52 12. ชุดเกียรท์ ำหนา้ ท่ีอะไร ก. เปล่ียนทิศทางการเคล่ือนท่ี ข. เพ่ิมความเร็วของรถ ค. เพ่ิมแรงบิดโดยการเปล่ียนแปลงอัตราทด ง. เพม่ิ ความเรว็ ของรถ 13. เฟืองเกยี ร์ตวั ขับมีจำนวน 40 ฟนั เฟืองเกยี รต์ ัวตามมจี ำนวน 10 ฟนั ถา้ เฟืองตวั ขับหมุน 10 รอบ เฟืองตัวตาม จะหมนุ กี่รอบ ก. 10 รอบ ข. 20 รอบ ค. 30 รอบ ง. 40 รอบ 14. เฟืองเกยี ร์ตวั ขบั มจี ำนวน 20 ฟัน เฟืองเกียร์ตัวตามมีจำนวน 30 ฟัน จะมีอตั ราทดเทา่ ไร ก. 1 : 1 ข. 1.5 : 1 ค. 2 : 1 ง. 2.5 : 1 15. ควรเปลี่ยนน้ำมนั เกยี รร์ ถจักรยานยนตเ์ มื่อใด ก. 500 กม. แรกและทุก 4,000 กม. ข. 500กม. แรกและทกุ 8,000 กม. ค. 1,000 กม. แรกและทกุ 4,000 กม. ง. 1,000 กม. แรกและทุก 8,000 กม. 16. เกียร์อัตโนมัติการเปลย่ี นเกยี ร์จะขึน้ อยกู่ ับข้อใด ก. นำ้ หนกั ผู้ขบั ขี่และแรงเสียดทาน ข. ความเร็วและความร้อน ค. ภาระของรถและนำ้ หนักกบั รรทุก ง. ความเร็วและภาระของรถ 17. เกียร์อตั โนมตั ิพลเู ลย์ขับติดต้ังอยทู่ ี่ใด ก. เพลาขอ้ เหวี่ยง ข. เพลาคลตั ช์ ค. เพลาขบั เฟืองทดกำลัง ง. เพลาเกยี ร์ 18. ตมุ้ น้ำหนักเกียร์อตั โนมตั ิมีก่ีตวั ก. 3 ตวั ข. 4 ตวั ค. 6 ตวั ง. 7 ตวั 19. เกยี ร์อตั โนมตั ิทีค่ วามเร็วรอบช้าพลูเลยต์ ามตามเปน็ อย่างไร ก. พลู เลยข์ นาดเล็กสุด ข. พูลเลย์ขนาดปานกลาง ค. พลูเลย์ขนาดใหญ่สุด ง. พลู เลย์ขนาดคงที่ 20. เกียร์อัตโนมัติทีค่ วามเรว็ รอบสงู พลเู ลย์ขบั เป็นอยา่ งไร ก. พลเู ลย์ขนาดใหญส่ ุด ข. พลู เลยข์ นาดปานกลาง ค. พูลเลยข์ นาดเล็กสดุ ง. พูลเลย์ขนาดคงที่
53 ใบความร้แู บบฝึกทกั ษะงานจักรยานยนต์ ชอื่ หน่วย ถอด ประกอบ ตรวจสอบช้ินสว่ นของ หน่วยท่ี 3 เครือ่ งยนต์ ใบความรทู้ ่ี 2 การตรวจสอบและถอดประกอบ จำนวน 14 ชั่วโมง ชดุ คลตั ชจ์ ักรยานยนต์ สาระสำคญั ระบบสง่ กำลงั รถจักรยานยนตก์ ำลังจากเครื่องยนต์ออกจากเพลาข้อเหว่ียงส่งไปยงั ล้อหลัง ไดน้ ้ันมลี ำดบั การส่งกำลงั งาน ดังนี้เครื่องยนตช์ ดุ คลัตช์ ชุดเกยี ร์และการขับขน้ั สดุ ท้าย ซง่ึ การขับ ขนั้ สดุ ท้ายมอี ยู่ 3แบบคือแบบ โซแ่ บบเพลาและแบบสายพาน หนา้ ที่และส่วนประกอบของระบบสง่ กำลงั ระบบส่งกำลังมีหนา้ทสี่ ่งกำลงั นับจากเคร่ืองยนต์ ไ์ปยังล้อ หลงั โดยผ่านส่วนประกอบของ ระบบส่งกำลังคือคลัตชเ์ กียรแ์ ละอุปกรณ์ขับข้ันสดุ ท้ายมีอยู่ 3แบบ คอื 1.แบบโซ่ 2. แบบเพลา 3. แบบสายพาน รายละเอียดเน้อื หา 1.1 การถอดประกอบชดุ คลตั ช์จกั รยานยนต์ 1.1.1 โครงสรา้ งชุดคลัตช์จกั รยานยนต์ 1.1.2 ขน้ั ตอนการถอด ชดุ คลัตชจ์ ักรยานยนต์ 1.1.3 การตรวจสอบชิ้นสว่ น 1.2 ความปลอดภัยในการปฏบิ ตั ิงาน 1.2.1 อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภยั 1.2.2 การใช้อปุ กรณ์ปอ้ งกันความปลอดภยั 1.3 วัสดุ เครือ่ งมือและอุปกรณ์การขจักคราบสกปรก 1.3.1 วสั ดุ 1.3.2 เครื่องมือและอปุ กรณ์ 1.4 การทำความสะอาด 1.4.1 ขัน้ ตอนการทำการทำความสะอาด 1.4.2 การทำความสะอาด จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 ดา้ นความรู้ 1.1.1 หลักการทำงานของชดุ คลตั ช์จกั รยานยนต์ 1.1.2 ศึกษาขัน้ ตอนการถอด ประกอบท่ถี ูกต้อง 1.1.3 วธิ กี ารตรวจสอบชนิ้ สว่ น 1.2 ด้านทกั ษะ 1.2.1 ถอดประกอบ ชุดคลตั ชจ์ ักรยานยนต์ 1.2.2 ตรวจสอบช้นิ สว่ น 1.2.3 ทำความสะอาดช้ินส่วน 1.3 คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ 1.3.1 ทำงานประณีต รอบคอบ ระมัดระวัง สะอาดและประหยัดในการทำงาน
54 1.ขนั้ ตอนการปฏิบัติงาน รูปท1่ี แสดงชิ้นสว่ นของคลัตชแ์ รงเหวยี่ ง คลัตชก์ ลไก และขาเปล่ียนเกยี ร์ (HONDAWAVE125) 2.1 ถอดฝาครอบเครื่องยนต์ดา้ นขวา 2.1.1 ถอดน็อตยดึ คันสตาร์ท ดงั รูปที่ 2 2.1.2 ถา่ ยน้ำมันเครื่อง 2.1.3 ถอดท่อไอเสยี โดยถอดนอ็ ตปรับตั้งเบรกหลังและกดคันเบรกหลังให้ต่ำลง เพ่ือหลบทอ่ ขณะทำการถอด 2.1.4 ถอดโบลท์ยึดฝาครอบเครือ่ งยนต์ด้านขวาออกโดยใช้ประแจตวั ที คลายออกสลับกัน ทะแยงมุมเริม่ จากดา้ นนอกเข้าหาด้านใน ประมาณ2-3ครงั้ ดงั รูปท่ี 3 รูปท2ี่ แสดงการถอดน็อตยึดคนั สตาร์ต รปู ท3ี่ แสดงการถอดฝาครอบเคร่ืองยนต์
55 3.1 การถอดคลตั ช์ 3.1.1 ถอดปะเก็นฝาครอบเคร่ืองยนต์ด้านขวาและปลอกสลกั ออกจากเรือนเคร่ืองยนต์ ดงั รูปที่ 4 3.1.2 ถอดชดุ ลูกปนื กดคลตั ช์และสปรงิ ออกจากฝาครอบเครื่องยนตด์ า้ นขวา ดงั รปู ท่ี 5 4.2.2 ถอดขากดคลตั ชแ์ ละแผ่นลูกเบย้ี วคลัตชข์ องคลัตช์กลไกออก ดังรปู ท่ี 6 4.2.3 ถอดโบลท์ยดึ ฝาครอบกรองน้ ามนั หล่อล่นื โดยใชป้ ระแจตวั T ดงั รูปท่ี 7 3.1.3 ถอดขากดคลตั ช์และแผ่นลกู เบี้ยวคลัตชข์ องคลตั ชก์ ลไกออก ดงั รูปที่ 6 3.1.4 ถอดโบลทย์ ึดฝาครอบกรองน้ำมนั หล่อลนื่ โดยใช้ประแจตวั T ดงั รปู ท่ี 7 รปู ท6ี่ แสดงลกั ษณะแผ่นลกู เบี้ยวคลัตชแ์ ละขากดคลัตช์ รปู ที่7แสดงการถอดโบลท์ยดึ ฝาครอบกรองน้ำมนั 3.1.5 ดัดเขี้ยวแหวนลอ็ กออกจากร่องน็อตล็อกคลตั ช์แรงเหว่ียงโดยใชไ้ ขควงแบนงดั ออกดงั รูปท่ี 8 3.1.6 จับยึดเรือนคลตั ชแ์ รงเหวี่ยงตวั กลางด้วยเครอ่ื งมือพเิ ศษและถอดน็อตยดึ ด้วยประแจ ขันน็อตยึดคลตั ช์ดงั รปู ที่ 9 รูปท่ี8 แสดงลกั ษณะของแหวนล็อก รปู ที่9 แสดงการถอดนต็ ยดึ คลตั ช์แรงเหวี่ยง
56 3.1.7 ถอดแหวนรองและแหวนล็อกน็อตยึดคลตั ช์ออกสงั เกตแหวนรองจะมีเคร่ืองหมาย “OUT SIDE” หันออกดา้ นนอกดงั รูปท1่ี 0 3.1.8 ถอดชดุ ต้นกำลังขบั ตวั นอกและแผน่ คลัตช์แรงเหวยี่ งออกจากเรือนคลัตช์แรงเหวีย่ งดังรปู ท่ี11 รปู ท่ี10แสดงลกั ษณะของแหวนรองและแหวนล็อก รปู ท1่ี 1แสดงชุดตน้ กำลังขบั และแผ่นคลตั ช์ 3.1.9 ถอดลกู ปนื จานกดคลตั ชก์ ลไกออกจากเรือนคลตั ชด์ ังรปู ท่ี 12 3.1.10 ถอดนอ็ ตยดึ คลัตชก์ ลไกโดยยึดเฟอื งขับขน้ั ต้นและเฟืองคลัตชด์ ้วยตวั ล็อคเฟืองคลายน็อตยึด คลตั ชด์ ้วยเครอื่ งมือพเิ ศษดังรูปท่ี 13 รปู ที่12 แสดงการถอดน็อตยดึ คลตั ชก์ ลไก รูปท่1ี 3 แสดงการถอดคลัตช์ 3.1.11 ถอดปลอกรองเรือนคลตั ช์กลไกและปลอกรองเพลาออกจากเพลาขบั ดงั รูปที่14 รูปท1ี่ 4 แสดงลักษณะของปลอกรอง 4.1 ถอดขาเปลี่ยนเกียร์ 4.1.1 ถอดโบลทย์ ึดคนั เปลี่ยนเกยี ร์และถอดคันเปล่ยี นเกียร์ออกพร้อมทำความสะอาดแกนเปลย่ี น ด้วยแปรงทองเหลืองบรเิ วณร่องเฟืองให้สะอาดเพื่อป้องกนั ส่งิ สกปรกหรอื เศษฝุ่นละอองเข้า เคร่ืองยนต์ดังรูปที่ 15
57 4.1.2 ใช้ประแจแอลหกเหลีย่ ม ถอดโบลทย์ ึดขาบงั คับตำแหนง่ เกยี ร์ปลดสปรงิ ร้ังกลับแล้วถอดออก ดังรูปท่ี 16 รปู ท1ี่ 5 แสดงแกนเปลี่ยนเกียร์ รูปท1่ี 6 แสดงลักษณะของแผน่ ลอ็ กและโบลท์ยึด 4.1.3 กดแขนเปล่ยี นเกียรแ์ ละถอดแกนเปล่ยี นเกียร์ออกดงั รูปท่ี17 4.1.4 ถอดโบลท์ยดึ แผ่นลอ็ กตำแหน่งเกยี ร์และสลกั กระปุกเกียร์ออก ดังรูปที่ 18 รูปที่17 แสดงลกั ษณะแกนเปลยี่ นเกียร์ รูปท1ี่ 8 แสดงสลักกระปกุ เกยี ร์และสลักแผ่นล็อก 4.1.5 ใชค้ มี ปลายแหลมถอดสปรงิ แกนสตาร์ตปลอกรองสปริงแกนสตาร์ตและตวั ยึดสปรงิ แกนสตารต์ ออกจากแกนสตารต์ ดังรปู ท1ี่ 9 รูปท1่ี 9 แสดงลักษณะของสปรงิ แกนสตาร์ รปู ท2่ี 0 แสดงการตรวจสอบการทำงานของคลัตชท์ างเดยี ว 5.1 ตรวจสอบคลัตชแ์ รงเหว่ียง 5.1.1 ตรวจสอบการทำงานของคลตั ช์ทางเดียวโดยประกอบเรอื นคลตั ชต์ ัวนอกเข้ากบั เพลาข้อ เหวีย่ งชวั่ คราว 5.1.2 ยดึ เพลาข้อเหว่ียงหมุนเรอื นคลตั ชแ์ รงเหวยี่ งตัวนอกด้วยมอื เรือนคลัตช์แรจะต้องเหวยี่ งตวั หมุนทวนเข็มนาฬิกาได้เท่าน้ัน ไม่สามารถหมนุ ตามเข็มนาฬกิ าได้ดังรูปท่ี20 5.1.3 ตรวจสอบผวิ สมั ผัสของเรือนคลัตชท์ างเดียววา่ เกิดความสึกหรอหรือเสียหายใหเ้ ปลยี่ นใหมท่ ง้ั ชุด
58 5.1.4 วดั ขนาดเส้นผ่าศนู ย์กลางภายในจานลูกปืนคลัตช์ทางเดยี วดงั รปู ท่ี21 รายการ ค่าจำกัดการซ่อม(ม..) Ø ภายในจานคลตั ช์ 42.04 ผลการตรวจสอบ รูปท่2ี 1 แสดงเสน้ ผ่าศูนยก์ ลางภายในจานคลตั ชท์ างเดียว 5.1.5 ตรวจสอบความเสยี หายของชดุ แผน่ คลัตชแ์ รงเหวยี่ งและวัดคา่ ความหนาของแผ่นคลตั ช์ แรงเหวี่ยง ดังรูปท่ี 22 รายการ ค่าจำกดั การซอ่ ม(ม) ความหนราาแยผก่นาครลตั ค่าจำกัดกา1ร.ซ0่อ0ม(ม) Øผภลากยาในรตเรรอื วนจคสลอตั บช์ ผลการตรวจสอบ 104.3 รูปท่ี22 แสดงการวดั ความหนาของแผ่นคลตั ช์ 5.1.6 ตรวจสอบรอยสมั ผัสและการสกึ หรอของผวิ ด้านในของเรอื นคลตั ชต์ วั นอก 5.1.7 วัดขนาดเส้นผา่ ศนู ยก์ ลางภายในเรือนคลตั ชด์ งั รปู ที่ 23 รปู ที2่ 3 แสดงตำแหนง่ การวัดเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลางภายในเรอื นคลตั ช์
59 5.1.8 ตรวจสอบความสึกหรอหรอื เสียหายของผา้ เบรกคลัตช์ และวดั ความหนาของผา้ เบรกคลัตช์ ดงั รปู ท่ี 24 รายการ คา่ จำกัดการซ่อม(ม) ความหนาของผา้ เบรก คลัตช์ 2.5 ผลการตรวจสอบ รูปท่2ี 4 แสดงตำแหนง่ การวัดความหนของผ้าเบรกคลตั ช์ 6.1. การตรวจสอบคลัตช์กลไก 6.1.1 ถอดแยกเรือนคลัตช์ตวั นอก โดยใช้ตัวล๊อกแมเ่ หลก็ จับยดึ และคลายโบลทย์ ึดแผน่ ยกคลตั ช์ ออกเทา่ ๆ กันทกุ ตวั ในลักษณะกากบาท 2-3ครั้ง ถอดแผน่ ยกคลตั ชอ์ อกดังรปู ที่ 25 6.1.2 ตรวจสอบความเสียหายหรือการสึกหรอของร่องเรอื นคลัตช์ตัวกลาง ซึ่งเกิดจากการสมั ผสั ของแผ่นเหล็กคลตั ช์ถา้ ชำรดุ เปน็ รอ่ ง ใหเ้ ปล่ียนใหม่ดังรูปท่ี 26 รายการ ค่าจำกัดการซ่อม(ม) Ø ภายในเรือนคลตั ช์ 104.3 ผลการตรวจสอบ รูปท2ี่ 5 แสดงการถอดแยกแผ่นยกคลัตช์ รปู ท2ี่ 6 แสดงต้าแหนง่ การตรวจสอบเรอื นคลตั ช์ตวั กลาง 6.1.3 ถอดเรอื นคลตั ชต์ ัวกลาง แผ่นผา้ คลตั ชแ์ ละแผ่นเหล็กคลัตช์ ถอดแผ่นกดคลตั ช์และแหวนร ดังรูปท่ี 27 รูปท2ี่ 7 แสดงการถอดแยกเรือนคลัตช์
60 6.1.4 ตรวจสอบความสกึ หรอและวดั ความหนาของแผ่นผ้าคลตั ชแ์ ต่ละแผ่นดงั รปู ที่ 28 รายการ คา่ จำกัดการซอ่ ม (ม.) ความหนาของแผน่ คลัตช์ 2.2 ผลการตรวจสอบ รปู ท2่ี 8 แสดงการวดั ความหนาของแผน่ คลตั ช์ 6.1.5 ตรวจสอบการโก่งตวั ของแผ่นเหลก็ คลตั ช์แตล่ ะแผน่ ดยวางบแทน่ ระดับและใช้ ฟเิ ลอรเ์ กจวดั โดยผวิ สัมผัสระหวา่ งแผน่ เหลก็ และแท่นระดับ ดงั รปู ที่ 29 รายการ คา่ จำกัดการซอ่ ม (ม.) คา่ การโกง่ ตวั 0.2 ผลการตรวจสอบ
61 แบบประเมนิ การปฏบิ ัติงาน ชื่อ การตรวจสอบและถอดประกอบ ชุดคลัตช์จกั รยานยนต์ ชอื่ -สกุล ................................................................................................ ชัน้ ปวช................ เลขท่ี ................... คำชีแ้ จง ให้บันทึกข้อมลู ต่าง ๆ และผลการประเมินและนำผลคะแนนท่ีไดร้ ับตดิ ลงในช่องตารางกำหนด ใช้เวลาในการ ทำงาน 1 ชว่ั โมง ลำดับที่ หลกั ฐานการตรวจ/หัวข้อประเมนิ คะแนน คะแนนที่ เต็ม ได้ 1 เลือก/ ใช้ วัสดุ เคร่ืองมอื อุปกรณ์และความปลอดภยั 1 2 ขัน้ ตอนการปฏิบัติงาน (การเตรียมเครอ่ื งมือ,วิธกี ารทำงาน, 1 เสร็จตามเวลากำหนด,การจดั เกบ็ สถานที่) 3 ผลสำเรจ็ 7 (1) ลำดบั ขน้ั ตอนการถอด 2 (2) การตรวจสอบ 2 (3) ลำดับขั้นการประกอบ 2 (4) ประสทิ ธภิ าพการทำงานของระบบ 2 ปฏบิ ตั คิ ร้ังที่ …………………. วันที่ รวม 10 ...................... ลำดบั ท่ี หลักฐานการตรวจ/หัวข้อประเมนิ คะแนน คะแนนที่ เต็ม ได้ 1 เลอื ก/ ใช้ วัสดุ เคร่ืองมอื อุปกรณ์และความปลอดภัย 2 ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน (การเตรียมเครอ่ื งมือ,วธิ กี ารทำงาน, 1 เสร็จตามเวลากำหนด,การจัดเก็บสถานที่) 1 3 ผลสำเร็จ 7 (1) ลำดบั ข้ันตอนการถอด 2 (2) การตรวจสอบ 2 (3) ลำดบั ขนั้ การประกอบ 2 (4) ประสิทธิภาพการทำงานของระบบ 2 ปฏิบตั ิครั้งท่ี …………………. 10 วนั ท่ี รวม ......................
62 ใบความรแู้ บบฝึกทกั ษะงานจักรยานยนต์ ชื่อหนว่ ยถอดประกอบตรวจสอบชิ้นสว่ นของ หนว่ ยท่ี 3 เคร่อื งยนต์ ใบงานที่ 3.2 การตรวจสอบและถอดประกอบ จำนวน 10 นาที ชดุ คลัตช์จักรยานยนต์ ชื่อ – สกลุ ............................................................................หลักสตู ร/ช้นั ...........................เลขท.่ี ................ ************************************************************************************************** คำช้ีแจง้ ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนใี้ ห้ถูกต้อง 1. หนา้ ทข่ี องระบบสง่ กำลังคือ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. ประเภทของคลัตช์ในรถจักรยานยนต์มีกปี่ ระเภท อะไรบ้าง ............................................................................................................................................ .................................. ................................................................................................ .............................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 3. เกยี รท์ ่ีใช้ในรถจักรยานยนต์มีก่ปี ระเภท อะไรบ้าง ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................ .................. ................................................................................................................ .............................................................. 4. ส่วนประกอบของระบบสง่ กำลงั แบบอัตโนมัติ ประกอบด้วย ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................... ... 5. พูลเลย์ขบั มหี น้าที่ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................
63 เฉลยข้อสอบ/แบบฝกึ 3.2 การตรวจสอบและถอดประกอบ ชุดคลัตช์จกั รยานยนต์ 1. ระบบสง่ กำลังของรถจักรยานยนต์มีหน้าทข่ี อ้ ใด ค. สง่ กา ลงงั านจากเครอ่ื งยนตไ์ ปยงั ล้อหลงั 2. คลัตชร์ ถจกั รยานยนตท์ ำหนา้ ทอี่ ะไร ข. ส่งกำลงั งานจากเกียร์ไปขบั ทโี่ ซ่ 3. คลตั ชแ์ รงเหว่ยี งแบ่งออกได้ 2 แบบคอื ข้อใด ก. แบบแผน่ และแบบอัตโนมัติ 4. คลัตชอ์ ัตโนมตั จิ ะทำงานเมอื่ ความเรว็ รอบของเคร่ืองยนต์เพม่ิ ข้นึ ถึง ข. 2,000 รอบ/นาที 5. คลตั ชแ์ บบใดทสี่ ามารถเปลย่ี นเกียร์ได้อยา่ งรวดเรว็ ง. แบบอัตโนมัติ 6. คลตั ชแ์ บบใดใหค้ วามปลอดภยั แก่ผขู้ ับข่ี เมอ่ื เกดิ ปญั หาลูกสูบติด ค. คลัตชแ์ บบผสมใช้คลัตช์ 2 ชุด 7. คลตั ช์แบบอตั โนมตั ทิ ำงานโดยอาศัยแรงอะไร ก. แรงเหวย่ี ง 8. คลัตช์ท่ีใหก้ ารสง่ กำลงั ท่นี ิ่มนวลคือคลตั ชแ์ บบใด ค. คลตั ชส์ าย 9. เกยี ร์ทใ่ี ช้ในรถจักรยานยนตโ์ ดยท่วั ไปเป็นเกียร์แบบใด ข. เฟอื งฟนั ตรงขบกนั คงท่ี 10. คเู่ ฟอื งท่ีเพลาขบั เล็กสดุ กบั ทเ่ี พลาตามใหญส่ ดุ คอื เกียรใ์ ด ค. เกยี ร์3 11. ค่เู ฟอื งท่เี พลาขบั ใหญส่ ุดกับทเ่ี พลาตามเล็กสดุ คือเกียรใ์ ด ง. เกยี ร์4 12. ชุดเกียร์ทำหน้าทีอ่ ะไร ค. เพมิ่ แรงบิดโดยการเปลยี่ นแปลงอตั ราทด 13. เฟืองเกยี รต์ ัวขบั มีจำนวน 40 ฟนั เฟอื งเกยี ร์ตวั ตามมจี ำนวน 10 ฟนั ถา้ เฟืองตัวขบั หมุน 10 รอบ เฟอื งตวั ตามจะหมนุ กี่รอบ ง. 40 รอบ 14. เฟืองเกียรต์ วั ขับมีจำนวน 20 ฟัน เฟืองเกียรต์ ัวตามมีจำนวน 30 ฟัน จะมีอตั ราทดเทา่ ไร ข. 1.5 : 1 15. ควรเปล่ยี นนำ้ มนั เกียรร์ ถจกั รยานยนตเ์ มอื่ ใด ค. 1,000 กม. แรกและทุก 4,000 กม. 16. เกยี รอ์ ตั โนมตั ิการเปลย่ี นเกียรจ์ ะขน้ึ อยกู่ ับข้อใด ง. ความเรว็ และภาระของรถ 17. เกียรอ์ ตั โนมตั พิ ลเู ลยข์ บั ติดต้งั อย่ทู ใี่ ด ก. เพลาขอ้ เหวย่ี ง 18. ตุ้มนำ้ หนักเกียรอ์ ตั โนมตั มิ ีก่ีตวั ค. 6 ตวั 19. เกยี รอ์ ตั โนมตั ทิ ่คี วามเรว็ รอบช้าพลูเลยต์ ามตามเป็นอยา่ งไร ค. พลูเลยข์ นาดใหญส่ ดุ 20. เกยี ร์อตั โนมตั ทิ ค่ี วามเรว็ รอบสงู พลูเลยข์ บั เปน็ อยา่ งไร ก. พลเู ลย์ขนาดใหญ่สุด
64 1. ตอบ สง่ กำลังขบั จากเครื่องยนต์ไปยังล้อหลังโดยผ่านอปุ กรณ์ ระบบสง่ กำลัง ได้แก่ คลัตชเ์ กยี รแ์ ละอุปกรณ์ขับ ขันสดุ ทา้ ยโซ่สเตอร์ 2. ตอบ คลัตช์ มี 3 ประเภท คอื 1. คลตั ชม์ ือ 2. คลัตชแ์ รงเหว่ยี ง 3. คลตั ช์แบบผสมมคี ลัตช์ 2 ชดุ 3. ตอบ มี 2 ประเภท ได้แก่ 1. เกยี รแ์ บบเฟืองขบกันคงที่ 2. เกียร์แบบอัตโนมัติ 4. ตอบ สายพาน พลู เลย์ขับ พลู เลยต์ าม เพลาข้อเหว่ียง เพลาขับ 5. ตอบ มหี น้าทร่ี บั กำลังจากเคร่ืองยนตโ์ ดยอาศัยแรงเหวี่ยง จากการหมุนของเพลาขอ้ เหว่ียง
65 ใบความรแู้ บบฝึกทกั ษะงานจักรยานยนต์ หน่วยที่ 3 ชอื่ หน่วย ถอด ประกอบ ตรวจสอบชิน้ ส่วนของ เครื่องยนต์ จำนวน 14 ช่ัวโมง ใบความรทู้ ่ี 3 งานถอด ตรวจสภาพ และประกอบสายพานขับเคลื่อนของระบบสง่ กำลงั อัตโนมัติ สาระสำคญั สายพานส่งกำลงั เปน็ ชน้ิ สว่ นทมี่ กี ารสึกหรอตามอายุการใช้งาน โดยสายพานจะมีการสึกหรอทางด้าน การยืดตวั มผี ลทำใหป้ ระสิทธิภาพของการสง่ กำลังลดลง ดงั นน้ั จงึ จำเปน็ ตอ้ งเปลย่ี นสายพานเม่อื ถึงระยะ เวลาตามท่ีคมู่ ือการซอ่ มกำหนด เพอื่ ให้การส่งกำลงั ทำงานไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ หนา้ ที่และส่วนประกอบของระบบส่งกำลัง ระบบส่งกำลงั มหี น้าทสี่ ง่ กำลงั นับจากเครื่องยนต์ ไปยังล้อ หลงั โดยผ่านสว่ นประกอบของ ระบบส่งกำลงั คือคลัตชเ์ กียรแ์ ละอปุ กรณ์ขับขั้นสุดท้ายมีอยู่ 3แบบ คอื 1.แบบโซ่ 2. แบบเพลา 3. แบบสายพาน รายละเอียดเนอ้ื หา 1.1 การถอดประกอบชดุ คลัตชจ์ ักรยานยนต์แบบอัตโนมัติ 1.1.1 โครงสร้างชดุ คลัตช์จกั รยานยนต์แบบอตั โนมัติ 1.1.2 ข้นั ตอนการถอด ชดุ คลัตช์จกั รยานยนต์แบบอัตโนมตั ิ 1.1.3 การตรวจสอบชนิ้ สว่ น 1.2 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิงาน 1.2.1 อุปกรณป์ อ้ งกันความปลอดภยั 1.2.2 การใชอ้ ปุ กรณป์ ้องกันความปลอดภัย 1.3 วัสดุ เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์การขจักคราบสกปรก 1.3.1 วสั ดุ 1.3.2 เครื่องมอื และอปุ กรณ์ 1.4 การทำความสะอาด 1.4.1 ข้ันตอนการทำการทำความสะอาด 1.4.2 การทำความสะอาด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 ด้านความรู้ 1.1.1 หลักการทำงานของชดุ คลตั ช์จกั รยานยนต์แบบอตั โนมัติ 1.1.2 ศกึ ษาขนั้ ตอนการถอด ประกอบทถ่ี ูกต้อง 1.1.3 วิธกี ารตรวจสอบชนิ้ ส่วน 1.2 ดา้ นทกั ษะ 1.2.1 ถอดประกอบ ชุดคลตั ช์จักรยานยนต์แบบอตั โนมัติ 1.2.2 ตรวจสอบชนิ้ ส่วน 1.2.3 ทำความสะอาดช้ินส่วน 1.3 คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ 1.3.1 ทำงานประณีต รอบคอบ ระมดั ระวัง สะอาดและประหยัดในการทำงาน
66 เนื้อหาสาระ 1. เกยี ร์แบบอัตโนมัติ (Automotic Gear) เกียรอ์ ัตโนมัตทิ ี่ใช้ในรถจักรยานยนต์ผู้ขับข่ไี ม่ต้องเปลีย่ นเกยี ร์ให้ยุ่ง อยาก มีระบบส่งกำลังงานจากเครอ่ื งยนต์ไปขบั เคล่ือนล้อหลังโดยใช้สายพานรปู ตัว V โดยใชแ้ รงเสยี ดทาน ระหว่าง สายพานกบั พลูเลย์ รปู แสดง กลไกเกยี รแ์ บบอัตโนมัติ 2. โครงสร้างของเกียร์อัตโนมัติ มสี ว่ นประกอบท่ีสำคัญ คอื 2.1 สายพานส่งกำลงั สายพานส่งกำลังทำจากวัตถดุ บิ จากสารประกอบทางเคมขี องยางและไฟเบอร์ แกนจะ ใช้โพลเี อสเตอร์มหี น้าท่สี ่งกำลงั งานจากเครื่องยนต์ไปขบั ล้อหลังโดยถา่ ยทอดกำลังจากพลูเลย์ ขับที่ติดกบั เคร่อื งผ่านสายพานส่งกำลังไปยังพลู เลย์ตามแลว้ ไปขบั ล้อหลังสายพานสง่ กำลังมีคณุ สมบัติทนตอ่ แรงดงึ ทนต่อ แรงอดั ยืดหยุ่นเล็กนอ้ ยและยังสามารถโค้งงอตามขนาดพลเู ลย์ได้ลักษณะสายพานที่มีรอ่ งด้านในด้านเดยี วใช้กับรถ ออโตเมติคขนาดเลก็ สว่ นรถออโตเมติคขนาด ใหญ่จะใช้สายพานท่ีมรี ่องท้ังดา้ นในและด้านนอก รูปท่ี แสดงกลไกเกียรแ์ บบอัตโนมัติ 2.2 พูลเลย์ขบั พลเู ลย์ขับติดตงั้ อยู่ทเี่ พลาขอ้ เหวี่ยง มหี น้าที่รับกำลงั จากเคร่ืองยนตโ์ ดยอาศัยแรงเหว่ียง จากการหมุนของเพลาขอ้ เหวี่ยง ทำให้เกิดการเปลีย่ นแปลงขนาดเส้นผ่านศนู ย์กลางของพลู เลย์ขบั รูปที่ แสดงพูลเลย์ขบั
67 สว่ นประกอบของพลูเลย์ขับ มดี งั น้ี 2.2.1 แผ่นโคง้ (Ram Plate) ตดิ ต้ังอยู่กับเพลาข้อเหวี่ยง ทำงานรว่ มกับตุ้มเหว่ียงและหน้าสมั ผัส เคลอื่ นที่ เมื่อความเร็วรอบของเครื่องเพ่มิ ขึ้น จะทำให้พลูเลย์ขบั มีขนาดเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลางเพมิ่ ข้ึนมผี ลทำให้ความเร็ว ของรถเพ่ิมขึ้น รปู ท่ี แสดงแผ่น่โคง้ 2.2.2 ต้มุ นำ้ หนัก (WEIGHT ROLLER) ตดิ ตังอยู่ตรงกลางระหว่างแผ่นโคง้ และหนา้ สัมผสั เคล่อื นท่ี มี หนา้ ทดี่ ันใหห้ น้าสมั ผัสเคล่อื นทเี่ ข้าไปหาหน้าสัมผัสทอ่ี ยู่กับทีโ่ ดย อาศยั แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง ซ่ึงเกิดจากความเรว็ รอบของเครื่องยนตส์ รุป • ถ้าความเรว็ รอบต่ำ ตุ้มหนักจะดันหน้าสมั ผัสเคล่ือนทีน่ ้อยเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลางพลู เลย์จะมขี นาดเล็ก • ถ้าความเรว็ รอบสูง ตุ้มน้ำ หนกั จะดันหน้าสัมผัสเคล่ือนทีม่ ากเสน้ ผ่านศูนย์กลางพลเู ลย์จะมขี นาดใหญ่ รปู แสดงตุ้มนำ้ หนัก 2.2.3 หน้าสัมผสั เคลอื่ นท่ี (Movable Drive Face) ตดิ ต้ังอยู่กับพลาข้อเหวี่ยงทำงานร่วมกับตุ้ม น้ำหนกั และแผ่นโค้ง ทำหน้าที่ เปลย่ี นขนาดพลู เลย์ขับให้มีความโต-เลก็ ตามความเรว็ รอบของเครอ่ื งยนต์ รปู แสดงหน้าสัมผัสเคลื่อนท่ี 2.2.4 หนา้ สมั ผัสอยกู่ ับที่ (Drive Face) ตดิ ตั้งอยู่กบั ร่องสปายของเพลาข้อเหว่ียง จะหมุนไปกับ เพลาข้อเหว่ียง เปน็ ส่วนหนึ่งของพลู เลย์ขับและติดต้ังใบพัดเพ่อื ดูดอากาศภายนอกเข้าไประบายความร้อนให้กับ เครอ่ื งยนต์
68 3 พูลเลยต์ าม (Driven Pulley) พลูเลย์ตามตดิ ตั้งอยู่บนเพลาขับของชดุ เฟอื งทดกำลังทล่ี ้อหลัง มหี น้าที่ สง่ ถา่ ยกำลังงาน ทสี่ ่งมาจากสายพาน ผ่านไปยังฝักคลัตช์แรงเหว่ียงและจานคลตั ช์แรงเหวี่ยงแล้วส่งต่อไปยังเพลา ขับของชดุ เฟืองทา้ ยผ่านไปยังล้อยางต่อไป รูป แสดงพลู เลย์ตาม สว่ นประกอบของพลูเลย์ตาม มีดังนี้ 3.1 หนา้ สมั ผัสอยกู่ ับท่ี (Drive Face) ตดิ ต้ังเป็นชุดเดียวกับชดุ พลเู ลย์ตาม มีใบพัดตดิ ต้ังอยู่ด้านใน ทำงาน รว่ มกับหนา้ สมั ผสั เคลือ่ นที่ของพูลเลยต์ าม รปู แสดงหน้าสมั ผัสอยกู่ ับที่
69 3.2 หน้าสัมผสั เคล่ือนที่ (Movable Drive Face) ตดิ ต้ังเปน็ ชดุ เดยี วกับชดุ พูลเลย์ตาม ในสภาพเคร่ืองยนต์ ดับ หรอื รอบเดนิ เบา พูลเลย์ขับจะมเี สน้ ผ่านศนู ย์กลางเล็กแรงดึงของสายพานท่กี ระทำต่อพลู เลย์ตามมนี ้อย ทำให้ สปรงิ ดัน ใหห้ น้าสัมผัสเคลือ่ นที่ เคลอ่ื นที่เข้าหาหน้าสัมผัสอยู่กับทมี่ ากทำให้เส้นผ่านศูนย์กลาง พูลเลย์ตามมขี นาด ใหญ่ ลกั ษณะน้ีเปน็ ชว่ งทีร่ ถมีความเรว็ ต่ำในทางกลับถา้ แรงดึงของสายพาน มากข้ึน พลเู ลย์ตามจะมีเสน้ ผ่าน ศนู ยก์ ลางมีขนาดเล็กลักษณะนี้เปน็ ช่วงทรี่ ถมคี วามเร็วสูง รปู แสดงหน้าสัมผสั เคลอ่ื นท่ี 3.3 สปรงิ (SPRING) ตดิ ต้ังระหว่างชดุ ฝกั คลัตช์แรงเหว่ียงกบั หน้าสมั ผัสเคลื่อนที่ของพลู เลย์ตาม มหี นา้ ท่ดี นั ให้หนา้ สมั ผัสเคล่ือนท่ีของพลู เลยต์ าม ให้เขา้ ไปหาหนา้ สมั ผัสอยกู่ ับที่ตลอดเวลาและยุบตัวเมื่อมีแรงกดที่มากกว่า จากสายพานขบั เคล่ือน รูป แสดงสปริง 3.4 คลัตช์อัตโนมตั ิแรงเหวยี่ งหนีศูนย์กลางแบบแห้ง (Automatic Centrifugal Clutch) ตดิ ต้ังเป็นชุด เดยี วกบั พลเู ลย์ตาม ทำหน้าท่ีตดั -ตอ่ กำลังงานระหว่างสายพาน สง่ กำลังกบั เพลาขบั ของเฟอื งทดกำลังของเพลาล้อ หลัง รูป แสดงคลทั ช์อัตโนมัติแรงเหวีย่ งหนีศูนยแ์ บบแห้ง
70 การทำงานของคลตั ช์อตั โนมัตแิ รงเหวย่ี งหนีศนู ย์กลางแบบแหง้ สามารถอธบิ ายได้ 2 ช่วงการทำงาน คอื 1. ในช่วงเครอ่ื งยนต์ดบั หรือรอบเดนิ เบา คลัตชแ์ รงเหว่ียงยังไมท่ ำงานเน่อื งจาก แรงหนีศูนย์กลางไมเ่ กิดหรือ เกดิ นอ้ ยไม่มีการสง่ กำลังงานมาไม่เคลอ่ื นท่ี 2. ในชว่ งเครอ่ื งยนต์มีความเร็วสูงข้ึน คลัตช์แรงเหวี่ยงจะทำงานฝักผ้าคลัตช์จะสมั ผัสกบั จานคลัตช์ส่งกำลังงาน ให้เพลาขบั ของเฟืองทดกำลังของเพลาล้อหลังรถจะเคล่อื นท่ี รปู แสดงการทำงานของคลตั ชอ์ ตั โนมัตแิ รงหนศี นู ย์กลางแบบแหง้ 4. การทำงานเกยี รอ์ ัตโนมตั ิ 4.1 ขณะความเรว็ ต่ำ (Low Speed) เครือ่ งยนต์อยู่ท่ีรอบเดนิ เบาแรงหนีศูนย์กลางน้อย ต้มุ นำ้ หนกั ท่ีพลเู ลย์ ขับยังไมเ่ คลอ่ื นที่ขนาดพลเู ลย์ขับเลก็ ส่วนพลูเลย์ตามจะมขี นาดใหญแ่ ละคลตั ชแ์ รงเหวี่ยงท่ชี ุดพลเู ลย์ตามยงั ไมจ่ ับ จงึ ไม่มีการส่งกำลังงานไปขบั ล้อ กำลังงานระหว่าง สายพานส่งกำลังกบั เพลาขับของเฟืองทดกำลังของเพลาล้อหลัง รูป แสดงการทำงานขณะความเร็วต่ำ 4.2 ขณะเพิ่มความเรว็ เมอื่ ความเรว็ รอบของเคร่ืองยนต์เพม่ิ ขน้ึ แรงหนศี ูนย์กลางมากขึ้น ทำให้ต้มุ น้ำหนักทพี่ ลู เลย์ขับเคล่อื นทขี่ นาดพลูเลย์ขับใหญ่ขนึ้ สว่ นพลู เลย์ตามจะมีขนาดเล็กลง และคลัตช์แรงเหวี่ยงทช่ี ุดพลเู ลย์ตามจะ จบั สง่ กำลังงานไปยังล้อ รูป แสดงการทำงานขณะเพิ่มความเร็ว
71 แบบฝกึ ทักษะงานจกั รยานยนต์ หนว่ ยท่ี 3 ชอื่ หน่วย ถอด ประกอบ ตรวจสอบชิน้ สว่ นเคร่อื งยนต์ จำนวน 4 ชม. ใบงานที่ 3.3 งานถอด ตรวจสภาพและประกอบสายพานขับเคล่อื นของ ระบบสง่ กำลงั อตั โนมัติ 1.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 ใช้เครอื่ งมือท่ัวไป เครอื่ งมอื พิเศษและเครื่องมือวัดได้ถูกตอ้ ง 1.2 ถอดประกอบ ตรวจสอบระบบส่งกำลงั แบบอตั โนมัตไิ ด้ถกู ต้อง 2.วัสดุ เครือ่ งมือ/อปุ กรณ์ ท่ี รายการ จำนวน ท่ี รายการ จำนวน 2.1 ประแจบ็อก 1 ชดุ 2.6 ผา้ เช็ดมือ 1 ผืน 1 อนั 2.2 ประแจตวั ที เบอร์8 1 ตวั 2.7 ปืนเป่าลม 1 เสน้ 1 ตวั 2.3 ไขควงแฉก 1 ตวั 2.8 สายลม 2.4 ไขควงแบน 1 ตวั 2.9 เคร่ืองมอื วัด 2.5 เคร่ืองมอื พเิ ศษ 1 อัน 2.6 ถาดใส่ชิ้นสว่ น 1 อนั 3.ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน ภาพแสดงการปฏิบตั ิ รายละเอียดการปฏิบัติ 1. โครงสรา้ งของระบบส่งกำลัง 1.1 ชดุ สายพาน 1.2 พลู เลยต์ าม 1.3 พูลเลยข์ ับ 1.4 เพลาข้อเหวย่ี ง 1.5 เพลาขบั 2. ถอดฝาครอบสายพานออก 3. ถอดฝาครอบและเฟืองทดกำลงั มอเตอร์สตาร์ทออก
72 ภาพแสดงการปฏิบตั ิ รายละเอยี ดการปฏิบัติ 3. ถอดนัตพูลเลย์ขบั นัตเบอร์ 22 โดยใชเ้ คร่อื ง พิเศษ 4. ถอดนตั พลู เลยต์ าม นตั เบอร์ 19 โดยใช้ เคร่ืองมอื พิเศษจบั 6. ถอดพูลเลย์ขับออกดว้ ยมือ 7. ถอดพูลเลย์ตามออกดว้ ยมือ 8. ถอดตุ้มน้ำหนักออกด้วยมือ
73 ภาพแสดงการปฏิบตั ิ รายละเอยี ดการปฏบิ ัติ 9. รปู แสดงหลังจากถอดพลู เลย์ขบั และพูลเลย์ ตามออกแล้ว 10. การตรวจเช็คชิ้นส่วน - วคั วามสึกหรอของสายพานดว้ ยเวอร์เนีย คาลเิ ปอร์ คา่ กำหนดความกว้างไมน่ อ้ยกวา่ 18 มม. 11. วดั ความสกึ หรอของตุ้มน้ำหนัก ค่ากำหนด ความโตไมน่ ้อยกว่า 17.5 มม. 12. ประกอบตุ้มน้ำหนักเข้ากับชุดพลูเลย์ขับ ขอ้ แนะนำ ต้มุ นำ้ หนกั มสี องดา้ นคือด้าน เหลก็ และดา้ น พลาสตกิ การประกอบต้องหันไปทางเดยี วกนั โดย หันทางดา้ น พลาสติกสวนทศิ ทางการหมนุ ของพูล เลยข์ บั เพือ่ รบั แรงกระแทก 13. การประกอบชดุ เกียรอ์ ัติโนมตั ิ ประกอบพลู เลยต์ าม โดยใช้มือบีบให้ ร่องพลู เลย์ขยายออก ประกอบสายพาน พยายามให้ สายพานเขา้ ลึกทส่ี ุด
ภาพแสดงการปฏบิ ัติ 74 รายละเอียดการปฏบิ ตั ิ 14. ประกอบพลเู ลย์ขบั เขา้ กับเพลาข้อเหว่ียงและ พลเู ลยต์ ามเข้ากับเพลาขับล้อ 15. ขนั นตั ยดึ พูลเลย์ขับและพลู เลย์ตาม 16. . ประกอบฝาครอบสายพาน
75 แบบประเมนิ การปฏิบตั ิงาน ช่ือ งานถอด ตรวจสภาพและประกอบสายพานขับเคลื่อนของ ระบบสง่ กำลังอตั โนมัติ ช่ือ-สกุล ................................................................................................ ช้นั ปวช................ เลขท่ี ................... คำชี้แจง ใหบ้ ันทึกข้อมูลต่าง ๆ และผลการประเมนิ และนำผลคะแนนท่ีได้รับตดิ ลงในชอ่ งตารางกำหนด ใช้เวลาในการ ทำงาน 1 ช่ัวโมง ลำดับที่ หลกั ฐานการตรวจ/หัวข้อประเมิน คะแนน คะแนนที่ เต็ม ได้ 1 เลือก/ ใช้ วัสดุ เครือ่ งมืออุปกรณแ์ ละความปลอดภยั 1 2 ขน้ั ตอนการปฏิบตั งิ าน (การเตรยี มเครื่องมือ,วธิ ีการทำงาน, 1 เสร็จตามเวลากำหนด,การจัดเก็บสถานที่) 3 ผลสำเร็จ 7 (1) ลำดบั ขั้นตอนการถอด 2 (2) การตรวจสอบ 2 (3) ลำดับขั้นการประกอบ 2 (4) ประสทิ ธิภาพการทำงานของระบบ 2 ปฏิบตั คิ ร้ังที่ …………………. วันที่ รวม 10 ...................... ลำดับที่ หลักฐานการตรวจ/หัวข้อประเมิน คะแนน คะแนนที่ เต็ม ได้ 1 เลือก/ ใช้ วัสดุ เครอื่ งมืออุปกรณ์และความปลอดภัย 1 2 ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน (การเตรียมเครอื่ งมือ,วิธกี ารทำงาน, 1 เสร็จตามเวลากำหนด,การจัดเกบ็ สถานที่) 7 3 ผลสำเร็จ 2 2 (1) ลำดบั ขน้ั ตอนการถอด 2 (2) การตรวจสอบ 2 (3) ลำดับข้นั การประกอบ (4) ประสทิ ธิภาพการทำงานของระบบ 10 ปฏบิ ัติครงั้ ท่ี …………………. วนั ที่ รวม ......................
76 ใบความรแู้ บบฝึกทักษะงานจักรยานยนต์ ช่อื หน่วยถอดประกอบตรวจสอบชิน้ สว่ นของ หนว่ ยที่ 3 เครอ่ื งยนต์ ใบงานท่ี 3.3 งานถอดตรวจสภาพและประกอบ จำนวน 10 นาที สายพานขับเคลอื่ นของระบบส่งกำลังอตั โนมัติ ชอื่ – สกลุ ............................................................................หลักสูตร/ชนั้ ...........................เลขท.ี่ ................ ************************************************************************************************** คำชี้แจ้ง ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปนีใ้ หถ้ ูกต้อง 1. โครงสรา้ งของเกียร์อตั โนมัติ มสี ว่ นประกอบท่ีสำคญั คือ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. พลู เลย์ขบั ทำหนา้ ที่ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................. ................. 3. พูลเลยต์ าม ทำหนา้ ท่ี .......................................................................................... .................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 4. สปรงิ (SPRING) ตดิ ต้ังระหว่างชดุ ฝกั คลัตชแ์ รงเหวี่ยงกบั หน้าสมั ผัสเคลอ่ื นท่ีของพูลเลยต์ าม มหี นา้ ท่ี ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ .. ............................................................................................................................. ................................................. 5. คลตั ชอ์ ัตโนมตั แิ รงเหวี่ยงหนศี นู ยก์ ลางแบบแห้ง (Automatic Centrifugal Clutch) ตดิ ต้ังเป็นชดุ เดียวกับพลเู ลย์ ตาม ทำหน้าท่ีตัด-ตอ่ กำลังงานระหว่างสายพาน สง่ กำลังกับเพลาขบั ของเฟืองทดกำลังของเพลาล้อหลัง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................
77 เฉยลแบบฝึก 3.3 1. โครงสร้างของเกียร์อัตโนมัติ มสี ่วนประกอบทีส่ ำคัญ คือ ตอบ สายพาน พูลเลย์ขบั และพลู เลย์ตาม 2. พลู เลยข์ บั ทำหนา้ ท่ี ตอบ หนา้ ท่ีรับกำลังจากเคร่ืองยนตโ์ ดยอาศัยแรงเหวี่ยง จากการหมนุ ของเพลาขอ้ เหวย่ี ง ทำให้เกดิ การ เปล่ยี นแปลงขนาดเส้นผ่านศูนยก์ ลางของพลู เลย์ขบั 3. พูลเลย์ตาม ทำหน้าท่ี ตอบ มีหน้าทส่ี ง่ ถ่ายกำลังงาน ท่สี ง่ มาจากสายพาน ผ่านไปยังฝักคลตั ช์แรงเหวย่ี งและจานคลัตช์แรงเหว่ียงแล้ว สง่ ต่อไปยังเพลา ขับของชุดเฟืองท้ายผ่านไปยังล้อยางต่อไป 4. สปริง (SPRING) ตดิ ต้ังระหว่างชุดฝกั คลัตช์แรงเหวี่ยงกบั หน้าสัมผัสเคล่อื นทขี่ องพลู เลยต์ าม มหี นา้ ท่ี ตอบ มีหน้าท่ดี นั ให้หนา้ สัมผสั เคล่ือนที่ของพลู เลย์ตาม ให้เข้าไปหาหน้าสัมผัสอยกู่ ับท่ีตลอดเวลาและยุบตัวเม่ือมี แรงกดท่ีมากกว่า จากสายพานขับเคล่อื น 5. คลตั ช์อตั โนมตั ิแรงเหว่ียงหนีศูนยก์ ลางแบบแห้ง (Automatic Centrifugal Clutch) ตดิ ต้ังเปน็ ชุดเดียวกับพลเู ลย์ ตาม ทำหน้าที่ ตอบ ทำหนา้ ท่ีตัด-ตอ่ กำลังงานระหว่างสายพาน ส่งกำลังกบั เพลาขบั ของเฟอื งทดกำลังของเพลาล้อหลัง
78 ใบความรู้ หนว่ ยท่ี 4 งานบริการระบบนำ้ มันเช้ือเพลงิ
79 แบบฝกึ หัดก่อนเรียน : เรอื่ ง งานบริการระบบน้ำมนั เช้อื เพลงิ คำส่ัง 1. จงทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ โดยเลือกคำตอบทีถ่ ูกตอ้ งท่สี ดุ เพียงขอ้ เดยี ว 2. แบบฝกึ หัดมที ัง้ หมด 10 ข้อ ใชเ้ วลาทำ 10 นาที ..................................................... 1. ระบบกำรฉีดน้ำมันเชอื้ เพลิงรถจักรยำนยนต์มหี ลักการทำงานเบอ้ื งตน้ ตรงกับขอ้ ใด ก. หวั ฉดี มกี ารทา้ งานโดยอาศยั แรงดันน้ำมันเพียงอย่างเดียว ข. มกี ารน้าเอาระบบอิเล็กทรอนกิ ส์มาควบคุมการท้างานของหัวฉดี ค. อาศยั ความเรว็ ของอากาศทผ่ี า่ นคอคอด ง. ใช้สุญญากาศทเ่ี กิดข้นึ ในทอ่ ไอดี 2. กำรควบคุมกำรท ำงำนของระบบกำรฉีดนำ้ มนั เช้ือเพลงิ ได้นำเอาชดุ อิเลก็ ทรอนิกส์มา ควบคุมซงึ่ มีชอ่ื เรียกเป็นภาษาอังกฤษตรงกับข้อใด ก. EGR ข. EOT ค. COM ง. ECM 3. อุปกรณใ์ ดไม่ไดต้ ิดตง้ั อยู่ทเี่ รือนลนิ้ เรง่ ก. ตัวตรวจจับอณุ หภูมอิ ากาศ ข. ตัวตรวจจบั ปริมาณออกซิเจน ค. ตัวตรวจจบั ตำแหนง่ ลิ้นเรง่ ง. ตวั ตรวจจบั ความดันในท่อไอดี 4. ตัวตรวจจับออกซิเจน ตดิ ตั้งอยู่ท่ีใดของเครื่องยนต์ ก. ทอ่ ร่วมไอดี ข. ฝาสบู ค. เสือ้ สูบ ง. ปากทอ่ ไอเสีย 5. แรงดันน้ำมนั เชอื้ เพลิงท่ีอยู่ในท่อส่งนำ้ มนั เชือ้ เพลงิ ไปยังหวั ฉีดมีค่ำแรงดนั เท่ำไร ก. 190 กิโลปาสคาล ข. 290 กิโลปาสคาล ค. 294 กิโลปาสคาล ง. 394 กิโลปาสคาล 6. ปม๊ั นำ้ มันเชื้อเพลิงสรา้ งแรงดันน้ำมนั เช้อื เพลงิ ส่งไปยังอุปกรณใ์ ด ก. ท่อไอดี ข. หัวฉีด ค. ชดุ ควบคมุ ง. ห้องเผาไหม 7. จงเลอื กข้อที่ไม่ใชส่ ว่ นประกอบของระบบน้ำมนั เชือ้ เพลงิ ก. เคร่ืองมอื วดั แรงดันน้ำมันเชือ้ เพลิง ข. ก๊อกน้ำมันเช้ือเพลิง ค. กรองนำ้ มันเชื้อเพลงิ ง. คารบ์ เู รเตอร์ 8. ในกรณีท่สี ภาพ ถนนที่มีฝ่นุ ละอองมาก ๆ ควรทำความสะอาดไส้กรอง ทุก ๆ กก่ี ิโลเมตร ก. 1,500 ข. 2,000 ค. 2,500 ง. 3,000 9. คาร์บเู รเตอร์ทำหนา้ ท่ี ก. ป้องกนั การสกึ หรอของเคร่ืองยนต์ ข. ผสมน้ำมนั เชื้อเพลิงกันอากาศ ค. ควบคุมนำ้ มนั ขณะที่ความเรว็ สงู ง. ป้องกนั ฝนุ่ ละออง 10. ตำแหนง่ ของก๊อกน้ำมัน อยทู่ ่ี RES หมายถึง ก. เปดิ ก๊อกน้ำมนั สำรอง ข. น้ำมันไหลสู่คาบเู รเตอร์ ค. เปดิ กอ๊ กน้ำมัน ง. ปิดก๊อกนำ้ มนั
80 ใบความรู้แบบฝึกทักษะงานจักรยานยนต์ ชอื่ หน่วย งานบรกิ ารระบบนำ้ มนั เช้อื เพลงิ หนว่ ยท่ี 4 ใบความรทู้ ่ี 1 งานถอด ตรวจสภาพและประกอบ จำนวน 7 ชวั่ โมง ชนิ้ ส่วนในระบบนำ้ มันเชือ้ เพลิงแบบคารบ์ ูเรเตอร์ สาระสำคญั คารบ์ ูเรเตอรแ์ ละระบบฉดี เบนซินของจักรยานยนต์ 1. ลกั ษณะคาร์บูเรเตอร์ เครือ่ งยนต์จกั รยานยนต์หรอื เคร่ืองยนตต์ น้ กำลังเลก็ ๆ มกั เป็น เครือ่ งยนต์สบู เดียวหรือ 2 สบู เครอื่ งยนตย์ งิ่ น้อยสูบ การดดู ส่วนผสมไอดยี ิ่งไม่ราบเรียบ เครอ่ื งยนต์ เบนซนิ เลก็ จึงต้องมที ่อดดู ไอดีกว้าง (เวนจูร่ีกวา้ ง) เพื่อลดการเสียดทานการไหลของอากาศ ทีม่ ีผลทำให้การ ดดู สว่ นผสมไอดีไม่ราบเรียบ ระบบฉีดเบนซินของจกั รยานยนต์ คุณลกั ษณะระบบฉดี เบนซนิ เครือ่ งยนต์แบบธรรมดาท่ีใชค้ าร์บูเรเตอร์ ปรมิ าณของเบนซินที่ เครอ่ื งต้องการควบคุมโดยคารบ์ เู รเตอร์ สว่ นในเครือ่ งยนต์ทใ่ี ช้ระบบฉดี เบนซนิ ปริมาณ การจ่ายเบนซนิ ควบคุม อยา่ งแม่นยำโดยคอมพิวเตอร์ ซ่งึ จ่ายเบนซินเข้าสู่กระบอกสบู ทางหวั ฉดี ระบบฉีดเบนซินคำนวณ ปริมาณเบนซินท่ีต้องการใช้อย่างครบวงจร โดยขึน้ อยกู่ ับอุณหภูมิของอากาศที่ถูกดูดเขา้ บรรจุ ความเรว็ รอบ ของเครื่องยนต์ อณุ หภมู ิของน้ำหล่อเย็น ตำแหนง่ ของลิ้นเร่ง ความเขม้ ข้นของออกซเิ จนในท่อไอเสีย และ สภาวะทส่ี ำคัญอนื่ ๆ รายละเอียดเน้อื หา 1.1 คารบ์ ูเรเตอร์ 1.1.1 ถอด-ประกอบช้นิ สว่ นในระบบน้ำมันเชอ้ื เพลิงแบบคารบ์ เู รเตอร์ 1.1.2 ตรวจสภาพชิ้นส่วนในระบบนำ้ มนั เชือ้ เพลงิ แบบคารบ์ ูเรเตอร์ 1.2 ความปลอดภัยในการปฏิบตั งิ าน 1.2.1 อปุ กรณป์ ้องกนั ความปลอดภยั 1.2.2 การใชอ้ ุปกรณ์ป้องกนั ความปลอดภยั 1.3 วสั ดุ เครอื่ งมือและอปุ กรณ์การขจักคราบสกปรก 1.3.1 วัสดุ 1.3.2 เครอื่ งมอื และอปุ กรณ์ 1.4 การทำความสะอาด 1.4.1 ขนั้ ตอนการทำการทำความสะอาด 1.4.2 การทำความสะอาด จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 ด้านความรู้ 1.1.1 หลักการทำงานของคารบ์ ูเรเตอร์ 1.1.2 ศกึ ษาข้นั ตอนการถอด ประกอบทีถ่ ูกต้อง 1.1.3 วิธีการตรวจสอบชน้ิ ส่วน 1.2 ดา้ นทกั ษะ 1.2.1 ถอดประกอบคาร์บูเรเตอร์ 1.2.2 ตรวจสอบชน้ิ สว่ น 1.2.3 ทำความสะอาดชน้ิ ส่วน 1.3 คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1.3.1 ทำงานประณีต รอบคอบ ระมัดระวัง สะอาดและประหยัดในการทำงาน
81 วงจรเบนซนิ และหม้อกรองอากาศ 1. สว่ นประกอบวงจรเบนซินจกั รยานยนต์ 2. หน้าทรี่ ะบบเบนซนิ จักรยานยนต์ ระบบเบนซนิ มีหนา้ ท่ีเก็บและจา่ ยเบนซนิ ใหก้ บั เครอ่ื งยนต์ในอตั ราทีพ่ อเหมาะ เบนซินท่ใี ช้ควรเลอื กใช้ทม่ี ีคณุ ภาพตามคูม่ ือการใช้รถ เพอื่ ไม่ให้มผี ลกระทบ กับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และจะทำใหช้ น้ิ สว่ นของเคร่ืองยนต์เสยี หายได้ ระบบเบนซินประกอบดว้ ยถงั เบนซิน ก๊อกเบนซิน และคาร์บูเรเตอร์ 3. ถงั เบนซิน (Fuel Tank) ถงั เบนซนิ จกั รยานยนต์ อยเู่ หนือคารบ์ เู รเตอร์ เพอ่ื ให้เบนซินสามารถไหลลง คาร์บูเรเตอร์ได้งา่ ย ไม่ต้องใช้ระบบปั๊มดูดแต่ใชแ้ รงดงึ ดดู ของโลก ถงึ เบนซนิ เป็นถงั เหลก็ สว่ นบนของถัง เบนซนิ มชี ุดลกู ลอยเกจระดบั เบนซนิ และมีฝาถังเบนซินทเี่ ติมเบนซินโดยมฝี าปิด ฝาถงั มีรูระบายอากาศเพ่ือ สมดุลความดันอากาศไม่ให้ภายในถงั เกิดสุญญากาศ ซ่งึ จะทำใหเ้ บนซนิ ไม่ไหลลงคาร์บเู รเตอร์ เมื่อใชเ้ บนซิน ไปบางสว่ น ส่วนลา่ งของถังเบนซนิ เปน็ ทสี่ ำหรับยดึ ก๊อกเบนซนิ 4. กอ๊ กเบนซินแบบท่ี 1 (SUZUKI RC 110 C/DC) เม่อื เคร่ืองยนต์ทำงาน เกิดสุญญากาศที่ท่อ สญุ ญากาศ ดูดแผ่นไดอะแฟรมเอาชนะแรงสปรงิ เม่ือแผ่นไดอะแฟรมเคลื่อนตวั ออก จะเปิดทางเบนซนิ ให้ ไหลผา่ นไปยงั คาร์บูเรเตอร์ เมอื่ ดับเครอ่ื งยนต์ สปริงจะดันวาล์วให้ปิดช่องทางเบนซนิ เบนซนิ ไมส่ ามารถไหล ไปยังคาร์บเู รเตอร์ได้ หลังการซ่อมคาร์บูเรเตอร์ ในครั้งแรกจะไม่มเี บนซินในห้องลกู ลอยดังน้ันเพื่อท่จี ะให้ เบนซนิ ไหลไปยงั คาร์บูเรเตอร์ จะต้องสตาร์ทเคร่ืองยนต์ประมาณ 3-5 คร้งั 5. ก๊อกเบนซินแบบที่ 2 เมื่อสตาร์ทเคร่อื งยนต์ สุญญากาศในท่อไอดี ซ่ึงกับท่อสุญญากาศ B จะทำให้แผน่ ไดอะแฟรมถูกดดู มาทางด้านขวามือขณะแรงของสปรงิ เม่ือแผ่นไดอะแฟรมเคลื่อนออก ลกู สบู จะ เล่ือนออก เปดิ ชอ่ งทางเบนซนิ ใหเ้ บนซนิ ไหลออกทางช่อง A ไปยังคาร์บเู รเตอร์ เมอ่ื ดับเครื่องยนต์ สปริงจะดนั แผ่น ไดอะแฟรมให้กลับส่ตู ำแหนง่ เดมิ ลูกสูบจะปดิ ทอ่ เบนซิน เบนซินหยดุ ไหลไปยงั คาร์บูเรเตอร์ 6. หม้อกรองอากาศ (Air Filter) อากาศทเี่ ครอื่ งยนต์ดูดเขา้ ไปในห้องเผาไหมม้ ฝี นุ่ ละอองเสมอ ฝนุ่ ละอองท่ี มีขนาดเลก็ กวา่ 0.005 มม. จะเป็นอันตรายต่อสว่ นประกอบเครื่องยนตน์ ้อย เพราะระยะเบียดแบรงิ่ เครอ่ื งยนต์สว่ นใหญ่มากกว่า 0.01 มม. ถ้าขับรถยนตใ์ นเส้นทางทม่ี ีฝุ่นละอองมากนาน 1 ชว่ั โมง จะใช้ น้ำมันเบนซินประมาณ 10 ลติ ร ใช้อากาศประมาณ 100 ม.3 อากาศท่ีมีฝนุ่ ละออง 0.02 ก3 เครอ่ื งยนต์ จะดดู ฝนุ่ เข้าไป 2 กรมั หรือประมาณได้เท่ากบั ไขน่ กกระทา 1 ลกู หากฝุ่นละอองที่แข็งเข้าไปผสมกับ นำ้ มนั เครือ่ งได้ จะกลายเปน็ เหมือนกากเพชรบดล้ิน ทำให้เกิดการ สกึ หรอมากทีล่ ูกสูบ กระบอกสูบและ ลนิ้ หนา้ ที่ - กักกันฝ่นุ ละอองทจ่ี ะไปทำใหช้ น้ิ สว่ นเครอื่ งยนต์สกึ หรอ - ลดเสียงดังในการดดู ไอดเี ข้าไปในห้องเผาไหม้ - ดดู อากาศเข้าไปเพ่ือควบคุมแก๊สพิษจากไอเสีย หม้อกรองอากาศแบบเปยี ก (Wet Type) ไส้กรองเป็นใยโลหะชุบน้ำมันเคร่ืองฝุ่นละออง ทม่ี ากบั อากาศ จะเกาะผวิ ไส้กรองที่มฟี ิลม์ น้ำมันเครอ่ื ง ตอ้ งหม่นั ตรวจล้างและชโลมนำ้ มนั เคร่ืองตามกำหนดเวลาหรอื แลว้ แต่ ความสกปรกของอากาศ ปกติต้องทำทกุ 3,000 กม. จึงเหมาะแต่ในภมู ิประเทศทม่ี ฝี ุ่นละอองน้อย หากฝนุ่ ละอองเกาะมาก กำลงั เครอื่ งยนต์จะตก สนิ้ เปลืองเบนซนิ มาก คารบ์ ูเรเตอรแ์ ละระบบฉดี เบนซนิ ของจกั รยานยนต์ 1. ลกั ษณะคาร์บเู รเตอร์ เครือ่ งยนตจ์ ักรยานยนตห์ รือเครอื่ งยนต์ตน้ กำลังเล็ก ๆ มักเปน็ เครือ่ งยนต์สบู เดียวหรือ 2 สูบ เครอ่ื งยนตย์ ง่ิ นอ้ ยสบู การดดู สว่ นผสมไอดยี งิ่ ไมร่ าบเรยี บ เครอื่ งยนต์เบนซนิ เล็กจงึ ต้องมี ทอ่ ดดู ไอดีกว้าง (เวนจรู ่ีกว้าง) เพอ่ื ลดการเสียดทานการไหลของอากาศ ท่มี ผี ลทำให้การดดู สว่ นผสมไอดไี ม่ ราบเรยี บ
82 หลักการทำงาน วงจรเดินเบาและวงจรนมหนูใหญ่ทำหน้าทคี่ วบคมุ ใหส้ ่วนผสมไอดีมีอัตราสว่ นถกู ตอ้ ง คาร์บเู รเตอร์เครือ่ งจักรยานยนต์มวี งจรเดนิ เบาอย่างง่าย ๆ ด้วยระบบเข็มนมหนูสร้างส่วนผสมไอดี ตำแหน่งเดนิ เบา ขณะปล่อยคันเร่ง ลิ้นเลือ่ นของคาร์บูเรเตอรป์ ดิ ช่องอากาศ อากาศไหลผ่านส่วนล่างลิ้น เลื่อนไดเ้ ลก็ น้อย อากาศเดนิ เบาไหลผา่ นนมหนอู ากาศ (ลูกศรตัวลา่ ง) ดดู เบนซินข้นึ ผสมกับอากาศได้ เพยี งพอกับให้เครื่องยนต์เดินเบาเรยี บและไมด่ บั เอง ตำแหนง่ เรง่ สดุ เมื่อบิดคันเร่งจนเร่งสุด ลนิ้ เลื่อนของคารบ์ เู รเตอร์ยกขึ้นสูงสุด เปิดชอ่ งอากาศเขา้ คารบ์ เู รเตอร์กวา้ ง อากาศเข้าเครอ่ื งยนต์ได้มาก เข็มนมหนทู ีเ่ ป็นเรียว เปิดรูตัวนมหนูกวา้ งอากาศส่วนหนง่ึ ยงั คงไหลผา่ นนมหนูอากาศ มแี รงดูดเบนซินผสมอากาศได้มาก ข้อควรจำ หวั เข็มนมหนู มรี ่องให้ล็อกด้วยแหวนลอ็ กหลายตำแหนง่ เพอ่ื ใหเ้ ลอื กใช้ได้เหมาะสมกบั ความต้องการของ เคร่อื งยนต์ ระบบฉดี เบนซนิ ของจักรยานยนต์ คุณลกั ษณะระบบฉีดเบนซิน เคร่ืองยนต์แบบธรรมดาที่ใชค้ าร์บเู รเตอร์ ปริมาณของเบนซินทีเ่ คร่ือง ต้องการ ควบคมุ โดยคารบ์ เู รเตอร์ ส่วนในเคร่ืองยนต์ท่ีใช้ระบบฉดี เบนซิน ปริมาณ การจ่ายเบนซนิ ควบคมุ อย่างแม่นยำโดยคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงจ่ายเบนซนิ เขา้ สู่กระบอกสูบทางหัวฉดี 2.ข้ันตอนการปฏบิ ตั ิงาน 2.1 ถอดเรือนกรองอากาศ -ถอดบงั ลมและปลดท่อระบายอากาศออกจากเรือนกรองอากาศคลายสกรยู ดึ เขม็ ขดั รัดท่อ และถอด โบลท์ ยึดเรอื นกรอากาศง ถอดเรือนกรองอากาศออกจากคาร์บเู รเตอร์ รปู แสดงการถอดเรือนกรองอากาศ
83 2.2 ถอดตัวเรือนคารบ์ ูเรเตอร์ -ถอดฝาครอบลูกเร่งและชดุ ลูกเรง่ ออกจากตัว กดสปริงลกู เร่งให้ยบุ ตัวพร้อมกับ ออกจากลูกเรง่ ดงั รปู ท่ี3 -ถอดตวั ล็อกเข็มเร่งโดยการหมนุ ทวนเข็มนาฬิกา ถอดสปริงและเข็มเรง่ ออก ดังรปู ที่4 รูปท่ี3แสดงการถอดสายคนั เร่ง รูปที่4แสดงการถอดสปริงและเข็มเร่ง 2.2.1 ปิดก๊อกน้ำมนั เช้ือเพลิงถอดท่อระบายอากาศคลายสกรถู า่ ยนำ้ มนั และถา่ ยน้ำมนั เชอื้ เพลิงห้องลูกลอย โดยมีถาดรองรบั ทีส่ ะอาดจากน้นั คลายสกรูยดึ เขม็ ขัดรัดสายโชก้ และปลด สายโช้กออก ดังรูปท่ี5 2.2.2 ปลดทอ่ นำ้ มันเชื้อเพลงิ ทอ่ ระบายอากาศ ท่ออากาศและท่อถา่ ยนำ้ มันออกจากคารบ์ ูเรเตอร์ คลายสกรูยดึ เข็มขดั รดั ท่อต่อคารบ์ เู รเตอร์ถอดโบลท์ยึดเรือนคารบ์ ูเรเตอร์และแผน่ รองไฟเบอร์ ดงั รูปท6ี่ รปู ที่5แสดงการถอดสายโชก้ รูปท่ี6แสดงการถอดเรอื นคาร์บูเรเตอร์ 2.3 ถอดแยกชิ้นส่วนคารบ์ ูเรเตอร์ 2.3.1 ถอดสกรยู ดึ ถว้ ยน้ำมันเช้อื เพลิงออก ดงั รปู ที่7 2.3.2 ถอดสลกั ลูกลอย ลูกลอยและเข็มลูกลอยออกดว้ ยความระมัดระวัง เน่ืองจากชิ้นสว่ นมขี นา หาก ตกหล่นจะทำให้ชำรุดเสียรปู ทรงได้ ดังรปู ท8่ี รปู ที่7แสดงการถอดถ้วยนำ้ มันคาร์บูเรเตอร์ รูปที่8แสดงการถอดลูกลอยและเขม็ ลูกลอย
84 2.3.3 ถอดสกรูปรบั อากาศโดยหมุนสกรเู ข้าจนสุด พร้อมนับจำนวนรอบที่สกรเู รมิ่ สมั ผัส นมหนูหลกั เสอื้ เข็มเรง่ และนมหนูเดินเบาออก ดังรูปที่9 จากนนั้ ใชล้ มเป่าช้ินส่วนแตล่ ะชิน้ ดังรูปท่ี ช่องทางเดนิ เช้ือเพลิง และช่องทางเดนิ อากาศ ดงั รปู ท่ี10 รปู ที่9แสดงการถอดนมหนูหลกั และนมหนเู ดนิ เบา รปู ที่10แสดงการใช้ลมเปา่ ช่องทางเดินน้ำมนั 2.4 การตรวจสอบชิน้ สว่ น 2.4.1 ตรวจสอบเขม็ ลกู ลอยและบ่าเข็มลูกลอยตรวจสอบรอยขีดขว่ น ความสกึ หรอและการอุดตัน ของบา่ เข็มลกู ลอยสงิ่ สกปรกหรือความสึกหรอบรเิ วณส่วนปลายของเขม็ ลกู ลอยท่สี มั ผสั กับบ่าเข็ม ลกู ลอย ถ้าช้ารุดให้ เปล่ยี นใหม่11ดงั รปู ท่ี 2.4.2 ตรวจสอบสภาพซลี โอริงของก๊อกน้ำมนั เช้อื เพลิงว่าอยู่ในสภาพดหี รือไม่ หากช้ารดุ หรอื เส ใหเ้ ปล่ยี น ใหม่ ดังรูปที่12 รูปที่ 11 แสดงการตรวจสอบเข็มลูกลอยและบา่ เข็ม รปู ท่ี 12 แสดงการตรวจสอบสภาพซีลโอรงิ 2.4.3 ตรวจสอบระดบั ลูกลอยโดยประกอบเขม็ ลูกลอยและลกู ลอยเข้าต้าแหน่งเดิมวัดระดบั ความสงู ของ ลกู ลอยด้วยเครื่องมือพเิ ศษหรือเวอรเ์ นยี รค์ าลิปเปอร์ เทียบกับค่ามาตรฐาน ดังรูปท1่ี 3หากระดับลกู ลอยผิดไป จาก ค่ามาตรฐานให้เปลย่ี นชดุ ลูกลอยใหม่ รูปที่ 13 แสดงการตรวจสอบระดับลกู ลอย 2.5 การประกอบช้ินสว่ น 2.5.1 ประกอบนมหนหู ลัก เสื้อเข็มเรง่ และนมหนูเดินเบา เข้ากบั เรือนคาร์บูเรเตอร์ 2.5.2 ประกอบสกรปู รับอากาศ โดยหมุนสกรเู ขา้ จนสดุ พร้อมนับจ้านวนรอบทส่ี กรเู ร่ิมสัมผสั กับคา่ ท่ีบันทึก ไวก้ อ่ นการถอดดงั รปู ท่ี14
85 รูปท่ี 14 รูปที่ 15 2.5.3ประกอบลูกลอยและเข็มลกู ลอยเขา้ กับเรือนคารบ์ ูเรเตอร์ ร้อยสลักลกู ลอยผา่ นเรือนคาร์บูเรเตอร์ ดงั รปู ท่ี 15 2.5.4 ประกอบซลี โอริงอนั ใหม่เข้ากับแผน่ รองไฟเบอร์และร่องบนเรือนคาร์บูเรเตอร์16 ดงั รูป 2.5.5 ตอ่ ทอ่ น้ำมันเชื้อเพลิง ทอ่ ถา่ ยน้ำมันและท่อระบายอากาศเข้ากับคารบ์ ูเรเตอรต์ ่อสายโช้ค ประกอบเรอื นคาร์บูเรเตอร์เข้ากบั ท่อไอดขี องเครื่องยนต์ ขันโบลท์ยึดใหแ้ นน่ ดังรปู ท่ี 17 รปู ท่ี 16 แสดงการประกอบซีลโอริงท่อไอดี รูปท่ี 17 แสดงการประกอบเรือนคาร์บูเรเตอร์ 2.5.6 ประกอบชุดลูกเร่งเข้ากับเรอื นคาร์บเู รเตอร์ โดยจดั ให้รอยบากทลี่ ูกเรง่ ตรงกับสกรูปรับ รอบเครอื่ งยนต์ ขนั ฝาครอบใหแ้ น่น ดงั รูปที่18 2.5.7 เปดิ กอ๊ กน้ำมันเชอ้ื เพลิง ตดิ เครอ่ื งยนต์ อุ่นเคร่ืองยนต์ประมาณ10นาทีเพ่ือให้ไดอ้ ุณหภมู ิการ ทำงาน หมนุ ปรับสกรปู รับอากาศและสกรปู รับความเรว็ รอบเครือ่ งยนตต์ ามคา่ มาตรฐานกำหนด ดังรูปท่ี19 รปู ท่ี 18 แสดงการประกอบลกู เร่ง รูปท่ี 19 แสดงการปรบั สว่ นผสมและความเร็วรอบเดินเบา รายการ ค่ามาตรฐาน สกรปู รบั อากาศ หมนุ ออก2 +1/8 รอบ ความเรว็ รอบเดนิ เบา 1,400 ± 100 รอบ/นาที
86 แบบฝึกทกั ษะงานจกั รยานยนต์ หน่วยท่ี 4 ชื่อหน่วย งานบริการระบบน้ำมนั เชอื้ เพลิง จำนวน 7 ชม. ใบงานท่ี 4.1 งานถอด ตรวจสภาพและประกอบชิน้ สว่ นในระบบนำ้ มนั เช้ือเพลิงแบบคาร์บเู รเตอร์ 1.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 หนา้ ทีแ่ ละการทำงานของระบบน้ำมันเชื้อเพลิง 1.2 ตรวจ ซ่อม บำรงุ รักษาระบบน้ำมนั แบบธรรมดา 1..3 ตรวจ ซ่อม บำรุงรกั ษาระบบน้ำมนั แบบอเิ ล็กทรอนิกส์ 2.วัสดุ เครื่องมือ/อปุ กรณ์ ที่ รายการ จำนวน ท่ี รายการ จำนวน 2.1 ประแจบ็อก 1 ชุด 2.6 ผ้าเชด็ มอื 1 ผนื 2.2 ประแจตวั ที เบอร์8 1 ตวั 2.7 ปนื เป่าลม 1 อนั 2.3 ไขควงแฉก 1 ตวั 2.8 สายลม 1 เส้น 2.4 ไขควงแบน 1 ตวั 2.9 เคร่ืองมือวัด 1 ตวั 2.5 เคร่ืองมือพเิ ศษ 1 อัน 2.6 ถาดใส่ชิน้ สว่ น 1 อนั 3.ข้นั ตอนการปฏิบัตงิ าน ภาพแสดงการปฏบิ ัติ รายละเอยี ดการปฏิบตั ิ 1. ถอดเรอื นกรองอากาศ - -ถอดบังลมและปลดท่อระบายอากาศออกจาก เรอื นกรองอากาศ 2. ถอดตวั เรือนคารบ์ ูเรเตอร์ - ถอดฝาครอบลกู เร่งและชดุ ลูกเร่งออกจากตัว กดสปรงิ ลูกเร่งให้ยบุ ตัวพร้อมกบั - ถอดตวั ล็อกเข็มเร่งโดยการหมุนทวนเขม็ นาฬิกา ถอดสปริงและเข็มเรง่ ออก - ปดิ ก๊อกนำ้ มันเช้ือเพลิงถอดทอ่ ระบายอากาศคลาย สกรูถา่ ยน้ำมันและถ่ายน้ำมันเชื้อเพลงิ หอ้ งลกู ลอย
ภาพแสดงการปฏิบัติ 87 รายละเอียดการปฏิบตั ิ - ปลดท่อน้ำมนั เช้อื เพลิง ท่อระบายอากาศ ท่อ อากาศและท่อถา่ ยนำ้ มนั ออกจากคารบ์ ูเรเตอร์ 3 การตรวจสอบชนิ้ ส่วน - ถอดสกรยู ึดถว้ ยนำ้ มันเชื้อเพลงิ ออก - ถอดสลกั ลูกลอย ลูกลอยและเขม็ ลูกลอยออก ดว้ ยความระมดั ระวงั เนอื่ งจากชิน้ สว่ นมีขนาดเล็ก หากตกหล่นจะทำใหช้ ำรุดเสยี รปู ทรงได้ - ถอดสกรปู รบั อากาศโดยหมนุ สกรเู ข้าจนสดุ พรอ้ มนับจำนวนรอบทส่ี กรเู ริม่ สัมผสั นมหนูหลัก เสอื้ เข็มเรง่ และนมหนเู ดินเบาออก - จากน้ันใช้ลมเปา่ ชนิ้ สว่ นแตล่ ะชน้ิ - ตรวจสอบระดบั ลูกลอยโดยประกอบเข็มลูกลอย และลกู ลอยเขา้ ต้าแหน่งเดมิ วัดระดบั ความสูงของ ลกู ลอยดว้ ยเครื่องมือพเิ ศษหรือเวอร์เนียร์คาลปิ เปอร์
ภาพแสดงการปฏิบตั ิ 88 รายละเอยี ดการปฏิบัติ 4. การประกอบช้นิ ส่วน - ประกอบนมหนูหลัก เสื้อเขม็ เร่ง และนมหนูเดินเบา เขา้ กบั เรือนคารบ์ เู รเตอร์ - ประกอบสกรปู รับอากาศ โดยหมุนสกรเู ข้าจน สดุ พร้อมนับจ้านวนรอบทสี่ กรูเร่มิ สัมผัสกับค่าที่ บนั ทกึ ไว้กอ่ นการถอด - ประกอบลูกลอยและเข็มลูกลอยเขา้ กับเรือน คารบ์ ูเรเตอร์ ร้อยสลกั ลูกลอยผา่ นเรือนคาร์บเู รเตอร์ - ประกอบซลี โอริงอนั ใหม่เข้ากับแผ่นรองไฟเบอร์ และรอ่ งบนเรอื นคารบ์ เู รเตอร์ - ต่อทอ่ น้ำมันเช้ือเพลิง ท่อถา่ ยน้ำมันและท่อ ระบายอากาศเขา้ กับคาร์บูเรเตอร์ตอ่ สายโช้ค ประกอบเรอื นคารบ์ ูเรเตอร์เข้ากบั ท่อไอดขี อง เครื่องยนต์ ขันโบลท์ยดึ ใหแ้ น่น - ประกอบชดุ ลกู เรง่ เขา้ กับเรอื นคาร์บเู รเตอร์ โดย จดั ให้รอยบากที่ลูกเรง่ ตรงกับสกรปู รบั รอบ เครอื่ งยนต์ ขนั ฝาครอบใหแ้ น่น - เปิดก๊อกนำ้ มนั เชอื้ เพลิง ติดเครื่องยนต์ อุ่น เคร่ืองยนตป์ ระมาณ10นาทีเพือ่ ให้ได้อุณหภูมิการ ทำงาน หมนุ ปรบั สกรปู รับอากาศและสกรปู รบั ความเร็วรอบเคร่ืองยนต์ตามค่ามาตรฐานกำหนด - เปิดก๊อกนำ้ มันเช้ือเพลิง ติดเคร่อื งยนต์ อุ่น เครื่องยนตป์ ระมาณ10นาทเี พอื่ ให้ได้อณุ หภมู ิการ ทำงาน หมุนปรบั สกรปู รบั อากาศและสกรปู รบั ความเรว็ รอบเครื่องยนตต์ ามคา่ มาตรฐานกำหนด
89 แบบประเมินการปฏิบตั ิงาน ช่อื งานถอด ตรวจสภาพและประกอบช้ินสว่ นในระบบน้ำมันเช้อื เพลงิ แบบคารบ์ ูเรเตอร์ ช่อื -สกุล ................................................................................................ ชน้ั ปวช................ เลขที่ ................... คำชีแ้ จง ให้บนั ทกึ ข้อมูลตา่ ง ๆ และผลการประเมนิ และนำผลคะแนนที่ได้รบั ตดิ ลงในช่องตารางกำหนด ใชเ้ วลาในการ ทำงาน 30 นาที ลำดับที่ หลักฐานการตรวจ/หัวข้อประเมิน คะแนน คะแนนท่ี เตม็ ได้ 1 เลือก/ ใช้ วัสดุ เครื่องมอื อุปกรณแ์ ละความปลอดภัย 1 2 ขนั้ ตอนการปฏบิ ัตงิ าน (การเตรยี มเครอ่ื งมือ,วธิ กี ารทำงาน, 1 เสร็จตามเวลากำหนด,การจัดเก็บสถานที่) 3 ผลสำเร็จ 7 (1) ลำดบั ขน้ั ตอนการถอด 2 (2) การตรวจสอบ 2 (3) ลำดับขน้ั การประกอบ 2 (4) ประสทิ ธภิ าพการทำงานของระบบ 2 ปฏิบตั คิ รั้งที่ …………………. วนั ท่ี รวม 10 ...................... ลำดบั ที่ หลักฐานการตรวจ/หัวข้อประเมนิ คะแนน คะแนนท่ี เต็ม ได้ 1 เลอื ก/ ใช้ วัสดุ เครอื่ งมอื อปุ กรณแ์ ละความปลอดภยั 1 2 ขั้นตอนการปฏบิ ัตงิ าน (การเตรยี มเครื่องมือ,วิธีการทำงาน, 1 เสร็จตามเวลากำหนด,การจัดเกบ็ สถานที่) 7 3 ผลสำเรจ็ 2 2 (1) ลำดับข้นั ตอนการถอด 2 (2) การตรวจสอบ 2 (3) ลำดับขั้นการประกอบ (4) ประสทิ ธิภาพการทำงานของระบบ 10 ปฏบิ ัตคิ ร้ังท่ี …………………. วนั ท่ี รวม ......................
90 ใบความรู้แบบฝึกทกั ษะงานจักรยานยนต์ ชอ่ื หนว่ ย งานบรกิ ารระบบน้ำมนั เชอื้ เพลงิ หน่วยที่ 4 ใบความรู้ที่ 2 การตรวจสอบช้ินสว่ นของระบบจา่ ย จำนวน 7 ชว่ั โมง นำ้ มนั แบบอิเล็กทรอนิกส์ สาระสำคัญ ระบบควบคมุ การฉีดเชือ้ เพลิงด้วยอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 1. ระบบหวั ฉดี น้ำมันเช้อื เพลงิ PGM-FI (Programmed Fuel Injection) เปน็ ระบบจา่ ยน้ำมนั เชอ้ื เพลิงให้กับเคร่ืองยนต์รถจักรยานยนต์ โดยใช้หัวฉีดทมี่ ีการควบคมุ การทา้ งานด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ระบบ ฉดี นำ้ มันเชอื้ เพลงิ ควบ คุมดว้ ยอิเลก็ ทรอนิกส์ของรถจกั รยานยนต์ แบ่งเปน็ 2 แบบ คือแบบ D -Jetronic และ L – Jetronic ระบบฉีดเบนซินของจักรยานยนต์ คุณลกั ษณะระบบฉดี เบนซนิ เครื่องยนต์แบบธรรมดาทใ่ี ช้คารบ์ เู รเตอร์ ปรมิ าณของเบนซนิ ท่ี เคร่ืองต้องการควบคุมโดยคารบ์ ูเรเตอร์ สว่ นในเคร่อื งยนตท์ ใี่ ช้ระบบฉดี เบนซนิ ปรมิ าณ การจา่ ยเบนซิน ควบคุม อย่างแมน่ ยำโดยคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงจ่ายเบนซินเข้าสู่กระบอกสบู ทางหวั ฉีดระบบฉีดเบนซนิ คำนวณ ปริมาณเบนซินทตี่ อ้ งการใช้อย่างครบวงจร โดยขึน้ อยกู่ บั อุณหภูมิของอากาศทถี่ ูกดูดเข้าบรรจุ ความเร็วรอบ ของเครอ่ื งยนต์ อุณหภมู ิของนำ้ หลอ่ เยน็ ตำแหนง่ ของล้ินเรง่ ความเข้มขน้ ของออกซิเจนในทอ่ ไอเสีย และ สภาวะทีส่ ำคัญอ่ืน ๆ รายละเอยี ดเน้อื หา 1.1 ระบบฉดี เบนซิน 1.1.1 ถอด-ประกอบช้ินสว่ นในระบบควบคุมการฉดี เชื้อเพลงิ ดว้ ยอิเล็กทรอนิกส์ 1.1.2 ตรวจสภาพชนิ้ ส่วนในระบบควบคุมกำรฉดี เช้ือเพลงิ ดว้ ยอเิ ล็กทรอนิกส์ 1.2 ความปลอดภยั ในการปฏิบตั งิ าน 1.2.1 อุปกรณ์ป้องกนั ความปลอดภยั 1.2.2 การใชอ้ ุปกรณ์ปอ้ งกนั ความปลอดภัย 1.3 วัสดุ เคร่ืองมือและอปุ กรณ์การขจักคราบสกปรก 1.3.1 วสั ดุ 1.3.2 เครือ่ งมอื และอปุ กรณ์ 1.4 การทำความสะอาด 1.4.1 ข้ันตอนการทำการทำความสะอาด 1.4.2 การทำความสะอาด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 ดา้ นความรู้ 1.1.1 หลกั การทำงานของระบบควบคุมการฉดี เช้ือเพลิงด้วยอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 1.1.2 ศกึ ษาขัน้ ตอนการถอด ประกอบทถี่ ูกต้อง 1.1.3 วธิ ีการตรวจสอบชน้ิ สว่ น 1.2 ดา้ นทกั ษะ 1.2.1 ถอดประกอบระบบควบคุมการฉีดเชอื้ เพลิงด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 1.2.2 ตรวจสอบช้ินสว่ น 1.2.3 ทำความสะอาดช้นิ ส่วน 1.3 คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ 1.3.1 ทำงานประณตี รอบคอบ ระมัดระวงั สะอาดและประหยัดในการทำงาน
91 1. ขอ้ ดีของระบบควบคุมการฉดี เชื้อเพลงิ ด้วยอเิ ล็กทรอนิกสข์ องรถจกั รยานยนต์ 1. ทำใหเ้ ครื่องยนตเ์ ดินเรียบดว้ ยการทำงานของเซน็ เซอรต์ า่ ง ๆ ทต่ี รวจจับสภาพการขับขี่ จากอตั ราการบดิ คนั เรง่ หวั ฉดี น้ำมันเช้ือเพลิงจะสั่งจ่ายน้ำมนั เช้อื เพลงิ ได้อย่างรวดเรว็ ในปรมิ าณที่เหมาะสม 2. ทำให้ค่าคารบ์ อนไดออ๊ กไซค์ของไอเสียต่ำ เกดิ จากการเผาไหม้สมบูรณ์หมดจด เปน็ มิตรกับสง่ิ แวดล้อม 3. ทำให้ประหยัดน้ำมันเชอื้ เพลิง เนือ่ งจากการสัง่ กำหนดระยะเวลาการฉีดน้ำมันเช้ือเพลงิ ของหวั ฉีดเป็นไปอยา่ งแม่นยำและตามความจ้าเปน็ ต่อความตอ้ งการน้ำมนั เชอื้ เพลงิ ของเครอ่ื งยนต์ 4. ทำให้สตาร์ตเครื่องยนต์ติดง่ายในทุกสภาวะ แม้แบตเตอรจ่ี ะเหลือกระแสไฟนอ้ ย หรอื จอดรถทิ้งไวน้ านหลายวัน อากาศหนาวเยน็ เพราะขณะสตาร์ตเครื่องยนตร์ ะบบควบคมุ การฉีดเชือ้ เพลิงดว้ ย อิเล็กทรอนิกสจ์ ะจ่ายกระแสไฟไปยังจดุ ท่ีเก่ยี วข้องกับการสตาร์ตเครือ่ งยนต์เทา่ นน้ั 5. ทำใหม้ ีความปลอดภัย ระบบควบคุมการฉีดเชอื้ เพลิงด้วยอเิ ลก็ ทรอนิกส์จะหยดุ การฉดี นำ้ มันเช้ือเพลิง เม่ือรถล้มหรอื เกดิ อุบตั ิเหตุ 6. มีวงจรตรวจสอบการทา้ งานของระบบควบคุมการฉีดเชอ้ื เพลงิ ดว้ ยอิเล็กทรอนิกส์โดย อตั โนมตั ิ เม่ือระบบมคี วามผดิ ปกติ 2. ระบบฉีดน้ำมันเช้ือเพลงิ ควบคมุ ด้วยอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ PGM - FI ของฮอนดา้ เป็นแบบ D - Jetronic ซงึ่ เปน็ ระบบท่มี ีการควบคุมระยะเวลาการฉดี น้ำมนั เช้ือเพลิงของหวั ฉีด โดยวิธีการวัดแรงดันของอากาศในทอ่ รว่ มไอดดี ว้ ยตัวตรวจจับความดันในทอ่ ไอดีแล้วเปลยี่ นเป็นสัญญาณไฟฟ้าสง่ เข้ากล่องควบคมุ (ECM) : Engine Control Module เพื่อกำหนดระยะเวลาการฉดี น้ำมันเชือ้ เพลงิ ของหัวฉีดให้เหมาะสมกับปรมิ าณอากาศที่เขา้ กระบอกสูบและยังมตี วั ตรวจจับสัญญาณ (SENSOR) อกี หลายตัว ซึ่งกล่องควบคุม (ECM) จะทา้ หนา้ ที่ ประมวลผลปรมิ าณความตอ้ งการน้ำมนั เชอ้ื เพลงิ ของเคร่ืองยนตใ์ นสภาวะตา่ ง ๆ รวมถงึ ความต้องการของ ผู้ขับขี่ แล้วส่งั ให้หวั ฉดี น้ำมนั เช้อื เพลิงจา่ ยน้ำมัน เชอื้ เพลิงให้กับเคร่ืองยนต์ในปริมาณท่ีเหมาะสม กับความต้องการของเคร่ืองยนตใ์ นสภาวะน้นั ๆ โดยอาศยั ขอ้ มูลจากตัวตรวจจบั สัญญาณ (SENSOR) ทีต่ ดิ ตั้งอย่ใู นระบบจึงทา้ ใหเ้ ครื่องยนตใ์ ชน้ ้ำมันเชื้อเพลิงสูงสดุ เผาไหมส้ มบูรณ์ ไดก้ ำลงั งานสงู สดุ เกดิ มลพิษนอ้ ยเปน็ มิตรกับสิง่ แวดลอ้ ม 3. สว่ นประกอบและหน้าที่การทำงาน 3.1 ตวั ตรวจจับสญั ญาณ มหี น้าทตี่ รวจจับความเปลี่ยนแปลงในสภาวะต่าง ๆ ของเคร่ืองยนต์แลว้ ส่ง สัญญาณไฟฟ้าไปยังกลอ่ งควบคุม (ECM) แลว้ นา้ สัญญาณไฟฟ้าเหลา่ นน้ั ไปประมวลผลเพอื่ หาระยะเวลา กำหนดปริมาณการฉีดน้ำมนั เช้อื เพลิงท่เี หมาะสม ตัวตรวจจับสัญญาณ (SENSOR) มีความสำคญั ต่อระบบ
92 หวั ฉดี น้ำมนั เชอ้ื เพลงิ PGM-FI เปน็ อย่างยงิ่ รูปแสดงตำแหน่งตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศ : IAT SENSOR 3.2 ตัวตรวจจบั ความดันในท่อไอดี รปู ทแ่ี สดงตำแหนง่ ตวั ตรวจจับความดันในทอ่ ไอดี : MAP SENSOR สว่ นประกอบน้ีทำหนา้ ท่ีตรวจจบั ความดันภายในท่อไอดี แล้วเปล่ยี นเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าส่งขอ้ มูลไปยัง กล่องควบคุม(ECM) เพ่ือประมวลผลหาปรมิ าณของอากาศเพ่ือกำหนดระยะเวลาในการฉดี พื้นฐาน ตัวตรวจจบั ความดันในท่อไอดี เป็นความตา้ นทานทเี่ ปลย่ี นแปลงได้แบบสารกึ่งตัวน้า ตดิ ต้ังอยู่ดา้ นหลังของลน้ิ ปีกผเี ส้ือ เพื่อตรวจจับความดันของอากาศก่อนเข้าเครือ่ งยนต์ แล้วเปลีย่ นความดันอากาศ เป็นสัญญาณทางไฟฟา้ สง่ ไป ยงั กลอ่ งควบคมุ (ECM) เพื่อประมวลผลหาปรมิ าณอากาศ และรอสัญญาณความเร็วรอบของเครือ่ งยนต์ ซ่งึ เปน็ ขอ้ มูลในการสงั่ จ่ายน้ำมนั เชอื้ เพลงิ ข้นั พืน้ ฐานให้เหมาะสมกับความต้องการของเคร่ืองยนตใ์ นสภาวะนั้น 3.3 ตวั ตรวจจับตำแหนง่ ลิน้ เร่ง : TP SENSOR รปู แสดงตำแหนง่ ตัวตรวจจบั ตำแหนง่ ล้ินเร่ง : TP SENSOR
93 ส่วนประกอบน้ีทา้ หน้าทต่ี รวจจบั ตำแหน่งการเปิด-ปดิ ของลิน้ เรง่ แลว้ เปลยี่ นเปน็ สญั ญาณทางไฟฟ้า ส่งข้อมูลไปยังกล่องควบคมุ (ECM) เพอ่ื ประมวลผลในการหาปริมาณการจ่ายน้ำมนั เช้อื เพลงิ ให้เหมาะสมกบั ความต้องการของเครื่องยนตใ์ นขณะนัน้ และยงั ส่งข้อมูลสงั่ ตดั การจา่ ยน้ำมันเช้ือเพลิง ขณะผอ่ นคนั เร่ง โดยเปรยี บเทียบกบั สญั ญาณของตัวตรวจจบั ความเร็วรอบเคร่ืองยนต์ และสัญญาณของตัวตรวจจบั อณุ หภมู ิ น้ำมันเครอ่ื งตัวตรวจจบั ตำแหน่งล้นิ เรง่ จะบอกถึงการเปดิ -ปิด ของลนิ้ เร่งแลว้ ส่งสัญญาณทางไฟฟ้าซึ่งเกดิ จาก การเปลย่ี นแปลงของความต้านทาน ทต่ี ดิ ตง้ั ทีส่ ่วนปลายของเพลาลิน้ เร่ง 3.4 ตวั ตรวจจับอุณหภูมนิ ้ำมนั เครื่อง : EOT SENSOR สว่ นประกอบนที้ ้าหนา้ ทต่ี รวจจับอณุ หภมู นิ ้ำมนั เครอื่ ง แล้วเปลย่ี นเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าสง่ เขา้ กลอ่ งควบคุม (ECM) เพ่ือเพ่ิมหรือลดปริมาณ การฉีดนำ้ มนั เชื้อเพลิง ใหเ้ หมาะสมกบั อุณหภมู ิ ของเคร่ืองยนต์ รปู แสดงตัวตรวจจับอณุ หภมู นิ ้ำมันเครื่อง : EOT SENSOR 3.5 ตัวตรวจจับความเรว็ รอบเครอื่ งยนต์ : CKP SENSOR รปู แสดง ตัวตรวจจบั ความเร็วรอบเครือ่ งยนต์ : CKP SENSOR ส่วนประกอบนี้ทำหนา้ ทต่ี รวจจับความเรว็ รอบเคร่ืองยนต์ แล้วเปลี่ยนเปน็ สัญญาณทางไฟฟ้าสง่ เข้ากลอ่ ง ควบคมุ (ECM) เพือ่ เปน็ ข้อมูลพนื้ ฐานในการประมวลผลหาอตั ราการฉดี น้ำมนั เชื้อเพลงิ และกำหนดจังหวะจุด ระเบิดให้เหมาะสมกับการทา้ งานของเคร่ืองยนต์ รวมถึงส่งสญั ญาณความเปลย่ี นแปลงของตำแหนง่ เพลาขอ้ เหวยี่ งไปพร้อมกนั ดว้ ย เพ่ือเปรียบเทยี บตำแหน่งในแตล่ ะจุดว่ามกี ารเปลี่ยนแปลงเพียงใด กลอ่ งควบคมุ (ECM) จะรู้ถึงความเปล่ียนแปลงนั้น เพอื่ จะประมวลผลการจา่ ยน้ำมันเชือ้ เพลงิ ของหวั ฉดี ใหท้ ันต่อสภาวะของ เคร่อื งยนต์
94 3.6 ตัวตรวจจบั ออกซิเจน : 02 SENSOR ( OXYGEN SENSOR ) ส่วนประกอบน้ที ำหน้าทีต่ รวจจบั ออกซเิ จน ในไอเสียทีเ่ ครือ่ งยนต์ปล่อยออกมาแล้วเปล่ียนเปน็ สญั ญาณทางไฟฟ้าสง่ ไปยงั กล่องควบคุม (ECM) เพอื่ เพม่ิ หรือลดปริมาณการฉีดน้ำมนั เชอ้ื เพลิงใหเ้ หมาะสมกับ การทำงานของเครื่องยนต์ ตัวตรวจจับออกซเิ จน ตดิ ต้งั อยู่ท่ฝี าสบู บรเิ วณปากท่อไอเสียด้านขวา ภายในภายในประกอบด้วยแผ่นเซอรโ์ ค เนีย (ZIRCONIA) ทฉ่ี าบด้วยแพลทนิ ่ัม (PLATINUM) ซ่ึงมลี ักษณะเปน็ รูรอบ ๆ เพื่อตรวจจับกา๊ ซไอเสียทีเ่ กิด จากการเผาไหมใ้ นขณะนนั้ ว่าเคร่อื งยนต์เผาไหมส้ มบรู ณเ์ พยี งใด ถ้าเคร่ืองยนตเ์ ผาไหม้ไมส่ มบูรณต์ ัวตรวจจบั ออกซเิ จนจะไม่สามารถตรวจจบั ออกซเิ จนในไอเสียได้ กล่องควบคมุ (ECM) กจ็ ะส่ังลดปริมาณการฉดี น้ำมัน เชื้อเพลิงใหน้ ้อยลงจนกว่าจะจบั ปริมาณออกชิเจนในไอเสียไดแ้ ละในทางกลับกันถา้ ตัวตรวจตรวจจบั ออกซิเจน พบปริมาณออกซิเจนออกมามากในไอเสยี กลอ่ งควบคมุ (ECM) จะสัง่ ใหห้ วั ฉีดสง่ั จา่ ยน้ำมนั เชื้อเพลงิ ใหส้ ัมพนั ธ์ กบั การทำงานของเครื่องยนต์ รปู แสดง ตัวตรวจจบั ออกซเิ จน : 02 SENSOR 3.7 ป๊ัมน้ำมนั เชือ้ เพลิง (FUEL PUMP) รปู แสดง ป๊มั น้ำมันเชอ้ื เพลงิ สว่ นประกอบนี้ทำหน้าทส่ี ร้างแรงดนั น้ำมันเช้อื เพลงิ ในระบบ โดยปั๊มน้ำมนั เชือ้ เพลิงจะสรา้ งแรงดันจากถัง น้ำมันเชือ้ เพลงิ ส่งไปยังหวั ฉีดใหเ้ พยี งพอต่อความต้องการของเครือ่ งยนต์ ปั๊มน้ำมันเช้ือเพลิงจะถกู ติดตั้งอยทู่ ถ่ี ัง น้ำมันเชือ้ เพลิง เปน็ แบบใบพัด (TUREINE) ทา้ งานดว้ ยมอเตอร์ 12 V.DC. จ่ายน้ำมนั เชอ้ื เพลงิ ด้วยอัตราการ ไหลคงท่ี แรงดนั 294 Kpa หรือ 3.0 Kgf / cm3โดยท่อดูดของป๊ัมจะอย่ทู ีจ่ ดุ ต่ำสดุ ของถังน้ำมนั เชอ้ื เพลงิ และ จะมกี รองน้ำมนั เช้ือเพลงิ เพ่ือกรองสิ่งสกปรกท่ีมขี นาด 10 ไมครอนขึน้ ไป และปั๊มน้ำมันเช้ือเพลิงจะถกู สัง่ งาน โดยกล่องควบคุม (ECM)
95 3.8 หัวฉดี ( INJECTOR ) ทำหนา้ ทฉ่ี ีดน้ำมันเชือ้ เพลิงให้เปน็ ฝอยละออง เพื่อผสมกบั อากาศบริเวณท่อไอดี กอ่ นถึงวาล์วไอดี เพอ่ื เข้าสูก่ ระบอกสูบ หัวฉดี ท่ีใชเ้ ป็นแบบไฟฟา้ คอื บังคบั การเปิดของหัวฉีดโดยใช้โซลนิ อยดส์ ร้างสนามแมเ่ หล็ก ไฟฟ้าเพอ่ื ยกเข็มหวั ฉดี ขนึ้ และปดิ โดยใชแ้ รงดนั สปรงิ รูปแสดง หวั ฉีด 3.9 วาล์วควบคุมอากาศวงจรเดินเบา : IACV ( IDEL AIR CONTROL VALVE ) ทำหน้าทคี่ วบคุมรอบเดนิ เบาของเครือ่ งยนต์ ผา่ นทางชดุ วาล์วควบคุมอากาศวงจรเดนิ เบาโดย ควบคุมปริมาณอากาศทไ่ี หลผ่านวงจรบายพาสที่ชุดควบคุม เพ่อื รกั ษาความเร็วรอบของเครื่องยนต์ให้ไดต้ าม กำหนด 1,700 ± 100 รอบต่อนาที รปู แสดง ตำแหน่งตดิ ตั้งวาล์วควบคมุ อากาศวงจรเดินเบา 3.10 กล่องควบคุม : ECM ( ENGINE CONTROL MODULE ) รปู แสดง สว่ นประอบของกล่องควบคุม(ECM) กลอ่ งควบคุม(ECM) มหี นา้ ทค่ี วบคมุ การท้างานท้ังหมดของระบบ PGM – FI โดยรบั สัญญาณ ตา่ ง ๆ
96 จากตัวตรวจจบั สญั ญาณแลว้ นา้ ไปประมวลผลการส่ังจ่ายน้ำมนั เชอื้ เพลงิ กำหนดจงั หวะจดุ ระบิด และ การตดั – ต่อ การสัง่ จา่ ยน้ำมนั เชือ้ เพลิงให้เหมาะสมกับสภาวะการท้างานของเรื่องยนต์ และยังท้า หนา้ ท่ี ตรวจสอบ ระบบ PGM – FI ตลอดเวลาทท่ี ้าการเปิดสวิทช์กญุ แจ รวมถงึ การแสดงข้อมูลปญั หาที่เกิดข้ึนของ ระบบ ตรวจสอบความผดิ ปกติดว้ ยตนเอง ซึง่ จะแสดงผลใหท้ ราบทหี่ ลอดไฟแสดงการท้างานของเครื่องยนต์บน หนา้ ปัดเรือนไมล์ และจะบนั ทึกขอ้ มูลของปญั หาทเี่ กิดข้นึ กับระบบ PGM – FI อีกดว้ ย 4. หลอดไฟแสดงกำรทำงานของระบบฉดี เชื้อเพลิง PGM - FI : MIL (MalfunctionIndication Lamp) เป็นระบบท่ีติดต้ังเข้ามาเพอื่ อา้ นวยความสะดวกให้กบั ผู้ขบั ขแ่ี ละชา่ งบริการ โดยระบบน้ีอยภู่ ายใน กล่องควบคุม (ECM) ซึ่งจะคอยตรวจสอบการท้างานของอุปกรณต์ า่ ง ๆ ของระบบ PGM - FI อยตู่ ลอดเวลา เมื่อใดท่ีระบบตรวจพบความผิดปกตขิ องอปุ กรณ์ของระบบ PGM–FI ทา้ งานบกพร่อง ระบบจะแสดงผล ออกมาทางหลอดไฟ PGM – FI ซง่ึ ตดิ ตัง้ อยทู่ ห่ี นา้ ปดั เรอื นไมลโ์ ดยการกระพรบิ เปน็ รหสั ปญั หา ตา่ ง ๆ เชน่ รหัส 12 , 7 เปน็ ต้น รปู แสดง หลอดไฟ PGM – FI ท่ีหน้ำปัด หลักการทำงาน เม่อื บดิ สวทิ ช์กญุ แจไปท่ีตำแหนง่ “ON “ หลอดไฟจะติดขนึ้ มา 2 วนิ าทแี ลว้ ดบั ลง ถา้ ระบบตรวจพบ ความผิดปกติของอุปกรณ์ระบบ PGM – FI ได้และรวู้ า่ อปุ กรณ์ตวั ใดทา้ งานผดิ ปกติ หลอดไฟจะกระพริบเปน็ รหัสเพอ่ื แจง้ ปัญหาให้ทราบ โดยหลอดไฟจะกระพรบิ เมื่อสวทิ ชก์ ุญแจอยใู่ นตำแหน่ง “ ON “ เทา่ นนั้ และ เครอื่ งยนต์ติดอยู่ความเรว็ รอบต้องไม่เกนิ 1,800 รอบต่อนาที แตถ่ า้ เคร่ืองยนตม์ ีความเรว็ รอบมากกวา่ 1,800 รอบตอ่ นาที หลอดไฟจะติดตลอดเวลา แลว้ จะกระพริบอกี ครั้งเม่ือความเร็วรอบของเคร่ืองยนต์ต่ำกวา่ 1,800 รอบตอ่ นาที กล่องควบคุม (ECM )จะบันทึกข้อมูลความผิดปกตไิ วต้ ลอดไป จนกวา่ จะมีการลบข้อมลู รหสั แสดงความผิดปกตจิ ะมีอย่ดู ว้ ยกัน 2 แบบ คือ รหสั คู่ และรหัสเดย่ี วรหสั คู่ เป็นการแสดงรหสั ข้อขดั ข้อง แบบ 2 สัญญาณ ( กระพริบยาว – ส้นั ) โดยการกระพริบของหลอดไฟแสดงการทำงานขอเคร่ืองยนต์ ตามจำนวนครั้งของรหสั ด้วยความถ่ที เี่ ท่ากัน รูปแสดง กำรกระพริบของหลอดไฟ PGM – FI ที่หนำ้ ปัด
97 รหัสเดี่ยว เปน็ การแสดงรหสั ข้อขัดข้องแบบ 1 สญั ญาณ ( กระพรบิ สั้น ) โดยการกระพริบของหลอดไฟแสดง การทำงานของเคร่ืองยนต์ ตามจำนวนครัง้ ของรหัสด้วยความถที่ ่เี ท่ากัน ตารางแสดงการตรวจสอบความผิดปกติด้วยตนเองของระบบ PGM – FI
98 แบบฝกึ ทักษะงานจักรยานยนต์ หนว่ ยที่ 4 ช่ือหน่วย งานบริการระบบน้ำมนั เชื้อเพลิง จำนวน 10 นาที ใบงานท่ี 2 งานการเรยี กดูข้อมูลแสดงความผดิ ปกตขิ องระบบฉีดน้ำมัน เช้ือเพลิงด้วยอเิ ล็กทรอนิกส์ 1.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 หนา้ ที่และการทำงานของระบบน้ำมนั เชื้อเพลิง 1.2 ตรวจ ซอ่ ม บำรุงรักษาระบบน้ำมันแบบธรรมดา 1..3 ตรวจ ซ่อม บำรุงรักษาระบบน้ำมนั แบบอเิ ล็กทรอนิกส์ 2.วสั ดุ เครือ่ งมือ/อปุ กรณ์ ที่ รายการ จำนวน ท่ี รายการ จำนวน 2.1 ประแจบ็อก 1 ชดุ 2.6 ผ้าเช็ดมือ 1 ผืน 2.2 ประแจตัวที เบอร์8 1 ตวั 2.7 ปนื เปา่ ลม 1 อัน 2.3 ไขควงแฉก 1 ตวั 2.8 สายลม 1 เส้น 2.4 ไขควงแบน 1 ตวั 2.9 เครอ่ื งมือวดั 1 ตวั 2.5 เครอ่ื งมอื พิเศษ 1 อนั 2.10 รถจักรยานยนต์ฝึก ยีห่ ้อฮอนด้า 1 คนั 2.6 ถาดใสช่ ิ้นส่วน 1 อนั รนุ่ คลกิ 125 i 3.ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน ภาพแสดงการปฏิบัติ รายละเอียดการปฏบิ ัติ 1. จอดรถจกั รยานยนตฝ์ กึ บนพื้นราบดว้ ยขาตง้ั กลาง 2. บิดสวิทชก์ ญุ แจไปทต่ี า้ แหน่ง “ OFF “ 3 ถอดสกรยู ดึ ดว้ ยไขควงแฉกและถอดช้ินสว่ นฝา ครอบด้านหน้ารถจักรยานยนตอ์ อก
99 ภาพแสดงการปฏิบตั ิ รายละเอยี ดการปฏิบตั ิ 4. ถอดฝาครอบขว้ั ตรวจสอบออกดว้ ยมือ 5. ตอ่ เครือ่ งมือพิเศษเข้ากับข้ัวตรวจสอบ ทสี่ ายไฟสี เขยี ว/ดำ กับสายไฟสนี ้ำตาล 6. บดิ สวิทช์กญุ แจไปท่ตี า้ แหนง่ “ ON ” 7. ตรวจสอบหลอดไฟแสดงการทา้ งานของระบบ ควบคุมการฉีดน้ำมนั เช้ือเพลิงด้วยอเิ ล็กทรอนิกส์ ( PGM – FI ) แล้วบันทกึ ผลการตรวจสอบ ปกติ หลอดไฟตดิ คา้ ง ผิดปกติ หลอดไฟกระพรบิ รหัสท่ีอา่ นได้............................ 8. ถอดเครื่องมือพิเศษ ปิดฝาครอบขั้วตรวจสอบ แลว้ ประกอบชิ้นส่วนฝาครอบดา้ นหนา้ ย้อนข้ันตอน การถอด ทา้ ความสะอาดเครื่องมือ วัสดุ และ อปุ กรณ์
100 แบบประเมินการปฏบิ ัติงาน ชอื่ งานการเรยี กดูข้อมูลแสดงความผิดปกติของระบบฉีดน้ำมันเช้ือเพลิงดว้ ยอิเล็กทรอนิกส์ ชื่อ-สกุล ................................................................................................ ชนั้ ปวช................ เลขท่ี ................... คำชีแ้ จง ให้บนั ทกึ ข้อมูลตา่ ง ๆ และผลการประเมินและนำผลคะแนนที่ได้รับตดิ ลงในชอ่ งตารางกำหนด ใช้เวลาในการ ทำงาน 10 นาที ลำดับที่ หลกั ฐานการตรวจ/หัวข้อประเมิน คะแนน คะแนนท่ี เต็ม ได้ 1 เลือก/ ใช้ วัสดุ เครอื่ งมอื อปุ กรณแ์ ละความปลอดภยั 1 2 ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน (การเตรยี มเครอ่ื งมือ,วธิ กี ารทำงาน, 1 เสร็จตามเวลากำหนด,การจดั เก็บสถานท่ี) 3 ผลสำเร็จ 7 (1) ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน 2 (2) การทำงานอยา่ งปลอดภัย 2 (3) ผลสัมฤทธขิ์ องงาน 2 (4) ประสิทธิภาพการทำงานของระบบ 2 ปฏิบตั ิครั้งท่ี …………………. วนั ที่ รวม 10 ...................... ลำดบั ท่ี หลักฐานการตรวจ/หัวข้อประเมิน คะแนน คะแนนที่ เตม็ ได้ 1 เลือก/ ใช้ วัสดุ เคร่ืองมอื อปุ กรณแ์ ละความปลอดภัย 1 2 ขัน้ ตอนการปฏิบตั งิ าน (การเตรยี มเครอื่ งมือ,วิธีการทำงาน, 1 เสร็จตามเวลากำหนด,การจัดเกบ็ สถานท่ี) 7 3 ผลสำเรจ็ 2 2 (1) ขัน้ ตอนการปฏิบตั ิงาน 2 (2) การทำงานอย่างปลอดภัย 2 (3) ผลสมั ฤทธข์ิ องงาน (4) ประสทิ ธภิ าพการทำงานของระบบ 10 ปฏิบตั คิ ร้งั ที่ …………………. วนั ที่ รวม ......................
101 แบบฝึกทักษะงานจักรยานยนต์ หน่วยที่ 4 ชอ่ื หน่วย งานบริการระบบน้ำมันเช้ือเพลิง จำนวน 10 นาที ใบงานท่ี 3 งานการลบข้อมลู ในหน่วยความจำของระบบตรวจสอบความ ผิดปกติดว้ ยตวั เอง 1.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 หน้าที่และการทำงานของระบบน้ำมนั เช้ือเพลงิ 1.2 ตรวจ ซ่อม บำรงุ รักษาระบบนำ้ มนั แบบธรรมดา 1..3 ตรวจ ซอ่ ม บำรุงรกั ษาระบบน้ำมันแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ 2.วัสดุ เครอื่ งมือ/อุปกรณ์ ที่ รายการ จำนวน ท่ี รายการ จำนวน 2.1 ประแจบ็อก 1 ชุด 2.6 ผา้ เช็ดมอื 1 ผืน 2.2 ประแจตัวที เบอร์8 1 ตวั 2.7 ปืนเปา่ ลม 1 อัน 2.3 ไขควงแฉก 1 ตวั 2.8 สายลม 1 เส้น 2.4 ไขควงแบน 1 ตวั 2.9 เครอื่ งมอื วดั 1 ตวั 2.5 เครื่องมอื พเิ ศษ 1 อัน 2.10 รถจกั รยานยนตฝ์ ึก ย่หี ้อฮอนด้า 1 คนั 2.6 ถาดใสช่ นิ้ สว่ น 1 อนั ร่นุ คลกิ 125 i 3.ขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ าน ภาพแสดงการปฏิบตั ิ รายละเอียดการปฏิบตั ิ 1. จอดรถจักรยานยนต์ฝึกบนพื้นราบด้วยขาตง้ั กลาง 2. บิดสวิทช์กญุ แจไปทีต่ ำแหน่ง “ OFF “ 3 ถอดสกรยู ดึ ด้วยไขควงแฉกและถอดชิน้ สว่ นฝา ครอบด้านหน้ารถจกั รยานยนตอ์ อก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133