Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3.-สรุป-พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา-พ.ศ.-2547

3.-สรุป-พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา-พ.ศ.-2547

Published by t.kruyok004, 2021-11-15 04:20:36

Description: 3.-สรุป-พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา-พ.ศ.-2547

Search

Read the Text Version

พระราชบญั ญัตริ ะเบียบข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 และทแ่ี กไ้ ขเพิ่มเตมิ ถงึ พ.ศ. 2562 ผูร้ กั ษาการตามพระราชบญั ญัตินี้ : รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ขข้าราชการคครรูแูและบุคลากรรททางกกาารรศศกึ ึกษษาา หมายความว่า บุคคลซ่ึงได้รับการบรรจุ และแต่งตั้งตามพระราชบัญญตั นิ ีใ้ ห้รับราชการ โดยไดร้ บั เงินเดือนจากเงนิ งบประมาณแผ่นดิน งบบุคลากรที่จ่ายในลักษณะเงินเดือน ในกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเท่ียวและ กฬี า กระทรวงวฒั นธรรม หรือ กระทรวงอนื่ ทกี่ าหนดในพระราชกฤษฎีกา ขขา้้ารราาชชกกาารรคครรูู หมายความว่า ผู้ทีป่ ระกอบวิชาชีพซง่ึ ทาหน้าท่หี ลกั ทางด้านการเรียนการสอนและสง่ เสริมการเรียนรู้ ของผู้เรียนดว้ ยวิธกี ารต่าง ๆ ในสถานศึกษาของรฐั คคณณาาจจารย์ หมายความว่า บุคลากรซึ่งทาหน้าที่หลักทางด้านการ สอนแสะการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญา ของรฐั บบุคคุ ลลาากกรทางการศกึกษษาา หมายความว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา รวมทัง้ ผูส้ นบั สนนุ การศกึ ษาซ่ึงเป็นผทู้ าหน้าทีใ่ ห้บรกิ าร หรอื ปฏิบตั ิงานเกี่ยวเนือ่ งกบั การจดั กระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ การบริหารการศึกษา และปฏิบัติงานอื่นใน หนว่ ยงาน วิชวาิชชาชีพพี หมายความวา่ วชิ าชีพครู วชิ าชพี บรหิ ารการศึกษา และวิชาชีพบคุ ลากรทาง การศึกษาอ่ืน เขเตขตพพืน้ ืน้ ททีก่ ่กี าารรศศึกกึ ษษาา หมายความว่า เขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาตามประกาศกระทรวง สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 1

หนหนว่ ยว่ ยงงานานกการารศศกึ ึกษษาา หมายความวา่ (1) สถานศึกษา (2) สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษา (3) สานักงานการศึกษานอกโรงเรียน (4) แหลง่ การเรียนรูต้ ามประกาศของสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ( 5) ห น่ ว ย ง า น ต า ม ก ฎ ห ม า ย ว่ า ด้ ว ย ร ะ เ บี ย บ บ ริ ห า ร ร า ช ก า ร กระทรวงศึกษาธิการหรือตามประกาศกระทรวง หรือหน่วยงานท่ีคณะกรรมการข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษากาหนด สถานศึกษา หมายควา มว่า ส ถ านพัฒนาเ ด็กปฐ มวั ย โรงเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษศูนย์การศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียน วิทยาลัย วิทยาลัยชุมชน สถาบันหรือสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นของรัฐที่มีอานาจหน้าที่ หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและตามประกาศ กระทรวง ขา้ ราชการพลเรือน ท่มี อี ยู่ในกฎหมาย ประกาศ ระเบยี บและข้อบงั คับอ่นื ใด ให้ หมายความรวมถึงข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย เว้นแต่จะได้มีกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ หรือข้อบังคับอื่นใดท่ีบัญญัติไว้สาหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาโดยเฉพาะ สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 2

หมวด 1 คณะกรรมการบริหารงานบคุ คลของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาคณะหนึ่ง เรียกว่า \"คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา\" เรียกโดยยอ่ ว่า \"ก.ค.ศ.\" คาสัง่ หวั หนา้ คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาติท่ี 16/2560 เรอื่ ง การบริหารงาน บคุ คลของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ลงวันที่ 21 มีนาคม 2560 ให้ ก.ค.ศ. ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศกึ ษา ประกอบดว้ ย - รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ประธานกรรมการ กรรมการโดยตาแหนง่ - รัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ - ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิ - เลขาธิการ ก.พ. - เลขาธิการสภาการศกึ ษา - เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน - เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา - เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชีวศึกษา - เลขาธิการคุรุสภา - รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธกิ ารแตง่ ต้งั จากบุคคลซงึ่ มี ความรู้ ความเช่ยี วชาญ และประสบการณส์ งู แตล่ ะดา้ น ๆ ละ 1 คน ดังน้ี 1. การบริหารทรัพยากรบุคคล 2. ดา้ นการศึกษา 3. ด้านกฎหมาย ใหเ้ ลขาธกิ าร ก.ค.ศ. เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เลขาธิการ ก.ค.ศ. แต่งต้ัง ข้าราชการในสานกงาน ก.ค.ศ. จานวนไมเ่ กิน 2 คนเปน็ ผู้ชวยเลขานุการ กรณีที่จะแต่งต้ังข้าราชการพลเรือนหรือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดให้ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้น้ันต้องดารงตาแหน่งประเภทบริหารระดับสูงหรือมีวิทยฐานะ เชย่ี วชาญพิเศษ 3 สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan

ให้ ก.ค.ศ. มอี านาจแต่งตง้ั อ.ก.ค.ศ. วิสามัญ เพอ่ื ทาการใด ๆ แทน ก.ค.ศ. ดังต่อไปน้ี (1) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกยี่ วกับการอทุ ธรณ์และการร้องทกุ ข์ (2) อ.ก.ค.ศ. วสิ ามัญเกีย่ วกับวินยั และการออกจากราชการ (3) อ.ก.ค.ศ. วสิ ามัญเก่ียวกับกฎหมายและระเบียบขา้ ราชการครูและบคุ ลากร ทางการศกึ ษา ให้ อ.ก.ค.ศ. วิสามญั แต่ละคณะ มจี านวนไมเ่ กิน 15 คน ประกอบดว้ ย (1) ประธานอนุกรรมการ ซง่ึ แตง่ ตง้ั จากกรรมการใน ก.ค.ศ. (2) อนกุ รรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิ จานวนไมเ่ กิน 11 คน (3) อนกุ รรมการซ่ึงเปน็ ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา สังกัด กระทรวงศึกษาธกิ าร จานวน 2 คน ใหเ้ ลขาธกิ าร ก.ค.ศ. แต่งตงั้ ขา้ ราชการในสานกงาน ก.ค.ศ. เปน็ อนุกรรมการและเลขานุการ และอาจแต่งต้ังขา้ ราชการในสานกงาน ก.ค.ศ. จานวน ไมเ่ กิน 2 คนเปน็ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 4

ก.ค.ศ. มอี านาจหนา้ ทีด่ งั ตอ่ ไปนี้ 1) เสนอแนะและใหค้ าปรึกษาแกค่ ณะรัฐมนตรี 2) กาหนดนโยบาย วางแผน และกาหนดเกณฑ์อัตรากาลังของข้าราชการครูและ บคุ ลากรทางการศกึ ษา 3) เสนอแนะและให้คาปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับปรุงเงินเดือน เงินวิทย ฐานะ เงินประจาตาแหน่ง เงินเพ่ิมค่าครองชีพ สวัสดิการ หรือประโยชน์เก้ือกูลสาหรับ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาใหเ้ หมาะสม 4) ออกกฎ ก.ค.ศ. ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการ บรหิ ารงานบุคคลของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา 5) พิจารณาวนิ ิจฉัยตคี วามปัญหา 6) พัฒนาหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรฐานการบริหารงานบุคคล รวมทั้งการ พิทกั ษ์ระบบคุณธรรมของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 7) กาหนดวิธีการและเงื่อนไขการจ้างเพ่ือบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเพ่ือปฏิบัติหน้าที่ใน ตาแหน่งครูและบุคลากรทางการศึกษาในหน่วยงานการศึกษา รวมทั้งกาหนดอัตราเงินเดือน หรือคา่ ตอบแทน 8) ส่งเสรมิ สนบั สนุนการพัฒนา การเสริมสร้างขวัญกาลงั ใจ และการยกย่องเชิดชู เกียรตขิ า้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา 9) ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์เกื้อกูลอ่ืนแก่ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 10) พิจารณาตั้ง อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่การศึกษา และคณะอนุกรรมการอื่นเพ่ือปฏิบัติ หน้าท่ตี ามที่ ก.ค.ศ. มอบหมาย สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 5

11) ส่งเสริม สนับสนุน ประสานงาน ให้คาปรึกษา แนะนาและชี้แจงด้านการ บรหิ ารงานบุคคลแก่หนว่ ยงานการศกึ ษา 12) กาหนดมาตรฐาน พิจารณา และให้คาแนะนาเก่ียวกับการดาเนินการทางวินัย การออกจากราชการ การอทุ ธรณ์และการรอ้ งทุกขต์ ามทกี่ าหนดไวใ้ นพระราชบญั ญัตนิ ี้ 13) กากับ ดูแล ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการบริหารงานบุคคลของ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา 14) มีอานาจยับยั้งการปฏิบัติการไว้เป็นการช่ัวคราว ในกรณีที่ปรากฏว่าส่วน ราชการ หน่วยงานการศกึ ษา อ.ก.ค.ศ. เขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา คณะอนกุ รรมการหรือผู้มีหน้าท่ี ปฏิบัตติ ามพระราชบญั ญตั ินี้ ไม่ปฏิบัตติ ามพระราชบัญญตั ินี้หรอื ปฏบิ ัตกิ ารโดยไม่ถกู ต้องและไม่ เหมาะสม หรือปฏิบัตกิ ารโดยขดั หรือแยง้ กบั กฎหมาย 15) พจิ ารณารบั รองคณุ วฒุ ขิ องผไู้ ด้รับปริญญา ประกาศนียบตั รวิชาชีพ หรือคุณวุฒิ อย่างอื่นเพื่อประโยชน์ในการบรรจุและแต่งต้ังเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และการกาหนดอัตราเงนิ เดอื นหรือคา่ ตอบแทนทีค่ วรไดร้ บั 16) กาหนดอตั ราค่าธรรมเนียมในเร่อื งการปฏิบตั ิการต่าง ๆ 17) พิจารณาจัดระบบทะเบียนประวัติและแก้ไขทะเบียนประวัติเกี่ยวกับวัน เดือน ปี เกดิ และควบคมุ การเกษียณอายขุ องขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา 18) ปฏบิ ตั ิหน้าทอ่ี ่ืนตามทีบ่ ญั ญัตไิ วใ้ นพระราชบญั ญัตินี้ หรือตามกฎหมายอืน่ สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 6

คาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เร่ือง การปฏิรูปการศึกษา ในภมู ิภาคของกระทรวงศกึ ษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน 2560 ให้มคี ณะกรรมการขับเคล่ือนการปฏิรูปการศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธิการในภูมภิ าค ประกอบดว้ ย 1. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการ 2. รฐั มนตรชี ่วยวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร กรรมการ 3. เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กรรมการ 4. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กรรมการ 5. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอดุ มศึกษา กรรมการ 6. เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กรรมการ 7. ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรรมการ 8. ประธานสภาอุตสาหกรรมแหง่ ประเทศไทย กรรมการ 9. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กรรมการและเลขานุการ มหี นา้ ที่ (1) กาหนดทิศทางการดาเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือ จังหวดั (2) พิจารณาการจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับ ภมู ิภาคหรือจังหวดั (3) วางแผนงานเก่ียวกบั การบริหารงานบคุ คลของกระทรวงศกึ ษาธิการในระดบั ภมู ภิ าคหรอื จังหวดั (4) เกลี่ยอตั รากาลงั ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา (5) แต่งต้ัง โอน หรือย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา หรือ ผู้ปฏิบัติงาน ในตาแหน่งต่าง ๆ ในหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือ จังหวดั สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 7

(6) สั่งให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือผู้ปฏิบัติงานใน ตาแหน่งต่าง ๆ ในหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด หยุด การปฏิบตั ิหน้าท่หี รือให้พน้ จากตาแหนง่ (7) แตง่ ตั้งคณะอนุกรรมการศกึ ษาธิการจงั หวัด (8) แต่งต้ังคณะอนุกรรมการและคณะทางานเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานได้ตาม ความจาเป็น (9) เชิญข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อเท็จจริง รวมทั้งเรียกเอกสารจากหน่วยงานของรัฐหรือ บคุ คลทเ่ี กีย่ วขอ้ งมาเพือ่ ประกอบการพจิ ารณา สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 8

ในแต่ละจงั หวัด ใหม้ คี ณะกรรมการศึกษาธกิ ารจงั หวดั เรยี กโดยยอ่ ว่า “กศจ.” ประกอบด้วย คณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด “กศจ.” 1. ผู้ว่าราชการจงั หวดั หรือ รองผวู้ ่าราชการจงั หวัด ประธานกรรมการ ท่ไี ด้รบั มอบหมาย 2. ศึกษาธกิ ารภาคในพืน้ ทท่ี ีร่ ับผดิ ชอบ รองประธานกรรมการ 3. ผูแ้ ทนจากหนว่ ยงาน ดังน้ี กรรมการ 3.1 ผแู้ ทนสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน 3.2 ผ้แู ทนสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 3.3 ผู้แทนสานกั งานคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา 3.4 ผแู้ ทนสานกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการครแู ละ บุคลากรทางการศกึ ษา 3.5 ผู้แทนสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศกึ ษา เอกชน 3.6 ผแู้ ทนสานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศยั 4. กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิ จานวนไมเ่ กนิ 6 คน ซึ่ง กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ ารแตง่ ตง้ั โดยความ เหน็ ชอบของคณะกรรมการขบั เคลื่อนฯ โดยอยา่ งน้อย ต้องมีผแู้ ทนดา้ นละ 1 คน ดังนี้ 1) ผ้แู ทนองค์กรภาคเอกชน 2) ผแู้ ทนองคก์ รวชิ าชีพ 3) ผ้แู ทนภาคประชาชน 5. ศึกษาธกิ ารจงั หวดั กรรมการและเลขานุการ 6. รองศกึ ษาธิการจงั หวัด ผู้ช่วยเลขานกุ าร กศจ. อาจแตง่ ตัง้ ข้าราชการในสานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวัดจานวนไมเ่ กิน 2 คน เปน็ ผชู้ ว่ ยเลขานุการด้วยกไ็ ด้ สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 9

กศจ. มอี านาจหน้าทใ่ี นเขตจังหวดั ดงั ต่อไปนี้ (1) ทาตามที่กาหนดให้เปน็ อานาจหน้าทีข่ องคณะกรรมการเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาและ อ.ก.ค.ศ. เขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา (2) กาหนดยุทธศาสตร์ แนวทางการจัดการศึกษา และการส่งเสริมสนับสนุนการ จดั การศึกษาทกุ ระดบั และทุกประเภท ประสานและสง่ เสริมการบริหารและการจัดการศึกษาของ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาของบุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบนั สงั คมอ่นื ท่ีจัดการศึกษาในรูปแบบท่ีหลากหลาย (3) พิจารณาและให้ความเห็นชอบแผนพฒั นาการศึกษา (4) พิจารณาและให้ความเห็นชอบกรอบการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานและตวั ชว้ี ัดในการ ดาเนินงานในลักษณะตัวช้ีวัดร่วมของส่วนราชการหรือหน่วยงาน และสถานศึกษาในสังกัด กระทรวงศึกษาธกิ าร (5) เสนอความเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาตอ่ คณะกรรมการขบั เคล่ือนฯ (6) กากับ เร่งรัด ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการหรือ หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาในสังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการ (7) วางแผนการจัดการศึกษาและพิจารณาเสนอแนะการจัดสรรงบประมาณให้แก่ สถานศกึ ษา (8) เสนอคณะกรรมการขับเคล่อื นฯ เพ่ือแต่งตงั้ คณะอนกุ รรมการศกึ ษาธกิ ารจังหวดั (9) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทางานตามความจาเป็นเพ่ือช่วยเหลือการ ปฏบิ ัตงิ านของ กศจ. ซ่ึงอยา่ งน้อยต้องมีคณะอนุกรรมการบริหารราชการเชิงยุทธศาสตร์ และ คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษา โดยให้นาองค์ประกอบของ อกศจ. มาใช้ บังคบั โดยอนุโลม (10) ปฏบิ ตั หิ นา้ ทอี่ ่นื ตามทกี่ ฎหมายกาหนด สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 10

หมวด 2 บทท่วั ไป การดาเนินงานตาม พ.ร.บ.น้ี ให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดี โดยถอื ระบบคุณธรรม ความเสมอภาคระหว่างบคุ คล และหลักการได้รับการปฏิบัติและการ คมุ้ ครองสทิ ธิอยา่ งเสมอภาคเทา่ เทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม เพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถ่ินกาเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทาง เศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นท่ีไม่ตรงกัน ในเรือ่ ง อ่ืน ๆ จะกระทามไิ ด้ ผู้ซึง่ จะเขา้ รบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาได้ ต้องมคี ณุ สมบัตทิ วั่ ไป ดงั ต่อไปน้ี (1) มสี ญั ชาติไทย (2) มอี ายไุ มต่ ่ากวา่ 18 ปีบริบรู ณ์ (3) เป็นผูเ้ ลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุขตามรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย (4) ไม่เปน็ ผดู้ ารงตาแหนง่ ทางการเมือง สมาชกิ สภาท้องถน่ิ หรอื ผบู้ ริหารท้องถนิ่ (5) ไมเ่ ป็นคนไร้ความสามารถ หรอื จิตฟนั่ เฟือนไม่สมประกอบ หรอื เป็นโรคตามที่ กาหนดในกฎ ก.ค.ศ. ได้แก่ กฎ ก.ค.ศ. วา่ ด้วยโรค พ.ศ. 2549 1. โรคเรือ้ นในระยะตดิ ต่อหรอื ในระยะทป่ี รากฏอาการเปน็ ท่ีรงั เกยี จแกส่ ังคม 2. วณั โรคในระยะตดิ ต่อ 3. โรคเท้าข้างในระยะท่ปี รากฏอาการเป็นท่ีรังเกียจแกส่ งั คม 4. โรคตดิ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ 5. โรคพิษสุราเร้อื รงั สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 11

(6) ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกส่ังพักราชการ ถูกส่ังให้ออกจากราชการไว้ก่อนตาม พระราชบญั ญัตินห้ี รือตามกฎหมายอ่นื หรือถกู สง่ั พัก หรือเพกิ ถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในกฎหมายองค์กรวชิ าชีพนั้น ๆ (7) ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีสาหรับการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพครูและ บุคลากรทางการศึกษา (8) ไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมอื งหรือเจ้าหน้าท่ใี นพรรคการเมอื ง (9) ไมเ่ ป็นบุคคลลม้ ละลาย (10) ไม่เป็นผู้เคยต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่เป็นโทษ สาหรบั ความผดิ ทไี่ ด้กระทาโดยประมาทหรือความผิดลหโุ ทษ (11) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือองค์การระหวา่ งประเทศ (12) ไมเ่ ป็นผู้เคยถูกลงโทษใหอ้ อก ปลดออก หรือไล่ออกเพราะกระทาผิดวินัยตาม พระราชบัญญัตนิ ี้หรอื ตามกฎหมายอืน่ (13) ไม่เป็นผู้เคยกระทาการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการหรือเข้าปฏิบัติงานใน หนว่ ยงานของรฐั เพ่ือประโยชน์ในการออมทรัพย์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะรัฐมนตรีอาจวางระเบียบและวิธีการให้กระทรวงการคลังหักเงินเดือนของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นเงินสะสมก็ได้ โดยคิดดอกเบี้ยเงินสะสมน้ันให้ในอัตราไม่ ต่ากวา่ ดอกเบี้ยเงนิ ฝากประจาของธนาคารพาณิชย์ เงินสะสมและดอกเบ้ียน้จี ะจา่ ยคนื หรือใหก้ ยู้ มื เพือ่ ดาเนินการตามโครงการสวัสดิการ สาหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามระเบียบที่กระทรวงกาหนดโดยความ เห็นชอบของคณะรฐั มนตรี สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 12

หมวด 3 การกาหนดตาแหน่ง วทิ ยฐานะ และการให้ได้รบั เงนิ เดอื น เงินวทิ ยฐานะ และเงนิ ประจาตาแหนง่ ตาแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา มี 3 ประเภท ดงั นี้ (ก) ตาแหน่งซึ่งมีหน้าทเ่ี ปน็ ผสู้ อนในหน่วยงานการศกึ ษา ไดแ้ ก่ 1. ครผู ้ชู ่วย จะมใี นหน่วยงานการศึกษาใดก็ได้ 2. ครู 3. อาจารย์ 4. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ให้มีในหนว่ ยงานการศึกษา 5. รองศาสตราจารย์ ทส่ี อนระดับปริญญา 6. ศาสตราจารย์ (ข) ตาแหนง่ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาและผู้บรหิ ารการศึกษา ได้แก่ 1. รองผอู้ านวยการสถานศึกษา ให้มีในสถานศกึ ษาและหนว่ ยงาน 2. ผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา การศึกษาตามประกาศกระทรวง 3. รองผู้อานวยการสานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษา ใหม้ ใี นสานกั งานเขต 4. ผูอ้ านวยการสานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา พ้นื ทก่ี ารศกึ ษา 5. ตาแหน่งท่ีเรียกชือ่ อยา่ งอืน่ ตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด (ค) ตาแหนง่ บคุ ลากรทางการศกึ ษาอ่นื มดี งั น้ี 1. ศกึ ษานเิ ทศก์ 2. ตาแหน่งที่เรียกช่ืออย่างอ่ืนตามท่ี ก.ค.ศ. กาหนด หรือตาแหน่งของ ข้าราชการที่ ก.ค.ศ. นามาใช้กาหนดให้เป็นตาแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศกึ ษาตาม พ.ร.บ. นี้ สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 13

ใหต้ ำแหนง่ ขำ้ รำชกำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ ดงั ตอ่ ไปนี้ เป็นตำแหนง่ ทม่ี วี ทิ ยฐำนะ ได้แก่ ตาแหน่งครู มวี ทิ ยฐานะ ดังนี้ ชานาญการ ครู ชานาญการพเิ ศษ เชีย่ วชาญ เชยี่ วชาญพิเศษ ตาแหนง่ ผบู้ ริหารสถานศึกษา มีวิทยฐานะ ดังนี้ ชานาญการ รองผูอ้ านวยการ ชานาญการพเิ ศษ เช่ยี วชาญ ผอู้ านวยการ ชานาญการ ชานาญการพเิ ศษ เชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพเิ ศษ ตาแหนง่ ผู้บริหารการศกึ ษา มีวิทยฐานะ ดงั นี้ ชานาญการพเิ ศษ เชยี่ วชาญ รองผอู้ านวยการสานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา ผอู้ านวยการสานักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา เชยี่ วชาญ เช่ยี วชาญพิเศษ ตาแหน่งศึกษานเิ ทศก์ มวี ทิ ยฐานะ ดังน้ี ชานาญการ ศึกษานเิ ทศก์ ชานาญการพิเศษ เชยี่ วชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 14

ให้ตาแหนง่ คณาจารย์ดังตอ่ ไปน้ี เป็นตาแหน่งทางวชิ าการ (ก) อาจารย์ (ข) ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ (ค) รองศาสตราจารย์ (ง) ศาสตราจารย์ การกาหนดระดับตาแหน่ง และการให้ได้รับเงินเดือนและเงินประจา ตาแหน่งตามวรรคหน่ึง ให้นากฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนใน สถาบันอดุ มศกึ ษามาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 15

หมวด 4 การบรรจุและแตง่ ตั้ง ตาแหนง่ อานาจบรรจแุ ละ หมายเหตุ แตง่ ตง้ั ตาแหน่งซึง่ มีวทิ ยฐานะเชยี่ วชาญพิเศษ ใหร้ ฐั มนตรเี จ้า เลขา กพฐ. สังกดั นาเสนอ - รองผ้อู านวยการสานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา นายกรัฐมนตรีนา - ผู้อานวยการสานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา เลขา กพฐ. ความกราบบังคมทูล - รองผอู้ านวยการสถานศึกษา เพ่ือทรงพระกรุณา - ผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา โปรดเกล้าฯ - ศึกษานเิ ทศก์ แตง่ ตง้ั - บุคลากรทางการศกึ ษาอ่นื ในสานกั งานเขตพ้ืนที่ การศกึ ษา โดยอนมุ ัติ ก.ค.ศ. - ตาแหนง่ ทมี่ ีวทิ ยฐานะ ชานาญการ ชานาญการ พเิ ศษ และเช่ยี วชาญ ศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด โดยความเห็นชอบ - ครูผชู้ ่วย ของ กศจ. - ครู - บคุ ลากรทางการศึกษาในสถานศกึ ษา ผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งต้ังให้เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศกึ ษา ให้ทดลองปฏิบัตหิ นา้ ทร่ี าชการในตาแหนง่ นน้ั แต่ถ้าผู้ใดได้รับการบรรจุและ แต่งตง้ั ในตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ให้ผนู้ ั้นเตรียมความพร้อมและพฒั นาอยา่ งเขม้ เป็นเวลา 2 ปีก่อน แต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งครู ท้ังน้ี การทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการและการเตรียมความ พร้อมและพัฒนาอยา่ งเขม้ ให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารที่ ก.ค.ศ. กาหนด สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 16

การย้ายขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา การย้าย หมายถึง การแต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาแหน่งครูให้ดารงตาแหน่งเดิมในสถานศึกษาอ่ืน ซึ่งอาจเป็นการย้ายไปตารงตาแหน่ง ว่าง การยา้ ยสับเปล่ยี นกบั ตาแหน่งท่มี ีคนครอง หรอื การย้ายโดยการตัดโอนตาแหน่งและ อตั ราเงินเตือน การยา้ ยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ตาแหนง่ ครู มี 3 กรณี ดงั น้ี 1. การย้ายกรณีปกติ ได้แก่ การย้ายตามคาร้องขอย้าย 2. การย้ายกรณีพเิ ศษ ได้แก่ การยา้ ยตามคาร้องขอย้าย เน่ืองจาก ตดิ ตามคู่สมรส เจบ็ ป่วยร้ายแรง ถกู คุกคามต่อชวี ิต เพ่ือดูแลบิดา มารดา คสู่ มรส หรอื บตุ ร ซงึ่ เจ็บปว่ ยร้ายแรงหรอื ทพุ พลภาพ 3. การยา้ ยกรณเี พอ่ื ความเหมาะสมและประโยชนข์ องทางราชการ ไดแ้ ก่ การยา้ ยเพ่ือแก้ปญั หาการบรหิ ารจดั การในสถานศึกษา เพอ่ื พัฒนาคุณภาพการศึกษา หรอื เพ่ือเกลีย่ อตั รากาลงั ของสถานศึกษา คณุ สมบัตชิ องผูข้ อย้ายกรณีปกติ 1. ได้ปฏิบัติงานในตาแหน่งครูในสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดอื นนบั ถึงวนั ท่ยี ืน่ คาขอ 2. ไมอ่ ยรู่ ะหว่างลาศึกษาตอ่ เตม็ เวลา 3. การย้ายสับเปล่ียนกับตาแหน่งท่ีมีคนครอง ในวันท่ียื่นคาร้องขอย้ายต้องมีอายุ ราชการเหลือไม่น้อยกว่า 24 เดือน นับถึงวันที่ 30 กันยายน ของปีท่ีครบเกษียณอายุ ราชการ สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 17

ให้ผปู้ ระสงค์ขอย้าย ยืน่ คารอ้ งขอยา้ ยตามแบบคารอ้ งขอย้ายท่ี ก.ค.ศ. กาหนดได้ ปีละ 1 คร้ังในเดอื นมกราคม ของทกุ ปี โดยใหย้ น่ื คาร้องขอยา้ ยได้เพียงเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา เดยี ว คารอ้ งขอย้าย ให้ใช้สาหรับการพจิ ารณาย้ายได้จนถงึ วันท่ี 31 ธันวาคม ของปี เดียวกนั โดยปกติ ใหพ้ จิ ารณายา้ ยปีละ 2 คร้งั ครง้ั ท่ี 1 ในเดอื นเมษายน ครั้งท่ี 2 ในเดือนกันยายน เว้นแต่ มีเหตุผลความจาเป็นเป็นพิเศษเพ่ือไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ อาจ พิจารณาการยา้ ยมากกว่า 2 ครงั้ กไ็ ด้ คารอ้ งขอย้ายใดไมไ่ ดร้ บั การพจิ ารณาให้ยา้ ยภายในวนั ท่ี 31 ธันวาคม ใหถ้ ือวา่ คารอ้ งนน้ั เปน็ อนั ยกเลิก ท้งั น้ี ผู้ย่นื คาร้องขอยา้ ยไมจ่ าเปน็ ตอ้ งได้ยา้ ยเสมอไป สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 18

หมวด 5 การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัตริ าชการ การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ ผู้บังคับบัญชาแต่งต้ังคณะกรรมการข้ึนพิจารณา โดยการพิจารณาให้ยึดหลักคุณธรรม มี ความเที่ยงธรรม เปิดเผย โปร่งใสและพิจารณาจากผลการปฏิบัติงานเป็นหลัก และความ ประพฤตใิ นการรักษาวินัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชีพ การเลื่อนเงินเดือนกาหนดใหเ้ ล่อื นปีละ 2 ครัง้ โดยพจิ ารณาจากผลการปฏิบตั ิงาน ครงั้ ท่ี 1 ครง่ึ ปแี รก ระหว่าง 1 ตลุ าคม ถงึ 31 มีนาคม เลือ่ นวันท่ี 1 เมษายน คร้งั ท่ี 2 ครึง่ ปหี ลงั ระหว่าง 1 เมษายน ถงึ 30 กนั ยายน เล่อื นวนั ที่ 1 ตุลาคม ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีผลงาน ดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ ใหก้ ระทรวงเจา้ สังกดั สว่ นราชการและหนว่ ยงานการศกึ ษาดาเนินการ ยกย่องเชิดชูเกยี รติตามควรแกก่ รณี เพ่ือประโยชน์ในการเสริมสร้างขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงาน ก.ค.ศ. อาจ กาหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ที่มีผลงานหรือผลการปฏิบัติงานดีเด่น หรือผู้ท่ีได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้ได้รับเงินวิทยพัฒน์ได้ ตามระเบียบที่ ก.ค.ศ. กาหนด โดยความเหน็ ชอบของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถึงแก่ความตายอันเน่ืองมาจากการ ปฏิบัติหน้าท่ีราชการ ให้จัดสวัสดิการแก่ครอบครัวตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด โดยความเหน็ ชอบของคณะรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีอาจพิจารณาเล่ือนเงินเดือนให้แก่ผู้นั้นเป็นกรณีพิเศษ เพื่อประโยชน์ ในการคานวณบาเหน็จบานาญกไ็ ด้ สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 19

หมวด 6 วนิ ัยและการรักษาวินัย ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาตอ้ งรักษาวนิ ยั ทีบ่ ญั ญตั เิ ป็น ข้อหา้ มและขอ้ ปฏิบตั โิ ดยเคร่งครดั ดังน้ี 1 ต้องสนบั สนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความบรสิ ุทธใ์ิ จ 2 ต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซ่ือสัตย์ สุจริต เสมอภาคและเที่ยงธรรม ห้ามมิให้ อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอานาจและหน้าที่ราชการของตนเพ่ือหาประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ีราชการโดยมิชอบ เพ่ือให้ตนเองและผู้อ่ืนได้รับ ประโยชน์ เปน็ การทจุ รติ ต่อหน้าท่ีราชการ เปน็ ความผิดวินัยอย่างร้ายแรง 3 ต้องปฏิบัติหน้าท่ีราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ และหนว่ ยงานการศกึ ษา ประมาทเลนิ เลอ่ ขาดการระมัดระวังรกั ษา อันเป็นเหตุให้เกดิ ความเสยี หายแก่ราชการ อย่างร้ายแรง เปน็ ความผดิ วนิ ัยอย่างรา้ ยแรง 4 ต้องปฏิบัติตามคาส่ังของผู้บังคับบัญชาซ่ึงส่ังในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมาย และระเบียบของทางราชการ แต่ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติตามคาส่ังน้ันจะทาให้เสียหายแก่ราชการ หรือจะเป็นการไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการ จะเสนอความเห็นเป็นหนังสือภายใน 7 วัน เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนคาส่ังก็ได้ และเมื่อเสนอความเห็นแล้ว ถ้าผู้บังคับบัญชายืนยันเป็น หนังสอื ให้ปฏิบัติตามคาสงั่ เดิม ผู้ใต้บังคบั บัญชาต้องปฏบิ ตั ิตาม การขัดคาสั่งหรือหลีกเล่ียงไม่ปฏิบัติตามคาส่ังของผู้บังคับบัญชา ซ่ึงส่ังในหน้าท่ี ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ ราชการอยา่ งร้ายแรง เป็นความผดิ วินยั อย่างร้ายแรง สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 20

5 ต้องตรงต่อเวลา อทุ ิศเวลาของตนให้แก่ทางราชการและผู้เรียน จะละทิ้งหรือทอดท้ิง หนา้ ทีร่ าชการโดยไม่มีเหตุอันสมควรมิได้ การละทิ้งหน้าที่ หรือ ทอดท้ิงหน้าท่ีราชการโดยไม่มี เหตุผลอันสมควร เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือ การละทิ้งหน้าที่ราชการ ติดต่อกันในคราวเดียวเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเป็นความผิดวินัย อยา่ งร้ายแรง 6 ต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างท่ดี ีแกผ่ เู้ รียน ชุมชน สังคม ให้ความสะดวก ความเป็น ธรรมแกผ่ ู้เรียนและผู้มาตดิ ต่อราชการ การกลั่นแกล้ง ดูหมิ่น เหยียดหยาม กดข่ี หรือข่มเหงผู้เรียน หรือประชาชน ผู้มา ตดิ ต่อราชการอย่างร้ายแรง เปน็ ความผิดวนิ ัยอย่างร้ายแรง 7 ตอ้ งไมก่ ล่ันแกล้ง กล่าวหา หรอื รอ้ งเรียนผู้อืน่ โดยปราศจากความเปน็ จริง 8 ต้องไมก่ ระทาการหรือยอมให้ผู้อ่ืนกระทาการหาประโยชน์อันอาจจะทาให้เสื่อมเสียความ เทย่ี งธรรม หรือเส่อื มเสยี เกยี รตศิ ักดิ์ในตาแหน่งหน้าทีร่ าชการของตน 9 ต้องไม่คัดลอกหรือลอกผลงานทางวิซาการของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือจ้าง วาน ใช้ผู้อื่น ทาผลงานทางวิชาการ เพอ่ื ไปใช้ในการเสนอขอปรบั ปรงุ การกาหนดตาแหนง่ การเลอื่ นตาแหน่ง การเลอ่ื นวทิ ยฐานะ หรือการได้รบั เงนิ เดือนทสี่ งู ขน้ึ เป็นความผดิ วนิ ัยอย่างร้ายแรง 10 ต้องไม่เป็นกรรมการผู้จัดการหรือผู้จัดการ หรือดารงตาแหน่งอ่ืนใดที่มีลักษณะงาน คลา้ ยคลึงกันในห้างหุ้นสว่ นหรอื บรษิ ัท สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 21

11 ต้องวางตนเป็นกลางทางการเมือง ต้องไม่เข้าไปเก่ียวข้องกับการดาเนินการใด ๆ อนั มลี กั ษณะเป็นการทุจรติ โดยการซื้อสทิ ธหิ รือขายเสยี งในการเลือกตง้ั 12 ต้องรักษาชื่อเสียงของตนและรักษาเกียรติศักดิ์ของตาแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้ เสอื่ มเสยี โดยไม่กระทาการอนั ไดช้ ่ือวา่ เปน็ การประพฤติชั่ว 13 ผู้บังคบั บัญชามหี น้าท่ีเสรมิ สรา้ งและพัฒนาให้ผูอ้ ยู่ใตบ้ งั คบั บญั ชามวี นิ ัยป้องกันไมใ่ หผ้ อู้ ยู่ ใต้บังคับบัญชากระทาผิดวินัย และดาเนินการทางวินัยแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาซึ่งมีกรณีอันมีมูลท่ี ควรกลา่ วหาวา่ กระทาผดิ วินยั โทษทางวนิ ัยมี 5 สถาน 1. ภาคทณั ฑ์ 2. ตดั เงนิ เดือน ความผิดวนิ ยั ไมร่ ้ายแรง 3. ลดเงนิ เดือน 4. ปลดออก ความผิดวนิ ัยรา้ ยแรง 5. ไล่ออก ผู้ใดถูกลงโทษปลดออก ให้ผู้น้ันมีสิทธิได้รับบาเหน็จบานาญ เสมือนว่าเป็นผู้ ลาออกจากราชการ การลงโทษข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ทาเป็นคาสั่ง วิธีการออก คาสั่งเกีย่ วกับการลงโทษใหเ้ ป็นไปตามระเบียบของ ก.ค.ศ. ผู้ส่ังลงโทษต้องสั่งลงโทษให้เหมาะสมกับความผิดและมิให้เป็นไปโดยพยาบาท โดย อคติหรือโดยโทสะจริต หรอื ลงโทษผทู้ ีไ่ มม่ ีความผิด ในคาส่ังลงโทษใหแ้ สดงวา่ ผู้ถูกลงโทษกระทาผิดวินัยในกรณีใด ตามมาตราใด และ มเี หตุผลอย่างใดในการกาหนดสถานโทษนัน้ สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 22

หมวด 7 การดาเนนิ การทางวินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดกระทาผิดวินัย ไม่ร้ายแรงให้ ผบู้ ังคบั บัญชาสง่ั ลงโทษภาคทัณฑ์ ตดั เงนิ เดอื นหรือลดเงนิ เดอื นตามควรแกก่ รณีให้เหมาะสม กับความผิด ถ้ามีเหตุอันควรลดหย่อนจะนามาประกอบการพิจารณาลดโทษก็ได้ แต่สาหรับ การลงโทษภาคทัณฑ์ให้ใช้เฉพาะกรณีกระทาผิดวินัยเล็กน้อย หรือมีเหตุอันควรลดหย่อนซึ่ง ยงั ไมถ่ งึ กบั จะตอ้ งถูกลงโทษตัดเงนิ เดอื น ในกรณีกระทาผิดวินัยเลก็ น้อยและมเี หตุอันควรงดโทษ จะงดโทษให้โดยให้ทาทัณฑ์ บนเปน็ หนังสอื หรือวา่ กล่าวตักเตอื นก็ได้ ความผดิ รา้ ยแรง ปลดออก ไล่ออก วธิ ีพิจารณา : ตอ้ งแตง่ ต้งั คณะกรรมการข้นึ ทาการสอบสวน “ความผดิ ที่ปรากฏชดั แจ้ง” 1. กระทาความผิดอาญาจนได้รับโทษจาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิดท่ีได้ กระทาโดยประมาทหรือความความผิดลหุโทษ 2. ละท้งิ หนา้ ทีร่ าชการติดต่อกันเกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรหรือโดยมี พฤตกิ ารณ์ทแ่ี สดงถึงความจงใจไมป่ ฏบิ ัติตามระเบยี บของทางราชการ 3. ประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพอย่างร้ายแรง และได้รับสารภาพเป็น หนงั สอื กรณีผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาถูกกล่าวหาหรือกล่าวโทษว่าประพฤติผิด จรรยาบรรณของวิชาชีพอย่างร้ายแรงเป็นกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง ให้คณะกรรมการ วินิจฉัยชี้ขาดตามควรแก่กรณี โดยไม่สอบสวนหรืองดการสอบสวนก็ได้ (ให้ผู้มีอานาจส่ัง ลงโทษ ปลดออก หรือ ไลอ่ อก) สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 23

กฎ ก.ค.ศ. วา่ ดว้ ยอานาจการลงโทษภาคทัณฑ์ ตดั เงนิ เดอื น หรอื ลดเงินเดือน 1. ผู้อานวยการสถานศกึ ษา มีอานาจสง่ั ลงโทษ ดังนี้ ภาคทัณฑ์ ตดั เงินเดือน 2. ให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัด ปลัดกระทรวง เลขาธิการ อธิบดี ศึกษาธิการภาค ศึกษาธิการจังหวัด หรือผู้อานวยการสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา มีอานาจ สั่งลงโทษ ดงั น้ี ภาคทัณฑ์ ตดั เงินเดือน ลดเงินเดอื น การสัง่ ลงโทษตัดเงนิ เดอื นหรอื ลดเงนิ เดอื น ถา้ จานวนเงินเดือนท่จี ะตอ้ งตดั หรอื ลด มีเศษไมถ่ ึง 10 บาทใหป้ ดั เศษทิ้ง สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 24

หมวด 8 การออกจากราชการ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาออกจากราชการเม่อื 1. ตาย 2. พ้นจากราชการตามกฎหมายว่าดว้ ยบาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ 3. ลาออกจากราชการและไดร้ บั อนุญาตให้ลาออก 4. ถูกสั่งให้ออก 5. ถูกส่ังลงโทษปลดออกหรือไลอ่ อก 6. ถูกเพกิ ถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชพี เวน้ แต่ ได้รับแต่งตั้ง ให้ดารงตาแหน่งอ่ืนทไี่ ม่ตอ้ งมใี บอนญุ าตประกอบวิชาชีพ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดประสงคจ์ ะลาออกจากราชการให้ย่ืน หนงั สอื ขอลาออกตอ่ ผูบ้ ังคบั บัญชา เพอื่ ให้ผู้มีอานาจเป็นผพู้ ิจารณาอนุญาต ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเห็นว่าจาเป็นเพ่ือประโยชน์แก่ราชการ สามารถ ยบั ยั้งการอนุญาตให้ลาออกเปน็ เวลาไม่เกิน 90 วัน นับตง้ั แต่วนั ขอลาออก สอบขา้ ราชการทอ้ งถ่ิน By Thurakan 25

หมวด 9 การอุทธรณ์และการรอ้ งทุกข์ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกส่ังลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือน (โทษทางวินัยไม่ร้ายแรง) ให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ กศจ. ภายใน 30 วัน นบั แตว่ นั ท่ีไดร้ บั แจง้ คาส่งั ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกส่ังลงโทษปลดออก ไล่ออก หรือ ถูกส่ังให้ออกจากราชการ (โทษทางวินัยร้ายแรง) ให้มีสิทธิอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ แล้วแต่ กรณี ต่อ ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน นับแต่วันท่ีได้รับแจ้งคาสั่ง และ ให้ ก.ค.ศ. พิจารณาใหแ้ ลว้ เสร็จภายใน 90 วนั ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดเห็นว่าตนไม่ไดร้ ับความเป็นธรรมหรือมี ความคับข้องใจเน่ืองจากการกระทาของผู้บังคับบัญชาหรือการแต่งตั้งคณะกรรมการ สอบสวนทางวินัย ให้ผู้นัน้ มสี ิทธิร้องทกุ ข์ต่อ กศจ. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือกรณีท่ีมิได้บัญญัติให้มีสิทธิอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ตามหมวดนี้ ผู้นั้นย่อมมีสิทธิท่ีจะ ฟอ้ งร้องคดตี อ่ ศาลปกครอง เมื่อศาลปกครองมีคาพิพากษาหรือคาส่ังเป็นประการใดแล้ว ให้ผู้บังคับบัญชา ดาเนนิ การแกไ้ ขคาส่ังไปตามน้นั สอบขา้ ราชการทอ้ งถิ่น By Thurakan 26