Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี-ม.ปลาย

สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี-ม.ปลาย

Description: สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี-ม.ปลาย

Search

Read the Text Version

หลักสตู รการศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ภาษาบาลี ระดบั มัธย การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ สาระการเรียนรภู้ าษาบาลี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต ม.๖/๑๑ รู้และเขา้ ใจบาลไี วยากรณเ์ ร่อื งภาวตัท สาระการเรยี นรู้ สาระสาคัญ สาระการเรียนรู้ นาไปสู่ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน คุณลักษณะอัน ศึกษาความสาคญั ของบาลี - ภาวตัทธิต - ความสามารถในการ - รักชาติ ศาส ไวยากรณ์เร่อื งภาวตทั ธติ - อัพยยตทั ธติ อัพยยตัทธติ ใชท้ กั ษะชีวิตเปน็ - ซือ่ สัตย์สจุ ร ความสามารถในการ - มวี นิ ัย นากระบวนการต่างๆ - ใฝ่เรยี นรู้ ไปใช้ในการดาเนิน - อยูอ่ ย่างพอ ชวี ติ ประจาวัน - มงุ่ มั่นในกา - การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง - รักความเป การเรยี นรูอ้ ยา่ ง - มจี ติ สาธาร ตอ่ เนอ่ื ง - สถานศึกษา - การทางาน และการ - ……………… อย่รู ่วมกันในสังคม ฯล ด้วยการสรา้ งเสรมิ ความสมั พนั ธ์อันดี ระหวา่ งบคุ คล - การจดั การปัญหาและ ความขัดแย้งต่างๆ อยา่ งเหมาะสม - คดิ วเิ คราะห์ วิจารณ์ - การสอ่ื สารอย่างมี ประสิทธภิ าพ

ยมศึกษาตอนปลาย หน้า ๖๖ ที่ ๖ ทธติ และอัพยยตทั ธติ นพงึ ประสงค์ ชิน้ งาน/ภาระงาน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชือ่ หน่วย /เวลา สน์ กษัตริย์ ชน้ิ งาน (ใบความร)ู้ ได้แก่ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เช่น ริต - บทความความหมายของ - จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ดว้ ย ภาวตทั ธติ อพั ยยตทั ธติ ภาวตัทธิต อพั ยยตทั ธติ กระบวนการสอนพุทธวธิ ี ๙ รปู แบบ ๕ ช่ัวโมง อเพียง ภาระงาน (ใบงาน) ไดแ้ ก่ - จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ด้วย ารทางาน - การอา่ น/เขียน/แปล/แยก/ กระบวนการปฏิบัติงานกลุ่ม ...................... ป็นไทย - จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ดว้ ยการ รณะ ประกอบ/บอกชอื่ สรา้ งความคดิ รวบยอด าเพมิ่ เตมิ ภาวตทั ธิต อพั ยยตทั ธิต - จดั กิจกรรมการเรียนรู้ด้วย ………………… กระบวนการฝึกการอา่ น คดิ ลฯ วิเคราะห์ และเขยี นสอ่ื ความ - จัดกิจกรรมการเรยี นรดู้ ว้ ย กระบวนการแก้ปญั หา - จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ด้วย กระบวนการสร้างคาถาม- คาตอบ ทสี่ อดคล้องกบั ปญั หา - จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ด้วย กระบวนการอื่นๆ (ตามความ เหมาะสม) - ………………………………………

หลกั สตู รการศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี ระดบั มัธย การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ สาระการเรียนรภู้ าษาบาลี ช้นั มธั ยมศึกษาปีท ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต ม.๖/๑๒ ร้แู ละเขา้ ใจและสามารถทบทวนแปลธร สาระการเรียนรู้ สาระสาคัญ สาระการเรียนรู้ นาไปสู่ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอนั ทบทวนแปลธรรมบทภาค - ธรรมบทภาค ๑ - ความสามารถในการ - รักชาติ ศาส ๑-๔ โดยพยญั ชนะและ - ธรรมบทภาค ๒ อรรถ - ธรรมบทภาค ๓ ใช้ทักษะชวี ิตเป็น - ซ่อื สตั ยส์ จุ ร - ธรรมบทภาค ๔ ความสามารถในการ - มวี นิ ยั นากระบวนการตา่ งๆ - ใฝ่เรยี นรู้ ไปใช้ในการดาเนนิ - อย่อู ย่างพอ ชวี ิตประจาวนั - มงุ่ มัน่ ในกา - การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง - รักความเป การเรยี นรู้อย่าง - มจี ิตสาธาร ตอ่ เน่ือง - สถานศกึ ษา - การทางาน และการ - ……………… อยรู่ ว่ มกันในสังคม ฯล ดว้ ยการสรา้ งเสรมิ ความสัมพนั ธ์อันดี ระหว่างบุคคล - การจัดการปัญหาและ ความขัดแยง้ ต่างๆ อยา่ งเหมาะสม - คิดวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ - การส่อื สารอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ

ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๖๗ ที่ ๖ รรมบทภาค ๑-๔ โดยพยญั ชนะและอรรถได้ ช้นิ งาน/ภาระงาน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่อหน่วย /เวลา นพงึ ประสงค์ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เชน่ - จดั กจิ กรรมการเรยี นรดู้ ว้ ย ทบทวนแปล สน์ กษัตริย์ ช้ินงาน (ใบความรู้) ไดแ้ ก่ ธรรมบทภาค ริต - ธรรมบท ภาค ๑ กระบวนการสอนพทุ ธวิธี ๙ ๑-๔ - ธรรมบท ภาค ๒ รปู แบบ อเพยี ง - ธรรมบท ภาค ๓ - จดั กจิ กรรมการเรียนรดู้ ว้ ย ๔๐ ชวั่ โมง ารทางาน - ธรรมบท ภาค ๔ กระบวนการปฏบิ ตั ิงานกล่มุ ป็นไทย - จดั กจิ กรรมการเรยี นร้ดู ้วยการ ...................... รณะ ภาระงาน (ใบงาน) ได้แก่ สร้างความคดิ รวบยอด าเพ่มิ เติม - การอา่ น/เขยี น/แปล - จัดกิจกรรมการเรยี นร้ดู ว้ ย ………………… - ธรรมบท ภาค ๑ กระบวนการฝกึ การอา่ น คดิ ลฯ - ธรรมบท ภาค ๒ วิเคราะห์ และเขยี นสอ่ื ความ - ธรรมบท ภาค ๓ - จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ดว้ ย - ธรรมบท ภาค ๔ กระบวนการแกป้ ญั หา - จัดกจิ กรรมการเรียนรูด้ ว้ ย กระบวนการสรา้ งคาถาม- คาตอบ ทสี่ อดคล้องกับปัญหา - จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ด้วย กระบวนการอ่นื ๆ (ตามความ เหมาะสม) - ………………………………………

หลักสูตรการศกึ ษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรูภ้ าษาบาลี ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย หน้า ๖๘ การวัดและประเมนิ ผลสาระการเรยี นรภู้ าษาบาลี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ประเดน็ การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ระดบั ๔ ระดบั ๓ ระดบั ๒ ระดับ ๑ มาตรฐาน ต ม.๔/๑ นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ นักเรียนร้แู ละเขา้ ใจ นกั เรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ นกั เรยี นรแู้ ละเข้าใจ รแู้ ละเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ บาลีไวยากรณ์เร่ือง บาลไี วยากรณ์เรือ่ ง บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง บาลไี วยากรณเ์ รอ่ื ง เร่ืองอกั ขรวิธี : สมญั ญา สมญั ญาภิธานได้ สมญั ญาภธิ านได้ สมญั ญาภธิ านได้ สมัญญาภิธานได้น้อย ภิธาน ถูกตอ้ งและครบถ้วน ถกู ตอ้ งแต่ไม่ครบถว้ น บางส่วนและไม่ และไม่ครบถ้วน ครบถ้วน มาตรฐาน ต ม.๔/๒ นกั เรียนรู้และเขา้ ใจ นกั เรยี นรู้และเข้าใจ นักเรยี นรู้และเขา้ ใจ นักเรียนรู้และเขา้ ใจ รแู้ ละเข้าใจบาลไี วยากรณ์ บาลีไวยากรณเ์ รอ่ื ง บาลไี วยากรณเ์ ร่ือง บาลีไวยากรณเ์ ร่ือง บาลไี วยากรณ์เรอ่ื ง เรื่องอกั ขรวิธี : สนธิ สระ สนธิ สระสนธไิ ด้ สนธิ สระสนธไิ ด้ สนธิ สระสนธไิ ด้ สนธิ สระสนธไิ ด้น้อย สนธิ ถูกต้องและครบถว้ น ถกู ต้องแตไ่ ม่ครบถว้ น บางส่วนและไม่ และไมค่ รบถว้ น ครบถว้ น มาตรฐาน ต ม.๔/๓ นกั เรยี นรแู้ ละเข้าใจ นกั เรยี นรแู้ ละเข้าใจ นักเรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ นักเรยี นรูแ้ ละเขา้ ใจ รู้และเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ บาลีไวยากรณ์เรือ่ ง บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง บาลไี วยากรณ์เรอ่ื ง บาลีไวยากรณ์เร่อื ง เรื่องพยัญชนะสนธแิ ละ พยัญชนะสนธิและ พยญั ชนะสนธแิ ละ พยญั ชนะสนธแิ ละ พยัญชนะสนธิและ นิคคหิตสนธิ นคิ คหติ สนธไิ ดถ้ ูกต้อง นคิ คหติ สนธไิ ด้ถูกตอ้ ง นคิ คหิตสนธไิ ด้ นคิ คหิตสนธไิ ด้น้อย และครบถ้วน แต่ไมค่ รบถว้ น บางสว่ นและไม่ และไมค่ รบถว้ น ครบถว้ น มาตรฐาน ต ม.๔/๔ นักเรยี นรู้และเข้าใจ นกั เรยี นรู้และเข้าใจ นกั เรียนรแู้ ละเข้าใจ นักเรียนรู้และเขา้ ใจ รแู้ ละเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ บาลีไวยากรณ์เรื่อง บาลีไวยากรณ์เรื่อง บาลไี วยากรณ์เรื่อง บาลไี วยากรณเ์ ร่อื ง เรือ่ งหลกั การแปลมคธเป็น หลักการแปลมคธเปน็ หลักการแปลมคธเปน็ หลักการแปลมคธเป็น หลักการแปลมคธเปน็ ไทยและการแปลไทยเป็น ไทยและการแปลไทย ไทยและการแปลไทย ไทยและการแปลไทย ไทยและการแปลไทย มคธตามโครงสรา้ งของ เป็นมคธได้ถกู ต้องและ เปน็ มคธไดถ้ ูกตอ้ งแต่ เป็นมคธไดบ้ างสว่ น เปน็ มคธไดน้ อ้ ยและไม่ ประโยค ๘ ส่วนประกอบ ครบถ้วน ไม่ครบถว้ น และไม่ครบถ้วน ครบถ้วน มาตรฐาน ต ม.๔/๕ นักเรยี นรู้และเข้าใจ นกั เรยี นรแู้ ละเข้าใจ นักเรียนรูแ้ ละเข้าใจ นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ รูแ้ ละเขา้ ใจและสามารถ และสามารถแปลอุภยั และสามารถแปลอภุ ยั และสามารถแปลอุภยั และสามารถแปลอภุ ยั แปลอภุ ัยพากย์ปริวฒั น์ พากยป์ รวิ ัฒน์ โดย พากย์ปรวิ ัฒน์ โดย พากย์ปรวิ ัฒน์ โดย พากยป์ รวิ ฒั น์ โดย โดยพยญั ชนะและอรรถได้ พยญั ชนะและอรรถได้ พยัญชนะและอรรถได้ พยญั ชนะและอรรถได้ พยัญชนะและอรรถได้ ถกู ต้องและครบถว้ น ถกู ต้องแต่ไม่ครบถ้วน บางส่วนและไม่ น้อยและไม่ครบถ้วน ครบถว้ น มาตรฐาน ต ม.๔/๖ นักเรยี นรแู้ ละเข้าใจ นกั เรียนรแู้ ละเข้าใจ นักเรียนรแู้ ละเข้าใจ นักเรยี นรู้และเขา้ ใจ รแู้ ละเขา้ ใจและสามารถ และสามารถแปลธรรม และสามารถแปลธรรม และสามารถแปลธรรม และสามารถแปลธรรม แปลธรรมบทภาค ๑ บทภาค ๑ โดย บทภาค ๑ โดย บทภาค ๑ โดย บทภาค ๑ โดย โดยพยญั ชนะและอรรถได้ พยญั ชนะและอรรถได้ พยัญชนะและอรรถได้ พยญั ชนะและอรรถได้ พยญั ชนะและอรรถได้ ถกู ต้องและครบถ้วน ถกู ตอ้ งแตไ่ มค่ รบถว้ น บางส่วนและไม่ นอ้ ยและไมค่ รบถ้วน ครบถ้วน

หลักสูตรการศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรภู้ าษาบาลี ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๖๙ การวัดและประเมนิ ผลสาระการเรียนรู้ภาษาบาลี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๕ ประเดน็ การประเมิน ระดับคณุ ภาพ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ มาตรฐาน ต ม.๕/๑ ระดับ ๔ ระดบั ๓ ระดบั ๒ ระดบั ๑ รแู้ ละเข้าใจบาลไี วยากรณ์ นกั เรียนรแู้ ละเขา้ ใจ นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ เรอื่ งอาขยาต บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง นักเรยี นร้แู ละเข้าใจ นักเรียนรูแ้ ละเขา้ ใจ บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง อาขยาตไดถ้ ูกตอ้ งและ อาขยาตไดน้ อ้ ยและไม่ มาตรฐาน ต ม.๕/๒ ครบถ้วน บาลีไวยากรณเ์ รอื่ ง บาลีไวยากรณเ์ ร่อื ง ครบถ้วน รู้และเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ นกั เรียนรู้และเขา้ ใจ นักเรียนร้แู ละเข้าใจ เรอื่ งวิภตั ติ บาลไี วยากรณ์เร่อื ง อาขยาตได้ถกู ตอ้ งแต่ อาขยาตได้บางสว่ น บาลไี วยากรณ์เรื่อง วภิ ัตตไิ ดถ้ ูกต้องและ วภิ ัตตไิ ดน้ ้อยและไม่ มาตรฐาน ต ม.๕/๓ ครบถว้ น ไม่ครบถ้วน และไมค่ รบถ้วน ครบถว้ น รแู้ ละเข้าใจบาลไี วยากรณ์ นักเรยี นรูแ้ ละเขา้ ใจ นกั เรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ เรอ่ื งกาล, บท, วจนะ, บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง นกั เรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ นกั เรยี นรู้และเข้าใจ บาลีไวยากรณเ์ ร่อื ง บุรษุ กาล, บท, วจนะ, บรุ ุษ กาล, บท, วจนะ, บุรษุ ไดถ้ ูกต้องและ บาลไี วยากรณ์เรื่อง บาลีไวยากรณ์เร่อื ง ได้นอ้ ยและไม่ มาตรฐาน ต ม.๕/๔ ครบถว้ น ครบถ้วน รู้และเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ นกั เรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ วภิ ัตตไิ ดถ้ กู ตอ้ งแตไ่ ม่ วภิ ตั ตไิ ด้บางส่วนและ นกั เรยี นรแู้ ละเข้าใจ เรอ่ื งธาตุ บาลไี วยากรณ์เรอ่ื ง บาลไี วยากรณเ์ รอ่ื ง ธาตุไดถ้ ูกตอ้ งและ ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน ธาตุไดน้ ้อยและไม่ มาตรฐาน ต ม.๕/๕ ครบถ้วน ครบถว้ น รูแ้ ละเข้าใจบาลไี วยากรณ์ นักเรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ นักเรียนรู้และเขา้ ใจ นกั เรยี นร้แู ละเข้าใจ นกั เรียนรู้และเข้าใจ เร่อื งวาจกและปจั จัย บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง บาลีไวยากรณเ์ ร่อื ง วาจกและปจั จัยได้ บาลีไวยากรณ์เรื่อง บาลีไวยากรณเ์ รอ่ื ง วาจกและปัจจัยได้ มาตรฐาน ต ม.๕/๖ ถกู ต้องและครบถว้ น นอ้ ยและไมค่ รบถว้ น รู้และเข้าใจบาลไี วยากรณ์ กาล, บท, วจนะ, บุรุษ กาล, บท, วจนะ, บุรุษ เรื่องการแปลในวาจกทงั้ นกั เรียนรแู้ ละเข้าใจ นักเรยี นรูแ้ ละเขา้ ใจ ๕ ท่ีใชก้ ริ ยิ าอาขยาต บาลไี วยากรณ์เรอ่ื ง ไดถ้ ูกตอ้ งแตไ่ ม่ ไดบ้ างสว่ นและไม่ บาลไี วยากรณเ์ รอ่ื ง คมุ พากย์ การแปลมคธวาจกทัง้ การแปลมคธวาจกทัง้ ๕ ทใ่ี ช้กิริยาอาขยาต ครบถว้ น ครบถ้วน ๕ ที่ใชก้ ริ ิยาอาขยาต มาตรฐาน ต ม.๕/๗ คุมพากย์ได้ถกู ตอ้ ง คมุ พากย์ได้นอ้ ยและ รูแ้ ละเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ และครบถว้ น นักเรียนรู้และเข้าใจ นกั เรยี นรู้และเข้าใจ ไม่ครบถว้ น เรอ่ื งกิริยากติ ก์ นกั เรยี นรแู้ ละเข้าใจ นกั เรยี นรู้และเข้าใจ บาลไี วยากรณ์เรื่อง บาลีไวยากรณ์เรื่อง บาลไี วยากรณ์เรอื่ ง บาลีไวยากรณเ์ รื่อง มาตรฐาน ต ม.๕/๘ กริ ิยากติ กไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง กิริยากติ กไ์ ด้น้อยและ รแู้ ละเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ และครบถ้วน ธาตุได้ถูกตอ้ งแตไ่ ม่ ธาตุไดบ้ างสว่ นและไม่ ไม่ครบถว้ น นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ บาลีไวยากรณ์เรื่อง ครบถ้วน ครบถ้วน บาลีไวยากรณเ์ รือ่ ง นกั เรียนรแู้ ละเขา้ ใจ นักเรยี นรแู้ ละเข้าใจ บาลีไวยากรณ์เรอื่ ง บาลีไวยากรณเ์ รอ่ื ง วาจกและปัจจัยได้ วาจกและปจั จยั ได้ ถกู ต้องแต่ไม่ครบถว้ น บางสว่ นและไม่ ครบถ้วน นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ นักเรยี นรู้และเข้าใจ บาลีไวยากรณ์เรื่อง บาลไี วยากรณเ์ รือ่ ง การแปลมคธวาจกท้ัง การแปลมคธวาจกทง้ั ๕ ทีใ่ ชก้ ิรยิ าอาขยาต ๕ ทีใ่ ช้กริ ยิ าอาขยาต คมุ พากยไ์ ด้ถูกต้องแต่ คมุ พากยไ์ ด้บางส่วน ไม่ครบถว้ น และไมค่ รบถ้วน นักเรียนรูแ้ ละเขา้ ใจ นักเรยี นรู้และเขา้ ใจ บาลไี วยากรณเ์ ร่อื ง บาลไี วยากรณ์เรื่อง กริ ยิ ากติ กไ์ ดถ้ ูกตอ้ งแต่ กิริยากิตกไ์ ด้บางส่วน ไมค่ รบถว้ น และไมค่ รบถว้ น นักเรยี นรู้และเข้าใจ นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ บาลไี วยากรณเ์ รื่อง บาลีไวยากรณเ์ รื่อง

หลักสตู รการศกึ ษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรภู้ าษาบาลี ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๗๐ ประเดน็ การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ เรื่องนามกติ ก์ รปู และ ระดบั ๔ ระดบั ๓ ระดบั ๒ ระดับ ๑ สาธนะ นามกติ ก์ รปู และ นามกิตก์ รปู และ สาธนะไดถ้ ูกตอ้ งและ นามกิตก์ รปู และ นามกติ ก์ รูปและ สาธนะได้นอ้ ยและไม่ มาตรฐาน ต ม.๕/๙ ครบถ้วน ครบถ้วน รแู้ ละเข้าใจบาลไี วยากรณ์ นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ สาธนะไดถ้ กู ต้องแตไ่ ม่ สาธนะได้บางส่วนและ นกั เรียนรู้และเขา้ ใจ เรื่องปัจจัยนามกติ ก์ บาลไี วยากรณ์เรื่อง บาลไี วยากรณเ์ ร่อื ง ปจั จัยนามกิตกไ์ ด้ ครบถ้วน ไมค่ รบถว้ น ปจั จัยนามกติ กไ์ ด้น้อย มาตรฐาน ต ม.๕/๑๐ ถูกต้องและครบถ้วน และไม่ครบถว้ น รู้และเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ นกั เรยี นรูแ้ ละเข้าใจ นักเรยี นรูแ้ ละเขา้ ใจ เร่อื งการใชก้ ิริยากติ ก์ นักเรยี นรู้และเขา้ ใจ นักเรียนรู้และเขา้ ใจ บาลไี วยากรณ์เรื่อง บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง บาลีไวยากรณเ์ รอ่ื ง บาลไี วยากรณเ์ รอ่ื ง มาตรฐาน ต ม.๕/๑๑ การใชก้ ิริยากิตกไ์ ด้ การใช้กริ ยิ ากติ กไ์ ด้ รแู้ ละเข้าใจและสามารถ ถกู ตอ้ งและครบถว้ น ปัจจัยนามกติ กไ์ ด้ ปจั จัยนามกิตกไ์ ด้ นอ้ ยและไม่ครบถ้วน แปลธรรมบทภาค ๒-๓ โดยพยญั ชนะและอรรถได้ นักเรียนรู้และเขา้ ใจ ถกู ตอ้ งแตไ่ ม่ครบถว้ น บางสว่ นและไม่ นกั เรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ และสามารถแปลธรรม และสามารถแปลธรรม บทภาค ๒-๓ โดย ครบถว้ น บทภาค ๒-๓ โดย พยัญชนะและอรรถได้ พยญั ชนะและอรรถได้ ถกู ตอ้ งและครบถว้ น นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ นกั เรียนรู้และเขา้ ใจ น้อยและไม่ครบถ้วน บาลไี วยากรณ์เรอื่ ง บาลีไวยากรณ์เรื่อง การใช้กริ ยิ ากติ กไ์ ด้ การใชก้ ริ ยิ ากิตกไ์ ด้ ถกู ตอ้ งแตไ่ มค่ รบถว้ น บางสว่ นและไม่ ครบถ้วน นักเรียนรแู้ ละเขา้ ใจ นักเรยี นรู้และเข้าใจ และสามารถแปลธรรม และสามารถแปลธรรม บทภาค ๒-๓ โดย บทภาค ๒-๓ โดย พยญั ชนะและอรรถได้ พยญั ชนะและอรรถได้ ถกู ตอ้ งแตไ่ ม่ครบถว้ น บางส่วนและไม่ ครบถ้วน

หลักสตู รการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรูภ้ าษาบาลี ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๗๑ การวดั และประเมนิ ผลสาระการเรยี นรภู้ าษาบาลี ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๖ ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๖ มาตรฐาน ต ม.๖/๑ ระดับ ๔ ระดับ ๓ ระดบั ๒ ระดบั ๑ รู้และเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ นกั เรียนรู้และเข้าใจ นกั เรยี นรู้และเข้าใจ เรื่องสมาส บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง นักเรียนรู้และเขา้ ใจ นกั เรยี นรแู้ ละเข้าใจ บาลไี วยากรณเ์ ร่อื ง สมาสไดถ้ กู ต้องและ สมาสได้น้อยและไม่ มาตรฐาน ต ม.๖/๒ ครบถว้ น บาลไี วยากรณ์เรอ่ื ง บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง ครบถ้วน รู้และเข้าใจบาลไี วยากรณ์ นกั เรียนรู้และเข้าใจ นกั เรยี นรูแ้ ละเขา้ ใจ เรอ่ื งกมั มธารยสมาส บาลไี วยากรณ์เรอ่ื ง สมาสได้ถูกต้องแตไ่ ม่ สมาสไดบ้ างส่วนและ บาลีไวยากรณเ์ รอื่ ง กัมมธารยสมาสได้ กัมมธารยสมาสได้ ถูกตอ้ งและครบถ้วน ครบถ้วน ไมค่ รบถว้ น น้อยและไม่ครบถว้ น นกั เรยี นร้แู ละเขา้ ใจ นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ บาลีไวยากรณ์เร่ือง บาลไี วยากรณ์เรอ่ื ง บาลไี วยากรณ์เรอ่ื ง ทิคสุ มาสได้น้อยและ ไมค่ รบถ้วน กมั มธารยสมาสได้ กัมมธารยสมาสได้ นักเรียนรแู้ ละเขา้ ใจ บาลีไวยากรณ์เรอื่ ง ถูกต้องแต่ไมค่ รบถว้ น บางสว่ นและไม่ ตปั ปุรสิ สมาสไดน้ ้อย และไม่ครบถ้วน ครบถว้ น นกั เรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ มาตรฐาน ต ม.๖/๓ นกั เรียนรแู้ ละเข้าใจ นกั เรียนรู้และเขา้ ใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ บาลไี วยากรณ์เรอื่ ง รแู้ ละเข้าใจบาลไี วยากรณ์ บาลีไวยากรณเ์ รื่อง ทวันทวสมาสได้น้อย เรื่องทคิ สุ มาส ทิคสุ มาสไดถ้ ูกต้อง บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง บาลไี วยากรณเ์ ร่อื ง และไมค่ รบถว้ น และครบถ้วน มาตรฐาน ต ม.๖/๔ นกั เรียนรแู้ ละเข้าใจ ทิคุสมาสได้ถูกตอ้ งแต่ ทิคสุ มาสไดบ้ างส่วน นักเรียนรแู้ ละเขา้ ใจ รแู้ ละเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ บาลไี วยากรณ์เรอ่ื ง บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง เรอ่ื งตปั ปุรสิ สมาส ตปั ปรุ สิ สมาสได้ ไมค่ รบถ้วน และไม่ครบถว้ น อัพยยีภาวสมาสได้ ถกู ตอ้ งและครบถ้วน นอ้ ยและไมค่ รบถว้ น นกั เรียนรแู้ ละเข้าใจ นักเรยี นรู้และเข้าใจ นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ บาลีไวยากรณ์เรื่อง บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง บาลีไวยากรณ์เรื่อง พหุพพิหสิ มาสได้นอ้ ย ตัปปรุ สิ สมาสได้ ตปั ปรุ สิ สมาสได้ และไมค่ รบถว้ น ถูกตอ้ งแต่ไม่ครบถ้วน บางส่วนและไม่ นักเรียนรแู้ ละเขา้ ใจ ครบถว้ น มาตรฐาน ต ม.๖/๕ นกั เรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ นกั เรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจ รแู้ ละเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ บาลีไวยากรณเ์ รือ่ ง เรอ่ื งทวนั ทวสมาส ทวนั ทวสมาสได้ บาลไี วยากรณ์เร่อื ง บาลีไวยากรณเ์ ร่อื ง ถกู ตอ้ งและครบถว้ น ทวันทวสมาสได้ ทวนั ทวสมาสได้ ถกู ต้องแต่ไมค่ รบถว้ น บางสว่ นและไม่ ครบถว้ น มาตรฐาน ต ม.๖/๖ นักเรียนรู้และเขา้ ใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ นกั เรียนรู้และเขา้ ใจ ร้แู ละเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ บาลไี วยากรณ์เรื่อง เรือ่ งอพั ยยภี าวสมาส อพั ยยภี าวสมาสได้ บาลไี วยากรณเ์ รื่อง บาลีไวยากรณ์เรื่อง ถกู ต้องและครบถ้วน อัพยยภี าวสมาสได้ อัพยยภี าวสมาสได้ ถกู ตอ้ งแตไ่ ม่ครบถ้วน บางส่วนและไม่ ครบถ้วน มาตรฐาน ต ม.๖/๗ นกั เรียนรแู้ ละเขา้ ใจ นักเรยี นรแู้ ละเข้าใจ นกั เรยี นรู้และเข้าใจ รู้และเข้าใจบาลไี วยากรณ์ บาลีไวยากรณเ์ รื่อง เรือ่ งพหพุ พิหสิ มาส พหุพพหิ สิ มาสได้ บาลไี วยากรณ์เรื่อง บาลีไวยากรณ์เร่อื ง ถูกตอ้ งและครบถว้ น พหุพพิหิสมาสได้ พหพุ พหิ สิ มาสได้ ถูกต้องแต่ไม่ครบถว้ น บางสว่ นและไม่ ครบถ้วน มาตรฐาน ต ม.๖/๘ นักเรียนรแู้ ละเข้าใจ นกั เรียนรู้และเขา้ ใจ นกั เรียนรูแ้ ละเข้าใจ

หลกั สูตรการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ภาษาบาลี ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๗๒ ประเดน็ การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๖ รู้และเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ ระดบั ๔ ระดบั ๓ ระดบั ๒ ระดบั ๑ เรอื่ งสมาสท้อง บาลีไวยากรณ์เรื่อง บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง สมาสท้องไดถ้ กู ต้อง บาลีไวยากรณ์เรือ่ ง บาลีไวยากรณเ์ รือ่ ง สมาสทอ้ งได้น้อยและ มาตรฐาน ต ม.๖/๙ และครบถ้วน ไม่ครบถว้ น รแู้ ละเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ นักเรียนรู้และเขา้ ใจ สมาสท้องได้ถกู ต้อง สมาสทอ้ งได้บางส่วน นกั เรียนรู้และเข้าใจ เรือ่ งตทั ธิต บาลไี วยากรณเ์ รื่อง บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง ตทั ธิตไดถ้ ูกตอ้ งและ แตไ่ มค่ รบถว้ น และไม่ครบถว้ น ตัทธติ ไดน้ ้อยและไม่ มาตรฐาน ต ม.๖/๑๐ ครบถ้วน ครบถ้วน รแู้ ละเข้าใจบาลไี วยากรณ์ นักเรียนรู้และเขา้ ใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ นักเรยี นรูแ้ ละเข้าใจ นกั เรยี นร้แู ละเข้าใจ เร่อื งสามญั ญตัทธติ บาลีไวยากรณ์เรอ่ื ง บาลีไวยากรณเ์ รอื่ ง สามญั ญตัทธิตได้ บาลไี วยากรณเ์ ร่อื ง บาลีไวยากรณเ์ รอ่ื ง สามัญญตัทธิตไดน้ ้อย มาตรฐาน ต ม.๖/๑๑ ถูกตอ้ งและครบถ้วน และไมค่ รบถ้วน รู้และเขา้ ใจบาลไี วยากรณ์ ตทั ธิตได้ถูกต้องแต่ไม่ ตัทธติ ได้บางส่วนและ เรอ่ื งภาวตทั ธิตและ นักเรียนร้แู ละเข้าใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ อพั ยยตทั ธิต บาลีไวยากรณ์เรือ่ ง ครบถ้วน ไมค่ รบถว้ น บาลีไวยากรณเ์ รือ่ ง ภาวตัทธติ และ ภาวตัทธติ และ มาตรฐาน ต ม.๖/๑๒ อัพยยตัทธิตได้ถกู ต้อง นักเรยี นรู้และเข้าใจ นักเรียนรแู้ ละเขา้ ใจ อัพยยตัทธติ ไดน้ อ้ ย รแู้ ละเขา้ ใจและสามารถ และครบถ้วน และไม่ครบถ้วน แปลธรรมบทภาค ๔ บาลไี วยากรณ์เร่อื ง บาลไี วยากรณเ์ รื่อง โดยพยญั ชนะและอรรถได้ นักเรยี นรู้และเข้าใจ นักเรยี นร้แู ละเขา้ ใจ และสามารถแปลธรรม สามัญญตัทธิตได้ สามญั ญตัทธติ ได้ และสามารถแปลธรรม มาตรฐาน ต ม.๖/๑๓ บทภาค ๔ โดย บทภาค ๔ โดย รแู้ ละเขา้ ใจและสามารถ พยญั ชนะและอรรถได้ ถูกต้องแตไ่ มค่ รบถ้วน บางสว่ นและไม่ พยญั ชนะและอรรถได้ แปลทบทวนธรรมบทภาค ถูกตอ้ งและครบถ้วน น้อยและไมค่ รบถ้วน ๑-๔ โดยพยญั ชนะและ ครบถ้วน อรรถได้ นกั เรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ นักเรียนรูแ้ ละเขา้ ใจ และสามารถแปล นกั เรียนรแู้ ละเขา้ ใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ และสามารถแปล ทบทวนธรรมบทภาค ทบทวนธรรมบทภาค ๑-๔ โดยพยญั ชนะ บาลีไวยากรณ์เรอื่ ง บาลีไวยากรณ์เร่ือง ๑-๔ โดยพยัญชนะ และอรรถไดถ้ ูกตอ้ ง และอรรถได้นอ้ ยและ และครบถ้วน ภาวตทั ธิตและ ภาวตัทธติ และ ไมค่ รบถ้วน อัพยยตทั ธติ ไดถ้ ูกตอ้ ง อพั ยยตทั ธติ ได้ แตไ่ มค่ รบถ้วน บางส่วนและไม่ ครบถ้วน นักเรียนรู้และเขา้ ใจ นักเรียนรแู้ ละเขา้ ใจ และสามารถแปลธรรม และสามารถแปลธรรม บทภาค ๔ โดย บทภาค ๔ โดย พยัญชนะและอรรถได้ พยัญชนะและอรรถได้ ถกู ต้องแต่ไมค่ รบถว้ น บางส่วนและไม่ ครบถว้ น นกั เรียนรูแ้ ละเข้าใจ นักเรยี นรู้และเขา้ ใจ และสามารถแปล และสามารถแปล ทบทวนธรรมบทภาค ทบทวนธรรมบทภาค ๑-๔ โดยพยญั ชนะ ๑-๔ โดยพยญั ชนะ และอรรถไดถ้ ูกต้องแต่ และอรรถได้บางสว่ น ไม่ครบถ้วน และไม่ครบถว้ น

หลกั สตู รการศกึ ษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หน้า ๗๓ ภาคผนวก

หลักสตู รการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนร้ภู าษาบาลี ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๗๔ เทคนิควธิ ีสอนของพระพุทธเจ้า ๑. การทานามธรรมใหเ้ ป็นรูปธรรม ทาของยากให้งา่ ย ธรรมะเป็นเรื่องนามธรรมทม่ี เี นอื้ หาลึกซึง้ ยากท่ีจะเข้าใจ ย่ิงเป็นธรรมะระดับสูงสุดก็ยิ่ง ลึกล้าคัมภีรภาพยิง่ ขึ้น…..ความสาเร็จแหง่ ภารกิจการสั่งสอนประชาชนส่วนหน่งึ เพราะพระองค์ทรงใช้เทคนิควิธีการ ทาของยากให้งา่ ย เช่น ๑.๑ การใช้อุปมาอุปไมย วิธีน้ีเป็นวิธีทรงใช้บ่อยที่สุดวิธีหนึ่ง เพราะทาให้ผู้ฟังมองเห็นภาพและเข้าใจง่าย โดยไม่ต้องเสยี เวลาอธบิ ายความใหย้ ดื ยาว ๑.๒ ยกนทิ านประกอบ เปน็ เทคนคิ หรอื กลวิธีหนึง่ ทพี่ ระพทุ ธองค์ทรงใช้บ่อย ๑.๓ ใช้อุปกรณ์หรือสื่อการสอน เทคนิควิธีสอนด้วยการกระทาของยากให้ง่าย หรือทานามธรรมให้เป็น รูปธรรมนอกจากใช้อุปมาอุปไมยและเล่านิทานประกอบแล้ว ยังมีอีกวิธีหน่ึงอันเป็นวิธีที่พระพุทธองค์ทรงใช้มาก พอๆ กบั สองวิธขี า้ งตน้ คือ การใช้สือ่ อปุ กรณ์หรอื ใชส้ ่ือการสอน ๒. ทาตนเปน็ ตวั อย่าง ในแง่ของการสอนอาจแบง่ ออกเป็น ๒ อยา่ ง คือ ๒.๑ ทาใหด้ ู หรือสาธิตใหด้ ู ๒.๒ ปฏิบตั ใิ ห้ดูเปน็ ตัวอยา่ ง ๓. ใช้ถอ้ ยคาเหมาะสม การสอนท่ีจะประสบความสาเรจ็ ผ้สู อนจะต้องรู้จักใช้คา ต้องให้ผู้ฟังรู้สึกว่า ผู้พูดพูดด้วยเมตตาจิต มิใช่พูด ด้วยความมงุ่ รา้ ย ๔. เลือกสอนเป็นรายบคุ คล ผู้สอนต้องรู้ว่าคนฟังน้ันต่างภูมิหลังต่างความสนใจ ต่างระดับสติปัญญาการเรียนรู้ เพราะฉะน้ันการเลือก สอนเป็นรายบุคคลจะช่วยให้การสอนประสบความสาเร็จเปน็ อย่างดี ถ้าทาได้ก็ควรใช้วิธีนี้ แม้จะสอนเป็นกลุ่มก็ต้อง เอาใจใส่นักเรียนท่ีมีปญั หาเปน็ รายบคุ คลใหไ้ ด้ ๕. รู้จกั จงั หวะและโอกาส ดูความพร้อมของผ้เู รยี น รู้จกั คอยจงั หวะอนั เหมาะสม ถ้าผูเ้ รียนไม่พรอ้ มก็เหนอื่ ยเปลา่ ๖. ยืดหยนุ่ ในการใช้เทคนคิ วธิ ี เทคนคิ วิธีบางอยา่ งใชไ้ ดผ้ ลในวันน้ี ต่อไปวันข้างหนา้ อาจใชไ้ มไ่ ด้กไ็ ด้ จึงควรยืดหยนุ่ วิธีการ ๗. การเสริมแรง มีคาพูดสรรเสริญพระพุทธเจ้าว่า “ทรงชมคนท่ีควรชม ตาหนิคนท่ีควรตาหนิ” การชมเป็นการยอมรับ ความสามารถหรอื ให้กาลงั ใจให้ทาอยา่ งนน้ั ยิ่งๆ ข้ึนไป การตาหนเิ ป็นการตกั เตอื นมใิ ห้ประพฤติเชน่ นน้ั อีกต่อไป

หลกั สูตรการศกึ ษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรูภ้ าษาบาลี ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หน้า ๗๕ หลกั สาคญั ที่ครูผูส้ อนควรทราบ หลกั สาคญั คือหลกั การใหญๆ่ ของการสอนไมว่ า่ จะสอนเรือ่ งอะไรก็มีอยู่ ๓ หลกั คอื ๑. หลกั เกีย่ วกบั เน้ือหาที่สอน ๒. หลักเกย่ี วกับตัวผูเ้ รยี น ๓. หลักเกย่ี วกับตวั การสอน ก. เก่ยี วกับเนื้อหา คนจะสอนคนอ่นื ต้องรวู้ า่ จะเอาเร่อื งอะไรมาสอนเขาเสยี กอ่ น ไม่ใช่คิดแต่วิธีการสอนว่าจะสอนอย่างไร ต้อง คดิ กอ่ นวา่ จะเอาอะไรไปสอนเขา พระพุทธเจ้าแนะนาว่าผู้สอนต้องคานึงเสมอว่า ต้องสอนสิ่งท่ีรู้เห็นหรือเข้าใจง่าย ไปหาสิง่ ที่เขา้ ใจยาก ๑. สอนเนอื้ หาทลี่ มุ่ ลกึ ลงไปตามลาดบั ๒. สอนด้วยของจรงิ ๓. สอนตรงตามเนื้อหา ๔. สอนมเี หตุผล ๕. สอนเท่าท่ีจาเป็นจะต้องรู้ ๖. สอนสิง่ ท่ีมคี วามหมายและเป็นประโยชนแ์ กผ่ เู้ รียน ข. เกยี่ วกับตัวผเู้ รยี น ๑. พทุ ธองคจ์ ะทรงสอนใคร ทรงดบู คุ คลผรู้ บั การสอนหรือผู้เรียนก่อนว่าบุคคลน้ันๆ เป็นคนประเภทใด มี พ้ืนความรู้ ความเขา้ ใจหรือความพรอ้ มแค่ไหนและควรจะสอนอะไร แค่ไหน ๒. นอกจากดูความแตกต่างของผู้เรียนแล้ว ยังตอ้ งดคู วามพร้อมของผเู้ รียนด้วย ๓. สอนใหผ้ ้เู รียนทาด้วยตนเอง ๔. ผู้เรียนจะต้องมีบทบาทรว่ มด้วย ๕. ครูตอ้ งเอาใจใส่ผู้เรียนทีม่ ีปญั หาเปน็ พเิ ศษ ค. เก่ยี วกับตัวการสอน ๑. สร้างความสนใจในการสอนคนนนั้ (การนาเข้าส่บู ทเรียน) ๒. สรา้ งบรรยากาศในการเรียนการสอนใหป้ ลอดโปรง่ ๓. มุ่งสอนเนื้อหา มุ่งให้ผูฟ้ งั เกิดความรู้ความเข้าใจและเปลีย่ นพฤติกรรมในทางทด่ี ี ๔. ต้ังใจสอน สอนโดยเคารพ ถอื ว่างานสอนเปน็ งานสาคญั ๕. ใช้ภาษาเหมาะสม ผู้สอนคนอื่นควรมีความสามารถในการสื่อสาร ใช้คาพูดท่ีถูกต้องและเหมาะสมกับ บุคคลและสถานการณ์

หลกั สูตรการศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๗๖ หลักการสอนแนวพทุ ธวธิ ี พระพุทธเจ้านั้นทรงเป็นพระบรมครู ยอดครูของผู้สอน พระองค์ทรงมีหลักการในการสอนมากมายหลาย หลกั การ เรยี กวา่ “หลกั ๔ ส” คอื ๑. สนั ทสั สนา อธบิ ายในเหน็ ชัดแจ้ง เหมอื นจงู มอื ให้มาดูดว้ ยตา ๒. สมาทปนา ชักจงู ใหเ้ หน็ จรงิ เหน็ จังตาม ชวนให้คล้อยตาม จนยอมรับเอาไปปฏบิ ัติ ๓. สมตุ เตชนา เร้าใจเกิดความกล้าหาญ มกี าลงั ใจ มัน่ ใจว่าทาได้ไมห่ วน่ั ไหวต่ออปุ สรรค์ทม่ี ีมา ๔. สัมปหังสนา มีวธิ ีสอนท่ีชว่ ยให้ผูฟ้ ังร่าเริง เบกิ บาน ฟังไมเ่ บือ่ เปยี่ มลน้ ไปด้วยความหวัง สรปุ หลักการทว่ั ไปของการสอน คือ แจม่ แจง้ -จูงใจ-หาญกล้า-รา่ เริง หลกั การสอนพุทธวธิ แี บบสนทนา (สากัจฉา หรือธรรมสากัจฉา) เป็นวิธีที่ทรงใช้บ่อยท่ีสุด พระองค์ชอบใช้วิธีนี้อาจเป็นด้วยว่าผู้ฟังได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นทาให้การ เรียนการสอนสนุกไม่รู้สึกว่าตนกาลัง “เรียน” หรือกาลัง “ถูกสอน” แต่จะรู้สึกว่าตนกาลังสนทนาปราศรัยกับพระ พทุ ธองคอ์ ยา่ งสนุกสนาน หลกั การสอนพุทธวธิ แี บบตอบปัญหา (ปจุ ฉา-วสิ ชั ชนา) ผ้ถู ามปญั หาอาจถามด้วยจดุ ประสงค์หลายอย่าง เชน่ ๑. บางคนถามเพอ่ื ตอ้ งการคาตอบในเร่ืองทส่ี งสัยมานาน ๒. บางคนถามเพ่อื ลองภูมวิ า่ คนตอบรหู้ รือไม่ ๓. บางคนถามเพ่อื ขม่ หรอื ปราบให้ผู้ตอบอับอาย ๔. บางคนถามเพื่อเทียบเคยี งกบั ความเช่อื หรอื คาสอนในลทั ธิศาสนาของตน พระพุทธองค์ตรัสรู้ว่าการตอบปัญหาใดๆ ต้องดูลักษณะของปัญหาและเลือกวิธีตอบให้ถูกต้องเหมาะสมพระองค์ จาแนกประเภทของปัญหาไว้ ๔ ประการ คือ ๑. ปัญหาบางอยา่ งตอ้ งตอบตรงไปตรงมา ๒. ปัญหาบางอย่างตอ้ งยอ้ นถามกอ่ นจงึ ตอบ ๓. ปญั หาบางอย่างตอ้ งแยกความตอบ ๔ ปัญหาบางอยา่ งต้องตัดบทไปเลยไมต่ อบ วิธีคดิ แบบอริยสจั จ์/คดิ แบบแก้ปัญหา เปน็ การคิดแบบแกป้ ญั หาเรยี กว่า “วิธีแห่งความดับทุกข์” จัดเป็นวิธีคิดแบบหลักอย่างหน่ึงเป็นวิธีคิดตาม เหตแุ ละผลหรือเป็นไปตามเหตแุ ละผล สืบสาวจากผลไปหาเหตุแลว้ แกไ้ ขและทาการทตี่ ้นเหตุ จัดเป็น ๒ คู่ คอื ค่ทู ่ี ๑ ทกุ ข์เปน็ ผล เป็นตวั ปญั หา เป็นสถานการณ์ที่ประสบ ซงึ่ ไมต่ ้องการ สมทุ ยั เปน็ เหตุ เปน็ ท่ีมาของปญั หา เป็นจุดท่ีจะต้องกาจดั หรือแก้ไข จึงจะพ้นจากปญั หาได้ คู่ท่ี ๒ นิโรธเปน็ ผล เปน็ ภาวะสน้ิ ปัญหา เปน็ จุดหมายซ่ึงตอ้ งการจะเข้าถึง มรรคเปน็ เหตุ เป็นวธิ กี าร เป็นขอ้ ปฏบิ ัติที่ต้องกระทาในการแก้ไขสาเหตุ เพ่ือบรรลุจุดหมายคือ ภาวะสิ้นปญั หาอนั ได้แก่ความดบั ทกุ ข์

หลักสตู รการศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๗๗ กระบวนการจัดกิจกรรมเรียนรู้ แบบพุทธวธิ ี ๙ อยา่ ง ๑. การจดั กิจกรรมการเรียนร้พู ุทธวธิ แี บบอุปมา-อุปไมย (การเปรียบเทยี บ) ขั้นสืบคน้ -ข้ันเช่อื มโยง - เปรยี บเทียบนามธรรมกับรปู ธรรมให้ผ้เู รยี นเห็นชัดเจน ครูผสู้ อนและผูเ้ รยี นมีสว่ นรว่ ม - ความแตกต่างระหวา่ งสงิ่ ท่เี ปน็ นามธรรมกับรูปธรรม ข้นั ฝกึ - ยกตวั อยา่ งส่ิงท่ีเป็นนามธรรมและรูปธรรม - ผเู้ รียนแต่ละรูปหรือแตล่ ะกลุ่มร่วมอภิปรายหรือนาเสนอสงิ่ ทีเ่ ป็นนามธรรมหรือรูปธรรม - หาขอ้ สรุปเกีย่ วกบั เนอื้ หาทเี่ ปน็ นามธรรม-รปู ธรรม ขั้นประยุกต์ - คน้ ควา้ สงิ่ ทเ่ี ป็นนามธรรมกบั รูปธรรมในเนื้อหาอ่ืน ๆ นอกเหนือจากเนือ้ หาที่กาหนดให้ ๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้พุทธวธิ ีแบบปุจฉา-วสิ ัชนา (การถาม-ตอบ) ขนั้ สืบคน้ -ขน้ั เชือ่ มโยง - การทาหน้าทเี่ ป็นผถู้ าม-ตอบที่ถกู ตอ้ งเหมาะสมแกก่ าลเทศะ - วธิ ถี าม-ตอบ (ตอบทนั ทีเม่อื มีผู้ถาม, ตอบแบบมเี งื่อนไข, ย้อนถามผู้ถามก่อนแล้วจึงตอบ, นิ่งเสียไม่ตอบ เปน็ ต้น) ขั้นฝกึ - ตวั อยา่ งการถาม-ตอบ - ถาม-ตอบแบบคนตอ่ คน, ถาม-ตอบแบบกลุ่มต่อกลมุ่ , ถาม-ตอบแบบกลุ่มต่อคน เป็นต้น - หาข้อสรปุ เนือ้ หาทเ่ี กี่ยวกับการถาม-ตอบ ขน้ั ประยุกต์ - คน้ ควา้ เพ่ิมเติมนอกเหนือจากเน้อื หาที่กาหนดไวใ้ นแผนจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๓. การจัดกจิ กรรมการเรียนร้พู ทุ ธวธิ ีแบบธรรมสากัจฉา (การสนทนา) ขั้นสืบค้น-ข้ันเชือ่ มโยง - ครผู ู้สอนเสนอสถานการณ์ทเี่ ปน็ ปญั หาหรอื จาลองสถานการณ์ ข้ันฝกึ - ผู้เรยี น/ครูผู้สอน-อภปิ รายในประเด็นท่เี ป็นปัญหา หัวขอ้ หรอื สถานการณ์ ตามเน้ือหาที่กาหนด - หาข้อสรุปในประเดน็ ทีเ่ ปน็ ปญั หา หวั ขอ้ หรือสถานการณจ์ ากการสนทนาอภปิ ราย ขน้ั ประยุกต์ - ศึกษาเพิม่ เติมการสนทนา-อภปิ รายของบุคคล, กลมุ่ คน, ละคร, องค์กร ฯลฯ

หลักสตู รการศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นร้ภู าษาบาลี ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หน้า ๗๘ ๔. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้พทุ ธวิธแี บบอรยิ สจั ๔ (กาหนดปญั หา, ตั้งสมมุตฐิ าน, ทดลอง, วเิ คราะห์ สรุป) ขน้ั สบื คน้ (ทกุ ข)์ - กาหนดปญั หา, ทม่ี าของปญั หา, การเกดิ ปัญหา (ตามเนื้อหาทกี่ าหนด) ขั้นเช่อื มโยง (สมทุ ยั ) - ตงั้ สมมุติฐาน, การอนุมาน, การคาดคะเน, ความนา่ จะเป็น, ปัจจยั เส่ียง ขน้ั ฝกึ (นโิ รธ) - ทดลอง, เกบ็ ข้อมลู - วิเคราะห์, สรุปผล ขน้ั ประยุกต์ (มรรค) - การนาไปประยุกตใ์ ชก้ บั สง่ิ อน่ื ๆ นอกเหนือจากเนอื้ หาที่เรียนรู้ ๕. การจัดกจิ กรรมการเรียนรพู้ ุทธวิธแี บบไตรสกิ ขา (ระเบยี บวินยั , จติ ใจแนว่ แน่, แกป้ ญั หาถูกตอ้ ง) ขั้นสืบค้น (ศลี ) - สร้างความมีระเบียบวินยั ความมีศรทั ธา ความตระหนัก ความเร้าใหเ้ กิดกับผเู้ รียนพร้อมทจ่ี ะเรยี น ขน้ั เชอ่ื มโยง (สมาธิ) - ให้ผู้เรียนรวมพลังจิตใจ ความคิดอันแน่วแน่ในการต้ังใจฟัง ตั้งใจดู ตั้งใจจดจาและเห็นความสาคัญต่อ เนือ้ หาทีจ่ ะนาเสนอ ขนั้ ฝึก (ปัญญา) - ใช้สมาธิ จติ ใจอันแน่วแนท่ าความเข้าใจกบั ปญั หา - ค้นหาสาเหตทุ ี่มาท่ไี ปของปญั หา - แก้ไขปัญหาอยา่ งถกู ต้องและถกู วธิ ี ข้ันประยุกต์ (ปญั ญา) - ผู้เรยี นเกิดการเรยี นรู้, เกิดปญั ญาและมมี โนทศั นใ์ นเรอื่ งนน้ั ๆ ถูกต้อง ๖. การจดั กจิ กรรมการเรียนร้พู ุทธวธิ แี บบพหูสูต (ฟังมากๆ, เขียนมากๆ, ถามมากๆ, คดิ วิเคราะหม์ ากๆ) ข้นั สืบค้น-ขั้นเช่ือมโยง (การสรา้ งศรทั ธา) - การจดั บรรยากาศในการนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น - การสรา้ งแรงจูงใจในการนาเขา้ สบู่ ทเรยี น - บุคลกิ ภาพตลอดถึงการวางตัวทเ่ี หมาะสมของผู้สอน - การสรา้ งความสมั พันธ์ระหวา่ งผู้เรียนกบั ผสู้ อน ขน้ั ฝกึ (การฝึกทักษะ) - กิจกรรมกลุ่ม/รายบุคคล - การปฏิบตั ิ/การนาเสนอ/การแสดงออก - ฝกึ การเขียน, การฟงั , การถาม, และการคดิ วเิ คราะห์ ขั้นประยกุ ต์ (การประเมนิ )

หลักสูตรการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนร้ภู าษาบาลี ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ ๗๙ - การประเมนิ ตนเอง - การประเมนิ ของกลั ยาณมิตร - การศึกษาค้นคว้าเพิม่ เตมิ และการนาไปประยกุ ตใ์ ช้ ๗. การจัดกิจกรรมการเรียนรพู้ ุทธวิธีแบบโยนโิ สมนสกิ าร (การทาไวใ้ นใจโดยแยกคาย, การใชค้ วามคดิ ถกู วิธี) แบบที่ ๑ ขั้นสืบคน้ -ขัน้ เช่อื มโยง - ผเู้ รียนรู้จกั คิด คิดเป็น คิดอย่างมรี ะบบ - ผ้เู รียนร้จู ักมอง รจู้ กั พิจารณา ไตรต่ รอง วิเคราะห์ สังเคราะห์ ขั้นฝกึ - ฝกึ การคิดหาเหตุผล - ฝึกการสบื ค้นถงึ ตน้ เคา้ - ฝึกการสบื สาวให้ตลอดสาย - ฝึกการแยกแยะส่งิ นัน้ ๆ ปัญหานน้ั ๆ ตามสภาวะแห่งเหตแุ ละปัจจยั ข้นั ประยกุ ต์ - ผู้เรยี นนาการใชค้ วามคดิ อยา่ งถกู วธิ ีไปประยกุ ตใ์ ช้กบั เหตกุ ารณ์ปจั จุบนั ๘. การจดั กิจกรรมการเรียนร้พู ทุ ธวธิ ีแบบโยนิโสมนสิการ (สรา้ งศรัทธาและวิธคี ิดให้กบั ผู้เรียน) แบบท่ี ๒ ข้ันสบื คน้ -ข้นั เชื่อมโยง - ครูผ้สู อนสร้างเจตคติท่ีดีตอ่ ผู้เรียน - ครผู ู้สอนเสนอปญั หาทเ่ี ป็นสาระสาคัญ, หวั เรอื่ ง - ครผู สู้ อนแนะแหล่งวิทยาการ, แหลง่ ขอ้ มลู ขัน้ ฝึก - ผเู้ รยี นฝึกการรวบรวมขอ้ มูล - ครูผู้สอนจัดกิจกรรมให้เกิดกระบวนการคิดแก่ผู้เรียน เช่น คิดสืบค้นต้นเค้า, คิดสืบสาวตลอดสาย, คิด สบื ค้นต้นปลาย, และคดิ โยงสายสัมพันธ์ - ฝกึ การสรปุ ประเดน็ เปรียบเทยี บ ประเมินคา่ โดยวธิ ีอภิปราย ทดลอง ทดสอบ - ดาเนินการเลือกและตัดสินใจ - กิจกรรมฝกึ ปฏบิ ัตเิ พื่อพิสจู นผ์ ลการเลือกและตัดสนิ ใจ ขั้นประยกุ ต์ - สังเกตวิธีการปฏิบัติ ตรวจสอบ ปรับปรุง - อภิปรายและสอลบถาม - สรุปบทเรยี นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ - วัดและประเมนิ ผลตามสภาพจริง

หลักสูตรการศึกษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หน้า ๘๐ ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้พุทธวิธีแบบอิทธิบาท ๔ (พอใจในส่ิงท่ีเรียนรู้, พากเพียรต่อสิ่งท่ีเรียนรู้เสมอ, มุ่งม่ันและเอาใจใสต่ อ่ สงิ่ ทเ่ี รยี นร้,ู คดิ วเิ คราะห์ ไตรต่ รอง กอ่ นนาไปใช)้ ขั้นสืบค้น (ฉนั ทะ) - สร้างความพอใจและความสาคัญตอ่ สง่ิ ท่ีเรยี นรู้ และสงิ่ ทีไ่ ด้รับ ขน้ั เชือ่ มโยง (วริ ิยะ) - ฟังให้หมด จดใหม้ าก ปากตอ้ งไว ใจต้องคดิ (หัวใจบณั ฑิต สุ จิ ปุ ลิ) ข้ันฝกึ (จิตตะ) - มงุ่ มั่น โดยฝึกฟงั มากๆ ฝกึ คดิ มากๆ ฝึกถามมากๆ และฝกึ เขยี นมากๆ ขั้นประยกุ ต์ (วมิ ังสา) - พจิ ารณา ไตรต่ รอง แยกแยะ อธบิ าย นาเสนอ และประยกุ ตใ์ ช้ การนยิ ามศัพทข์ ัน้ ตอน/กระบวนการ จดั กิจกรรมการเรยี นร้พู ทุ ธวิธี สบื ค้น หมายถึง สืบสาวราวเรอ่ื ง, คน้ ควา้ ใหไ้ ด้เรื่อง เช่อื มโยง หมายถึง ทาให้ตดิ เปน็ เน้ือเดียวกัน, ทาใหป้ ระสานกัน ฝกึ หมายถงึ ทา เชน่ บอก, แสดง, หรอื ปฏบิ ัติ เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ความเข้าใจจนเปน็ หรือมี ความชานาญ ประยุกต์ หมายถึง นาความรูใ้ นวทิ ยาการต่างๆ มาปรับใช้ให้เปน็ ประโยชน์

หลกั สูตรการศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นร้ภู าษาบาลี ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๘๑

หลกั สตู รการศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรูภ้ าษาบาลี ระดบั มธั ย ขอบข่ายเน้อื หาสาร ในการจัดทาหลักสูตรการศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม แผน สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี ม.๒ บ๒๒๒๐๓ บ๒๒๒๐๔ รหสั ม.๑ บ๒๑๒๐๑ บ๒๑๒๐๒ ม.๕ บ๓๒๒๐๓ บ๓๒๒๐๔ รหสั ม.๔ บ๓๑๒๐๑ บ๓๑๒๐๒ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ นามศพั ท์ - อพั ยยศัพท์ อาขยาต - กติ ก์ สมาส - ตทั ธติ ความรเู้ บื้องต้นเกีย่ วกับบาลี อาขยาต สมาส - ความหมายของสมาส ไวยากรณ์ - ความหมายของอาขยาต - วเิ คราะหค์ าวา่ “สมาส” - ลักษณะรูปวเิ คราะห์แห่ง - ประวตั คิ วามเปน็ มาของภาษา - เครอื่ งปรงุ ของอาขยาต สมาส บาลี - สว่ นประกอบทส่ี าคญั ของ - ประโยชนข์ องสมาส - ประเภทของสมาส - ความหมายของคาว่า “บาลี อาขยาต สมาสวา่ โดยชอื่ : ๑. กัมมธารยสมาส ไวยากรณ”์ วภิ ัตติ - วิเสสนบพุ พบท - วิเสสนตุ ตรบท - รากศพั ท์ของคาวา่ “บาลี” - ความหมายของวิภตั ติ - วิเสสโนภยบท - รากศพั ทข์ องคาว่า - การแบ่งหมวดวภิ ตั ติ “ไวยากรณ”์ - ความหมายของชื่อวภิ ตั ติ - การแบง่ หมวดบาลีไวยากรณ์ - วธิ สี งั เกตวิภตั ติ นามศพั ท์ - วิภตั ติและการเปลย่ี นแปลง - โครงสร้างของนามศัพท์ - อาคมในอาขยาต

ยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๘๒ ระการเรยี นรู้ภาษาบาลี นกสามัญศึกษา ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ และตอนปลาย ม.๓ บ๒๓๒๐๕ บ๒๓๒๐๖ ม.๖ บ๓๓๒๐๕ บ๓๓๒๐๖ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ สมญั ญาภธิ าน – สนธิ อาขยาต – กติ ก์ สมาส – ตทั ธิต อุภัยพากย์ปริวัฒน์ ธรรมภาค ๒ ธรรมบทภาค ๔ ธรรมบทภาค ๑ ธรรมภาค ๓ ทบทวนธรรมบทภาค ๑-๔ อกั ขรวธิ ี : สมัญญาภธิ าน อาขยาต สมาส - อกั ขรวธิ ี ภาคที่ ๑ - ความหมายของอาขยาต - ความหมายของสมาส - เครอ่ื งปรงุ ของอาขยาต - วิเคราะหค์ าว่า “สมาส” สมัญญาภิธาน - สว่ นประกอบทสี่ าคัญของ - ลกั ษณะรปู วิเคราะห์แหง่ - ความหมายของคาวา่ อาขยาต สมาส “อักขระ” วภิ ัตติ - ประโยชน์ของสมาส - ประเภทของอกั ขระ - ความหมายของวภิ ตั ติ - ประเภทของสมาส - สระ - การแบง่ หมวดวิภตั ติ สมาสว่าโดยชอ่ื : - ประเภทของสระ - ความหมายของชอ่ื วภิ ัตติ ๑. กัมมธารยสมาส - พยญั ชนะ - วธิ ีสงั เกตวิภตั ติ - วเิ สสนบุพพบท - ประเภทของพยัญชนะ - วิภตั ตแิ ละการเปลย่ี นแปลง - วิเสสนตุ ตรบท - ฐานกรณ์ของอกั ขระ - อาคมในอาขยาต - วิเสสโนภยบท - เสยี งอักขระ

หลกั สตู รการศกึ ษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรภู้ าษาบาลี ระดับมัธย ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๑ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ นามศพั ท์ - อัพยยศพั ท์ อาขยาต - กติ ก์ สมาส - ตัทธิต - ความหมายของนามศพั ท์ กาล, บท, วจนะ, บรุ ษุ - วิเสสโนปมบท - นามนาม กาล - สัมภาวนบุพพบท - คณุ นาม - ความหมายของกาล - อวธารณบุพพบท - สพั พนาม - ประเภทของกาล สมาสว่าโดยชื่อ : ลิงค์ วจนะ วิภตั ติ - วธิ ีสงั เกตกาล ๒. ทิคุสมาส - ลงิ ค์ บท - สมาหารทิคุ - วจนะ - ความหมายของบท - อสมาหารทิคุ - วิภัตติ - ประเภทของบท สมาสว่าโดยชื่อ : อายตนบิ าตและการนั ต์ - ประโยชนข์ องบท ๓. ตปั ปรุ ิสสมาส - อายตนิบาต วจนะ - ทุตยิ าตัปปรุ สิ ะ - การนั ต์ - ความหมายของวจนะ - ตติยาตปั ปุรสิ ะ การแจก อ, อ,ิ อ,ี อุ, อู การันต์ - ประเภทของวจนะ - จตตุ ถตี ัปปรุ ิสะ ในปงุ ลงิ ค์ - ความแตกตา่ งระหว่างวจนะ - ปัญจมตี ัปปรุ สิ ะ - อ การนั ตใ์ นปงุ ลิงค์ - ฉฏั ฐีตัปปุรสิ ะ - อิ การันตใ์ นปุงลงิ ค์ นามและวจนะอาขยาต - สัตตมตี ปั ปรุ สิ ะ - อี การันต์ในปงุ ลิงค์ - วธิ ใี ช้วจนะ สมาสวา่ โดยชือ่ : - อุ การันตใ์ นปุงลิงค์ บรุ ษุ ๔. ทวันทวสมาส - อู การนั ต์ในปุงลงิ ค์ - ความหมายของบุรษุ - สมาหารทวนั ทวะ การแจก อา, อ,ิ อี, อ,ุ อู - ประเภทของบรุ ษุ - อสมาหารทวันทวะ การนั ตใ์ นอติ ถลี งิ ค์ - ความแตกตา่ งระหวา่ งบรุ ุษ สมาสวา่ โดยช่อื : - อา การันตใ์ นอิตถีลงิ ค์ ๕. อพั ยยีภาวสมาส นามกับบรุ ษุ อาขยาต - วิธใี ช้บุรษุ

ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๘๓ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ สมัญญาภิธาน – สนธิ อาขยาต – กิตก์ สมาส – ตทั ธิต ธรรมบทภาค ๔ อภุ ัยพากย์ปริวัฒน์ ธรรมภาค ๒ ทบทวนธรรมบทภาค ๑-๔ ธรรมบทภาค ๑ ธรรมภาค ๓ - วิเสสโนปมบท - สัมภาวนบุพพบท - พยัญชนะสังโยค กาล, บท, วจนะ, บรุ ุษ - อวธารณบุพพบท ๒. ทิคสุ มาส - อฑั ฒสระ กาล - สมาหารทิคุ - อสมาหารทิคุ อกั ขรวิธี : สนธิ สระสนธิ - ความหมายของกาล ๓. ตัปปรุ สิ สมาส - ทตุ ิยาตัปปรุ ิสะ - สนธิ - ประเภทของกาล - ตติยาตปั ปรุ สิ ะ - จตตุ ถีตัปปรุ ิสะ - ความหมายของสนธิ - วธิ สี งั เกตกาล - ปญั จมีตปั ปุรสิ ะ - ฉัฏฐีตัปปรุ สิ ะ - ประโยชนข์ องสนธิ บท - สตั ตมีตัปปรุ สิ ะ ๔. ทวนั ทวสมาส - ประเภทของสนธิ - ความหมายของบท - สมาหารทวันทวะ - อสมาหารทวนั ทวะ - สระสนธิ - ประเภทของบท ๕. อพั ยยภี าวสมาส - อปุ สคั คบุพพกะ พยัญชนะสนธิ นคิ คหิตสนธิ - ประโยชนข์ องบท - นปิ าตบพุ พกะ ๖. พหุพพิหิสมาส - พยัญชนะสนธิ วจนะ - ทตุ ิยาพหพุ พหิ ิ - นคิ คหติ สนธิ - ความหมายของวจนะ หลักการแปลมคธเป็นไทยและ - ประเภทของวจนะ การแปลไทยเป็นมคธตาม - ความแตกตา่ งระหว่างวจนะ โครงสร้างของประโยค ๘ นามและวจนะอาขยาต สว่ นประกอบ ดังนี้ - วิธีใชว้ จนะ - การแปลอาลปนะ บรุ ษุ - การแปลนบิ าตต้นข้อความ - ความหมายของบุรุษ หรอื กาลสัตตมี - ประเภทของบรุ ษุ - การแปลประธาน - ความแตกต่างระหวา่ งบรุ ุษ - การแปลบททเ่ี น่อื งด้วย นามกบั บรุ ษุ อาขยาต ประธาน - วิธีใชบ้ รุ ุษ

หลักสตู รการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรภู้ าษาบาลี ระดับมัธย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ นามศัพท์ - อัพยยศพั ท์ อาขยาต - กติ ก์ สมาส - ตัทธิต - อิ การนั ตใ์ นอติ ถีลิงค์ - วิธีสังเกตบรุ ษุ - อุปสคั คบุพพกะ - อี การนั ตใ์ นอิตถลี ิงค์ ธาตุ - นปิ าตบพุ พกะ - อุ การันต์ในอิตถลี ิงค์ ธาตุ สมาสว่าโดยชอื่ : - อู การันต์ในอิตถลี ิงค์ - ความหมายของธาตุ ๖. พหุพพิหสิ มาส การแจก อ, อ,ิ อุ การันต์ใน - วิธีสังเกตธาตุ - ทุตยิ าพหพุ พหิ ิ นปุงสกลงิ ค์ - ธาตุ ๘ หมวด - ตตยิ าพหพุ พหิ ิ - อ การันตใ์ นนปงุ สกลงิ ค์ - การเปลย่ี นแปลงของธาตุใน - จตตุ ถีพหุพพหิ ิ - อิ การนั ตใ์ นนปุงสกลิงค์ - ปัญจมพี หุพพหิ ิ - อุ การนั ต์ในนปงุ สกลิงค์ หมวดตา่ งๆ - ฉัฏฐีพหุพพิหิ กตปิ ยศพั ท์ - ธาตุ ๒ - สัตตมีพหพุ พหิ ิ - กตปิ ยศัพท์ - วิธีสงั เกตธาตุ ๒ สมาสทอ้ ง - อตฺต - ธาตุกลบั ความหมาย - สมาสทอ้ ง - พรฺ หมฺ - ศัพทพ์ เิ ศษทใ่ี ช้นาหน้ากริ ิยา - ความหมายของสมาสท้อง - ราช - กริ ิยาศัพทท์ ี่ใชด้ จุ คณุ - สรปุ ลักษณะของสมาสท้อง - ภควนตฺ ุ - อสฺ ธาตุ ตัทธิต - อรหนฺต วาจกและปจั จัย - ตัทธติ - ภวนฺต วาจก - วเิ คราะหค์ าวา่ “ตทั ธติ ” - สตถฺ ุ - ความหมายของวาจก - ความแตกต่างระหวา่ งตัทธิต - ปติ ุ - ประเภทของวาจก - มาตุ - วธิ สี ลบั วาจก และสมาส - มน - ความสาคญั ของวาจก - ประเภทของตทั ธติ ปจั จยั - ศัพท์ทใ่ี ชล้ งปัจจัยตัทธติ

ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๘๔ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๕ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๖ สมัญญาภธิ าน – สนธิ อาขยาต – กิตก์ สมาส – ตัทธติ ธรรมบทภาค ๔ อุภยั พากย์ปริวัฒน์ ธรรมภาค ๒ ทบทวนธรรมบทภาค ๑-๔ ธรรมบทภาค ๑ ธรรมภาค ๓ - ตตยิ าพหพุ พหิ ิ - จตุตถีพหพุ พิหิ - การแปลกริ ยิ าในระหว่างและ - วธิ สี ังเกตบรุ ุษ - ปัญจมพี หพุ พหิ ิ - ฉฏั ฐพี หพุ พิหิ ประโยคแทรก ธาตุ - สัตตมพี หุพพิหิ สมาสทอ้ ง - การแปลบททเี่ นอ่ื งดว้ ยกริ ยิ า - ความหมายของธาตุ - สมาสทอ้ ง - ความหมายของสมาสท้อง ในระหวา่ ง และบทที่เน่ืองดว้ ย - วธิ สี ังเกตธาตุ - สรุปลักษณะของสมาสท้อง ตัทธติ ประโยคแทรก - ธาตุ ๘ หมวด - ตัทธติ - วิเคราะหค์ าวา่ “ตัทธติ ” - การแปลกริ ยิ าคมุ พากย์ - การเปลย่ี นแปลงของธาตใุ น - ความแตกตา่ งระหวา่ งตัทธิต - การแปลบททเี่ นื่องด้วยกริ ยิ า หมวดต่างๆ และสมาส - ประเภทของตัทธิต คุมพากย์ - ธาตุ ๒ - ศพั ทท์ ีใ่ ชล้ งปัจจยั ตทั ธิต - ลกั ษณะสาคญั ของ ณ ปัจจัย แปลอุภัยพากย์ปริวัฒน์โดย - วิธสี งั เกตธาตุ ๒ และปจั จยั เน่อื งด้วย ณ พยญั ชนะและอรรถ - ธาตุกลบั ความหมาย - ปจั จยั ทีค่ ลา้ ยกัน - ปจั จัยท่ีพ้องกนั - อภุ ยั พากยป์ ริวฒั น์ - ศัพทพ์ เิ ศษที่ใช้นาหน้ากริ ิยา - ประโยชนข์ องปัจจัย แปลธรรมบทโดยพยัญชนะ - กิริยาศพั ทท์ ่ีใช้ดจุ คณุ และอรรถ - อสฺ ธาตุ - ธรรมบทภาค ๑ วาจกและปจั จยั วาจก - ความหมายของวาจก - ประเภทของวาจก - วิธสี ลบั วาจก - ความสาคญั ของวาจก ปจั จัย - ความหมายของปัจจยั

หลักสตู รการศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ภาษาบาลี ระดับมธั ย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ นามศพั ท์ - อัพยยศพั ท์ อาขยาต - กิตก์ สมาส - ตัทธิต - กมฺม - ความหมายของปจั จยั - ลักษณะสาคญั ของ ณ ปัจจยั - โค - วิธีใชป้ ัจจยั และปจั จยั เนอื่ งดว้ ย ณ - ศัพทพ์ เิ ศษ - ประเภทของปจั จัย สงั ขยา : ปกติสงั ขยา - วิธีลงและเปล่ียนแปลงปจั จยั - ปจั จยั ทค่ี ล้ายกัน - ความหมายของคาวา่ - ปัจจัยท่พี ้องกัน ในวาจก - ประโยชน์ของปจั จยั “สังขยา” - ปจั จัยพเิ ศษ-อพั ภาส สามญั ญตทั ธติ - ประเภทของสงั ขยา - โคตตตัทธิต - เอก ศพั ท์ คาแปลของ ข, ฉ, ส ปัจจยั - ตรตั ยาทติ ัทธติ - ทวฺ ิ ศัพท์ อาย, อิย ปัจจัย - ราคาทิตัทธติ - ติ ศัพท์ ปัจจัยท่ีใชน้ อ้ ย - ชาตาทิตัทธติ - จตุ ศัพท์ - ความสาคญั ของปจั จยั - สมุหตัทธติ - ปญฺจ ศพั ท์ การแปลในวาจกทง้ั ๕ ท่ีใช้ - ฐานตทั ธติ - นว ศพั ท์ กริ ิยาอาขยาตคมุ พากย์ - พหลุ ตัทธิต - สังขยาจานวนสิบ - การใช้กริ ิยาอาขยาต - เสฏฺฐตัทธิต - สงั ขยาจานวนร้อย จานวน คมุ พากย์ - ตทัสสตั ถติ ัทธิต - การแปลมคธเป็นไทยและ - ปกตติ ทั ธิต พัน การแปลไทยเป็นมคธ - ปูรณตทั ธติ - วธิ ีใช้ปกตสิ งั ขยา ประโยคกัตตุวาจก - สงั ขยาตัทธติ วิธตี ่อปกตสิ งั ขยา ประโยคกมั มวาจก - วภิ าคตัทธิต - วธิ ตี ่อปกติสังขยาเข้ากับปกติ ประโยคภาววาจก - อปุ มาตทั ธิต ประโยคเหตกุ ตั ตุวาจก - นิสสติ ตัทธติ สังขยาดว้ ย อตุ ตฺ ร ศพั ท์ และ ประโยคเหตกุ มั มวาจก อธิก ศัพท์

ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๘๕ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ สมัญญาภธิ าน – สนธิ อาขยาต – กติ ก์ สมาส – ตทั ธิต อุภัยพากย์ปริวัฒน์ ธรรมภาค ๒ ธรรมบทภาค ๔ ธรรมบทภาค ๑ ธรรมภาค ๓ ทบทวนธรรมบทภาค ๑-๔ ย - วธิ ใี ช้ปจั จยั สามัญญตทั ธิต - ประเภทของปัจจัย - โคตตตทั ธติ - วิธีลงและเปลีย่ นแปลงปจั จัย - ตรัตยาทติ ทั ธติ ในวาจก - ราคาทติ ทั ธติ - ปจั จยั พิเศษ-อพั ภาส - ชาตาทติ ัทธิต คาแปลของ ข, ฉ, ส ปัจจัย - สมหุ ตัทธติ อาย, อิย ปจั จยั - ฐานตัทธิต ปัจจัยทีใ่ ช้น้อย - พหุลตทั ธติ - ความสาคญั ของปัจจัย - เสฏฺฐตัทธิต การแปลในวาจกท้ัง ๕ ที่ใช้ - ตทสั สตั ถติ ัทธติ กิรยิ าอาขยาตคมุ พากย์ - ปกติตัทธติ - การใช้กริ ยิ าอาขยาต - ปรู ณตทั ธติ คมุ พากย์ - สังขยาตัทธติ - การแปลมคธเป็นไทยและ - วิภาคตทั ธิต การแปลไทยเปน็ มคธ - อปุ มาตัทธิต ประโยคกตั ตุวาจก - นิสสติ ตัทธิต ประโยคกัมมวาจก ภาวตัทธติ อพั ยยตทั ธติ ประโยคภาววาจก - ภาวตัทธติ ประโยคเหตุกตั ตุวาจก - อพั ยยตัทธิต ประโยคเหตุกมั มวาจก แปลธรรมบทโดยพยญั ชนะ กติ ก์ : กิริยากติ ก์ (วิภัตต,ิ และอรรถ

หลักสูตรการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรูภ้ าษาบาลี ระดบั มัธย ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๒ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ นามศัพท์ - อัพยยศัพท์ อาขยาต - กิตก์ สมาส - ตทั ธติ - วิธตี ่อปกตสิ ังขยาเข้ากบั นาม กติ ก์ : กริ ิยากติ ก์ (วิภัตต,ิ ภาวตทั ธิต อพั ยยตัทธติ - ภาวตทั ธิต ดว้ ย อตุ ตฺ ร และ อธิก ศพั ท์ วจนะ, กาล, ธาต,ุ วาจก, - อพั ยยตทั ธติ รวมกนั ปจั จยั ) - วธิ ตี ่อปกตสิ งั ขยา ด้วย จ - กิตก์ ศัพท์ - ความหมายของคาว่า กิตก์ - วธิ ีต่อปกตสิ ังขยาดว้ ย อุปริ - วเิ คราะหค์ าวา่ กติ ก์ ศพั ท์ - การแบ่งประเภทของกิตก์ สงั ขยา : ปูรณสังขยา - ธาตุกิตก์ - ความหมายของปรู ณสังขยา - กริ ยิ ากิตก์ - ปัจจัยทใี่ ช้ในปูรณสังขยา - วิภตั ตแิ ละวจนะ - การจัดปรู ณสงั ขยาเข้าในลงิ ค์ - กาล - ปรู ณสงั ขยานบั ใน ๓ ลิงค์ - การแบง่ ประเภทของกาล - วธิ ีใช้ปูรณสงั ขยา - ธาตุ - อฑฺฒ ศพั ท์ - วาจก - การตอ่ อฑฺฒ ศพั ท์ เข้ากบั - ปจั จัย ปรู ณสังขยา - วิธลี งปัจจัย - การตอ่ อฑฺฒ ศพั ท์ เขา้ กับ - กิตปจั จยั ปูรณสังขยา แบบมีนามแทรก - กิจจปจั จยั - การตอ่ อฑฒฺ ศพั ท์ เข้ากบั - กิตกิจจปัจจัย ปกตสิ ังขยา - ตูนาทปิ ัจจัย - การตอ่ อฑฺฒ ศัพท์ เข้ากับ - บทสุดท้าย

ยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๘๖ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๔ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ สมญั ญาภิธาน – สนธิ อุภัยพากย์ปริวัฒน์ อาขยาต – กิตก์ สมาส – ตทั ธติ ธรรมภาค ๒ ธรรมบทภาค ๔ ธรรมบทภาค ๑ ธรรมภาค ๓ ทบทวนธรรมบทภาค ๑-๔ วจนะ, กาล, ธาต,ุ วาจก, - ธรรมบทภาค ๔ ปัจจยั ) ทบทวนแปลธรรมบทโดย - กิตก์ พยญั ชนะและอรรถ - ความหมายของคาวา่ กิตก์ - ธรรมบทภาค ๑ - วเิ คราะหค์ าว่า กติ ก์ - ธรรมบทภาค ๒ - การแบง่ ประเภทของกิตก์ - ธรรมบทภาค ๓ - ธาตกุ ติ ก์ - ธรรมบทภาค ๔ - กริ ิยากิตก์ - วิภัตตแิ ละวจนะ - กาล - การแบง่ ประเภทของกาล - ธาตุ - วาจก - ปัจจยั - วิธีลงปจั จยั - กิตปัจจัย - กจิ จปจั จัย - กติ กิจจปัจจยั - ตนู าทปิ จั จยั - บทสุดทา้ ย นามกิตก์ รปู และสาธนะ

หลกั สตู รการศกึ ษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรภู้ าษาบาลี ระดับมธั ย ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ นามศพั ท์ - อพั ยยศพั ท์ อาขยาต - กิตก์ สมาส - ตัทธติ ปกตสิ งั ขยา แบบมีนามแทรก นามกติ ก์ รูปและสาธนะ สัพพนาม : ปรุ สิ สัพพนาม - นามกิตก์ - ความหมายของสพั พนาม - สาธนะ - ประเภทของสพั พนาม - วิเคราะห์แหง่ สาธนะ - ปรุ ิสสพั พนาม - วธิ ปี รงุ รปู วเิ คราะห์ - ต (ปุริสสัพพนาม) ปัจจยั นามกติ ก์ - ตมุ ฺห ศพั ทป์ ุรสิ สพั พนาม - ปัจจยั แหง่ นามกิตก์ - อมหฺ ศพั ท์ปรุ สิ สัพพนาม - วเิ คราะหแ์ หง่ นามกิตก์ สพั พนาม : วิเสสนสพั พนาม - ปจั จยั นามกติ ก์ในหมวด - วเิ สสนสพั พนาม - ประเภทของวเิ สสนสพั พนาม กติ ปจั จยั - อนิยมวเิ สสนสพั พนาม กวฺ ิ ปัจจยั - นิยมวิเสสนสัพพนาม ณี ปัจจัย - สัพพนามท้งั ปวงเปลย่ี นรูปได้ ณฺวุ ปจั จัย อัพยยศัพท์ ตุ ปจั จยั - ความหมายของคาว่า รู ปัจจัย - ปัจจยั นามกิตกใ์ นหมวด “อพั ยยศัพท”์ กิจจปัจจัย - ประเภทของ “อพั ยยศพั ท”์ ข ปจั จัย - อุปสัค ณยฺ ปัจจยั - นิบาต - ปจั จยั นามกติ ก์ในหมวด - ปัจจัย กิตกิจจปัจจัย

ยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๘๗ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ สมัญญาภิธาน – สนธิ สมาส – ตัทธติ อุภัยพากย์ปรวิ ัฒน์ อาขยาต – กติ ก์ ธรรมบทภาค ๔ ธรรมภาค ๒ ธรรมบทภาค ๑ ธรรมภาค ๓ ทบทวนธรรมบทภาค ๑-๔ - นามกติ ก์ - สาธนะ - วเิ คราะห์แห่งสาธนะ - วิธีปรงุ รปู วิเคราะห์ ปัจจัยนามกติ ก์ - ปจั จยั แห่งนามกติ ก์ - วิเคราะห์แหง่ นามกิตก์ - ปจั จยั นามกติ ก์ในหมวด กติ ปจั จัย กฺวิ ปัจจัย ณี ปจั จัย ณฺวุ ปจั จยั ตุ ปัจจัย รู ปัจจัย - ปัจจยั นามกติ ก์ในหมวด กิจจปจั จยั ข ปจั จยั ณยฺ ปจั จยั - ปจั จยั นามกิตกใ์ นหมวด กิตกิจจปจั จัย อ ปจั จยั

หลักสูตรการศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนร้ภู าษาบาลี ระดับมธั ย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ นามศัพท์ - อพั ยยศพั ท์ อาขยาต - กิตก์ สมาส - ตัทธิต อ ปจั จัย อิ ปัจจยั ณ ปจั จยั เตฺว ปัจจยั ติ ปจั จัย ตุ ปจั จัย ยุ ปจั จยั - ปัจจยั นอกแบบ การใชก้ ริ ยิ ากิตก์ - การใช้กริ ิยากิตก์ - การใช้กิริยากิตก์ในการแปล มคธเป็นไทยและการแปล ไทยเปน็ มคธ - ใชเ้ ปน็ กริ ยิ าคมุ พากยต์ าม วาจก - ใช้เป็นวกิ ตกิ ัตตา - ใชเ้ ป็นกริ ยิ าคมุ พากย์ อนาทร และลักขณะ - ใช้เป็นกิริยาในระหวา่ ง - การใช้ ตฺวา, ตุ ปจั จยั และ นามกติ ก์

ยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๘๘ ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ สมัญญาภิธาน – สนธิ สมาส – ตทั ธติ อภุ ัยพากย์ปรวิ ัฒน์ อาขยาต – กิตก์ ธรรมบทภาค ๔ ธรรมภาค ๒ ธรรมบทภาค ๑ ธรรมภาค ๓ ทบทวนธรรมบทภาค ๑-๔ อิ ปจั จยั ณ ปจั จัย เตฺว ปจั จัย ติ ปัจจัย ตุ ปัจจยั ยุ ปัจจยั - ปจั จยั นอกแบบ การใช้กริ ิยากิตก์ - การใช้กริ ยิ ากติ ก์ - การใชก้ ิริยากิตกใ์ นการแปล มคธเปน็ ไทยและการแปล ไทยเปน็ มคธ - ใชเ้ ปน็ กิริยาคุมพากยต์ าม วาจก - ใชเ้ ป็นวิกตกิ ัตตา - ใชเ้ ปน็ กริ ิยาคมุ พากย์ อนาทร และลักขณะ - ใชเ้ ปน็ กริ ิยาในระหว่าง - การใช้ ตวฺ า, ตุ ปัจจยั และ นามกติ ก์ ตฺวา ปจั จัย ใช้ในอรรถ ๘

หลกั สตู รการศกึ ษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรภู้ าษาบาลี ระดบั มธั ย ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ นามศพั ท์ - อัพยยศพั ท์ อาขยาต - กิตก์ สมาส - ตัทธิต ตวฺ า ปจั จยั ใชใ้ นอรรถ ๘ อยา่ ง ตุ ปัจจยั ใช้ในอรรถ ๒ อยา่ ง นามกติ ก์ ใช้ใน ๒ แผนก

ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๘๙ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ สมัญญาภธิ าน – สนธิ สมาส – ตทั ธติ อภุ ยั พากย์ปรวิ ัฒน์ อาขยาต – กิตก์ ธรรมบทภาค ๔ ธรรมภาค ๒ ธรรมบทภาค ๑ ธรรมภาค ๓ ทบทวนธรรมบทภาค ๑-๔ อยา่ ง ตุ ปจั จัย ใชใ้ นอรรถ ๒ อยา่ ง นามกิตก์ ใช้ใน ๒ แผนก แปลธรรมบทโดยพยญั ชนะ และอรรถ - ธรรมบทภาค ๒ - ธรรมบทภาค ๓

หลกั สตู รการศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย หน้า ๘๖ คาสั่งสานักงานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ ท่ี ๗๘๔ / ๒๕๕๘ เรือ่ ง แต่งตง้ั คณะทางานยกร่างหลกั สูตรการศกึ ษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาบาลีและวิชาพระพุทธศาสนา โดยที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ เพ่ือให้สถานศึกษาทุกสังกัดท่ีจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานนาไปใช้เป็นกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษา และการจัดการเรียนการสอน เพ่ือพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยทุกคนได้มีความรู้ความสามารถและ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามมาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้วี ัดกลุม่ สาระการเรยี นรู้ตา่ งๆ ท่ีกาหนดไว้ในหลกั สูตร ดังน้ัน เพื่อให้โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ได้มีแนวการจัดการเรียนการสอน หลักสตู รการศึกษาพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามัญศึกษา สาระการเรียนรู้ภาษาบาลีและวิชาพระพุทธศาสนาท้ังระดับ มัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตามมาตรฐานของหลักสูตรและ สอดคลอ้ งกับหลกั การท่ีประกาศไว้ในหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ จึงแต่งตั้งคณะทางานยก รา่ งหลกั สูตรการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาบาลีและวิชาพระพุทธศาสนา โดยมีองค์ประกอบและหนา้ ท่ี ดงั นี้ ๑. พระราชวรมุนี ทปี่ รึกษา ๒. พระราชวัชราภรณ์ ทป่ี รึกษา ประธานกลุม่ โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลมุ่ ที่ ๓ ๓. พระครูสนุ ทรพิมลศลี ที่ปรกึ ษา ประธานกลุม่ โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา กล่มุ ที่ ๕ ๔. พระครปู ริยตั ิวีราภรณ์ ท่ปี รกึ ษา ประธานกลุ่มโรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา กลุ่มท่ี ๙ ๕. พระครูสวุ รรณสรานุกิจ ที่ปรึกษา ประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา กล่มุ ท่ี ๑๐ ๖. ผู้อานวยการสานักงานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ ทป่ี รึกษา ๗. รองผูอ้ านวยการสานกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ ประธานคณะทางาน (นายชยพล พงษส์ ีดา)

หลักสูตรการศกึ ษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ภาษาบาลี ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หนา้ ๘๗ ๘. ผู้อานวยการกองพทุ ธศาสนศกึ ษา รองประธานคณะทางาน ๙. พระมหาอินสอน คุณวฑุ โฺ ฒ คณะทางาน ๑๐. พระมหาสมเกียรติ สิรอิ รโุ ณ คณะทางาน ๑๑. พระมหาธีรวฒั น์ ธรี วฑฺฒนเมธี, ดร. คณะทางาน ๑๒. พระปลดั ณรงคธ์ รรม กตธมฺโม คณะทางาน /๑๓. นายบุญเชดิ ... ๑๓. นายบุญเชิด กติ ติธรางกรู คณะทางาน ผอู้ านวยการสานกั งานพระพุทธศาสนาจงั หวัดนนทบรุ ี ๑๔. นายประดับ โพธกิ าญจนวตั ร คณะทางาน ผู้อานวยการสานกั งานพระพุทธศาสนาจงั หวัดสมุทรสงคราม คณะทางาน ๑๕. ผู้อานวยการกลุม่ การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม บาลี คณะทางาน ๑๖. ผูอ้ านวยการกลมุ่ การศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา คณะทางานและเลขานุการ ๑๗. นางพรเพ็ญ กติ ตธิ รางกรู คณะทางานและผ้ชู ่วยเลขานุการ ๑๘. นายเดชา ละลีย์ คณะทางานและผชู้ ่วยเลขานุการ ๑๙. นายเกรยี งไกร ทองแจน้ คณะทางานและผู้ชว่ ยเลขานุการ ๒๐. นายชานาญศิลป์ ก้อนแสนไชย คณะทางานและผู้ช่วยเลขานุการ ๒๑. นายวัฒนา ขาทอง คณะทางานและผู้ชว่ ยเลขานุการ ให้คณะทางานฯ มีหน้าที่ประชุมพิจารณาศึกษาวิเคราะห์ จัดทายกร่างหลักสูตรการศึกษาพระ ปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาบาลีและวิชาพระพุทธศาสนา ให้สอดคล้องกับบริบทของ การจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา และดาเนินการจัดพิมพ์หลักสูตรการศึกษาพระปริยัติธรร ม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาบาลีและวิชาพระพุทธศาสนา เผยแพร่แก่ผู้เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จใน ปีการศึกษา ๒๕๕๙ ทัง้ น้ี ตั้งแตบ่ ัดน้เี ป็นต้นไป สง่ั ณ วันท่ี ๒๓ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ (นายพนม ศรศิลป)์ ผู้อานวยการสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook