พระราชทานสมั ภาษณ์กลบั ไปวา่ ทรงกำ ของประชาชนภายในชาติหากถามวา่ ท ดำเนนิ งานขบั เคลือ่ นสบื สานศาสตร์พร ประเทศไทยเปน็ ร่างกายมนษุ ย์ กฟผ. ก System) ท่ที ำหนา้ ทส่ี ง่ ผ่านพลังงานไป ชำรดุ เสยี หายรา่ งกายหรือประเทศก็เดิน จะตอ้ งทำใหร้ ะบบประสาทของประเทศ นอกจากน้ี ดว้ ยสมรรถภาพขององคก์ า หาก กฟผ. ดำเนนิ งานอยา่ งถูกต้องและ ของ กฟผ.จะเป็นต้นแบบทางด้านความ ปี และนี่เองคือเปา้ หมายท่ีจะสร้างควา ประเทศไทยเปน็ พน้ื ท่ีแรกดว้ ย ‘ศาสตร แบ่งออกเปน็ 3 ระบบคือ 1. เอกนิยม (Monism) ไดแ้ ก สง่ิ เดยี ว จะเป็นรปู ธรรม (สสาร) หรือน 2. ทวินยิ ม (Dualism) ได้แก่พ อย่างเป็นของคู่กัน คอื เป็นท้ังรูปธรรม (สสาร) และนามธร 3. พหนุ ยิ ม (Pluralism) ไดแ้ ก จำนวนมากมายอาจจะเปน็ รูปธรรม (ส ทฤษฎใี หม่กว่า 40 ทฤษฎีตาม 1. แกล้งดนิ 2. ปลกู หญ้าแฝก 3. 5. บำรงุ ดิน 6. ฝนหลวง 7. ชะลอนำ้ + คันก้นั นำ้ 10. เขอื่ นกักเกบ็ 11. โครงการแก้ม1 14. อธรรมปราบอธรรม 15. ระบบลม
ำลังส้รู บอยู่กบั ความอดอยากความหวิ โหย ทำไมจงึ เลือกพ้ืนที่ของ กฟผ. ในการ ระราชากต็ อบไดโ้ ดยเปรยี บเทยี บว่าถ้า ก็เปรียบไดว้ ่าเปน็ ระบบประสาท (Nervous ปทวั่ ร่างกายหรอื ประเทศ หากระบบประสาท นหน้าต่อไม่ได้ จงึ เป็นเร่อื งจำเปน็ อย่างยิง่ ที่ ศแข็งแกร่ง ใหม้ ีความม่นั คงทางพลงั งาน าร ศกั ยภาพของบคุ ลากร และเครื่องมอื ต่าง ๆ ะจริงจัง กเ็ ช่อื มัน่ ได้ว่าในพน้ื ที่การดำเนนิ งาน มยั่งยืนของโลกไดภ้ ายในระยะเวลาไมเ่ กนิ 3 ามยง่ั ยนื ให้เกดิ ข้ึนในโลกให้ได้ โดยเร่ิมจาก รข์ องพระราชา 2 ปรัชญา 3 ระบบ ปรชั ญา ก่พวกท่ีถือว่า ความแท้จรงิ ของสรรพสง่ิ มีเพยี ง นามธรรม (จติ ) ก็ได้ พวกที่ถือวา่ ความแทจ้ รงิ ของสรรพส่งิ มี 2 รรม (จติ ) ก่พวกท่ถี ือว่า ความแทจ้ รงิ ของปฐมธาตุมี สสาร) หรอื นามธรรม (จติ ) กไ็ ด้ มศาสตร์พระราชา การหม่ ดิน 4. ดนิ เสอื่ มโทรม (ดินดาน) หนอง 8. คลองไส้ไก่ 9. ฝาย 12. โคก หนอง นา โมเดล13.นำ้ ดีไล่น้ำเสีย ม แสงแดด 16. ระบบบำบดั นำ้ เสียแบบ
สง่ิ ประดษิ ฐ์ 17. ระบบสระเติม 18. จากภูผาส่มู หานที 20. ปา่ 3 อย่าง ปร 22. พระราชดำรสั ภเู ขาป่า 23. ป่าเป 26. ปลกู ป่าในใจคน 27. ปลกู ป่าต้นน ปลูกปา่ โดยไม่ต้องปลูก 29. การอนรุ ัก 31. มลพษิ และการเปล่ียนแปลงภูมิอา ชมุ ชน) 33. การศกึ ษา 34. สหกรณ์ พฒั นามนุษย์ 36. บวร 3 พอเพยี ง 39. ข้าว 40. พลงั งานท 4. แนวทางในการปฏิบัติในกา ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ทีท่ รงปร หว่ ง 2 เงือ่ นไข\" ที่คณะอนกุ รรมการขบั คณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและ เผยแพรป่ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งผ ประกอบด้วยความ \"พอประมาณ มีเหต \"คุณธรรม\"เศรษฐกจิ พอเพียงม่งุ เน้นใหบ้ และใชจ้ า่ ยเงนิ ให้ไดม้ าอย่างพอเพียงแล โดยปราศจากการกู้หนย้ี มื สนิ และถ้าม ชว่ ยเหลอื ผูอ้ ่ืนบางส่วน และอาจจะใชจ้ แนวทางการดำรงชวี ิตอยา่ งพอเพยี ง ได สภาพการดำรงชีวิตของสังคมทนุ นิยม ใหเ้ กิดการใช้จา่ ยอยา่ งเกนิ ตัว ในเรื่องท ดำรงชีวิต เชน่ การบริโภคเกนิ ตัว ความ งาม การแต่งตัวตามแฟช่ัน การพนนั หร เพอ่ื ตอบสนองความต้องการเหล่าน้ัน ส
กังหันชัยพัฒนา 19. การบริหารจดั การนำ้ ระโยชน์ 4 อย่าง 21. การปลกู ปา่ ทดแทน ปยี ก 24. ป่าไม้สาธิต 25. ปลูกป่าบนท่ีสูง น้ำลำธาร หรือการปลกู ปา่ ธรรมชาติ 28. กษ์สตั ว์ป่า 30. การอนุรกั ษ์พนั ธุ์พชื ากาศ 32. การจดั การส่ิงแวดลอ้ ม (ขยะ 35. รางวลั ความสำเร็จด้านการ 37. ทำแบบคนจน 38. เศรษฐกจิ ทดแทน ารใช้ชวี ิต ในการทำงานตามศาสตร์พระราชา รบั ปรุงพระราชทานเปน็ ท่มี าของนิยาม \"3 บเคลือ่ นเศรษฐกิจพอเพยี ง สำนักงาน ะสังคมแห่งชาตนิ ำมาใชใ้ นการรณรงค์ ผ่านชอ่ งทางสื่อตา่ ง ๆ อย่ใู นปัจจุบัน ซึ่ง ตผุ ล มีภูมิคุ้มกัน\" บนเงื่อนไข \"ความรู\"้ และ บุคคลสามารถประกอบอาชีพได้อย่างย่ังยืน ละประหยดั ตามกำลังของเงนิ ของบคุ คลนั้น มีเงินเหลอื กแ็ บง่ เก็บออมไวบ้ างสว่ น จ่ายมาเพ่อื ปัจจยั เสริมอกี บางสว่ นสาเหตุท่ี ด้ถูกกลา่ วถึงอยา่ งกว้างขวางในขณะน้ี เพราะ ในปัจจุบนั ได้ถกู ปลูกฝัง สร้าง หรอื กระต้นุ ที่ไม่เก่ียวข้องหรอื เกนิ กวา่ ปัจจยั ในการ มบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ความสวยความ รอื เสี่ยงโชค เป็นต้น จนทำให้ไม่มเี งนิ เพียงพอ สง่ ผลใหเ้ กดิ การกหู้ น้ียืมสิน เกดิ เปน็ วฏั จักรท่ี
บคุ คลหนงึ่ ไม่สามารถหลุดออกมาได้ ถ เศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง หว่ ง 1. ความพอประมาณ หม เกนิ ไป โดยไมเ่ บียดเบียนตนเองและผู้อ ห่วง 2. ความมีเหตุผล หมายถ พอเพยี งน้นั จะตอ้ งเป็นไปอย่างมเี หตผุ ล ตลอดจนคำนึงถงึ ผลทคี่ าดว่าจะเกิดขึ้น ห่วง 3. การมภี มู ิค้มุ กันท่ีดีในต ผลกระทบ และการเปล่ยี นแปลงด้านต ของสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีคาดว่าจะเกิด เศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เงื่อนไข 1. เงอ่ื นไข ความรู้ ประกอบด เกย่ี วข้องอยา่ งรอบด้านความรอบคอบ เช่ือมโยงกนั เพ่ือประกอบการวางแผนแ 2. เงือ่ นไข คุณธรรม ท่จี ะต้อง คณุ ธรรม มคี วามช่ือสตั ย์สจุ รติ และมีค การด าเนนิ ชีวติ การนำหลกั เศรษฐกิจพ \"พงึ่ ตนเอง\" คือ พยายามพ่งึ ตนเองให้ได อยา่ งพอดี ประหยัดไมฟ่ ุ่มเฟือย สมาชิก ข้อมลู รายรบั -รายจา่ ย ในครอบครัวขอ ตน ไมใ่ หเ้ ปน็ หน้ี และรจู้ ักดงึ ศักยภาพใ หน่งึ การพฒั นาตนเองให้สามารถ \"อยู่ไ ทางสายกลางให้อยู่ได้อย่างสมดลุ คอื ม เบยี ดเบยี นตนเอง หรือดำเนนิ ชีวติ อยา่ เบยี ดเบียนส่งิ แวดลอ้ ม โดย - ยึดหลกั พออยู่ พอกิน พอใช้
ถ้าไม่เปล่ยี นแนวทางในการดำรงชวี ติ ปรชั ญา มายถงึ ความพอดที ่ีไม่น้อยเกินไปและไมม่ าก อื่น ถงึ การตดั สนิ ใจเกย่ี วกับระดับของความ ล โดยพิจารณาจากเหตปุ ัจจัยท่ีเกย่ี วข้อง น ตัว หมายถงึ การเตรียมตวั ให้พร้อมรับ ตา่ ง ๆ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ โดยคำนงึ ถงึ ความเปน็ ไปได้ ดขนึ้ ในอนาคตทั้งใกล้และไกลปรัชญา ด้วย ความรอบรูเ้ ก่ียวกับวชิ าการต่าง ที่ บทจี่ ะนำความรเู้ หล่าน้ันมาพิจารณาให้ และความระมัดระวังในข้ันปฏิบัติ งเสรมิ สรา้ งประกอบดว้ ย มีความตระหนักใน ความอดทน มีความพากเพียร ใช้สติปัญญาใน พอเพยี งมาใช้น้นั ขน้ั แรก ตอ้ งยึดหลกั ดก้ ่อน ในแตล่ ะครอบครัวมีการบรหิ ารจัดการ กในครอบครวั แตล่ ะคนต้องรจู้ กั ตนเอง เช่น องตนเอง สามารถรักษาระดบั การใชจ้ ่ายของ ในตวั เองในเรื่องของปจั จัยส่ใี หไ้ ดใ้ นระดับ ได้อย่างพอเพยี ง\" คือ ดำเนนิ ชวี ติ โดยยดึ หลกั มีความสุขท่ีแท้ ไมใ่ หร้ ้สู ึกขาดแคลนจนต้อง างเกนิ พอดี จนต้องเบียดเบียนผอู้ นื่ หรือ
- ยึดความประหยดั ตัดทอนค่าใชจ้ ่าย ล - ยดึ ถือการประกอบอาชพี ดว้ ยความถกู - ละเลิกการแก่งแยง่ ผลประโยชน์และแ - มุ่งเนน้ หาขา้ วหาปลา กอ่ นมุ่งเน้นหาเ - ทำมาหากนิ ก่อนทำมาค้าขาย - ภมู ปิ ัญญาชาวบ้านและท่ดี นิ ทำกนิ คือ -ตงั้ สตทิ มี่ ั่นคง ร่างกายท่ีแขง็ แรง ปัญญ ลกึ ซง้ึ เพ่ือปรับวถิ ชี วี ติ ส่กู ารพัฒนาทย่ี ั่ง ๕. การบริหารแบบคนจน การ “แบบที่เรียกวา่ ทำแบบคนจน คอื ทำว อย่างของเขา เราก็ทำไป กเ็ ลยบอกว่าถ เพราะเรา เราไม่ได้เป็นประเทศทร่ี วยเร ประเทศทก่ี ้าวหน้าอยา่ งมาก แลว้ ไมอ่ ย เพราะวา่ ถ้าเราเป็นประเทศอยา่ งก้าวห ท่ีเขาเปน็ ประเทศทีม่ ีอตุ สาหกรรมสงู ม ถา้ เรามกี ารปกครอง แบบ...เรียกว่า แบ อยา่ งมสี ามัคคีนี่แหละ คือเมตตากนั กจ็ ตามวชิ าการแลว้ ก็วันหนึ่งก็วชิ าการนั้น สดุ ท้ายน้ันเขาบอก อนาคตยงั มีแตไ่ ม่บ ตำรา ปิดตำราแล้วไมร่ ูจ้ ะทำอะไร ลงท เร่มิ ตน้ ใหม่ ถอยหลังเข้าคลอง แตถ่ ้าเร ไม่จบ สวัสด.ี .
ลดความฟมุ่ เฟือยในการดำรงชีพ กตอ้ งและสจุ รติ แข่งขันในการคา้ ขาย เงนิ หาทอง อ ทนุ ทางสงั คม ญาทเี่ ฉียบแหลม นำความรู้ ความเข้าใจอยา่ ง งยนื รทำงานแบบคนจน แบบคนจน...ไมต่ ิดตำรา วิธกี ารแบบคนจน ไม่ได้มกี ารลงทนุ มากหลาย ถา้ จะแนะนำก็ทำ แนะนำได้ ทำแบบคนจน ราก็รวยพอสมควร อยูไ่ ด้ แตไ่ มใ่ ชเ่ ปน็ ยากจะเปน็ ประเทศอยา่ งก้าวหน้าอยา่ งมาก หนา้ อย่างมากมแี ต่ถอยหลงั ประเทศเหลา่ นั้น มแี ต่ถอยหลงั และถอยหลงั อย่างนา่ กลัว...แต่ บบคนจน แบบท่ีไม่ติดกับตำรามากเกินไป ทำ จะอยู่ได้ตลอดไป ไมเ่ หมอื นคนทที่ ำตามบญั ชี นเราดตู ำราแล้วพลกิ ไปถึงหนา้ สุดท้าย ในหน้า บอกว่าต้องอย่างไร เวลาปดิ เล่มแล้ว มนั กป็ ดิ ทา้ ยก็ต้องเปิดหน้าแรกใหม่ เปดิ หน้าแรกก็ ราใช้ตำราแบบทเ่ี ราอะลมุ่ อะล่วยกัน ตำรานั้น
แผนการสอนวชิ า : จัดทำแผนปฏบิ ัติการ “ยทุ ธศาสตร์กา วนั /เวลา กจิ กรรม/หัวขอ้ เนือ้ หา 3 ชั่วโมง -ความร้คู วามเข้าใจเรื่อง 1.วทิ ยากรแนะนำตวั เกรน่ิ นำ เตรีย ยุทธศาสตร์ และความ ความสำคัญของทกั ษะการฟงั และกา เป็นมาของโครงการพฒั นา 2. สร้างความรู้ความเขา้ ใจเร่ืองยุทธ พื้นทตี่ น้ แบบการพฒั นา พน้ื ท่ีตน้ แบบการพัฒนาคุณภาพชวี ติ คณุ ภาพชวี ติ ตามหลกั โมเดล จากวีดีทศั น์สรปุ ตดั ต่อมาจาก ทฤษฎีใหม่ประยกุ ตส์ ู่โคก ผู้อำนวยการกลมุ่ งาน พัฒนาการอำ หนองนาโมเดล ณ ศพช.นครนายก -บทบาทภารกิจของผแู้ ทน 3. วทิ ยากรสรุปเช่ือมโยงโครงการพ ครัวเรือนพฒั นาพ้นื ทีเ่ รยี นรู้ ภารกจิ ของผ้แู ทนครัวเรือนพัฒนาพ้ืน “โคก หนอง นา โมเดล”ใน โครงการพฒั นาหมบู่ ้านเศรษฐกิจพอ โครงการพัฒนาหมู่บ้าน 4. วิทยากรชวนคยุ เร่อื งยทุ ธศาสตร เศรษฐกิจพอเพยี งประจำปี ดำเนินงานใหบ้ รรลผุ ลสำเรจ็ ของผ้แู งบประมาณ 2564 นา โมเดล” -ยทุ ธศาสตรห์ รือประเด็น 5.บรรยายประกอบสื่อ ppt.งาน/ ก สำคัญ ในการขับเคลื่อนการ ของผู้แทนครวั เรือนพฒั นาพ้นื ท่ีเรียน ดำเนินงานให้บรรลุผล 6. มอบหมายใบงานใหแ้ ต่ละกลมุ่ สี/ สำเร็จ แผนปฏิบัติการ ขับเคลื่อนงาน/กิจก -งาน/ กิจกรรม ในการ พัฒนาพ้ืนทีเ่ รียนรู้ “โคก หนอง นา ดำเนินงานตามบทบาท ข้นั ตอนวธิ ีการและประโยชน์ท่คี าดว ภารกิจของผแู้ ทนครวั เรือน เตรยี มการ/ขัน้ ดำเนนิ การ/ขน้ั ประเม พฒั นาพน้ื ทเ่ี รยี นรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” 8. ตัวแทนแต่ละกลุ่ม นำเสนอตัวอย 9. วทิ ยากรสรุปเชือ่ มโยง เตมิ เตม็ แล
ารขบั เคลือ่ นปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสู่การปฏิบตั ิ” า/วิธกี าร/เทคนิค ส่อื /วัสด/ุ อปุ กรณ์ หมายเหตุ ยมความพร้อมในการเรยี นรู้ ให้เห็น สไลด์ PPT ารจับประเดน็ ผา่ นกจิ กรรมการเลา่ นิทาน ส่อื วดิ ที ศั น์ ธศาสตร์ และความเป็นมาของโครงการพัฒนา ใบงาน ต ตามหลกั ทฤษฎีใหม่ประยกุ ต์ส่โู คกหนองนา ปากกาเคมี กการอบรมผา่ นระบบ Video Conference post it ำเภอทัว่ ประเทศ ในวนั ท่ี 3 ธันวาคม 2563 ฟลบิ ชาร์ท พฒั นาพ้นื ทต่ี ้นแบบฯ และ ทบทวนบทบาท ปากกาเคมี นทเ่ี รียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล”ใน อเพยี ง ประจำปีงบประมาณ 2564 ร์หรอื ประเดน็ สำคัญ ในการขบั เคล่ือนการ แทนครัวเรอื นพัฒนาพ้ืนท่ีเรียนรู้ “โคก หนอง กิจกรรม ในการดำเนนิ งานตามบทบาทภารกจิ นรู้ “โคก หนอง นา โมเดล” /หมูบ่ ้าน 4 กลุม่ ระดมสมอง จัดทำ กรรม ในบทบาทหน้าท่ีของผู้แทนครวั เรอื น โมเดล” ประเด็นกจิ กรรม/ระยะเวลา/ วา่ จะไดร้ ับ และรายละเอยี ดกจิ กรรม ในขน้ั มนิ ผลและประชาสมั พนั ธ์ ย่างแผนปฏิบตั กิ ารฯ ละเปิดโอกาสให้แลกเปล่ียนซักถาม
-การจัดทำแผนปฏบิ ตั ิการ ขบั เคลอ่ื นงาน/กจิ กรรม ใน บทบาทผู้แทนครวั เรอื น พฒั นาพ้นื ท่เี รียนรู้ “โคก หนอง นา โมเดล”
แผนการสอนวชิ า “ในหลวง ในดวงใจ วนั /เวลา กิจกรรม/หัวข้อ เนอ้ื หา/วิธีกา 1 ชั่วโมง ในหลวงในดวงใจ (เทดิ ทนู 1. เตรยี มความพร้อมของผเู้ ข้ารบั กา สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์) 2. รับชมวดี ทิ ัศนเ์ รอื่ งหลักการทรงงา 1. หลักการทรงงานของรชั กาลท่ี กรณยี กิจของรัชกาลที่ ๑๐ ในการสืบ ๙พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิ โครงการอันเนื่องมา เบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช จากพระราชดำริ และแนวพระราชดำ มหาราชบรมนาถบพติ ร และพระ ทุกข์บำรุงสุขให้แกป่ ระชาชน และพัฒ ราชกรณียกิจของรชั กาลท่ี ๑๐ เจรญิ กา้ วหน้า เพ่อื ให้ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทร เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ปวงประชาชา รามาธบิ ดศี รี 3. วิทยากรกลา่ วเชิญชวนผเู้ ขา้ รับกา สนิ ทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชริ ดดี ว้ ยการเขียนคำปณธิ านเพ่ือแสดง เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว ในการสืบสาน ความดี รกั ษา และต่อยอดโครงการอัน 4. วิทยากรเชญิ ทีมงานแจกใบปณธิ า เนื่องมาจากพระราชดำรแิ ละแนว การฝึกอบรมทุกคนเขยี น พรอ้ มกบั ก พระราชดำรขิ อง รชั กาลที่ ๙ ใน 5. วทิ ยากรกลา่ วนำเตรยี มถวายควา การบำบัดทุกขแ์ ละบำรงุ สขุ 6. รว่ มรอ้ งเพลงสรรเสริญพระบารม ใหแ้ ก่ประชาชน และพฒั นา หนา้ พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทส ประเทศชาติใหเ้ จริญกา้ วหนา้ สินทร เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ปวง มหาวชริ าลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอ ประชาชาวไทยสืบไป ๒. การตง้ั ปณิธานความดี
จ” (เทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริย์) าร/เทคนคิ วัสดุ/อปุ กรณ์ หมายเหตุ ารฝกึ อบรม านของรัชกาลท่ี ๙ และพระราช 1. พระบรมฉายาลกั ษณ์ บสาน รักษา และต่อยอด 2. สไลด์ PowerPoint 3. สอื่ วดิ ที ัศน์ ำรขิ องรัชกาลที่ ๙ ในการบำบัด 4. ใบปณิธานถวายความดี ฒนาประเทศชาติให้ 5. พาน 6. ปากกา าวไทยสบื ไป การฝกึ อบรมทุกท่าน ร่วมทำความ งความจงรักภกั ดี และตง้ั ปณธิ าน านถวายความดใี หก้ บั ผเู้ ขา้ รบั การเปดิ เพลง “ตามรอยเท้าพอ่ ” ามเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ มี และถวายใบปณธิ านความดีต่อ สมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รี อยูห่ วั
แผนการสอนวชิ า กตัญญตู อ่ สถา วนั /เวลา กจิ กรรม/หัวข้อ เนอื้ หา/วธิ ีกา 1 ชั่วโมง กตัญญูตอ่ สถานท่ี พฒั นาจิตใจ 1. ฝึกปฏบิ ัติการวางแผนการทำงาน ทำบุญตกั บาตร 2. ฝกึ วนิ ัยและคุณธรรม การกตญั ญ อนุรกั ษว์ ัฒนธรรม 3. ทำบญุ ตักบาตร เพือ่ ความเปน็ สริ
านท่ี พฒั นาจิตใจ ทำบญุ ตกั บาตร าร/เทคนคิ วัสดุ/อุปกรณ์ หมายเหตุ นเปน็ ทมี ญูรคู้ ณุ ตอ่ ท่ีอยอู่ าศัยและการ 1. อุปกรณท์ ำความสะอาด ควรระมัดระวงั ใน 2. อปุ กรณ์ทำเสวียน (คอ้ น การปฏิบตั ิงาน (ของ ริมงคลตอ่ ชีวติ ไมไ้ ผ่ เชอื ก ) มีคม) 3. อาหารแหง้ สำหรับใส่ บาตรพระภิกษุสงฆ์
ภาคผนวก ลำดับกระบวนการขั้นตอนหน้าเสาธง 5 ข้ันตอน ข้นั ตอนการเตรียมความพร้อม 1. เรยี กพล เรยี กแถว จดั แถว นับจำนวนผ้เู ข้ารว่ มกจิ กรรม 1.1 ผู้เรยี กแถว เรียกแถว “ท้ังหมดฟังเรียกแถว” รปู แบบการเรยี กแถว (แถวตอน ปิดระยะ เปดิ ระยะ , แถวหน้ากระดาน ปดิ ระยะ เปิดระยะ) 1.2 เรยี กแถว ตวั อย่างการเรยี กแถว “แถวตอนปิดระยะ 6 แถว ตามหม่สู ีสลี ะ 2 แถว หาขา้ พเจา้ ” (หวั แถวจะต้อง ยืนตรงกบั ผู้เรียกแถว ผ้ทู อ่ี ยูใ่ นแถวจะยกศอกซ้ายขน้ึ พร้อมมอื ขวาแตะบ่าคนข้างหน้า) *หากเป็นแถวเปิดระยะ จะเว้นระยะหน้าหลังจาก 1 ช่วงแขน เป็น 3 ช่วงแขน ส่วนระยะด้านข้าง 1 ชว่ งศอกเหมอื นปิดระยะ 1.3 นับจำนวนผเู้ ข้าร่วม ด้วยการส่ัง “เร่ิมจากหัวแถว นบั ตลอด นับ” โดยจะเริ่มนับจากหัวแถว ให้ผู้นับสะบัดหน้าไปด้ายซ้าย ของตนไล่จนถึงท้ายแถว เมื่อนับจากท้ายแถวให้ผู้นับแตะไหล่ ของผู้ที่อยู่ข้างหน้าขณะทำการนับ ให้ทำเช่นนี้จนถึงคนสุดท้าย เม่ือสิน้ สดุ การนบั ใหค้ นสดุ ทา้ ยส่งเสียงสรปุ ยอดท้งั หมดแจ้งผู้นำ กระบวนการหน้าเสาธง 2. กลา่ วเชิญตวั แทนชาย-หญงิ ทำหนา้ ที่เชญิ ธงชาติ 2.1 ผู้นำกจิ กรรมหนา้ เสาธง กลา่ วเชญิ ตัวแทน หญิง 1 ชาย 1 ท่าน เพือ่ เชญิ ธงชาติ 2.2 ตวั แทนหญงิ ยืนด้านซ้ายมอื ตัวแทนชายยนื ดา้ นขวามือ 2.3 เคารพธงชาตดิ ว้ ยการโค้งคำนบั ก่อนตัวแทนชายปลดเชือก ธงชาตแิ ล้วมายืนประจำตำแหน่ง 2.4 ธงชาตขิ น้ึ -ลงทางขวามือ 2.5 เมอ่ื เชญิ ธงชาติเสรจ็ ให้ผูกเชือกตรงกลางเสาธง *ตำแหน่งธงชาตติ อนเชญิ ธงชาติลงเสร็จ ปลายธงอย่ปู ระมาณ หางคว้ิ กระบวนการหน้าเสาธง 5 ข้ันตอน ขนั้ ท่ี 1. กล่าวคำปฏิญาณตน : ผนู้ ำกระบวนการหน้าเสาธง นำกระบวนการ 1.1 ผู้ร่วมกิจกรรมใหม่ ให้ผู้นำกระบวนการหน้าเสาธง นำ “ทั้งหมดกล่าวคำปฏิญาณตนตาม ขา้ พเจ้า” 1.2 ผู้ร่วมกิจกรรมเคยผ่านการฝึกมาแล้ว ให้ผู้นำกระบวนการหน้าเสาธงนำ “ทั้งหมดกล่าวคำ ปฏิญาณตนพรอ้ มขา้ พเจ้า”
คำปฏญิ าณตน ชาติของเรา เปน็ ไทยอย่ไู ด้ จนถึงตวั เราทุกวันน้ี เพราะบรรพบรุ ษุ ของเรา เอาเลอื ด เอาเน้ือ เอาชีวิต และความลำบากยากเข็ญเขา้ แลกไว้ เราต้องรกั ษาชาติ เราต้องบำรุงชาติ เราตอ้ งรกั ษาแผน่ ดนิ ดว้ ยการทำเกษตรอนิ ทรีย์ เราต้องสรา้ งเศรษฐกิจพอเพยี ง ให้สามารถพึง่ ตนเอง และสรา้ งความมั่นคงใหม่ ให้แกแ่ ผ่นดินไทยใหจ้ งได้ ขน้ั ท่ี 2. เชิญธงชาติ 2.1 คำกล่าวก่อนเคารพธงชาติ “ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพ ธงชาติ ดว้ ยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรษุ ไทย” 2.2 ร้องเพลงชาติ โดยให้ผู้นำกิจกรรมหน้าเสาธง ร้องนำก่อนท่อนแรก “ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อ ชาตเิ ชือ้ ไทย” แลว้ ให้ทง้ั หมดรอ้ งรับในท่อนถดั มา “เปน็ ประชารฐั .......” จนจบ 2.3 เมื่อเชิญธงชาติเสร็จให้ตัวแทนชาย นำเชือกไปผูกเก็บให้แนวเชือกอยู่ตรงกลางเสาธง จากน้ัน ตัวแทนท้ังสองคนทำความเคารพด้วยการโคง้ คำนับแล้วกลบั เข้าแถว ขนั้ ที่ 3. ปฏบิ ตั ิศาสนกจิ : กจิ กรรมสวดมนต์ , สวดขอพร , สวดบูชา หรือ กจิ กรรมพธิ ตี ามหลกั ศาสนา ผ้นู ำกิจกรรมหนา้ เสาธง กลา่ วเชิญทำกิจกรรมตามหลกั ศาสนา โดยให้เริม่ จากศาสนาของสว่ นใหญข่ อง ผูร้ ว่ มกจิ กรรม คำกล่าว • ขอเชิญพี่-นอ้ งพุทธ สวดมนต์สัน้ พร้อมกัน • ขอเชิญพ่ี-นอ้ งครสิ ต์ นำสวดหรือประกอบกจิ กรรมตามหลักศาสนา • ของเชิญพี่-น้องมสุ ลิม นำสวดหรอื ประกอบกิจกรรมตามหลักศาสนา • โดยหากครบข้างต้นแล้ว ขอให้สอบถามก่อนจบขั้นตอนที่ 3 ว่า “เชิญพี่-น้องท่านอ่ืน ประกอบกิจกรรมตามหลักศาสนา เชิญครับ/ค่ะ” หากไม่มีให้เริ่มขั้นตอนที่ 4 เป็นลำดับ ถัดไป ขั้นที่ 4. ยืนสงบนิ่ง เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ และน้อมสำนึกถึงพระกรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระ บรู พมหากษัตราธริ าชเจ้า คำกล่าว “ขอให้ทุกท่านพร้อมใจกันยืนสงบนิ่งเป็นเวลาประมาณ 1 นาที เพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษของเรา ที่ได้ เอาเลือดเนือ้ เอาชีวิตและความลำบากยากเขญ็ เข้าแลกผนื แผ่นดินของเราไว้ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ บูรพมหากษัตริยท์ ุกพระองคท์ ี่ไดป้ กปักษ์รกั ษาราชอาณาจักรไทยไว้ให้พวกเราและลูกหลานไทย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลท่ี 9 ที่ได้ทรง พระราชทานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพท่อเป็นแสงสว่างและทางรอดในยามวิกฤตและพระมหากรุณาธิคุณใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวในรัชกาลที่ 10 ที่ได้ทรงโปรดเกล้าในพระปฐมบรมราชโองการ “ที่จะทรงสืบสาน รักษา
และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพอ่ื ประโยชนส์ ุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ด้วยการนำศาสตร์พระราชาเพ่ือ เป็นหลักคิด หลกั ปฏิบตั ใิ นการพัฒนาประเทศให้มีความม่ันคง ม่งั คงั่ และยง่ั ยนื ” เชญิ ลงมือปฏบิ ตั ิ (เมื่อครบ 1 นาที ใหก้ ล่าว “เลิกปฏบิ ตั ิ ขอบคณุ ครับ/ค่ะ” ขั้นที่ 5. การตอกย้ำอุดมการณ์ เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ (เชิญผู้ใหญ่ในเครือข่ายหรือครู อาจารย์ ตอกย้ำ อดุ มการณ์ สร้างขวัญกำลงั ใจ) อุดมการณ์เครือข่ายกสกิ รรมธรรมชาติ 1. ศรัทธาในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ 9 และ ศาสตร์พระราชา ในหลักการ “เช่อื วา่ ท่านมฤี ทธ”์ิ 2. ศรัทธาในศาสดาและหลักคำสอนของศาสนา บนพ้ืนฐานความเท่าเทียมกัน เสมอภาคและ ภารดรภาพ คำปฏญิ าณตน หนา้ เสาธง ชาตขิ องเรา เป็นไทยอย่ไู ด้ จนถงึ ตวั เราทกุ วันนี้ เพราะบรรพบุรษุ ของเรา เอาเลอื ด เอาเนื้อ เอาชีวติ และความลำบากยากเข็ญเขา้ แลกไว้ เราตอ้ งรกั ษาชาติ เราต้องบำรุงชาติ เราต้องรกั ษาแผน่ ดิน ด้วยการทำเกษตรอนิ ทรยี ์ เราตอ้ งสรา้ งเศรษฐกจิ พอเพียง ใหส้ ามารถพึ่งตนเอง และสรา้ งความมนั่ คงใหม่ ให้แกแ่ ผน่ ดินไทยให้จงได้ บทพจิ ารณาอาหาร ในโลกนยี้ งั มีคนที่จนยาก ต้องลำบากสารพัดแสนขดั สน อยา่ กินทง้ิ กินขวา้ งตามใจตน สงสารคนอน่ื ท่ีไม่มีกนิ ขา้ วเอย๋ ขา้ วสุก ต้องกนิ กนั ทุกบ้านทุกฐานถิน่ กวา่ จะมาเปน็ ขา้ วให้เรากิน ชาวนาสิน้ กำลังเกอื บทงั้ ปี ต้องทนแดด ทนฝน ทนลมหนาว กว่าจะได้ข้าวจากนามาถงึ น่ี คนกินขา้ วควรคิดดใู หด้ ี ชาวนานม้ี ีคุณต่อเราไมเ่ บาเลย ข้าวทกุ จานอาหารทุกอยา่ ง อย่ากนิ ท้ิงขว้างเปน็ ของมีคา่ หลายคนเหนือ่ ยยากลำบากหนกั หนา กว่าจะได้มาเปลอื งแรงเปลืองทนุ กนิ อาหารให้หมด คนอดยังมี “เงินทองเป็นของมายา ขา้ วปลาสขิ องจริง” คาถาเล้ียงดิน เลี้ยงดนิ ให้ดินเลี้ยงพชื Feed the soil and let the soil feed the plant (ฟดี เดอะ ซอย แอนท์ เลท็ เดอะ ซอย ฟดี เดอะ แพลนด์) เจียมได๋ ออยได๋ เจยี มตะนำ เลย่ี งเทะ อึดเทะ เลย่ี งละชิว เลีย้ งแม่ธรณี ให้แมธ่ รณี เลยี้ งแมโ่ พสพ
หลกั การทำงานในกจิ กรรมลงแปลง เอามอ้ื สามัคคี (เอาม้ือ โฮมฮกั เอาแฮง ซอแรง ลงแขก สามัคค)ี หลกั การทำงานแบบคนจน ให้ยึดหลกั 3ค - คึกคัก - คล่องแคลว่ - ครน้ื เครง 5 ขนั้ ตอนครูพาทำ 1. การวางแผนงาน บริหารจัดการ แบ่งงาน แบ่งคน ให้เหมา สมกับเนือ้ งานและเวลาที่กำหนด 2. ลงมือปฏิบัตงิ านตามแผนงานอย่างเป็นลำดบั ขั้นตอน 3. ตรวจติดตามประเมินผล เพื่อประเมินสถานการณ์และแก้ไข หากมีปัญหาเกดิ ข้ึน 4. ประสานงานทั้งภายนอกและภายใน เพื่อให้งานเกิด ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ และบรรลวุ ัตถุประสงค์ 5. งานสวัสดิการสนับสนุนการทำงาน 10 ข้ันตอนการลงแปลงกสกิ รรมธรรมชาติ 1. สำรวจพื้นท่ี แบง่ คนแบ่งงาน การเตรียมการก่อนลงแปลง 1 วนั - สำรวจพ้นื ที่จรงิ เพ่ือให้ร้จู ักภูมิสังคม เช่น ดิน ขดุ ยากขุดง่าย , มตี น้ ไมข้ วางทางมั้ย - พิจารณางานและกำลังคน แล้ววางแผนการทำงาน แบ่งงานตามประเภทและลักษณะงานตาม ขน้ั ตอนการทำงาน เช่น งานขดุ , งานห่มดิน , งานครัว , งานเบกิ จ่ายอปุ กรณ์ , งานสวสั ดิการ ฯลฯ กำหนดแนววางแนวทาง และทำตัวอย่างให้ดู วันลงแปลง - สำรวจพืน้ ทอ่ี ีกคร้ัง เพ่ือประเมินงานหากมกี ารเปลีย่ นแปลง เชน่ ฝนตก - วางแผนงานตามประเภทและลำดับ จากนนั้ แบ่งคน ตามงานท่วี างแผน 2. การเตรยี มดนิ ขุดรอ่ ง ทำฝาย คลองไส้ไก่ คือ คลองขนาดเล็กที่มีการออกแบบตามลักษณะที่เรียกว่าไส้ไก่ คือ เล็กและคดเคี้ยวไปมาในพื้นที่ ของเรา โดยจะมีวัตถุประสงค์ในการชะลอความเร็วและควบคุมทิศทางการกระจายตัวของน้ำ ในพื้นที่ โดยพอจะสรุป ประโยชนไ์ ด้ดังนี้ 1. ชะลอความเรว็ ของน้ำเพื่อให้มเี วลาซมึ ลงดนิ และกระจายตัวใตด้ ิน สร้างความชุ่มชนื้ ในรัศมโี ดยรอบ
2. ควบคมุ ทิศทางการไหลของน้ำ เพ่ือลำเลียงน้ำไปยงั ต้นไม้ โดยลดการใช้สปรงิ เกอร์ (ธรรมชาติ ธรรมดา) 3. ดักตะกอนปยุ๋ ไม่ให้ลงไปสรา้ งความตื้นเขินให้กบั หนองนำ้ ทั้งยังเป็นธนาคารปยุ๋ ในตวั ด้วย การขุดคลองไสไ้ ก่ ขนาดจะขึ้นอยูก่ ับปริมาณน้ำหลาก และความลาดเอียงของพื้นที่ ต้องรู้ทีม่ าและหาที่ไปของ นำ้ ขนาดพนื้ ท่ี ขนาดคลองไส้ไก่ขนาดมาตรฐานโดยทว่ั ไป คอื - ความกว้างปากบน 0.8 – 1 เมตร ทอ้ งคลองกวา้ ง 0.5 – 0.8 เมตร ลึก 0.6 – 1 เมตร - ระดับความลาดเอียงของคลองไส้ไก่ เพื่อชะลอการไหล คือ 1% หมายความว่า ความยาว คลอง 1 เมตร (100 ซม.) จะมีระดบั ความลึกต่างกัน 1 ซม. - ควรมีจุดชะลอน้ำ เช่น คันดิน , ฝายดักตะกอน เป็นระยะ เช่น ทุก 10 เมตร และก่อนถึง คันดินควรมีหลมุ ดักตะกอน (หลุมขนมครก) การทำฝาย ในการทำงานกสิกรรมธรรมชาติ เราจะเนน้ ฝายตน้ น้ำลำธารเพ่ือสร้างความช่มุ ช้ืนในพ้ืนที่ ด้วยการ ใช้วัสดุตามธรรมชาติ เช่น รากพืชตามธรรมชาติ , ก้อนหิน , ไม้ไผ่ , เศษกิ่งไม้ เป็นต้น หากไม่มีก็ใช้ดินปั้นเป็น คันดิน หรืออาจจะทำลักษณะ ฝายแฝกขั้นบันไดก็ได้เช่นกัน สิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยง คือ กระสอบพลาสติกหรอื อปุ กรณ์ท่ีป็นพลาสติกทั้งหมด ฝาย จำแนกเป็น 2 ประเภท คือ ฝายต้นน้ำลำธาร , ฝายชะลอน้ำ , ฝายชะลอความชุ่มช้ืน (ฝายแม้ว) และ ฝายกักเก็บนำ้ เพอื่ การเกษตร 3. การปลกู ป่า 3 อยา่ ง ประโยชน์ 4 อยา่ ง ปลูกไม้ 5 ระดับ การปลกู ป่า 3 อยา่ ง ประโยชน์ 4 อย่าง ปลูกไม้ 5 ระดบั ๑. ไม้สูง เปน็ กลุ่มต้นไม้เรือนยอดสงู สุดและอายยุ ืนไม้ในระดบั น้ี เช่นตะเคยี น ยางนา เต็ง รัง ฯลฯ ๒. ไม้กลาง เป็นกลุ่มต้นไม้ที่ไม่สูงนัก ไม้ในระดับนี้ได้แก่บรรดาไม้ผลที่เก็บกินได้ เช่น มะม่วง ขนุน มังคุด กระทอ้ น ไผ่ สะตอ ฯลฯ ๓. ไม้เตี้ย เป็นกลุ่มต้นไม้พุ่มเตี้ย ไม้ในระดับนี้ เช่น พริก มะเขือ กะเพราผักหวานบ้าน ติ้ว เหรียง ฟ้าทะลายโจร ฯลฯ
๔. ไม้เรี่ยดนิ ไมใ้ นระดับนีเ้ ป็นตระกลู ไม้เลื้อย เชน่ พริกไทย รางจดื แตงโม ฟกั ทอง อัญชัน ฯลฯ ๕. ไม้หัวใต้ดิน ไม้ในระดบั นีเ้ ชน่ ขงิ ข่า มันมือเสือ บุก กวาวเครือ ขงิ ข่า กระชาย ฯลฯ 4. การปลูกแฝก อนรุ ักษ์ดนิ และน้ำ หญ้าแฝก หญ้าแฝกเป็นหญ้าที่มีคุณสมบัติพิเศษ เนื่องจากรากยาวและมีความแข็งแรงมาก (Shear Strength avg. 75 MPa ) และมีระบบรากที่ตรงในแนวดิ่งและลึก สามารถเจาะทะลุดินดานได้ จึงถูกมักใช้เป็นพืชปลูกนำพร้อม กล้วยซงึ่ เป็นไมพ้ ่ีเลยี้ ง ซ่งึ จะช่วยสร้างโพรงอากาศในดิน เนื่องจากหญ้าแฝกมที งั้ ระบบรากท่ลี ึก(อาจยาวถงึ 3 - 4 เมตร) และมีใบท่เี ป็นทรงพุ่ม จึงทำให้สามารถเป็นกำแพงกัน้ น้ำท้ังบนดินและใต้ดนิ การปลูกแฝก เราต้องเลือกชนิดแฝกให้เหมาะกบั พ้ืนท่ี (แฝกลุ่ม แฝกดอน) ปลกู แฝกในแนวด่งิ ต้ังฉากกับพ้ืนดิน และหันด้านแบนเข้าหาตวั มีระยะห่างกัน ประมาณ 1 ฝ่ามือ ก่อนปลูกแฝกเราต้องเตรียมแฝกก่อนคือต้องสบั รากและ ใบ เพ่อื ให้รากแฝกเดนิ ได้เรว็ และแข็งแรง หลงั จากน้ันแช่น้ำหมักจุลนิ ทรีย์รถจดื ทง้ิ ไว้ 1 คืน จะได้ผลดี แฝกมี 2 ชนิด แฝกลุ่ม มีใบและรากยาวกว่าหญ้าแฝกดอน เนื้อใบค่อนข้างเนยี น มีไขเคลือบมากทำให้มักเจริญเติบโตได้ดี ใน ที่ที่มีความชื้นสูง และในน้ำแช่ขัง ใบชี้ตรง เมื่อยาวเต็มที่จะหักพับเป็นมุมแหลม การขยายพันธ์ุด้วยหน่อ ทีอัตราการ รอดสงู ไม่ชอบทรี่ ่มรำไร เจริญเตบิ โตและขยายกอได้ อย่างรวดเรว็ แต่ตอ้ งมกี ารตดั ใบจึงจะมอี ายยุ ืนยาว แฝกดอน พบทั่วไปในที่ค่อนข้างแห้งแล้ง สามารถขึ้นได้ในที่แดดจัดและที่ร่มรำไร กอจะเตี้ยกว่า หญ้าแฝกลุ่ม ใบหยาบมไี ขเคลือบน้อย ทำให้ดกู ร้านใบเมือ่ ยาวเต็มทีจ่ ะโค้งลงคล้ายตะไคร้ หลังปลกู เมื่อตง้ั ตวั ไดแ้ ล้ว ต้องการการดูแล น้อยกว่าหญ้าแฝกลุ่ม 5. ปลูกดอกไม้บรหิ ารแมลง ปลูกดอกไม้เพื่อการบริหารจัดการแมลง จากพื้นฐานความรู้และภูมิ ปัญญาบรรพบุรุษ แมลงในโลก ร้อยละ 98 เป็นมิตรและเกื้อกูลนิเวศของ ต้นไม้ มีแค่ 2 % เป็นศัตรูพืช แมลงที่มีส่วนช่วยการจัดการสมดุลทางนิเวศ แมลงจะช่วยในการผสมเกสรและขยายพันธ์พืชตามธรรมขาติ และแมลงเป็น มิตรกับเรา มี 2 ประเภท ท่ีช่วยควบคุมปรมิ าณโดยธรรมชาติ คือ แมลงตัวหำ้ (ห้ำหั่น) และ แมลงตัวเบียน (เบียดเบียน) ดังนั้นเราต้องปลูกดอกไม้เพื่อล่อ แมลง คือ ดอกไมท้ ี่ไมม่ กี ล่นิ ฉนุ เช่น ดอกดาวกระจาย เป็นต้น 6. การหม่ ดิน พระองค์ท่านทรงสอนพวกเราว่า “ อย่าปอกเปลือยดิน” เพราะจะทำให้ดินศูนย์เสียสมดุล ท้ังน้ำที่ระเหยจาก แดดเผาและชีวิตเล็ก ๆ ทั้งที่มองเห็นและไม่เห็นด้วยตาเปล่าไม่สามารถดำรงชีพอยู่ได้ และคุณค่าจากหน้าดินก็ถูก ชะล้างดว้ ยน้ำที่ไหลผ่าน ดังน้นั การห่มดินจึงทำใหด้ นิ กลบั มามีชวี ิตอีกครัง้ ประโยชน์ท่ีได้จากการห่มดิน • สร้างบา้ นให้จุลนิ ทรีย์ เพราะใตว้ ัสดุห่มดนิ จะมีความร้อนชน้ื เหมาะแก่การเจรญิ เตบิ โตของจลุ นิ ทรีย์ • เก็บความชุ่มชืน้ ท่อี ยู่ในดนิ ป้องกันการระเหยของนำ้ ในดิน • สร้างแหล่งอาหารให้สัตว์หนา้ ดิน • แก้ปัญหาดินเค็ม • ปรับสภาพดินและแก้ปัญหาดนิ เป็นกรด • วัสดหุ ่มดินยังช่วยเกบ็ ความช้ืนจากหมอกหรือนำ้ ค้างช่วงเขา้
7. การเลยี้ งดิน ด้วยปุ๋ยอนิ ทรีย์ แห้งและนำ้ แห้งชามน้ำชาม ขั้นตอนนี้เป็นการให้อาหารที่ใช้เลี้ยงดินคือ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในดิน เราจะเติมปุ๋ยอินทรีย์หมักแบบแห้งและน้ำ ที่เราได้ เตรียมไว้แล้วบนวัสดุห่มดินเราจะเริ่มจากปุ๋ยหมักแห้ง (มูลสัตว์) แล้ว ตามด้วยการรดปุ๋ยหมักน้ำหรือน้ำหมักจุลินทรีย์รสจืด ด้วยอัตราส่วน ละลายน้ำ 1:200 หรอื 1 ฝาต่อน้ำ 1 บวั รดน้ำ 8. คาถาเลี้ยงดิน คาถาเลย้ี งดิน 1. เลย้ี งดินให้ดนิ เล้ียงพืช 2. Feed The Soil and Let The Soil Feed The Plant (ฟีด เดอะ ซอย แอนด์ เล็ท เดอะ ซอย ฟีด เดอะ แพลนท์) 3. เจียมได๋ ออยได๋ เจยี มตะนำ 4. เลี่ยงเทะ อึดเทะ เล่ียงละชิว 5. เลย้ี งแม่ธรณี ให้แมธ่ รณี เล้ียงแม่โพสพ 6. ภาษาถ่ินตามพ้นื ท่ีทำงาน เช่น ปะกากะญอ , ม่ง , กำเมอื ง , อีสาน , ใต้ 9. ศิลปะความสวยงาม ความเรยี บร้อย 10. การจัดเกบ็ อุปกรณ์ทำความสะอาด
คณะผูจ้ ัดทำ ชื่อเอกสาร “คู่มือวิทยากร” โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กิจกรรมย่อยท่ี 1 สร้างและพฒั นากลไกขบั เคลอ่ื นในระดบั พน้ื ที่ กจิ กรรมยอ่ ย ที่ 1.1 สรา้ งแกนนำขบั เคลอื่ นหมบู่ า้ นเศรษฐกจิ พอเพียง ท่ปี รกึ ษา นางอภญิ ญา โกมลรัตน์ ผอู้ ำนวยการศนู ยศ์ กึ ษาและพัฒนาชมุ ชนลำปาง สนบั สนุนเนอ้ื หา 1. นางอญั ชลี ป่งแกว้ นกั ทรพั ยากรบคุ คลชำนาญการ 2. นายเกรียงไกร สงิ ห์แก้ว นกั ทรัพยากรบคุ คลชำนาญการ 3. นางอรณุ ศรี เดชะเทศ นกั จดั การงานทั่วไปชำนาญการ 4. นางกรรณิการ์ กา๋ วิตา นักทรพั ยากรบุคคลชำนาญการ 5. นายณัฐนชิ รกั ขตวิ งศ์ นักวิชาการพฒั นาชมุ ชนชำนาญการ 6. นางสาวณฐั กฤตา ชัยตมู นกั ทรพั ยากรบคุ คลปฏิบัติการ 7. นางสาวศรญั ยา ปาปลูก นกั ทรพั ยากรบุคคลปฏิบตั ิการ 8. นายชาญณรงค์ จิรขจรกุล นกั ทรพั ยากรบคุ คล 9. ว่าท่ี ร.ต.ชัยณรงค์ บัวคำ นกั ทรพั ยากรบคุ คล รวบรวมขอ้ มูล/พมิ พ์/เรยี บเรยี ง นายชาญณรงค์ จิรขจรกลุ นักทรพั ยากรบคุ คล ออกแบบปก นายชาญณรงค์ จริ ขจรกุล นกั ทรัพยากรบุคคล วา่ ท่ี ร.ต.ชัยณรงค์ บัวคำ นักทรพั ยากรบุคคล ปีทผ่ี ลติ มกราคม ๒๕๖4 ผลิตโดย ศนู ยศ์ กึ ษาและพฒั นาชุมชนลำปาง 83 หมู่ 10 ตำบลปงแสนทอง อำเภอเมืองลำปาง จังหวดั ลำปาง 52100 สถานที่เผยแพร่ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง สถาบันการพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127