Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาออกแบบและเทคโนโลยีม.2

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาออกแบบและเทคโนโลยีม.2

Published by Jiraporn Anne, 2023-06-18 09:33:18

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาออกแบบและเทคโนโลยีม.2

Search

Read the Text Version

3.ขัน้ ปฏบิ ัตแิ ละสรุปความร้หู ลงั การปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 8. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันนำการระบปุ ัญหาทีเ่ คยกำหนดไวม้ าใชเ้ ป็นคำถามเพ่ือรวบรวมขอ้ มลู จากนน้ั นกั เรียนรวบรวมข้อมูล โดยเลือกวิธกี ารทเ่ี หมาะสม แล้วสรุปผลจากการรวบรวมขอ้ มูล ดังตวั อยา่ ง • ปญั หาที่เลอื ก คือ นำ้ ในลำคลองเนา่ เสยี • กำหนดจดุ ประสงค์และตัวแปร รวบรวมขอ้ มลู เกีย่ วกับสาเหตุทีท่ ำใหน้ ้ำในลำคลองเน่าเสยี และวิธกี ารแกป้ ัญหา • กำหนดขอบเขต ชมุ ชน • กำหนดกลมุ่ ตัวอยา่ ง ชาวบ้านภายในชมุ ชนจำนวน 20 คน • กำหนดวิธีในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ใช้วิธีสัมภาษณ์ชาวบ้านในชุมชน • รวบรวมข้อมลู - สอบถามจากกลุ่มตวั อยา่ งดังกลา่ ว - ค้นหาขอ้ มลู จากเวบ็ ไซตท์ ีเ่ กี่ยวข้องทางอินเทอรเ์ น็ต - สอบถามจากผเู้ ชย่ี วชาญด้านการบำบดั นำ้ เสีย • ประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล แสดงผลทไี่ ดม้ าโดยใชแ้ ผนภาพความคดิ ไม่สนใจชาวบา้ น การปลอ่ ยนำ้ เสีย การทิ้งขยะ จำนวนถังขยะไมเ่ พยี งพอ ในบรเิ วณน้นั ๆ หรอื สารเคมี ลงในลำคลอง ไมม่ ีพ้ืนท่ีในการกำจดั ขยะ จากโรงงาน มสี ิง่ ปฏิกลู อยู่ในน้ำ ไมเ่ หน็ ถงึ ปญั หา ขาดการบำบัดน้ำ ของส่งิ แวดล้อม นำ้ ในลำคลอง เน่าเสยี ไม่มีการเชอื่ มต่อกับแม่นำ้ ทำใหน้ ้ำไม่เกิด ไม่มีการ ออกซิเจน การไหลเวียน ไหลเวียนของนำ้ ในนำ้ ไม่มี

9. นกั เรยี นร่วมกันสรุปสงิ่ ที่เขา้ ใจเปน็ ความร้รู ว่ มกัน ดงั นี้ การรวบรวมขอ้ มูล เป็นกระบวนการในการรวบรวมข้อมูลท่ีจะได้มาเพ่ือใช้ในการทำวจิ ยั หรือกจิ กรรมใดกจิ กรรมหนงึ่ ข้อมลู ทรี่ วบรวมมานนั้ อาจจะเปน็ ตัวเลขหรอื ข้อความกไ็ ด้ เมื่อรวบรวมข้อมลู เรยี บร้อยแลว้ ขั้นตอ่ ไปก็คือการออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหาและการตัดสินใจที่จะเลอื กวิธกี ารทีด่ ีที่สดุ จากข้อมูลที่ไดร้ วบรวมมา เพื่อแก้ปัญหาได้อยา่ งเป็นข้ันตอนและมขี ้อผิดพลาดน้อยทส่ี ุด 7. สอ่ื การเรียนรู้ 7.1 สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ของ สถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพวธิ ีการรวบรวมขอ้ มูล 3. แหลง่ การเรยี นรูท้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรียน 8. กระบวนการวัดและประเมินผล 1. ประเมินความรู้ เรอ่ื ง การรวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ท่ีเก่ียวขอ้ งกับปัญหา (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งมัน่ ในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน แบบประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่ รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกล่มุ ไมม่ กี ารกำหนด มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไมม่ ีการชี้แจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หน้า เป้าหมาย สมาชกิ ตา่ งคนต่างทำงาน และมีการชแ้ี จงเป้าหมาย มีการช้แี จงเปา้ หมาย ไม่มีการชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มกี ารปฏบิ ตั งิ านร่วมกนั ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกนั ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน อย่างร่วมมอื ร่วมใจ แตไ่ มม่ กี ารประเมนิ ไมค่ รบทกุ คน พร้อมกับการประเมินเป็น เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ชว้ี ดั ท่ี 4.1 ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตง้ั ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา ไมต่ ง้ั ใจเรยี น และมีความเพยี ร พยายาม ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ตัง้ ใจเรียน เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม และมคี วามเพยี ร และมีความเพียร ในการเรียน มีส่วนรว่ ม กิจกรรมการเรยี นรู้ ต่าง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรยี นรู้ และเข้า ในการเรียนรู้ มสี ่วน ในการเรยี นรู้ มีส่วน รว่ มกจิ กรรมการ ร่วมในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรตู้ ่าง ๆ เขา้ รว่ มกิจกรรมการ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เป็นบางครัง้ เรียนรตู้ า่ ง ๆ เรียนรูต้ ่าง ๆ บอ่ ยคร้ัง ทง้ั ภายในและ ภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจำ มุ่งม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวัดท่ี 6.1 ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าท่กี ารงาน พฤติกรรมบ่งช้ี ดีเยย่ี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ า่ น (0) ตั้งใจและรบั ผิดชอบ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบ ไม่ต้ังใจปฏบิ ัติ 6.1.1 เอาใจใสต่ ่อ ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ ในการปฏิบัติหน้าท่ี หน้าทกี่ ารงาน ท่ีได้รับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัติหน้าท่ี ในการปฏิบัตหิ น้าท่ี ให้สำเร็จ มีการ ใหส้ ำเรจ็ ปรับปรุงและ ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ทีไ่ ด้รับมอบหมาย พัฒนาการทำงานให้ ดีขึน้ 6.1.2 ตั้งใจและ ใหส้ ำเร็จ มีการ รับผิดชอบใน ปรับปรุง และ การทำงานให้ พฒั นาการทำงานให้ สำเรจ็ ดขี น้ึ ด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ด้วยตนเอง

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง การออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหา เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวจริ าภรณ์ หว่างแสง สอนวันท.่ี .......เดือน.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พื่อการดำรงชวี ิตในสงั คมที่มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ใชค้ วามรูแ้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อืน่ ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพฒั นางานอย่างมีความคดิ สรา้ งสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต สังคม และสิง่ แวดล้อม ตัวช้ีวัด ว 4.1 ม.2/3 ออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทยี บ และตดั สินใจเลือกขอ้ มลู จำเปน็ ภายใต้ เงอื่ นไขและทรพั ยากรที่มีอยู่ นำเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาใหผ้ อู้ นื่ เข้าใจ วางแผนขน้ั ตอนการทำงานและดำเนนิ การ แกป้ ัญหาอย่างเป็นขั้นตอน 2. สาระการเรยี นรู้ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาเป็นอกี หนึ่งขัน้ ตอนสำคญั ของการแก้ปัญหา เพ่ือนำไปส่วู ิธีที่ดที ่ีสดุ โดยใช้ ไดอะแกรมช่วยในการวเิ คราะห์ความสัมพนั ธ์ในแต่ละขนั้ ตอนไดง้ ่ายขน้ึ และเหน็ ภาพมากขึ้นอีกท้ังทำให้ผู้อ่นื เข้าใจ วิธีการแกป้ ัญหาได้งา่ ยและเร็วข้ึนจากไดอะแกรมท่ีออกแบบไว้ 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายเก่ียวกบั การออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา (K) 2. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา (P) 3. เห็นความสำคญั ของการออกแบบวิธีการแก้ปัญหา (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1.ขน้ั สงั เกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นักเรียนร่วมกันสังเกตภาพรถยนต์พลังงานไฟฟา้ แลว้ ตอบคำถาม ดังนี้ เครื่องยนต์ แบตเตอรี่ แผงโซลาร์เซลล์ ช่องสาหรับชาร์จไฟฟ้า • จากภาพคืออะไร (รถยนต์พลังงานไฟฟา้ ) • จากภาพ สามารถชว่ ยแก้ไขปัญหาใดได้บ้าง (ตวั อยา่ งคำตอบ ช่วยลดการใชน้ ้ำมนั เช้อื เพลงิ ) • นักเรียนคดิ วา่ ในอนาคตจะมีนวตั กรรมน้หี รอื ไม่ (ม/ี ไม่ม)ี 2. นกั เรียนรว่ มกันสังเกตภาพถุงผา้ แล้วตอบคำถาม ดงั นี้ • จากภาพคืออะไร (ถุงผ้า) • จากภาพสามารถช่วยแกไ้ ขปัญหาใดไดบ้ ้าง (ตัวอย่างคำตอบ ลดการใช้ถงุ พลาสตกิ ช่วยลดปริมาณขยะ) • นักเรยี นคิดว่าวิธีช่วยลดการใชถ้ งุ พลาสติกมวี ธิ ีใดอกี บ้าง (ตวั อย่างคำตอบ การนำแกว้ ของตนเองไปใสเ่ คร่ืองดมื่ แทนการใช้แก้วพลาสติกจากรา้ น มีการจัดโพรโมชันเม่ือไมใ่ ชถ้ ุงพลาสตกิ จะไดร้ ับคะแนนสะสมเพื่อนำไปแลกสนิ ค้า) 3. นักเรียนร่วมกนั ศึกษาคน้ คว้าข้อมูลเก่ียวกับการออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา จากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ อย่าง หลากหลาย เชน่ อินเทอร์เนต็ หนังสือเรียน

2.ขนั้ คดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 4. นักเรยี นรว่ มกนั วเิ คราะห์ แลว้ ตอบคำถามกระต้นุ ความคิด ดังนี้ • การออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหาตอ้ งคำนึงถึงปัจจัยใดบา้ ง (ตวั อยา่ งคำตอบ ต้องคำนงึ ถึงจดุ ประสงค์ของการแก้ปัญหาและสามารถนำวธิ แี ก้ปัญหาไปใชไ้ ดจ้ รงิ ) 5. นักเรยี นรว่ มกนั วิเคราะหเ์ กยี่ วกบั การออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา แลว้ ตอบคำถาม ดังน้ี • นักเรียนใชว้ ิธใี ดในการออกแบบการแก้ปัญหา (ตัวอยา่ งคำตอบ ใช้ไดอะแกรม (diagram)) • ประโยชน์ของไดอะแกรมในการออกแบบการแก้ปัญหาคืออะไร (ตัวอย่างคำตอบ ชว่ ยใหว้ เิ คราะหค์ วามสัมพนั ธใ์ นแต่ละขน้ั ตอนได้งา่ ย และเหน็ ภาพมากขนึ้ อกี ทั้งยังทำให้ผ้อู ืน่ เข้าใจวธิ ีการแกป้ ัญหาได้ง่ายและเรว็ ข้ึน) • เพราะเหตุใดจึงต้องเพ่มิ นำ้ หนักเข้าไปในแตล่ ะวิธี โดยการใส่คะแนน (เพราะตอ้ งการเปรียบเทียบวิธีทด่ี ที ี่สดุ ) • ควรวเิ คราะห์สิ่งใดบ้างจากวธิ กี ารแก้ปัญหา (ขอ้ ดี ขอ้ เสยี ของวธิ ีการแกป้ ัญหา และคะแนนเฉลี่ย) • นกั เรยี นจะรู้ได้อย่างไรวา่ วิธกี ารแกป้ ญั หาใดเหมาะสมที่สดุ (ตัวอย่างคำตอบ ดูจากคะแนนเฉลี่ย) 6. นกั เรียนร่วมกันออกแบบวิธกี ารแกป้ ญั หาฝุ่น PM2.5 โดยส่งตวั แทนนกั เรียนออกมาเขียนคำตอบ ลงในตาราง แลว้ ร่วมกันให้คะแนน ดังตวั อยา่ ง วธิ กี ารแกป้ ญั หา ข้อดี ข้อเสยี คะแนนเฉล่ีย • ทำใหก้ ารเดนิ ทาง 4.6 1. ลดการใชย้ านพาหนะ • การจราจรไม่ติดขดั 3.0 ถงึ จดุ หมายลา่ ช้า ท่ีก่อให้เกิดเขมา่ ควนั • ลดอุบัตเิ หตุ 4.0 • แกป้ ัญหาได้เฉพาะ • ประหยดั ค่านำ้ มัน บางพ้นื ท่ี เชอ้ื เพลงิ • ต้องเปิดระบบน้ำ ตลอดเวลา 2. พ่นละอองนำ้ เพ่ือดักจบั • อากาศเยน็ สบาย • แก้ปัญหาไดแ้ ค่ ฝุน่ ในอากาศ • ทกุ ครัวเรอื นสามารถ ระยะเวลาหนงึ่ ติดต้ังระบบพ่น • แกป้ ญั หาไดแ้ ค่ ระยะเวลาหนึง่ ละอองน้ำได้ • การจราจรติดขัด 3. รัฐบาลประกาศ • ทำให้ถนนสะอาด ลา้ งถนนในพืน้ ที่เส่ียง ปลอดฝ่นุ

7. นักเรยี นร่วมกนั ออกแบบการแกป้ ญั หาฝุ่น PM2.5 โดยใช้แผนภาพความคิด ดงั ตัวอย่าง การจราจรไม่ติดขัด ทำให้ถนนสะอาดปลอดฝุน่ ลดการใชย้ านพาหนะ 4.6 4.0 รัฐบาลประกาศล้างถนน ท่ีกอ่ ให้เกิดเขมา่ ควัน ในพนื้ ท่ีเสยี่ ง ลดฝ่นุ PM2.5 3.0 พ่นละอองน้ำเพ่ือดักจับ ฝนุ่ ในอากาศ อากาศเยน็ สบาย 8. นักเรียนรว่ มกันสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั การออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา ดงั นี้ การออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา จะช่วยให้เลือกวิธีการท่ีดีท่สี ุดหรือเหมาะสมท่ีสดุ กบั ปญั หา โดยใชไ้ ดอะแกรมหรอื แผนภาพความคดิ ทำให้วิเคราะห์ความสัมพนั ธ์ในแต่ละขนั้ ตอนได้ง่าย และทำให้ ผู้อื่นเข้าใจวธิ กี ารแก้ปัญหา การเพิ่มน้ำหนักคะแนนเข้าไปทำให้สามารถเปรยี บเทียบวธิ ีการแกป้ ัญหาได้วา่ วิธีใดเหมาะสมทีส่ ุด 3.ขั้นปฏบิ ัตแิ ละสรุปความรหู้ ลงั การปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 9. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหาของปัญหาท่เี คยเลือกไว้ โดยใชข้ อ้ มูลจากการระบปุ ัญหา การรวบรวมขอ้ มูลและแนวคดิ ท่เี กยี่ วข้องกับปัญหาท่ผี ่านมา มาออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา ดงั ตวั อยา่ ง 1) ตารางการนำเสนอข้อดี ข้อเสียของวธิ ีการแก้ปญั หาน้ำในลำคลองเนา่ เสีย วิธกี ารแกป้ ญั หา ขอ้ ดี ข้อเสีย คะแนนเฉลย่ี 1. ใช้ EM Ball • คา่ ใชจ้ า่ ยนอ้ ย • อาจไมเ่ กิดผลของ 3.0 • สามารถทำได้ การเปล่ียนแปลง ในปริมาณมาก ๆ • ใชร้ ะยะเวลานาน ในการบำบัดนำ้ 2. ใชก้ ังหันนำ้ ในการ • เห็นผลเร็ว • คา่ ใชจ้ ่ายในการสรา้ ง 3.6 บำบัดนำ้ เสีย • แก้ปัญหาไดท้ ุกพ้นื ที่ สูง • อาจไม่เกิดผลของ การเปลี่ยนแปลง 3. รณรงค์ลดการทิ้งขยะ • เห็นผลเรว็ • บางคนอาจไม่ทราบ 4.5 ลงในลำคลอง • ขยะในลำคลองลดลง ขา่ วสารของ • ปลกู จิตสำนกึ การรณรงค์ การทง้ิ ขยะให้เปน็ ท่ี

2) แสดงวิธีการแก้ปญั หา โดยใช้แผนภาพความคิด เหน็ ผลเร็ว แกป้ ัญหาไดท้ ุกพ้นื ท่ี รณรงคล์ ดการทงิ้ ขยะ 4.5 3.6 ใชก้ ังหนั นำ้ ในการบำบดั ลงในลำคลอง นำ้ เสีย การแกป้ ญั หาน้ำเสยี ในลำคลอง 3.0 ใช้ EM Ball คา่ ใชจ้ ่ายนอ้ ย 10. นักเรยี นรว่ มกันสรปุ ส่งิ ทเ่ี ขา้ ใจเป็นความรรู้ ว่ มกนั ดังน้ี การออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาเป็นอีกหน่ึงขัน้ ตอนสำคญั ของการแกป้ ัญหา เพ่ือนำไปส่วู ธิ ีท่ีดที ่สี ดุ โดยใช้ ไดอะแกรมชว่ ยในการวิเคราะหค์ วามสัมพันธ์ในแตล่ ะขน้ั ตอนได้งา่ ยขน้ึ และเห็นภาพมากขึ้น อีกท้ังทำให้ผู้อื่นเขา้ ใจวธิ กี ารแก้ปญั หาไดง้ ่ายและเร็วขนึ้ จากไดอะแกรมท่ีออกแบบไว้ 7. สอ่ื การเรยี นรู้ 7.1 สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 3. ภาพถุงผ้า 4. แหล่งการเรียนรูท้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น 8. กระบวนการวดั และประเมินผล 1. ประเมินความรู้ เรอื่ ง การออกแบบวิธีการแก้ปญั หา (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ ม่นั ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไมม่ กี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ กี ารช้ีแจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ตา่ งคนต่างทำงาน และมกี ารชี้แจงเป้าหมาย มกี ารชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ปฏบิ ตั ิงานรว่ มกนั อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทกุ คน พรอ้ มกบั การประเมินเปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ตั้งใจเรียน และมคี วามเพยี ร พยายาม ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี ร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ มสี ่วน ในการเรียนรู้ มีสว่ น รว่ มกจิ กรรมการ รว่ มในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรียนรู้ตา่ ง ๆ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เข้าร่วมกิจกรรมการ เปน็ บางคร้งั เรียนร้ตู า่ ง ๆ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บ่อยครัง้ ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ต้งั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... ลงชื่อ (นางสาวฐิตมิ า สวาสนา) ตำแหน่ง หัวหน้ากลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันท่.ี .........เดือน...........................พ.ศ............. 10. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการกลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ......................................................................................................................... ................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... .............................................................................................................................. .................... ลงช่ือ (นายวิรพงษ์ ปะนามะเส) ตำแหน่ง ผ้ชู ว่ ยผอู้ ำนวยการกลมุ่ งานบริหารวชิ าการ วันท่ี..........เดอื น...........................พ.ศ............. 11. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................... ............................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ..................... ลงชอ่ื (นางเยาวลกั ษณ์ สอนสะอาด) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วนั ที่..........เดือน...........................พ.ศ............. 12. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น

............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... ลงชื่อ (นายนภภูมิ แกว้ วิเศษ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วนั ท.ี่ .........เดอื น...........................พ.ศ............. 13. บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 13.1 ผลการเรยี นรูท้ ่เี กิดข้ึนกับผู้เรยี น ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ............................................................................ 13.2 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .................................................................................................................................................................... .......... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ..............................ผ้สู อน (นางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง) ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ………../………./…………

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 โรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2566 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง การวางแผนและดำเนนิ การแกป้ ัญหา เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ผสู้ อนนางสาวจริ าภรณ์ หว่างแสง สอนวันท.่ี .......เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พ่ือการดำรงชวี ติ ในสงั คมที่มกี ารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเรว็ ใช้ความรแู้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรอื พฒั นางานอยา่ งมีความคิด สร้างสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชวี ิต สังคม และสงิ่ แวดล้อม ตวั ช้ีวัด ว 4.1 ม.2/3 ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสนิ ใจเลือกข้อมูลทจ่ี ำเปน็ ภายใต้ เงอ่ื นไขและทรพั ยากรที่มีอยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาใหผ้ ู้อืน่ เขา้ ใจ วางแผนขัน้ ตอนการทำงานและดำเนนิ การ แกป้ ัญหาอยา่ งเป็นขน้ั ตอน 2. สาระการเรยี นรู้ หลงั จากการระบปุ ัญหา รวบรวมข้อมูล และออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหาเรียบร้อยแล้ว ขน้ั ตอ่ ไปเปน็ การ วางแผนปฏบิ ัติการ ซง่ึ เป็นการเตรียมการขนั้ สุดทา้ ยก่อนเริ่มลงมือปฏบิ ัติ นยิ มเขยี นเป็นตารางใช้แสดงความสัมพันธ์ ระหว่างกจิ กรรมทตี่ ้องทำและระยะเวลาในการดำเนินการ อาจจะมีการใหน้ ้ำหนักความสำคญั ของกจิ กรรมเพ่ิมเขา้ ไป ด้วยกไ็ ด้ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายเก่ียวกบั การวางแผนและดำเนนิ การแกป้ ัญหา (K) 2. วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหาโดยการเขยี นแผนปฏิบตั ิการ (P) 3. เห็นความสำคญั ของการวางแผนและดำเนินการแกป้ ัญหา (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

6. กระบวนการจดั การเรียนรู้ 1.ขัน้ สังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นกั เรียนร่วมกนั สงั เกตและรวบรวมข้อมูลเกย่ี วกบั กิจกรรมในชวี ิตประจำวันทีต่ อ้ งมีการวางแผน โดยบันทึกคำตอบเปน็ แผนภาพความคดิ ดังตวั อย่าง การเดินทางไปโรงเรียน การเดินทางไป กจิ กรรม การอ่านหนังสือ ต่างจังหวดั ในชีวติ ประจำวนั เตรยี มสอบ ทีต่ ้องมีการวางแผน การใช้จา่ ยในแต่ละวัน การเล่นเกม การจดั ทำรายงาน การออกกำลังกาย หรอื โครงงาน 2. นักเรยี นรว่ มกนั ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเก่ยี วกับการวางแผนและดำเนนิ การแก้ปัญหา จากแหลง่ การเรียนรตู้ ่าง ๆ อย่างหลากหลาย เช่น อนิ เทอรเ์ นต็ หนังสือเรยี น 2.ขั้นคดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นักเรียนรว่ มกนั วิเคราะห์ แลว้ ตอบคำถามกระต้นุ ความคิด ดังน้ี • การแก้ปัญหาที่มีประสิทธภิ าพเปน็ อยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ ต้องมกี ารวางแผนและดำเนนิ การแก้ปัญหา แล้วได้ผลลัพธ์ทต่ี รงกับ จดุ ประสงค์ที่ตงั้ ไว้) 4. นักเรยี นร่วมกนั วิเคราะห์เก่ียวกบั กิจกรรมทีต่ ้องเขยี นในแผนปฏิบตั กิ าร โดยบนั ทกึ คำตอบ เป็นแผนภาพความคิด ดงั ตัวอยา่ ง 5. แกไ้ ขปัญหา สรุปผล เตรียมนาเสนอ 4. ทาการทดสอบประเด็น 3. รวบรวมขอ้ มูล 2. ซ้ืออุปกรณ์ 1. ประชุม วางแผน แบง่ งาน

5. นักเรียนรว่ มกันวิเคราะห์เกย่ี วกับการวางแผนและดำเนนิ การแก้ปัญหา แล้วตอบคำถาม ดังน้ี • การเขียนแผนปฏบิ ตั ิการนยิ มเขียนในรูปแบบใด (ตาราง) • ประโยชน์ของการเขยี นแผนปฏบิ ตั กิ ารคืออะไร (ตวั อย่างคำตอบ ทำใหท้ ราบกิจกรรมท่ีตอ้ งทำและระยะเวลาในการดำเนินการ ส่งผลให้ การทำกิจกรรมเปน็ ขนั้ ตอน และทราบระยะเวลาส้ินสุดในการทำงาน) • เพราะเหตุใดจึงต้องเพมิ่ ค่าน้ำหนกั ความสำคัญของกิจกรรมเข้าไปในแผนปฏบิ ัตกิ าร (เพราะทำให้ทราบว่ากจิ กรรมใดสำคัญมาก สำคัญน้อย และส่งผลต่อระยะเวลาดำเนินการอีกดว้ ย) • ขั้นตอนใดในกิจกรรมท่ตี ้องทำเปน็ อันดับแรก (ประชุม วางแผน แบง่ งาน) • ข้นั ตอนใดในกจิ กรรมท่ีควรทำเปน็ ลำดับสุดทา้ ย(แก้ไขปัญหา สรุปผล เตรยี มนำเสนอ) 6. นกั เรียนร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดเก่ยี วกับการวางแผนและดำเนนิ การแกป้ ญั หา ดังน้ี การเขยี นแผนปฏบิ ัติการ จะช่วยใหแ้ สดงความสัมพันธร์ ะหวา่ งกิจกรรมที่ตอ้ งทำ และระยะเวลา ในการดำเนนิ การ ทำให้การแกป้ ัญหาเป็นระบบและมขี ั้นตอนในการปฏบิ ัติทแี่ นน่ อน และยังทราบระยะเวลาดำเนินการ จึงทำให้การแกป้ ญั หาเสร็จตามเปา้ หมายทีว่ างไว้ 3.ขัน้ ปฏบิ ตั ิและสรุปความรหู้ ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันปฏิบตั ิเขียนแผนปฏิบตั กิ ารของการแก้ปัญหาที่เลือกไว้ โดยใช้ข้อมูล จากการระบปุ ญั หา การรวบรวมขอ้ มูล และแนวคดิ ท่ีเกีย่ วข้องกับปัญหา และการออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา ทผ่ี ่านมา นำมาใช้เขียนแผนปฏิบัติการ ดังตวั อยา่ ง ลำดับ กิจกรรม ค่าน้ำหนกั ความสำคัญ ระยะเวลาดำเนนิ การ ที่ ของกจิ กรรม (รอ้ ยละ) ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. 1 ประชุม วางแผน แบง่ งาน 30 2 ซื้ออปุ กรณ์ 10 3 รวบรวมข้อมลู 15 4 ทำการทดสอบประเด็น 30 5 แก้ไขปัญหา สรปุ ผล เตรียมนำเสนอ 15 100 รวม 8. นกั เรยี นร่วมกันสรุปส่ิงทเ่ี ข้าใจเปน็ ความรูร้ ว่ มกัน ดังนี้ หลงั จากการระบุปญั หา รวบรวมขอ้ มลู และออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หาเรียบร้อยแล้ว ขนั้ ตอ่ ไป เป็นการวางแผนปฏบิ ตั กิ าร ซ่ึงเป็นการเตรยี มการข้นั สุดท้ายกอ่ นเริ่มลงมือปฏบิ ตั ิ นยิ มเขียนเปน็ ตาราง ใชแ้ สดงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งกิจกรรมท่ีตอ้ งทำและระยะเวลาในการดำเนินการ อาจจะมีการให้นำ้ หนัก ความสำคัญของกจิ กรรมเพิ่มเข้าไปดว้ ยก็ได้

7. สื่อการเรยี นรู้ 7.1 สอ่ื การเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. แหล่งการเรยี นรทู้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรียน 8. กระบวนการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรือ่ ง การวางแผนและดำเนินการแกป้ ัญหา (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ มัน่ ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมนิ แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุ่ม ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไมม่ ีการชแ้ี จง สมาชกิ ชัดเจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หน้า เป้าหมาย สมาชกิ ตา่ งคนตา่ งทำงาน และมกี ารชี้แจงเป้าหมาย มกี ารชีแ้ จงเป้าหมาย ไม่มกี ารชีแ้ จงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อย่างชดั เจน มกี ารปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบัตงิ านร่วมกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกัน อย่างร่วมมือรว่ มใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทกุ คน พรอ้ มกับการประเมนิ เปน็ เป็นระยะ ๆ ระยะ ๆ

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ชว้ี ดั ท่ี 4.1 ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตง้ั ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา ไมต่ ง้ั ใจเรยี น และมีความเพยี ร พยายาม ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ตัง้ ใจเรียน เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม และมคี วามเพยี ร และมีความเพียร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ต่าง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรยี นรู้ และเข้า ในการเรียนรู้ มสี ่วน ในการเรยี นรู้ มีส่วน รว่ มกจิ กรรมการ ร่วมในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรตู้ ่าง ๆ เขา้ รว่ มกิจกรรมการ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เป็นบางครัง้ เรียนรตู้ า่ ง ๆ เรียนรูต้ ่าง ๆ บอ่ ยคร้ัง ทง้ั ภายในและ ภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจำ มุ่งม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวัดท่ี 6.1 ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าท่กี ารงาน พฤติกรรมบ่งช้ี ดีเยย่ี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ า่ น (0) ตั้งใจและรบั ผิดชอบ ต้ังใจและรับผดิ ชอบ ไม่ต้ังใจปฏบิ ัติ 6.1.1 เอาใจใสต่ ่อ ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ ในการปฏิบัติหน้าท่ี หน้าทกี่ ารงาน ท่ีได้รับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัติหน้าท่ี ในการปฏิบัตหิ น้าท่ี ให้สำเร็จ มีการ ใหส้ ำเรจ็ ปรับปรุงและ ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ทีไ่ ด้รับมอบหมาย พัฒนาการทำงานให้ ดีขึน้ 6.1.2 ตั้งใจและ ใหส้ ำเร็จ มีการ รับผิดชอบใน ปรับปรุง และ การทำงานให้ พฒั นาการทำงานให้ สำเรจ็ ดขี น้ึ ด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... ลงชื่อ (นางสาวฐิติมา สวาสนา) ตำแหน่ง หัวหนา้ กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วันท่.ี .........เดอื น...........................พ.ศ............. 10. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้ชว่ ยผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารวชิ าการ ......................................................................................................................... ................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... .............................................................................................................................. .................... ลงชอื่ (นายวิรพงษ์ ปะนามะเส) ตำแหน่ง ผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการกลมุ่ งานบริหารวิชาการ วันท่.ี .........เดือน...........................พ.ศ............. 11. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................... ............................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ..................... ลงช่ือ (นางเยาวลักษณ์ สอนสะอาด) ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วนั ท.่ี .........เดือน...........................พ.ศ.............

12. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... ลงชอ่ื (นายนภภมู ิ แกว้ วเิ ศษ) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วนั ท่ี..........เดอื น...........................พ.ศ............. 13. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 13.1 ผลการเรยี นรู้ที่เกดิ ข้ึนกับผู้เรียน ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ .. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.2 ปญั หา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ..............................ผู้สอน (นางสาวจริ าภรณ์ หวา่ งแสง) ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ………../………./…………

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 โรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2566 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 เรือ่ ง การทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรุงแกไ้ ขวธิ กี ารแก้ปัญหาหรือชน้ิ งาน เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ผสู้ อนนางสาวจริ าภรณ์ หว่างแสง สอนวันท่ี........เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พ่ือการดำรงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใช้ความร้แู ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ นื่ ๆ เพ่ือแกป้ ญั หาหรอื พัฒนางานอย่างมคี วามคิด สรา้ งสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ิต สังคม และส่ิงแวดล้อม ตวั ช้ีวัด ว 4.1 ม.2/4 ทดสอบ ประเมินผล และอธบิ ายปญั หาหรอื ข้อบกพร่องท่ีเกดิ ขึน้ ภายใต้กรอบเง่ือนไข พรอ้ มทงั้ หาแนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข และนำเสนอผลการแกป้ ญั หา 2. สาระการเรียนรู้ การทำโครงงานหรือชิน้ งาน จะต้องมกี ารกำหนดประเดน็ ในการทดสอบข้นึ มาหลาย ๆ ประเดน็ เพื่อ ประเมนิ ผลของโครงงานหรือชิน้ งานน้ัน ๆ เม่อื ทดสอบและประเมนิ ผลของโครงงานหรือช้ินงานแลว้ จะทำให้เห็นปญั หา และอุปสรรคทเ่ี กดิ ขึ้นจากการทดสอบ จึงจำเป็นต้องมีการปรบั ปรงุ และแก้ปญั หาของช้ินงาน เพือ่ ให้โครงงานหรอื ชิ้นงานได้ผลสัมฤทธิ์ตรงตามวัตถุประสงค์ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายเก่ียวกับการทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรุงแก้ไขวิธีการแกป้ ัญหาหรือช้ินงาน (K) 2. ทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรงุ แกไ้ ขวธิ กี ารแกป้ ัญหาหรือชนิ้ งาน (P) 3. เหน็ ความสำคญั ของการทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรงุ แก้ไขวธิ กี ารแกป้ ัญหาหรือชนิ้ งาน (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 1.ข้นั สังเกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นักเรยี นร่วมกันสังเกตภาพเครื่องบำบัดน้ำเสีย แล้วตอบคำถาม ดงั นี้ • จากภาพคืออะไร (เครอื่ งบำบดั นำ้ เสยี ) • เครือ่ งดังกลา่ วช่วยแก้ปญั หาอะไร (ชว่ ยบำบัดน้ำเสยี ใหก้ ลบั มาใสสะอาดและเพิ่มออกซเิ จนในนำ้ ) • ถ้านกั เรียนสรา้ งเครื่องดังภาพขึ้นมาเอง นักเรียนนำไปทดสอบอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ นำไปทดสอบในบรเิ วณทมี่ ีนำ้ เน่าเสีย โดยใช้ระยะเวลาตามที่กำหนดไว้) • นกั เรียนจะประเมนิ ผลอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ จากการสังเกตการเปลย่ี นแปลงของนำ้ และใช้เคร่ืองมือวัดคุณภาพของน้ำ) • เมอ่ื ผลการประเมินยังไมต่ รงกับวัตถปุ ระสงค์ ควรทำอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ ปรับปรุงแก้ไขเครอ่ื งบำบัดน้ำเสียให้ทำงานได้มปี ระสทิ ธภิ าพเพ่ิมมากข้ึน และแก้ไขจดุ บกพร่อง) 2. นักเรียนร่วมกนั ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลเกีย่ วกับการทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรงุ แก้ไข วธิ กี ารแกป้ ญั หาหรือชิน้ งาน จากแหล่งการเรยี นรูต้ ่าง ๆ อย่างหลากหลาย เช่น อนิ เทอรเ์ น็ต หนังสือเรียน

2.ขน้ั คิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing) 3. นักเรยี นร่วมกนั วเิ คราะหเ์ กย่ี วกับประเด็นท่ีใช้ในการทดสอบชนิ้ งาน โดยบนั ทกึ คำตอบ เปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดงั ตัวอย่าง สามารถทำได้จรงิ ประเดน็ ที่ใช้ คมุ้ ค่าทจ่ี ะทดสอบ ในการทดสอบช้นิ งาน ต้องไม่เกดิ ผลกระทบในด้านลบ ตรงกับวตั ถปุ ระสงค์ ต่อผอู้ น่ื หรือสง่ิ แวดล้อม ของโครงงาน 4. นกั เรยี นร่วมกนั วิเคราะหเ์ กี่ยวกับการทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรงุ แก้ไขวิธีการแก้ปัญหา หรือชนิ้ งาน แลว้ ตอบคำถาม ดงั น้ี • เม่อื สรา้ งชน้ิ งานเพ่อื นำไปใช้แก้ปัญหาขนึ้ มาแล้ว ขั้นตอนตอ่ ไปคืออะไร (ตวั อย่างคำตอบ นำไปทดสอบแล้วประเมินผล) • ประเดน็ การทดสอบช้ินงานที่สามารถทำได้จริงควรเป็นอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ไม่ยากเกิดขีดจำกัด ความสามารถของผทู้ ดสอบหรอื คณะต้องมหี ลกั การกฎเกณฑ์ หรือ ทฤษฎที างวทิ ยาศาสตร์ รวมไปถงึ หลักฐานต่าง ๆ มารองรับในการพสิ จู น์ และใชเ้ วลาในการทดสอบไมม่ ากเกินไป) • นกั เรยี นมวี ิธกี ารทดสอบอย่างไรใหค้ ุม้ ค่า (ตวั อย่างคำตอบ จำลองสถานการณผ์ า่ นโปรแกรมคอมพิวเตอรห์ รอื นำวัสดุเหลอื ใชม้ าประยกุ ต์ใช้ เพ่ือการ ทดสอบแทนวัสดุท่จี ะใชจ้ ริงในชิน้ งานนัน้ ) • ขอ้ ดีและข้อเสียของการจำลองสถานการณ์ผา่ นทางโปรแกรมคอมพวิ เตอร์คืออะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ข้อดี คือ เสียค่าใชจ้ า่ ยน้อยและไมส่ ญู เสยี วัสดทุ ใ่ี ช้งานจริง ข้อเสยี คือ อาจไดผ้ ลลัพธท์ ่ีไม่ แมน่ ยำ เทา่ กับการทดสอบดว้ ยสถานการณจ์ ริง) • นักเรียนจะร้ไู ดอ้ ยา่ งไรวา่ วธิ ีการแกป้ ัญหาหรือชิ้นงานของเรามปี ระสิทธภิ าพ (ตัวอย่างคำตอบ ผลลัพธ์ตรงกับวัตถุประสงค์ และสามารถนำไปใช้ไดจ้ ริง) • นักเรยี นมีวธิ กี ารทดสอบวธิ ีการแก้ปญั หาหรอื ชน้ิ งานอยา่ งไร เพ่ือไม่ให้เกดิ ผลกระทบต่อผอู้ นื่ (ตวั อยา่ งคำตอบ ทดสอบในบริเวณโลง่ กวา้ ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อยใู่ นเขตท่ีอยู่อาศัย) • การปรับปรุงและแกป้ ัญหาของชน้ิ งานขึ้นอยู่กับเหตุปัจจยั ใดบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ วสั ดุและอปุ กรณ์ไม่สามารถทำไดต้ ามทค่ี ำนวณไว้ ถกู รบกวนจากส่ิงท่ีไม่สามารถควบคุมได้ ต้องการผลลพั ธท์ ดี่ ีกวา่ เดมิ และผู้ทำการทดสอบประเดน็ ไม่มีความพร้อม) • ถ้าผู้ทดสอบไม่ความชำนาญในการใชเ้ ครือ่ งมือจะเกิดอะไรขนึ้ พร้อมยกตัวอย่าง (ตวั อยา่ งคำตอบ อาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย เชน่ การทดสอบเพื่อวดั แรงอดั ของอิฐ โดยใช้เครอื่ งวัดแรงอดั ถา้ ไม่มีความชำนาญ อาจทำใหเ้ ศษอฐิ กระเด็นเขา้ ส่ดู วงตาได)้

5. นักเรียนร่วมกนั วิเคราะห์ แล้วตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดังน้ี • ขนั้ ตอนการทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรงุ แก้ไขน้ี สามารถนำไปประยกุ ต์ใช้กบั เรื่องใดในชวี ิตประจำวันไดบ้ า้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ การแก้ปญั หาการเดินทางไปโรงเรียน การปรับปรุงผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน) 6. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความคดิ รวบยอดเกยี่ วกบั การทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไข วิธีการแก้ปญั หาหรือชิน้ งาน ดังนี้ การทดสอบวิธีการแกป้ ัญหาหรือช้นิ งานตอ้ งคำนึงถงึ ว่าสามารถทำไดจ้ รงิ คุม้ ค่าท่ีจะทดสอบ ตรงกับวตั ถุประสงค์ และต้องไม่เกิดผลกระทบในดา้ นลบต่อผอู้ นื่ และสิ่งแวดล้อม เมือ่ พบปัญหา หรอื อุปสรรคจากการทดสอบ ควรปรบั ปรุงและแก้ปญั หาของชน้ิ งานให้ได้ผลสมั ฤทธ์ติ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ 3.ขน้ั ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความร้หู ลังการปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) 7. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนำวิธีการแก้ปัญหาหรอื ชน้ิ งานของตนเองไปแก้ปญั หาที่เลือกไวใ้ นชุมชนโดยการทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรงุ แก้ไขวิธกี ารแก้ปัญหาหรือชน้ิ งานใหไ้ ด้ผลสมั ฤทธติ์ ามวตั ถุประสงคท์ ่ีกำหนดไว้ 8. นักเรียนรว่ มกันสรุปสิ่งท่ีเข้าใจเป็นความรู้รว่ มกนั ดงั นี้ การทำโครงงานหรือชิ้นงาน จะตอ้ งมีการกำหนดประเด็นในการทดสอบขึ้นมาหลาย ๆ ประเด็น เพื่อประเมนิ ผล ของโครงงานหรือชน้ิ งานน้ัน ๆ เม่ือทดสอบและประเมนิ ผลของโครงงานหรอื ชนิ้ งานแลว้ จะทำให้เห็นปญั หาและ อุปสรรคที่เกิดข้ึนจากการทดสอบ จึงจำเป็นตอ้ งมกี ารปรบั ปรุงและแก้ปัญหาของชน้ิ งาน เพือ่ ใหโ้ ครงงานหรือชิ้นงานได้ ผลสัมฤทธิ์ตรงตามวตั ถุประสงค์ 7. สือ่ การเรยี นรู้ 7.1 สอื่ การเรยี นรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพเครือ่ งบำบัดน้ำเสีย 3. แหลง่ การเรยี นร้ทู ัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียน 8. กระบวนการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรอื่ ง การทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรงุ แก้ไขวธิ กี ารแก้ปัญหาหรอื ช้นิ งาน (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกล่มุ (P) ด้วยแบบประเมนิ 3. ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไมม่ กี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ กี ารช้ีแจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ตา่ งคนตา่ งทำงาน และมกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มกี ารชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทกุ คน พรอ้ มกบั การประเมินเปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ตั้งใจเรียน และมคี วามเพยี ร พยายาม ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี ร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ มสี ่วน ในการเรียนรู้ มีสว่ น รว่ มกจิ กรรมการ รว่ มในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เข้าร่วมกิจกรรมการ เป็นบางคร้งั เรียนร้ตู า่ ง ๆ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บ่อยครัง้ ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................ ................................................ .................................................................................................................................................. ลงช่ือ (นางสาวฐติ มิ า สวาสนา) ตำแหน่ง หวั หน้ากลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วนั ท.่ี .........เดือน...........................พ.ศ............. 10. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการกลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... ลงชอ่ื (นายวริ พงษ์ ปะนามะเส) ตำแหน่ง ผู้ช่วยผูอ้ ำนวยการกล่มุ งานบริหารวิชาการ วนั ท่ี..........เดอื น...........................พ.ศ............. 11. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ............................................................... ....................................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................. ..................... ลงช่ือ (นางเยาวลกั ษณ์ สอนสะอาด) ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม วนั ท่.ี .........เดือน...........................พ.ศ.............

12. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผอู้ ำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................... ........................................ ........................................................................................... ....................................................... ลงชื่อ (นายนภภมู ิ แก้ววเิ ศษ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วนั ท่.ี .........เดอื น...........................พ.ศ............. 13. บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ 13.1 ผลการเรยี นรูท้ ี่เกดิ ขึ้นกับผู้เรยี น ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................... ............................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.2 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.3 ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................... ........................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ..............................ผู้สอน (นางสาวจริ าภรณ์ หว่างแสง) ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย ………../………./…………

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2566 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 6 เร่ือง การนำเสนอวิธีการแกป้ ัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือชิน้ งาน เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ผูส้ อนนางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง สอนวันที.่ .......เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพ่ือการดำรงชวี ิตในสงั คมท่ีมกี ารเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อนื่ ๆ เพื่อแกป้ ญั หาหรอื พฒั นางานอย่างมคี วามคิด สรา้ งสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม โดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชีวติ สังคม และส่งิ แวดล้อม ตวั ชวี้ ัด ว 4.1 ม.2/4 ทดสอบ ประเมินผล และอธบิ ายปญั หาหรอื ข้อบกพร่องทีเ่ กดิ ขึน้ ภายใตก้ รอบเง่ือนไข พรอ้ มทั้ง หาแนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข และนำเสนอผลการแก้ปัญหา 2. สาระการเรียนรู้ การนำเสนอผลงานเปน็ ส่ิงทีม่ ีความสำคญั อย่างย่ิง เน่ืองจากบุคคลอนื่ ๆ ทีม่ ีความสนใจไม่ได้เป็นผู้ที่มสี ่วนร่วมใน การทำโครงงานหรือชิ้นงาน จึงจำเปน็ ทจี่ ะต้องมกี ารนำเสนอผลงานให้ผู้อน่ื เข้าใจถึงแนวคิด วตั ถุประสงค์ ขั้นตอนการ ทำงาน ปญั หาท่ีมี แนวทางการแก้ปญั หา รวมไปถึงเหตุผลปัจจยั อน่ื ๆ ซ่ึงการนำเสนอผลงานมีหลายวิธีขน้ึ อย่กู ับความ ถนดั ของผู้นำเสนอโครงงานหรอื ชน้ิ งาน หรอื อาจจะ ขึ้นอยูก่ ับกรรมการทจี่ ะตัดสนิ โครงงานในกรณขี องการจดั การ แข่งขนั ทางวิชาการ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการนำเสนอวิธกี ารแก้ปญั หา ผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน (K) 2. นำเสนอวิธีการแกป้ ัญหา ผลการแกป้ ญั หาหรือชน้ิ งาน (P) 3. เห็นความสำคญั ของการนำเสนอวธิ ีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปญั หาหรอื ชิน้ งาน (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งม่ันในการทำงาน

6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 1.ขนั้ สงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรยี นรว่ มกนั สังเกตภาพสื่อนำเสนอ แล้วตอบคำถาม ดังน้ี • จากภาพ เป็นสอื่ นำเสนอรปู แบบใด และมีชอ่ื เรียกว่าอะไร (เป็นเอกสารสิง่ พิมพ์ มีชือ่ เรียกว่า ภาพพลกิ (flip chart)) • มีลักษณะการนำเสนอข้อมลู คล้ายกับสิง่ ใดท่ีพบเหน็ ในชวี ิตประจำวนั (ตวั อยา่ งคำตอบ ปฏทิ นิ ตั้งโต๊ะ) • จากภาพ เป็นส่ือนำเสนอรปู แบบใด และมชี ื่อเรียกวา่ อะไร(เป็นเอกสารสิง่ พิมพ์ มีช่อื เรียกว่า โปสเตอร์ (poster)) • ยกตวั อย่างโปรแกรมคอมพวิ เตอรใ์ นการสรา้ งโปสเตอร์(ตวั อย่างคำตอบ photoshop, illustrator, indesign) • นักเรยี นสามารถพบเห็นโปสเตอร์จากทีใ่ ดได้บา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ ปา้ ยนิเทศในโรงเรียน บอร์ดประชาสมั พันธใ์ น หา้ งสรรพสินคา้ ปา้ ยโฆษณาต่าง ๆ) • นักเรียนเคยสร้างหรือออกแบบโปสเตอรห์ รอื ไม่ (เคย/ไม่เคย)

• จากภาพ เปน็ ส่อื นำเสนอรูปแบบใด และมีชื่อเรยี กวา่ อะไร (เป็นเอกสารสงิ่ พมิ พ์ มีชอ่ื เรียกว่า รายงาน (report)) • นักเรยี นเคยทำรายงานหรือไม่ (เคย/ไม่เคย) • จากภาพเรียกวา่ อะไร (สตอรีบอร์ด (storyboard)) • นักเรียนเคยทำสตอรีบอร์ดหรือไม่ (เคย/ไมเ่ คย) 2. นกั เรยี นรว่ มกันศึกษาค้นควา้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั การนำเสนอวธิ ีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหา หรอื ช้ินงาน จากแหลง่ การเรียนร้ตู า่ ง ๆ อย่างหลากหลาย เช่น อนิ เทอรเ์ น็ต หนงั สือเรยี น 2.ข้ันคดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นักเรยี นร่วมกันวิเคราะห์เก่ยี วกับคณุ สมบตั ขิ องผ้บู รรยายที่ดี โดยบนั ทึกคำตอบเป็นแผนภาพความคิด ดัง ตัวอย่าง พดู ด้วยน้ำเสียง ทีช่ ัดเจน มบี คุ ลกิ ที่น่าดึงดูด มีภาษากายทน่ี า่ สนใจ รับความคดิ เหน็ คณุ สมบัติ แตง่ กายสะอาด ของผู้ฟัง ของ เรียบรอ้ ย ผบู้ รรยายท่ีดี มเี ทคนิคการ สบสายตากับผู้ฟัง บรรยายท่ีน่าสนใจ

4. นกั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะหเ์ ก่ียวกับคุณสมบตั ขิ องสือ่ นำเสนอทดี่ ี โดยบันทกึ คำตอบเป็นแผนภาพความคิด มีความนา่ สนใจ ดูแล้วเขา้ ใจงา่ ย เน้อื หาอยู่ในกรอบ คุณสมบตั ิ เป็นสื่อผสม ของหัวข้อ ของส่ือนำเสนอ ทด่ี ี มีการนำ ข้อความนำเสนอ ภาพกราฟกิ มาใช้ ไมเ่ ล็กเกนิ ไป 5. นักเรียนรว่ มกนั วิเคราะห์ แล้วตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้ • การนำเสนอวธิ ีการแก้ปญั หา ผลการแกป้ ัญหาหรือการนำเสนอชิน้ งาน มีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อืน่ อย่างไรบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ มีประโยชน์ต่อตนเอง คือ ช่วยให้ฝึกทักษะและบุคลกิ ภาพของผบู้ รรยาย ทำให้การพูดสือ่ สารชดั เจน ฝกึ วิเคราะหเ์ กี่ยวกบั การพดู อย่างไรใหน้ ่าสนใจ สามารถนำไปใชใ้ นอนาคตได้ และยงั ฝึกทักษะการสร้างสอื่ นำเสนอ และ มีประโยชน์ตอ่ ผอู้ ื่น คือ ทำให้ผอู้ ่นื เข้าใจถึงแนวคิด วัตถปุ ระสงค์ ข้นั ตอนการทำงาน ปัญหาทีม่ ี และแนวทางการ แกป้ ัญหา) 6. นักเรียนร่วมกนั วิเคราะห์เก่ยี วกบั การนำเสนอวิธีการแกป้ ัญหา ผลการแก้ปญั หาหรือชิน้ งาน แลว้ ตอบ คำถาม ดังนี้ • การนำเสนอผลงานประกอบดว้ ยกสี่ ่วน (ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ผู้ทท่ี ำหน้าทน่ี ำเสนอหรือผู้บรรยายและสื่อ) • รปู แบบของการนำเสนอผลงานมีอะไรบ้าง(เอกสารสิ่งพิมพ์ มัลตมิ ีเดีย โปรแกรมการนำเสนอ สตอรบี อร์ด) • นกั เรยี นยกตัวอยา่ งเอกสารสิง่ พิมพ์(ตวั อยา่ งคำตอบ ภาพพลกิ โปสเตอร์ รายงาน แผ่นพับ) • มลั ติมเี ดยี คอื อะไร (เป็นส่ืออิเล็กทรอนิกส์ที่นำเสนอผลงานดว้ ยภาพเคลอื่ นไหว ภาพกราฟกิ เสยี งประกอบ และข้อความ เข้าด้วยกัน) • เอกสารสงิ่ พิมพ์กบั สอื่ มัลติมีเดีย สือ่ รูปแบบใดดีกวา่ กนั เพราะเหตใุ ด (ตัวอย่างคำตอบ ส่ือมัลติมีเดียดกี ว่า เพราะ สามารถนำเสนอไดท้ ั้งภาพและเสยี งทำให้เกดิ ความนา่ สนใจมากกวา่ ) • นกั เรียนยกตวั อยา่ งโปรแกรมนำเสนอ(ตัวอยา่ งคำตอบ Microsoft Office PowerPoint, Prezi, PowToon) • องค์ประกอบของสอ่ื ทดี่ ีจากการใชโ้ ปรแกรมนำเสนอมีอะไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ ในหนึ่งเฟรมไมค่ วรมตี ัวอักษรมาก เกินไป พน้ื หลังสีอ่อน มีการใช้ภาพกราฟิกประกอบ อาจใช้กราฟ ตาราง หรือแผนภูมเิ ขา้ มาชว่ ยในการอธิบาย และไม่ ควรใสภ่ าพการต์ นู มากเกินไป) •สตอรีบอรด์ นิยมใชก้ ับการนำเสนอส่ือประเภทใด เพราะเหตใุ ด (ใช้ในการทำโฆษณาทางโทรทัศน์ หรอื ทำภาพยนตร์ โครงงาน เพราะต้องนำเสนอข้อมูลท่ีเป็นลำดบั ขน้ั ตอน มีการแสดงรายละเอยี ดเก่ยี วกับภาพเป็นฉาก)

7. นกั เรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั การนำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแกป้ ัญหาหรอื ชิ้นงาน ดังนี้การนำเสนอผลงานทำให้ผูอ้ นื่ เขา้ ใจถึงแนวคิด วตั ถุประสงค์ ข้ันตอนการทำงาน ปัญหาทีม่ ี แนวทางการแกป้ ัญหา รวมไปถึงเหตผุ ลปจั จยั อืน่ ๆ ควรเลือกใช้รปู แบบของการนำเสนอผลงานให้เหมาะสม เพื่อดึงดูด ผู้ฟัง และทำใหก้ ารนำเสนอมีความน่าสนใจมากย่ิงขน้ึ 3.ข้ันปฏบิ ัติและสรุปความรหู้ ลงั การปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 8. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ จดั ทำส่ือนำเสนอวธิ กี ารแก้ปัญหา ผลการแกป้ ญั หาหรือช้นิ งานของปัญหาทเี่ ลอื กไว้ เกยี่ วกับการแก้ปญั หาในชุมชน โดยเลอื กใช้รปู แบบของการนำเสนอท่ีเหมาะสม 9. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ สงิ่ ที่เข้าใจเป็นความรูร้ ว่ มกนั ดังน้ี การนำเสนอผลงานเป็นสิง่ ทมี่ ีความสำคัญอยา่ งย่ิง เน่ืองจากบคุ คลอน่ื ๆ ที่มีความสนใจไมไ่ ด้เป็นผู้ที่มสี ่วน ร่วมในการทำโครงงานหรอื ชิ้นงาน จงึ จำเป็นท่ีจะตอ้ งมีการนำเสนอผลงานให้ผูอ้ นื่ เข้าใจถึงแนวคิด วัตถปุ ระสงค์ ข้นั ตอนการทำงาน ปญั หาที่มี แนวทางการแก้ปัญหา รวมไปถงึ เหตผุ ลปจั จัยอื่น ๆ ซึ่งการนำเสนอผลงานมีหลายวิธี ข้ึนอยูก่ ับความถนดั ของผู้นำเสนอโครงงานหรือชน้ิ งาน หรืออาจจะขน้ึ อย่กู บั กรรมการที่จะตัดสินโครงงานในกรณีของ การจัดการแขง่ ขนั ทางวชิ าการ 7. ส่อื การเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรยี นรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพสอ่ื นำเสนอ 3. แหล่งการเรยี นรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน 8. กระบวนการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรอื่ ง การนำเสนอวิธีการแกป้ ญั หา ผลการแก้ปัญหาหรือช้นิ งาน (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมนิ

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไมม่ กี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ กี ารช้ีแจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ตา่ งคนตา่ งทำงาน และมกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มกี ารชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทกุ คน พรอ้ มกบั การประเมินเปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ตั้งใจเรียน และมคี วามเพยี ร พยายาม ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี ร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ มสี ่วน ในการเรียนรู้ มีสว่ น รว่ มกจิ กรรมการ รว่ มในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เข้าร่วมกิจกรรมการ เป็นบางคร้งั เรียนร้ตู า่ ง ๆ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บ่อยครัง้ ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... ............................................................... ลงช่อื (นางสาวฐิติมา สวาสนา) ตำแหน่ง หวั หนา้ กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วนั ท.่ี .........เดือน...........................พ.ศ............. 10. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ......................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ลงช่อื (นายวิรพงษ์ ปะนามะเส) ตำแหนง่ ผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการกลุม่ งานบริหารวชิ าการ วันที่..........เดอื น...........................พ.ศ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................ .............................. ลงชอื่ (นางเยาวลักษณ์ สอนสะอาด) ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม วันที่..........เดือน...........................พ.ศ.............

12. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผ้อู ำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................ .................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื (นายนภภมู ิ แกว้ วิเศษ) ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพทิ ยาคม วนั ท.่ี .........เดือน...........................พ.ศ............. 13. บันทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 13.1 ผลการเรียนรูท้ เี่ กดิ ขนึ้ กบั ผูเ้ รียน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.2 ปัญหา/อุปสรรค ........................................................................................................................................................................... ... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................. ................ 13.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ..............................ผสู้ อน (นางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง) ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย ………../………./…………

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 โรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 7 เรอื่ ง โครงงานกับกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ผสู้ อนนางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง สอนวันที่........เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พื่อการดำรงชีวิตในสงั คมท่ีมีการเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใชค้ วามรแู้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพ่ือแกป้ ญั หาหรือพฒั นางานอย่างมีความคิด สร้างสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และส่งิ แวดล้อม ตวั ชวี้ ัด ว 4.1 ม.2/2 ระบุปัญหาหรือความต้องการในชมุ ชนหรือทอ้ งถน่ิ สรุปกรอบของปญั หา รวบรวม วเิ คราะห์ ขอ้ มลู และแนวคดิ ทเ่ี กีย่ วข้องกบั ปญั หา ว 4.1 ม.2/3 ออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หา โดยวิเคราะห์ เปรยี บเทียบ และตดั สนิ ใจเลือกขอ้ มลู ที่จำเป็น ภายใตเ้ ง่ือนไขและทรัพยากรท่มี อี ยู่ นำเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาให้ผูอ้ ่นื เขา้ ใจ วางแผนขนั้ ตอนการทำงานและ ดำเนนิ การแกป้ ัญหาอย่างเป็นขน้ั ตอน ว 4.1 ม.2/4 ทดสอบ ประเมินผล และอธบิ ายปัญหาหรือข้อบกพร่องทีเ่ กิดขึ้น ภายใตก้ รอบ เงื่อนไข พรอ้ มทั้งหาแนวทางการปรับปรงุ แก้ไข และนำเสนอผลการแกป้ ญั หา 2. สาระการเรยี นรู้ การทำโครงงานหรือชิน้ งาน ควรใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม จะช่วยให้เห็นถึงข้ันตอนและวิธกี าร แกป้ ัญหาต่าง ๆ อย่างเปน็ ระบบและชัดเจนมากย่งิ ขนึ้ อกี ท้งั ยงั ช่วยจดั ระบบความคิดได้อยา่ งเปน็ ข้นั ตอน โดย กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม มี 6 ขนั้ ตอน ได้แก่ การระบุปัญหา การรวบรวมข้อมูลและแนวคิดทเ่ี กี่ยวข้องกับ ปัญหา การออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา การวางแผนและดำเนนิ การแก้ปัญหา การทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรงุ แกไ้ ข วิธีการแกป้ ัญหาหรือชิ้นงาน การนำเสนอวิธีการแกป้ ญั หา ผลการแก้ปัญหาหรือช้ินงาน 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายเก่ยี วกบั โครงงานกับกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม (K) 2. วเิ คราะห์เก่ียวกบั โครงงานกับกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม (P) 3. มคี วามกระตือรอื ร้นในการปฏิบัติกิจกรรมการออกแบบเชงิ วิศวกรรม (A)

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 1.ข้ันสงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรยี นรว่ มกันระบปุ ัญหาที่พบในชุมชนของตนเอง โดยบันทึกคำตอบเป็นแผนภาพความคิด บนกระดาน ดังตวั อยา่ ง ขยะพลาสติก นำ้ เน่าเสีย ยาเสพตดิ ทะเลาะววิ าท ปญั หา ชุมชนแออดั การจราจรตดิ ขดั ในชมุ ชน เสียงดัง ไมม่ ีนำ้ ประปา ไม่มีพลงั งานไฟฟา้ 2. สง่ ตวั แทนนกั เรียนออกมาเล่าปญั หาในชมุ ชนของตนเอง แล้วบอกสาเหตขุ องปัญหาน้นั 3. นกั เรยี นร่วมกนั ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั โครงงานกับกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ อยา่ งหลากหลาย เช่น อินเทอรเ์ นต็ หนงั สอื เรียน

2.ขนั้ คิดวิเคราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing) 4. นักเรยี นรว่ มกนั เลอื กปญั หาในชมุ ชนที่ระบุไว้บนกระดาน 1 ปญั หาที่คิดว่าปญั หานั้น สง่ ผลกระทบมากท่ีสุด 5. นกั เรียนรว่ มกนั ตั้งคำถามเกี่ยวกับปญั หาที่เลือกลงในตาราง โดยใชห้ ลักการ 5W1H ดงั ตวั อยา่ ง หลักการ 5W1H ผลการระบุปญั หา Who ใครเป็นผ้ใู ช้ถุงพลาสตกิ จำนวนมาก What อะไรจะมาทดแทนถงุ พลาสติก Where ขยะพลาสตกิ สว่ นมากอยู่ท่ีไหนบ้าง When เมอ่ื ใดถึงจะมีการเลิกใช้ถุงหรือบรรจุภัณฑจ์ ากพลาสติก Why ทำไมต้องใชถ้ งุ พลาสติกเปน็ ส่วนใหญ่ How เราจะแก้ปัญหาเก่ียวกับปรมิ าณขยะพลาสตกิ ได้อย่างไร 6. นกั เรียนร่วมกันวเิ คราะห์เกยี่ วกับสาเหตุของปญั หาท่เี ลอื กไว้ โดยบันทึกคำตอบเปน็ แผนภาพกา้ งปลา ดงั ตัวอยา่ ง รัฐบาล รา้ นคา้ ไม่มนี โยบายทางดา้ น สะดวกในการใชบ้ รรจุ สงิ่ แวดล้อมทีช่ ดั เจน สง่ิ ของให้ลูกคา้ ทนทาน รฐั บาลไม่เห็นว่าเปน็ ปัญหา ตน้ ทนุ สูงกว่าวสั ดอุ ืน่ ๆ ท่ตี อ้ งเร่งรัดจดั การ สาเหตุ ขยะพลาสตกิ มีปรมิ าณเพ่ิมมากขน้ึ ไม่มีการแยกขยะพลาสตกิ เพื่อใหง้ า่ ย สะดวกในการใช้บรรจุสนิ ค้า ตอ่ การนำไปรีไซเคลิ (Recycle) โดยไมต่ ้องจา่ ยเงนิ เพิม่ งบประมาณที่ได้มาไม่เพยี งพอ ใช้เพยี งครง้ั เดียว ไม่นำมาใช้ซ้ำ ตอ่ การจดั การขยะพลาสติก (Reuse) เจา้ หน้าทขี่ องเทศบาลในชุมชน ประชาชน 7. นกั เรียนร่วมกนั ระบขุ อบเขตของปัญหาท่ีเก่ยี วกบั ปัญหาทีเ่ ลือกไว้ ดงั ตัวอยา่ ง • ระบขุ อบเขตของปัญหาท่ีเก่ียวกบั ขยะพลาสติก การแก้ปัญหาน้ีม่งุ ประเดน็ ไปสำรวจบรเิ วณตลาด ห้างสรรพสินค้า รา้ นสะดวกซื้อ รา้ นอาหาร รวมไปถงึ ร้านกาแฟในยา่ นสยามสแควร์ กรงุ เทพมหานคร โดยจะทำการสอบถามเก่ียวกับจำนวนถุงพลาสติก บรรจภุ ัณฑ์ท่ที ำจาก พลาสติกและจำนวนแกว้ พลาสตกิ ที่ใชใ้ นแตล่ ะวนั ของแต่ละท่ี

8. นกั เรยี นรว่ มกนั บอกวิธกี ารรวบรวมขอ้ มูลท่ีเกย่ี วข้องกบั ปัญหาทเ่ี ลือก ดงั ตวั อยา่ ง รวบรวมข้อมูลที่เกีย่ วข้องกบั ปัญหาขยะพลาสติก 1) รวบรวมขอ้ มูลที่เกี่ยวกบั ขยะพลาสตกิ ทุกประเภท รวมไปถึงศกึ ษาเก่ียวกับการกำจดั ขยะพลาสติกอยา่ งถูกวิธี การนำกลับมาใชซ้ ำ้ แปรรูปมาใชใ้ หม่ และการใชส้ ง่ิ อนื่ มาทดแทนพลาสติกจากเวบ็ ไซต์ทเี่ กย่ี วขอ้ งผา่ นทางอินเทอรเ์ นต็ 2) รวบรวมขอ้ มูลทีเ่ กี่ยวกับขยะพลาสติกที่มาจากรา้ นค้าและห้างสรรพสินค้า ย่านสยามสแควรก์ รุงเทพมหานคร 3) สมั ภาษณ์โดยตรงกับผู้คนในย่านสยามสแควรท์ ีเ่ ห็นการใช้ถุงพลาสติกจำนวน 100 คน เป็นอยา่ งน้อย เพื่อสอบถาม ความคิดเหน็ 9. นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะห์เก่ยี วกับวิธกี ารแก้ปัญหาที่เลอื ก โดยบอกขอ้ ดี ข้อเสีย ของวิธกี ารแกป้ ญั หานนั้ แลว้ ร่วมกันให้คะแนน ดังตัวอย่าง วิธกี ารแก้ปัญหา ข้อดี ขอ้ เสีย คะแนนเฉลย่ี 4.7 1. ใชถ้ ุงกระดาษ ถุงผา้ • ทำได้ง่าย ทกุ คน • บางคนคดิ ว่าการพก 4.2 กล่องกระดาษ สามารถมีสว่ นรว่ มได้ ถุงผา้ ไปซ้ือของที่ 3.4 หลอดจากกระดาษ • หลายองค์กรมีการ ห้างสรรพสนิ ค้า 3.9 แก้วน้ำสว่ นตัว หรอื สนบั สนนุ เชน่ หากใช้ หรือนำแก้วสว่ นตวั นำบรรจุภัณฑ์จากบ้าน แก้วส่วนตัวมาซื้อ ไปซื้อเครอ่ื งดม่ื มาใชใ้ สอ่ าหาร เคร่ืองดื่มจะมีการ เปน็ ภาระ ลดราคาลง 2. เกบ็ เงนิ จากค่าถุง • ลดการขอถงุ พลาสติก • บางคนไม่สนใจ พลาสติกจากคนทีต่ ้องการ เพอื่ นำมาใสส่ งิ่ ของ เพราะร้านคา้ เก็บคา่ ใชถ้ งุ พลาสติกหรือวัสดุ หรอื สนิ คา้ ได้ ถงุ พลาสติกในราคาถูก อปุ กรณ์ท่ีทำมาจาก ในระยะหน่ึง มาก พลาสตกิ 3. ลด ใช้ซำ้ หรอื แปรรูป • เป็นการลดจำนวนขยะ • ตอ้ งเป็นคนทมี่ ี พลาสติก เช่น • ไดข้ องใชใ้ หม่ ความคดิ สร้างสรรค์ นำแกว้ พลาสตกิ มาเปน็ โดยไม่ตอ้ งเสียเงนิ ถึงจะประยกุ ต์ ท่ใี ส่ปากกา หรอื เปน็ เพิ่มข้ึน บรรจุภณั ฑจ์ าก กระถางต้นไม้ พลาสติกไปเป็น ของใช้ใหมไ่ ด้ 4. ภาครัฐควรออก • เห็นผลเร็ว • ประชาชนบางส่วน กฎหมายสง่ั ห้ามการใช้ • ทำได้ทันทโี ดยไม่ต้อง อาจจะปรับตัวไมท่ ัน ถงุ และบรรจุภณั ฑ์ รอความร่วมมือ เกดิ ความลำบาก จากพลาสติก จากเอกชน ในการดำเนินชวี ิต

10. นักเรยี นจดั ลำดับวิธีการแกป้ ัญหาที่ดีทส่ี ุดเปน็ แผนภาพความคดิ ดังตวั อยา่ ง ปฏิบัติได้ง่าย บางร้านมสี ว่ นลด ลดการใช้ถุงพลาสตกิ ใช้ถงุ ผา้ 4.7 4.2 เกบ็ เงินคา่ ถุง ใชแ้ ก้วส่วนตัว ลดการใช้ ถงุ พลาสตกิ รฐั บาลออกกฎหมาย 3.9 3.4 แปรรูป แกป้ ญั หาได้เรว็ ไดข้ องใช้ใหม่ ๆ 11. นักเรียนร่วมกันวางแผนและดำเนนิ การแก้ปัญหา ดงั ตัวอย่าง แผนปฏบิ ัตกิ าร ชอ่ื โครงการ การลดปรมิ าณขยะพลาสตกิ ลำดบั ท่ี กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ (สปั ดาห์) 123 1 ประชมุ วางแผน แบง่ งาน 2 ซอื้ อปุ กรณ์ รวบรวมข้อมูล 3 สำรวจ สอบถามความคดิ เหน็ 4 ทำการทดสอบประเด็น 5 แกไ้ ขปัญหา สรุปผล เตรียมนำเสนอ 12. นกั เรียนร่วมกันวเิ คราะหเ์ ก่ยี วกบั วธิ กี ารทดสอบ และปรับปรงุ วธิ ีการแก้ปัญหา ดงั ตวั อย่าง 1) แจกถงุ ผา้ หรือแกว้ ทัมเบลอร์ (Tumbler) ให้แก่กลุม่ ตวั อยา่ งโดยไม่คิดคา่ ใช้จ่ายใด ๆ เพื่อใหน้ ำไปใช้ แทนถงุ พลาสตกิ หรือแกว้ พลาสติก 2) ติดต่อ สอบถาม กลุ่มตัวอยา่ งจากข้อที่ 1 เกย่ี วกับการใชถ้ ุงผ้า (ลดการใชถ้ ุงพลาสตกิ จากทางรา้ นค้า) หรอื นำแก้วสว่ นตัวมาใช้เอง (ลดการใชแ้ กว้ พลาสติกจากทางรา้ น) พบวา่ มผี ูท้ ี่ทำไดต้ ามที่กลา่ วมาเพยี งร้อยละ 40 ส่วน ทเ่ี หลอื อีกร้อยละ 60 ไมส่ ามารถทำได้ตลอด เน่ืองจากเหน็ ว่าเปน็ ภาระและลืมพกพา 3) วธิ กี ารแกป้ ัญหาที่ได้จากข้อที่ 1 คอื อาจจะไปขอความร่วมมือจากรา้ นคา้ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวม ไปถงึ ห้างสรรพสนิ คา้ ให้สรา้ งแรงจงู ใจใหผ้ ู้คนตระหนกั เกย่ี วกบั ปัญหาขยะพลาสติกทเี่ พิ่มปริมาณมากขึ้นทกุ วนั เชน่ ลด ราคาเครื่องดื่มหากนำแกว้ ส่วนตัวมาเอง ได้แต้มสะสมเพอ่ื เป็นส่วนลดในการซ้อื สินค้าในครง้ั ตอ่ ไป หากไมใ่ ชถ้ ุงพลาสติก จากทางรา้ นคา้ หรือห้างสรรพสินค้า

13. นกั เรยี นร่วมกนั วิเคราะหเ์ กยี่ วกับการนำเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหา ผลการแก้ปญั หา แลว้ ตอบคำถาม ดังน้ี • นักเรียนเลือกรปู แบบการนำเสนอวิธกี ารแกป้ ัญหาและผลการแกป้ ัญหาใด เพราะเหตุใด(ตัวอยา่ งคำตอบ เลือกรูปแบบ การนำเสนอด้วยสตอรบี อรด์ (Storyboard) เพราะว่าสามารถแสดงรายละเอียดภาพและขั้นตอนการทำงานไดเ้ ป็น ข้นั ตอน ทำใหเ้ หน็ ถงึ ภาพรวมของโครงงานทำใหผ้ ู้ทม่ี คี วามสนใจเข้าใจตรงกนั ) 14. นกั เรียนวเิ คราะห์ แลว้ ตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้ • การใชก้ ระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมในการสรา้ งโครงงานหรือชิ้นงานมีประโยชนอ์ ย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ชว่ ยใหเ้ ห็นถึงขน้ั ตอนและวิธีการแกป้ ญั หาต่าง ๆ อยา่ งเป็นระบบและชัดเจนมากขนึ้ และยงั ช่วย จดั ระบบความคดิ ไดอ้ ย่างเป็นขั้นตอน จึงสง่ ผลให้การทำโครงงานหรอื ช้ินงานงา่ ยขึ้นและบรรลุเป้าหมายอยา่ งรวดเร็ว) 15. นกั เรียนร่วมกันสรปุ ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั โครงงานกบั กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมดงั นี้ กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมมี 6 ขนั้ ตอน ได้แก่ การระบปุ ญั หา การรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่ เก่ียวขอ้ งกบั ปัญหา การออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา การวางแผนและดำเนนิ การแก้ปญั หาการทดสอบ ประเมนิ ผล และ ปรับปรงุ แก้ไขวธิ กี ารแกป้ ญั หาหรือชิน้ งาน และการนำเสนอวธิ กี ารแก้ปญั หาผลการแก้ปัญหาหรือช้ินงาน เมื่อการทำ โครงงานหรอื ช้นิ งานนำกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมมาใช้จะทำให้การแกป้ ัญหาเป็นระบบชัดเจน ช่วยจดั ระบบ ความคดิ ได้อย่างเปน็ ขั้นตอน สง่ ผลทำใหท้ ำโครงงานหรือชน้ิ งานงา่ ยขึ้นและตรงตามวตั ถุประสงค์ที่กำหนดไว้ 3.ขนั้ ปฏบิ ัติและสรปุ ความรู้หลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 16. นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม รว่ มกนั คิดแกป้ ัญหาสถานการณ์ท่กี ำหนดให้ โดยใชก้ ระบวนการ ออกแบบเชงิ วิศวกรรม แล้วบนั ทึกคำตอบลงในชนิ้ งานที่ 2 เรอ่ื ง การออกแบบเชิงวิศวกรรม สถานการณ์ ถา้ นกั เรียนอยูใ่ นสมยั ทีย่ ังไม่มีการประดิษฐ์เครื่องมือทชี่ ่วยในการจุดไฟ นักเรียนจะแกป้ ัญหาอย่างไร 17. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ส่งิ ทเี่ ขา้ ใจเปน็ ความรู้รว่ มกนั ดงั นี้ การทำโครงงานหรือช้นิ งาน ควรใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม จะช่วยให้เห็นถงึ ขั้นตอนและวธิ กี าร แกป้ ัญหาต่าง ๆ อย่างเปน็ ระบบและชดั เจนมากยิ่งขนึ้ อกี ทัง้ ยังช่วยจัดระบบความคิดได้อย่างเป็นข้ันตอน โดย กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม มี 6 ข้นั ตอน ไดแ้ ก่ การระบุปัญหา การรวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ทเ่ี กี่ยวข้องกบั ปญั หา การออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หา การวางแผนและดำเนนิ การแก้ปัญหา การทดสอบ ประเมินผล และปรับปรงุ แกไ้ ข วธิ ีการแก้ปัญหาหรอื ชน้ิ งาน การนำเสนอวธิ กี ารแกป้ ัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือช้นิ งาน 7. ส่อื การเรยี นรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. ห้องคอมพิวเตอร์ 3. แหล่งการเรยี นรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น

8. กระบวนการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง โครงงานกบั กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ ชิ้นงาน เรือ่ ง การออกแบบเชิงวิศวกรรม (P) ด้วยแบบประเมิน 4. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมนิ แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการประเมิน ระดับคุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุม่ ไมม่ กี ารกำหนด มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไม่มกี ารช้ีแจง สมาชกิ ชัดเจน สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน และมีการช้แี จงเป้าหมาย มีการชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้แี จงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน มกี ารปฏบิ ตั งิ านรว่ มกัน ปฏิบัตงิ านรว่ มกนั ปฏิบัตงิ านรว่ มกนั อย่างรว่ มมือรว่ มใจ แต่ไมม่ ีการประเมิน ไม่ครบทุกคน พรอ้ มกบั การประเมนิ เปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ชว้ี ัดท่ี 4.1 ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ย่ยี ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผ่าน (0) 4.1.1 ต้ังใจเรยี น 4.1.2 เอาใจใส่ เข้าเรยี นตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา ไม่ตง้ั ใจเรียน และมคี วามเพียร พยายาม ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรยี นรู้ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ ม และมีความเพยี ร และมีความเพียร ในการเรียน มีส่วนรว่ ม กิจกรรมการเรียนรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรยี นรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ มสี ว่ น ในการเรยี นรู้ มสี ว่ น รว่ มกิจกรรมการ ร่วมในการเรียนรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรู้ต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรมการ เขา้ รว่ มกิจกรรมการ เป็นบางคร้งั เรียนรตู้ า่ ง ๆ เรียนร้ตู ่าง ๆ บอ่ ยครงั้ ทง้ั ภายในและ ภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................ ................................................ .................................................................................................................................................. ลงช่ือ (นางสาวฐิตมิ า สวาสนา) ตำแหน่ง หัวหนา้ กลุม่ สาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วนั ที่..........เดือน...........................พ.ศ............. 10. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผูช้ ว่ ยผู้อำนวยการกลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... ลงชื่อ (นายวิรพงษ์ ปะนามะเส) ตำแหนง่ ผ้ชู ว่ ยผอู้ ำนวยการกลมุ่ งานบริหารวชิ าการ วนั ที.่ .........เดอื น...........................พ.ศ............. 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ............................................................... ....................................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................. ..................... ลงชอ่ื (นางเยาวลกั ษณ์ สอนสะอาด) ตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วนั ท.่ี .........เดอื น...........................พ.ศ.............

12. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... .............................................................................................................................................. .... ลงชอื่ (นายนภภมู ิ แก้ววเิ ศษ) ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วันที่..........เดือน...........................พ.ศ............. 13. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 13.1 ผลการเรยี นร้ทู เี่ กิดขึน้ กบั ผู้เรยี น .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.2 ปญั หา/อุปสรรค .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................... ... 13.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .................................................................................................. ............................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................. ............................................. ลงชือ่ ..............................ผู้สอน (นางสาวจิราภรณ์ หว่างแสง) ตำแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย ………../………./…………

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 โรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2566 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง การวเิ คราะห์คณุ สมบัติของวัสดกุ บั ลกั ษณะงาน เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง ผสู้ อนนางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง สอนวันที่........เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชวี ติ ในสังคมท่ีมกี ารเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใชค้ วามรแู้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อนื่ ๆ เพื่อแก้ปญั หาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิด สร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสงิ่ แวดล้อม ตวั ช้ีวดั ว 4.1 ม.2/5 ใช้ความรู้ และทักษะเกีย่ วกบั วัสดุ อปุ กรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนิกส์ เพ่ือ แก้ปัญหาหรือพัฒนางานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั 2. สาระการเรยี นรู้ ในชีวติ ประจำวันนกั เรยี นพบวัสดพุ ้ืนฐานตา่ ง ๆ มากมาย วสั ดุเหลา่ นี้อาจอยู่ในรูปสิง่ ของเคร่อื งมือ เคร่ืองใช้ต่าง ๆ วัสดบุ างประเภทอาจมคี ุณสมบตั บิ างอย่างดีเหมือนกนั หรือแตกตา่ งกัน การท่นี กั เรียนจะเลือกวัสดุ พ้ืนฐานชิน้ ใด เพ่ือนำไปพฒั นาชน้ิ งานตอ้ งคำนงึ ถึงลักษณะคณุ สมบัตแิ ละความเหมาะสม เพื่อให้การทำงานเสรจ็ สมบรู ณ์ ปลอดภัย เหมาะสม และประหยัด 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายคุณสมบตั ิของวสั ดกุ บั ลักษณะงาน (K) 2. วิเคราะห์คุณสมบตั ขิ องวสั ดกุ ับลักษณะงาน (P) 3. เห็นความสำคัญคณุ สมบัติของวสั ดกุ ับลักษณะงาน (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มั่นในการทำงาน

6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1.ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรียนรว่ มกันสงั เกตภาพสิง่ ของเคร่ืองใช้ แลว้ บอกประเภทของวสั ดทุ ่ใี ช้สรา้ ง ดงั น้ี ประเภทของวัสดุ (พลาสติก) ประเภทของวัสดุ (หนงั สตั ว์) ประเภทของวัสดุ (เหลก็ ) ประเภทของวสั ดุ (เซรามิก) ประเภทของวสั ดุ (ไม้) ประเภทของวสั ดุ (ผา้ ) ประเภทของวัสดุ (อะคริลิก) ประเภทของวัสดุ (แก้ว) ประเภทของวสั ดุ (อะลูมเิ นยี ม) ประเภทของวัสดุ (ยางสงั เคราะห์)

2. นกั เรียนส่งตวั แทนออกมาเล่าประสบการณ์การใช้งานส่งิ ของเครอื่ งใช้ พรอ้ มบอกประเภท ของวัสดุ คุณสมบัติของวัสดุ และลักษณะการใช้งานให้เพ่ือน ๆ ฟงั หนา้ ช้นั เรยี น 3. นกั เรยี นร่วมกนั ศึกษาค้นคว้าข้อมลู เกีย่ วกับการวิเคราะห์คุณสมบัตขิ องวสั ดุกับลักษณะงาน จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย เชน่ อินเทอร์เนต็ หนงั สอื เรียน 2.ขน้ั คิดวิเคราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing) 4. นกั เรียนร่วมกันวิเคราะห์ แลว้ ตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้ • ถา้ ต้องการทำตแู้ สดงสนิ คา้ นักเรียนจะเลอื กวัสดปุ ระเภทใด เพราะอะไร (ตวั อย่างคำตอบ เลือกใช้อะครลิ ิก เพราะว่าสามารถโปร่งแสงได้ทำให้มองเหน็ สินค้าด้านในไดช้ ดั เจน) 5. นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะห์เก่ยี วกับสง่ิ ของเคร่ืองใช้ แลว้ เลือกประเภทของวสั ดุ พร้อมบอกเหตุผลทเี่ ลือกใช้ วสั ดุเหล่าน้ัน ดงั น้ี 1) โต๊ะรบั ประทานอาหาร • วสั ดุที่ใช้ (ไม)้ • เหตุผล (เพราะมีน้ำหนักเบา มลี วดลายสวยงาม แข็งแรง ทนทาน เหมาะกบั การใชง้ าน ที่อยู่ภายในรม่ ) 2) ตูแ้ สดงสนิ ค้า • วัสดทุ ี่ใช้ (อะคริลิก) • เหตุผล (เพราะตัดเปน็ รูปตา่ ง ๆ ไดง้ า่ ย สามารถขน้ึ รปู เปน็ รูปร่างตา่ ง ๆ ไดโ้ ดยใชค้ วามร้อน มีน้ำหนักเบา ทนต่อแรงอัด แรงกระแทกไดป้ านกลาง และสามารถมองทะลุผ่านได้) 3) รถของเลน่ • วัสดทุ ใ่ี ช้ (พลาสติก) • เหตผุ ล (เพราะมีน้ำหนกั เบา ราคาถกู เคลอื่ นย้ายสะดวก ไม่แตกหักงา่ ย มีความยืดหยุ่น ไม่เปน็ อันตรายต่อผ้ใู ช้งาน) 4) กระทะ • วัสดุที่ใช้ (เหล็ก) • เหตุผล (เพราะทนตอ่ ความร้อนได้สูง แขง็ แรง ทนทาน) 5) จาน • วัสดุท่ใี ช้ (เซรามกิ ) • เหตุผล (เพราะสามารถทนความร้อนไดส้ ูง และสามารถวาดลวดลายได้อยา่ งสวยงาม)

6. นักเรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหส์ ่ิงของเคร่ืองใช้ที่ใชว้ สั ดทุ ่กี ำหนดให้ โดยระบุชือ่ สิง่ ของเครื่องใช้ เปน็ แผนภาพความคิด ดงั นี้ • พลาสติก กล่องใส่อาหาร ขวดนำ้ อัดลม แก้วนำ้ ปากกา พลาสตกิ รถของเล่น ไมบ้ รรทดั ชอ้ น • ไม้ หน้าต่าง เก้าอ้ี โตะ๊ ประตู ไม้ บันได ชั้นวางโทรทศั น์ ตเู้ ส้ือผา้ ดนิ สอ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook