Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรวิทยาศาสตร์ สาระที่ 4 เทคโนโลยี(ฉบับสมบูรณ์)

หลักสูตรวิทยาศาสตร์ สาระที่ 4 เทคโนโลยี(ฉบับสมบูรณ์)

Published by คู่มือครู, 2020-07-20 20:29:41

Description: หลักสูตรวิทยาศาสตร์ สาระที่ 4 เทคโนโลยี(ฉบับสมบูรณ์)

Search

Read the Text Version

คานา ด้วยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทาตัวช้ีวัด และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สาระ เทคโนโลยี ในการนี้ได้กาหนดให้รายวิชาวิทยาศาสตร์ สาระเทคโนโลยี อยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ซ่ึงมีเป้าหมายมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเทคโนโลยเี พื่อดารงชวี ติ ในสงั คมทมี่ กี ารเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะเพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอยา่ งมีความคิดสรา้ งสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม บูรณาการกับศาสตร์อ่ืนโดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์อย่างเหมาะสม เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคมและ สิง่ แวดลอ้ ม การพัฒนาเอกสารประกอบหลักสูตร ได้ยึดกรอบแนวทางหลักการตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักการสร้างและพัฒนาหลักสูตรตามแนวทางของสานักวิชาการ และ มาตรฐานการศึกษาซึ่งนาสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) มาจัดทาหลักสูตร โดยได้รับความร่วมมือสนับสนุนอย่างดียิ่ง จากกรม วิชาการ ครูผู้สอน ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และผู้ท่ีเกี่ยวข้องให้ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการจัดทาเอกสารดังกล่าว ทาให้เอกสารมีความถูกต้องสมบูรณ์มากท่ีสุด จงึ ขอขอบพระคณุ มา ณ โอกาสนี้ คณะผจู้ ัดทา กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นหนองพอกวิทยาลัย

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพอื่ การดารงชวี ิตในสงั คมทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลงอยา่ ง รวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวทิ ยาศาสตร์คณติ ศาสตรแ์ ละศาสตร์อ่ืนๆเพอื่ แกป้ ัญหาหรือพฒั นางานอยา่ งมคี วามคิด สร้างสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเลอื กใช้เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ิตสงั คมและ สง่ิ แวดล้อม ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.1 1.อธบิ ายแนวคิดหลักของ - เทคโนโลยีเปน็ สิง่ ทีม่ นษุ ยส์ รา้ งหรอื พฒั นาข้นึ ซง่ึ อาจเปน็ ได้ เทคโนโลยใี นชีวิตประจาวันและ ทง้ั ช้ินงานหรือวธิ กี ารเพ่ือใช้แก้ปญั หาสนองความตอ้ งการหรือเพ่มิ วเิ คราะหส์ าเหตุหรือปจั จยั ท่ีสง่ ผล ความสามารถในการทางานของมนษุ ย์ ต่อการเปล่ียนแปลงของ - ระบบทางเทคโนโลยเี ป็นกลุ่มของสว่ นต่างๆต้ังแต่สองสว่ นขน้ึ ไป เทคโนโลยี ประกอบเขา้ ด้วยกัน และทางานร่วมกนั เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยในการทางานของระบบทางเทคโนโลยี จะประกอบไปดว้ ยตวั ปอ้ น (input) กระบวนการ(process) และผลผลิต (output) ทส่ี มั พนั ธก์ ันนอกจากน้ีระบบทางเทคโนโลยอี าจมีข้อมูลยอ้ นกลบั (feedback) เพอ่ื ใชป้ รบั ปรงุ การทางานไดต้ ามวัตถุประสงค์ซงึ่ การ วเิ คราะหร์ ะบบทางเทคโนโลยีชว่ ยให้ เขา้ ใจองค์ประกอบและการทางานของเทคโนโลยีรวมถึงสามารถ ปรบั ปรุงให้ เทคโนโลยีทางานได้ตามตอ้ งการ - เทคโนโลยีมกี ารเปลยี่ นแปลงตลอดเวลาต้งั แต่อดีตจนถึง ปจั จุบนั ซึง่ มีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลายด้านเช่นปญั หาความ ต้องการความกา้ วหน้าของศาสตรต์ ่างๆเศรษฐกจิ สังคม 2.ระบปุ ญั หาหรือความต้องการ - ปัญหาหรือความต้องการในชีวิตประจาวนั พบได้จากหลาย ในชีวิตประจาวันรวบรวม บริบทขนึ้ กับสถานการณท์ ปี่ ระสบเชน่ การเกษตรการอาหาร วิเคราะห์ขอ้ มลู และแนวคดิ ที่ - การแกป้ ญั หาจาเป็นต้องสืบค้นรวบรวมข้อมูลความรู้จาก เกยี่ วข้องกบั ปญั หา ศาสตร์ตา่ งๆทีเ่ ก่ยี วขอ้ งเพอ่ื นาไปสู่การออกแบบแนวทางการ แกป้ ัญหา 3.ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหาโดย - การวิเคราะห์เปรยี บเทยี บและตัดสนิ ใจเลอื กข้อมูลท่จี าเปน็ โดย วเิ คราะห์เปรยี บเทียบและตดั สิน คานงึ ถึงเง่ือนไขและทรัพยากรทม่ี อี ย่ชู ว่ ยใหไ้ ดแ้ นวทางการแกป้ ญั หา ใจเลอื กข้อมูลท่ีจาเปน็ นาเสนอ ทเี่ หมาะสม แนวทางการแกป้ ัญหาให้ผอู้ ่นื - การออกแบบแนวทางการแกป้ ญั หาทาได้หลากหลายวธิ เี ชน่ การ เข้าใจวางแผนและดาเนนิ การ รา่ งภาพการเขียนแผนภาพการเขียนผงั งาน แกป้ ัญหา - การกาหนดขนั้ ตอนและระยะเวลาในการทางานกอ่ นดาเนนิ การ

ชนั้ ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง แก้ปัญหาจะช่วยให้ทางานสาเรจ็ ไดต้ ามเปา้ หมาย (และลดข้อผดิ พลาดของการทางานที่อาจเกิดขึ้น) 4.ทดสอบประเมนิ ผลและระบุ - การทดสอบและประเมนิ ผลเปน็ การตรวจสอบชนิ้ งานหรอื ข้อบกพรอ่ งทเ่ี กิดข้ึนพรอ้ มทง้ั หา วธิ ีการว่าสามารถแกป้ ัญหาได้ตามวตั ถปุ ระสงค์ภายใต้กรอบของ แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ขและ ปญั หาเพอื่ หาขอ้ บกพร่องและดาเนินการปรับปรุงโดยอาจทดสอบซ้า นาเสนอผลการแกป้ ัญหา เพื่อให้สามารถแก้ไขปญั หาได้ - การนาเสนอผลงานเปน็ การถา่ ยทอดแนวคิดเพือ่ ให้ผูอ้ นื่ เขา้ ใจ เกี่ยวกบั กระบวนการทางานและชน้ิ งานหรือวิธีการที่ได้ซง่ึ สามารถ ทาได้หลายวธิ ีเชน่ การเขียนรายงานการทาแผน่ นาเสนอผลงานการ จดั นทิ รรศการการนาเสนอผา่ นสื่อออนไลน์ 5.ใช้ความรแู้ ละทักษะเก่ยี วกับ - วัสดแุ ตล่ ะประเภทมีสมบตั แิ ตกต่างกัน เช่น ไมโ้ ลหะพลาสตกิ วสั ดุอปุ กรณ์เคร่ืองมอื กลไกไฟฟ้า จึงต้องมีการวิเคราะห์ สมบตั ิเพอื่ เลอื กใช้ใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะ หรืออิเลก็ ทรอนิกสเ์ พื่อแก้ปัญหา ของงาน ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสมและ - การสรา้ งชน้ิ งานอาจใชค้ วามรเู้ ร่อื งกลไกไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ปลอดภยั เช่น LED บัซเซอร์ มอเตอรว์ งจรไฟฟ้า - อุปกรณแ์ ละเคร่ืองมอื ในการสรา้ งช้ินงานหรอื พฒั นาวธิ ีการมี หลายประเภทตอ้ งเลือกใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภยั รวมทั้ง รู้จักเกบ็ รกั ษา ม.2 1.คาดการณ์แนวโน้ม - สาเหตหุ รอื ปัจจยั ต่างๆเชน่ ความก้าวหนา้ ของศาสตร์ต่างๆการ เทคโนโลยที ่ีจะเกิดขึ้นโดย เปล่ยี นแปลงทางด้านเศรษฐกิจสังคมวฒั นธรรมทาใหเ้ ทคโนโลยมี ี พิจารณาจากสาเหตหุ รอื ปจั จยั ท่ี การเปล่ยี นแปลงตลอดเวลา สง่ ผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของ - เทคโนโลยแี ต่ละประเภทมีผลกระทบตอ่ ชวี ิตสงั คมและ เทคโนโลยแี ละวิเคราะห์ ส่ิงแวดล้อมทแ่ี ตกตา่ งกนั จึงต้องวเิ คราะห์เปรียบเทยี บข้อดีข้อเสีย เปรยี บเทียบตดั สนิ ใจเลอื กใช้ และตัดสินใจเลือกใช้ให้เหมาะสม เทคโนโลยีโดยคานึงถึงผลกระทบ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ตอ่ ชีวิตสงั คมและ ส่ิงแวดล้อม 2.ระบปุ ญั หาหรือความ - ปัญหาหรอื ความต้องการในชุมชนหรือทอ้ งถนิ่ มีหลายอยา่ ง ตอ้ งการในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถิ่นสรปุ ขึน้ กับบรบิ ทหรอื สถานการณ์ทป่ี ระสบเช่นดา้ นพลังงานสิ่งแวดล้อม กรอบของปัญหารวบรวม การเกษตรการอาหาร วเิ คราะหข์ อ้ มลู และแนวคิด - การระบปุ ญั หาจาเปน็ ต้องมกี ารวเิ คราะหส์ ถานการณ์ของ ท่ีเกย่ี วข้องกบั ปัญหา ปญั หาเพื่อสรุปกรอบของปญั หาแล้วดาเนนิ การสบื ค้นรวบรวมขอ้ มูล ความรูจ้ ากศาสตร์ต่างๆทเี่ กยี่ วข้องเพ่อื นาไปสู่การออกแบบแนว ทางการแก้ปัญหา 3.ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดย - การวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทียบและตดั สินใจเลอื กขอ้ มลู ทีจ่ าเปน็ โดย

ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง วเิ คราะห์เปรยี บเทียบและ คานงึ ถึงเงือ่ นไขและ ตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเปน็ ทรัพยากรเชน่ งบประมาณเวลาข้อมูลและสารสนเทศวัสดุเครื่องมือ ภายใต้เง่อื นไขและทรัพยากร และอุปกรณ์ ทีม่ อี ยูน่ าเสนอแนวทางการ ช่วยให้ได้แนวทางการแก้ปญั หาทเ่ี หมาะสม แก้ปัญหาใหผ้ ูอ้ ่ืนเข้าใจวางแผน - การออกแบบแนวทางการแกป้ ญั หาทาได้หลากหลายวธิ ีเช่นการ ขน้ั ตอนการทางานและดาเนิน ร่างภาพการเขียน แผนภาพการเขยี นผังงาน การแก้ปญั หาอยา่ งเป็นข้ันตอน - การกาหนดข้ันตอนระยะเวลาในการทางานกอ่ นดาเนินการ แกป้ ญั หาจะช่วยให้การทางานสาเร็จไดต้ ามเปา้ หมายและลด ข้อผดิ พลาดของการทางานทีอ่ าจเกิดขึน้ 4.ทดสอบประเมินผลและ - การทดสอบและประเมนิ เปน็ การตรวจสอบช้ินงานหรือวธิ ีการ อธบิ ายปญั หาหรือข้อบกพร่อง ว่าสามารถแกป้ ัญหาไดต้ ามวัตถปุ ระสงค์ภายใตก้ รอบของปญั หาเพอ่ื ท่เี กดิ ข้ึนภายใตก้ รอบเง่อื นไข หาข้อบกพรอ่ งและดาเนินการปรบั ปรงุ ให้สามารถแกไ้ ขปญั หาได้ พร้อมทัง้ หาแนวทางการ - การนาเสนอผลงานเปน็ การถา่ ยทอดแนวคิดเพ่อื ใหผ้ ้อู ื่นเข้าใจ ปรบั ปรงุ แก้ไขและนาเสนอผล เก่ียวกับกระบวนการทางานและชน้ิ งานหรือวิธกี ารที่ไดซ้ ึ่งสามารถ การแกป้ ญั หา ทาได้หลายวิธีเชน่ การเขียนรายงานการทาแผ่นนาเสนอผลงานการ จัดนิทรรศการการนาเสนอผา่ นสอ่ื ออนไลน์ 5.ใช้ความรู้และทักษะเกย่ี วกับ - วัสดุแต่ละประเภทมสี มบัตแิ ตกตา่ งกันเช่นไม้โลหะพลาสตกิ จึง วัสดุอุปกรณเ์ ครื่องมอื กลไก ต้องมกี ารวิเคราะหส์ มบัตเิ พอ่ื เลือกใช้ให้เหมาะสมกบั ลกั ษณะของ ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ งาน เพื่อแกป้ ัญหาหรอื พัฒนางาน - การสร้างช้นิ งานอาจใชค้ วามรเู้ ร่อื งกลไกไฟฟา้ อเิ ล็กทรอนิกส์ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและ เช่น LED มอเตอร์ บัซเซอร์เฟอื งรอกล้อเพลา ปลอดภัย - อุปกรณ์และเคร่ืองมือในการสร้างชน้ิ งานหรอื พฒั นาวธิ กี ารมี หลายประเภทต้องเลือกใช้ ใหถ้ กู ต้องเหมาะสมและปลอดภยั รวมทั้ง รู้จักเก็บรักษา ม.3 1.วิเคราะห์สาเหตหุ รอื ปัจจัยท่ี - เทคโนโลยีมกี ารเปลีย่ นแปลงตลอดเวลาต้งั แตอ่ ดตี จนถงึ ส่งผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของ ปจั จุบันซ่งึ มีสาเหตุหรอื ปัจจยั มาจากหลายดา้ นเช่นปญั หาหรอื เทคโนโลยีและความสัมพนั ธ์ ความตอ้ งการของมนษุ ย์ความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ ของเทคโนโลยีกบั ศาสตร์อน่ื ต่างๆการเปล่ียนแปลงทางดา้ นเศรษฐกจิ สังคมวฒั นธรรมสง่ิ แวดล้อม โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตรห์ รือ - เทคโนโลยีมคี วามสมั พนั ธก์ ับศาสตรอ์ ่ืนโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตรเ์ พอื่ เป็นแนวทาง โดยวทิ ยาศาสตร์ เป็นพ้นื ฐานความรทู้ ี่นาไปสูก่ ารพฒั นาเทคโนโลยี การแก้ปญั หาหรือพฒั นางาน และเทคโนโลยีทไี่ ดส้ ามารถเป็นเคร่อื งมือท่ใี ช้ในการศึกษาคน้ ควา้ เพอ่ื ให้ไดม้ าซ่งึ องคค์ วามรใู้ หม่ 2.ระบปุ ัญหาหรอื ความต้องการ - ปัญหาหรอื ความตอ้ งการอาจพบไดใ้ นงานอาชีพของชุมชนหรือ ของชมุ ชนหรือทอ้ งถ่นิ เพอื่ ท้องถน่ิ ซง่ึ อาจมีหลายดา้ น เชน่ ด้านการเกษตรอาหารพลงั งานการ พฒั นางานอาชพี สรปุ กรอบ ขนส่ง

ชนั้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ของปัญหารวบรวมวิเคราะห์ - การวเิ คราะห์สถานการณป์ ญั หาชว่ ยให้เขา้ ใจเง่อื นไขและกรอบ ข้อมูลและแนวคดิ ทีเ่ ก่ียวข้อง ของปัญหาได้ชดั เจนจากนั้นดาเนนิ การสืบคน้ รวบรวมขอ้ มลู ความรู้ กบั ปญั หาโดยคานงึ ถึง จากศาสตรต์ ่างๆทเ่ี กีย่ วขอ้ งเพอ่ื นาไปสู่ ความถกู ต้องดา้ นทรพั ยส์ นิ การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา ทางปัญญา 3.ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหา - การวเิ คราะหเ์ ปรียบเทยี บและตดั สนิ ใจเลือกข้อมูลท่ีจาเป็นโดย โดยวเิ คราะห์เปรยี บเทียบและ คานึงถึงทรพั ย์สนิ ทางปัญญาเงือ่ นไขและทรพั ยากรเชน่ งบประมาณ ตดั สินใจเลือกขอ้ มูลทจี่ าเปน็ เวลาข้อมลู และสารสนเทศวัสดุ ภายใตเ้ งอื่ นไขและทรพั ยากร เคร่ืองมอื และอปุ กรณช์ ่วยใหไ้ ด้แนวทางการแก้ปัญหาทีเ่ หมาะสม ท่มี อี ยนู่ าเสนอแนวทางการ - การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหาทาไดห้ ลากหลายวธิ เี ช่นการ แกป้ ัญหาให้ผอู้ ื่นเข้าใจดว้ ย รา่ งภาพการเขยี นแผนภาพการเขยี นผงั งาน เทคนคิ หรอื วิธีการทห่ี ลากหลาย - เทคนิคหรือวิธีการในการนาเสนอแนวทางการแกป้ ญั หามี วางแผนขั้นตอนการทางานและ หลากหลายเชน่ การใช้แผนภูมติ ารางภาพเคลอ่ื นไหว ดาเนินการแก้ปญั หาอย่างเปน็ - การกาหนดขัน้ ตอนและระยะเวลาในการทางานก่อนดาเนนิ การ ข้ันตอน แก้ปญั หาจะชว่ ยให้การทางานสาเร็จไดต้ ามเป้าหมายและลด ขอ้ ผดิ พลาดของการทางานทอี่ าจเกิดขึน้ 4.ทดสอบประเมินผลวิเคราะห์ - การทดสอบและประเมนิ ผลเปน็ การตรวจสอบชิ้นงานหรอื และให้เหตุผลของปัญหาหรือ วธิ กี ารว่าสามารถแกป้ ญั หาได้ตามวตั ถปุ ระสงค์ภายใต้กรอบของ ข้อบกพร่องท่ีเกิดข้ึนภายใต้ ปญั หาเพ่ือหาขอ้ บกพร่องและดาเนนิ การปรับปรุง กรอบเงื่อนไขพรอ้ มท้ังหา โดยอาจทดสอบซ้าเพ่ือใหส้ ามารถแกไ้ ขปญั หาได้ แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข - การนาเสนอผลงานเปน็ การถ่ายทอดแนวคิดเพื่อให้ผอู้ ่ืนเข้าใจ และนาเสนอผลการแก้ปญั หา เกย่ี วกับกระบวนการทางานและชิ้นงานหรือวธิ ีการท่ไี ด้ซึ่งสามารถ ทาได้หลายวิธีเช่นการเขียนรายงานการทาแผน่ นาเสนอผลงานการ จดั นทิ รรศการการนาเสนอผา่ นส่อื ออนไลน์ 5.ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกบั - วัสดแุ ตล่ ะประเภทมสี มบตั ิแตกตา่ งกันเชน่ ไม้โลหะพลาสติก วัสดุอุปกรณ์เครื่องมอื กลไก เซรามิกจงึ ต้องมกี ารวเิ คราะห์สมบัตเิ พือ่ เลอื กใช้ให้เหมาะสมกับ ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ให้ ลักษณะของงาน ถกู ต้องกับลกั ษณะของงาน - การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรเู้ รอื่ งกลไกไฟฟา้ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และปลอดภยั เพ่อื แกป้ ัญหา เช่น LEDLDR มอเตอร์ เฟอื งคานรอกลอ้ เพลา หรือพฒั นางาน - อปุ กรณ์และเคร่อื งมือในการสรา้ งชนิ้ งานหรอื พฒั นาวธิ ีการ มีหลายประเภทต้องเลอื กใช้ ใหถ้ กู ต้องเหมาะสมและปลอดภัยรวม ทง้ั รู้จกั เก็บรักษา ม.4 1.วิเคราะห์แนวคิดหลกั ของ - ระบบทางเทคโนโลยเี ป็นกลมุ่ ของสว่ นตา่ งๆตั้งแตส่ องส่วนขนึ้ ไป เทคโนโลยีความสัมพันธก์ บั ประกอบเขา้ ด้วยกนั และทางานรว่ มกนั เพื่อให้บรรลุวตั ถปุ ระสงคโ์ ดย ศาสตร์อ่นื โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ ในการทางานของระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบไปด้วยตวั ป้อน

ช้นั ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง หรอื คณติ ศาสตรร์ วมท้ังประเมนิ (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต(output) ทสี่ ัมพนั ธ์กัน ผลกระทบท่ีจะเกิดขนึ้ ตอ่ มนษุ ย์ นอกจากน้ีระบบทางเทคโนโลยอี าจมขี ้อมูลย้อนกลับ สงั คมเศรษฐกิจและสิง่ แวดลอ้ ม (feedback)เพือ่ ใชป้ รบั ปรงุ การทางานได้ตามวตั ถุประสงค์โดยระบบ เพอื่ เป็นแนวทางในการพฒั นา ทางเทคโนโลยีอาจมีระบบย่อยหลายระบบ(subsystems)ท่ีทางาน เทคโนโลยี สมั พนั ธ์กันอยูแ่ ละหากระบบย่อยใดทางานผิดพลาดจะส่งผลตอ่ การ ทางานของระบบอื่นด้วย - เทคโนโลยีมีการเปลย่ี นแปลงตลอดเวลาตัง้ แต่อดีตจนถึง ปจั จุบนั ซึง่ มีสาเหตุหรอื ปัจจยั มาจากหลายด้านเช่นปญั หาความ ตอ้ งการความกา้ วหน้าของศาสตรต์ ่างๆ เศรษฐกิจสงั คมวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม 2.ระบปุ ญั หาหรือความต้องการ - ปัญหาหรอื ความต้องการท่ีมผี ลกระทบตอ่ สงั คมเช่นปญั หาดา้ น ท่ีมผี ลกระทบตอ่ สงั คมรวบรวม การเกษตรอาหาร พลังงานการขนสง่ สุขภาพและการแพทยก์ าร ขอ้ มูลและแนวคิดท่เี กี่ยวขอ้ งกับ บรกิ ารซงึ่ แตล่ ะด้านอาจมีได้ หลากหลายปญั หา ปญั หาที่มคี วามซับซ้อนเพื่อ - การวเิ คราะห์สถานการณ์ปัญหาโดยอาจใช้เทคนคิ หรือวธิ กี าร สงั เคราะห์วิธีการเทคนคิ ในการ วิเคราะหท์ ่ีหลากหลายช่วยใหเ้ ขา้ ใจเง่ือนไขและกรอบของปญั หาได้ แก้ปญั หาโดยคานึงถงึ ความ ชัดเจนจากนั้นดาเนนิ การสืบค้นรวบรวมขอ้ มูลความรู้จากศาสตร์ ถูกตอ้ งดา้ นทรัพย์สนิ ทางปญั ญา ตา่ งๆทเี่ กี่ยวขอ้ งเพ่อื นาไปส่กู ารออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา 3.ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดย - การวเิ คราะหเ์ ปรียบเทยี บและตดั สินใจเลอื กขอ้ มลู ท่ีจาเป็นโดย วเิ คราะห์เปรยี บเทียบและ คานงึ ถงึ ทรัพย์สินทางปญั ญาเงอ่ื นไขและทรัพยากรเชน่ งบประมาณ ตดั สินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเป็น เวลาข้อมูลและสารสนเทศวัสดเุ ครอ่ื งมอื และอุปกรณช์ ว่ ยใหไ้ ด้แนว ภายใตเ้ ง่ือนไขและทรัพยากรที่มี ทางการแก้ปัญหาท่ีเหมาะสม อยนู่ าเสนอแนวทางการแกป้ ญั หา - การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาทาไดห้ ลากหลายวธิ ีเชน่ การ ให้ผอู้ ่ืนเข้าใจดว้ ยเทคนิคหรือ รา่ งภาพการเขยี นแผนภาพการเขียนผงั งาน วิธกี ารทีห่ ลากหลายโดยใช้ - ซอฟต์แวร์ชว่ ยในการออกแบบและนาเสนอมีหลากหลายชนิด ซอฟต์แวร์ชว่ ยในการออกแบบ จงึ ตอ้ งเลอื กใชใ้ ห้เหมาะกบั งาน วางแผนข้ันตอนการทางานและ - การกาหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการทางานก่อนดาเนนิ การ ดาเนินการแกป้ ญั หา แกป้ ัญหาจะชว่ ยให้การทางานสาเรจ็ ไดต้ ามเปา้ หมายและลด ข้อผดิ พลาดของการทางานท่ีอาจเกดิ ขนึ้ 4.ทดสอบประเมนิ ผลวิเคราะห์ - การทดสอบและประเมนิ ผลเปน็ การตรวจสอบช้ินงานหรือ และให้เหตุผลของปญั หาหรือ วธิ ีการวา่ สามารถแก้ปญั หาได้ตามวัตถปุ ระสงคภ์ ายใต้กรอบของ ข้อบกพรอ่ งทเ่ี กิดข้ึนภายใตก้ รอบ ปญั หาเพอื่ หาข้อบกพรอ่ งและดาเนินการปรับปรุงโดยอาจทดสอบซ้า เงื่อนไขหาแนวทางการปรบั ปรุง เพอื่ ใหส้ ามารถแกไ้ ขปญั หาได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ แก้ไขและนาเสนอผลการ - การนาเสนอผลงานเปน็ การถ่ายทอดแนวคิดเพ่อื ใหผ้ ูอ้ น่ื เขา้ ใจ แก้ปญั หาพรอ้ มทั้งเสนอแนว เก่ยี วกับกระบวนการทางานและชิน้ งานหรอื วธิ กี ารทไ่ี ดซ้ ง่ึ สามารถ ทางการพฒั นาตอ่ ยอด ทาได้หลายวธิ ีเชน่ การทาแผน่ นาเสนอผลงานการจัดนทิ รรศการการ

ชนั้ ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง นาเสนอผา่ นสอื่ ออนไลนห์ รอื การนาเสนอตอ่ ภาคธุรกิจเพือ่ การ พัฒนาต่อยอดสงู่ านอาชีพ 5.ใช้ความรแู้ ละทกั ษะเก่ยี วกบั - วัสดแุ ตล่ ะประเภทมีสมบตั แิ ตกตา่ งกันเช่นไม้สังเคราะหโ์ ลหะจงึ วสั ดุอปุ กรณเ์ ครอ่ื งมือกลไกไฟฟ้า ตอ้ งมกี ารวเิ คราะห์ และอเิ ล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี สมบตั ิเพื่อเลอื กใช้ใหเ้ หมาะสมกบั ลักษณะของงาน ท่ีซับซอ้ นในการแกป้ ญั หาหรือ - การสร้างชิน้ งานอาจใชค้ วามรเู้ ร่อื งกลไกไฟฟา้ อเิ ล็กทรอนิกส์ พฒั นางานได้อย่างถกู ต้อง เชน่ LDRsensor เฟอื งรอกคานวงจรสาเรจ็ รูป เหมาะสมและปลอดภยั - อปุ กรณแ์ ละเคร่ืองมอื ในการสร้างช้ินงานหรอื พัฒนาวธิ ีการมี หลายประเภทต้องเลอื กใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภยั รวมทงั้ รจู้ ักเกบ็ รักษา ม.5 1.ประยกุ ตใ์ ชค้ วามร้แู ละทกั ษะ - การทาโครงงานเป็นการประยุกต์ใชค้ วามรู้และทกั ษะจาก จากศาสตรต์ ่างๆรวมทั้ง ศาสตร์ต่างๆรวมท้งั ทรัพยากรในการสรา้ งหรือพฒั นาชิน้ งานหรอื ทรพั ยากรในการทาโครงงานเพอ่ื วิธีการเพือ่ แกป้ ญั หาหรืออานวยความสะดวกในการทางาน แกป้ ญั หาหรือพัฒนางาน - การทาโครงงานการออกแบบและเทคโนโลยีสามารถดาเนินการ ได้โดยเรมิ่ จากการสารวจสถานการณป์ ญั หาท่ีสนใจเพ่ือกาหนดหวั ข้อ โครงงานแล้วรวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ท่เี กี่ยวข้องกับปัญหา ออกแบบแนวทางการแกป้ ญั หาวางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา ทดสอบประเมินผลปรับปรงุ แก้ไขวธิ กี ารแกป้ ัญหาหรือ ชิ้นงานและนาเสนอวิธีการแก้ปญั หา

ว 4.2 เขา้ ใจ และใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชวี ิตจรงิ อย่างเป็นข้นั ตอนและเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ร้เู ท่า ทัน และมีจริยธรรม ช้นั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.1 1.ออกแบบอลั กอริทึมทใี่ ช้ - แนวคิดเชิงนามธรรม เปน็ การประเมินความสาคัญของ แนวคดิ เชงิ นามธรรม รายละเอียดของปัญหา แยกแยะส่วนที่เป็นสาระสาคญั เพอ่ื แก้ปญั หาหรืออธิบาย ออกจากส่วนทไ่ี มใ่ ชส่ าระสาคญั การทางานทีพ่ บในชีวติ จรงิ - ตัวอย่างปญั หา เช่น ตอ้ งการปูหญ้าในสนามตามพ้นื ท่ี ที่กาหนด โดยหญ้าหนึง่ ผืนขนาดความกว้าง 50 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร จะใช้หญา้ ทั้งหมดกี่ผืน 2.ออกแบบและเขียนโปรแกรม - การออกแบบและเขียนโปรแกรมทีม่ กี ารใชต้ ัวแปร เง่อื นไข อย่างงา่ ย เพื่อแกป้ ัญหาทาง วนซ้า คณติ ศาสตร์หรือวทิ ยาศาสตร์ - การออกแบบอัลกอริทึมเพ่ือแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งงา่ ย อาจใชแ้ นวคิดเชงิ นามธรรมในการ ออกแบบเพ่ือใหก้ ารแกป้ ญั หามปี ระสิทธภิ าพ - การแก้ปัญหาอย่างเปน็ ขนั้ ตอนจะชว่ ยใหแ้ ก้ปญั หาได้อยา่ ง มีประสิทธิภาพ - ซอฟตแ์ วรท์ ี่ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม เชน่ Scratch, python, java, c - ตวั อย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมสมการการเคลือ่ นที่ โปรแกรมคานวณหาพนื้ ท่ี โปรแกรมคานวณดัชนมี วลกาย 3.รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ - การรวบรวมข้อมูลจากแหลง่ ขอ้ มูลปฐมภมู ิ ประมวลผล ประมวลผล ประเมนิ ผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมินผล จะทาใหไ้ ด้สารสนเทศเพ่อื นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ใชใ้ นการแกป้ ัญหาหรือการตดั สินใจไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตามวัตถปุ ระสงคโ์ ดยใช้ - การประมวลผลเปน็ การกระทากับข้อมลู เพ่อื ใหไ้ ด้ผลลพั ธ์ ซอฟต์แวร์หรอื บริการบน ท่มี ีความหมายและมีประโยชนต์ อ่ การนาไปใชง้ าน อนิ เทอร์เนต็ ทีห่ ลากหลาย สามารถทาไดห้ ลายวิธี เชน่ คานวณอัตราส่วน คานวณ ค่าเฉลยี่ - การใช้ซอฟตแ์ วร์หรือบริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ ที่หลากหลาย ในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมินผล นาเสนอ จะชว่ ยใหแ้ ก้ปัญหาได้อย่างรวดเรว็ ถกู ต้องและแม่นยา - ตวั อย่างปญั หา เนน้ การบูรณาการกับวชิ าอ่นื เชน่ ต้มไขใ่ หต้ รงกับพฤติกรรมการบริโภค ค่าดัชนมี วลกาย ของคนในทอ้ งถิน่ การสรา้ งกราฟผลการทดลองและวเิ คราะห์ แนวโน้ม

ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 4.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ - ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย เชน่ การปกปอ้ ง อยา่ งปลอดภัย ใช้สอื่ และ ความเป็นสว่ นตวั และอตั ลกั ษณ์ แหล่งข้อมูลตามข้อกาหนด - การจัดการอตั ลกั ษณ์ เชน่ การต้ังรหัสผ่าน การปกป้อง และขอ้ ตกลง ขอ้ มลู สว่ นตวั - การพจิ ารณาความเหมาะสมของเนอ้ื หา เชน่ ละเมดิ ความ เป็นส่วนตวั ผอู้ ่นื อนาจาร วจิ ารณผ์ อู้ ื่นอยา่ งหยาบคาย - ขอ้ ตกลง ขอ้ กาหนดในการใช้สอื่ หรอื แหลง่ ข้อมลู ต่าง ๆ เช่น Creative Commons ม.2 1.ออกแบบอัลกอริทมึ ท่ใี ช้ - แนวคดิ เชิงคานวณ แนวคดิ เชงิ คานวณในการ - การแก้ปญั หาโดยใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณ แกป้ ัญหา หรอื การทางาน - ตัวอย่างปญั หา เช่น การเขา้ แถวตามลาดบั ความสูงให้เรว็ ทีส่ ุด ที่พบในชีวติ จรงิ จดั เรยี งเสอ้ื ให้หาไดง้ า่ ยทีส่ ุด 2.ออกแบบและเขียนโปรแกรม - ตัวดาเนินการบลู นี ทใ่ี ช้ตรรกะและฟงั กช์ ัน - ฟงั กช์ ัน ในการแก้ปัญหา - การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่มี กี ารใชต้ รรกะและฟงั ก์ชัน - การออกแบบอัลกอรทิ มึ เพือ่ แก้ปญั หา อาจใชแ้ นวคิดเชิง คานวณในการออกแบบเพอื่ ใหก้ ารแก้ปญั หามปี ระสทิ ธภิ าพ - การแกป้ ญั หาอย่างเป็นขน้ั ตอนจะช่วยให้แกป้ ัญหาได้อย่าง มีประสทิ ธิภาพ - ซอฟต์แวรท์ ่ใี ชใ้ นการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c - ตวั อย่างโปรแกรม เชน่ โปรแกรมตัดเกรด หาคาตอบท้งั หมด ของอสมการหลายตัวแปร 3. อภิปรายองคป์ ระกอบและ - องค์ประกอบและหลกั การทางานของระบบคอมพิวเตอร์ หลกั การทางานของระบบ - เทคโนโลยีการสื่อสาร คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยี - การประยกุ ตใ์ ช้งานและการแก้ปญั หาเบอื้ งตน้ การสื่อสาร เพ่ือประยกุ ตใ์ ช้ งานหรือแกป้ ัญหาเบือ้ งตน้ 4. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ - ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย โดยเลอื กแนวทาง อย่างปลอดภยั มีความรบั ผิดชอบ ปฏิบัตเิ มอ่ื พบเน้ือหาท่ีไม่เหมาะสม เชน่ แจ้งรายงาน สร้างและแสดงสิทธิใ์ นการ ผูเ้ กี่ยวขอ้ ง ป้องกนั การเข้ามาของขอ้ มูลท่ไี ม่เหมาะสม เผยแพร่ผลงาน ไม่ตอบโต้ ไม่เผยแพร่ - การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ เช่น ตระหนกั ถงึ ผลกระทบในการเผยแพร่ข้อมลู

ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.3 1. พัฒนาแอปพลเิ คชันที่มกี าร - การสร้างและแสดงสิทธคิ วามเปน็ เจ้าของผลงาน บูรณาการกับวชิ าอ่ืนอย่าง - การกาหนดสทิ ธิก์ ารใชข้ อ้ มูล สร้างสรรค์ - ขนั้ ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชัน 2.รวบรวมขอ้ มลู ประมวลผล - Internet of Things (IoT) ประเมนิ ผล นาเสนอ - ซอฟตแ์ วร์ทีใ่ ช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชัน เช่น Scratch, ข้อมูลและสารสนเทศ python, java, c, AppInventor ตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ - ตัวอย่างแอปพลิเคชนั เชน่ โปรแกรมแปลงสกลุ เงนิ ซอฟต์แวร์ หรือบรกิ ารบน โปรแกรมผนั เสยี งวรรณยุกต์ โปรแกรมจาลองการแบ่งเซลล์ อินเทอรเ์ น็ตท่หี ลากหลาย ระบบรดนา้ อัตโนมัติ 3.ประเมนิ ความน่าเชื่อถือ - การรวบรวมข้อมลู จากแหล่งขอ้ มูลปฐมภูมิและทุตยิ ภูมิ ของขอ้ มูล วเิ คราะหส์ ่ือ ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมินผล จะทาให้ได้สารสนเทศ และผลกระทบจากการ เพ่อื ใช้ในการแก้ปญั หาหรอื การตัดสนิ ใจได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ ใหข้ า่ วสารที่ผิด เพ่อื การ ใชง้ านอยา่ งรู้เทา่ ทัน - การประมวลผลเป็นการกระทากับขอ้ มลู เพ่อื ให้ไดผ้ ลลพั ธ์ ท่ีมคี วามหมายและมปี ระโยชน์ตอ่ การนาไปใช้งาน 4.ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ อยา่ งปลอดภยั และมคี วาม - การใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือบริการบนอินเทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลาย รบั ผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติ ในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมินผล ตามกฎหมายเก่ยี วกับ นาเสนอ จะช่วยให้แก้ปญั หาได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และ คอมพิวเตอร์ ใช้ลิขสิทธ์ิ แมน่ ยา - ตัวอยา่ งปัญหา เช่น การเลือกโปรโมชันโทรศัพท์ใหเ้ หมาะ กับพฤตกิ รรมการใช้งาน สนิ คา้ เกษตรท่ีตอ้ งการและ สามารถปลกู ได้ในสภาพดนิ ของทอ้ งถิน่ - การประเมนิ ความนา่ เชื่อถอื ของขอ้ มูล เชน่ ตรวจสอบและ ยนื ยนั ข้อมลู โดยเทียบเคียงจากขอ้ มลู หลายแหล่ง แยกแยะ ขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ ข้อเทจ็ จริงและข้อคดิ เหน็ หรอื ใช้ PROMPT - การสืบค้น หาแหลง่ ต้นตอของขอ้ มลู - เหตผุ ลวิบัติ (logical fallacy) - ผลกระทบจากข่าวสารที่ผดิ พลาด - การรู้เท่าทันสอ่ื เชน่ การวเิ คราะหถ์ งึ จุดประสงค์ของขอ้ มูล และผู้ให้ขอ้ มูล ตีความ แยกแยะเน้อื หาสาระของสือ่ เลอื ก แนวปฏบิ ัตไิ ดอ้ ย่างเหมาะสมเม่อื พบข้อมลู ต่าง ๆ - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เชน่ การทา ธุรกรรมออนไลน์ การซ้ือสนิ คา้ ซื้อซอฟต์แวร์ ค่าบริการ- สมาชิก ซือ้ ไอเท็ม - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมคี วามรบั ผดิ ชอบ เชน่ ไม่สรา้ งข่าวลวง ไมแ่ ชร์ข้อมูลโดยไมต่ รวจสอบข้อเทจ็ จรงิ

ชัน้ ตวั ชี้วัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ของผอู้ ่นื โดยชอบธรรม - กฎหมายเกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ ม.4 1.ประยุกต์ใช้แนวคดิ เชงิ - การใชล้ ิขสทิ ธิ์ของผู้อน่ื โดยชอบธรรม (fair use) คานวณ ในการพัฒนาโครงงานทม่ี ีการ - การพฒั นาโครงงาน บูรณาการกับวชิ าอนื่ อยา่ ง - การนาแนวคิดเชงิ คานวณไปพฒั นาโครงงานท่เี ก่ยี วกบั ชีวิต สร้างสรรค์ และเชือ่ มโยงกับ ประจาวัน เช่น การจัดการพลังงาน อาหาร การเกษตร ชีวติ จริง การตลาด การคา้ ขาย การทาธุรกรรม สุขภาพ และสิ่งแวดลอ้ ม - ตวั อยา่ งโครงงาน เชน่ ระบบดแู ลสขุ ภาพ ระบบอัตโนมตั ิ ม.5 1.รวบรวม วเิ คราะห์ขอ้ มลู ควบคุมการปลูกพืช ระบบจัดเสน้ ทางการขนสง่ ผลผลิต และใชค้ วามรู้ดา้ นวิทยาการ ระบบแนะนาการใช้งานห้องสมุดท่มี กี ารโตต้ อบกับผูใ้ ช้และ คอมพิวเตอร์ สอื่ ดิจทิ ลั เชื่อมต่อกบั ฐานขอ้ มูล เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการ แก้ปญั หาหรือเพิม่ มลู ค่าใหก้ ับ - การนาความรดู้ ้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สอื่ ดิจิทัล และ บริการหรือผลิตภณั ฑ์ทใ่ี ช้ใน เทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้แกป้ ญั หากับชีวติ จรงิ ชีวติ จริงอยา่ งสร้างสรรค์ - การเพ่ิมมลู คา่ ให้บรกิ ารหรือผลิตภัณฑ์ ม.6 1.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศใน - การเกบ็ ขอ้ มลู และการจดั เตรียมขอ้ มูลให้พร้อมกบั การ การนาเสนอและแบ่งปันข้อมูล ประมวลผล อย่างปลอดภัย มีจรยิ ธรรม และ - การวิเคราะหข์ ้อมูลทางสถิติ วเิ คราะห์การเปล่ียนแปลง - การประมวลผลข้อมลู และเคร่อื งมือ - การทาข้อมลู ให้เปน็ ภาพ (data visualization) เช่น bar chart, scatter, histogram - การเลือกใชแ้ หล่งขอ้ มลู เชน่ data.go.th, wolfram alpha, OECD.org, ตลาดหลักทรัพย์, world economic forum - คณุ ค่าของขอ้ มลู และกรณศี กึ ษา - กรณศี กึ ษาและวธิ กี ารแก้ปญั หา - ตวั อยา่ งปญั หา เช่น - รปู แบบของบรรจภุ ัณฑ์ที่ดึงดดู ความสนใจและตรง ตามความต้องการผู้ใชใ้ นแต่ละประเภท - การกาหนดตาแหน่งป้ายรถเมล์เพอ่ื ลดเวลาเดินทาง และปญั หาการจราจร - สารวจความต้องการรบั ประทานอาหารในชุมชนและ เลือกขายอาหารที่จะได้กาไรสูงสุด - ออกแบบรายการอาหาร 7 วนั สาหรบั ผ้ปู ว่ ยเบาหวาน - การนาเสนอและแบง่ ปนั ข้อมูล เชน่ การเขียนบล็อก อปั โหลดวิดโี อ ภาพ อนิ โฟกราฟกิ - การนาเสนอและแบ่งปนั ขอ้ มูลอย่างปลอดภัย เชน่ ระมัด ระวงั ผลกระทบทต่ี ามมาเมอื่ มกี ารแบ่งปันขอ้ มูลหรือเผยแพร่

ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง เทคโนโลยีสารสนเทศที่มีผลต่อ ไมส่ ร้างความเดือดรอ้ นต่อตนเองและผ้อู ื่น การดาเนนิ ชวี ิต อาชีพ สังคม - จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และวัฒนธรรม เทคโนโลยีเกดิ ใหม่ แนวโนม้ ในอนาคต การเปล่ยี นแปลง ของเทคโนโลยี - นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ทีเ่ กย่ี วข้องกบั ชวี ิต ประจาวัน - อาชพี เกี่ยวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ - ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการดาเนนิ ชวี ิต อาชพี สังคม และวฒั นธรรม

สาระที่ 4 เทคโนโลยี มธั ยมศึกษาตอนตน้ ระดับชั้น หอ้ ง รหัสวิชา ภาคเรยี นที่ 1 หน่วยกติ ประเภท ม.1 1/1-1/7 ว21181 ชอ่ื วชิ า 1.0 (40) พน้ื ฐาน ม.2 2/1 -2/7 ว22181 1.0 (40) พื้นฐาน ม.3 3/1–3/7 ว23181 วทิ ยาการคานวณ 1 1.0 (40) พ้ืนฐาน วิทยาการคานวณ 2 วิทยาการคานวณ 3 ระดับช้นั หอ้ ง รหัสวชิ า ภาคเรียนท่ี 2 หน่วยกิต ประเภท ม.1 1/1-1/7 ว21182 ชอื่ วชิ า 1.0 (40) พ้นื ฐาน ม.2 2/1-2/7 ว22182 1.0 (40) พืน้ ฐาน ม.3 3/1– 3/7 ว23182 การออกแบบและเทคโนโลยี1 1.0 (40) พ้นื ฐาน การออกแบบและเทคโนโลยี2 การออกแบบและเทคโนโลยี3 มัธยมศึกษาตอนปลาย ระดับช้ัน ห้อง รหสั วิชา ภาคเรียนท่ี 1 หนว่ ยกติ ประเภท ม.4 4/1-4/7 ว31181 ชอื่ วชิ า 1.0 (40) พ้ืนฐาน ม.5 5/1-5/7 ว32181 1.0 (40) พ้นื ฐาน ม.5 ว30210 วิทยาการคานวณ 1 1.0 (40) เพมิ่ เตมิ ม.6 5/5 ว33181 วิทยาการคานวณ 2 1.0 (40) พืน้ ฐาน ม.6 6/1-6/7 ว30212 คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ 1.0 (40) เพมิ่ เตมิ วิทยาการคานวณ 3 6/5 การนาเสนอดว้ ยวดี ทิ ศั น์ ระดบั ช้ัน ห้อง รหัสวชิ า ภาคเรียนที่ 2 หน่วยกิต ประเภท ม.4 4/1-4/7 ว31182 ชอ่ื วิชา 1.0 (40) พ้ืนฐาน ม.5 5/1-5/7 ว32182 1.0 (40) พน้ื ฐาน ม.5 ว30211 การออกแบบและเทคโนโลยี1 1.0 (40) เพม่ิ เติม ม.6 5/5 ว33182 การออกแบบและเทคโนโลย2ี 1.0 (40) พน้ื ฐาน ม.6 6/1-6/7 ว30213 การสร้างเวบ็ ไซตเ์ บ้อื งตน้ 1.0 (40) เพมิ่ เติม ตารางคานวณขน้ั สูง 6/5 โครงงานคอมพิวเตอร์

คาอธบิ ายรายวชิ า มธั ยมศกึ ษาตอนตน้

คาอธบิ ายรายวชิ า ว21181 วิทยาการคานวณ1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาแนวคิดเชิงนามธรรม การคัดเลือกคุณลักษณะท่ีจาเป็นต่อการแก้ปัญหา ข้ันตอน การแก้ปัญหา การเขียนรหัสลาลองและผังงาน การเขียนออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย ท่ีมีการใช้งานตัวแปร เง่ือนไข และการวนซ้า เพื่อแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ การรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ การประมวลผลข้อมูล การสร้างทางเลือกและประเมินผลเพ่ือตัดสินใจ ซอฟต์แวร์และบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ีใช้ในการจัดการข้อมูล แนวทางการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศใหป้ ลอดภัยการจดั การอตั ลักษณ์ การพิจารณาความเหมาะสมของเน้ือหา ข้อตกลงและขอ้ กาหนดการใชส้ ื่อและแหลง่ ข้อมลู นาแนวคิดเชิงนามธรรมและขัน้ ตอนการแกป้ ญั หา ไปประยุกต์ใช้ ในการเขียนโปรแกรม หรอื การแก้ปัญหาในชีวิตจริง รวบรวมข้อมูลและสร้างทางเลือก ในการตัดสินใจได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ และตระหนกั ถึงการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ และไม่ สร้างความเสยี หายใหแ้ ก่ผอู้ ่นื โดยใช้ทักษะการคิดเชงิ คานวณในการคดิ วเิ คราะห์ แกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและเป็นระบบ มีทักษะใน การคน้ หาข้อมลู หรอื สารสนเทศ ประเมนิ จดั การ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และนาสารสนเทศไปใช้ในการแก้ปญั หา ประยกุ ตใ์ ช้ความรดู้ า้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สอ่ื ดจิ ทิ ัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร ในการแกป้ ัญหาใน ชวี ิตจริง การทางานรว่ มกนั อยา่ งสรา้ งสรรคเ์ พือ่ ประโยชน์ต่อตนเองหรือสงั คม เพ่อื เห็นคณุ ค่าของเทคโนโลยีและมีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร อย่างปลอดภยั รู้เท่าทนั มคี วามรับผดิ ชอบ มีจรยิ ธรรม ตวั ช้ีวัด ว 4.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4 รวม 4 ตวั ชว้ี ดั

คาอธิบายรายวชิ า ว21182 การออกแบบและเทคโนโลยี1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษา ความหมายของเทคโนโลยี วิเคราะห์สาเหตุหรอื ปัจจัยท่ีสง่ ผลตอ่ การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี การทางานของระบบทางเทคโนโลยี ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ ทกั ษะ และทรัพยากร โดยวเิ คราะหเ์ ปรียบเทียบและเลอื ก ขอ้ มูลท่จี าเป็นเพือ่ ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาในชวี ิตประจาวนั ในดา้ นการเกษตรและอาหาร และสร้างชิ้นงานหรือ พัฒนาวธิ กี ารโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม รวมทงั้ เลือกใชว้ สั ดุอุปกรณ์ เครื่องมอื ในการแกป้ ัญหาได้ อยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั โดยใช้ กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม พัฒนางานอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน การคิดเชิงระบบใชค้ วามรู้และ ทกั ษะ ความคิดสร้างสรรค์ การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ การสื่อสารและการทางานร่วมกบั ผู้อ่นื เพอ่ื เหน็ คุณค่าของเทคโนโลยีและมีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อย่างปลอดภัย รู้เท่าทนั มคี วามรบั ผิดชอบ มีจริยธรรม ตัวชีว้ ัด ว 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5 รวม 5 ตวั ช้ีวดั

คาอธบิ ายรายวิชา ว22181 วทิ ยาการคานวณ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหา หรือการทางานท่ีพบในชีวิตจริงออกแบบและออกแบบ อัลกอรทิ มึ เขียนโปรแกรมที่ใชต้ รรกะและฟงั ก์ชนั ในการแก้ปัญหา อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทางานของ ระบบคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีการส่ือสาร เพ่ือประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหาเบื้องต้นใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อยา่ งปลอดภยั มคี วามรบั ผดิ ชอบสร้างและแสดงสทิ ธ์ใิ นการเผยแพร่ผลงาน โดยใช้ทักษะการคิดเชงิ คานวณในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะใน การค้นหาขอ้ มลู หรอื สารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และนาสารสนเทศไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ดา้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดจิ ิทัล เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ในการ แกป้ ญั หาในชีวิตจริง การทางานร่วมกนั อยา่ งสรา้ งสรรคเ์ พือ่ ประโยชน์ตอ่ ตนเองหรือสังคม เพื่อเห็นคุณค่าของเทคโนโลยีและมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร อย่างปลอดภัย รเู้ ท่าทัน มีความรับผดิ ชอบ มีจรยิ ธรรม ตัวชว้ี ัด ว 4.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 รวม 4 ตัวช้วี ดั

คาอธบิ ายรายวชิ า ว22182 การออกแบบและเทคโนโลยี2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาสาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและวิเคราะห์เปรียบเทียบตัดสินใจ เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคานึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อชีวิตสังคมและส่ิงแวดล้อม ระบุปัญหาหรือความต้องการใน ชมุ ชนหรอื ทอ้ งถนิ่ สรุปกรอบของปัญหารวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดท่ีเกี่ยวข้องกับปัญหาออกแบบวิธีการ แกป้ ญั หาโดยวเิ คราะห์เปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเป็นภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรท่ีมีอยู่นาเสนอ แนวทางการแก้ปญั หาใหผ้ ูอ้ ่นื เขา้ ใจวางแผนขัน้ ตอนการทางานและดาเนินการแกป้ ัญหาอย่างเป็นขั้นตอน ทดสอบ ประเมนิ ผลและอธิบายปัญหาหรอื ขอ้ บกพรอ่ งท่ีเกดิ ขน้ึ ภายใต้กรอบเง่อื นไขพร้อมทั้งหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และนาเสนอผลการแกป้ ญั หา.ใชค้ วามรู้และทกั ษะเกีย่ วกับวัสดุอุปกรณ์เครอื่ งมือกลไกไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือ แก้ปัญหาหรอื พฒั นางานได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสมและปลอดภัย โดยใช้ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม พัฒนางานอย่างเป็นขั้นตอน การคิดเชิงระบบใช้ความรู้และ ทักษะ ความคดิ สร้างสรรค์ การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ การสื่อสารและการทางานรว่ มกับผอู้ ่นื เพ่ือเห็นคณุ ค่าของเทคโนโลยีและมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร อยา่ งปลอดภัย รู้เท่าทนั มคี วามรับผดิ ชอบ มจี รยิ ธรรม ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5 รวม 5 ตวั ชี้วัด

คาอธบิ ายรายวชิ า ว23181 วทิ ยาการคานวณ 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา ออกแบบ พัฒนาแอปพลิเคชัน ท่ีมีการบูรณาการกับวิชาอ่ืนอย่างสร้างสรรค์ รวบรวมข้อมูล ประมวลผลประเมินผล นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือบริการบน อินเทอร์เน็ตที่หลากหลายประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล วิเคราะห์สื่อและผลกระทบจากการให้ข่าวสารที่ผิด เพื่อการใช้งานอย่างรู้เท่าทันใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติตาม กฎหมายเกย่ี วกับคอมพิวเตอร์ ใชล้ ิขสิทธิข์ องผอู้ น่ื โดยชอบธรรม โดยใช้ทักษะการคิดเชิงคานวณในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ มีทักษะ ในการคน้ หาข้อมลู หรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ และนาสารสนเทศไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา ประยกุ ต์ใช้ความรูด้ า้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สือ่ ดจิ ิทัล เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ในการแกป้ ญั หา ในชีวติ จริง การทางานร่วมกนั อยา่ งสรา้ งสรรค์เพอื่ ประโยชนต์ อ่ ตนเองหรือสงั คม เพือ่ เห็นคุณค่าของเทคโนโลยีและมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร อย่างปลอดภยั รู้เท่าทัน มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีจริยธรรม ตัวชวี้ ัด ว 4.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4 รวม 4 ตวั ชีว้ ัด

คาอธิบายรายวิชา ว23182 การออกแบบและเทคโนโลยี3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความสัมพันธ์ ของเทคโนโลยีกับศาสตรอ์ นื่ โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตรห์ รือคณติ ศาสตร์เพอ่ื เปน็ แนวทางการแก้ปญั หาหรือพฒั นางาน ระบปุ ญั หาหรือความต้องการของชุมชนหรือท้องถิ่นเพ่ือพัฒนางานอาชีพสรุปกรอบของปัญหารวบรวมวิเคราะห์ ข้อมูลและแนวคิดท่ีเกี่ยวข้องกับปัญหาโดยคานึงถึงความถูกต้องด้านทรัพย์สินทางปัญญา ออกแบบวิธีการ แกป้ ญั หาโดยวเิ คราะห์เปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเป็นภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่นาเสนอ แนวทางการแกป้ ญั หาใหผ้ ้อู ื่นเขา้ ใจด้วยเทคนคิ หรอื วิธกี ารทีห่ ลากหลายวางแผนขัน้ ตอนการทางานและดาเนินการ แกป้ ญั หาอยา่ งเป็นขน้ั ตอน ทดสอบประเมินผลวิเคราะห์และให้เหตุผลของปญั หาหรอื ขอ้ บกพร่องทเี่ กดิ ขึ้นภายใต้ กรอบเง่ือนไขพร้อมทั้งหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไขและนาเสนอผลการแก้ปัญหา ใช้ความรู้และทักษะเก่ียวกับ วสั ดอุ ปุ กรณเ์ คร่อื งมือกลไกไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกสใ์ ห้ถกู ตอ้ งกับลักษณะของงานและปลอดภัยเพื่อแก้ปัญหาหรือ พฒั นางาน โดยใช้ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม พัฒนางานอย่างเป็นขั้นตอน การคิดเชิงระบบใช้ความรู้และ ทกั ษะ ความคดิ สร้างสรรค์ การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ การสือ่ สารและการทางานร่วมกบั ผู้อ่นื เพอ่ื เหน็ คุณค่าของเทคโนโลยีและมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อยา่ งปลอดภัย รู้เท่าทัน มคี วามรับผิดชอบ มจี ริยธรรม ตัวชว้ี ัด ว 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5 รวม 5 ตวั ชวี้ ัด

คาอธบิ ายรายวชิ า มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

คาอธิบายรายวชิ า ว31181 วทิ ยาการคานวณ1 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการของแนวคิดเชิงคานวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบ การคิด เชิงนามธรรม ตวั อย่างและประโยชนข์ องแนวคดิ เชิงคานวณเพอ่ื แกป้ ัญหาในชีวิตประจาวัน ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิง คานวณในการออกแบบข้นั ตอนวิธีสาหรบั แก้ปญั หา การแกป้ ญั หาด้วยคอมพิวเตอร์ การระบุข้อมูลเข้า ข้อมูลออก และเง่ือนไขของปัญหา การออกแบบข้ันตอนวิธี การทาซ้า การจัดเรียงและค้นหาข้อมูล ตัวอย่างการออกแบบ ขั้นตอนวธิ เี พ่ือแก้ปญั หาด้วยคอมพิวเตอร์ การศกึ ษาตัวอยา่ งโครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การกาหนดปัญหา ศึกษา วางแผน ดาเนินงาน สรุปผลและเผยแพร่ ในการพัฒนาโครงงานท่ีมีการบูรณาการร่วมกับวิชาอ่ืนและ เช่อื มโยงกับชีวิตจริง โดยใช้ทักษะการคิดเชิงคานวณในการคดิ วเิ คราะห์ แกป้ ัญหาอยา่ งเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ มที ักษะใน การค้นหาขอ้ มลู หรือสารสนเทศ ประเมิน จดั การ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ และนาสารสนเทศไปใช้ในการแกป้ ัญหา ประยุกตใ์ ชค้ วามรดู้ า้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดจิ ิทัล เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ในการแก้ปญั หาใน ชีวติ จริง การทางานร่วมกันอยา่ งสรา้ งสรรค์เพ่อื ประโยชน์ตอ่ ตนเองหรือสังคม เพอ่ื เหน็ คุณค่าของเทคโนโลยีและมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อย่างปลอดภัย รู้เท่าทนั มีความรบั ผดิ ชอบ มจี ริยธรรม ตวั ช้วี ัด ว. 4.2 ม.4/1 รวม 1 ตวั ช้ีวดั

คาอธบิ ายรายวิชา ว31182 การออกแบบและเทคโนโลยี1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษา วเิ คราะห์แนวคิดหลกั ของเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยีท่ีเกิดข้ึน และ ความสมั พันธข์ องเทคโนโลยีกบั ศาสตร์อ่ืน ออกแบบ สร้าง หรอื พัฒนาผลงานสาหรับแกป้ ญั หาท่ีคานึงถึงผลกระทบ ต่อสังคมในประเด็นทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับสุขภาพและการบริการ โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ซึ่งใช้ความรู้ ทกั ษะ และเลอื กใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนิกส์ เพือ่ แก้ปัญหาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม ปลอดภัย คานึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา มีการใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบและนาเสนอผลงาน โดยใช้ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม พัฒนางานอย่างเป็นขั้นตอน การคิดเชิงระบบใช้ความรู้และ ทักษะ ความคิดสรา้ งสรรค์ การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ การส่ือสารและการทางานร่วมกบั ผอู้ ื่น เพ่ือเห็นคณุ ค่าของเทคโนโลยีและมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร อยา่ งปลอดภยั รู้เท่าทนั มีความรับผดิ ชอบ มจี รยิ ธรรม ตัวชวี้ ัด ว 4.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5 รวม 5 ตวั ชวี้ ดั

คาอธบิ ายรายวชิ า ว32181 วทิ ยาการคานวณ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษา รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมลู และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัลเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปญั หาหรือเพ่มิ มูลคา่ ให้กบั บริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตจรงิ อย่างสรา้ งสรรค์ การเพิ่มมูลค่าให้บริการ หรือผลิตภณั ฑ์ การเกบ็ ขอ้ มลู และการจดั เตรยี มข้อมลู ใหพ้ ร้อมกบั การประมวลผล การวิเคราะหข์ ้อมลู ทางสถติ ิ การประมวลผลขอ้ มลู และเครื่องมือ การทาข้อมูลให้เป็นภาพ การเลือกใช้แหล่งข้อมูล การศึกษากรณีศึกษาและ วิธีการแก้ปัญหา การกาหนดปัญหา ศึกษา วางแผน ดาเนินงาน สรุปผลและเผยแพร่ ในการพัฒนาโครงงานที่มี การบรู ณาการรว่ มกับวิชาอ่นื และเช่อื มโยงกบั ชีวิตจริง โดยใชท้ กั ษะการคิดเชิงคานวณในการคิดวิเคราะห์ แกป้ ัญหาอยา่ งเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ มที กั ษะใน การค้นหาข้อมูลหรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และนาสารสนเทศไปใช้ในการแกป้ ญั หา ประยุกต์ใชค้ วามร้ดู ้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดิจทิ ัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร ในการแก้ปัญหาใน ชวี ิตจริง การทางานร่วมกันอยา่ งสร้างสรรคเ์ พื่อประโยชนต์ ่อตนเองหรือสงั คม เพือ่ เห็นคุณค่าของเทคโนโลยีและมีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อย่างปลอดภยั รเู้ ท่าทัน มคี วามรบั ผิดชอบ มีจรยิ ธรรม ตวั ช้วี ัด ว. 4.2 ม.5/1 รวม 1 ตัวช้ีวัด

คาอธบิ ายรายวชิ า ว32182 การออกแบบและเทคโนโลยี2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา การทาโครงงาน การประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากศาสตร์ต่างๆ รวมทั้งทรัพยากรในการสร้าง หรอื พฒั นาชิน้ งานหรอื วิธกี ารเพื่อแก้ปญั หาหรืออานวยความสะดวกในการทางาน การทาโครงงานการออกแบบ และเทคโนโลยีสามารถดาเนินการได้โดยเริ่มจากการสารวจสถานการณ์ปัญหาท่ีสนใจเพื่อกาหนดหัวข้อโครงงาน แล้วรวบรวมข้อมูลและแนวคิดท่ีเกี่ยวข้องกับปัญหาออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาวางแผนและดาเนินการ แก้ปัญหาทดสอบประเมินผลปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือ ชิ้นงานและนาเสนอวิธีการแก้ปัญหา โดยใช้ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม พัฒนางานอย่างเป็นข้ันตอน การคิดเชิงระบบใช้ความรู้และ ทกั ษะ ความคิดสรา้ งสรรค์ การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ การสอ่ื สารและการทางานรว่ มกับผูอ้ ืน่ เพอื่ เห็นคณุ ค่าของเทคโนโลยีและมีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อย่างปลอดภัย รเู้ ท่าทัน มีความรบั ผดิ ชอบ มจี ริยธรรม ตัวชวี้ ัด ว 4.1 ม.5/1 รวม 1 ตัวชวี้ ัด

คาอธบิ ายรายวิชา ว30210 คอมพิวเตอรก์ ราฟิก กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก หลักการ วิธีการออกแบบกราฟิก ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก ระบบคอมพิวเตอร์สาหรับงานคอมพิวเตอร์กราฟิก การใช้งานโปรแกรมกราฟิก การใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์ รวมถงึ คาส่งั ทสี่ าคัญในการออกแบบคอมพวิ เตอรก์ ราฟิก ในโปรแกรมกราฟกิ ไดอ้ ยา่ งชานาญ การนาภาพจากแหล่ง ภาพต่างๆ มาสร้างสรรค์งานกราฟิกให้มีจินตนาการความคิดริเร่ิม ทั้งยังศึกษาหลักการออกแบบเทคนิคการใช้ โปรแกรมการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกได้จากเว็บไซต์ต่างๆ เพ่ือนามาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์งาน ปฏบิ ัตกิ ารออกแบบคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟิก โดยใช้ กระบวนการออกแบบ พัฒนางานอยา่ งเปน็ ข้ันตอน การคิดเชิงระบบใชค้ วามรู้และทักษะ ความคิด สรา้ งสรรค์ การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ การสื่อสารและการทางานรว่ มกบั ผู้อื่น เพ่อื เหน็ คุณค่าของเทคโนโลยีและมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร อย่างปลอดภัย รู้เท่าทนั มคี วามรบั ผดิ ชอบ มจี ริยธรรม ผลการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธิบายคุณสมบัติและประโยชน์ของภาพกราฟิกได้อยา่ งถูกต้อง 2. สามารถอธบิ ายบทบาทหน้าทีข่ องโปรแกรมกราฟกิ ได้ 3. นกั เรยี นสามารถอธิบายความรูเ้ บ้อื งต้นเก่ยี วกบั รปู ภาพบนเครอ่ื งคอมพวิ เตอรไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 4. นักเรยี นสามารถทางานกบั หนา้ ตา่ งรูปภาพและใชค้ าสง่ั ยอ้ นกลบั ได้อย่างถูกต้อง 5. สามารถอธบิ ายการทางานของเครอ่ื งมอื ต่างๆในโปรแกรมกราฟกิ ได้ 6. นักเรยี นเขา้ ใจและสามารถใชง้ าน Layer ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 7. นักเรียนสามารถใช้คาสั่งเพือ่ ปรับขนาด, หมนุ และบดิ ภาพไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 8. นักเรียนสามารถเลอื กใชส้ ีในโปรแกรมกราฟิก ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 9. นักเรียนสามารถวาดภาพในโปรแกรมกราฟกิ ไดอ้ ย่างถูกต้อง 10. นักเรยี นสามารถวาดเส้น (Path) และรูปทรง (Shape) ได้อยา่ งถกู ต้อง 11. นักเรยี นสามารถเพ่มิ ตัวอกั ษรและข้อความลงในภาพไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 12. นักเรยี นสามารถใชเ้ ครอ่ื งมอื โปรแกรมกราฟกิ ตกแตง่ และแกไ้ ขภาพได้อย่างถูกต้อง 13. นกั เรยี นสามารถสร้างภาพเคลือ่ นไหวไดอ้ ย่างถูกต้อง รวม 13 ข้อ

คาอธิบายรายวชิ า ว30211 การสร้างเว็บไซต์เบือ้ งต้น กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาส่วนประกอบของโปรแกรมทใ่ี ชส้ รา้ งเว็บเพจ การสรา้ งระบบบริหารเว็บไซต์ การสรา้ งไฟล์เวบ็ เพจ ใหม่ การพมิ พข์ ้อความบนเวบ็ เพจ การแสดงผลบนโปรแกรมบราวเซอร์ การบนั ทึก การเปิดเวบ็ เพจ การแทรก รูปภาพ การสรา้ งตาราง การเชื่อมโยง โดยใช้ กระบวนการออกแบบ พฒั นางานอย่างเป็นขน้ั ตอน การคิดเชิงระบบใช้ความรแู้ ละทักษะ ความคิด สร้างสรรค์ การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ การสอ่ื สารและการทางานรว่ มกับผอู้ นื่ เพอื่ เหน็ คณุ ค่าของเทคโนโลยีและมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร อย่างปลอดภยั ร้เู ท่าทัน มีความรบั ผิดชอบ มจี ริยธรรม ผลการเรียนรู้ 1.อธบิ ายความรทู้ ั่วไปเก่ียวกบั โปรแกรมสร้างเวบ็ เพจ ได้ 2.บอกส่วนประกอบของหนา้ จอโปรแกรมได้ 3.สามารถสรา้ งระบบบรหิ ารเว็บไซตไ์ ด้ 4.สามารถบนั ทึกเวบ็ เพจได้ 5.ทดสอบเวบ็ เพจบนบราวเซอรไ์ ด้ 6.สามารถปรบั เปล่ียนภาษาได้ 7.พิมพ์ขอ้ ความ เลือกข้อความ จัดรูปแบบข้อความและย่อหน้าได้ 8.บอกลักษณะของภาพกราฟกิ ในเว็บเพจได้ 9.ใส่รปู ภาพในเวบ็ เพจได้ 10.ตกแต่งภาพใหส้ วยงามได้ 11.สร้างตารางบนเวบ็ เพจได้ 12.ใสข่ อ้ มลู ในตาราง เลือกสว่ นของตาราง ตกแต่งตารางได้ 13.เปลี่ยนแปลงจานวนแถวและคอลัมนไ์ ด้ 14.สามารถเชื่อมโยงในเวบ็ เพจเดยี วกันได้ 15.สามารถเช่อื มโยงไปยังเว็บไซต์อืน่ ได้ 16.สามารถเช่อื มโยงไปยงั อีเมลอ์ ืน่ ได้ 17.สามารถเชอ่ื มโยงไปยังไฟล์ดาวน์โหลดได้ 18. สามารถสรา้ งเว็ปไซต์ส่วนตวั ได้ รวม 18 ขอ้

คาอธบิ ายรายวิชา ว33181 วิทยาการคานวณ 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา การนาเสนอและแบ่งปันข้อมูล วิธีการต่างๆ การนาเสนอและแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มจี รยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ศึกษาเทคโนโลยีเกิดใหม่ แนวโน้มในอนาคตและการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยนี วตั กรรมหรือเทคโนโลยดี า้ นตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วข้องกบั ชีวิตประจาวัน อาชพี เกย่ี วกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศตอ่ การดาเนินชวี ติ อาชีพ สังคม และวฒั นธรรม โดยใช้ทักษะการคิดเชงิ คานวณในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ มีทักษะใน การค้นหาข้อมูลหรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และนาสารสนเทศไปใช้ในการแก้ปัญหา ประยุกตใ์ ช้ความร้ดู า้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ในการแก้ปัญหาใน ชวี ติ จริง การทางานรว่ มกันอย่างสรา้ งสรรค์เพ่อื ประโยชน์ตอ่ ตนเองหรือสงั คม เพอื่ เหน็ คุณค่าของเทคโนโลยีและมีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อยา่ งปลอดภยั รเู้ ท่าทัน มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีจริยธรรม ตัวชี้วัด ว. 4.2 ม.6/1 รวม 1 ตวั ชีว้ ัด

คาอธบิ ายรายวิชา ว33182 ตารางคานวณขนั้ สูง กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความรูเ้ กีย่ วกับ ความรู้ข้นั สงู เกีย่ วกบั Microsoft Excel เก่ยี วกับโครงสร้าง สัญลกั ษณ์ และลาดบั ความสาคัญของเคร่ืองหมายในการคานวณ ข้อผดิ พลาดตา่ งๆ ท่ีอาจเกดิ ขนึ้ ในขณะใช้สตู รคานวณต่างๆ การใชส้ ตู ร และฟังก์ชนั ในการคานวณ การเตรียมขอ้ มลู เพอ่ื นาขอ้ มลู แสดงผลทางแผนภมู ริ ูปแบบต่างๆ จนถงึ การสร้าง สารสนเทศและการนาขอ้ มูลสารสนเทศไปประยุกตใ์ ชง้ านในชีวิตประจาวัน เพ่อื ให้ผู้เรียนมีเจตคตทิ ี่ดใี นการใช้ คอมพิวเตอร์ สามารถเลอื กใช้เทคโนโลยที ี่ เหมาะสมในการทางานและการประกอบอาชพี อย่างถกู ต้องตาม กระบวนการอยา่ งมีคุณธรรม และจรยิ ธรรม เพือ่ เห็นคุณค่าของเทคโนโลยีและมีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร อยา่ งปลอดภยั รู้เท่าทัน มคี วามรับผิดชอบ มจี ริยธรรม ตัวช้วี ัด ว. 4.2 ม.6/1 รวม 1 ตวั ช้ีวัด

คาอธบิ ายรายวิชา ว30212 การนาเสนอดว้ ยวีดที ศั น์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาและปฏบิ ัติเกีย่ วกบั ความหมายและประเภทของสื่อวดี ีทศั น์ บทบาทของสอื่ วีดีทัศน์ กระบวนการ ผลิตสื่อวดี ีทัศน์ ดว้ ยโปรแกรมสาเรจ็ รูป การจัดรปู แบบ การเลือกใช้ตัวอักษร การเลือกใช้สี การกาหนดเน้ือหา การเลอื กรูปภาพ และเสยี งประกอบสื่อ การผลติและออกแบบ การลาดับเนื้อเรอ่ื ง โดยศึกษาแหลง่ เรยี นรู้ใน ทอ้ งถิน่ สถานท่สี าคญั วฒั นธรรม ประเพณี นามาจดั ทาเป็นส่อื วีดที ัศน์ดว้ ยโปรแกรมสาเรจ็ รูป โดยใช้ กระบวนการออกแบบ พฒั นางานอย่างเป็นข้ันตอน การคิดเชงิ ระบบใชค้ วามร้แู ละทักษะ ความคิด สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ การส่อื สารและการทางานรว่ มกับผู้อ่นื เพอื่ เห็นคุณค่าของเทคโนโลยีและมีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อย่างปลอดภัย ร้เู ท่าทัน มคี วามรับผดิ ชอบ มจี รยิ ธรรม ผลการเรยี นรู้ 1. มคี วามร้คู วามเข้าใจเร่อื ง และสามารถเขยี น Storyboard ได้ 2. บอกหนา้ ท่ีการใชง้ านของโปรแกรม และการใช้งานของแถบเคร่อื งมือต่างๆ ได้ 3. การจดั การระบบไฟล์ได้ 4. ใชง้ านโปรแกรมทเ่ี กี่ยวข้องในการตดั ต่อวีดโี อได้ 5. นาวดี โี อมาทาการตัดต่อตามต้องการได้ 6. แทรกวีดีโอ (Video Track) ได้ 7. จัดการภาพซ้อนทบั (Overlay Track) ได้ 8. แทรก และจัดการกับข้อความ (Title Track) ได้ 9. จัดการกับเสยี งประกอบ(Voice Track) ได้ 10. จัดการกับเสยี งประกอบ(Voice Track) ได้ 11. สง่ ออกชิน้ งานเปน็ ไฟลว์ ดี โี อได้ 12. นาโปรแกรมไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ รวม 12 ขอ้

คาอธบิ ายรายวชิ า ว30213 โครงงานคอมพวิ เตอร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาพฒั นาการของคอมพิวเตอร์ ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ การประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอร์ เพ่อื สร้างงานใน รูปแบบต่าง ๆ หลกั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ลกั ษณะของการทาโครงงาน จากปัญหาหรือเรือ่ งท่ีสนใจจะ ศึกษา วเิ คราะห์รูปแบบกระบวนการ ดาเนนิ งานโครงงาน แนวทางการประยกุ ต์คอมพวิ เตอร์กับโครงงาน ปฏบิ ตั ิการสร้างโครงงานโดยใชค้ อมพวิ เตอร์เป็นเคร่อื งมือ โดยใช้ความรู้ ความคดิ จนิ ตนาการ ทักษะ เหตุผล และกระบวนการตา่ งๆ ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนประสบการณด์ า้ นคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ใน การแก้ปัญหาตา่ งๆ ท่ีมอี ยู่ มาเชื่อมโยงสมั พันธก์ ันจนเกิดความรูใ้ หม่ทม่ี ีความหมายสอดคลอ้ ง และเช่ือมโยงกันได้ โดยมีการบรู ณาการความรูด้ ้านอื่นๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ งเขา้ มารว่ มด้วย การวิเคราะหโ์ ครงงานคอมพวิ เตอร์ และรปู แบบ การเสนอโครงงานคอมพิวเตอรเ์ ป็นส่งิ สาคัญเพือ่ ให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถนาเอาคอมพวิ เตอรม์ า ประยกุ ต์ใช้ในการแกป้ ัญหา การปฏิบัตติ ามข้ันตอนกระบวนการดาเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ สามารถนามา ประยุกตใ์ ช้ อนั เปน็ แนวทางในการประกอบอาชีพและใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน เพ่อื เหน็ คณุ ค่าของเทคโนโลยีและมีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อยา่ งปลอดภยั ร้เู ท่าทนั มคี วามรบั ผิดชอบ มจี รยิ ธรรม ผลการเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถเขียนหลักการและเหตุผลของโครงงานคอมพิวเตอรไ์ ด้ 2. นักเรียนสามารถกาหนดวัตถปุ ระสงคข์ องโครงงานคอมพิวเตอรไ์ ด้ 3. นกั เรียนสามารถเขียนเปา้ หมายของโครงงานคอมพวิ เตอร์ได้ 4. นักเรยี นสามารถกาหนดระยะเวลาและผรู้ บั ผิดชอบงานแตล่ ะขัน้ ตอนได้ 5. นกั เรียนสามารถกาหนดงบประมาณของโครงงานคอมพิวเตอร์ได้ 6. นกั เรยี นสามารถประเมนิ ผลงานของนกั เรียนได้ 7. นักเรยี นนักเรียนบอกแหล่งข้อมลู ได้ 8. นกั เรยี นสามารถรวบรวมขอ้ มลู ได้ 9. นกั เรยี นสามารถนาข้อมลู มาสรา้ งโครงงานได้ 10. นกั เรยี นนักเรยี นสามารถบอกอปุ สรรคและปัญหาการทางานได้ 11. นักเรยี นนักเรียนสามารถนาผลงานไปทดลองใชต้ ามจุดประสงคไ์ ด้ 12. นักเรียนนกั เรียนสามารถบอกข้อเสนอแนะและการปรบั ปรุงได้ 13. นกั เรยี นนกั เรียนสามารถจดั ทาค่มู ือและวิธีการใชง้ านได้ รวม 13 ข้อ

โครงสรา้ งรายวชิ า มธั ยมศึกษาตอนตน้

โครงสรา้ งร ว21181 วิทยาการคานวณ1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 ที่ ชือ่ หน่วย มาตรฐาน ตวั ชวี้ ดั สาระการเ 1 แนวคดิ เชิง การเรยี นรู้ ม.1/1 แนวคิดเชงิ นามธรรม เปน็ การปร นามธรรม ว 4.2 รายละเอียดของปัญหา แยกแยะส่ว ออกจากสว่ นท่ไี ม่ใช่สาระสาคญั 2 การออกแบบ ว 4.2 ตัวอยา่ งปญั หา เช่น ตอ้ งการปูห และเขียน กาหนด โดยหญา้ หน่ึงผนื ขนาดควา โปรแกรม ว 4.2 เซนตเิ มตร จะใช้หญา้ ท้ังหมดก่ีผืน 3 การประมวลผล ม.1/2 การออกแบบและเขยี นโปรแกรม ข้อมลู เงื่อนไขวนซ้า การออกแบบอลั กอริทมึ เพอื่ แก วทิ ยาศาสตรอ์ ย่างง่าย อาจใช้แนวค ออกแบบเพอ่ื ให้การแก้ปัญหามปี ระ การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นข้นั ตอน มปี ระสทิ ธภิ าพ ซอฟต์แวร์ทีใ่ ช้ในการเขียนโปรแ python, java, c ตวั อยา่ งโปรแกรม เชน่ โปรแกร โปรแกรมคานวณหาพืน้ ท่ี โปรแกรม ม.1/3 การรวบรวมขอ้ มลู จากแหลง่ ข้อ สร้างทางเลอื ก ประเมินผล จะทาให ใชใ้ นการแก้ปัญหาหรอื การตัดสนิ ใจ การประมวลผลเปน็ การกระทา

รายวิชา กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ เรียนรู้ ชวั่ โมง กอ่ น นา้ หนักคะแนน 43 ระเมนิ ความสาคญั ของ กลางภาค หลัง ปลายภาค วนทเ่ี ป็นสาระสาคัญ 52 หญา้ ในสนามตามพื้นทที่ ่ี ามกว้าง 50 เซนติเมตรยาว 50 มทีม่ ีการใช้ตัวแปร 22 37 15 3 ก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ คิดเชงิ นามธรรมในการ ะสิทธภิ าพ นจะชว่ ยให้แก้ปัญหาได้อย่าง แกรม เช่น Scratch, รมสมการการเคลือ่ นที่ 10 15 10 มคานวณดัชนีมวลกาย อมลู ปฐมภมู ิ ประมวลผล หไ้ ดส้ ารสนเทศเพ่อื จไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ากับขอ้ มลู เพอ่ื ให้ไดผ้ ลลัพธ์

ท่ี ช่อื หน่วย มาตรฐาน ตัวช้วี ัด สาระการเ การเรยี นรู้ ท่ีมีความหมายและมีประโยชน์ต่อก สามารถทาไดห้ ลายวธิ ี เชน่ คานวณ คา่ เฉลี่ย การใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือบริการบน ในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ งท นาเสนอ จะชว่ ยให้แก้ปญั หาไดอ้ ยา่ ตวั อยา่ งปญั หา เน้นการบรู ณาก ต้มไข่ให้ตรงกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภ ของคนในท้องถ่นิ การสรา้ งกราฟผล แนวโนม้ 4 การใชเ้ ทคโนโลยี ว 4.2 ม.1/4 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างป สารสนเทศอยา่ ง ความเปน็ สว่ นตวั และอตั ลกั ษณ์ ปลอดภัย การจดั การอัตลักษณ์ เชน่ การต ข้อมูลสว่ นตัว การพจิ ารณาความเหมาะสมขอ เป็นสว่ นตวั ผอู้ ืน่ อนาจาร วิจารณ์ผ ข้อตกลง ข้อกาหนดในการใช้สื่อ เช่น Creative Commons รวม อัตราส่วนคะแนนกอ่ นระหวา่ งภาค: ระหวา่ งภาค: หลงั ระหวา่ งภาค:ปลายภาค =

เรียนรู้ ชั่วโมง กอ่ น น้าหนกั คะแนน การนาไปใชง้ าน กลางภาค หลงั ปลายภาค ณอตั ราสว่ น คานวณ นอนิ เทอร์เน็ตที่หลากหลาย ทางเลือก ประเมนิ ผล างรวดเร็ว ถกู ต้องและแม่นยา การกับวิชาอ่นื เชน่ ภค ค่าดัชนมี วลกาย ลการทดลองและวเิ คราะห์ ปลอดภยั เชน่ การปกป้อง 4 55 ต้งั รหสั ผ่าน การปกปอ้ ง องเนอื้ หา เช่น ละเมิดความ ผอู้ น่ื อยา่ งหยาบคาย สอหรือแหลง่ ข้อมูลต่าง ๆ 40 40 20 20 20 = 40 : 20 : 20 : 20

โครงสร้างร ว21182 การออกแบบและเทคโนโลยี1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ท่ี ชอื่ หนว่ ย มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระการเ 1 การเปล่ียนแปลง การเรียนรู้ ม.1/1 เทคโนโลยีเปน็ สง่ิ ท่ีมนุษย์สรา้ งห เทคโนโลยี ว 4.1 ทั้งชิน้ งานหรือวิธกี ารเพอ่ื ใชแ้ กป้ ญั ห เพิ่มความสามารถในการทางานของ 2 ปญั หาและการ ว 4.1 ระบบทางเทคโนโลยีเปน็ กลุ่มข รวบรวมข้อมูล ว 4.1 ไปประกอบเข้าดว้ ยกัน และทางานร วัตถปุ ระสงคโ์ ดยในการทางานของร 3 การวิเคราะห์ ประกอบไปด้วยตวั ป้อน (input) กร ผลผลติ (output) ทสี่ มั พันธ์กนั นอก อาจมขี อ้ มูลย้อนกลับ (feedback) ตามวตั ถุประสงค์ซงึ่ การวเิ คราะห์ระ เขา้ ใจองค์ประกอบและการทางานข ปรับปรงุ ให้ เทคโนโลยที างานได้ตาม เทคโนโลยมี ีการเปลีย่ นแปลงตล ปจั จบุ นั ซึง่ มีสาเหตุหรอื ปัจจยั มาจาก ต้องการความก้าวหน้าของศาสตรต์ ม.1/2 ปัญหาหรอื ความต้องการในชวี ติ บรบิ ทขึน้ กับสถานการณท์ ีป่ ระสบ เ การแก้ปญั หาจาเป็นต้องสบื คน้ ศาสตร์ต่างๆท่ีเกี่ยวข้องเพอื่ นาไปส่กู แก้ปัญหา ม.1/3 การวเิ คราะห์เปรียบเทียบและต

รายวชิ า กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต เรียนรู้ ชัว่ โมง กอ่ น นา้ หนักคะแนน 8 10 หรือพฒั นาข้นึ ซ่ึงอาจเปน็ ได้ กลางภาค หลงั ปลายภาค หาสนองความต้องการหรอื 16 20 งมนุษย์ 55 ของส่วนต่างๆตั้งแต่สองสว่ นขน้ึ ร่วมกนั เพอ่ื ให้บรรลุ 15 ระบบทางเทคโนโลยี จะ ระบวนการ(process) และ กจากนร้ี ะบบทางเทคโนโลยี เพอื่ ใช้ปรับปรุงการทางานได้ ะบบทางเทคโนโลยีชว่ ยให้ ของเทคโนโลยีรวมถงึ สามารถ มต้องการ ลอดเวลาต้งั แต่อดีตจนถงึ กหลายด้านเช่นปญั หาความ ต่างๆเศรษฐกจิ สังคม ตประจาวนั พบไดจ้ ากหลาย เชน่ การเกษตร การอาหาร นรวบรวมขอ้ มลู ความรจู้ าก การออกแบบแนวทางการ ตดั สนิ ใจเลือกข้อมลู ทจ่ี าเป็น

ท่ี ช่อื หนว่ ย มาตรฐาน ตัวช้ีวัด สาระการเ การเรยี นรู้ เปรยี บเทยี บและ โดยคานงึ ถึงเง่อื นไขและทรัพยากรท ตดั สินใจ แกป้ ญั หาทเี่ หมาะสม การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญ เชน่ การรา่ งภาพ การเขยี นแผนภาพ การกาหนดขั้นตอนและระยะเว ดาเนินการแกป้ ญั หาจะช่วยให้ทางา (และลดขอ้ ผิดพลาดของการทางาน 4 การทดสอบ ว 4.1 ม.1/4 การทดสอบและประเมินผลเป็น ประเมินผลและ วธิ ีการวา่ สามารถแก้ปัญหาได้ตามว การนาเสนอ ปญั หาเพ่อื หาข้อบกพร่องและดาเน ทดสอบซ้าเพือ่ ใหส้ ามารถแก้ไขปัญห การนาเสนอผลงานเปน็ การถ่าย เขา้ ใจเกีย่ วกบั กระบวนการทางานแ สามารถทาได้หลายวธิ ีเชน่ การเขียน ผลงานการจดั นทิ รรศการการนาเสน 5 วสั ดแุ ละ ว 4.1 ม.1/5 วสั ดแุ ต่ละประเภทมีสมบัตแิ ตก อุปกรณ์ จงึ ตอ้ งมีการวเิ คราะห์ สมบตั ิเพ่อื เล ของงาน การสร้างชน้ิ งานอาจใช้ความรเู้ ร เช่น LED บซั เซอร์ มอเตอรว์ งจรไฟ อุปกรณแ์ ละเคร่ืองมือในการสร การมีหลายประเภทต้องเลอื กใช้ให้ถ รวมทั้งรจู้ กั เกบ็ รักษา รวม อัตราส่วนคะแนนกอ่ นระหวา่ งภาค: ระหวา่ งภาค: หลงั ระหวา่ งภาค:ปลายภาค =

เรยี นรู้ ช่ัวโมง กอ่ น นา้ หนักคะแนน ทมี่ อี ยู่ชว่ ยให้ได้แนวทางการ กลางภาค หลัง ปลายภาค ญหาทาได้หลากหลายวิธี 8 15 5 พ การเขียนผงั งาน 8 15 5 วลาในการทางานก่อน านสาเรจ็ ไดต้ ามเปา้ หมาย นที่อาจเกดิ ขน้ึ ) นการตรวจสอบช้นิ งานหรือ วตั ถปุ ระสงคภ์ ายใตก้ รอบของ นนิ การปรับปรุงโดยอาจ หาได้ ยทอดแนวคิดเพ่อื ใหผ้ ู้อน่ื และชน้ิ งานหรือวธิ ีการทไี่ ด้ซึ่ง นรายงานการทาแผ่นนาเสนอ นอผ่านสื่อออนไลน์ กต่างกนั เช่น ไม้โลหะพลาสตกิ ลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะ ร่อื งกลไกไฟฟา้ อิเล็กทรอนิกส์ ฟฟ้า ร้างชน้ิ งานหรือพัฒนาวธิ ี ถูกตอ้ งเหมาะสมและปลอดภัย 40 20 30 20 20 = 20: 30 : 20 : 20

โครงสร้างร ว22181 วิทยาการคานวณ 2 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ท่ี ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน ตวั ช้ีวัด สาระการเ 1 การออกแบบ การเรยี นรู้ ม.2/1 แนวคดิ เชิงคานวณ อัลกอรทิ ึม ว 4.2 การแก้ปญั หาโดยใช้แนวคดิ เชงิ ว 4.2 ตวั อย่างปัญหา เชน่ การเขา้ แถ 2 ออกแบบและ เขยี นโปรแกรม ว 4.2 ทีส่ ดุ จัดเรยี งเสื้อใหห้ าไดง้ า่ ยท่ีสุด ว 4.2 ม.2/2 ตัวดาเนินการบูลนี 3 หลกั การทางาน ของระบบ ฟงั กช์ ัน คอมพิวเตอร์ การออกแบบและเขยี นโปรแกร ฟังก์ชัน 5 การใช้เทคโนโลยี การออกแบบอลั กอริทึมเพ่อื แก สารสนเทศอย่าง คานวณในการออกแบบเพอ่ื ให้การแ การแกป้ ัญหาอย่างเป็นขั้นตอน มปี ระสทิ ธิภาพ ซอฟต์แวรท์ ี่ใช้ในการเขียนโปรแ python,java, c ตวั อย่างโปรแกรม เช่น โปรแกร ของอสมการหลายตัวแปร ม.2/3 องคป์ ระกอบและหลกั การทางา เทคโนโลยกี ารส่อื สาร การประยกุ ต์ใช้งานและการแก ม.2/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างป ปฏิบตั ิเมือ่ พบเน้ือหาที่ไมเ่ หมาะสม

รายวิชา กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ เรยี นรู้ งคานวณ ชวั่ โมง ก่อน นา้ หนักคะแนน ถวตามลาดับความสงู ให้เรว็ กลางภาค หลัง ปลายภาค 8 10 5 5 20 25 15 5 รมทีม่ ีการใช้ตรรกะและ ก้ปญั หา อาจใช้แนวคิดเชงิ แกป้ ัญหามปี ระสิทธิภาพ นจะช่วยใหแ้ กป้ ัญหาไดอ้ ยา่ ง แกรม เชน่ Scratch, รมตดั เกรด หาคาตอบท้ังหมด านของระบบคอมพวิ เตอร์ 8 15 5 ก้ปัญหาเบือ้ งต้น 6 10 5 ปลอดภัย โดยเลือกแนวทาง เช่น แจ้งรายงาน

ท่ี ชื่อหนว่ ย มาตรฐาน ตวั ช้ีวดั สาระการเ การเรยี นรู้ ปลอดภยั ผูเ้ ก่ยี วข้อง ป้องกนั การเข้ามาของข ไมต่ อบโต้ ไม่เผยแพร่ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย ตระหนกั ถึงผลกระทบในการเผยแพ การสรา้ งและแสดงสิทธคิ วามเป การกาหนดสทิ ธ์กิ ารใชข้ อ้ มูล รวม อัตราสว่ นคะแนนกอ่ นระหวา่ งภาค: ระหวา่ งภาค: หลงั ระหวา่ งภาค:ปลายภาค =

เรียนรู้ ชั่วโมง ก่อน น้าหนกั คะแนน ขอ้ มลู ทีไ่ มเ่ หมาะสม กลางภาค หลัง ปลายภาค ย่างมีความรบั ผิดชอบ เช่น พรข่ ้อมูล 40 35 20 20 20 ปน็ เจา้ ของผลงาน = 35 : 20 : 20 : 20

โครงสร้างร ว22182 การออกแบบและเทคโนโลยี2 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ท่ี ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน ตัวชว้ี ัด สาระการเ 1 การเปลี่ยนแปลง การเรยี นรู้ ม.2/1 สาเหตุหรอื ปจั จัยต่างๆ เชน่ ควา เทคโนโลยี ว 4.1 การเปล่ยี นแปลงทางดา้ นเศรษฐกจิ เทคโนโลยมี กี ารเปล่ียนแปลงตลอด 2 ปญั หาและการ ว 4.1 เทคโนโลยีแต่ละประเภทมีผลก รวบรวมข้อมลู ส่ิงแวดล้อมท่ีแตกตา่ งกนั จงึ ตอ้ งวิเค ว 4.1 และตัดสินใจเลือกใช้ให้เหมาะสม 3 การวิเคราะห์ เปรียบเทยี บและ ม.2/2 ปัญหาหรือความต้องการในชุมช ตัดสนิ ใจ ข้นึ กับบรบิ ทหรอื สถานการณ์ทปี่ ระ สงิ่ แวดล้อมการเกษตรการอาหาร การระบปุ ัญหาจาเปน็ ตอ้ งมีการ ปัญหาเพอ่ื สรุปกรอบของปญั หาแล้ว ขอ้ มูลความรู้จากศาสตร์ต่างๆท่เี กี่ย แนวทางการแก้ปญั หา ม.2/3 การวเิ คราะหเ์ ปรียบเทียบและต โดยคานงึ ถงึ เงื่อนไขและทรพั ยากรเ และสารสนเทศวสั ดุเครือ่ งมอื และอ แก้ปัญหาท่ีเหมาะสม การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญ การร่างภาพการเขยี น แผนภาพการ การกาหนดข้นั ตอนระยะเวลาใ แกป้ ญั หาจะชว่ ยใหก้ ารทางานสาเร

รายวิชา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ เรยี นรู้ ช่ัวโมง กอ่ น นา้ หนักคะแนน 68 ามกา้ วหนา้ ของศาสตร์ตา่ งๆ กลางภาค หลัง ปลายภาค จสงั คมวฒั นธรรมทาให้ ดเวลา 52 กระทบต่อชวี ิตสังคมและ คราะหเ์ ปรียบเทียบขอ้ ดขี อ้ เสยี ชนหรอื ท้องถ่นิ มีหลายอย่าง 16 22 15 3 ะสบเช่นดา้ นพลังงาน รวเิ คราะหส์ ถานการณ์ของ วดาเนินการสบื คน้ รวบรวม ยวข้องเพ่อื นาไปส่กู ารออกแบบ ตัดสนิ ใจเลอื กข้อมูลทจ่ี าเปน็ 6 10 5 เชน่ งบประมาณเวลาขอ้ มูล อุปกรณ์ชว่ ยให้ได้แนวทางการ ญหาทาได้หลากหลายวธิ เี ชน่ รเขยี นผงั งาน ในการทางานก่อนดาเนนิ การ รจ็ ไดต้ ามเปา้ หมายและลด

ท่ี ชอ่ื หน่วย มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด สาระการเ การเรียนรู้ ขอ้ ผิดพลาดของการทางานที่อาจเก 4 การทดสอบ ว 4.1 ม.2/4 การทดสอบและประเมินเป็นกา ประเมินผลและ วิธกี ารวา่ สามารถแก้ปัญหาไดต้ ามว การนาเสนอ ปัญหาเพอ่ื หาข้อบกพร่องและดาเน แก้ไขปัญหาได้ การนาเสนอผลงานเป็นการถา่ ย เข้าใจเกี่ยวกบั กระบวนการทางานแ สามารถทาได้หลายวิธีเช่นการเขียน ผลงานการจัดนทิ รรศการการนาเสน 5 วัสดแุ ละ ว 4.1 ม.2/5 วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตก อปุ กรณ์ จงึ ตอ้ งมกี ารวิเคราะหส์ มบตั เิ พอื่ เลอื ของงาน การสร้างชิน้ งานอาจใช้ความรเู้ ร เชน่ LED มอเตอร์ บัซเซอร์เฟอื งรอ อุปกรณแ์ ละเคร่ืองมือในการสร หลายประเภทต้องเลือกใช้ ให้ถกู ต รวมทัง้ รูจ้ กั เกบ็ รกั ษา รวม อตั ราส่วนคะแนนก่อนระหวา่ งภาค: ระหว่างภาค: หลงั ระหวา่ งภาค:ปลายภาค =

เรยี นรู้ ช่วั โมง กอ่ น นา้ หนกั คะแนน 6 กิดข้นึ กลางภาค หลงั ปลายภาค ารตรวจสอบช้ินงานหรอื วัตถปุ ระสงค์ภายใต้กรอบของ 10 5 นนิ การปรับปรุงให้สามารถ ยทอดแนวคดิ เพื่อใหผ้ ูอ้ ่ืน 6 10 5 และช้ินงานหรือวิธกี ารทีไ่ ดซ้ ึ่ง นรายงานการทาแผ่นนาเสนอ นอผ่านส่ือออนไลน์ กต่างกันเชน่ ไมโ้ ลหะพลาสติก อกใช้ใหเ้ หมาะสมกับลกั ษณะ รอ่ื งกลไกไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ อกล้อเพลา รา้ งช้ินงานหรือพฒั นาวธิ ีการมี ตอ้ งเหมาะสมและปลอดภัย 40 30 20 20 20 = 30 : 20 : 20 : 20