Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในวิชาวิทยาศาสตร์

การเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในวิชาวิทยาศาสตร์

Published by techakosit, 2020-05-23 01:06:01

Description: สมศักดิ์ เตชะโกสิต และ พัลลภ พิริยะสุรวงศ์

Search

Read the Text Version

วารสารวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรม พระจอมเกล้าพระนครเหนือ 225 ปีท่ี 6 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 การเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนร้เู พ่ือสร้างสรรคด์ ้วยปัญญาโดยใช้เทคโนโลยี เสมือนจริงในวิชาวิทยาศาสตร์ Constructionist Learning and Teaching Using Augmented Reality Technology for Science Subject สมศกั ดิ์ เตชะโกสติ 1* และ พลั ลภ พริ ยิ ะสรุ วงศ2์ 1. บทนํา (Programme for International Student Assessment: ภาคเี พ่อื ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 (Partnership for PISA) ยังกําหนดให้การรู้วิทยาศาสตร์(Scientific Literacy) เป็น 1 ใน 3 ด้าน นอกจากการรู้การอ่าน 21st Century Skills) ซง่ึ เป็นองคก์ รทเ่ี กดิ จากการรวมตวั (Reading Literacy) และการรู้คณิตศาสตร์ ของนกั ธรุ กจิ ผนู้ ําทางการศกึ ษา และผูก้ าํ หนดนโยบาย (Mathematical Literacy) ของนักเรยี นอายุ 15 ปี โดย ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ร่วมกันกําหนดวิสยั ทัศน์ โครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติได้วิจัยเพ่ือ สําหรับการศกึ ษาในศตวรรษท่ี 21 เพ่ือให้นักเรียน ตดั สนิ ใจวา่ ความรู้ และทกั ษะทจ่ี ําเป็นสาํ หรบั การเรยี นรู้ ประสบความสําเร็จในฐานะพลเมืองและแรงงานใน ตลอดชีวิต การมีชีวิตสงั คมยุคใหม่ และเป็นตัวช้ีวัด อนาคต [1] โดยพฒั นากรอบแนวคดิ เก่ยี วกบั ทกั ษะใน ศกั ยภาพการแข่งขนั ทางเศรษฐกจิ ผลการประเมนิ แบ่ง ศตวรรษท่ี 21 ในการจดั ระบบการศกึ ษาสาํ หรบั นกั เรยี น การรวู้ ทิ ยาศาสตรเ์ ป็น 6 ระดบั โดยกําหนดใหร้ ะดบั 2 มี 4 ทกั ษะคอื 1) สาระวชิ าแกนหลกั และแนวคดิ สาํ คญั เป็นระดบั พ้นื ฐาน ท่ีเรมิ่ แสดงว่านักเรียนมคี วามรู้และ ของการเรียนรู้ 2) ทักษะการเรียนรู้และนวตั กรรม 3) พอใช้ประโยชน์จากวทิ ยาศาสตร์ในชวี ติ จรงิ ในอนาคต ทกั ษะดา้ นสารสนเทศสอ่ื และเทคโนโลยี และ 4) ทกั ษะ [2] โครงการ PISA ประเทศไทย สถาบนั ส่งเสรมิ การ ชวี ติ และงานอาชพี นอกจากทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 แลว้ สอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ติดตามผลการ ภาคเี พ่อื ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ยงั กําหนดแนวคดิ ประเมนิ PISA 2012 รายงานระดบั การรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เก่ียวกบั ระบบสนับสนุนการศึกษาท่ีจําเป็นท่ีจะช่วย ของนกั เรยี นไทย พบวา่ มนี กั เรยี นไทยทแ่ี สดงสมรรถนะ พฒั นาทกั ษะทัง้ 4 ด้านดงั กล่าว โดยระบบสนับสนุน ทร่ี ะดบั พน้ื ฐานมอี ย่รู อ้ ยละ 37.5 ทน่ี ่าสนใจกค็ อื นักเรยี น การศกึ ษาประกอบดว้ ย 1) มาตรฐานการเรยี นรู้ 2) การ ทแ่ี สดงสมรรถนะต่ํากว่าระดบั พน้ื ฐานมถี ึงรอ้ ยละ 33.6 ประเมนิ ทกั ษะ 3) หลกั สตู รและการสอน 4) การพฒั นา ในจํานวนน้ีแบ่งเป็นท่ีระดบั 1 อยู่ร้อยละ 26.6 และมี ทางวชิ าชพี และ 5) สภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ใน นกั เรยี นท่แี สดงสมรรถนะไม่ถงึ ระดบั 1 อยู่ร้อยละ 7.0 ศตวรรษท่ี 21 นอกจากทภ่ี าคเี พ่อื ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี นักเรียนไทยท่มี สี มรรถนะระดบั สูง (ระดบั 5 กบั ระดบั 21 กาํ หนดว่าวชิ าวทิ ยาศาสตรเ์ ป็นสาระวชิ าแกนหลกั ท่ี 6) มเี พยี งรอ้ ยละ 1.0% (มนี ักเรยี นไทยเพยี งรอ้ ย 0.9 ท่ี มคี วามสําคญั สาํ หรบั ต่อการดํารงชวี ิตของนักเรยี นใน ระดบั 5 และ รอ้ ยละ 0.1 ทร่ี ะดบั 6) [3] ศตวรรษท่ี 21 แลว้ โครงการประเมนิ ผลนักเรยี นนานาชาติ ________________________________________________________________ 1 ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ โรงเรยี นสาธติ แหง่ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ศนู ยว์ จิ ยั และพฒั นาการศกึ ษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ 2 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารเพอ่ื การศกึ ษา ภาควชิ าครุศาสตร์เทคโนโลยี คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนอื * ผนู้ ิพนธป์ ระสานงาน โทร. 08-9691-5684 อเี มล: [email protected]

226 Technical Education Journal King Mongkut’s University of Technology North Bangkok Vol. 6, No. 1, January - June 2015 ดว้ ยสภาพปญั หาการรวู้ ทิ ยาศาสตรข์ องนกั เรยี นไทย 3. เทคโนโลยีเสมอื นจริง ในปจั จุบัน ทําให้หลายฝ่ายวิตกถึงศักยภาพในการ เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ (Augmented Reality: AR) เป็น แขง่ ขนั ของประเทศในอนาคต ในบทความน้ีจงึ นําเสนอ การเรยี นการสอนตามทฤษฎีการเรยี นรู้เพ่อื สร้างสรรค์ เทคโนโลยีความจริงเสมือน (Virtual Reality: VR) ด้วยปญั ญาโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในวิชา ประเภทหน่งึ โดยผใู้ ชส้ ามารถมองเหน็ สภาพแวดลอ้ มจรงิ วทิ ยาศาสตร์ เพ่อื เป็นแนวทางหน่ึงในการส่งเสรมิ การ และวตั ถุเสมอื นซ้อนทบั หรอื ประกอบกบั โลกจรงิ ดงั นัน้ เรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ทําให้นักเรียนเกิดสมรรถนะทาง เทคโนโลยีเสมือนจริงจะเพิ่มเติมสภาพจริง มากกว่า วทิ ยาศาสตร์ และเจตคตทิ างวทิ ยาศาสตรใ์ นอนาคต แทนทโ่ี ลกจรงิ ทงั้ หมด [10] เป็นรูปแบบของประสบการณ์ 2. ทฤษฎีการเรยี นรเู้ พอ่ื สรา้ งสรรคด์ ้วยปัญญา ในโลกแหง่ ความเป็นจรงิ (real world) ทเ่ี พม่ิ เน้ือหาทส่ี รา้ ง ข้นึ จากคอมพิวเตอร์ ซ่ึงเช่ือมโยงไปสถานท่ี และ/หรือ ทฤษฎีการเรียนรู้เพ่ือสร้างสรรค์ด้วยปญั ญา กจิ กรรมท่ีเฉพาะเจาะจง เทคโนโลยีเสมือนจรงิ ช่วยให้ (Constructionism) มพี น้ื ฐานทพ่ี ฒั นามาจากทฤษฎกี าร เน้ือหาดจิ ติ อลผสมลงในการรบั รู้ของคนในโลกแห่งความ สร้างความรู้ (Constructivism) ของพีอาเจต์ โดยมี จรงิ [11] หลกั การสําคญั ว่าความรู้ไม่เพียงส่งผ่านจากครูสู่ผู้เรยี น แต่ถูกสร้างภายในตัวของผู้เรียนเอง ผู้เรียนไม่ได้รับ แนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยเี สมอื นจรงิ คอื การพฒั นา ความคดิ แต่เป็นผสู้ รา้ งความคดิ [4] เน้นการเรยี นรทู้ เ่ี กดิ เทคโนโลยีท่ผี สานเอาโลกแห่งความเป็นจริงและความ จากการท่ีผู้เรียนได้สร้างทําช้ินงานจริงโดยมีวัสดุการ เสมอื นจรงิ เขา้ ดว้ ยกนั ผา่ นซอฟตแ์ วรแ์ ละอุปกรณ์เช่อื มต่อ เรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมเป็นเคร่อื งมอื ในการสรา้ งชน้ิ งาน [5] ต่าง ๆ เช่นเว็บแคม คอมพวิ เตอร์ หรืออุปกรณ์อ่นื ท่ี เก่ียวข้อง ซ่ึงภาพเสมือนจริงนัน้ จะแสดงผลผ่านหน้า การสรา้ งชน้ิ งานเป็นกระบวนการทน่ี กั เรยี นสรา้ งสรรค์ จอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทรศพั ท์มอื ถือ บนเคร่ืองฉาย (Creating) ผลงาน ซ่งึ เป็นระดบั ขนั้ สูงสุดของการเรยี นรู้ ภาพ หรอื บนอุปกรณ์แสดงผลอ่นื ๆ โดยภาพเสมอื นจรงิ ทางพุทธิพิสยั (Cognitive Domain) ตามจุดมุ่งหมาย ทป่ี รากฏขน้ึ จะมปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั ผใู้ ชไ้ ดท้ นั ทที งั้ ในลกั ษณะ การศึกษาของบลูมฉบบั ปรับปรุง (Revised Bloom’s ทเ่ี ป็นภาพน่ิงสามมติ ภิ าพเคล่อื นไหวหรอื อาจจะเป็นสอ่ื ท่ี Taxonomy) ซ่ึงประกอบด้วย 1) การสร้างแนวคิด มเี สยี งประกอบขน้ึ กบั การออกแบบสอ่ื แต่ละรปู แบบว่าให้ (Generating) เ ป็ น กา รสร้า ง คว าม รู้ใ หม่ โด ยก า ร ออกมาแบบใด [12] ตัง้ สมมติฐาน (Hypothesizing) 2) การสร้างแผนงาน (Planning) เป็นการกําหนดขนั้ ตอน และการออกแบบ ตลอดในช่วงสองทศวรรษท่ผี ่านมา เรมิ่ มกี ารทดลอง (Designing) โครงร่าง หรอื เค้าโครงของงาน และ 3) การ นําเทคโนโลยเี สมอื นจรงิ มาใชท้ ดลองทงั้ โรงเรยี นและทาง สร้างผลผลิต (Producing) เป็นการสรา้ งความรู้ใหม่จาก ธุรกจิ ถงึ แมม้ ไี ม่มากเท่าทว่ี ธิ กี ารศกึ ษาและการฝึกอบรม การสรา้ งผลงาน ดงั้ เดมิ กต็ ามแต่ในปจั จุบนั ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยที ่ี ทําให้เทคโนโลยีเสมือนจริงได้มีประสิทธิภาพมากข้ึน จากการศึกษาพบว่าการจดั การเรยี นการสอนตาม กวา่ เดมิ และอปุ กรณ์ทใ่ี ชก้ บั เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ มขี นาด ทฤษฎีการเรียนรู้เพ่ือสร้างสรรค์ด้วยปญั ญาสามารถ เล็กกะทัดรัด เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โทรศัพท์ พฒั นาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น [6, 7] และความคดิ อภิ เคล่อื นท่ี และนวตั กรรมอิเลก็ ทรอนิกสอ์ ่ืน ๆ ทําให้มี ปญั ญา [8] ผู้เรียนเรียนอย่างมีความสุข และรู้สึก แนวโน้มการนําเทคโนโลยเี สมอื นจรงิ มากยง่ิ ขน้ึ โดยเฉพาะ พงึ พอใจในกิจกรรมการเรยี นการสอนตามทฤษฎีการ อย่างยง่ิ ในดา้ นการศกึ ษาและการฝึกอบรม [13] ประกอบ เรยี นรเู้ พ่อื สรา้ งสรรคด์ ว้ ยปญั ญา [9] กบั คณุ สมบตั ขิ องเทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ดงั กล่าวเหมาะสม กบั สภาพแวดลอ้ มทางการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 คอื สร้างสรรค์แนวปฏิบตั ิทางการเรยี นการรบั การสนับสนุน จากบุคลากร และสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทเ่ี ก้อื หนุน เพ่ือช่วยให้การเรียนการสอนบรรลุผลผู้เรียนมีโอกาส

วารสารวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรม พระจอมเกล้าพระนครเหนือ 227 ปีที่ 6 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 เข้าถึงส่อื เทคโนโลยีเคร่ืองมือหรือแหล่งการเรียนรู้ท่ีมี 5. การรวู้ ิทยาศาสตร์ (Scientific Literacy) คุณภาพ นอกจากน้ยี งั สามารถออกแบบระบบการเรยี นรทู้ ่ี การรวู้ ทิ ยาศาสตรห์ มายถงึ ความรทู้ างวทิ ยาศาสตรข์ อง เหมาะสมทงั้ การเรยี นเป็นกลุ่มหรือการเรยี นรายบุคคล ดว้ ยใชเ้ ทคโนโลยเี สมอื นจรงิ แต่ละบุคคล และใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในการระบุ ปญั หา การหาความรู้ใหม่ การอธบิ ายปรากฏการณ์ทาง ผลการศกึ ษาเกย่ี วกบั การใชเ้ ทคโนโลยเี สมอื นจรงิ กบั วทิ ยาศาสตร์ การหาขอ้ สรุปตามหลกั ฐานท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั การเรียนการสอน พบว่านักเรียนมีประสบการณ์การ ปญั หาทางวทิ ยาศาสตร์ เขา้ ใจลกั ษณะของวทิ ยาศาสตรใ์ น เรยี นรูไ้ ดด้ ขี น้ึ เม่อื เปรยี บเทยี บกบั เทคนิคการเรยี นรูแ้ บบ ฐานะทเ่ี ป็นความรขู้ องมนุษยแ์ ละไดจ้ ากการเสาะหาคน้ หา ดงั้ เดมิ [14] เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ มศี กั ยภาพเปลย่ี นการ มคี วามตระหนักรู้ว่าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยสี ามารถ เรยี นการสอนและการเรยี นรู้ของแนวคิดและเน้ือหาท่ีมี สรา้ งวสั ดุ สติปญั ญา สงิ่ แวดลอ้ มทางวฒั นธรรม เตม็ ใจท่ี ความซบั ซอ้ น โดยเปลย่ี นความจําเน้ือหาเป็นความเขา้ ใจ จะมีส่วนร่วมรบั รู้ปญั หาท่ีเก่ียวข้องกับวิทยาศาสตร์ใน ขอ้ มูลดว้ ยการผสมผสานระหว่างภาพและประสาทสมั ผสั ฐานะทเ่ี ป็นพลเมอื งทม่ี คี วามคดิ และรบั ผดิ ชอบ [2] ทาํ ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพขององค์ความรูแ้ ละประสบการณ์ การเรียนรู้ [15] การสอนโดยใช้เทคโนโลยีเสมอื นจริง สําหรบั โครงการ PISA ประเทศไทย ซ่งึ สถาบนั ร่วมกบั การสอนของครู ภาพประกอบ และเอกสารการ ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กล่าวถึง เรยี นการสอนมผี ลต่ออทิ ธพิ ลทางบวกกบั การเรยี น [16] การกําหนดกรอบการรู้วิทยาศาสตรใ์ นการประเมนิ ผล สามารถทาํ ใหน้ กั เรยี นสนใจวทิ ยาศาสตรม์ ากยง่ิ ขน้ึ [17] PISA 2012 มอี งคป์ ระกอบดงั น้ี [3] 4. แอพพลิเคชนั่ ออรสั มา 1. บรบิ ทของการประเมนิ ผลวทิ ยาศาสตร์ ไดแ้ ก่ การ ออรัสมา (Aurasma) เป็นเคร่ืองมือสําเร็จรูปท่ีจะ รบั รถู้ งึ สถานการณ์ในชวี ติ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั วทิ ยาศาสตรแ์ ละ อํานวยความสะดวกในการสร้างส่ือประเภทเทคโนโลยี เทคโนโลยี เสมอื นจรงิ โดยผูส้ รา้ งส่อื ไม่จําเป็นตอ้ งมคี วามรเู้ ชงิ ลกึ ใน เร่อื งการเขยี นโปรแกรม ทําให้สามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มูลท่ถี ูก 2. ทักษะทางวิทยาศาสตร์ หมายถึงทักษะการใช้ เขา้ รหสั ดว้ ยออรสั มา ใหป้ รากฏเหน็ ภาพผ่านหน้าจอของ ความรู้วทิ ยาศาสตร์ในการระบุประเดน็ ทางวทิ ยาศาสตร์ อุปกรณ์ประเภท โทรศพั ทม์ อื ถอื แทบ็ เลต็ [18] อธิบายปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ และการใช้ ประจกั ษพ์ ยานทางวทิ ยาศาสตร์ ผู้สร้างส่อื ด้วยออรสั มาสามารถสร้างได้เพียงปฏิบตั ิ ตามขัน้ ตอนของคําแนะนําในเว็บไซต์ https://studio. 3. ความรูท้ างวทิ ยาศาสตร์ ซง่ึ ประกอบด้วย ความรู้ aurasma.com/home โดยสงิ่ สาํ คญั คอื การเผยแพร่ใหผ้ ใู้ ช้ วทิ ยาศาสตร์ และความรเู้ กย่ี วกบั วทิ ยาศาสตร์ ทราบช่อื ของ Channel ซง่ึ เป็นช่องทางใหผ้ ใู้ ชเ้ ขา้ ถงึ สอ่ื ท่ี ผู้สร้างต้องการเผยแพร่ สําหรับผู้ใช้ต้องดาวน์โหลด 4. เจตคตติ ่อวทิ ยาศาสตร์ คอื การแสดงการตอบสนอง แอพพลเิ คชนั่ ออรสั มาไว้ในเคร่อื งมอื และค้นหาช่ือของ ต่อวิทยาศาสตร์ด้วยความสนใจ สนับสนุนการสืบหา Channel ท่ตี ้องการใช้งาน ผู้ใช้ก็สามารถเข้าถึงส่อื ท่ี ความรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ตอ้ งการได้ 6. วิธีการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรเู้ พื่อ สรา้ งสรรคด์ ว้ ยปัญญาโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ดว้ ยลกั ษณะเด่นของออรสั มาท่สี ร้างใหผ้ ู้ใช้สามารถ สร้างเทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ได้โดยท่ีไม่ต้องมคี วามรูด้ า้ น จากการศึกษา วิเคราะห์ สงั เคราะห์ เอกสารและ คอมพวิ เตอรอ์ ย่างลกึ ซง้ึ นนั้ ทาํ ใหอ้ อรสั มาจงึ เป็นวสั ดุการ งานวจิ ยั เกย่ี วกบั ทฤษฎกี ารเรยี นรูเ้ พ่อื สร้างสรรค์ดว้ ย เรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมทใ่ี หผ้ เู้ รยี นใชเ้ ป็นเคร่อื งมอื ในการสรา้ ง ปญั ญา และเทคโนโลยเี สมอื นจรงิ เพ่อื ร่างกรอบแนวคดิ ช้ินงานในการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้เพ่ือ เบ้ืองต้นของรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการ สรา้ งสรรคด์ ว้ ยปญั ญา เรียนรู้เพ่ือสร้างสรรค์ด้วยปญั ญาโดยใช้เทคโนโลยี เสมอื นจรงิ ในวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ดงั น้ี องค์ประกอบของการเรียนการสอนตามทฤษฎีการ เรยี นรเู้ พ่อื สรา้ งสรรคด์ ว้ ยปญั ญาโดยใชเ้ ทคโนโลยเี สมอื น

228 Technical Education Journal King Mongkut’s University of Technology North Bangkok Vol. 6, No. 1, January - June 2015 จริงในวิชาวทิ ยาศาสตร์มี 5 ประการ คอื 1) ทฤษฎีการ กระบวนการของรูปแบบการเรียนการสอนตาม เรยี นรเู้ พ่อื สรา้ งสรรคด์ ว้ ยปญั ญา 2) เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ทฤษฎีการเรียนรู้เพ่ือสร้างสรรค์ด้วยปญั ญาโดยใช้ 3) ครูผสู้ อน 4) นกั เรยี น 5) เน้ือหาวชิ า ก่อนการจดั การ เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ในวชิ าวทิ ยาศาสตร์ มี 5 ขนั้ ตอน เรยี นการสอนครูผูส้ อนจําเป็นต้องวเิ คราะห์องค์ประกอบ ดงั น้ี ทงั้ 5 ประการ Constructionism Define Assessment Scientific Literacy Augmented Reality Explore Produce Teacher Present Students Content รปู ที่ 1 รปู แบบการเรยี นการสอนตามทฤษฎกี ารเรยี นรเู้ พ่อื สรา้ งสรรคด์ ว้ ยปญั ญาโดยใชเ้ ทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ในวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ขนั้ ตอนที่ 1 กําหนด (Define) เป็นขนั้ ตอนท่ีครู ทดลองทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนนําเสนอช้ินงานด้วย และนักเรยี นร่วมกนั กําหนดปญั หาและเป้าหมายของ ภาพ marker แลว้ นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายผลการเรยี นรู้ การเรยี นรใู้ หม้ คี วามชดั เจน โดยครเู รม่ิ จากสถานการณ์ ของกลมุ่ อน่ื หรือประเด็นคําถามเพ่ือนําเข้าสู่บทเรียน ครูและ นกั เรยี นรว่ มกนั กาํ หนดเป้าหมายของการหาคาํ ตอบจาก ขนั้ ตอนท่ี 5 ประเมินผล (Assessment) เป็น ประเด็นคําถาม สมาชกิ ของกลุ่มนักเรียนร่วมกันวาง ขนั้ ตอนการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ของนักเรยี นทงั้ จาก แผนการทาํ งาน เพ่อื ทาํ ชน้ิ งานบรรลุเป้าหมาย การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ของนักเรยี นจากบนั ทกึ หลงั เรยี นของนกั เรยี นตงั้ แต่ขนั้ ตอนท่ี 2 ถงึ ขนั้ ตอนท่ี 4 และ ขนั้ ตอนที่ 2 สาํ รวจ ตรวจสอบ (Explore) เป็น ประเมนิ การพฒั นาผลสมั ฤทธกิ์ ารเรยี นของนกั เรยี นดว้ ย ขนั้ ตอนทส่ี มาชกิ ร่วมกนั สบื คน้ หาความรจู้ ากแหล่งขอ้ มูล แบบทดสอบ ท่ีหลากหลาย หรือจากสํารวจ ตรวจสอบ ทดลองทาง วิทยาศาสตร์ เพ่ือหาคําตอบของปญั หา หรือประเด็นท่ี ผู้เขียนได้มีโอกาสทดลองจัดการเรียนสอนตาม สงสยั ขนั้ ตอนกระบวนการขา้ งต้นในวชิ าฟิสกิ ส์ เร่ืองกฎแรง โน้มถ่วง ระดบั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หลงั จากเร่อื งกฎการ ขนั้ ตอนที่ 3 สรา้ งชิ้นงาน (Produce) เป็นขนั้ ตอน เคลอ่ื นทข่ี องนวิ ตนั ดงั น้ี ท่นี ักเรียนท่เี ป็นสมาชิกของแต่กลุ่มสร้างผลงานแสดง ความรูท้ ่ไี ดจ้ ากการสํารวจ ตรวจสอบ หรอื ทดลองทาง ผู้เขยี นเร่ิมประเด็นปญั หาให้นักเรียนว่า ถ้าคดิ ถึง วิทยาศาสตร์ ในรูปแบบไฟล์คอมพิวเตอร์ และใช้ นิวตนั นกั เรยี นจะนกึ ถงึ เหตุการณ์อะไร นกั เรยี นจะตอบ แอพพลิเคชัน่ ออรัสมาเป็นช่องทางในการนําเสนอ ว่านักเรียนคิดถึงเหตุการณ์ท่นี ิวตันนัง่ ใต้ต้นแอปเปิล ผลงานของนกั เรยี น ผเู้ ขยี นถามนกั เรยี นต่อวา่ แลว้ เหตุการณ์นนั้ ทาํ ใหน้ ิวตนั ค้นพบอะไร ใช่กฎการเคล่ือนท่ีของนิวตันท่ีนักเรียน ขนั้ ตอนท่ี 4 นําเสนอ (Present) เป็นขนั้ ตอนท่ี เรยี นมาแลว้ หรอื ไม่ ผเู้ ขยี นใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม โดยแต่ นักเรยี นนําเสนอผลงานจากการเรยี นรู้ สบื คน้ หาความรู้ ละกลุ่มมีสมาชิก 3 คน และกําหนดเป้ าหมายว่าถ้า จากแหล่งขอ้ มูลทห่ี ลากหลาย หรอื จากสาํ รวจ ตรวจสอบ นกั เรยี นตอ้ งสามารถอธบิ ายการคน้ พบของนวิ ตนั จากใน

วารสารวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรม พระจอมเกล้าพระนครเหนือ 229 ปีที่ 6 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถุนายน 2558 เหตุการณ์ท่ีนิวตันนัง่ ใต้ต้นแอปเปิลให้ผู้อ่ืนฟงั โดยใช้ 7. สรปุ แอพพลเิ คชนั่ ออรสั มา ปญั หาของการรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนไทยมี การดําเนินการขัน้ สํารวจ ตรวจสอบ ผู้เขียนให้ ระดบั ต่ํามากเม่อื เปรยี บกบั นักเรยี นของประเทศอ่นื ทํา นกั เรยี นแต่กล่มุ ยมื คอมพวิ เตอรพ์ กพา 1 เคร่อื ง เพ่อื ให้ ให้เกิดความวิตกในเร่ืองของศักยภาพแข่งขันของ นกั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู ประเดน็ ปญั หา ประเทศในอนาคต จากการศกึ ษาพบว่าการเรยี นการ สอนตามทฤษฎีการเรียนรู้เพ่อื สร้างสรรค์ด้วยปญั ญา นักเรียนวางแผน เรียบเรียงขอ้ มูล เขยี นบท และ และการใช้เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ในการเรยี นการสอนมี ดาํ เนนิ การสรา้ งชน้ิ งานการนําเสนอเร่อื งกฎแรงโน้มถ่วง ผลต่อการพฒั นาการรู้วิทยาศาสตร์ ในบทความน้ีได้ ในรูปไฟล์วดี ิทศั น์ แลว้ ใช้ออรสั มาเป็นช่องทางในการ นําเสนอรปู แบบการเรยี นการสอนตามทฤษฎกี ารเรยี นรู้ นําเสนอ ในขนั้ ตอนน้ี ผู้เขยี นสงั เกตเห็นว่า นอกจาก เพ่อื สรา้ งสรรคด์ ว้ ยปญั ญาโดยใชเ้ ทคโนโลยเี สมอื นจรงิ นั ก เ รีย น มี ก า ร ป รึก ษ า ร ะ ห ว่ า ง ส ม า ชิ ก ใ น ก ลุ่ ม แ ล้ ว ในวชิ าวทิ ยาศาสตรซ์ ง่ึ ประกอบดว้ ย 1) องคป์ ระกอบมี 5 นกั เรยี นยงั มกี ารปรกึ ษา และแบ่งปนั ขอ้ มูลระหว่างกลุ่ม ประการ คอื ทฤษฎกี ารเรยี นรเู้ พอ่ื สรา้ งสรรคด์ ว้ ยปญั ญา ดว้ ย มนี ักเรยี นแบ่งปนั ความรวู้ ธิ กี ารสรา้ งออรสั มาเป็น เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ครู นกั เรยี น และเน้ือหาวชิ า และ ไฟลว์ ดี ทิ ศั น์ใหเ้ พอ่ื นทย่ี งั ไม่สามารถสรา้ งไดส้ าํ เรจ็ 2) กระบวนการ มี 5 ขัน้ ตอน คือ กําหนด สํารวจ ตรวจสอบ สรา้ งชน้ิ งาน นําเสนอ และประเมนิ ผล จาก รปู ที่ 2 ตวั อย่างผลงาน Channels: BeaT UP Phon การประเมนิ การใช้รูปแบบการเรียนการสอนน้ีในวิชา ในการเรยี นการสอนครงั้ น้ี ผเู้ ขยี นใหน้ ักเรยี นนําเสนอ วทิ ยาศาสตร์พบว่า นักเรียนมกี ารระบุประเดน็ ปญั หา โดยการตงั้ กระทใู้ นเฟสบคุ๊ เพอ่ื ใหเ้ พ่อื นในกลุ่มอ่นื มโี อกาส สืบค้นหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และมีเจตคติต่อ ดูผลงานของนักเรียนได้ และประเมนิ ผลของเพ่อื นด้วย วทิ ยาศาสตร์ ซง่ึ เป็นองคป์ ระกอบของการรวู้ ทิ ยาศาสตร์ จากการประเมนิ ของผเู้ ขยี นพบว่า การเรยี นการสอนตาม 8. เอกสารอ้างอิง ทฤษฎีการเรียนรู้เพ่ือสร้างสรรค์ด้วยปญั ญาโดยใช้ [1] Partnership for 21st Century Skills. (2008). [online]. เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ในวชิ าวทิ ยาศาสตรค์ รงั้ น้ีเป็นฝึกให้ นักเรยี นมีการระบุประเดน็ ปญั หา สบื ค้นหาความรู้ทาง 21st Century Skills, Education & Competitiveness. วทิ ยาศาสตรเ์ พ่อื อธบิ ายปรากฏการณ์ในเชงิ วทิ ยาศาสตร์ [cited 6 Oct 2013]. Available from: URL: http:// และนกั เรยี นมเี จตคตติ ่อวทิ ยาศาสตร์ ซง่ึ เป็นองคป์ ระกอบ www.p21.org/storage/documents/21st_century_ ของการรวู้ ทิ ยาศาสตร์ skills_education_and_competitiveness_guide.pdf [2] โครงการ PISA ประเทศไทย สถาบนั สง่ เสรมิ การสอน วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2554). ผลการประเมนิ PISA 2009 การอ่าน คณิตศาสตร์ และวทิ ยาศาสตร.์ กรงุ เทพ: หา้ งหุน้ สว่ นจาํ กดั อรุณการพมิ พ.์ [3] โครงการ PISA ประเทศไทย สถาบนั ส่งเสรมิ การ สอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2557). ผลการ ประเมนิ PISA 2012 คณิตศาสตร์ การอ่าน และ วทิ ยาศาสตร์ นักเรยี นรู้อะไร และทําอะไรได้บ้าง. กรุงเทพ: หา้ งหุน้ สว่ นจาํ กดั อรณุ การพมิ พ.์

230 Technical Education Journal King Mongkut’s University of Technology North Bangkok Vol. 6, No. 1, January - June 2015 [4] Han, S., and Bhattacharya, K. (2001). [online]. [11] Yuen, S.; Yaoyuneyong, G. and Johnson, E. Constructionism, Learning by Design, and (2011). “Augmented reality: An overview' and Project Based Learning. [cited 6 Oct 2013] . five directions for AR in education.” Journal of Available from: URL: http://epltt.coe.uga. index Educational Technology Development and edu/.php?title=Constructionism%2 C_Learning_ Exchange. 4(1): 119-140. by_Design%2C_and_Project_Based_Learning. [12] พนิดา ตนั ศริ .ิ (2553). “โลกเสมอื นผสานโลกจรงิ .” [5] บุปผชาติ ทฬั หกิ รณ์. (2552). การประยุกต์ใน นกั บรหิ าร. 30(2): 169-175. เทคโนโลยสี ารสนเทศในการเรยี นการสอน. พมิ พ์ ครงั้ ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์ [13] Kangdon Lee. (2012). “Augmented Reality in การเกษตรแห่งประเทศไทย จาํ กดั . Education and Training.” TechTrends. 56(2): 13-21. [6] กติ ตยิ า ปลอดแกว้ . (2551). การพฒั นาบทเรยี น บนเวบ็ ตามแนวทฤษฎกี ารเรยี นรเู้ พอ่ื สรา้ งสรรคด์ ว้ ย [14] Soon-ja Yeom. (2011). Augmented Reality for ปญั ญาเรอ่ื ง การสรา้ งหนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ สาหรบั Learning Anatomy. ascilite 2011, 1377 – นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1. วทิ ยานิพนธศ์ กึ ษาศาสตร 1383. Hobart: University of Tasmania. มหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา, มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร.์ [15] Shelton, B. E., and Hedley, N. R. (2002). Using Augmented Reality for Teaching Earth-Sun [7] Drew Polly. (2011). “Teachers’ learning while Relationships to Undergraduate Geography constructing technology-based instructional Students. The First IEEE International resources.” British Journal of Educational Augmented Reality Toolkit Workshop, 1-8. Technology. 42(6): 950-961. Darmstadt: IEEE. [8] ภทั รลกั ษณ์ สงั ขว์ งษ์ และ เสารรตั น์ ภทั รฐติ นิ ันท.์ [16] Margarita Vilkonienė. (2009). “Influence of (2555). การพัฒนาความคิดอภิปญั ญาโคยการจัด augmented reality technology upon pupils’ กจิ กรรมการเรยี นตามทฤษฎกี ารเรยี นรเู้ พ่อื สรา้ งสรรค์ knowledge about human digestive system: ด้วยปญั ญา เร่ืองวิวัฒนาการของนักเรียนชัน้ The results of the experiment.” US-China มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6. การประชุมเสนอผลงานวจิ ยั ระดบั Education Review. 6(1): 36-43. บณั ฑติ ศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช ครงั้ ท่ี 2, 1-13. นนทบรุ :ี [17] Yelva C. Larsen, et al. (2011). Evaluation of a portable and interactive augmented reality [9] ศรณั ย์ ศรลมั พ.์ (2554). กจิ กรรมการเรยี นรูว้ ชิ า learning system by teachers and students. โครงงานออกแบบและเทคโนโลยี ตามแนว Augmented Reality in Education Proceedings Constructionism สําหรบั นักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษา of the “Scince Center To Go” Workshops, 41- ปี ท่ี 4. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต 50. Athens: Ellinogermaniki Agogi. (อาชวี ศกึ ษา) สาขาวชิ าอาชวี ศกึ ษา, มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร.์ [18] ไพฑูรย์ ศรฟี ้า. (2556). [ออนไลน์]. การผลติ ส่อื การเรียนการสอนยุคใหม่สไตล์ AURASMA. [10] Azuma. (1997). [online]. A Survey of [สบื ค้นวันท่ี 6 ตุลาคม 2556], จาก http://www. Augmented Reality. [cited 6 Oct 2013]. slideshare.net/cas. Available from: URL: http://www.cs.unc.edu/~ azuma/ARpresence.pdf.