Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แหล่งเรียนรู้ มีนาคม 63

แหล่งเรียนรู้ มีนาคม 63

Published by library sriboon, 2020-03-26 01:26:06

Description: แหล่งเรียนรู้ มีนาคม 63

Search

Read the Text Version

ทำเนียบแหล่งเรียนรู้ และภูมปิ ัญญำท้องถนิ่ ประจำเดอื น มีนำคม 2563 รวบรวมโดย กศน.อำเภอศรบี ญุ เรือง

คำนำ ทำเนยี บแหล่งเรยี นรู้ เล่มน้ี ไดร้ วบรวมแหลง่ เรยี นรดู้ ำ้ นต่ำง ๆ ทง้ั 9 ด้ำน ประจำเดือน มนี ำคม 2563 เพื่อเก็บรวบรวมเปน็ ข้อมูลพ้ืนฐำนด้ำนแหล่งเรียนรู้ประจำอำเภอศรีบุญเรือง หำกผดิ พลำดประกำรใด ขออภยั มำ ณ ที่นี้ด้วย กศน.อำเภอศรบี ุญเรือง มนี ำคม 2563

สำรบญั แหล่งเรยี นรู้ตำบล หนำ้ เมืองใหม่ 1 โนนม่วง 4 โนนสะอำด 7 กดุ สะเทียน 10 ทรำยทอง 13 นำกอก 17 ยำงหล่อ 21 ศรบี ญุ เรอื ง 24 หนองแก 27 หนองกงุ แกว้ 30 หนองบัวใต้ 34 หันนำงำม 37

ตำบลเมอื งใหม่ ประวัตแิ ละผลงำนครูภมู ปิ ัญญำทอ้ งถ่นิ จงั หวัดหนองบัวลำภู ด้ำน...พืชเศรษฐกจิ ไรส่ วนผสม ( ไรอ่ ะโวคำโด้...โกโก้ ) สำขำ...พชื เศรษฐกิจใหม่ นางบณั ฑิตา เมฆวนั



ประวตั ิประวัตแิ ละผลงำนครูภมู ิปญั ญำท้องถน่ิ จังหวดั หนองบัวลำภู ดำ้ น... ไร่โกโก้ สำขำ... พชื เศรษฐกจิ 1. ประวัตแิ ละผลงำน ไร่สวนผสม...ไร่อะโวคำโด้ /โกโก้ ผลงำนทีโ่ ดดเด่นของนำงบณั ฑติ ำ เมฆวนั มคี วำมโดดเด่น เพรำะเป็นคนแรกของจงั หวดั หนองบวั ลำภูและเป็นเกษตรกรปลูกอะโวคำโด้ / โกโก้รำยใหญข่ องภำคอิสำนท่ี รว่ มมือกบั สำนักงำนเกษตร มกี ำรพฒั นำเพื่อให้เหมำะสมกับสภำพพ้นื ดนิ หรือบริบทของชุมชนและควำม ต้องกำรของตลำด มีกำรสร้ำงงำน สร้ำงอำชีพที่มนั่ คงให้กับชุมชน และสร้ำงชื่อเสียงให้กบั กล่มุ ปลกู พืช เศรษฐกิจที่มีกำรประกันรำคำของผลอะโวคำโด้ หรอื โกโกแ้ ละอำเภอศรบี ุญเรือง 2. องคค์ วำมรแู้ ละควำมเชี่ยวชำญ ตลอดเวลำ 3-4 ปี ที่ผำ่ นมำ นำงบณั ฑิตำ เมฆวัน มีควำมรูค้ วำมชำนำญด้ำนกำรปลกู พืช เศรษฐกิจทุกประเภทเป็นอย่ำงดี มกี ำรพัฒนำสำยพนั ธต์ ลอดเวลำและเผยแพร่แลกเปล่ียนเรยี นรดู้ ำ้ นกำรปลูก พืชเศรษฐกจิ กับทุกกลุ่ม ทุกชมุ ชนเพ่ือนำเอำควำมรู้ทไ่ี ด้มำปรับเปลย่ี นหรือพฒั นำใหม้ ีควำมเหมำะสมกับ บรบิ ทและควำมนยิ มต่ำงๆตลอดเวลำ 3. กำรถ่ำยทอดควำมรแู้ ละควำมเช่ยี วชำญ ทผ่ี ำ่ นมำ นำงบณั ฑิตำ เมฆวัน มีควำมรู้ควำมชำนำญดำ้ นกำรปลกู พชื เศรษฐกิจที่สร้ำงรำยได้ แก่ครอบครัวและชุมชนเปน็ อย่ำงดี มีกำรพัฒนำสำยพันธุต์ ลอดเวลำและเผยแพร่แลกเปลย่ี นเรยี นร้ดู ้ำนกำร พัฒนำสำยพนั ธ์ุของพชื ตำ่ งๆกับทกุ กลมุ่ ทุกชุมชนเพื่อนำเอำควำมรู้ทีไ่ ด้มำปรับเปล่ียนหรือพฒั นำให้มคี วำม เหมำะสมกับบรบิ ทและควำมนิยมตำ่ งๆตลอดเวลำ 4. ลกั ษณะของเครือข่ำยและกำรสรำ้ งเครอื ขำ่ ย มีกำรแลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ บั ทุกองค์กร ทุกชมุ ชน เพ่ือสรำ้ งควำมเชื่อถือกบั เครือข่ำยหรอื ลูกค้ำ เปดิ โอกำสให้ทุกภำคเี ครือข่ำยแลกเปล่ียนควำมรูเ้ พ่ือพัฒนำสำยพนั ธใุ์ ห้ทนั สมยั และเหมำะสมกบั ควำมต้องกำร ของลูกค้ำ เชน่ พัฒนำกำรปลูกพืชอน่ื ลงในช่องวำ่ งระหวำ่ งแถว ในรปู แบบของไร่สวนผสม และมีกำรเลี้ยงสตั ว์ เศรษฐกจิ เชน่ เลยี้ ง แพะ แกะ ววั ไก่ เป็ด หมู ท่ีมกี ำรประกันคุณภำพและรำคำ และมีกำรพฒั นำเป็นแหล่ง เรียนรสู้ ำหรับผู้สนใจในกำรศึกษำดงู ำนด้วย 5. ผลงำนทีเ่ ปน็ ประโยชนต์ ่อชุมชนและสังคม สร้ำงรำยได้ ลดรำยจำ่ ยและใช้เวลำวำ่ งใหเ้ กิดประโยชน์ เปดิ โอกำสให้คนในชมุ ชนมำรวมกลมุ่ กนั เพื่อสรำ้ งจุดแข็งให้กับกบั ชุมชน มีเอกลักษณ์ทโี่ ดดเด่นทำใหเ้ ปน็ ท่ีสนใจกับชมุ ชนอืน่ ๆเพื่อนำเป็นแบบอย่ำง เป็นทีส่ นใจและพดู ถึงในด้ำนกำรปลูกพืชเศรษฐกิจแบบไร่สวนผสม ท่เี หมำะสมกบั ควำมต้องกำรของตลำดใน ปจั จบุ ันและอนำคต 6. รำงวลั หรือเกยี รตคิ ุณทไ่ี ด้รับ - รำงวลั เกษตรกรดีเด่นดำ้ นพืชเศรษฐกิจใหม่ ระดบั ดีเดน่ ของจังหวัดหนองบัวลำภู

ตำบลโนนมว่ ง ประวัติและผลงำนครภู ูมปิ ัญญำท้องถ่นิ จังหวดั หนองบัวลำภู ด้ำนอุตสำหกรรมและหตั ถกรรม สำขำคลังปญั ญำ รูปภำพ นำงบุญส่ง เทพมณี

* หมำยเหตุ ใส่รปู ภำพ 2 – 5 รปู ข้นึ ไป รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ นำงบญุ สง่ เทพมณี

ประวตั ิและผลงำนครภู ูมปิ ัญญำท้องถ่นิ จังหวัดหนองบัวลำภู ด้ำนคลังปัญญำ สำขำคลังปญั ญำอุตสำหกรรมและหตั ถกรรม 1. ประวตั แิ ละผลงำน ที่อยู่ นำงบุญส่ง เทพมณี ที่อยู่ 150 หมู่ที่ 2 บ้ำนตะเคียนทอง ตำบลโนนม่วง อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู “ยำมว่ำงจำกนำ ผู้หญิงทอผ้ำ ผู้ชำยจักสำน” ในอดีตที่ผ่ำนมำ กำรทอผ้ำถือเป็นหน้ำท่ีสำคัญของ ผู้หญิงชำวอีสำน เพรำะจะต้องทอผ้ำเพ่ือใช้เป็นเคร่ืองนุ่งห่มในชีวิตประจำวัน ผู้หญิงอีสำนต้องเรียนรู้และ ฝกึ หดั กำรทอผ้ำมำตง้ั แตเ่ ด็ก จนกลำยเปน็ ส่วนหน่ึงของวถิ ีชีวิต กำรทอผ้ำเพื่อใช้ในครอบครัวจึงเป็นส่ิงสำคัญท่ี ผู้หญิงอีสำนจะต้องเรียนรู้และฝึกหัด โดยเริ่มจำกผู้เป็นแม่ได้ถ่ำยทอดควำมรู้และเทคนิควิธีกำรทอผ้ำให้ ลกู หลำน สืบทอดกันมำ ผำ้ ทท่ี อได้ นิยมสวมใส่ไปทำบุญที่วัด หรือในงำนพิธีและงำนมงคลต่ำงๆ รวมทั้งเก็บไว้ เป็นมรดกใหล้ กู หลำน 2. องคค์ วำมรแู้ ละควำมเช่ียวชำญ กำรถ่ำยทอดควำมรู้ เน้นกำรถ่ำยทอดควำมรู้โดยตรงจำกผู้ถ่ำยทอดสู่ผู้รับกำรถ่ำยทอด ในอดีต จะถ่ำยทอดให้กับบุคคลในครอบครวั แต่ในปัจจุบันจะถ่ำยทอดควำมรู้ให้กับสมำชิกกลุ่มทอผ้ำหรือบุคคลท่ัวไป ท่ีสนใจโดยจะมีกำรผสมผสำนกันท้ังวิธีกำรสำธิตและกำรให้ลงมือปฏิบัติจริง เป็นวิธีที่ดีท่ีสุดที่จะทำให้ผู้เรียน สำมำรถทอผ้ำได้ ผู้เรียนจะต้องสังเกตจนเกิดควำมเข้ำใจและจดจำขั้นตอนต่ำงๆ ของกำรทอผ้ำ ผู้สอนจะ อธิบำยข้ันตอนและเทคนิควิธีกำรทอผ้ำในระหว่ำงกำรสำธิต จำกนั้นจึงให้ผู้เรียนหรือผู้รับกำรถ่ำยทอดฝึก ปฏิบัติกำรทอผ้ำทุกข้ันตอนวิธีกำรถ่ำยทอดควำมรู้กำรกำรทอผ้ำท่ีได้ผลดีท่ีสุด ส่วนใหญ่จะสอนแบบตัวต่อตัว หรอื สอนเปน็ รำยคน ซงึ่ เปน็ วธิ สี อนแบบดั้งเดมิ 3. กำรถ่ำยทอดควำมร้แู ละควำมเชีย่ วชำญ กำรนำควำมรไู้ ปใช้ สมำชกิ กลมุ่ ทอผ้ำหมัดหม่ี มกี ำรทอผ้ำเปน็ อำชพี เสริม ควำมร้ทู ่ีนำไป ประยุกต์ใช้ มำจำกกำรกำหนดควำมรู้และกำรแสวงหำควำมรู้จำกแหล่งต่ำง ๆ ได้แก่ ควำมรู้ภูมิปัญญำที่ได้รับ กำรถ่ำยทอดจำกบรรพบรุ ุษ ควำมรจู้ ำกประสบกำรณ์ท่ีช่ำงทอผ้ำได้ลงมือปฏิบัติมำอย่ำงยำวนำนจนเกิดทักษะ ควำมรู้ทไี ดร้ บั จำกแหลง่ ควำมรู้ต่ำงๆ และเทคนิคใหม่ๆ ควำมรู้ท่ีได้รับจำกกำรศึกษำดูงำนและกำรแลกเปลี่ยน เรียนรู้ รวมทั้งควำมรู้ที่สมำชิกกลุ่มทอผ้ำได้ประยุกต์จำกควำมรู้เดิมผสมผสำนกับควำมรู้ใหม่ให้เกิดลำยใหม่ๆ และกำรประดษิ ฐ์ตวั อกั ษรลงบนในกำรมดั หมี่ 4. ลักษณะของเครอื ขำ่ ยและกำรสรำ้ งเครอื ข่ำย กำรถ่ำยทอดกระบวนกำรทอผำ้ ท้งั สองวธิ ีดงั กล่ำวเปน็ กำรถ่ำยทอดโดยตรง และใช้วิธีเดียวกันใน กำรถ่ำยทอดให้ผู้เรียนเทคนิคสำคัญของวิธีกำรถ่ำยทอดควำมรู้กำรทอผ้ำ ที่ได้ผลดีที่สุดส่วนใหญ่จะสอนแบบ ตวั ตอ่ ตวั หรือสอนเปน็ รำยคน ซึ่งเป็นวิธีสอนแบบดงั้ เดิม

5. ผลงำนทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสังคม กจิ กรรมจดุ เรยี นรูประจำตำบล / กลมุ่ สัมมำชีพทอผ้ำมดั หมบี่ ำ้ นตะเคียนทอง 6. รำงวลั หรอื เกยี รตคิ ณุ ทไ่ี ด้รบั เปน็ วทิ ยำกรด้ำนกำรทอผำ้ มดั หม่ี /ผู้ผลิตและสง่ เสรมิ ผลิตภณั ฑข์ องชุมชนอำเภอศรบี ุญเรอื ง

ตำบลโนนสะอำด ประวตั ิและผลงำนภูมิปัญญำท้องถิ่น ตำบลโนนสะอำด อำเภอศรีบุญเรอื ง จังหวดั หนองบัวลำภู ดำ้ นอตุ สำหกรรมหตั ถกรรม สำขำกำรจกั สำน นำยประสิทธ์ิ โมครัตน์

ช่อื -สกุล นำยประสทิ ธ์ิ โมครตั น์

ประวตั แิ ละผลงำนภมู ิปัญญำทอ้ งถน่ิ ตำบลโนนสะอำด อำเภอศรีบญุ เรือง จงั หวัดหนองบวั ลำภู ด้ำนอตุ สำหกรรมหัตถกรรม สำขำกำรจักสำน 1. ประวตั ิและผลงำน เกดิ เมื่อวนั ที่ 2 เมษำยน พ.ศ. 2500 อำยุ 63 ปี ท่อี ยู่ 115 หมูท่ ี่ 4 บ้ำนโนนคณู ตำบล โนนสะอำด อำเภอศรีบุญเรือง จังหวดั หนองบัวลำภู เบอรโ์ ทรศพั ท์ 0981400472 ได้รบั สบื ทอดควำมรู้มำจำก พ่อ แม่ เพื่อจกั สำนส่ิงของไวใ้ ชเ้ องกันภำยในครอบครัวโดยไม่ตอ้ ง ซื้อ เนื่องจำกมีรำคำแพง และยงั ชว่ ยสบื ทอดควำมรใู้ ห้คนรุ่นหลงั ทส่ี นใจอีกด้วย 2. องค์ควำมรูแ้ ละควำมเช่ียวชำญ วัสดุทใ่ี ชใ้ นกำรจักสำนเป็นวสั ดทุ ่ีหำได้ท่ัวไปภำยในหม่บู ้ำน คือไม้ไผ่ โดยเร่ิมจำกกำรจกั ตอก ตำมขนำดที่ ต้องกำร จำกนัน้ ก็ดำเนินกำรสำนซ่งึ ต้องใช้ควำมละเอียด ตอ่ ไปคือกำรรมควันเพ่ือเพมิ่ ควำม แข็งแรง สวยงำมให้แก่เคร่อื งจกั สำน มีควำมเชยี่ วชำญในกำรสำนเปลไม้ไผ่ ตะกรำ้ และตำมออเดอรท์ ี่ ลกู คำ้ สงั่ เป็นต้น 3. กำรถำ่ ยทอดควำมรแู้ ละควำมเช่ียวชำญ มีกำรถำ่ ยทอดควำมรดู้ ำ้ นกำรจักสำนใหแ้ ก่ประชำชนในหมู่บำ้ น และเป็นวทิ ยำกรให้กบั หน่วยงำนต่ำงๆ 4. ลกั ษณะของเครือขำ่ ยและกำรสรำ้ งเครือขำ่ ย - 5. ผลงำนทีเ่ ปน็ ประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสังคม ได้จักสำน ตะกร้ำ ขอ้ ง ให้กบั ทำงหมู่บำ้ นเพื่อใช้ในงำนบุญประเพณีต่ำงๆ 6. รำงวัลหรอื เกียรตคิ ุณท่ีได้รบั -

ตำบลกุดสะเทียน ประวัตแิ ละผลงำนครูภูมิปญั ญำท้องถ่ินจังหวดั หนองบัวลำภู ด้ำนบุคคล สำขำกำรนวดแผนไทย ชือ่ – สกลุ : นำงสำวรตั นส์ ุดำ เกตุนำค อำยุ : 29 ปี จบกำรศกึ ษำ : แพทย์แผนไทยบัณฑติ (เกยี รตนิ ิยมอันดบั 2) คณะวทิ ยำลยั กำรแพทยพ์ ้ืนบ้ำนและกำรแพทย์ ทำงเลอื ก มหำวทิ ยำลัยรำชภัฎเชยี งรำย ปี 2557 ใบประกอบวิชำชีพ : พท.ว.19886 , พท.ภ.27055 , พท.ผ.7947 , พท.น2920 ประวตั ิกำรทำงำน : พนกั งำนกระทรวงสำธำรณสุข ตำแหนง่ แพทยแ์ ผนไทย ปฏิบัติงำนที่โรงพยำบำลส่งเสริม สุขภำพตำบลกุดสะเทยี น ตั้งแต่ 2 สงิ หำคม 2558 – ปจั จบุ นั

นำงสำวรัตนส์ ุดำ เกตนุ ำค ประวตั ิและผลงำนครภู ูมปิ ัญญำทอ้ งถิ่นจงั หวดั หนองบัวลำภู 1. ประวตั ิและผลงำน เป็นวิทยำกรถำ่ ยทอดควำมรู้นวดแผนไทย ณ รพ.สต.บำ้ นกดุ สะเทียน ต.ศรบี ญุ เรอื ง จ. หนองบัวลำภู 2. องคค์ วำมรู้และควำมเชี่ยวชำญ มคี วำมร้ดู ำ้ นกำรนวดแผนไทย 3. กำรถำ่ ยทอดควำมร้แู ละควำมเชี่ยวชำญ ถำ่ ยทอดควำมรู้ได้ในตำบลและพื้นท่ีใกล้เคียง 4. ลกั ษณะของเครอื ขำ่ ยและกำรสรำ้ งเครอื ข่ำย เป็นหนว่ ยงำนในพื้นทีต่ ำบลกุดสะเทยี นที่ไดร้ ับผิดชอบ 5. ผลงำนทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ ชมุ ชนและสังคม ให้ควำมรู้ในเร่ืองกำรนวดแผนไทย รำงวัลหรือเกยี รติคณุ ทไ่ี ด้รับ แพทย์แผนไทยบัณฑติ (เกียรตินยิ มอันดบั 2) คณะวิทยำลัยกำรแพทย์พน้ื บ้ำนและกำรแพทย์ทำงเลอื ก มหำวิทยำลัยรำชภฎั เชยี งรำย ปี 2557

ตำบลทรำยทอง ประวัตแิ ละผลงำนครูภูมิปัญญำท้องถิ่นจงั หวดั หนองบัวลำภู ด้ำน ด้ำนอุตสำหกรรมและหัตถกรรม สำขำ สำนกระตบิ ขำ้ วจำกต้นคล้ำ นำงสำวเทวี สมพะวงั

* หมำยเหตุ ใสร่ ปู ภำพ 2 – 5 รูปขน้ึ ไป รูปภาพ รูปภาพ รูป ภาพ

ประวัตปิ ระวตั ิและผลงำนครูภูมิปัญญำท้องถ่ินจังหวัดหนองบวั ลำภู ดำ้ น ดำ้ นอตุ สำหกรรมและหัตถกรรม สำขำ สำนกระติบขำ้ วจำกต้นคลำ้ 1. ประวัติและผลงำน นำงสำวเทวี สมพะวงั อย่บู ้ำนเลขท่ี 92 หมทู่ ี่ 4 ตำบลทรำยทอง อำเภอศรบี ุญเรือง จงั หวดั หนองบวั ลำภู โทร 098-2219202 เปน็ ผู้ที่มีควำมกระตือรือร้นสนใจในกำรจักสำนกระติบข้ำวจำกต้นคล้ำพ่อ แมห่ น็ ควำมตัง้ ใจจึงฝึกให้สำนกระติบขำ้ วตั้งแตย่ ังเดก็ ดว้ ยควำมเป็นคนใฝร่ ้ใู ฝ่เรียนจึงคดิ ค้นลำยกระตบิ ใหมๆ่ ๆ อย่เู สมอนอกจำกสำนกระตบิ ข้ำวแล้ว ยงั มกี ระเป๋ำ กล่องกระดำษทิชชู่ นอกจำกนักยังประกวดของดีศรีบญุ เรอื งสำนกระตบิ ข้ำวไดร้ ับรำงวัลทุกปีฝีมอื กำรสำนกระติบจึงเป็นที่ยอมรบั อยำ่ งแพร่หลำย 2. องคค์ วำมรู้และควำมเช่ียวชำญ กระตบิ ข้ำวคล้ำภมู ิปญั ญำท่ผี ูกพนั กับชำวอีสำนเปน็ ภำชนะชนดิ หน่ึงที่ใช้สำหรับใส่ขำ้ วเหนียวของชำว อสี ำนสบื สำนนำนมำตง้ั แตบ่ รรพบุรษุ จวบจนปัจจุบนั จำกกำรศึกษำประวตั แิ ละข้อมลู จำกศนู ย์วัฒนธรรม จังหวดั ต่ำงๆในภำคอสี ำน พบวำ่ กระตบิ ข้ำวเหนียวนนั้ มีมำนำนตั้งแต่อดตี เคียงคู่เปน็ กำรดำรงชีวิตของคน อสี ำน กระตบิ ข้ำวเหนียวเป็นภำชนะท่สี ำคัญในกำรดำรงชีวิตของคนอสี ำน กอ่ งขำ้ วหรือกระติบข้ำวคือส่ิง เดยี วกนั ก่องข้ำวหรอื กระติบข้ำวส่วนใหญใ่ ช้วัสดุทำมำจำกไมไ้ ผโ่ ดยมีกำรจัดทำและใส่ลวดลำยหรอื ยอ้ มสีต่ำงๆ ไปตำมยุคสมัย และมีลวดลำยเป็นเอกลักษณ์แลว้ แต่ละท้องถนิ่ และตำมฝีมือของบรรพบุรุษท่ีได้ถ่ำยทอดสืบ สำนต่อกัน วัตถุประสงค์ ->เพอ่ื สบื สำนอนุรกั ษภ์ มู ปิ ัญญำท่ีมำช้ำนำนใหล้ กู หลำนได้สำนต่อ วัตถดุ ิบ 1. ตน้ คล้ำ 2. กำ้ นตำล 3. เชอื กสำหรับเย็บ 4. เชอื กสำหรับทำสำย อปุ กรณ์ 1. เขียงรองขูด 2. มดี สำหรับตดั คล้ำ (มดี อีโต้ ) 3. มีดสำหรับจกั คลำ้ 4. มดี สำหรับขดู คล้ำใหน้ ่มิ 5. เข็มสำหรบั เยบ็ กระตบิ 6. เหลก็ แหลมสำหรบั เจำะรใู สต่ นี กระตบิ

กระบวนกำร/ขน้ั ตอน- 1 ข้นั ตอนกำรเลอื กคลำ้ เป็นกำรเลอื กตดั ตน้ คล้ำสด ควรเลอื กตน้ คล้ำ ลำคลำ้ ทม่ี ีอำยุ ประมำณ 1 ปขี ึน้ ไป สรุปคือไมอ่ ่อนเกินไป ถำ้ แก่อำจทำยำก แต่มคี วำมทนทำนดี 2 ขั้นตอนกำรตัดลำคล้ำ นำต้นคลำ้ สดมำตดั ตำมขนำดของกระติบ เล็ก กลำง ใหญ่ ขนำด กลำง และใหญ่มคี วำมประมำณ 60 - 80 เซนตเิ มตร 3 ขั้นตอนกำรจกั เสน้ ตอก นำคล้ำสดท่ีตดั แลว้ มำจักสำนเปน็ เส้นตำมขนำดมี่ต้องกำร เชน่ ขนำด 2 มลิ ลิเมตร 4 ขน้ั ตอนกำรขดู และตำก นำเส้นคลำ้ ท่ีจักสำนเสรจ็ มำตำกแดดให้แห้งรอกำรขดู พร้อมกันท่ี ละมำกๆหรอื ขูดสดเอำใยออกโดยขดู ทงั้ ดำ้ นหนำ้ ดำ้ นหลงั ด้วย เสร็จแลว้ นำไปตำกแดดให้แหง้ จนสี สวยงำม 5 ขั้นตอนกำรก่อกระติบข้ำว นำเส้นคล้ำที่ขูดและตำกแห้งเสรจ็ มำพรมนำ้ แลว้ นำมำกอ่ สำน เปน็ กระติบข้ำวคลำ้ ตำมขนำดท่ตี อ้ งกำร เช่น ขนำดเล็ก ใชจ้ ำนวนเสน้ คลำ้ ไม่เทำ่ กัน 6 ขั้นตอนกำรขึ้นรปู นำกระตบิ ข้ำวทส่ี ำนเสรจ็ มำพับข้ึนรูป ตกแตง่ ใหเ้ รยี บร้อยสวยงำม 7 ข้นั ตอนกำรสำนหน้ำคลำ้ สำนฝำรองจำกไม้ไผ่ สำนเปน็ แผ่นขนำดเท่ำกระติบทเ่ี ตรยี มไว้ นำมำตัดประกอบเตรียมกำรเยบ็ 8 ข้ันตอนกำรเย็บ นำกระติบขำ้ วท่พี บั แล้วมำวัดขนำด แล้วนำฝำบน ฝำล่ำงมำตัดเปน็ วงกลมเทำ่ ขนำดกระตบิ แลว้ นำหวำยมำเย็บประกอบติดกนั เปน็ ฝำบน ฝำล่ำง 9 ขน้ั ตอนกำรประกอบและตกแตง่ นำกระตบิ ข้ำวทั้งฝำบน ฝำลำ่ งมำประกอบกนั แลว้ เย็บใส่ ตีนหรอื ฐำนล้ำง โดยใชต้ ีนตำลทีท่ ำเปน็ วงตำมขนำดของกระติบขำ้ วมำเยบ็ ประกอบเข้ำด้วยกัน 3. กำรถำ่ ยทอดควำมรแู้ ละควำมเชย่ี วชำญ เป็นวิทยำกรศูนย์ฝกึ อำชีพชมุ ชน ในตำบลทรำยทอง คิดค้นลำยกระติบให้หลำกหลำยเชน่ ลำยหวั ใจ ลำยดอกแก้ว ลำยผีเสอ้ื และตัวหนงั สือชอ่ื ตำ่ งๆๆ 4. ลักษณะของเครอื ข่ำยและกำรสร้ำงเครือขำ่ ย ทำงำนรม่ กบั หน่วยงำนรำชกำรหลำยหน่วยงำนโดยหำรรบั หน้ำที่เปน็ วทิ ยำกร เชน่ รพ.สต.บำ้ นทรำย มูล กศน. อบต. โรงเรียนต่ำงๆในตำบล 5. ผลงำนท่เี ป็นประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสังคม เป็นวิทยำกรประจำตำบลคดิ ค้นลำยกระติบให้หลำกหลำยเช่นลำยหัวใจ ลำยดอกแก้ว ลำยผีเส้ือ และตัวหนังสือช่อื ต่ำงๆๆ

6. รำงวลั หรอื เกยี รตคิ ุณท่ีได้รับ 1. ได้รบั รำงวัล ชนะเลิศ กำรประกวดสำนกระตบิ ข้ำวจำกคลำ้ ประจำปี 2558 2. ไดร้ ับรำงวัล ชนะเลศิ กำรประกวดสำนกระตบิ ข้ำวจำกคล้ำ ประจำปี 2559 3. ได้รับรำงวัล ชนะเลศิ กำรประกวดสำนกระตบิ ข้ำวจำกคลำ้ ประจำปี 2560 4. ได้รับรำงวัล ชนะเลศิ กำรประกวดสำนกระติบข้ำวจำกคล้ำ ประจำปี 2561 5. ได้รบั รำงวัล ชนะเลศิ กำรประกวดสำนกระตบิ ข้ำวจำกคลำ้ ประจำปี 2562

ตำบลนำกอก ประวตั ิและผลงำนครภู ูมิปญั ญำท้องถ่ินจังหวัดหนองบัวลำภู ดำ้ น.....เศรษฐกิจพอเพียง สำขำ....ดำ้ นเกษตรกรรมกำรทำเกษตรผสมผสำนแบบอินทรี ย์ นำยสมยศ หมู่หมนื่ ศรี

* หมำยเหตุ ใสร่ ูปภำพ 2 – 5 รูปขน้ึ ไป รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ รูปภาพ

นำยสมยศ หมู่หมนื่ ศรี ประวัติประวัติและผลงำนครภู มู ปิ ัญญำท้องถนิ่ จงั หวดั หนองบัวลำภู ดำ้ นเศรษฐกิจพอเพียง สำขำดำ้ นเกษตรกรรมกำรทำเกษตรผสมผสำนแบบอินทีรย์. 1. ประวตั ิและผลงำน เปน็ ปรำฃญ์ชำวบ้ำนโนนสำรำญ เป็นหมอดิน ก่อนทผ่ี มจะกลับมำช่วยครอบครวั ของผมอย่ำงเต็มตวั ผมเปลี่ยนวถิ กี ำรทำเกษตรหลังจำกเรยี นรเู้ กษตรทฤษฎใี หม่ว่ำด้วยเรอื่ งกำรแบ่งพน้ื ท่ีเป็น 4 ส่วน มีน้ำ มีนำ มี พนื้ ทปี่ ลกู ผัก และท่ีอยู่อำศยั สง่ิ ทพ่ี ผมทำไม่ใช่กำรหยบิ ยกวธิ ีกำรทงั้ หมดมำทำอย่ำงไมป่ ระมำณตน แตท่ ำ่ นดู บรบิ ททสี่ ำคญั และทำไดจ้ ริงก่อน ซ่งึ ผมพบว่ำนำ้ มคี วำมสำคัญในกำรทำเกษตร ถำ้ มถี นน มไี ฟฟ้ำ และอ่ืนๆ แต่ ไม่มนี ้ำ ยงั ไงก็ทำเกษตรไมไ่ ด้ จงึ ขดุ สระนำ้ ข้ึนมำ ซง่ึ กต็ อ้ งใชเ้ งิน แต่ไม่มีใครยอมให้กู้ พอดผี มรู้จกั กบั คนขดุ ดนิ ขำยก็เลยยกดนิ 1 ไร่ให้เขำแลกกบั หนองน้ำไว้ทำเกษตร พอมีนำ้ ก็ปลูกพริก กะเพรำ มะเขือ มกี ินแลว้ ยงั มี รำยไดเ้ ข้ำมำ 2. องค์ควำมรู้และควำมเช่ียวชำญ เป็นเรื่องง่ำยมำกทใ่ี ครจะเร่มิ ทำเกษตรแบบมักงำ่ ย ซื้อปุย๋ กระสอบมำหวำ่ นแลว้ นง่ั หวงั กับฟ้ำกบั ฝนว่ำ จะไดผ้ ลผลติ ทด่ี ี ท้งั ทกี่ ็ไม่กลำ้ ใชส้ มนุ ไพรขับไลแ่ มลงเพรำะไมโ่ ฆษณำวำ่ ดี สปู้ ุย๋ ท่ีมเี งินซ้ือโฆษณำมำกกว่ำไม่ได้ “กม็ ีคนมำเสนอขำยปุ๋ยถงึ ท่นี เ่ี หมอื นกันนะ ยำฆำ่ แมลงกเ็ ยอะ เวลำพดู เรอ่ื งเกษตรอนิ ทรีย์ทุกคนจะนกึ ถึงกำร ปลูกพืชผลไม้โดยไม่ใชส้ ำรเคมี ยำฆำ่ แมลง มีข้อจำกดั มำกมำยเต็มไปหมด เกษตรกรจึงไม่คอ่ ยอยำกทำ แต่ใน ควำมเขำ้ ใจของเรำ เกษตรอินทรยี ค์ อื กำรปลกู ไว้กิน ไว้แบ่งปนั คนอน่ื เมื่อนิยำมคนละแบบวิธีกำรกค็ นละแบบ เลย เรำจะคิดถึงควำมปลอดภัยและกำรปลอดสำรกบั ทุกเร่ือง ซ่ึงหำกเอำตัวเลขผลกำไรจำกผลติ ภณั ฑเ์ กษตร อนิ ทรยี ม์ ำเป็นแรงจูงใจใหท้ ำเกษตรอนิ ทรยี ์ เมื่อไมเ่ ปน็ ตำมท่ีคำดหวังเกษตรกรก็รู้สึกลม้ เหลว 3. กำรถ่ำยทอดควำมรแู้ ละควำมเชย่ี วชำญ ทม่ี ำของชุดควำมคดิ นี้มำจำกกำรปฏิบัติจริงในบำ้ นของเขำ ซง่ึ ตอนแรกอำจจะเรม่ิ จำกไม่มเี งิน แต่ แทนทีจ่ ะหำแตร่ ำยได้เขำต้องรูจ้ ักกำรลดรำยจำ่ ย มวี ธิ ีกำรและองคค์ วำมรู้มำกมำยเพยี งเลือกใชใ้ หเ้ หมำะสมกบั ภมู ศิ ำสตรแ์ ละสงั คมของตัวเอง ขอยกตวั อย่ำงในพืน้ ท่ีแปลงผักทบ่ี ุญลอ้ มเลำ่ วำ่ เขำไมม่ ีเงนิ ซือ้ ผ้ำมำคลุม จงึ เลอื กปลูกกล้วยใหใ้ บโตพรำงแสง เขำบอกวำ่ ปลูกกลว้ ยได้ท้งั เครอื ไดท้ ั้งหนอ่ ก้ำนกลว้ ยกใ็ ชเ้ ป็นทคี่ ำ้ ผกั ให้เครือของบวบ ถ่ัว และตำลงึ พันกำ้ น ขึ้นไป ปกติเกษตรกรนยิ มใชต้ ำข่ำยหรอื ไมล้ อ้ มซง่ึ ใช้ได้หนเดียวก็ต้องทิง้ แตก่ ้ำนกลว้ ยที่หมดอำยุขัย เม่อื วำงลง ไปในดิน รำดด้วยนำ้ หมักเข้มข้น กลบด้วยดนิ ท้ิงไว้ 2 สปั ดำหแ์ ล้วสับให้กลำยเป็นปุ๋ย ก้ำนเหลำ่ นั้นจะย่อย สลำย ดินก็ไดธ้ ำตุอำหำรเพิ่มขึน้ ไม่ต้องย้ำยท่ีปลูกเพรำะเรำรูจ้ กั ปรงุ ดนิ ให้ดี 4. ลกั ษณะของเครอื ขำ่ ยและกำรสร้ำงเครอื ข่ำย กำรใหผ้ ลผลติ ทุกๆอยำ่ งในสวนของเรำกบั ทุกๆหนว่ ยงำนที่มำเย่ยี มชอบและแลกเปลย่ี นองค์ควำมรู้

5. ผลงำนทเี่ ป็นประโยชนต์ อ่ ชุมชนและสังคม นั้นกค็ อื กำรไปบรรยำยรว่ มเป็นวิทยำกรให้กบั ชมุ ชนในตำบลนำกอกและหนว่ ยงำนที่ไดร้ ับเชิญให้ ควำมรู้ 6. รำงวัลหรอื เกียรตคิ ุณทไ่ี ด้รับ เกษตรกรดีเดน่ ตำบลนำกอก

ตำบลยำงหลอ่ ประวัตแิ ละผลงำนครูภูมิปัญญำท้องถิ่นจงั หวัดหนองบัวลำภู ดำ้ น.....เศรษฐกจิ พอเพยี ง สำขำ....ด้ำนกองทนุ และสวัสดิกำรชมุ ชน นำยบวั ไล แก้วกงพำน

* หมำยเหตุ ใสร่ ปู ภำพ 2 – 5 รูปข้นึ ไป

ประวตั ิและผลงำนครภู ูมปิ ญั ญำทอ้ งถ่นิ จังหวัดหนองบัวลำภู ดำ้ น.....เศรษฐกจิ พอเพยี ง สำขำ....ด้ำนกองทุนและสวัสดิกำรชุมชน 1. ประวัติและผลงำน เปน็ ปรำฃญช์ ำวบำ้ นโนนมว่ งนอ้ ย ต.ยำงหลอ่ อ.ศรบี ุญเรือง จ.หนองบวั ลำภู เป็นองค์กรและสถำบัน กำรเงนิ ดเี ดน่ ระดบั ภำค ปี พ.ศ.2551 เปน็ สหกรณด์ เี ดน่ ในกำรบริหำรงำน 3ปซี ้อน 2552-2554 2. องค์ควำมรู้และควำมเชี่ยวชำญ ได้ถ่ำยทอดองค์ควำมรู้ได้กำรกำรทำบญั ชี กำรจัดต้ังสหกรณ์ กำรทำงบดลุ ตำ่ งๆ ใหเ้ กดิ ผลสงู สดุ ตอ่ ชมุ ชน ได้ถำ่ ยทอดองค์ควำมรู้ในกำรจัดต้งั กลุ่มสหกรณก์ ำรออมเงิน กำรบรหิ ำรจดั กำรในองค์กร ขยำยผลสชู่ ุมชนใหม้ ี ควำมรักสมคั รสมำนสำมคั คี ใหบ้ ริหำรจดั กำรด้ำนคุณภำพชีวติ ให้ดีขึ้นในสภำวะปัจจบุ นั 3. กำรถำ่ ยทอดควำมรู้และควำมเชีย่ วชำญ ทมี่ ำของชดุ ควำมคดิ นี้มำจำกกำรปฏบิ ัติจริงในบ้ำนของเขำ ซงึ่ ตอนแรกอำจจะเรม่ิ จำกไม่มเี งิน แต่ แทนทีจ่ ะหำแต่รำยไดเ้ ขำต้องรูจ้ ักกำรลดรำยจ่ำย มวี ิธีกำรและองคค์ วำมร้มู ำกมำยเพยี งเลือกใชใ้ หเ้ หมำะสมกับ ภูมิศำสตรแ์ ละสังคมของตวั เอง ขอยกตัวอยำ่ ง ในพืน้ ท่ีของชุมชนทำกำรเกษตรอยแู่ ลว้ และได้เกิดแนวคดิ กำรรวมกลุ่มของชุมชน เพื่อเกิดพลงั ของชมุ ชนใหม้ ี ควำมย่งั ยนื และไม่ต้องรอกำรชว่ ยเหลือจำกภำครฐั ต่อไป 4. ลกั ษณะของเครอื ข่ำยและกำรสรำ้ งเครอื ข่ำย กำรให้ผลผลติ ทุกๆอย่ำงของเรำกบั ทุกๆหน่วยงำนทม่ี ำเย่ียมชอบและแลกเปลยี่ นองค์ควำมรู้ มกี ำรขยำยผลควำมรบั ผิดชอบคอื 1.ตำบลยำงหล่อ 2.ตำบลโนนมว่ ง 3.ตำบลหนองกุงแก้ว ใหจ้ ัดทำบญั ชี ครวั เรือน จบั กลุม่ กำรทำเกษตรด้ำนต่ำงๆรบั ซื้อผลติ ผลทำงกำรเกษตรจำกสมำชกิ 5. ผลงำนท่เี ป็นประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสังคม นนั้ กค็ อื กำรไปบรรยำยรว่ มเป็นวทิ ยำกรให้กับชุมชนในตำบลนำกอกและหนว่ ยงำนที่ได้รับเชญิ ให้ ควำมรู้ 6. รำงวัลหรือเกียรตคิ ุณทไี่ ด้รบั ประธำนกลุ่มดเี ดน่ ระดบั จังหวัด ระดับภำค ระดบั ประเทศ

ตำบลศรบี ญุ เรือง ทำเนียบแหล่งเรยี นรู้ ประจำเดอื น มีนำคม 2563 ชือ่ แหล่งเรียนรู้ สำขำอตุ สำหกรรมและหัตถกรรม นำงวริ ะวรรณ โกศล



ช่ือ ภมู ิปัญญำทอ้ งถน่ิ นำงวิระวรรณ โกศล อำชพี ผใู้ หญ่บ้ำนจอมทอง หมู่ 8 ตำบลศรบี ญุ เรือง อำเภอศรีบญุ เรอื ง จังหวัดหนองบัวลำภู 39180 เบอรโ์ ทรศพั ท์ 084-9544936 ประวตั ิแหล่งเรียนรู้ กำรจักสำนกระตบิ ข้ำวด้วยตน้ คล้ำ ประวัติกระตบิ ข้ำวตน้ คลำ้ หัตถกรรมท้องถนิ่ เปน็ งำนหัตถกรรมทเี่ กิดจำกภมู ปิ ัญญำของท้องถิน่ ที่นำ วสั ดตุ ำ่ งๆ มำใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ กำรสำนกระตบิ ข้ำวดว้ ยตน้ คล้ำเปน็ งำนฝมี ือท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั กำรดำเนนิ ชีวติ ของชมุ ชน ตน้ คล้ำเปน็ พชื ตระกูล ขงิ -ข่ำ ประเภทใบเลย้ี งเดี่ยว ปลูกง่ำยทนต่อทุกสภำพของดนิ ฟำ้ อำกำศ ต้น คล้ำเวลำที่สำนเป็นกระติบขำ้ วแลว้ จะมีคุณสมบัติ คือ สำมำรถเก็บควำมรอ้ นของข้ำวเหนียวทีน่ ึ่งสกุ แล้วได้ดี ลำยทนี่ ิยมสำนเปน็ กล่องขำ้ วส่วนมำกเป็น ลำยสองเรียน ลำยสองยืนชมุ ชนบ้ำน จอมทอง ห้วยฮวก-นำฝำย อำเภอศรีบุญเรือง ต้ังอยู่บนเส้นทำงศรบี ญุ เรือง-ภูเวียง ประมำณกิโลเมตรท่ี 8 ชำวบ้ำนในหมู่บำ้ นประมำณ 95% ทำอำชพี จกั สำนกระตบิ ขำ้ วดว้ ยคลำ้ เป็นงำนหตั ถกรรมที่มคี วำมงำมจำกวสั ดธุ รรมชำตแิ ละคงทน ทพ่ี รง่ั พรอ้ มด้วยประโยชน์ใช้สอย ที่บ่งบอกถงึ แนวคิดและภมู ปิ ัญญำของชำวบ้ำนอยำ่ งแท้จริง โดยนิยมทำกนั ท้ัง ครอบครัว ต้งั แต่อำยุ 6-60 ปี กส็ ำมำรถสำนกระตบิ ข้ำวด้วยควำมชำนำญเปน็ ท่ีนำ่ ภูมิใจย่งิ และสำมำรถที่จะ สง่ เสรมิ เป็นแหลง่ ท่องเท่ยี ว ทำงวัฒนธรรมของจังหวดั ได้เป็นอย่ำงดี รำงวัลที่ได้รบั 1. หมู่บ้ำนตน้ แบบไทยนยิ มนั่งยืน 2. หมูบ่ ำ้ นต้นแบบนวตั วถิ ี OTOP ระดับตำบล 3. รำงวัลหมบู่ ำ้ นต้นแบบสง่ เสริมกำรจัดทำหัตถกรรม กำรจั

ตำบลหนองแก ประวัตแิ ละผลงำนครูภูมปิ ัญญำทอ้ งถิ่นจังหวัดหนองบัวลำภู ด้ำน ภมู ปิ ัญญำด้ำนเกษตรผสมผสำน นำยเฉลมิ วงษอ์ ำด



นำยเฉลิม วงษอ์ ำด ประวตั ิประวัติและผลงำนครูภูมิปัญญำท้องถิ่นจังหวัดหนองบัวลำภู ดำ้ น เกษตรผสมผสำน 1. ประวตั แิ ละผลงำน เป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีได้รับรำงวัลชนะเลิศ กำรปลูกผักปลอดสำรพิษ ของบ้ำนสำรำญสุข ตำบล หนองแก อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู และเป็นแหล่งศึกษำดูงำนของผู้ที่สนใจในตำบลและ นักเรียนนักศกึ ษำทสี่ นใจในกำรทำเกษตรผสมผสำน 2. องคค์ วำมรแู้ ละควำมเช่ยี วชำญ จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนโดยยึดหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ตำมแนว พระรำชดำริ กล่ำวคือ เศรษฐกิจพอเพียงกับแนวทำงปฏิบัติของเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นแนวทำงในกำรพัฒนำ ท่ีนำไปสคู่ วำมสำมำรถในกำรพ่งึ ตนเองในระดบั ต่ำงๆ อย่ำงเป็นขน้ั ตอนโดยลดควำมเส่ียงเก่ียวกับควำมผันแปร ของธรรมชำติหรือกำรเปล่ียนแปลงจำกปัจจัยต่ำงๆ โดยยึดหลัก ควำมพอประมำณ ควำมมีเหตุผล และมี ภมู คิ ุ้มกันในตวั ที่ดี โดยมีสองเงอ่ื นไขคือ ควำมรู้ และคุณธรรม มีควำมเพียรและควำมอดทน สติและปัญญำ กำรช่วยเหลอื ซึ่งกนั และกัน และควำมสำมัคคี กศน.ตำบลหนองแก จึงจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ - เกษตรทฤษฏใี หม่ - กำรจดั ทำบญั ชคี รวั เรอื น - กำรทำป๋ยุ หมักน้ำยำชวี ภำพ 3. กำรถำ่ ยทอดควำมรแู้ ละควำมเชย่ี วชำญ ถ่ำยทอดควำมรู้โดยนำยเฉลมิ วงษ์อำด เกษตรกรตวั อยำ่ งในตำบลหนองแกโดยกำรทำแผ่นพับ แนะนำกำรทำเกษตรผสมผสำน ใหก้ ับผู้ท่เี ขำ้ มำศึกษำดูงำน และกำรทำโดยยึดหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎใี หม่ ตำมแนวพระรำชดำริ 4. ลกั ษณะของเครือข่ำยและกำรสรำ้ งเครือข่ำย แนะนำประชำสัมพันธ์ให้หน่วยงำนหรือบุคคลที่สนใจกำรทำเกษตรผสมผสำน เข้ำมำเรียนรู้ใน สถำนที่จริง โดยกำรสนับสนุนจำกสำนักงำนเทศบำลตำบลหนองแก สำนักงำนเกษตรอำเภอศรีบุญเรือง กศน.ตำบลหนองแก พัฒนำชมุ ชนอำเภอศรบี ุญเรอื ง 5. ผลงำนท่เี ปน็ ประโยชนต์ อ่ ชุมชนและสังคม เป็นศูนยเ์ รียนรเู้ กษตรผสมผสำน บำ้ นสำรำญสุข หมู่ท่ี 7 ตำบลหนองแก อำเภอศรีบุญเรือง จงั หวัด หนองบวั ลำภู สร้ำงรำยไดล้ ดรำยจ่ำยในครวั เรือนของคนในชมุ ชน 6. รำงวัลหรอื เกยี รตคิ ุณท่ไี ด้รบั ชนะเลศิ ผู้นำดำ้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง นำยเฉลิม วงษ์อำด เป็นผนู้ ำดำ้ นเศรษฐกิจพอเพยี งตวั อยำ่ งในตำบลหนองแก

ตำบลหนองกงุ แก้ว ประวัติและผลงำนครูภมู ปิ ญั ญำท้องถิ่น จังหวัดหนองบัวลำภู ด้ำน กำรทำเกษตรแบบผสมผสำน สำขำ เกษตรกรรม นางอนงค์ กรรณลา

* หมายเหตุ ใสร่ ปู ภาพ 2 – 5 รูปข้นึ ไป

การทาเกษตรแบบผสมผสาน นางอนงค์ กรรณลา บา้ นคอกววั หมทู่ ี่ 3 ตาบลหนองกุงแกว้ อาเภอศรีบญุ เรือง จังหวัดหนองบวั ลาภู นางอนงค์ กรรณลา ประวัติและผลงานครูภูมิปัญญาท้องถิน่ จงั หวดั หนองบัวลาภู ดา้ น การทาเกษตรแบบผสมผสาน สาขา เกษตรกรรม 1. ประวัตแิ ละผลงาน นางอนงค์ กรรณลา เป็นปราชญ์ชาวบ้าน บ้านคอกววั หมู่ที่ 3 ตาบลหนองกุงแก้ว อาเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลาภู เป็นบุคคลตัวอย่างคนหนึ่งที่น้อมนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้ในการทา เกษตรในพ้ืนที่ของตน เปลี่ยนวิถีการทาเกษตรหลังจากเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ว่าด้วยเร่ืองการแบ่งพ้ืนที่เป็น 4 ส่วน มีนา้ มีนา มพี น้ื ท่ปี ลูกผกั และที่อยอู่ าศัย สิ่งที่ทาไมใ่ ชก่ ารหยบิ ยกวธิ ีการท้ังหมดมาทาอย่างไม่ประมาณ ตน แต่ดูบริบทท่ีสาคัญและทาได้จริงก่อน ึึ่งพบว่าน้ามีความสาคัญในการทาเกษตร ถ้ามีถนน มีไฟฟ้า และ อื่นๆ แต่ไม่มีน้า ยังไงก็ทาเกษตรไม่ได้ จึงขุดสระน้าข้ึนมา ึ่ึงก็ต้องใช้เงิน แต่ไม่มีใครยอมให้กู้ พอดีรู้จักกับคน ขุดดินขายก็เลยยกดิน 1 ไร่ให้เขาแลกกับหนองน้าไว้ทาเกษตร พอมีน้าก็ปลูกพริก กะเพรา มะเขือ แตง ฟักทอง ฯลฯ มีกนิ แลว้ ยังมีรายได้เข้ามา 2. องค์ความรู้และความเชยี่ วชาญ เป็นเร่อื งงา่ ยมากทีใ่ ครจะเรม่ิ ทาเกษตรแบบมักงา่ ย ึ้ือป๋ยุ กระสอบมาหว่านแล้วนั่งหวังกับฟ้ากับฝนว่า จะไดผ้ ลผลิตท่ีดี ทั้งทกี่ ็ไม่กล้าใช้สมุนไพรขับไล่แมลงเพราะไม่โฆษณาว่าดี สู้ปุ๋ยท่ีมีเงินึื้อโฆษณามากกว่าไม่ได้ มีคนมาเสนอขายปุ๋ยถงึ ทีน่ ี่เหมือนกันนะ ยาฆ่าแมลงก็เยอะเวลาพูดเร่ืองเกษตรอินทรีย์ทุกคนจะนึกถึงการปลูก พชื ผลไม้โดยไม่ใชส้ ารเคมี ยาฆ่าแมลง มีขอ้ จากัดมากมายเต็มไปหมด เกษตรกรจึงไม่ค่อยอยากทา แต่ในความ เข้าใจของเรา เกษตรอนิ ทรีย์คือการปลูกไว้กิน ไว้แบ่งปันคนอื่น เราจะคิดถึงความปลอดภัยและการปลอดสาร กบั ทกุ เรอื่ ง 3. การถา่ ยทอดความรแู้ ละความเชี่ยวชาญ ความคดิ นม้ี าจากการปฏบิ ัติจริงในบา้ นของเขา ึ่ึงตอนแรกอาจจะเร่ิมจากไม่มีเงิน แต่แทนท่ีจะหาแต่ รายไดเ้ ขาต้องรจู้ กั การลดรายจา่ ย มีวธิ กี ารและองค์ความรมู้ ากมายเพียงเลือกใช้ให้เหมาะสมกับภูมิศาสตร์และ สังคมของตัวเอง ขอยกตัวอย่างในพ้ืนท่ีแปลงผักที่บุญล้อมเล่าว่าเขาไม่มีเงินึ้ือผ้ามาคลุม จึงเลือกปลูกกล้วย ให้ใบโตพรางแสง เขาบอกว่า ปลูกกล้วยได้ท้ังเครือ ได้ท้ังหน่อ ก้านกล้วยก็ใช้เป็นที่ค้าผักให้เครือของบวบ ถ่ัว และตาลึง พนั กา้ นขึ้นไป ปกตเิ กษตรกรนิยมใช้ตาข่ายหรอื ไม้ล้อมึงึ่ ใช้ได้หนเดียวก็ต้องท้ิง แต่ก้านกล้วยที่หมด อายุขัย เม่ือวางลงไปในดิน ราดด้วยน้าหมักเข้มข้น กลบด้วยดิน ทิ้งไว้ 2 สัปดาห์แล้วสับให้กลายเป็นปุ๋ย ก้าน เหลา่ น้นั จะยอ่ ยสลาย ดนิ ก็ได้ธาตอุ าหารเพม่ิ ขนึ้ ไมต่ อ้ งย้ายท่ีปลูกเพราะเรารู้จักปรุงดินใหด้ ี

4. ลกั ษณะของเครือข่ายและการสร้างเครอื ข่าย การให้ผลผลิตทกุ ๆอย่างในสวนของเรากบั ทุกๆหน่วยงานที่มาเยย่ี ม และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ 5. ผลงานที่เป็นประโยชนต์ ่อชมุ ชนและสังคม บรรยายร่วมเป็นวิทยากรให้กับชมุ ชนในตาบลหนองกุงแกว้ และหนว่ ยงานท่ีได้รับเชิญให้ความรู้ 6. รางวัลหรือเกียรติคุณที่ได้รับ เป็นเกษตรกรดีเด่นของตาบลหนองกงุ แกว้ เปน็ บุคคลตวั อย่างและเป็นศูนย์เรยี นรดู้ า้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ตำบลหนองบวั ใต้ ประวตั แิ ละผลงำนภมู ปิ ัญญำทอ้ งถ่นิ ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอศรีบุญเรอื ง จังหวดั หนองบัวลำภู ดำ้ นอตุ สำหกรรมหัตถกรรม สำขำกำรจกั สำน นำยจนั ทำ คำบุญ



ชือ่ -สกุล นำยจันทำ คำบญุ ประวตั แิ ละผลงำนภูมปิ ญั ญำทอ้ งถ่ิน ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอศรบี ญุ เรือง จงั หวดั หนองบวั ลำภู ด้ำนอตุ สำหกรรมหัตถกรรม สำขำกำรจกั สำน 1. ประวตั ิและผลงำน เกิดเม่ือวันที่ 4 พฤษภำคม พ.ศ. 2491 อำยุ 72 ปี ที่อยู่ 146 หมู่ที่ 3 บำ้ นสรำ้ งเสยี่ น ตำบลหนองบวั ใต้ อำเภอศรีบญุ เรอื ง จงั หวดั หนองบัวลำภู เบอรโ์ ทรศัพท์ - ไดร้ ับสืบทอดควำมรู้มำจำก พ่อ แม่ เพ่ือจกั สำนสง่ิ ของไวใ้ ช้เองกนั ภำยในครอบครัวโดยไม่ต้อง ซื้อ เน่ืองจำกมรี ำคำแพง และยังชว่ ยสบื ทอดควำมรใู้ ห้คนรุ่นหลังที่สนใจอกี ด้วย 2. องคค์ วำมรู้และควำมเชยี่ วชำญ วสั ดทุ ี่ใชใ้ นกำรจักสำนเปน็ วสั ดุทีห่ ำได้ทว่ั ไปภำยในหมู่บำ้ น คือไมไ้ ผ่ โดยเริ่มจำกกำรจกั ตอก ตำมขนำดท่ี ต้องกำร จำกนัน้ ก็ดำเนนิ กำรสำนซงึ่ ตอ้ งใชค้ วำมละเอียด ต่อไปคือกำรรมควนั เพื่อเพิ่มควำม แข็งแรง สวยงำมให้แก่เครอ่ื งจกั สำน มีควำมเชี่ยวชำญในกำรสำนเปลไม้ไผ่ 3. กำรถ่ำยทอดควำมรู้และควำมเชยี่ วชำญ มกี ำรถ่ำยทอดควำมรดู้ ้ำนกำรจักสำนใหแ้ ก่ประชำชนในหมู่บำ้ น และเปน็ วิทยำกรให้กบั หนว่ ยงำนต่ำงๆ 4. ลักษณะของเครือข่ำยและกำรสร้ำงเครอื ขำ่ ย เครือข่ำยที่ให้กำรส่งเสริมและสนับสนุนคือหน่วยงำนรำชกำรตำ่ งๆ อบต. เปน็ ต้น 5. ผลงำนทเี่ ปน็ ประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสังคม ได้จักสำนเปลไม้ไผ่ ให้กบั ทำงหม่บู ้ำนเพ่ือใชใ้ นงำนบญุ ประเพณีต่ำงๆ 6. รำงวลั หรอื เกยี รติคุณทีไ่ ด้รับ -

ตำบลหนั นำงำม ประวตั แิ ละผลงำนครภู มู ปิ ญั ญำทอ้ งถ่ินจังหวดั หนองบัวลำภู ดำ้ น...ปรัชญำ ศำสนำ และประเพณี สำขำ..พธิ ีกรทำงศำสนำ (หมอธรรม) . นำยดำรงค์ พลสุภี นำยดำรงค์ พลสุภี

* หมำยเหตุ ใสร่ ปู ภำพ 2 – 5 รูปข้นึ ไป

ประวตั ปิ ระวัติและผลงำนครูภูมปิ ญั ญำท้องถิ่นจงั หวดั หนองบัวลำภู 1.ประวัตแิ ละผลงำน นำยดำรงค์ พลสภุ ี เกดิ วันที่ 1ตุลำคม 2501 บำ้ นเลขที่ 37 หมูท่ ี่ 6 บ้ำนโนนขำ่ ตำบลหนั นำงำม อำเภอศรีญเรอื ง จงั หวดั หนองบวั ลำภู 39180 2. องคค์ วำมร้แู ละควำมเช่ยี วชำญ กำรสขู่ วญั เปน็ เรอื่ งเกยี่ วกบั ขวญั และกำลังใจซ่งึ บรรพบรุ ุษของชำวอสี ำนไดเ้ หน็ ควำมสำคญั ของจติ ใจ มำกกำรดำเนินชวี ติ แทบทุกอย่ำงต้องอำศยั พลงั ทำงจิตเพ่ือจะไดช้ ว่ ยให้มีจติ ใจที่เข้มแข็ง มสี ติสัมปชัญญะที่ มั่นคงซ่งึ จะก่อใหเ้ กดิ ปญั ญำและควำมมุ่งมนั่ ทุ่มเทไปสเู่ ป้ำหมำยสำมำรถเอำชนะฟันผำ่ อุปสรรคท่อี ำจจะเกิดขึ้น จึงเปน็ มรดกทำงภมู ิปัญญำท่ีควรถอื ปฏิบตั สิ บื ทอดกนั 3. กำรถำ่ ยทอดควำมร้แู ละควำมเชีย่ วชำญ ทม่ี ำของชดุ ควำมคิดน้ีมำจำกกำรปฏบิ ตั ิจรงิ ในบำ้ นของเขำ ซ่ึงบริบทของพื้นทีภ่ ำค ตะวันออกเฉยี งเหนอื มวี ัฒธรรม ควำมเชอ่ื ทงี่ ดงำม จึงทำใหจ้ ำเปน็ ต้องเรยี นรเู้ พ่อื สืบสำนและถำ่ ยทอดกำรสู่ ขวัญ โดยกำรสอนเยำวชนเป็นกำรสว่ นตวั ในเวลำวำ่ ง และกำรพำไปเรยี นรูป้ ระสบกำรณ์จรงิ ในงำนตำ่ ง ๆ 4. ลักษณะของเครอื ข่ำยและกำรสรำ้ งเครอื ข่ำย กิจกรรมในชมุ ชนทุกกจิ กรรม เขำ้ ร่วมกิจกรรมชมุ ชน แนะนำตัวเองถึงควำมสำมำรถเฉพำะทำงของ ตวั เอง ให้สงั คมรู้จัก แล้วจะเกิดกำรแนะนำปำกตอ่ ปำก 5. ผลงำนที่เป็นประโยชนต์ อ่ ชุมชนและสังคม เปน็ พิธกี รงำนมงคลต่ำงๆ ในตำบลหันนำงำม 6. รำงวัลหรอื เกียรติคุณทไี่ ด้รบั -

คณะผจู้ ดั ทำ นำยประมวล ไชยศรี ผอ.กศน.ศรีบญุ เรือง น.ส.สุรีรตั น์ ชัยวี บรรณำรักษ์ปฎิบัติกำร น.ส.ปรทิ ัศน์ กองคำ ครอู ำสำสมัครฯ ครู กศน.ตำบล ครู ศรช. ครผู สู้ อนคนพกิ ำร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook