หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี เฉลย แผนฯ ที่ 1 การเลอื กใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ และเคร่อื งมอื ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง การเลือกใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมอื คำชแี้ จง : เติมข้อความหรือความหมายของคำลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกต้อง 1. แนวคดิ หลกั ของการเลอื กใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเคร่ืองมือ คอื การสรา้ งชิ้นงาน ควรมีการวเิ คราะห์สมบัติ ของวัสดทุ ่ีเลือกใช้ เพ่ือใหเ้ หมาะสม เชน่ ความแข็งแรง ทนความร้อน น้ำหนักเบา เปน็ ต้น…………..…………..…… 2. วสั ดุ จำแนกไดเ้ ปน็ 4 ประเภท ดังนี้ จงอธิบายความหมาย ลักษณะ พร้อมท้งั ยกตัวอยา่ งการนำไปใช้ โลหะ คือ สารอนินทรีย์ที่ประกอบดว้ ยธาตทุ ่เี ป็นโลหะ มี การนำไปใช้ เช่น ตัวถังรถ สะพาน โครงสรา้ งเปน็ ผลกึ นำความรอ้ นและไฟฟ้าทดี่ ี ค่อนข้างแขง็ แรง กระปอ๋ งเครอ่ื งดมื่ เครื่องประดบั วัสดพุ อลเิ มอร์ คือ สารอินทรยี ม์ คี ารบ์ อนเปน็ องค์ประกอบ การนำไปใช้ เช่น กลอ่ งพลาสติก ความแขง็ แรงหลากหลาย ความหนาแน่นต่ำ นำไฟฟ้าไมด่ ี ขวดนำ้ พลาสติก ซิลโิ คน เมลามนี วัสดเุ ซรามิก คอื สารอนนิ ทรีย์ มีความแขง็ แรงสูง นำ้ หนักเบา การนำไปใช้ เชน่ จาน ถว้ ย ทนความร้อน ทนต่อการเสยี ดสี ลดการเสยี ดทาน เป็นฉนวน กระเบอื้ งบุผนังกระสวยอวกาศ วัสดุผสม คือ ของผสมที่ไดจ้ ากวสั ดุ 2 ชนิด สว่ นมาก การนำไปใช้ เช่น เส้นใยแก้ว ประกอบด้วยสารเติมหรือวสั ดุเสรมิ แรง มสี มบัตติ ามตอ้ งการ เสรมิ แรง เส้นใยคาร์บอนเสรมิ แรง 3. สมบัตขิ องวัสดุ แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 4 ประเภท จงอธบิ ายลักษณะของแต่ละสมบัติ สมบัตทิ างเคมี เปน็ สมบัตเิ ฉพาะตวั ท่ีเก่ยี วกบั สมบตั ทิ างกายภาพ เป็นสมบตั ทิ ่เี ก่ยี วกบั อตั รา โครงสร้างและองคป์ ระกอบของธาตุ ทเ่ี ปน็ การเกิดปฏกิ ิริยากบั พลังงาน เชน่ สี ความ วัสดุนน้ั ทราบไดจ้ ากการทดลอง วิเคราะห์ หนาแนน่ การหลอมเหลว สนามไฟฟา้ สมบตั ิของวสั ดุ สมบัตเิ ชิงกล เป็นสมบัติเฉพาะตัวของวสั ดุที่ สมบตั เิ ชิงมติ ิ เปน็ สมบัตทิ จี่ ะตอ้ งพจิ ารณาใน ถูกกระทำดว้ ยแรง เช่น การยดื และหดตัวของ การเลอื กใชว้ ัสดุ เช่น ขนาด รูปรา่ ง ความ วสั ดุ ความแขง็ การรบั นำ้ หนกั ความสกึ หรอ คงทน ลกั ษณะของผวิ หยาบ ละเอยี ด เรียบ 79
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี ) แผนฯ ท่ี 1 การเลอื กใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมอื 9. ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ( ตำแหนง่ 10. บันทึกผลหลงั การสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ดา้ นอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทีม่ ีปัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข 80
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ที่ 2 ศกึ ษากรณีตวั อยา่ ง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 ศกึ ษากรณีตัวอยา่ ง เวลา 4 ช่ัวโมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั ว 4.1 ม.4/5 ใช้ความรู้ และทักษะที่เกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือแก้ปญั หาหรอื พฒั นางานได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายการประยุกต์ใช้กระบวนการเทคโนโลยีจากกรณตี วั อยา่ ง (K) 3. อธบิ ายเก่ยี วกับการแก้ปญั หาจากกรณีตวั อย่างผ่านกระบวนการเทคโนโลยีได้ (P) 4. วเิ คราะหส์ าเหตุ หรอื ปจั จยั ที่สง่ ผลต่อการแก้ปัญหาจากกรณีตวั อยา่ งโดยใช้กระบวนการ เทคโนโลยีได้ (P) 5. เห็นคุณประโยชนข์ องการเรยี นวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี และตระหนักในคณุ ค่าของความรู้ไป แกป้ ัญหาใชใ้ นชีวติ ประจำวัน (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถิ่น - วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก จึง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของ ตอ้ งมกี ารวเิ คราะหส์ มบตั ิ เพอ่ื เลือกใช้ใหเ้ หมาะสมกบั ลักษณะของงาน สถานศกึ ษา - การสร้างช้ินงานอาจใช้ความรู้ เร่ือง กลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เช่น LED บัซเซอร์ มอเตอร์ วงจรไฟฟา้ - อุปกรณ์และเคร่ืองมือในการสร้างชิ้นงาน หรือพัฒนาวิธีการมีหลาย ประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถกู ต้องเหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้งรูจ้ ักเก็บ รักษา 4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เทคโนโลยีในปัจจุบันมีส่วนช่วยอำนวยประโยชน์ให้การดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์มีความ สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และมีการพัฒนาผ่านกระบวนการเทคโนโลยีท่ีเป็นระบบมาอย่างต่อเน่ือง เพ่ือให้ นำมาใช้งานไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ โดยการนำกระบวนการเทคโนโลยมี าใชใ้ นการสร้างสรรคช์ น้ิ งาน การนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาหรือความต้องการผ่านกระบวนการเทคโนโลยี เพ่ือสร้างสรรค์ชิ้นงาน สามารถศึกษากรณีตวั อย่าง หมวกจกั รยานอัจฉรยิ ะ และหนุ่ ยนตป์ ากกา 81
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ที่ 2 ศกึ ษากรณีตวั อยา่ ง 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 1) ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 2) ทกั ษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ 3) ทักษะการคดิ อยา่ งเป็นระบบ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : ใชป้ ญั หาเป็นฐาน (Problem based Learning) ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั นำ 1. ครถู ามคำถามสำคญั ประจำหวั ข้อกบั นกั เรียนจากหนังสือเรยี น รายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.1 หน้า 44 ว่า การประยุกต์ใชก้ ระบวนการเทคโนโลยีสามารถทำได้ อยา่ งไรบา้ ง (แนวตอบ : การประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ามารถดำเนินการไดต้ ามขน้ั ตอน ดงั นี้ ข้ันตอนที่ 1 ระบุปัญหา หรอื ความตอ้ งการ ขน้ั ตอนที่ 2 รวบรวมข้อมลู ทีเ่ ก่ยี วข้องกับปัญหา ขั้นตอนท่ี 3 เลือกวธิ ีการแกป้ ญั หา ข้นั ตอนท่ี 4 ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา ขัน้ ตอนท่ี 5 ทดสอบ ขน้ั ตอนที่ 6 ปรับปรุง แก้ไข และประเมินผล ขั้นตอนท่ี 7 นำเสนอผลงาน) 2. ครูยกตัวอย่างข่าวสถานการณ์ “รถกระบะชนนักป่ันจักรยานรอบโลกเสียชีวิต” แล้วกระตุ้นความ สนใจของนกั เรยี นโดยการตั้งคำถามว่า จากเหตุการณท์ เ่ี กิดข้นึ เกิดขนึ้ เพราะเหตุใด อยา่ งไร 82
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ท่ี 2 ศกึ ษากรณตี วั อยา่ ง 3. ครูถามคำถามกระตุ้นความคิด จากข่าวสถานการณ์ตัวอย่าง ปัญหาที่จำเป็นต้องแก้คืออะไร มี วิธีการแก้ปัญหาน้นั อย่างไร และผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร แล้วให้นักเรียนร่วมกัน แสดงความคิดเห็นและตอบคำถาม (แนวตอบ : ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุจากการปั่นจักรยาน นอกจากความประมาทของผู้ขับข่ี รถยนตแ์ ล้ว อีกเหตุผลหน่งึ คอื จักยานไม่มีสัญญาณไฟที่ชดั เจน ถา้ ป่ันในเวลากลางคนื อาจจะทำให้ คนขับรถมองไม่เห็น และไม่มีสัญญาณไฟเล้ียวต้องใช้ภาษามือในการส่งสัญญาณ วิธีการในการ แก้ปัญหา จะต้องอุปกรณ์ที่ให้ความสว่างติดกับตัวจักรยานและนักป่ันมากยิ่งข้ึน หรือประดิษฐ์ อุปกรณ์ท่ีช่วยส่งสัญญาณแทนการใช้มือ ถ้าเราสามารถป้องกันอันตรายได้ จะทำให้นักป่ันม่ันใจใน การป่นั จกั รยานมากขึ้น) ขน้ั สอน ขน้ั กำหนดปญั หา 1. ครูกระตุน้ ความสนใจโดยการพานกั เรียนไปสนามฟตุ บอล ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 3 – 4 คน 2. ครูให้นักเรียนแข่งขันป่ันจักรยานรอบสนามฟุตบอล โดยสร้างด่านวิบาก 2 ด่าน ซ่ึงครูเป็นผู้เตรียม จกั รยาน และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายให้นักเรียน 3. ครูบอกวัตถุประสงค์ พร้อมทั้งบอกกตกิ าการแข่งขนั ปั่นจกั รยานให้นักเรียนเข้าใจตรงกันว่า ให้นักเรียน แสดงสัญญาณการเลี้ยวประกอบด้วยทุกคร้ัง ครูแนะนำการใส่อุปกรณ์ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และให้ นักเรียนป่ันจักรยานด้วยความไม่ประมาท โดยแต่ละจุดจะมีกรรมการและผู้สังเกตการณ์อยู่เพื่อ ตรวจสอบความถูกต้อง 4. สมาชิกในแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าท่ีกันรบั ผิดชอบ คือ ผเู้ ขา้ รว่ มแขง่ ขัน ผู้สังเกตการณ์ กรรมการตัดสิน 5. ครูผสู้ อนตดิ ตามการแข่งขัน สงั เกตพฤตกิ รรมการเล่นของนักเรียน พร้อมทงั้ ใหค้ ำปรึกษา 6. ครูใหร้ างวลั กับกล่มุ ทีช่ นะการแข่งขัน พรอ้ มท้ังชว่ ยนักเรยี นเกบ็ อุปกรณแ์ ลว้ ขึ้นห้องเรียน ช่วั โมงที่ 2 ข้ันสอน ขั้นทำความเขา้ ใจปัญหา 1. ครูต้ังคำถามใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตอบ ดังน้ี ประโยชน์ของการแขง่ ขนั ป่นั จักรยาน (แนวตอบ : สนุกสนาน ออกกำลงั กาย รา่ งกายแขง็ แรง) 83
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ที่ 2 ศกึ ษากรณีตวั อย่าง ปญั หาและอปุ สรรคทเี่ กดิ ขึน้ ระหว่างการแข่งขันป่ันจักรยาน (แนวตอบ : ตอนเล้ียวรถจกั รยานกติกาต้องใหใ้ ช้สัญญาณทกุ คร้งั โดยผู้แข่งขันใช้สัญญาณ มอื ในการส่งสัญญาณเพื่อขอทางก็ต้องปล่อยมือออกจากที่จับจักรยานซึ่งอาจจะทำให้เสียหลกั ใน การทรงตัวและล้มลงได้ ดา่ นวิบากกเ็ ปน็ อปุ สรรคในการทรงตัวของผปู้ ั่นจกั รยาน เปน็ สาเหตขุ อง การเกิดอุบัติเหตไุ ด้) 2. ครูนำป้ายคำว่า “หมวกจักรยานอัจฉริยะแก้ปัญหาอุบัติเหตุในการปั่นจักรยาน” ไปติดไว้ดา้ นหน้า หอ้ ง ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ศึกษาค้นควา้ โดยประยุกตใ์ ช้ผา่ นกระบวนการเทคโนโลยี 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่ม ระบุปัญหาหรือความต้องการทจ่ี ะสรา้ งชิ้นงาน “หมวกจกั รยานอจั ฉริยะ” พร้อม ทั้งร่วมกันอภิปราย ตั้งคำถามในประเด็นที่อยากรู้ ระดมสมองอธิบายสถานการณ์ของปัญหา สรุป ลงในกระดาษ A4 ตามประเด็น ดังน้ี ปัญหาท่ีจำเป็นต้องแก้คืออะไร ใครคือผูท้ ีเ่ ผชญิ ปัญหาทเี่ ราจำเปน็ ต้องแก้ เหตุใดปัญหานจ้ี งึ จำเปน็ ต้องแก้ แล้วรว่ มกันออกแบบวิธีการนำเสนอผลงานทน่ี ่าสนใจ 4. ครูถามคำถามให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ว่า จากการทดลองปั่นจักรยานด้วยตนเองแล้ว เรา สามารถเข้าใจถึงปัญหาของการส่งสัญญาณขณะป่ันจักรยาน ด้วยวิธีการใดบ้าง อย่างไร (แนวตอบ : 1. การสัมภาษณจ์ ากนกั ปั่นจกั รยานผมู้ ปี ระสบการณใ์ นการป่ันจกั ยานสงู 2. สังเกตวธิ กี ารส่งสญั ญาณ ประเมนิ ความเหมาะสมและความปลอดภัย 3. ทดลองปั่นจกั รยานจะไดท้ ราบปัญหาจากประสบการณต์ รง) ดำเนนิ การศกึ ษาค้นคว้า 1. นักเรียนศึกษา แผนผังความเข้าใจ ซึ่งเป็นการสรุปความเข้าใจของปัญหาและการเลือกวิธีการ แก้ปัญหา จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.1 หน้า 45-46 2. ครูนำวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือวางไว้บนโต๊ะในแต่ละฐานของห้องเรียน ให้นักเรียนแต่ละ กลุ่มแยกย้ายไปศึกษาวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น หมวกจักรยาน ทรานซิสเตอร์ ตัวต้านทาน สายไฟ หลอดLED แผงวงจรไฟฟ้า ไม้ โลหะ พลาสติก เป็นต้น 3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษากรณีตัวอย่าง จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (การ ออกแบบและเทคโนโลยี) ม.1 หน้า 47-48 แล้วสรุปลงในกระดาษ A4 4. นักเรียนแต่ละคนกลับเข้ากลุ่ม ระดมสมอง ประดิษฐ์หมวกจักรยานอัจฉริยะ ครูกระตุ้นให้ นักเรียนแต่ละกลุ่ม ใช้ทักษะการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือ ให้เกิดประโยชน์ 84
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ท่ี 2 ศกึ ษากรณีตวั อย่าง ช่วั โมงท่ี 3 ขัน้ สอน ข้นั สังเคราะห์ความรู้ 1. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-4 คน อภิปรายรว่ มกัน พรอ้ มทัง้ ต้ังคำถามเพ่ือสร้างความคิดรวบ ยอดในการศึกษากรณีตัวอย่างการออกแบบสร้างชิ้นงาน “หุ่นยนต์ปากกา” จากหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.1 หน้า 49-56 2. นักเรียนแต่ละกลมุ่ แยกย้ายไปแลกเปลี่ยนขอ้ มูล ความคิดเห็นกับกลุ่มอื่น ๆ โดยแต่ละคนนำความรู้ ที่ได้จากการอภิปรายกับกลุ่มอ่ืน ๆ มานำเสนอภายในกลุ่มตนเอง พร้อมท้ังช่วยกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง เหมาะสม และหาความรเู้ พ่ิมเติม 3. นักเรียนแต่ละกลุ่ม อภิปรายร่วมกัน หาวธิ ีการพัฒนาออกแบบการสร้างช้ินงาน หุ่นยนตป์ ากกา จาก กรณีศึกษาตัวอย่าง ให้เพ่ิมประโยชน์มากยิ่งข้ึน และลดข้อจำกัดให้น้อยลง พร้อมทั้งสรุปลงใน กระดาษ A4 แล้วร่วมกันออกแบบวธิ ีการนำเสนอทนี่ า่ สนใจ 4. ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานตามท่ีได้ออกแบบไว้ ชัว่ โมงที่ 4 ขน้ั สรปุ ขน้ั สรุปและประเมนิ คา่ ของคำตอบ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม อภิปรายร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปองค์ความรู้ที่ได้ จากการศึกษากรณีตัวอย่าง “หมวกจักรยานอัจฉริยะ” และ “หุ่นยนต์ปากกา” แล้วจัดทำเป็นแผนผังความคิด แล้วร่วมกัน ออกแบบวิธกี ารนำเสนอทีน่ า่ สนใจ 2. ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานตามที่ได้ออกแบบเอาไว้ทีละกลุ่ม จนครบทุก กลมุ่ ขณะท่ีนักเรยี นแต่ละกลุ่มนำเสนอให้ครคู อยแนะนำและเสริมข้อมลู ที่ถูกตอ้ งใหน้ ักเรียน เมอ่ื แต่ ละกล่มุ เสนอผลงานแลว้ ให้นำผลงานไปตดิ ไว้บริเวณรอบ ๆ หอ้ งเรยี น 3. ครูให้เวลานักเรียน 3 นาที ในการเดินชมผลงานของกลุ่มอื่น ๆ เพ่ือเปรียบเทียบกับผลงานของกลุ่ม ตนเอง 4. ครูให้นกั เรียนทำใบงานท่ี 1.2 เร่ือง ศึกษากรณตี ัวอย่าง หมวกจักรยานอจั ฉริยะ และหุ่นยนต์ปากกา จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลยคำตอบ ขนั้ นำเสนอและประเมินผลงาน 1. ครูตรวจใบงานท่ี 1.2 เร่ือง ศกึ ษากรณีตวั อย่าง หมวกจักรยานอัจฉรยิ ะ และหนุ่ ยนต์ปากกา 2. ครูตรวจแผนผงั ความคิด เร่ือง ศกึ ษากรณีตวั อยา่ ง หมวกจกั รยานอจั ฉริยะ และหุ่นยนต์ปากกา 3. ครูประเมนิ ผล โดยสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกนั ทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน 85
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ที่ 2 ศกึ ษากรณตี วั อยา่ ง 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วธิ วี ัด เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ 7.1 การประเมินระหวา่ งการ จดั กจิ กรรม 1) ศึกษากรณตี วั อย่าง - ตรวจใบงานที่ 1.2 - ใบงานที่ 1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ น หมวกจักรยาน เกณฑ์ อัจฉริยะ และ หนุ่ ยนต์ปากกา 2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - ผลงานทีน่ ำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกต ระดับคุณภาพ 2 รายบคุ คล การทำงาน พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ รายบุคคล การทำงาน รายบคุ คล 4) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกต ระดบั คุณภาพ 2 กลุ่ม การทำงานกลุ่ม พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ การทำงานกลุ่ม 5) คณุ ลักษณะ - สงั เกตความมีวินยั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 อันพึงประสงค์ รับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์ และมุ่งมนั่ ในการ อนั พึงประสงค์ ทำงาน 8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.1 หน่วย การเรียนรูท้ ่ี 3 2) ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ศึกษากรณีตวั อย่าง หมวกจกั รยานอัจฉรยิ ะ และหุ่นยนต์ปากกา 8.1 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องเรยี น 2) ห้องสมดุ 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 86
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ที่ 2 ศกึ ษากรณตี วั อยา่ ง ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ศึกษากรณีตวั อยา่ ง หมวกจักรยานอจั ฉริยะ และห่นุ ยนต์ปากกา คำชแ้ี จง : เติมข้อความหรือความหมายของคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง 1. เทคโนโลยใี นปัจจุบนั มีความสำคัญอย่างไรในการออกแบบผลงาน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. จากศกึ ษากรณตี วั อยา่ ง หมวกจักรยานอจั ฉรยิ ะ และหุ่นยนต์ปากกา ให้นักเรียนออกแบบพฒั นา ตอ่ ยอด ชน้ิ งานให้มีประโยชน์มากขนึ้ ศึกษากรณตี ัวอยา่ ง การพัฒนาตอ่ ยอดสงิ่ ประดิษฐ์ การออกแบบแนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดสง่ิ ประดิษฐ์ …………………………………………………………………………………………………………………………….. หมวกจกั รยานอจั ฉริยะ ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ห่นุ ยนตป์ ากกา การออกแบบแนวทางการพัฒนาต่อยอดสงิ่ ประดิษฐ์ …………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………. 87
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ท่ี 2 ศกึ ษากรณีตวั อย่าง ใบงานที่ 1.2 เฉลย เรอ่ื ง ศกึ ษากรณตี ัวอย่าง หมวกจกั รยานอัจฉริยะ และห่นุ ยนตป์ ากกา คำชี้แจง : เตมิ ขอ้ ความหรือความหมายของคำลงในช่องวา่ งให้ถูกต้อง 1. เทคโนโลยใี นปจั จบุ ันมีความสำคัญอย่างไรในการออกแบบผลงาน เทคโนโลยีมีสว่ นสำคัญที่ช่วยอำนวยประโยชน์ให้การดำเนินชีวติ ประจำวนั ของมนุษย์มีความสะดวกสบาย มากย่งิ ข้นึ และมีการพัฒนาผ่านกระบวนการเทคโนโลยีทีเ่ ปน็ ระบบมาอยา่ งต่อเนื่องเพื่อให้นำมาใชง้ านได้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ โดยการนำกระบวนการเทคโนโลยมี าใช้ในการสรา้ งสรรคช์ นิ้ งาน 2. จากศกึ ษากรณตี ัวอยา่ ง หมวกจกั รยานอัจฉริยะ และหนุ่ ยนตป์ ากกา ใหน้ ักเรียนออกแบบพัฒนา ตอ่ ยอด ชน้ิ งานให้มปี ระโยชน์มากขนึ้ ศึกษากรณีตวั อย่าง การพฒั นาต่อยอดส่งิ ประดิษฐ์ หมวกจกั รยานอัจฉริยะ การออกแบบแนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดสิง่ ประดิษฐ์ 1. หมวกจักรยานท่สี ามารถส่งสัญญาณไฟเล้ียวได้ จะตดิ ตง้ั อปุ กรณ์ที่ เปลีย่ นจากพลงั งานกลจากการป่ันจกั รยานเป็นพลงั งานไฟฟา้ ท่ีสามารถ ชาร์ตแบตเตอร่ีไปในตัวในขณะทเ่ี ราขจ่ี ักรยาน 2. หมวกจกั รยานทีส่ ามารถส่งสญั ญาณไฟเลีย้ วได้ จะติดตั้งอุปกรณ์สายไฟ ต่อกบั หูฟัง เวลาปน่ั จักรยานเราสามารถฟังเพลงไปในตัวได้อกี ด้วย หุ่นยนต์ปากกา การออกแบบแนวทางการพัฒนาต่อยอดสง่ิ ประดิษฐ์ 1. ปากกาท่สี ามารถเขยี นได้เองตามคำสงั่ เสยี ง จะปรับปรุงพัฒนาซอฟแวร์ ให้สามารถเขยี นตวั อกั ษรได้หลากหลายภาษามากยิ่งขึน้ 2 ปากกาที่สามารถเขยี นได้เองตามคำสงั่ เสยี ง จะปรบั ปรุงใหม้ ีขนาดเล็กลง เพือ่ การพกพาทีง่ า่ ยขึ้น 3. ปากกาทีส่ ามารถเขียนไดเ้ องตามคำส่งั เสียง จะพฒั นาซอฟแวรใ์ ห้มกี าร ติดตั้งทล่ี บคำผดิ ไว้ในตวั ด้วย 88
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี ) แผนฯ ท่ี 2 ศกึ ษากรณีตวั อยา่ ง 9. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ( ตำแหนง่ 10. บันทึกผลหลงั การสอน ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมที่มปี ญั หาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข 89
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ท่ี 3 พฒั นาโครงงาน แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 พฒั นาโครงงาน เวลา 5 ชั่วโมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด ว 4.1 ม.4/5 ใช้ความรู้ และทักษะที่เกีย่ วกบั วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมอื กลไก ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ เพือ่ แกป้ ญั หาหรือพฒั นางานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการออกแบบพัฒนาโครงงาน ระบปุ ัญหาทต่ี ้องการแก้หรอื ตอบสนองความต้องการได้ (K) 3. วเิ คราะหป์ ญั หา ออกแบบการแก้ปญั หาผา่ นการพฒั นาโครงงานได้ (P) 4. ลงมอื ปฏิบัติพฒั นาโครงงานแกป้ ัญหาโดยใช้กระบวนการเทคโนโลยีได้ (P) 5. เห็นประโยชน์ของการเรียนวชิ าการออกแบบและเทคโนโลยี และตระหนักในคุณคา่ ของความรู้ไปใช้แก้ปญั หา ในชีวติ ประจำวัน (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถนิ่ - วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก จึง พิจารณาตามหลกั สตู รของ ตอ้ งมีการวิเคราะห์สมบัติ เพอื่ เลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกับลกั ษณะของงาน สถานศึกษา - การสร้างช้ินงานอาจใช้ความรู้ เร่ือง กลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เช่น LED บซั เซอร์ มอเตอร์ วงจรไฟฟา้ - อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างช้ินงาน หรือพัฒนาวิธีการมีหลาย ประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องเหมาะสม และปลอดภยั รวมท้ังรู้จักเก็บ รกั ษา 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาหรือความต้องการผ่านการพัฒนาโครงงาน ทำให้เกิดทักษะสู่การปฏิบัติ ซ่ึงเป็น การศึกษาเร่อื งราวดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านทางโครงงานประเภทประดษิ ฐ์ เป็นการประยุกต์ทฤษฎี หรือ หลักการทางวิทยาศาสตร์หรือด้านอ่ืน ๆ มาประดิษฐ์ของเล่น เคร่ืองมือ เคร่ืองใช้หรืออุปกรณ์ เพ่ือประโยชน์ใช้สอย ต่าง ๆ ซ่ึงอาจจะเป็นส่ิงประดิษฐ์ใหม่ หรือปรับปรุงเปล่ียนแปลงของเดิมให้มีประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึน หรือการสร้าง แบบจำลองเพ่ืออธิบายแนวคดิ ตา่ ง ๆ 90
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ที่ 3 พฒั นาโครงงาน 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 1) ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2) ทกั ษะการคิดอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3) ทักษะการคดิ อยา่ งเป็นระบบ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : ใช้โครงงานเปน็ ฐาน (Project based Learning) ชว่ั โมงท่ี 1 ข้ันนำ ข้นั ให้ความร้พู ้นื ฐาน 1. ครูเปิดคลิปวิดีโอที่นำเสนอส่ิงประดิษฐ์หรือนวัตกรรม เช่น รายการสมรภูมิไอเดีย ตอน ไอเดียไฟฟ้าที่ช่วย ให้ชีวิตคุณง่ายข้ึน เสนอส่ิงประดิษฐ์ท่ีมีชื่อว่า “อุปกรณ์เตือนกระแสไฟฟ้าเกินสำหรับปลั๊กพ่วง” แล้ว กระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยการต้ังคำถามว่า เม่ือได้รับชมแล้ว นักเรียนมีความคิดอย่างไรบ้างกับ ส่งิ ประดษิ ฐช์ ิน้ น้ี 2. ครูถามคำถามกระต้นุ ความคิด จากคลิปวดิ โี อ นกั เรยี นสามารถนำเอาหลักการโครงงานวทิ ยาศาสตร์ มาใช้ ในการสรา้ งพฒั นาสิ่งประดิษฐ์ไดอ้ ยา่ งไร แล้วให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ และตอบคำถาม (แนวตอบ : เทคโนโลยีปัจจุบันก้าวไกลไปมาก การสร้างสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมต่าง ๆ สามารถ เรียนรู้ได้จากโครงงานวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นการศึกษาเร่ืองราวด้านวิทยาศาสตร์ โดยใช้วิธีการทาง วิทยาศาสตร์เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา เพ่ือให้ได้ผลงานท่ีมีความสมบูรณ์ โดยโครงงานประเภท ประดิษฐ์ เป็นโครงงานท่ีเก่ียวกับการประยุกต์ทฤษฎี หรือหลักการทางวิทยาศาสตร์หรือด้านอื่น ๆ มา ประดิษฐ์ของเล่น เคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ หรืออุปกรณ์ เพื่อประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเป็นส่ิงประดิษฐ์ ใหม่ หรือปรับปรุงเปล่ียนแปลงของเดิมให้มีประสิทธิภาพมากย่ิงขึ้น หรือการสร้างแบบจำลองเพื่ออธิบาย แนวคดิ ตา่ ง ๆ) 91
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ท่ี 3 พฒั นาโครงงาน 3. ครูให้ความรู้เพ่ิมเติม เกี่ยวกับ จุดมุ่งหมายของการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ กล่าวคือ ในการทำโครงงาน วทิ ยาศาสตร์มจี ดุ ม่งุ หมาย ดังนี้ • เพื่อฝึกให้นักเรียนสามารถนำเอาวิธีการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหา ศึกษาค้นคว้า หรือ ประดษิ ฐค์ ิดคน้ • เพ่ือให้นักเรียนใช้ความรู้และประสบการณ์เลือกทำโครงงานตามท่ีสนใจ โดยการประยุกต์ใช้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในแตล่ ะทอ้ งถิ่น • เพื่อให้นักเรียนไดศ้ กึ ษาค้นคว้าหาความรู้ หาข้อมูลจากแหล่งความรตู้ ่าง ๆ ดว้ ยตนเอง • เพื่อใหน้ ักเรยี นได้แสดงออกซึ่งความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ • เพ่ือให้นักเรียนมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์ เห็นคุณค่าของการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการ แก้ปญั หา 4. ครูนำโปสเตอร์ ตวั อยา่ งโครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภทตา่ ง ๆ ไปตดิ ไว้ตามฐาน ครใู หน้ ักเรยี น แบง่ กล่มุ กลุม่ ละ 4-5 คน โดยสมาชกิ ในกลมุ่ แยกยา้ ยไปศกึ ษาฐานตา่ ง ๆ 5. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม อภิปรายร่วมกันแล้วสรุปเกี่ยวกับรูปแบบและขั้นตอนการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ พร้อมท้ังศึกษา สืบค้นข้อมูลเพ่ิมเติม เรื่อง การจัดทำโครงงานประเภทส่ิงประดิษฐ์ ตามประเด็นท่ี กำหนดให้ ดังน้ี • ความหมายและความสำคญั ของโครงงานประเภทส่งิ ประดิษฐ์ • หลกั การออกแบบทดี่ ีควรคำนงึ ถงึ ส่ิงใด • ขนั้ ตอนการทำโครงงานประเภทส่ิงประดษิ ฐ์ • การประเมนิ ผลงานโครงงานประเภทส่งิ ประดิษฐ์ ขั้นสอน ข้นั กระตุ้นความสนใจ 1. ครูให้นักเรียนค้นหาคลิปวิดีโอ เกี่ยวกับ การแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทส่ิงประดิษฐ์ ระดับประเทศ หรือการแข่งขันการประดิษฐ์หุ่นยนต์ จากน้ันครูถามกระตุ้นความสนใจนักเรียนว่า จาก คลปิ วิดีโอ นักเรียนมคี วามคิดสร้างสรรค์อยากจะสร้างสงิ่ ประดษิ ฐใ์ ดบา้ ง เพราะเหตุใด 2. ครูจัดเตรียมช้ินงานโครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ของนักเรียนที่เคยได้รับรางวัลออกมาให้นักเรียนศึกษา จากผลงานสิ่งประดิษฐ์จริง พร้อมท้ังเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือต่าง ๆ เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก เทอร์โมมิเตอร์ ไฮกรอมิเตอร์ รอก เชือก สปริง เซนเซอร์วัดค่าความชื้น ตัวต้านทาน สายไฟ มอเตอร์ วงจรไฟฟา้ เปน็ ต้น 92
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ที่ 3 พฒั นาโครงงาน 3. ครถู ามคำถามนกั เรยี นวา่ “ ทำไมกอ่ นฝนตกอากาศจึงร้อนอบอา้ ว ” แลว้ ส่มุ ให้นกั เรียนตอบ 3-4 คน (แนวตอบ : อากาศร้อนกอ่ นฝนตกเนอ่ื งจาก ความช้ืนสงู และลักษณะอากาศร้อนจดั ความชื้น ทำให้เราไม่สามารถระบายความร้อนผ่านเหงื่อทางรูขุมขน ทำให้เรารู้สึกร้อนอบอ้าว ถ้าความช้ืนใน อากาศมีมาก การระเหยของน้ำจากแหล่งต่าง ๆ จะน้อย เส้ือผ้าที่ตากจะแห้งช้า หรือรู้สึกเหนียวตัว และอดึ อัด แตถ่ ้าความชน้ื ในอากาศมีนอ้ ยหรอื อากาศแห้ง จะรสู้ กึ เยน็ สบาย เส้อื ผ้าแหง้ ง่าย) 4. ครูเตรียมอุปกรณ์ไฮกรอมิเตอร์ ให้แต่ละกลุ่ม ได้ทำการทดลองหา ความชื้นในอากาศ โดยครูเป็นผู้ให้ คำปรึกษาและตรวจสอบความถกู ต้องของการใชอ้ ปุ กรณ์ ชัว่ โมงท่ี 2 ขั้นสอน ขน้ั จดั กลุ่มร่วมมอื 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มค้นหาคลิปวิดีโอ เกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยและ ต่างประเทศ หรืออากาศโลกแปรปรวน แล้วพลัดกันนำเสนอคลิปของกลุ่มตนเอง พร้อมทั้งอภิปราย รว่ มกัน 2. ครูเป็นผู้กำหนดปัญหา “เน่ืองจากอากาศเปล่ียนแปลงบ่อย เราสามารถเก็บผ้าตอนฝนตกในเวลาท่ีเราไม่ อยู่บ้านได้อยา่ งไร” ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ อภปิ รายร่วมกนั หาแนวทางในการแกป้ ัญหา 3. ครูนำข้อความ “ราวตากผ้าอัจฉริยะ” ติดไว้หน้าห้องเรียน พร้อมท้ังรูป ราวตากผ้าแบบดั้งเดิม สุ่มถาม นักเรียน 3-4 คน ใหแ้ สดงคิดเห็น “นักเรยี นมีวธิ กี ารพฒั นาราวตากผา้ ท่ีแก้ปญั หานี้อยา่ งไร” 4. นกั เรียนแต่ละกล่มุ ศกึ ษาหาข้อมูลเพ่มิ เตมิ เก่ียวกบั โครงงานประเภทสิง่ ประดิษฐใ์ นคร้ังนี้ ตามหลักขั้นตอน ของกระบวนการเทคโนโลยี 5. ครูให้ความร้เู พม่ิ เตมิ ในการออกแบบส่งิ ประดิษฐ์ครั้งน้ี พร้อมทั้งให้คำปรึกษา และตรวจสอบความถูกต้อง ของเนอื้ หาของแต่ละกลมุ่ 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานการออกแบบสงิ่ ประดิษฐ์ ในรูปแบบของ Storyboard แสดง ขั้นตอนของกระบวนการเทคโนโลยี ตามที่ได้ออกแบบเอาไว้ หลังจากที่นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอ ผลงานแล้ว ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนกลุ่มอื่นร่วมกันอภิปราย ซักถามข้อสงสัยและข้อเสนอแนะร่วมกัน เม่อื แตล่ ะกล่มุ เสนอผลงานแลว้ ให้นำผลงานไปติดไว้รอบ ๆ หอ้ งเรยี น 7. ครูให้เวลานักเรียน 5 นาที ในการเดนิ ชมผลงานของกลุ่มอืน่ ๆ เพื่อเปรยี บเทียบกับผลงานของกล่มุ ตนเอง 93
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ที่ 3 พฒั นาโครงงาน ชั่วโมงที่ 3 ขัน้ สอน ขนั้ แสวงหาความรู้ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม ลงมอื ปฏิบตั จิ ดั ทำโครงงานประเภทสงิ่ ประดิษฐ์ “ราวตากผ้าอัจฉรยิ ะ” โดยมีครเู ป็นท่ี ปรึกษา ใหค้ ำแนะนำในการใช้อุปกรณ์ และเครอ่ื งมือ 2. นักเรียนปฏิบัติหน้าท่ีของตนตามข้อตกลงของกลุ่ม พร้อมทั้งร่วมมือกันปฏิบัติกิจกรรม โดยขอคำปรึกษา จากครเู ปน็ ระยะเม่ือมีข้อสงสัยหรือปญั หาเกิดข้ึน 3. ครเู ป็นผู้สงั เกตการณ์ ระหวา่ งทน่ี กั เรยี นลงมอื ปฏิบตั ิโครงงาน ดกู ารเลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครอ่ื งมอื ช่วั โมงที่ 4 ข้ันสรุป ขั้นสรปุ สงิ่ ท่ีเรียนรู้ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม อภิปรายร่วมกันเพื่อจัดทำรายงานโครงงานของกลุ่มตนเอง ตามหัวข้อ การเขียน รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทโครงงานประดิษฐ์ ท่ีมีรายละเอียด ดังน้ี • บทที่ 1 บทนำ - ที่มาและความสำคัญ - วัตถุประสงค์ - สมมติฐาน - ตัวแปรท่ีศึกษา - ขอบเขตการทดลอง - ประโยชน์ท่ีได้รับ • บทท่ี 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง • บทท่ี 3 วิธีการดำเนินการ • บทท่ี 4 ผลการทดลอง • บทท่ี 5 สรุปผลและอภิปราย 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันออกแบบวิธีการนำเสนอผลงานให้น่าสนใจ เช่น นำเสนอโดยใช้ power point เป็นต้น หลังจากท่ีนกั เรยี นแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานแล้ว ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นกลุ่มอืน่ ร่วมกัน อภิปราย ซักถามข้อสงสัยและข้อเสนอแนะร่วมกนั 94
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ท่ี 3 พฒั นาโครงงาน ช่วั โมงท่ี 5 ขั้นสรปุ ขน้ั สรปุ ส่งิ ท่ีเรียนรู้ 1. ครสู รปุ เกีย่ วกับการพฒั นาโครงงานประเภทสง่ิ ประดษิ ฐ์วา่ ปัจจุบันความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยสี ามารถ ชว่ ยในการแก้ปญั หา อำนวยความสะดวก และตอบสนองความตอ้ งการของมนุษย์ โดยผ่านการเลือกใช้ วัสดุ อุปกรณ์และเคร่ืองมือท่ีเหมาะสม เช่น การสรา้ งตกึ สงู 40 ชน้ั มีการใชเ้ ครนซึ่งเป็นเคร่ืองมือทใ่ี ช้ เทคโนโลยีช่วยในการกอ่ สร้าง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำ Unit Activity จากหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและ เทคโนโลยี) ม. 1 หนา้ 59 ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กัน นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สรา้ งเครนจำลองจาก วัสดุอปุ กรณท์ ่คี รจู ดั เตรียมไว้ให้ โดยมีครูเป็นทปี่ รกึ ษาและใหค้ ำแนะนำในการใช้อุปกรณ์ เคร่อื งมือ 3. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ เขียนรายงานลงสมุดรายงาน และสง่ ครูเพื่อตรวจสอบความถกู ต้อง 4. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดความรู้ของนักเรียนหลังการเรียนร้หู น่วยท่ี 3 เร่ือง ผลงาน ออกแบบและเทคโนโลยี ขั้นนำเสนอและประเมนิ ผลงาน 1. ครูตรวจแบบทดสอบหลังเรยี นหนว่ ยที่ 3 เรือ่ ง ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี 2. ครตู รวจใบงานที่ 1.3 เร่ือง พัฒนาโครงงาน 3. ครูตรวจและประเมินผลการนำเสนอช้นิ งาน เรอ่ื ง รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ 4. ครูตรวจและประเมนิ ผลการเขียนรายงาน เรื่อง รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ 5. ครูประเมนิ ผล โดยสังเกตการตอบคำถาม การรว่ มกันทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน 7. การวดั และประเมนิ ผล รายการวดั วธิ ีวัด เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมนิ หลงั เรียน ตรวจแบบทดสอบหลงั แบบทดสอบหลงั เรียน ประเมินตามสภาพจรงิ - แบบทดสอบหลังเรยี น เรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ผลงานออกแบบและ เทคโนโลยี 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการ จัดกจิ กรรม 1) พฒั นาโครงงาน - ตรวจใบงานท่ี 1.3 - ใบงานที่ 1.3 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - ผลงานท่ีนำเสนอ ระดับคุณภาพ 2 เกีย่ วกบั โครงงาน ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 95
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ท่ี 3 พฒั นาโครงงาน รายการวดั วิธีวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมินหลงั เรยี น ตรวจแบบทดสอบหลงั แบบทดสอบหลังเรยี น ประเมนิ ตามสภาพจรงิ - แบบทดสอบหลงั เรยี น เรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง ผลงานออกแบบและ เทคโนโลยี สง่ิ ประดิษฐ์ 3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 รายบคุ คล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 อนั พึงประสงค์ รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ และมงุ่ มั่นในการ อนั พึงประสงค์ ทำงาน 8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน รายวิชาพนื้ ฐาน การออกแบบและเทคโนโลยี ม.1 2) ใบงานที่ 1.3 พฒั นาโครงงาน 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) ห้องเรียน 2) หอ้ งสมดุ 3) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ 96
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ที่ 3 พฒั นาโครงงาน ใบงานที่ 1.3 เร่ือง พัฒนาโครงงาน คำชีแ้ จง : เติมข้อความหรือความหมายของคำลงในช่องว่างให้ถกู ต้อง 1. โครงงานวทิ ยาศาสตร์ แบ่งออกไดเ้ ป็น 4 ประเภท จงอธิบาย โครงงานประเภทสำรวจ โครงงานประเภทการทดลอง ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. โครงงานประเภทส่งิ ประดิษฐ์ โครงงานประเภททฤษฎี ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………. 2. ขนั้ ตอนการดำเนนิ งานของโครงงานวิทยาศาสตร์ ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… ……………………… 3. จงยกตวั อย่างโครงงานประเภทส่ิงประดิษฐ์ 1) ชือ่ เร่อื ง ……………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………. 2) บทคัดย่อ ………………………………………………………………………….……………….……………………………………………………………………….………. ………………………………………………………………………….……………….……………………………………………………………………….………. 3) ประโยชน์ในการนำไปใช้ ………………………………………………………………………….……………….……………………………………………………………………….………. ………………………………………………………………………….……………….……………………………………………………………………….………. 97
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี แผนฯ ที่ 3 พฒั นาโครงงาน ใบงานท่ี 1.3 เฉลย เรอื่ ง พฒั นาโครงงาน คำช้แี จง : เติมข้อความหรือความหมายของคำลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกต้อง 1. โครงงานวิทยาศาสตร์ แบ่งออกไดเ้ ป็น 4 ประเภท จงอธบิ าย โครงงานประเภทสำรวจ โครงงานประเภทการทดลอง โครงงานประเภทต้องการสำรวจและรวบรวมขอ้ มลู แลว้ โครงงานประเภทนีเ้ ป็นโครงงานทมี่ กี ารออกแบบการ นำขอ้ มูลเหลา่ น้นั มาจำแนกเปน็ หมวดหมู่ และนำเสนอใน ทดลองเพอ่ื ศึกษาผลของตัวแปรหนงึ่ ทม่ี ีผลตอ่ ตวั แปรอีก รูปแบบต่างๆ เพื่อให้เห็นลกั ษณะหรือความสมั พันธ์ใน ตวั หนงึ่ ที่ตอ้ งการศกึ ษา โดยควบคมุ ตัวแปรอ่นื ๆ ที่อาจมี เร่ืองทต่ี อ้ งการศึกษาไดช้ ัดเจนยง่ิ ขน้ึ ผลตอ่ ตวั แปรท่ีตอ้ งการศึกษาไว้ โครงงานประเภทส่งิ ประดิษฐ์ โครงงานประเภททฤษฎี โครงงานน้ีเปน็ การประยุกตห์ ลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ มา โครงงานนเ้ี ปน็ การนำเสนอทฤษฎี หลักการหรอื แนวคิด ประดิษฐข์ องเลน่ เครอ่ื งมือ อาจเปน็ ส่ิงประดิษฐใ์ หม่ หรอื ใหม่ๆ อาจจะอยใู่ นรปู ของสูตรสมการ หรอื คำอธิบายกไ็ ด้ ปรบั ปรุงเปลย่ี นแปลงของเดิมทีม่ อี ยู่ หรอื การสรา้ ง โดยผ้เู สนอไดต้ ้งั กตกิ าข้ึนมาเอง แล้วนำเสนอทฤษฎี ผล แบบจำลองเพือ่ อธบิ ายแนวคิดต่าง ๆ การอธิบายอาจจะใหม่ยงั ไมม่ ใี ครคดิ มากอ่ น 2. ขั้นตอนการดำเนินงานของโครงงานวิทยาศาสตร์ กำหนดปัญหำ กำหนด ต้ังสมมตฐิ าน ออกแบบกำร วัตถปุ ระสงค์ ทดลอง สรุปและ วิเครำะห์ รวบรวมขอ้ มลู ดำเนนิ กำร อภิปรำย ทดลอง 3. จงยกตัวอยา่ งโครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ 1) ชอ่ื เร่อื ง ส้อมตะเกยี บ 2in1 2) บทคดั ยอ่ สอ้ ม ตะเกยี บ 2in1 เปน็ สิ่งประดษิ ฐท์ ่ตี อบสนองความต้องการในการใช้ตะเกียบ และส้อมในเวลาเดยี วกัน โดยปลายดา้ นหนงึ่ เปน็ ส้อมปลายอีกด้านหน่ึงเป็นตะเกยี บ มีการออกแบบดว้ ยความคิดสรา้ งสรรค์ 3) ประโยชนใ์ นการนำไปใช้ ชว่ ยอำนวยความสะดวก , เหมาะสมในการพกพา , ประหยัดคา่ ใช้จ่าย , สามารถต่อยอดจัดจำหนา่ ย 98
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 ผลงานออกแบบและเทคโนโลยี ) แผนฯ ที่ 3 พฒั นาโครงงาน 9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรือผูท้ ่ีได้รับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ( ตำแหนง่ 10. บันทกึ ผลหลงั การสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทม่ี ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข 99
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121