ยง้ั เหนือ อำ� เภอลับแล อ�ำเภอลบั แล บ่อนำ�้ โจ๊ก พระอุโบสถวัดสปุ ฏั นาราม ท่ีตงั้ : ในเขตเทศบาลเมืองวารนิ ชำ� ราบ อำ� เภอเมอื งอบุ ลราชธานี อ�ำเภอวารนิ ช�ำราบ 99
จังหวดั ท่ีมแี หลง่ น�ำ้ ศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ จ�ำนวน ๒ แหลง่ น�้ำ มจี �ำนวน ๗ จังหวดั จ�ำนวน ๑๔ แหล่งนำ้� ท่ี จงั หวัด แหลง่ น้�ำศักดิ์สิทธิ์ สถานทป่ี ระกอบพิธีเสกน้�ำ ๑ ชยั ภูมิ ๑. บอ่ นำ้� ศักดิส์ ิทธวิ์ ัดไพรพี ินาศ อโุ บสถวดั ไพรีพนิ าศ ทตี่ ้ัง: วดั ไพรีพินาศ (วัดกลางเมอื งเกา่ ) (วัดกลางเมอื งเก่า) อ�ำเภอเมอื งชัยภูมิ อำ� เภอเมืองชัยภมู ิ ๒. ชผี ุด แมน่ ้ำ� ชี ทีต่ ง้ั : เขตรกั ษาพันธส์ุ ตั ว์ป่า ภูเขียว อ�ำเภอหนองบัวแดง ๒ นราธวิ าส ๑. น�ำ้ แบ่ง พระอุโบสถวดั ประชมุ ชลธารา ทตี่ ง้ั : อ�ำเภอตากใบ อำ� เภอสุไหงปาดี ๒. น�ำ้ ตกสิรนิ ธร ที่ตั้ง: บ้านบาลา อำ� เภอแว้ง ๓ บึงกาฬ ๑. พ้นื ทช่ี มุ่ นำ้� บงึ โขงหลง พระอุโบสถวดั เชกาเจติยาราม ทต่ี ั้ง: บ้านคำ� สมบูรณ์ อ�ำเภอบงึ โขงหลง อำ� เภอเชกา ๒. บ่อนำ�้ ศกั ดิ์สทิ ธถ์ิ �ำ้ พระ ทีต่ ง้ั : ใน:เขตรกั ษาพันธ์ุสตั วป์ า่ ภูววั บา้ นถำ้� พระ อำ� เภอเขกา ๔ ปราจีนบุรี ๑. บอ่ นำ้� หนา้ โบราณสถานรอยพระพุทธบาทคู่ พระอุโบสถวดั บางกะเบา ทีต่ ้ัง: อ�ำเภอศรีมโหสถ อ�ำเภอบา้ นสร้าง ๒. โบราณสถานสระแก้ว ท่ตี ง้ั : อำ� เภอศรมี โหสถ 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144