Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชายุทโธปกรณ์สาย วศ.

วิชายุทโธปกรณ์สาย วศ.

Published by RTA Chemical School, 2023-03-27 04:19:53

Description: การส่งกำลังและซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์สายวิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

โรงเรยี นวิทยาศาสตรท์ หารบก แนวสอน วิชา ยุทโธปกรณ์สาย วศ. การส่งกาลังและซอ่ มบารุงสิง่ อุปกรณ์ สายวิทยาศาสตร์ หลักสตู รนายสิบ คชรน.

โรงเรยี นวิทยาศาสตรท์ หารบก (อฉก. ๓๙๐๐) ภารกิจ อำนวยการและดำเนนิ การฝกึ และศึกษา อบรมกำลังพลของกองทัพบกและหน่วยอนื่ ๆ ที่เก่ียวข้อง ตาม นโยบายของกองทพั บก และปกครองบงั คบั บัญชาผ้เู ขา้ รบั การฝึกอบรมในโรงเรียนวิทยาศาสตรท์ หารบก ปรัชญา ผลิตทหารวิทยาศาสตรท์ ่ีมีความรู้ ความชำนาญ พร้อมเผชิญเหตุด้านเคมี ชีวะ รงั สี นิวเคลยี ร์ วิสัยทัศน์ เป็นศูนย์กลางการฝกึ อบรมดา้ นเคมี ชวี ะ รงั สี นวิ เคลียร์ ของกองทัพ พันธกิจ ๑. พฒั นาบุคลากรให้มีความพรอ้ มในการจัดการฝกึ อบรม และเพียบพร้อมดว้ ยคุณธรรมและจริยธรรม ๒. พัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพชีวติ ที่ดี มีขวญั และกำลังใจท่ีดใี นการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ ๓. พฒั นาผู้เรยี นให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะ ในการปฏิบตั กิ ารทางทหารดา้ นเคมี ชวี ะ รงั สี นวิ เคลียร์ ๔. พฒั นาทรัพยากรดา้ นการฝึกอบรม แหล่งการเรียนรู้ ให้เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอน ๕. พัฒนาระบบการบริหารการฝึกอบรมและกระบวนการเรียนการสอนให้มีคณุ ภาพตามเกณฑ์ มาตรฐาน วตั ถุประสงค์ ๑. เพอ่ื พัฒนากำลงั พลของกองทัพบกใหม้ ีความรู้ ความชำนาญ ดา้ น เคมี ชีวะ รงั สี นวิ เคลียร์ ๒. เพ่ือเปน็ คลังความรู้ดา้ น เคมี ชวี ะ รังสี นวิ เคลยี ร์ ให้แก่กองทพั ๓. เพอ่ื ใหก้ ำลงั พลของกองทัพบก มีทักษะในการใช้และปรนนบิ ตั ิบำรงุ ยทุ โธปกรณ์สายวิทยาศาสตร์ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ อัตลักษณ์ “ทหารวทิ ยาศาสตร์ผู้พทิ ักษ์กำลังรบ” ปณิธาน “มงุ่ มน่ั สร้างสรรค์ พัฒนา กำลงั พลของกองทัพให้มสี มรรถนะ พร้อมเผชิญภยั คุกคามด้าน เคมี ชวี ะ รงั สี นวิ เคลยี ร์”

คำนำ โรงเรียนวิทยาศาสตร์ทหารบก เป็นโรงเรียนหน่วยสายวิทยาการที่เป็นแหล่งรวมความรู้ทางวิทยาการ และวทิ ยาศาสตร์อนั เกี่ยวกับสงคราม เคมี ชีวะ รงั สี นวิ เคลยี ร์ (คชรน.) รวมถึงยุทโธปกรณ์และการส่งกำลังบำรุง สายวทิ ยาศาสตร์ของกองทัพบก โรงเรยี นวิทยาศาสตร์ทหารบก ได้เปดิ สอนหลักสูตรการฝกึ อบรม เพือ่ เพ่ิมพนู องค์ความรู้ให้แก่กำลังพล ของกองทัพบก ดงั น้ี หลกั สูตรนายทหาร คชรน., หลักสูตรนายสิบ คชรน., หลกั สูตรนายสิบส่งกำลังและซ่อมบำรุง สาย วศ. (ข้ันหน่วย), หลกั สตู รการตอ่ ต้านการก่อการร้ายทาง คชรน. และการบรรเทาอบุ ัตภิ ัยเคมี และ การฝึกอบรม เคลือ่ นท่ยี ุทโธปกรณ์สาย วศ. แนวสอน วิชายุทโธปกรณ์ สาย วศ. เรื่อง การส่งกำลังและซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์สายวิทยาศาสตร์ ฉบับน้ี จดั ทำข้ึนเพ่ือเปน็ เอกสารประกอบการฝึกอบรมตามหลักสูตร นายสบิ คชรน. เป็นคู่มือให้ผูเ้ ข้ารับการฝึกอบรม ได้ ใชเ้ ป็นแนวทางในการเรยี นการสอนและเปน็ เอกสารอ้างอิงในการนำไปขยายผล เมื่อสำเรจ็ การศึกษาและกลับไป ปฏบิ ัตริ าชการที่หนว่ ยต้นสงั กัด หากท่านมีความเห็นประการใดที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาแนวสอนฉบับนี้ กรุณาส่งความเห็นและ แจ้งข้อเสนอแนะไปที่ กองการศึกษา โรงเรยี นวทิ ยาศาสตรท์ หารบก กรมวทิ ยาศาสตร์ทหารบก ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ โรงเรียนวิทยาศาสตร์ทหารบก

สารบัญ หนา้ เรื่อง ๑-๔ ๕-๙ ๑. การสง่ กำลงั บำรุง ทบ. ๑๐-๒๐ ๒๑-๒๔ ตอนที่ ๑ กล่าวทว่ั ไป ๒๕-๒๗ ตอนท่ี ๒ การสง่ กำลงั บำรงุ ๒๘-๒๙ ตอนท่ี ๓ การส่งกำลงั ๓๐ ตอนท่ี ๔ การซ่อมบำรุง ๓๑-๓๔ ตอนที่ ๕ การขนส่ง ๓๕ ตอนท่ี ๖ การบริการทางการแพทย์ ๓๖-๓๘ ตอนที่ ๗ การบริการอืน่ ๆ ตอนท่ี ๘ ศัพทท์ างการสง่ กำลังบำรงุ ท่คี วรทราบ ตอนท่ี ๙ ระเบยี บ ทบ.ว่าด้วยความรับผดิ ชอบในส่งิ อุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๕๕ ที่ควรทราบ ตอนท่ี ๑๐ คำสง่ั ทบ.ที่ ๔๘๗/๒๕๔๓ ๒. การส่งกำลงั ส่ิงอุปกรณส์ ายวิทยาศาสตร์ ๓๙–๗๕ - ส่งิ อปุ กรณ์ประเภท ๒ สาย วศ. - ส่ิงอุปกรณป์ ระเภท ๔ สาย วศ. - สง่ิ อปุ กรณ์ประเภท ๕ สาย วศ. ๓. การซ่อมบำรงุ สิ่งอปุ กรณ์สายวทิ ยาศาสตร์ ๗๖–๑๗๗ - หน้ากากปอ้ งกนั เคมี – ชวี ะ - เคร่อื งดบั เพลิง - เครอ่ื งสัญญาณแจ้งภยั อตั โนมัติ M8A1

หลกั การทวั่ ไปของการส่งกำลงั บำรุง ตอนที่ ๑ กล่าวท่ัวไป ๑. การปฏบิ ัติการทางทหาร ก. การปฏิบัติทางทหาร แบ่งได้เป็นประเภทใหญ่ ๆ ๓ ประเภท คือ การรบ ( Combat ) การสนบั สนนุ การรบ ( Combat Support ) และ การสนบั สนุนการช่วยรบ ( Combat Service Support ) ข. การรบ คือ การปฏิบัติการที่เป็นการเข้าต่อสู้กับข้าศึกโดยตรง ซ่ึงจะดำเนินการ โดย ทหารราบ ทหารม้า และกำลังรบพเิ ศษ ค. การสนับสนุนการรบ คือ การปฏิบัติการที่กระทำเพ่ือเพิ่มอำนาจกำลังรบให้มากย่ิงข้ึน ซ่ึงจะ ดำเนนิ การโดย ทหารปืนใหญ่ ทหารชา่ ง ทหารสื่อสาร หนว่ ยบนิ ทหารบก และหน่วยทหารวทิ ยาศาสตร์ ง. การสนับสนุนการช่วยรบ คือ การปฏิบัติการท่ีกระทำเพ่ือให้การรบ และการสนับสนุนการรบ ดำเนินการได้โดยต่อเน่ือง เป็นระยะเวลายาวนาน การสนับสนุนการช่วยรบมีกิจกรรมหลักอยู่ ๓ กิจกรรม คือ การส่งกำลังบำรุง ( Logistics ) การกำลังพล ( Personnel ) และการกิจการพลเรือน ( Cevil affairs ) นอกเหนือจากกิจกรรมหลักดังกล่าวแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่เก่ียวข้องกับการสนับสนุนการช่วยรบอีกหลาย กิจกรรม ได้แก่ การจัดดินแดน การจัดหน่วยสนับสนุนการช่วยรบ การพิทักษ์พ้ืนที่ส่วนหลัง การติดต่อสื่อสาร สำหรบั การชว่ ยรบ การวางแผน สำหรบั การชว่ ยรบ ฯลฯ ๒. การจดั การดนิ แดน ก. การจัดรดินแดน หมายถึง การกำหนดพื้นท่ีรับผิดชอบเพ่ือปฏิบัติการทางทหาร วัตถุประสงค์ของ การจัดดินแดน ก็เพ่ือแยกดินแดนออกว่า สนับสนุนการรบ หรือสนับสนุนทางการช่วยรบ การจัดดินแดนเป็น การมอบความรับผิดชอบให้หน่วยต่างๆ ซึ่งจะต้องมีหน้าที่ทางการบงั คับบัญชา การส่งกำลังบำรงุ และการระวัง ปอ้ งกันพื้นท่รี บั ผิดชอบนั้น ข. การจัดดนิ แดนยามปกติ เป็นการแบ่งมอบความรับผิดชอบพื้นที่ให้กับหน่วยรองตามลำดับ เพื่อเป็น เครอ่ื งประกันการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพทางธุรการและส่งกำลังบำรุงในอันท่ีจะสนบั สนนุ หน่วยรบได้อย่าง เพียงพอและต่อเนื่อง ในยามปกติกระทรวงกลาโหม ได้มอบความรับผิดชอบทางดินแดนให้แก่ กองทัพบก ซ่ึง กองทพั บก ไดแ้ บง่ มอบพื้นท่ขี องประเทศให้อยู่ในความรับผิดชอบของกองทพั ภาค มณฑลทหารบก และจังหวัด ทหารบก ๑) กองทัพภาค มีหน้าที่ปกครองบังคับบัญชา มณฑลทหารบก จังหวัดทหารบก และหน่วย ทหารตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ๒) มณฑลทหารบก มีหน้าท่ีบังคับบัญชา จังหวัดทหารบก และรับผิดชอบในการรักษาความ สงบเรียบร้อย ระเบียบวินัยทหารภายนอกหน่วย การระดมสรรพกำลัง การสัสดี การศาลทหาร การเรือนจำ การเกณฑ์ช่วยราชการทหาร การอสังหาริมทรัพย์ และการสนับสนุนหน่วยทหารของกองทัพบก ที่อยู่ในพ้ืนท่ี มณฑลทหารบก ตลอดจนปฏิบัตภิ ารกจิ ทั้งปวงไดร้ ับมอบ นอกจากน้ัน ยงั มีอำนาจส่งั ราชการแกท่ หาร และ

๒ หน่วยทหารที่อยู่ในเขตพ้ืนท่ีมณฑลทหารบก ในกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบแบบธรรม เนียมทหารของกระทรวงกลาโหม ๓) จังหวดั ทหารบก มีหน้าที่เชน่ เดียวกบั มณฑลทหารบก ในเขตพ้ืนทรี่ บั ผดิ ชอบของตน ค. การจัดดินแดนยามสงคราม เป็นการแบ่งมอบความรับผิดชอบพื้นที่ระหว่างหน่วยรบ และหน่วย สนับสนนุ การชว่ ยรบ เพือ่ ปลดเปลื้องความรับผิดชอบพ้นื ท่ีสำหรับหน่วยรบให้เหลือน้อยท่ีสุด ขณะเดยี วกนั กใ็ ห้ มีพ้ืนท่ีดำเนินกลยุทธอย่างเพียงพอ และเป็นการมอบความรบั ผิดชอบในการระวังป้องกันเขตหลัง ให้กับหน่วย สนับสนุนการช่วยรบ การจัดดินแดนยามสงคราม จะประกาศใช้พร้อมกับแผนป้องกันประเทศของกองทัพบก ซ่งึ โดยทัว่ ไปแล้วจะกำหนด ดังน.้ี - ๑) เขตสงคราม หมายถึง พื้นที่ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งเกี่ยวข้องหรืออาจเกี่ยวข้อง โดยตรงในการสงคราม เขตสงครามจะเลก็ จะใหญ่ขึ้นอย่กู ับขนาดของกรณพี ิพาท ๒) ยุทธบริเวณ คือดินแดนส่วนหนึ่งของเขตสงครามที่จำเป็นต่อการปฎิบัติการรบ การสนับสนุนการรบ และการสนับสนุนทางการช่วยรบ ซึ่งแบ่งออกเป็นเขตหน้า และเขตหลัง โดยเส้นแบ่งเขต เม่ือประเทศอยูใ่ นภาวะสงคราม รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหมจะกำหนดพนื้ ทยี่ ทุ ธบรเิ วณขึ้น และจะแต่งตั้ง ผบ.ยุทธบริเวณ เพ่ือรับผิดชอบในการปฏิบัติการยุทธ และการช่วยรบของหน่วยกำลังรบทุกเหล่าทัพท่ัวยุทธ บริเวณ ๓) เขตหน้า คือพ้ืนที่ส่วนหน่ึงของยุทธบริเวณ นับตั้งแต่แนวหน้าสุดของกำลังทหารฝ่ายเราที่ เผชิญหน้าข้าศึก ลึกลงมาจนถึงเส้นเขตหลังของกองทัพน้อย หรือกองทัพภาค เป็นพ้ืนที่สำหรับหน่วยรบใช้ ดำเนินการกลยทุ ธ มีหนว่ ยสนบั สนนุ การรบ และหนว่ ยสนับสนนุ ทางการชว่ ยรบตามความจำเปน็ ในเขตหน้า จะมีพ้ืนท่ีสนับสนุนทางการช่วยรบ ๒ พ้ืนท่ี คือ พ้ืนท่ีสนับสนุนของกองพล (Division Support Area) และพ้นื ทีส่ ่วนหลงั ของกองทัพน้อย (Corps rear Area) เส้นเขตหลังของกองพล กองทัพน้อย หรือกองทัพภาค จะกำหนดข้ึนให้ไกลไปข้างหน้า ให้ มากทสี่ ุดเท่าท่ีจะทำได้ เพื่อเป็นการลดความรับผดิ ชอบเรื่องดินแดนของผู้บังคับบญั ชาลง ให้เหลอื น้อยท่ีสุด แต่ ในขณะเดียวกนั จะตอ้ งมพี ื้นท่ีดำเนินกลยทุ ธอย่างเพยี งพอ ๔) เขตหลัง คือพืน้ ทีย่ ทุ ธบริเวณท่ีเหลอื ท้ังหมดนับจากเสน้ เขตหลงั ของเขตหน้ามาจนถึงเส้น เขตหลงั ของเขตหลัง หรอื ของยทุ ธบริเวณ ประกอบด้วยเส้นทางคมนาคมที่ตงั้ ทางการสง่ กำลังบำรงุ กำลงั กองหนุน และสิ่งอำนวยความสะดวก เพ่ือให้การสนับสนุนหน่วยในเขตหน้า บก.ยธบ.จะถูกจัดตั้งข้ึน เพ่ือ ควบคมุ ทางดา้ นยุทธการ ต่อหน่วยทกุ หน่วยในยุทธบริเวณ ๕) เส้นเขตหลัง คือ เส้นที่แบ่งความรับผิดชอบพ้ืนที่ระหว่างส่วนกำลังรบกับส่วนสนับสนุน ทางการชว่ ยรบ ก) หน่วยเหนอื เปน็ ผู้กำหนดหรืออนมุ ตั ิเสน้ เขตหลังของหน่วยรอง (๑) ผบ.ยทุ ธบริเวณ จะเป็นผกู้ ำหนดเสน้ เขตหลงั ของหน่วยรอง (๒) มทภ.หรอื มทน. จะเป็นผู้กำหนดเส้นเขตหลังของกองพล (๓) ผบ.พล. จะเป็นผูก้ ำหนดเสน้ เขตหลงั ของกรม หรือกองพลน้อยหรอื กรมผสม

๓ ข) เส้นเขตหลัง เป็นเครอ่ื งกำหนดความลึกของพ้ืนที่ท่ีจะมอบให้หน่วยใดหน่วยหนึ่งรับผิดชอบ ในการบรหิ ารดนิ แดนนั้นๆ ค) ที่ต้ังทางการส่งกำลังบำรุงของหน่วยอื่น โดยเฉพาะหน่วยเหนืออาจเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของ หน่วยที่ได้รบั มอบความรบั ผิดชอบในดินแดนนน้ั กไ็ ด้ ง) ข้อพิจารณาในการกำหนดเส้นเขตหลงั (๑) กำหนดแล้วจะต้องมีพ้ืนที่เพียงพอแก่การดำเนินกลยุทธ และการจัดตั้งทางการ ชว่ ยรบต่างๆ (๒) กำหนด ณ แนวภูมิประเทศท่ีสามารถพิสูจน์ทราบได้ง่าย เช่นแม่น้ำลำคลอง ถนน ทางรถไฟ ฯลฯ (๓) กำหนดให้สมั พันธ์กบั ขา่ ยคมนาคมที่มีอยู่ เพื่อประโยชน์ในการเคลือ่ นยา้ ย (๔) เมื่อรุกคืบหน้าไป ควรพิจารณาเส้นเขตหลังใหม่โดยเล่ือนไปข้างหน้าเพ่ือปลด เปล้ืองหนว่ ยให้พ้นจากความรบั ผิดชอบต่อดนิ แดนที่ไม่ต้องการ หรือเกนิ ขีดความสามารถในการบริหาร (๕) การกำหนดใหม่หรือการเคลื่อนย้ายเส้นเขตหลังไปข้างหน้า จะต้องวางแผนไว้ ลว่ งหนา้ และจะต้องจัดให้มีการลาดตระเวนร่วมกนั กอ่ นท่ีจะโอนความรับผิดชอบ ๖) เขตภายใน คือ พื้นท่ีที่อยู่นอกเขตสงคราม ไม่กระทบกระเทือนจากการรบ เป็นแหล่ง ทรัพยากร โรงงาน และแหล่งผลิตสำหรับเป็นฐานส่งกำลังบำรุง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติในยุทธบริเวณ อย่าง ตอ่ เนือ่ ง ประสิทธิภาพอาวุธสมัยใหม่ ทำให้ไม่มีพ้ืนที่เรียกเป็นเขตภายใน คงมีแต่ลักษณะงานของเขต ภายใน ซึ่งได้แกพ่ ้นื ทเี่ ปน็ แหล่งทรัพยากร โรงงานอุตสาหกรรมและแหล่งผลิตต่างๆ แม้ว่าในบางคร้งั จะไม่สามารถแยกพ้ืนทเ่ี ขตภายในออกจากพื้นทยี่ ุทธบริเวณได้กต็ าม แต่งานส่ง กำลังบำรุงจำเป็นต้องแยกออกจากกัน เนื่องจากลักษณะงาน และขอบเขตแตกต่างกัน ไม่ว่าจะต้ังเขตภายใน ข้ึนหรือไม่ก็ตาม กรมฝ่ายยุทธบริการ จะต้องมีการเตรียมการให้สามารถเป็นฐานส่งกำลังบำรุงของ ทบ. และ สามารถสนบั สนุนปฏิบตั ิภารกจิ ของทบ.ไดอ้ ย่างต่อเน่ือง งานส่งกำลังบำรุงของเขตภายในจะมีความสำคญั อย่าง ทสี่ ดุ ต่อการสนับสนุนหนว่ ยในยุทธบริเวณ หรอื ต่อความสำเร็จภารกิจของ ๓. การจัดหนว่ ยสนับสนุนทางการชว่ ยรบ เหล่าทหารในกองทัพบก อาจแยกเปน็ พวกได๒้ พวก คอื ก. เหล่าพลรบ หมายถึง เหล่าที่ทำการรบโดยตรง ได้แก่ ทหารราบ ทหารม้า และเหล่าสนับสนุน การรบ เชน่ ทหารปนื ใหญ่ ทหารช่าง เป็นต้น ข. เหล่าบริการ หมายถึง เหล่าท่ีมีหน้าท่ีทางการช่วยรบ แบ่งออกเป็น ยุทธบริการ (Technical Services ) และบริการอื่นๆ(Other Service) ๑) สายยุทธบริการ เป็นหน่วยหลักที่รับผิดชอบการปฏิบัติงานส่งกำลังบำรุงสำหรับ ทบ.ไทย ตาม พ.ร.ก. การแบ่งส่วนราชการของ ทบ.ปี ๒๕๑๓ แบ่งกรมฝ่ายยุทธบริการออกเป็น ๙ สายงาน คือ พธ.ทบ. ,พบ.,ขส.ทบ.,สพ.ทบ.,กช.,ยย.ทบ.,สส.,กส.ทบ.,และ วศ.ทบ.

๔ ๒) บริการอ่ืนๆ รับผิดชอบในการบริการท่ีเก่ียวกับการช่วยรบ ทั้งน้ีเพราะกองร้อยเป็นหน่วยท่ีความ สมบูรณ์ในตัวเอง มีขีดความสามารถทางธุรการ และทางการส่งกำลังบำรุงประจำหน่วย ตามความจำเป็น กองร้อยเหล่านี้สามารถสามารถจัดส่วนต่างๆไปสนับสนุนหน่วยต่างๆได้ในห้วงเวลาอันส้ัน หน่วยแยกและชุด ปฏิบัติการต่างๆมีขีดความสามารถพิเศษตามต้องการ และรับการสนับสนุนประจำหน่วยตามความจำเป็นจาก หน่วยเหนือ ซึ่งหน่วยตนไปบรรจุหรือข้ึนไปสมทบ หน่วยต่างๆจะจัดตามงานในหน้าที่ใหม้ ากทีส่ ุด ไมว่ ่าจะอยใู่ น เขตหน้าหรือเขตหลังก็ตาม หน่วยกองบังคับการทำหน้าท่ีเป็นส่วนบังคับบัญชา และควบคุมหน่วยที่บรรจุมอบ และหน่วยสมทบต่างๆ ซึ่งได้กำหนดขึ้นตามจำนวนท่ีต้องการ และตามขีดความสามารถ อันจำเป็นเพื่อสนอง สถานการณท์ างการยทุ ธใหไ้ ดด้ ีทสี่ ุด ๔. การพทิ กั ษพ์ นื้ ที่ส่วนหลงั (Rear Area Protection:RAP.) ก. พื้นที่ส่วนหลัง หมายถึง พ้ืนที่ทางภูมิศาสตร์ภายในพื้นที่บังคับบัญชา ซึ่งหน้าท่ีสนับสนุนทางการ ชว่ ยรบส่วนมากกระทำในพ้นื ทนี่ ี้ ข. การพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง คือมาตรการท้ังปวงท่ีนำมาใช้ในการป้องกันพื้นที่ส่วนหลังให้ปลอดภัย หรือได้รับความเสียหายน้อยท่ีสุดจากการถูกโจมตี การก่อวินาศกรรม การแทรกซึมและการปฏิบัติของกำลัง กองโจร มาตรการเหลา่ นีจ้ ะตอ้ งดำเนินไปตลอดเวลา ท้ังก่อน ระหวา่ ง และหลังจากการปฏบิ ัตขิ องข้าศึก มีงาน หลักจะตอ้ งกระทำ ๒ งาน คอื การป้องกันระวังพื้นทสี่ ่วนหลงั (Rear Area Security:RAS.) ได้แก่มาตรการต่างๆที่จัดทำข้ึนเพื่อที่จะป้องกันหรือขัดขวางการคุกคามของข้าศึกที่มีต่อหน่วยทหาร ,ต่อการปฏิบัติงาน และต่อสถานที่ต้ังต่างๆ ในพื้นที่ส่วนหลัง เว้นการป้องกันภัยทางอากาศเชิงรุก หรือการ ปฏิบัติการเพื่อป้องกันอันตรายจากการคุกคามของข้าศึกท่ีมีขนาดใหญ่ พอที่จะเป็นอันตรายต่อหน่วยได้ การตี ฝา่ ขนาดใหญ่หรือการโอบทางด่ิงของขา้ ศกึ ที่มขี นาดใหญ่พอท่ถี ือวา่ เปน็ ส่วนหนึ่งของการรบหลัก อันจำเปน็ ต้อง ใชก้ องหนนุ หรอื หน่วยรบจากพืน้ ทีข่ ้างหน้า งานน้ีเปน็ ความรบั ผิดชอบของ หน.สธ.๓ ของหนว่ ย การควบคมุ ความเสียหายในพน้ื ทส่ี ว่ นหลงั ( Area Damage Control) คือมาตรการท้ังปวงที่นำมาใช้ป้องกันและควบคุมความเสียหายในพื้นท่ีส่วนหลัง ท้ังที่เกิดจากการ กระทำของข้าศึกและจากภัยธรรมชาติ มิให้ขยายหรือลุกลามขึ้นเป็นอุปสรรคแก่การปฏิบัติตามภารกิจ มาตรการเหล่านี้จะต้องดำเนินไปตลอดเวลา ท้ังก่อน ระหว่าง และหลังจากเกิดความเสียหาย เป็นความ รับผดิ ชอบของ หน.สธ.๔

๕ ตอนที่ ๒ การสง่ กำลังบำรงุ ๒. การสง่ กำลงั บำรุง ( Logistics ) ๑. กลา่ วทวั่ ไป คำว่า“Logistic” มีรากศัพท์เดิมมาจากภาษากรีก หมายถึงศิลปะการคำนวณที่แยกมา ต่างหากจากวิชาคณิตศาสตร์ ซ่ึงชาวกรีกใช้ในทฤษฏีเก่ียวกับจำนวนเลข ในวิชาทหารน้ัน คำๆนี้จะใช้เพ่ือ กำหนดหน้าที่ของฝ่ายเสนาธิการท่ีเก่ียวข้องกับการเคล่ือนย้ายหน่วยทหาร การพักแรม และการส่งเสบียง อาหาร ทบ. สหรัฐได้นำคำนี้มาใช้ตั้งแต่ปี ๑๙๔๔ และได้มีวิวัฒนาการเกี่ยวกับความหมายของคำๆนี้เร่ือยมา จนถงึ ปจั จุบัน ก. ความหมายของการส่งกำลังบำรุง (“การส่งกำลังบำรุง” คือ เรื่องเศรษฐกิจของวงการทหาร) การ ส่งบำรุงเป็นงานสาขาหนึ่งของการช่วยรบ ซึ่งจะประกอบไปด้วยการวางแผน และการปฏิบัติการสนับสนุน หนว่ ยเก่ียวกบั งานการช่วยรบ รวมท้งั กจิ กรรมท้ังปวงทน่ี อกเหนือไปจากการยทุ ธ อนั ได้แก่ ๑) การกำหนดนโยบาย การวางแผน การวิจัยและพัฒนาการ การทำงบประมาณใน การสง่ กำลงั บำรุง ๒) การออกแบบและการพัฒนา การจัดหา การเก็บรักษา การแจกจ่าย การ เคลื่อนย้าย การซอ่ มบำรุง การสง่ กลับและการจำหน่ายยทุ โธปกรณ์ ๓) การสง่ กลับ และการรกั ษาพยาบาลกำลังพล ๔) การจัดหาหรือการก่อสร้าง การซ่อมแซม การดำเนินงานและการจัดต้ังส่งิ อำนวย ความสะดวกต่างๆ ๕) การจดั หาหรอื จดั ใหม้ บี รกิ ารต่างๆ ข. วตั ถุประสงคข์ องการส่งกำลังบำรงุ ความมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์น้ันมีเพียงการสนับสนุนทุกวิถีทาง เพื่อให้หน่วยรบสามารถทำ การรบได้ชัยชนะในท่ีสุด หรืออาจกล่าวอีกนัยหน่ึง ก็คือ การจัดส่ิงอุปกรณ์และการบริการอย่างเพียงพอและ ทนั เวลาให้ตรงกับความตอ้ งการของหน่วยตามท่ีร้องขอ ค. ปจั จัยทีส่ ำคญั ในการส่งกำลังบำรุง การทจ่ี ะทำใหบ้ รรลุวัตถุประสงค์ดงั กลา่ ว จะต้องมกี ารจัดงานส่งกำลงั บำรุงท่ดี ี ปจั จัยสำคัญที่จะทำให้การสง่ กำลงั บำรงุ เปน็ ไปด้วยดีประกอบด้วย ๔ M คอื ๑. คน (Man) ๒. เงนิ (Maney) ๓. สิ่งอปุ กรณ์ (Meterial and Supplies) ๔. ระบบทเ่ี หมาะสม (Management)

๖ ง. ขอบเขตของงานสง่ กำลังบำรุง จากวัตถปุ ระสงค์ของการสง่ กำลังบำรงุ ดังกลา่ วแลว้ จะพอสรปุ ให้เห็นงานสง่ กำลงั บำรงุ ได้ดงั น้ี.- ๑. การส่งกำลงั ( Supply ) ๒. การซอ่ มบำรงุ ( Maintenance ) ๓. การขนส่ง ( Transportation ) ๔. การบริการทางการแพทย์ ( Health Service Support ) ๕. การบริการอืน่ ๆ ( Other Service ) -การก่อสรา้ งและซ่อมแซมในสนาม -การกอ่ สร้างและซอ่ มแซมในทตี่ ั้งปกติ -การอสังหาริมทรัพย์ -การสาธารณูปโภค -การดับเพลงิ -การท่พี ัก -การประปา -การปอ้ งกัน นชค. -การทำลายล้างวัตถรุ ะเบดิ -การพราง ๒. การกำหนดภารกิจ นโยบาย แนวความคดิ และความรบั ผดิ ชอบในการสง่ กำลังบำรงุ ของกองทัพบก ยึดถอื ปฏบิ ตั ิตามคำสัง่ กองทพั บก ที่ ๔๘๗/๒๕๔๓ ลง ๓ ต.ค.๒๕๔๓ ๓. ระบบการสง่ กำลงั บำรุงของ ทบ.ไทย ก. หลกั การจัดตัง้ ระบบสง่ กำลังบำรงุ ในยทุ ธบริเวณ (ไมป่ กติ) ๑) กำหนดระดับสะสม สป.ไว้ให้นอ้ ยทีส่ ุด (แต่ตอ้ งเพยี งพอ) ๒) ใชก้ ารขนย้ายทางอากาศให้นอ้ ยที่สดุ (คา่ ใช้จา่ ยสูง) ๓) จดั ให้มีการควบคมุ การดำเนินงานอยา่ งเขม้ งวด (เพอื่ ไม่ให้ขาดแคลน) ๔) ให้มีการยกขนหรอื เคลอ่ื นยา้ ย สป.ใหน้ อ้ ยครั้งทสี่ ดุ (สป.อาจชำรดุ ) ๕) ให้มีทต่ี ัง้ ทำการส่งกำลงั บำรุงน้อยท่สี ุด ๖) กระจายที่ตั้ง และหน่วยส่งกำลังบำรุง ออกไปให้มากท่ีสุด เท่าที่จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการ ควบคมุ และการระวังปอ้ งกนั ๗) ใช้สงิ่ อำนวยความสะดวก สิ่งอปุ กรณ์ และสาธารณูปโภคทม่ี อี ยใู่ นพื้นทีป่ ฏบิ ัติการ ตลอดจน ยทุ โธปกรณท์ ี่ยดึ ได้ กำลังพล พลเรือน และเฉลยศกึ ให้มากท่สี ุด ๘) ประหยดั ทรพั ยากรให้มากทีส่ ุด ๙) ให้มีเสน้ ทางสำรองตา่ งๆใหม้ ากทส่ี ุด ๑๐) ใชช้ ุดซอ่ มบำรุงเคล่อื นทีใ่ หม้ ากทีส่ ุด

๗ ข. การสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงในการรบ การรบในปัจจุบัน สถานการณ์จะเปล่ียนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เนื่องจากหน่วยปฏิบัติมี ความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ีสูงข้ึน รวมท้ังอาวุธสนับสนุนต่างๆ ก็มีประสิทธิภาพสูงข้ึนด้วย ดังนั้น การ สนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุง ในแต่ละภารกิจทางยุทธวิธีจำเป็นต้องใช้วิธีการต่างๆอย่างใดอย่างหน่ึง หรือ หลายอย่างรวมกนั ดังน้.ี - ๑.) ใช้เครื่องมือขนส่งแบบรวมการให้มากที่สุด เช่น รวมเครื่องมือขนส่งในเขตหน้าและเขตหลังเข้า ด้วยกัน เพือ่ สนับสนนุ การเคล่อื นย้ายภารกิจใดภารกจิ หนงึ่ ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพสูงสดุ ๒.) ลดการแบ่งมอบ สป. ของบางหน่วยลง เพื่อเตรียมระดับสะสมไว้สนับสนุนหน่วยที่ติดพันภารกิจ สำคญั เพ่อื ประกันความเพียงพอและต่อเน่ือง ๓) โยกย้ายหน่วยส่งกำลังบำรงุ จากด้านท่สี ำคัญนอ้ ยกว่าไปสนบั สนุนดา้ นที่สำคัญ และเรง่ ดว่ นสูงกวา่ ๔) จัดวาง สป.ไว้ ณ ตำบลทเี่ หมาะสมต่อการสนบั สนุนของหน่วยแยก หรอื หน่วยทกี่ ำลงั ถอนตัว ๕) การจดั ระเบียบและควบคุมการเคลื่อนย้าย สป.และหนว่ ย ทหาร เพื่อการข้ามเครอ่ื งกีดขวาง หรือ ช่องทางบังคบั ที่สำคัญ ๖) เพิม่ ระดบั การระวงั ปอ้ งกนั ทีต่ งั้ ทางการสง่ กำลงั บำรุง และเส้นทางคมนาคมต่างๆ ๗) จัดทำ สป.ให้มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ เช่น แยกประเภทบรรจุหีบห่อกองไว้เป็นสัดส่วน หรอื บรรทุกไว้ เพื่อใหส้ ามารถสนบั สนุนหรือเคล่ือนย้ายไปโดยไม่ชกั ช้า ๘) นำ สป.เชน่ ยานพาหนะจากหนว่ ยที่หมดประสิทธิภาพในการรบแล้วมาไวใ้ นสายงานส่งกำลังบำรุง เพอ่ื ใช้ในการแจกจ่ายหรือทดแทนให้หน่วยอ่ืน รวมทั้งนำ สป.ทไ่ี ดก้ ารชำระล้างพิษจากการรบมาแล้ว ไวใ้ นสาย งานการสง่ กำลงั บำรุง เพ่อื แจกจา่ ยตอ่ ไป ๙) จัดหา สป.ในทอ้ งถน่ิ ใหม้ ากทส่ี ุดเท่าทจี่ ะสามารถทำได้ ๑๐) กำหนดความเร่งด่วนในการสนับสนนุ ทางด้านการขนส่ง ค.การจัดหนว่ ยส่งกำลงั บำรุงในระดบั กองทัพบก หน่วยท่ีเกี่ยวข้องกับการส่งกำลังบำรุงในระดับกองทัพบก ได้แก่ กรมฝ่ายเสนาธิการ กรมฝ่าย ยทุ ธบริการ และกรมฝ่ายกจิ การพิเศษบางหนว่ ย ๑) กรมฝา่ ยเสนาธิการ ก) กรมสง่ กำลงั บำรงุ ทหารบก มหี นา้ ท่ี (๑) วางแผน อำนวยการ กำหนดนโยบาย โครงการและงบประมาณที่ เกยี่ วข้องกบั การส่งกำลงั บำรงุ (๒) กำหนดนโยบาย ประสานงาน และกำกับการเกี่ยวกับความ ตอ้ งการ การจัดหาสง่ิ อุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ (๓) ควบคุม และกำกับการเกี่ยวกับการเก็บรักษา การแจกจ่าย จำหน่าย การรักษาพยาบาล การส่งกลบั การขนส่ง และบริการทางการส่งกำลงั บำรงุ (๔) จดั การเก่ยี วกับอสงั หารมิ ทรัพย์

๘ (๕) ประสานงาน ควบคุม และกำกับดูแลฝ่ายยุทธบริการในการ กำหนดภารกิจ การจัดระเบียบปฏิบัติ การดำเนินการกำลังพลการฝึกศึกษาวิชาการส่งกำลังบำรุง การงบประมาณ การวจิ ัยและพฒั นาการ รวมทั้งกำหนดนโยบายเกี่ยวกับธรุ การและอุตสาหกรรมที่เกย่ี วข้อง ข) กรมข่าวทหารบก เกีย่ วข้องในการส่งกำลังบำรุงในเร่อื งการกำหนดความตอ้ งการ และควบคุมการแจกจ่ายแผนทท่ี หาร และภาพถา่ ยทางอากาศ ๒) กรมฝ่ายกจิ การพเิ ศษ ได้แก่ สบ.ทบ.,สก.ทบ.,ยศ.ทบ. และ นรด. ๓) กรมฝ่ายยุทธบริการ กรมฝ่ายยุทธบริการของกองทัพบก มี ๙ สาย คือ กรมสรรพวุธทหารบก,กรม วิทยาศาสตร์ทหารบก,กรมการทหารส่ือสาร,กรมแพทย์ทหารบก,กรมพลาธิการทหารบก,กรมการทหารช่าง, กรมยทุ โยธาทหารบก,กรมการขนส่งทหารบก,กรมการสตั วท์ หารบก กรมฝ่ายยุทธบริการทั้ง ๙ สาย มีหน้าท่ี วางแผน อำนวยการ ประสานงาน แนะนำ กำกับการ ดำเนินการ วิจัยและพัฒนาเก่ียวกับการผลิต จัดหา ส่งกำลัง ซ่อมบำรุงและบริการเกี่ยวกับกิจการและส่ิง อุปกรณใ์ นความรบั ผดิ ชอบของตน ง) การจดั หน่วยส่งกำลงั บำรุงในระดับกองทพั บกในยามสงคราม ๑) เมื่อได้มีการจัดตั้งยุทธบริเวณ กำหนดเขตหน้าและเขตหลังขึ้น กองทัพบกจะ จัดตั้งกองบัญชาการกองทัพบกสนาม (ทบ.สนาม) เพื่อควบคุมบัญชากำลังกองทัพบกทั้งสิ้นที่ปฏิบัติการ อยู่ใน ยทุ ธบริเวณโดยมีแมท่ พั กองทัพบกสนามเปน็ ผ้บู ญั ชาขนึ้ ตรงต่อผบู้ ัญชาการยุทธบริเวณ ๒) กองบญั ชาการกองทพั บกสนาม ประกอบด้วยส่วนสำคัญๆ ดงั น้ี.- ก) กองบญั ชาการ ข) กองทัพบก (กองทพั นอ้ ย) ค) กองบัญชาการส่งกำลงั บำรงุ กองทพั บก (บช.กบ.ทบ.) ง) หนว่ ยทหารอน่ื ๆตามความจำเปน็ ๓) กองบัญชาการสง่ กำลังบำรงุ กองทพั บก (บช.กบ.ทบ.) รบั ผดิ ชอบใน การสนับสนนุ ทางการสง่ กำลงั บำรุงใหแ้ ก่หนว่ ยทหารของกองทัพบกท้ังสิน้ ที่อยู่ในยทุ ธบริเวณ จ. การจัดหน่วยส่งกำลังบำรงุ ในระดบั กองทพั ภาค หน่วยที่เกย่ี วข้องกับการส่งกำลังบำรงุ ในระดบั กองทัพภาคได้แก่ กองบัญชาการช่วยรบ มณฑล ทหารบก และจงั หวัดทหารบก ๑)กองบญั ชาการช่วยรบ ทำหน้าท่ีสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงแกห่ น่วยในอตั ราของกองทัพ ภาค รวมทั้งหน่วยทีบ่ รรจมุ อบหรือขึน้ สมทบและหนว่ ยอืน่ ๆตามที่ ทบ.กำหนด ๒)มณฑลทหารบกและจังหวัดทหารบก รับผิดชอบในการสนับสนุนทางการส่งกำลังให้แก่ ตนเองและแก่หน่วยทหารในพื้นที่รับผิดชอบ ในเร่ืองการเคล่ือนย้าย การขนส่งส่ิงอุปกรณ์ การดำเนินการ เกี่ยวกับที่ดิน การก่อสร้าง การซ่อมแซม ตกแต่งอาคารสถานที่ การติดตั้งแลซ่อมแซม สิ่งอำนวยความสะดวก การรกั ษาพยาบาลและการส่งกลบั และเป็นตำบลสง่ กำลงั ของกองบญั ชาการชว่ ยรบ

๙ ฉ.การจดั หนว่ ยส่งกำลังบำรุงในระดบั กองพล ในระดับกองพล จะมกี ารจดั หน่วยสนบั สนุนทางการส่งกำลงั บำรุงเป็น ๒ แบบ คอื ๑)แบบสายยุทธบริการ กองพลมาตรฐาน หรือกองพลทว่ั ๆไป จะมีการจัดในลักษณะน้ี คอื มี หน่วยของสายยุทธบริการ ๕ สาย ได้แก่ กอง สพบ.,กอง พธ.,พัน ส.,พัน ช. และ พัน สร. ทำหน้าที่ให้การ สนับสนนุ การสง่ กำลังบำรงุ สง่ิ อปุ กรณ์ทีอ่ ยู่ในความรบั ผดิ ชอบของตน ๒) แบบกรมสนับสนนุ กองพลทหารราบเบา (พล.ร.๙) จะมีกรมสนบั สนนุ เป็นหน่วย สนับสนุน ทางการส่งกำลังบำรงุ การจดั หนว่ ยของกรม สน.จะจัดตามลักษณะงาน ช.การจดั หน่วยสง่ กำลังบำรุงในหน่วยระดับต่ำกวา่ กองพลลงมา ในระดับต่ำกว่ากองพลลงมา จะไม่มีการจัดหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงแยกให้เห็น เด่นชัด หน่วยและเจ้าหน้าที่ ท่ีปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงจะปะปนอยู่กับหน่วยกำลังรบ เช่น มว.สื่อสาร หมูก่ ระสุน หมู่เสนารักษ์ นายทหารสง่ กำลงั นายสิบสทู กรรม เปน็ ต้น ...................................................................................................................

๑๐ ตอนที่ ๓ การสง่ กำลงั ๑. กล่าวทั่วไป ก. การส่งกำลัง หมายถึง การปฏิบัติการในเรื่องความต้องการ การจัดหา การแจกจ่าย และการ จำหน่ายสง่ิ อปุ กรณ์ รวมทงั้ การควบคมุ การปฏบิ ัตติ ามขัน้ ตอนดงั กล่าว ข. วงรอบการส่งกำลัง หมายถึงการปฏิบัติต่อส่ิงอุปกรณ์ตามลำดับข้ันตอน คือ การกำหนดความ ต้องการ,การจดั หา,การแจกจ่าย,การซ่อมบำรุงและการจำหน่าย ซ่ึงดำเนนิ งานทกุ ขนั้ ตอนตามวงรอบ ท้ัง ๕งาน นี้ จะตอ้ งมกี ารควบคุมทกุ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิ ความตอ้ งการ การจาหน่าย การควบคุม การจดั หา การซ่อมบารุง การแจกจา่ ย ๒. ความตอ้ งการ ก. ความต้องการ หมายถึง การกำหนดหรือการเสนอ หรือคำขอในเร่ืองส่ิงอุปกรณ์ตามจำนวนและใน เวลาที่บ่งไว้ หรือตามระยะเวลาท่ีกำหนดไว้ ซึ่งความต้องการน้ีแบ่งได้เป็น ๔ ประเภท คือ ความต้องการ ขัน้ ต้น ความตอ้ งการทดแทน ความตอ้ งการเพือ่ รกั ษาระดบั ส่งกำลังและความต้องการตามโครงการ ข. ความต้องการขั้นต้น ได้แก่ ความต้องการสิ่งอุปกรณ์ท่ีทหารหรือหน่วยต้องการมีไว้เพื่อปฏิบัติ ภารกิจของตน ซึ่งสิง่ อุปกรณน์ ้ันยงั ไม่เคยได้รบั มาก่อน และเป็นความตอ้ งการส่งิ อุปกรณ์ในกรณดี งั ต่อไปนี้.- ๑. การรับทหารเขา้ ประจำการใหม่ ๒. การจดั ตงั้ หนว่ ยใหม่ ๓. การกำหนดมาตรฐานส่ิงอุปกรณ์ใหม่ ๔. การเพม่ิ จำนวนและรายการเนอื่ งจากการแกอ้ ัตรา ๕. รายการท่ไี ด้รับอนุมตั ิใหจ้ ่ายคร้งั แรกแกห่ น่วยท่ียงั ไม่ได้รบั อนมุ ัติอตั รา ๖. รายการที่ได้รบั อนมุ ตั ิให้จ่ายครั้งแรก ซึ่งเกนิ จำนวนจากอัตรา ๗. การอนุมัติให้จ่ายสิ่งอุปกรณ์ใหม่ เพื่อทดแทนสิ่งอุปกรณ์เดิมที่ยังใช้ราชการได้ ซงึ่ ได้รับคืนจากหนว่ ยทหาร ๘. การจา่ ยคร้งั แรกให้แก่หนว่ ยนอกกองทัพบก

๑๑ ค. ความต้องการทดแทน ได้แก่ ความต้องการเพ่ือทดแทนสิ่งอุปกรณ์ท่ีหน่วยใช้เคยได้รับมาแล้ว และ เปน็ ความต้องการสงิ่ อปุ กรณ์ในกรณีดงั ต่อไปนี้.- ๑. เพื่อทดแทน สป.ที่หมดเปลืองไปหรือชำรุด เนื่องจากการใช้ และรวมทั้ง ทดแทนชิ้นสว่ นซ่อมทช่ี ำรุดดว้ ย ๒. เพ่ือทดแทน สป.ท่ีถกู ละทง้ิ ทำลาย ขา้ ศึกให้เสียหาย โจรกรรม หรือเสยี หาย โดยเหตอุ ่นื ๆ ๓. เพอื่ ทดแทน สป.ที่มอี ย่ใู นระหว่างการซอ่ มบำรุง โดยใช้ สป. สำรองเพ่อื การ ซอ่ มบำรุง ง. ความต้องการเพอื่ รักษาระดับส่งกำลงั ได้แก่ ความต้องการ สป.ที่หนว่ ยส่งกำลังตอ้ งการเพมิ่ เติมให้ เตม็ ระดบั ส่งกำลัง คือ ๑. ระดบั ปฏบิ ัตกิ ารหรอื วงรอบการจัดหา ๒. ระดบั ปลอดภัย ๓. เวลาในการเบิกและจัดส่งหรือเวลาลว่ งหนา้ ในการจัดหา จ. ความต้องการตามโครงการ หมายถึง ความตอ้ งการ สป.ทนี่ อกเหนือไปจากความต้องการตามปกติ เพ่อื สนับสนนุ โครงการ หรือการปฏิบตั ิการพเิ ศษตามแผน และวตั ถุประสงค์ของ ทบ. เช่น สป.๔ โครงการจดั ต้ัง หนว่ ย และโครงการระดมสรรพกำลงั เป็นต้น ฉ. การเสนอความต้องการ ๑. สป.ตามอัตรา ตามระดบั ส่งกำลังหรือตามโครงการท่ีได้รับอนุมัติแล้ว กรมฝ่ายยุทธบริการ หรอื กรมฝ่ายกจิ การพเิ ศษท่รี บั ผดิ ชอบเป็นผรู้ วบรวมความตอ้ งการเสนอไปยงั กบ.ทบ.ตามที่ ทบ.กำหนด ๒. สป.นอกเหนือจากท่ีกล่าวในข้อ ๑ หน่วยใช้เสนอความต้องการไปตามสายการส่งกำลัง จนถึงกรมฝ่ายยุทธบริการหรือฝ่ายกิจการพิเศษรวบรวมความต้องการแล้วเสนอไปยัง กบ.ทบ.ตามท่ี ทบ. กำหนด ๓. การจดั หา ก. การจดั หาคือ กรรมวิธีให้ได้มาซึง่ ส่ิงอุปกรณแ์ ละบริการต่าง ๆ ในลกั ษณะท่ีถกู ต้องตามกฏหมาย ข. งานของการจัดหา ในการดำเนินกรรมวิธีเพื่อให้ได้มา ซ่ึงสิ่งอุปกรณ์และบริการ มีงานท่ีเกี่ยวข้อง ดงั นี้.- ๑) การกำหนดแบบสง่ิ อปุ กรณ์ ๒) การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะสงิ่ อุปกรณ์ ๓) การกำหนดมาตรฐานส่ิงอุปกรณ์ ๕) การกำหนดแบบสญั ญา ๖) การทำสัญญา ๗) เงอ่ื นไขเกีย่ วกับการสงวนสิทธ์ติ า่ งๆ ๘) การปฏิบตั ิตามสัญญา

๑๒ ๙) การแกไ้ ขสญั ญา ๑๐) การตรวจรับสง่ิ อุปกรณ์ ๑๑) ข้อปฏบิ ตั เิ ก่ียวกับการเงิน ๑๒) ข้อกำหนดอื่นๆที่เก่ยี วขอ้ งกับการจัดหา ค.แหลง่ ทรัพยากรในการจัดหา ได้แก่ ๑) ภายในยทุ ธบรเิ วณ ๒) เขตภายใน ๓) จากยุทธบริเวณอ่ืน ๔) ประเทศพนั ธมิตร ทางได้มาซึ่งส่ิงอุปกรณ์และบริการภายในยุทธบริเวณจะสามารถกระทำได้โดยการจัดหาใน ท้องถิ่น การซอ่ มคนื สภาพ/การเก็บซอ่ ม และจากยุทโธปกรณ์ที่ยึดได้ ง. ทางได้มาซง่ึ ส่งิ อปุ กรณ์และการบรกิ ารของ ทบ.ไทย ๑) การจดั หาตามระเบยี บสำนักนายกรฐั มนตรี ว่าด้วย การพสั ดุ พ.ศ.๒๕๓๕ ก) การซื้อหรือจ้าง กระทำได้ ๕ วิธี คือ วิธีตกลงราคา วิธีสอบราคา วิธีประกวด ราคา วิธพี เิ ศษ วธิ กี รณพี ิเศษ ข) การแลกเปล่ียน ค) การเชา่ ง)การจดั ทำเอง ๒) การเกณฑ์ โดยปฏิบตั ติ าม พรบ.การเกณฑ์ชว่ ยราชการทหาร พ.ศ.๒๕๓๐ ๓) การยดึ ตาม พ.ร.บ.กฎอยั การศึก พ.ศ.๒๔๗๕ ๔) การบรจิ าค ๕) การรบั ความชว่ ยเหลอื จากตา่ งประเทศ ๖) การจา้ งและซื้อสำหรบั งานวิจยั และพฒั นา และผลิตอาวุธ โดยวธิ กี รณพี เิ ศษ ๗) การจัดซอื้ ด้วยงบเงินกู้ ๘) การจัดซอ้ื ด้วยระบบ FMS ๙) การจดั ซ้ือจากตา่ งประเทศในระบบรฐั ตอ่ รัฐ ๑๐) การเบกิ การยมื และการโอน ๔. การแจกจา่ ย ก. การแจกจ่าย หมายถงึ การรบั การเก็บรกั ษา การจา่ ย และการขนสง่ สป. หรือการแจกจ่าย คอื การ ดำเนนิ กรรมวิธีต่อ สป.ท่ไี ดร้ ับจากการจดั หา จนกระท่ัง สป.นน้ั ถึงมือผู้ใช้ หรือหน่วยใช้ ข. ขอ้ มูลฐานของการแจกจ่าย ๑) ระบบการแจกจา่ ยตอ้ งออ่ นตัวได้ ตามการเปล่ียนแปลงของสถานการณ์

๑๓ ๒) ส่ิงอุปกรณ์ต้องมีอยู่ในครอบครองอย่างเพียงพอท่ีจะทดแทนการใช้สิ้นเปลืองในแต่ละวัน ก่อนทจี่ ะเริ่มปฏิบตั กิ ารในวันต่อไป ๓) สิ่งอุปกรณ์ควรจะจัดวางไว้ ณ ตำบล ซึ่งจะลดความล่าช้าลงได้ เมื่อเผชิญกับความต้องการ ทจ่ี ะแจกจา่ ย ๔) ระบบการแจกจ่ายต้องทำให้การใช้การขนส่งที่มีอยู่บังเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และจะต้อง ขจัดการขนส่งอนั ไมจ่ ำเป็นและการยกขนซำ้ ใหห้ มดส้นิ ไป ๕) หนว่ ยแต่ละระดับควรมสี ิ่งอุปกรณอ์ ยู่ในความควบคุมเทา่ ท่จี ำเปน็ สำหรับทำให้บรรลภุ ารกิจ ได้เท่าน้ัน ค. วิธกี ารแจกจา่ ยสง่ิ อปุ กรณ์ เพ่ือให้สิ่งอุปกรณ์ถึงมือผู้ใช้หรือหน่วยใช้ ท้ังในยามปกติและในยามสงคราม จึงได้แบ่งวิธีการ แจกจา่ ยออกเป็น ๒ วธิ ี คือ ๑. การแจกจ่าย ณ ตำบลส่งกำลัง โดย จนท.ของหน่วยใช้ นำยานพาหนะไปรับ สป.จาก หน่วยจา่ ย ณ ตำบลส่งกำลัง หรอื ตำบลจ่าย แลว้ นำไปแจกจ่ายอกี ทอดหน่งึ ๒ การแจกจ่าย ณ ที่ตั้งหน่วย ( หรือจ่ายถึงหน่วย ) โดย จนท.ของหน่วยจ่ายนำ สป. ขนส่งไปแจกจ่ายให้หน่วยใช้ถึงทต่ี ้ังหนว่ ย ของหนว่ ยใชน้ ้ัน ๆ หรอื อาจจา่ ยถงึ ผใู้ ชโ้ ดยตรงกไ็ ด้ ง. การเกบ็ รักษา การเกบ็ รักษา คอื การดำเนนิ กรรมวิธตี ่อสง่ิ อุปกรณห์ ลงั จากรับ สป.เข้ามาสรู่ ะบบจนถึง สป.ได้ ถกู แจกจ่ายออกไป ซ่ึงการดำเนินการดังกล่าวมีงานที่จะต้องดำเนินการ คือ การแยก สป.เป็นประเภท การเก็บ ไว้ ณ ตำบลท่ีกำหนด รวมท้ังการจดั ระบบการรกั ษาความปลอดภยั ในการเก็บรักษาส่ิงอุปกรณ์ดว้ ย การเก็บรักษาจะสำเร็จได้ต้องอาศัยปัจจัย ๓ ประการคือ สถานที่ กำลังคน และเครื่องยกขน หรือเคร่ืองทุนแรง ซึง่ ในยามสงครามปจั จยั ทัง้ ๓ นี้ หาได้ไม่ง่ายนกั วตั ถุประสงค์ของการเก็บรกั ษา ก็คอื เก็บและป้องกันส่ิงอุปกรณีที่ได้รับเข้ามาจนกวา่ จะถึงเวลา ท่ีต้องการ ดังน้ันจึงมีความจำเป็นที่จะต้องระวังทำการรักษาสิ่งอุปกรณ์เป็นอย่างดี และในเม่ือต้องการใช้ก็ จะต้องมีจำนวนเพียงพอ และอยู่ในสภาพที่ใช้การได้ จะต้องวางแผนการเก็บรักษาส่ิงอุปกรณ์ท่ีได้รับอยู่เสมอ จะต้องใช้พื้นที่และส่ิงอำนวยความสะดวกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งแบบของพ้ืนท่ีใช้ในการเก็บรักษาใน ปัจจบุ ัน มดี งั นี.้ - ๑) คลังเปิด หมายถงึ พ้ืนทเ่ี กบ็ รกั ษาที่จัดทำขึ้นกลางแจ้ง ก) คลงั ปิดพื้นเรยี บ ข) คลงั เปดิ ไม่ปรับพืน้ ๒) คลงั ปิด หมายถงึ พืน้ ทเ่ี กบ็ รักษาท่ีมหี ลังคา ซึง่ คลงั ปิดนจ้ี ะหมายรวมทง้ั คลังท่ัวไปและคลงั เฉพาะ ก) คลังทวั่ ไป ข) คลังเกบ็ เยน็ ค) คลงั เกบ็ เชอื้ เพลงิ

๑๔ ง) คลงั เก็บกระสนุ บนดิน จ) คลังเก็บกระสุนแบบ Igloo ฉ) คลังเกบ็ ป้องกนั ความช้ืน นอกจากจะแบ่งตามลักษณะหรือแบบของพื้นที่เก็บรักษาแล้ว ยังสามารถแบ่งออกได้ตามประเภทของ สป.ท่ีเกบ็ รักษา ตามภารกจิ ตามที่ต้ัง และตามรปู การจดั ๓) คลังแบ่งประเภทตาม สป.ที่เก็บรักษา จะแบ่งได้เป็น คลัง สป.๑, คลัง สป.๒, คลัง สป.๓, คลัง สป.๔ และคลัง สป.๕ ๔) คลังแบง่ ประเภทตามภารกจิ ได้แก่ คลังเฉพาะ คลังแจกจา่ ย คลงั สำรอง ๕) คลงั แบง่ ประเภทตามที่ตงั้ ไดแ้ ก่ คลงั กองบัญชาการช่วยรบ คลงั ส่วนภมู ภิ าค ๖) คลงั แบง่ ประเภทตามรูปการจัด ได้แก่ คลงั ท่วั ไป คลังสายงานและคลงั สนาม ๕. การจำหน่าย ก. การจำหน่าย หมายถึง การตัดยอด สป.ออกไปจากความรับผิดชอบเนื่องจากสูญไป สิ้นเปลืองไป ( สป.สิน้ เปลือง ) ชำรดุ เสยี หายจนไม่สามารถซอ่ มคนื สภาพไดอ้ ยา่ งคมุ้ ค่า เส่อื มสภาพจนใช้การไมไ่ ด้ สญู หาย ตาย เกนิ ความต้องการ หรือลา้ สมัยไมใ่ ช้ราชการต่อไป ข. สาเหตุของการจำหนา่ ย ๑) ชำรุดตามสภาพ ๒) ชำรุดสูญหายเน่อื งจากภัยธรรมชาติ ๓) ชำรดุ สูญหายจากการกระทำของบคุ คล ก) จากการกระทำของขา้ ศึก ข) จากอบุ ตั เิ หตุ ค) จากการบกพรอ่ งหรอื ประมาทเลนิ เลอ่ ของเจา้ หนา้ ที่ ค.การแบง่ ประเภทสิ่งอปุ กรณเ์ พ่ือจำหน่าย ๑) สป.สน้ิ เปล้อื ง ๒) สป.ถาวร แบ่งออกเป็น ๒ ชนดิ คือ ก) สป.ถาวรกำหนดอายุ ข) สป.ถาวร ไมก่ ำหนดอายุ ๓) ชน้ิ สว่ นซอ่ ม ๔) สป.มีชวี ติ ง.สภาพของสิ่งอุปกรณ์ท่จี ำหนา่ ย*** ๑) สป.ใช้ส้ินเปลอื งซ่ึงใช้หมดไป ๒) สป.ถาวร ซง่ึ หาย ชำรดุ ซอ่ มไม่คุ้มคา่ เสอื่ มสภาพจนใชก้ ารไม่ได้ ๓) สป.เกนิ ต้องการ ๔) สป.ล้าสมัย

๑๕ จ.วิธีการจำหน่าย (การดำเนินการต่อซาก สป.) ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.๒๕๓๕ ไดก้ ำหนดวิธีการจำหนา่ ย ๔ วิธคี อื ๑) การขาย (ให้ส่วนราชการ) ๒) การแลกเปลีย่ น (กบั ภาครัฐและเอกชน) ๓) การโอน (กรรมสทิ ธ์ิและการครอบครอง) ๔) การแปรสภาพหรอื ทำลาย (ฝังหรือเผา) ฉ.การจำหน่ายเป็นสูญ หมายถึง การจำในกรณี สป.สูญไปโดยไม่ปรากฏตัวผู้รับผิดชอบหรือมีตัวผู้รับ ผิดแต่ไม่สามารถชดใช้ได้ หรือ สป.ที่จำหนา่ ยน้นั ไมส่ ามารถขาย แลกเปล่ียน โอน หรือแปรสภาพได้ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ ๒๕๓๕ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจำหน่าย พสั ดเุ ป็นสญู ไวด้ งั นี้.- ๑) ถ้าพัสดุ มีราคาซื้อได้มารวมกันไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐บาท ให้หัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้ พิจารณาอนุมัติ ๒) ถ้าพัสดุน้ัน มีราคาซ้ือได้มารวมกันเกินกว่า ๕๐๐,๐๐๐บาท ให้อยู่ในอำนาจของ กระทรวงการคลังทจ่ี ะเป็นผูพ้ ิจารณาอนุมัติ ๖. การส่งกำลงั ของ ทบ.ไทย ก. การแบง่ ประเภทสิง่ อุปกรณ์ ในปจั จุบัน ทบ.ไทยแบ่งส่งิ อปุ กรณ์ออกเป็น ๕ ประเภท คือ ๑) สป.๑ ไดแ้ ก่ เสบียง (อาหาร) ทใ่ี ช้บริโภคสำหรับคนและสัตว์ *๒) สป.๒ ได้แก่ สิ่งของท่ีจ่ายไว้ประจำหน่วยหรือประจำกาย ตามท่ี ทบ.กำหนดไว้เป็นอัตรา จ่ายให้แก่หน่วยทหาร โดยระบุไว้ใน อจย.หรือ อสอ.หรือบัญชีแบ่งมอบอ่ืนๆ เช่น อาวุธ,ยานพาหนะ และวิทยุ เปน็ ต้น ๓) สป.๓ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันอุปกรณ์ ท่ีอยู่ในความรับผิดชอบทางการส่งกำลัง ของ พธทบ. ซง่ึ ใชเ้ กยี่ วกบั ยานยนต์ เครือ่ งจกั รกล เครอ่ื งบนิ เครอ่ื งให้แสงสวา่ ง และเครอื่ งให้ความร้อนเปน็ ต้น *๔) สป.๔ ได้แก่ สป.รายการที่ ทบ.มิได้กำหนดอัตราจ่ายให้แก่หน่วยเป็นประจำ ไว้แต่เป็น สป.ท่ีจะต้องจัดหาเป็นครั้งคราวเพื่อตอบสนองความต้องการแก่หน่วย ซึ่งเป็น สป.นอกอัตรา เช่น เคร่ืองแต่ง กายพเิ ศษ อาวธุ พเิ ศษ ยานพาหนะพเิ ศษ และวัสดปุ ้อมสนามเปน็ ต้น *๕) สป.๕ ได้แก่ กระสุน วัตถุระเบิด วัตถุเคมี ซ่ึงอยู่ในความรับผิดชอบทางการส่งกำลังของ สพ.ทบ.และ วศ.ทบ. เช่น กระสุน ระเบิดขว้าง ดินระเบดิ เป็นต้น *สำหรับ สป.ชนิดอื่นๆท่ี ทบ.มิได้กำหนดรายการไว้ใน สป. ทั้ง ๕ ประเภทที่กล่าวแล้วน้ัน ให้ ถือว่าเป็น สป.เบด็ เตล็ด เช่น น้ำ แผนที่ ส่ิงของทย่ี ดึ จากข้าศกึ เปน็ ต้น นอกจากการแบ่ง สป.๕ ออกเป็น ๕ประเภทแล้ว ทบ.ยังได้กำหนดความรับผิดชอบในส่ิง อุปกรณ์ ให้แก่กรมฝ่ายยุทธบริการทั้ง ๙ และกรมฝา่ ยกิจการพิเศษที่เก่ียวข้อง (ตามระเบียบ ทบ.ว่าดว้ ยความ รับผดิ ชอบในสงิ่ อุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๕๕) ดงั นั้น จงึ มีการแบง่ สป.ออกเปน็ ประเภทตามความรับผิดชอบ ของกรม ฝา่ ยยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษอีกดว้ ย

๑๖ ข. การส่งกำลงั สิ่งอปุ กรณป์ ระเภท ๒ (สป.๒) ๑) สป.๒ หมายถึง สป.ที่ ทบ.กำหนดอัตราจ่ายไว้ประจำหน่วยตาม อจย.หรือ อสอ.หรือบัญชี แบ่งมอบอ่ืนๆ ที่ ทบ.กำหนดไว้ให้ ซ่ึงเม่ือหน่วยเข้าทำการรบแล้ว สป.๒ ที่ได้รับจ่ายไว้ให้ครอบครองข้ันตนน้ัน อาจได้รับความเสียหายเน่ืองจากการรบ หรอื สูญหายหรอื ชำรุดจนใช้การไม่ได้ หน่วยใช้น้ันๆจะตอ้ งดำเนินการ จัดหามาทดแทน วิธีการจัดหาตามระเบียบปฏิบัติที่กำหนดไว้ ระบบการส่งกำลัง สป.๒ จึงแบ่งออกตาม ประเภทของ สป.๒ ได้เป็น ๒ วิธี คือ สป.๒ รายการ ท่ีผู้บังคับบัญชาควบคุมการส่งกำลัง และมิได้ควบคุมการ สง่ กำลัง โดยผู้บังคับบัญชาช้ันเหนือเป็นผู้กำหนดและมอบอำนาจ การอนุมตั ิใหก้ บั ผบู้ ังคับบัญชา ในระดบั ต่างๆ ไว้ด้วย ดังน้นั กรรมวิธีการเบกิ สป.๒ รายการทค่ี วบคมุ และมิไดค้ วบคุมการส่งกำลัง จงึ มีวธิ ีปฏบิ ัตทิ ี่แตกต่างกัน ออกไป ดังตอ่ ไปนี้ ก) สป.๒ รายการที่ควบคุม หมายถึง สป.๒ รายการใดก็ตามท่ี ผบ.ยุทธบริเวณ มีบัญชีประกาศให้ควบคุมระบบการเบิกจ่าย หน่วยจะต้องดำเนินการร้องขอ และเบิกจ่ายตามสายการบังคับ บญั ชา เพ่ือการขอรบั อนุมัติจากผู้ทมี่ ีอำนาจอนมุ ัตจิ า่ ย สป.๒ รายการน้ันๆ กอ่ นการดำเนินการเบิกตามสายการ บังคบั บัญชา มรี ะเบียบปฏิบตั ิตามลำดบั ดังนี้ กองพนั กรม กองพล กองทัพภาค กองทพั บก ข) สป.๒ รายการท่ีมิได้ควบคุม หมายถึง สป.๒ รายการที่มิได้การควบคุม ระบบ การเบิกจ่าย ซ่ึงหน่วยสามารถทำการเบิกจ่ายตามสายการส่งกำลังได้ การดำเนินการเบิกตามสายการส่งกำลัง นนั้ ให้หนว่ ยใช้ปฏิบัติตามลำดับ ดงั น้ี.- หน่วยใช้ หน่วยสนับสนุนโดยตรง หน่วยสนับสนุนท่ัวไป กรมฝ่ายยุทธบริการ กองทัพบก ค) ระเบียบปฏิบัติในการร้องขอและเบิก สป.๒ หน่วยจะใช้ต้องทำบันทึกลงใน เอกสารทีใ่ ช้ ด้วยการแสดงเหตุผลเก่ยี วกบั ทรัพย์สินท่ีเสียหาย หรอื การใช้สน้ิ เปล้อื งไปเนือ่ งจากการรบ โดย ผบ. หนว่ ย เป็นผทู้ ำบันทึกดังกลา่ ว ๒) การจ่าย สป.๒ หน่วยท่ีใหก้ ารสนับสนุนจะทำการแจกจ่าย สป.๒ ตามรายการสง่ กำลังหรือ อาจ “แจกจา่ ยแบบสายตรง” ถึงที่ต้งั ของหน่วยใช้โดยตรงหรืออาจเรียกว่า “การจ่ายแบบสง่ ผา่ น” เพือ่ ให้ สป. ๒ ถงึ หน่วยใช้หรือผู้ใช้โดยตรงกไ็ ด้ การแจกจ่ายวธิ ีนจ้ี ะชว่ ยใหเ้ กดิ ความสะดวกรวดเร็ว กว่าจ่ายตามสายการส่ง กำลัง และเป็นวิธหี นว่ ยใชพ้ งึ ประสงคม์ ากท่ีสุดดว้ ย ค. การส่งกำลงั สง่ิ อุปกรณ์ประเภท ๔ (สป.๔) ๑) สป.๔ หมายถึง สป.รายการท่ี ทบ.มิได้กำหนดเป็นอัตราจ่ายไว้ประจำหน่วยใช้ หากแต่ว่าเม่ือหน่วยใช้มีความจำเป็นต้องใช้เพ่ือการปฏิบัติภารกิจของตน ก็จะต้องดำเนินการเสนอความ ต้องการได้เป็นครั้งคราว และเม่ือเสร็จภารกิจหรือหมดความจำเป็นต่อการใช้ หรือเมื่อมีคำสั่งจากหน่วยเหนือ ใหส้ ่งคืน หน่วยใช้จะต้องดำเนินการสง่ คืนหน่วยจ่ายตามระเบียบปฏิบตั ิที่ ทบ.กำหนด รายการ สป.๔ สว่ นใหญ่ จะไดแ้ ก่ วัสดปุ ้อมสนามหรือยุทโธปกรณ์ต่างๆที่ ทบ.กำหนดความรบั ผิดชอบใหก้ บั สายยทุ ธบริการตา่ งๆ ๒) การร้องขอและการเบิก การเสนอความต้องการและการเบิก สป.๔ ทุกรายการ หน่วยใช้จะต้องดำเนนิ การตามสายการบังคบั บัญชา จนถึงผมู้ ีอำนาจอนุมัติให้ยมื หรือส่งั จา่ ยได้

๑๗ ๓) การจ่าย คงถือระเบียบปฏิบัติเช่นเดียวกับ สป.๒ คือ อาจจ่ายตามสายการส่ง กำลัง หรือจ่ายแบบสายตรงหรือแบบส่งผ่านก็ได้ เพ่ือความรวดเร็วทันเวลา หรือถ้า สป.๔จำนวนน้อย อาจ แจกจา่ ยไปพรอ้ มกับการจา่ ยเสบยี งของหนว่ ยใชก้ ็ได้ ง. การสง่ กำลงั ส่ิงอุปกรณป์ ระเภท ๕ (สป.๕) ๑) สป.๕ หมายถึง กระสุน วัตถุระเบิก วัตถุเคมีชนิดต่างๆท่ีไก้จัดไว้ในความ รับผิดชอบของสายสรรพาวธุ และสายวทิ ยาศาสตร์ของ ทบ. ๒) ระบบการส่งกำลัง สป.๕ มีระบบที่แตกต่างไปจากระบบการส่งกำลัง สป. ประเภทอ่ืนๆฉะน้ัน ก่อนที่จะศึกษาในรายละเอียดของระบบการส่งกำลัง สป.๕ให้เข้าใจดี จึงจำเป็นต้องศึกษา เกี่ยวกบั อตั รากระสุนและวตั ถุระเบิดท่ี ทบ.กำหนดไว้เสียก่อน ดงั น้ี.- ก. อัตรากระสุนมูลฐาน คือจำนวนกระสุนท่ี ทบ.กำหนดให้หน่วยใช้ ระดบั ต่างๆมีไว้เพื่อปฏิบัติการรบ หรือใชป้ ฏิบตั ิการกรณีฉุกเฉนิ ในข้ันตน้ โดยกำหนดเป็นจำนวนนัดต่อกระบอก ของแต่ละชนิดอาวธุ น้ันๆ ซึ่งทหารจะต้องนำไปเป็นบุคคล หรือดว้ ยยานพาหนะประจำหน่วย หรือด้วย เครือ่ งมือขนส่งชนิดอ่นื สำหรับ สป. ๕ ชนิดอน่ื ๆท่มี ลี ักษณะและวธิ ใี ช้แตกต่างไปจากกระสุนตามรายการอนมุ ตั ิ จ่าย อาจกำหนดหน่วยนับแตกต่างกันออกไป ซึ่ง สป.๕ ชนิดต่างๆเหล่านั้น มักจะกำหนดอัตรามูลฐานไว้เป็น หนว่ ย เพ่ือให้มีใช้เป็นสว่ นรวม เชน่ หน่วยนับเป็นลูกหรือเป็นปอนด์ เป็นฟุต เป็นตน้ และจำนวนอตั รามูลฐานน้ี แม่ทัพอาจกำหนดให้มากหรือน้อยลงได้ โดยพิจารณาถึงจำนวนยานพาหนะในอัตราของหน่วย เป็นพื้นฐานใน การกำหนดหรือพิจารณาจากแผนการยุทธ์ท่ีได้คาดคิดไว้ล่วงหน้า ดังนั้นการเพิ่มกระสุนอัตรามูลฐาน จึงเป็น ความรับผิดชอบของ ผบ.หน่วย ทุกระดับ จะต้องดำรงอัตรากระสุนมูลฐานในความรับผิดชอบ ให้มีจำนวน ครบถ้วนอยูเ่ สมอ ตลอดจนการหมุนเวยี นใช้ เพ่ือให้อยใู่ นสภาพทใ่ี ชก้ ารไดด้ ตี ลอดไป ข. อัตรากระสุนที่ต้องการ คือ จำนวนท่ีหน่วยเหนือหรือหน่วยใช้ ประมาณการว่าหน่วยใดหน่วยหนึ่ง มีความจำเป็นต้องใช้ปฏิบตั ิการตามภารกิจท่ีมอบหมายให้ และสามารถใช้ ทำการรบได้อย่างเพียงพอ หรือต่อเนื่องในห้วงระยะเวลาหน่ึง โดยไม่จำกัดการใช้ สำหรับ สป.๕ ชนิดอื่น ๆ จะ ทำประมาณความต้องการเป็นหน่วย เช่น ระเบิดขวาง,ทุ่นระเบิดดักรถถัง,ดินระเบิด เป็นต้น การประมาณ ความต้องการ สป.๕ โดยธรรมดาเป็นหนา้ ที่ของ สธ.๔ กองพล จะประสานกบั สธ.๓ กองพล แล้วกำหนดความ ต้องการขึ้น วิธีกำหนดความต้องการจะคิดเฉพาะอาวุธที่ใช้ทางยุทธวิธีในภารกิจนั้นๆ โดยคิดเป็นจำนวนต่อ กระบอกจากประสบการณใ์ นการรบครง้ั ที่แล้ว มาเปน็ พน้ื ฐานในการประมาณการ ค. อตั รากระสุนท่ีใช้ได้ คือ จำนวนกระสนุ จำนวนหน่ึงที่จำกดั ให้หน่วย ใช้ดำรงความต่อเน่ืองในการยิงเท่าท่ีจำนวนกระสุนจะมีสนับสนุนให้ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง หรือตามห้วง ระยะเวลาท่ีกำหนดให้ใช้ได้ โดยกำหนดเป็นจำนวนนับกระบอกต่อวัน ส่วนอาวุธใดที่หน่วยเหนือมิได้กำหนด อัตรากระสุนที่ใช้ได้ให้ อาวุธเหล่านั้นคงทำการรบด้วยการใช้ อัตรากระสุนมูลฐานของตนต่อไป โดยปกติ ผบ. ยุทธบริเวณ จะเป็นผู้กำหนดอัตรากระสุนที่ใช้ได้ ของแต่ละชนิดอาวุธตามความเหมาะสมกับภาวะการณ์นั้นๆ ทง้ั นี้ เพ่อื ควบคุมระบบการส่งกำลงั กระสนุ ระหว่างหนว่ ยใช้และหน่วยท่ีใหก้ ารสนับสนุนในระดับต่างๆ

๑๘ ในระดับหน่วย กองทัพภาค,กองพล,กรม และกองพันอาจมีความจำเป็นต้องกำหนดอัตรากระสุนท่ี ใช้ได้ภายในหน่วยของตนอีกขั้นหนึ่ง ก็ย่อมทำได้แต่มีหลักการพึงปฏิบัติอยู่ประการหนึ่ง คือ จะต้องไม่กำหนด อัตรากระสุนท่ีใช้ได้ เกินกว่าอัตรากระสุนที่ใช้ได้ ซ่ึงหน่วยเหนือข้ึนไปได้ประกาศใช้อยู่ในห้วงระยะเวลาที่ กำหนด หมายถงึ กำหนดใหน้ อ้ ยกว่าได้น้ันเอง ๓) การเบิก กองพลไม่ทำการส่งกำลัง สป.๕ ให้กับหน่วยรองโดยตรง แต่กองพลจะจัดต้ัง สำนกั งานกระสุนของกองพลข้ึน ในบริเวณพ้ืนท่ีสนับสนุนของกองพลปฏิบัตงิ านโดยนายทหาร กระสุนของกอง พล และเจ้าหน้าท่ีสายสรรพาวุธจำนวนหน่ึง เพื่อควบคุมการใช้ สป.๕ ในกองพล และทำหน้าท่ีติดต่อ ประสานงานระหว่างหน่วยใช้และหน่วยที่ให้การสนับสนุนระดับต่างๆ ตลอดจนการรวบรวมและรายงาน สถานภาพ สป.๕ ภายในกองพล เสนอไปยังสายงานที่รับผิดชอบต่อไป สำหรับแบบพิมพ์ ทบ.ที่ใช้ในการเบิก กระสุน ได้แก่ ทบ.๔๖๘-๕๑๒ ซึ่งหน่วยใช้ระดับ กองพัน,กรม จะมีเจ้าหน้าท่ีส่งกำลังกระสุนของหน่วย ดำเนินการรวบรวมความตอ้ งการ ของหนว่ ยใชต้ า่ งๆและจดั ทำเป็นใบเบิกข้ึน แล้วเสนอใบเบกิ พร้อมกบั นำ ยานพาหนะที่ใช้ลำเลียง ไปยังสำนักงานกระสุนของกองพล เพ่ือให้นายทหารกระสุนของกองพลตรวจความ ถูกต้อง และลงนามรับรองในใบเบิกกระสุนเสียก่อน หลังจากน้ันเจ้าหน้าที่กระสุนจะต้องเดินทางต่อไป เพื่อ ขอรับกระสนุ จากตำบลสง่ กำลงั กระสนุ ของกองทัพ ณ พ้นื ที่ชว่ ยรบของกองทพั ๔) การจ่าย ณ ตำบลส่งกำลังกระสุนของกองทัพ จะทำการบันทึกกระสุนให้ตามจำนวน ท่ี ต้องการในใบเบิกของหน่วยใช้ คร้ันเม่ือหน่วยใช้ได้รับกระสุนครบตามจำนวนถูกต้อง แล้วก็จะนำยานพาหนะ เดินทางกลับไปยังท่ีต้ังตำบลจ่ายกระสุนของตน เพ่ือดำเนินการแจกจ่ายให้ผู้ใช้ต่อไป กรณีท่ีหน่วยใช้ได้รับ กระสุนชนิดใด ไม่ครบจำนวนตามรายการในใบเบิก ในเท่ียวกลับให้เจ้าหน้าท่ีกระสุนไปแสดงหลักฐาน และ จำนวนที่ได้รับไม่ครบตามรายการน้ันๆ ให้กับนายทหารกระสุนของกองพลทราบ เพ่ือจะดำเนินการให้ได้รับใน โอกาสตอ่ ไป ช. การส่งกำลงั สิ่งอุปกรณ์ประเภทเบด็ เตล็ด ๑) น้ำ ตามธรรมดาแล้ว กองพันทหารช่างสนามของกองพล จัดตั้งตำบลจ่ายน้ำประปาขนึ้ ใน พ้ืนที่ขบวนสัมภาระของกรม กรมละ ๑ แห่ง และจัดต้ังอีกหน่วยมารับน้ำ จากตำบลจ่ายน้ำท่ีใกล้ท่ีสุด แล้ว นำไปแจกจ่ายอกี ทอดหน่ึง ๒) แผนที่ พัน ช.พล.จะรบั แผนที่จำนวนมากๆ สำหรบั กองพล จากคลังแผนทข่ี องกองทัพ แล้ว ทำการจ่ายให้กับหน่วยต่างๆ ของกองพลและหน่วยสมทบ ท้ังยังเก็บรักษาแผนที่สำรองของกองพลไว้ด้วย หน่วยใช้เสนอความต้องการแผนที่ไปยัง ผบ.ช.พล. ซึ่ง ผบ.ช.พล.จะคำณวนความต้องการแผนท่ีภายใต้การ กำกับดูแลของ สธ.๒ กองพล การแจกจ่ายแผนที่ในกองพล ให้ปฏิบัติตามลำดับความเร่งด่วนตามท่ี สธ.๒ ของ กองพลกำหนด ๓) ส่ิงอุปกรณ์สายสารบรรณ กองร้อยกองบัญชาการกองพล (ร้อย บก.พล.) รับผดิ ชอบในการ กำหนดความต้องการ เบิกรบั เกบ็ รักษา และแจกจ่ายบรรดาสิ่งพิมพ์ทางการ เช่น คู่มือราชการสนาม คู่มือทาง เทคนิค แบบฟอร์ม และสิ่งพิมพ์อืน่ ๆให้แก่หน่วยต่างๆ ของกองพล หน่วยต่างๆ ระดับกองพันเสนอใบเบิกผ่าน ร้อย บก.พล. ซง่ึ ร้อย บก.พล. จะสรปุ ใบเบิกเสนอไปยงั คลังส่ิงพิมพข์ องกองทัพท่ีให้การสนับสนุน

๑๙ ซ. การควบคมุ สง่ิ อปุ กรณ์ (Inventories Control) ๑) การควบคุมส่ิงอุปกรณ์ เป็นกรรมวิธีในการจัดทำบัญชี การส่งกำลัง การแจกจ่าย การซ่อม คืนสภาพ และ/หรอื การจำหน่ายส่ิงอุปกรณ์ ซึ่งการดำเนินการน้ีดำเนินการโดยผา่ นทางระบบการรายงาน การ คิดคำนวณ และการประเมินค่า ทำให้การปฏิบัติงานส่งกำลังมีความแน่นอนขึ้น ในรูปของการคิดงบประมาณ และการจดั หา การจำหนา่ ยหรอื การจดั สรร ปจั จัยพืน้ ฐานของระบบการควบคุมสิง่ อปุ กรณ์ ได้แก่ ก) การทำแค็ตตาล็อค ซึ่งรวมถึง การกำหนดหมายเลขควบคมุ การลงบัญชีเอกสาร ข้อมูลการแจกจ่าย สภาพแวดลอ้ มโดยทว่ั ไป การกำหนดมาตรฐานและขอ้ มูลการใช้งาน ข) การแจกจ่าย ซ่งึ รวมถึงการกำหนดที่ตั้งคลงั ตรวจทานความต้องการพิเศษในการ ขนย้าย จัดให้มีใบรับวัสดุ แจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ ดำรงรักษาข้อมูลความต้องการ และพัฒนาการวิเคราะห์ในการ ควบคุมการส่งกำลัง ค) กำหนดแนวทางความตอ้ งการ และทรพั ยากร ซ่ึงเกยี่ วขอ้ งกบั กำหนดการในการ ซ่อมใหญ่ หรือซ่อมคืนสภาพ ง) จำหน่ายวสั ดุท่ีเกินความต้องการ เหล่ือใช้หรือเป็นเศษซาก ตามอำนาจที่กำหนด ไว้โดยถูกต้อง การจำหน่ายอาจกระทำโดยสง่ ไปทีอ่ นื่ การบรจิ าค การขายทอดตลาด นำไปท้งิ หรือทำลาย ๒) การควบคุมสง่ิ อปุ กรณ์ แบ่งออกไดเ้ ป็น ๒ ลกั ษณะ คือ ๑. การควบคมุ ทางการสง่ กำลงั (Supply Control) ๒. การควบคมุ ทางบัญชี (Stock Control) ก) การควบคุมทางการส่งกำลัง คือกรรมวิธีซึ่งส่ิงอุปกรณ์แต่ละช้ินถูกควบคุมไว้โดย ระบบการส่งกำลัง ระบบนรี้ วมถึงการกำหนดความต้องการ การรับ การเก็บรักษา การจัดส่ง การแจกจ่าย การ แบง่ มอบ การทำเคร่ืองหมายและการทำบญั ชี การควบคุมทางการส่งกำลัง เป็นวิธีการท่ีมีระเบียบสำหรับการรักษาดุลท่ีเป็นไปได้ ระหว่างการส่งกำลังกับความต้องการส่ิงอุปกรณ์ทั้งหมด เพ่ือจัดให้มีส่ิงอุปกรณ์ที่ต้องการได้ทันเวลา ป้องกัน การสะสมส่ิงอุปกรณ์ไว้จนเกินอัตรา และพิจารณากำหนดปริมาณส่ิงอุปกรณ์ท่ีมีอยู่ เพื่อการแจกจ่ายใหม่หรือ จำหน่ายไป ระบบนี้ต้องการข้อมูลท่ีสำคัญเกี่ยวกับ สถานภาพของการส่งกำลัง และความต้องการส่ิงอุปกรณ์ ซงึ่ ต้องทำให้ทนั สมยั อยเู่ สมอ และตอ้ งทำแบบรวมการ สว่ นประกอบหลักของระบบการควบคมุ การสง่ กำลงั ได้แก่ ๑) นโยบายการส่งกำลงั ของหน่วย ๒) บันทกึ การควบคุมทางบญั ชี และรายงานการสง่ กำลัง ๓) การคาดคะเนความตอ้ งการทางการสง่ กำลงั และสง่ิ อุปกรณ์ทม่ี ีอยู่ ๔) ข้อมูลจากสถานภาพการส่งกำลังในอัตราปัจจุบัน และในอนาคต ของ สป. แต่ ละรายการ ๕) ระบบกรรมวิธีข้อมูลอัตโนมัติ ซึ่งมีขีดความสามารถเพียงพอที่จะให้การ สนับสนนุ ตอ่ การปฏิบัติงานสง่ กำลังนน้ั

๒๐ ข)การควบคุมทางบัญชี คือ กรรมวิธีการรกั ษาข้อมูลต่างๆ ของปริมาณที่มีอยู่ และ สภาพของสิ่งอุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์ท่ีค้างรับ คงคลัง และค้างจ่าย ความมุ่งหมายของการควบคุมทางบัญชี กค็ ือการกำหนดปริมาณของสิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ท่ีมีอยู่ และ/หรือมีความต้องการเพ่ือการแจกจ่าย และ เพอ่ื ความสะดวกในการจัดงานแจกจา่ ยสง่ิ อปุ กรณ์ ระบบควบคุมทางบญั ชี หมายถึง วธิ ปี ฏบิ ัตติ า่ งๆ ดังน้ี.- ๑) การเบิกใชม้ ูลฐานตามระยะเวลา ๒) การค้นหาและการรายงานสิ่งอุปกรณ์ที่ขาดแคลน และเกินระดับ ความสะสม ๓) การทราบท่ีอยู่และการรายงานสิ่งอุปกรณ์ ท่ีเหลือใช้ และลา้ สมัยที่ ใช้การไม่ได้ และทีซ่ อ่ มแกไ้ มไ่ ด้ ประสิทธิภาพของการควบคุมทางบัญชีขึ้นอยู่กับ การบันทึกและการตรวจสอบ เอกสารการควบคุมทางบัญชีอย่างรวดเร็วและถูกต้อง การช่วยเหลื่อและการแนะนำชี้แจง ตลอดท่ัวท้ังหน่วย บัญชาการ รวมทั้งการใช้วิทยาการแผนใหม่เข้ามาช่วย จะทำให้ผู้จัดงานสามารถควบคุมสิ่งอุปกรณ์ท่ีเพ่ิมมาก ขึน้ ตลอดเวลา ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ ฌ. การประหยดั การส่งกำลงั การประหยดั การส่งกำลงั เปน็ ความรบั ผิดชอบของ ผบ.หน่วย ทุกระดับ และมีความสำคัญมาก ที่สุดในเขตหน้า ซ่ึงทหารทุกคนจะต้องได้รับการปลูกฝังนิสัยในเร่ืองพื้นฐานทางการปรนนิบัติบำรุง และรักษา ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในความรับผดิ ชอบของตน และของหน่วยให้สามารถใชก้ ารได้ ตลอดจนการถนอมรักษา การ เกบ็ การซ่อมบำรงุ และการใช้อยา่ งประหยดั การประหยัดการส่งกำลัง ต้องไม่คิดเพียงแต่ออมเท่าน้ัน นักการทหารจะต้องมองการไกล คือ ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ในด้านทรัพยากร ที่จะให้การสนับสนุนทางส่งกำลังแก่ส่วนกำลังรบในแนวหน้า ซ่ึง ย่อมมีความต้องการเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการสู้รบท่ีมีประสิทธิภาพ อยู่ในครอบครองตลอดเวลา ดงั นนั้ การละเลยในเร่อื งการประหยัดการสง่ กำลัง อาจหมายถงึ ชีวิตหรือความพ่ายแพไ้ ด้ นายทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง จะต้องประสานกับฝ่ายธุรการ เพ่ือให้มั่นใจว่า ได้มีการฝึกหรือ ฟน้ื ฟูในเรือ่ งการประหยดั การส่งกำลงั ใหแ้ ก่ส่วนกำลงั ทกุ หนว่ ย และเน้นเร่ืองมาตรการปอ้ งกนั มใิ ห้มีการละเมิด การประหยัดการสง่ กำลัง ตัวอยา่ ง ของการละเมิดการประหยดั การส่งกำลงั ๑) ทหารละทง้ิ หรือโยนทิง้ ยทุ ธภัณฑ์เพ่อื ลดนำ้ หนัก ๒) การสะสมส่งิ อปุ กรณ์เกินความจำเป็น หรอื เกินกว่าทไ่ี ดร้ บั อนมุ ัติ ๓) การใช้ยานพาหนะโดยไมจ่ ำเปน็ หรอื ไม่คุ้มค่า ๔) การนำ สป.งดใชก้ ารใช้ประโยชน์ก่อนการซ่อมบำรงุ ๕) ไมป่ ฏบิ ตั ิตามระบบการซอ่ มบำรุงตามท่ี ทบ.กำหนด

๒๑ ตอนท่ี ๔ การซอ่ มบำรงุ ๑. กล่าวทั่วไป ก. การซอ่ มบำรงุ หมายถงึ การกระทำใดๆที่มงุ่ หมายจะรักษายุทโธปกรณต์ ่างๆ ให้อยู่ในสภาพท่ีใชก้ าร ได้ หรือมงุ่ หมายทีจ่ ะทำให้ยทุ โธปกรณ์ท่ีชำรดุ กลับคืนมาอยู่ในสภาพทใี่ ชก้ ารได้ และให้หมายรวมถึง การตรวจ สภาพ การทดสอบ การบรกิ าร การซ่อมแก้ การซอ่ มใหญ่ การซ่อมสรา้ ง การดดั แปลง และการซ่อมคนื สภาพ ข. การปรนนิบัติบำรุง หมายถึง การดูแลและการให้บริการโดยเจ้าหน้าท่ี เพ่ือมุ่งประสงค์ที่จะรักษา ยุทโธปกรณ์และเคร่ืองมือให้อยู่ในสภาพใช้การท่ีดี โดยจัดให้มีระบบการตรวจสภาพ การตรวจค้น และการ แกไ้ ขข้อบกพรอ่ งก่อนที่จะเกดิ ขน้ึ หรอื ทจ่ี ะชำรดุ มากขึน้ ค. การตรวจสภาพ การตรวจสภาพมีความมุ่งหมายเพือ่ ทราบสภาพของยุทโธปกรณ์ท่ีใช้การได้ และความสามารถ ในการซ่อมบำรุงของหน่วย การตรวจสภาพแบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภท คอื การตรวจสภาพโดยผู้บังคบั บัญชา, การตรวจสภาพเฉพาะอยา่ ง และการตรวจสภาพทางเทคนิค ๑) การตรวจสภาพโดยผู้บังคับบัญชา ผบ.หน่วยใช้ยุทโธปกรณ์ และผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือ จะต้องทำการตรวจสภาพยุทโธปกรณ์ตามระยะเวลาท่ีกำหนดนั้น เพ่ือให้ทราบถึง การใช้ การประหยัด และ หลักการซ่อมบำรงุ และประเมินค่าแหง่ ความพรอ้ มรบของหน่วย ๒) การตรวจสภาพเฉพาะอย่าง กระทำเพื่อความต้องการทราบว่า ความสามารถในการซ่อม บำรุงประจำหน่วยเป็นอย่างไร เพียงพอหรือไม่ สายยุทธบริการทุกสายรับผิดชอบในการตรวจ โดยออกเป็น ระเบยี บปฏิบตั ใิ นการตรวจขึน้ ๓) การตรวจสภาพทางเทคนิค กระทำต้องการเพ่ือทราบสภาพของยุทโธปรณ์ท่ีใช้การได้ และการคาดคะเนถึงความหนักเบาของการซ่อมบำรุง และความต้องการท่จี ะเปลย่ี นแปลงในภายหน้า สายยทุ ธ บริการทุกสายจะต้องกำหนดระเบียบ วิธีดำเนินการ และระยะเวลาในการตรวจ และอาจกระทำภายใต้การ กำกับดแู ลของ ผบ.พล. หรือแม่ทัพ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงตอ่ การซอ่ มบำรุง ๒. หลกั การซ่อมบำรงุ การซ่อมบำรุงต้องยึดถือหลักการ ดังน้.ี - ก. ต้องปฏิบัตติ ามคู่มือ ที่ได้รับจากกรมฝา่ ยยทุ ธบริการ หรอื กรมฝา่ ยกิจการพเิ ศษ ทร่ี บั ผิดชอบ ข. การซ่อมแก้ ต้องพยายามกระทำ ณ ทซ่ี ึ่งยทุ โธปกรณต์ ง้ั อยู่ ค. ยุทโธปกรณ์ท่ีชำรุดเกินขีดความสามารถของหน่วย หน่วยจะส่งไปที่ซ่อมที่หนว่ ยซ่อมบำรุงประเภท สูงกว่า หรือรอ้ งขอให้หนว่ ยซ่อมบำรุงประเภทสูงกวา่ ดงั กลา่ วมาซ่อมใหก้ ็ได้ ง. ห้ามทำการยุบรวม เวน้ แต่จะไดร้ ับการอนุมตั จิ ากผูม้ ีอำนาจ หรอื สถานการณ์ทางยทุ ธวิธีบังคบั

๒๒ ๓. ความรับผิดชอบในการซ่อมบำรงุ การซ่อมบำรงุ เป็นความรบั ผิดชอบของบุคคล (ผู้ใช้ยุทโธปกรณ์หรือมอบหมายให้ผู้ใต้บังคบั บัญชาของ ตนใช)้ และความรบั ผิดชอบของผู้บังคบั บัญชา ตามสายการบังคับบัญชา ซ่งึ ความรับผิดชอบทางการซ่อมบำรุง มีดงั น้.ี - ก. ความรับผิดชอบโดยตรง คือ ผู้ที่รับยุทโธปกรณ์ไปใช้ หรือมอบหมายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนใช้ จะต้องรับผิดชอบต่อยทุ โธปกรณ์นนั้ ๆ ความรบั ผิดชอบโดยตรงแบง่ ออกเปน็ ๑) ความรับผิดชอบของบุคคล ผู้ท่ีได้รับยุทโธปกรณ์ประจำตัว หรือได้รับมอบหมายให้เป็น พนักงานประจำยุทโธปกรณ์ จะต้องรับผิดขอบในการดูแลรักษา รวมท้ังปรนนิบัติบำรุงยุทโธปกรณ์ในความ รบั ผดิ ชอบของตน อยา่ งรอบครอบเสมอ ในขัน้ ของผูใ้ ช้ ๒) ความรบั ผิดชอบในการตรวจตรา ผู้บังคับหน่วยต้ังแต่ ผบ.หมู่ ขึ้นไป รับผิดชอบในการดูแล รักษายุทโธปกรณข์ องตน อยา่ งรอบคอบอยู่เสมอ ในขน้ั ของหนว่ ยใช้ ข. ความรบั ผิดชอบตามสายการบังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นจะต้องสอดส่องดูแลจนเป็นที่ แน่ใจวา่ ยุทโธปกรณ์ทอี่ ยู่ในความรบั ผดิ ชอบของตน ได้รับการปรนนบิ ตั ิบำรุง และการซ่อมบำรุงอยา่ งดี และอยู่ ในสภาพทใี่ ช้การได้อยูเ่ สมอ ๔. การแบง่ ประเภทการซ่อมบำรงุ เพื่อให้เกิดความง่ายในการซ่อมบำรุง และเป็นการแบ่งเบาภาระแก่หน่วยรอง จึงกำหนดหน้าท่ีในการ ซ่อมบำรุงให้แตกตา่ งกัน นับต้ังแต่วธิ ีการปรนนบิ ัติบำรุงอย่างธรรมดา ซึ่งผู้ใช้ยุทโธปกรณ์น้ันเป็นผู้ปฏิบัติ ช้ึนไป จนถึงการซอ่ มแก้อนั ยุง่ ยากซับซ้อน ซงึ่ กระทำโดยโรงงานในการซอ่ มบำรงุ ระดบั คลงั การซ่อมบำรงุ แบง่ ออกเปน็ ๔ ประเภท คอื ก. การซ่อมบำรุงระดับหน่วย คือ การซ่อมบำรุงที่หน่วยได้รับอนุมัติให้กระทำได้ และอยู่ใน ความรับผิดชอบของหน่วยผู้ใช้ยุทโธปกรณ์นั้น ๆ ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความชำนาญ ทางเทคนิคมาก เช่น การหล่อลน่ื , การปรบั , การทำความสะอาด ข. การซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรง คือ การซ่อมท่ีอนุมัติให้กระทำโดยหน่วยซ่อมบำรุงที่ได้รับ มอบหน้าท่ีให้สนับสนุนหน่วยใช้ยุทโธปกรณ์นั้น ๆ เป็นการซ่อมแก้อย่างจำกัดต่อยุทโธปกรณ์ครบชุด หรือซ่อม แกส้ ว่ นประกอบทีใ่ ช้การไม่ได้ ค. การซ่อมบำรงุ สนับสนุนทั่วไป คือ การดำเนินการในระดับที่เกินขีดความสามารถของหน่วย ซอ่ มบำรุงสนับสนุนโดยตรง เพ่อื สง่ กลับเขา้ สายสง่ กำลัง ง. การซ่อมบำรุงระดับคลัง ซ่ึงดำเนินการโดย กรมฝ่ายยุทธบริการ ซึ่งจะทำการซ่อมใหญ่ต่อ ยุทโธปกรณ์ท่ีใช้การไม่ได้ให้กลับคืนสภาพใช้การได้อย่างสมบูรณ์ตามคู่มือทางเทคนิค หรอื ทำการซ่อมสร้างให้ อยู่ในสภาพเหมอื นใหม่

๒๓ ๕. สาเหตุที่ทำให้เกิดขอ้ บกพรอ่ งในการซ่อมบำรุง ก. ผ้ใู ช้ ใชอ้ ยา่ งไม่ถูกต้อง ใช้อย่างไม่เอาใจใส่ ข. ขาดการปรนนบิ ัตบิ ำรุงก่อนใชง้ าน ขณะใชง้ าน และหลังจากเลกิ ใชง้ าน ค. ทำการซอ่ มเกนิ กว่าขนั้ ท่ีได้รบั อนมุ ตั ิให้กระทำได้ ง. ขาดการตรวจสภาพซ่อมบำรงุ จ. การสง่ กำลงั ชน้ิ ส่วนซ่อมไมเ่ พยี งพอ ฉ. หนว่ ยซ่อมบำรงุ สนับสนนุ ไมเ่ ต็มที่ ๖. ปจั จัยท่ีทำให้การซ่อมบำรงุ ไดผ้ ลดี ก. ผู้บังคับหน่วยและฝ่ายอำนวยการ มีความรู้ความสามารถและสนใจที่จะสั่งการ ควบคุม ให้ แนวทาง รวมทง้ั กำกบั ดแู ลการซอ่ มบำรุงภายในหน่วยของตน ข. ผู้ใชต้ อ้ งไดร้ บั การฝกึ ใหใ้ ชง้ านอยา่ งถกู ตอ้ ง ค. ช่างซ่อมหรือช่างเทคนิคของหน่วย มีความรู้ความสามารถที่จะทำการซ่อมบำรุงได้ตาม ประเภท ทตี่ อ้ งรับผิดชอบอยา่ งแทจ้ ริง ง. ปจั จัยเวลามเี พียงพอทจ่ี ะทำการซอ่ มให้ได้ผล ฉ. คมู่ อื ทางเทคนิคอย่างเพียงพอ ช. ถ้าทำได้ ควรมียุทโธปกรณ์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน (Standardization) เพราะจะช่วยลด ภาวะ การฝกึ อบรมช่างเทคนิค ลดจำนวนและรายการในการสะสมชิ่นส่วนซอ่ มลงไปเปน็ อันมาก ๗. ความหมายของคำที่ใชใ้ นการซ่อมบำรุง ก. การตรวจสภาพ (Inspection) หมายถึง การพิจารณาถึงสภาพใช้การได้ของยุทโธปกรณ์ โดยเปรยี บเทยี บคณุ ลกั ษณะทางฟิสิกส์ ทางเคมี ทางจกั รกล และทางไฟฟา้ ตามาตรฐานท่ีกำหนดไว้ ข. การทดสอบ (Test) หมายถึง การพิสูจน์สภาพการใช้การได้ของยุทโธปกรณ์และค้นหา ขอ้ บกพร่องทางไฟฟ้า ทางเคมี และทางจักรกล โดยใช้เครอ่ื งมือหรอื วธิ ที ดสอบตา่ งๆ ค. การบริการ (Service) หมายถึง การทำความสะอาด การดูแลรักษา การประจุไฟฟ้า การ เติมน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น การเติมสารระบบความเย็น และ การเติมลม การเติมก๊าซ นอกจากน้ันยัง หมายถึงความต้องการบริการพิเศษต่างๆ ที่อาจกำหนดขึ้นตามความจำเป็น เช่น การพ่นสี การหล่อลื่น ฯลฯ เป็นต้น ง. การซ่อมแก้ (Repair) หมายถึง การซ่อมยุทโธปกรณ์ท่ีชำรุดให้ใช้การ และยังหมายรวมถึง การปรบั การถอดเปล่ียน การเช่ือม การย้ำและการทำใหแ้ ขง็ แรง จ. การซ่อมใหญ่ (Overhaul) หมายถึงการซ่อมยุทโธปกรณ์ท่ีชำรุดให้ใช้การได้อย่างสมบูรณ์ โดยกำหนดมาตรฐานการซ่อมบำรุงไว้เป็นเอกสารเฉพาะ การซ่อมใหญ่อาจกระทำให้สำเร็จได้ โดยการแยก ส่วนประกอบ การตรวจสภาพส่วนประกอบ การประกอบส่วนประกอบย่อย และชิ้นส่วนต่างๆทั้งน้ี จะต้องมี การตรวจสภาพและทดสอบปฏิบตั กิ ารประกอบดว้ ย ฉ. การซ่อมสร้าง (Rebuilt) หมายถึง การซ่อมยุทโธปกรณ์ท่ีชำรุดให้กลับคืนสสู่ ภาพมาตรฐาน อันใกล้เคยี งกับสภาพเดิม หรอื เหมอื นของใหม่ ทง้ั ในรปู ร่าง คุณสมบตั ิการทำงาน และอายุการใช้งาน การซอ่ ม

๒๔ สรา้ งอาจจะทำสำเร็จได้โดยการถอดชิ้นสว่ น และสว่ นประกอบท่ีชำรุด หรือใชก้ ารไม่ได้ แล้วนำมาประกอบเป็น ยทุ โธปกรณ์ชิ้นตอ่ ไป ช. การดัดแปลงแก้ไข (Modification) หมายถึง การเปล่ียนแปลงยุทโธปกรณ์ตามคำส่ังการ ดัดแปลง การดัดแปลงน้ีต้องไม่เปลี่ยนมูลฐานเดิมของยุทโธปกรณ์ เพียงแต่เพ่ือปรับเปลี่ยนภารกิจ หรือ ความสามารถในการทำงาน ซ. การซ่อมคืนสภาพ (Reclamation) หมายถึง การดำเนินกรรมวิธีซ่อมยุทโธปกรณ์ท่ีใช้ไม่ได้ เลิกใช้ ละทิ้ง หรือเสียหายและให้ใช้ประโยชน์ได้ หรือชิ้นส่วน ส่วนประกอบ หรือองค์ประกอบยุทโธปกรณ์ เหล่านนั้ ใหใ้ ชป้ ระโยชนไ์ ด้ และนำกลบั คนื สายสง่ กำลงั ต่อไป ฌ. การปรนนิบัติบำรุง (Preventive Mainteanance) หมายถึง การดูแลและการให้บริการ โดยเจ้าหน้าที่ เพ่ือมุ่งประสงค์ที่จะรักษายุทโธปกรณ์ และเครื่องมือเคร่ืองใช้ ให้อยู่ในสภาพใช้การได้ดี โดยจัด ให้มีระบบการตรวจสภาพ การตรวจค้น และการแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งทจ่ี ะเกิดขึ้น หรือท่ีจะชำรดุ ญ. การถอดปรน (Cannibalization) หมายถึง การถอดชิ้นส่วน ส่วนประกอบ ตามท่ีได้รับ อนุมัติ จากยุทโธปกรณ์ครบชุดหรือองคป์ ระกอบที่เก่ียวข้อง ซ่ึงสามารถซ่อมได้แต่ไม่คุ้มค่า หรือท่ีจำหน่ายแล้ว เพื่อนำไปใชป้ ระโยชนใ์ หแ้ ก่ยทุ โธปกรณอ์ ่นื ฎ. ยบุ รวม (Cannibalrise) หมายถึง การถอดช้ินสว่ น สว่ นประกอบที่ใชก้ ารได้จากยุทโธปกรณ์ หน่งึ ไปประกอบอีกยทุ โธปกรณห์ นง่ึ ฏ. ยุทโธปกรณ์สำรองการซ่อมบำรุง (Maintenannce Floats) หมายถึง ยุทโธปกรณ์ท่ีหน่วย ซ่อมมไี ว้เพอื่ จ่ายทดแทนให้กบั หนว่ ยใช้ในกรณีท่เี ห็นว่าจะซอ่ มไม่คุ้มค่า หรือซ่อมใหไ้ ม่ทันความต้องการ หากไม่ จา่ ยทดแทนในทันทแี่ ลว้ หนว่ ยจะขาดความพร้อมรบ และไม่สามารถบรรลุภารกจิ สำคญั และเร่งด่วนได้ .............................................................................................................................

๒๕ ตอนที่ ๕ การขนสง่ ๑. กล่าวทว่ั ไป ก. การขนส่ง คือ การใช้เคร่ืองมือและส่ิงอำนวยความสะดวกอันจำเป็นมาสนับสนุนการเคลื่อนย้าย โดยมงุ่ ท่จี ำใหก้ ารเคลอื่ นยา้ ยสามารถบรรลภุ ารกิจไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ การขนส่งเป็นงานกึ่งหน่ึงของการส่งกำลังบำรุง พันธกิจของการขนส่งคือการจัดให้มีการเคล่ือนย้าย กำลังพลและยุทโธปกรณ์ จากท่ีหนง่ึ ไปยงั อีกทีห่ นง่ึ ทง้ั ทางบก ทางนำ้ ทางอากาศ และทางท่อ จากคำจำกัดความดังกล่าว พอจะสรุปได้ว่า ขอบเขตของการขนส่งน้ันหมายรวมถึง การเคลื่อนย้าย กำลังพล ยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งต่างๆ การวางแผนทางฝ่ายอำนวยการ และการจัดการอันจำเปน็ เพอ่ื ใหก้ ารเคลือ่ นย้ายดังกลา่ วสำเรจ็ ผล ข. การเคล่ือนย้าย คือ การนำกำลังพล ยุทโธปกรณ์ หรือส่ิงอุปกรณ์จากตำบลหน่ึงไปยังอีกตำบลหนึ่ง ตามท่กี ำหนดความมงุ่ หมายเอาไว้ การเคลือ่ นยา้ ย แบง่ ตามความมงุ่ หมายได้ ๒ ประเภท คอื .- ๑) การเคล่ือนย้ายทางยทุ ธวธิ ี คอื การเคลอื่ นย้ายหน่วยทหารและยุทธภณั ฑ์ ภารกิจ ทางยุทธวิธี ภายใต้สภาพการรบ เม่ือยังไม่มีการประทะทางพ้ืนดินกับกำลังฝ่ายข้าศึก นายทหารฝ่ายยุทธการ เปน็ ผรู้ ับผิดชอบ (ยกเว้นทางอากาศ) ๒) การเคลื่อนย้ายทางธุรการ คือ การเคล่ือนย้ายหน่วยทหาร ยุทโธปกรณ์ และส่ิง อุปกรณ์ ที่อยู่ห่างจากความกดดันของข้าศึก ขบวนเคลื่อนย้ายมีความสะดวกสบาย เพราะไม่มีการรบกวนจาก ข้าศกึ นายทหารฝ่ายส่งกำลัง บำรุงรบั ผิดชอบ ๒. หลกั การขนสง่ ก.ใชเ้ ครือ่ งมอื ขนส่งให้เกิดประโยชน์สูงสดุ ข.เลือกใช้เคร่อื งมอื ใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด ค.ลดการขนถ่ายให้เหลอื นอ้ ยครั้งที่สุด ง.หลีกเหลีย่ งการขนย้ายย้อนกลับมาข้างหลงั ๓. ประเภทหรือวิธกี ารขนสง่ วธิ กี ารขนส่งแบ่งออกเปน็ ๖ วิธี คอื ทางท่อ ทางน้ำ ทางรถไฟ ทางถนน ทางอากาศ และเบด็ เตล็ด ก. การขนส่งทางท่อ โดยธรรมดาใช้ขนส่งเช้ือเพลิงเหลวในปริมาณมากๆ เป็นการขนส่งที่ประหยัดทั้ง เจา้ หนา้ ที่ ยานพาหนะและค่าใช้จ่าย ๑) ขอ้ ดีของการขนส่งทางทอ่ คอื .- ก) เปน็ วธิ กี ารท่ปี ระหยดั ทส่ี ดุ ข) ลดความต้องการเครอื่ งมือขนสง่ ชนิดอน่ื ค) เสียหายจากข้าศกึ นอ้ ยทส่ี ุด ง) ใช้ได้ในพ้นื ท่ที ่ีไม่อำนวยใหแ้ ก่การขนสง่ ชนดิ อนื่ จ) ขนส่งของเหลวจากเรือสฝู่ งั่ ไดส้ ะดวกทส่ี ดุ

๒๖ ๒) การเลือกเสน้ ทางท่อ เปน็ ปัจจัยสำคัญท่ีสุดในการวางแผนขนส่งทางท่อ มีขอ้ ที่ตอ้ งพจิ ารณา คือ.- ก) เลือกทางท่ีมมี ุมหกั ทางด่ิงน้อยทสี่ ุด ข) กำบังตามธรรมชาติ ค) ขนานกบั ทางรถไฟหรือถนน ง) สนับสนนุ แผนการยุทธต่อไปได้ จ) ปลายทางท่อ ควรมีที่เก็บ และมีเส้นทางเข้าออกสะดวก และใช้เคร่ืองมือขนส่ง ไดห้ ลายชนิด ข. การขนสง่ ทางนำ้ การขนส่งทางน้ำ หมายรวมถึง การขนส่งโดยการเดินเรือทะเล,การขนส่งโดยเรือชายฝ่ัง และ การขนส่งโดยเรือทางน้ำในแผน่ ดิน การขนส่งทางน้ำสามารถขนส่งได้ปริมาณมาก แต่ความเร็วค่อนข้างต่ำ และ มีขอ้ จำกดั คอื .- ๑) ต้องมสี ิง่ อำนวยความสะดวกในการบรรทกุ และขนถา่ ย ๒) ล่อแหลมต่อการปฏิบตั กิ ารของข้าศกึ ๓) ขน้ึ อยูก่ บั สภาพทางนำ้ และส่งิ ก่อสรา้ งเก่ยี วกบั ทางนำ้ ๔) ลอ่ แหลมต่อสภาพอากาศ ค. การขนส่งทางรถไฟ ๑) สามารถขนย้ายสัมภาระ และกำลังพลได้ปริมาณมากๆ ในระยะทางไกลด้วย ความเร็วคอ่ นข้างสูง ๒) เมื่อเทียบกับการขนส่งแบบอื่นแล้ว การขนส่งทางรถไฟได้รับความ กระทบกระเทือนจากลมฟา้ อากาศน้อยทส่ี ดุ ๓) มีความอ่อนตัวน้อยกว่าการขนส่งแบบอ่ืน เพราะเป็นยานพาหนะท่ีใช้ปฏิบัติงาน บนรางท่ตี ายตัว ง. การขนสง่ ทางถนน ๑) การขนส่งทางถนน เป็นการขนส่งที่อ่อนตัวมากท่ีสุด และมีขีดความสามารถใน การขนส่งกำลังพลและสัมภาระจากตำบลต้นทาง ไปยังตำบลปลายทางได้โดยไม่ต้องทำการขนถ่ายไปสู่การ ขนสง่ แบบอ่นื ในระหวา่ งทาง นอกจากนยี้ งั มคี วามเร็วค่อนข้างสูง และเช่ือมโยงกับวธิ ีการขนส่งชนิดอน่ื ได้อย่าง ดี การขนส่งทางถนนดว้ ยรถยนต์ เป็นแบบทเ่ี หมาะสมสำหรบั การขนสง่ สมั ภาระท่ีบรรจุหบี หอ่ สง่ ไปยงั พน้ื ที่ ส่วนหนา้ และช่วยบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคไ์ ด้มาก ๒) ชนิดของการขน ก) การขนระยะใกล้ (Local Haul) คือการขนท่ีได้จำนวนเท่ียวมาก เพราะใชเ้ วลาในการเดนิ ทางน้อย ข) การขนระยะไกล (Line Haul) คือการขนส่งท่ีได้จำนวนเที่ยวน้อย เพราะใช้เวลาในการเดนิ ทางมาก

๒๗ ค) การเทียวขน (Shuttle) คือ การกลับมาขนอีกด้วยยานพาหนะคัน เดิม ระหวา่ งจุดสองจุดท่กี ำหนด ง) การผลัดเปลี่ยน (Relay) คือ การขนย้ายส่ิงอุปกรณ์หรือทหารไป ข้างหนา้ ตลอดเวลา โดยไมเ่ ปล่ยี นการบรรทุกนัน้ แต่จะเปล่ียนพลขับหรือรถลากจงู จ. การขนส่งทางอากาศ ๑) การขนส่งทางอากาศ เป็นการขนส่งท่ีมีความเร็วสูง อ่อนตัวมาก เลือกเส้นทางได้ไม่จำกัด ใช้ในพื้นท่ีเขตหน้าได้ต้ังแต่เร่ิมต้นการยุทธ แต่การขนส่งทางอากาศมีข้อจำกัดมากมายหลายประการ เช่น ต้อง มีการคุ้มครองทางอากาศฝ่ายเดียวกัน,แล้วแต่สภาพลม ฟ้า อากาศ อ่อนแอต่อการยิง มีความจุน้อย ระยะทำ การจำกัด ความสิ้นเปลอื งสงู มาก และต้องอาศัยสิง่ อำนวยความสะดวกในการบินขึน้ ลง ๒) วิธสี ง่ สง่ิ อุปกรณท์ างอากาศทำได้ ๒ วธิ ี คอื .- ๑) ด้วยการบินลง ใชม้ ากที่สดุ มปี ระสิทธิภาพสูงสุด ๒) ดว้ ยการสง่ ลงทางอากาศ ๑) ทิ้งลงด้วยความเร็วต่ำ ใช้ร่มชูชีพหนึ่งร่มหรือมากกว่า และมีวัสดุ กนั กระเทอื น เช่น การทง้ิ ปืนใหญ่ รถยนต์ เปน็ ต้น ๒) ทิ้งลงด้วยความเร็วสูง ใช้ร่มชูชีพขนาดเล็ก เช่น การทิ้งอาหาร ,กระสนุ ๓) ทิ้งลงด้วยอิสระ ไม่ใช้เครื่องหน่วงการตก มีแต่วัสดุกันกระเทือน เชน่ การท้ิงวสั ดุป้อมสนาม,สายโทรศัพท์ เป็นต้น ๓) การขนส่งกำลังทางอากาศยามฉุกเฉิน หน่วยที่ต้องการให้ส่งกำลังทางอากาศยามฉุกเฉิน เสนอคำขอตอ่ สายงานมายัง สธ.๔ ของกำลงั พล โดยเครือ่ งมือสอื่ สารที่เร็วทส่ี ุด สธ.๔ จะเสนอตรงไปยังกองทัพ เพ่ือดำเนินการต่อไป หน่วยทเ่ี สนอคำขอเปน็ ผเู้ สนอประเภทเครื่องบนิ และวธิ กี ารส่งลง หน่วยรับผิดชอบในการ เก็บกู้อปุ กรณ์ และเคร่ืองบรรจุท่ที ิง้ ลงทางอากาศ ฉ. การขนสง่ เบด็ เตลด็ การขนสง่ เบ็ดเตล็ด กค็ ือการขนส่งที่มใิ ช่วิธีการขนสง่ ท้ัง ๕ วิธีดังกล่าวแลว้ เช่น ใช้คนหาบหาม สตั ว์ต่าง ลอ้ เลื่อน สายเคเบลิ ขา้ มเหวลกึ และอืน่ ๆนอกจากท่กี ลา่ วมาแลว้ ............................................................................................................... ..............

๒๘ ตอนที่ ๖ การบริการทางการแพทย์ ๑. กลา่ วทว่ั ไป ก. การบริการทางการแพทย์ มีความมุ่งหมายเพื่อถนอมกำลังพล ด้วยการดำรงไว้ซ่ึง คุณภาพและ พลานามัยท่ีเหมาะสมต่อการปฏิบัตกิ ารทหาร โดยจัดบริการป้องกันทางการแพทย์ เพ่ือมิให้กำลังพล เกิดความ เจบ็ ป่วย จัดให้มีการรักษาพยาบาล อย่างมีประสิทธิภาพ และจดั การบริการอื่นๆ เพ่ือเพิ่มพูนประสทิ ธภิ าพของ การบรกิ ารสายแพทย์ ข. การบริการสายแพทย์ ประกอบด้วย ๑) การสง่ กลบั และการรักษาพยาบาล ๒) การบริการเวชกรรมปอ้ งกัน ๓) บริการชันสตู ิโรค ๔) การบริการโลหิต ๕) บรกิ ารทันตกรรม ๖) บริการที่ตรวจโรคและที่ปฐมพยาบาล ๗) บริการโรคจิตประสาท ๘) บรกิ ารตรวจสุขภาพทหาร ๒. การบริการทางการแพทย์สนบั สนนุ ส่วนกลาง, ส่วนภูมิภาค และสว่ นการศึกษา (หนว่ ยใช้ อฉก.) ก. โรงพยาบาล ปัจจบุ ันมี ๓๗ แห่ง แบ่งออกไดด้ ังน้ี.- ๑) โรงพยาบาลสงั กดั ทบ. หรอื หนว่ ยสว่ นกลาง ก. โรงพยาบาลพระมงกฎุ เกล้า เป็นโรงพยาบาลของ ทบ. ข. โรงพยาบาลอานันทมหิดล เปน็ นขต.พบ. ค. โรงพยาบาลคา่ ยสรุ นารี เป็น นขต.พบ. ฝากการบงั คับบัญชาไว้กบั ทภ.๒ ๒) โรงพยาบาลสังกดั หน่วยการศกึ ษา ก. โรงพยาบาลคา่ ยธนะรัชต์ เปน็ นขต.ศร. ข. โรงพยาบาล รร.จปร. เป็น นขต.รร.จปร. ๓) โรงพยาบาลกองทพั ภาค ก. โรงพยาบาลค่ายสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช เป็น นขต.ทภ.๓ ข. โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ เปน็ นขต.ทภ.๔ ๔) โรงพยาบาลมณฑลทหารบก จำนวน ๑๐ แห่ง ๕) โรงพยาบาลจงั หวดั ทหารบก จำนวน ๒๐ แห่ง ข. กองพยาบาล ค. แผนกพยาบาล ง. หมวดพยาบาล จ. หนว่ ยตรวจโรค

๒๙ ๓. นโยบายการสง่ กลบั *นโยบายการส่งกลับ เป็นเครื่องมือควบคุมมิให้ส่งกลับผู้ป่วยเจ็บ ไปข้างหลังไกลเกินความจำเป็นต่อ สภาพการเจ็บป่วย ท้ังน้ีเพื่อหลีกเหลี่ยงการสูญเสียกำลังพลโดยไม่จำเป็น ทำให้สามารถรักษาผู้ป่วยที่เลือกไว้ บางประเภทได้ดีข้ึน โดยธรรมดานโยบายการส่งกลับจะกำหนดตามพื้นท่ี,ประเภทของสถานพยาบาล,และ ประเภทผู้ปว่ ย

๓๐ ตอนที่ ๗ การบรกิ ารอน่ื ๆ ๑. กลา่ วทั่วไป การบริการอื่นๆ เป็นงานกึ่งหน่ึงของการส่งกำลังบำรุง ซึ่งเป็นการบริการแก่หน่วย และ/หรือกำลังพล นอกเหนือจากการบริการทางการแพทย์ การบริการอื่น ๆ จะประกอบไปด้วย การก่อสร้างและซ่อมแซมท้ังใน ที่ตั้งปกติและในสนาม การอสังหาริมทรัพย์ การสาธารณูประโภค การดับเพลิง การที่พัก การประปา การ ป้องกัน คชรน. การทำลายลา้ งวัตถุระเบดิ การพราง เปน็ ต้น ๒. การดับเพลิง เป็นความรับผิดชอบของ วศ.ทบ. ซึ่งจะดำเนินการในเรื่องการส่งกำลังส่ิงอุปกรณ์ดับเพลิง เว้น รถดับเพลิงและอุปกรณ์ประจำรถดับเพลิง การดับเพลิงและการป้องกันอัคคีภยั อยู่ในความรับผิดชอบของ ผบ. หนว่ ยทหารทกุ ระดบั ๓. การปอ้ งกนั คชรน. เป็นความรับผิดชอบของ วศ.ทบ. ในการดำเนินการสำรวจพื้นท่ีเป็นพิษ การทำลายล้างพ้ืนท่ีเป็นพิษ การต้ังสถานีทำลายล้างพิษกำลังพลเป็นบุคคล วศ.ทบ. จะจัดต้ังเจ้าหน้าที่ชุดพิเศษชุดวิทยาศาสตร์ ขึ้น ปฏบิ ัติการสนับสนุนหน่วยกำลังรบในดา้ นการป้องกัน คชรน. หรอื แบ่งมอบให้เป็นหน้าท่ีของ ร้อย วศ.สนับสนุน โดยตรง ชุด วศ. หรือ ร้อย วศ.นี้ จะขึ้นอยู่กับหน่วยทหารระดับกองพลข้ึนไป แต่ วศ.ทบ. เป็น ผู้ควบคุม ทางเทคนคิ อย่างใกล้ชดิ ตลอดเวลา .............................................................................................................. .

๓๑ ตอนท่ี ๘ ศัพทท์ างการสง่ กำลงั บำรงุ ท่ีควรทราบ ๑. ส่ิงอุปกรณ์ (Supplies) หมายถึง สิ่งของที่จำเป็นทั้งมวลสำหรับหน่วยทหาร รวมทั้งที่มีไว้เพื่อการ ดำรงอยู่ และการปฏิบัตกิ ารของหน่วยทหารดว้ ย เช่น อาหาร เครอ่ื งแต่งกาย เช้ือเพลงิ สัตว์ ยานพาหนะ อาวุธ กระสุน วตั ถรุ ะเบดิ เครอ่ื งจกั รกล ตลอดจนเครื่องมอื เครอื่ งใชต้ า่ งๆเป็นตน้ ๒. ยุทธภัณฑ์ (Materiel) หมายถงึ สิ่งอุปกรณ์ท้ังมวลอันจำเป็นเพ่อื ปฏิบตั ิการ เพ่ือดำรงและสนับสนุน การปฏิบัติการรบของหน่วยทหาร (รวมถึง เรือรบ รถถัง อาวุธอัตตาจร อากาศยาน ฯลฯ และอะไหล่ท่ี เกี่ยวข้อง ช้ินส่วนอะไหล่ ช้ินส่วนซ่อม และอุปกรณ์สนับสนุน แต่ไม่รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ สถานท่ีตั้ง และ สาธารณูประโภค ๓. ยุทโธปกรณ์ (Equipment) หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ท้ังมวล ท่ีต้องการจัดให้บุคคลหรือหน่วยทหาร ไดแ้ ก่ อาวธุ ยานพาหนะ เครื่องแต่งกาย เคร่อื งมอื ฯลฯ ๔. วัสดุ (Matreial) หมายถึง ชิ้นสว่ นหรือสง่ิ ของตา่ งๆ ซึง่ ไดถ้ ูกประกอบข้นึ หรอื ทำขึ้น ๕. สายการบังคบั บัญชา คอื ความเก่ียวพันในทาง การบังคับบญั ชา ตามลำดับ เช่น กองพัน กรม กองพล กองทัพภาค กองทพั บก ๖. สายการสง่ กำลัง คือ ความเก่ยี วพนั ในทางสง่ กำลังของหนว่ ยลำดบั เช่น หน่วยใช้ หน่วยสนับสนุนโดยตรง หน่วยสนับสนุนส่วนรวม กรมฝ่ายยุทธบริการ ทบ. ๗. ตำบลส่งกำลัง (ตส.) คอื ท่ีต้ังและที่ปฏิบัติงานทางการส่งกำลังของเจ้าหน้าที่ระดับกองทัพภาคข้ึนไป เพอ่ื สะสม เก็บรกั ษา และแจกจ่าย สป. ๘. ตำบลจ่าย (ตจ.) คือ ท่ีต้ังและท่ีปฏิบัติงานทางการส่งกำลังของเจ้าหน้าท่ีระดับกองพลลงมา เพ่ือ การรบั /จา่ ย สป. ๙. สำนักงานกระสุนของพล (สกน.) คือที่ต้ังและที่ปฏิบัติงานของนายทหารกระสุนของกองพล เพื่อ ควบคมุ และประสานงานการใช้ สป.๕ ในกองพล ๑๐. อัตราการจัดและยุทโธปกรณ์ (อจย.) คือ เอกสารที่ ทบ.กำหนดข้ึน และแจกจ่ายแก่หน่วยระดับ ต่างๆแบง่ ออกเป็น ๔ ตอน ตอนที่ ๑ – ภารกิจและขีดความสามารถ ตอนที่ ๒ - ผงั การจดั ตอนที่ ๓ – อตั รากำลังพล ตอนที่ ๔ – อัตรายุทโธปกรณ์ ๑๑. อัตราส่ิงอุปกรณ์ (อสอ.) คือ เอกสารท่ี ทบ.กำหนดข้ึน และแจกจ่ายแก่หน่วยระดับต่างๆ ซ่ึงเป็น สป.ท่ี ทบ.จดั หาโดยเงนิ งบประมาณของ ทบ. ๑๒. อัตราอาคาร (ออค.) คือ เอกสารท่ี ทบ.กำหนดข้ึน และแจกจ่ายแก่หน่วยระดับต่างๆ เช่น อัตรา อาคารของหน่วยทหารใน ทบ. และ สป.ประจำอาคารนน้ั ๆ

๓๒ ๑๓. อัตราเฉพาะกิจ (อฉก.) คือ เอกสารที่ ทบ.กำหนดข้ึน เพ่ือการจดั หน่วยเป็นการช่ัวคราว และไม่มี อตั ราการจดั ท่เี หมาะสมแน่นอน ๑๔. อตั ราพิกัด คอื ปริมาณ สป.ที่ ทบ.อนมุ ัตใิ หห้ น่วยมไี วค้ รอบครอง เพ่ือการปฏิบัตงิ านได้ทันที ๑๕. วันส่งกำลัง หมายถึง ปริมาณ สป.ท่ีประมาณว่าจะต้องใช้ส้ินเปลืองใน ๑ วัน โดยอาศัย สถานการณ์ การปฏิบตั ิ และกำลังรบเปน็ มูลฐาน ๑๖. สิ่งอุปกรณ์ที่ต้องควบคมุ คือ สป.ทจ่ี ัดได้ยาก มีราคาสูง และต้องใชเ้ วลาในการผลิตนาน ซึ่งหน่วย เหนือ ประกาศให้ควบคุมระบบการสง่ กำลัง ๑๗. ระดับส่งกำลัง คือ ปริมาณ สป.ท่ีได้รับอนุมัติให้สะสมไว้ ณ ที่ตั้งทางการส่งกำลังต่างๆ เพ่ือให้ การสง่ กำลังเปน็ ไปอย่างสมบรู ณแ์ ละตอ่ เนอื่ ง ๑๘. ระดับปลอดภัย คือ ปริมาณ สป.ท่ีคิดเพิ่มจากระดับ สป.เกณฑ์ปฏิบัติการ เพ่ือให้การปฏิบัติการ เป็นไปโดยต่อเนื่อง ในกรณีท่ีมีเหตุขัดข้องในการเบิกเพิ่มเติม หรือ เกิดความไม่ราบร่ืน ชะงัก ตอนในการส่ง กำลงั โดยมิได้คาดหมายเอาไว้ ๑๙. ระดับปฏิบัติการ คือ ปริมาณ สป.ท่ีกำหนดข้ึนเพ่ือให้การส่งกำลังเป็นไปโดยต่อเน่ือง ทุกขณะใน หว้ งเวลาเบิก หรอื หว้ งเวลารบั สป.ที่ส่งมาเพ่ิมเตมิ ๒๐. เวลาในการเบิกและจัดส่ง คือ จำนวนวัน นับต้ังแต่เวลาที่หน่วยเบิกส่งใบเบิก จนถึงวันที่ได้รับ สป.ตามใบเบิกนน้ั ๒๑. จุดเบกิ (จุดเพม่ิ เติม) คือ จุดซ่ึงเร่ิมตน้ ทำการเบกิ สิ่งอปุ กรณ์เพ่มิ เติม เพ่อื รักษาระดบั สะสมเอาไว้ ๒๒.เกณฑ์สะสม คือ ปริมาณของส่ิงอุปกรณ์ท่ีมากท่ีสุดที่ได้รับอนุมัติให้มีไว้คงคลัง เพื่อให้การ ปฏิบตั ิการเปน็ ไปอยา่ งต่อเนื่อง ๒๓. เกณฑ์เบิก คือ ปริมาณของส่ิงอุปกรณ์ที่มากที่สุดในสายทางเดินส่งกำลังท่ีได้รับอนุมัติให้มี เพื่อ สนบั สนุนการปฏบิ ัติการใหเ้ ป็นไปอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ๒๔. หน่วยใช้ คอื หนว่ ยหรอื ผูใ้ ชท้ ่ีไดร้ ับผลประโยชนจ์ าก สป.น้นั ๆ ๒๕. หน่วยจา่ ย คอื หน่วยซง่ึ ทำการแจกจ่าย สป. ให้แกห่ น่วยใช้หรอื ผใู้ ช้ ๒๖. หน่วยสนับสนุนโดยตรง คือ หนว่ ยสนบั สนุนทีม่ หี นา้ ที่สนับสนนุ โดยตรงใหแ้ กห่ น่วยใช้ ๒๗. หน่วยสนับสนุนทั่วไป หรือสนับสนุนส่วนรวม คือ หน่วยสนับสนุนท่ีมีหน้าท่ีสนับสนุนหน่วย สนับสนุนโดยตรง หรือหน่วยอื่นๆตามคำสง่ั ๒๘. รอบเสบียง คือ เสบยี งท่ีใช้บริโภคในรอบ ๑ วัน อาจเริม่ ตน้ ในม้ือใดก็ได้ ๒๙. ย่านเสบียง คือ กำหนดการเบิกเสบียง เพ่ือนำมาใช้บริโภค นับต้ังแต่วันเบิกจนถึงวันรับมาใช้ บรโิ ภค ๓๐. ตำบลจ่ายสง่ิ อุปกรณ์ประเภท ๑(ตจ.สป.๑) คือ ทีต่ ั้งและทปี่ ฏบิ ตั ิงานของเจา้ หน้าที่สง่ กำลัง สป.๑ ๓๑. ตำบลจ่ายสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๓(ตจ.สป.๓) คอื ทตี่ ้ังและที่ปฏิบัตงิ านของเจา้ หน้าทส่ี ่งกำลัง สป.๓ ๓๒. ตำบลส่งกำลงั กระสุนท่วั ไป คอื ท่ีตั้ง และท่ปี ฏิบตั ิงานของเจ้าหน้าทสี่ ง่ กำลงั กระสนุ ทกุ ชนดิ ๓๓. ตำบลส่งกำลังหรือตำบลจ่ายสิ่งอุปกรณ์ประเภท ๒ และ ๔ (ของสายยุทธบริการต่างๆ) คือ ท่ีตั้ง และทปี่ ฏบิ ัติงานของเจ้าหน้าที่ส่งกำลงั สป.๒ และ ๔ ของสายยุทธบริการทรี่ บั ผิดชอบใน สป.น้ันๆ

๓๓ ๓๔. เส้นหลักสง่ กำลัง (สลก.) คือ เสน้ ทางหลกั ท่ีกองพลกำหนดใชส้ ่งกำลังให้กับหนว่ ยรอง ๓๕. ตำบลควบคู่การจราจร คือ ตำบลควบคุมการจราจรทางพ้ืนดิน โดยการต้ังเป็นจุดตรวจขึ้น ณ บริเวณท่คี ับขนั ต่างๆ โดยธรรมดากองพลเป็นผกู้ ำหนด ๓๖. บก.จราจร คือ ที่ตง้ั ละท่ปี ฏิบัตงิ านของเจา้ หนา้ ทค่ี วบคมุ การจราจรของกองพล ๓๗. ทีป่ ฐมพยาบาลกองรอ้ ย คอื ท่ีตั้งและทป่ี ฏิบัติงานของนายสบิ พยาบาลกองร้อย ๓๘. ท่ีพยาบาลกองพัน คือ ที่ต้ังและท่ีปฏิบัติงานของหมวดเสนารักษ์กองพัน เพ่ือทำการส่งกลับ และ รักษาพยาบาลให้แกห่ นว่ ยในอตั ราหรอื หน่วยสมทบ ๓๙. ที่พยาบาลหน้าของกองพล คือ ที่ต้ังและท่ีปฏิบัติงานของกองร้อยเสนารักษ์ของกองพันเสนารักษ์ กองพล เพอ่ื ทำการสง่ กลบั และรักษาพยาบาลสนับสนนุ กรม ร. ๔๐. ท่ีพยาบาลกองพล คือ ท่ีตั้งและที่ปฏิบัตงิ านของกองร้อยสนับสนุนของดกองพนั เสนารักษ์กองพล เพื่อทำการส่งกลบั และรกั ษาพยาบาลสนบั สนุนหนว่ ยในพ้ืนที่สว่ นหลงั ของกองพล ๔๑. หมวดเสนารกั ษ์ กรม ร. คอื ที่ตงั้ และทปี่ ฏบิ ตั ิงานของ มว.สร.กรม ร. *๔๒. ตำบลรวบรวมสงิ่ อุปกรณ์เก็บซ่อม คอื ตำบลทก่ี ำหนดขน้ึ เพอ่ื ทำการ รวบรวม สป. ท่ีชำรุดใชก้ าร ไม่ได้ รวมท้ัง สป.ท่ียึดได้แล้วแยกให้สายยุทธบริการต่างๆรับไป หรือส่งไปยังตำบลรวบรวมของกองทัพ (ดำเนินการโดย หมู่ สป.๒และ๔ มว.ส่งกำลัง กอง พธ.พล.) ในกองพลท่ีมี กรม สน.จะมีการจัดตั้ง ต.รวบรวม สป.เก็บซอ่ ม และ ต.รวบรวม สป.ซ่อมบำรงุ อยู่ใกล้กนั หรือเปน็ ตำบลเดียวกันโดย พนั ซบร.เปน็ ผดู้ ำเนนิ การ *๔๓. ตำบลรวบรวม สป.จำหน่าย คือ ตำบลที่กำหนดข้ึน เพื่อทำการรวบรวม สป.จำหน่าย )สป.ที่ ไดร้ ับอนมุ ัติให้จำหน่ายแลว้ ) และซาก สป.จำหน่าย (สป.จำหน่ายทีผ่ า่ นการคัดแยกและจำแนกออกเปน็ รายการ แล้ว พร้อมท่ีจะดำเนินกรรมวิธีต่อซากต่อไป) ณ ตำบลรวบรวม สป.จำหน่ายนี้ จะทำหน้าที่ รับ คัดแยก เก็บ รกั ษา และทำหลกั ฐานเอกสาร บญั ชี สป.จำหน่าย และซาก สป.จำหน่าย *๔๔. หน่วยซ่อมบำรุงและตำบลซ่อมบำรุง (ซบร.) คือที่ต้ังและที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีซ่อมบำรุง และส่งกำลังชนิ้ ส่วยซอ่ ม ๔๕. ตำบลทำน้ำของกองพล คอื ที่ตั้งและที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พัน ซ พล. เพื่อบริการน้ำประปา สนาม ๔๖. ตำบลอาบน้ำ คือ ท่ีตัง้ สถานบรกิ ารอาบนำ้ ของ พธ.พล. ๔๗. ขบวนสัมภาระของหน่วย(สภ.) คอื ขบวนสัมภาระของหนว่ ยระดับตา่ งๆ ๔๘. พ้ืนที่ขบวนสัมภาระ (พท.สภ.) คือบริเวณพื้นที่ต้ังละที่ปฏิบัติงานของขบวนสัมภาระ ของหน่วย ระดบั ต่างๆ ๔๙. ขบวนสมั ภาระรบ (สภ.รบ.) คือขบวนสัมภาระสว่ นหนึ่งท่ีแยกออกไปจากขบวนสัมภาระส่วนใหญ่ ของหนว่ ย ๕๐. ขบวนสมั ภาระพกั (สภ.พกั ) คิอสัมภาระส่วนใหญ่ที่เตรียมการสนบั สนนุ ใหแ้ กข่ บวนสมั ภาระรบ ๕๑. ยอดคงคลัง คือ จำนวน สป.ท่ีใช้การได้ ที่มีอยู่ในความครอบครองของหน่วย ตามบัญชีคุมใน ขณะนั้น *๕๒. ค้างรับ คือ จำนวน สป. ซ่งึ หน่วยไดเ้ บิกไปแล้ว แต่ยังไมไ่ ด้รบั

๓๔ *๕๓. ค้างจ่าย คอื จำนวน สป.ซง่ึ คลังแจกจ่ายไม่สามารถจ่ายใหห้ น่วยเบิกตามทเ่ี บิกขอมาได้ *๕๔. การควบคุมส่ิงอุปกรณ์ หมายถึง การควบคุมทางบัญชี และการควบคุมทางการสง่ กำลงั *๕๕. การควบคุมทางบัญชี หมายถึง วิธีดำเนินการในการควบคุม สป.ที่เก่ียวกับ การควบคุมการ แจกจ่าย การจ่ายเพิ่มเติม การรวบรวม บันทึก รายงาน และจัดทำมาตรฐานถาวรต่างๆ การสำรวจ การ รายงานสภาพ สป. การกำหนดนโยบายเกี่ยวกับระดับ สป. เพื่อการประหยัดโดยตอ่ เน่อื งทุกขั้นตอนในสายการ ส่งกำลัง และสายการบังคับบัญชา โดยนับตั้งแต่ สป.ได้เร่ิมเข้าสู่ระบบการส่งกำลังไปจนกระท่ังหน่วยใช้ได้ใช้ หมดสนิ้ ไป และไดร้ บั อนุมัติให้จำหน่ายจากบัญชคี มุ ของ ทบ.แลว้ *๕๖. การควบคุมทางการส่งกำลัง หมายถึง วิธีดำเนินการเกี่ยวกับ ระบบการรายงาน การคำณวน การรวบรวมข้อมลู และการแประเมินคา่ เพ่ือให้ สป.ตามความต้องการท้ังสิ้น ไดส้ ่วนวัมพันธ์กับทรัพย์สินท่มี ีอยู่ อันจะเปน็ แนวทางในการประมาณการดา้ นงบประมาณ การจดั หา การแจกจา่ ย และการจำหน่าย สป. ๕๗. สิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูป หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ท่ีเกิดจากการรวมเข้าด้วยกันของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป องค์ประกอบ ส่วนประกอบช้ินส่วน และ/หรือ วัสดุ ซ่ึงพร้อมท่ีจะใช้ได้ตามความมุ่งหมาย เช่น เรือ รถถัง เคร่ืองบิน เปน็ ตน้ ๕๘. องค์ประกอบ หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ท่ีเกิดจากการรวมเข้าด้วยกันของส่วนประกอบและชิ้นส่วน ต่างๆ ซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้ในตัวเอง แต่ต้องอาศัยการควบคุมจากภายนอก หรืออาศัยการขับเคลื่อนจาก แหล่งอื่นประกอบด้วย เชน่ เคร่อื งยนต์ และเครือ่ งกำเนิดไฟฟา้ เปน็ ตน้ ๕๙. ส่วนประกอบ หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ซึ่งประกอบด้วยช้ินส่วนต่างๆ ท่ีเชื่อมต่อหรือสัมพันธ์กันตั้งแต่ ๒ ช้นิ ขึน้ ไป และสามารถถอดแยกออกจากกันได้ เช่น เครอื่ งเปลี่ยนความเรว็ และคาบูเรเตอร์ เป็นตน้ ๖๐. ช้ินส่วน หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ หรือเป็นสิ่งอุปกรณ์ที่ได้ออกแบบไว้ ใหถ้ อดแยกจากกันไม่ได้ เชน่ หลอดวิทยุ ยางนอกรถยนต์ ลำกลอ้ งปนื เปน็ ต้น *๖๑. สิ่งอปุ กรณ์สำคัญ หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อ การฝึก การรบ ราคาแพง ยากต่อการ จดั หาหรือการผลิต มคี วามต้องการไม่แน่นอน อาจจะขาดหรือเกินอย่เู สมอในระบบการสง่ กำลัง และ/หรือเป็น รายการท่ีอาจเกิดวิกฤตในวสั ดุขน้ั มูลฐาน โดยฝา่ ยยทุ ธบริการท่ีรับผิดชอบเสนอบัญชีรายการใหก้ องทพั บก ประกาศเป็นส่ิงอุปกรณ์สำคัญ เช่น รถถัง, ชุดเรดาห์, เคร่ืองแต่งกายพิเศษ, โทรศัพท์สนาม และหน้ากาก ปอ้ งกนั ไอพษิ เปน็ ตน้ *๖๒. สิ่งอุปกรณ์หลัก หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ที่ใชเ้ วลาในการจัดหานาน และราคาแพง แต่มิไดร้ ะบุไว้เป็น ส่ิงอุปกรณ์สำคัญ โดยกรมฝ่ายยุทธบริการที่รับผิดชอบจัดทำบัญชีและประกาศเป็นส่ิงอุปกรณ์หลักได้เอง เช่น เคร่ืองมอื กอ่ สรา้ ง และเครอื่ งมือสอ่ื สารประจำที่ เป็นตน้ *๖๓. สิ่งอปุ กรณ์รอง หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์สำเรจ็ รูปทุกรายการ ซ่ึงมิได้ระบุไวเ้ ป็นสิ่งอุปกรณ์สำคญั และ สงิ่ อุปกรณ์หลัก โดยทั่วไปแล้วส่ิงอุปกรณ์เหล่านี้ จะใช้เวลาในการจัดหาส้ัน ราคาถกู และง่ายต่อการจัดหา เช่น เคร่อื งแต่งกาย เคร่อื งสนาม สิ่งอปุ กรณ์ท่วั ไป เครอื่ งใชป้ ระจำบ้านพกั และน้ำมัน เป็นต้น ..............................................................................................................

๓๕ ตอนที่ ๙ ระเบียบ ทบ. วา่ ด้วยความรับผดิ ชอบในส่งิ อุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๕๕ ที่ควรทราบ ฯลฯ ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบ ทบ.ว่าด้วยความรับผิดชอบใน สป.พ.ศ.๒๕๓๕ และระเบียบคำสั่ง และคำ ช้ีแจงอื่นทขี่ ดั แยง้ กับระเบยี บนี้ ใหใ้ ช้ระเบียบน้ี ฯลฯ “ข้อ ๔.๑๔ ส่ิงอุปกรณ์สายวิทยาศาสตร์ หมายถึง อาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด ทางเคมี-ชีวะ-รังสี- นวิ เคลียร์ เคร่ืองมือ วัสดุ อุปกรณ์ ท่ีใช้ทางเคมี-ชวี ะ-รังสี-นิวเคลียร์และทางวทิ ยาศาสตร์ เคร่ืองดับเพลิง และสารเคมีท่ใี ชใ้ นการดับเพลิง สารเคมีที่ใช้ในการผลิตนำ้ ประปา กา๊ ซ นำ้ กรด น้ำกล่นั และไพโรเทคนิค” ฯลฯ ข้อ ๖ ความรับผิดชอบใน สป. ให้กรมฝ่ายยุทธบริการ รวมทั้งกรมฝ่ายกิจการพิเศษ รับผิดชอบส่ิง อปุ กรณ์ ดังนี้.- ๖.๑ กรมฝ่ายยุทธบริการ ได้แก่ กส.ทบ.,ขส.ทบ.,กช.,พธ.ทบ.,ยย.ทบ.,วศ.ทบ.,สส.และ สพ. ทบ. รับผิดชอบ สป.แต่ละสายยุทธบริการตามหน้าที่ของหน่วยท่ีระบุไว้ในการแบ่งส่วนราชการ และกำหนด หน้าที่ของส่วนราชการ ทบ. ทั้งนี้ให้รับผิดชอบ รวมถึงช้ินส่วนซ่อมยาง และแบตเตอรี่ เครื่องมือใช้ในการผลิต สร้าง ทดสอบ ฝึกอบรม ซ่อมบำรุง คู่มือการซ่อมบำรุง คู่มือการใช้งานและเคร่ืองช่วยฝึก สำหรับส่ิงอุปกรณ์ที่ กำหนด ให้รบั ผดิ ชอบตามหน้าที่ของหน่วย ๖.๒ สบ.ทบ. รับผิดชอบเอกสารแบบธรรมเนียมและแบบพิมพ์ เว้นที่กำหนดให้อยู่ในความ รับผดิ ชอบของสายงานอ่นื ๖.๓ สก.ทบ.รับผิดชอบเครื่องดนตรีและเครื่องประกอบการเล่นดนตรี เคร่ืองกีฬา เคร่ือง ประกอบการเล่นกีฬา และเคร่ืองแต่งกายสำหรบั การแขง่ ขนั กีฬา ๖.๔ ยศ.ทบ.รับผดิ ชอบหนงั สอื ตำรา คู่มอื ที่ใช้ในการฝึกศึกษาของหน่วยเหลา่ สายยุทธบริการ รวมทง้ั แผ่นภาพ เครอื่ งชว่ ยฝึก ข้อ ๗ ให้กรมฝ่ายยุทธบริการและกรมฝ่ายกิจการพิเศษตามท่ีระบุไว้ในข้อ ๖ กำหนดรายการ สป.ได้ ตามความเหมาะสม โดยพจิ ารณาร่วมกับ กบ.ทบ. ฯลฯ ....................................................................................................................................

๓๖ ตอนที่ ๑๐ (สำเนา) คำส่งั ทบ. ท่ี ๔๘๗/๒๕๔๓ เรอ่ื ง กำหนดภารกิจ นโยบาย แนวความคิด และความรับผิดชอบในการส่งกำลังบำรงุ ของ ทบ. เพื่อให้การสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงของกองทัพบก เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสมกับ สถานการณแ์ ละการจดั ต้งั หนว่ ยในปจั จบุ ัน ตลอดจนเป็นการวางหลักนยิ มและระบบการสง่ กำลงั บำรุงของกองทัพบกไปในแนวทางเดียวกัน โดยมีหลักฐานที่อ้างอิงแน่นอน จึงให้ยกเลิกคำส่ังกองทัพบกท่ี ๘๐๗/๒๕๒๘ เร่ือง กำหนดภารกิจนโยบาย แนวความคิด และความรับผิดชอบในการส่งกำลังบำรุงของ กองทัพบก ลง ๓๑ ส.ค.๒๕๒๘ และอนุมัติหลักการที่เกี่ยวข้องท้ังสิ้น และให้ยึดถือการกำหนดภารกิจ นโยบาย แนวความคดิ และความรบั ผิดชอบในการส่งกำลังบำรุงของกองทัพบก ตามคำสง่ั ฉบบั น้ีแทน ๑. ภารกจิ ในการสง่ กำลงั บำรงุ ของกองทพั บก ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๐๓ กำหนดให้กองทัพบกมี หน้าท่ีเตรียมกำลังกองทัพบก และป้องกันราชอาณาจักร ผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ ดงั น้นั เพือ่ ให้สอดคล้องกับหนา้ ท่ีได้รับจงึ กำหนดภารกิจในการสง่ กำลงั บำรุงของกองทัพบกดังน.ี้ - ๑.๑ สนับสนุนทางการส่งกำลงั บำรุงแก่หน่วยต่างๆในกองทพั บก ใหส้ ามารถอยู่ได้และสามารถ ปฏิบัตภิ ารกิจไดส้ ำเร็จตามความมงุ่ หมายและเปน็ ผลดีแก่กองทัพบก ๑.๒ สนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงให้แก่เหล่าทัพอ่ืนๆ หน่วยราชการและองค์กรท่ีได้รับการ รอ้ งขอ รวมทง้ั กำลังชาติพนั ธมติ รตามท่ีมขี ้อตกลงกนั ไว้ ๒. นโยบายในการส่งกำลงั บำรุงของกองทัพบก ดำเนนิ การส่งกำลังบำรุงตามหลกั การสง่ กำลังบำรุงดังน้ี ๑. การรวมการสนับสนุน หมายถึงการรวมขีดความสามารถในการสนับสนุน ทางการส่งกำลังบำรุงของหน่วยสนับสนุนทง้ั ปวง ไปสนับสนุนหน่วยทางยุทธวิธี ให้สามารถปฏิบตั ิภารกิจตามที่ ได้รบั มอบ ๒. การสนับสนุนจากข้างหลังไปข้างหน้า หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุง ท่อี ยูใ่ นเขตหลงั หรอื ใกลก้ บั ฐานการสง่ กำลงั บำรุง จะต้องใหก้ ารสนับสนนุ แก่หนว่ ยท่อี ยใู่ กลพ้ น้ื ท่ีการรบ ตามลำดับ รวมทั้งหมายถึงการสนับสนุน จะกระทำจากหน่วยเหนือไปหน่วยรองด้วย เพื่อเป็นการปลดเปล้ือง ภารระงานด้านการสง่ กำลังบำรุงของหน่วยรองให้มากท่สี ดุ ๓. ความเชื่อถือได้ หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงจะต้องมีขีดความสามารถ ซึ่งทำให้หน่วยรับการสนับสนุนมีความม่นั ใจไดว้ ่าจะรับการสนับสนุน ไดต้ ามเวลาและสถานท่ีท่ีวางแผนไว้ ใน การนี้จำเป็นต้องมีแหล่งสนับสนุนสำรองและแผนสำรองไว้ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับช้ันจะต้องป้องกันแหล่ง สนับสนนุ ของตนจากการสญู หายจากสาเหตุตา่ งๆ ตลอดจนการใชอ้ ย่างไม่ประหยดั ๔. ความง่ายความยุ่งยากสลบั ซับซอ้ นเกยี่ วกบั ระบบการส่งกำลังบำรงุ จะตอ้ งมีนอ้ ย ที่สุด ระบบการส่งกำลังบำรุงที่ดีควรหลีกเหล่ียงแบบพิมพ์ท่ีต้องกรอกข้อความต่างๆ โดยท่ีไม่ให้นำข่าวสารที่

๓๗ กรอกนั้นมาใช้ประโยชน์ ต้องไม่ผ่านสายงานและเจ้าหน้าท่ีมาก ตลอดจนต้องไม่มีการขออนุมัติหลายลำดับชั้น ความง่ายนย้ี ังหมายรวมถึงการใช้ส่งิ อุปกรณท์ ี่ใชร้ ่วมกนั ได้หลายๆรายการ สามารถใช้งานและถอดประกอบและ ซ่อมบำรงุ ได้โดยง่ายอีกดว้ ย ๕. การทันเวลาการส่งกำลังบำรุงจะต้องมีและใช้ได้ในปริมาณท่ีต้องการ ณ เวลา และสถานที่ที่กำหนดเฉพาะเรื่องเวลาน้ันตอ้ งให้มคี วามพอดี โดยไม่ลา่ ชา้ แต่ไม่ควรก่อนเวลามากนกั ๖. การได้ส่วนสัมพันธ์ การจัดหน่วยส่งกำลังบำรุงต้องให้เหมาะสมกับความ ต้องการในการสนับสนนุ ไม่น้อยเกินไป จนทำให้สว่ นดำเนินการกลยุทธต์ ้องเสียภารกจิ ทางยุทธการ เพราะขาด การสนบั สนุนที่เพียงพอ การจัดงานของหน่วยสง่ กำลังบำรงุ เองต้องได้ส่วนสัมพันธ์กันด้วย เช่น ตอ้ งมีเจ้าหน้าที่ ซ่อมบำรุงให้สัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ส่งกำลัง หรือต้องมีหน่วยส่งกลับทางการแพทย์ให้สัมพันธ์กับหน่วย รักษาพยาบาล เป็นตน้ ๗. อำนาจหน้าท่ี ถึงแม้ความรับผิดชอบทางการส่งกำลังบำรุง จะเป็นความ รับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาแต่เพียงผู้เดียวก็ตาม แต่สมควรมอบอำนาจหน้าท่ีให้กับผู้บังคับหน่วยสนับสนุน การส่งกำลังบำรุงให้เพยงพอท่ีจะปฏิบัตหิ นา้ ที่ใหเ้ ปน็ ผลสำเรจ็ และมีความอ่อนตวั พอสมควรโดยไมถ่ ูกแทรกแท รงจากบคุ คลอน่ื ๆด้วย ๘. ความปลอดภัยทางการสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงต้องไม่ถูกขัดขวางอย่าง รุนแรง ด้วยการกระทำของขา้ ศกึ และด้วยข้อห้ามจากมาตรการรักษาความปลอดภยั ของฝ่ายเดียวกนั ๙. การประหยัด หมายถึงการใช้กำลังพล ส่ิงอุปกรณ์ การบริการและการอำนวย ความสะดวกในการส่งกำลังบำรุงเท่าท่ีจำเป็นให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยคำนึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นสำคัญ จะต้องเพ่งเล็งในเร่ืองการปรนนิบัติบำรุงและซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถใช้กับอุปกรณ์ นัน้ ๆให้คงสภาพไดน้ านท่สี ดุ ฯลฯ ความรับผิดชอบของ วศ.ทบ. ในการสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงแก่หน่วยต่างๆ (ประกอบ คำสัง่ ทบ. ท่ี ๔๘๗/๔๓ ลง ๓ ต.ค.๔๓) การสง่ กำลงั สงิ่ อปุ กรณป์ ระเภท ๒ และ๔ สนบั สนุนท่วั ไปแกก่ องบญั ชาการช่วยรบ สนับสนุนโดยตรงแก่หน่วยข้ึนตรงและหน่วยของกองทัพบก (หน่วย นอกกองทัพภาค) ทีม่ ที ตี่ ้ังปกติถาวรอยู่ในพืน้ ท่ีกองทัพภาคท่ี ๑ การส่งกำลงั และการซ่อมบำรุงสงิ่ อุปกรณ์ประเภท ๕ สายวิทยาศาสตร์ สนับสนนุ ทัว่ ไปแก่กองบญั ชาการชว่ ยรบ สนับสนุนโดยตรงแก่หน่วยข้ึนตรงและหน่วยของกองทัพบก (หน่วย นอกกองทพั ภาค) ท่ีมที ต่ี ัง้ ปกติถาวรอยใู่ นพ้ืนที่กองทัพภาคที่ ๑ การซ่อมบำรงุ สง่ิ อุปกรณป์ ระเภท ๒ และ ๔ รับผิดชอบทางเทคนิคท้ังปวง และการซ่อมบำรุงส่ิงอุปกรณ์สาย วิทยาศาสตรภ์ ายหลัง

๓๘ สนบั สนุนทั่วไปแกก่ องบัญชาการช่วยรบ สนับสนุนโดยตรงแก่หน่วยข้ึนตรงและหน่วยของกองทัพบก (หน่วย นอกกองทัพภาค) ทม่ี ีท่ตี ัง้ ปกติถาวรอยใู่ นพ้ืนทกี่ องทัพภาคที่ ๑ สนับสนุนโดยตรงแก่หน่วยต่างๆของกองทัพบก ด้วยการจัดชุดซ่อม แต่งต้งั เป็นวงรอบประจำปี หรือตามความเหมาะสมกับความจำเปน็ และงบประมาณท่ไี ดร้ ับ สนับสนุนการซ่อมบำรุงท่ีจำเป็น หรือเม่ือได้รับการร้องขอแก่หน่วย ซ่อมบำรงุ หรือหนว่ ยซ่อมบำรุงสนบั สนนุ โดยตรง การบริการ ได้แก่ การบริหารด้านการป้องกัน ทำลายล้างนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี แก่ กองบญั ชาการช่วยรบ และสนับสนุนโดยตรงแก่หน่วยอื่น ๆ ตามท่ีได้รบั มอบหมาย ฯลฯ

๓๙ การสง่ กำลงั ส่งิ อปุ กรณส์ ายวิทยาศาสตร์ สง่ิ อุปกรณป์ ระเภทที่ ๒ สาย วศ. ส่ิงอปุ กรณป์ ระเภท ๒ หมายถึง ได้แก่สิง่ ของท่จี ่ายไวป้ ระจำหน่วยหรือประจำกาย ตามที่ ทบ. กำหนด ไว้เป็นอัตราจ่ายให้แก่หนว่ ยทหาร โดยระบุไว้ใน อจย.หรือ อสอ.หรอื บัญชแี บ่งมอบอนื่ ๆ เช่น อาวุธ ยานพาหนะ และวทิ ยุ เป็นตน้ ๑. หนา้ กากปอ้ งกนั เคมี-ชีวะ สำหรบั กำลังพลท่วั ไป ป้องกัน ใบหน้า ระบบหายใจ และระบบทางเดนิ อาหารต่อสารเคมที างทหารและสารชวี ะทีเ่ ปน็ แก๊ส ไอ หรือ แอโรซอล ปจั จบุ ัน ทบ.ไทย มี M17, M17 A1, M17 A2, MF11 ,FM12 ,C50 , SGE-400/3, K10

๔๐ ๒. เครอื่ งฉดี ไฟแบกคนเดยี ว ขีดความสามารถ ใช้เผาผลาญ ทำอันตรายขา้ ศกึ ในถำ้ อโุ มงค์ สนับสนนุ ทหารราบทหารมา้ (ยานเกราะ) เข้าตเี ป้าหมาย ใน ทบ.ไทย มี ๓ รนุ่ M2A1-7 , M9A1-7, LCT1M1 M2A1-7 ขอ้ มูลจำเพาะ ระยะยงิ เชื้อเพลงิ ขน้ ๔๐-๕๐ เมตร ระยะยิงเช้ือเพลงิ ใส ๒๐-๒๕ เมตร ยงิ ติดต่อไดน้ าน ๖-๘ วนิ าที น้ำหนกั เครื่องฉีดไฟเปล่า ๑๙ กก. เคร่ืองฉีดไฟบรรจุเช้ือเพลงิ ๓๑.๕ กก. ความจเุ ชอื้ เพลิง ๑๘ ลติ ร ความดันปฏบิ ตั ิการ ๓๑๕ ปอนด์ตอ่ ตารางนิ้ว M9A1-7 ขอ้ มลู จำเพาะ ระยะยิงเชื้อเพลิงขน้ ๔๕-๕๕ เมตร ระยะยงิ เช้ือเพลิงใส ๒๐-๒๕ เมตร ยงิ ตดิ ตอ่ ได้นาน ๕-๘ วนิ าที น้ำหนัก เครื่องฉีดไฟเปล่า ๑๑.๕ กก. เครอื่ งฉีดไฟบรรจุเชอ้ื เพลงิ ๒๔ กก. ความจุเชือ้ เพลิง ๑๖ ลิตร ความดนั ปฏบิ ตั กิ าร ๒๘๕-๓๑๕ ปอนด์ต่อตารางนวิ้

๔๑ LCT1M1 ขอ้ มลู จำเพาะ ระยะยิงเช้ือเพลิงข้น ๕๐-๗๐ เมตร ระยะยงิ เชื้อเพลงิ ตอ่ เน่ือง ๒๕-๓๐ เมตร ระยะเวลายิงต่อเนอื่ ง ๙ วินาที นำ้ หนกั เครอ่ื งฉีดไฟเปล่า ๒๐.๘ กก. เครื่องฉีดไฟบรรจเุ ชอื้ เพลงิ ๓๑.๕ กก. ความจเุ ช้อื เพลงิ ๑๘ ลิตร ความดนั ปฏบิ ัติการ ๒๕ กก/ตร.ซม. ๓. เคร่อื งอดั ลม เคร่ืองอัดลมสำหรบั เครื่องฉีดไฟ และเครือ่ งกระจายสาร ใน ทบ. มี ๔ แบบ แบบ M1A1, แบบ AN/A4, แบบ บรสิ ตรอล, แบบ เบาเออร์ เครอื่ งอดั ลมแบบ M1A1, - ใช้อดั ลม เปน็ ความดันสำรอง ที่ ๑,๗๐๐-๒,๑๐๐ ปอนด/์ ตารางน้วิ - อดั ไดค้ ร้ังละ ๖ ถงั เคร่ืองอัดลมเบาวเออร์ - ใชอ้ ดั ลม เปน็ ความดนั สำรอง ท่ี ๑,๗๐๐-๒,๑๐๐ ปอนด์/ตารางน้วิ

๔๒ ๔. เครือ่ งสญั ญาณแจง้ ภยั สารเคมีอัตโนมตั ิ ใชต้ รวจจบั สารประสาทในลักษณะทีเ่ ปน็ ไอหรือแอโรซอล ซ่ึงถูกพัดพามาตามลม จากการโจมตีในพ้ืนท่ีเหนือลมข้นึ ไป มี ๒ แบบ M8A1 ,GID-3 แบบ M8A1 ขดี ความสามารถ ใชต้ รวจจับสารประสาท ทีเ่ ปน็ แกส๊ ไอ และแอโรซอล เครือ่ งสัญญาณแจง้ ภยั สารเคมีอตั โนมตั ิ (GID-3) การใช้งาน ใชใ้ นการตรวจจับสารประสาท และพุพองชนดิ แก๊ส ไอ แจกจา่ ยหนว่ ย ร้อย.วศ.๑ ตามอตั รา ๑๔ เครอื่ ง จา่ ยจริง ๖ เครื่อง ปีทจ่ี ดั หา ๒๕๔๕ ๕. ชุดเครือ่ งแต่งกายป้องกันสารพษิ หมายเลข ๑ (อากาศผ่านได้) เป็นชดุ เคร่อื งแตง่ กายป้องกัน นชค. แบบอากาศผ่านได้ใชส้ วมทับ เคร่ืองแตง่ กายธรรมดา

๔๓ คณุ ลักษณะเฉพาะ - ชุดเครอ่ื งแตง่ กายป้องกัน นชค.ประกอบด้วย เส้ือป้องกนั / กางเกงป้องกัน / หมุ้ รองเท้า / ถงุ มือชน้ั ใน / ถุงมือช้นั นอก - เสื้อและกางเกงป้องกนั เปน็ แบบผ้า ๒ ชัน้ ประกอบด้วย ผา้ ช้ันนอก เป็นผา้ ฝ้ายผสมใยสังเคราะห์ ผา้ ชนั้ ใน มีส่วนประกอบของถา่ นกมั มันตใ์ นเนือ้ ผ้า ๖. ชดุ เคร่อื งแตง่ กายป้องกัน หมายเลข ๒ (อากาศผ่านไม่ได้) คณุ ลักษณะเฉพาะ ในการออกแบบ - ใชส้ วมปอ้ งกันอนั ตรายจากสารเคมพี ิษทีเ่ ปน็ ของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ ท่ีเข้าสูร้ า่ งกายทางลมหายใจและ ผิวหนงั โดยมอี ากาศสำรองจากเครอื่ งช่วยหายใจจากดา้ นในของเครอ่ื งแตง่ กาย - ใชง้ านร่วมกบั เครือ่ งชว่ ยหายใจ และหมวกนิรภัยขนาดมาตรฐานโดยใหเ้ ครื่องชว่ ยหายใจและหมวกนิรภยั อยู่ ดา้ นในของเคร่ืองแต่งกายป้องกัน คณุ ลกั ษณะเฉพาะ ในการใช้งาน เปน็ ชดุ ป้องกัน ระดับ A มาตรฐาน ปี ค.ศ. ๑๙๙๑ ของสมาคมป้องกนั อคั คภี ยั แหง่ ชาตสิ หรัฐฯ (NFPA) คณุ ลกั ษณะเฉพาะ ในทางเทคนคิ - เนอื้ ผา้ ของเครือ่ งแตง่ กายดา้ นนอกเคลือบด้วยสารไวตอน (Viton) ดา้ นในเคลอื บดว้ ยฟิมพลาสตกิ เพื่อให้การปอ้ งกันอันตรายจาก สารเคมพี ิษได้ตามมาตราฐานหมายเลข F739 - ตัวหนา้ กาก เมือ่ สวมแล้วครอบปดิ เตม็ ใบหน้ามีครอบยางอากาศรัว่ ซมึ - หมวกนริ ภัย ทำดว้ ยวสั ดทุ นความร้อน ทนแรงกระแทก มีนำ้ หนกั เบา - เคร่ืองช่วยหายใจ ประกอบด้วย ถังอากาศ ชดุ ลดแรงกระแทก ชุดควบคมุ แรงดัน ระบบสัญญาณเตือนภัยและท่ออากาศ มนี ำ้ หนกั รวมกนั ไม่เกิน ๑๒ กโิ ลกรมั ๗. ผา้ คลมุ ศรี ษะ ขดี ความสามารถ เป็นผ้าคลุมศีรษะป้องกนั สารพิษ ที่สวม ประกอบหนา้ กากป้องกนั ไอพิษ แบบ M17 , M17A1 , A17M2 เพอื่ ป้องกันไอ , ควนั , หรือหยดละอองของสาร เคมี ชีวะ รังสี นวิ เคลียร์ ไมใ่ หส้ ัมผัสศีรษะ และคอของผสู้ วมใส่

๔๔ ๘. เคร่อื งกระจายสาร ใช้กระจายสารเคมีทที่ ำให้เกดิ การระคายเคือง และหมดสมรรถภาพช่ัวขณะ เพื่อการควบคุมการกอ่ ความไมส่ งบ อยใู่ น ร้อย.สห. ของ มทบ. เคร่ืองกระจายสาร M3 ขอ้ มูลจำเพาะ ระยะยงิ (เมอื่ ลมสงบ) ๑๒ เมตร (๔๐ ฟุต) ระยะเลาในการยงิ ตดิ ตอ่ ได้นาน ๑๙ วนิ าที น้ำหนกั เครือ่ งกระจายสารเปลา่ ๒๑ กก. บรรจสุ าร ๓๐ กก. ความดันปฏิบัติการ ๗๐ ปอนด์/ตารางน้วิ ๙. เครอ่ื งทำลายลา้ งพษิ ติดตั้งบน รยบ. M12A1 ขีดความสามารถ ใชท้ ำลายล้างพษิ บางส่วน และสมบรู ณแ์ กย่ ุทโธปกรณ์ เส้นทาง พน้ื ที่ และกำลังพล ๑๐. เคร่ืองตรวจสารพษิ MM1 ขีดความสามารถ ใช้ตรวจวเิ คราะห์สารเคมีทางทหาร และสารอินทรีย์ สามารถวเิ คราะห์ตวั อยา่ งสารเคมใี นอากาศ นำ้ และดนิ ได้

๔๕ ๑๑. ชุดบริการเครื่องฉดี ไฟ มี ๓ แบบ แบบ M2A1 , M27 และแบบประยกุ ต์ M2A1 M27 ๑๒. ชดุ เติมน้ำมนั เคร่ืองฉดี ไฟ ขดี ความสามารถ ใช้จัดปรบั ใช้เติมนำ้ มนั และใช้ เติมลมสำหรับเคร่ืองฉดี ไฟและเคร่ืองกระจายสาร ๑๓. ปนื ปากกา ขีดความสามารถ ใช้ยงิ ลูกแสง ในการให้สัญญาณ มี ๓ สี แดง เหลอื ง และเขียว

๔๖ ๑๔. เคร่อื งทำควนั ขดี ความสามารถ ใชท้ ำควนั ในสนามรบ เพื่อ บงั ตา กำบัง ควันลวง หรอื ลดขีดความสามารถ ในการณ์สงั เกตการณ์ของข้าศึก เครื่องทำควัน แจกจา่ ยให้กบั ร้อย.วศ. ๑ ๑๕. หนา้ กากปอ้ งกนั พลประจำอากาศยาน ขดี ความสามารถ เปน็ ยทุ โธปกรณ์สำหรับพลประจำอากาศยาน กำหนดอตั ราแจกจา่ ยกำลงั พล ๑ หนา้ /คน ๑๖.หน้ากากปอ้ งกนั ไอพิษผู้ปว่ ยป้องกนั ทางศรี ษะ ขีดความสามารถ เปน็ ยุทโธปกรณส์ ำหรบั ผปู้ ว่ ยทไ่ี ด้รบั อนั ตราย จากสารเคมี – ชวี ะ ๑๗. หนา้ กากปอ้ งกนั สำหรับหนว่ ยปฏิบตั ิการพเิ ศษ ขีดความสามารถ ใชส้ วมใสเ่ พอ่ื ป้องกนั สารเคม-ี ชวี ะบริเวณใบหนา้ แบบ No.69 Advantage 1000 ประเทศสหรฐั อเมรกิ า ราคาโดยประมาณ ๑๔,๙๘๐ บาท ปีท่จี ัดหา ๒๕๔๖ แจกจา่ ยหนว่ ย รพศ.๓ ๑๘. กระโจมป้องกนั สาร คชรน. รุ่น TRELL TENTIV ขีดความสามารถ เปน็ การกระโจมพลาสติกชนดิ หนา ใชเ้ ป็นท่ี หลบภยั ในสภาวะ เคมี รงั สี นวิ เคลียร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook