Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 8-การป้องกันการทุจริต-ป.1

8-การป้องกันการทุจริต-ป.1

Published by janjira.boonsattha, 2022-06-18 05:09:40

Description: 8-การป้องกันการทุจริต-ป.1

Search

Read the Text Version

การป้องกนั การทจุ รติ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ชื่อ--------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------- ชั้น เลขที่---------------- ---------- ---------------- ----------

หน่วยที่ ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน ๑ และผลประโยชนส์ ว่ นรวม เร่อื ง การคิดแยกแยะ : ของใชส้ ว่ นตนและสว่ นรวม กล่องความรู้ ของใชส้ ่วนตน หมายถงึ สิ่งของที่ใชเ้ ฉพาะบคุ คล เช่น แปรงสีฟนั , ดินสอ ของใชส้ ว่ นรวม หมายถงึ สิง่ ของท่ีใช้ร่วมกัน เชน่ โตะ๊ , ถังขยะ, ชัน้ หนังสือ  ใหน้ ักเรยี นเขยี นเลข 1 หนา้ รปู ภาพทเี่ ปน็ ของใช้สว่ นตน และเขยี นเลข 2 หน้ารปู ภาพ ท่เี ปน็ ของใชส้ ว่ นรวม ถุงเท้า โต๊ะ แก้วนา้ ดินสอ ถังขยะ แปรงสีฟัน เพจใบงานครูแพร

หนว่ ยที่ ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน ๒ และผลประโยชนส์ ว่ นรวม เร่ือง การคิดแยกแยะ : สถานทส่ี ว่ นตนและสว่ นรวม กลอ่ งความรู้ สถานทีส่ ว่ นตน หมายถึง สถานที่ทใ่ี ช้เฉพาะบคุ คล เชน่ บา้ น, ห้องนอน สถานที่ส่วนรวม หมายถงึ สถานทท่ี ี่ใช้ร่วมกัน เชน่ วดั , สวนสาธารณะ  ใหน้ ักเรยี นเขยี นเลข 1 หนา้ รปู ภาพทเี่ ปน็ สถานท่ีสว่ นตน และเขยี นเลข 2 หนา้ รปู ภาพ ทเี่ ปน็ สถานทส่ี ว่ นรวม โรงพยาบาล บ้าน ทะเล โรงเรียน ห้องนอน สวนสาธารณะ เพจใบงานครูแพร

หนว่ ยท่ี ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน ๓ และผลประโยชนส์ ว่ นรวม เรอ่ื ง การคดิ แยกแยะ : ผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม กลอ่ งความรู้ ผลประโยชน์ส่วนตน หมายถงึ การคานงึ ถงึ ตัวเอง ความต้องการสว่ นบุคคล ผลประโยชนส์ ว่ นรวม หมายถึง การคานงึ ถึงบุคคลอน่ื มากกว่าตนเอง  ใหน้ กั เรยี นเขียนหมายเลข 1 หนา้ ขอ้ ทเี่ ปน็ ประโยชนส์ ว่ นตน และเขยี นหมายเลข 2 หนา้ ขอ้ ทเ่ี ปน็ ประโยชนส์ ว่ นรวม วภิ าแยกขยะก่อนนา้ ไปทงิ ที่ถังขยะ สายปา่ นขายพวงมาลัยตามแยกไฟแดง ลุงชาตจิ อดรถจักรยานยนตบ์ นทางเท้า ชาลีและชีวาช่วยกนั กวาดบริเวณลานวดั นารีขายเสือผ้าตามริมถนนในตัวเมือง เพจใบงานครูแพร

หนว่ ยท่ี ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน ๔ และผลประโยชนส์ ว่ นรวม เรอ่ื ง ระบบคดิ ฐานสอง : ความหมายและพฤตกิ รรมแบบระบบคดิ ฐานสอง กล่องความรู้ ระบบคิดฐานสอง เปน็ ระบบคิดท่ีสามารถแยกเร่อื งผลประโยชนส์ ่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวมออกจากกนั ได้อย่างชัดเจน ไม่นามารวมกัน สงิ่ ไหนถูกสง่ิ ไหนผิด ส่ิงไหนทาได้สิ่งไหนทาไม่ได้ ผลประโยชน์ส่วนรวมยอ่ มสาคัญกวา่ ผลประโยชน์ส่วนตน ควรยดึ ผลประโยชนส์ ่วนรวมเปน็ หลกั  ให้นกั เรยี นบอกพฤตกิ รรมทแี่ สดงออกของระบบคิดฐาน ๒ ที่พบเหน็ ภายในโรงเรยี น -------------------------------- ปดิ ไฟเมอื่ ไม่ใช้งาน -------------------------------- ----------------------------- ----------------------------- -------------------------------- -------------------------------- ----------------------------- ----------------------------- เพจใบงานครูแพร

หน่วยท่ี ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน ๕ และผลประโยชนส์ ว่ นรวม เรือ่ ง ระบบคดิ ฐานสอง : สถานการณใ์ กลต้ วั ทส่ี อ่ื ถงึ ระบบคิดฐานสอง  ให้นกั เรียนระบายสเี ขยี วลงใน หน้าขอ้ ความพฤตกิ รรมการแสดงออกของระบบคดิ ฐาน ๒ และระบายสแี ดงลงใน หน้าขอ้ ความพฤตกิ รรมทไ่ี มใ่ ช่ระบบคดิ ฐาน ๒ ทง้ิ ขยะลงในถังขยะ ปดิ กอ๊ กน้าทกุ ครงั้ หลังใชง้ าน หยบิ ของเล่นในหอ้ งเรยี น เขา้ แถวรอรับอาหารอยา่ งเป็น กลบั ไปเล่นท่ีบา้ น ระเบยี บ ปดิ พัดลมทุกครง้ั ไมเ่ อาไมก้ วาดของห้องเรยี น หลังออกจากห้องเรยี น ไปใช้ทีบ่ ้าน ไมน่ ากบเหลาดนิ สอของ นากระดาษของหอ้ งเรยี นไป หอ้ งเรียนไปใช้ทโี่ ตะ๊ ตนเอง ใช้งานส่วนตวั เด็ดดอกไม้ที่สวนดอกไม้ เอาเก้าอที้ โี่ รงเรียนกลับไปใช้ โรงเรยี นไปจัดแจกันทีบ่ ้าน ท่ีบ้าน เพจใบงานครูแพร

หนว่ ยที่ ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน ๖ และผลประโยชนส์ ว่ นรวม เรอ่ื ง ระบบคดิ ฐานสอง : การประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั กลอ่ งความรู้ ระบบคิดฐานสอง เปน็ วิธีคดิ ท่สี ง่ ผลถึงพฤติกรรม มมุ มอง และทัศนคตขิ องมนษุ ย์ วธิ ีการนามาปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ของระบบคดิ ฐานสอง เชน่ ไมแ่ ทรกแถวเพ่ือรับ อาหาร ไม่ขีดเขยี นตามฝาผนังในหอ้ งเรียน เปน็ ตน้  ให้นกั เรียนสารวจตนเองวา่ เคยปฏบิ ตั ิ หรือ ไมเ่ คยปฏบิ ตั ิพฤตกิ รรมดังตอ่ ไปน้ี ขอ้ ท่ี พฤตกิ รรม การปฏบิ ัติ เคย ไม่เคย ๑ นาไม้กวาดของโรงเรยี นไปใชท้ บ่ี า้ น ๒ นาสิ่งของของเพือ่ นมาเป็นของตนเอง ๓ ทาของใชส้ ่วนรวมในหอ้ งเรียนพังเสยี หาย ๔ ขดี เขียนตามโตะ๊ ในหอ้ งเรียน ๕ แอบหยบิ ของเลน่ ในหอ้ งเรยี นกลับไปเลน่ ทบ่ี า้ น  ใหน้ กั เรียนเขยี นพฤติกรรมทพ่ี งึ ปฏบิ ตั ใิ นการนาระบบคดิ ฐาน ๒ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ต่อไปนี หนูจะ... ------------------------------------------------------------------------- ------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------- เพจใบงานครูแพร

หนว่ ยที่ ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน ๗ และผลประโยชนส์ ว่ นรวม เร่อื ง ระบบคดิ ฐานสบิ : ความหมายและพฤตกิ รรมแบบระบบคดิ ฐานสบิ กลอ่ งความรู้ ระบบคิดฐานสบิ คือ โอกาสที่มที างเลือกหลายทาง มกั เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าประโยชนส์ ่วนรวม แยกแยะไมอ่ อกวา่ ส่งิ ใดควรปฏิบตั ิสง่ิ ใดไม่ควรปฏบิ ตั ิ พฤตกิ รรมท่ีแสดงออกของระบบคิดฐานสิบ เชน่ เปดิ พัดลมแลว้ ล็อกไวค้ นเดียวไมใ่ ห้ ผูอ้ ่ืน รบั สง่ิ ของเพ่ือแลกกบั คะแนนเสยี งเลือกต้ัง เปน็ ต้น  ใหน้ กั เรยี นบอกพฤตกิ รรมใกลต้ วั ทแี่ สดงออกของระบบคดิ ฐาน ๑๐ พฤตกิ รรมทแี่ สดงออกของระบบคดิ ฐาน ๑๐ -------------------------------------------------------------------------- ------------------------------------- ------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------- เพจใบงานครูแพร

หน่วยที่ ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน ๘ และผลประโยชนส์ ว่ นรวม เร่อื ง ระบบคดิ ฐานสบิ : สถานการณใ์ กลต้ วั  ใหน้ กั เรียนระบายสแี ดงลงใน หน้าขอ้ ความพฤตกิ รรมการแสดงออกของระบบคิด ฐาน ๑๐ และระบายสเี ขียวลงใน หน้าขอ้ ความพฤตกิ รรมทไ่ี มใ่ ชร่ ะบบคดิ ฐาน ๑๐ ไม่ทง้ิ ขยะลงในถงั ขยะ ลอกการบา้ นเพอ่ื น ไมห่ ยบิ ของเล่นในหอ้ ง เข้าแถวรอรบั อาหารอย่างเป็น ไปเล่นท่บี า้ น ระเบียบ ไม่ปดิ ก๊อกน้าหลงั ใช้งาน ไมเ่ อาไม้กวาดของหอ้ งเรียน ไปใช้ทีบ่ ้าน นากบเหลาดินสอของ ขีดเขยี นโตะ๊ เก้าอ้ี ผนงั ใน หอ้ งเรียนไปใช้ทีโ่ ตะ๊ ตนเอง หอ้ งเรยี น เด็ดดอกไม้ทสี่ วนดอกไม้ เอาเกา้ อีท้ ่ีโรงเรียนกลับไปใช้ โรงเรยี นไปจดั แจกนั ทบ่ี ้าน ทบี่ า้ น เพจใบงานครูแพร

๙ หนว่ ยท่ี ๒ ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ เรอ่ื ง ความหมายของความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ กลอ่ งความรู้ ทจุ รติ หมายถึง ความประพฤติชว่ั ถา้ เปน็ ความประพฤตชิ ัว่ ทางกาย เรยี กวา่ กายทุจรติ ถา้ เปน็ ความประพฤตชิ ่ัวทางวาจา เรียกว่า วจที จุ ริต ถ้าเป็นความ ประพฤตชิ ัว่ ทางใจ เรยี กวา่ มโนทุจริต เช่น ทุจรติ ในการสอบ คดโกง ฉ้อโกง ความละอาย หมายถงึ การรจู้ กั อายที่จะทาในสง่ิ ทไี่ มถ่ กู ไม่ควร ความไมท่ นต่อการทุจริต หมายถึง การไมย่ อม ไม่เหน็ ด้วย ต่อการกระทาทจุ รติ  ใหน้ กั เรยี นระบายสขี อ้ ความทเ่ี ป็นการกระทาทจุ รติ ชาลสิ าจองคิวใหเ้ พ่ือน สุวมิ ลทา้ การบ้านวชิ าภาษาไทย ชาตรีดึงผมญาณศิ า สุชาตขิ โมยเงินปรีชา แก้วตาและชาลีก้าลังทา้ เวร เพจใบงานครูแพร

๑๐ หนว่ ยที่ ๒ ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ เรอ่ื ง การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ รอื่ งความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ๑. ในภาพเป็นการทากิจกรรมใด _____________________________________ ๒. จากภาพกิจกรรมขา้ งตน้ นกั เรยี นมีหนา้ ทที่ าอะไร _____________________________________ ๓. ถา้ มเี พื่อนไมท่ าตามหน้าทข่ี องตนเอง จะเกดิ อะไรขนึ้ _____________________________________ ๔. นักเรียนจะมีวิธแี ก้ไขอยา่ งไร _____________________________________ เพจใบงานครูแพร

๑๑ หนว่ ยที่ ๒ ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ เรื่อง การประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ รอื่ งความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ  ใหน้ ักเรยี นโยงเสน้ ขอ้ ความที่มคี วามสมั พนั ธก์ นั ความหมายของ เพ่ือใหห้ อ้ งเรยี นสะอาด การทาเวร กวาดห้องเรียน เหตผุ ลทต่ี อ้ งทาเวร การผลดั เปลีย่ นกัน ทาความสะอาดห้องเรยี น กจิ กรรมทนี่ กั เรยี นตอ้ ง ฝกึ ความรบั ผดิ ชอบ ทาในวนั ทนี่ กั เรยี นทาเวร ลบกระดาน เพจใบงานครูแพร

๑๒ หนว่ ยท่ี ๒ ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ เรอ่ื ง การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ รอื่ งความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ  เขยี นเครอื่ งหมาย X หน้าขอ้ ทเ่ี ป็นการทาในสงิ่ ทไี่ มถ่ กู ไมค่ วร ____ ๑. ชาตรีหิวขา้ วมาจงึ ว่ิงไปแซงคิวเพอ่ื ใหไ้ ด้อาหารไวขน้ึ ____ ๒. แก้วตา ฟ้าใส และไมตรี ช่วยกันทาเวร ____ ๓. สุธรี ีบมาโรงเรยี นเพ่ือลอกการบา้ นเพอ่ื น ____ ๔. อาภาและวิชัยหวั เราะชอบใจทไ่ี ด้แกล้งเพอื่ น ____ ๕. ยทุ ธแอบหนั ไปลอกขอ้ สอบประชา ____ ๖. หลังเลิกเรียนวภิ าวปี ดิ ไฟในห้องเรียนจนครบทกุ ดวงแล้วจงึ เดินออกไป ____ ๗. นกั เรียนไมค่ ุยกนั ขณะทาขอ้ สอบ ____ ๘. วนิดาอ่านข้อสอบออกเสยี งดงั ใหอ้ รอมุ าได้ยนิ ดว้ ย ____ ๙. พรสดุ าไมใ่ ห้ประวทิ ยล์ อกขอ้ สอบเพราะอาจทาใหเ้ พอ่ื นมีนิสัยไมด่ ี ____ ๑๐. หวั หน้าหอ้ งเหน็ เพือ่ นลอกขอ้ สอบ จงึ บอกครเู พ่อื ไมใ่ หเ้ พ่อื นทาในสิ่งทไี่ มด่ ี เพจใบงานครูแพร

๑๓ หน่วยท่ี ๓ STRONG : จิตพอเพยี งต้านการทจุ รติ เรอื่ ง ความหมายของ STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ รติ กล่องความรู้ S (Sufficient) พอเพยี ง หมายถึงการนาเศรษฐกจิ พอเพียงมาเปน็ เคร่ืองมอื ใน การป้องกันการทจุ รติ เชน่ สรา้ งจติ พอเพียงใหแ้ กต่ ัวเราและเพอื่ น ๆ เมือ่ เราพอเพียง เรากจ็ ะไม่ทจุ รติ T (Transparent) โปรง่ ใส หมายถึงการมุง่ เน้นการปฏิบัตงิ าน และตรวจสอบ ได้ เช่น ไมล่ อกการบา้ นเพ่อื น และครสู ามารถตรวจดูไดว้ า่ นักเรยี นตอบไม่เหมือนเพอ่ื น R (Realise) ตื่นรู้ หมายถึง ความเข้าใจ ความตระหนกั รู้ และการวเิ คราะห์ความ เส่ยี ง เชน่ หากนักเรียนจะทาการบา้ น นกั เรียนตอ้ งเรยี นให้เขา้ ใจ และหากคดิ ว่าตวั เอง จะทาไมไ่ ด้ ก็ควรถามเพือ่ นหรือครู O (Onward) ม่งุ ไปขา้ งหนา้ หมายถงึ การมีแนวคิดม่งุ สคู่ วามโปร่งใส N (Knowledge) ความรู้ หมายถงึ มีการพฒั นาองค์ความรอู้ ย่างสมา่ เสมอ เชน่ เข้าหอ้ งสมุดเสมอ ๆ G (Generosity) เอ้ืออาทร หมายถึงการรว่ มสรา้ งสงั คมไทยให้มีความเอื้ออาทร เช่น แบ่งปงั สง่ิ ของให้เพ่ือน ๆ เพจใบงานครูแพร

หนว่ ยที่ ๓ STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นการทุจรติ ๑๔ เรอ่ื ง ความหมายของ STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ รติ  ใหน้ กั เรยี นเขยี นบอกความหมายของ STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ รติ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ ___________________________ เพจใบงานครูแพร

หนว่ ยที่ ๓ STRONG : จติ พอเพยี งต้านการทจุ รติ ๑๕ เร่อื ง กจิ กรรมท่ยี ดึ หลกั STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นการทจุ รติ T : Transparent (โปรง่ ใส) ---------------------- ---------------------- ---------------------- S : Sufficient (พอเพยี ง) R : Realise (ต่ืนรู้) ---------------------- ---------------------- ---------------------- ---------------------- ---------------------- ---------------------- การทาการบา้ น แบบ STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นการทจุ รติ G : Generosity (เอ้อื อาทร) O : Onward (ม่งุ ไปขา้ งหนา้ ) ---------------------- ---------------------- ---------------------- ---------------------- ---------------------- ---------------------- N : Knowledge (ความร)ู้ ---------------------- ---------------------- ---------------------- เพจใบงานครูแพร

๑๖ หนว่ ยท่ี ๔ พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม เรื่อง ความหมายและตวั อยา่ งของความรบั ผดิ ชอบ กลอ่ งความรู้ ความรับผิดชอบ หมายถงึ ภาระหรือพนั ธะผูกพันในการจะปฏิบัตหิ นา้ ที่การงาน ของผรู้ ่วมงานให้เปน็ ไปตามเปา้ หมายขององค์การ เนื่องจากบคุ คลตอ้ งอยูร่ ว่ มกนั ทางานในองค์การ จาเป็นต้องปรบั ลกั ษณะนิสัย เจตคตขิ องบุคคลเพอ่ื ช่วยเป็นเคร่ืองผลักดนั ให้ปฏบิ ตั งิ านตามระเบียบรจู้ ักเคารพสิทธิ ของผูอ้ ่นื ปฏบิ ตั งิ านในหนา้ ทที่ ต่ี ้องรบั ผิดชอบและมคี วามซอ่ื สัตย์สจุ ริต คนทีม่ ีความ รบั ผิดชอบ จะทาให้การปฏิบตั งิ านไปสเู่ ปา้ หมายท่ีวางไว้ และช่วยให้การทางาน รว่ มกันเป็นไปด้วยความราบรนื่ ความรบั ผิดชอบจงึ เปน็ ภาระผกู พนั ท่ผี ูน้ าต้องสร้างขน้ึ เพอื่ ให้องค์การสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างดี  ใหน้ กั เรยี นระบายสฟี า้ ลงใน หนา้ ขอ้ ความทเ่ี ปน็ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง และ ระบายสชี มพลู งใน หนา้ ขอ้ ความทเี่ ปน็ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ผอู้ น่ื ทาเวร ทาการบา้ น รบั ประทานอาหารเชา้ ต่ืนเช้ามาโรงเรียน ช่วยแม่เล้ยี งนอ้ ง แปรงฟนั ก่อนนอน ช่วยพอ่ รดน้าตน้ ไม้ ปดิ ไฟเม่ือไมใ่ ชง้ าน เพจใบงานครูแพร

๑๗ หน่วยท่ี ๔ พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม เรอ่ื ง ความรับผดิ ชอบเกยี่ วกบั ชวี ติ ประจาวนั ภาพของหนขู ณะช่วยทาความสะอาดบา้ น หน้าทขี่ องหนใู นบา้ น ๑) _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ๒) _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ความรสู้ กึ ของหนเู มอ่ื ไดช้ ว่ ยทาความสะอาดบา้ น _____________________________________________________ _____________________________________________________ เพจใบงานครูแพร

๑๘ หนว่ ยที่ ๔ พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม เร่อื ง ความเปน็ พลเมอื ง กล่องความรู้ ความเปน็ พลเมอื ง คือ สถานภาพของบคุ คลทจ่ี ารีตประเพณีหรอื กฎหมายของรัฐ รับรองซงึ่ ใหแ้ ก่สทิ ธิและหน้าทแี่ หง่ ความเปน็ พลเมอื งแกบ่ คุ คล (เรียก พลเมือง) ซง่ึ อาจรวมสิทธิออกเสยี งเลอื กตัง้ การทางานและอาศัยอยู่ในประเทศ สิทธิกลับประเทศ สทิ ธคิ รอบครองอสังหาริมทรพั ย์ การค้มุ ครองทางกฎหมายต่อรัฐบาลของประเทศ และการคุ้มครองผ่านกองทพั หรอื การทูต พลเมืองยังมีหนา้ ท่ีบางอยา่ ง เช่น หนา้ ที่ ปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐ จ่ายภาษี หรือรับราชการทหาร บุคคลอาจมคี วามเป็น พลเมอื งมาก และบุคคลทไี่ ม่มีความเปน็ พลเมอื ง เรยี ก ผู้ไร้สัญชาติ  ให้นกั เรยี นขยี นขอ้ ตกลงในหอ้ งเรยี นทนี่ กั เรยี นคดิ วา่ จาเปน็ ตอ้ งมี ข้อตกลงในหอ้ งเรยี น ๑) _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ๒) _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ ๓) _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ เพจใบงานครูแพร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook