Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานนำเสนอ วิดีโอ การตลาด การจัดทำงบประมาณ เงิน นีโอมอร์ฟิก สีถ่านและสีเขียวเข้ม

งานนำเสนอ วิดีโอ การตลาด การจัดทำงบประมาณ เงิน นีโอมอร์ฟิก สีถ่านและสีเขียวเข้ม

Published by sansabeen5038, 2022-01-21 14:26:08

Description: งานนำเสนอ วิดีโอ การตลาด การจัดทำงบประมาณ เงิน นีโอมอร์ฟิก สีถ่านและสีเขียวเข้ม

Search

Read the Text Version

หน่วยที่6 ระบบเงินดิจิทัลและสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency)

สกุลเงินดิจทัล (Digital currency) สกุลเงินดิจิทัล (digital currency) คือ สกุลเงิน เงิน หรือสินทรัพย์ที่ มีลักษณะคล้ายเงินที่บริหารจัดการ จัดเก็บ หรือแลกเปลี่ยนบนระบบคอมพิวเตอร์ แบบดิจิทัลโดยเฉพาะการจัดการผ่านอินเทอร์เน็ตตัวอย่างของสกุลเงินดิจิทัลได้แก่ คริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) หรือ สกุลเงินเสมือน (virtual currency) โดยกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเงินที่เกิดขึ้นจัดเก็บในรู ปแบบของฐานข้อมูลจัดการโดยธนาคาร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือจัดการแบบการเงินแบบไม่รวมศูนย์ (DeFi) สกุลเงินดิจิทัลมีลักษณะคล้ายสกุลเงินทั่วไป แตกต่างกันตรงที่ไม่มีรูปแบบทางกายภาพชัดเจน ไม่มีการพิมพ์ธนบัตรหรือผลิตเหรียญกษาปณ์

Ethereum (ETH) Ethereum คือ เครือข่าย Blockchain ที่เป็นแพลตฟอร์มให้เหล่านักพัฒนาสามารถสร้าง แอพพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ หรือ Dapps (Decentralized Application) Ethereum ถูกสร้างขึ้นโดย Vitalik Bulletin และเปิดตัวในปี 2015 โดยเขาเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง เว็บไซต์ Bitcoin Magazine Ether (ETH) ก็คือสกุลเงินกลางของเครือข่าย Ethereum ใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือบริการ และยังทำหน้ าที่เหมือนกับ “น้ำมัน” ที่ทำให้เหล่า Dapps บนเครือข่ายสามารถ ทำงานร่วมกันได้ ด้วยการจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า Gas Fee ขณะที่ ERC-20 คือมาตรฐานสกุลเงินของ Dapps บน Ethereum โดยเป็นเหมือนกับกฏ เกณฑ์ที่ Dapps เหล่านี้ต้องทำตาม เพื่อให้สามารถทำงานบน Ethereum ได้อย่างเหมาะสม สาเหตุที่ต้องมีมาตรฐาน ERC-20 เป็นเพราะว่า Dapps บางตัวก็มีระบบเศรษฐกิจใน ตัวของมันเอง จึงต้องมีสกุลเงินกลางของตัวเอง ยกตัวอย่าง เช่น Uniswap (UNI), Maker (MKR), หรือ Basic Attention Token (BAT) เป็นต้น

Bitcoin (BTC) บิทคอยน์ คือ สกุลเงินดิจิตอลหรือสกุลเงินเข้ารหัส (digital assets) ที่มีการทำงาน บนระบบคอมพิวเตอร์ ที่จริงแล้วบิทคอยน์ก็เหมือนกับสกุลเงินอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์ หรือเงินบาท ที่สามารถนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการทั่วไปได้ตามปกติ ทั้งตามร้านค้า ทั่วไป หรือว่าร้านค้าออนไลน์ ข้อแตกต่างสำคัญระหว่างบิทคอยน์กับสกุลเงินทั่วไปก็คือ บิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิตอล ทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ เราจึงไม่สามารถจับต้องบิทคอยน์ได้เหมือนการที่เรานับเงิน บาทด้วยธนบัตรหรือเหรียญทั่ว ๆ ไป นั่นเอง บิทคอยน์ ไม่ใช่สกุลเงินดิจิตอลเดียวบนโลกนี้ แต่ว่าเป็นหนึ่งในหลายสกุลในโลก ของคริปโตเคอเรนซี่ หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่าคริปโต เนื่องจากบิทคอยน์คือคริปโตสกุลแรกที่ เกิดขึ้นบนโลก คริปโตสกุลอื่น ๆ จึงได้ชื่อเรียกว่า อัลท์คอยน์ (Altcoins) ซึ่งเป็นตัวย่อของ Alternative coin หรือที่แปลว่าสกุลเงินทางเลือกนั่นเอง บิทคอยน์มีพื้นฐานการทำงานแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) และเป็นสกุลเงิน แรกที่ทำงานบนบล็อกเชนเป็นหลัก หมายความว่า บิทคอยน์มีการประมวลผลและจัดเก็บ ข้อมูลทั้งหมดบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้การทำธุรกรรมด้วยบิทคอยน์นั้นปลอดภัย ตรวจสอบได้ และรวดเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีหน่วยงานหรือรัฐบาลใดมาควบคุม

Ripple (XRP) Rpple เป็นบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินเจ้าของเครือข่าย Ripple Net – แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศที่อยู่บนฐานข้อมูล XRP Ledger ซึ่งเครือข่ายนี้สามารถใช้ถ่ายโอนทรัพย์สินระหว่างผู้โอนและผู้รับโอนได้อย่างรวดเร็วและ น่าเชื่อถือ และยังสามารถใช้โอนสินทรัพย์ได้หลากหลายชนิด ไม่เพียงแค่สกุลเงินเฟียต แต่ยังใช้โอนสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin หรือแม้แต่สินค้าโภคภัณฑ์เช่น ทองคำ ได้ด้วย สำหรับ XRP คือสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้อยู่บนเครือข่าย Ripple Net ซึ่ง XRP ก็ถูก ออกแบบมาให้แตกต่างจากเหรียญคริปโตอื่น ๆ ในท้องตลาดโดยเฉพาะ Bitcoin นั่นคือ XRP จะเน้ นเรื่องการใช้สำหรับชำระ/โอนสินทรัพย์ข้ามประเทศด้วยราคาค่าธรรมเนียมที่ ถูกและรวดเร็วเป็ นหลัก

Bitcoin Cash(BCH) Bitcoin Cash เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากการ hard fork ของ Bitcoin ซึ่งทำให้เกิดบล็อกเชนและสกุลเงินคริปโตตัวใหม่ขึ้นมา แล้วทำไมถึงต้องมีการ hard fork และอะไรที่เป็นจุดด้อยของ Bitcoin ในช่วงแรกๆ การทำงานของ Bitcoin นั้นค่อนข้างที่จะเร็วเพราะยังไม่มีการทำธุรกรรมที่ มากนัก แต่ในขณะที่มันได้รับความนิยมมากขึ้นการทำงานก็ช้าลงเนื่องจากขนาดของบล็อกที่ จำกัดไว้ที่ 1MB ในปี 2560 เกิดเหตุการณ์ที่คนใช้งานต้องรอนานถึง 3 วันในการตรวจสอบ การโอนถ่าย Bitcoin วิธีหนึ่งที่จะทำให้การโอนเร็วขึ้นคือจ่ายค่าธรรมเนียมการโอนมากขึ้นแต่ นั้นก็เป็ นการขัดต่อจุดประสงค์ที่ทำให้มีเหรียญนี้ตั้งแต่แรก ซึ่งภายหลังการแยกตัวทุกคนที่ถือ Bitcoin ณ ตอนนั้นได้รับเหรียญ Bitcoin Cash เท่ากับจำนวนของ Bitcoin ที่ถืออยู่และข้อมูลก็ถูกบันทึกลงในบล็อกเชนของ Bitcoin Cash เหตุผลที่เป็นแบบนี้ก็เพื่อที่จะรักษามูลค่าของ Bitcoin Cash ในช่วงการเปลี่ยนแปลงขณะที่ เปิดตัว Bitcoin Cash คริปโตเคอเรนซี่

EOS (EOS) EOS คือสกุลเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อรองรับแอปพลิเคชันขนาดใหญ่ โดยจะ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการส่งหรือรับ EOS แต่โปรโตคอลจะให้ผลตอบแทนเป็น EOS แก่ หน่วยงานที่ใช้เครือข่ายอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งสามารถใช้แทนที่อัตราเงินเฟ้ อของค่าธรรมเนียม ธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปี 2017 และ 2018 นั้นเป็นปีที่โปรเจกต์ ICO ร้อนแรงซึ่ง EOS เป็นหนึ่งในโปร เจกต์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเทคโนโลยีของมันรวมทั้ง มันยังได้รับการ ขนานนามว่าเป็น Ethereum Killer อีกด้วย ซึ่งในบทความนี้ เราจะไปทำความรู้จัก และชี้ ให้เห็นว่าทำไมมันถึงมีศักยภาพที่จะล้ม Ethereum ได้ EOS คือโปรเจกต์ Blockchain ที่ตั้งใจจะกลายเป็นระบบปฎิบัติการแบบ Decentralized สำหรับ DApps ระดับอุตสาหกรรม กล่าวคือ แพลตฟอร์มสำหรับ DApps นั่นเอง โดยพวกเขามีความตั้งใจที่จะทำให้มันสามารถทำรายการได้หลายล้านธุรกรรมต่อ วินาที และที่สำคัญคือไม่มีค่าธรรมเนียมแตกต่างจากโปรเจกต์ Blockchain อื่น ๆ

ข่าวเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrenc)

ถึงยุคบูมของสกุลเงินดิจิทัล ในช่วงนี้บ้านเรากระแสของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซี ได้มีการ พูดถึงกันมาก เพราะการยอมรับของสินทรัพย์ดิจิทัลในแวดวงธุรกิจต่างๆ เริ่ม ขยายวงกว้างขึ้น เหมือนเป็นสกุลเงินประเภทหนึ่งที่นำไปชำระค่าสินค้าและ บริการได้แม้ว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายก็ตาม ในโลกของเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำยุคไปมาก สินทรัพย์ดิจิทัลถูกพัฒนาจากหน่วย ข้อมูลดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นตัวกลางด้วยเทคโนโลยีของบล็อกเชน ด้วยวิธีเข้ารหัสทางคอมพิวเตอร์เพื่อความปลอดภัยแต่ไม่สามารถแก้ไขได้ โดย “บิตคอยน์’ เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สะท้อนความสำเร็จของเทคโนโลยีนี้ เมื่อเกิดความต้องการขึ้นมากแต่จำนวนบิตคอยน์มีจำกัดทำให้มูลค่าเพิ่มสูง มหาศาลจนเกิดกระแสการเข้าไปเก็งกำไรสร้างความร่ำรวยให้กับกลุ่มคนรุ่น ใหม่จำนวนมาก จวบจนถึงปัจจุบันมูลค่า 1 บิตคอยน์ถีบตัวสูงเกือบ 2 ล้านบาท ในปัจจุบันสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซีใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวันพร้อมๆกับการเกิดขึ้นของนักลงทุนหน้าใหม่ๆ หลายๆคนได้เคลื่อนย้ายการลงทุนจากตลาดหลักทรัพย์ไปลงทุนในตลาดนี้เพราะเล็งเห็นผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว แต่ก็มี ความผันผวนสูงมาก ในบ้านเราในช่วงที่ผ่านมาการลงทุนจะจำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีและการ ลงทุนอายุระหว่าง 20-30 ปี ซึ่งกลุ่มนี้ร่ำรวยจากการลงทุนซื้อขายเงินดิจิทัลกันจำนวนมาก และถูกเรียกกันว่า New Wealth หรือกลุ่มคนร่ำรวยยุคใหม่จากบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่มา: www.Thairate.co.th

บิตคอยน์ผันผวนหนัก มูลค่าดิ่งลงกว่า 17% เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค 64 ราคาสกุลเงินคริปโตผันผวน หนัก โดยราคาบิตคอยน์ดิ่งลงกว่า 17 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่นักลงทุนแห่เทขายหนี ความเสี่ยง เนื่องจากเกิดความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สาย พันธุ์โอมิครอน และผลกระทบต่อการฟื้ นตัวของเศรษฐกิจ โดยบิตคอยน์มูลค่าตกไป อยู่ที่ ราว 48,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,632,030 บาท เมื่อเวลา 14.30 น. ของ วันนี้ ด้านเว็บไซต์สตัฟฟ์ รายงานบทสัมภาษณ์จาก จาไนน์ เกรนเจอร์ ผู้บริหารจาก อีซีย์ คริปโต ที่ระบุว่า ราคาของบิตคอยน์ที่ร่วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นยากที่จะ ชี้ชัดว่าเกิดจากเหตุใด บางส่วนมองว่าเป็นผลกระทบจากข่าวการผิดนัดชำระหนี้ของ บริษัทเอเวอร์แกรนด์ บริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ของจีน ในขณะเดียวกันราคาที่ตกลง อาจเกิดจากการเคลื่อนไหวของผู้ถือคริปโตรายใหญ่ก็เป็นได้ พร้อมทั้งระบุว่าผู้ถือ บิตคอยน์บางส่วนนั้นไม่ได้รู้สึกตกใจกับมูลค่าที่ตกลง เนื่องจากการผันผวนราว 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องปกติของตลาดคริปโต ที่มา :www.Thairate.co.th

Bitcoin ยังร่วงต่อเนื่องหลุดแตะ 38,800 ดอลลาร์ ต่ำสุดใน 5 เดือน ฉุด ETH -9% มูลค่า Bitcoin ในวันศุกร์ลดลงต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์เป็นครั้งที่สองใน เดือนนี้ โดยเหรียญพี่ใหญ่สกุลเงินดิจิทัลเบอร์ 1 ของโลกปรับตัวลดลงแตะ $38,838.04 โดยปรับตัวลดลง 7.51% ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ CoinMarketCap เผยว่าการร่วงลงครั้งล่าสุดในตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้ดึง Bitcoin ไปสู่จุดต่ำสุดในเวลามากกว่า 5 เดือน จากการประเมินของ Reuters ระบุว่าการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของ เหรียญ Bitcoin ซึ่งลากเหรียญอื่น ๆ ในกระดานร่วงตามลงไปด้วย โดยสาเหตุ หลักมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศจะลดวงเงิน QE ในอัตราที่ เร่งขึ้นเป็น 2 เท่าจากเดิม ซึ่งจะส่งผลให้วงเงิน QE ทั้งหมดจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2565 พร้อมทั้งส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้งในปี 2565 ซึ่ง เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้ง สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาคริปโทเคอร์เรนซี และ ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงนี้ เป็นผลมาจากการที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล ( Yield ) มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บรรดานัก ลงทุนจำนวนมาก มีการเคลื่อนย้ายเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยง โดยมีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจเพิ่มค่าธรรมเนียม 3 ครั้งในรอบ 12 เดือนนี้ เพื่อที่จะรื้อฟื้ นระบบเศรษฐกิจให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด ท่ามกลางความรุนแรงของการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิดสายพันธุ์ Omicron Ether ปรับตัวติดลบ -9.06% ภายในรอบ 24 ชั่วโมง แตะ $2,857.33 ในวันที่ 21 มกราคม โดย CoinMarketCap รายงานถึงสภาวะราคา ของ ETH สกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกร่วงลงรวมกว่า -13.5% ในสัปดาห์สุดท้าย “ ขณะเดียวกันมูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกลดลง -7.55% ภายในรอบ 24 ชั่วโมง โดยมูลค่าตลาดของ crypto อยู่ที่ 1.83 ล้านล้าน ดอลลาร์ในขณะนี้ ซึ่งปริมาณทั้งหมดใน DeFi อยู่ที่ 13.90 พันล้านดอลลาร์ 14.10 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณ crypto matket ทั้งหมดตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะที่จำนวนเงินสดคงที่ทั้งหมดอยู่ที่ 78.59 พันล้านดอลลาร์ หรือ 79.71% ของปริมาณ matket ของ crypto matket ทั้งหมด 24 ชั่วโมง ปริมาณตลาด crypto ทั้งหมดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 98.59 พันล้านดอลลาร์ ที่มา : www.mgronline.com

ขอบคุณค่ะ นางสาวนุรอัยณี เบ็ญหมาน ปวส.1/6 เลขที่16 สาขาโลจิสติกส์และซัพพลายเชน