๑๔๕ 2.3 กำรเปดิ โอกำส 203 85 7 0 0 4.66 มำก ซกั ถำมแสดงควำม (64.6%) (27.1%) (2.2%) (0%) (๐.๐%) ทส่ี ดุ คิดเหน็ 202 84 7 1 0 4.65 มำก 2.4 กำรสรำ้ ง (64.3%) (26.8%) (2.2%) (0.3%) (๐.๐%) ทส่ี ดุ บรรยำกำศกำร เรียนรู้ ๓. เจำ้ หนำ้ ทผี่ ใู้ หบ้ รกิ ำร/ผปู้ ระสำนงำน ๓.๑ กำรแตง่ กำย 196 92 8 0 0 4.63 มำก (62.4%) (29.3%) (2.5%) (๐.๐%) (๐.0%) ที่สุด ๓.๒ ควำมสุภำพ 201 86 5 0 0 4.67 มำก (64%) (27.4%) (1.6%) (๐.0%) (๐.๐%) ที่สดุ ๓.๓ กำรตอบ 185 101 7 2 0 4.58 มำก (2.2%) (๐.6%) (๐.๐%) ทส่ี ุด คำถำม (58.9%) (32.2%) 3 1 ๓.๔ กำร 202 86 (1%) (๐.3%) 0 4.67 มำก (๐.0%) ทส่ี ดุ ประสำนงำน (64.3%) (27.4%) 4. กำรอำนวยควำมสะดวก 4.๑ เอกสำร 188 99 10 0 0 4.59 มำก (59.9%) (31.5%) (3.2%) (0%) (๐.0%) ทสี่ ดุ 4.๒ 198 94 5 0 0 4.64 มำก (29.9%) (1.6%) (๐.0%) (๐.๐%) ทส่ี ุด โสตทศั นูปกรณ์ (63.1%) 92 6 0 4.๓ เจ้ำหน้ำที่ 200 (29.3%) (1.9%) (0.0%) 0 4.65 มำก (๐.๐%) ที่สดุ สนับสนุน (63.7%) 98 10 (31.2%) (3.2%) 4.๔ อำหำร 188 0 0 4.60 มำก เครื่องดื่มและ (59.9%) 103 5 (0.00%) (0.0%) ท่สี ดุ สถำนที่ (32.8%) (1.6%) 5. กำรใหบ้ ริกำรดำ้ นคณุ ภำพ 101 7 (32.2%) (2.2%) 5.๑ ท่ำนได้รับ ควำมรู้ แนวคิด ทักษะและ 187 0 0 4.61 มำก (0.0%) (๐.๐%) ท่สี ุด ประสบกำรณ์ใหมๆ่ (59.6%) จำกโครงกำร/ กิจกรรมนี้ 5.๒ ทำ่ นสำมำรถ 186 0 0 4.60 มำก นำสงิ่ ทีไ่ ดร้ บั จำก (59.2%) (๐.0%) (๐.0%) ท่ีสุด โครงกำร/กิจกรรม
๑๔๖ ไปใชใ้ นกำรเรียน/ กำรปฏิบตั ิงำน 5.๓ ส่ิงทที่ ำ่ นไดร้ ับ จำกโครงกำร/ 187 98 8 1 ๐ 4.60 มำก กิจกรรมครั้งน้ีตรง (๐.3%) (๐.๐%) ที่สุด ตำมควำมคำดหวัง (59.6%) (31.2%) (2.5%) ของทำ่ นหรือไม่ 5.๔ สัดสว่ น ระหว่ำงกำรอบรม 171 118 6 0 1 4.54 มำก ภำคทฤษฎีกับ (54.5%) (37.6%) (1.9%) (๐.0%) (๐.3%) ทส่ี ดุ ภำคปฏบิ ตั ิ มคี วำม เหมำะสม 5.5 ประโยชนท์ ี่ 191 99 3 0 ๐ 4.64 มำก ท่ำนไดร้ บั จำก (60.8%) (31.5%) (1%) (๐.0%) (๐.๐%) ที่สดุ โครงกำร/กิจกรรม 6. ควำมพงึ พอใจ ของทำ่ นตอ่ 186 101 7 0 0 4.60 มำก ภำพรวมของ (๐.0%) (๐.0%) ท่ีสดุ (59.2%) (32.2%) (2.2%) โครงกำร ภำพรวม 4.60 มำก ทสี่ ดุ ผู้เข้ำรบั กำรฝกึ อบรม แสดงควำมคิดเห็น ในประเด็นควำมพงึ พอใจต่อภำพรวมของโครงกำร โดยใน ภำพรวม อยู่ในระดับมำกท่สี ุด คำ่ เฉลยี่ 4.60 จำแนกไดด้ ังนี้ ด้ำนกระบวนกำร ขนั้ ตอนกำรใหบ้ รกิ ำร ๑. ควำมเหมำะสมของสถำนท่ี อยใู่ นระดบั มำกทสี่ ุด ค่ำเฉลี่ย 4.67 2. ควำมเหมำะสมของระยะเวลำ อยู่ในระดบั มำกทีส่ ุด ค่ำเฉลี่ย 4.53 3. ควำมเหมำะสมของชว่ งเวลำ อยูใ่ นระดบั มำก ค่ำเฉลีย่ 4.43 4. กำรจดั ลำดบั ขนั้ ตอนกำรจัดกจิ กรรม อยู่ในระดับมำกทส่ี ุด ค่ำเฉลี่ย 4.54 ด้ำนวทิ ยำกร ๑. ควำมรอบรู้ ในเนื้อหำของวทิ ยำกรอย่ใู นระดบั มำกทสี่ ุด คำ่ เฉล่ยี 4.70 ๒. ควำมสำมำรถในกำรถำ่ ยทอดควำมรู้อย่ใู นระดับมำกที่สุด คำ่ เฉล่ยี 4.67 3. กำรเปดิ โอกำสซกั ถำมแสดงควำมคิดเหน็ อยใู่ นระดบั มำกทส่ี ุด คำ่ เฉล่ีย 4.66 4. กำรสรำ้ งบรรยำกำศกำรเรียนรูอ้ ยูใ่ นระดับมำก คำ่ เฉล่ีย 4.65 ด้ำนเจำ้ หนำ้ ทผ่ี ใู้ หบ้ รกิ ำร/ผปู้ ระสำนงำน ๑. กำรแต่งกำยอยใู่ นระดบั มำกทสี่ ดุ ค่ำเฉล่ีย 4.63 ๒. ควำมสุภำพอย่ใู นระดบั มำกท่ีสุด ค่ำเฉลี่ย 4.67
๑๔๗ ๓. กำรตอบคำถำมอยู่ในระดับมำกท่ีสุด ค่ำเฉลย่ี 4.58 ๔. กำรประสำนงำนอยู่ในระดับมำกท่ีสดุ ค่ำเฉล่ีย 4.67 ดำ้ นกำรอำนวยควำมสะดวก ๑. เอกสำรอย่ใู นระดบั มำกที่สุด ค่ำเฉลี่ย 4.59 ๒. โสตทศั นูปกรณอ์ ยใู่ นระดับมำกทส่ี ดุ ค่ำเฉล่ีย 4.64 ๓. เจ้ำหนำ้ ทส่ี นับสนนุ อยใู่ นระดบั มำกทสี่ ดุ ค่ำเฉล่ยี 4.65 ๔. อำหำร เคร่อื งดื่มและสถำนทอี่ ยใู่ นระดบั มำกทสี่ ุด ค่ำเฉลี่ย 4.60 ด้ำนกำรใหบ้ รกิ ำรดำ้ นคณุ ภำพ ๑. ท่ำนไดร้ บั ควำมรู้ แนวคิด ทักษะและประสบกำรณใ์ หม่ๆ จำกโครงกำร/กจิ กรรมน้ี อยใู่ นระดับมำกที่สดุ ค่ำเฉลยี่ 4.61 ๒. ท่ำนสำมำรถนำสิง่ ท่ไี ด้รับจำกโครงกำร/กจิ กรรมไปใชใ้ นกำรเรียน/กำรปฏิบัติงำน อยู่ในระดับมำกทสี่ ุด คำ่ เฉล่ีย 4.60 ๓. ส่งิ ทีท่ ำ่ นได้รับจำกโครงกำร/กิจกรรมครัง้ นตี้ รงตำมควำมคำดหวงั ของทำ่ นหรือไม่ อย่ใู นระดบั มำกที่สุด คำ่ เฉล่ีย 4.60 ๔. สัดสว่ นระหว่ำงกำรอบรมภำคทฤษฎีกับภำคปฏบิ ัติ มคี วำมเหมำะสมอยูใ่ นระดบั มำกที่สุด ค่ำเฉลย่ี 4.54 5. ประโยชนท์ ีท่ ำ่ นไดร้ ับจำกโครงกำร/กจิ กรรมอยใู่ นระดับมำกทส่ี ดุ คำ่ เฉลย่ี 4.64 ควำมพึงพอใจของทำ่ นต่อภำพรวมของโครงกำรอยู่ในระดับมำกท่สี ดุ ค่ำเฉลีย่ 4.60 สว่ นท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ 3.1 สง่ิ ทผี่ เู้ ขำ้ อบรมพอใจในกำรรว่ มโครงกำร/กจิ กรรมครง้ั นี้ - มติ รภำพ กำรเป็นกนั เองของวทิ ยำกร ได้ควำมรมู้ ำกมำยวิทยำกรเก่งอธิบำยเขำ้ ใจง่ำย - พึงพอใจ ได้ควำมร้แู ละประสบกำรณก์ ำรใหมๆ่ กำรได้เจอเครือข่ำยเกษตรกร - สะดวกสบำย สถำนที่ดี ระยะเวลำในกำรอบรมเหมำะสม - ไดร้ บั ควำมรู้และประสบกำรณ์ที่จะนำไปเป็นแนวทำงปฏบิ ัติต่อ - เข้ำใจถงึ หลักของกำรทำงำนท่แี ท้จริง คือถ้ำเรำรักในงำนที่ทำผลควำมสำเร็จก็ไม่ไกลอย่ำงท่คี ดิ - ได้เห็นของจริงกำรลงมือทำจรงิ ๆ มีสง่ิ ใหมๆ่ ควำมรู้ใหมใ่ หร้ ู้อย่ำงต่อเน่ือง - เข้ำใจทฤษฎีตำ่ ง ๆของในหลวงละเอยี ดมำกข้นึ มีกำลงั ใจกลับไปทำให้เปน็ รปู ธรรมมมำกขน้ึ - ควำมรูใ้ หมท่ ่ไี ดร้ บั เยอะมำก ๆ จะเข้ำร่วมโครงกำรคร้งั ต่อไป และแนะนำเพื่อนบ้ำนดว้ ยครบั - พิธีกรสำมำรถบรรยำยกิจกรรมโครงกำรไดส้ มบูรณ์ครบถ้วนและอยำ่ งเหมำะสม - ประทบั ใจมำกได้ทั้งควำมรู้ เพ่ือน ควำมอดทน สำมัคคแี ละวินยั - กจิ กรรมนอกสถำนท่ี มีควำมนำ่ สนใจ กำรสร้ำงแรงจูงใจในกำรรว่ มทำกจิ กรรม - พึงพอใจมำกท่ีสุด ทำให้ได้พบควำมหลำกหลำยในมุมมอง ทัศนคติ มีกำรพบเจอผู้ที่มำอบรมต่ำงวยั ต่ำงประสบกำรณ์ ได้แชร์ประสบกำรณ์ควำมรู้ให้แก่กันและกัน แนะนำแก่กัน ทำให้ได้พบเครือข่ำยที่กว้ำงขึ้น ทพ่ี ร้อมจะช่วยเหลอื กัน แนะนำในอนำคต ได้มำเรียนรู้เพิม่ เตมิ เยอะขึน้ และสุดทำ้ ยขอบคุณเจำ้ หน้ำท่ที ุก ๆคน ทด่ี แู ลตั้งแตว่ นั แรกทเ่ี ขำ้ รับกำรอบรมจนถงึ วนั ปดิ กำรอบรม เจำ้ หนำ้ ที่นำ่ รกั ทุกคน ดูแลเอำใจใสแ่ กผ่ ูท้ มี่ ำอบรม ดูแลกำรเจบ็ ปว่ ยติดตำมของผ้มู มี ำอบรม ไดค้ วำมรูแ้ ละทกั ษะมำกมำย ท่สี ำมำรถนำไปใช้ได้จริง และจะได้กลับ ปฏบิ ัติตอ่ ในพื้นทข่ี องเรำอยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพและเกิดประโยชน์สงู สุด
๑๔๘ - ประสบกำรณ์ใหมๆ่ กำรได้รับขอ้ มูลที่มปี ระโยชน์เพ่ือนำไปต่อยอดจองตนเองและกระจำยควำมรู้ต่อ ชุมชน - กำรน้อมนำปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงมำใช้ และกำรได้เปิดมุมมองและกำรสร้ำงเครือข่ำยเกษตรกร กลมุ่ ตำ่ งไป ทำให้เกดิ ควำมเขม้ แขง็ และยง่ั ยืนต่อไป - มีพ้นื ทแ่ี ละอุปกรณ์พร้อมในกำรลงมือปฏบิ ัติกิจกรรม/สถำนที่พักพร้อม สะอำด สวยงำม - เปน็ กิจกรรมท่มี ีประโยชนม์ ำก ๆต่อผู้เข้ำรว่ มโครงกำรอยำกให้มีกำรจัดแบบน้ีอกี - พึงพอใจมำกค่ะท่ีเรำทำมำไม่มีใครแนะเรำ เรำก็ทำตำมควำมคิดของเรำที่น่ีเรำสำมำรถเอำควำมรู้ที่ ท่ำนถ่ำยทอดให้ไปใช้ปรบั ปรงุ ในหมู่บำ้ นชมุ ชนของเรำค่ะขอบคุณมำกค่ะ 3.2 สงิ่ ทีค่ วรเสนอแนะนำไปพฒั นำกำรจัดโครงกำร/กจิ กรรมครั้งตอ่ ไป - ทบทวนปลี ะครั้ง 5 ปี กำรเพิ่มประสิทธิภำพภำพเป็นระยะ ๆ - อยำกให้จัดสรรเวลำใหมเ่ น่อื งจำกมกี ลุ่มคนอำยุมำก ทำให้ช้ำ ต่อกิจกรรม โดยรวมดมี ำกครับ - ระยะเวลำของกำรเข้ำฐำนแต่ละกิจกรรมส้ันเกินไปทำให้ได้รับควำมรู้ไม่ครบถ้วนในกำรถ่ำยทอด ตอ่ ไป เพรำะกำรลงมอื ปฏิบตั ิสำคัญไม่แพ้กำรอ่ำนจำกตำรำ - ระยะเวลำ ค่อนขำ้ งมำกไปหนอ่ ย..ควรกระชับหลกั สูตรใหใ้ ชเ้ วลำนอ้ ยวันกว่ำนีค้ รับ - เวลำกำรเรม่ิ เรยี น เข้ำใจว่ำทำตำมระบบมำบเออ้ื ง แต่มันเหนื่อยเกินไป เลยทำใหเ้ รยี นรู้ไดไ้ มเ่ ตม็ ท่ี - แตล่ ะวันควรจะใช้เวลำในกำรจดั ฝึกอบรมไม่ควรจะเกิน 7 - 8 ช่วั โมง เพรำะหำกเกินกวำ่ นั้นจะเป็น กำรอัดข้อมูลต่อผู้ร่วมกิจกรรมเกินไป ทำให้กำรรับข้อมูลของสมองเกิดกำรไม่ยอมของข้อมูลนั้น ๆ โดยรวมดี มำก ๆ - ระยะเวลำควรปรบั ปรุงให้มีเพิม่ ขน้ึ อกี 1 วนั จะได้มีเวลำพกั ผ่อนเพม่ิ ข้นึ - อยำกไห้มำอบรมถึง 20% ของครวั เรือนไทย ให้มกี ำรติดตำมต่อยอดโครงกำรนใ้ี หส้ ำเร็จ ......................................................
๑๔๙ สว่ นที่ 4 ขอ้ คดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะของศูนยศ์ กึ ษำและพฒั นำชมุ ชน ศูนย์ศึกษำและพัฒนำชุมชนลำปำง ได้จัดเวทีถอดบทเรียนหลังกำรดำเนินโครงกำรพัฒนำหมู่บ้ำน เศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กิจกรรมย่อยที่ 1 สร้ำงและพัฒนำกลไกขับเคลื่อนใน ระดับพื้นที่ กิจกรรมย่อยที่ 1.1 สร้ำงแกนนำขับเคล่ือนหมู่บ้ำนเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ได้ข้อคิดเห็น ขอ้ เสนอแนะร่วมกันจำกทกุ ฝำ่ ย/งำนทเี่ กย่ี วข้อง ดังนี้ ปัญหำ/อปุ สรรคในกำรดำเนนิ งำน - ทีมวิทยำกรมีเวลำเตรียมตัวน้อยในกำรเตรียมควำมพร้อมหลักสูตร ทั้งจำกสถำนกำรณ์กำรแพร่ ระบำดของโรคไวรัสโคโรน่ำ(โควิด 19) และระยะเวลำที่ต้องจัดอบรมเป็นกิจกรรมเริ่มต้นในกำรสร้ำงควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจให้กับกลุ่มเป้ำหมำย เนอื่ งจำกโครงกำรฯทตี่ ้องดำเนนิ กำร ถกู เรง่ รัดให้แล้วเสรจ็ ดว้ ยเวลำทจี่ ำกัด - กำรโอนงบประมำณล่ำชำ้ ส่งผลใหม้ เี วลำกระชั้นชดิ ในกำรจดั ซอื้ จัดจ้ำงวสั ดุอุปกรณ์ในโครงกำรฯ - กำรมีโครงกำรฯฝึกอบรมท่ีต่อเนื่องกัน ทำให้กำรจัดเตรียมด้ำนอำคำรสถำนท่ี ที่พัก และกำรบริกำร ต่ำง ๆ ไมด่ ีเทำ่ ท่ีควร - กำรอบรมตำมโครงกำรฯเริ่มต้ังแตเ่ วลำ 05.00 น. และเสร็จส้นิ กำรอบรมแต่ละในเวลำ 21.00 น. ทำให้เกดิ ปัญหำด้ำนสุขภำพอนำมัยตอ่ กลมุ่ เปำ้ หมำยและทีมวทิ ยำกร - กลุ่มเป้ำหมำยบำงส่วนมำรำยงำนตัวล่ำช้ำกว่ำท่ีกำหนด วิเครำะห์ได้หลำยสำเหตุ เช่น ไม่ให้ ควำมสำคัญต่อกำรอบรม/ตดิ ภำรกจิ เร่งดว่ นในพ้ืนท/่ี กำรส่ือสำรของเจ้ำหน้ำท่ีในพ้นื ทกี่ ับกล่มุ เป้ำหมำย - ผู้เขำ้ รับกำรอบรมสว่ ยใหญเ่ ป็นเจ้ำของแปลงและสูงอำยุ เกิดขอ้ จำกัดในกระบวนกำรอบรม - กำรประเมินด้วยระบบออนไลน์มีข้อจำกัด ทั้งสัญญำณอินเตอร์เน็ตและอุปกรณ์สื่อสำรของผู้เข้ำ อบรม ข้อเสนอแนะในกำรแกป้ ัญหำ - ควรมีกำรออกแบบจัดทำหลักสูตร/แผนกำรสอน ทีแ่ น่นอนกอ่ น เพื่อใหไ้ ด้หลักสูตรที่มเี นื้อหำส่ือสำร กำรเรียนกำรสอนไดอ้ ยำ่ งถกู ต้องและเปน็ รปู แบบเดยี วกนั ในทุกศพช. - กำรใหเ้ วลำท่ีไปรบั หลักสตู รตลอดจนกำรนำมำปรบั ประยกุ ต์ใช้ในพ้นื ท่ี เพ่ือสรำ้ งควำมพร้อมของทีม วิทยำกรและกำรมอบหมำยภำรกิจวทิ ยำกรหลกั ในกำรรบั ผดิ ชอบในแต่ละวชิ ำ เนือ่ งจำกกำรไปรบั หลกั สูตรของ ทีมวิทยำกรท่ีไม่ได้ไปรับพร้อมกันทุกคน (ต้องเตรียมกำรศึกษำหำข้อมูล/เตรียมแผนกำรสอน/กำรซักซ้อม ทมี งำน) - เจ้ำหน้ำที่ในพื้นที่ควรส่ือสำรทำควำมเข้ำใจกับกลุ่มเป้ำหมำยให้ชัดเจน ท้ังเร่ืองกำรเตรียมตัว/ กระบวนกำรอบรม/ระยะเวลำ ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบำย(กำรพฒั นำหลกั สูตรและกำรบริหำรโครงกำร) - ควรให้ควำมสำคัญในกำรพัฒนำหลักสูตรที่สมบูรณ์มำกกว่ำนี้ เพ่ือให้เกิดประโยชน์กับผู้เข้ำรับกำร ฝกึ อบรมและทำงทีมวทิ ยำกรของศพช. สำมำรถนำไปปรับใชไ้ ด้อยำ่ งเหมำะสม - ควรมีเอกสำรคู่มือและกำรเตรยี มควำมพร้อมให้กบั ทมี วิทยำกรศูนยฯ์ ในทุกหลักสูตร
๑๕๐ - ควรให้ควำมสำคัญในกำรออกติดตำมผู้เข้ำรับกำรอบรมหลังกำรอบรม เพื่อมีกำรประเมินผลและอีก ท้ังยังเป็นกำรให้กำลังใจ สนับสนุน กำรตอบแก้ไขปัญหำในพ้ืนที่ตรงตำมควำมต้องกำรของผู้เข้ำรับอบรม โดย ควรจัดสรรงบประมำณในกำรออกติดตำมกลุ่มเป้ำหมำยหลงั กำรอบรมใหก้ บั ทำง ศพช. ดำเนนิ กำร - ผู้บริหำรระดับจังหวัด/อำเภอ ควรมีบทบำทสำคัญในกำรติดตำมขับเคล่ือนให้กับกลุ่มเป้ำหมำยใน พื้นที่ เพื่อเป็นกำลังสำคัญของกรมกำรพัฒนำชุมชน และทำให้กลุ่มเป้ำหมำยสร้ำงทัศนคติที่ดีเพ่ิมมำกข้ึนต่อ กรมกำรพฒั นำชมุ ชน ...............................................
๑๕๑ ภำคผนวก ภำพประกอบกจิ กรรมฯ โครงกำรพฒั นำหมบู่ ำ้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 กจิ กรรมยอ่ ยท่ี 1 สร้ำงและพฒั นำกลไกขบั เคลอื่ นในระดบั พนื้ ที่ กจิ กรรมยอ่ ยที่ 1.1 สร้ำงแกนนำขบั เคลอ่ื นหมบู่ ำ้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง รุน่ ที่ 1 – 3 วนั ที่ 1 สร้ำงควำมสัมพันธร์ ะหว่ำงผู้เขำ้ ฝกึ อบรมและเสรมิ สร้ำงทักษะควำมร้เู บื้องตน้ - กจิ กรรมกลมุ่ สัมพนั ธ์ - เรยี นรู้ตำรำบนดนิ กจิ กรรมเดินชมพ้ืนที่
๑๕๒ - เข้ำใจ เขำ้ ถงึ พัฒนำ ศำสตร์พระรำชำกับกำรพัฒนำที่ยง่ั ยืน - กำรแปลงปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง สู่กำรปฏบิ ัตแิ บบเป็นข้นั เป็นตอน วันที่ 2 สร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจหลักกสิกรรมธรรมชำติ และฝึกปฏิบัติฐำนเรียนรู้ให้เข้ำถึงกำรน้อมนำหลัก ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งไปปรับใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน - ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง“ทฤษฎีบันได 9 ขั้น สูค่ วำมพอเพยี ง”, หลักกสิกรรมธรรมชำติ
๑๕๓ - ฝกึ ปฏบิ ตั ใิ นฐำนเรยี นรู้ 9 ฐำนเรยี นรู้ - ถอดบทเรยี นผำ่ นสื่อ “วถิ ีภมู ิปญั ญำไทยกบั กำรพงึ่ ตนเองในภำวะวิกฤต” วันท่ี 3 สร้ำงทักษะกำรใช้ชีวิตบนพื้นฐำนของควำมเป็นไทย เรียนรู้กำรแลกเปล่ียนองค์ควำมรู้ในรูปแบบกำร แลกเปลี่ยนแรงงำน กำรเอำมื้อสำมัคคี ในกำรฝึกปฏิบัติ จิตอำสำพัฒนำชุมชน เอำม้ือสำมัคคี พัฒนำพ้ืนที่ ตำมหลกั ทฤษฎีใหม่
๑๕๔ วันที่ 4 เรยี นรกู้ ำรออกแบบพ้ืนท่เี ชิงภมู สิ งั คม โคก หนอง นำ โมเดล ให้สำมำรถนำควำมร้ไู ปใช้ในกำรออกแบบ พื้นที่โคก หนอง นำ โมเดลของตนเองได้อย่ำงเหมำะสม และกำรดำรงตนในภำวะวิกฤต ด้วยกิจกรรม Team Building ฝกึ ปฏิบัติกำรบรหิ ำรจัดกำรในภำวะวิกฤต “หำอยู่ หำกิน”
๑๕๕ วันท่ี 5 สร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจ กลไก 3 5 7 ในกำรขับเคล่ือนศำสตร์พระรำชำ และกำรจัดทำแผนปฏิบัติ กำรยทุ ธศำสตร์กำรขบั เคลือ่ นปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียงสกู่ ำรปฏบิ ัติ
๑๕๖ กจิ กรรมเสริมหลกั สูตร 3 ขุมพลงั , กตญั ญตู ่อสถำนที่
๑๕๗ ภำพกำรทบทวนหลงั กำรปฏิบตั งิ ำนประจำวนั (After Action Review : AAR) โครงกำรพฒั นำหมบู่ ำ้ นเศรษฐกจิ พอเพียง ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2564 กจิ กรรมยอ่ ยที่ 1 สรำ้ งและพฒั นำกลไกขบั เคลอื่ นในระดบั พนื้ ท่ี กจิ กรรมยอ่ ยที่ 1.1 สร้ำงแกนนำขบั เคลอ่ื นหมบู่ ้ำนเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๑๕๘
๑๕๙
๑๖๐
๑๖๑
๑๖๒
๑๖๓
๑๖๔
๑๖๕
๑๖๖
๑๖๗
๑๖๘
๑๖๙
๑๗๐
๑๗๑
ขอ้ มลู ทวั่ ไป ๑๗๒ แบบประเมนิ ผลโครงกำรฯ กำรบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร ด้ำนควำมรูค้ วำมเข้ำใจ (กอ่ นรว่ มโครงกำร)
๑๗๓ ดำ้ นควำมรู้ควำมเข้ำใจ (หลงั รว่ มโครงกำร) ดำ้ นประโยชน์ของกจิ กรรมตอ่ กำรนำไปประยุกต์ใช้
๑๗๔ ด้ำนควำมคิดเหน็ และควำมพงึ พอใจตอ่ โครงกำร ดำ้ นข้อเสนอแนะ
๑๗๕ ชอื่ เอกสำร สรุปผลโครงกำรพัฒนำหมู่บ้ำนเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2564 กิจกรรมยอ่ ยท่ี 1 สรำ้ งและพฒั นำกลไกขบั เคลื่อนในระดบั พ้ืนที่ กจิ กรรมยอ่ ยท่ี 1.1 สรำ้ ง แกนนำขบั เคลื่อนหมู่บำ้ นเศรษฐกจิ พอเพียง ประเภทเอกสำร เอกสำรวชิ ำกำร ลักษณะเอกสำร เอกสำรอัดสำเนำเยบ็ เลม่ ขนำดเอกสำร เอ 4 หนำ จำนวน 180 หนำ้ ท่ีปรึกษำ นำงอภญิ ญำ โกมลรัตน์ นกั ทรพั ยำกรบคุ คลชำนำญกำรพเิ ศษ คณะผู้จดั ทำ 1. นำงอญั ชลี ป่งแกว้ นักทรพั ยำกรบุคคลชำนำญกำร 2. นำยเกรยี งไกร สงิ ห์แก้ว นักทรัพยำกรบุคคลชำนำญกำร 3. นำงอรุณศรี เดชะเทศ นักจัดกำรงำนทัว่ ไปชำนำญกำร 4. นำงกรรณกิ ำร์ ก๋ำวติ ำ นกั ทรพั ยำกรบคุ คลชำนำญกำร 5. นำยณฐั นิช รกั ขตวิ งศ์ นักวชิ ำกำรพฒั นำชมุ ชนชำนำญกำร 6. นำงสำวณฐั กฤตำ ชัยตมู นักทรพั ยำกรบุคคลปฏบิ ตั ิกำร 7. นำงสำวศรญั ยำ ปำปลูก นกั ทรัพยำกรบคุ คลปฏบิ ตั กิ ำร 8. นำยชำญณรงค์ จริ ขจรกลุ นกั ทรัพยำกรบุคคล 9. วำ่ ที่ ร.ต.ชยั ณรงค์ บัวคำ นกั ทรพั ยำกรบุคคล เรียบเรียง นำยชำญณรงค์ จิรขจรกุล นักทรพั ยำกรบุคคล ออกแบบปก วำ่ ท่ี ร.ต.ชัยณรงค์ บวั คำ นักทรพั ยำกรบคุ คล ถ่ำยภำพกจิ กรรม ทมี ศพช.ลำปำง ปที พี่ มิ พ์ 2564 จำนวนทพี่ มิ พ์ 3 เลม่ แหล่งเผยแพร่ สถำบันกำรพฒั นำชุมชน กรมกำรพฒั นำชุมชน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182